หนว่ ยท่ี 4
ประเภทเครอื ขา่ ย
1.แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ คอื1. เครอื ขา่ ยส่วนบุคคล หรอื แพน ( Personal Area Network: PAN ) เป็นเครอื ขา่ ยทใี่ชส้ ่วนบุคคล เช่น การเชอ่ื มต่อคอมพวิ เตอร์กบั โทรศพั ท์มอื ถอื การเชอื่ มต่อพดี เีอกบั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ซง่ึ การเชอ่ื มต่อแบบนจ้ี ะอยู่ในระยะใกล้ และมกี ารเชอื่ มต่อแบบไร้สาย2. เครอื ขา่ ยเฉพาะท่ี หรอื แลน ( Local Area Network: LAN ) เป็นเครอื ขา่ ยทใ่ีชใ้ นการเชอื่ มโยงคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ในพน้ื ทเี่ดยี วกนั หรอืใกลเ้ คยี งกนั เช่น ภายในบา้ น ภายในสานกั งาน และภายในอาคาร สาหรบั การใชง้ านภายในบ้านนน้ัอาจเรยี กเครอื ขา่ ยประเภทนว้ี ่า เครอื ขา่ ยทพ่ี กั อาศยั ( home network ) โดยอาจเป็นการเชอ่ื มต่อเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ตง้ั แต่ 2 เครอ่ื ง หรอื มากกว่า เครอื ขา่ ยแลนจดั ได้ว่าเป็นเครอื ขา่ ยเฉพาะองค์กร การเชอ่ื มต่อเครอื ขา่ ยแลนสามารถสอ่ื สารขอ้ มูลได้อย่างรวดเรว็ และเกดิประสทิ ธภิ าพกบั องค์กรมากทส่ี ุด เนอื่ งจากเครอื ขา่ ยแลนนจ้ี ะทาหนา้ ทเ่ีชอ่ื มประสานงานการทางานบรหิ ารการจดั การทรพั ยากรต่าง ๆ ได้ดที ส่ี ุด เช่น การตดิ ตงั้ เครอื่ งพมิ พ์สว่ นกลาง การจดั การฐานขอ้ มูล การจดั การแฟ้ ม การรบั -ส่งเอกสาร รายงานต่าง ๆ เพอื่ ใชต้ ดั สนิ ใจในองค์กรเนอื่ งจากอุปกรณ์แต่ละชน้ิ จะอยู่ในตาแหนง่ ทไี่ม่ห่างไกลมากนกั จงึ สามารถทาความเรว็ ในการสอื่ สารและมอี ตั ราการถูกรบกวนของสญั ญาณนอ้ ย ซงึ่ อาจใชก้ ารเชอื่ มต่อแบบใชส้ ายหรอื ไร้สายกไ็ด้
3. เครอื ขา่ ยนครหลวง หรอื แมน (Metropolitan Area Network: MAN) เป็นเครอื ขา่ ยทใี่ชเ้ ชอื่ มโยงแลนทอ่ี ยู่ห่างไกลออกไป เช่น การเชอื่ มต่อเครอื ขา่ ยระหว่างสานกั งานทอี่ าจอยู่คนละอาคารและมรี ะยะทางไกลกนั การเชอื่ มต่อเครอื ขา่ ยชนดิ นอ้ี าจใชส้ ายไฟเบอร์ออพตกิ หรอื บางครง้ั อาจใชไ้ มโครเวฟเชอ่ื มต่อ เครอื ขา่ ยแบบนใ้ีชใ้ นสถานศกึ ษามชี อ่ื เรยี กอกี อยา่ งหนง่ึ ว่าเครอื ขา่ ยแคมปสั ( Campus AreaNetwork: CAN ) ซง่ึ ถอื ว่าเป็นระบบเครอื ขา่ ยทมี่ กี ารเชอ่ื มต่อกนั ในระหว่างทก่ี วา้ งใหญ่ ครอบคลุมระยะทางเป็น 100 กโิลเมตร ทมี่ กี ารตดิ ต่อกนั ในระยะทไ่ีกลกว่าระบบแลนและใกลก้ ว่าระบบแวน เป็นการตดิ ต่อระหว่างเมอื ง เช่นกรงุ เทพฯ กบั เชยี งใหม่ เชยี งใหมก่ บั ยะลาหรอื เป็นการตดิ ต่อระหว่างรฐั โดยมรี ูปแบบการเชอ่ื มต่อแบบ Ringตวั อยา่ งเช่น ระบบ FDDI (Fibre Data Distributed Interface) ทมี่ รี ศั มหี รอื ระยะทางการเชอื่ มต่ออยู่ที่ 100 กโิลเมตร อตั ราความเรว็ อยูท่ ี่ 100 Mbps มรี ปู แบบการเชอื่ มต่อทป่ี ระกอบด้วยวงแหวนสองชนั้ ๆ แรกเป็น Primary Ring ส่วนชนั้ ท่ี 2 เป็น Secondary Ring หรอื Backup Ringโดยชนั้ Secondary Ring จะทางานแทนกนั ทนั ทที สี่ ายสญั ญาณใน Primary Ring ขาด FDDIเป็นโปรโตคอลของเครอื ขา่ ยทเ่ีนน้ การจดั ส่งขอ้ มูลทค่ี วามทคี่ วามเรว็ สูง ส่งได้ในระยะทางทไี่กลและมคี วามนา่ เชอื่ ถอื สูงเนอื่ งจากใชส้ ายใยแกว้ นาแสง จงึ มผี ูน้ า FDDI สูง มาใชเ้ ป็นแบก็ โบนเพอ่ื การขนส่งขอ้ มูล อย่างไรกด็ คี ่าใชจ้ า่ ยในการตดิ ตง้ั ระบบ FDDI สูง ประกอบกบั การทรี่ ะบบ Gigabit Ethernet ถูกออกแบบมาใหแ้ ทนที่ FDDIดงั นน้ั โครงขา่ ยนก้ี าลงั ถูกกลนื ด้วยววิ ฒั นาการทางเทคโนโลยใีนทสี่ ุด 4. เครอื ขา่ ยวงกวา้ ง หรอื แวน (Wide Area Network: WAN) เป็นการเชอ่ื มต่อเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ระยะไกล ซงึ่ มอี ยูท่ ว่ั โลกเขา้ ด้วยกนั โดยอุปกรณ์แปลงสญั ญาณ เช่นโมเดม็ ช่วยในการตดิ ต่อสอื่ สารหรอื สามารถนาเครอื ขา่ ยท้องถน่ิ มาเชอื่ มต่อกนั เป็นเครอื ขา่ ยระยะไกล เช่น เครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ เครอื ขา่ ยระบบธนาคารทวั่ โลก หรอื เครอื ขา่ ยของสายการบนิ เป็นต้น
เครอื ขา่ ย WAN สามารถแบง่ เป็นประเภทใหญ่ๆ คอื 1 . เครอื ข่ายส่วนตวั (private network) เป็นการจดั ตงั้ ระบบเครอื ขา่ ยซง่ึ มกี ารใช้งานเฉพาะองค์กร เช่น องค์กรทม่ี สี าขาอาจทาการสร้างระบบเครอื ข่าย เพอ่ื เชอื่ มต่อระหว่างสานกั งานใหญ่กบั สาขาทม่ี อี ยู่ เป็นต้น การจดั ตงั้ ระบบเครอื ข่ายส่วนตวั มจี ุดเด่นในเรอื่ งของการรกั ษาความลบั ของ ขอ้ มูลสามารถควบคุมดูแลเครอื ข่ายและขยายเครอื ขา่ ยไปยงั จุดทต่ี ้องการ ส่วนขอ้ เสยี คอื ในกรณที ไ่ีม่ได้มกี ารส่งขอ้ มูลต่อเนอ่ื งตลอดเวลา จะเสยี ค่าใช้จา่ ยสูงมากเมอื่ เทยี บกบั การส่งขอ้ มูลผา่ นเครอื ข่ายสาธารณะ และหากมกี ารส่งขอ้ มูลระหว่างสาขาต่างๆ จะต้องมกี ารจดั หาช่องทางสอื่ สารเชอื่ มโยงระหว่างแต่ละสาขาด้วย ซงึ่อาจจะไม่สามารถจดั ช่องทางการสอื่ สารไปยงั พน้ื ทท่ี ตี่ ้องการได้ 2. เครอื ขา่ ยสาธารณะ (PDN: public data network) หรอื บางครงั้ เรยี กว่าเครอื ข่ายมูลค่าเพมิ่ (VAN: Value Added Network) เป็นเครอื ขา่ ย WAN ทจ่ี ะมีองค์กรหนง่ึ (third party) เป็นผูท้ าหนา้ ทใ่ีนการเดนิ ระบบเครอื ข่าย และใหเ้ ช่าช่องทางการสอื่ สารใหก้ บั บรษิ ทั ต่างๆ ทต่ี ้องการสร้างระบบเครอื ข่าย ซง่ึ บรษิ ทั จะลดค่าใชจ้ า่ ยของตนลงได้ เนอ่ื งจากมบี ุคคลอน่ื มาช่วยแบง่ ปนั ค่าใชจ้ า่ ยไป ซงึ่ จะนยิ มใชก้ นั มาก เนอ่ื งจากมคี ่าใชจ้ า่ ยต่ากว่าการจดั ตงั้ เครอื ขา่ ยส่วนตวัสามารถใช้งานได้ทนั ทโีดยไม่ต้องเสยี เวลาในการจดั ตง้ั เครอื ขา่ ยใหม่ รวมทงั้ มบี รกิ ารใหเ้ ลอื กอย่างหลากหลาย ซงึ่ แตกต่างกนั ไปทง้ั ในส่วนของราคา ความเรว็ ขอบเขตพน้ื ทบ่ี รกิ าร และความเหมาะสมกบั งานแบบต่าง ๆ
2. แบง่ ตามหนา้ ทขี่ องคอมพวิ เตอร์Peer-to-Peerเครอื ขา่ ยระดบั เดยี วกนั Peer- to-Peer network:P2P network ) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์สามารถเป็นได้ทงั้ เครอ่ื งใหบ้ รกิ ารและเครอื่ งรบับรกิ ารในขณะเดยี วกนั การใชง้ านส่วนใหญม่ กั ใชใ้ นการแบ่งปนั ขอ้ มูล เช่น เพลง ภาพยนตร์โปรแกรม และเกม เครอื ขา่ ยแบบนเ้ีรมิ่ แพร่หลายมากขน้ึ ในผูใ้ชง้ านอนิ เทอร์เนต็ การใชง้ านจะมีซอฟต์แวร์เฉพาะ เช่น โปรแกรม eDonkey, BitTorrent และ Lime Wireขอ้ ดขี องระบบแบบนค้ี อื ง่ายต่อการใชง้ าน และราคาไม่แพง ขอ้ ด้อยคอื ไมม่ กี ารควบคุมเรอื่ งความปลอดภยั จงึ อาจพบว่าถูกนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นทางไม่ถูกต้อง เช่น การแบง่ ปนั เพลงภาพยนตร์ และโปรแกรมทมี่ ลี ขิ สทิ ธซิ์ งึ่ เป็นการกระทาผดิ กฎหมายClient-Serverเครอื ขา่ ยแบบรบั -ใหบ้ รกิ าร หรอื ไคลเอนท์/เซริ ์ฟเวอร์ (client-server network) จะมเีครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทเี่ป็นเครอ่ื งใหบ้ รกิ ารต่างๆ เช่น บรกิ ารเวบ็ และบรกิ ารฐานขอ้ มูล การใหบ้ รกิ ารขน้ึ กบั การร้องขอบรกิ ารจากเครอ่ื งรบั บรกิ าร เช่น การเปิดเวบ็ เพจ เครอื่ งรบั บรกิ ารจะร้องขอบรกิ ารไปทเี่ครอื่ งบรกิ ารเวบ็ จากนน้ั เครอื่ งใหบ้ รกิ ารเวบ็จะตอบรบั และส่งขอ้ มูลกลบั มาใหเ้ ครอื่ งรบั บรกิ าร ขอ้ ดขี องระบบนค้ี อื สามารถใหบ้ รกิ ารแก่เครอ่ื งรบั บรกิ ารได้เป็นจานวนมาก ขอ้ ด้อยคอื ระบบนม้ี คี ่าใชจ้ า่ ยในการตดิ ตงั้ และการบารงุ รกั ษาค่อนขา้ งสูง
3. แบง่ ตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑ์ อนิ ทราเนต็ (Intranet) คอื ระบบเครอื ขา่ ยภายในองค์กร เป็นบรกิ าร และการเชอ่ื มต่อคอมพวิ เตอร์เหมอื นกนั อนิ เทอร์เนต็ แต่จะเปิดใหใ้ ชเ้ ฉพาะสมาชกิ ในองค์กรเท่านนั้ เช่น อนิ ทราเนต็ ของธนาคารแต่ละแห่ง หรอืระบบเครอื ข่ายมหาดไทย ทเ่ีชอ่ื มศาลากลางทวั่ ประเทศ เป็นต้น เป็นการสร้างระบบบรกิ ารขอ้ มูลข่าวสาร ซงึ่ เปิดบรกิ ารคลา้ ยกบั อนิ เทอร์เนต็ เกอื บทุกอย่าง แต่ยอมใหเ้ ขา้ ถงึ ได้เฉพาะคนในองค์กรเท่านนั้ เป็นการจากดัขอบเขตการใชง้ าน ดงั นนั้ ระบบอนิ เทอร์เนต็ ในองค์กร กค็ อื \"อนิ ทราเนต็ \" นน่ั เอง แต่ในช่วงทชี่ อื่ นย้ี งั ไม่เป็นท่ีนยิ ม ระบบอนิ ทราเนต็ ถูกเรยี กในหลายชอื่ เช่น Campus network, Local internet,Enterprise network เป็นต้นอนิ เทอร์เนต็ ( Internet ) คอื เครอื ขา่ ยของคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ทเี่ชอ่ื มโยงเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ทว่ั โลกเขา้ ด้วยกนั โดยอาศยั เครอื ขา่ ยโทรคมนาคมเป็นตวั เชอ่ื มเครอื ขา่ ย ภายใต้มาตรฐานการเชอื่ มโยงด้วยโปรโตคอลเดยี วกนั คอื TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol) เพอื่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทุกเครอ่ื งในอนิ เทอร์เนต็ สามารถสอื่ สารระหว่างกนั ได้นบั ว่าเป็นเครอื ขา่ ยทกี่ ว้างขวางทสี่ ุดในปจั จุบนั เนอ่ื งจากมผี ูน้ ยิ มใช้ โปรโตคอลอนิ เทอร์เนต็ จากทว่ั โลกมากทส่ี ุดเอก็ ซ์ทราเนต็ (Extranet) คอื ระบบเครอื ขา่ ยซงึ่ เชอ่ื มเครอื ขา่ ยภายในองค์กร หรอื อนิ ทราเนต็(Intranet) เขา้ กบั ระบบคอมพวิ เตอร์ทอี่ ยูภ่ ายนอกองค์กร เช่น ระบบคอมพวิ เตอร์ของสาขาของผูจ้ ดัจาหน่าย หรอื ของลูกค้า เป็นต้น โดยการเชอ่ื มต่อเครอื ข่ายอาจเป็นไดท้ ง้ั การเชอ่ื มต่อโดยตรงระหว่าง 2 จุดหรอื การเชอื่ มต่อแบบเครอื ขา่ ยเสมอื น (Virtual Network) ระหว่างระบบอนิ ทราเนต็ หลาย ๆเครอื ขา่ ยผา่ นอนิ เทอร์เนต็ กไ็ด้
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: