Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่-2-ทฤษฎีของสีและรูปภาพ

หน่วยที่-2-ทฤษฎีของสีและรูปภาพ

Published by Pattiya hachai, 2022-01-20 03:39:11

Description: หน่วยที่-2-ทฤษฎีของสีและรูปภาพ

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 2 ทฤษฎีของสีและรูปภาพ สาระสำคญั สีเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการออกแบบที่มีรายละเอียดที่กว้างขวางจึงได้มีการคิดค้นเป็นทฤษฎีสีไว้ เฉพาะสีไมเ่ พียงแต่ช่วยโน้มนา้ วใจชี้แจงส่งิ ทต่ี อ้ งการใหเ้ ห็นผลและเปลีย่ นอารมณเ์ ท่านนั้ แตส่ ยี ังเป็นท่ีคุน้ เคยและ รจู้ กั ของผูค้ นมาต้งั แตเ่ ด็กจนกระทงั่ เตบิ โตเป็นผู้ใหญ่ความคนุ้ เคยหนีไดก้ ลายเป็นความต้องการที่ขาดไมไ่ ด้การนำสี มาใช้นัน้ ทกุ คนต่างกส็ ามารถใชไ้ ด้ไมเ่ พยี งจำกดั อย่ใู นแวดวงของบรรดาศิลปนิ หรือช่างเขียนหากยังรวมไปถงึ ผูม้ ี วิชาชีพอืน่ ๆกย็ ังตอ้ งรจู้ ักการใชส้ ีด้วยเช่นกันแต่การจะใชอ้ ย่างผ้รู จู้ กั ใชส้ ที ่ีดีนั้นกค็ วรจะตอ้ งมคี วามรเู้ รอ่ื งของสแี ละ การใช้สเี ป็นพน้ื ฐานอยู่บา้ งเพ่ือให้การใชส้ สี ร้างความมีคุณคา่ ยิ่งขน้ึ ไปประกอบกบั ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ให้เกิด ความสวยงามนั้นกอ็ อกแบบควรไดม้ ีความรูค้ วามเข้าใจเพอื่ ทำใหก้ ารใช้สสี ำหรับการออกแบบและผลติ ผลงานออก มาอยา่ งสวยงามแลว้ มีคุณคา่ แกส่ ายตากลุ่มผอู้ ่านจงึ จำเปน็ ตอ้ งมคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั ทฤษฎสี ที ่คี รอบคลมุ ต้งั แต่ ความหมายแลว้ ความสมั พันธข์ องสีการเกิดสรี ะบบสีแนวคดิ การใช้สีตามทฤษฎีสีองค์ประกอบสีการรบั ร้คู วามรู้สึกข องกลมุ่ สแี ต่ละสีหลักการใช้สีสำหรับสรา้ งสรรค์งานศิลปะและงานออกแบบตา่ งๆตลอดจนระบบการกำหนดสีโดย ไม่ใช้และใชเ้ ครือ่ งคอมพวิ เตอร์ สาระการเรยี นรู้ 1 ความหมายของสี 2 ความสำคญั ของสี 3 การเกดิ สี 4 หลกั การใชส้ ีและแสงในคอมพิวเตอร์ 5 รปู แบบของภาพ 6 รูปแบบของไฟล์ภาพ รูปแบบของไฟลภ์ าพผลการ ผลการเรียนทค่ี าดหวงั 1 อธบิ ายความหมายของสีได้ 2 บอกความสำคญั ของสไี ด้ 3 อธบิ ายการเกดิ สีได้ 4 บอกหลักการใช้สแี ละแสงในคอมพวิ เตอร์ได้ 5 จำแนกรูปแบบของภาพได้

6 อธบิ ายรปู แบบของไฟลภ์ าพได้ ความหมายของสี สี หมายถงึ ลักษณะแสงสวา่ งปรากฏแก่ตาใหเ้ หน็ เป็นสขี าว ดำ แดง เขยี ว เปน็ ตน้ นอกจากนีส้ ีแต่ละสียงั เป็นส่ือเร้าให้เกดิ ความรสู้ กึ ทางดา้ นอารมณ์ใหแ้ ตกตา่ งกนั อกี ดว้ ย ดงั น้ันจงึ เป็นปรากฏการณ์ทางการมองเหน็ โดยมีกำลังส่องสวา่ งของแสงท่ไี ปกระทบมวลวตั ถุแล้วสะทอ้ น เขา้ ประสาทสมั ผัสทเี่ รตนิ าในดวงตาเราและสมองแปลงสภาพการรับรู้เกดิ ความเขา้ ใจตามท่ีตกลงกันของมนุษย์ เพราะการทสี่ มองทำการแปลและรับความรู้สึกของสแี ตล่ ะสีของคนแต่ละคนมันแตกต่างกันไปบา้ งทง้ั นี้ขน้ึ อย่กู บั ประสบการณแ์ ละการเรยี นรู้ของคนคนนนั้ ที่เคยเห็นสีมาก่อนหรอื อาจมสี าเหตมุ าจากความบกพรอ่ งของสายตาใน การรับคลืน่ แสง เช่น คนตาบอดสี เปน็ ต้น ความสำคัญของสี ทกุ วันเราจะมองเห็นสีตา่ งๆมากมายอยูร่ อบตัวแลว้ คงตอ้ งยอมรบั วา่ สีนน้ั เปน็ องค์ประกอบหนึ่งทสี่ รา้ งความ สะดุดตาแก่ผ้พู บเห็นแม้วา่ ตวั สีเองจะไม่ใชส่ ่ิงทีจ่ ำเป็นในชวี ติ ในด้านความเปน็ อยขู่ องมนษุ ย์แต่กม็ ีอทิ ธิพลตอ่ การดำ รงชีวิตประจำวนั อยา่ งมาก คอื สามารถแยกแยะสง่ิ ต่างๆได้ เช่น สัญญาณจราจรสีเขยี ว หมายถึง ให้ไปได้ สแี ดง หยดุ เป็นตน้ ด้วยเหตุน้ี สีจงึ มีความสำคัญแตกตา่ งตามทศั นะของบคุ คลแตล่ ะสาขาอาชพี ทจี่ ะมองบทบาทของสที จี่ ะนำไปใชใ้ นสาข านนั้ ๆเช่นสสี ำหรบั นกั วาดภาพจะหมายถึงเครอ่ื งมือทช่ี ว่ ยในการถ่ายทอดประสบการณ์ของมนษุ ย์ถ้าเปน็ นกั บริหาร การตลาดจะใช้สีเป็นเคร่อื งมอื ช่วยกระตนุ้ ใหล้ กู คา้ หรือกลุ่มเปา้ หมายเกดิ ความสนใจทอี่ ยากจะซอื้ สินคา้ สำหรบั การอ อกแบบทางการพมิ พ์สีทช่ี ่วยสร้างอารมณ์แยกแยะวัตถุและบอกขอ้ มลู ต่างๆได้เช่นการใส่สอี ่อนๆเพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้สึ กสงบเงยี บการใส่กรอบส่ีเหล่ยี มสลี อ้ มรอบรูปภาพเพ่ือท่จี ะแสดงใหเ้ ปน็ กล่มุ เดยี วกนั การพมิ พข์ ้อความสแี ดงเพ่ือให้ บอกเปน็ คำเตือนใหร้ ะวัง เป็นต้น ดังน้ันจงึ ชว่ ยเพิม่ ความสำคัญใหก้ บั งานออกแบบและผลติ สื่อสงิ่ พมิ พด์ ังตอ่ ไปน้ี ( ผกามาศ ผจญแกลว้ , 2543 หนา้ 129 ) 1 ดึงดูดความสนใจจากผู้อา่ นหรอื ผ้ทู ด่ี ู การดึงดดู ความสนใจผูอ้ า่ นนับเปน็ วัตถปุ ระสงค์หลักของการใช้สีในการออกแบบทางการพมิ พ์ การใช้สีท่ีให้เกดิ ความแตกตา่ งเปน็ หลกั การอันแรกทจ่ี ะใช้ดงึ ดดู ความสนใจได้แตจ่ ะตอ้ งใชก้ บั องคป์ ระกอบที่สำคัญ ทส่ี ดุ ต้องการเน้นและจดั วางอย่างเหมาะสมเชน่ การใช้สมี ากเกนิ ไปและการจดั วางอย่างกระจดั กระจายจะทำให้กลาย เปน็ การเบ่ยี งเบนความสนใจจากข้อมลู ซ่ึงตอ้ งการสอื่ สารได้ 2 สรา้ งความสัมพนั ธห์ รอื ความร้สู กึ ตามสภาวการณ์จรงิ

โดยธรรมชาตขิ องมนษุ ย์มกั จะนึกถึงส่ิงตา่ งๆ ให้เกีย่ วข้องกบั สภาวะของสิ่งของตา่ งๆ ท่ีมีสีน้ัน เช่น เนอ้ื สดทดี่ คี งจะมสี แี ดงถา้ ปรากฏเปน็ สีเขียวเรยี กวา่ เนอื้ ช้นิ นนั้ ไม่สดการพิมพภ์ าพดังกล่าวเป็นภาพสกี จ็ ะเพิม่ ความรู้ สึกตามสภาวะความเป็นจริงได้ใหเ้ กดิ ความสมจริงจากสถานการณท์ ่ีเกดิ ขนึ้ นอกจากนีย้ ังใชบ้ ง่ บอกความรสู้ กึ ร้อน หรือเยน็ ความเป็นทางการหรอื ไม่เป็นทางการอยา่ งไรกต็ ามความรสู้ ึกทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับสิง่ นีอ้ าจใช้ไม่ชัดเจนอย่าง แนน่ อน ทั้งนข้ี น้ึ อย่กู บั วิจารณญาณประสบการณข์ องแต่ละบคุ คล 3 ชว่ ยให้จดจำไดง้ ่าย การอธิบายบางส่งิ บางอย่างในเนือ้ หาบางคร้งั อาจใช้ประกอบสปี ระกอบในการอา้ งอิงถงึ เนือ่ งจากสสี ามารถ ทช่ี ว่ ยนักสือ่ สารใหส้ ื่อสารขอ้ มูลข่าวสารไดด้ ี และผูร้ ับข่าวสารสามารถเข้าใจข้อมลู ขา่ วสารได้ง่ายขึน้ เช่น สเี หลืองหรอื สีแดงและการใช้สีนนั้ ซำ้ ทุกครั้งก็จะเปน็ การสรา้ งอตั ลกั ษณ์ประจำใหก้ บั สินคา้ นัน้ ไดน้ อกจากน้ยี งั เปน็ การบง่ บอกว่าสสี ่วนไหนท่คี วรอ่านกอ่ นหลังเช่นการใส่ขอ้ ความท่ีจะให้อ่านกอ่ นลงขอบสีหรอื พมิ พข์ ้อความเปน็ สี 4 สร้าง สร้างบรรยากาศทีพ่ งึ พอใจ โดยต้องเลอื กใชส้ ีตามหลกั การออกแบบ เช่น ความสมดุลความกลมกลนื ความแตกตา่ งและจังหวะเป็นต้น การท่ีทำใหอ้ งคก์ รประกอบศลิ ป์ดูมกี ารเคล่ือนไหว เช่น การใช้สีส้มและสนี ำ้ เงนิ อยู่ดว้ ยกันจะดกู ลมกลนื แต่การใชส้ ีทผี่ ิดพลาดอาจทำให้แยก่ ว่าการไมใ่ ชส้ เี ลยกไ็ ด้ 5 รวมกลมุ่ หรอื แยกเนอ้ื หา บางคร้ังสอี าจจะใช้ในการรวมเนื้อหาท่เี กยี่ วขอ้ งกันเข้าด้วยกันและแยกกลมุ่ เนื้อหาที่ต่างกันออก จากกัน เชน่ สร้างกรอบพ้นื สกรีนสีสำหรับขอ้ ความหรือพิมพ์พื้นหลังทีว่ างภาพเป็นสี เพอื่ จัดให้เปน็ กลมเรอ่ื งเดียวกัน นอกจากน้ยี ังใชส้ ีในการแยกสว่ นตา่ งๆของขอ้ มูลในแผนภูมหิ รือกราฟ เพอ่ื ใหส้ ามารถเขา้ ใจในข้อมลู ชดั เจนขึ้น หรือใช้สีจัดระบบหัวข้อของเนื้อหาเช่นการใช้สีเป็นรหัสของหน่วยต่างๆของข้อมลู หนงั สอื ค่มู อื หรอื ในเอกสารฝกึ อ บรมเป็นตน้ การเกดิ สี การเกดิ สีเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ีเ่ กิดจากการกระเจิงการสะท้อนกลับและการดดู กลืนของคลื่นแสง เม่ือคลนื่ แสงเดนิ ทางผา่ นหรือกระทบวัตถใุ ดวัตถุหนึง่ ไมว่ า่ จะอย่ใู นบรรยากาศของโลกคอื สญู ญากาศนอกโลก

โดยคลื่นแสงจะมีความยาวคลื่นแสงอยู่ช่วงระหว่าง400- 700นาโนเมตรและการที่มนุษย์เกิดการมองเห็น สีเปน็ สที ี่แตกตา่ งกนั ไดน้ นั้ มาจาก 2 วธิ ดี งั นี้ (สี แสงอนิ ทร์, 2546, หนา้ 29) 1 การเกดิ สีแบบเติมเต็มๆ (additive method)เป็นการผสมผสานกนั ของแม่สีแสง 3 สเี ท่านั้นคือ สนี ำ้ เงิน สเี ขยี ว และสแี ดง ท้งั ทค่ี วามเปน็ จริงนั้นมนษุ ย์ร้จู ักสีในธรรมชาตกิ ันดคี อื สีร้งุ อันประกอบด้วยแถบสี 7 สี และการเกิดสีในลกั ษณะนไ้ี ดน้ ำไปใช้ผลติ ภาพสบี นจอโทรทัศน์ 2 การเกิดสีแบบหกั ลบ (subtractive method) เป็นการผสมสีทเี่ กิดจากสารสหี รอื วตั ถุโปร่งใส ที่มสี ีมาซ้อนกันทำให้เกิดสีใหม่ หลกั การน้ีจะมแี ม่สี 3 สคี ือ สเี หลือง สมี ่วงแดงและสีน้ำเงนิ เขยี ว ซ่งึ จะพบได้จากตวั อยา่ งของสื่อส่งิ พมิ พ์ ภาพระบายสี ฟิล์มสี และภาพขยายสี เปน็ ตน้ การผลิตสีแบบเติมเต็มสามารถให้ขอบเขตของสีกว้างและมีความบริสุทธิ์มากกว่าการผลิตสีแบบหักลบ เ พ ร า ะ ก า ร ผ ล ิ ต ส ี แ บ บ ห ั ก ล บ ม ี ข ้ อ จ ำ ก ั ด ห ล า ย ป ร ะ ก า ร เ ช ่ น 34 ห ร ื อ ผ ง ส ี ท ี ่ ใ ช ้ ใ น ฟ ิ ล์ ม หรือหมึกพิมพ์ไม่มีคุณสมบัติการดูดกลืนและสะท้อนของแสง คุณสมบัติทางแสงของกระดาษที่นำมาใช้พิมพ์ ไม่ดีเท่าที่ควร ได้แก่ ความมันวาว พร้อมขาว ความสว่าง และการดูดกลืนการสะท้อนแสงด้วยเหตุนี้จึงมี ความแตกต่างกันระหว่างสีบนจอโทรทัศน์ บนฟิล์มสไลด์บนกระดาษ ขยายรปู สี และในงานสอ่ื สง่ิ พิมพ์ หลักการใชส้ แี ละแสงในคอมพวิ เตอร์ สมี ีความสำคญั อยา่ งมากตอ่ งานกราฟกิ สีทำให้ภาพหรือส่งิ ต่างๆมีความสดใสสวยงามน่าสนใจ ในการใชส้ ีเพ่ือสื่อความหมายในงานกราฟิกควรจะไดศ้ ึกษาใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเพ่ือทจี่ ะได้นำสีไปใช้ประกอบใน งานกราฟกิ ให้งานนน้ั สามารถตอบสนองได้ตรงตามจดุ ประสงค์มากทส่ี ุดระบบสขี องคอมพวิ เตอร์ท่ีเกย่ี วข้องกบั การ แสดงผลของแสงบนจอคอมพิวเตอร์โดยมีลกั ษณะการแสดงผลคือถา้ ไมม่ ีการแสดงผลสใี ดบนจอภาพจะแสดงเปน็ สี ดำ ภาพสที ุกสีแสดงพร้อมกนั จะเหน็ สีบนจอภาพเป็นสขี าว สว่ นสอี น่ื ๆเกิดจากการแสดงสีหลายๆสี แต่มคี า่ แตกต่างกัน การแสดงผลลักษณะนี้ เรยี กว่า การแสดง 4 ระบบ Additive โดยใช้สีในงานด้านกราฟกิ ท่วั ไปมี 4 ระบบคอื 1 RGB 2 CMYK 3 HSB 4 LAB การแสดง 4 ระบบ Additives สใี นระบบ Additive ประกอบดว้ ยสีหลกั 3 สี คือ สแี ดง(Red) เขยี ว(Green) นำ้ เงนิ (Blue) เรียกรวมกนั วา่ RGB ระบบสี RGB มักจะถกู ใชส้ ำหรับการสอ่ งแสงท้ังบนจอภาพทวี แี ละจอคอมพวิ เตอร์

การแสดงสีระบบ Subtractive Color ระบบสีที่ใช้กับงานสิ่งพมิ พ์ ประกอบดว้ ย สีฟา้ (Cyan) สมี ่วงแดง(Magenta) และสีเหลอื ง(Yellow) โดยเรียกการผสมสีท้งั 3 สวี ่า “Subtractive Color” แตส่ ี CMYK ไมส่ ามารถผสมรวมกนั ให้ได้สบี างสี เช่น สีน้ำตาล จงึ ตอ้ งมีการเพม่ิ สดี ำ (Black) ลงไป ฉะน้ันเม่ือรวมกันท้ัง 4 คือระบบ CMYK การแสดงสีระบบ HSB เป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Hue คือ สีต่าง ๆ ท่อี อกมาจากวัตถุแลว้ เขา้ สู่สายตาของเรา ซงึ่ มกั จะเรยี กสีตามชื่อสี เช่น สเี ขียว สีเหลอื ง สีแดง เป็นต้น Saturation คือ ความสดของสี โดยค่าความสดของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 ถ้ากำหนด Saturation ที่ 0 สีจะมีความสดน้อย แต่ถ้ากำหนดท่ี 100 สจี ะมีความสดมาก Brightness คือระดับความสว่างของสีโดยค่าความสว่างของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง100 ถ้ากำหนดที่ 0 ความสว่างจะนอ้ ยซึง่ จะเป็นสดี ำ แต่ถา้ กำหนดท่ี 104 จะมีความสว่างมากที่สุด การแสดงสรี ะบบ LAB เป็นระบบสีที่ไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ใดๆ (Devicr lndependent)โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ “L” หรือ Luminance เป็นการกำหนดความสว่าง ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 ถ้ากำหนดที่ 0 จะกลายเป็นสดี ำ แต่ถ้ากำหนดที่ 100 จะกลายเป็นสีขาว “ A” เป็นคา่ ของสีทไ่ี ล่จากสีเขยี วไปสีแดง “B” เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีนำ้ เงินไปสเี หลือง รปู แบบของภาพ ภาพทเี่ กดิ บนจอคอมพิวเตอร์ เกดิ จากการทำงานของหมวกสี RGB ซ่ึงประกอบด้วย สแี ดง เขียว น้ำเงนิ โดยใช้หลกั การยงิ ประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่ยี นแปลงของสที ัง้ 3สมี าผสมกันทำให้เกดิ เป็นจุดสเี ล็กๆ ทีเ่ รียกวา่ พิกเซล (Pixel) โดยพิกเซลจะมหี ลายสีเม่ือนำมาวางต่อกนั จะเกิดเปน็ รูปภาพ ซ่งึ ภาพท่ีใช้กับเครื่องคอมพวิ เตอรม์ ี 2 ประเภทคอื 1 ภาพกราฟกิ แบบ raster หลงั จากการทำงานของภาพกราฟิกแบบ Raster หรือแบบ Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ หลากหลายสี ซึ่งจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆนี้เรียกว่า พิกเซล (Pixel) ในการสร้างภาพกราฟิกแบบ Raster จะต้องกำหนดจำนวนของพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถา้ จำนวนพกิ เซลนอ้ ยเมอื่ ขยายภาพให้มขี นาดใหญ่ข้นึ จะทำใหม้ องเหน็ ภาพเปน็ จดุ ส่ีเหล่ียมเล็กๆหรือถ้ากำหนดจำนว

นพิกเซลมากก็จะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่ ดังนั้นการกำหนดผิดเซลลจ์ ึงควรกำหนดให้เหมาะสมกับงานที่สร้าง คือ ถ้าต้องการใช้งานทั่วๆไปจะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 100-150 ppi (Pixel/inch) “จำนวนพิกเซลต่อ 1 ตารางนิว้ ”ถ้าเป็นงานความละเอียดเล็กนอ้ ยแฟ้มภาพมขี นาดเลก็ เชน่ ภาพสำหรับใชก้ บั เวบ็ ไซต์จะกำหนดจำนวนพิกเ ซลประมาณ 72 ppi และถา้ เป็นแบบงานพมิ พ์ เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกำหนดจำนวนพกิ เซลประมาณ 300-350 ppi เป็นต้นไฟล์นามสกุล (Extension) ของภาพกราฟิกแบบ Raster เป็น .BMP, .PCX, .TIG, .GIF, .JPG, .MSP, .PCD, PCT โปรแกรมที่ใช้สร้าง คือ โปรแกรมประเภทระบายภาพ (Painting Program) เช่น Paintbrush, Photoshop, Photostyler เปน็ ตน้ ดังน ั้น ก า รก ำ หน ดจำ น วน พิก เซล จึงค ว รก ำ หน ดให้เหม า ะ สม ก ับงา น ที่ จะ สร้า ง เช่น งานที่มีความละเอียดเล็กน้อยหรือภาพสำหรับเว็บไซต์ควรกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 72 ppi (Pixel/inchPixel คือจำนวนพิกเซลใน 1 ตารางนิ้ว) แต่ถ้าเป็นแบบงานพิมพ์ เช่น นิตยสาร ปกหนังสือ โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกำหนดประมาณ 300-350 ppi เปน็ ต้น ขอ้ ดีของภาพกราฟกิ แบบRasterคือสามารถปรบั แต่งสีตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงามซง่ึ โปรแกรมท่ีนิยมใช้ สร้างภาพกราฟฟิกแบบ Raster คอื Photoshop, Paint เป็นต้น ภาพกราฟกิ แบบ Raster เมื่อขยายจะเหน็ ภาพเปน็ จดุ สเ่ี หล่ียมเล็กๆเรียงต่อกนั ซ่งึ จดุ ส่ีเหล่ียมน้เี รียกวา่ พกิ เซล 2 ภาพกราฟิกแบบ Vector หรือ Object Oeiented หรือเรียกว่าเป็นรูปภาพ Resolution- lndependent เป็นภาพที่มีลักษณะของการสร้างจากคอมพิวเตอร์ที่มีการสร้างให้แต่ละส่วนของภาพเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิน้ ส่วนของภาพท้ังหมดออกเป็นเสน้ ตรงรูปทรงหรอื ส่วนโคง้ โดยอ้างองิ ตามความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคำนวณซึ่งมีทิศทางการลากเส้นไปในแนวต่างๆ จึงเรียกประเภท Vector Graphic หรือ Objrct Orirnted ภาพเวกเตอรน์ ้ีมขี อ้ ดคี อื สามารถเปลย่ี นแปลงขนาดโดยมคี วามละเอียดของภาพไม่ลดลงภาพสามารถเปลี่ยนแปลง หรือย้ายได้และมขี นาดของไฟล์ท่ีเลก็ กว่าพวกบติ แมปในระบบวินโดวสไ์ ฟล์รูปภาพประเภทน้คี ือพวกท่ีมีนามสกุลเ ป็น .EPS, .WMF, .CDR, .AI, .CGM, .DRW, .PLT เป็นต้น และโปรแกรมทีใ่ ช้สร้างก็คือโปรแกรมประเภทวาดรูป (Drawing Program) เชน่ CorelDraw หรอื AutoCAD บนแมคอนิ ทอช (Macintosh) ก็ไดแ้ ก่โปรแกรม lllustrator และ Macromedia Freehand หรือภาพ .wmf ซ่งึ เป็น clipart ของ Microsoft Office

ความแตกต่างของภาพกราฟกิ แบบ Raster กบั Vector ภาพกราฟกิ แบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector 1.ภาพกราฟฟกิ ทเี่ กดิ จากจุดส่ีเหลี่ยมเล็กๆหลา 1.เปน็ ภาพทเี่ กดิ จากการอา้ งอิงความสมั พันธท์ า กหลายสีทเ่ี รยี กว่าพกิ เซล(Pixel) มาเรยี งต่อ งคณติ ศาสตร์หรอื การคำนวณโดยองคป์ ระกอบ มาเรียงต่อกนั ของภาพมอี ิสระต่อกนั มาเรียงต่อกนั จนกลายเป็นรูปภาพ 2.การขยายภาพใหม้ ขี นาดใหญ่ขึ้นจะทำใหค้ วา 2.การขยายภาพใหม้ ีขนาดใหญ่ข้ึนภาพจะยังคง มละเอยี ดของภาพลดลงจึงมองเห็นภาพเปน็ จุด มีความละเอียดชดั เจนเหมือนเดมิ ส่เี หลี่ยมเล็กๆ 3.การตกแต่งและแก้ไขภาพสามารถทำได้ง่ายแ 3.เหมาะกบั งานออกแบบตา่ งๆเชน่ งานสถาปตั ละสวยงามเช่นการปรบั สผี วิ หนา้ และผิวกายให้ ย์ ออกแบบโลโก้ เป็นตน้ ขาวเนยี นขึ้น 4.การประมวลผลภาพสามารถทำไดร้ วดเร็ว 4.การประมวลผลภาพจะใช้เวลานานเนื่องจาก คำส่ังในการทำงานมาก รูปแบบของไฟลภ์ าพ ไฟลก์ ราฟกิ ท่ีสนับสนนุ ระบบอินเทอร์เนต็ ปัจจบุ นั มี 3 ไฟล์หลกั ๆ คือ - ไฟล์สกุล GIF (Graphics lnterIace File) - ไฟล์สกลุ JPG (Joint Photographer’s Group) - ไฟลส์ กลุ PNG (Portable Network Graphics) 1 .ไฟลส์ กุล GIF (Graphics Interlace File) เป็นไฟล์กราฟิกมาตรฐานทท่ี ำงานบนอินเทอรเ์ นต็ มกั จะใช้เมื่อ - ต้องการไฟล์ทมี่ ขี นาดเลก็ - จำนวนสีและความละเอียดของภาพไมส่ ูงมากนกั - ต้องการพ้นื แบบโปร่งใส

- ตอ้ งการแสดงผลแบบโครงรา่ งกอ่ นแล้วคอ่ ยแสดงผลแบบละเอยี ด - ต้องการนำเสนอภาพแบบภาพเคล่ือนไหว จุดเดน่ - มีขนาดไฟลต์ ำ่ - สามารถทำพ้นื ของภาพให้เป็นพ้ืนแบบโปร่งใสได้ - มรี ะบบแสดงผลแบบหยาบและคอ่ ยๆขยายไปสู่ละเอยี ดในระบบ Progressisve - มีโปรแกรมสนับสนุนการสรา้ งจำนวนมาก - เรยี กดูได้กับ Gra phics Browser ทกุ ตัว - ความสามารถด้านการนำเสนอภาพแบบเคลอ่ื นไหว (Gif Animation) จุดดอ้ ย - แสดงสีได้เพยี ง 256 สี 2 .ไฟล์สกลุ JPG (Joint Photographer’s Group) เปน็ อีกไฟลท์ น่ี ยิ มใชบ้ นอนิ เทอรเ์ นต็ มกั ใช้กรณี - ภาพทตี่ ้องการนำเสนอมีความละเอยี ดสูงและใชส้ ีจำนวนมาก (สนับสนนุ ถงึ 24 bit Color) - ต้องการบีบไฟล์ตามความตอ้ งการของผู้ใช้ - ไฟลช์ นิดนี้มกั ใช้กับภาพถ่ายท่นี ำมาสแกนและตอ้ งการนำไปใชบ้ นอนิ เทอร์เน็ตเพราะใหค้ วามคมชั ดและความละเอียดของภาพสงู จุดเดน่ - สนบั สนนุ สีได้ถงึ 24 bit - สามารถกำหนดคา่ การบีบรายได้ตามท่ีต้องการ - มีระบบแสดงผลแบบหยาบค่อยๆขยายไปสลู่ ะเอยี ดในระบบ Progressisve - มโี ปรแกรมสนบั สนุนการสรา้ งจำนวนมาก - เรียกดไู ด้กับ Graphics Browser ทกุ ตัว - ตั้งคา่ การบีบไฟลไ์ ด้ (compress files) จุดดอ้ ย - ทำให้พน้ื ของรูปโปรง่ แสงไมไ่ ด้ 3. ไฟลส์ กุล PNG (Portable Network Graphics) จุดเด่น

- สนบั สนุนสีไดถ้ ึงตามคา่ True Color ( 16 bit, 32 bit หรอื 64 bit ) - สามารถกำหนดคา่ การบีบไฟลไ์ ด้ตามท่ีตอ้ งการ - มรี ะบบแสดงผลแบบหยาบและคอ่ ยๆขยายไปสลู่ ะเอยี ด (Interlace) - สามารถทำพืน้ โปรง่ แสงได้ จุดดอ้ ย - หากกำหนดค่าการบีบไฟล์ไวส้ ูงจะใชเ้ วลาในการขายไฟสงู ตามไปด้วยแต่ขนาดของไฟลจ์ ะมีขนาด ตำ่ - ไม่สนับสนนุ กับ Graphics Browser รุ่นเก่า - ความละเอยี ดของภาพและจำนวน 4 ขึน้ อยูก่ ับ Video Card - โปรแกรมสนับสนนุ ในการสรา้ งมนี ้อย Transparent Feature หมายถงึ คุณลักษณะของภาพท่มี กี ารดรอ็ ป (Drop) การแสดงสีทต่ี ้องการมักจะเปน็ สีพนื้ (จริงๆ เลือกสีไดม้ ากกวา่ 1 ส)ี เพ่ือให้สที ีเ่ ลอื กโปรง่ ใส และแสดงผลตามสพี น้ื ของ Browser Interlace Ferture หมายถงึ คณุ ลกั ษณะของการแสดงผลแบบโครงรา่ ง และค่อยๆแสดงแบบละเอยี ด โดยใชห้ ลักการแทรกสอดของเส้นสีโดยปกติการแสดงผลภาพบนอนิ เทอร์เนต็ จะแสดงผลและจากขอบบนของภาพจ นถงึ ขอบลา่ ง ซง่ึ มักจะแสดงผลช้ามาก เพราะต้องรอให้แตล่ ะสว่ นแสดงผลครบทกุ ความละเอียด แต่ดว้ ยเทคนคิ การแทรกสอดภาพจะแสดงแบบเต็มรูปแตแ่ สดงผลแบบหยาบๆคล้ายๆกับการแสดงผลแบบเบลอแลว้ ค่อยๆชัดเจนข้ึนตามเวลาทำใหผ้ ใู้ ชเ้ ห็นภาพโครงรา่ งก่อนหากไม่พอใจจะดกู ็สามารถขา้ มขัน้ ตอนการแสดงผลไดเ้ ลย ทันที เทคนิคนี้จะอาศัยการแสดงผลของเสน้ สีทีละเส้นใหแ้ สดงผลแทรกสอดกันไปเรอ่ื ยๆจนครบทกุ เส้น การนำเสนอแบบโครงรา่ ง (Progressive)การนำเสนอแบบโครงร่างของ ไฟล์ .JPG แตกต่างกบั ไฟล์ .GIF คอื อาศัยการแสดงผลแบบโครงร่างดว้ ยภาพความละเอยี ดตำ่ แผนการนำเสนอแบบเสน้ สลี ักษณะของภาพแบบนจ้ี งึ จะ แสดงผลโดยมีลกั ษณะของภาพโครงร่างช่างภาพทม่ี จี ดุ ของภาพเบลอๆ แล้วคอ่ ยๆกระจายจุดภาพใหเ้ ตม็ ทั้งภาพ การแสดงภาพแบบ Gif Interlace ระยะที่ 4รปู แบบในการจัดเกบ็ ขอ้ มลู ของภาพมีหลายรปู แบบอน่ื ๆอีกดังนี้ 1 BMP Window bitmap เปน็ รปู แบบพื้นฐานท่ีใช้งานได้ดกี บั โปรแกรมทที่ ำงานภายใต้Windowไฟล์BMPที่เหน็ บอ่ ยๆคอื ภาพวอลเปเ

ปอรท์ ี่แสดงบนจอภาพของ Window โดยสามารถแสดงได้ตั้งแต่ 2, 16, 256 และ 16 ลา้ นสี CGM computer Graphic Metafileเปน็ มาตรฐานสากลสำหรับการแลกเปลยี่ นไฟล์ดา้ นกราฟิกไปยังเครื่องทีม่ รี ะบบแตกตา่ งกัน 2 EPS Encapsulated PostScript เป็นรูปแบบที่ใช้กับงานประเภท Desktop Publishing หรืองานเกี่ยวกับการจัดหน้า เช่น Page Maker โ ด ย ใ ช ้ ก ั บ เ ค ร ื ่ อ ง พ ิ ม พ ์ แ บ บ Post Script เ ท ่ า น ั ้ น ไ ฟ ล ์ E P S น ี ้ เ ม ื ่ อ น ำ ม า ย ่ อ - ข ย า ย จะไมท่ ำให้ภาพสูญเสียความคมชัดเนอ่ื งจากมคี วามละเอียดสงู 3 JPX Joint PHotographic Experts Group ใชก้ ารบีบขอ้ มูลทำให้ไฟลภ์ าพมีขนาดเล็กแตจ่ ะทำใหค้ วามคมชัดของภาพลดลงไปด้วยไฟล์ภาพหนา้ สามาร ถแสดงสีไดส้ ูงสดุ ถงึ 16 ลา้ นสไี ฟล์รูปแบบ JPEG จะมีขนาดเลก็ กวา่ ไฟล์รปู แบบ GIF มาก 4 PCX Z - Soft Paintbrush Format ใช้ได้กับเครื่อง PC เท่านั้นโปรแกรมกราฟิกส่วนใหญ่จะสนับสนุนรูปแบบ PCX ขนาดของไฟล์มีขนาดใหญม่ ากและจะทำงานได้ดีกับ 16 หรือ 32 สี 5 TIFF Tagged Image File Format ไฟลแ์ บบ TIFF เปน็ รปู แบบทมี่ ีคณุ ภาพความคมชัดของภาพสูงทส่ี ดุ ไมว่ ่าจะยอ่ หรอื ขยายภาพคุณภาพทีแ่ สดงก็ยังคงเดิมแต่ จะมขี นาดใหญ่เน่ืองจากมีการรวมเอาขอ้ มลู จากบติ แมปวนั ทีแ่ ละเวลาท่ีไฟลถ์ กู สรา้ งรวมทั้งซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ช้ 6 WMF Windows MetaFile ไฟล์ WMF นม้ี ีข้อเสียคือไม่คอ่ ยมปี ระสิทธภิ าพในการเก็บภาพแสดงภาพได้ไมถ่ กู ตอ้ งแต่สามารถใชไ้ ด้ทงั้ กบั โปรแกรม แบบเวกเตอร์และแบบบติ แมป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook