Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติอำเภอหาดใหญ่

ประวัติอำเภอหาดใหญ่

Description: หาดใหญ่

Search

Read the Text Version

ประวตั ิหาดใหญ่ รวบรวมขอ้ มูล โดย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอหาดใหญ่ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอหาดใหญ่

คานา หาดใหญ่มีประวตั ิและมีววิ ฒั นาการมาอยา่ งน่าสนใจยง่ิ มี หลกั ฐานและเร่ืองเล่าเป็นตานานมาอยา่ งยาวนาน เร่ืองราวใน อดีตมีเสน่ห์ และน่าคน้ หา การจดั ทาหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (E-book) ประวตั ิ หาดใหญ่ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลเรื่องราว การเกิดข้ึนของอาเภอ หาดใหญ่ โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือใชเ้ ป็นแหล่งศึกษาคน้ ควา้ แก่ บุคคลทวั่ ไป ที่สนใจ ทุกเพศ ทุกวยั อยา่ งไม่จากดั เวลาและ สถานท่ี ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ ( )(E-book ประวตั ิหาดใหญ่เลม่ น้ี จะเป็นประโยชน์ ต่อผมู้ ีความ สนใจ ในการศึกษาขอ้ มูล หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอหาดใหญ่ กศน.อาเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เมษายน 2563

ประวตั ิ ความเป็ นมา เมืองหาดใหญ่......... หาดใหญ่มีประวตั ิและมีววิ ฒั นาการมาอยา่ งน่าสนใจยงิ่ จากหมู่บา้ นเลก็ ๆ ท่ีมีช่ือ วา่ โคกเสมด็ ชุน ในปี พ.ศ. 2428 ในพ้นื ที่ป่ ารกร้าง มีท้งั หนอง คลอง บึง ประชาชนต้งั บา้ นเรือนอยหู่ ่าง ๆ กนั บนที่ดอน หรือ โคก ในภาษาถ่ินใต้ และประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทาง เกบ็ หาของป่ าและเกษตรกรรม ต่อมาในรัชสมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รัชกาลท่ี 5) พระองคไ์ ดโ้ ปรด ฯ ใหก้ ระทรวงคมนาคมประกาศเวนคืนท่ีดิน ในบริเวณหมู่บา้ นน้ีส่วนหน่ึงเพอื่ ก่อสร้างทางรถไฟผา่ นไปยงั บา้ นปาดงั เบซาร์ แหลม มาลายู เมื่อมีโครงการก่อสร้างทางรถไฟข้ึนมาแลว้ จึงไดม้ ีประชาชนจากต่างถ่ินอพยพ เขา้ มารับจา้ งก่อสร้างทางรถไฟและประกอบอาชีพอื่น ๆ ซ่ึงต่อมาผรู้ ับเหมาก่อสร้าง ทางรถไฟรายหน่ึงเห็นความสาคญั ของพ้ืนท่ีท่ีก่อสร้างเป็นชุมทางรถไฟ จึงได้ จบั จองท่ีดินไวเ้ ป็นจานวนมาก และชกั ชวนชาวบา้ นใหร้ ่วมกนั หกั ร้างถางพงเพื่อสร้างเป็น ชุมชนเมืองข้ึนมา และ ทางราชการกไ็ ดเ้ ขา้ ไปจดั ใหม้ ีหน่วยงานข้ึนในชุมชนน้นั เพ่ือให้ บริการและอานวยความสะดวกในสิ่งท่ีเป็นความจาเป็นพ้นื ฐานของชุมชนรวมท้งั ความ ตอ้ งการพฒั นาและบารุงทอ้ งท่ีใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ก่อนจะยกฐานะทอ้ งถิ่น ต่อมาทางราชการไดป้ ระกาศจดั ต้งั ข้ึนเป็นสุขาภิบาลหาดใหญ่ตามประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ิสุขาภิบาลเม่ือวนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2471 และประกาศในราชกิจจา นุเบกษา ลงวนั ที่ 29 กรกฎาคม 2471 ปัจจุบนั ....ไดย้ กฐานะเทศบาลเมืองหาดใหญ่ ข้ึนเป็นเทศบาลนครหาดใหญ่ ตาม พระราชกฤษฎีกา เล่ม 112 ตอนที่ 40 ก. ลงวนั ท่ี 24 กนั ยายน 2538 และมีผลใช้ บงั คบั ต้งั แต่วนั ท่ี 25 กนั ยายน 2538



เม่ือนานมาแล้ว เมืองหาดใหญ่ สมยั ยงั ใช้ช่ือ \"อาเภอเหนือ\" มีสนาม หญ้ามเี นื้อทปี่ ระมาณ 4-5 กโิ ลเมตร มี \"ศาลาเกยช้าง\" และสระนา้ ตดิ ต่อกนั นา้ ในสระไม่แห้ง โดยนา้ ในสระแห่งนีใ้ ช้สาหรับให้ช้าง บริโภค พืน้ ทบี่ ริเวณนตี้ ้ังอยู่หลงั โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาและศูนย์ ศิลปวฒั นธรรม (ญ.ส.) โดยศาลาเกยช้างต้งั อยู่บริเวณขอบสระนา้ สระนา้ มี ระดบั นา้ ทสี่ ูงเท่าระดบั ตัวช้าง ศาลาเกยช้างใช้สาหรับให้เจ้านายขนึ้ ช้าง โดย ช้างไม่ต้องหมอบลงกบั พืน้ ดนิ เน่ืองจากสมยั ก่อนเจ้านายชนช้ันผู้ปกครอง จะมหี น้าทไ่ี ปตรวจการตามหัวเมืองท่ีตนรับผดิ ชอบ โดยอาศัยพาหนะน่ันคือ ช้าง เพราะสมยั น้นั ยงั ไม่รถยนต์ เส้นทางเดนิ เท้าสัญจรไปยงั แต่ละท้องถิ่น เป็ นเพยี งทางแคบๆเท่าน้ัน ผู้รับผดิ ชอบในการเลยี้ งช้างเรียกว่า \"นายกอง ช้าง\" โดย ในอาเภอเหนือมชี ้างอยู่ประมาณ 3-4 เชือก มนี ายออน คช รัตน์ หรือ ลุงออน ซึ่งเป็ นป่ ูของนายเจยี ร คชรัตน์ ช้างแต่ละเชือกจะมี ควาญช้างประจา โดยในระยะต่อมาพืน้ ทบี่ ริเวณได้เปลย่ี นแปลงเป็ น \"สนาม ชนโค\" และโรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาและศูนย์ศิลปวฒั นธรรม ทุกวนั อาทติ ย์เป็ นจะมตี ลาดนัด โดยเป็ นสถานทแี่ ลกเปลยี่ นซื้อขาย สินค้า สถานทต่ี ้งั คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณทวี่ ่าการอาเภอเหนือแห่งแรก อยู่ทาง ทศิ ตะวนั ตกตรงบริเวณทที่ าการประปาส่วนภูมภิ าค โดยมปี ระชาชนใน ท้องทอี่ าเภอเหนือและอาเภอใกล้เคยี ง ได้นาสินค้าพืน้ เมืองมาแลกเปลยี่ นซื้อ ขายกนั และกนั บางคนต้องมาค้างคืนทศ่ี าลาสาธารณะริมคลองอู่ตะเภา ฝ่ัง บริเวณท่าเรือคลองหาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็ นบริเวณ \"ท่าหาดใหญ่\"



ใกลห้ มู่บา้ นในอดีตหนา้ ท่าท่ีมีความสาคญั เชิงประวตั ิศาสตร์ สาหรับเมืองหาดใหญ่........วา่ กนั วา่ \"เป็นที่มาของชาวหาดใหญ่“ ใน ความเช่ือของผใู้ หญ่บางท่านไดร้ ะบุวา่ หนา้ ท่าประวตั ิศาสตร์หาดใหญ่มา จากท่ีแห่งน้ี “ถา้ เทียบในสมยั ท่ีเรายงั เป็นเดก็ จาความไดว้ า่ ท่ีหนา้ ท่าแห่งน้ีเป็นทางลาด ลงไปท่ีริมคลองเป็นแอ่งลึกเวงิ้ วา้ งในหนา้ น้า น้าในคลองลน้ เอ่อตล่ิงเป็น ความรู้สึกที่ดูลึกมากในช่วงของวยั เดก็ ”



จาความไดว้ า่ ท่ีตรงน้นั จะมีตน้ จามจุรี ขนาดใหญ่อยเู่ ป็นเนินตล่ิงแห่งน้ี แผก่ า้ นใบ ใหเ้ งาร่มรื่น......ดา้ นหน่ึงท่ีอยบู่ ริเวณหกั ศอก มีอาคารปูนด้งั เดิม.... บริเวณใกล้ ๆ จะไดย้ นิ เสียงเคร่ืองจกั รทางานดว้ ยความเสียงดงั สนน่ั หวนั่ ไหว ...เม่ือเติบโตข้ึนเรามกั จะไดย้ นิ เร่ืองเล่าหากหลาย ๆ คน....ไดอ้ ่านเรื่องราว ในประวตั ิศาสตร์มาบา้ งคงจะรู้ดี และยงิ่ จะ ทาใหเ้ รารู้สึกเสียดายภาพในอดีตท่ีไม่ได้ บนั ทึกไว.้ .....

จึงไดม้ ีชมรมรวบรวมเรื่องราวเมืองหาดใหญ่ไวด้ งั น้ี ก่อนปี พ.ศ.2440 เมืองสงขลาแบ่งออกเป็น 15 ส่วน เรียกวา่ \" อาเภอ\" อาเภอหลวงรักษาพลสยาม ครอบคลมุ บา้ น 113 บา้ น วดั 14 พระอาราม และเรือน 2,805 เรือน โดยพ้นื ที่หาดใหญ่ ปัจจุบนั กเ็ ป็นส่วนหน่ึงของอาเภอน้ีดูไดจ้ ากการระบุบา้ น และ วดั ตา่ ง ๆ เช่น - บา้ นหาดใหญ่ 1 บา้ น 4 เรือน - บา้ นทุ่งเสา 1 บา้ น 75 เรือน - บา้ นโคกเสมด็ ชุน 1 บา้ น 10 เรือน - บา้ นทุ่งรี 1 บา้ น 51 เรือน - บา้ นคลองเรียน 1 บา้ น 7 เรือน - บา้ นควนลงั 1 บา้ น 120 เรือน - บา้ นแหลมโพธ์ิ 1 บา้ น 20 เรือน

แต่เม่ือพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ อยหู่ วั โปรด เกลา้ ฯ ใหม้ ีการปฎิรูป ปกครองหวั เมืองเป็นแบบใหม้ ี มณฑลเมื่อปี พ.ศ. 2493 สงขลาถูกปรับเหลือเพียง 5 แขวง คือ อาเภอเมือง อาเภอปละท่า อาเภอฝ่ ายเหนือ อาเภอจะนะ และอาเภอเทพา ***เกี่ยวกบั อาเภอฝ่ ายเหนือมีหลกั ฐานปรากฎในเอกสาร รัชกาลท่ี 5 กองจดหมายเหตุแห่งชาติ ในรายงานราชการ มณฑลนครศรีธรรมราช ลงวนั ท่ี 4 ตุลาคม ร.ศ117 (พ.ศ 2441) ตอนหน่ึงวา่ \"อาเภอฝ่ ายเหนือต่อแดนเมืองไทรบุรี เมืองปลิศ... ต้งั อยทู่ ่ีวา่ การท่าหาดใหญ่ โดยต้งั ข้ึนในปี ร. ศ.115 (พ.ศ. 2493) มีกานนั 13 คน ผใู้ หญ่บา้ น 178 หมู่บา้ น ครัวเรือนทงั หมด 7,465 ครัวเรือน ราษฎร 24,033 คน เป็นชาย 14,278 คน เป็นหญิง 9,755 คน

ท้งั น้ีเหตุท่ีเรียกวา่ อาเภอเหนือ (ไม่มีคาวา่ \"ฝ่ าย\") เพราะเป็น อาเภอที่กนั ดาร คนในจงั หวดั จึงใชค้ าพดู เชิงดูหม่ินบุคคล วา่ \"ชาวเหนือ\" คู่กบั การใชค้ าพดู กบั คนที่อยรู่ ะหวา่ ง ทะเลสาบสงขลากบั ทะเลหลวง คือระโนด และสทิงพระวา่ \"ชาวบก\" อาเภอฝ่ายเหนือมีอาเภอ 4 คนตามลาดบั คือ หลวงภูวนารถสุรารักษ(์ อ่อน เศวตนนั ต)์ ระหวา่ งปี พ.ศ.2447-2450 หลวงเทพราชธานี(โหมด ชลายนคุปต)์ ระหวา่ งปี พ.ศ.2451-2453 หลวงมหานุภาพปราบสงคราม(ผอ่ ง โรจนหสั ดินทร์) ระหวา่ งปี พ.ศ.2455-2457 พระเสน่หามนตรี(ช่ืน สุคนธหงส์) ระหวา่ งปี พ.ศ.2457- 2464



ช่ือ \"หาดใหญ่\" ยอ้ นช่ือ \"หาดใหญ่\" อยา่ งไรกต็ ามคาวา่ หาดใหญ่ ไม่ใช่เพ่ิงไดย้ นิ ช่ือ พ.ศ.2460 หรือ พ.ศ. 2440ในอนุสรณ์คุณสุชาติ รัตนปราการ) เท่าน้นั เพราะ ในปี พ.ศ.2381 กม็ ีการกล่าวถึงชื่อหาดใหญ่แลว้ ในบนั ทึกการรบระหวา่ ง สงขลา โดยความช่วยเหลือจากกรุงเทพฯกบั เมืองไทรบุรี ที่เป็นกบฎในสมยั รัชกาลท่ี 3 นอกจากน้ีหลกั ฐานจากจดหมายหลวงอุดมสมบตั ิ ถึงพระยาศรี พพิ ฒั น์ ฉบบั ท่ี 1 ไดก้ ล่าวถึงหาดใหญ่ 3 คร้ัง คร้ังท่ี 1 ท่ีกล่าวถึงมีความวา่ พระยาไทร(ท่านท่ีถูกกบฎ)ใหค้ นมาจดั ซ้ือ ขา้ วที่สงขลาได้ 20 เกวยี น ไปจ่ายใหก้ องทพั 1,194 คน ที่ หาดใหญ่ คร้ังท่ี 2 (ในจดหมายฉบบั เดียวกนั แต่บอกเวลาห่างจากคร้ังแรกประมาณ 2 เดือน ) วา่ พระยาสงขลา(เถ้ียนเสง้ เป็นเจา้ เมืองคนที่ 4) กบั นายทพั นายกองยกออกไปพร้อมกนั ณ ที่หาดใหญ่ คร้ังท่ี 3 อีกประมาณ 10 วนั ต่อมาพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 3 ทรงทราบเรื่องการศึกพ่ายแพ้ ทรงโทมนสั ตรัสบ่นวา่ \"ความกร็ ู้อยดู่ ว้ ยกนั แลว้ ยงั ใหม้ นั หลอกลวงทาได้ กองทพั สงขลายกไปอยทู่ ี่หาดใหญ่ จะคดั จดั แจงเอาพวกสงขลาอุดหนุนติดตามกนั ออกไปกไ็ ม่มี\" หลงั จากน้นั พระยา สงขลาเกณฑไ์ พร่ไดเ้ สร็จแลว้ รีบยกข้ึนไปต้งั ที่ท่าหาดใหญ่ แลว้ ใหห้ ลวง บริรักษภ์ ูเบศร์ ผชู้ ่วยราชการเมืองสงขลา เป็นกองส่งเสบียงอาหารอยทู่ ี่ ตาบลท่าหาดใหญ่

อยา่ งไรกต็ าม หาดใหญ่ที่มีการกล่าวถึงน้ี ไม่สามารถช้ีชดั วา่ คือ หาดใหญ่ บริเวณไหน เพราะจากหลกั ฐานท่ีมีอยขู่ า้ งตน้ มองแลว้ วา่ น่าจะอยบู่ ริเวณท่าหาดทราย หลงั ท่ีวา่ การอาเภอหาดใหญ่ใน ปัจจุบนั แตจ่ ากหลกั ฐานอ่ืนๆ ที่มีอยู่ เช่น จากสารานุกรม วฒั นธรรมภาคใต้ พ.ศ.2529 กลบั บอกท่ีตงั ของ\"บา้ นหาดใหญ่\" วา่ \"อยทู่ างทิศใตข้ องสถานีเลียบริมฝั่งคลองเตยไปทางทิศ ตะวนั ออก(ปัจจุบนั คือ ถนนศรีภูวนารถ) และระบุอีกวา่ ก่อนปี พ.ศ.2466 มีบา้ นเรือนอยู่ 9 หลงั ต้งั อยทู่ ่ีหมู่ 3 บา้ นหาดใหญ่ มี บา้ นหลงั แรกต้งั อยฝู่ ่ังตรงขา้ มกบั ธนาคารกรุงเทพ จากดั (มหาชน) สาขาศรีภูวนารถเลียบริมคลองเตย จนถึงหลงั ที่ 9 ซ่ึง เป็นหลงั สุดทา้ ยต้งั อยปู่ ากอุโมงคร์ ถไฟ ถนนศรีภูวนารถปลาย ถนนนิพทั ธ์อุทิศ 1

ยอ้ นมองศกั ยภาพของพ้นื ท่ีหาดใหญ่ในอดีตน้นั แทบจะ เรียกไดว้ า่ หากไม่มีปัจจยั อะไรเป็นพเิ ศษคงยากท่ีจะเติบโต กลายเป็นเมือง ศูนยก์ ลางของภาคใตใ้ นปัจจุบนั ได้ ท้งั น้ี เพราะ พ้ืนท่ีบริเวณน้ีเตม็ ไดว้ ย\"ปลกั \"และ\"พรุ\" เช่น ปลกั มดหนอย หรือ ปลกั มดตะนอย ซ่ึงจะอยบู่ นถนนธรรมนูญ วิถี บริเวณโรงแรมโนราห์(ในอดีต) หรือ เจา้ พระยาอาบ อบนวดในปัจจุบนั ปลกั ข้ีใส่โพง จะอยบู่ ริเวณตลาด โกง้ โคง้ ถนนประชาธิปัตยใ์ นปัจจุบนั ปลกั แฉลง ซ่ึงอยู่ บริเวณโรงพยาบาลมิตรภาพสามคั คี(เซ่ียงต้ึง) พรุบวั จะอยู่ แถวโรงแรมโฆษิต ถนนนิพทั ธ์อุทิศ 2 พรุแม่สอน\"ที่อยู่ ตรงขา้ มกบั \"หา้ งหุน้ ส่วนจากดั เรดาห์เทรดดิ้ง ถนนเพชร เกษมในปัจจุบนั พรุใหญ่ , พรุเลก็ ที่อยบู่ ริเวณหลงั ฟาร์ม จระเข้ ถนนราษฎร์ยนิ ดี(30 เมตร) และบริเวณโรงเรียน สุวรรณวงศใ์ นปัจจุบนั

ทวา่ ทนั ทีท่ีเส้นทางรถไฟไดม้ าถึง โดยจุดแรกคือ สถานีรถไฟอู่ ตะเภา พ.ศ.2453 ก่อนท่ีจะยา้ ยมาท่ีสถานีรถไฟโคกเสมจ็ ชุน หรือ หาดใหญ่ในปัจจุบนั ท่ีก่อนหนา้ น้นั มีฐานะเป็นเพยี ง\"ป้าย\"เท่าน้นั ในปี พ.ศ.2467 ไดม้ ีการทาพธิ ีฉลองเปิ ดสถานีหาดใหญ่และตลาด หาดใหญ่ที่ขนุ นิพทั ธ์ฯเป็นผู้ เริ่มก่อต้งั และวางผงั เมืองเอง ซ่ึงใน สมยั น้นั มีบา้ นเรือนในตลาดหาดใหญ่กวา่ 100 หลงั คาเรือนแลว้ ตลาดหาดใหญ่ไดเ้ ร่ิมกลายเป็นศูนยก์ ลางธุรกิจ มีการทาการคา้ กนั มากข้ึน ในวนั ท่ี 25 กรกฎาคม พ.ศ.2471 ทอ้ งท่ีตลาดหาดใหญ่ได้ ถูกยกฐานะใหเ้ ป็นสุขาภิบาล วนั ที่ 7 ธนั วาคม 2478 ไดย้ กฐานะเป็นเทศบาลตาบลหาดใหญ่ วนั ท่ี 6 มีนาคม 2492 ไดย้ กฐานะเป็นเทศบาลเมืองหาดใหญ่ และเมื่อ ปี 2540 กไ็ ดร้ ับการยกฐานะข้ึนเป็นเทศบาลนครหาดใหญ่ ท่ีมีประชาชน แหล่งธุรกิจ และความเป็นเมืองศูนยก์ ลางของภาคใต้ ครบรูปแบบ จากท่ีเล่ามาน้ี คาดวา่ คาวา่ \"หาดใหญ่\" มาจากท่าน้าตรง ปลายถนนราษฎร์เสรีตดั กบั ถนนสาครมงคล ซ่ึงเป็นชายหาดที่คน รุ่นเก่าก่อนมีความเห็นวา่ มนั ใหญ่ กวา้ งกวา่ ท่าไหนๆ ของคลองอู่ ตะเภา

ขอบคณุ ข้อมลู : OKnation TV : นายชาคริต

หนงั สอื เลม่ นีจ้ ดั ทาขนึ ้ เพื่อเผยแพร่โดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอหาดใหญ่ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอหาดใหญ่ สานกั งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั สงขลา พทุ ธศกั ราช 2563 คณะผ้จู ดั ทา ท่ีปรึกษา : นายไพโรจน์ คเชนทองสวุ รรณ์ ผ้อู านวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอ หาดใหญ่ ผ้จู ดั ทา/รวบรวมข้อมลู : นางสพุ ิทย์ ลอยแก้ว บรรณารักษ์ชานาญการพิเศษ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook