ห น้ า | ก คำนำ เอกสารรายงานการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ฉบับน้ี จัดทาข้ึนเพ่ือ เสนอต่อคณะกรรมการประเมินฯสาหรับใช้ประกอบการประเมินและ พจิ ารณาคดั เลือกสถานศึกษาพระราชทาน ระดบั มธั ยมศกึ ษา ประเภทมัธยมศึกษาขนาดกลาง ประจาปกี ารศึกษา 25๖๑ เอกสารรายงานการพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษาประกอบดว้ ย ประวัตโิ รงเรยี น สถานภาพ ปัจจบุ ัน ผลงาน ตามรายการประเมนิ และตวั ชวี้ ัดทั้ง ๕ ดา้ น อันไดแ้ ก่ ด้านที่ 1 คุณภาพนกั เรียน ด้านท่ี 2 การบรหิ ารหลกั สตู รและงานวิชาการ ด้านที่ ๓ การบริหารและการจดั การศกึ ษา ดา้ นที่ 4 การจัดการเรยี นรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ด้านที่ ๕ ความดเี ดน่ ของสถานศกึ ษา ซ่งึ เอกสารฉบบั นี้เปน็ ผลการดาเนนิ การพัฒนา ด้านที่ 4 การจดั การเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ซึ่งประกอบด้วย การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้และการจัดการช้ันเรียน การวัดผลประเมินผล การเรียนรู้ รวมถึงการนาผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สาคัญของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการประเมินฯเพื่อใช้ ประกอบการพจิ ารณาข้อมลู และผลงานของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่ 31 สงิ หาคม 2561 ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
สำรบญั ห น้ า | ข เร่อื ง คานา หน้า สารบญั ก ตอนท่ี ๑ ข้อมลู พื้นฐานของสถานศึกษา ข ๑ 1. ขอ้ มูลทั่วไป ๑ 2. ข้อมูลผู้บริหาร 5 3. ขอ้ มูลนักเรียน ๖ 4. ขอ้ มูลบุคลากร 6 ตอนท่ี ๒ ผลการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ๘ ๔.๑ การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ ๔.๒ การจัดการเรียนร้แู ละการจดั การช้นั เรียน ๑๑ ๔.๓ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑๔ ๔.๔ การนาผลการประเมนิ ไปใช้ ๑๙ ๒๑ ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๑ ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลพื้นฐานของสถานศกึ ษา ๑. ข้อมลู ทว่ั ไป ๑.๑ ชอ่ื สถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ ที่ตั้ง : เลขท่ี ๙๙ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ โทร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ โทรสาร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ E-mail : [email protected] Website : www.rpk๓๑school.ac.th สงั กัด สำนกั บรหิ ำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน กระทรวงศกึ ษำธิกำร ๑.๒ เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ ถงึ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๖ ๑.๓ เขตพน้ื ทีบ่ ริการ ๖ อาเภอ ของจงั หวดั เชียงใหม่ ได้แก่ เขตพน้ื ทบี่ รกิ ารการรับนกั เรยี น เขตพ้นื ท่ีบริการ เขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา จังหวัด อาเภอ สพม. สพป. เชียงใหม่ แม่แจ่ม สพม. ๓๔ สพป. ๔ จอมทอง สพป. ๕ ฮอด สพป. ๖ อมกอ๋ ย ดอยเต๋ำ ดอยหลอ่ ๑.๔ ประวัตโิ ดยย่อโรงเรยี น เนื่องจำกสภำพพ้ืนท่ีอำเภอแม่แจ่ม เป็นภูเขำสลับซับซ้อนทุรกันดำรมีเน้ือที่ ๓,๓๖๑.๑๕๑ ตำรำงกิโลเมตร มีประชำกร ๖๘,๑๘๕ คน มีหย่อมบ้ำน ๒๑๕ หย่อมบ้ำน ห่ำงจำกตัวจังหวัดเชียงใหม่ ประมำณ ๑๑๗ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยดอยอินทนนท์) และประมำณ ๑๕๖ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยฮอด) ประชำกรส่วนใหญ่เป็นชำวไทยภูเขำ เผ่ำ กะเหร่ียง ม้ง ล๊ัวะ และ ลีซอ ประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ ทำนำ ทำสวน ปลูกข้ำวไร่ และรับจ้ำง กำรคมนำคมไม่สะดวก บำงหย่อมบ้ำนห่ำงจำกหมู่บ้ำนหลักมำกต้อง เดินทำงด้วยเท้ำใช้เวลำประมำณ ๒-๓ วัน เน่ืองจำกหย่อมบ้ำนอยู่อย่ำงกระจัดกระจำยห่ำงไกลกันมำก ทำให้ เป็นอุปสรรคในกำรจัดกำรศึกษำอย่ำงทั่วถึง เด็กขำดโอกำสทำงกำรศึกษำ (ภำคบังคับ) ถึง ๑๔๑ หย่อมบ้ำน อำยุระหวำ่ ง ๖-๑๓ ปี จำนวน ๓,๗๐๙ คน จำกสภำพปัญหำและอปุ สรรคในพ้ืนที่อำเภอแมแ่ จ่ม ทำใหไ้ มส่ ำมำรถจดั กำรศึกษำได้อย่ำงทัว่ ถึง มีเด็กอีกจำนวนมำกที่ไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ในพื้นที่ และพยำยำมด้ินรนหำทำงไปเรียนหนังสือที่อื่น ทำให้เกิด ปัญหำถูกหลอกลวง ถูกกดขี่ใช้แรงงำนเด็ก เปน็ เด็กเร่ร่อน เด็กยำกจนขำดผอู้ ุปกำระ จงึ ควรใหค้ วำมสงเครำะห์ ช่วยเหลือเด็กท่ีประสบปัญหำดังกล่ำว ทำงคณะกรรมกำรทำงกำรศึกษำ กำรศำสนำ และกำรวัฒนำธรรม (ศศว.อ.) อำเภอแมแ่ จ่ม โดยสำนักงำนศึกษำธิกำรอำเภอแม่แจ่ม ไดเ้ สนอโครงกำรจัดต้ังโรงเรยี นรำชประชำนุ- เครำะห์ ประเภทประจำข้ึน และได้เสนอโครงกำรดังกล่ำวไปยังก องรำชเลขำนุกำรในองค์สมเด็จ พระบรมรำชนิ ีนำถ (ฝ่ำยกำรศึกษำ) ไดร้ ับคำแนะนำใหเ้ สนอเร่ืองขอเปิดโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ โดยผ่ำน ทำงมลู นธิ ิรำชประชำนุเครำะห์ ในพระบรมรำชปู ถัมภ์ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๒ ในวันท่ี ๕ เมษำยน ๒๕๓๙ รองเลขำธิกำรพระรำชวัง โดยนำย ขวัญแก้ว วัชโรทัย และคณะได้ เดินทำงมำสำรวจพ้ืนท่ี ที่จะจัดตั้ง ณ โรงเรยี นบ้ำนปำ่ เทอ้ ผลกำรสำรวจปรำกฏว่ำ สถำนทีไ่ มเ่ หมำะสม เพรำะ ขำดแหล่งน้ำ จึงได้เสนอให้ทำงอำเภอจดั หำสถำนท่ีต้ังใหม่ใน วันท่ี ๒๐ มีนำคม ๒๕๔๐ นำยสุขวิช รังสิตพล รองนำยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พร้อมด้วย นำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำน กรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ฯ นำยโชดก วีรธรรมพูลสวัสดิ์ เลขำธิกำรมูลนิธิรำชประชำนุ - เครำะห์ฯ ได้เดินทำงมำตรวจดูสภำพพื้นท่ี ท่ีจะก่อสร้ำงโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ตำมพระรำชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี และนำยอำเภอแม่แจ่ม (นำยขวัญชัย วงศ์นิติกร) ซึ่งได้รับ มอบหมำยจำกผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเชียงใหม่ ให้บรรยำยเกี่ยวกับข้อมูลท่ีจะก่อสร้ำง ๔ แห่ง และผลจำกกำร สำรวจได้กำหนดที่ต้ังโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้ำนแม่ปำน หมู่ที่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิงอำเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชียงใหม่ มีพื้นทีท่ ั้งหมด จำนวน ๒๒๖ ไร่ อยู่ห่ำงจำกที่วำ่ กำรอำเภอ แม่แจ่ม ประมำณ ๘ กิโลเมตร มีพิธีวำงศิลำฤกษ์ ในวันพุธ ที่ ๑๕ ตุลำคม ๒๕๔๐ เวลำ ๑๐.๔๙ น. โดยนำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำนกรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ ใน พระบรมรำชูปถัมภ์ มำเปน็ ประธำนในพิธี รัฐมนตรวี ่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร นำยชุมพล ศิลปอำชำ ได้ลงนำมในประกำศจัดต้ังโรงเรียน เม่ือวนั ที่ ๓๐ เดอื น กันยำยน พุทธศกั รำช ๒๕๔๑ โดยมีวัตถุประสงค์ของกำรจัดตง้ั เพื่อรบั เด็กด้อยโอกำสท่ี มีควำมเป็นอยู่ด้อยกว่ำเด็กปกติท่ัวไป ได้แก่เด็กยำกจนมำกเป็นพิเศษ (ครอบครัวมีรำยได้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บำท ต่อปี) เดก็ กำพร้ำ เด็กถูกทอดท้ิง เดก็ ในชนกลุ่มน้อย เดก็ ถูกทำรำ้ ยทำรุณ เด็กท่ีไดร้ ับผลกระทบจำกโรค เอดส์ เด็กเร่ร่อน แรงงำนเด็ก เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนฯลฯ ในเขตพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเตำ่ อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยหล่อ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ เริ่มรบั นักเรียนในปีกำรศึกษำ ๒๕๔๑ ในชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ จำนวน ๗๐ คน ฝำกเรยี นทีโ่ รงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๒๖ อำเภอปำ่ ซำง จังหวัดลำพูน ช้ันมธั ยมศกึ ษำ ปีท่ี ๑ จำนวน ๘๐ คน ฝำกเรียนท่ีโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับนักเรียนด้อยโอกำส ๑๐ ประเภท ดังน้ี กล่มุ เป้าหมายผดู้ ้อยโอกาส ๑๐ ประเภท ๑. เด็กถูกบังคบั ให้ขำยแรงงำนหรือแรงงำนเดก็ หมำยถงึ เด็กที่ต้องทำงำนหรือถูกบงั คับใหท้ ำงำน หำรำยไดด้ ้วยกำรขำยแรงงำนกอ่ นถึงวยั อนั ควร ถูกเอำรัดเอำเปรียบจำกนำยจ้ำง ไม่มโี อกำสไดร้ ับกำรพฒั นำให้ เปน็ ไปตำมหลกั กำรพัฒนำอันเหมำะสมกบั วยั ๒. เด็กเร่ร่อน หมำยถึง เด็กท่ีไม่มีที่อยู่อำศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนดำรงชีวิตอยู่อย่ำงไร้ทิศทำง ขำดปัจจยั พนื้ ฐำนในกำรพัฒนำคณุ ภำพชวี ิต พักอำศัยอยู่ตำมใตส้ ะพำน สวนสำธำรณะ ขำ้ งถนน ๓. เด็กท่ีอยู่ในธุรกิจทำงเพศ หมำยถึง เด็กชำย – เด็กหญิง ที่มีอำยุไม่ครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ มีควำมสมคั รใจหรือถูกบังคับล่อลวงให้ขำยบริกำรทำงเพศ หรอื ตกอยู่ในสภำพท่ีเส่ียงต่อกำรชักจูงให้ประกอบ อำชพี ขำยบรกิ ำรทำงเพศ ๔. เด็กที่ถูกทอดท้ิง หมำยถึง เด็กท่ีถูกมำรดำคลอดทิ้งไว้ที่โรงพยำบำล หรือตำมสถำนท่ีต่ำง ๆ รวมไปถึงเด็กทพ่ี ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ให้มีชวี ิตอยูต่ ำมลำพังหรือกับบุคคลอื่น โดยไมไ่ ดร้ ับกำรเลี้ยงดจู ำกพ่อแม่ทั้งนี้ อำจมีสำเหตุจำกปญั หำกำรหยำ่ ร้ำงหรือครอบครัวแตกแยก มีสภำพชีวิตอย่ทู ่ำมกลำงควำมสบั สน ขำดควำมรัก ควำมอบอุ่นตลอดถงึ เดก็ ท่ีขำดผ้ปู กครอง ขำดผอู้ ุปกำระเล้ียงดู ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๓ ๕. เด็กท่ีถูกทำร้ำยทำรุณ หมำยถึง เด็กท่ีถูกล่วงละเมิดทำงร่ำงกำย ทำงเพศ หรือทำงจิตใจ มีชีวิตอยู่อย่ำงไม่เป็นสุข ระแวง หวำดกลัว เน่ืองจำกกำรถูกทำร้ำยทำรุณ ถูกบีบคั้นกดดันจำกพ่อแม่ หรือผู้ปกครองซ่ึงมีสภำพจิตใจหรืออำรมณ์ไม่ปกติ หรือถูกล่วงละเมิดทำงเพศในลักษณะต่ำงๆ จำกบุคคล ทอี่ ยใู่ กล้ตวั ๖. เด็กยำกจน (มำกเป็นพิเศษ) หมำยถึง เด็กซง่ึ เป็นบุตรหลำนของคนยำกท่ีมีรำยได้ไม่เพียงพอ ต่อกำรเล้ียงชีพ ครอบครัวอยู่ร่วมกันหลำยคน ขำดแคลนปัจจัยพ้ืนฐำน มีชีวิตอยู่อย่ำงลำบำก เด็กในแหล่ง ชมุ ชนแออัด บุตรของกรรมกรก่อสร้ำงและเด็กทอี่ ยู่ในถ่ินทรุ กนั ดำรห่ำงไกลทข่ี ำดโอกำสได้รบั กำรศึกษำ ๗. เด็กในชนกลุ่มน้อย หมำยถึง เด็กที่เป็นบุตรหลำนของบุคคลท่ีมีวัฒนธรรมแตกต่ำง ไปจำกประชำชนส่วนใหญ่ในประเทศ มีปัญหำเก่ียวกับกำรถือสัญชำติไทย จนเป็นสำเหตุให้ไม่มีโอกำสได้รับ กำรศกึ ษำหรือบริกำรอ่นื ๆ สว่ นใหญ่อพยพเขำ้ มำต้งั หลกั แหลง่ อยตู่ ำมบรเิ วณแนวชำยแดนของประเทศไทย ๘. เด็กที่มีปัญหำเก่ียวกับยำเสพติด หมำยถึง เด็กท่ีติดสำรระเหย หรือยำเสพติดให้โทษหรือ เด็กกลมุ่ เสี่ยงต่อกำรชักนำให้ประพฤติตนไมเ่ หมำะสม เก่ียวข้องผูกพันกับกลุ่มมิจฉำชีพ ผู้มีอิทธิพลที่แสวงหำ ผลประโยชนจ์ ำกกำรประกอบอำชพี ผดิ กฎหมำย เป็นเดก็ ท่มี ีแนวโนม้ สูงต่อกำรกอ่ ปัญหำในสังคม ๙. เด็กที่ได้รับผลกระทบจำกโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อร้ำยแรงท่ี สังคมรังเกียจ หมำยถึง เด็กท่ีติดเช้ือเอดส์ หรือมีพ่อแม่เจ็บป่วยดว้ ยโรคเอดส์ เปน็ เด็กท่ีมักจะถูกมองอย่ำงรังเกียจจนไมส่ ำมำรถเข้ำรับ กำรศึกษำหรือบริกำรอนื่ ๆ รว่ มกับเด็กปกติทวั่ ไปได้ ๑๐. เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน หมำยถึง เด็กท่ีกระทำผิดและถูกควบคุมอยู่ ในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนตำมกฎหมำย ตลอดถึงเด็กที่ต้ังครรภ์นอกสมรส ซ่ึงมีแนวโน้มที่จะ ก่อให้เกดิ ปญั หำตำ่ ง ๆ เชน่ กำรทำแท้ง กำรฆำ่ ตัวตำย กำรทอดท้งิ ทำรก ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์๓๑ สังกัดสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร ดำเนินงำนภำยใต้กำรประสำนงำน ระหว่ำงมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ในพระบรมรำชูปถัมภ์ กับสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน กระทรวงศึกษำธิกำรเปิดรับนักเรียนด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ ประเภท เด็กยำกจนมำกเป็นพิเศษ อยู่ในพ้ืนที่ห่ำงไกลจำกสถำนศึกษำ เด็กกำพร้ำบิดำ มำรดำ เด็กท่ีอยู่ในครอบครัวท่ี แตกแยก ไม่มผี ูอ้ ุปกำระเลี้ยงดู เข้ำมำอย่ปู ระจำในโรงเรียน จดั กำรเรยี นกำรสอนในระดับกำรศึกษำภำคบงั คับ และกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ใน ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ มีห้องเรียนตำมแผนกำรรับนักเรียนคือ ๑-๑-๑-๑-๑-๑/ ๔-๔-๔/๔-๔-๔ รวมจำนวน ๓๐ ห้องเรยี น มนี กั เรยี น จำนวน ๘๒๒ คน แผนท่โี รงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๔ ๑.๕ สถานทีต่ ั้ง ที่ต้ังโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เลขท่ี ๙๙ หมู่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๒๗๐ รูปภาพที่ ๑ แผนผงั บริเวณโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ ๑.๖ สัญลักษณ์ อัตลกั ษณ์ และเอกลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ สญั ลักษณ์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ ความหมายตราสญั ลักษณ์ ปรัชญาโรงเรยี น : ใฝร่ ู้ สู้งำน สืบสำนแนวทำง ตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพียง ปณธิ านโรงเรยี น : เป็นคนดี มีควำมจงรกั ภักดี ต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ คาขวัญโรงเรยี น : คุณธรรมดี มคี วำมรู้ สวู่ ถิ ีตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สีประจาโรงเรียน : นำ้ เงิน – เหลือง อกั ษรย่อโรงเรยี น : ร.ป.ค.๓๑ ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๕ อตั ลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่ “สุขภำพดี คณุ ธรรมเดน่ เปน็ จติ อำสำ” เอกลกั ษณ์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ “อทุ ยำนกำรเรียนรู้” วิสัยทัศน์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ “ภำยในปี พ.ศ.๒๕๖๒ โรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ มีระบบกำรจัดกำรศกึ ษำ ท่ีมีคุณภำพ มีครูมอื อำชีพ ผูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะตำมหลกั สูตร และเปน็ ศนู ยก์ ำรเรยี นรู้ ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง” ๑.๗ โครงสรา้ งองคก์ รการบรหิ ารจัดการศึกษา ๒. ข้อมลู ผบู้ ริหาร ๑ ) ชอ่ื – สกุล ผู้บริหำร นำงวิลำวัลย์ ปำลี ตำแหน่ง ผู้อำนวยกำรโรงเรียน โทรศพั ท์ ๐๘๗-๑๘๐๕๕๙๕ e-mail : ywilawan๕๗๗๐@gmail.com วุฒิกำรศกึ ษำสูงสดุ กำรศกึ ษำมหำบัณฑติ วชิ ำเอกกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ ดำรงตำแหนง่ ที่โรงเรยี นนีต้ ้งั แต่ ๒๓ มกรำคม ๒๕๕๘ จนถงึ ปจั จบุ นั ๒) รองผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน จำนวน ๑ คน ๒.๑ นำยวเิ ศษ ฟองตำ วุฒิกำรศึกษำสงู สุด กำรศึกษำมหำบัณฑิตวิชำเอกกำรบริหำรกำรศึกษำ โทรศัพท์ ๐๙๘-๗๘๐๐๑๙๓ e-mail : [email protected] รับผิดชอบ กลุ่มบรหิ ำรงำนวชิ ำกำร ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๖ ๓. ขอ้ มูลนกั เรยี น ปจั จุบันโรงเรยี นมีจำนวนนกั เรียนจำแนกตำมระดับช้ันทเี่ ปิดสอนดังน้ี ระดบั ช้ันเรียน จานวนหอ้ ง เพศ รวม ชาย หญงิ ประถมศึกษำปีที่ ๑ ๑ ๓๓ ๖ ประถมศกึ ษำปีที่ ๒ ๑ ๕๕ ๑๐ ประถมศึกษำปีที่ ๓ ๑ ๕ ๑๐ ๑๕ ประถมศึกษำปีที่ ๔ ๑ ๕๙ ๑๔ ประถมศึกษำปีที่ ๕ ๑ ๙ ๑๔ ๒๓ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ ๑ ๑๑ ๑๔ ๒๕ รวม ๖ ๓๘ ๕๕ ๙๓ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๑ ๔ ๓๘ ๑๐๐ ๑๓๘ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๒ ๔ ๔๕ ๘๗ ๑๓๒ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ ๔ ๒๐ ๘๐ ๑๐๐ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๔ ๔ ๒๐ ๙๓ ๑๑๓ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๕ ๔ ๓๘ ๘๘ ๑๒๖ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๖ ๔ ๑๘ ๑๐๒ ๑๒๐ รวม ๒๔ ๑๗๙ ๕๕๐ ๗๒๙ รวมทัง้ หมด ๓๐ ๒๑๗ ๘๐๕ ๘๒๒ ตารางท่ี ๑ จำนวนนักเรยี นจำแนกตำมระดบั ชั้นที่เปดิ สอน ณ วันที่ 10 มถิ ุนำยน ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๑ ๔. ขอ้ มลู บุคลากร ตารางที่ ๒ ขอ้ มลู บคุ ลำกร ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สุด(คน) รวม ชาย หญงิ ต่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี สูงกว่า ป.ตรี ๑. ผอู้ ำนวยกำร ๐๑ ๑ ๒. รองผ้อู ำนวยกำร ๑๐ ๐๐๑ ๑ ๓. ข้ำรำชกำรครู ๐๐๑ ๓.๑ คศ.๔ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๒ คศ.๓ ๓.๓ คศ.๒ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๔ คศ.๑ ๓.๕ ครูผชู้ ่วย ๓๕ ๐ ๕ ๓๘ ๔. พนกั งำนรำชกำร ๕. ครูอัตรำจ้ำง ๒๕ ๐ ๕ ๒๗ ๒๕ ๐ ๗ ๐๗ ๑๗ ๒๒ ๐ ๓๙ ๐ ๓๙ ๐๒ ๐ ๒ ๐๒ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๗ ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สดุ (คน) รวม ชาย หญิง ตา่ กว่า ป.ตรี ป.ตรี สงู กวา่ ป.ตรี ๖. ลกู จ้ำงประจำ ๑๐ ๑ ๖.๑ นักกำรภำรโรง ๐๐ ๑๐๐ ๐ ๖.๒ คนครัว ๐๔ ๐๐๐ ๔ ๖.๓ ยำม ๑๐ ๔๐๐ ๑ ๖.๔ พนักงำนขับรถ ๑๐ ๑๐๐ ๑ ๑๐๐ ๗. ลกู จ้ำงชวั่ ครำว ๗.๑ บคุ ลำกรจำ้ งเหมำบรกิ ำร ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๗.๒ พี่เลยี้ งเดก็ พิกำร ๓ ๐ ๑๕ ๗.๓ เจำ้ หน้ำท่ธี รุ กำร ๙๖ ๑๒ ๑ ๐๑ ๗.๔ ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนรำชกำร ๐ ๐๐ ๐๑ ๐ ๐ ๐ ๑๕ ๘. นกั ศึกษำฝกึ ประสบกำรณ์ ๖๒ ๗ ๑๐๓ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๐๐ ๐ ๖๙ ๑๕ ๔๓ ๖๐ ๓๔ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๑๐๓ คน ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๘ ตอนที่ ๒ ผลการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ผลการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทาน ระดบั มธั ยมศกึ ษา ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ กำรประเมนิ ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเพื่อรับรำงวลั พระรำชทำนระดับมัธยมศกึ ษำของ โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกำรประเมินผลกำรดำเนินกำรตนเองเพ่ือพัฒนำ คณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำให้เป็นไปตำมเกณฑ์มำตรฐำนกำรประเมินและตัวชี้วัดด้านท่ี ๔ การจัดการเรียนรู้ท่ี เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั ดงั นี้ น้าหนัก รายการประเมินและตวั ชวี้ ัด เอกสารและหลกั ฐานประกอบการพจิ ารณา ประจาดา้ น - รำยกำรกำรวเิ ครำะหน์ ักเรยี นเป็นรำยบคุ คล ๒ ด้านที่ ๔ การจัดการเรียนรูท้ เ่ี น้นนักเรียนเป็นสาคญั - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ - แผน IEP สำหรบั นักเรียนบกพร่องทำงกำรเรยี นรู้ ๔.๑ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ - รำงวัลเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ๑. ครอู อกแบบกำรเรียนรโู้ ดยใชข้ อ้ มลู จำกผลกำร - โครงสร้ำงรำยวิชำ วิเครำะหน์ กั เรียน และควำมเขำ้ ใจนักเรยี น - สรปุ โครงกำรรำยกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ รำยบุคคล - ผลงำนชิ้นงำนของนักเรยี น รำยบคุ คล รำยกลุ่ม ๒. ครูกำหนดเปำ้ หมำย ทักษะกระบวนกำร และ - บันทกึ กำรขออนุมัตใิ ชแ้ ผน คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ตำมมำตรฐำน - บนั ทกึ กำรประเมนิ แผนจดั กำรเรียนรู้ ตัวช้ีวดั จดุ เนน้ ของหลกั สูตร และตำม ควำม - บันทกึ หลงั แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ตอ้ งกำรจำเป็นของนกั เรียน - บันทกึ กำรนิเทศตดิ ตำมกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ๓. ครจู ัดกจิ กรรมกำรเรยี นรตู้ ำมข้นั ตอนที่ - ค่มู อื กำรวดั ผลประเมินผลโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ออกแบบ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ ๔. ครวู ัดและประเมนิ ผลกำรเรยี นอยำ่ งมีคณุ ภำพ - บันทึกกำรประชมุ ผปู้ กครองระดับโรงเรียนและระดบั ชนั้ เนน้ กำรมีสว่ นร่วมของนกั เรียนและผ้ปู กครอง เรยี น ๕. ครใู ชส้ ื่อ และแหล่งเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั - ระเบียนแสดงผลกำรเรยี น : ปพ.๖ ทผี่ ้ปู กครองลงนำม เป้ำหมำยกิจกรรมกำรเรียนรู้ ตำมธรรมชำติ รบั ทรำบ วิชำ และเนน้ กำรมสี ่วนรว่ มของนกั เรยี น - ทะเบยี นสอ่ื ทะเบียนแหลง่ เรียนรู้ - แผนกำรจัดกำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำร - รำยงำนกำรใช้สอื่ - ทะเบียนกำรใชห้ ้องปฏบิ ตั ิกำร - รำยงำนผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำ (SAR) - รปู ภำพประกอบ ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๙ นา้ หนกั รายการประเมนิ และตวั ชี้วัด เอกสารและหลกั ฐานประกอบการพิจารณา ประจาดา้ น ๒ ด้านท่ี ๔ การจัดการเรียนรทู้ ่ีเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ ๔.๒ การจัดการเรยี นรู้และการจัดการชน้ั เรยี น - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑. ครูมคี วำมรคู้ วำมเข้ำใจลกึ ซง้ึ ในวชิ ำทสี่ อน และ - โครงงำนคณุ ธรรม จัดกำรเรียนกำรสอน อยำ่ งมีประสิทธิภำพ - โครงงำนอำชพี ๒. ครูใหเ้ วลำนักเรียนไดฝ้ กึ ปฏิบัติทำงำนเป็นกล่มุ - งำนสวนพฤกษำศำสตร์ อภปิ รำย และ นำเสนองำนโดยประยกุ ตใ์ ช้ - กำรจดั ห้องเรยี น เทคโนโลยแี ละกำรสื่อสำรเพอ่ื กำรศกึ ษำ - เรียนรวม - ส่ิงแวดล้อม ๓. ครูใหเ้ วลำนักเรียนได้คิด ตอบปญั หำ แกไ้ ข ปญั หำสะทอ้ นควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจในวชิ ำท่เี รียน และนำควำมรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ๔. ครูกระตุ้นใหน้ ักเรยี นกระตือรือรน้ ที่จะพัฒนำ วธิ กี ำรเรยี นรขู้ องตนเองและใส่ใจใฝร่ ู้ อดทนต่อ กำรแสวงหำคำตอบ ๕. ครูจัดกจิ กรรมทส่ี รำ้ งปฏสิ มั พนั ธท์ ่ีดีต่อกัน และ ปลูกฝังใหน้ ักเรยี นยอมรบั ควำมแตกตำ่ งของผู้อน่ื ๖. ครูบูรณำกำรกำรเรียนรู้วิชำที่สอนกับภมู ิปัญญำ ทอ้ งถิ่นและกล่มุ สำระกำรเรยี นรูอ้ ื่น เพอ่ื ให้ นักเรยี นเรยี นรู้เพ่มิ ขึ้นแตใ่ ชเ้ วลำน้อยลง ๗. ครูจดั สอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนท่มี คี วำม บกพรอ่ งทำงกำรเรยี น เพิม่ พนู ศักยภำพนักเรยี น ทม่ี คี วำมสำมำรถพิเศษ ๘. ครจู ดั กำรช้นั เรยี นท่ีช่วยใหน้ กั เรยี นสนใจเรยี น เห็นประโยชน์ของ กำรเรยี น และตัง้ ใจเรียน ๔.๓ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๑. ครูวัดและประเมินผลกำรเรียนรูเ้ พ่ือพฒั นำ - โครงสรำ้ งรำยวิชำ นักเรียนและให้นกั เรียน มกี ำรประเมินตนเอง - เครอ่ื งมือวดั ประเมินผล ๒. ครูวดั และประเมินผลนกั เรียนด้วยวิธกี ำรและ - แบบทดสอบ เครอ่ื งมอื ประเมินทห่ี ลำกหลำย สอดคลอ้ งกบั - O-net มำตรฐำนและตวั ชี้วัดของรำยวชิ ำที่สอน ๓. ครูตรวจสอบควำมรพู้ ืน้ ฐำนของนกั เรยี นกอ่ น เรยี น และประเมนิ เมอ่ื จบบทเรียน ให้ข้อมลู ย้อนกลับแก่นกั เรยี นทันที และปรบั ปรุงแกไ้ ข ใหด้ ขี ้ึน ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๑๐ น้าหนัก รายการประเมนิ และตัวชว้ี ัด เอกสารและหลักฐานประกอบการพจิ ารณา ประจาดา้ น ๒ ดา้ นที่ ๔ การจดั การเรยี นรทู้ ่ีเนน้ นักเรยี นเปน็ สาคัญ ๔. ครูนำข้อมูลกำรวัดและประเมนิ ผลมำปรบั ปรงุ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของครู รวมทัง้ แก้ไข และพฒั นำกำรเรียนรู้ของนักเรยี น ๕. ครูตดั สนิ ผลกำรเรยี นของนกั เรียนตำม ระเบยี บทก่ี ำหนด ใชข้ อ้ มลู จำกหลำยแหลง่ มี เกณฑ์อธบิ ำยระดบั ผลกำรเรยี นชดั เจน ๔.๔ การนาผลการประเมนิ ไปใช้ - งำนวจิ ัย ๑. ครูวิเครำะห์ข้อมูลผลกำรประเมนิ ของนักเรียน - นวตั กรรม/ส่อื กำรเรยี น แสดงแนวโนม้ พัฒนำกำรของนักเรียนเปน็ รำยคน - ประชุมผปู้ กครอง และรำยกลมุ่ - เย่ียมบำ้ นนกั เรยี น ๒. ครนู ำผลกำรวิเครำะห์ไปปรบั แผนกำรจดั กำร เรยี นรอู้ ย่ำงเป็นรปู ธรรม ผลสัมฤทธ์ิของนักเรียน เพิ่มข้ึน ๓. ครแู จ้งผลกำรประเมนิ ของนกั เรยี นอยำ่ ง สรำ้ งสรรคน์ ักเรยี นใช้ขอ้ มูลปรบั วิธีกำรเรยี นรู้ได้ ๔. ครูรำยงำนผลกำรเรยี นและควำมก้ำวหนำ้ ของ นกั เรยี นให้ผู้ปกครองทรำบ และรับฟงั ขอ้ เสนอแนะจำกผู้ปกครอง ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๑ ระบบกำรดำเนินงำนวิชำกำรเป็นงำนหลัก หรือภำรกิจหลักและเป็นหัวใจของกำรบริหำรโรงเรียนตำม เจตนำรมณ์ในกำรจัดกำรศึกษำตำมพระรำชบัญญตั ิกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ หมวด ๕ แนวกำรจัดกำรศึกษำ มำตรำ ๒๒ กำหนดไว้ว่ำ “กำรจัดกำรศึกษำต้องยึดหลักว่ำ นักเรียนทุกคนมีควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้ และถือว่ำนักเรียนสำคัญท่ีสุด กระบวนกำรจัดกำรศึกษำตอ้ งส่งเสริมใหน้ กั เรียนสำมำรถพัฒนำตำมธรรมชำตแิ ละเตม็ ศักยภำพ จำกพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ น้ีเอง โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ควำมสำคัญในกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ท่ีเน้น นักเรียนเป็นสำคัญ โดยได้ดำเนินกำรจัดกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ของครูท่ีมีกำรออกแบบกำรเรียนรู้ที่ เหมำะสมกับนักเรียน มีกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ท่ีเป็นองค์ควำมรู้ ทักษะกระบวนกำรและคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ตรงตำมมำตรฐำนและตัวชี้วัดของหลักสูตรและจุดเนน้ ของสถำนศกึ ษำ มีกำรออกแบบกจิ กรรม กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเป้ำหมำย ระบุแนวทำงกำรวัดผลประเมินผลและกำรใช้ส่ือไว้ชัดเจน ดำเนินกำร จัดกำรเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนมีโอกำสฝึกฝน ลงปฏิบัติจริงในลักษณะของกำรทำงำนกลุ่ม มีกำรอภิป รำย นำเสนอผลงำนด้วยวิธีกำรที่เหมำะสม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและกำรสื่อสำร นักเรียนได้คดิ แก้ปัญหำ สะท้อน ควำมรู้ควำมเข้ำใจในเรื่องท่ีได้เรียนรู้ นำควำมรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สร้ำงปฏิสัมพันธ์เชงิ บวก ยอมรับควำม แตกต่ำงระหว่ำงบุคคล นักเรียนได้รับกำรกระตุ้นและพัฒนำวิธีกำรเรียนรู้ มีกำรตรวจสอบและประเมินกำร เรียนรู้อย่ำงเป็นระบบ ทั้งควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ กำรประยุกต์ใช้ กำรวิเครำะห์ กำรประเมินค่ำและคิดสร้ำงสรรค์ เป็นระยะๆ จัดให้นักเรียนประเมินตนเองและใช้วิธีกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย รำยงำน ข้อมูลควำมก้ำวหน้ำแก่นักเรียนและเสนอแนะผู้ปกครอง รวมท้ังใช้ข้อมูลกำรประเมินนักเรียนเพื่อพัฒนำ คณุ ภำพกำรศกึ ษำ โดยมวี ิธกี ำรดำเนินกำร ดงั น้ี ๔.๑ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีกำรดำเนินงำนตำมมำตรฐำนและ ตัวชี้วัดของหลักสูตรตำมจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ดำ้ นควำมรู้ ทักษะกระบวนกำรและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รวมท้ังนำข้อมูลผลกำรวิเครำะห์นักเรียนเป็นรำยบุคคล มำออกแบบกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็น สำคัญ ส่งเสริมควำมสำมำรถในกำรอ่ำนเขียน กำรสื่อสำร กำรคิดคำนวณ มีกำรมอบหมำยงำนที่หลำกหลำย และสรำ้ งสรรค์ ทั้งงำนรำยบุคคลและงำนกลมุ่ มีกำรกำหนดแนวทำงกำรวดั และประเมินผลรวมถงึ กำรใช้ส่ือได้ สอดคล้องกับเปำ้ หมำยและจุดเน้นท่โี รงเรยี นกำหนด ดงั นี้ ๔.๑.๑ ครูออกแบบการเรยี นรู้โดยใชข้ ้อมูลการวเิ คราะห์นกั เรยี นและความเข้าใจ นักเรยี นรายบุคคล เนน้ ความสามารถในการอา่ น เขยี น การส่ือสาร การคดิ คานวณอย่างชดั เจน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนท่ีจัดกำรศึกษำ สำหรับเด็กด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ ตั้งแต่ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๑ ถึงช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ ๖ เมอ่ื รบั เดก็ นักเรยี น เข้ำมำแล้ว ครูทุกคนทำกำรศึกษำวิเครำะห์นักเรียนทำให้ได้รู้จักนักเรียนเป็นรำยบุคคลอย่ำงแท้จริง เพื่อกำร พัฒนำนักเรยี นให้ตรงตำมศักยภำพ พรอ้ มท้ังมีกำรติดตำม พัฒนำศักยภำพนักเรียนไวค้ รบถ้วนทุกคนอยู่เสมอ ครูทุกคนเป็นครูพ่อ-ครูแม่ท่ีต้องดูแลเด็กนักเรียนอย่ำงใกล้ชิดตลอดเวลำ มีกำรจัดระบบกำรดูแลช่วยเหลือ นกั เรียนให้ครอบคลุม คัดกรองนกั เรยี น ออกเยยี่ มบำ้ นนกั เรยี นเปน็ ประจำทกุ ปี ประสำนกับผปู้ กครองเพื่อให้ได้ ข้อมูลในกำรพัฒนำคุณภำพนักเรียนอย่ำงหลำกหลำยตำมสภำพจริงของนักเรียนแต่ละคน พร้อมนำผล กำรศึกษำมำใช้ในกำรพัฒนำ แก้ไขปัญหำ ปรับพฤติกรรมและออกแบบกำรเรียนรู้ท่ีใช้ข้อมูลกำรวิเครำะห์ นักเรยี นและควำมเข้ำใจนักเรียนรำยบุคคลดังกระบวนกำรขัน้ ตน้ ท่ีกล่ำวมำ เนน้ ควำมสำมำรถในกำรอำ่ น เขียน ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๒ กำรสื่อสำร กำรคิดคำนวณ เพื่อให้ได้แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ีเหมำะสมตำมศักยภำพของนักเรียนที่มีมำตรฐำน ดำ้ นกำรอ่ำน กำรเขียนและกำรคำนวณ ผลที่ปรากฏ : คณะครอู อกแบบกำรเรียนรู้โดยใช้ข้อมลู กำรวิเครำะห์นกั เรยี นและควำมเขำ้ ใจ นกั เรียนรำยบุคคล เน้นควำมสำมำรถในกำรอำ่ น เขยี น กำรส่ือสำร กำรคดิ คำนวณ เพอ่ื ให้ไดแ้ ผนกำรจดั กำร เรียนร้ทู เ่ี หมำะสมตำมศกั ยภำพของนกั เรยี นทม่ี ีมำตรฐำนดำ้ นกำรอ่ำน กำรเขียนและกำรคำนวณ หลักฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอ้ำงองิ หมำยเลข 48 หนำ้ 146-149) ๑. รำยงำนกำรวเิ ครำะหน์ กั เรียนเป็นรำยบุคคล (CAR) ๒. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ๓. แผน IEP สำหรับนกั เรยี นบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ ๔. รำงวัลระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นดีเด่น ๕. รูปภำพประกอบ ๔.๑.๒ ครกู าหนดเป้าหมายการเรียนรคู้ รอบคลมุ ท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ตามมาตรฐานตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ จดุ เนน้ ของหลกั สตู รและเพม่ิ เตมิ เปา้ หมาย ตามความต้องการจาเป็นของนกั เรยี นมกี ารออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้และการมอบหมายภาระงานท่ี หลากหลาย มีความทา้ ทาย สรา้ งสรรค์ ทั้งงานรายบุคคลและงานกลุ่ม ได้สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายและ จุดเน้นท่โี รงเรียนกาหนด โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดให้ครูผู้สอนจัดทำ โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ทุกรำยวชิ ำที่รับผิดชอบสอน เพื่อใหค้ รูทุกคนได้ทบทวนเปำ้ หมำยกำรเรียนรทู้ ่ีครอบคลุมท้ัง ดำ้ นควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ตำมมำตรฐำนตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ จุดเน้นของ หลักสูตรในแต่ละรำยวิชำ อันจะส่งผลถึงกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรมอบหมำยงำนท่ีหลำกหลำย เกิดควำมท้ำ ทำย สร้ำงสรรค์ ทั้งงำนรำยบุคคลและงำนกล่มุ ผลท่ีปรากฏ : ครูทุกคนจัดทำโครงสร้ำงรำยวิชำทุกรำยวิชำที่รับผิดชอบสอน เพ่ือให้ครูได้ ทบทวนเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ที่ครอบคลุมตำมตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ท้ังด้ำนควำมรู้ ทักษะกระบวนกำรและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมมำตรฐำน ตัวชว้ี ดั /ผลกำรเรยี นรู้ เกิดกิจกรรมและผลงำนนักเรียนท่หี ลำกหลำย มีควำมท้ำทำย สร้ำงสรรค์ ท้ังงำนรำยบุคคลและงำนกลุ่ม อันสอดคล้องกับเป้ำหมำยและจุดเน้นที่โรงเรียน กำหนด หลักฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 49 หนำ้ 150-153) ๑. โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ๒. แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๓. สรปุ โครงกำรรำยกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ๔. ผลงำนชนิ้ งำนของนักเรยี น ทัง้ รำยบุคคลและรำยกลุ่ม ๕. รูปภำพประกอบ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๓ ๔.๑.๓ ครูทุกคนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามขั้นตอนที่ออกแบบไว้อย่างครบถ้วน และมี คุณภาพ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เน้นให้ครูทุกคนจดั กิจกรรมกำร เรียนรู้ ตำมขน้ั ตอนที่ออกแบบไวอ้ ย่ำงครบถ้วนและมคี ุณภำพ โดยได้มีกำรขออนุญำตใชแ้ ผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ก่อนนำไปใช้จริงทุกครั้ง มีกำรตรวจแผนกำรจัดกำรเรียนรู้จำกหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ รองผู้อำนวยกำร กลุ่มบริหำรงำนวิชำกำร ก่อนกำรผำ่ นกำรอนุมัตกิ ำรใช้แผนกำรจดั กำรเรียนรู้จำกผู้อำนวยกำรโรงเรียน มีกำร นเิ ทศ ตดิ ตำม กำรจัดกำรเรยี นรู้ของครผู สู้ อนอย่ำงตอ่ เนอื่ ง ผลท่ปี รากฏ : ครทู กุ คนจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมข้ันตอนที่ออกแบบไว้ อยำ่ งครบถว้ นและมี คุณภำพ โดยได้มีกำรขออนุญำตใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ก่อนนำไปใช้จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้จริง มีกำรตรวจ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ มกี ำรนิเทศ ติดตำม กำรจัดกำรเรียนรูข้ องครูอย่ำงตอ่ เนอ่ื ง หลักฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 50 หนำ้ 154-158) ๑. บันทึกกำรขออนมุ ัตใิ ช้แผน ๒. บันทกึ กำรประเมินแผนจดั กำรเรยี นรู้ ๓. แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๔. บันทึกหลงั แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๕. บนั ทกึ กำรนเิ ทศตดิ ตำมกำรจัดกำรเรียนรู้ ๖. รูปภำพประกอบ ๔.๑.๔ ครูวัดและประเมินผลด้วยวิธีการท่ีหลากหลายมีคุณภาพ เน้นการมีส่วนร่วมของ นกั เรยี น ผู้ปกครอง เพอ่ื ใช้พัฒนาการเรียนรู้ การตดั สินผลการเรียนรูเ้ ป็นไปตามระเบยี บของโรงเรยี น โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดให้ครูทุกกลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ศึกษำเอกสำรเก่ียวกับกำรสร้ำงเครื่องมือวิเครำะห์และใช้เคร่ืองมือวัดผลประเมินผลกำรเรียนร้ทู ่ี มีคุณภำพ หลำกหลำยครอบคลุมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสำระ คือ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำศำสนำ และวัฒนธรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ กลุ่มสำระกำร เรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี และกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ซึ่งได้จัดทำคู่มือกำรวัดผล ประเมินผลกำรเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกับตัวช้ีวัด/ผลกำรเรียนรู้ ใช้วิธีกำรประเมินท่ีหลำกหลำย เน้น กำรวัดระดับ พฤตกิ รรมขั้นสงู โดยใชค้ ำถำมเชงิ วเิ ครำะห์ สงั เครำะหแ์ ละประเมนิ ค่ำ มีกำรสรุปรำยงำนผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของนักเรียนทุกปีกำรศึกษำ เพ่ือให้ นกั เรียน ผู้ปกครองและชุมชนทรำบ ขอ้ มลู มีควำมถกู ตอ้ ง ชดั เจน สำระครบถว้ น ทุกฝ่ำยเกิดควำมเข้ำใจร่วมกัน และม่ันใจในผลกำรเรียนท่ีนำเสนอกำรจัดทำเอกสำรหลักฐำนครบถ้วนเป็นปัจจุบัน รับฟังควำมคิดเห็นของ ผปู้ กครอง เพื่อนำมำปรบั ปรงุ และพฒั นำระบบกำรทำงำนอยู่เสมอ ผลที่ปรากฏ : ครูมีกำรใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลนักเรียนอย่ำงหลำกหลำย และตำม สภำพจรงิ ของนกั เรียน ทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรมู้ เี ครอื่ งมือวัดผลและประเมินผลท่ีสอดคล้องกับตวั ชี้วดั /ผลกำร เรียนรู้ โดยวิธีกำรประเมินทหี่ ลำกหลำย เน้นกำรวดั ระดับพฤติกรรมข้ันสงู โดยใชค้ ำถำมเชิงวิเครำะห์ สังเครำะห์ และประเมินค่ำ มีกำรวัดผลพฤติกรรมนักเรียนครอบคลุมทุกด้ำนในสัดส่วนท่ีเหมำะสม ส่งผลให้นักเรียนเกิด กำรพัฒนำในทุกดำ้ น ครมู รี ะบบกำรวัดผลที่มีคุณภำพและเหมำะสมกับนักเรยี น เกิดกำรมีส่วนร่วมของนักเรยี น ผูป้ กครองเพ่ือนำมำปรับปรุงและพัฒนำระบบกำรวัดผลประเมินผล มีกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ กำรตดั สินผลกำร เรียนรเู้ ป็นไปตำมระเบยี บของโรงเรียน ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๔ หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 51 หนำ้ 159-162) ๑. ค่มู ือกำรวัดผลประเมินผลโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ ๒. แบบประเมนิ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๓. บนั ทกึ กำรประชมุ ผู้ปกครอง ระดับโรงเรียนและระดบั ชั้นเรยี น ๔. แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๕. ระเบียนแสดงผลกำรเรียน : ปพ.๖ ท่ผี ู้ปกครองลงนำมรับทรำบ ๖. รูปภำพประกอบ ๔.๑.๕ ครูใช้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และสอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามธรรมชาตวิ ชิ าและเนน้ การมสี วนรว่ มของนกั เรยี น โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ มีกำรส่งเสริมให้ครูมีกำรผลิต จัดซ้ือ จัดหำ ใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ท่ีหลำกหลำยภำยในโรงเรียน ทั้งแหล่งกำรเรียนรู้งำนอำชีพเกษตรกรรม คหกรรม อุตสำหกรรม พำณชิ ยกรรม แหลง่ กำรเรียนรู้วถิ ชี ีวิตชนเผ่ำ เช่น แหล่งเรียนรู้กำรปลกู ผัก แหล่งเรียนรู้ กำรเล้ียงไส้เดือนดิน แหล่งกำรเรียนรู้กำรทำขนม แหล่งกำรเรียนรู้งำนผ้ำ แหล่งเรียนรู้กำรเชื่อมเหล็ก แหล่ง เรียนรกู้ ำรนวดแผนไทย กำรเสริมสวย แหล่งกำรเรียนรวู้ ิถชี นเผ่ำปะกำเกอญอ ละว้ำ ม้ง คนเมอื ง เป็นต้น เพื่อ กำรเรยี นรู้อย่ำงเป็นระบบ ส่งเสรมิ กำรมีสว่ นรว่ มในกำรวำงแผน จดั หำและผลิตสือ่ เพ่ือกำรเรียนรู้ ตำมกจิ กรรม กำรเรียนรู้ ตำมธรรมชำติวิชำและเนน้ กำรมสี วนร่วมของนกั เรียน ซ่งึ ส่ือที่ผลิตข้ึนน้ันจะสอดคล้องกบั กำรเรียนรู้ ของแต่ละวิชำ เพอ่ื อำนวยควำมสะดวกให้แกค่ รผู ู้สอนแทนและนกั เรียนจะไดเ้ รียนรไู้ ดด้ ้วยตนเองในด้ำนน้กี จ็ ะมี ผลดีกับครูผู้สอน คือ ครูจะลดบทบำทลงเป็นที่ปรึกษำ เน้นให้นักเรียนได้ศึกษำเอง ตลอดจนกำรจัดทำสื่อกำร เรยี นรู้ในแตล่ ะครั้ง ได้กำหนดให้นักเรียนมสี ่วนร่วมในกำรวำงแผนผลิต และสำมำรถบูรณำกำรให้สอดคล้องกบั กลุ่ม วิชำอ่ืนได้เป็นอย่ำงดี มีกำรประเมินผลกำรใช้ส่ือพร้อมนำไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมำะสม กับกระบวนกำรจัดกำร เรียนรู้ของนกั เรียน ผลท่ีปรากฏ : ครูผู้สอนทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ใช้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ที่หลำกหลำย ประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอดคล้องกับเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ตำมธรรมชำติวิชำ และเนน้ กำรมสี วนร่วมของนักเรยี น หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอ้ำงองิ หมำยเลข 52 หนำ้ 163-168) ๑. ทะเบียนสื่อและทะเบียนแหล่งเรยี นรู้ ๒. แผนกำรจัดกำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำร ๓. รำยงำนกำรใชส้ ือ่ ๔. ทะเบียนกำรใชห้ ้องปฏบิ ัตกิ ำร ๕. รำยงำนผลประเมนิ ตนเองของครูผู้สอน (SAR) ๖. รูปภำพประกอบ ๔.๒ การจดั การเรยี นรแู้ ละการจดั การช้นั เรยี น ครูผู้สอนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจลกึ ซงึ้ ในวิชำท่ีสอน และจัดกิจกรรมกำรเรียนรูโ้ ดยเนน้ นกั เรียน เป็นสำคัญ ได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ ตำมแผนกำรเรียนรู้ท่ีออกแบบไว้ เปดิ โอกำสใหน้ ักเรยี นได้ฝกึ กำรทำงำนเป็น กลุ่ม อภิปรำย นำเสนอผลงำนดว้ ยวิธีกำรทเี่ หมำะสม มีกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในกำรส่ือสำร เพื่อกำรศึกษำ อย่ำงเปิดกว้ำง ตำมนโยบำยไทยแลนด์ ๔.๐ ครูผู้สอนเปิดโอกำสให้นักเรียนได้คิด ได้ตอบปัญหำ แก้ไขปัญหำ เพ่ือสะท้อนควำมรูค้ วำมเข้ำใจในรำยวิชำท่ีเรียน สำมำรถนำควำมรู้ ไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั อกี ท้ังยัง ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๕ กระตุ้นให้นักเรียนเกิดควำมกระตือรือร้นที่จะพัฒนำวิธีกำรเรียนรู้ของตนเอง ด้วยควำมใส่ใจใฝ่เรียนรู้ ตลอดเวลำ มีกำรแสวงหำควำมรู้หรอื สง่ิ ทีต่ นเองสนใจ อยำ่ งพำกเพียร ครูผู้สอนจัดกจิ กรรมให้นักเรียนเกิดกำร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซ่ึงกนั และกัน ปลูกฝังให้นกั เรียนยอมรบั และเข้ำใจควำมคดิ เหน็ ของผู้อ่นื มีกำรบรู ณำกำรจัด กิจกรรมจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำที่สอนให้มีควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภูมิปัญญำท้องถิ่นและสำระกำรเรียนรู้อื่นๆได้ อย่ำงมีประสิทธิภำพ อำทิ กำรส่งเสริมใหน้ ักเรียนเข้ำรว่ มกิจกรรมของชุมชน มีกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนร้ซู ่อม เสริมให้แก่นักเรียนที่มีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ มีกำรส่งเสริมเพ่ือพัฒนำศักยภำพของนักเรียนท่ีมี ควำมสำมำรถพิเศษ และดูแลให้นักเรียนเรียนรู้ตำมศักยภำพได้อย่ำงทั่วถึง ครูผู้สอนจัดกำรช้ันเรียนท่ีช่วยให้ นักเรยี นสนใจเรียน เห็นประโยชน์ของกำรเรียน และเรยี นรู้ทกุ เร่ืองอยำ่ งมีควำมสขุ ซ่ึงสอดคล้องกบั วิสัยทัศน์ ของโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ว่ำ “มีระบบกำรจัดกำรศึกษำท่ีมีคุณภำพ มีครูมือ อำชีพ นักเรียนมีคุณลักษณะตำมหลักสูตร และเป็นศูนย์กำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยมวี ธิ กี ำรพฒั นำ ดงั นี้ ๔.๒.๑ ครูมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้งในวิชาท่ีสอน และจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพตามแผนการเรียนรูท้ ี่ออกแบบไว้ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนท่ีจัดกำรศึกษำ สำหรับเด็กด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ เมื่อรับนักเรียนเข้ำเรียนครูทุกคนต้องรู้จักนักเรียนเป็นรำยบุคคลเพ่ือ ทำกำรศึกษำวิเครำะห์นักเรียนเป็นรำยคน ให้รู้จักนักเรียนอย่ำงแท้จริง เพ่ือกำรพัฒนำนักเรียนให้ตรงตำม ศักยภำพ ซ่งึ ครูผู้สอนได้มีกำรคัดกรองนักเรียน และใช้ข้อมูลผลกำรคัดกรองนักเรียน มำเปน็ ข้อมูล ในกำรจดั ทำ โครงสร้ำงรำยวิชำ ออกแบบหน่วยกำรเรียนรู้ จัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ เกณฑ์กำรวัดและประเมินผลกำร เรียนรู้ เพ่ือให้สอดคล้องกับนักเรียนในแต่ละระดับช้ัน โดยมีกำรบูรณำกำรในส่วนของงำนสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รของสถำนศึกษำ ซึ่งจำกกำรทีค่ รผู ู้สอน นำผลกำรวิเครำะห์นักเรียนมำเป็นข้อมูลในกำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้นั้น ทำให้ครูผู้สอนเข้ำใจและ สำมำรถใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละรำยวิชำได้อย่ำงเหมำะสม มีกำรจัดกำรเรียนรู้โดยเน้นนักเรียนเป็น สำคญั ได้อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ ตำมแผนกำรเรียนรูท้ ่อี อกแบบไว้ มกี ำรวัดและประเมินผลนักเรียนตำมสภำพจริง มีกำรนำผลกำรวัดและประเมินผลนักเรยี นตำมแผนกำรจัดกำรเรียนรู้นั้นมำศึกษำว่ำนักเรียนแต่ละคนมีควำม บกพร่องที่ต้องเร่งแก้ไขพัฒนำ หรือนักเรียนคนใดมีควำมสำมำรถพิเศษท่ีครูผู้สอนต้องส่งเสริมให้นักเรียนได้ แสดงควำมสำมำรถ ผลทปี่ รากฏ : ครูผสู้ อนมคี วำมรู้ควำมเข้ำใจลึกซึง้ ในรำยวิชำทร่ี ับผิดชอบสอน และสำมำรถ จดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ ตำมแผนกำรเรียนรู้ท่ีออกแบบไว้ ทำให้นักเรียนเขำ้ ใจเนอื้ หำ สำระในรำยวิชำที่ได้เรยี น กระตอื รอื ร้นทีจ่ ะเขำ้ เรยี นในแต่ละรำยวิชำ ซง่ึ จะทำใหน้ ักเรียน มพี ฒั นำกำรทดี่ ขี ึ้น หลักฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 53 หนำ้ 169-174) ๑. โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ ๒. แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ๓. แผน IEP สำหรบั นกั เรยี นบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ ๔. หลักสตู รของสถำนศึกษำ ๕. รูปภำพประกอบ ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๖ ๔.๒.๒ ครูให้เวลานักเรียนได้ฝึกปฏิบัติ ทางานเป็นกลุ่ม อภิปรายและนาเสนองานด้วย วธิ ีการทีเ่ หมาะสม และประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี และการส่ือสารเพ่อื การศึกษาอยา่ งเปิดกวา้ ง โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้จัดให้มี กำรนำเอำเทคโนโลยีเข้ำมำประยุกต์ใช้เป็นส่ือในกำรจัดกำรเรียนรู้ เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนเกิดควำม กระตือรือร้นมีควำมสนใจที่จะเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม Kahoot และโปรแกรม Plickers มีกำรนำกิจกรรมสะ เตม็ ศกึ ษำเขำ้ มำประยุกต์ใช้ในแต่ละรำยวชิ ำเพ่อื ให้นักเรียนนน้ั ไดฝ้ ึกปฏบิ ัติลงมอื ทำจรงิ โดยอำศัยระบบกล่มุ ใน กำรร่วมกันทำช้ินงำนตำมท่ีได้รับมอบหมำย นำปัญหำและอุปสรรคที่เกิดขน้ึ ระหว่ำงกำรลงมือปฏิบตั ิงำนกลุ่ม มำอภิปรำยเพ่ือหำวิธีกำรแก้ไขปัญหำและนำผลงำนท่ีได้ลงมือทำมำนำเสนอ หน้ำชั้นเรียน เพ่ือเลือกเปล่ียน เรียนรู้กันระหว่ำงเพ่ือน ภำยในห้อง ซ่ึงกำรจัดกิจกรรมดังกล่ำวน้ันทำให้นักเรียนเกิดกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เกดิ ควำมทำ้ ทำย มกี ำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัง้ งำนรำยบุคคลและงำนกล่มุ ผลที่ปรากฏ : ครูผู้สอนจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ในแต่ละคร้ัง โดยเน้นให้นักเรียนได้ ฝึกปฏิบัติลงมือทำจริงมำกกว่ำกำรฟังบรรยำย เพรำะกำรฟังบรรยำยนั้นมันน่ำเบื่อ กำรเรียนรู้ของนักเรียน เกิดข้ึนน้อย ดังนั้นจึงเนน้ กำรลงมอื ปฏิบัตเิ ป็นสว่ นใหญ่ เพรำะทำใหน้ ักเรียนได้มีปฏสิ ัมพันธร์ ่วมกบั เพ่ือนๆ ใน กำรทำงำนเป็นกลุ่ม เมื่อนักเรียนไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิงำนแลว้ นน้ั ครผู ู้สอนเนน้ ให้นกั เรียนนำปญั หำอุปสรรคท่เี กิดข้ึน ในแต่ละคร้ังมำอภิปรำยร่วมกนั ภำยในกลุม่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่ำงกลุ่มกับเพื่อนกลมุ่ อื่นๆ ได้รบั ร้ผู ่ำน กำรนำเสนองำนหน้ำชั้นเรียน และในจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แต่ละคร้ังครูผู้สอนมีกำรนำเอำเทคโนโลยีมำ ประยุกต์ใช้ เพ่ือเปดิ โอกำสใหน้ ักเรยี นไดเ้ รียนรูส้ ่งิ ใหม่ๆ หลักฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 54 หน้ำ 175-176) ๑. กจิ กรรมสวนพฤกษศำสตรโ์ รงเรยี น ๒. แบบบันทึกกิจกรรมลดเวลำเรียน ๓. ผลงำนชน้ิ งำนของนักเรียน ท้งั รำยบุคคลและรำยกลุ่ม ๔. รูปภำพประกอบ ๔.๒.๓ ครูให้เวลานักเรียนได้คิด ได้ตอบปัญหา แก้ไขปัญหา ได้สะท้อนความรู้ความ เข้าใจในวชิ าท่เี รยี น ได้นาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวนั ครูผูส้ อนมีกำรเปดิ โอกำสให้นักเรยี นได้เลอื กเรียนตำมควำมถนัดและควำมสนใจไดค้ ิด วิเครำะห์เพื่ อแก้ ปัญ หำ เพ่ื อสะท้อน ควำมรู้ควำมเข้ำใจใน รำยวิชำท่ีเรียน สำมำรถน ำควำมรู้ ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ เช่น โครงกำรสะเต็มศึกษำ กิจกรรมลดเวลำเรียน กิจกรรมกำดนัดเด็กดอย โครงกำรส่งเสริมอำชพี เพื่อกำรมงี ำนทำ ผลท่ีปรากฏ : ครูผู้สอนเปิดโอกำสให้เวลำนักเรียนได้คิดหำคำตอบ วิธีกำร เพ่ือให้นักเรียน สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรแก้ไขปัญหำท่ีเกิดข้ึน ไมว่ ่ำจะเป็นในเร่ืองของกำรเรียน หรือ ในชีวิตประจำวัน ของนกั เรยี นเอง หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 55 หน้ำ 177-180) ๑. กจิ กรรมลกู เสือ ๒. โครงงำนคณุ ธรรม ๓. กจิ กรรมส่งเสรมิ อำชพี เพ่ือกำรมรี ำยไดร้ ะหว่ำงเรยี น ๔. กจิ กรรมลดเวลำเรียน ๕. กจิ กรรมอำชพี ต่ำงๆ ๖. รูปภำพประกอบ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๗ ๔.๒.๔ ครูกระตุ้นให้นักเรียนกระตือรือร้นที่จะพัฒนาวิธีการเรียนรู้ของตนเอง และใส่ใจ ใฝเ่ รยี นรตู้ ลอดเวลา แสวงหาความร้หู รือสิง่ ที่ต้องการทราบดว้ ยความอดทน ครูผู้สอนมีกำรสร้ำงแรงกระตุ้นท่ีมีอิทธิพลต่อนักเรียน เพ่ื อให้นักเรียนเกิด ควำมกระตือรือร้นที่จะพัฒนำวิธีกำรเรียนรู้ของตนเอง ด้วยควำมใส่ใจใฝ่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลำ มีกำรแสวงหำ ควำมรูห้ รือสงิ่ ท่ีตนเองสนใจอยำ่ งพำกเพยี ร เช่น กำรไปทศั นศึกษำเรยี นรู้นอกหอ้ งเรยี น กำรสร้ำงแรงบันดำลใจ เกี่ยวกับ “โตข้ึนหนูอยำกประกอบอำชีพอะไร”ครูผู้สอนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีต่อนักเรียน เพ่ือให้นักเรียนไว้วำงใจ และกล้ำที่จะเข้ำมำพูดคุยปรึกษำในเรื่องต่ำงๆ ครูผู้สอนนำเอำกิจกรรมท่ีแปลกใหม่ท่ีนักเรียนไม่เคยได้สัมผัส หรือยังไม่เคยได้เรียน มำจัดกิจกรรมเพอื่ ให้นกั เรียนสนใจ อยำกรู้ อยำกเห็น อยำกทำ เช่น กำรให้นกั เรียนเล่น เกมเกย่ี วกับ เนือ้ หำสำระที่ตอ้ งเรียนรู้ กำรให้นักเรียนสร้ำงส่ือกำรเรียนเองและให้นำออกมำสอนเพ่ือนหน้ำช้ัน เรยี น โดยมีครูผ้สู อนเป็นทปี่ รกึ ษำและคอยเพ่มิ เติมขอ้ มูลให้นักเรียน ในกรณที ี่นักเรยี นให้ขอ้ มลู เพ่ือนๆ ไม่ครบ เปดิ โอกำสให้นกั เรยี นกลมุ่ อ่นื ๆได้สอบถำมแลกเปล่ียนเรยี นรู้ในสงิ่ ท่นี ำเสนอ ผลท่ีปรากฏ : ครูผู้สอนมีวิธีกำรกระตุ้นเพ่ือให้นักเรียนเกิดควำมกระตือรือร้นท่ีจะพัฒนำ วิธีกำรเรียนรู้ของตนเองอย่ำงหลำกหลำย ซ่ึงทำให้นักเรียนเกิดควำมใส่ใจใฝ่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลำไม่ว่ำจะเป็น รำยวิชำที่เรียนหรือเปน็ ส่งิ ที่นักเรียนอยำกรู้ นักเรยี นก็จะไปแสวงหำควำมรู้ในสิ่งท่ตี ้องกำรทรำบด้วยควำมต้งั ใจ อดทน และเม่ือนักเรียนได้ค้นพบคำตอบในส่ิงท่ีตนอยำกรู้แล้วนั้น นักเรียนก็จะนำควำมรู้ท่ีได้รับน้ัน มำ แลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพื่อนนักเรียนและในบำงคร้ังเพื่อนๆ มีกำรเสนอควำมคิดเห็น นักเรียนก็จะรับฟังส่ิงท่ี เพื่อนๆ แสดงควำมคดิ เหน็ หลักฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 56 หน้ำ 181-182) ๑. กจิ กรรมแนะแนวอำชพี ๒. แบบบนั ทึกกำรแนะแนวเขำ้ ศกึ ษำเรียนตอ่ ๓. รำยงำนกำรใชส้ ่ือ ๔. ทะเบยี นแหลง่ เรียนรู้ ๕. ทะเบียนกำรใช้ห้องปฏิบัตกิ ำร ๖. รูปภำพประกอบ ๔.๒.๕ ครูจัดกิจกรรมท่ีให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีตอ่ กัน และปลูกฝังให้นักเรยี นยอมรับ ความแตกของผอู้ ืน่ ดว้ ยความเข้าใจ ครูผู้สอนมีกำรนำส่ือและแหล่งเรียนรู้ที่มีอย่ำงหลำกหลำยภำยในโรงเรียน มำใช้ใน กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ทั้งแหล่งกำรเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่ำ แหล่งกำรเรียนรู้อำชีพเกษตรกรรม คหกรรม อุตสำหกรรม และพำณิชยกรรม เช่น กำรจัดกิจกรรมเรียนรู้กำรปลูกผัก กิจกรรมเรียนรู้กำรเลี้ยงไส้เดือนดิน กิจกรรมกำรเรียนรู้กำรทำขนม กิจกรรมกำรเรียนรู้งำนผ้ำ กิจกรรมเรยี นรู้งำนเช่ือมเหล็ก กิจกรรมเรียนรู้กำร นวดแผนไทย กิจกรรมกำรเสริมสวย กิจกรรมกำรเรียนรู้วิถีชนเผำ่ ปะกำเกอญอ ม้ง ละว้ำ และคน เมือง โครงงำนคุณธรรม เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้มีกำรทำงำน ทำกิจกรรมร่วมกับเพ่ือนและครูผู้สอน ซึ่งใน กำรทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียน ทำให้เกิดควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่ำงเพื่อนร่วมห้องและครูผู้สอน ใน กำรจัดกิจกรรมต่ำงๆนั้น ครูผู้สอนมีกำรส่งเสริมให้นักเรียนได้มีโอกำสแลกเปล่ียนแสดงควำมคิดเห็น และ ปลกู ฝังใหน้ ักเรยี นยอมรับฟงั ควำมคดิ เห็นทแี่ ตกตำ่ งของผอู้ ่นื ด้วยควำมเขำ้ ใจ ผลที่ปรากฏ : ครูผู้สอนจัดกิจกรรมท่ีใหน้ กั เรยี นมปี ฏสิ มั พนั ธ์ท่ดี ีต่อกนั และปลูกฝังให้นกั เรียน ยอมรับควำมแตกของผู้อนื่ ดว้ ยควำมเข้ำใจ ซ่ึงจำกกำรจดั กิจกรรมดงั กล่ำวนน้ั ทำให้นกั เรียนเกิดควำมรักผกู พัน ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๘ กบั เพ่อื นๆ พ่ีๆ น้องๆ ในโรงเรยี น เกิดควำมสำมัคคีกันในหม่คู ณะ นกั เรียนยอมรับ ควำมคิดเห็นท่แี ตกตำ่ งของ ผอู้ ่ืนได้ หลกั ฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 57 หน้ำ 183-184) ๑. ทะเบยี นแหลง่ เรียนรู้ ๒. แผนกำรจัดกำรเรยี นรแู้ บบบูรณำกำร ๓. แบบบนั ทึกทักษะกำรดำรงชีวติ ๔. รูปภำพประกอบ ๔.๒.๖ ครูบรู ณาการการเรยี นรู้วชิ าที่ตนสอนกบั ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ อ่นื ไดอ้ ยา่ งกลมกลนื โดยใช้เวลาเรียนนอ้ ยกว่าเดิมแต่นักเรียนเรียนรู้ได้มากข้นึ ครูผู้สอนมีกำรบูรณำกำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำท่ีสอนให้มีควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภูมิ ปญั ญำท้องถ่นิ และสำระกำรเรียนรู้อ่ืนๆ ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ อำทิ กำรส่งเสริมให้นักเรียนเข้ำร่วมกิจกรรม ของชุมชน กิจกรรมป้ออุ้ยแม่อุย้ สอนหลำน ประเพณีตำนก๋วยสลำก ประเพณี ถวำยเทียนเนอ่ื งในวันเข้ำพรรษำ ชุมนมุ ตกี ลองสะบัดชยั กิจกรรมเปิดดอยกอยบ้ำนรำชประชำ ๓๑ ผลทป่ี รากฏ : ครผู ู้สอนไดม้ ีกำรบูรณำกำรกำรเรยี นรู้วชิ ำที่ตนสอน ใหส้ อดคลอ้ ง และกลมกลืน กับภูมิปัญญำท้องถิ่น โดยใช้เวลำเรียนน้อยกว่ำเดิมแต่นักเรียนเรียนรู้ได้มำกข้ึน ซ่ึงในกำรบูรณำกำรจัดกำร เรียนรู้ดังกล่ำว ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ในวิชำเรียนไปพร้อมกับกำรเรียนรู้เก่ียวกับเร่ืองของภูมิปัญญำท้องถิ่น นักเรียนได้เรียนรู้ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่ำ มีกำรแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่ำ และสง่ิ สำคญั คอื ทำใหค้ รูผู้สอนและนักเรยี นสำมำรถปรับตัวและอยรู่ ว่ มกนั ได้อย่ำงมคี วำมสุข หลกั ฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 58 หนำ้ 185) ๑. รูปภำพประกอบ ๔.๒.๗ ครูจัดการสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรียน เพ่ิมพูน ศกั ยภาพนกั เรียนท่มี ีความสามารถพเิ ศษ ดูแลใหน้ ักเรยี นเรียนรตู้ ามศกั ยภาพได้ทั่วถึง ครูผู้สอนมีกำรสอนซ่อมเสริมให้นักเรียนท่ีมีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ ในทุกๆ เยน็ วันจนั ทร์ ถึง วนั ศกุ ร์ เพื่อให้นักเรียนท่ีมีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนร้ไู ด้มีกำรพัฒนำศักยภำพของตนให้ดี ข้นึ อีกท้ังครูผสู้ อนยังสง่ เสรมิ นกั เรียนทม่ี คี วำมสำมำรถพิเศษไดแ้ สดงศกั ยภำพของตน ในกำรแข่งขันทักษะดำ้ น วชิ ำกำร ดำ้ นกีฬำ ด้ำนศลิ ปวฒั นธรรมและด้ำนอำชพี ตำ่ งๆ ผลที่ปรากฏ : ครูผสู้ อนมีควำมเสียสละเวลำนอกรำชกำรในกำรสอนซ่อมเสริมให้กับนักเรียนที่ มปี ญั หำทำงกำรเรียนรู้ และนกั เรียนทีเ่ รยี นไม่ทนั เพ่อื น ซึง่ จำกกำรทำกจิ กรรมกำรสอนซอ่ มเสริมของครูในช่วง เย็นหลังเลิกงำนนั้น ทำให้นักเรียนที่มีควำมบกพร่องดังกล่ำว มีพัฒนำกำรท่ีดีขึ้น กล่ำวคือ นักเรียนท่ีอ่ำน หนงั สือไม่ออก ก็สำมำรถอำ่ นหนงั สือออก นกั เรียนที่อ่ำนหนงั สือไม่คลอ่ งกส็ ำมำรถอำ่ นหนงั สือไดค้ ลอ่ งมำกขึ้น ในส่วนของนักเรียนท่ีมีควำมสำมำรถพิเศษนน้ั ครผู ู้สอนได้มีกำรส่งเสริมควำมสำมำรถของนักเรยี นดังกล่ำวโดย กำรนำนักเรียนไปแข่งขันควำมสำมำรถต่ำงๆ ทำให้นักเรียนนนั้ กล้ำแสดงออก และมกี ำรพัฒนำควำมสำมำรถ ของตนใหด้ ีขน้ึ และได้รบั รำงวัลจำกกำรแข่งขันตำ่ งๆ หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 59 หนำ้ 186-187) ๑. เกียรติบตั รนักเรยี น และครผู ู้ฝึกสอน ๒. แบบบนั ทกึ กำรสอนซอ่ มเสริม ๓. รปู ภำพประกอบ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๙ ๔.๒.๘ ครูจัดการชั้นเรียนที่ช่วยให้นักเรยี นสนใจเรียน เป็นประโยชน์ของการเรียนต้ังใจ เรียนเต็มทแ่ี ละเรียนอย่างมคี วามสขุ ครูผู้สอน มีก ำรจัดกำรชั้น เรียน โดยก ำรจัดสภ ำพ แวดล้อมใน ห้อ งเรี ยน ใหเ้ หมำะสมนักเรียน ตกแตง่ ห้องเรยี นให้สวยงำม มีส่อื ICT ในกำรจัดกำรเรียนรู้ หอ้ งเรียนสะอำด ปลอดภยั มี อำกำศถ่ำยเทสะดวก สะดวกในกำรทำกิจกรรมต่ำงๆ มีมุมประสบกำรณ์ต่ำงๆ เพ่ือให้นักเรียนรสู้ ึกอยำกที่จะ เรยี น และมีควำมสุขในกำรเรียน ผลที่ปรากฏ : ครผู ู้สอนมีกำรจัดบรรยำกำศในหอ้ งเรียนท่ีสวยงำม สะอำด ปลอดภัย มีสอื่ ICT ประกอบกำรจดั กิจกรรมกำรสอน สะดวกในกำรทำกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน ซึ่งจำกกำรทีค่ รผู ูส้ อนทำกำรจัด ช้ันเรียนท่ีน่ำสนใจน้ี ทำให้นักเรียนมีควำมสนใจ กระตือรือรน้ อยำกท่ีจะเรียนในรำยวิชำน้ันๆ และนักเรียนมี ควำมสุขท่ีได้เรยี น หลกั ฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 60 หน้ำ 188) ๑. รปู ภำพประกอบ ๔.๓ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินกำรวัดและประเมินผลตำมหลักสูตร กำรศึกษำ ขั้นพ้ืนฐำน คือ เพ่ือนำผลกำรประเมินไปพัฒนำผู้เรียนให้บรรลุมำตรฐำนกำรเรียนรู้ของกลุ่มสำระกำร เรียนรู้ต่ำงๆ โดยนำผลกำรประเมินไปใช้เพื่อกำรปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมกำรเรียนรู้และพัฒนำกำรของผู้เรียน โดยตรงและนำผลปรับปรุงแก้ไขกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ให้มีประสิทธิภำพยิ่งข้ึนซึ่งมีรำยละเอียด แต่ละ ตวั ชี้วดั ดงั น้ี ๔.๓.๑ ครวู ัดและประเมินผลการเรียนรู้โดยเน้นการประเมินเพื่อพัฒนานักเรียนเป็นหลัก ในระหวา่ งเรียน และให้นักเรยี นมีการประเมินตนเอง ในด้ำนกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียนทุกปีกำรศึกษำ ซึ่งได้ข้อมูล ครอบคลมุ ทกุ กลุ่มเป้ำหมำย พรอ้ มไดร้ วบรวมข้อมูล สรุปผลกำรสำรวจนำมำวเิ ครำะห์ ประมวลผล เพื่อนำมำ ปรบั ปรงุ พฒั นำทศิ ทำงในกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ ซึง่ ผู้ปกครองทุกคนตอ้ งกำรใหล้ ูกตนเอง เรียนด้ำนวิชำชพี ท่สี อดคล้องกบั วิชำชพี ของบรรพบุรุษ เพื่อใหน้ กั เรยี นมคี วำมรสู้ ำหรับกำรดำรงตนในอนำคต ผลท่ีปรากฏ : มหี ลักฐำนกำรสำรวจควำมตอ้ งกำรของผู้ปกครองและชุมชนในกำรพัฒนำคุณภำพ สถำนศึกษำทุกปีกำรศึกษำ ตำมสภำพกำรที่เปลี่ยนแปลง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้ำหมำยแต่ละปี มีกำรสรุปผล ชัดเจนและนำผลไปใช้ ทีเ่ น้นกำรมีส่วนร่วมอย่ำงแท้จริง ส่งผลให้กำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำสอดคลอ้ งกับ ควำมต้องกำรของผปู้ กครองและชุมชน หลักฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 61 หนำ้ 189) ๑. แผนจดั กำรเรียนรู้ ๒. โครงสร้ำงรำยวิชำ ๓. รำยงำนกำรประชุมคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ ๔. ภำพกจิ กรรมนักเรียน / สภำพจริง ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๐ ๔.๓.๒ ครูวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยวิธีการและเครื่องมือประเมินท่ี หลากหลาย เช่น การถามตอบขณะสอน การทดสอบย่อย การให้ทารายงาน การนาเสนองาน การทา โครงงาน การผลิตช้ินงาน เป็นตน้ สอดคล้องกบั มาตรฐานและตวั ชีว้ ัดของรายวิชาท่ีสอนครอบคลุมทงั้ ด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกำรกิจกรรม โครงกำรที่หลำกหลำย มุ่งเน้นให้นักเรียนมีควำมรู้ทักษะทำงด้ำนควำมรู้ทำงด้ำนวิชำกำร และเจตคติ มีกำร จัดกำรเรยี นรทู้ ี่หลำกหลำยเพอื่ ให้ผ้เู รยี นเกดิ องคค์ วำมรู้และคลอบคลุมควำมรู้ทกั ษะทำงด้ำนวชิ ำกำร ผลที่ปรากฏ : ผู้เรียนเกิดองคค์ วำมรู้ กำรและมีทักษะทำงดำ้ นวิชำกำร และทักษะอำชีพ กำร นำเสนอผลงำน กำรจดั ทำโครงงำน ดำ้ นวิชำกำรและวชิ ำชีพ หลักฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 62 หนำ้ 190) ๑. โครงงำนวิชำกำร รำยงำนผลกำรดำเนินงำนโครงกำรของสถำนศกึ ษำ ๒. ผลงำน / ชน้ิ งำนของนักเรยี น ๓. แบบทดสอบ / ข้อสอบ ๔.๓.๓ ครตู รวจสอบความรู้พืน้ ฐานของนักเรยี นกอ่ นเรมิ่ หน่วย/บทเรียนใหม่ และประเมิน เม่ือจบหน่วย/บทเรียนรวมท้ังให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนและปรับปรุงแก้ไขทันที มีการตรวจสอบ นกั เรียนเปน็ ระยะๆ ว่านกั เรยี นทุกคนเขา้ ใจสิ่งที่ครูสอน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ครูผู้สอนให้นักเรียนทำ แบบทดสอบควำมรูก้ อ่ นเรียน – หลังเรียน เพื่อวัดควำมรูพ้ น้ื ฐำนของนกั เรียนในกระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ เพ่ือ นำผลกำรทดสอบไปปรบั ปรงุ และพฒั นำ กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนของครูและผเู้ รยี น ผลที่ปรากฏ : กำรทดสอบควำมรู้พ้ืนฐำนของนักเรียน ก่อนและหลังกำรประเมินผลกำร เรียนรู้ เกดิ ผลชัดเจนนักเรียนเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงรวดเร็ว เป็นบุคคลแห่งกำรเรียนรู้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ผ่ำนเกณฑ์ กำรประเมนิ เม่ือจบแตล่ ะบทเรียนของทกุ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 63 หนำ้ 191) ๑. แบบทดสอบควำมรู้พน้ื ฐำนนักเรยี น ก่อนเรียน – หลังเรยี น ๒. แบบฝกึ ทักษะกำรเรยี นรู้ของผเู้ รยี น ๔.๓.๔ ครูนาข้อมลู การวดั และประเมนิ ผลมาปรับปรงุ การสอนของครู และแก้ไพฒั นาการ เรียนรู้ของนักเรียนอยา่ งต่อเน่อื ง โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีกำรวัดและประเมินผล และ ปรับปรุง พัฒนำกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู โดยยกระดับผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของผู้เรียนและแก้ไข ปญั หำเพ่อื นำไปพัฒนำองค์ควำมรู้ของนักเรยี นใหเ้ กิดทกั ษะ ควำมรู้ ในด้ำนตำ่ ง ๆ ผลทีป่ รากฏ : ผู้เรียนเกิดผลทช่ี ัดเจนนักเรียนเกดิ กำรเรยี นรู้อย่ำงรวดเร็ว เป็นบุคคลแห่งกำร เรียนรู้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ผ่ำนเกณฑ์กำรเรียนทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ และมีผลกำรสอบทำงกำรศึกษำระดับข้ัน พื้นฐำน (O-NET) หลักฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 63 หนำ้ 191) ๑. โครงกำรยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน ๒. โครงกำรเสรมิ ทกั ษะกำรอ่ำนและกำรเขยี นภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย กิจกรรมอำ่ นออก เขยี นได้ ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่ือรบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๒๑ ๔.๓.๕ ครูตัดสินผลการเรียนของนักเรียนตามระเบียบท่ีสถานศึกษากาหนดใช้ข้อมูลจาก หลายแหล่งหรือหลายชิ้นงานท่ีสะท้อนพัฒนาการของนักเรียนมีเกณฑอ์ ธิบายระดับผลการเรียนที่ชดั เจนมี การปรบั เกณฑท์ ่ที า้ ทายความสามารถของนักเรียน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ มีกำรวัดและประเมินผลกำรตัดสินผลกำรเรียนรู้ของ นักเรียน ทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ มีเกณฑ์กำรวัดและประเมินผลท่ีหลำกหลำย เพื่อสะท้อนพัฒนำกำรเรียนรู้ของ นักเรียน โดยคำนึงควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล ผลท่ีปรากฏ : โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่มีกำรตัดสินผลกำรเรียนรู้ ของผู้เรียนที่สะท้อนพัฒนำกำรของนักเรยี น มีกำรประเมินระดับผลกำรเรียนท่ีถูกต้อง ชัดเจน ตำมระเบียบท่ี สถำนศกึ ษำกำหนด หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 64 หนำ้ 192) ๑. ระเบยี นแสดงผลกำรเรยี น (ปพ.๑) ๒. ระเบยี บกำรวดั และประเมินผลกำรเรยี น ๓. เกณฑก์ ำรวัดและประเมนิ ผล ๔. รำยงำนสรุปผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นของผเู้ รยี น ๔.๔ การนาผลการประเมนิ ไปใช้ ๔.๔.๑ ครวู ิเคราะห์ขอ้ มูลผลการประเมินของนักเรยี นเปน็ รายคน และวิเคราะหเ์ ป็นราย กลุ่มเปา้ หมาย แสดงแนวโนม้ พัฒนาการของนักเรียน กำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ กระบวนกำรวัดและประเมินผลเป็น กระบวนกำรสำคัญท่ีมีส่วนเสริมสร้ำงควำมสำเร็จให้กับนักเรียน และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนกำรจัดกำร เรยี นรู้ กำรประเมินผลจำเป็นต้องมีลักษณะที่สอดคล้องกัน กำรประเมินผลเป็นกระบวนกำรที่ช่วยให้ครูผู้สอน ได้ข้อมูลที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ในกำรปรับปรุงกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ นักเรียน เป็นเครื่องมือตัดสิน ผลกำรเรียนรู้ที่เกิดข้ึนกับนักเรียน โดยมีรูปแบบกำรวัดและประเมินผลที่ หลำกหลำย ท้ังแบบทดสอบ แบบสังเกต ภำระงำนช้ินงำนผลงำนของนักเรียนท่ีเกิดขึ้นจำกกำรเรียนรู้ และ นอกเหนือจำกนั้นกระบวนกำรท่ีใช้วัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมกำรเรียนรู้ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ท่ีต้องกำรให้เกิดขึ้นจริงกับตัวของนักเรียน ซ่ึงผู้รู้ในวงกำรศึกษำได้ยอมรับกันว่ำ แนวคิดในกำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรูท้ ่ีเหมำะสม คือ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนตำม สภำพจริง กำรวัดและประเมินผลตำมสภำพจริง เป็นกำรประเมินกำรแสดงออกของนักเรียน รอบด้ำนตลอดเวลำ ใชข้ ้อมลู และวธิ ีกำรหลำกหลำย ด้วยวิธกี ำรและเครื่องมือ ครูผู้สอนตอ้ งศกึ ษำวตั ถปุ ระสงค์ ของกำรประเมิน เป็นกำรประเมินเพื่อพัฒนำนักเรียนรอบด้ำน ดังนั้น จึงใช้วิธีกำรท่ีหลำกหลำย ขึ้นอยู่กับ ตัวช้ีวัด/ผลกำรเรียนรู้ เช่น กำรสังเกต สัมภำษณ์ กำรตรวจผลงำนกำรทดสอบบันทึกจำกผู้เก่ียวข้องกำร รำยงำนตนเองของนักเรียน แฟ้มสะสมงำน เป็นต้น กำหนดเคร่ืองมือในกำรประเมินให้เป็นกำรประเมิน พัฒนำกำรของนักเรียนรอบด้ำนตำมสภำพจริง ด้วยเคร่ืองมือท่ีหลำกหลำย เช่น กำรบันทึกข้อมูล จำก กำรศึกษำ ผลงำน โครงงำน หนังสือที่นักเรียนผลิต แบบบันทึกต่ำงๆ ได้แก่ แบบบันทึกควำมรู้สึก บันทึก ควำมคิด บันทึกของผู้เก่ียวข้อง (เพ่ือน/ผู้ปกครอง) หลักฐำนร่องรอยหรือผลงำนจำกกำรร่วมกิจกรรม แบบ สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในกำรร่วมกิจกรรมในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ แบบสัมภำษณ์ควำมรู้สึก ควำมคิดเห็น ทั้งตัวนักเรียนและผู้เก่ียวข้อง แฟ้มสะสมงำน เป็นส่ือท่ีรวบรวมผลงำนหรือตัวอย่ำงหรือหลักฐำนท่ีแสดงถึง ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๒ ผลสัมฤทธิ์ ควำมสำมำรถ ควำมพยำยำมหรือควำมถนัดของบุคคลหรือประเด็นสำคัญที่ต้องเก็บไว้อย่ำงเป็น ระบบ แบบทดสอบเป็นเคร่ืองมือวดั ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจที่ยงั คงมีควำมสำคัญต่อกำรประเมินสำหรับผู้ประเมิน ประกอบด้วย นักเรียนประเมินตนเอง ครูผู้สอน เพ่ือน กลุ่มเพื่อนและผู้ปกครอง เพ่ือให้ครูผู้สอนนำผลกำร วเิ ครำะห์ไปปรับแผนกำรจัดกำรเรียนรอู้ ย่ำงเป็นรูปธรรม ผลสมั ฤทธขิ์ องนกั เรยี นเพิ่มข้ึน ๔.๔.๒ ครูนาผลการวเิ คราะห์ไปปรับแผนการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเป็นรปู ธรรม ผลสมั ฤทธิ์ ของนกั เรียนเพ่ิมขึน้ เกิดนวตั กรรมการเรียนรู้ เช่น การวิจยั ในชัน้ เรียน นวัตกรรม สื่อและเทคนิคการสอน การนาแนวคดิ การประเมนิ ผลนกั เรียนตามสภาพจริงไปใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ บทบำทในฐำนะครูผู้สอน ผู้รับผิดชอบในกำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อพัฒนำนักเรียนแต่ละคนให้ เต็มตำมศักยภำพ ครูมีบทบำททสี่ ำคญั ดังนี้ กำรเตรยี มกำรสอน ครคู วรเตรียมกำรสอนโดยวิเครำะห์ขอ้ มูลของ นักเรียน เพ่ือจัดกลุ่มนักเรียนตำมควำมรู้ควำมสำมำรถ และเพื่อกำหนดเรื่องหรือเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้ วิเครำะห์หลักสูตร เพ่ือเชื่อมโยงกับผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล โดยเฉพำะกำรกำหนดเร่ืองหรือเนื้อหำสำระในกำร เรยี นรู้ ตลอดจนวตั ถปุ ระสงคส์ ำคญั ท่ีจะนำไปสู่กำรพฒั นำนกั เรียนสู่ควำมเป็นสำกล เตรียมแหล่งเรียนรู้ เตรยี ม ห้องเรียน วำงแผนกำรจัดกิจกรรมกำรกำรเรยี นรู้ ใหค้ รอบคลุม เรื่อง/เนื้อหำสำระที่ต้องสอดคลองกบั ตัวชว้ี ัด/ ผลกำรเรียนรู้ให้ชัดเจน กำหนดเน้ือหำ ครูควรมีรำยละเอียดพอท่ีจะเติมเต็มนักเรียนได้ ตลอดจนมีควำมรู้ใน เน้ือหำของศำสตรน์ ้ันๆ กำหนดกิจกรรม เนน้ กิจกรรมที่นกั เรียนได้คดิ และลงมือปฏิบตั ิ ไดศ้ ึกษำขอ้ มลู จำกแหล่ง เรยี นร้ทู ี่หลำกหลำย นำข้อมูลหรือควำมรู้น้ันมำสังเครำะห์เป็นควำมรู้หรือเปน็ ข้อสรุปของตนเอง ผลงำนทเี่ กิด จำกกำรเรียนรู้ของนักเรียนอำจมีควำมหลำกหลำยตำมควำมสำมำรถ ถึงแม้จะเรียนรู้จำกแผนกำรเรียนรู้ เดียวกัน กำหนดวธิ ีกำรประเมนิ ท่ีสอดคล้องกับตวั ช้ีวัด/ผลกำรเรียนรู้ มีสอ่ื ที่ทันสมยั วสั ดอุ ุปกรณ์และเคร่อื งมือ ประเมินที่หลำกหลำย กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ครูผสู้ อนมกี ำรสร้ำงบรรยำกำศทเี่ ออ้ื ต่อกำรเรียนรู้ กระตุ้นให้ นักเรยี นรว่ มกิจกรรม จัดกิจกรรมหรอื ดแู ลให้กิจกรรมดำเนินไปตำมแผนและตอ้ งคอยสังเกต บนั ทกึ พฤติกรรมท่ี ปรำกฏของนักเรียนแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม เพ่ือสำมำรถปรับเปล่ียนกิจกรรมให้มีควำมเหมำะสม มีกำร เสรมิ แรง หรอื ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับ ให้ข้อสังเกต ประเมินผลกำรเรยี น เปน็ กำรเก็บรวบรวมผลงำนและประเมินผล งำนของนักเรยี นประเมินผลกำรเรียนรตู้ ำมทก่ี ำหนดไว้ กำรวดั และประเมินผลนักเรียนตำมสภำพจริง กำรวัดและประเมินผลเป็นส่วนสำคญั ของกำร จัดกำรเรียนรู้ ดังนนั้ เมื่อกำรจัดกำรเรียนรูต้ ำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรศึกษำแหง่ ชำติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ม่งุ ให้นักเรยี นแต่ ละคนได้พัฒนำเต็มศักยภำพ กำรวัดและประเมินผลจึงต้องปรับเปลี่ยนไป ให้มีลักษณะเป็นกำรประเมินผลท่ี เนน้ นักเรยี นเป็นสำคัญ และประเมนิ ผลตำมสภำพจริงด้วยประเมินตำมสภำพจรงิ ของนักเรียน มีลักษณะสำคัญ คือ เน้นกำรประเมินที่ดำเนินกำรไปพร้อม ๆ กับกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ซึ่งสำมำรถทำได้ตลอดเวลำ ทุก สภำพกำรณ์ เน้นกำรประเมินที่ยึดพฤติกรรมกำรแสดงออกของนักเรียนจริงๆ เน้นกำรพัฒนำจุดเด่นของ นักเรียน ใช้ข้อมูลท่ีหลำกหลำย ด้วยเคร่ืองมือท่ีหลำกหลำยและสอดคล้องกับวิธีกำรประเมินตลอดจน จุดประสงค์ในกำรประเมิน เน้นคุณภำพผลงำนของนักเรียนท่ีเกิดจำกกำรบูรณำกำรควำมรู้ควำมสำมำรถ หลำยๆ ด้ำนกำรประเมินด้ำนควำมคิด เน้นควำมคิดเชิงวิเครำะห์ สังเครำะห์ เน้นให้นักเรียนประเมินตนเอง และกำรมีสว่ นร่วมในกำรประเมนิ ของนักเรียนผูป้ กครองและผสู้ อน ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๓ ๔.๔.๓ ครูแจ้งผลการประเมินของนักเรียนอย่างสร้างสรรค์ นักเรียนใช้ข้อมูลนั้นปรับ วธิ กี ารเรยี นรูข้ องตนเองได้เตม็ ศกั ยภาพ ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แตล่ ะครั้ง ครผู ู้สอนต้องกำหนดเกณฑ์ กำรประเมินผล ซึ่งควรให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกำรกำหนดกฎเกณฑ์ดังกล่ำวด้วยและควรแจ้งให้นักเรียนทรำบล่วงหน้ำถึง วิธีกำรและเกณฑ์ในกำรประเมิน โดยหัวใจของกำรประเมินผลควรมีลักษณะของเกณฑ์ที่เช่ือมโยงกับตัวช้ีวัด/ ผลกำรเรยี นรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้นั ๆ มกี ำรอธบิ ำยลักษณะชิ้นงำนหรอื ภำระงำนท่ีท่คี ำดหวังต้องกำร ให้เกิดนักเรยี นอย่ำชดั เจน รวมอยู่ในกระบวนกำรเรยี นรู้และกจิ กรรมกำรเรียนรู้ มีคำอธิบำยคุณภำพงำนที่ชัด เชนและบ่งบอกคุณภำพงำนในแต่ละระดับ ครผู ู้สอนต้องแจ้งผลกำรประเมินทุกครั้งใหน้ ักเรยี นทรำบถึงจดุ เด่น จุดด้อย จุดทีค่ วรปรบั ปรุงของตนเอง เพื่อใหน้ ักเรยี นไดม้ ีโอกำสในกำรปรบั ปรุง แก้ไข ปรบั เปลีย่ นจุดบกพร่อง ตนเองในคร้ังต่อไป ครูผู้สอนต้องนำผลกำรประเมินมำใช้ในกำรปรับปรุงกำรจัดกิจกรรมเรียนรู้ ในส่วนที่เกิด จำกตัวของครูผสู้ อนเอง ซ่ึงสะท้อนได้จำกผลของกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ในรูปแบบของกำรบันทึกหลังกำร จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ หรืออำจทำในรูปแบบของวิจัยในชั้นเรียน ที่มีกำรสร้ำงจัดซ้ือ จัดหำให้สอดกับควำม แตกต่ำงระหว่ำงของแต่ละคน หรือกำรปฏิบัติงำนร่วมกันในแต่ละกลุ่มหรือท้ังชั้น กำรแจ้งผลกำรประเมินทุก ด้ำนเก่ียวกับกระบวนกำรเรียนรู้ พฤติกรรมและพัฒนำกำรของนักเรียน เพ่ือเปรียบเทียบและเคียงไปสู่ มำตรฐำนให้นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนทรำบเป็นระยะ กำรนำผลกำรประเมินเป็นข้อมูลประกอบในกำร ปรับปรุงหลักสูตร กำรประเมินผลงำนที่ได้รับจำกกำรปฏิบัติงำน/ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริง ทั้งรำยบุคคลและ รำยกลุ่ม ครูจะต้องกำหนดแนวกำรให้คะแนน เพ่ือตรวจสอบว่ำนักเรยี นมีควำมรูอ้ ะไรและสำมำรถทำ/ปฏิบัติ อะไรๆบำ้ ง ตำมท่ีมำตรฐำนกำรเรยี นร้กู ำหนดไว้แตล่ ะหนว่ ยกำรเรียนรู้ ๔.๔.๔ ครูรายงานผลการเรยี นและความกา้ วหน้าของนกั เรยี น ให้ผู้ปกครองทราบอยา่ ง เป็นระบบดาเนินการตอ่ เนื่อง และรบั ฟงั ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติมจากผปู้ กครองของนกั เรยี น กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรวัดและกำรประเมินผลเป็นสิ่งท่ีต้องดำเนินกำร อย่ำงสอดคล้องกัน ถ้ำต้องกำรให้นักเรียนเรียนรู้ตำมสภำพจริง ครูผู้สอนต้องสอนและประเมินตำมสภำพจริง กำรจัดกำรเรียนร้ตู ำมสภำพจริงต้องมีเหตุกำรณ์ สถำนกำรณ์ตัวอย่ำง มวลประสบกำรณ์และส่ือประกอบกำร เรียนรู้ท่ีมีอยู่ในบริบทของควำมเป็นจริง นักเรียนต้องมีปฏิสัมพันธ์แลกเปล่ียนเรียนรู้ต่อกันระหว่ำงเพ่ือน นกั เรียนเองและกับครูผู้สอน ส่อื ต่ำงๆท่ีใช้ประกอบกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ต้องเอ้ือให้เกิดกำรลงมอื กระทำ ได้มีพฒั นำทักษะกระบวนกำรคดิ ในรูปแบบทหี่ ลำกหลำย โดยเนน้ ใหน้ ักเรียนเป็นศูนย์กลำง จำกกำรใช้วิธีสอน แบบตำ่ งๆ ไดแ้ ก่ กำรสอนแบบโครงงำน กำรสอนโดยใชก้ จิ กรรมกำรทดลอง กำรอภิปรำยกล่มุ ย่อย กำรเรียนรู้ แบบเพ่ือนช่วยเพื่อน กำรเรียนแบบผลัดกันสอน กำรสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ฯลฯ ครูผู้สอนจะต้องแสดง บทบำทให้เหมำะสมเพ่ือเอ้ือให้นักเรียนได้เรียนรู้ตำมควำมถนัด ควำมสนใจและควำมสำมำรถโดยมีเร่ืองหรือ หัวข้อท่ีเรียน ในลักษณะของกำรบูรณำกำรเน้ือหำให้สัมพันธ์กับชีวิตจริง นักเรียนได้มีโอกำสลงมือปฏิบัติจริง ครูผู้สอนจะต้องประเมินนักเรยี นโดยดจู ำกควำมก้ำวหน้ำของกำรเรียนรู้ เพื่อกำกบั ติดตำมและแกไ้ ข ปรับปรุง ท้งั กำรเรียนรู้ให้นกั เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ย่ำงแท้จริง โดยใหผ้ ู้ปกครองมสี ่วนรับรแู้ ละร่วมประเมนิ นักเรียน และรับฟัง ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมจำกผู้ปกครองของนักเรียนโดยครูท่ีปรึกษำ ครูหอนอนรำยงำนผลกำรเรียนและ ควำมก้ำวหน้ำของนักเรียน ให้ผู้ปกครองทรำบ ในกำรประชุมผู้ปกครองเป็นประจำทุกภำคเรียน และในส่วน ของกจิ กรรมกำรเย่ียมบ้ำนเป็นประจำทกุ ปี โดยมีกำรดำเนนิ กำรอยำ่ งตอ่ เนื่อง ผลทีป่ รากฏ : มีหลักฐำนกำรสำรวจควำมต้องกำรของผู้ปกครองและชุมชนในกำรพฒั นำคุณภำพ สถำนศกึ ษำทกุ ปกี ำรศึกษำ ตำมสภำพกำรท่ีเปลีย่ นแปลง ครอบคลุมทกุ กลุ่มเปำ้ หมำยแต่ละปี มกี ำรสรปุ ผล ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๔ ชดั เจนและนำผลไปใช้ ทีเ่ น้นกำรมีส่วนรว่ มอยำ่ งแทจ้ รงิ สง่ ผลให้กำรพฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำสอดคล้อง กับควำมตอ้ งกำรของนักเรียน ผปู้ กครองและชมุ ชน หลกั ฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 65 หนำ้ 193-196) ๑. รำยงำนกำรประชุมผปู้ กครอง ๒. รำยงำนกำรเยีย่ มบำ้ น ๓. รำยงำนกำรประชุมชน้ั เรยี น ๔. รำยงำนกำรประเมินตนเองของครูผสู้ อน SAR ๕. รำยงำนวจิ ยั ในชน้ั เรียนของครู ๖. ภำพกจิ กรรมนกั เรยี น/สภำพจริง ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: