Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ราชสีห์ กับ หนู

ราชสีห์ กับ หนู

Published by chfjg24251, 2021-12-30 04:26:04

Description: ราชสีห์ กับ หนู

Search

Read the Text Version

ราชสีห์ กับ หนู

นิทานอีสป เรื่อง ราชสีห์กับหนู นิทานน่ารัก ๆ ของเหล่าสัตว์ป่า มาพร้อมกับข้อคิดสอนใจดี ๆ เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ให้คุณ พ่ อ คุ ณ แ ม่ ใ ช้ เ ล่ า ก ล่ อ ม ลู ก น้ อ ย ก่ อ น น อ น รู้หรือไม่ว่า การเล่านิทานให้ลูกฟังมีประโยชน์และข้อดีมากมาย เพราะ นอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อยแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วย เสริมสร้างทักษะการฟัง การอ่าน สอนให้รู้จักคิด รู้จักสังเกต และปลูกฝังพื้นฐาน การเรียนรู้รวมถึงการดำเนินชีวิตที่ดีให้แก่เด็ก ๆ อีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมมี นิทานอีสปเรื่อง \"ราชสีห์กับหนู\" มาฝากให้คุณพ่อคุณแม่นำไปเล่าให้ลูกน้อยฟัง พร้อมภาพประกอบ และข้อคิคดี ๆ รับรองว่าคืนนี้ถ้าได้อ่านให้ลูกฟังก่อนนอน เด็ก ๆ ต้องหลับฝันดีแน่ ^^ กาลครั้งหนึ่ง ณ ผืนป่าอันกว้างใหญ่ ขณะราชสีห์ผู้เป็นราชาแห่งสัตว์ ทั้งหลายกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข จู่ ๆ ก็มีหนูตัวน้อยไต่ขึ้นมาปีนป่ายบนหลัง จนราชสีห์รู้สึกตัวตื่น ก่อนใช้อุ้งเท้าใหญ่ตะครุบหนูน้อยตัวนั้น หวังจะขย้ำกินด้วย ความโมโหเพราะถูกขัดจังหวะการพั กผ่อน แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากกว้างดีก็มีเสียงอ้อนวอนเล็ก ๆ จากเจ้าหนูดังขึ้นมา ว่า \"ได้โปรดให้อภัยข้าสักครั้งเถิดท่านเจ้าป่า ข้าขอสาบานว่าข้าไม่ได้ตั้งใจล่วงเกิน ท่านเลยแม้แต่น้อย หากคราวนี้ท่านมีเมตตาปล่อยตัวข้าไป ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของ ท่าน ข้าจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน ข้าสัญญา\"

ทันทีที่ได้ยินราชสีห์เจ้าป่าก็หัวเราะลั่นแล้วตอบกลับไปว่า \"เจ้าเป็นเพียงหนู ตัวเล็กแค่นี้ จะมีปัญญาทำอะไรตอบแทนข้าที่เป็นถึงราชาผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่เอาเถอะ เห็นแก่มุกตลกของเจ้าที่ทำให้ข้าหัวเราะได้ ครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน\" แม้จะ เต็มไปด้วยคำดูถูกแต่เจ้าหนูน้อยก็ตอบรับอย่างนอบน้อมและจริงใจ \"ขอบคุณท่าน เจ้าป่าผู้เมตตา ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลย\" หลายวันผ่านไป ขณะราชสีห์กำลังออกล่าหาอาหารก็ดันพลาดท่าไปติดกับ ดักนายพรานเข้า ต่อให้ดิ้นแรงแค่ไหนก็ดิ้นไม่หลุดทำได้แต่ส่งเสียงร้องออกมา อย่างสิ้นหวัง โชคที่ดีเจ้าหนูได้ยินเข้าจึงรีบวิ่งตามเสียงนั้นไปแล้วรีบลงมือช่วย เหลือราชสีห์ทันที เจ้าหนูใช้ฟันเล็ก ๆ ของมันกัดบ่วงกับดักทีละเส้นอย่างตั้งใจจน ราชสีห์รู้สึกผิดที่เคยพู ดดูถูกอีกฝ่ายไว้สารพัด เมื่อบ่วงเส้นสุดท้ายขาดและราชสีห์รอดเป็นอิสระอีกครั้งจึงพู ดกับเจ้าหนู ว่า \"ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยข้าเอาไว้ และข้าขอโทษด้วยที่เคยพู ดไม่ดีกับเจ้าในวัน นั้น\" เจ้าหนูยิ้มรับคำขอบคุณนั้นอย่างยินดีแล้วตอบกลับไปว่า \"ข้าไม่เคยถือโทษ โกรธเลยท่านเจ้าป่า และข้าดีใจยิ่งกว่าที่ได้ตอบแทนท่านอย่างที่สัญญาไว้\" เมื่อต่างคนต่างเข้าใจ ไม่ถือโทษโกรธกัน หลังจากนั้นราชสีห์กับเจ้าหนูก็ กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่เคยดูถูกว่าร้ายกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และ ใช้ชีวิตด้วยกันในป่ากว้างร่วมกับสัตว์อื่น ๆ อย่างมีความสุขเรื่อยไป...

หมาป่ากับสิงโต หมาป่าตัวหนึ่งขโมยลูกแกะมาได้ตัวหนึ่ง และแบกไปยังถ้ำเพื่อจัดการเป็น อาหาร แต่แผนการของมันต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อมันเผชิญกับหน้าสิงโต ซึ่งชิงลูกแกะไปโดยไม่เอ่ยขอโทษสักคำ หมาป่าถอยห่างไปอยู่ในระยะปลอดภัย และกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดว่า \"ท่านไม่มีสิทธิมาแย่งชิงของๆ ข้าไปอย่างนั้นนะ\" สิงโตหันหลับมา แต่เจ้าหมาป่าอยู่ไกลเกินกว่าสิงโตจะสอนบทเรียนให้ โดยไม่ต้องเปลืองแรง มันจึงกล่าวว่า \"ของๆ เจ้างั้นหรือ เจ้าซื้อมา หรือคนเลี้ยงแกะให้เจ้ามาเป็นของขวัญล่ะ เจ้า ได้มันมาอย่างไรหรือ ไหนช่วยบอกข้าทีสิ\"

เต่ากับลิง ลิงตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าริมลำธาร มันเห็นว่าอีกฝั่ งของลำธารมีผลไม้ มากมายจึงคิดหาวิธีข้ามไป วันหนึ่งลิงเห็นเต่าว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ จึงแกล้งชมเต่าว่า \"ท่านเต่า ตั้งแต่ข้าเกิดมายังไม่เคยเห็นใครว่ายน้ำเก่งเท่าท่านมาก่อนเลย ข้าล่ะ อิจฉาท่านจริง ๆ\" เมื่อเต่าได้ยินดังนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจ จึงบอกลิงว่า \"เจ้าลิง ขึ้น หลังข้ามาสิ เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวเล่นอีกฝั่ งของลำธาร\" ลิงรีบกระโดดขึ้นหลัง เต่าอย่างรวดเร็ว เมื่อข้ามมาถึงอีกฝั่ ง มันก็รีบกระโดดลงและตะโกนเยาะเย้ยเต่า ว่า \"จริง ๆ แล้วเจ้าน่ะว่ายน้ำเชื่องช้าพอ ๆ กับเวลาที่เจ้าเดินนั่นแหละ ถ้าเจ้าไม่มี ประโยชน์กับข้า ข้าก็คงไม่เอ่ยปากชมเจ้าหรอก เจ้าเต่าโง่เอ๋ย\" :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: อย่าหลงใหลไปกับคำเยินยอจากผู้ที่หวังเอาประโยชน์จากเรา

แมวผูกกระพรวน กาลครั้งหนึ่ง บรรดาหนูทั้งหลายเรียกประชุมเพื่อหารือแผนการที่จะ ปลดแอกตัวเองจากศัตรูตัวฉกาจของพวกมัน นั่นคือเจ้าแมวเหมียว อย่างน้อย ที่สุด พวกมันก็อยากรู้ว่าเมื่อไรแมวจะมาเพื่อพวกมันจะได้มีเวลาหนีทัน จริงๆ แล้ว คือต้องทำอะไรสักอย่างเพราะพวกมันอยู่ภายใต้ความหวาดผวากรงเล็บแมวมาช้า นาน จนแทบไม่กล้าเสนอหน้าโผล่ออกมาจากรูเลยตลอดทั้งวันทั้งคืน แผนการมากมายถูกยกขั้นมาปรึกษาหารือกัน แต่ไม่มีแผนการใดดีพอเลย สักแผนการเดียว ท้ายที่สุด เจ้าหนูน้อยตัวหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและพู ดว่า

\"ข้ามีแผนที่ง่ายมากแต่รับรองว่าต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน ทั้งหมดที่ เราต้องทำก็แค่หากระพรวนไปผูกไว้ที่คอแมว เมื่อใดก็ตามที่เราได้ยินเสียงระพรวน เราก็จะรู้ทันทีว่าศัตรูของเรากำลังจะมา\" หนูทุกตัวรู้สึกประหลาดใจมากที่พวกมันไม่ได้คิดถึงแผนนี้มาก่อนหน้านี้ ทว่า ขณะกำลังปลื้มปีติกับโชคดีของพวกมันอยู่นั่้นเอง หนูชราตัวหนึ่งก็ยืนขึ้นและเอ่ย ว่า \"ข้าคงต้องบอกว่าแผนของเจ้าหนูน้อยนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ข้าขอถามสัก คำหนึ่งเถิด ใครจะเป็นคนเอากระพรวนไปผูกคอแมว\" :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: การพู ดว่าจะทำบางสิ่งบางอย่างนั้นง่าย แต่จะทำได้จริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ผึ้ง ตัวต่อ และแตน ในโพรงไม้แห่งหนึ่งเป็นที่กักตุนน้ำผึ้ง ซึ่งตัวต่อประกาศว่าน้ำผึ้งทั้งหมด เป็นของพวกมัน ฝ่ายผึ้งก็มั่นใจว่าขุมทรัพย์เป็นของพวกมันต่างหาก การถก เถียงลุกลามใหญ่โตจนดูเหมือนว่าเรื่องราวไม่อาจยุติลงได้โดยปราศจากการสู้รบ ท้ายที่สุดด้วยความมีเหตุมีผลของทั้งสองฝ่าย พวกมันจึงตกลงว่าควรมีผู้ พิพากษาที่จะมาตัดสินในเรื่องนี้พวกมันจึงนำความไปยื่นต่อแตน ซึ่งเป็นผู้คง ความสันติในป่าแถบนั้น เมื่อผู้พิพากษาเบิกความ ก็มีพยานมากมายให้การว่าพวกมันเห็นสัตว์ที่มี ปีกบินอยู่แถวๆ โพรงไม้ดังกล่าว ส่งเสียงหึ่งดังไปทั่ว พวกมันมีลำตัวเป็นแถบ ลายสีเหลืองและดำเหมือนผึ้ง

ทนายฝ่ายตัวต่อรีบยืนกรานทันทีว่าคำอธิลายนี้ตรงกับลักษณะของลูก ความมัน พยานหลักฐานที่ว่าไม่อาจช่วยให้ผู้พิพากษาแตนตัดสินความได้ มันจึงเลื่อน การพิจารณาของศาลออกไปอีกหกสัปดาห์เพื่อขอเวลาคิดให้รอบคอบ เมื่อถึง เวลาพิจารณาคดีอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่างมีพยานเพิ่ มขึ้นอีกมากมาย มดตัวหนึ่ง ยืนขึ้นให้การเป็นตัวแรก และกำลังจะถูกซักค้าน เมื่อผึ้งชราผู้หลักแหลมแสดงตน ต่อหน้าศาล \"ข้าแต่ศาลที่เคารพ\" มันเอ่ยขึ้น \"คดีนี้ถูกเลื่อนมาหกสัปดาห์แล้ว หากเร็วๆ นี้ยังไม่มีการตัดสิน น้ำผึ้งก็คงจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ ข้าจึงขอเสนอว่า จงมอบ หมายให้ทั้งผึ้งและต่อสร้างรวงผึ้งขึ้นมา แล้วเราก็จะได้เห็นกันในไม่ช้าว่าน้ำผึ้งนี้ เป็นของใครกันแน่\" พวกตัวต่อประท้วงกันเสียงดัง ผู้พิพากษาแตนผู้ชาญฉลาดเข้าใจในพริบตา ว่าทำไมพวกมันจึงประท้วงเช่นนั้น เป็นเพราะพวกมันรู้ดีว่าไม่อาจสร้างรวงผึ้งและ ใส่น้ำผึ้งเข้าไปในนั้นได้ \"ชัดเจนแล้วว่า ใครที่สร้างรวงผึ้งและใครไม่อาจทำได้ สรุปว่าน้ำผึ้งเป็นของ พวกผึ้ง\" ผู้พิพากษากล่าว :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: ความสามารถพิ สู จน์ได้ด้วยการกระทำ

จบแล้วค่ะ ขอขอบคุณค่ะ นางสางวปฐมาวดี ประมนต์ เลขที่ 29


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook