Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Physic

Physic

Published by Apisit Sangkrajang, 2018-08-31 11:37:54

Description: Physic

Search

Read the Text Version

โครงงาน เรอ่ื งการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง จดั ทาโดย นางสาว ศศยิ าภรณ์ ยาสมทุ ร ม. 4/13 เลขท่ี 10 นางสาว ธญั ชนก เลศิ เสถยี รชยั ม. 4/13 เลขท่ี 12 นาย อภสิ ทิ ธิ ์ แสงกระจา่ ง ม. 4/13 เลขท่ี 14 นางสาว พชิ ญส์ นิ ี บญุ รอด ม. 4/13 เลขท่ี 30 นางสาว พมิ พร์ พี พรมฮวด ม. 4/13 เลขท่ี 34 เสนอ อ. นทั ธห์ ทยั พรมวงั ขวา รายวิชา วิทยาการคานวณ 1 ปี การศึกษา 2561โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรม ราชชนนี



เก่ียวกบั โครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์เร่อื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงผ้จู ดั ทา 1. นางสาว ศศยิ าภรณ์ ยาสมทุ ร เลขท่ี 10 เลขท่ี 12 2. นางสาว ธญั ชนก เลศิ เสถยี รชยั เลขท่ี 14 3. นาย อภสิ ทิ ธิ ์ แสงกระจา่ ง เลขท่ี 30 4. นางสาว พชิ ญ์สนิ ี บุญรอด เลขท่ี 34 5. นางสาว พมิ พร์ พี พรมฮวดครทู ่ีปรกึ ษา อ. นทั ธห์ ทยั พรมวงั ขวาสถานศึกษาโรงเรยี นสตรวี ทิ ยา ๒ ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนีปี การศึกษา 2561 ก

กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง สาเรจ็ ลุลว่ งไปดว้ ยดดี ว้ ยความกรณุ าจากอาจารยป์ ระจาวชิ า วทิ ยาการคานวณทไ่ี ดใ้ หค้ าแนะนาใหค้ วามรคู้ าปรกึ ษาและแกไ้ ขใหโ้ ครงงานสาเรจ็ ละมคี วามสมบรู ณ์ สดุ ทา้ ยน้ขี อขอบใจสมาชกิ ในกลุม่ ทุกคนทใ่ี หค้ วามรว่ มมอื ความชว่ ยเหลอื ใหข้ อ้ เสนอแนะจนโครงงานเสรจ็ สมบูรณ์ คณะผจู้ ดั ทา ข

บทคดั ย่อ จากการศกึ ษาเรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงทาใหไ้ ดท้ ราบถงึ สตู รการเคลอ่ื นทก่ี ารเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุทเ่ี ป็นแนวเสน้ ตรงซง่ึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเรว็เวลา ความเรง่ และระยะทางทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นทไ่ี ปไดก้ ารบอกตาแหน่งของวตั ถุ การบอกตาแหน่งของสงิ่ ต่าง ๆ นนั้ ทาไดโ้ ดยการบอกตาแหน่งเทยี บกบั ตาแหน่งหรอื สง่ิ ท่ีสงั เกตไดโ้ ดยงา่ ย ซง่ึ เรยี กวา่ ตาแหน่งอา้ งองิ หรอื จุดอา้ งองิ ซง่ึ ต้องเป็นจุดทห่ี ยดุ นง่ิ ค

สารบญั หน้า กเรอ่ื ง ขเกย่ี วกบั โครงงาน คกติ ตกิ รรมประกาศบทคดั ยอ่ 1บทท่ี 1 บทนา 1 2 ความเป็นมาของโครงงาน 2 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 3 ขอบเขตของโครงงาน 5 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากโครงงาน วธิ ดี าเนินงาน 6 นิยามศพั ท์ 7บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 7 ปรมิ าณทางฟิสกิ ส์ 8 สญั ลกั ษณ์ของปรมิ าณเวกเตอร์ 8 การบวกลบเวกเตอร์ 8 การหาเวกเตอรล์ พั ธโ์ ดยการคานวณสตู รสมการ 9 ระยะทาง และ การกระจดั อตั ราเรว็ และ ความเรว็ 11 ความเรง่บทท่ี 3 วธิ ดี าเนินโครงงาน 12 วธิ กี ารดาเนนิ โครงงานบทท่ี 4 ผลของการดาเนนิ โครงงาน การพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา เรอ่ื ง ปรมิ าตรและ พน้ื ทผ่ี วิ ของรปู ทรงการนาไปใชง้ าน

สารบญั หน้าเรื่อง 13 13บทท่ี 5 สรปุ การดาเนินโครงงาน 13 สรปุ ผลการดาเนินโครงการ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา 14 15บรรณานุกรมภาคผนวก

บทที่ 1 บทนา ความเป็ นมาของโครงงาน เน่ืองจากเรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง เป็นบทเรยี นสาคญั ในรายวชิ า ฟิสกิ สม์ ธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เทอม 1 (ว31201) และไดม้ กี ารนามาใชก้ นั มาก ไมว่ า่ จะ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หรอื การศกึ ษาระดบั สงู กวา่ กม็ กี ารเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเป็นความรู้ พน้ื ฐานในการศกึ ษาเรอ่ื งต่อๆไป บางครงั้ ผทู้ น่ี ามาใชก้ ใ็ ชไ้ มถ่ ูก หลายคนไมร่ ไู้ ม่ เขา้ ใจนิยาม อาจทาใหน้ ามาใช้ มาคดิ คานวณไมถ่ ูกตอ้ ง จนอาจจะกลายเป็นความรทู้ ่ี ผดิ ได้ ดงั นนั้ กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จงึ จดั ทาโครงงานน้ขี น้ึ มาเพอ่ื ศกึ ษารวบรวมความรู้ เรอ่ื งการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง ตลอดจนศกึ ษาความหมาย นยิ าม สตู รตา่ งๆทส่ี าคญั ในการศกึ ษาเรอ่ื งการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง เพอ่ื เป็นประโยชน์แกน่ กั เรยี น และผทู้ ่ี สนใจในเรอ่ื งน้ี เพอ่ื เป็นการสง่ เสรมิ และเผยแพร่ และรกั ษาความรทู้ างด้าน วทิ ยาศาสตร์ สาขาวชิ าฟิสกิ สต์ อ่ ไปวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 1.เพอ่ื ศกึ ษาและรวบรวมเรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 2.เพอ่ื หานยิ ามและความหมายของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 3.เพอ่ื ศกึ ษาตาแหน่งของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 4.เพอ่ื ศกึ ษาการกระจดั และระยะทางของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 5.เพอ่ื ศกึ ษาอตั ราเรว็ และความเรว็ ของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 6.เพอ่ื ศกึ ษาความเรง่ ของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 7.เพอ่ื ศกึ ษากราฟของการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรงของการเคล่อื นท่ีแนวเสน้ ตรง 8.เพอ่ื ศกึ ษาสมการสาหรบั การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรงของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 9.เพอ่ื ศกึ ษาการตกแบบเสรขี องการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง 1

บทที่ 1 บทนาขอบเขตของโครงงาน เป็นโครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงโดยการใชโ้ ปรแกรม Powerpoint ในการพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา ขอบเขตเน้อื หา เป็นโครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษาในเรอ่ื งทก่ี ลมุ่สนใจ โดยจดั ทาโครงงานในหวั ขอ้ เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง โดยมเี น้ือหา ดงั น้ีตาแหน่ง การกระจดั และระยะทาง อตั ราเรว็ และความเรว็ ความเรง่ กราฟของการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง สมการสาหรบั การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง การตกแบบเสรีประโยชน์ที่ได้รบั จากโครงงาน1.ไดท้ ราบนยิ ามและความหมายของเรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพม่ิ เตมิ มากขน้ึ2.ไดท้ ราบตาแหน่งของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพม่ิ เตมิ มากขน้ึ3.ไดท้ ราบการกระจดั และระยะทางของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพมิ่ เตมิ มากขน้ึ4.ไดท้ ราบอตั ราเรว็ และความเรว็ ของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพม่ิ เตมิ มากขน้ึ5.ไดท้ ราบความเรง่ ของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพมิ่ เตมิ มากขน้ึ6.ไดท้ ราบกราฟของการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรงของการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพม่ิ เตมิ มากขน้ึ7.ไดท้ ราบสมการสาหรบั การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรงของการเคล่อื นท่ีแนวเสน้ ตรงเพมิ่ เตมิ มากขน้ึ8.ไดท้ ราบการตกแบบเสรขี องการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงเพม่ิ เตมิ มากขน้ึ 2

บทท่ี 1 บทนาวิธีดาเนิ นงาน วธิ ดี าเนินการทาโครงงาน มขี นั้ ตอนดงั น้ี1. คดั เลอื กหวั ขอ้ โครงงานทส่ี นใจจะทา2. ศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู : การศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู ซง่ึ รวมถงึ การขอคาปรกึ ษาจากผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จะชว่ ยใหน้ ักเรยี นไดแ้ นวคดิทใ่ี ชใ้ นการกาหนด ขอบเขตของเรอ่ื งทจ่ี ะศกึ ษาไดเ้ ฉพาะเจาะจงมากยง่ิ ขน้ึ รวมทงั้ ได้ความรเู้ พม่ิ เตมิ ในเรอ่ื งทจ่ี ะศกึ ษา จนสามารถใชอ้ อกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนนั้ ได้3. จดั ทาเคา้ โครงของโครงงานทจ่ี ะทา มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 3.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารอา้ งองิ และรวบรวมขอ้ มลู ทไ่ี ดท้ งั้ หมด 3.2 วเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอ่ื กาหนดขอบเขตและลกั ษณะของโครงการทจ่ี ะพฒั นา 3.3 ออกแบบการพฒั นา มกี ารกาหนดลกั ษณะของโปรแกรมทต่ี อ้ งใช้ 3.4 กาหนดตารางการปฏบิ ตั งิ านของการจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน ลงมอื ทาโครงงานและสรปุ รายงานโครงงาน โดยกาหนดชว่ งเวลาอยา่ งกวา้ งๆ 3.5 ทาการพฒั นาโครงงานขนั้ ตน้ เพอ่ื ศกึ ษาความเป็นไปไดเ้ บอ้ื งตน้ โดย อาจจะทาการพฒั นาสว่ นยอ่ ย ๆ บางสว่ นตามทไ่ี ดอ้ อกแบบไวแ้ ลว้ นาผลจากการศกึ ษาในชว่ งน้ไี ปปรบั ปรงุ แผนการทดลองทอ่ี อกแบบไวใ้ นครงั้ แรกใหเ้ หมาะสมมากยงิ่ ขน้ึ 3.6 เสนอเคา้ โครงของโครงงานต่ออาจารยท์ ป่ี รกึ ษาเพอ่ื ขอคาแนะนาและปรบั ปรงุ แกไ้ ข เพอ่ื ใหก้ ารวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอยา่ งเหมาะสมเป็นขนั้ ตอนตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ จนสน้ิ สดุ 3

บทที่ 1 บทนา4. การลงมอื ทาโครงงาน เมอ่ื เคา้ โครงของโครงงานไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาแล้ว ก็เสมอื นวา่ การจดั ทาโครงงานไดผ้ า่ นพน้ ไปแลว้ มากกวา่ ครง่ึ ขนั้ ตอนต่อไปจะเป็นการลงมอื พฒั นาตามขนั้ ตอนทว่ี างแผนไว้ เชน่ จดั เตรยี มวสั ดุ - อุปกรณ์ ใหพ้ รอ้ ม รวมทงั้การกาหนดหน้าท่ี ความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ ในกลมุ่ ใหช้ ดั เจน แลว้ จงึ ดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมกี ารทดสอบ ตรวจสอบ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข เพอ่ื พฒั นาโครงงานเป็นระยะ ๆ เพอ่ื ใหแ้ น่ใจวา่ ผลงานทพ่ี ฒั นาขน้ึ นนั้ ทางานไดถ้ กู ตอ้ งตรงกบัความตอ้ งการทร่ี ะบุไวใ้ นเป้าหมาย และเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู ดว้ ย5. การเขยี นรายงาน การรายงาน เป็นวธิ กี ารสอ่ื ความหมายเพอ่ื ใหผ้ อู้ ่นื ไดเ้ ขา้ ใจแนวคดิวธิ ดี าเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ทไ่ี ด้ ตลอดจนขอ้ สรปุ และ ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆเกย่ี วกบั โครงงานนนั้ ในการเขยี นรายงาน นกั เรยี นควรใชภ้ าษาทอ่ี า่ นงา่ ย ชดั เจนกระชบั และตรงไปตรงมา 4

บทท่ี 1 บทนานิยามศพั ท์ 5

บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ียวข้องในการทาโครงงานการจะตอ้ งใชค้ วามรขู้ องการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง ไดแ้ ก่1.ปรมิ าณทางฟิสกิ ส์2.สญั ลกั ษณ์ของปรมิ าณเวกเตอร์3.การบวกลบเวกเตอร์4.การหาเวกเตอรล์ พั ธโ์ ดยการคานวณสตู รสมการ5.ระยะทาง และ การกระจดั6.อตั ราเรว็ และ ความเรว็7.ความเรง่2.1 ปริมาณทางฟิ สิกส์แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื ปรมิ าณสเกลาร์ และ ปรมิ าณเวกเตอร์ ปรมิ าณสเกลาร์ คอื ปรมิ าณทบ่ี อกแตข่ นาดอยา่ งเดยี วกไ็ ดค้ วามหมายสมบูรณ์ ไมต่ อ้ งบอกทศิ ทาง เชน่ ระยะทาง มวล เวลา ปรมิ าตร ความหนาแน่น งานพลงั งาน ฯลฯโดยตอ้ งหาหาผลลพั ธข์ องปรมิ าณสเกลาร์ กอ็ าศยั หลงั การทางพชี คณติ คอื วธิ กี ารบวก ลบ คณู หาร ปรมิ าณเวกเตอร์ คอื ปรมิ าณทต่ี อ้ งบอกทงั้ ขนาดและทศิ ทางจงึ จะไดค้ วามหมายสมบรู ณ์ เชน่ การกระจดั ความเรง่ ความเรว็ แรงโมเมนตมั ฯลฯ ตอ้ งอาศยั วธิ กี ารทางเวคเตอร์ โดยตอ้ งหาผลลพั ธ์ทงั้ ขนการหาผลลพั ธข์ องปรมิ าณเวกเตอรา์ ดและทศิ ทาง2.2 สญั ลกั ษณ์ของปรมิ าณเวกเตอร์สญั ลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ การแสดงขนาดและทศิ ทางของปริมาณเวกเตอร์จะใช้ลกู ศรแทน โดยขนาดของปริมาณเวกเตอร์แทนด้วยความยาวของลกู ศรและทศิ ทางของปริมาณเวกเตอร์แทนด้วยทิศทางของหวั ลกู ศร สญั ลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ใช้ตวั อกั ษรมีลกู ศรคร่ึงบนชีจ้ ากซ้ายไปขวาแสดงปริมาณเวกเตอร์ตวั อย่างเชน่ 6

บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง2.2 สญั ลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์สญั ลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ การแสดงขนาดและทิศทางของ ปริมาณเวกเตอร์จะใช้ลกู ศรแทน โดยขนาดของปริมาณเวกเตอร์แทนด้วยความยาวของลกู ศรและทิศทางของปริมาณเวกเตอร์ แทนด้วยทศิ ทางของหวั ลกู ศร สญั ลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ ใช้ตวั อกั ษรมีลกู ศรครึ่งบนชีจ้ ากซ้ายไปขวาแสดงปริมาณเวกเตอร์ ตวั อย่างเช่น2.3 การบวกลบเวกเตอร์ในทางเวกเตอรก์ ารลบเวกเตอรไ์ มม่ ี แต่ทาไดโ้ ดยการบวกดว้ ยเวกเตอร์ตรงกนั ขา้ ม 7

บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ียวข้อง 2.4 การหาเวกเตอรล์ พั ธโ์ ดยการคานวณ สตู รสมการ2.5 ระยะทาง และ การกระจดั ระยะทาง (distance) คอื ความยาวตามเสน้ ทางการเคลอ่ื นทเ่ี ป็นปรมิ าณ สเกลาร์ สญั ลกั ษณ์ S การกระจดั (displacement)คอื ปรมิ าณทบ่ี อกการเปลย่ี นตาแหน่งของวตั ถุ หรอื เสน้ ทางทส่ี นั้ ทส่ี ดุ จากจุดเรมิ่ ตน้ถงึ จดุ สดุ ทา้ ย ของการเปลย่ี นตาแหน่งของวตั ถุ การกระจดั ใชส้ ญั ลกั ษณ์เป็นปรมิ าณเวกเตอร์ มหี น่วยเป็น เมตร (m)2.6 อตั ราเรว็ และ ความเรว็ อตั ราเรว็ คอื ระยะทางทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นทไ่ี ดใ้ นหน่งึ หน่วยเวลา จดั เป็นปรมิ าณสเกลลาร์ หน่วยในระบบเอสไอ มหี น่วยเป็นเมตร/วนิ าที ความเรว็ คอื ขนาดของการกระจดั ทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นทไ่ี ด้ในหน่งึ หน่วยเวลา จดั เป็นปรมิ าณเวกเตอร์ ใ8ชห้ น่วยเดยี วกบั อตั ราเรว็

บทที่ 2 เอกสารที่เก่ียวข้องอตั ราเรว็ และความเรว็ เป็นปรมิ าณทแ่ี สดงใหท้ ราบลกั ษณะการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุถา้ ในทกุ ๆ หน่วยเวลาของการเคลอ่ื นทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยขนาดของอตั ราเรว็ หรอืความเรว็ เทา่ กนั ตลอดการเคลอ่ื นท่ี เรยี กวา่ วตั ถุเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยอตั ราเรว็ สม่าเสมอหรอือตั ราเรว็ คงท่ี ถา้ พจิ ราณาแลว้ พบวา่ ในแตล่ ะหน่วยเวลาของการเคลอ่ื นทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยอตั ราเรว็ หรอื ความเรว็ ทแ่ี ตกตา่ งกนั กลา่ ววา่ วตั ถุเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยอตั ราเรง่หรอื ความเรง่ ในกรณนี ้กี ารหาคา่ อตั ราเรว็ หรอื ความเรว็ หาไดส้ องลกั ษณะคอื อตั ราเรว็ ขณะใดขณะหน่งึ หรอื ความเรว็ ขณะใดขณะหน่งึ เป็นการหาคา่ อตั ราเรว็ หรอื ความเรว็ ในชว่ งเวลาสนั้ ๆ ชว่ งใดชว่ งหน่ึงของการเคลอ่ื นท่ี อตั ราเรว็ เฉลย่ี หรอื ความเรว็ เฉลย่ี เป็นการหาคา่ อตั ราเรว็ หรอื ความเรว็หลงั จากมกี ารเคลอ่ื นท่ี โดยคานวณหาจากการเฉลย่ี ระยะทางทงั้ หมดของการเคลอ่ื นทใ่ี นหน่งึ หน่วยเวลาของการเคลอ่ื นท่ี หรอื การเฉลย่ี การกระจดั ของการเคลอ่ื นทใ่ี นหน่งึ หน่วยเวลา2.7 ความเร่งคอื ความเรว็ ทเ่ี ปลย่ี นไปในหน่งึ หน่วยเวลาเป็นปรมิ าณเวกเตอรห์ รอื อตั ราการเปลย่ี นความเรว็ เมอ่ื วตั ถุมคี วามเรง่ ในชว่ งเวลาหน่งึ ความเรว็ ของมนั จะเปลย่ี นแปลงไป ความเรง่ อาจมคี า่ เป็นบวกหรอื ลบกไ็ ด้ ซง่ึ เรามกั วา่เรยี ก ความเรง่ (+a) กบั ความหน่วง (-a) ตามลาดบัความเรง่ มนี ยิ ามวา่ \"อตั ราการเปลย่ี นแปลงความเรว็ ของวตั ถุในชว่ งเวลาหน่งึ “ โดยสามารถเขยี นเป็นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเรว็และเวลาไดว้ า่ 9

บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ียวข้องคานิยามของความเรง่ ขณะหน่งึ และความเรง่ เฉลย่ีความเรง่ ขณะหน่งึ คอื ความเรง่ ในชว่ งเวลาสนั้ ๆความเรง่ เฉลย่ี คอื อตั ราสว่ นระหวา่ งความเรว็ ทเ่ี ปลย่ี นไปทงั้ หมดกบั ช่วงเวลาท่ีเปลย่ี นความเรว็ นนั้นอกจากสตู รการคานวณการเคลอ่ื นทใ่ี นแนวเสน้ ตรง และแลว้ ยงั สตู รการคานวณเกย่ี วกบั การเคลอ่ื นทแ่ี บบมคี วามเรง่ อกี 4 สตู รไดแ้ ก่ความหมายของ S U V A TS คอื ระยะกระจดั ของการเคลอ่ื นท่ี มหี น่วยเป็น เมตร (m)U คอื ความเรว็ ตน้ มหี น่วยเป็น เมตรตอ่ วนิ าที (m/s)V คอื ความเรว็ ปลาย หรอื ความเรว็ สดุ ทา้ ยมหี น่วยเป็น (m/s)A คอื ความเรง่ มหี น่วยเป็น เมตรตอ่ วินาที2 (m/������2)T คอื เวลาของการเคลอ่ื นท่ี มหี น่วยเป็น วนิ าที (s) 10

บทท่ี 3 วิธีดาเนินโครงงานในการทาโครงงานการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง มวี ธิ กี ารดาเนนิ การดงั น้ี1.วธิ กี ารดาเนนิ โครงงาน 1.1 เลอื กหวั ขอ้ ทส่ี นใจ 1.2 ปรกึ ษากบั สมาชกิ ในกลมุ่ และอาจารย์ 1.3 ศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื งทจ่ี ะศกึ ษา 1.4 เรม่ิ วางแบบแผนโครงงาน 1.5 จดั ทาโครงงาน 1.6 ตรวจสอบโครงงาน 1.7 นาเสนอโครงงาน 1.8 ประเมนิ ผลงานการจดั ทาโครงงาน 11

บทที่ 4 ผลของการดาเนินโครงงานการพฒั นาสื่อเพ่ือการศึกษา เร่ือง การเคลื่อนที่แนวเส้นตรง การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอรพ์ ฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา เรอ่ื ง สตู รการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เผยแผค่ วามรเู้ กย่ี วกบั สูตรการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรง มผี ลการดาเนนิ โครงงานดงั น้ีการนาไปใช้งาน การพฒั นาโครงงานสตู รการหาสตู รการเคลอ่ื นทแ่ี นวเสน้ ตรงน้ี คณะผจู้ ดั ทาไดด้ าเนินการตามขนั้ ตอนการดาเนนิ งานทไ่ี ดว้ างแผนไว้ และไดน้ าเสนอ 12

บทท่ี 5 สรปุ การดาเนินโครงงาน5.1 สรปุ ผลการดาเนินโครงการ 5.1.1 ไดศ้ กึ ษา เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง ซง่ึ เป็นเร่อื งทก่ี ลมุ่สนใจไดอ้ ยา่ งละเอยี ดลกึ ซง้ึ มากขน้ึ ทาใหม้ คี วามเขา้ ใจมากขน้ึ 5.1.2 ไดน้ าความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการเรยี น เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรงประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในรปู แบบของโครงงาน5.2 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา เน่ืองจากหวั ขอ้ ทใ่ี ชท้ าโครงงานน้เี ป็นหวั ขอ้ ตามทก่ี ลมุ่ สนใจ ซง่ึบางครงั้ อาจไมเ่ ป็นหวั ขอ้ ทางวชิ าการมากนกั ควรนาหวั ขอ้ ทางวชิ าการมาจดั ทาเป็นโครงงานเพอ่ื ประโยชน์ต่อการศกึ ษา 13

บรรณานุกรม• Neutron.//(-).//การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง (Linear motion).//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/จาก /http://www.neutron.rmutphysics.com/• Krumonieweewan.//(-).// แรง ปรมิ าณสเกลาร์ และปรมิ าณเวกเตอร.์ //สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/ จาก/https://sites.google.com/site/krumonieweewan• khampam63.//(-).// แรงและความหมายของแรง.//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/จาก/https://sites.google.com/site/khampam63• แคทลยี า ดวงเกต.ุ //(๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐).// เวกเตอร์ (Vector).//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/จาก/http://www.scimath.org/lesson- mathematics/item/7057-vector-7057• Voranuch Thongpool.//(-).// เวกเตอร์ (Vector).//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/จากhttp://www.academia.edu/4463741/บทท_่ี 1_เวกเตอร์• PHYSICS WORLD.//(-).// ความเร่ง.//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/ จาก/http://physicsworld.nanacity.com/physicsworld/lesson/movement 0.htm?i=1• wikihow.//(-).//วธิ กี าร คานวณความเร่ง.//สบื คน้ เมอ่ื ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑,/จาก https://th.wikihow.com/คานวณความเร่ง• ครูสพุ รรณ แสงเพช็ ร. เอกสารประกอบการเรยี นการสอนวชิ าฟิสกิ ข.์ พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑. กรุงเทพฯ : งานวชิ าการ โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา ๒ , ๒๕๖๐. 14

ภาคผนวก 15



Remember…


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook