ปราศจากสงิ่ เสพตดิ 3 หมายถงึ โรงเรยี นปราศจากสอื่ หรือสงิ่ ของท่ีส่งเสริมให้นักเ อบายมุข สง่ิ มอมเมา สิง่ มอมเมาตา่ งๆ โดยมวี ัด ผู้ปกครอง รว่ มกันดาเนินงานอย่าง ทกุ ชนดิ 2 หมายถึง โรงเรียนปราศจากสื่อ หรือสิ่งของท่ีส่งเสริมให้น หรอื สิ่งมอมเมาต่างๆ โดยผปู้ กครอง รว่ มกันดาเนนิ งานอย่างต 1 หมายถึง โรงเรยี นปราศจากส่ือ หรอื สิ่งของท่สี ง่ เสรมิ ใหน้ ักเ ส่งิ มอมเมาตา่ งๆ โดยมีการดาเนนิ งานอยา่ งตอ่ เน่ืองทุก ปกี าร มำตรฐำนท่ี 2 ด้ำนกระบวนกำร (Process) องค์ประกอบ ขอ้ บ่งชี้คุณภ ตวั ช้วี ดั องค์ประกอบหลกั ท่ี 2.1 กำรเรียนกำรสอนทีบ่ รู ณำกำรไตรสิกขำ องคป์ ระกอบยอ่ ยที่ 2.1.1 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 2.1.1.1 4 หมายถึง ครูจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการ หรือสอดแทรก จัดการเรยี นร้โู ดยบูรณา เรยี นรู้และสง่ เสริมใหน้ ักเรียนนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน การพุทธธรรมหรือหลกั ไตรสิกขาในทกุ กล่มุ 3 หมายถึง ครูจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการ หรือสอดแทรกห สาระการเรียนรูแ้ ละ เรียนรู้และสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน เชื่อมโยงกับ 2 หมายถึง ครูจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการ หรือสอดแท ชวี ิตประจาวัน การเรยี นรแู้ ละส่งเสริมให้นักเรยี นนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
39 เรียนกระตุ้นหรือต้องการส่งิ เสพติดและอบายมุข หรอื งต่อเนอ่ื งทุก ปีการศกึ ษา นักเรียนกระตุ้นหรือต้อ งการส่ิงเสพติดและอบายมุข ตอ่ เนอื่ งทุก ปกี ารศึกษา เรียนกระต้นุ หรือตอ้ งการสงิ่ เสพติดและอบายมุข หรอื รศึกษา ภำพ ระดบั องค์ประ ข้อ ระดบั คณุ ภำ กอบ บ่งช้ี คุณภำ พ ตัวช้ีวัด คณุ ภำ พ พ กหลักพุทธธรรม หลักไตรสิกขาในทุกกลุ่มสาระการ หลักพุทธธรรม หลักไตรสิกขา 5-7 กลุ่มสาระ การ ทรกหลักพุทธธรรม หลักไตรสิกขา 3-4กลุ่มสาระ
ตัวชวี้ ัดที่ 2.1.1.2 1 หมายถึง ครูจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการ หรือสอดแท สง่ เสริมใหม้ กี ารนา การเรียนรู้และสง่ เสริมใหน้ กั เรียนนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน หลักธรรมมาเป็น ฐานในการคิด 4 หมายถึง ครูร้อยละ 90-100 จัดกิจกรรมการเรียนการสอน วิเคราะห์และ วเิ คราะห์ ตดั สินใจ และแก้ปัญหาตา่ งๆท่เี กิดขึน้ ในการดาเนนิ แก้ปญั หา 3 หมายถึง ครูร้อยละ 80-89 จัดการเรียนการสอนท่ีส่งเสร ตดั สนิ ใจ และแก้ปญั หาตา่ งๆทเ่ี กิดขน้ึ ในการดาเนนิ ชวี ติ อย่างส 2 หมายถึง ครูร้อยละ 70-79จัดการเรียนการสอน ที่ส่งเสร ตดั สินใจ และแก้ปญั หาตา่ งๆที่เกิดในกาดาเนินชีวติ อยา่ งสมา่ เ 1 หมายถงึ ครูร้อยละ 60 –69 จัดการเรียนการสอน ทีส่ ่งเสร ตดั สินใจ และแกป้ ัญหาต่างๆท่ีเกิดขึ้นในการดาเนินชวี ิตอย่าง ตัวชี้วดั ที่ 2.1.1.3 4 หมายถึง ครูร้อยละ 90-100 จัดกระบวนการเรียนการส จัดการเรยี นรู้ที่ แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง หรอื มอบหมายให้ค้นคว้าจากแหล สง่ เสริมการใฝร่ แู้ ละ 3 หมายถงึ ครูร้อยละ 80-89 จัดกระบวนการเรียนการสอนเ แสวงหาความรู้ด้วย แสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ค้นควา้ จากแหล ตนเอง 2 หมายถึง ครูร้อยละ 70-79 จดั กระบวนการเรยี นการสอน แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง หรือมอบหมายให้ค้นควา้ จากแหล 1หมายถึง ครูร้อยละ 60-69 จดั กระบวนการเรยี นการสอนเ แสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ค้นควา้ จากแหล ตัวชี้วดั ที่ 2.1.1.4 4 หมายถึง ครูร้อยละ 90-100 จัดบรรยากาศการเรียนรู้โด จัดการเรียนรูอ้ ย่างมี ถนดั ในการเรียนรู้ มีความเมตตา และอ่อนโยน ส่งผลให้นกั เรยี ความสขุ ทัง้ ผูเ้ รียนรู้ 3 หมายถึง ครูร้อยละ 80- 89 จัดบรรยากาศการเรียนรู้โด และผูจ้ ัดการเรยี นรู้ ถนัดในการเรยี นรู้ มคี วามเมตตา และอ่อนโยน ส่งผลใหน้ ักเรยี
40 ทรกหลักพุทธธรรม หลักไตรสิกขา 1-2กลุ่มสาระ นที่ส่งเสริมให้นักเรียนนาหลักธรรมมาใช้ใน การคิด นชวี ติ อย่างสมา่ เสมอและตอ่ เน่ือง ริมให้นักเรียนนาหลักธรรมมาใช้ในการคิดวิเคราะห์ สม่าเสมอและต่อเนอื่ ง ริมให้นักเรียนนาหลักธรรมมาใช้ในการคิดวิเคราะห์ เสมอและตอ่ เน่ือง รมิ ใหน้ กั เรยี นนาหลักธรรมมาใช้ในการคดิ วเิ คราะห์ งสม่าเสมอและต่อเนื่อง สอนเพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนใฝ่รู้ รักการเรียนรู้ และ ล่งความร้ตู ่าง ๆ เพ่ือส่งเสริมให้นกั เรยี นใฝ่รู้ รกั การเรียนรู้ และ ล่งความร้ตู า่ ง ๆ นเพอื่ สง่ เสริมใหน้ ักเรียนใฝร่ ู้ รกั การเรียนรู้ และ ล่งความร้ตู ่าง ๆ เพอ่ื สง่ เสริมให้นักเรียนใฝร่ ู้ รักการเรียนรู้ และ ล่งความรู้ตา่ ง ๆ ดยให้นักเรียนมีโอกาสเลือกตามความสนใจและความ ยน และครมู คี วามสุขในการเรยี นรู้อยู่เสมอ ดยให้นักเรียนมีโอกาสเลือกตามความสนใจและความ ยน และครมู คี วามสุขในการเรยี นรู้อยเู่ สมอ
2 หมายถึง ครูร้อยละ 70- 79 จัดบรรยากาศการเรียนรู้โด ถนดั ในการเรียนรู้ มคี วามเมตตา และออ่ นโยน ส่งผลใหน้ กั เรยี 1 หมายถึง ครูร้อยละ 60- 69 จัดบรรยากาศการเรียนรู้โด ถนดั ในการเรยี นรู้ มีความเมตตา และออ่ นโยน สง่ ผลใหน้ กั เรยี ตัวชีว้ ัดท่ี 2.1.1.5 4 หมายถึง ครูร้อยละ 80-100 จัดกิจกรรมบริหารจิตเจริญ จัดกิจกรรมบรหิ าร สง่ เสริมใหน้ าไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ต่าง ๆ จติ เจรญิ ปัญญา ทง้ั 3 หมายถงึ ครูรอ้ ยละ 80-89 จัดกิจกรรมบริหารจิตเจรญิ ปัญ ในการเรียนการสอน และสง่ เสริมใหน้ าไปใช้ในชีวิตประจาวันตา่ ง ๆ และในกจิ กรรมการ 2 หมายถงึ ครูรอ้ ยละ 70-79 จดั กิจกรรมบริหารจติ เจรญิ ปญั ดารงชวี ิตประจาวนั และสง่ เสริมให้นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ตา่ ง ๆ 1 หมายถึง ครูร้อยละ 60-69 จัดกจิ กรรมบรหิ ารจิตเจรญิ ปญั และส่งเสรมิ ใหน้ าไปใช้ในชีวิตประจาวนั ตา่ ง ๆ องค์ประกอบยอ่ ยท่ี 2.1.2 กำรใช้สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2.1.2.1 4 หมายถึง ครูร้อยละ 90-100 ใช้ส่ือที่หลากหลายและเหม ใชส้ ื่อการเรยี นรทู้ ่ี แสวงหาความรู้ด้วยตนเองอยู่เสมอ เช่น ส่ือที่นักเรียนสนใจ สง่ เสริม การใฝร่ ู้ การสบื ค้น การเลอื กขอ้ มลู และแสวงหาความรู้ 3 หมายถึง ครูร้อยละ 80-89 ใช้ส่ือท่ีหลากหลายและเหมา ด้วยตนเองอยเู่ สมอ แสวงหาความรู้ด้วยตนเองอยู่เสมอ เช่น สื่อที่นักเรียนสนใจ การสบื คน้ การเลือกข้อมลู 2 หมายถึง ครูร้อยละ 70-79 ใช้สื่อท่ีหลากหลายและเหมา แสวงหาความรู้ด้วยตนเองอยู่เสมอ เช่น สื่อที่นักเรียนสนใจ การสบื ค้น การเลือกขอ้ มูล
41 ดยให้นักเรียนมีโอกาสเลือกตามความสนใจและความ ยน และครูมีความสุขในการเรียนรู้อยเู่ สมอ ดยให้นักเรียนมีโอกาสเลือกตามความสนใจและความ ยน และครูมีความสุขในการเรยี นรูอ้ ยเู่ สมอ ญปัญญาก่อนการเรียนหรือก่อนจัดกิจกรรมต่างๆและ ญญาก่อนการเรียนการสอนหรอื ก่อนจัดกิจกรรมต่างๆ ญญาก่อนการเรียนการสอนหรือก่อนจัดกิจกรรมต่างๆ ญญาก่อนการเรียนการสอนหรอื ก่อนจดั กิจกรรมต่างๆ มาะสมที่ส่งเสริมให้นักเรียนใฝ่รู้และรักการเรียน และ จ และสื่อที่นักเรียนต้องแสดงพฤติกรรมการเข้าหาสื่อ าะสมที่ส่งเสริมให้นักเรียนใฝ่รู้และรักการเรียน และ จ และสื่อที่นักเรียนต้องแสดงพฤติกรรมการเข้าหาสื่อ าะสมที่ส่งเสริมให้นักเรียนใฝ่รู้และรักการเรียน และ จ และสื่อท่ีนักเรียนต้องแสดงพฤติกรรมการเข้าหาสื่อ
1หมายถึง ครูร้อยละ 60-69 ใช้ส่ือที่หลากหลายและเหมา แสวงหาความรู้ด้วยตนเองอยู่เสมอ เช่น ส่ือท่ีนักเรียนสนใจ การสืบค้น การเลอื กข้อมลู ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2.1.2.2 4 หมายถึง มกี ารนิมนตพ์ ระสงฆม์ าสอนพทุ ธศาสนาให้แก่นกั นมิ นตพ์ ระสงฆ์ หรือ ปญั ญาทางพระพทุ ธศาสนามาใหค้ วามรู้ หรอื มาจดั กจิ กรรมให เชิญวทิ ยากรภูมิ 3 หมายถงึ มกี ารนิมนต์พระสงฆม์ าสอนพุทธศาสนาให้แก่นัก ปญั ญาทางพทุ ธ หรือเชิญวิทยากรภูมิปัญญาทางพระพุทธศาสนามาให้ความร ศาสนา สอน เดือนต่อ 1 คร้งั นกั เรียนสมา่ เสมอ 2 หมายถึง มีการนมิ นต์พระสงฆ์มาสอนพุทธศาสนาใหแ้ ก่นัก หรือเชิญวิทยากรภูมิปัญญาทางพระพุทธศาสนามาให้ความร เดอื นตอ่ 1 คร้ัง 1 หมายถึง มีการนิมนต์พระสงฆ์มาสอนพุทธศาสนาให้แก่น หรอื เชิญวิทยากรภมู ิปญั ญาทางพระพุทธศาสนามาให้ความรู้ เรียนละ 1 ครง้ั ตวั ช้วี ัดที่ 2.1.2.3 4 หมายถงึ โรงเรยี นมวี ัด หรือศาสนสถาน ทใ่ี ชเ้ ปน็ แหล่งเรยี จัดให้นกั เรียนไป นกั เรียนไปเรยี นรู้อยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละ 1 ครั้ง เรยี นรูท้ ีว่ ดั หรอื 3 หมายถึง โรงเรียนมวี ัด หรอื ศาสนสถาน ทใ่ี ช้เป็นแหล่งเรยี ท่ีศาสนสถานที่ใช้ นกั เรียนไปเรียนรอู้ ย่างน้อย 2 สปั ดาห์ตอ่ 1 คร้ัง แหล่งเรยี นรู้ประจา 2หมายถงึ โรงเรียนมวี ัด หรือ ศาสนสถาน ทใี่ ช้เปน็ แหล่งเรยี ของโรงเรยี นอยา่ ง นักเรยี นไปเรยี นรู้น้อย 3 สปั ดาห์ต่อ 1 ครง้ั ตอ่ เนอ่ื ง 1 หมายถงึ โรงเรียนมีวัด หรอื ศาสนสถาน ที่ใช้เป็นแหล่งเรีย ให้นกั เรยี นไปเรยี นรูน้ อ้ ย 4 สัปดาห์ต่อ 1 ครงั้
42 าะสมที่ส่งเสริมให้นักเรียนใฝ่รู้และรักการเรียน และ จ และส่ือที่นักเรียนต้องแสดงพฤติกรรมการเข้าหาสื่อ กเรยี นตามตารางสอนทุกสัปดาห์ หรอื เชญิ วิทยากรภูมิ หน้ ักเรียนไดเ้ รยี นรเู้ ดือนละอย่างน้อย 1 ครง้ั กเรียนตามตารางสอนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 2 คร้ัง รู้ หรือมาจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนร้อู ย่างน้อย 2 กเรียนตามตารางสอนอย่างน้อย 3 สปั ดาห์ต่อ 1 ครง้ั รู้ หรือมาจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างน้อย3 นักเรียนตามตารางสอนอย่างน้อย4สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง หรอื มาจัดกิจกรรมให้นักเรยี นไดเ้ รียนรู้อย่างน้อยภาค ยนรู้ประจาโรงเรียน และมีการจดั กิจกรรมท่สี ่งเสริมให้ ยนรู้ประจาโรงเรยี น และมีการจดั กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ ให้ ยนร้ปู ระจาโรงเรียน และมกี ารจัดกจิ กรรมที่ส่งเสริมให้ ยนรูป้ ระจาโรงเรยี นแต่ไมไ่ ด้มีการจัดกจิ กรรมทีส่ ่งเสริม
องคป์ ระกอบยอ่ ยท่ี 2.1.3 กำรวัดประเมินผล ตวั ชีว้ ัดท่ี 2.1.3.1 4 หมายถงึ ครูร้อยละ 90-100 มกี ารวัดประเมินผลตามสภ มีการวัดประเมนิ ผล สามารถวดั ได้ครอบคลุม ทัง้ ด้านพฤติกรรมที่มีต่อสิง่ แวดล้อม ตามสภาพจริง ด้วย ด้านคณุ ลกั ษณะของจติ ใจ (จิต) และดา้ นปญั ญาที่มคี วามคิด ค วิธกี ารที่หลากหลาย มาใช้ในการพฒั นานักเรยี นอย่างตอ่ เน่ือง ครอบคลุมตามหลกั 3 หมายถงึ ครูร้อยละ 80-89 มีการวัดประเมินผลตามสภาพ ภาวนา 4 (กาย ศลี วัดได้ครอบคลมุ ทงั้ ดา้ นพฤติกรรมท่มี ตี ่อส่ิงแวดล้อม (กาย) ด จิต ปญั ญา) โดยมี จิตใจ (จติ ) และด้านปญั ญาท่ีมีความคิด ความร้ทู ีถ่ ูกต้อง และ จุดประสงค์เน้นเพ่ือ นักเรยี นอย่างตอ่ เนื่อง พัฒนานกั เรยี น 2 หมายถงึ ครรู ้อยละ 70-79 มีการวัดประเมินผลตามสภาพ ตอ่ เนอื่ ง วดั ไดค้ รอบคลมุ ทั้งดา้ นพฤติกรรมที่มตี ่อสง่ิ แวดล้อม (กาย) ด จิตใจ (จิต) และด้านปญั ญาที่มีความคิด ความรทู้ ีถ่ ูกต้อง และ นกั เรยี นอยา่ งตอ่ เน่ือง 1 หมายถึง ครรู ้อยละ 60-69 มกี ารวัดประเมนิ ผลตามสภาพ ไดค้ รอบคลมุ ท้ังด้านพฤติกรรมทม่ี ตี ่อส่งิ แวดลอ้ ม (กาย) ด้าน จติ ใจ (จติ ) และด้านปญั ญาท่ีมีความคิด ความรทู้ ีถ่ ูกต้อง และ นักเรยี นอย่างต่อเน่ือง องค์ประกอบที่ 2.2 บรรยำกำศและปฏสิ ัมพนั ธท์ ีเ่ ปน็ กลั ยำณมติ ร องค์ประกอบยอ่ ยท่ี 2.2.1 บรรยำกำศ ปฏสิ มั พันธท์ ่สี ่งเสริมกำรสอนใหร้ ู้ ทำให้ดู ตัวชวี้ ดั ท่ี 2.2.1.1 4 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนให้ครู น สง่ เสริม อยา่ งเปน็ กัลยาณมิตร มีความรักปรารถนาดี ชว่ ยเหลอื กัน ยิ้ม ความสัมพนั ธแ์ บบ และกนั มีเมตตาตอ่ กนั ทั้งครูตอ่ นักเรยี นครูต่อครู นักเรยี นต่อน
43 ภาพจริง โดยวิธกี ารและเคร่ืองมือท่หี ลากหลาย (กาย) ดา้ นพฤติกรรมทมี่ ตี ่อคนอน่ื (ศลี ) ความรทู้ ถี่ ูกตอ้ ง และนาขอ้ มูลจากการวัดประเมินผล พจริง โดยวิธกี ารและเครื่องมือที่หลากหลาย สามารถ ดา้ นพฤติกรรมท่ีมีต่อคนอ่ืน (ศลี ) ด้านคณุ ลักษณะของ ะนาข้อมูลจากการวัดประเมินผลมาใช้ในการพัฒนา พจริง ใชว้ ธิ กี ารและเครอ่ื งมือทห่ี ลากหลาย สามารถ ดา้ นพฤติกรรมท่ีมีต่อคนอ่ืน (ศลี ) ด้านคณุ ลักษณะของ ะนาข้อมลู จากการวัดประเมินผลมาใช้ในการพฒั นา พจรงิ ใช้วธิ กี ารและเคร่ืองมือท่ีหลากหลายสามารถวดั นพฤติกรรมที่มีตอ่ คนอน่ื (ศลี ) ดา้ นคุณลกั ษณะของ ะนาข้อมลู จากการวัดประเมินผลมาใช้ในการพฒั นา อย่ใู ห้เห็น นักเรียน ผู้ปกครอง มีความสัมพันธ์ หรือปฏิบัติต่อกัน มแยม้ แจ่มใส ออ่ นน้อมถ่อมตน เคารพให้เกียรติซ่ึงกัน นักเรยี น อย่างนอ้ ยเดอื นละ 1 คร้งั
กลั ยาณมติ ร อ่อน 3 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนให้ครู น นอ้ มถ่อมตน เคารพ อย่างเปน็ กัลยาณมิตร มีความรกั ปรารถนาดี ชว่ ยเหลือกัน ยมิ้ ให้เกยี รตซิ งึ่ กันและ และกันมีเมตตาต่อกันท้งั ครตู อ่ นักเรยี น ครูตอ่ ครู นกั เรียนตอ่ น กนั ยิม้ แย้มมเี มตตา 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนให้ค ต่อกัน ทั้งครูต่อ กัลยาณมิตร มีความรักปรารถนาดี ช่วยเหลือกัน ยิ้มแย้มแจ่ม นกั เรยี น ครตู อ่ ครู เมตตาต่อกนั ทั้งครูตอ่ นกั เรยี น ครูตอ่ ครู นกั เรียนตอ่ นกั เรยี น นักเรยี นต่อนักเรยี น 1 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนให้ครู น และครูต่อผู้ปกครอง อยา่ งเป็นกัลยาณมติ ร มคี วามรกั ปรารถนาดี ช่วยเหลือกัน ยิม้ และกนั มเี มตตาตอ่ กนั ท้ังครตู ่อนักเรยี น ครตู ่อครู นกั เรยี นต่อน ตวั ชีว้ ดั ที่ 2.2.1.2 4 หมายถึงโรงเรียนจดั บรรยากาศทีส่ ่งเสริมให้ทุกคนรักการเร สง่ เสริมบรรยากาศ ให้ศึกษาค้นคว้าหรือคิดพัฒนาสิ่ง ใหม่ ๆ จัดกิจกรรมส่งเสร ใฝ่ ใฝเ่ รยี น ใฝ่ สัปดาหล์ ะ 1 คร้ัง สร้างสรรค์ 3 หมายถึง โรงเรียนจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ทุกคนรักก กระตุ้นให้ศึกษาค้นคว้าหรือคิดพัฒนาส่ิง ใหม่ ๆ จัดกิจกรรม น้อย 2 สปั ดาห์ตอ่ 1 คร้ัง 2 หมายถึง โรงเรียนจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ทุกคนรักก กระตุ้นให้ศึกษาค้นคว้าหรือคิดพัฒนาสิ่ง ใหม่ ๆ จัดกิจกรรม นอ้ ยเดือนละ 1 ครั้ง 1 หมายถึง โรงเรียนจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ทุกคนรักก กระตุ้นให้ศึกษาค้นคว้าหรือคิดพัฒนาสิ่ง ใหม่ ๆ จัดกิจกรรม นอ้ ยภาคเรยี นละ 1 ครง้ั ตัวช้ีวดั ที่ 2.2.1.3 4 หมายถงึ โรงเรียนจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ให้บุคคลากรและนัก ส่งเสริมบุคลากร อย่างต่อเนื่องโดยมกี จิ กรรมท่ีมคี วามหลากหลาย เช่น กจิ กรร และนักเรยี น ให้ นอ้ ง ๆ อย่างนอ้ ยสปั ดาห์ละ 1 ครง้ั
44 นักเรียน ผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ หรือปฏิบัติต่อกัน มแย้มแจ่มใส ออ่ นน้อมถ่อมตน เคารพให้เกยี รติซ่ึงกัน นกั เรยี น อยา่ งน้อย 2 เดอื นตอ่ 1 ครงั้ ครู นักเรียน ผู้ปกครองหรือปฏิบัติต่อกันอย่างเป็น มใส อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพให้เกียรติซ่ึงกันและกันมี อย่างน้อยภาคเรยี นละ 1 ครงั้ นักเรียน ผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ หรือปฏิบัติต่อกัน มแยม้ แจ่มใส ออ่ นน้อมถ่อมตน เคารพให้เกียรติซ่ึงกัน นักเรียน อยา่ งนอ้ ยปีการศกึ ษาละ 1 ครงั้ รียนรู้ เรียนรู้ ใฝ่สร้างสรรค์อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และกระตุ้น ริมยกย่องเชิดชูครู และนักเรียนท่ีมีผลงานอย่างน้อย การเรียนรู้ เรียนรู้ ใฝ่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง และ มส่งเสรมิ ยกย่องเชิดชูครู และนักเรียนท่ีมีผลงานอยา่ ง การเรียนรู้ เรียนรู้ ใฝ่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง และ มส่งเสรมิ ยกย่องเชิดชคู รู และนักเรียนท่ีมีผลงานอย่าง การเรียนรู้ เรียนรู้ ใฝ่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง และ มส่งเสริมยกย่องเชดิ ชคู รู และนักเรียนท่ีมีผลงานอยา่ ง กเรยี น ปฏบิ ัตติ นเป็นตัวอย่างที่ดีต่อผู้อน่ื รมต้นแบบความดี กิจกรรมกระต้นุ พ่ีเป็นแบบอยา่ งแก่
ปฏบิ ัติตนเปน็ 3 หมายถงึ โรงเรยี นจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ ให้บุคคลากรและนัก ตัวอย่างที่ดีต่อผอู้ ่นื อย่างต่อเน่อื งโดยมีกิจกรรมท่ีมคี วามหลากหลาย อยา่ งน้อย 2 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมให้บุคคลากร อย่างต่อเน่อื งโดยมีกจิ กรรมท่ีมีความหลากหลาย อย่างนอ้ ย 1 หมายถึง โรงเรยี นจัดกิจกรรมส่งเสรมิ ให้บุคคลากรและนัก อยา่ งต่อเน่อื งโดยมกี จิ กรรมท่ีมคี วามหลากหลาย อย่างน้อยภ ตวั ชว้ี ัดที่ 2.2.1.4 4 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม ยกย่อง เชิดชู ผู้ทา สง่ เสรมิ ยกยอ่ ง เชิด แนะนาประชาสมั พนั ธผ์ ้ทู าความดี มอบรางวลั หรือยกยอ่ งคน ชู ผ้ทู าดี เปน็ 3 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม ยกย่อง เชิดชู ผู้ทา แนะนาประชาสัมพนั ธผ์ ทู้ าความดี มอบรางวลั หรอื ยกยอ่ งคน 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม ยกย่อง เชิดชู ผู้ทา แนะนาประชาสมั พนั ธผ์ ู้ทาความดี มอบรางวัล หรือยกยอ่ งคน 1 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริม ยกย่อง เชิดชู ผู้ทา แนะนาประชาสัมพันธ์ผูท้ าความดี มอบรางวัล หรอื ยกย่องคน องค์ประกอบหลักท่ี 2.3 กิจกรรมพ้ืนฐำนวิถีชีวิต องค์ประกอบย่อยที่ 2.3.1 กิจกรรมพนื้ ฐำนโรงเรยี นวถิ ีพุทธชวี ติ ประจำวัน ตวั ชี้วัดที่ 2.3.1.1 4 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมฝึกฝน อบรมให้นักเรียนมีลัก ฝึกฝนอบรมใหเ้ กิด การกนิ อยู่ ดู ฟัง เปน็ (รู้เข้าใจเหตุผล และไดป้ ระโยชนต์ ามคุณ การกิน อยู่ ดู ฟงั 3 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมฝึกฝนอบรมให้นักเรียนมีลัก เป็น(รเู้ ขา้ ใจเหตผุ ล การกิน อยู่ ดู ฟัง เป็น(รู้เข้าใจเหตุผลและได้ประโยชน์ตามค และได้ประโยชน์ ครงั้ ตามคุณค่าแทต้ าม 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมฝึกฝนอบรมให้นักเรียนมีลัก หลักไตรสิกขา) การกิน อยู่ ดู ฟัง เป็น(รู้เข้าใจเหตุผล และได้ประโยชน์ตามค 1 ครง้ั
45 กเรียน ปฏิบัตติ นเปน็ ตวั อย่างทีด่ ตี ่อผู้อ่ืน 2 สปั ดาหต์ อ่ 1 คร้ัง รและนักเรียน ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีต่อผู้อ่ืน 3 สปั ดาหต์ ่อ 1 คร้ัง กเรยี น ปฏบิ ัตติ นเปน็ ตวั อย่างท่ดี ีต่อผู้อน่ื ภาคเรยี นละ 1 คร้ัง ดี เช่น ประกาศแนะนาคนดีประจาวัน จัดป้ายนิเทศ นดใี นโอกาสต่าง ๆ ทกุ วนั าดี เช่น ประกาศแนะนาคนดีประจาวัน จัดป้ายนิเทศ นดีในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างน้อยสัปดาหล์ ะ 1 คร้ัง าดี เช่นประกาศแนะนาคนดีประจาวัน จัดป้ายนิเทศ นดใี นโอกาสตา่ ง ๆ อย่างน้อย 2 สปั ดาหต์ อ่ 1 คร้ัง าดี เช่นประกาศแนะนาคนดีประจาวัน จัดป้ายนิเทศ นดีในโอกาสต่าง ๆ อย่างน้อยเดอื นละ 1 คร้ัง กษณะและพฤติกรรมในชีวิตประจาวันที่แสดงออกถึง ณค่าแทต้ ามหลักไตรสิกขา)ทกุ วัน กษณะและพฤติกรรมในชีวิตประจาวันที่แสดงออกถึง คุณค่าแท้ตามหลักไตรสิกขา) อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 กษณะและพฤติกรรมในชีวิตประจาวันที่แสดงออกถึง คุณค่าแท้ตามหลักไตรสิกขา)อย่างน้อย 2 สัปดาห์ตอ่
ตัวช้วี ดั ที่ 2.3.1.2 1 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมฝึกฝนอบรมให้นักเรียนมีลัก สง่ เสริมกจิ กรรม การกิน อยู่ ดู ฟัง เป็น(รู้เข้าใจเหตุผล และได้ประโยชน์ตาม การรับผิดชอบดูแล ครัง้ รักษาพฒั นาอาคาร สถานทีแ่ ละ 4 หมายถงึ โรงเรียนจดั กจิ กรรมให้นกั เรียนไดฝ้ กึ การชว่ ยเหลอื สิ่งแวดลอ้ มอย่าง สง่ิ แวดล้อมส่วนรวม หรือสาธารณสมบตั ิจนเป็นลกั ษณะนิสัยท สมา่ เสมอจนเป็น 3 หมายถึงโรงเรยี นจัดกิจกรรมใหน้ ักเรียนได้ฝึกการช่วยเหลือ นิสัย สง่ิ แวดลอ้ มสว่ นรวม หรือสาธารณสมบัตจิ นเปน็ ลักษณะนสิ ัยอ 2หมายถงึ โรงเรยี นจัดกิจกรรมให้นักเรยี นไดฝ้ ึกการช่วยเหลอื สิ่งแวดล้อมสว่ นรวม หรอื สาธารณสมบัติจนเป็นลักษณะนิสยั อ 1 หมายถงึ โรงเรยี นจัดกจิ กรรมให้นกั เรียนได้ฝึกการช่วยเหลือ ส่งิ แวดล้อมสว่ นรวม หรือสาธารณสมบตั จิ นเป็นลกั ษณะนสิ ยั อ องคป์ ระกอบย่อยที่ 2.3.2 กิจกรรมทำงพระพุทธศำสนำ ตัวชีว้ ดั ที่ 2.3.2.1 4 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติก สง่ เสริมปฏิบตั ิ ความรู้ความเข้าใจในเหตผุ ลความสาคญั และคณุ ค่าของการป กจิ กรรม 1 คร้ัง พระพุทธศาสนา 3 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติก อย่างเหน็ คุณคา่ รู้ ความรู้ความเข้าใจในเหตุผลความสาคัญ และคุณค่าของก เขา้ ใจเหตผุ ล สปั ดาห์ตอ่ 1 ครัง้ 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติก ความรูค้ วามเข้าใจในเหตผุ ลความสาคัญ และคณุ ค่าของการป 1 คร้งั
46 กษณะและพฤติกรรมในชีวิตประจาวันที่แสดงออกถึง มคุณค่าแท้ตามหลักไตรสิกขา) อย่างน้อยเดือนละ 1 อ และรับผิดชอบ ดแู ลรักษา หรือพัฒนาอาคารสถานท่ี ทกุ วัน อ และรับผิดชอบ ดแู ลรักษา หรือพฒั นาอาคารสถานที่ อย่างน้อยสปั ดาห์ละ 1 ครัง้ และรับผดิ ชอบ ดูแลรักษา หรอื พัฒนาอาคารสถานท่ี อย่างน้อย 2 สัปดาหต์ อ่ 1 ครั้ง อ และรบั ผดิ ชอบ ดแู ลรักษา หรอื พฒั นาอาคารสถานที่ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครง้ั กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ศาสนาพิธีต่าง ๆ สร้าง ปฏิบัติกจิ กรรมน้ัน ๆ ควบค่กู ันไปอยา่ งน้อยสัปดาห์ละ กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ศาสนาพิธีต่าง ๆ สร้าง การปฏิบัติกิจกรรมนั้น ๆ ควบคู่กันไปอย่างน้อย 2 กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ศาสนาพิธีต่าง ๆ สร้าง ปฏิบัติกิจกรรมนน้ั ๆ ควบคู่กันไปอย่างน้อย เดือนละ
1 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติก ความรู้ความเข้าใจในเหตุผลความสาคัญ และคุณค่าของกา เรยี นละ 1 ครัง้ ตวั ช้วี ดั ที่ 2.3.2.2 4 หมายถงึ โรงเรียนจัดกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ให้นักเรียนไดร้ ะลึกแ จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ชีวิต เชน่ การกราบพระก่อนเขา้ โรงเรียนทุกเชา้ การสวดมนต การระลึก และ รตั นตรยั ในโอกาสวนั สาคัญต่าง ๆ ทกุ วัน ศรทั ธาในพระ 3 หมายถงึ โรงเรียนจัดกจิ กรรมท่สี ง่ เสริมให้นักเรยี นได้ระลึกแ รัตนตรยั เป็นประจา ชวี ติ เช่น การกราบพระกอ่ นเข้าโรงเรียนทกุ เชา้ การสวดมนต และในโอกาสสาคัญ รตั นตรัยในโอกาสวนั สาคัญต่าง ๆ อย่างน้อยสปั ดาห์ละ 1 ค อยา่ งต่อเน่ือง เป็น 2 หมายถงึ โรงเรียนจดั กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมให้นกั เรยี นได้ระลึกแ วถิ ีชีวิต ชีวติ เช่น การกราบพระก่อนเขา้ โรงเรยี นทกุ เช้า การสวดมนต รตั นตรยั ในโอกาสวนั สาคัญต่าง ๆอยา่ งน้อย 2 สปั ดาหต์ ่อ 1 1 หมายถึงโรงเรียนจัดกจิ กรรมท่ีสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนไดร้ ะลึกแ ชวี ติ เชน่ การกราบพระกอ่ นเขา้ โรงเรียนทกุ เช้า การสวดมนต รัตนตรัยในโอกาสวนั สาคัญต่าง ๆอย่างน้อยเดือนละ 1 คร้ัง ตัวช้ีวัดท่ี 2.3.2.3 4 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ ให้ครูและนักเรียนทุก สง่ เสริมให้ทกุ คนมี พระพุทธศาสนา เช่น การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก ส่วนรว่ ม และคณุ ค่า การร่วมกันรกั ษาและสบื ต่อพระพุทธศาสนาอยา่ งน้อยสัปดาห ในการรกั ษาและสบื 3 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ครูและนักเรียนทุก ตอ่ พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา เช่น การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก การรว่ มกันรกั ษาและสืบตอ่ พระพทุ ธศาสนาอย่างน้อย 2 สปั 2 หมายถึง โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ครูและนักเรียนทุก พระพุทธศาสนา เช่น การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก การรว่ มกันรักษาและสืบตอ่ พระพทุ ธศาสนาอยา่ งน้อย เดอื นล
47 กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ศาสนาพิธีต่าง ๆ สร้าง ารปฏิบัติกิจกรรมน้ัน ๆ ควบคู่กันไปอย่างน้อย ภาค และเพิ่มศรทั ธาในพระรตั นตรยั อยา่ งสม่าเสมอเป็นวิถี ตท์ กุ วัน กจิ กรรมวันพระ และจดั กจิ กรรมบูชาพระ และเพม่ิ ศรทั ธาในพระรัตนตรัย อยา่ งสม่าเสมอเป็นวิถี ตท์ ุกวัน กจิ กรรมวันพระ และจัดกิจกรรมบูชาพระ คร้งั และเพม่ิ ศรัทธาในพระรัตนตรยั อยา่ งสมา่ เสมอเปน็ วถิ ี ต์ทุกวัน กิจกรรมวนั พระ และจัดกจิ กรรมบูชาพระ 1 ครั้ง และเพ่ิมศรทั ธาในพระรัตนตรยั อยา่ งสมา่ เสมอเปน็ วถิ ี ต์ทกุ วนั กจิ กรรมวนั พระ และจัดกิจกรรมบูชาพระ ง กคนมีส่วนร่วม และเห็นคุณค่าในการรักษาและสืบต่อ กิจกรรมการประชาสัมพันธค์ ุณค่าและความสาคัญของ หล์ ะ 1 ครัง้ กคนมีส่วนร่วม และเห็นคุณค่าในการรักษาและสืบตอ่ กิจกรรมการประชาสัมพันธค์ ุณค่าและความสาคัญของ ปดาหต์ ่อ 1 คร้งั กคนมีส่วนร่วม และเห็นคุณค่าในการรักษาและสืบต่อ กิจกรรมการประชาสัมพันธ์คุณค่าและความสาคัญของ ละ 1 ครง้ั
1 หมายถึงโรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ครูและนักเรียนทุก พระพุทธศาสนา เช่น การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก การรว่ มกันรกั ษาและสืบตอ่ พระพุทธศาสนาอย่างน้อย ภาคเร มำตรฐำนที่ 3 ดำ้ นผลผลิต (Output) องค์ประกอบหลักท่ี 3.1 พัฒนำ กำย ศลี จติ และปัญญำ อยำ่ งบูรณำกำร (ภำวน องคป์ ระกอบยอ่ ยที่ 3.1.1 กำย (กำยภำพ) ตวั ช้ีวัด 3.1.1.1 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรยี นมีพฤตกิ รรมทแี่ สดงอ บรโิ ภคใช้สอยปัจจัย ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค) หรือการกินการใช้ของในชวี ิตประจา สี่ในปริมาณและ มีคณุ ภาพเหมาะสม ได้ประโยชน์ ไดค้ ุณคา่ ตอ่ ชวี ิต เช่น การไ คณุ ภาพที่เหมาะสม และมีการโฆษณามากเปน็ หลัก ฯลฯ ได้คณุ ค่าแท้ 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียนมีพฤติกรรมท่ีแสดงอ ท่ีอยู่อาศัย ยารักษาโรค) หรือการกินการใช้ของในชวี ิตประจา มีคุณภาพเหมาะสม ไดป้ ระโยชน์ ได้คุณค่าต่อชวี ิต เช่น การไ และมกี ารโฆษณามากเปน็ หลัก ฯลฯ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนมีพฤติกรรมท่ีแสดงอ ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค) หรือการกินการใช้ของในชีวิตประจา มีคณุ ภาพเหมาะสม ได้ประโยชน์ ได้คุณค่าตอ่ ชีวิต เช่น การไ และมีการโฆษณามากเปน็ หลัก ฯลฯ 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียนมีพฤติกรรมที่แสดงอ ท่ีอยู่อาศัย ยารักษาโรค) หรือการกินการใชข้ องในชีวิตประจา
48 กคนมีส่วนร่วม และเห็นคุณค่าในการรักษาและสืบต่อ กิจกรรมการประชาสัมพันธค์ ุณค่าและความสาคัญของ รยี นละ 1 ครงั้ นำ 4) ออกถงึ การบริโภคใช้สอยปจั จยั ส่ี (อาหาร เครือ่ งน่งุ หม่ าวันในปริมาณท่ีเหมาะสม และรู้จักเลือกกิน ใช้ สิ่งท่ี ไมเ่ ลือกรับประทานอาหาร ท่ีดสู วยงาม รสชาติถกู ปาก ออกถึงการบริโภคใช้สอยปัจจัยสี่ (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม าวนั ในปริมาณท่ีเหมาะสม และรู้จักเลือกกิน ใช้ สิ่งที่ ไม่เลอื กรบั ประทานอาหาร ทีด่ ูสวยงาม รสชาตถิ ูกปาก ออกถึงการบริโภคใชส้ อยปัจจัยส่ี (อาหาร เคร่ืองนุ่งหม่ าวันในปริมาณท่ีเหมาะสม และรู้จักเลือกกิน ใช้ ส่ิงท่ี ไม่เลือกรบั ประทานอาหาร ทดี่ ูสวยงาม รสชาติถกู ปาก ออกถึงการบริโภคใชส้ อยปัจจัยส่ี (อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม าวันในปริมาณที่เหมาะสม และรู้จักเลือกกิน ใช้ ส่ิงท่ี
ตวั ช้วี ดั 3.1.1.2 มีคุณภาพเหมาะสม ได้ประโยชน์ ได้คุณค่าตอ่ ชีวิต เชน่ การไ การดแู ลร่างกาย และมกี ารโฆษณามากเป็นหลัก ฯลฯ และการแต่งกาย สะอาดเรยี บร้อย 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียนที่มีการดูแลรักษาร่า เสมอ (ตามกาลเทศะ) ตวั ชวี้ ัด 3.1.1.3 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียนท่ีมีการดูแลรักษาร่า ดารงชวี ิตอย่าง เสมอ (ตามกาลเทศะ) เก้อื กูลส่งิ แวดลอ้ ม 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนที่มีการดูแลรักษาร่า เสมอ (ตามกาลเทศะ) 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียนท่ีมีการดูแลรักษาร่า เสมอ (ตามกาลเทศะ) 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียนมีการดาเนินชีวิตปร สงิ่ แวดล้อมให้มสี ภาพท่ีดี ทวั่ ถึง ทั้งในและนอกบริเวณโรงเรีย 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียนมีการดาเนินชีวิตปร สง่ิ แวดล้อมให้มีสภาพทด่ี ี ท่ัวถึง ทั้งในและนอกบรเิ วณโรงเรีย 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนมีการดาเนินชีวิตปร สิ่งแวดลอ้ มให้มีสภาพที่ดี ทั่วถึง ทัง้ ในและนอกบริเวณโรงเรีย 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียนมีการดาเนินชีวิตปร ส่ิงแวดล้อมใหม้ สี ภาพทีด่ ี ทัว่ ถึง ทงั้ ในและนอกบรเิ วณโรงเรีย องค์ประกอบยอ่ ยท่ี 3.1.2 ศีล ตัวบง่ ชี้ 3.1.2.1 4 หมายถึง รอ้ ยละ 90-100 ของนกั เรยี นสามารถปฏบิ ัตใิ นศ มีศีล 5 เป็นพืน้ ฐาน 3 หมายถงึ รอ้ ยละ 80-89 ของนักเรียนสามารถปฏิบตั ใิ นศีล ในการดารงชวี ิต 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิในศลี 1 หมายถงึ ร้อยละ 60-69 ของนักเรยี นสามารถปฏิบตั ิในศ
49 ไม่เลอื กรับประทานอาหาร ทีด่ ูสวยงาม รสชาติถกู ปาก างกายให้มีสุขภาพดี และแต่งกายสะอาดเรียบร้อยอยู่ างกายให้มีสุขภาพดี และแต่งกายสะอาดเรียบร้อยอยู่ างกายให้มีสุขภาพดี และแต่งกายสะอาดเรียบร้อยอยู่ างกายให้มีสุขภาพดี และแต่งกายสะอาดเรียบร้อยอยู่ ระจาวันท่ีไม่ทาลายส่ิงแวดล้อมแต่มีลักษณะช่ว ยดูแล ยน ระจาวันที่ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อมแต่มีลักษณะช่วยดูแล ยน ระจาวันท่ีไม่ทาลายสิ่งแวดล้อมแต่มีลักษณะช่วยดูแล ยน ระจาวันท่ีไม่ทาลายส่ิงแวดล้อมแต่มีลักษณะช่วยดูแล ยน ศีล 5 เป็นได้ครบทุกข้อ ล 5 เป็นไดค้ รบทกุ ขอ้ ล 5 เป็นได้ครบทุกข้อ ศีล 5 เป็นได้ครบทกุ ขอ้
ตวั บ่งช้ี 3.1.2.2 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียน มีวินยั หรอื มีการปฏ มวี นิ ัย มีความ มคี วามซ่ือสัตย์ จริงใจไม่หลอกลวงและตรงต่อเวลาท่นี ดั หมาย รับผิดชอบ ซ่ือสตั ย์ 3 หมายถงึ รอ้ ยละ 80-89 ของนักเรียนมีวินัย หรือมีการปฏ มคี วามซ่ือสัตย์ จรงิ ใจไมห่ ลอกลวงและตรงต่อเวลาท่นี ดั หมาย 2 หมายถึง รอ้ ยละ 70-79 ของนกั เรยี นมีวินัย หรอื มกี ารปฏิบ มีความซื่อสตั ย์ จริงใจไม่หลอกลวงและตรงต่อเวลาท่ีนดั หมาย 1 หมายถึง นักเรียน ร้อยละ 60-69 ของนกั เรียน มวี นิ ยั หรอื ความซอ่ื สัตย์ จริงใจไมห่ ลอกลวงและตรงตอ่ เวลาท่ีนัดหมาย ตัวบง่ ช้ี 3.1.2.3 4 หมายถงึ รอ้ ยละ 90-100 ของนกั เรยี น สามารถพ่ึงตนเองได สามารถพึ่งตนเองได้ ของตนเอง เชน่ เดก็ ระดบั อนบุ าล และประถมศึกษาสามารถ หรอื ทางานเลย้ี งชีพ ตนเอง โดยพึ่งผู้อน่ื นอ้ ยหรือนักเรยี นระดับมัธยมศึกษาทีส่ ามา ด้วยความสจุ รติ การดารงชวี ติ ประจาวนั สามารถดูแลแบ่งเบาหน้าที่ผปู้ กครอง 3 หมายถงึ รอ้ ยละ 80-89 ของนกั เรียน สามารถพ่งึ ตนเองได้ ของตนเอง เช่น เด็กระดับอนุบาล และประถมศึกษาสามารถด ตนเอง โดยพง่ึ ผู้อื่นนอ้ ยหรือนักเรียนระดับมธั ยมศกึ ษาทีส่ ามา ในการดารงชีวติ ประจาวนั สามารถดูแลแบ่งเบาหนา้ ทผี่ ปู้ กคร 2 หมายถงึ รอ้ ยละ 70-79 ของนักเรียนสามารถพ่ึงตนเองได้ ห ตนเอง เช่น เดก็ ระดับอนุบาล และประถมศึกษาสามารถดูแล น้อยหรือนักเรียนระดบั มัธยมศึกษาทีส่ ามารถทางานใหไ้ ดซ้ ่ึงเง ดแู ลแบง่ เบาหน้าท่ผี ูป้ กครองได้ 1 หมายถึง รอ้ ยละ 60-69 ของนักเรยี น สามารถพง่ึ ตนเองได้ ของตนเอง เชน่ เด็กระดบั อนุบาล และประถมศึกษาสามารถด
50 ฏิบตั ิหน้าทท่ี ่ีได้รับมอบหมายจนสาเรจ็ ย หรือท่ีตกลงกัน ฏิบตั หิ น้าทท่ี ี่ได้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ ย หรือทีต่ กลงกนั บตั หิ น้าท่ที ไี่ ด้รบั มอบหมายจนสาเร็จ ย หรอื ทต่ี กลงกัน อมกี ารปฏบิ ัติหน้าทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็ มี หรอื ท่ีตกลงกนั ด้ หรือทางานเลีย้ งชพี ดว้ ยความสุจริต ตามวฒุ ภิ าวะ ถดูแลในการปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวัน ด้วย ารถทางานใหไ้ ด้ซึง่ เงินทองหรอื ปัจจยั ใน งได้ หรือทางานเลย้ี งชีพ ดว้ ยความสจุ ริตตามวุฒภิ าวะ ดแู ลในการปฏบิ ตั ิกิจวัตรประจาวนั ด้วย ารถทางานให้ได้ซงึ่ เงินทองหรอื ปัจจัย รองได้ หรอื ทางานเลย้ี งชพี ด้วยความสจุ ริตตามวุฒิภาวะของ ลในการปฏบิ ตั ิกิจวัตรประจาวันดว้ ยตนเอง โดยพึง่ ผู้อื่น งินทองหรอื ปจั จยั ในการดารงชีวิตประจาวัน สามารถ หรือทางานเลย้ี งชีพ ดว้ ยความสุจรติ ตามวุฒภิ าวะ ดูแลในการปฏิบัติกิจวัตรประจาวันดว้ ยตนเอง โดยพ่ึง
ผูอ้ นื่ นอ้ ยหรือนักเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาที่สามารถทางานให้ได ประจาวนั สามารถดูแลแบ่งเบาหน้าที่ผปู้ กครองได้ องค์ประกอบยอ่ ยที่ 3.1.3 จิต ตัวบง่ ช้ี 3.1.3.1 มี 4 หมายถึง รอ้ ยละ 90-100 ของนักเรียนมีความกตัญญูรู้คุณ ความกตญั ญรู คู้ ุณ ทปี่ ฏบิ ัติให้เหน็ เช่น การแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอ ตอบแทนคุณ หรอื ผ้ทู ่มี ีพระคุณอน่ื ฯลฯ 3 หมายถงึ รอ้ ยละ 80-89 ของนักเรยี นมคี วามกตัญญูรู้คุณ ต ให้เหน็ เชน่ การแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ ผูป้ กครอง และก มีพระคุณอ่ืน ฯลฯ 2 หมายถึง รอ้ ยละ 70-79 ของนักเรียนมีความกตญั ญรู ้คู ุณ ใหเ้ หน็ เชน่ การแสดงความเคารพตอ่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง และก มีพระคณุ อืน่ ฯลฯ 1 หมายถึง รอ้ ยละ 60-69 ของนกั เรียนมีความกตญั ญูรู้คุณ ต ให้เห็น เช่น การแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง และก มีพระคุณอื่น ฯลฯ ตัวบ่งชท้ื ่ี 3.1.3.2 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียน มีจิตใจ เมตตา มีจติ ใจ เมตตา ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อผู้อ่ืนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ กรณุ า (เอือ้ เฟ้ือ เผ่อื ประโยชน์ เป็นต้น แผ่ แบ่งปัน) 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียน มีจิตใจ เมตตา ก ช่วยเหลือผู้อ่ืนเมื่อผู้อ่ืนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ ประโยชน์ เปน็ ต้น 2 หมายถงึ รอ้ ยละ 70-79 ของนักเรยี น มีจิตใจ เมตตา กรุณ ชว่ ยเหลอื ผู้อื่นเมอ่ื ผู้อน่ื ทีเ่ ดือดรอ้ นต้องการความช่วยเหลือ หร ประโยชน์ เป็นต้น
51 ด้ซ่ึงเงนิ ทองหรือปจั จัยใน การดารงชวี ติ ตอบแทนคณุ ตอ่ ผู้มีพระคุณ โดยมพี ฤติกรรม อง และการมีนา้ ใจช่วยเหลอื งานของพ่อแม่ผู้ปกครอง ตอบแทนคุณต่อผู้มีพระคุณ โดยมีพฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิ การมีน้าใจชว่ ยเหลอื งานของพอ่ แมผ่ ู้ปกครอง หรือผู้ท่ี ตอบแทนคุณตอ่ ผู้มีพระคุณ โดยมพี ฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิ การมนี า้ ใจชว่ ยเหลอื งานของพ่อแม่ผูป้ กครอง หรือผทู้ ่ี ตอบแทนคุณต่อผมู้ ีพระคุณ โดยมพี ฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิ การมนี ้าใจชว่ ยเหลืองานของพอ่ แม่ผ้ปู กครอง หรือผทู้ ี่ กรุณา (เอ้ือเฟ้ือ เผื่อแผ่ แบ่งปัน) เช่น มีน้าใจ ท่ีจะ หรือมีน้าใจแบ่งปันความรู้ และสิ่งของให้ผู้อ่ืนได้รับ กรุณา (เอื้อเฟ้ือ เผ่ือแผ่ แบ่งปัน) เช่น มีน้าใจ ที่จะ หรือมีน้าใจแบ่งปันความรู้ และสิ่งของให้ผู้อ่ืนได้รับ ณา (เอื้อเฟอื้ เผอ่ื แผ่ แบง่ ปัน) เชน่ มีน้าใจ ที่จะ รือมีนา้ ใจแบ่งปันความรู้ และสง่ิ ของใหผ้ ู้อนื่ ไดร้ บั
1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียน มีจิตใจ เมตตา ก ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อผู้อื่นที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ ประโยชน์ เปน็ ตน้ ตวั บง่ ชที้ ่ี 3.1.3.3 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียน ทางานและเรียน ทางานและเรียนรู้ ทางาน หรือเรียนร้อู ยา่ งต่อเนอื่ งจนสาเรจ็ มีผลของงานชดั เจน อย่างตัง้ ใจ อดทน 3 หมายถึง รอ้ ยละ 80-89 ของนักเรยี น ทางานและเรียนรู้อย ขยนั หมนั่ เพยี ร หรอื เรยี นรอู้ ย่างต่อเนือ่ งจนสาเรจ็ มผี ลของงานชัดเจน 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียน ทางานและเรียน ทางาน หรอื เรียนรู้อยา่ งตอ่ เนือ่ งจนสาเรจ็ มีผลของงานชดั เจน 1 หมายถงึ ร้อยละ 60-69 ทางานและเรียนรู้อย่างต้ังใจ มคี ว อยา่ งต่อเนือ่ งจนสาเรจ็ ผลของการทางาน มผี ลของงานชัดเจน ตัวบง่ ชี้ 3.1.3.4 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนกั เรยี น มสี ุขภาพจิตดี มีคว มีสุขภาพจติ ดี 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนกั เรียนมสี ุขภาพจติ ดี มคี วาม แจม่ ใส รา่ งเรงิ 2 หมายถึง รอ้ ยละ 70-79 ของนกั เรียน มสี ขุ ภาพจิตดี มคี วาม เบกิ บาน 1 หมายถงึ ร้อยละ 60-69 ของนักเรียน มสี ขุ ภาพจิตดี มีคว องค์ประกอบย่อยท่ี 3.1.4 ปัญญำ ตวั บง่ ช้ี 3.1.41 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียน มีความศรัทธา ควา มีศรัทธา และความ ประโยชนข์ องพระรัตนตรยั ทมี่ ีต่อมนุษย์ได้ เข้าใจท่ีถูกต้องใน 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียนมีความศรัทธา ควา พระรัตนตรัย ประโยชน์ของพระรัตนตรยั ที่มีตอ่ มนุษยไ์ ด้ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนมีความศรัทธา ควา ประโยชน์ของพระรตั นตรยั ทมี่ ตี อ่ มนษุ ย์ได้ 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียนมีความศรัทธา ควา ประโยชนข์ องพระรตั นตรยั ทม่ี ตี ่อมนษุ ยไ์ ด้
52 กรุณา (เอื้อเฟื้อ เผ่ือแผ่ แบ่งปัน) เช่น มีน้าใจ ท่ีจะ หรือมีน้าใจแบ่งปันความรู้ และส่ิงของให้ผู้อ่ืนได้รับ นรู้อย่างต้ังใจ มีความขยันหมั่นเพียร และอดทนที่จะ น ย่างต้ังใจ มคี วามขยันหม่ันเพยี ร และอดทนทีจ่ ะทางาน นรู้อย่างต้ังใจ มีความขยันหมั่นเพียร และอดทนที่จะ น วามขยนั หมัน่ เพียร และอดทนท่จี ะทางาน หรอื เรียนรู้ น วามรา่ งเรงิ แจ่มใส หรือมอี ารมณด์ อี ยู่เสมอ มรา่ งเรงิ แจม่ ใส หรือมีอารมณ์ดีอยู่เสมอ มร่างเริงแจ่มใส หรือมีอารมณด์ ีอยู่เสมอ วามรา่ งเริงแจ่มใส หรอื มีอารมณด์ อี ยูเ่ สมอ ามเช่ือมั่นในพระรัตนตรัย เป็นท่ีเคารพบูชา และบอก ามเชื่อม่ันในพระรัตนตรัย เป็นที่เคารพบูชา และบอก ามเช่ือม่ันในพระรัตนตรัย เป็นที่เคารพบูชา และบอก ามเช่ือม่ันในพระรัตนตรัย เป็นท่ีเคารพบูชา และบอก
ตัวบง่ ชี้ท่ี 3.1.4.2 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียน รู้เข้าใจ และยังอ รบู้ าป- บญุ เกิดขน้ึ วา่ การกระทาอย่างไรเป็นบญุ หรอื บาป เปน็ คุณ หรือเป คุณ-โทษ 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนักเรียน รเู้ ขา้ ใจ และยงั อธบิ า ประโยชน์-มิใช่ ว่าการกระทาอยา่ งไรเปน็ บญุ หรือบาป เปน็ คณุ หรอื เปน็ โทษ ประโยชน์ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียน รู้เขา้ ใจ และยังอธบิ า วา่ การกระทาอย่างไรเปน็ บุญ หรือบาป เป็นคุณ หรอื เป็นโทษ 1 หมายถงึ รอ้ ยละ 60-69 ของนักเรยี น รู้เข้าใจ และยังอธบิ า ว่าการกระทาอยา่ งไรเป็นบุญ หรือบาป เปน็ คณุ หรือเปน็ โทษ ตวั บง่ ช้ที ่ี 3.1.4.3 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของนักเรียนเป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ใฝร่ ู้ ใฝศ่ กึ ษา ของตนเองอยเู่ สมอ สามารถคดิ สร้างสรรคส์ ิง่ แปลกใหม่พัฒนา แสวงหาความจรงิ 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของนกั เรยี นเป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่ศกึ ษา กร และใฝ่สรา้ งสรรค์ ตนเองอยูเ่ สมอ สามารถคดิ สร้างสรรค์สง่ิ แปลกใหมพ่ ัฒนาจาก พัฒนางานอยูเ่ สมอ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนักเรียนของนักเรียนเป็นผู้ใฝ พัฒนางานของตนเองอยู่เสมอ สามารถคดิ สร้างสรรคส์ ่ิงแปลก 1 หมายถงึ ร้อยละ 60-69 ของนกั เรยี นของนักเรียนเป็นผู้ใฝ่ร พฒั นางานของตนเองอยเู่ สมอ สามารถคิดสร้างสรรค์สงิ่ แปลก ตวั บง่ ชท้ี ่ี 3.1.4.4 4 หมายถึง รอ้ ยละ 90-100 ของนักเรียนสามารถใชห้ ลักธรรม รูเ้ ท่ากัน แก้ไข 3 หมายถงึ ร้อยละ 80-89 ของนกั เรียนสามารถใช้หลักธรรม ปัญหาชีวิตและการ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของนกั เรยี นสามารถใชห้ ลกั ธรรม ทางานได้ด้วย 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของนักเรียนสามารถใช้หลกั ธรร สตปิ ญั ญา องคป์ ระกอบหลกั ท่ี 4.1. บ ว ร ได้รบั ประโยชนจ์ ำกกำรพัฒนำโรงเรียนวิถีพทุ ธ
53 อธิบายได้ถึงการกระทา และผลของการกระทาท่ีจะ ปน็ โทษ ายได้ถงึ การกระทา และผลของการกระทาทีจ่ ะเกิดขึ้น ษ ายได้ถงึ การกระทา และผลของการกระทาทีจ่ ะเกิดข้ึน ษ ายได้ถงึ การกระทา และผลของการกระทาท่จี ะเกิดข้ึน ษ า กระตือรือร้นหาความรู้หาความจริง และพัฒนางาน าจากการเดมิ มากข้นึ ระตือรอื ร้นหาความรู้หาความจริง และพัฒนางานของ กการเดมิ มากข้นึ ฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา กระตือรือร้นหาความรู้หาความจริง และ กใหมพ่ ัฒนาจากการเดมิ มากขึ้น รู้ ใฝศ่ ึกษา กระตือรอื รน้ หาความรู้หาความจริง และ กใหม่พัฒนาจากการเดิมมากขึ้น มในการแก้ไขปัญหาในชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีสติ มในการแกไ้ ขปัญหาในชวี ิตได้อยา่ งมีสติ มในการแก้ไขปญั หาในชวี ิตได้อย่างมีสติ รมในการแก้ไขปัญหาในชีวิตไดอ้ ย่างมสี ติ
องคป์ ระกอบย่อยท่ี 4.1.1 บ้ำน (ผปู้ กครองและชุมชน) ตวั บง่ ชี้ 4.1.1.1 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ผู้ปกครอง นักเรียนและคนใน บ้านและชมุ ชนมี มากขึน้ สมาชิกท่เี ป็นคนดีไม่ 3 หมายถึง รอ้ ยละ 80-89 ผปู้ กครอง นกั เรียนและคนในชุม ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ขนึ้ เพ่ิมขน้ึ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ผู้ปกครอง นักเรียนและคนใน มากขน้ึ 1 หมายถงึ ร้อยละ 60-69 ผู้ปกครอง นักเรยี นและคนในชมุ ขน้ึ ตวั บ่งชีท้ ี่ 4.1.1.2 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 มีผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กร ชมุ ชนมผี ู้ช่วยเหลือ ชมุ ชนมากขน้ึ ใน การพฒั นา 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 มีผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กร ชุมชนมากย่งิ ขน้ึ ชุมชนมากขนึ้ 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 มีผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กร ชุมชนมากขึ้น 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 มีผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กร ชมุ ชนมากขึน้ องค์ประกอบท่ี 4.2.1 วัด ตัวชวี้ ดั ที่ 4.2.1.1 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 ของพุทธศาสนิกชน ช่วยทากิจ วดั ไดศ้ าสนาทายาท ศาสนาประเพณี หรอื กจิ กรรมวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนาท และกาลังชว่ ยงาน 3 หมายถึง ร้อยละ 80-89 ของพุทธศาสนิกชน ช่วยทากิจ สง่ เสริม ศาสนาประเพณี หรอื กจิ กรรมวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนาท พระพทุ ธศาสนามาก 2 หมายถึง ร้อยละ 70-79 ของพุทธศาสนิกชน ช่วยทากิจก ขึ้น ศาสนาประเพณี หรือกจิ กรรมวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนาท
54 นชุมชน เป็นคนดี ลด ละ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข มชน เป็นคนดี ลด ละ และไมย่ ่งุ เก่ียวกับอบายมุขมาก นชุมชน เป็นคนดี ลด ละ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข มชน เปน็ คนดี ลด ละ และไมย่ ุ่งเก่ยี วกบั อบายมุขมาก รอ่ืนๆ ร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชนหรือทางานของ รอื่นๆ ร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชนหรือทางานของ รอ่ืนๆ ร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชนหรือทางานของ รอื่นๆ ร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชนหรือทางานของ จกรรมต่าง ๆ ของวัดในชุมชนมากข้ึน เช่น ผู้ร่วมงาน ที่วัดต้องการความร่วมมอื หรือมากขึ้น จกรรมต่าง ๆ ของวัดในชุมชนมากข้ึน เช่น ผู้ร่วมงาน ทวี่ ดั ตอ้ งการความร่วมมือหรือมากขน้ึ กรรมต่าง ๆ ของวัดในชุมชนมากข้ึน เช่น มีผู้ร่วมงาน ทวี่ ดั ต้องการความรว่ มมอื หรือมากขึ้น
1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 ของพุทธศาสนิกชน ช่วยทากิจ ศาสนาประเพณี หรือกจิ กรรมวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาท องคป์ ระกอบท่ี 4.3.1 โรงเรยี น ตัวบง่ ช้ีที่ 4.3.1.1 4 หมายถึง ร้อยละ 90-100 มีผู้ปกครอง ชุมชน วัด แล โรงเรียนได้รบั ความ รว่ มมือ หรือให้ความชว่ ยเหลือ พัฒนาโรงเรียนตามแนวทาง ไว้วางใจ เชื่อมนั่ 3 หมายถึง ร้อยละ 89-90 มีผปู้ กครอง ชุมชน วัด และหน่ว ศรทั ธา และได้รับ หรือให้ความชว่ ยเหลือ พัฒนาโรงเรยี นตามแนวทางวิถพี ุทธม ความร่วมมอื จากผมู้ ี 2 หมายถึง ร้อยละ 79-80มีผ้ปู กครอง ชุมชน วัด และหนว่ สว่ นร่วมเก่ียวข้อง หรอื ใหค้ วามช่วยเหลือ พัฒนาโรงเรียนตามแนวทางวถิ ีพุทธม (บา้ น วัด ราชการ) 1 หมายถึง ร้อยละ 60-69 มีผู้ปกครอง ชุมชน วัด และ รว่ มมือ หรือให้ความช่วยเหลือ พฒั นาโรงเรียนตามแนวทาง
55 จกรรมต่าง ๆ ของวัดในชุมชนมากขึ้น เช่น ผู้ร่วมงาน ทีว่ ัดต้องการความรว่ มมอื หรือมากขนึ้ ละหน่วยงานอ่ืน ๆให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่น ศรัทธา งวิถีพุทธมากขึ้น วยงานอน่ื ๆ ให้ความไวว้ างใจ เช่อื มั่น ศรัทธา ร่วมมือ มากข้ึน วยงานอ่ืนๆ ใหค้ วามไวว้ างใจ เช่อื มั่น ศรทั ธา ร่วมมอื มากขึ้น ะหน่วยงานอ่ืนๆ ให้ความไว้วางใจ เชื่อม่ัน ศรัทธา งวถิ ีพทุ ธมากขึน้
การสัม ผู้อำนวยกำ ใชเ้ วลำในก ระหว่ำงวนั โดยกรรมกำรจะโทรศ ใชว้ ธิ กี ำรสมั ภำษณ์ ผ
56 มภาษณ์ออนไลน์ ำรโรงเรยี น และครู รวมไม่เกิน 3 คน กำรสมั ภำษณ์ ประมำณ 20 นำที นที่ 9-16 สงิ หำคม 2564 ศพั ทไ์ ปนัดหมำยวัน เวลำล่วงหน้ำ ผ่ำน LINE
57 แบบสรุป ตวั ชีว้ ดั กำรดำเนนิ งำนโรงเรียนวถิ พี ทุ ธพระรำชทำน สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร มำตรฐำนท่ี 1 ดำ้ นปัจจัยนำเขำ้ (Input) องคป์ ระกอบหลกั ที่ 1.1บุคลำกร องค์ประกอบย่อย 1.1.1 ผู้บริหำร ตวั ชีว้ ดั ท่ี 1.1.1.1. มวี ถิ ีชวี ิตสอดคล้องหลกั พทุ ธธรรม (มศี ีล5) ตวั ชี้วดั ท่ี 1.1.1.2. มีพรหมวิหารธรรมประจาใจ ตวั ชี้วดั ท่ี 1.1.1.3. มคี วามซื่อสตั ย์ จรงิ ใจในการทางาน ตัวชว้ี ัดที่ 1.1.1.4. มคี วามเข้าใจพระรตั นตรยั นับถอื ศรัทธาพระพุทธศาสนา องคป์ ระกอบย่อย 1.2 ครู ตวั ชี้วดั ท่ี 1.1.2.1. มีวถิ ชี วี ติ สอดคล้องหลักพทุ ธธรรม(เปน็ แบบอย่างท่ีดี) ตัวชี้วดั ท่ี 1.1.2.2. มีพรหมวิหารธรรม มคี วามเป็นกลั ยาณมิตร ตวั ชว้ี ัดที่ 1.1.2.3. พฒั นาผูเ้ รยี นตามหลกั ไตรสิกขา องค์ประกอบหลักท่ี 1.2 กำรบริหำร องคป์ ระกอบยอ่ ยที่ 1.2.1 ระบบบรหิ ำร ตวั ช้ีวดั ท่ี 1.2.1.1 มีวิสยั ทศั น์ ปรชั ญา พนั ธกจิ เป้าหมาย ธรรมนญู แผนกลยุทธ์เน้นใน การพฒั นาโรงเรยี นวถิ ีพทุ ธ ตัวช้วี ัดที่ 1.2.1.2. แต่งต้ังคณะกรรมการทป่ี รึกษา หรอื คณะกรรมการดาเนนิ งานโรงเรียนวถิ ีพทุ ธ และบริหารการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องโดยผู้เกยี่ วข้องทุกฝา่ ย (บ ว ร) มี สว่ นรวม ตวั ช้ีวัดที่ 1.2.1.3. ปลูกฝังศรัทธา สร้างเสรมิ ปญั ญาในพระพุทธศาสนาใหเ้ กิดข้นึ กับบุคลากรและ ผู้เกีย่ วข้อง ตวั ช้ีวดั ท่ี 1.2.1.4. รว่ มมอื กบั ผปู้ กครอง วัด และชมุ ชน เพ่ือพัฒนาผู้เรยี นและชมุ ชน ตวั ชีว้ ัดที่ 1.2.1.5. มีการนเิ ทศ กากบั ติดตาม การดาเนินงานโรงเรยี นวถิ ีพทุ ธอย่างต่อเนือ่ ง ตัวชวี้ ดั ท่ี 1.2.1.6. มรี ะบบตรวจสอบประเมนิ ผล และเปิดโอกาสให้มีการเสนอแนะอย่างเป็น กัลยาณมิตรเพื่อการพฒั นาอย่างต่อเนื่อง องค์ประกอบย่อยที่ 1.2.2 ระบบหลกั สตู รสถำนศึกษำ ตวั ชี้วัดท่ี 1.2.2.1 มีหลกั สตู รสถานศึกษา หน่วยการเรียนรู้ แผน การจัดการเรยี นรู้ ท่บี ูรณาการ พทุ ธธรรมทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้
58 องคป์ ระกอบท่ี 1.3 กำยภำพและสิ่งแวดล้อมอยำ่ งรอบคอบ องค์ประกอบยอ่ ย 1.3.1 ระบบบริหำร ตัวชี้วดั ที่ 1.3.1.1. จดั ประดิษฐานพระพทุ ธรูปประจาโรงเรยี นและประจาห้องเรียนเหมาะสม ตัวชี้วัดที่ 1.3.1.2. มปี ้ายนิเทศ ปา้ ยคติธรรม คาขวัญคุณธรรม จรยิ ธรรมโดยท่ัวไป ในบริเวณ โรงเรียน ตัวชี้วัดที่ 1.3.1.3 สภาพโรงเรยี นสะอาด ปลอดภยั สงบ ร่มร่ืน เรยี บงา่ ยใกลช้ ดิ ธรรมชาติ ตัวช้ีวัดที่ 1.3.1.4 บรเิ วณโรงเรียนปราศจากสิ่งเสพตดิ อบายมขุ สิง่ มอมเมาทุกชนดิ มำตรฐำนท่ี 2 ดำ้ นกระบวนกำร (Process) องค์ประกอบหลกั ที่ 2.1 การเรียน การสอนทีบ่ รู ณาการไตรสกิ ขา องคป์ ระกอบย่อยท่ี 2.1.1 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ที่ 2.1.1.1. จัดการเรียนรโู้ ดยบรู ณาการพุทธธรรมหรือหลกั ไตรสิกขาในทุกกล่มุ สาระการ เรียนรูแ้ ละเช่อื มโยงกับชีวติ ประจาวัน ตัวชี้วดั ที่ 2.1.1.2.ส่งเสรมิ ใหม้ ีการนาหลกั ธรรมมาเปน็ ฐานในการคิดวเิ คราะห์และแก้ปญั หา ตัวชว้ี ดั ท่ี 2.1.1.3. จดั การเรยี นรู้ท่สี ง่ เสรมิ การใฝ่รู้และแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2.1.1.4. จัดการเรียนรู้อยา่ งมีความสขุ ท้งั ผเู้ รยี นรู้และผจู้ ดั การเรียนรู้ ตัวชี้วดั ท่ี 2.1.1.5. จัดกิจกรรมบรหิ ารจิตเจริญปัญญา ท้ังในการเรียนการสอนและในกิจกรรม การดารงชวี ิตประจาวนั องคป์ ระกอบย่อยที่ 2.2. กำรใชส้ ือ่ และแหล่งเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดท่ี 2.1.2.1. ใชส้ อ่ื การเรียนรูท้ ีส่ ง่ เสริม การใฝ่รู้และแสวงหาความร้ดู ้วยตนเองอยู่เสมอ ตัวช้ีวัดที่ 2.1.2.2. นิมนต์พระสงฆ์ หรอื เชิญวทิ ยากรภูมปิ ัญญาทางพุทธศาสนา สอนนักเรยี น สม่าเสมอ ตัวชี้วัดที่ 2.1.2.3. จดั ใหน้ ักเรยี นไปเรยี นรทู้ ี่วดั หรือที่ศาสนสถานท่ีใช้แหล่งเรียนรปู้ ระจาของโรงเรยี น อย่างต่อเนอื่ ง องค์ประกอบย่อยท่ี 2.1.3 กำรวัดประเมินผล ตวั ชว้ี ัดท่ี 2.1.3.1. มกี ารวดั ประเมินผลตามสภาพจรงิ ดว้ ยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย ครอบคลมุ ตามหลกั ภาวนา 4 (กาย ศลี จิต ปัญญา) โดยมีจุดประสงคเ์ นน้ เพื่อพัฒนานกั เรียนต่อเน่ือง องค์ประกอบหลักท่ี 2.2 บรรยำกำศและปฏิสัมพนั ธ์ทเ่ี ปน็ กลั ยำณมติ ร องค์ประกอบยอ่ ยท่ี 2.2.1 บรรยำกำศ ปฏสิ ัมพนั ธท์ ส่ี ง่ เสรมิ กำรสอนใหร้ ู้ ทำให้ดู อยใู่ ห้เห็น
59 ตวั ช้วี ัดท่ี 2.2.1.1. สง่ เสรมิ ความสัมพนั ธ์แบบกัลยาณมติ ร ออ่ นน้อมถ่อมตน เคารพใหเ้ กียรติซึง่ กัน และกัน ย้มิ แย้มมีเมตตาต่อกัน ท้งั ครตู ่อนักเรียน ครตู ่อครู นักเรยี นต่อนกั เรียน และครูต่อผปู้ กครอง ตวั ชว้ี ัดท่ี 2.2.1.2. ส่งเสรมิ บรรยากาศใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น ใฝ่สรา้ งสรรค์ ตวั ช้วี ดั ท่ี 2.2.1.3. ส่งเสริมบุคลากรและนักเรียน ใหป้ ฏิบัติตนเปน็ ตัวอยา่ งที่ดีต่อผู้อ่นื ตวั ช้ีวัดท่ี 2.2.1.4. สง่ เสริม ยกยอ่ ง เชิดชู ผ้ทู าดี เปน็ องคป์ ระกอบหลกั ท่ี 2.3 กจิ กรรมพื้นฐำนวถิ ีชวี ติ องคป์ ระกอบยอ่ ยที่ 2.3.1 กิจกรรมพ้นื ฐำนวิถีชีวติ ประจำวนั ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2.3.1.1. ฝกึ ฝนอบรมให้เกิด การกนิ อยู่ ดู ฟงั เปน็ (รู้เขา้ ใจเหตผุ ล และได้ประโยชนต์ าม คณุ ค่าแทต้ ามหลกั ไตรสิกขา) ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2.3.1.2. ส่งเสริมกิจกรรมการรับผดิ ชอบดูแลรักษาพัฒนาอาคารสถานท่ีและสิ่งแวดล้อม อยา่ งสมา่ เสมอจนเป็นนสิ ยั องคป์ ระกอบยอ่ ยท่ี 2.3.2 กิจกรรมทำงพระพุทธศำสนำ ตัวชี้วัดท่ี 2.3.2.1.สง่ เสรมิ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมพระพทุ ธศาสนาอยา่ งเหน็ คุณคา่ รู้เขา้ ใจเหตุผล ตัวชี้วดั ท่ี 2.3.2.2.จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การระลกึ ศรัทธาในพระรตั นตรยั เปน็ ประจา และในโอกาส สาคญั อยา่ งตอ่ เนื่อง เป็นวถิ ชี ีวติ ตวั ชี้วัดที่ 2.3.2.3. ส่งเสรมิ ให้ทกุ คนมสี ่วนร่วม และคุณค่าในการรักษาและสบื ต่อพระพทุ ธศาสนา – มำตรฐำนที่ 3 ด้ำนผลผลิต (Output) องค์ประกอบหลกั พัฒนำ กำย ศลี จิต และปัญญำ อย่ำงบรู ณำกำร (ภำวนำ 4) องค์ประกอบย่อยท่ี 3.1.1 กำย (กำยภำพ) ตวั ชว้ี ดั ท่ี 3.1.1.1.บรโิ ภคใชส้ อยปัจจยั สใ่ี นปรมิ าณและคณุ ภาพท่เี หมาะสม ไดค้ ุณคา่ แท้ ตวั ชว้ี ัดที่ 3.1.1.2. การดแู ลร่างกาย และการแตง่ กายสะอาดเรยี บรอ้ ย ตวั ชี้วัดที่ 3.1.1.3. ดารงชีวิตอยา่ งเกื้อกลู ส่ิงแวดลอ้ ม องค์ประกอบย่อยท่ี 3.1.2 ศลี ตัวชว้ี ัดที่ 3.1.2.1. มีศีล 5 เป็นพ้นื ฐานในการดารงชีวติ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 3.1.2.2. มีวนิ ัย มคี วามรบั ผิดชอบ ซ่อื สัตย์ ตัวช้ีวัดที่ 3.1.2.3. สามารถพงึ่ ตนเองไดห้ รอื ทางานเล้ียงชีพดว้ ยความสุจรติ องค์ประกอบย่อยท่ี 3.1.3 จติ
60 ตวั ชว้ี ดั ที่ 3.1.3.1. มีความกตัญญูรู้คุณ ตอบแทนคุณ ตวั ชี้วดั ที่ 3.1.3.2. มจี ิตใจ เมตตา กรณุ า (เอ้ือเฟอ้ื เผื่อแผ่ แบ่งปัน) ตัวชว้ี ัดที่ 3.1.3.3.ทางานและเรียนรอู้ ยา่ งต้ังใจ อดทน ขยัน หมัน่ เพยี ร ตวั ช้วี ดั ที่ 3.1.3.4. มีสขุ ภาพจติ ดี แจม่ ใส ร่างเริงเบกิ บาน องค์ประกอบย่อยที่ 3.1.4 ปัญญำ ตัวชว้ี ัดท่ี 3.1.4.1. มศี รทั ธา และความเข้าใจทถี่ ูกต้องในพระรัตนตรัย ตัวชว้ี ัดที่ 3.1.4.2. ร้บู าป- บญุ คุณ-โทษ ประโยชน์-มใิ ช่ประโยชน์ ตวั ชี้วัดท่ี 3.1.4.3. ใฝ่รู้ ใฝศ่ กึ ษาแสวงหาความจรงิ และใฝส่ รา้ งสรรค์พัฒนางานอยเู่ สมอ ตัวชีว้ ัดที่ 3.1.4.4. ร้เู ทา่ กนั แก้ไขปัญหาชวี ติ และการทางานไดด้ ว้ ยสตปิ ัญญา มำตรฐำนที่ 4 ดำ้ นผลกระทบ (Outcome/Impact) องค์ประกอบหลกั ท่ี 4.1 บ ว ร ไดร้ บั ประโยชน์จำกกำรพฒั นำโรงเรยี นวิถีพทุ ธ องคป์ ระกอบยอ่ ยท่ี 4.1.1 บำ้ น (ผปู้ กครองและชมุ ชน) ตวั ชวี้ ัดท่ี 4.1.1.1. บา้ นและชมุ ชนมีสมาชกิ ท่เี ป็นคนดไี ม่ยุ่งเกย่ี วกบั อบายมขุ เพม่ิ ขน้ึ ตัวชว้ี ัดท่ี 4.1.1.2. ชุมชนมผี ้ชู ว่ ยเหลอื ในการพฒั นาชมุ ชนมากยงิ่ ขน้ึ องคป์ ระกอบที่ 4.2.1 วัด ตัวชว้ี ัดท่ี 4.2.1.1. ไดศ้ าสนาทายาทและกาลงั ช่วยงานสง่ เสรมิ พระพุทธศาสนามากข้ึน องคป์ ระกอบที่ 4.3.1 โรงเรียน ตัวช้ีวัดท่ี 4.3.1.1. โรงเรียนได้รับความไว้วางใจ เช่ือม่ัน ศรัทธา และได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนร่วม เก่ียวขอ้ ง (บ้าน วดั ราชการ)
61 ส่วนท่ี 4 ควำมสมั พันธข์ อง “โครงกำรโรงเรียนวิถีพุทธ กับ กำรประเมินตวั ช้ีวัดตำมมำตรกำร ปรบั ปรุงประสิทธิภำพในกำรปฏิบัตริ ำชกำรของสำนกั งำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศึกษำ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กาหนดใหโ้ รงเรยี นวิถีพทุ ธ ในสงั กัดทุกโรง ดาเนินการประเมินตนเองตามอัตลกั ษณ์ 29 ประการของโรงเรียนวิถีพทุ ธ ผ่านเว็บไซต์ www. vitheebuddha.com ตามระยะเวลาดงั น้ี รอบที่ 1 - โรงเรยี นวถิ พี ทุ ธประเมินตนเอง ภายใน 1 พฤษภาคม 2564 – 15 มถิ นุ ายน 2564 - สพท. รับรองการประเมนิ ตนเองของโรงเรยี น ภายในวันที่ 1 มถิ นุ ายน2564 - 30 มถิ ุนายน 2564 รอบที่ 2 - โรงเรียนวถิ ีพทุ ธประเมินตนเอง ภายใน 1 สิงหาคม 2564 – 15 กันยายน 2564 - สพท. รับรอง การประเมนิ ตนเองของโรงเรยี น ภายในวันท่ี 1 กันยายน 2564 - 30 กนั ยายน 2564 (ต่อมาในช่วงการแพร่ ระบาดของโควิด สพฐ.ประกาศให้โรงเรยี นงดการประเมินตนเอง ) สาหรบั การดาเนินการประเมินตนเองตามอตั ลักษณ์ 29 ประการ ส่คู วามเปน็ โรงเรยี นวถิ พี ุทธน้ีถอื วา่ เปน็ การประเมินตวั ชว้ี ัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธภิ าพในการปฏิบัติ ราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตวั ชวี้ ดั ที่ 10 การสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรมในองคก์ าร ตวั ชีว้ ดั ยอ่ ย 10.4 ระดบั ความสาเร็จการดาเนนิ งานโรงเรียนวิถีพุทธ สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 4 จึงแจ้งโรงเรียนดาเนินการประเมนิ ตนเองตามอัตลกั ษณ์ 29 ประการของโรงเรยี นวถิ พี ุทธ ผา่ นเว็บไซต์ www.vitheebuddha.com รอบท่ี 1 และ 2 ใหท้ ันตามระยะเวลาทก่ี าหนด หมำยเหตุ 1. กพร.จะเลือกผลคะแนนที่ดที ส่ี ุด จากท้งั 2 รอบ ในเวบ็ www.vitheebuddha.com มาเปน็ ผล การประเมนิ ของ กพร. โรงเรยี นวิถีพุทธ เร่มิ ดาเนินการมาเมื่อปี 2545 โดยมีโรงเรียนเขา้ รว่ มโครงการ ณ พ.ศ. 2564 จานวน 23,071 โรงเรียน เปน็ โรงเรยี นในสังกัด สพฐ. คิดเปน็ รอ้ ยละ 82 ซ่งึ จากแนวทางการดาเนนิ การทรี่ ับทราบ ร่วมกนั ต้ังแต่เริม่ ตน้ คณะผบู้ ริหาร ครูและพระอาจารยจ์ ากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณร์ าชวทิ ยาลัย ได้ ร่วมกนั วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ แนวทางดาเนนิ การเดิม ยกรา่ งเปน็ แนวทางดาเนนิ การทเ่ี ป็นรปู ธรรมอกี คร้ัง สอดคล้องกบั ตัวชวี้ ัดแนวทางการดาเนนิ งานโรงเรียนวิถีพทุ ธ พ.ศ. 2548 แบง่ เปน็ 5 ดา้ น รวม 29 ประการ และคณะยกร่างไดน้ าร่างฯ ไปสอบถามความเห็นของผเู้ ก่ยี วขอ้ ง หลายครงั้ รวมทงั้ ผ่านความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน เม่อื วนั ท่ี 18 สงิ หาคม 2553 จึงประกาศให้โรงเรียนวิถพี ทุ ธทราบและเปน็ แนวทางในการประเมนิ ตนเองตั้งแต่ พ.ศ. 2553 เปน็ ตน้ มา
62 แนวทำงกำรดำเนินกำร 29 ประกำรสคู่ วำมเป็นโรงเรียนวถิ ีพุทธ ประกอบด้วย 1.ด้ำนกำยภำพ 7 ประกำร 1.1 มีป้ายโรงเรียนวิถีพุทธ 1.2 มพี ระพทุ ธรูปหนา้ โรงเรียน 1.3 มีพระพุทธรปู ประจาห้องเรยี น (อาจเปน็ รปู ภาพ หรือสญั ลักษณ์) 1.4 มีพระพุทธศาสนสุภาษติ วาทะธรรม พระราชดาริติดตามทีต่ า่ งๆ 1.5 มคี วามสะอาด สงบ รม่ ร่ืน 1.6 มหี ้องพระพุทธศาสนาหรือลานธรรม 1.7 ไม่มีสิง่ เสพติดเหล้าบหุ ร่ี 100 % 2. ดำ้ นกจิ กรรมประจำวนั พระ 4 ประกำร 2.1 ใสเ่ สื้อขาวทุกคน 2.2 ทาบญุ ใสบ่ าตร ฟังเทศน์ 2.3 รบั ประทานอาหารมงั สวิรัติในมอ้ื กลางวนั 2.4 สวดมนตแ์ ปล 3. ดำ้ นกำรเรยี นกำรสอน 5 ประกำร 3.1 บริหารจติ เจรญิ ปัญญา ก่อนเขา้ เรยี น เชา้ บา่ ย ทง้ั ครู และ นักเรียน 3.2 บรู ณาการวิถีพุทธ ทุกกลุ่มสาระ และในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 3.3 ครู พานกั เรยี นทาโครงงานคุณธรรม กจิ กรรมจิตอาสาสัปดาห์ละ 1 ครง้ั 3.4 ครู ผูบ้ รหิ าร และ นกั เรียน ทุกคน ไปปฏิบัติศาสนกิจท่ีวดั เดอื นละ 1 ครั้ง มวี ัดเป็นแหล่งเรยี นรู้ 3.5 ครู ผบู้ ริหาร และ นกั เรียนทุกคน เข้าค่ายปฏิบัติธรรมอยา่ งน้อยปีละ 1 คร้งั 4. ดำ้ นพฤติกรรม ครู ผบู้ ริหำรโรงเรียนและนกั เรียน 5 ประกำร 4.1 รักษาศลี 5 4.2 ยม้ิ งา่ ย ไหวส้ วย กราบงาม 4.3 กอ่ นรบั ประทานอาหารจะมกี ารพิจารณาอาหาร รบั ประทานอาหารไมด่ ัง ไมห่ ก ไมเ่ หลอื 4.4 ประหยัด ออม ถนอมใช้ เงนิ และ ส่งิ ของ 4.5 มีนิสัยใฝร่ ู้ สสู้ ิง่ ยาก 5. ดำ้ นกำรสง่ เสริมวิถพี ทุ ธ 8 ประกำร 5.1 ไม่มีอาหารขยะขายในโรงเรียน 5.2 ไมด่ ุ ดา่ นกั เรยี น 5.3 ชน่ื ชมคุณความดี หนา้ เสาธงทกุ วนั 5.4 โฮมรูมเพ่ือสะทอ้ นความรู้สึก เช่นความรูส้ กึ ท่ไี ดท้ าความดี 5.5 ครู ผบู้ ริหาร และนกั เรียน มีสมุดบันทึกความดี 5.6 ครู ผบู้ ริหาร และนกั เรยี น (ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ขน้ึ ไป) สอบได้ธรรมศึกษาตรเี ป็น อยา่ งน้อย 5.7 บริหารจติ เจรญิ ปัญญา กอ่ นการประชุมทุกคร้ัง 5.8 มีพระมาสอนอย่างสม่าเสมอ
63 เกณฑก์ ำรให้คะแนน : ระดับสำนกั งำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำ คะแนน ควำมหมำย 1 โรงเรยี นวถิ พี ุทธ ร้อยละ 60 ของเขตพืน้ ที่ไดร้ ะดบั คะแนนรายโรงเรยี น ตง้ั แต่ 3 ขนึ้ ไป 2 โรงเรยี นวถิ ีพทุ ธ รอ้ ยละ 65 ของเขตพน้ื ที่ไดร้ ะดับคะแนนรายโรงเรยี น ตง้ั แต่ 3 ขึ้นไป 3 โรงเรียนวิถพี ทุ ธ รอ้ ยละ 70 ของเขตพื้นท่ีได้ระดับคะแนนรายโรงเรยี น ตง้ั แต่ 3 ข้นึ ไป (ผ่านการประเมิน) 4 โรงเรยี นวิถีพทุ ธ รอ้ ยละ 75 ของเขตพื้นที่ไดร้ ะดับคะแนนรายโรงเรยี น ตั้งแต่ 3 ขึน้ ไป (ผา่ นการประเมิน) 5 โรงเรียนวถิ ีพทุ ธ รอ้ ยละ 80 ของเขตพน้ื ท่ีไดร้ ะดับคะแนนรายโรงเรยี น ต้ังแต่ 3 ขึน้ ไป (ผา่ นการประเมิน) ระดบั สถำนศึกษำ : คะแนน ควำมหมำย ระดบั 1 1. ด้านกายภาพ ดาเนนิ การครบทกุ ประการ และ 2. ด้านกจิ กรรมประจาวนั พระ ดาเนินการไดไ้ ม่นอ้ ยกว่า 1 ประการ 3. ดา้ นการเรียนการสอน ดาเนินการได้ไมน่ ้อยกว่า 2 ประการ 4. ดา้ นพฤติกรรมครู ผู้บรหิ ารโรงเรยี น และ นกั เรียน ดาเนินการได้ไม่น้อยกว่า 2 ประการ 5. ดา้ นการสง่ เสริมวถิ พี ุทธ ดาเนินการได้ไมน่ ้อยกว่า 4 ประการ ระดับ 2 1. ดา้ นกายภาพ ดาเนินการครบทุกประการ และ 2. ดา้ นกจิ กรรมประจาวันพระ ดาเนินการได้ไม่น้อยกว่า 2 ประการ 3. ดา้ นการเรียนการสอน ดาเนนิ การได้ไมน่ ้อยกวา่ 2 ประการ 4. ด้านพฤติกรรมครู ผูบ้ ริหารโรงเรยี น และ นักเรียน ดาเนินการได้ไมน่ ้อยกวา่ 2 ประการ 5. ด้านการส่งเสริมวถิ พี ุทธ ดาเนนิ การได้ไมน่ ้อยกวา่ 5 ประการ ระดบั 3 1. ด้านกายภาพ ดาเนินการครบทุกประการ และ 2. ดา้ นกิจกรรมประจาวนั พระ ดาเนินการได้ไม่นอ้ ยกว่า 3 ประการ 3. ดา้ นการเรยี นการสอน ดาเนนิ การได้ไมน่ ้อยกว่า 3 ประการ 4. ดา้ นพฤติกรรมครู ผู้บรหิ ารโรงเรยี น และ นกั เรียน ดาเนนิ การได้ไม่น้อยกวา่ 3 ประการ 5. ดา้ นการส่งเสรมิ วิถีพุทธ ดาเนนิ การได้ไม่น้อยกว่า 6 ประการ ระดับ 4 1. ดา้ นกายภาพ ดาเนินการครบทกุ ประการ และ 2. ดา้ นกจิ กรรมประจาวันพระ ดาเนินการครบทุกประการ 3. ด้านการเรยี นการสอน ดาเนนิ การได้ไม่น้อยกว่า 4 ประการ 4. ด้านพฤติกรรมครู ผู้บริหารโรงเรยี น และ นักเรยี น ดาเนินการได้ไม่น้อยกวา่ 4 ประการ 5. ด้านการสง่ เสริมวิถีพุทธ ดาเนินการได้ไมน่ ้อยกว่า 7 ประการ ระดบั 5 1. ดา้ นกายภาพ ดาเนนิ การครบทุกประการ และ
64 2. ด้านกิจกรรมประจาวันพระ ดาเนินการครบทุกประการ 3. ดา้ นการเรียนการสอน ดาเนินการครบทุกประการ 4. ด้านพฤติกรรมครู ผู้บรหิ ารโรงเรยี น และ นกั เรียน ดาเนนิ การครบทุกประการ 5. ดา้ นการสง่ เสริมวิถีพุทธ ดาเนินการครบทุกประการ สรปุ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนนระดบั สถำนศึกษำ ตัวชวี้ ดั 29 ประกำร แบ่งเป็น 5 ดำ้ น ระดบั 1 ระดบั 2 ระดบั 3 ระดบั 4 ระดบั 5 ครบ 7 ครบ 7 ครบ 7 ครบ 7 ครบ 7 1. ด้านกายภาพ 7 ประการ ครบ 4 ครบ 4 1 2 3 ครบ 5 2. ดา้ นกจิ กรรมประจาวนั พระ 4 ประการ 2 2 3 4 ครบ 5 2 2 3 4 ครบ 8 3. ด้านการเรียนการสอน 5 ประการ 4 5 6 7 4. ด้านพฤติกรรม ครู ผู้บริหารโรงเรียนและนักเรียน 5 ประการ 5. ด้านการสง่ เสริมวถิ พี ุทธ 8 ประการ รำยละเอียดข้อมลู พ้นื ฐำน : หนว่ ยวัด ผลกำรดำเนนิ งำนในอดีต ปงี บประมำณ พ.ศ. โรงเรยี น 2559 2560 2561 2562 ข้อมูลพืน้ ฐำนประกอบตัวชี้วัด 80 80 80 80 ร้อยละของโรงเรยี นวิถีพุทธท่ีผา่ นการ ประเมินผลการดาเนนิ การ 29 ประการ สู่ความเปน็ โรงเรียนวิถพี ทุ ธ แหลง่ ข้อมูล / วิธีกำรจัดเกบ็ ขอ้ มูล : ใหส้ ถานศึกษาในโครงการโรงเรยี นวิถีพุทธและเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษา ศึกษาข้อมูล เกณฑก์ ารประเมิน และประเมินตนเองตามอตั ลักษณ์ 29 ประการ ผ่านเว็บไซต์ www.vitheebuddha.com ตามระยะเวลา ดังนี้ รอบท่ี 1 โรงเรียนวถิ ีพทุ ธประเมนิ ตนเอง ภายใน 1 พ.ค. 2564 – 15 มิ.ย. 2564 สพท. รับรองการประเมนิ ตนเองของโรงเรยี น ภายใน 1 ม.ิ ย. 2564 – 30 ม.ิ ย. 2564 รอบท่ี 2 โรงเรียนวถิ พี ุทธประเมินตนเอง ภายใน 1 ส.ค. 2564 – 15 ก.ย. 2564 สพท. รับรองการประเมนิ ตนเองของโรงเรยี น ภายใน 1 ก.ย. 2564 – 30 ก.ย. 2564 กล่มุ ในสำนกั งำนเขตพ้นื ท่ี ที่รับผดิ ชอบ : กลมุ่ นเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
65 แนวทำงกำรดำเนินงำน: ระดบั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน 1. ประกาศ สื่อสารสรา้ งความเข้าใจ จัดทาส่ือประกอบ เผยแพร่ ผ่าน OBEC Channel www.vitheebuddha.com ขอ้ 262เร่อื ง แนวทำงดำเนนิ กำร 29 ประกำร สูค่ วำมเปน็ โรงเรียนวถิ ีพุทธ ให้ผู้เกยี่ วขอ้ ง เชน่ ศึกษานเิ ทศก์ ผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรยี นวถิ พี ุทธ ของ ทุก สพป. สพม. ผูบ้ ริหารโรงเรียน ครู นกั เรยี น พระสอนศีลธรรมในโรงเรยี นได้รับทราบ 2. ประสานงานกับ สพป./สพม. คัดเลือกโรงเรียนตัวอยา่ ง ทีส่ ามารถดาเนินการได้ และโรงเรียนทไ่ี ม่ สามารถดาเนนิ การมาแลกเปล่ียนวิธีการแนวทาง เพือ่ ทราบปญั หาอุปสรรคของโรงเรียน 3. ประสานงานกับ สพป./สพม./มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ประกาศรายชื่อ ยกย่อง มอบเกยี รติบตั รและรางวัลเพ่ือเปน็ ขวัญกาลังใจแกโ่ รงเรียนวถิ พี ุทธชน้ั นา 4. ประสานงานกับ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย จัดทาแนวทางการประเมนิ ตนเองของ โรงเรยี น โดยผ่านเว็บไซต์ www.vitheebuddha.com เพ่อื เป็นสื่อกลางการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 5. ประสานงาน กับ สพป./สพม./มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย สมุ่ ในการเยี่ยมเยียน และ ใหข้ ้อเสนอแนะการดาเนนิ งาน 6. สรุปประมวลผลการดาเนนิ งาน ระดบั สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ 1. เผยแพร่ แนวทำงดำเนนิ กำร 29 ประกำรสคู่ วำมเปน็ โรงเรยี นวถิ ีพุทธ ให้โรงเรียนและผ้เู กี่ยวขอ้ ง ไดร้ บั ทราบ 2. จดั ทาเอกสารแนวทาง หรอื ค่มู ือดาเนินการ 3. จดั ใหม้ กี ารแลกเปล่ียนเรียนรู้ แนวทางดาเนินการ 4. นิเทศ ตรวจเย่ียม ให้กาลังใจแก่โรงเรยี น สอบถามปัญหาอปุ สรรค และวิธแี ก้ไข 5. สรุปประมวลผลการดาเนนิ งาน ระดับสถำนศกึ ษำ 1. ศึกษา ทาความเขา้ ใจ แนวทำงดำเนนิ กำร 29 ประกำรสคู่ วำมเป็นโรงเรยี นวถิ พี ุทธ 2. บรหิ ารจัดการ วางแผน ปรับปรุงการดาเนินงานของโรงเรยี นให้สอดคล้อง 3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แก้ไขปัญหาอปุ สรรค 4. สรปุ ประมวลผลการดาเนนิ งาน
รำยกำรอำ้ งอิง ตัวชีว้ ดั ท่ี 11.4 ระดับควำมสำเรจ็ กำรดำเนินงำนโรงเรยี นวถิ ีพุทธ ลำดบั กิจกรรม ไม่ผ่ำน 1 0 ควรปรับปรุง พอ 1. ดำ้ นกำยภำพ 7 ประกำร มีป้ายโรงเรียน วถิ พี ทุ ธ ตดิ ไวภ้ ายใน มปี า้ ยโรงเรียน 1.1 มปี า้ ยโรงเรียน ไมม่ ี หอ้ งใดห้องหน่งึ ไว้หนา้ อาคาร วิถีพทุ ธ มีพระพทุ ธรูป มีพระพุทธรูป บรเิ วณหนา้ โรงเรียน บรเิ วณหนา้ โร 1.2 มพี ระพทุ ธรูป ไมม่ ี บรเิ วณหน้า โรงเรยี น 1.3 มพี ระพทุ ธรปู ไมม่ ี มีพระพุทธรปู มพี ระพุทธรูป ห้องเรียนอยู่ด ประจาห้องเรยี น ประจาหอ้ งเรียน ที่สมควร (อาจเปน็ รปู ภาพ หรือ สญั ลักษณ)์
66 ดำเนินกำรผำ่ นในระดบั ผลกำร หลักฐำ 4 ประเมิน น 23 ดมี าก อใช้ ดี นวิถีพทุ ธ ตดิ มีป้ายโรงเรยี นวถิ ีพุทธ ตดิ มีป้ายโรงเรยี นวถิ ีพทุ ธ รใดอาคารหนึง่ ไว้หนา้ บริเวณโรงเรยี น ติดไว้หน้าบรเิ วณ โรงเรียน เหน็ เด่นชดั ปอยใู่ นซุ้ม มพี ระพทุ ธรูปอย่ใู นซุ้ม มพี ระพุทธรปู อย่ใู นซุ้ม รงเรยี น บริเวณหน้าโรงเรียน และ บริเวณหนา้ โรงเรยี น เครือ่ งบูชา เครื่องบูชา และให้ นักเรยี นไหวท้ กุ วัน ปประจา มีพระพุทธรูปประจา มีพระพุทธรปู ประจา ด้านหน้าในท่ี หอ้ งเรียนอยดู่ ้านหน้าในท่ี ห้องเรยี นอยดู่ ้านหนา้ ใน ท่สี มควร และมีการทา ท่ีท่สี มควร มกี ารทา ความสะอาด ความสะอาด และมีการ เคารพพระพทุ ธรูปเป็น ประจา
1.4 มพี ุทธศาสน ไม่มี มีพทุ ธศาสนสภุ าษิต มีพทุ ธศาสนส สภุ าษติ วาทะธรรม พระราช ธรรม พระรา วาทะธรรม ดารสั ตดิ ตามทต่ี ่างๆ ติดตามท่ตี า่ ง พระราชดารัส ปรับปรุงอยเู่ ส ติดตามท่ีตา่ งๆ 1.5 มีความสะอาด ไมม่ ี มีความสะอาด สงบ รม่ มคี วามสะอาด สงบ รม่ รนื่ รน่ื ในหอ้ งเรียนและ ในหอ้ งเรยี น บ บรเิ วณโรงเรยี น โรงเรยี น โดย อยา่ งต่อเนอื่ ง 1.6 มีหอ้ ง ไม่มี มหี อ้ งพระพทุ ธศาสนา มีห้องพระพทุ หรอื ลานธรรม หรือลานธรรม พระพทุ ธศาสนา และมีตาราง การใช้ หรอื ลานธรรม 1.7 ไม่มีส่งิ เสพติด มสี ิ่งเสพติด มีสง่ิ เสพติด เหล้า บุหร่ี มสี ิง่ เสพติด เ เหลา้ บหุ ร่ี 100 เหล้า บุหร่ี ในโรงเรียนต่ากวา่ รอ้ ย โรงเรยี น ตา่ ก % ในโรงเรียน ละ 40 (พจิ ารณาจาก มากกวา่ ร้อย ผู้เก่ียวขอ้ ง ละ 40 ในโรงเรียน)
67 สุภาษติ วาทะ มีพทุ ธศาสนสุภาษิต มีพุทธศาสนสภุ าษิต าชดารัส งๆ และมกี าร วาทะธรรม พระราชดารสั วาทะธรรม พระราช สมอ ติดตามทต่ี า่ งๆ และมีการ ดารสั ติดตามที่ตา่ งๆ ด สงบ รม่ รน่ื บริเวณ ปรับปรุง อย่เู สมอ โดย และมีการปรบั ปรุงอยู่ ยดาเนินการ ง นกั เรียนมีสว่ นรว่ มในการ เสมอ โดยนกั เรยี น ทธศาสนา จดั ทา มสี ่วนรว่ มในการจดั ทา ม อยา่ งต่อเน่ือง มคี วามสะอาด สงบ มคี วามสะอาด สงบ ร่ม รม่ รน่ื ในหอ้ งเรยี น บริเวณ รื่น ในหอ้ งเรยี น บริเวณ โรงเรียน โดยดาเนินการ โรงเรียน โดยดาเนนิ การ อย่างต่อเนอ่ื ง และ อยา่ งต่อเนือ่ ง และ นักเรยี นมสี ่วนร่วม นักเรยี นมสี ว่ นร่วมทุก คน มีห้องพระพุทธศาสนา มีหอ้ งพระพทุ ธศาสนา หรอื ลานธรรม มตี าราง หรือลานธรรม และมี การใช้ มีการใช้จรงิ ตารางการใช้ มีการใช้ จริงและนักเรยี นมีส่วน ร่วมในการดแู ลรักษา เหลา้ บหุ ร่ี ใน มีสิง่ เสพตดิ เหล้า บุหรี่ ใน ไม่มสี ิง่ เสพติด เหลา้ กว่าร้อยละ 30 โรงเรยี น ตา่ กวา่ ร้อยละ บุหรี่ ในโรงเรียน 100% 20
2.1 ใส่เส้ือ ไม่ปฏบิ ัติ รวมด้ำนกำยภำพ O ไม่ครบ สีขาว ทุกคน 2. ด้ำนกจิ กรรม นกั เรยี น ครู และ นกั เรยี น ครู แ 2.2 ทาบญุ ไม่ปฏิบตั ิ ผ้บู รหิ าร เกินกว่าร้อย เกินกวา่ ร้อยล ละ 30 ปฏบิ ตั ิ ใส่บาตร ฟัง นักเรยี น ครู และ นักเรียน ครู แ เทศน์ ผบู้ รหิ าร เกนิ กวา่ รอ้ ย เกินกว่ารอ้ ยล ละ 30 ปฏบิ ตั ิ 2.3 รับประทาน ไม่ปฏิบัติ นักเรียน ครู และ นักเรียน ครู แ ผบู้ ริหาร เกินกว่ารอ้ ย เกนิ กวา่ ร้อยล อาหารมงั สวิรัติ ละ 30 ปฏบิ ตั ิ นักเรยี น ครู และ นักเรียน ครู แ ในม้ือกลางวนั ผู้บรหิ าร เกินกวา่ รอ้ ย เกนิ กวา่ รอ้ ยล ละ 30 ปฏบิ ตั ิ 2.4 สวดมนตแ์ ปล ไม่ปฏบิ ัติ รวมดำ้ นกจิ กรรมว 3.1 บรหิ ารจิตเจริญ ไมป่ ฏิบัติ 3. ด้ำนกำรเ ปัญญาก่อนเขา้ เรยี นเช้า-บ่ายท้งั นักเรยี น ครู และ นกั เรียน ครู แ นกั เรยี นและครู ผบู้ รหิ าร เกนิ กวา่ ร้อย เกินกว่ารอ้ ยล ละ 30 ปฏบิ ตั ิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139