สามพนั โบกถา้ ไม่ไดไ้ ปเทยี่ วสามพนั โบกถอื วา่ ผดิ
คำนำ รำยงำนเร่ืองสถำนท่ีท่องเท่ยี วในประเทศไทยเล่มนี้ ผ้จู ดั ทำได้ค้นคว้ำและ เรียบเรียงขนึ้ จำกประสบกำรณ์ท่ไี ด้พบมำทงั้ ภำคทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิเป็ นรำยงำนท่ีเหมำะสำหรับประกอบกำรเรียนเป็ นอย่ำงย่งิ ซ่ึงผ้จู ัดทำได้นำเนือ้ หำท่ี มสี ำระสำคญั รวบรวมและใส่ทุกรำยละเอยี ดอย่ใู นรำยงำนเล่มนี้โดยเนือ้ หำประกอบไปด้วย รูปภำพสถำนท่ี และเป็ นกำรแนะนำท่ที ่องเท่ยี วต่ำง ๆ ในประเทศไทยทัง้ นีเ้ พ่ือให้ผ้ทู ่ศี ึกษำสนใจค้นหำสถำนท่ีท่องเท่ยี วสวประกำรใดเก่ยี วกบั รำยงำนเล่มนี้ กรุณำแจ้งให้ผ้เู ขียนทรำบเพ่ือจะได้นำไปแก้ไขและปรับปรุงให้สมบรู ณ์ในโอกำสต่อไปยงำมโดยเฉพำะ ได้มีโอกำสศกึ ษำรำยละเอียดได้มำกท่สี ุด และสำมำรถเลือกสถำนท่กี ่อนออกเดนิ ทำงได้รำยงำนเล่มนี้ ผู้จดั ทำได้พยำยำมเขยี นและจดั ทำให้ดที ่สี ุด หำกมขี ้อบกพร่องประกำรใด หรือท่ำนผ้อู ่ำนมีข้อคิดเหน็ หรือแนะนำ
เร่ือง หน้ำท่ีประวัตสิ ำมพนั โบก 1 สำมพันโบกก่อนเผยตัวสู่สำธำรณชน 2 ควำมหมำยของสำมพันโบก 3 ตำนำนสำมพันโบก 4รูปภำพ สำมพันโบก 5 ผู้จัดทำ 6
ในปี พ.ศ.2555 แหล่งท่องเท่ยี วยอดฮิต ตดิ อันดบั ของเมืองไทย ไม่มใี ครไม่รู้จกั “สำมพนั โบก” แล้วครับ นักท่องเท่ยี วหลำยท่ำน หลำยกลุ่ม เม่อื มำเยอื นจังหวัดอุบลรำชธำนีแล้ว ก็มักจะขอปรับรำยกำรท่องเท่ยี วให้ได้ไปสำมพนั โบกด้วย ถงึ ขนำดท่วี ่ำ แม้มีเวลำไม่พอท่จี ะเท่ยี วสำมพนั โบก กข็ อให้ได้ไปถงึ จอดรถถ่ำยรูปสัก 10 นำทีก็ยงั ดี หลำยครัง้ ท่ผี มในฐำนะท่ที ำเว็บไซต์ไกด์อุบล (www.guideubon.com)ก็ยงั ต้องคอยรับโทรศพั ท์ตอบคำถำมอย่เู สมอว่ำ สำมพนั โบกเท่ยี วได้หรือยงั มีเวลำ เท่ยี วอุบลเท่ำนัน้ เท่ำนีว้ ัน อยำกไปเท่ยี วสำมพนั โบกด้วยต้องทำอย่ำงไร อ่ำนมำถงึตอนนี้ ผ้อู ่ำนคงสงสัยว่ำ สำมพนั โบก มที ่มี ำอย่ำงไร ย้อนหลังกลบั ไปสักประมำณ 10 ปี ทำไมไม่มีใครรู้จัก บำงท่ำนเกดิ ท่อี ุบลฯ โตท่ีอุบลฯ ตอนนีท้ ำงำนอย่กู รุงเทพฯ ก็เพ่ิงจะเคยได้ยนิ น่ีแหละว่ำ แหล่งท่องเท่ยี วยอดนิยมแห่งใหม่ สำมพนั โบก ตัง้ อย่ใู น จังหวดั อุบลรำชธำนีบ้ำนเกดิ ของตวั เองแท้ๆ ย้อนหลังกลับไป ช่วงประมำณ พ.ศ.2546-2548 กำรท่องเท่ยี วแห่งประเทศไทย สำนักงำนภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 (ปัจจุบันเปล่ียนช่อื เป็ น กำรท่องเท่ยี ว แห่งประเทศไทยสำนักงำนอุบลรำชธำนี) ได้จดั รำยกำรส่งเสริมกำรท่องเท่ียวเชิง เกษตรใช้ช่ือว่ำ “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” พำนักท่องเท่ยี วไปเท่ยี วชมสวน เกษตรในจงั หวดั อุบลฯ และศรีสะเกษ หน่ึงในรำยกำรนัน้ คือ สวนเกษตรริมฝ่ัง โขง ชมและชมิ ลำไย-มะขำม จำกสวนเกษตรเขียวสด อ.โพธ์ิไทร และพำเท่ียว ชมแหล่งท่องเท่ียวในบริเวณนัน้ จึงเป็ นท่ีมำของไกด์อุบลท่ีได้รู้จัก อำจำรย์เรือง ประทิน เขยี วสด ครูโรงเรียนบ้ำนสองคอน ในฐำนะเจ้ำของสวนเกษตรเขียวสด และในฐำนะผู้นำชุมชนส่งเสริมกำรท่องเท่ียวแห่งบ้ำนโป่ งเป้ำ
สำมพนั โบกก่อนเผยตวั สู่สำธำรณชน วนั แรงงำนแห่งชำติ 1 พฤษภำคม 2549 ไกด์อุบลพำครอบครัวไปเท่ยี ว บ้ำนสองคอน อ.โพธ์ิไทร อกี ครัง้ นัดพบกับอำจำรย์เรืองประทิน เพ่ือให้พำเท่ยี วชมสวนมะขำม และแหล่งท่องเท่ยี วริมโขง ได้แก่ ปำกบ้อง (จุดท่ีแคบท่สี ุดของแม่นำ้ โขง) หินหัวพะเนียง หนิ ผำศลิ ำเลข ฯลฯ ยงั ไม่ช่ือ “สำมพนั โบก”อย่ใู นรำยกำร และตอนนัน้ ก็ยงั ไม่มใี ครเอ่ยถงึ สำมพนั โบกด้วยครับ ในวันนีเ้ องท่ีอำจำรย์เรืองประทิน พำพวกเรำออกนอกเส้นทำงเพ่อื พำไปชมสถำนท่แี ห่งใหม่มคี วำมสวยงำม แต่ต้องล่องเรือไปครับ จำได้ว่ำอำจำรย์เรืองประทนิ บอกว่ำ จะพำไปดู “โบก“ ซ่งึ เป็ นภำษำอีสำนแปลว่ำ หลุม หรือแอ่ง และรอชมพระอำทิตย์ลับฟ้ำท่หี ำดหงส์ เอำแล้วสิ ได้ยนิ ช่ือแหล่งท่องเท่ยี วแห่งใหม่แล้ว ช่ือหำดหงส์ก็งดงำจนต้องมนต์สะกดตำมอำจำรย์เรืองประทินไปคำว่ำ “โบก” หรือหลุม หรือแอ่ง นี้ อำจำรย์เรืองประทินเล่ำว่ำ สันนิษฐำนว่ำน่ำจะเกดิ จำกกำรหมุนวนของนำ้ กล่ำวคือ ผนื แผ่นดินริมฝ่ังโขงนี้เม่อื สมยั ก่อนน่ำจะเป็ นท้องนำ้ อันกว้ำงใหญ่ ใต้ผืนนำ้ นีเ้ อง มแี รงนำ้ วน ทำให้เศษหินเศษทรำยหมุนวนอย่ใู ต้นำ้ กัดเซำะชัน้ หินใต้ท้องนำ้ เป็ นเวลำนำนหลำยพนั ปี จนทำให้เกิดหลุม ต่อมำเปลอื กโลกมกี ำรยกตวั แผ่นดนิ อีสำนกลำยเป็ นท่รี ำบสูง ผืนดินท่เี คยอย่ใู ต้นำ้ กข็ นึ้ มำกลำยเป็ นบก ทำให้เรำเหน็ หลุมมำกมำยบริเวณริมฝ่ังแม่นำ้ โขงชำวบ้ำเรียกหลุมนีเ้ ป็ นภำษำท้องถ่นิ ว่ำ “โบก” ครับหลงั จำกได้ชมโบกพร้อมกบั ข้อสันนิษฐำนกำรเกดิ โบกแล้ว เป็ นเวลำเยน็ พอดีไปรอชมพระอำทติ ย์ตกท่หี ำดหงส์ แหล่งท่องเท่ยี วแห่งใหม่ท่ไี กด์อบุ ลเพ่ิงเคยได้ยนิ เรำล่องเรือไปจอดท่เี นินทรำยอนั กว้ำงใหญ่ ได้สมั ผัสเมด็ ทรำยละเอยี ดยบินุ่มเท้ำ ควำมประทบั ใจทงั้ โบก และ หำดหงส์ ทำให้ไกด์อุบลคิดว่ำ ตอ้ งมำเท่ยี วใหม่อกี ครัง้ มเี วลำมำกๆ สำหรับกำรเท่ยี วชม แต่น่ำเสยี ดำยเม่อื ทรำบจำกอำจำรย์เรืองประทนิ ว่ำ หลังจำกนี้ (เดอื นพฤษภำคม) จะเข้ำหน้ำฝน ฤดูนำ้ หลำกแม่นำ้ โขงจะสงู ขนึ้ จนท่วมปิ ดโบก ปิ ดหำดทรำยท่เี รำเห็นจนหมด จะเทย่ี วได้อีกครัง้ ต้องรอหลงั นำ้ ลดประมำณเดอื นธันวำคมครับ
ทำไมถงึ ช่ือ “สำมพันโบก” “ทำไมถงึ ตงั้ ช่ือว่ำ สำมพนั โบก” เป็ นคำถำมท่ผี มถำมขนึ้ กลำงวงสนทนำ ได้รับคำตอบจำกอำจำรย์เรืองประทนิ ว่ำ โบกท่ีเรำเหน็ นัน้ มีมำกมำยจนนับไม่ถ้วน พอๆ กับส่ีพนั ดอนของ สปป.ลำว เรำตงั้ แค่สำมพนั กพ็ อ เลยได้ช่ือ สำมพนั โบก ตงั้ แต่นัน้ มำยืนยนั ว่ำเพ่งิ ตงั้ ขนึ้ มำจริงๆ เพรำะช่วงนัน้ ไกด์อุบลไปสำมพนัโบกบ่อยๆ คุยกับชำวบ้ำนแล้ว ชำวบ้ำนกย็ ังสงสัยว่ำสำมพนัโบกอย่ตู รงไหน รู้จักแต่โบก กับเพงิ หนิ ริมแม่นำ้ โขงท่ใี ช้อำศัยจับปลำทำมำหำกนิ ต้องยกควำมดคี วำมชอบให้อำจำรย์เรืองประทนิ เขียวสด ผู้นำชุมชนท่พี ยำยำมพำนักท่องเท่ียวไปชมสำมพันโบก และอบรมเดก็ ๆ ในชุมชนบ้ำนโป่ งเป้ำให้เข้ำมำเป็ นไกด์น้อยพำนักท่องเท่ยี วไปชม สำมพนั โบก ถือว่ำเป็ นแหล่งเพำะพันธ์ุปลำตำมธรรมชำตทิ ่ีใหญ่ท่ีสุดในลำนำ้ โขงเท่ำท่ีทรำบกันมำ เป็ นสถำนท่ชี ำวบ้ำนใช้ดำรงชีพด้วยกำรจับปลำในหน้ำแล้ง ในบริเวณเดียวกันนี้ มีสถำนท่ที ่ชี ำวบ้ำนเรียกว่ำ แกรนด์แคนยอนนำ้ โขง อันเกิดจำกกำรกัดเซำะของนำ้ หลำยพนั ปีเป็ นร่องนำ้ ขนำดใหญ่ สูงประมำณ 3-7 เมตร กว้ำงประมำณ20 เมตร
เปิ ดตำนำนสำมพันโบก ระหว่ำงกำรเดนิ ทำงท่องเท่ยี วไปยงั จุดต่ำงๆ ของสำมพันโบกขณะน่ังพกั เหน่ือย ยังได้ฟังตำนำนหรือควำมเช่ือของชำวบ้ำนท่เี ล่ำต่อๆกันมำ จำกอำจำรย์เรืองประทนิ เช่นตำนำนหนิ หวั สุนัขทำงเข้ำของแกรนด์แคนยอนแม่นำ้ โขง มีหนิสวยงำมลักษณะคล้ำยหัวสุนัข ซ่ึงมีตำนำนเล่ำขำนกันต่ำงๆนำนำบ้ำงก็ว่ำแต่ก่อนมีเจ้ำเมืองเป็ นผู้เรืองอำนำจประทับใจควำมงำมของสำมพนั โบกจงึ ได้ส่งเสนำมำศกึ ษำเพ่มิ เตมิ เม่ือมำแล้วพบขุมทรัพย์เป็ นทองคำ จงึ ให้สุนัข เฝ้ำทำงเข้ำจนกว่ำเจ้ำเมืองจะออกมำ เม่ือเจ้ำเมืองได้เหน็ สมบัตเิ กิดควำมโลภกลัวเสนำจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทำงอ่ืน สุนัขผู้ภกั ดีก็เฝ้ำรออยู่ตรงนัน้ จนตำยในท่สี ุด บำงตำนำนก็ว่ำลูกพญำนำคในลำนำ้ โขงเป็ นผู้ขุดเพ่ือให้เกิดลำนำ้ อีกสำยหน่ึงและได้มอบหมำยให้สุนัขเป็ นผู้เฝ้ำทำงระหว่ำงกำรขุดจนกระท่ังสุนัขได้ตำยลงกลำยเป็ นหนิ รูปสุนัขในท่ีสุดตำนำนหำดหนิ สี หรือทุ่งหนิ เหล่ือม ทุ่งหินเหล่ือมอย่ใู นพนื้ ท่บี ้ำนคำจ้ำว ตำบลเหล่ำงำม อำเภอโพธ์ิไทร เป็ นกลุ่มหนิ สที ่ีมีลักษณะแปลกตำ คือหินแต่ละก้อนจะมผี ิวเรียบเป็ นมนั ประกอบด้วยสเี หลือง เขยี ว ม่วง นำ้ เงนิ มีขนำดตงั้ แต่ก้อนเลก็ เท่ำกำปั้นและก้อนใหญ่สุดมีขนำดใหญ่กว่ำ 3 เมตร กระจำยเป็ นกลุ่ม 3 กลุ่มใหญ่ หนิ แต่ละก้อนถ้ำนำมำเรียงต่อกนั จะเช่ือมกนั ได้สนิทคล้ำยจ๊ิกซอว์หินสีจำกตำนำนชำวบ้ำนท่เี ล่ำขำนต่อกนั ว่ำกลุ่มหินสดี งั กล่ำวคอื ทองคำพญำนำค ซ่งึเกิดจำกกำรขุดสร้ำงแม่นำ้ โขงของพญำนำคตวั พ่อและตวั แม่ ส่วนร่องนำ้ เลก็ ท่ีค่ขู นำนกับแม่นำ้ โขงเป็ นผลงำนของลกู พญำนำคท่ขี ุดเล่น จนเกอื บทะลุกบั แม่นำ้โขง ลูกพญำนำคพบหนิ เหมือนทองคำ จงึ ขุดขึน้ กองไว้เป็ นบริเวณกว้ำงประมำณ2 ไร่
ผู้จัดทำนำยทนงศักด์ิ สงิ ขรณ์ เลขท่.ี 17 นำยเสกสรร รินเพง็ เลขท่.ี 6นำยนันทวุฒิ ไชยนำม เลขท่ี.13 นำยจริ วุฒิ ศรีบญุ ลือ เลขท่ี.11นำยธงชัย คนชำญ เลขท่.ี 12 นำยวรวุฒิ สังขะวรรณ์ เลขท่.ี 14
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: