Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รร.พระราชทานฯ61 ด้านที่ 2

รร.พระราชทานฯ61 ด้านที่ 2

Published by Siriporn Na, 2019-03-22 00:23:25

Description: รร.พระราชทานฯ61 ด้านที่ 2

Search

Read the Text Version

ห น้ า | ก คำนำ เอกสารรายงานการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ฉบับนี้ จัดทาขึ้นเพื่อ เสนอต่อคณะกรรมการประเมินฯสาหรับใช้ประกอบการประเมินและ พจิ ารณาคัดเลือกสถานศึกษาพระราชทาน ระดบั มธั ยมศกึ ษา ประเภทมธั ยมศึกษาขนาดกลาง ประจาปกี ารศึกษา 25๖๑ เอกสารรายงานการพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษาประกอบดว้ ย ประวัตโิ รงเรยี น สถานภาพ ปัจจบุ ัน ผลงาน ตามรายการประเมิน และตวั ช้ีวดั ทัง้ ๕ ดา้ น อันไดแ้ ก่ ดา้ นที่ 1 คุณภาพนักเรียน ด้านที่ 2 การบริหารหลักสตู รและงานวชิ าการ ดา้ นที่ ๓ การบรหิ ารและการจดั การศึกษา ดา้ นที่ 4 การจัดการเรยี นรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้านท่ี ๕ ความดีเด่นของสถานศึกษา ซึ่งเอกสารฉบับน้ีเป็นผลการดาเนินการพัฒนา ด้านที่ 2 การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ ซ่ึงประกอบดว้ ย การพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา การจัดกิจกรรมเสรมิ หลักสูตร สือ่ เทคโนโลยีเพ่ือการเรียนรู้ และ แหลง่ เรยี นรู้ รวมถึงระบบการวดั ผลประเมนิ ผลของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการประเมินฯเพื่อใช้ ประกอบการพจิ ารณาข้อมูลและผลงานของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ 31 สิงหาคม 2561 ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

สำรบัญ ห น้ า | ข เรอื่ ง คานา หนา้ สารบญั ก ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลพนื้ ฐานของสถานศึกษา ข ๑ 1. ข้อมูลทวั่ ไป ๑ 2. ข้อมูลผู้บริหาร 5 3. ขอ้ มลู นักเรยี น ๖ 4. ขอ้ มลู บคุ ลากร 6 ตอนที่ ๒ ผลการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ๘ ๑๒ ๒.๑ การพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษา ๑๕ ๒.๒ การจัดกิจกรรมเสริมหลกั สตู ร ๑๙ ๒.๓ สอ่ื เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และแหล่งเรยี นรู้ ๒๒ ๒.๔ ระบบการวัดและประเมินผล ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๑ ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลพื้นฐานของสถานศกึ ษา ๑. ข้อมลู ทว่ั ไป ๑.๑ ชอ่ื สถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ ที่ตั้ง : เลขท่ี ๙๙ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ โทร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ โทรสาร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ E-mail : [email protected] Website : www.rpk๓๑school.ac.th สงั กัด สำนกั บรหิ ำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน กระทรวงศกึ ษำธิกำร ๑.๒ เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ ถงึ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๖ ๑.๓ เขตพน้ื ทีบ่ ริการ ๖ อาเภอ ของจงั หวดั เชียงใหม่ ได้แก่ เขตพน้ื ทบี่ รกิ ารการรับนกั เรยี น เขตพ้นื ท่ีบริการ เขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา จังหวัด อาเภอ สพม. สพป. เชียงใหม่ แม่แจ่ม สพม. ๓๔ สพป. ๔ จอมทอง สพป. ๕ ฮอด สพป. ๖ อมกอ๋ ย ดอยเต๋ำ ดอยหลอ่ ๑.๔ ประวัตโิ ดยย่อโรงเรยี น เนื่องจำกสภำพพ้ืนท่ีอำเภอแม่แจ่ม เป็นภูเขำสลับซับซ้อนทุรกันดำรมีเน้ือที่ ๓,๓๖๑.๑๕๑ ตำรำงกิโลเมตร มีประชำกร ๖๘,๑๘๕ คน มีหย่อมบ้ำน ๒๑๕ หย่อมบ้ำน ห่ำงจำกตัวจังหวัดเชียงใหม่ ประมำณ ๑๑๗ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยดอยอินทนนท์) และประมำณ ๑๕๖ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยฮอด) ประชำกรส่วนใหญ่เป็นชำวไทยภูเขำ เผ่ำ กะเหร่ียง ม้ง ล๊ัวะ และ ลีซอ ประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ ทำนำ ทำสวน ปลูกข้ำวไร่ และรับจ้ำง กำรคมนำคมไม่สะดวก บำงหย่อมบ้ำนห่ำงจำกหมู่บ้ำนหลักมำกต้อง เดินทำงด้วยเท้ำใช้เวลำประมำณ ๒-๓ วัน เน่ืองจำกหย่อมบ้ำนอยู่อย่ำงกระจัดกระจำยห่ำงไกลกันมำก ทำให้ เป็นอุปสรรคในกำรจัดกำรศึกษำอย่ำงทั่วถึง เด็กขำดโอกำสทำงกำรศึกษำ (ภำคบังคับ) ถึง ๑๔๑ หย่อมบ้ำน อำยุระหวำ่ ง ๖-๑๓ ปี จำนวน ๓,๗๐๙ คน จำกสภำพปัญหำและอปุ สรรคในพ้ืนที่อำเภอแมแ่ จ่ม ทำใหไ้ มส่ ำมำรถจดั กำรศึกษำได้อย่ำงทัว่ ถึง มีเด็กอีกจำนวนมำกที่ไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ในพื้นที่ และพยำยำมด้ินรนหำทำงไปเรียนหนังสือที่อื่น ทำให้เกิด ปัญหำถูกหลอกลวง ถูกกดขี่ใช้แรงงำนเด็ก เปน็ เด็กเร่ร่อน เด็กยำกจนขำดผอู้ ุปกำระ จงึ ควรใหค้ วำมสงเครำะห์ ช่วยเหลือเด็กท่ีประสบปัญหำดังกล่ำว ทำงคณะกรรมกำรทำงกำรศึกษำ กำรศำสนำ และกำรวัฒนำธรรม (ศศว.อ.) อำเภอแมแ่ จ่ม โดยสำนักงำนศึกษำธิกำรอำเภอแม่แจ่ม ไดเ้ สนอโครงกำรจัดต้ังโรงเรยี นรำชประชำนุ- เครำะห์ ประเภทประจำข้ึน และได้เสนอโครงกำรดังกล่ำวไปยังก องรำชเลขำนุกำรในองค์สมเด็จ พระบรมรำชนิ ีนำถ (ฝ่ำยกำรศึกษำ) ไดร้ ับคำแนะนำใหเ้ สนอเร่ืองขอเปิดโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ โดยผ่ำน ทำงมลู นธิ ิรำชประชำนุเครำะห์ ในพระบรมรำชปู ถัมภ์ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่

ห น้ า | ๒ ในวันที่ ๕ เมษำยน ๒๕๓๙ รองเลขำธิกำรพระรำชวัง โดยนำย ขวัญแก้ว วัชโรทัย และคณะได้ เดนิ ทำงมำสำรวจพื้นที่ ท่ีจะจัดต้งั ณ โรงเรียนบ้ำนป่ำเทอ้ ผลกำรสำรวจปรำกฏว่ำ สถำนทไ่ี มเ่ หมำะสม เพรำะ ขำดแหล่งน้ำ จึงได้เสนอให้ทำงอำเภอจดั หำสถำนที่ต้ังใหม่ใน วันท่ี ๒๐ มีนำคม ๒๕๔๐ นำยสุขวชิ รังสิตพล รองนำยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พร้อมด้วย นำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำน กรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ฯ นำยโชดก วีรธรรมพูลสวัสด์ิ เลขำธิกำรมูลนิธิรำชประชำนุ - เครำะห์ฯ ได้เดินทำงมำตรวจดูสภำพพ้ืนท่ี ท่ีจะก่อสร้ำงโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ตำมพระรำชดำริของ สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี และนำยอำเภอแม่แจ่ม (นำยขวญั ชัย วงศ์นิติกร) ซึ่งได้รับ มอบหมำยจำกผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเชียงใหม่ ให้บรรยำยเกี่ยวกับข้อมูลที่จะก่อสร้ำง ๔ แห่ง และผลจำกกำร สำรวจได้กำหนดท่ีต้ังโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ท่ีบ้ำนแม่ปำน หมู่ท่ี ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิงอำเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชียงใหม่ มพี ื้นที่ท้ังหมด จำนวน ๒๒๖ ไร่ อยู่ห่ำงจำกที่ว่ำกำรอำเภอ แม่แจ่ม ประมำณ ๘ กิโลเมตร มีพิธีวำงศิลำฤกษ์ ในวันพุธ ท่ี ๑๕ ตุลำคม ๒๕๔๐ เวลำ ๑๐.๔๙ น. โดยนำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำนกรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ ใน พระบรมรำชูปถัมภ์ มำเป็นประธำนในพธิ ี รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร นำยชุมพล ศิลปอำชำ ได้ลงนำมในประกำศจัดตั้งโรงเรียน เม่อื วันที่ ๓๐ เดอื น กนั ยำยน พุทธศักรำช ๒๕๔๑ โดยมีวัตถปุ ระสงคข์ องกำรจัดตง้ั เพ่ือรับเด็กดอ้ ยโอกำสท่ี มีควำมเป็นอยู่ด้อยกว่ำเด็กปกติทั่วไป ได้แก่เด็กยำกจนมำกเป็นพิเศษ (ครอบครัวมีรำยได้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บำท ต่อปี) เดก็ กำพรำ้ เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กในชนกลุ่มน้อย เด็กถูกทำร้ำยทำรุณ เด็กที่ได้รับผลกระทบจำกโรค เอดส์ เด็กเร่ร่อน แรงงำนเด็ก เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนฯลฯ ในเขตพ้ืนท่ีอำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่ำ อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยหลอ่ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ เร่ิมรับนักเรยี นในปีกำรศึกษำ ๒๕๔๑ ในช้ันประถมศึกษำปีที่ ๑ จำนวน ๗๐ คน ฝำกเรียนทโี่ รงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๒๖ อำเภอป่ำซำง จงั หวัดลำพูน ช้ันมัธยมศกึ ษำ ปีท่ี ๑ จำนวน ๘๐ คน ฝำกเรียนท่ีโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับนักเรียนด้อยโอกำส ๑๐ ประเภท ดังน้ี กลุ่มเปา้ หมายผดู้ ้อยโอกาส ๑๐ ประเภท ๑. เด็กถูกบงั คบั ใหข้ ำยแรงงำนหรอื แรงงำนเดก็ หมำยถึง เดก็ ทต่ี ้องทำงำนหรือถกู บงั คบั ให้ทำงำน หำรำยไดด้ ้วยกำรขำยแรงงำนก่อนถึงวยั อันควร ถูกเอำรัดเอำเปรยี บจำกนำยจำ้ ง ไม่มโี อกำสไดร้ บั กำรพัฒนำให้ เปน็ ไปตำมหลักกำรพฒั นำอันเหมำะสมกบั วยั ๒. เด็กเร่ร่อน หมำยถึง เด็กท่ีไม่มีท่ีอยู่อำศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนดำรงชีวิตอยู่อย่ำงไร้ทิศทำง ขำดปัจจัยพ้นื ฐำนในกำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ิต พักอำศัยอยตู่ ำมใตส้ ะพำน สวนสำธำรณะ ขำ้ งถนน ๓. เด็กท่ีอยู่ในธุรกิจทำงเพศ หมำยถึง เด็กชำย – เด็กหญิง ท่ีมีอำยุไม่ครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ มคี วำมสมัครใจหรือถูกบังคับล่อลวงให้ขำยบริกำรทำงเพศ หรอื ตกอยู่ในสภำพที่เสี่ยงต่อกำรชักจูงให้ประกอบ อำชีพขำยบริกำรทำงเพศ ๔. เด็กท่ีถูกทอดทิ้ง หมำยถึง เด็กที่ถูกมำรดำคลอดท้ิงไว้ที่โรงพยำบำล หรือตำมสถำนที่ต่ำง ๆ รวมไปถึงเด็กทพ่ี ่อแม่ปล่อยท้ิงไว้ให้มีชีวิตอยตู่ ำมลำพังหรือกับบุคคลอ่ืน โดยไมไ่ ด้รับกำรเลี้ยงดูจำกพ่อแม่ทั้งน้ี อำจมีสำเหตุจำกปัญหำกำรหย่ำร้ำงหรอื ครอบครัวแตกแยก มีสภำพชีวติ อยูท่ ่ำมกลำงควำมสับสน ขำดควำมรัก ควำมอบอุ่นตลอดถงึ เดก็ ทขี่ ำดผปู้ กครอง ขำดผู้อุปกำระเล้ียงดู ๕. เด็กที่ถูกทำร้ำยทำรุณ หมำยถึง เด็กท่ีถูกล่วงละเมิดทำงร่ำงกำย ทำงเพศ หรือทำงจิตใจ มีชีวิตอยู่อย่ำงไม่เป็นสุข ระแวง หวำดกลัว เน่ืองจำกกำรถูกทำร้ำยทำรุณ ถูกบีบคั้นกดดันจำกพ่อแม่ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๓ หรือผู้ปกครองซึ่งมีสภำพจิตใจหรืออำรมณ์ไม่ปกติ หรือถูกล่วงละเมิดทำงเพศในลักษณะต่ำงๆ จำกบุคคล ทอี่ ยู่ใกลต้ ัว ๖. เด็กยำกจน (มำกเป็นพิเศษ) หมำยถึง เด็กซึ่งเป็นบุตรหลำนของคนยำกท่ีมีรำยได้ไม่เพียงพอ ต่อกำรเล้ียงชีพ ครอบครัวอยู่ร่วมกันหลำยคน ขำดแคลนปัจจัยพ้ืนฐำน มีชีวิตอยู่อย่ำงลำบำก เด็กในแหล่ง ชมุ ชนแออดั บุตรของกรรมกรกอ่ สร้ำงและเด็กทอี่ ย่ใู นถน่ิ ทรุ กนั ดำรหำ่ งไกลทีข่ ำดโอกำสได้รบั กำรศึกษำ ๗. เด็กในชนกลุ่มน้อย หมำยถึง เด็กท่ีเป็นบุตรหลำนของบุคคลที่มีวัฒนธรรมแตกต่ำง ไปจำกประชำชนส่วนใหญ่ในประเทศ มีปัญหำเกี่ยวกับกำรถือสัญชำติไทย จนเป็นสำเหตุให้ไม่มีโอกำสได้รับ กำรศึกษำหรือบรกิ ำรอ่นื ๆ สว่ นใหญ่อพยพเข้ำมำตัง้ หลกั แหล่งอยตู่ ำมบรเิ วณแนวชำยแดนของประเทศไทย ๘. เด็กท่ีมีปัญหำเกี่ยวกับยำเสพติด หมำยถึง เด็กท่ีติดสำรระเหย หรือยำเสพติดให้โทษหรือ เด็กกลุ่มเสี่ยงต่อกำรชักนำให้ประพฤติตนไมเ่ หมำะสม เก่ียวข้องผูกพันกับกลุ่มมิจฉำชีพ ผู้มีอิทธิพลที่แสวงหำ ผลประโยชน์จำกกำรประกอบอำชีพผดิ กฎหมำย เปน็ เด็กทีม่ ีแนวโน้มสูงตอ่ กำรกอ่ ปัญหำในสังคม ๙. เด็กท่ีได้รับผลกระทบจำกโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อร้ำยแรงท่ี สังคมรังเกียจ หมำยถึง เด็กทต่ี ิดเช้อื เอดส์ หรือมีพอ่ แม่เจ็บป่วยดว้ ยโรคเอดส์ เปน็ เดก็ ที่มักจะถูกมองอย่ำงรงั เกยี จจนไมส่ ำมำรถเข้ำรับ กำรศกึ ษำหรือบริกำรอืน่ ๆ รว่ มกับเด็กปกติท่ัวไปได้ ๑๐. เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน หมำยถึง เด็กที่กระทำผดิ และถูกควบคุมอยู่ ในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนตำมกฎหมำย ตลอดถึงเด็กที่ตั้งครรภ์นอกสมรส ซึ่งมีแนวโน้มที่จะ กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหำตำ่ ง ๆ เช่น กำรทำแทง้ กำรฆ่ำตัวตำย กำรทอดท้ิงทำรก ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์๓๑ สังกัดสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร ดำเนินงำนภำยใต้กำรประสำนงำน ระหว่ำงมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ในพระบรมรำชูปถัมภ์ กับสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กระทรวงศึกษำธิกำรเปิดรับนักเรียนด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ ประเภท เด็กยำกจนมำกเป็นพิเศษ อยู่ในพื้นท่ีห่ำงไกลจำกสถำนศึกษำ เด็กกำพร้ำบิดำ มำรดำ เด็กทอี่ ยู่ในครอบครัวท่ี แตกแยก ไม่มีผู้อุปกำระเล้ียงดู เข้ำมำอยปู่ ระจำในโรงเรียน จดั กำรเรยี นกำรสอนในระดับกำรศึกษำภำคบังคับ และกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน ใน ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ มีห้องเรียนตำมแผนกำรรับนักเรียนคือ ๑-๑-๑-๑-๑-๑/ ๔-๔-๔/๔-๔-๔ รวมจำนวน ๓๐ ห้องเรียน มีนกั เรยี น จำนวน ๘๒๒ คน แผนท่ีโรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๔ ๑.๕ สถานทีต่ ั้ง ที่ต้ังโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เลขท่ี ๙๙ หมู่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๒๗๐ รูปภาพที่ ๑ แผนผงั บริเวณโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ ๑.๖ สัญลักษณ์ อัตลกั ษณ์ และเอกลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ สญั ลักษณ์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ ความหมายตราสญั ลักษณ์ ปรัชญาโรงเรยี น : ใฝร่ ู้ สู้งำน สืบสำนแนวทำง ตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพียง ปณธิ านโรงเรยี น : เป็นคนดี มีควำมจงรกั ภักดี ต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ คาขวัญโรงเรยี น : คุณธรรมดี มคี วำมรู้ สวู่ ถิ ีตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สีประจาโรงเรียน : นำ้ เงิน – เหลือง อกั ษรย่อโรงเรยี น : ร.ป.ค.๓๑ ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๕ อตั ลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่ “สุขภำพดี คณุ ธรรมเดน่ เปน็ จติ อำสำ” เอกลกั ษณ์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ “อทุ ยำนกำรเรียนรู้” วิสัยทัศน์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ “ภำยในปี พ.ศ.๒๕๖๒ โรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ มีระบบกำรจัดกำรศกึ ษำ ท่ีมีคุณภำพ มีครูมอื อำชีพ ผูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะตำมหลกั สูตร และเปน็ ศนู ยก์ ำรเรยี นรู้ ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง” ๑.๗ โครงสรา้ งองคก์ รการบรหิ ารจัดการศึกษา ๒. ข้อมลู ผบู้ ริหาร ๑ ) ชอ่ื – สกุล ผู้บริหำร นำงวิลำวัลย์ ปำลี ตำแหน่ง ผู้อำนวยกำรโรงเรียน โทรศพั ท์ ๐๘๗-๑๘๐๕๕๙๕ e-mail : ywilawan๕๗๗๐@gmail.com วุฒิกำรศกึ ษำสูงสดุ กำรศกึ ษำมหำบัณฑติ วชิ ำเอกกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ ดำรงตำแหนง่ ที่โรงเรยี นนีต้ ้งั แต่ ๒๓ มกรำคม ๒๕๕๘ จนถงึ ปจั จบุ นั ๒) รองผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน จำนวน ๑ คน ๒.๑ นำยวเิ ศษ ฟองตำ วุฒิกำรศึกษำสงู สุด กำรศึกษำมหำบัณฑิตวิชำเอกกำรบริหำรกำรศึกษำ โทรศัพท์ ๐๙๘-๗๘๐๐๑๙๓ e-mail : [email protected] รับผิดชอบ กลุ่มบรหิ ำรงำนวชิ ำกำร ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๖ ๓. ขอ้ มูลนกั เรยี น ปจั จุบันโรงเรยี นมีจำนวนนกั เรียนจำแนกตำมระดับช้ันทเี่ ปิดสอนดังน้ี ระดบั ช้ันเรียน จานวนหอ้ ง เพศ รวม ชาย หญงิ ประถมศึกษำปีที่ ๑ ๑ ๓๓ ๖ ประถมศกึ ษำปีที่ ๒ ๑ ๕๕ ๑๐ ประถมศึกษำปีที่ ๓ ๑ ๕ ๑๐ ๑๕ ประถมศึกษำปีที่ ๔ ๑ ๕๙ ๑๔ ประถมศึกษำปีที่ ๕ ๑ ๙ ๑๔ ๒๓ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ ๑ ๑๑ ๑๔ ๒๕ รวม ๖ ๓๘ ๕๕ ๙๓ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๑ ๔ ๓๘ ๑๐๐ ๑๓๘ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๒ ๔ ๔๕ ๘๗ ๑๓๒ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ ๔ ๒๐ ๘๐ ๑๐๐ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๔ ๔ ๒๐ ๙๓ ๑๑๓ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๕ ๔ ๓๘ ๘๘ ๑๒๖ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๖ ๔ ๑๘ ๑๐๒ ๑๒๐ รวม ๒๔ ๑๗๙ ๕๕๐ ๗๒๙ รวมทัง้ หมด ๓๐ ๒๑๗ ๘๐๕ ๘๒๒ ตารางท่ี ๑ จำนวนนักเรยี นจำแนกตำมระดบั ชั้นที่เปดิ สอน ณ วันที่ 10 มถิ ุนำยน ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๑ ๔. ขอ้ มลู บุคลากร ตารางที่ ๒ ขอ้ มลู บคุ ลำกร ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สดุ (คน) รวม ชาย หญงิ ต่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี สูงกว่า ป.ตรี ๑. ผอู้ ำนวยกำร ๐๑ ๑ ๒. รองผ้อู ำนวยกำร ๑๐ ๐๐๑ ๑ ๓. ข้ำรำชกำรครู ๐๐๑ ๓.๑ คศ.๔ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๒ คศ.๓ ๓.๓ คศ.๒ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๔ คศ.๑ ๓.๕ ครูผชู้ ่วย ๓๕ ๐ ๕ ๓๘ ๔. พนกั งำนรำชกำร ๕. ครูอัตรำจ้ำง ๒๕ ๐ ๕ ๒๗ ๒๕ ๐ ๗ ๐๗ ๑๗ ๒๒ ๐ ๓๙ ๐ ๓๙ ๐๒ ๐ ๒ ๐๒ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๗ ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สดุ (คน) รวม ชาย หญิง ตา่ กว่า ป.ตรี ป.ตรี สงู กวา่ ป.ตรี ๖. ลกู จ้ำงประจำ ๑๐ ๑ ๖.๑ นักกำรภำรโรง ๐๐ ๑๐๐ ๐ ๖.๒ คนครัว ๐๔ ๐๐๐ ๔ ๖.๓ ยำม ๑๐ ๔๐๐ ๑ ๖.๔ พนักงำนขับรถ ๑๐ ๑๐๐ ๑ ๑๐๐ ๗. ลกู จ้ำงชวั่ ครำว ๗.๑ บคุ ลำกรจำ้ งเหมำบรกิ ำร ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๗.๒ พี่เลยี้ งเดก็ พิกำร ๓ ๐ ๑๕ ๗.๓ เจำ้ หน้ำท่ธี รุ กำร ๙๖ ๑๒ ๑ ๐๑ ๗.๔ ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนรำชกำร ๐ ๐๐ ๐๑ ๐ ๐ ๐ ๑๕ ๘. นกั ศึกษำฝกึ ประสบกำรณ์ ๖๒ ๗ ๑๐๓ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๐๐ ๐ ๖๙ ๑๕ ๔๓ ๖๐ ๓๔ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๑๐๓ คน ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๘ ตอนท่ี ๒ ผลการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ผลการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาเพ่อื รบั รางวลั พระราชทาน ระดบั มัธยมศึกษา ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ กำรประเมินผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเพ่ือรบั รำงวัลพระรำชทำนระดบั มธั ยมศึกษำของ โรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกำรประเมินผลกำรดำเนินกำรตนเองเพื่อพัฒนำ คุณภำพกำรจัดกำรศึกษำให้เป็นไปตำมเกณฑ์มำตรฐำนกำรประเมินและตัวชวี้ ดั ด้านท่ี 2 การบริหารหลักสตู ร และงานวิชาการดังน้ี นา้ หนัก รายการประเมินและตัวชว้ี ัด เอกสารและหลักฐานประกอบการ ประจาด้าน พิจารณา 2 ดา้ นที่ ๒ การบรหิ ารหลกั สูตรและงานวชิ าการ ๒.๑ การพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา - โครงสรำ้ งหลกั สูตร ๑. วเิ ครำะห์ควำมตอ้ งกำรจำเปน็ ของสถำนศกึ ษำ - หลกั สตู รสถำนศกึ ษำ ร่วมกบั ชมุ ชน สังคม ทอ้ งถน่ิ และผมู้ ีสว่ น - หลกั สตู รทวศิ ึกษำ เก่ียวข้อง - แบบกำกบั นิเทศ ติดตำม ๒. นำผลกำรวิเครำะห์ทไี่ ดม้ ำพัฒนำหลกั สูตรของ - แบบรำยงำนกจิ กรรมเศรษฐกิจพอเพยี ง ทักษะดำรงชวี ิต สถำนศกึ ษำใหม้ ีควำม ยืดหยุน่ และสอดคลอ้ งกับ -แผนพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พนื้ ฐำน -ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นประจำปี ๓. นำหลกั สูตรสถำนศกึ ษำไปออกแบบจัดกำรเรียน กำรศกึ ษำ -แผนกำรสอน / โครงสร้ำง /ภพกจิ กรรม กำรสอนเพ่ือให้ บรรลุผลตำมจุดม่งุ หมำย กำรเรียนกำรสอน ๔. จัดทำแผนและดำเนินกำรนิเทศ กำกบั ติดตำม - กำรวเิ ครำะห์ผู้เรียนรำยบุคคล S.D.Q และประเมนิ กำรใช้หลกั สูตร - สรปุ กำรเยย่ี มบ้ำนนักเรยี น ๕. สรปุ ผลกำรนิเทศ กำกบั ติดตำม และประเมิน มำ -กจิ กรรมพัฒนำผู้เรียน ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๕8-2560 ปรับปรุงและพฒั นำหลกั สูตร โดยใช้ -รำยงำนกิจกรรมชมุ นุม/กิจกรรมลดเวลำเรยี น กระบวนกำรวิจัยเพือ่ พฒั นำ -กำรส่งเสริมอำชพี ตำมโครงกำรอำชีพเพอ่ื กำร มีงำนทำประกอบด้วย ๒.๒ การจัดกิจกรรมเสริมหลกั สูตร ๑. นำผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูลนกั เรยี นรำยบุคคลและ -รำยงำนโครงกำรส่งเสรมิ อำชีพอสิ ระเพื่อ ควำมคิดเห็นของผู้ปกครอง ชมุ ชน มำกำหนด กำรมีรำยไดร้ ะหวำ่ งเรียน กจิ กรรมเสริมหลักสูตร -ร ำย งำน กิ จ ก ร ร ม บู ร ณ ำก ำร ส ว น ๒. กำหนดวัตถปุ ระสงค์ กรอบแนวคิดและแนว พฤกษศำสตร์โรงเรียน ทำงกำรจัดกิจกรรม เสริมหลักสูตร สอดคล้องกบั มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ เน้นกำรพฒั นำ รอบดำ้ น ๓. มีรปู แบบกำรจดั กิจกรรมท่ีหลำกหลำย ทำ้ ทำย สร้ำงสรรค์ ทง้ั กจิ กรรมรำยบคุ คล และกจิ กรรม กล่มุ ๔. นักเรียนทกุ คนรว่ มกจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รอยำ่ งมี ควำมสุข ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๙ นา้ หนัก รายการประเมนิ และตัวช้ีวัด เอกสารและหลักฐานประกอบการ ประจาดา้ น พจิ ารณา 2 ดา้ นท่ี ๒ การบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการ ๕. นักเรยี นมผี ลงำนเชิงสรำ้ งสรรค์และเห็นกำรพัฒนำ -ร ำย ง ำน กิ จ ก ร ร ม บู ร ณ ำก ำร ศู น ย์ ก ำ ร ตอ่ ยอดได้ เรี ย น รู้ ต ำม ห ลั ก ป รั ช ญ ำข อ งเศ ร ษ ฐกิ จ พอเพยี ง ๒.๓ สอ่ื เทคโนโลยเี พ่อื การเรยี นรู้ และแหล่งเรยี นรู้ -รำยงำนกิจกรรมกำรแข่งขันกฬี ำ ๑. รบั ฟงั ควำมคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของครู -ภำพกจิ กรรมนกั เรียนในกจิ กรรมตำ่ งๆ นักเรียน และผู้เก่ียวข้อง มกี ำรวเิ ครำะห์ สรุปผล เพือ่ กำรออกแบบ จดั หำและผลติ -บันทึกกำรประชุม ๒. ออกแบบ วำงแผน และจดั หำและผลิตสือ่ - โครงกำรผลติ สือ่ กำรสอนของกลมุ่ สำระ เทคโนโลยเี พ่อื กำรเรียนรู้ และแหลง่ เรียนรู้ ที่ - ทะเบียนแหลง่ เรยี นรภู้ ำยในและ สอดคลอ้ งกับเป้ำหมำยของหลกั สูตร ภำยนอกโรงเรยี น ๓. จัดบริกำรและบำรงุ รกั ษำสือ่ เทคโนโลยีเพือ่ กำร -หนังสอื เชิญวทิ ยำกรภำยนอกโรงเรียน เรียนร้แู ละแหล่งเรยี นรู้ -รปู ภำพกำรใช้สอื่ และเทคโนโลยีในกำร ๔. สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้ครใู ช้สอ่ื เทคโนโลยีเพ่ือกำร พฒั นำระบบงำนวิชำกำรและงำนกิจกำร เรยี นรู้ และ แหลง่ เรียนรู้ ทง้ั ทีม่ ใี นสถำนศกึ ษำ ใน นกั เรยี น ทอ้ งถิน่ และชมุ ชน และมกี ำรใช้อยำ่ งเหมำะสม -รปู ภำพกำรประชุมประจำเดอื น ๕. ประชำสมั พนั ธ์ เผยแพรส่ ือ่ เทคโนโลยเี พ่ือกำร -รปู ภำพกำรประชมุ ผู้ปกครอง เรยี นรู้ และแหลง่ เรยี นรู้สแู่ วดวงวิชำกำร ด้วย -รูปภำพกิจกรรมใหค้ วำมรจู้ ำกหนว่ ยงำน รูปแบบและวิธีกำรทีห่ ลำกหลำย นำ่ สนใจ ภำยนอก - รปู ภำพสื่อ นวัตกรรม - ทะเบียนส่อื นวตั กรรมและรำยงำนกำร ใช้สอื่ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้แบบบรู ณำกำร -โครงกำรผลิตสือ่ กำรสอนของกลุ่มสำระ -โครงกำรอบรมพฒั นำควำมรู้ด้ำน ICT -งำนวจิ ยั เกย่ี วกบั กำรพัฒนำสื่อ -ทะเบียนกำรใชห้ ้องปฏิบตั ิกำร -รำยงำนผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ (SAR) - รูปภำพกจิ กรรมนกั เรียน/สภำพจริง - แผนงำน/โครงกำร กำรให้บรกิ ำรส่ือ/ โสตทัศนปู กรณ์ - ทะเบียนสื่อ โสตทัศนูปกรณ์ - ทะเบยี นแหลง่ เรยี นรใู้ นและนอก สถำนท่ี ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่

ห น้ า | ๑๐ นา้ หนัก รายการประเมินและตัวชวี้ ัด เอกสารและหลกั ฐานประกอบการ ประจาดา้ น พิจารณา 2 ดา้ นท่ี ๒ การบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการ ๒.๔ ระบบการวัดและประเมินผล - รำยงำนกำรซอ่ มบำรงุ ๑. สรำ้ งและพฒั นำแนวทำง/กระบวนกำรประเมนิ ผล - รำยงำนกำรใช้ส่ือโสตทัศนูปกรณ์ เพ่อื ใหไ้ ด้ข้อมลู สำรสนเทศเกย่ี วกับนักเรยี น -สรปุ ควำมพึงพอใจของผู้ใชบ้ รกิ ำรส่อื ๒. มีระเบียบกำรวัดและประเมนิ ผลท่ีสอดคลอ้ งกับสง่ิ โสตทัศนูปกรณ์ -ภำพกจิ กรรมกำรใชส้ ่อื ในกำรจัดกำร ท่ีตอ้ งกำรวัดและประเมนิ เรียนกำรสอนในหอ้ งเรยี น - โครงสร้ำงกำรพฒั นำสอ่ื ทุกกลมุ่ สำระ กำรเรยี นรู้ - โครงกำรอบรมใหค้ วำมรู้ดำ้ น ICT - ขอ้ มลู กำรเปน็ วิทยำกรในด้ำนต่ำงๆ - ทะเบียนสอ่ื ที่ผลติ ในโรงเรียน - ภำพกจิ กรรมทัศนศึกษำ - ภำพกิจกรรมกำรศึกษำ๓มิปัญ ญ ำ ท้องถิ่น - ภำพกิจกรรมสวนพฤกษำศำสตร์ - ภำพกิจกรรมกำรใชแ้ หลง่ เรียนรตู้ ำ่ งๆ ภำยในโรงเรยี น - โครงสร้ำงกำรพัฒนำสอ่ื ทกุ กล่มุ สำระ กำรเรยี นรู้ - ทะเบียนกำรเผยแพร่/กำรขอใช้บรกิ ำร สื่อเทคโนโลยี - ข้อมูลกำรเป็นวิทยำกรในด้ำนกำรใช้ โปรแกรม - ทะเบียนสอื่ ท่ีผลิตในโรงเรยี น - เอกสำรประชำสมั พนั ธ์ รำยงำน/ วำรสำร/แผ่นพับ - Website Facebook Line ประชำสมั พันธ์ - ภำพกิจกรรมนักเรียน / สภำพจริง - โครงกำรวดั ผลและประเมินผล - คมู่ อื กำรวดั และประเมนิ ผล - กำรจัดทำแบบทดสอบรูปแบบ มำตรฐำนตำมหลกั สตู รแกนกลำง กำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๑๑ นา้ หนัก รายการประเมนิ และตัวชีว้ ัด เอกสารและหลักฐานประกอบการ ประจาด้าน พจิ ารณา 2 ดา้ นท่ี ๒ การบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการ ๓. สร้ำงและพัฒนำเครื่องมือวดั และประเมนิ ผลท่ีมี - วำรสำรโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ คุณภำพ และเก็บ รวบรวมข้อมูลเปน็ ระบบ ใช้งำน ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ สะดวกรวดเรว็ - แผน่ พบั ประชำสมั พันธโ์ รงเรียน ๔. จัดทำเอกสำรประกอบกำรวัดและประเมนิ ผลเพอื่ - เว็บไซตโ์ รงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ สรุปรำยงำน เสนอต่อหน่วยงำนต้นสงั กดั และ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่ ผู้เกีย่ วข้อง - แบบรำยงำนผลกำรเย่ยี มบ้ำนนักเรยี น ๕. นำผลไปใชเ้ พอื่ พฒั นำกระบวนกำรบริหำรและกำร เชิงรุก จัดกำร กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน และ - ปพ.๖ กระบวนกำรเรียนรู้ - หลกั สูตรสถำนศึกษำ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗-๒๕๖๐ - คมู่ ือกำรวดั ผลประเมนิ ผล - กำรนิเทศกำรจัดกระบวนกำรเรยี นกำร สอน - กำรนิเทศชนั้ เรียน - รำยงำนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี น - สรปุ รำยงำนผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น - ปพ.1 - หลักสตู รสถำนศกึ ษำโรงเรยี นรำชประชำนุ เครำะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ - โครงกำรลดเวลำเรยี นเพิม่ เวลำรู้ - ภำพกำรนิเทศเยี่ยมชั้นเรยี น - วจิ ยั เพื่อพัฒนำกำรเรียนกำรสอน - แบบแสดงผลกำรประเมินกำรอ่ำน, กำรคดิ วเิ ครำะห์และกำรเขยี น - ภำพประกอบกิจกรรม ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรบั รางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๑๒ งำนวิชำกำรเป็นงำนหลักหรือภำรกิจหลักและเป็นหัวใจของกำรบริหำรโรงเรียนตำมเจตนำรมณ์ พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พทุ ธศักรำช ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี๒) พุทธศักรำช ๒๕๔๕ และ ๒๕๕๓ ท่ีมุ่งกระจำยอำนำจกำรบริหำรจัดกำรไปให้สถำนศึกษำให้มำกที่สุด เพ่ือให้มีอิสระคล่องตัว สอดคล้องกับควำมต้องกำรของผู้เรียน สถำนศึกษำ ชุมชนและท้องถิ่น โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ควำมสำคัญในกำรบริหำรงำนวิชำกำรเป็นอันดับแรก โดยมุ่งบริหำรหลักสูตรและงำน วิชำกำรใหม้ คี ณุ ภำพตำมขอบขำ่ ยของภำรกจิ ดงั นี้ ๒.๑ การพฒั นาหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีกำรดำเนินงำนพัฒนำปรับปรุงพัฒนำ หลักสูตรสถำนศกึ ษำ หลกั สตู รทอ้ งถนิ่ ในรูปของคณะกรรมกำรบริหำรหลกั สูตรและงำนวิชำกำรทีซ่ ง่ึ มำจำก กำร มีส่วนรว่ มของทกุ ภำคส่วนทเ่ี กยี่ วข้องโดยกำรศึกษำวเิ ครำะห์ และวำงแผนพัฒนำตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ขน้ั พื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ข้อมูลสำรสนเทศเกยี่ วกบั กำรใช้หลักสตู รสถำนศึกษำฉบับท่ใี ช้ในปจั จุบนั มีกำร วเิ ครำะห์สภำพปัญหำควำมต้องกำรของชุมชนสังคม ท้องถิ่น วิเครำะห์สภำพแวดล้อมที่เน้นกำรมีส่วนร่วมของทุก ฝ่ำยที่เก่ียวข้อง มีกำรประเมินสถำนภำพของสถำนศึกษำ และ นำข้อมูลมำปรับปรุงและพัฒนำหลักสูตร สถำนศึกษำให้มีควำมเหมำะสม มกี ระบวนกำรดำเนนิ งำน อยำ่ งเปน็ ระบบตำมตัวบ่งช้แี ตล่ ะขอ้ ดงั ต่อไปน้ี ๒.๑.๑ การวิเคราะห์ความตอ้ งการจาเป็นของสถานศึกษาและชุมชนและมีการนาผลมาวางแผน พฒั นาหลักสูตร โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ได้ทำกำรวิเครำะห์ควำมต้องกำรจำเป็นของสถำนศึกษำและ ชมุ ชน ระบจุ ุดเด่น จดุ ควรพฒั นำและใชผ้ ลวเิ ครำะหม์ ำวำงแผนปรบั หลักสูตรโดยได้จัดทำหลักสตู รได้ประเมินผล กำรใช้หลักสูตรโดยจัดทำแบบสอบ ถำมโดยมีกลุ่มเป้ำหมำยคือ นักเรยี น บคุ ลำกร ผู้ปกครอง และชมุ ชน และ ได้นำแบบสอบถำมมำวิเครำะห์ หำจุดเด่น - จุดด้อย เม่ือพบปัญหำ และข้อเสนอแนะจึงได้นำมำพัฒนำ ปรับปรุงหลกั สูตรสถำนศกึ ษำและไดก้ ำกบั ตดิ ตำมนเิ ทศอย่ำงต่อเนื่อง ผลที่ปรากฏ : ผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วนร่วมในกำรวิเครำะ ห์ควำมต้องกำรจำเป็น ของสถำนศกึ ษำในกำรวำงแผนพัฒนำหลกั สตู รสถำนศึกษำอย่ำงต่อเน่ือง ระบุจุดเดน่ จุดด้อย ทค่ี วรพัฒนำ ใช้ ผลกำรวิเครำะห์มำวำงแผนปรับหลักสตู ร มีกำรจัดทำรำยงำนอย่ำงชัดเจน ส่งผลให้ได้หลักสตู รทีส่ อดคล้องกับ ควำมต้องกำรของผู้ปกครอง ชุมชน และผูเ้ รยี นอย่ำงแท้จริง หลักฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 1๒ หน้ำ 1๔-18) ๑) รำยงำนกำรประเมนิ หลกั สูตรสถำนศึกษำ ๒) หลักสูตรสถำนศกึ ษำ -หลักสูตรสถำนศกึ ษำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย -หลักสูตรสถำนศึกษำกล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ -หลกั สูตรสถำนศกึ ษำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ -หลกั สูตรสถำนศกึ ษำกล่มุ สำระกำรเรียนร้สู งั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม -หลักสตู รสถำนศึกษำกล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ -หลกั สูตรสถำนศกึ ษำกลมุ่ สำระกำรเรียนร้สู ุขศกึ ษำและพลศึกษำ -หลักสูตรสถำนศกึ ษำกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ -หลักสูตรสถำนศึกษำกลุม่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี -หลักสูตรสถำนศึกษำกล่มุ กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๑๓ ๓) หลกั สูตรทวิศกึ ษำ ๔) แบบรำยงำนกำรจัดกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับหลักสูตร สำระหลักสูตรท้องถ่ิน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพยี ง ทกั ษะกำรดำรงชวี ิต ๕) แผนพฒั นำคุณภำพกำรศกึ ษำปี 2559 - 2562 ๖) ภำพกิจกรรมนักเรียน / ผู้ปกครองร่วมวิเครำะหใ์ นกำรจดั ทำหลกั สูตร ๗) แบบวิเครำะห์ควำมตอ้ งกำรของสถำนศึกษำและชุมชน ๒.๑.๒ หลักสูตรมีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับเป้าหมายการจัดการศึกษา และผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ร่วมกนั กาหนดเปา้ หมาย โร ง เรี ย น ไ ด้ มี ก ำ ร ป รั บ ป รุ ง ห ลั ก สู ต ร อ ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง โด ย เน้ น ก ำ รมี ส่ ว น ร่ว ม ข อ ง ทุ ก ฝ่ ำ ย ที่เก่ียวข้อง ตำมสภำพกำรณ์ของยุคปัจจุบันท่ีมีกำรเปล่ียนแปลง เพ่ือให้หลักสูตรสถำนศึกษำ มีควำมยืดหยุ่น สอดคล้องกับเป้ำหมำยกำรจัดกำรศึกษำ โดยควำมร่วมมือของกรรมกำรบริหำรหลักสูตรสถำนศึกษำ ซึ่ง ประกอบด้วย ผู้แทนจำกชุมชน ผู้ปกครอง ครู ท่ีรว่ มกันกำหนด วิสัยทัศน์ เป้ำหมำย ยทุ ธศำสตร์ และให้ ข้อเสนอแนะในกำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำ นอกจำกน้ีหลักสูตรสถำนศึกษำ ยังประกอบด้วยหลักสูตร ท้องถิ่น ซ่ึงเป็นวิชำทักษะกำรดำรงชีวิตของนักเรียนประจำ และเน้นกำรเปิดสอน วิชำเลือก กลุ่มอำชีพ กลุ่ม สนใจ ชุมนุม และงำน / โครงกำรต่ำง ๆ สอดคล้อง เหมำะสมกับควำมต้องกำรของผู้เรียน และท้องถิ่น เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมคี วำมร้พู นื้ ฐำนสำหรับกำรดำรงตนในอนำคต ผลท่ีปรากฏ : นักเรียน บุคลำกร ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในกำรปรับปรุงหลักสูตร อย่ำงต่อเน่ือง ส่งผลให้หลักสูตรมีควำมยืดหยุ่นสอดคล้องกับเป้ำหมำย และวิสัยทัศน์ของสถำนศึกษำ ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ำยีส่วนร่วมกำหนดเป้ำหมำย และมีกำรจัดโปรแกรมกำรเรียนรู้อย่ำงหลำกหลำย สนองตำม ศกั ยภำพและควำมตอ้ งกำรของผ้เู รยี น โดยผมู้ สี ่วนเกยี่ วข้องทุกฝำ่ ยร่วมกนั กำหนดเป้ำหมำยอยำ่ งแท้จรงิ หลกั ฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 13 หนำ้ 19-26) ๑) คำสัง่ คณะกรรมกำรบริหำรหลกั สตู รและงำนวชิ ำกำร ๒) รำยงำนกำรประเมินหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ ๓) แผนปฏบิ ัตกิ ำรประจำปี งบประมำณ 2559 -2562 ๔) หลกั สตู รสถำนศกึ ษำฉบับปรบั ปรงุ ปกี ำรศึกษำ ๒๕๕๗ – ๒๕๖๐ ๕) หลักสูตรทอ้ งถิ่น ๕.๑) ขำ้ วไทย ๕.๒) ทกั ษะกำรดำรงชวี ติ ๖) หลักสตู รกำรจดั กำรศกึ ษำสำหรบั เดก็ ดอ้ ยโอกำสเพอ่ื กำรมีงำนทำ ๗) กลมุ่ สนใจ / ชุมนมุ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ ประกอบดว้ ย ๗.๑) กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น ๗.๒) กิจกรรมชมุ นมุ ๗.๓) กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนำรี (ป.๑ - ม.๖) ๗.๔) กจิ กรรมแนะแนว (ป.๑ - ม.๖) ๘) สรุปรำยงำนผลกำรดำเนินงำน/โครงกำร/กจิ กรรม ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๑๔ ๒.๑.๓ นาหลักสูตรของสถานศึกษาไปออกแบบจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นขั้นตอนตามท่ี กาหนดบรรลผุ ลตามจดุ ประสงค์ ครูผู้สอนประจำวิชำ ได้นำหลักสูตรสถนศึกษำไปวิเครำะห์เพื่อออกแบบกำรจัดกำรเรียน กำรสอน ตำมลำดับข้ันตอน ได้มีกำรวิเครำะห์ตัวช้ีวัด จัดทำโครงสร้ำงรำยวิชำ ออกแบบหน่วยกำรเรียนรู้ พร้อมทั้งวิธีกำรวัดและประเมินผู้เรยี นตำมตัวชี้วัด กำรออกแบบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนน้นั จะ เน้น ผเู้ รียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับบริบทและศักยภำพของผูเ้ รียน ชมุ ชน สังคม ทอ้ งถิ่น ตำมควำมถนัดควำมสนใจ ของผูเ้ รียน และ เน้นอำชพี ผลท่ีปรากฏ : นักเรียนสำมำรถพัฒนำตนเองตำมควำมสำมำรถ ศักยภำพ ควำมสนใจของตนเอง ให้ เปน็ ไปตำมจดุ มุ่งหมำย เป้ำประสงค์ ตวั ชี้วดั และกำรวเิ ครำะหแ์ ผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนท่ีจดั ทำขึ้น พร้อมทงั้ บรรลตุ ำมตวั ชี้วัด มำตรฐำนตำมหลักสตู รแกนกลำงสถำนศึกษำ หลักสูตรแกนกลำง 2551 หลักฐานอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 14 หน้ำ 26-28) 1) แผนกำรออกแบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 2) โครงสรำ้ งรำยวิชำ 3) ผลสัมฤทธิ์กำรเรยี น 4) ภำพกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน / งำนอำชีพ ๒.๑.4 การนิเทศกากบั ตดิ ตามและประเมนิ การใช้หลกั สูตร โรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 ได้แตง่ ตง้ั คณะกรรมกำรนเิ ทศกำกบั ติดตำม และ ประมวลผลกำรใช้หลักสูตรทกุ ปีกำรศึกษำ โดยได้จัดทำปฏิทินดำเนินงำน และมีกำรดำเนนิ งำนอยำ่ งเปน็ ระบบ ตอ่ เน่ือง พร้อมนำผลมำประชุม วิพำกษ์ เพ่ือกำรปรับปรุงหลักสูตรสถำนศึกษำต่อไป ผลที่ปรากฏ : โรงเรียนมีคณะกรรมกำรนิเทศกำกับติดตำมและประเมินกำรใช้หลักสูตร ท่ีมี แผนกำรดำเนินงำนอยำ่ งเปน็ ระบบต่อเนอื่ ง สำระสำคัญของกำรนิเทศชัดเจน ดำเนนิ กำรไดต้ ำมแผน มี กำรประเมินผลกำรใช้หลักสูตรสรุปผลกำรติดตำม และประเมินไว้ครบถ้วนทุกปีกำรศึกษำ ส่งผลให้ หลักสูตรสถำนศึกษำมีควำมทันสมัย เหมำะสมกับสภำพกำรณ์ปัจจุบัน สอดคล้อง กับควำมต้องกำร ของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชมุ ชนและท้องถ่ินในระดับมำก หลกั ฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 15 หน้ำ 28-30) ๑) คำสงั่ คณะกรรมกำรกำรนเิ ทศกำกบั ตดิ ตำมและประมวลผลกำรใชห้ ลกั สูตร ๒) รำยงำนกำรประเมนิ ใช้หลกั สตู รสถำนศึกษำ ๓) คูม่ ือกำรวัดผล ประเมินตำมสภำพจริง ๔) แฟ้มคำสงั่ กำรจดั กำรเชงิ ปฏิบตั กิ ำรกำรเรยี นกำรสอนและกำรวดั ผลประเมนิ ผลตำมสภำพ จริง ๕) เอกสำรกำรวัดผลประเมนิ ตำมสภำพจรงิ ทกุ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ๖) สรปุ รำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน/โครงกำร/กจิ กรรม ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่

ห น้ า | ๑๕ ๒.๑.5 การนาผลการประเมนิ มาปรับปรุ งและพัฒนาหลกั สตู ร โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ มีกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำรประเมนิ ผลกำรใช้ หลักสูตร และดำเนินกำร อยำ่ งตอ่ เนอื่ งในรูปแบบงำนวจิ ัย พร้อมมีกำรนำผลกำรประเมินมำปรับปรงุ และพฒั นำ หลักสูตร โดยชุมชน ผปู้ กครองและคณะกรรมกำรสถำนศึกษำมีส่วนร่วมในกำรประเมินผลกำรใช้หลกั สูตร กำร ประชมุ วพิ ำกษ์ ในกำรแสดงควำมคิดเห็น กำรแสดงควำมพงึ พอใจอยำ่ งแทจ้ ริง ผลท่ีปรากฏ : โรงเรียนมีคณะกรรมกำรนิเทศกำกับติดตำมและประเมินกำรใช้หลักสูตร ที่มี กำรดำเนินงำนอย่ำงเป็นระบบ มีกำรประเมินผลกำรใช้หลักสูตรทุกปีกำรศึกษำ มีผลกำรกำกับติดตำมและ ประเมนิ ผลของสถำนศึกษำ มีกำรสำรวจควำมคิดเหน็ ควำมพึงพอใจของทุกฝ่ำย ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง และมหี ลกั ฐำนนำ ผลเหล่ำนั้น พัฒนำหลักสูตรอย่ำงต่อเน่ือง ส่งผลให้หลักสูตรสถำนศึกษำ มีควำมทันสมัย เหมำะสมกับ สภำพกำรณ์ปัจจบุ นั สอดคล้องกบั ควำมตอ้ งกำรของผูเ้ รยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชนและทอ้ งถิน่ ในระดับมำก หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 16 หน้ำ 31-33) ๑) หลักสตู รสถำนศึกษำปกี ำรศกึ ษำ 2557 - 2560 ๒) หลกั สูตรกำรจัดกำรศึกษำสำหรับเดก็ ด้อยโอกำสเพือ่ กำรมงี ำนทำ ๓) รำยงำนกำรประเมินหลกั สูตรสถำนศึกษำ ๔) รำยงำนกำรจัดอบรมกำรพัฒนำหลกั สตู รสถำนศึกษำ ๕) สรุปรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน/โครงกำร/กจิ กรรม ๒.๒ การจัดกิจกรรมเสรมิ หลักสูตร โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกำรวิเครำะห์ข้อมูลนักเรียนรำยบุคคลและ สอบถำมควำมคิดเห็นของผู้ปกครอง ชุมชน เพ่ือนำข้อมูลมำออกแบบกิจกรรมเสริมหลักสูตร โดยกำหนด วัตถปุ ระสงค์ กรอบแนวคิด และแนวทำงกำรจัดกจิ กรรมทีส่ อดคลอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ กำรอ่ำนกำรเขยี น กำรส่ือสำรและกำรคิดคำนวณ ทักษะกำรจัดกำร ทักษะอำชีพ และจัดกิจกรรมตำมแนวทำงท่ีกำหนด โดยใช้ กจิ กรรมที่มคี วำมท้ำทำย ท้งั กจิ กรรมรำยบคุ คลและกิจกรรมกลุ่ม เพ่ือมุ่งเน้นใหน้ ักเรยี นมีโอกำสเข้ำร่วมในกำร เรียนรู้ตำมควำมต้องกำรและควำมสนใจ มีผลงำนเชิงสร้ำงสรรค์ ของนักเรียนท่ีเกิดขึ้นหลำกหลำย มี กระบวนกำรดำเนนิ งำนอย่ำงเป็นระบบตำมตวั บง่ ชี้แตล่ ะข้อดังต่อไปนี้ 2.2.1 การนาผลการวิเคราะหข์ ้อมลู นักเรยี นรายบุคคลมากาหนดกิจกรรมเสริมหลักสตู ร โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนท่ีจัดกำรศึกษำสำหรับเด็ก ด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ เม่ือรับเด็กนักเรียนเข้ำครูทุกคนต้องรู้จักนักเรียนเป็นรำยบุคคล ทำกำรศึกษำ วเิ ครำะห์นกั เรยี นเป็นรำยคน ให้รจู้ กั นักเรียนอย่ำงแท้จรงิ เพ่อื กำรพฒั นำนักเรียนใหต้ รงตำมศักยภำพ พร้อมทง้ั มีกำรติดตำมพัฒนำศักยภำพนกั เรียนไว้ครบถ้วนทุกคนอยู่เสมอ ครูทุกคนเป็น ครูพ่อ – ครแู ม่ ท่ีตอ้ งดแู ลเด็ก นกั เรียนอย่ำงใกล้ชิดตลอดเวลำ มีกำรจดั ระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนใหค้ รอบคลุม ทุกกลุ่ม คัดกรองนกั เรียน ออกเย่ียมบ้ำนนักเรียน ประสำนกับผู้ปกครองเพื่อให้ได้ข้อมูล ในกำรพฒั นำอย่ำงหลำกหลำยตำสภำพจริงของ นักเรียนแต่ละคน พร้อมนำผลกำรศึกษำมำพัฒนำนักเรียนท้ังกำรแก้ไขปัญหำ ปรับพฤติกรรม กำรส่งเสริมใน รูปแบบต่ำงๆในโรงเรียนประจำ อีกทั้งมีกำรจัดกิจกรรม กำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นให้นักเรียนได้วิเครำะห์และ ลงมือปฏิบัติจริงโดยใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลำกหลำย มีกำรบูรณำกำรเรียนรู้กับกลุ่มวิชำอื่น ๆ ตลอดจนภูมิ ปัญญำทอ้ งถนิ่ กำรพัฒนำศักยภำพของนักเรียนตำมจุดเน้นกำรพฒั นำคุณภำพผูเ้ รียน กำรจัดกำรสอนซอ่ มเสริม สำมำรถแก้ปัญหำและนำประสบกำรณ์จริงไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ไดแ้ ละอยู่ในสงั คมได้อย่ำงมคี วำมสขุ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๑๖ ผลท่ีปรากฏ : ครูรอ้ ยละ ๙๘ มีกำรวิเครำะหผ์ ู้เรียนเป็นรำยบคุ คล มกี ำรตดิ ตำม และพัฒนำ ศักยภำพนักเรียนได้ครบถ้วนทุกคน สม่ำเสมอ และนำผลมำพัฒนำนักเรียนอย่ำงต่อเน่ือง ส่งผลให้นักเรียน นักเรียนร้อยละ ๙๘ มีกำรพัฒนำให้เป็นคนดี มีอำชีพ เป็นคนเก่ง และมีควำมสขุ บรรลเุ ป้ำหมำยตำมหลักสูตร สถำนศึกษำในระดบั ดมี ำก หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 17 หน้ำ 34-35) ๑) กำรวิเครำะห์ผเู้ รยี นรำยบุคคล S.D.Q 2) สรปุ กำรเยย่ี มบ้ำนนักเรียน 2.2.2 กาหนดวตั ถุประสงค์ กรอบแนวคิดและแนวทางการจดั กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รไว้อย่าง ชัดเจน สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรูข้ องกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำผลกำรวิเครำะห์ช้อมูลจำกกำร วิเครำะห์นักเรียนมำกำหนดวัตถุประสงค์ และแนวทำงกำรจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้สอดคล้องกับ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ของกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เน้นกำรพัฒนำรอบด้ำนย มีรูปแบบกำรจัดกิจกร รมท่ี หลำกหลำย ท้ำทำย สร้ำงสรรค์ โดยมีเป้ำหมำยให้นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมอย่ำงมีควำมสุข กิจกรรมเสริม หลักสูตรที่ทำงโรงเรียนได้กำหนด ให้นักเรียนสำมำรถเลือกได้ตำมควำมสนใจ คือ กิจกรรมชุมนุม/ลดเวลำ เรียน ซึ่ง เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้เลิอกกิจกรรมตำมควำมถนัดและควำมสนใจ เน้นกำรพัฒนำ รอบด้ำน ท้ังกำรอ่ำนเขียน กำรสื่อสำร กำรคิดท่ีหลำกหลำย ทักษะกำรจัดกำรและงำนอำชีพ เพ่ือพัฒนำตำม หลัก 4 H คือด้ำนพัฒ นำสมอง (Head) ด้ำนพัฒ นำจิตใจ (Heart) ด้ำนพัฒ นำทักษะกำรปฏิบัติ (Hand) ด้ำนพัฒนำสขุ ภำพ (Health) โดยมีครูเป็นผู้ถ่ำยทอดควำมรู้และฝึกปฏิบัติอย่ำงใกล้ชิด ทำงโรงเรียนยังจดั กิจกรรมโครงงำนต่ำงๆเพื่อใหน้ ักเรียนมีส่วนร่วมในกำรคิด วิเครำะห์ และ วำงแผน แล้วดำเนินกำรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ อีกทั้งยังมีโครงกำรท่ีเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติงำนอำชีพ เช่น โครงกำรส่งเสริมอำชพี อสิ ระเพื่อกำรมรี ำยไดร้ ะหว่ำงเรยี น ของแต่ละเรือนนอน /ประจำชน้ั เรยี นหรือจัดต้ัง กลุ่ม เสนอโครงกำรเพ่ือฝึกปฏิบตั ิกระบวนกำรวำงแผนกำรทำงำนด้ำนอำชีพ ใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์และ เกิดรำยได้ระหว่ำงเรียน กิจกรรมตำมศูนย์กำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และกิจกรรม บูรณำกำรสวนพฤษศำสตร์ ในช่วงเวลำ 10.20 น-11.50 น.ในทุกๆวันพุธ นอกจำกน้ียังมีกำรจัดอบรม หลักสูตรระยะส้ันต่ำงๆ เพ่ือให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติงำนเพื่อสำมำรถนำไปใช้สร้ำงอำชีพต่อไปใน อนำคตได้ เชน่ หลักสตู รระยะสัน้ วิชำขนมไทย หลักสูตรระยะสนั้ กำรซ่อมเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ หลกั สูตรระยะ ส้ันปลูกพืชผัก หลักสูตรระยะสั้นกำรนวด ฯลฯ กิจกรรมเสรมิ หลักสูตรในวนั สำคัญต่ำงๆ โดยใหน้ ักเรียนมี ส่วนร่วม เช่น กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันสำคัญทำงพุทธศำสนำ กิจกรรมวันเฉลิมพระชนม์พรรษำ และ กจิ กรรมวนั วทิ ยำศำสตร์ เปน็ ตน้ ผลท่ีปรากฏ : ครูได้จัดกิจกรรมชุมนุม/กิจกรรมลดเวลำเรียน /โครงงำนต่ำงๆ และกำรฝึก ปฏิบัติงำนอำชีพต่ำงๆ ท่ีเน้นกำรพัฒนำรอบด้ำน ทั้งกำรอ่ำน เขียน กำรส่ือสำรและกำรคิดท่ีหลำกหลำย มี ทกั ษะกำรจัดกำร และมที กั ษะงำนอำชพี หลกั ฐานเอกสารอ้างอิง(เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 18 หนำ้ 35-39) 1) สรปุ กจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี น ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๕8-2560 ประกอบดว้ ย 1.๑) กิจกรรมชมุ นุม/ลดเวลำเรียน 1.๒) กิจกรรมชมรม 1.๓) กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนำรี (ป.๑ - ม.๖) ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวลั พระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๑๗ 1.๔) กิจกรรมแนะแนว (ป.๑ - ม.๖) 2) หลกั สตู รอำชพี ระยะสน้ั 3) ภำพกิจกรรมนกั เรียนร่วมกจิ กรรมตำ่ ง ๆ 2.2.3 มรี ูปแบบกจิ กรรมท่หี ลากหลาย ท้าทาย สร้างสรรค์ น่าสนใจ ท้ังกิจกรรมรายบุคคลและ กจิ กรรมกลมุ่ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ จดั กำรเรียนกำรสอนสำหรับเด็กดอ้ ยโอกำส ทำงกำรศึกษำ ทั้งวิชำสำมัญและเน้นด้ำนวิชำชีพเพ่ือให้นักเรียนมีควำมรู้พื้นฐำนสำหรับกำรดำรงตนในอนำคต กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนของโรงเรียนจงึ ไดเ้ น้นใหค้ รจู ัดกำรเรียนแบบบูรณำกำรเรยี นรู้กบั วิชำชีพอื่น ๆ ในรปู แบบ กิจกรรมที่หลำกหลำย ท้ำทำย สร้ำงสรรค์ น่ำสนใจ มีท้ังกิจกรรมรำยบุคคลและกิจกรรมกลุ่ม ให้นักเรียนได้ ร่วมกันวำงแผนดำเนินงำน และปฏิบัตกิ ิจกรรมตำ่ งๆให้บรรลเุ ป้ำหมำย เช่น กจิ กรรมชุมนมุ /กิจกรรมลดเวลำ เรียน กิจกรรมกำรแข่งขันกีฬำต่ำงๆภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ กิจกรรมกำรบำเพ็ญประโยชน์ใน โรงเรียนและชุมชนและเครือข่ำย กำรส่งเสริมอำชีพอิสระเพ่ือกำรมีรำยได้ระหว่ำงเรียน กำรเรียนรู้ศูนย์กำร เรยี นรูต้ ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง กำรทำโครงงำนคณุ ธรรม และกจิ กรรมวนั สำคญั ทำงพุทธศำสนำ กจิ กรรมวนั สำคญั ของชำติ ฯลฯ ผลทป่ี รากฏ : ครูจัดกำรเรยี นกำรสอนโดยกำรบรู ณำกำรเรยี นรู้กับทกุ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้อู ยำ่ ง หลำกหลำยสรำ้ งสรรค์ น่ำสนใจ ซง่ึ มที ั้งกิจรรมรำยบคุ คลและกิจกรรมกล่มุ เปน็ ประจำทกุ ภำคเรยี น ส่งผลให้ นักเรยี นร้อยละ ๙๘ ไดร้ ่วมกจิ กรรม ที่ทำงโรงเรียนไดด้ ำเนนิ กำรจนบรรลวุ ตั ถุประสงค์ หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอ้ำงองิ หมำยเลข 19 หน้ำ 40-44) 1) รำยงำนกิจกรรมเสรมิ หลักสูตรตำ่ งๆ 2) กำรสง่ เสริมอำชพี ตำมโครงกำรอำชพี เพือ่ กำรมีงำนทำประกอบด้วย - กลุ่มอำชพี กำรปลูกผกั ปลอดสำรเคมี - กลุ่มอำชีพโรงน้ำด่ืมพอเพยี ง - กลมุ่ อำชีพโรงสขี ำ้ วอนำมัย - กลมุ่ อำชพี กำรเพำะเห็ดนำงฟ้ำ - กล่มุ อำชพี กำรเลี้ยงไก่ไข่ - กลุม่ อำชีพกำรทำป๋ยุ หมักอินทรยี ์ - กลุ่มอำชีพกำรผลิตน้ำหมัก - กลมุ่ อำชพี กำรเล้ียงไส้เดือน - กลุ่มอำชพี พวงหรีดพอเพยี งเคียงสวรรค์ - กลมุ่ อำชีพตัดผมชำย - กลุ่มอำชพี เสรมิ สวย - กลุ่มอำชพี นวดแผนไทย - กลมุ่ อำชีพกำรปักผ้ำ - กลุ่มอำชพี ขนมไทย - กลุ่มอำชีพเบเกอรี่ - กลมุ่ อำชพี ผลิตอฐิ บลอ๊ ค - กลุ่มอำชพี ชำ่ งเชอื่ ม ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๑๘ 3) รำยงำนโครงกำรสง่ เสรมิ อำชีพอสิ ระเพอื่ กำรมรี ำยได้ระหวำ่ งเรยี น 4) รำยงำนกจิ กรรมบรู ณำกำรสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน 5) รำยงำนกจิ กรรมบรู ณำกำรศูนยก์ ำรเรยี นรู้ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง 6) รูปภำพรำยงำนกจิ กรรมหลกั สตู รอำชพี ระยะส้นั 7) ภำพกจิ กรรมนักเรียนในกิจกรรมต่ำงๆ 2.2.4 นกั เรียนทกุ คน ทกุ กลุ่มเป้าหมายไดป้ ฏิบตั กิ จิ กรรมอยา่ งมคี วามสุข จำกกำรจัดกิจกรรมเสรมิ หลกั สูตรที่มคี วำมหลำกหลำย โดยให้นักเรียนเลอื กเรียนได้ตำมควำม ถนัดและควำมสนใจ ทำให้นักเรียนได้คน้ พบควำมสำมำรถ ทำใหเ้ ด็กมีกำลงั ใจที่จะเรียน และช่วยใหน้ ักเรียนได้ พฒั นำตนเองในด้ำนน้ันๆมำกข้ึน และปฏิบัติกิจกรรมอยำ่ งมคี วำมสขุ โดยสะท้อนออกมำกลำยเป็นผลงำนตำ่ งๆ ท่ีน่ำช่ืนชมและเป็นผลงำนท่ีนำไปต่อยอด สร้ำงรำยได้ในอนำคต เกิดกำรยอมรับในช้ินงำนและเกิดควำม ภำคภมู ิใจในกำรนำเสนองำนท่ีตนได้ทำขึ้นมำ มกี ำรปฏิบัติกจิ กรรมทั้งเสริมแรงด้ำนบวกในรูปแบบงำนวิชำกำร งำนอำชีพ และงำนทกั ษะชีวิต ในรปู แบบโครงงำน กำรปฏิบัตจิ รงิ ในกำรทำกำรเกษตร คหกรรม อุตสำหกรรม พำณิชยกรรม มีกำรดำเนินตำมระบบทักษะกำรดำรงชีวิต 8 ทักษะ เพื่อให้นักเรียนเกิดบันไดควำมสำเร็จมี ควำมสขุ กบั ทกุ กิจกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิ ผลที่ปรากฏ : นกั เรยี น 80 % ปฏบิ ตั ิกิจกรรมอย่ำงมีควำมสขุ หลักฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 20 หน้ำ 45) 1) แบบประเมินกจิ กรรมเสริมหลกั สูตรต่ำงๆ 2) ภำพกจิ กรรมนกั เรยี นในกจิ กรรมตำ่ งๆ ๒.๒.๕ นกั เรียนมีความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ และหรือมกี ารพฒั นาต่อยอดทีช่ ัดเจน จำกกำรดำเนินกิจกรรมเสริมหลักสูตรมุ่งเน้นให้นักเรียนมีโอกำสเข้ำร่วมในกำรเรียนรู้ตำม ควำมต้องกำรและควำมสนใจ มีผลงำนเชิงสร้ำงสรรค์ของนักเรียนท่ีเกิดข้ึนหลำกหลำย มีกระบวนกำร ดำเนินงำนอย่ำงเป็นระบบ จนเกิดทักษะควำมคิดสร้ำงสรรค์ เสริมให้เกดิ กำรพัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้ที่แปลกใหม่ จนได้รับรำงวัลต่ำงๆมำกมำย ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี(วิชำคอมพิวเตอร์) ได้แก่ กำร เขียนโปรแกรมบนมำตรฐำนเปดิ พฒั นำตอ่ ยอดจนเกดิ กำรพฒั นำกำรทำงำนเกิดเป็นโปรแกรมต่ำงๆเช่นโปรแกรม เปิดปิดไฟอัตโนมัติ โปรแกรมสมำร์ทฟำร์ม กำรแข่งขันกีฑำ และกีฬำในระดับเครือข่ำยจังหวัดและประเทศ เป็นต้น จำกกระบวนกำรบ่มเพำะในกำรสร้ำงทักษะควำมคดิ สร้ำงสรรค์ แปลกใหม่ ทำให้นักเรียนเปิดโลกทัศน์ ทำงกำรเรียนร้ตู ่อยอดพฒั นำผลงำนที่ชดั เจน ผลท่ีปรากฏ : นกั เรยี นมผี ลงำนท่ีเกิดจำกกจิ กรรมเสริมหลกั สูตรทีห่ ลำกหลำย ทงั้ ในระดับเครอื ข่ำย เขตพ้นื ท่กี ำรศกึ ษำ ระดับภำคและระดบั ประเทศ หลกั ฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 21 หน้ำ 46)รำงวัลจำกผลงำนด้ำนตำ่ งๆของ นักเรยี น 1) ภำพกจิ กรรมนกั เรียนในกิจกรรมต่ำงๆ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๑๙ ๒.๓ สอ่ื เทคโนโลยเี พื่อการเรียนรู้ และแหลง่ เรียนรู้ โรงเรียนมีกำรส่งเสริมให้ครูมีกำรผลิต กำรใช้และกำรพัฒนำสื่อและเทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนรู้ อย่ำงเป็นระบบ มีกำรจัดทำโครงกำรอบรมเชงิ ปฏิบัติกำรให้ควำมรู้กับบุคลำกรด้ำนกำรใช้สือ่ เทคโนโลยีในกำร จัดกำรศึกษำ ส่งเสริมกำรมสี ่วนร่วมในกำรวำงแผน จัดหำและผลิตสอ่ื และเทคโนโลยี เพ่ือกำรเรียนรู้ ระหว่ำง สถำนศึกษำกับครูผูส้ อนและผ้ปู กครองหรอื ชุมชนครผู สู้ อนแต่ละกลุม่ สำระกำรเรียนร้รู ่วมกันวำงแผนจัดหำและ ผลิตสื่อที่ต้องกำรใช้โดยชักชวนผู้รู้ในท้องถ่ินหรือผู้ปกครองร่วมคิด และจัดทำส่ือกำรเรียนกำรสอนท่ี หลำกหลำย มรี ะบบกำรใช้และพัฒนำส่ือในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน มีระบบกำรให้บริกำรสื่อ และบำรุงรักษำ สือ่ พรอ้ มทั้งขยำยผลกำรใช้สื่อทม่ี ีคณุ ภำพเผยแพร่แก่ผสู้ นใจ พจิ ำรณำกำรดำเนนิ งำนของโรงเรียนตำมตัวบ่งชี้ แตล่ ะขอ้ ดงั ต่อไปน้ี ๒.๓.๑ รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครู นักเรียน และผู้เก่ียวข้องเกย่ี วกับความต้องการ การใช้ ส่ือ เทคโนโลยีเพ่ือการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ มีการวิเคราะห์ สรุปผลเพื่อการออกแบบ จัดหาและ ดาเนินการจดั หาและผลติ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีกำรรับฟังควำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ของครู นักเรยี น และผู้เก่ียวขอ้ ง มกี ำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ในกำรส่งเสรมิ กำรมีสว่ นร่วมในกำรวำงแผนจดั หำและผลิต ส่อื เทคโนโลยี เพ่ือกำรเรียนรู้ระหว่ำงสถำนศึกษำกับครูผู้สอน และผู้ปกครองหรอื ชุมชนครูผู้สอนแต่ละกลุ่ม สำระกำรเรียนรู้ร่วมกันวำงแผนจัดหำและผลิตสื่อท่ีต้องกำรใช้ โดยผู้รู้ในท้องถ่ินหรือผู้ปกครองร่วมคิด และ จัดทำตำมควำมเหมำะสมได้สื่อหลำกหลำยมรี ะบบกำรใชแ้ ละพฒั นำสือ่ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน มรี ะบบกำร ให้บริกำรส่ือและบำรุงสื่อและขยำยผลกำรใช้ส่ือที่มีคุณภำพเผยแพร่แก่ผู้สนใจ พิจำรณำจำกกำรดำเนินงำนของ โรงเรียนเช่น เชิญบคุ คลภำยนอกมำเป็นวทิ ยำกรให้ควำมรแู้ กน่ ักเรยี นดำ้ นตำ่ ง ๆ ผลท่ีปรากฏ : สถำนศึกษำ ครู นักเรยี น ผปู้ กครองและชุมชนมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนจัดหำ และผลิตสื่อและเทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนรู้ระหว่ำงสถำนศึกษำกับครูผู้สอนและผู้ปกครองหรือชุมชน ส่งผลให้ โรงเรียนและชุมชนไม่แปลกแยกจำกกัน ครูเป็นครูมืออำชีพ นักเรียนเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงรวดเร็วบรรลุตำม เปำ้ หมำยของหลกั สตู ร หลกั ฐานเอกสารอ้างอิง (เอกสำรอ้ำงองิ หมำยเลข 22 หนำ้ 47-48) ๑) บนั ทกึ กำรประชุมประจำเดอื น ๒) โครงกำรผลิตส่อื กำรสอนของทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ๓) ทะเบยี นแหล่งเรยี นร้ภู ำยในและภำยนอกโรงเรียน ๔) สำรสนเทศข้อมลู วิทยำกรภำยนอกโรงเรียน ๕) ภำพกำรใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในกำรพฒั นำระบบงำนวิชำกำร และงำนกิจกำรนักเรียน ๖) ภำพกำรประชมุ ประจำเดือน ๗) ภำพกำรประชุมผู้ปกครอง ๘) ภำพกิจกรรมให้ควำมรู้จำกหน่วยงำนภำยนอก ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๒๐ ๒.๓.๒ ออกแบบ วางแผน และดาเนินการจดั การและผลิตสอ่ื เทคโนโลยเี พื่อการเรยี นร้แู ละแหล่ง เรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จนผลิตส่ือ เทคโนโลยีเพือ่ การเรยี นรู้ไดด้ ี ครูผู้สอนทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ได้ดำเนินกำรออกแบบ วำงแผน และดำเนินกำรจัดหำผลิตส่ือ และเทคโนโลยีเพ่ือใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในทุกรำยวชิ ำ ส่วนมำกใช้สอื่ ที่ผลติ เกิดข้ึนอย่ำงคุ้มค่ำอีกท้ังได้มี กำรพัฒนำศึกษำวิจยั เพ่ือพัฒนำสื่อใหม้ ีประสิทธภิ ำพเหมำะกับกลุ่มผู้เรียนอยำ่ งต่อเนื่อง ซึ่งส่ือที่ผลิตขึ้นนั้นจะ สอดคล้องกบั กำรเรยี นกำรสอนของแต่ละวิชำ เพ่ืออำนวยควำมสะดวกให้แก่ครผู ู้สอนแทน และนักเรียนจะได้ เรียนรู้ได้ด้วยตนเองในด้ำนนี้ก็จะมีผลดีกับครูผู้สอน มีกำรประเมินผลกำรใช้สื่อพร้อมนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ เหมำะสมกับกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ของนักเรียน ซ่ึงเป็นสื่อท่ีผลิตขึ้นเอง สื่อท่ีใช้เทคโนโลยี ส่ือนวัตกรรมที่ นกั เรยี นเรยี นรู้ได้จำกประสบกำรณจ์ ริง ผลทีป่ รากฏ : ครรู ้อยละ๑๐๐ ทกุ กล่มุ สำระฯ ไดม้ ีกำรออกแบบ วำงแผน และดำเนนิ กำรผลิต ส่ือกำรเรียนกำรสอนเพ่ือใช้สื่อสำหรับกำรเรียนกำรสอนในทุกรำยวิชำ มีกำรทำวิจัยในช้ันเรียน มีกำรจัดทำ โครงกำรผลิตสื่อทุกกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ มีโครงกำรอบรมพฒั นำควำมรู้ดำ้ นICT ของบุคลำกร เพือ่ ใหส้ ่ือท่ีใช้มี ควำมสรำ้ งสรรค์ มปี ระสทิ ธภิ ำพ เหมำะแก่กล่มุ นกั เรียน หลักฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 23 หน้ำ 49-52) ๑) สอื่ นวัตกรรม ๒) ทะเบยี นส่ือ นวัตกรรม ๓) แผนกำรจดั กำรเรียนร้แู บบบรู ณำกำร ๔) โครงกำรผลิตสือ่ กำรสอนของทุกกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ๕) โครงกำรอบรมพัฒนำควำมรดู้ ำ้ น ICT ๖) งำนวิจยั เกยี่ วกับกำรพฒั นำสอื่ ๗) ทะเบยี นกำรใชห้ ้องปฏิบัติกำร ๘) รำยงำนผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ (SAR) ๙) ภำพกิจกรรมนกั เรียน / สภำพจรงิ ๒.๓.๓ จัดบริการบารงุ รกั ษาส่ือ เทคโนโลยีเพ่อื การเรยี นรู้ และแหลง่ เรยี นรอู้ ย่างเปน็ ระบบ โรงเรยี นรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้จดั บริกำรบำรุงรักษำสื่อ เทคโนโลยีเพื่อ กำรเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบ โดยได้กำหนดบุคลำกรผู้รับผิดชอบชัดเจน คอยให้บริกำรโครงกำร ซ่อมบำรงุ ส่อื กำรเรียนกำรสอนให้สำมำรถใช้งำนไดเ้ พยี งพอและตอ่ เนื่องตลอดปี จดั ตำรำงกำรใช้หอ้ งโสตทศั น-ศกึ ษำ ห้องปฏิบัติกำรคอมพิวเตอร์ มีเจ้ำหน้ำท่ีคอยกำกับดูแลสำรวจ หำกมีอุปกรณ์โสต หรือคอมพิวเตอร์ชำรุดก็ ดำเนินกำรซ่อมบำรุงทันที กำรให้บริกำรในด้ำนสื่อต่ำง ๆ นั้นผู้ท่ีเก่ียวข้องให้บริกำรเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อ นักเรียนมำกท่สี ดุ พจิ ำรณำจำกเอกสำรหลักฐำนดังน้ี ผลท่ีปรากฏ ร้อยละ ๑๐๐ ครู บุคลำกร และนักเรียนเข้ำใช้บริกำรห้องคอมพิวเตอร์และ ห้องสมุด และใช้เทคโนโลยีภำยในห้องเรียนสำหรับกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในทุกรำยวิชำ ครูมีกำรวำง แผนกำรใช้และซ่อมบำรงุ สื่อ เทคโนโลยี เพ่ือกำรเรียนรู้ มีกำรจัดบริกำรอย่ำงเปน็ ระบบ สะดวกในกำรนำไปใช้ ทกุ ฝำ่ ยรับรู้ และพงึ พอใจในกำรใช้บริกำรสง่ ผลให้ครู นักเรียนรู้จักใช้เทคโนโลยีได้อย่ำงสร้ำงสรรคใ์ นกำรเรียน กำรสอน และกำรเรียนรู้ ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๒๑ หลกั ฐานเอกสารอา้ งอิง(เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 24 หน้ำ 53-55) ๑) แผนงำน / โครงกำร กำรให้บริกำรส่อื ฯ / โสตทัศนปู กรณ์ ๒) ทะเบยี นส่อื ฯ โสตทัศนปู กรณ์ ๓) ทะเบยี นแหล่งเรียนรู้ในและนอกสถำนท่ี ๔) รำยงำนกำรซอ่ มบำรงุ ๕) รำยงำนกำรใช้ส่อื ฯ โสตทศั นูปกรณ์ ๖) สรุปรำยงำนควำมพึงพอใจของผ้ใู ช้บรกิ ำรสอ่ื โสตทัศนูปกรณ์ ๗) ภำพกจิ กรรมกำรใชส้ อื่ ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในห้องเรยี น ๒.๓.๔ ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูใช้ส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ ท้ังท่ีมีใน สถานศึกษาในท้องถิ่นและชุมชน ครูทกุ คนนาสอื่ ไปใช้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมาย สาระการเรียนรู้วิธกี าร จดั การเรียนรูแ้ ละวยั ของนกั เรียน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกำรส่งเสริมสนับสนุนให้ครูใช้ส่ือ เทคโนโลยีเพ่ือกำรเรียนรู้ มีกำรอบรมให้ควำมรู้บุคลำกรในกำรใช้สื่อเทคโนโลยีในกำรผลิตสื่อ และในกำร จัดกำรเรียนกำรสอน ส่งเสริมให้ครูผู้สอนใช้แหล่งเรียนรู้ภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ ส่งเสริมให้ครูภูมิ ปัญญำท้องถ่ินและหน่วยงำนต่ำงๆเขำ้ มำมรี วมร่วมในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน และให้ควำมรู้ในด้ำน ต่ำงๆ แก่นักเรยี น ผลที่ปรากฏ : ร้อยละ ๑๐๐ ครู บุคลากร ได้ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และได้รับกำรอบรมพัฒนำควำมรู้ด้ำนกำรผลิตส่ือโดยใช้เทคโนโลยี ทุกกลุ่มสำระกำรเรียนร้ไู ด้จัดทำโครงกำร ผลิตส่ือเพื่อใช้สำหรับกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ครูและนักเรียนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ท้ังภำยในและภำยนอก โรงเรียน และมีวทิ ยำกรภำยนอกโรงเรยี นมำใหค้ วำมร้ใู นด้ำนต่ำงๆใหก้ บั นกั เรียน หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 25 หน้ำ 55-57) ๑) โครงกำรพฒั นำสอ่ื ทุกกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ๒) โครงกำรอบรมใหค้ วำมรู้ด้ำน ICT ๓) ทะเบยี นกำรเผยแพร่ / กำรขอใชบ้ ริกำรสือ่ เทคโนโลยี ๔) ข้อมลู กำรเป็นวิทยำกรในดำ้ นต่ำง ๆ ๕) ทะเบยี นสื่อทผ่ี ลิตในโรงเรียน ๖) ภำพกจิ กรรมทัศนศกึ ษำ ๗) ภำพกิจกรรมกำรศกึ ษำภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ ๘) ภำพกิจกรรมสวนพฤกษศำสตร์ ๙) ภำพกิจกรรมกำรใช้แหลง่ เรยี นรู้ต่ำงๆภำยในโรงเรยี น ๒.๓.๕ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ส่ือ เทคโนโลยีเพื่อการเรยี นรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับการยอมรับ เปน็ นวตั กรรม สแู่ วดวงวิชาการผา่ นรูปแบบและวธิ ีการทคี่ วามหลากหลาย โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกำรประชำสัมพันธ์เผยแพร่สื่อ เทคโนโลยีเพื่อกำรเรยี นรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับกำรยอมรับเป็นนวัตกรรม สู่แวดวงวิชำกำรผ่ำนรูปแบบและ วธิ ีกำรท่ีควำมหลำกหลำย กำรขยำยผลกำรใช้สอื่ ทมี่ ีคุณภำพและเผยแพร่แกผ่ สู้ นใจโรงเรียนได้ดำเนนิ กำรอยำ่ ง ต่อเน่ืองและกว้ำงขวำงโดยเผยแพร่ส่ือและเทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนรู้ผ่ำนทำง Website Facebook Line ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่

ห น้ า | ๒๒ รวมถึงวำรสำรเผยแพร่ข่ำวสำรเพื่อเสนอผลงำนตลอดจนกิจกรรมต่ำง ๆ ของโรงเรียนให้กลุ่มโรงเรียน ใน จังหวัดและต่ำงจงั หวัดไดท้ รำบขำ่ วสำรเพื่อแลกเปลยี่ นควำมรู้ ผลที่ปรากฏ : ส่ือและเทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนรู้ท่ีผลิตเองได้รับกำรยอมรับ และนำไปใช้ท้ัง ระดับสถำนศึกษำ ระดับกลุ่มโรงเรียน ระดับจังหวัด ระดบั ประเทศในวงกว้ำง ครูรอ้ ยละ ๙๕ มกี ำรขยำยผลใน กำรผลิตและใช้สอ่ื ในกำรเรยี น กำรสอนแก่บุคคลอืน่ อย่ำงหลำกหลำย นักเรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนสูงขึ้น และครเู ปน็ ครูมอื อำชีพ หลกั ฐานเอกสารอ้างองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 26 หนำ้ 58-59) ๑) โครงกำรพัฒนำสือ่ ทกุ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ๒) ทะเบยี นกำรเผยแพร่ / กำรขอใช้บรกิ ำรสอื่ เทคโนโลยี ๓) ข้อมูลกำรเปน็ วิทยำกรในด้ำนกำรใชโ้ ปรแกรม ๔) ทะเบยี นส่ือท่ผี ลติ ในโรงเรียน ๕) เอกสำรรำยเผยแพร่ ประชำสมั พนั ธ์ ส่ือและนวัตกรรม ๖) เอกสำรประชำสัมพันธ์ รำยงำน / วำรสำร / แผน่ พบั ๗) Website Facebook Line ประชำสมั พันธ์ ๘) ภำพกจิ กรรมนกั เรียน / สภำพจริง ๒.4 ระบบการวัดและประเมินผล โรงเรียนได้ดำเนินกำรสร้ำงและพัฒนำแนวทำง/กระบวนกำรประเมินผลเพ่ือให้ได้ข้อมูลสำรสนเทศ เก่ียวกับนักเรียนที่ถูกต้อง ครบถ้วน มีระเบียบกำรวัดและประเมินผลที่มีครู นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วน เก่ียวข้องร่วมจัดทำ สอดคล้องกับส่ิงท่ีต้องกำรวัดและประเมิน โดยมีกำรสร้ำงและพัฒนำเครื่องมือวัดและ ประเมินผลท่ีมีคุณภำพ หลำกหลำยรูปแบบ และเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นระบบสำมำรถใช้งำนสะดวก รวดเร็ว ตรง ตำมควำมต้องกำร ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ จัดทำเอกสำรประกอบกำรวัดและประเมินผลเพ่ือสรุปรำยงำนเสนอต่อ ผูบ้ ังคับบัญชำหน่วยงำนต้นสังกัดและผู้เกี่ยวข้อง และนำผลไปใช้เพื่อพัฒนำกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของ ผู้บริหำรโรงเรียน กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูและกระบวนกำรเรียนรู้ของนักเรียน ซ่ึงโรงเรียนได้ ดำเนินกำรพัฒนำกำรวดั และประเมินผลตำมตัวบ่งชี้ แต่ละขอ้ ดงั ต่อไปนี้ ๒.๔.๑ สร้างและพัฒนาแนวทาง/กระบวนการประเมินผลเพ่ือให้ได้ข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกับ นักเรยี น กำรสร้ำงและพัฒนำกำรวัดและประเมินผล มีควำมสำคัญต่อกำรปรับปรุงกำรเรียนกำร สอนของครู ซึ่งกำรเรียนกำรสอนท่ีดี จำเป็นจะต้องมีกำรวัดและประเมินผลที่ได้มำตรฐำน เพื่อให้ได้มำซ่ึง ข้อมูลสำรสนเทศที่ได้มำตรฐำนของนักเรียน ดังน้ัน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีกำรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและพัฒนำกำรวัดและประเมินผลของโรงเรียนข้ึน อำทิเช่น กำรสร้ำง แบบทดสอบรูปแบบข้อสอบเชิงซ้อน รูปแบบข้อสอบกลุ่มสัมพันธ์ เป็นต้น ผลที่ปรากฏ : คณะครูมีกำรพัฒนำด้ำนกำรสร้ำงเครื่องมือวัดผลและประเมินผล อย่ำง ต่อเนื่องส่งผลใหน้ ักเรียนรู้จักคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ นำไปใช้ ประเมินค่ำ ได้อย่ำงถูกต้อง และมีควำมคุ้นเคย กบั แบบทดสอบระดับชำติ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่

ห น้ า | ๒๓ หลกั ฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 27 หนำ้ 60) ๑) โครงกำรวัดผลและประเมนิ ผล ๒) คู่มอื กำรวดั และประเมนิ ผล ๓) กำรจัดทำแบบทดสอบรูปแบบมำตรฐำนตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ๔) ภำพประกอบกจิ กรรม ๒.4.๒ มรี ะเบียบการวดั และประเมนิ ผลท่สี อดคล้องกับสงิ่ ที่ต้องการวดั และประเมินผล โรงเรยี นไดจ้ ดั ระบบกำรรำยงำนผลกำรเรยี นของนกั เรียน ต่อผ้ปู กครองและชุมชนทุกสน้ิ ภำค เรียน โดยได้จัดทำกำรรำยงำนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนทุกปีกำรศึกษำของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้นเพ่ือให้ นกั เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนทรำบ ขอ้ มูลมีควำมถูกตอ้ งชดั เจน สำระครบถว้ น ทกุ ฝำ่ ยเกดิ ควำมเข้ำใจร่วมกัน และม่ันใจในผลกำรเรียนท่ีนำเสนอกำรจัดทำเอกสำรหลักฐำนครบถ้วนเป็นปัจจุบัน และทำงโรงเรียนได้มีกำร ปรับปรุงและพัฒนำระบบกำรทำงำนอยู่เสมอ โดยได้จัดทำประกำศผลกำรเรียนเป็นเอกสำร ประกำศทำง Face book ทำงเว็บไซต์ของโรงเรียน ซึ่งเป็นช่องทำงหนึ่งของกำรสื่อสำรท่ีรวดเร็ว โดยโรงเรียนไดด้ ำเนินกำร อย่ำงตอ่ เน่อื งและทันเวลำ ผลที่ปรากฏ : มีกำรกำหนดนโยบำย วิธีกำร และรูปแบบกำรรำยงำนผลกำรเรียน เพ่ือให้นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนทรำบ ข้อมูลมีควำมถูกต้องชดั เจน สำระครบถ้วน ทุกฝำ่ ยเกิด ควำมเข้ำใจตรงกัน มั่นใจ ในผลกำรเรียนที่นำเสนอ จัดทำเอกสำรครบถ้วนเป็นปจั จุบนั มีกำรปรบั ปรุงพฒั นำอย่เู สมอ ผ้รู ับบรกิ ำรมีควำม พึงพอใจ จำกกำรดำเนินงำนจัดระบบกำรรำยงำนผลกำรเรียนต่อนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนดังกล่ำวที่ ทันเวลำ และต่อเนอื่ ง สง่ ผลให้ผู้ปกครองซึ่งเป็นรับบริกำร มีควำมพงึ พอใจ หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอ้ำงอิงหมำยเลข 28 หนำ้ 61) ๑) วำรสำรโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ ๒) แผ่นพบั ประชำสัมพนั ธโ์ รงเรยี น ๓) เวบ็ ไซตโ์ รงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ ๔) แบบรำยงำนผลกำรเยยี่ มบำ้ นนักเรียนเชิงรกุ ๕) ปพ.๖ ๒.4.๓ สร้างและพัฒนาเคร่ืองมือวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพ และเก็บ รวบรวมข้อมูลเป็นระบบ ใชง้ านสะดวกรวดเรว็ โ ร ง เรีย น กำห น ดให้ทุก ก ลุ่ม สำ ร ะ แล ะ ค รูทุก ค น มีก ำร ศึก ษ ำเอ ก ส ำร ก ำ ร ส ร้ำ ง เค รื่ อ ง มือ วิเครำะห์ และใช้เคร่ืองมือวัดผลประเมินผลกำรเรยี นท่ีมคี ณุ ภำพ หลำกหลำยครอบคลมุ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ทั้ง ๘ กลุ่มสำระคือกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูส้ งั คมศึกษำศำสนำและวัฒนธรรม กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ กลุ่มสำระกำร เรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี และกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ซง่ึ ได้จัดทำคู่มือกำรวัดผลประเมินผลกำรเรียนรทู้ ่ีสอดคล้องกับผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวังใช้ วิธีกำรประเมินท่ีหลำกหลำย เน้นคำถำมเชิงวิเครำะห์ สังเครำะห์และประเมินค่ำ ได้กำหนดเกณฑ์กำร ประเมินทช่ี ัดเจน มีกำรจดั ทำรำยงำนกำรใช้แผนกำรเรยี นรู้ เพ่ือวัดให้ครอบคลุมพฤตกิ รรม ทุกด้ำนของผเู้ รียน ไมว่ ำ่ ด้ำนควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำร ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม (KPA) ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๒๔ ผลที่ปรากฏ : ครูมีกำรใช้เคร่ืองมือวัดและประเมินผลผู้เรียนอย่ำงหลำกหลำย และตำมสภำพจริงของผู้เรียน ทุกกลุ่มสำระฯมีเครื่องมือวัดผลประเมินผลที่สอดคล้องกับผลกำรเรียนรู้ ท่ี คำดหวัง โดยวิธีกำรประเมินที่หลำกหลำย เน้นคำถำมเชิงวิเครำะห์ สังเครำะห์ และประเมินค่ำ มีกำรวัดผล พฤติกรรมนักเรียนครอบคลุมทุกด้ำนในสัดส่วนที่เหมำะสม ส่งผลให้นักเรียนเกิดกำรพัฒนำ ในทุกด้ำน ครูมี ระบบกำรวัดผลที่คณุ ภำพ และเหมำะสมกบั ผูเ้ รยี น หลกั ฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งองิ หมำยเลข 29 หน้ำ 62-63) ๑) หลกั สูตรสถำนศึกษำ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗-๒๕๖๐ ๒) คูม่ อื กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๓) กำรนิเทศกำรจดั กระบวนกำรเรียนกำรสอน ๔) กำรนิเทศชน้ั เรียน ๕) รำยงำนผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี น ๒.4.๔ จดั ทาเอกสารประกอบการวัดและประเมินผลเพ่ือสรปุ รายงาน เสนอต่อหนว่ ยงานต้นสงั กัด และผู้เกีย่ วข้อง กำรจัดทำเอกสำรสำรสนเทศประกอบกำรวัดและประเมินผลมีควำมสำคัญต่อกำรพัฒนำ ศักยภำพของผู้เรียนซง่ึ โรงเรยี นรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ ได้มกี ำรกำหนดให้คณะครูผู้สอนทุก คนคนจะต้องมีกำรจัดทำคะแนนเก็บนักเรียนให้เป็นปัจจุบันเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชำ และนำผลมำวิเครำะห์ นักเรียนทีค่ ำดวำ่ จะติด ๐ , ร , มส เพ่อื จะได้ป้องกันกำร ติด ๐ , ร , มส ของนกั เรยี น โดยให้มำเรียนซอ่ มเสริม หลังเลกิ เรยี น ผลท่ีปรากฏ : นักเรียนมีผลกำรเรียนดีข้ึนตำมลำดับและจำนวนนักเรียนท่ีติด ๐ , ร , มส ลดลง ส่งผลใหม้ ีนกั เรยี นจบกำรศกึ ษำพร้อมรนุ่ ทรี่ ับกำรศึกษำทุกคน หลักฐานเอกสารอา้ งอิง (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 30 หน้ำ 63) ๑) สรุปรำยงำนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี น ๒) ปพ.1 ๒.4.5 นาผลไปใช้เพื่อพัฒนากระบวนการบริหารและการจัดการ กระบวนการจัดการเรียนการ สอน และกระบวนการเรยี นรู้ ทุกส้ินภำคเรียน สิ้นปีกำรศึกษำ โรงเรียนกำหนดให้มีกำรประชุมสรุปงำนของทุกฝ่ำยเพ่ือ ร่วมกันค้นหำจุดเด่น จุดด้อย ปัญหำ อุปสรรคในกำรทำงำน พร้อมนำข้อมูล ผลกำรเรียนไปพัฒนำนักเรียน พฒั นำกำรสอน และพฒั นำหลกั สูตรอยำ่ งตอ่ เนื่อง โดยจดั ใหม้ กี ำรรำยงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของนักเรียนรำยบคุ คล ทุกระดับชั้น / ห้องเรียน ครูมีกำรจดั ทำแผนกำรสอนและมีกำรปรับปรุงแผนกำรสอนให้เหมำะสมกับนักเรียน และใช้ข้อมูลปัญหำทำงด้ำนกำรเรียนของนักเรียนสู่กำรทำวิจัยในช้ันเรียน เพ่ือพัฒนำควบคู่ไปกับกำรเรียน กำรสอน เพ่ือแก้ปัญหำ และพัฒนำใหน้ กั เรียนมีคุณภำพทำงกำรศกึ ษำ และยงั นำข้อมลู ผลกำรเรียนในภำพรวม ถกู นำไปใช้ในกำรปรับปรงุ หลักสูตรสถำนศึกษำ ๒๕๕๗ ผลที่ปรากฏ : จำกกำรท่ีโรงเรียนกำหนดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกำรร่วมคิด ร่วมทำ รว่ มประเมิน และนำผลกำรเรยี นไปพัฒนำนักเรียน พัฒนำกำรสอน และพัฒนำหลักสูตรอย่ำงตอ่ เนื่องท่มี ีกำร รำยงำนควำมก้ำวหน้ำของนักเรยี นรำยบุคคลทุกระดับช้ัน/ห้องเรียน ครูมีกำรปรับปรุงแผน กำรสอนอยูเ่ สมอ โดยใชผ้ ลกำรเรียนของนักเรยี น และผลกำรเรียนของนกั เรยี นภำพรวมก็นำไปใชใ้ นกำรพฒั นำหลกั สตู ร จำกกำร ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่

ห น้ า | ๒๕ ดำเนินงำนดังกล่ำว ส่งผลให้นักเรียนได้รับกำรพัฒนำตรงตำมศักยภำพ ครูมีกำรพัฒนำกระบวนกำรเรียน กำรสอน เป็นครูมืออำชพี และหลักสูตรไดร้ บั กำรพัฒนำเหมำะสมกับผเู้ รียนและท้องถน่ิ หลักฐานเอกสารอา้ งองิ (เอกสำรอำ้ งอิงหมำยเลข 31 หนำ้ 64-66) ๑) หลักสตู รสถำนศึกษำโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ ๒) โครงกำรยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี น ๓) โครงกำรลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ ๔) ภำพกำรนเิ ทศเย่ียมช้ันเรียน ๕) วิจัยเพือ่ พัฒนำกำรเรยี นกำรสอน ๖) แบบแสดงผลกำรประเมนิ กำรอ่ำน, กำรคิดวิเครำะหแ์ ละกำรเขยี น ๖.๑) แบบสรุปแสดงผลกำรพฒั นำคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๖.๒) สรุปผลกำรอำ่ น เขียน คดิ วเิ ครำะห์ ๗) ภำพกิจกรรม ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook