โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม สพขุ ลศศึกกึษษาแาละ ช้นั ประถมศึกษาปีท ี่ 1 เลม่ 1 โดย อาจารย์เกรียงไกร อินทรชัย ชื่อ นามสกลุ ช้ัน ป.1/ เลขที ่
เกร่นิ นำ� การจัดท�ำแบบเรียนและแบบฝึกหัดของทุกระดับช้ันในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ไดด้ ำ� เนินการใหเ้ ป็นไปตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขณะเดียวกันก็ได้ปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับวิสัยทศั น์และพนั ธกิจของโรงเรยี นและเพอ่ื ประโยชนส์ งู สดุ ต่อนกั เรยี น ความสำ� เรจ็ ของการจดั ทำ� แบบเรยี นเกดิ จากความรว่ มมอื รว่ มใจของคณาจารย์ทกุ ทา่ นทเ่ี ลง็ เหน็ ถงึ ประโยชนแ์ ละความสำ� คญั ทโี่ รงเรยี นควรมแี บบเรยี นทด่ี ี เพอ่ื ใชเ้ ปน็สอ่ื การเรยี นการสอนในแตล่ ะระดบั ชนั้ อนั เปน็ ผลดแี กน่ กั เรยี นในการเรยี นรู้ ตลอดจนใหผ้ ูป้ กครองมคี วามเข้าใจในการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรยี น ในนามของโรงเรยี น ขอขอบคณุ คณาจารยผ์ จู้ ดั ทำ� ทกุ ทา่ นไว้ ณ ทนี่ ี้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ไี่ ดก้ รณุ าใหข้ อ้ เสนอแนะทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การจดั ทำ� แบบเรยี นและแบบฝกึ หดั ดงั กลา่ ว จนทำ� ใหแ้ บบเรยี นทจี่ ดั ทำ� ขน้ึ มคี วามสมบรู ณเ์ หมาะสมทจ่ี ะน�ำไปใช้ในการเรียนการสอนและขอขอบคุณสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้สนับสนุนงบประมาณและด�ำเนินการจัดท�ำจนท�ำให้เกิดแบบเรยี นและแบบฝึกหดั ท่มี รี ปู เลม่ ที่สวยงาม แม้แบบเรียนนี้จะมีความสมบูรณ์ในเน้ือหาแล้ว แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนือ่ งเพ่ือใหเ้ ปน็ แบบเรยี นท่มี คี วามทันสมัย ดังน้นั หากผูป้ กครองหรอื ผู้ทนี่ �ำแบบเรียนไปใช้มีข้อแนะน�ำหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอได้โปรดแจ้งให้ทางโรงเรยี นทราบ เพอ่ื โรงเรยี นจะไดใ้ ชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการพจิ ารณาปรบั ปรงุ แบบเรยี นนต้ี อ่ ไป รองศาสตราจารย์สพุ ร ชัยเดชสรุ ิยะ ผ้อู �ำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม และรองคณบดคี ณะครศุ าสตร์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 การเคลือ่ นไหวขนั้ พ้นื ฐาน 1
สุขศึกษาและพลศกึ ษา เลม่ 1ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เป็นหนังสือในโครงการจดั ท�ำ ตำ�ราเรียนของสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ให้นักเรียนโรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม ไดม้ หี นังสอื เรยี นที่มีคณุ ภาพคณะผูจ้ ัดทำ� ในสว่ นของสมาคมผปู้ กครองและครูโรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัยในส่วนของโรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม คณุ ศักดิ์ชยั ยอดวานชิ คุณเกียรตพิ ร ศริ ิชัยสกุลรองศาสตราจารย์สพุ ร ชยั เดชสรุ ยิ ะ ดร.วุฒพิ งศ์ กติ ตธิ เนศวร คณุ ชยั ภฏั เตมียบุตรอาจารยศ์ ิรริ ตั น์ ศริ ิวโิ รจนส์ กุล คุณวีรพฒั น์ คงสทิ ธ์ิ คณุ ศรณั ย์ มหัทธนกุลอาจารย์เกรียงไกร อนิ ทรชยั คณุ กิตติ อภชิ นบัญชา คุณสมไชย อไู่ พบูรณ์ คุณสพุ จน์ เศรษฐวงศ์ คุณณฐั พร ชลธารน์ นท์ คณุ สุชนิ รตั นศิรวิ ไิ ลผู้สนับสนุนการดำ�เนนิ การจดั ทำ� และสนบั สนนุ งบประมาณในการจดั ทำ�ตน้ ฉบับและจดั พิมพห์ นังสือสมาคมผู้ปกครองและครโู รงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยัคณุ ดวงหทัย เลิศสินธพานนท์ คุณตาที ตันจนั ทร์พงศ์คณุ กนก สมภพรุ่งโรจน์ คณุ ณนฐวชั น์ ฐติ เจรญิ วงศ์คณุ วจิ ติ ร เตชะเกษม คุณกรกมล ลอตระกลูนพ.สุขมุ ศิลปอาชา คุณประทานพร ทพั พะรงั สีคณุ พรชยั ต่อสทุ ธ์กิ นก คณุ เอกพล สทิ ธกิ รเมธากลุเรยี บเรียงโดย พมิ พ์ท่ีอาจารย์เกรยี งไกร อนิ ทรชยั บริษทั ไซเบอรพ์ รนิ้ ทก์ รุ๊ป จำ� กดัผู้ตรวจ 959 ซอยสุทธพิ ร ถนนประชาสงเคราะห์ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยถ์ าวร วรรณศริ ิ แขวงดินแดง เขตดนิ แดง กทม 10400รองศาสตราจารยฉ์ ัตรชยั ยงั พลขนั ธ์ โทร 02-641-9135-8 โทรสาร 02-641-9139ชอ่ื เร่ือง E-mail : [email protected]สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1 Website : www.cyberprintgroup.co.thออกแบบรปู เล่ม พมิ พ์คร้ังที่ 1บริษทั เซยี ครีเอทีฟ จ�ำ กัด ปีท่ีพิมพ์ : พฤษภาคม 2559137 ซอยสุขมุ วิท 81 ถนนสุขุมวทิ จำ�นวนที่จัดพิมพ์ : 2000 เลม่แขวงพระโขนงเหนือ เขตวฒั นา กรงุ เทพฯ 10260 จ�ำ นวนหนา้ : 40 หน้าTel : 02-311-2156, 081-732-7893 ราคา : 95 บาทFax : 02-742-6754 เจ้าของและผู้จัดจำ�หนา่ ยE-mail : [email protected] โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภาพประกอบ ซอยจฬุ า 11 ถนนพญาไท แขวงวงั ใหม่ธนวัฒน์ เกยี รติกงั วานชยั เขตปทมุ วัน กรงุ เทพฯ 10330ประเภทของส่ิงพมิ พ์ : หนงั สือ โทร 02 218 27992 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1
ค�ำน�ำ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า สมัยเป็นนักเรียน เรามักจะสนใจหนังสืออ่านเล่นที่มีรูปเล่ม ภาพประกอบ สีสัน และเนื้อหาที่น่าสนใจส�ำหรับเด็กนักเรียนมากกว่าการอ่านต�ำราเรียนดังนั้น สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ จึงเห็นความส�ำคัญในการปรับปรุงเนื้อหาของต�ำราเรียนให้มีความทันสมัยและถูกต้องมีรูปภาพประกอบท่ีสวยงามและชัดเจน ตลอดจนมีรูปเล่มท่ีดึงดูดให้น่าสนใจน่าเรียนรู้ เพ่ือให้หลักสูตรของโรงเรียนท่ีได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนาน คงความเปน็ หลกั สตู รทีด่ ีเลิศตลอดไป ด้วยความตั้งใจของสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ จึงเกิด “โครงการพัฒนาต�ำราเรียน” ข้ึน เป็นความภาคภูมิใจและน่ายินดีท่ีโครงการดังกล่าวท�ำให้เรามีหนังสือเรียนในรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพ ส�ำหรับเป็นสื่อการเรียนการสอนภายในโรงเรยี น อกี ทงั้ ยงั สามารถนำ� ไปใชอ้ า้ งองิ และเผยแพรเ่ ปน็ ประโยชนแ์ ก่คณะครูและผเู้ รยี นอ่นื ๆ ท่ัวไปท่ีสนใจไดอ้ กี ดว้ ย ในนามของสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ขอขอบพระคุณความร่วมแรงร่วมใจของโรงเรียน คณาจารย์ผู้แต่งหนังสือ กรรมการสมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรยี นสาธติ จฬุ าฯ และผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งทกุ ทา่ น ทท่ี ำ� ใหโ้ ครงการพฒั นาต�ำราเรยี นน้ีด�ำเนนิ การมาได้อยา่ งราบรืน่ และประสบความสำ� เรจ็ ตลอดมา นายศกั ดิ์ชยั ยอดวานชิ นายกสมาคมผ้ปู กครองและครู โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การเคลือ่ นไหวข้นั พน้ื ฐาน 3
ค�ำน�ำ เป็นที่ทราบกันท่ัวไปว่าการดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงและมีสุขภาพท่ีดีนั้น เป็นเรื่องจ�ำเป็นและส�ำคัญมากในการด�ำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้า อยา่ งรวดเรว็ ของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทำ� ใหค้ นเราไดร้ บั ความสะดวกสบายมาก เกนิ ไปจนละเลยการดูแลสขุ ภาพและการออกก�ำลงั กายอยา่ งสม�ำ่ เสมอ ซงึ่ การปลกู ฝัง ใหเ้ ดก็ เลก็ ๆ มที ศั นคตทิ ดี่ เี กย่ี วกบั การเลน่ และการออกกำ� ลงั กายเปน็ สงิ่ สำ� คญั มากทจ่ี ะ ท�ำให้เด็ก ๆ ตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและการ ออกกำ� ลงั กายจนเปน็ นสิ ยั ในฐานะทผ่ี แู้ ตง่ เปน็ อาจารยผ์ สู้ อนวชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สำ� หรบั นกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 จงึ มคี วามตอ้ งการทจ่ี ะสง่ เสรมิ และปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นไดเ้ หน็ ความสำ� คญั และมที ศั นคตทิ ด่ี เี กยี่ วกบั สง่ิ ทน่ี กั เรยี นไดเ้ รยี นรใู้ นชนั้ เรยี น และจดจำ� ได้โดยการอา่ นและทำ� แบบฝึกหัดเลม่ นี้ ท้ังนี้ผู้แต่งขอช้ีแจงวิธีการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้รับ ทราบพอสังเขปดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ได้แบ่งสาระการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาส่วน หน่ึงไปบูรณาการกับวิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และสุขศึกษา (ส.ว.ส) และ เพื่อให้นักเรียนได้รับการส่งเสริมและพัฒนาการเคลื่อนไหวเบ้ืองต้นได้อย่างเต็ม ที่ สาระการเรียนรู้ส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับวิชาพลศึกษาเป็นส่วนมาก (สาระ ที่ 3 การเคลอื่ นไหว การออกก�ำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากล) อาจารย์เกรียงไกร อนิ ทรชัย ผจู้ ัดท�ำ4 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เลม่ 1 < ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1
สารบัญ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 7 การเคลือ่ นไหวข้ันพืน้ ฐาน 19 20 - กจิ กรรมท่ี 1 21 - กิจกรรมท่ี 2 24 - กิจกรรมที่ 3 - เกณฑ์การสอบทกั ษะการเคลือ่ นไหวข้ันพนื้ ฐาน 25 30 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 31 ยืดหยนุ่ 34 - กิจกรรมท่ี 1 35 - กจิ กรรมที่ 2 37 - เกณฑก์ ารสอบทักษะยดื หยนุ่ 38 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 40 สุขขญั ญัติ 10 ประการ 40 - กจิ กรรมท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การมสี ขุ ภาพด ี - กิจกรรมท่ี 1 - กจิ กรรมที่ 2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 การเคลอื่ นไหวขน้ั พื้นฐาน 5
6 สขุ ศึกษาและพลศึกษา เล่ม 1 < ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การเคลอื่ นไหวขน้ั พนื้ ฐาน1 การเข้าแถวตอน การเขา้ แถวตอน คอื การเขา้ แถวในลกั ษณะการยืนเรียงล�ำดับจากตัวเล็กไปหาตัวโต ซ่ึงคนตัวเลก็ ยนื อยดู่ า้ นหนา้ และคนทมี่ คี วามสงู คนตอ่ ไปยนืตอ่ ไปทางดา้ นหลงั โดยมรี ะยะหา่ งจากคนหนา้ หนงึ่ชว่ งแขน เมอื่ ไดร้ บั คำ� สง่ั ใหจ้ ดั แถว ใหส้ มาชกิ ในแถวยกแขนทงั้ สองขา้ งแตะไหลค่ นขา้ งหนา้ โดยใหแ้ ขนเหยียดตรง การจัดแถวตอนในการเรียนวิชาพลศึกษาจะจัดแถวตอน 6 แถว มีระยะห่างระหว่างคนหน่ึงช่วงแขน โดยแถวท่ี 3 และแถวที่ 4 จะยืนตรงกบั แขนซ้ายและแขนขวาของคุณครูผสู้ อน2 การเขา้ แถวหน้ากระดาน การเข้าแถวหน้ากระดาน คือการเข้าแถวในลักษณะการยืนเรียงตามล�ำดับจากคนตัวโตไปหาคนตัวเล็ก โดยคนตัวโตจะยืนเป็นหัวแถวและคนที่มีความสูงรองลงมายืนต่อทางด้านซ้ายมือไปเรือ่ ย ๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ย การเข้าแถวหน้ากระดานในวิชาพลศกึ ษา จะแบ่งนักเรียนเป็น 2 แถว คือ แถวนกั เรยี นหญิงอยู่แถวหน้า แถวนักเรียนชายอยู่แถวหลัง โดยคนหัวแถวของแถวที่ 1 ต้องยืนอยู่ตรงหน้าด้านซ้ายของครูผ้เู รียกและมีระยะหา่ ง 6 กา้ ว หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การเคลอ่ื นไหวขน้ั พน้ื ฐาน 7
3 ระเบยี บแถว แถวพกั แถวตรง เปน็ ทา่ ยนื ในระเบยี บแถวทผ่ี เู้ รยี นตอ้ งยนื เป็นท่ายืนในระเบียบแถวท่ีผู้เรียนจะตวั ตรง เทา้ ชดิ มอื ทง้ั สองขา้ งแนบขา้ งลำ� ตวั หนา้ ยืนแบบสบาย ๆ อยู่ในแถวโดยให้หย่อนเข่ามองตรงไปขา้ งหนา้ ตัวนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว ข้างหนึง่ ลง มอื ท้งั สองขา้ งแนบขา้ งล�ำตวั การทำ� ซ้ายหนั การท�ำขวาหัน คอื การปฏบิ ตั จิ ากทา่ ยนื ตรง จงั หวะท่ี 1 คอื การปฏบิ ตั จิ ากทา่ ยนื ตรง จงั หวะที่ 1 ใหผ้ เู้ รยี นยกเทา้ ซา้ ยหนั ไปวางทางดา้ นซา้ ยของ ให้ผู้เรียนยกเท้าขวาหันไปวางทางด้านขวาของ ตนเอง โดยใหป้ ลายเทา้ ชไี้ ปในทศิ ทางทำ� มมุ 90 ลำ� ตัว โดยให้ปลายเทา้ ช้ไี ปในทศิ ทางท�ำมุม 90 องศา กับเทา้ ขวา จังหวะที่ 2 ให้ยกเท้าขวามา องศา กับเทา้ ซา้ ย จงั หวะที่ 2 ใหย้ กเทา้ ซา้ ยมา วางชดิ เทา้ ซา้ ย เมอื่ ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ครงั้ จะมกี าร วางชดิ เทา้ ขวา เมอ่ื ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ครง้ั จะมกี าร ส่งเสียงนบั จงั หวะ 1 – 2 อย่างพรอ้ มเพรยี งกัน สง่ เสยี งนบั จงั หวะ 1 – 2 อยา่ งพรอ้ มเพรยี งกนั8 สุขศกึ ษาและพลศึกษา เล่ม 1 < ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1
4 การเดินและการว่ิง การวง่ิ การเดนิ คือ การเคล่ือนที่ไปโดยการก้าวเท้าไป คอื การเคลอ่ื นไหวโดยการเพมิ่ ความเรว็ในทิศทางที่ต้องการ โดยการก้าวเท้าสลับกัน ในการเคลอื่ นทจ่ี ากจดุ หนงึ่ ไปยงั อกี จดุ หนงึ่ โดยทีละข้าง ท่าทางที่ถูกต้องสวยงามนั้นล�ำตัวจะ การใหเ้ ทา้ ก้าวยาวขึ้นและเรว็ ข้นึ มจี ุดมุ่งหมายตอ้ งตั้งตัวตรงไมก่ ม้ ตัวหรือเดินยดื อก ขณะเดนิ ในการวิ่งที่แตกต่างกันไป เช่น เพ่ือหนี เพ่ือไล่กา้ วเทา้ ใหพ้ อเหมาะไมค่ วรกา้ วยาวหรอื กา้ วสน้ั ลา่ เพอื่ แขง่ ขนัเกนิ ไป วางเทา้ ลงสพู่ น้ื ใหเ้ ตม็ ฝา่ เทา้ ไมใ่ ชเ้ ฉพาะ การว่ิง ควรก้าวเท้าให้ยาวกว่าการเดินสว่ นปลายหรอื สน้ เทา้ เพราะอาจจะทำ� ใหห้ กลม้ ปกติ ยกเข่าสูง ก้าวเท้าลงสู่พ้ืนด้วยปลายเท้าได้ ตามองตรง ปลายเทา้ ชไ้ี ปดา้ นหนา้ แกวง่ แขน แกว่งแขนให้เข้าจังหวะกับการก้าวเท้า ซ่ึงต้องตามสบายและใหส้ ัมพนั ธก์ บั การก้าวเท้า แกว่งอยู่ข้างล�ำตัวหรือแกว่งเฉียงกับล�ำตัวก็ได้ เพื่อช่วยในการทรงตัว สายตามองตรง ล�ำตัว เอยี งไปด้านหน้าเล็กน้อย การแกว่งแขนควรให้เข้าจงั หวะกับการก้าวเทา้เชน่ เมอ่ื กา้ วเทา้ ขวา ใหแ้ กวง่ แขนซา้ ย และเมอื่ กา้ วเทา้ ซา้ ยใหแ้ กวง่ แขนขวา หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การเคลื่อนไหวข้นั พื้นฐาน 9
5 การว่ิงกลับตวั 7 การว่งิ อ้อมหลกั หมายถึง การว่ิงตรงไปทางด้านหน้าและหมนุ ตวั วงิ่ กลบั ไปยงั ทศิ ทางเดมิ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ววิธีปฏบิ ตั ิ เมอื่ วงิ่ ไปทางดา้ นหนา้ จนถงึ เปา้ หมายแลว้ ใหห้ มนุ ตวั กลบั ไปทางดา้ นเทา้ ทเ่ี ปน็ เทา้หลงั เมอ่ื หมนุ ตวั กลบั เรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ ออกวง่ิตอ่ ไปอยา่ งรวดเรว็6 การวิง่ ซกิ แซก็ คอื การวงิ่ ออ้ มจดุ หรอื หลกั ทก่ี ำ� หนดไวใ้ ห้ เร็วที่สุด โดยผู้ว่ิงจะต้องว่ิงอ้อมหลักทางด้านมือ ซ้ายของตัวเอง ถ้าเป็นหลักที่ม่ันคงแข็งแรงให้ใช้ เปน็ การฝกึ ความคลอ่ งตวั ในการหลบหลกี มอื ซา้ ยจบั หลกั เหวย่ี งตวั ออ้ มหลกั ใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ แต่สงิ่ กดี ขวางทตี่ งั้ อยใู่ นแนวเสน้ ตรงและหา่ งกนั เปน็ ถ้าเป็นหลักท่ีไม่มั่นคงให้ว่ิงอ้อมหลักโดยไม่แตะระยะหรอื เปน็ ชว่ งๆ ทใ่ี กลเ้ คยี งกนั โดยการวง่ิ หลบ ต้องกับหลัก ให้ใช้การชะลอความเร็วขณะอ้อมไปทาง ด้านซ้ายและขวาสลบั กันไป โดยไม่ให้ชน หลักและแกว่งแขนช่วยในการทรงตัวโดยแกว่งหรอื ถกู ต้องกบั วัตถสุ ่ิงของนัน้ ให้เร็วท่ีสดุ แขนซา้ ยสั้น ๆ และแกว่งแขนขวายาว ๆ10 สุขศึกษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1
8 การว่ิงเปย้ี ว เปน็ เกมการเลน่ ของไทยชนดิ หนง่ึ นยิ มแขง่ ขนั และเลน่ กนั ในหมเู่ ดก็ ๆ จะแขง่ ขนั กนั ระหวา่ งผเู้ ลน่ 2 ฝา่ ยทม่ี ีจำ� นวนผเู้ ลน่ เทา่ ๆ กนั จะผลดั กนั วงิ่ ไลแ่ ตะตวั กนั ระหวา่ งหลัก 2 หลัก ฝ่ายใดแตะได้ก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะ โดยต้องอาศัยทักษะการวิ่งอ้อมหลักและการรับ - ส่งส่ิงของในการเล่นวธิ กี ารเล่น แบง่ ผเู้ ลน่ ออกเปน็ 2 ฝา่ ย เทา่ ๆกนั แตล่ ะฝา่ ยจะยนื อยดู่ า้ นหลงั หลกั ของตนเอง เมอื่ เรมิ่ แขง่ ขนัผู้เล่นคนแรกจะออกว่ิงไปพร้อมกับห่วงยาง 1 อัน โดยว่ิงไปอ้อมหลักของฝ่ายตรงข้ามและพยายามไลก่ วดฝา่ ยตรงขา้ มใหท้ นั เมอ่ื วงิ่ กลบั มาทหี่ ลกั ของตนเองจะตอ้ งสง่ หว่ งยางทถี่ อื อยใู่ นมอื ใหก้ บั ผเู้ ลน่คนตอ่ ไปออกไปวง่ิ ไลก่ วดฝา่ ยตรงขา้ มตอ่ ถา้ ฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ ไลก่ วดอกี ฝา่ ยทนั ใหเ้ อาหว่ งยางทถ่ี อื อยู่แตะตวั ฝา่ ยตรงขา้ ม กจ็ ะไดค้ ะแนนใหก้ บั ทมี ของตนเอง แตย่ งั ไมถ่ อื วา่ ชนะ ตอ้ งเรม่ิ แขง่ ขนั ใหมจ่ นกวา่จะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดท�ำคะแนนได้ 2 คะแนนก่อนหรือแตะตัวฝ่ายตรงข้ามได้ 2 ครั้งก่อนจึงจะถือว่าเปน็ ฝ่ายชนะ ในขณะแขง่ ขนั ผู้เลน่ จะต้องยืนเรยี งกันตามลำ� ดบั เหมือนกบั ตอนเรมิ่ ตน้ แขง่ ขนั จะไมม่ กี ารสบั เปลยี่ นตำ� แหนง่ กนั ในระหวา่ งแขง่ ขนั เดด็ ขาด 9 การเคล่อื นที่แบบสไลด์ เป็นการเคล่ือนท่ีไปทางด้านข้าง ในลักษณะการกา้ วเทา้ แบบ “ กา้ ว – ชดิ ก้าว – ชิด ” ถ้าต้องการเคล่ือนท่ีไปทาง ด้านซ้ายก็ให้ใช้เท้าซ้ายน�ำ เท้าขวาตาม แต่ถ้าต้องการเคล่ือนท่ีไปทางด้านขวาก็ ใช้เท้าขวาน�ำ เท้าซ้ายตาม โดยใบหน้า และปลายเทา้ ของผทู้ ำ� จะหนั ไปในทศิ ทาง เดียวกนั หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การเคลือ่ นไหวขั้นพนื้ ฐาน 11
10 การเคลื่อนทแ่ี บบควบม้า เปน็ การเคลอื่ นทไี่ ปดา้ นหนา้ คลา้ ยทา่ ทางมา้ กำ� ลงั ควบ โดยผู้ ทำ� จะใชเ้ ทา้ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ นำ� เทา้ อกี ขา้ งหนง่ึ โดยเคลอ่ื นทใ่ี นลกั ษณะ “ก้าว - ชิด กา้ ว - ชดิ ” ไปเร่ือย ๆ มือท้ังสองขา้ งจะยกข้นึ เหมือนกับ จับเชือกบังคับม้า ใบหนา้ มองตรงไปข้างหน้า การสไลด์และการควบม้าเป็นการเคลื่อนไหวแบบหนึ่งท่ี มีลักษณะคล้ายกัน โดยใช้เท้าก้าว-ชิด ก้าว-ชิด เหมือน กัน แต่ทง้ั สองท่านีจ้ ะมคี วามแตกตา่ งกันคอื ทา่ สไลด์จะ เคลอื่ นทไ่ี ปดา้ นขา้ ง สว่ นทา่ ควบมา้ จะเคลอ่ื นทไี่ ปดา้ นหนา้ 11 การเคลอ่ื นทแี่ บบก้าว – กระโดด การเคล่อื นทแ่ี บบก้าว – กระโดด หรือ การฮอฟ (Hop) วิธปี ฏบิ ตั ิ ให้ก้าวเท้าไปด้านหน้าสลับกันทีละข้าง ในขณะท่ีวางเท้าลงสู่พ้ืนทุกครั้งให้กระโดดสปริงเท้า ข้างท่ีลงพ้ืนให้ตัวลอยข้ึนพร้อมกับยกเข่าอีกข้างหน่ึงขึ้นข้างหน้า แล้วจึงก้าวเท้าข้างที่ยกเข่าวางลง บนพื้นและสปริงเท้าให้ตัวลอยข้ึนและยกเข่าอีกข้างข้ึนด้านหน้าสลับกันไปเร่ือย ๆ อย่างต่อเนื่องใน ลกั ษณะ “ก้าว – กระโดด ก้าว – กระโดด”12 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1
12 การเคลอ่ื นทแ่ี บบกา้ ว – เขยง่ การเคลื่อนท่แี บบก้าว – เขยง่ หรือ การสคิ้ป (Skip) การเขยง่ เปน็ การเคลอื่ นทโี่ ดยใชเ้ ทา้ ขา้ งเดยี วกระโดดไปข้างหน้า ส่วนเท้าอีกข้างหน่ึงเขา่ งอ โดยใหป้ ลายเทา้ ชแ้ี ละยกไวด้ า้ นหลงัตลอดเวลา การเขย่งจะใช้ปลายเท้าข้างเดียวลงสู่พ้ืนและสปริงข้อเท้าให้ตัวลอยขึ้น และใช้แขนทั้งสองช่วยในการทรงตัวไมใ่ ห้ล้ม เปน็ ทกั ษะการเคลอ่ื นทล่ี กั ษณะเดยี วกบั การฮอฟ คือการเคลื่อนที่โดยก้าวเท้าสลับไป แต่จะไม่ยกเข่าขึ้น ขา้ งหนา้ ขาทย่ี กขนึ้ จะงอเขา่ และชป้ี ลายเทา้ ไปดา้ นหลงั ลกั ษณะเหมอื นกบั การเขยง่ เทา้ สลบั กนั ทลี ะขา้ งในลกั ษณะ “ก้าว – เขยง่ กา้ ว – เขยง่ ” 13 การกระโดด คือ การออกแรงใช้เท้าถีบพื้นใหต้ วั ลอยเคลอ่ื นท่ี จากจดุ เดมิ ไปอกี จดุ หนงึ่ ซงึ่ อาจจะใชเ้ ทา้ ขา้ งเดยี วหรอื สอง ขา้ งในการกระโดดกไ็ ดแ้ ละตอ้ งมกี ารเหวย่ี งแขนเพอื่ ชว่ ย ในการทรงตวั หรือเพ่มิ ระยะทางใหไ้ กลมากขนึ้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การเคล่อื นไหวขัน้ พืน้ ฐาน 13
การยืนกระโดดสองเท้า วิธีปฏบิ ัติ ให้ยืนด้วยปลายเท้าย่อเข่าลงเหวี่ยงแขนทั้งสอง ขา้ งไปด้านหลัง แล้วออกแรงถีบพื้นพร้อมกบั เหว่ียงแขน ทง้ั สองไปดา้ นหนา้ ขณะทต่ี วั ลอยขนึ้ จากพน้ื และลงสพู่ นื้ ดว้ ยปลายเท้า ย่อเข่าผอ่ นแรงกระแทกใหน้ ้อยลง 14 การกระโดดจากท่ีสูง วิธีปฏบิ ัติ ให้ท�ำในลักษณะเดียวกับการยืน กระโดดสองเทา้ แตใ่ หเ้ พม่ิ ความระมดั ระวงั ให้มากข้ึนขณะท่ีลงสู่พ้ืน และพิจารณา ระดับความสูงที่จะกระโดดให้เหมาะสม กับความสามารถของแต่ละบุคคลเพราะ อาจเกิดอันตรายหรือการบาดเจ็บท่ีเท้า เนอื่ งจากการกระแทกไดแ้ ละตอ้ งมวี สั ดทุ ่ี นมุ่ หยนุ่ ตวั ในการรองรบั การกระโดดดว้ ย การกระโดดจากทส่ี ูง ควรลงสพู่ ืน้ ด้วยเทา้ ท้ังสองข้างพร้อม ๆ กัน โดยให้ปลายเทา้ ลง สู่พน้ื กอ่ น ยอ่ เขา่ ลงและยกแขนทงั้ สองขา้ ง ขนึ้ ประคองล�ำตัวไว้ไม่ใหล้ ้ม14 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1
15 การทรงตัวบนพื้นราบ การทรงตวั บนพนื้ ราบ เปน็ การพยายามรกั ษาสมดลุ ของรา่ งกายใหส้ ามารถทรงตวั อยไู่ ดใ้ นรปูแบบลกั ษณะตา่ ง ๆ ทงั้ ทา่ ยนื ทา่ นง่ั ทา่ เดนิ โดยไมใ่ หเ้ สยี การทรงตวั หรอื หกลม้ ซงึ่ สามารถกอ่ ใหเ้ กดิอันตรายได้ การทรงตวั ในท่ายืนทา่ ตน้ ไม้วิธกี ารปฏบิ ัติ ใหย้ นื เขยง่ ปลายเทา้ ชมู อื เหนอื ศรี ษะ ใหป้ ระสานมือไว้เหนือศีรษะ เขย่งปลายเท้าทั้งสองให้สูงที่สุดแล้วทรงตัวไว้ 10 วนิ าที ท่าไมก้ างเขน วธิ ีการปฏิบตั ิ ยนื ขาเดยี วกางแขนออก แลว้ ทรงตวั ไว้ 10 วนิ าทีท่าเครอื่ งบินวิธกี ารปฏบิ ตั ิ ให้ยืนขาเดียว กางแขนท้ังสองข้างออก แล้วก้มตัวยกขาอีกข้างหนึ่งช้ีไปด้านหลัง ให้ล�ำตัวและขาขนานกับพ้นื ใหม้ ากท่สี ดุ แลว้ ทรงตัวไว้ 10 วนิ าที หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การเคลอื่ นไหวขั้นพ้นื ฐาน 15
การทรงตวั ในทา่ นัง่ท่านงั่ รูปตัววี (V)วิธกี ารปฏบิ ัติ นั่งเอนตัวไปด้านหลัง มือทั้งสองก�ำไว้หลวม ๆ แลว้ ยกเทา้ ทง้ั สองขนึ้ พน้ พน้ื ใหข้ ากบัล�ำตัวท�ำมุมกันเป็นรูปตัว V แล้วทรงตัวไว้ 10วินาที ท่านั่งบนส้นเท้า วิธีการปฏบิ ตั ิ เขยง่ ปลายเทา้ ใหเ้ รม่ิ จากทา่ ยนื เขยง่ ปลาย เท้าชูมือท้ังสองไปด้านหน้า แล้วค่อย ๆ ย่อเข่าลง มาอยใู่ นท่านง่ั บนสน้ เท้าลดมอื ลง วางไว้บนหวั เขา่ ทรงตวั ไว้ 10 นาทีทา่ อน่ื ๆวิธีการปฏิบตั ิ ดงั รูปภาพ 12 316 สขุ ศึกษาและพลศึกษา เลม่ 1 < ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
16 การทรงตัวบนทีส่ ูง การทรงตัวบนท่ีสูง เป็นความพยายามรักษาสภาพสมดุล ของร่างกายในขณะท่ีอยู่บนท่ีสูงไม่ให้เสียหลักหรือพลัดตกจากท่ี สูง ซ่ึงอาจจะเป็นการทรงตวั ขณะอยกู่ ับทห่ี รอื ก�ำลงั เคลื่อนที่กไ็ ด้ ดวงตาจะเปน็ อวยั วะสำ� คญั ทจี่ ะใชป้ ระกอบในการทรงตวั เพอื่ รกั ษา สมดลุ ของร่างกาย ท่าทางท่ีถูกต้องในการทรงตัวบนท่ีสูงนั้น ล�ำตัว ควรตง้ั ตรง ตามองตรงไปดา้ นหนา้ กา้ วเทา้ ใหพ้ อ เหมาะไมส่ น้ั หรอื ยาวเกนิ ไป กางแขนทงั้ สองขา้ ง ขน้ึ ระดบั หวั ไหลเ่ พอ่ื ใหส้ ามารถทรงตวั อยไู่ ดน้ าน ๆ 17 ความปลอดภัยในการเลน่ เคร่ืองเล่นในสนามเด็กเล่นมีมากมายหลายอย่าง เช่น ชิงช้าราวโหน เครื่องปีนป่าย ม้ากระดกกระดานลื่น อุโมงค์ เป็นต้น เด็ก ๆควรเลน่ ในสนามเดก็ เลน่ ในเวลาวา่ งอาจจะเลน่ คนเดยี วหรอื เลน่ กบั เพอื่ นก็ได้ การเล่นนักเรียนควรรู้จักการเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย รู้จักแบง่ ปันการเล่นและร้จู กั รอคอย เดก็ ๆ ควรหม่นั ฝึกฝนและรจู้ ักเลน่ อยา่ งระมดั ระวงั เพราะความประมาทในการเล่นสามารถนำ� มาซง่ึ การบาดเจ็บ หรืออบุ ัตเิ หตตุ ่าง ๆ ไดม้ ากมาย เช่น ล่ืนหกล้ม วิ่งชนกนั เปน็ ต้น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 การเคลื่อนไหวขนั้ พ้ืนฐาน 17
การเลน่ อยา่ งปลอดภัยสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ดงั น้ี 1 ควรตรวจสอบและผูกเชือกรองเท้าของตนเองให้ แน่นก่อนการเล่นทุกครั้ง เพราะอาจเหยียบเชือก รองเทา้ หกลม้ และไมค่ วรเดนิ เทา้ เปลา่ เพราะอาจ ถกู ของแหลมทมิ่ ต�ำหรอื ถูกของมีคมบาดเอาได้ 2 ไม่ควรว่งิ ข้ึน - ลงบนั ได หรือวิง่ เล่นบนอาคารเรียน เพราะอาจท�ำให้ว่ิงชนกันได้ ถ้าฝนตกหรือมีน้�ำขัง ตามพื้นท่ีต่าง ๆ เช่น บันไดหรือทางขึ้น - ลง อาจ ลน่ื ควรเดินดว้ ยความระมดั ระวงั 3 ไมป่ นี ปา่ ยขน้ึ ไปเลน่ บนตน้ ไมห้ รอื ทส่ี งู เพราะอาจ พลัดตกลงมาได้และไม่ควรน�ำไม้ ของแหลมหรือ ของมีคมมาเล่นกัน เพราะอาจพลาดพล้ังท�ำให้ได้ รบั อนั ตรายได้ 4 ไมค่ วรเดนิ ลดั สนามขณะทผ่ี อู้ นื่ กำ� ลงั ออกกำ� ลงั กาย หรอื ทำ� กจิ กรรมอนื่ ๆ กนั อยู่ เพราะอาจทำ� ใหว้ ง่ิ ชน กนั หรอื โดนลูกบอลลอยมากระแทกได้ 5 ควรท�ำความสะอาดรา่ งกายหลังการเลน่ และออก กำ� ลงั กายทกุ ครง้ั เชน่ ลา้ งมอื และทำ� ความสะอาด ใบหน้าเพื่อช�ำระล้างคราบเหง่ือและส่ิงสกปรกที่ สมั ผสั มา18 สุขศกึ ษาและพลศึกษา เลม่ 1 < ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1
แบบฝึกหดั กิจกรรมที่ 1ใหน้ ักเรียนทำ� เคร่อื งหมายกากบาท (X) บนรปู ภาพท่มี ีลกั ษณะของการเลน่ ท่ไี มป่ ลอดภัย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 การเคลอื่ นไหวขั้นพ้นื ฐาน 19
แบบฝึกหดั กจิ กรรมที่ 2เขยี นตามค�ำที่ขีดเสน้ ใต้ (10 คะแนน)1. กระต่ายขาเดยี ว : เขยง่2. สไลด ์ : กา้ ว - ชิด ก้าว - ชดิ3. ควบมา้ : กา้ ว - ชดิ กา้ ว - ชิด4. สคิป้ : ก้าว - เขย่ง5. ฮอพ : กา้ ว - กระโดด6. วงิ่ เปี้ยว :7. มอญซ่อนผา้ :8. วงิ่ ออ้ มหลัก :9. การทรงตัว :10. กระโดดสองขา :20 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา เล่ม 1 < ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1
แบบฝึกหัด กิจกรรมท่ี 3เรามาทดสอบความรู้กนั ลองให้คณุ พอ่ คุณแม่อา่ นให้ฟงั แล้วตอบนะครับ1. การเข้าแถวตอนลึก นกั เรียนควรจัดแถวให้มีระยะห่างระหวา่ งคนเท่าไร ก. 1 เมตร ข. 1 ช่วงแขน ค. 2 ช่วงแขน2. การเขา้ แถวตอนลึก นักเรียนควรยนื เรยี งล�ำดบั อยา่ งไร ก. ยืนเรียงล�ำดบั จากคนตัวโตไปหาคนตวั เล็ก ข. ยนื เรียงล�ำดบั จากคนตวั เลก็ ไปหาคนตัวโต ค. ยนื เรยี งล�ำดับจากคนตวั เลก็ ไปหาตัวเล็ก3. นกั เรยี น ไมค่ วร ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ใด ก. สุชาตมิ กั จะผกู เชอื กรองเท้าให้แนน่ กอ่ นว่ิงเล่นกบั เพอ่ื นเสมอ ข. วิเชียรชอบวง่ิ เล่นกับเพือ่ นทีบ่ ริเวณบนั ไดห้องเรียน ค. นพดลไม่เดนิ ลัดสนามขณะทมี่ ีนักเรยี นคนอ่นื ๆ ก�ำลังเล่นกนั อยู่4. การวิ่งหลบหลีกวัตถุหรือสิ่งของท่ีต้ังไว้ในแนวเดียวกันโดยท่ีต้องวิ่งไปทางซ้ายและขวา สลับกนั นน้ั เรียกวา่ ก. การว่ิงอ้อมหลัก ข. การวง่ิ ซกิ แซก็ ค. การวิ่งทางตรง5. การวงิ่ อ้อมหลัก นกั เรยี นควรปฏิบัติอย่างไร ก. วง่ิ ไปวนท่หี ลกั และวงิ่ กลบั มาทจ่ี ดุ เดมิ ข. วิ่งใช้มอื แตะหลกั และว่งิ กลบั มาท่จี ดุ เดิม ค. ว่ิงเลยหลักไปใหไ้ กลและวิ่งวนกลบั มา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การเคล่อื นไหวขัน้ พ้ืนฐาน 21
6. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเรยี กวา่ การวิ่งกลบั ตวั ก. วง่ิ หลบหลีกสงิ่ ของทตี่ ง้ั ไวใ้ นแนวเดยี วกัน โดยต้องว่งิ สลบั ซา้ ยและขวา ข. ว่ิงทางตรงไปวนทีห่ ลกั และวิง่ กลบั มาที่จุดเดิม ค. วิง่ กลับไปกลบั มาระหว่างจดุ สองจุด 7. การว่งิ เป้ียวใชท้ กั ษะการวง่ิ ดงั ต่อไปนี ้ ยกเว้น ข้อใด ก. การวง่ิ อ้อมหลกั ข. การวิง่ ซกิ แซ็ก ค. การว่งิ รับ - ส่งสิ่งของ 8. การสไลดแ์ ละการควบมา้ เปน็ การเคล่ือนทใ่ี นลกั ษณะใด ก. ก้าว-กระโดด ข. ก้าว-ชิด ก้าว-ชดิ ค. ก้าว-เขยง่ 9. การเคลื่อนท่ีแบบก้าว - ชิด กา้ ว - ชดิ ไปทางดา้ นหนา้ เรียกวา่ ก. การสไลด ์ ข. การควบม้า ค. การสกฟิ๊ 10. การเขย่งคอื การเคล่อื นท่ใี นลกั ษณะใด ก. การเคลอ่ื นที่แบบกระโดดสองเท้า ข. การเคลอื่ นท่แี บบกระโดดสลับเทา้ ค. การเคลอื่ นที่แบบกระโดดเทา้ เดยี วไปข้างหนา้ 11. การฮอฟเปน็ การเคล่ือนทใ่ี นลักษณะใด ก. ก้าว - กระโดด ข. ก้าว - ชดิ - ก้าว ค. กา้ ว - เขย่ง22 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1
12. การสก๊ฟิ เป็นการเคลื่อนทลี่ ักษณะใด ก. กา้ ว - กระโดด ข. กา้ ว - ชิด - กา้ ว ค. ก้าว - เขย่ง13. เม่อื กระโดดลงจากทีส่ งู นักเรียนควรปฏิบัตอิ ย่างไร ก. ลงสพู่ ้นื ดว้ ยเท้าข้างเดยี ว ข. ลงสพู่ ้ืนด้วยปลายท้ังสองข้างและย่อเข้าเพอ่ื ผอ่ นแรงกระแทก ค. ลงสู่พืน้ ดว้ ยเท้าและมือทงั้ สองข้างพรอ้ ม ๆ กัน14. กจิ กรรมขอ้ ใดเป็นการเคล่ือนไหวแบบอยู่กบั ท่ี ก. วิง่ เป้ยี ว ข. แตะสลบั ค. การสไลด ์15. กจิ กรรมในข้อใดเป็นการเคลอ่ื นไหวแบบเคล่อื นทีท่ กุ ขอ้ ก. การกระโดด , การยนื ข. การสไลด ์, การวง่ิ ค. การเดิน , การน่งั หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การเคล่อื นไหวข้นั พื้นฐาน 23
เกณฑก์ ารสอบทักษะการเคลอ่ื นไหวขัน้ พื้นฐาน1 ดา้ นทักษะ1.1 ทดสอบผกู เชอื กรองเท้า ( 1 นาท ี) 5 คะแนน1.2 ทดสอบระเบียบแถว ทา่ ตรง การทำ� ซ้ายหนั - ขวาหนั 5 คะแนน1.3 ทดสอบการวง่ิ อ้อมหลัก 5 คะแนน1.4 ทดสอบการว่ิงกลบั ตวั 5 คะแนน1.5 ทดสอบการว่ิงซกิ แซก็ 5 คะแนน1.6 เลอื กทดสอบท่าควบม้าหรอื ท่าสไลด์ 5 คะแนน1.7 เลือกทดสอบทา่ ฮอฟ หรอื ท่าสค๊ิฟ 5 คะแนน1.8 ทดสอบการกระโดดจากท่ีสงู 5 คะแนน1.9 ใบงานสขุ ศกึ ษา 20 คะแนน2 ด้านความรู้ 2.1 ให้นกั เรียนทำ� ขอ้ สอบแบบเลือกตอบในชั้นเรียน เก่ียวกับกิจกรรมการเคล่อื นไหวขน้ั พนื้ ฐาน 20 คะแนน3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์3.1 ความมีระเบียบวินัย 5 คะแนน3.2 ความรบั ผิดชอบ 5 คะแนน3.3 ความรว่ มมอื ในชน้ั เรียน 5 คะแนน3.4 สุขปฏิบัติ 5 คะแนน24 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ยดื หยนุ่1 การมว้ นหนา้ คอื การม้วนตัวไปทางด้านหนา้ โดยการทำ� ตัวกลมเหมือนลกู บอลวิธีการปฏิบตั ิ 1. น่ังยอง ๆ เขยง่ ปลายเทา้ หัวเขา่ ชดิ ติดกนั 2. วางมอื ทง้ั สองขา้ งไวบ้ นเบาะทางด้านหนา้ 3. กม้ ศรี ษะลงระหวา่ งหัวเข่าทง้ั สองขา้ งใหค้ างชิดอก ยกกน้ ขึ้น วางศรี ษะบริเวณท้ายทอยลงบนพ้ืน 4. ถีบขาทงั้ สองข้างพรอ้ มกนั งอศอกแลว้ ม้วนตัวไปทางด้านหน้า ประโยชน์ของการม้วนหนา้ เป็นทา่ ทีช่ ่วยลดอันตราย ทีอ่ าจเกิดขึ้นเม่อื เกิดการหกล้ม สามารถปอ้ งกันอวยั วะ ส่วนสำ� คญั คอื ศีรษะใหป้ ลอดภยั จากการชนหรอื กระแทกได้2 การม้วนหลัง คือ การม้วนตัวไปทางด้านหลงัวิธกี ารปฏิบัติ 1. ยนื ยอ่ เข่า เขยง่ ปลายเท้า หวั เข่าชดิ ติดกนั 2. มอื ทัง้ สองวางไว้บนหวั ไหล่ในลักษณะหงายฝ่ามือ ปลายนิ้วชไ้ี ปด้านหลงั 3. ก้มศรี ษะให้คางชิดอก งอลำ� ตัวใหก้ ลม 4. โลต้ วั ไปทางด้านหลงั ใหก้ น้ สมั ผสั กับพน้ื เบาะกอ่ น 5. ออกแรงถบี ขาทงั้ สองขา้ งให้ล�ำตวั มว้ นไปทางด้านหลงั พร้อมกบั ใชฝ้ ่ามือทง้ั สองช่วยดันพนื้ เบาะให้ล�ำตวั กลับมาอยู่ในท่าเดมิ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 ยดื หยุ่น 25
3 การพงุ่ ตวั บนเบาะ หรือการพุ่งม้วนหน้า คอื การท�ำให้ตัวพุ่งไปขา้ งหน้าและลงสูพ่ นื้ ในลักษณะกลง้ิ ตัวไปทางด้านหนา้ โดยใช้มือท้ัง สองรับน้�ำหนกั ตวั วธิ กี ารปฏิบตั ิ 1. ยืนด้วยปลายเทา้ ย่อเขา่ ยกแขนทั้งสองตั้งไว้ ด้านหนา้ ระดบั อกโดยคว�ำ่ ฝา่ มอื ลง 2. กระโดดพงุ่ ตัวไปทางดา้ นหน้า 3. ก้มศีรษะให้คางชดิ อก งอล�ำตัวให้กลม 4. ลงส่พู ้นื ดว้ ยฝา่ มอื ทั้งสองข้าง ยุบข้อศอก ผ่อนแรงและรีบกม้ ศรี ษะ 5. ออกแรงถีบขาท้งั สองข้างใหล้ ำ� ตวั ม้วนไปทางด้านหลงั พร้อมกบั ใช้ฝ่ามือทั้งสองชว่ ยดนั พนื้ เบาะใหล้ ำ� ตวั กลบั มาอยูใ่ นท่าเดิม 4 การทำ� หกสามเส้าพิงกำ� แพง คอื ท่าทางการทรงตวั โดยใชศ้ รี ษะและแขนทงั้ สองขา้ งเป็นฐานรองรบั นำ�้ หนักตัว วางมอื และศีรษะเป็นจดุ สามจดุ มลี กั ษณะเปน็ รูปสามเหล่ียม วิธกี ารปฏิบัติ 1. วางมอื ทั้งสองข้างลงบนเบาะ หา่ งกันประมาณ 1 ชว่ งไหล่และ วางใหเ้ ต็มฝ่ามอื ปลายน้ิว ช้เี ขา้ หาก�ำแพง 2. วางศรี ษะลงบนเบาะเปน็ จดุ ที่ 3 ให้อยใู่ กลก้ บั กำ� แพงห่างประมาณ 5 เซนตเิ มตร 3. เตะเท้าท้งั สองข้างใหต้ ัวลอยขึน้ จากพ้ืนไปพิงกบั กำ� แพง 4. ค่อย ๆ เหยยี ดปลายเทา้ ขนึ้ ไปด้านบนให้ปลายเท้าง้มุ เม่อื ตั้งตรงแลว้ ให้นับ 1 - 10 แล้วปล่อย เท้าลงสู่พื้นทลี ะขา้ ง26 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา เลม่ 1 < ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
5 การกระโดดเชอื ก เป็นกิจกรรมการออกก�ำลงั กายประเภทหนึ่ง สามารถปฏิบัติได้โดยลำ� พงั ประหยดั เวลาและประหยดั ค่าใช้จา่ ย เหมาะสมกบับคุ คลที่ไม่มีโอกาสที่จะไปออกก�ำลังกายด้วยกจิ กรรมประเภทอน่ื ๆวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ 1. ผูเ้ ล่นจะต้องแกวง่ เชอื กขา้ มศรี ษะตนเองก่อน จากด้านหลังไปดา้ นหนา้ 2. เมื่อเชือกตกพ้ืนดา้ นหน้าแล้วให้ก้าวขาข้ามไปทลี ะข้าง แลว้ เรม่ิ แกวง่ ใหม่ ฝึกซ�้ำ ๆ จนเกิดความช�ำนาญ 3. เม่ือฝึกจนเก่งแล้ว จึงเรมิ่ ฝกึ กระโดดข้ามด้วยขาทง้ั สองข้างพร้อม ๆ กนั ทีละ 1 ครัง้ เม่ือท�ำได้แล้วจึงฝึกท�ำติดต่อกันทีละ 2 – 3 คร้ัง และเพ่ิมจ�ำนวนคร้ังข้ึนจนสามารถ กระโดดตดิ ต่อกันไดห้ ลาย ๆ ครั้ง6 การกระโดดเชอื กกบั เพ่อื น จะมผี ้แู กวง่ เชือก 2 คน มีหน้าท่ีจับปลายเชอื กคนละด้าน แลว้ แกว่งเชือกโดยการหมนุ แขนไปในทิศทางเดยี วกนั พร้อม ๆ กนั เป็นจงั หวะและสมำ่� เสมอ โดยให้ส่วนของท้องเชือกตกสมั ผัสกบัพื้นทุกครง้ั ผกู้ ระโดดจะเข้าไปยนื รออยู่ดา้ นขา้ งเชอื กกอ่ น หรือจะวิ่งเข้ากระโดดในขณะทเ่ี ชือกกำ� ลงั แกว่งอยู่กไ็ ด้ แต่การตอ้ งระวังไม่ใหส้ ่วนของรา่ งกายโดนกบัเชอื กที่กำ� ลงั แกวง่ ถา้ ใครโดนเชือกหรือท�ำใหเ้ ชือกหยดุ จะตอ้ งเปล่ยี นไปเป็นคนแกว่งแทนและใหค้ นแกวง่ สลับมาเปน็ คนกระโดดบา้ ง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ยืดหยุ่น 27
7 การแข่งขนั ชกั เยอ่ เป็นเกมการเล่นชนิดหนึ่งที่ใช้ทดสอบความแข็ง แรงของกลมุ่ คน 2 ฝา่ ย โดยใชท้ กั ษะการดงึ มจี ดุ มง่ หมาย เพื่อส่งเสรมิ ให้เกิดความสามัคคใี นกลุม่ เพือ่ น ๆ วิธกี ารเลน่ แบง่ ผเู้ ลน่ ออกเปน็ 2 ฝา่ ยจำ� นวนเทา่ ๆ กนั โดยจบั ทป่ี ลายเชอื กคนละดา้ น ทจี่ ดุ กงึ่ กลาเชอื กจะมเี ครอื่ งหมาย แบง่ เขตแดนไวแ้ ละทพ่ี น้ื สนามจะมเี สน้ แบง่ เขตแดนของ แตล่ ะฝา่ ย เมอื่ เรม่ิ แขง่ ขนั แตล่ ะฝา่ ยตอ้ งพยายามดงึ เชอื ก ใหเ้ สน้ แบง่ จดุ กงึ่ กลางเชอื กเคลอื่ นทเ่ี ขา้ มาอยใู่ นแดนของ ฝา่ ยตนกจ็ ะเปน็ ฝา่ ยชนะ การแขง่ ขนั จะถอื แพช้ นะ 2 ใน 3 คะแนน และต้องมกี ารเปลี่ยนแดนในการดงึ ทุกคร้งั28 สุขศกึ ษาและพลศึกษา เลม่ 1 < ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
การละเล่นของเดก็ ไทย เพลงประกอบ โพงพางเอย ปลาเข้าลอด1 โพงพาง ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง โพงพางเอย นกกระยางเข้าลอดวธิ ีการเล่น เสือปลาตาบอด เขา้ ลอดโพงพาง เลอื กคนเปน็ ปลา 1 คน โดยเอาผา้ ผกูตาแลว้ จบั ตวั หมนุ 3 รอบ แลว้ ผเู้ ลน่ คนอน่ื ๆ เพลงประกอบกจ็ บั มอื ลอ้ มวงกนั เดนิ เปน็ วงกลมรอบตวั คนที่ อ้ายเข้อ้ายโขง อยใู่ นโพรงไม้สักเปน็ ปลา พรอ้ มกบั รอ้ งเพลงประกอบดว้ ย เมอ่ื อา้ ยเขฟ้ นั หัก กดั คนไมเ่ ขา้เพลงจบกน็ งั่ ลงถามคนเปน็ ปลาวา่ “ปลาเปน็หรือปลาตาย” ถ้าปลาตอบว่า “ปลาตาย” หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ยดื หยุ่น 29คนทน่ี งั่ ลอ้ มวงอยตู่ อ้ งนง่ั เฉย ๆ แตถ่ า้ ตอบวา่“ปลาเปน็ ” คนทน่ี งั่ ลอ้ มวงอยจู่ ะหนหี รอื ยา้ ยทน่ี งั่ ได้ แลว้ คนทเี่ ปน็ ปลาจะคลำ� หาตวั ผเู้ ลน่ทลี่ อ้ มวงอยู่ ถา้ เจอตวั แลว้ ทายถกู วา่ เปน็ ใครผู้น้ันตอ้ งเปน็ ปลาแทน ถา้ ทายผดิ ก็ต้องเป็นปลาต่อไปอุปกรณ์ ผา้ สำ� หรับผกู ตา 1 ผืน2 อา้ ยเขอ้ ้ายโขงวธิ ีการเล่น สมมุติให้บนพ้ืนเป็นแม่น้�ำมี 2 ฝั่งอา้ ยเขอ้ ยกู่ ลางแมน่ ำ้� คนอนื่ ๆ อยบู่ นบก และจ�ำเป็นต้องว่ายน้�ำข้ามไปอีกฝั่งหน่ึง โดยว่ิงข้ามไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่วิ่งก็จะร้องเพลงไปดว้ ย คนทขี่ น้ึ ฝง่ั ไดก้ จ็ ะทำ� ทา่ ลอ้ หลอกต่าง ๆ ส่วนอ้ายเข้จะต้องพยายามจับคนที่ก�ำลังวิ่งข้ามฝั่งให้ได้ ใครถูกจับจะต้องเป็นอา้ ยเขแ้ ทน
แบบฝึกหัด กิจกรรมที่ 1 การมว้ นหลงั กระโดดเชือกให้นักเรียนน�ำค�ำเติมลงในชอ่ งว่างใต้รูปภาพให้ถกู ต้อง การพุ่งม้วนหน้า การม้วนหนา้ หกสามเส้า ชกั เยอ่ 30 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1
แบบฝกึ หดั กิจกรรมที่ 2เรามาทดสอบความรกู้ ัน ลองใหค้ ณุ พอ่ คุณแมอ่ ่านให้ฟังแลว้ ตอบนะครบั1. ท่าเตรียมมว้ นหน้า นักเรยี นต้องเอามือทง้ั สองข้างไวท้ ใ่ี ด ก. ยกขึน้ ดา้ นหน้าของลำ� ตัว ข. วางไวบ้ นเบาะด้านหน้า ค. วางไวด้ า้ นขา้ งของล�ำตัว2. เวลานักเรยี นท�ำท่าม้วนหน้า ควรใชศ้ รี ษะส่วนใดวางลงบนพ้นื ก. หน้าผาก ข. ทา้ ยทอย ค. กลางศรี ษะ3. ท่าเตรียมมว้ นหลงั ท่าใดถูกต้อง ก. ยนื ยอ่ เข่าเขยง่ ปลายเทา้ หงายมอื วางบนหัวไหล่ ข. นัง่ งอตวั กม้ หน้า มือวางบนเบาะดา้ นหนา้ ค. ยกมือขนึ้ ดา้ นหนา้ ของลำ� ตัว4. ท่าใดคือถ้าเตรียมพงุ่ มว้ นหนา้ ก. ท่าทารซ์ าน ข. ทา่ ต้นไม้ ค. ทา่ ผหี ลอก5. เม่อื ทำ� ทา่ พุ่งม้วนหน้า จะใชส้ ว่ นใดของรา่ งกายสมั ผัสกับเบาะก่อนส่วนอน่ื ๆ ก. ศีรษะ ข. มอื ท้ังสองข้าง ค. หลัง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 ยดื หย่นุ 31
6. การท�ำทา่ หกสามเสา้ เราจะวางมือและศีรษะลงบนเบาะเปน็ รูปอะไร ก. รูปสามเหลีย่ ม ข. รปู ส่เี หลย่ี ม ค. รปู เสน้ ตรง 7. ทักษะขอ้ ใดตอ่ ไปนท้ี �ำใหว้ ตั ถุสง่ิ ของเคล่อื นท่ีเขา้ หาตัวเรา ก. การดึงกบั การดนั ข. การดึงกับการลาก ค. การผลกั กับการดงึ 8. การแข่งขันชักเย่อระหว่างห้อง 1/2 กับ 1/4 ปรากฏว่า 1/4 ก�ำลังจะเป็นฝ่ายแพ้ เด็กชายปิติซึ่งเป็นนักเรียนห้องอ่ืนมาเชียร์เพ่ือนห้อง 1/4 จึงแอบเข้าไปดึงเชือก จนท�ำให้ 1/4 เอาชนะ 1/2 ไปได้ ถามวา่ เด็กชายปิติเปน็ คนเชน่ ไร ก. เปน็ คนแข็งแรงมแี รงมาก ข. เป็นคนไม่ซอื่ สตั ย์ ค. เปน็ คนมนี �้ำใจโอบอ้อมอารีชอบช่วยเหลือเพื่อน 9. การกระโดดเชอื กมวี ิธีปฏิบัติอย่างไร ก. แกว่งเชอื กก่อนแล้วจงึ กระโดด ข. กระโดดกอ่ นแลว้ จงึ แกวง่ เชอื ก ค. กระโดดและแกวง่ เชอื กพร้อม ๆ กนั 10. การเลน่ กระโดดเชือกสามคน คนแกวง่ เชอื กจะอยตู่ รงไหน ก. อยู่ตรงกลางเชือก ข. อย่ทู ี่ปลายเชอื กทง้ั สองข้าง ค. อยทู่ ่ีใดก็ได้ 11. อาหารหลักท่ีมีความส�ำคญั ต่อร่างกายมกี ี่ประเภท ก. 3 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 5 ประเภท32 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1
12. ใน 1 วนั เดก็ ควรใหร้ า่ งกายไดน้ อนหลับพักผอ่ นกี่ชั่วโมง ก. 6 – 8 ชั่วโมง ข. 8 – 10 ชั่วโมง ค. 10 – 12 ช่ัวโมง13. เวลาร่างกายท�ำงานตามปกติ หัวใจเราจะเต้นก่คี ร้งั ตอ่ นาที ก. 60 ครงั้ ต่อนาที ข. 72 ครั้งตอ่ หน้าที ค. 100 คร้งั ต่อนาที14. เวลาเราออกก�ำลังกายหรอื ทำ� งานหนกั ท�ำไมหวั ใจจึงเต้นแรงและเร็วขึ้น ก. เพราะหัวใจเหน่อื ย ข. เพราะหัวใจต้องการอาหารมากขึ้น ค. เพราะหัวใจตอ้ งสบู ฉดี เลือดไปเลยี้ งร่างกายมากขึ้น15. หลังจากการออกกำ� ลงั กายจนเหนอื่ ยแลว้ ท�ำไมเราจึงรู้สกึ หิวน�้ำ ก. เพราะรา่ งกายเสยี เหง่ือมาก ข. เพราะอากาศรอ้ น ค. เพราะร่างกายออ่ นเพลีย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ยดื หยนุ่ 33
เกณฑ์การสอบทกั ษะยดื หยุ่น1 ด้านทกั ษะ1.1 ทดสอบการทำ� ทา่ มว้ นหน้า 3 คร้ัง 5 คะแนน1.2 ทดสอบการท�ำทา่ พงุ่ มว้ นหนา้ 3 ครง้ั 5 คะแนน1.3 ทดสอบการทำ� ทา่ ม้วนหลงั บน พนื้ ลาดเอียง 3 คร้ัง 10 คะแนน1.4 ทดสอบการทำ� ทา่ หกสามเสา้ พิงกำ� แพง 10 คะแนน1.5 ทดสอบการแกว่งเชอื ก 5 คะแนน1.6 ทดสอบการกระโดดเชือก 10 คะแนน1.7 ใบงานสุขศึกษาเรอ่ื งการออกกำ� ลังกาย และการพกั ผ่อน 15 คะแนน2 ด้านความรู้2.1 ให้นกั เรียนท�ำข้อสอบแบบเลือกตอบ 20 คะแนน ในชน้ั เรียนเกี่ยวกบั กิจกรรมยดื หยนุ่ 3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5 คะแนน 5 คะแนน 3.1 ความมีระเบียบวนิ ัย 5 คะแนน 3.2 ความรบั ผิดชอบ 5 คะแนน 3.3 ความร่วมมอื ในชนั้ เรียน 3.4 สขุ ปฏบิ ตั ิ 34 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เลม่ 1 < ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 สขุ บัญญัติ 10 ประการ สุขบัญญัติ 10 ประการ คือ ข้อก�ำหนดที่เด็กและเยาวชน รวมท้ังประชาชนท่ัวไป ควรปฏิบตั อิ ย่างสม�่ำเสมอจนเป็นนิสยั เพราะผู้ที่ปฏบิ ตั ิตามสุขบัญญัติ 10 ประการ จะเป็นคนมีสุขภาพดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ซ่ึงจะส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสมรรถภาพในการเรียน การท�ำงานและ สขุ บัญญตั ิ 10 ประการ ยงั ชว่ ยใหม้ ีภูมติ า้ นทานโรค ไม่เจบ็ ป่วยงา่ ย ๆ ดว้ ย1 ดแู ลรกั ษารา่ งกายและของใช้ให้สะอาด 2 รักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวัน อย่างถูกวธิ ี3 ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดกอ่ นรบั ประทานอาหาร 4 รบั ประทานอาหารสกุ สะอาด ปราศจาก และหลงั การขบั ถ่าย อนั ตราย และหลกี เลย่ี งอาหารรสจดั และ สีฉูดฉาด หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 สขุ บญั ญัติ 10 ประการ 35
5 งดสบู บหุ ร่ี สรุ า สารเสพตดิ การพนนั และ 6 สร้างความสมั พันธ์ในครอบครัวใหอ้ บอนุ่ การส�ำส่อนทางเพศ7 ปอ้ งกันอุบตั ภิ ยั ด้วยการไมป่ ระมาท 8 ออกก�ำลังกายสม่�ำเสมอ และตรวจ สขุ ภาพประจำ� ปี9 ทำ� จิตใจใหร้ า่ เริงแจ่มใสอยูเ่ สมอ 10 มสี ำ� นกึ ตอ่ สว่ นรวมรว่ มสรา้ งสรรคส์ งั คม36 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
แบบฝกึ หัด กจิ กรรมท่ี 1ให้นักเรียนเติมคำ� ในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ งดื่มนม แปรงฟัน โรคติดต่อ รบั ประทานร่าเริงเบกิ บาน ถ่ายอุจจาระ อาบนำ้� นอนหลบัออกก�ำลงั กาย ดืม่ น�ำ้ พบแพทย ์ โศกเศร้า1. เราควร ทุกวนั เพอ่ื ใหร้ ่างกายสะอาดสดช่ืน2. เราควร ทุกวนั เม่ือต่นื นอน กอ่ นนอนและและหลงั อาหารทกุ ม้อื3. เราควร พกั ผอ่ นให้เตม็ ที่ วนั ละ 8 – 10 ช่วั โมง4. เราควร อาหารท่ีมปี ระโยชน์ เชน่ ผัก ผลไม้ เนอ้ื สัตว์ นมและไข่5. เราควร วนั ละมาก ๆ อย่างนอ้ ยวันละ 8 แกว้6. เราควร ทกุ วัน ไมค่ วรดืม่ น�ำ้ ชาหรือกาแฟ7. เราควร อยา่ งสม�ำ่ เสมอ8. เราควรพยายามหลกี เล่ียง เช่น ไมค่ ลกุ คลคี นท่ีเป็นโรค9. เราควร ใหเ้ ปน็ เวลาทกุ วนั10. เราควร ทำ� จติ ใจให ้ อย่เู สมอ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 สขุ บัญญตั ิ 10 ประการ 37
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4การมีสขุ ภาพดี1 การรบั ประทานอาหาร เราต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเล่ียงอาหารท่ีมีไขมันสูงหรือมีแป้งกับ น�้ำตาลมาก อาหารหลัก 5 หมู่ ประกอบ ดว้ ย โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต วติ ามนิ เกลอื แร่ และไขมนั หมทู่ ่ี 1 โปรตีน ได้แก่ เน้อื สตั ว์ นม ไข่ ถ่วั มีประโยชนท์ ำ� ให้รา่ งกายเจรญิ เตบิ โตและซอ่ มแซมส่วนที่สึกหรอ หมู่ท่ี 2 คาร์โบไฮเดรต ไดแ้ ก่ ข้าว แปง้ น้ำ� ตาล มปี ระโยชนใ์ นการใหพ้ ลงั งานแก่ร่างกาย หมทู่ ่ี 3 วติ ามิน ได้แก่ ผกั ใบสเี ขยี วชนิดตา่ ง ๆ มปี ระโยชนช์ ว่ ยบ�ำรงุ และสขุ ภาพผิวหนงั และท�ำให้ขบั ถา่ ยไดด้ ี หมู่ท่ี 4 เกลือแร่ ไดแ้ ก่ ผลไม้ชนดิ ต่าง ๆ มีประโยชน์ชว่ ยบำ� รงุ สขุ ภาพ ปอ้ งกันโรคตา่ งๆ หมูท่ ่ี 5 ไขมนั ได้แก่ น้�ำมันจากสตั วแ์ ละพชื มปี ระโยชนท์ �ำให้ร่างกายไดร้ ับพลงั งาน และใหค้ วามอบอุน่ แก่ร่างกาย38 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1
2 การออกก�ำลงั กาย การออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอ จะท�ำให้เรามีร่างกายท่ีแข็งแรง อารมณ์ แจม่ ใสเบกิ บาน มองโลกในแงด่ แี ละมคี วาม มน่ั ใจในตนเอง กจิ กรรมการออกกำ� ลงั กาย มีหลายประเภท เชน่ วา่ ยนำ�้ เตะฟตุ บอล เลน่ แบดมนิ ตนั กระโดดเชอื ก และกจิ กรรม อืน่ ๆ อกี มากมาย3 การพักผ่อน เปน็ การผอ่ นคลายความตงึ เครยี ด ทางรา่ งกายและจติ ใจ การพกั ผอ่ นทด่ี ที สี่ ดุ คือ การนอน นักเรยี นควรนอนหลับอย่าง นอ้ ยวนั ละ 8 - 10 ชวั่ โมง กจิ กรรมอน่ื ๆ ที่ เปน็ การพกั ผ่อน เชน่ การดูโทรทัศน์ อา่ น หนงั สอื เลน่ นำ้� ทะเล กอ่ กองทราย เปน็ ตน้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 การมีสขุ ภาพดี 39
แบบฝึกหดั กจิ กรรมท่ี 1 ไขมัน วิตามนิ เกลอื แร่อาหารหลกั 5 หมู่ทร่ี า่ งกายตอ้ งการ คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต 1. 4.2. 5.3.แบบฝกึ หัด กิจกรรมที่ 2เติมคำ� ลงในช่องว่าง ฟตุ บอล เสยี เหง่อื อากาศ กระโดดเชอื ก ว่ายน้ำ� 72 คร้ัง แสงแดด สบู ฉดี เลอื ด1. การออกก�ำลงั กายท่ีฉันชอบคอื มากขน้ึ2. ตามปกติหวั ใจของเราเตน้ ต่อนาที ไมถ่ า่ ยเท3. หลงั จากออกก�ำลงั กายแล้วเราจะหวิ น้ำ� เพราะรา่ งกาย4. เวลาออกก�ำลงั กาย หวั ใจเตน้ แรงข้นึ เพราะ 5. เราควรหลีกเลยี่ งการออกกำ� ลงั กายในที ่ หรอื ในชว่ งเวลาทมี่ ี ร้อนมาก40 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เล่ม 1 < ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: