ผ้ า พื้น เ มือ ง ภ า คเ หนื อ
ทตี่ ั้งภาคเหนอื ภาคเหนือ เป็ นภูมิภาคท่ีอยดู่ า้ นบนสุดของไทยมีลกั ษณะภมู ิประเทศอนั ประกอบไปดว้ ย เทือกเขาสลบั ซบั ซอ้ น ต่อเนื่องมาจากทิวเขาฉานโยมาในประเทศพม่าและประเทศ ลาว ภาคเหนือมีภมู ิอากาศแบบทุ่งหญา้ สะวนั นา เหมือนกบั พ้ืนที่ส่วนใหญ่ของประเทศ การท่ีมี พ้ืนท่ีอยเู่ หนือระดบั น้าทะเลและมีเส้นละตจิ ูดอยตู่ อนบนทาใหส้ ภาพอากาศของภาคเหนือ เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอยา่ งเห็นไดช้ ดั เช่น มีฤดูหนาวท่ีหนาวเยน็ กว่าภมู ิภาคอื่น ๆ ทางดา้ น ประวตั ิศาสตร์ของภาคเหนือมีความสมั พนั ธ์ทางวฒั นธรรมกบั อาณาจกั รลา้ นนา
ผ้าพ้ืนเมืองภาคเหนือ ผ้าไหมไทย มรดกทางวฒั นธรรมอนั ลา้ ค่า และเป็ นเอกลกั ษณ์ของไทย ทม่ี ีการถ่ายทอดจากบรรพ ชนสู่สังคมยุคปัจจุบนั ซ่ึงในอดตี น้ัน ผ้าไหมกเ็ ป็ นท่ีรู้จกั กนั ในวงแคบๆ ของชุมชนท่ผี ลติ กนั เอง ใช้กนั เองเฉพาะในแต่ละกล่มุ มิได้ขยายออกสู่สังคมอนั กว้างไกล สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมวี สิ ัยทศั น์อนั ยาวไกล ได้ทรงนาผ้าไหมไทยออกสู่ตลาดโลก จนกระทัง่ ทกุ วนั นี้ ใครๆ กร็ ู้จักผ้าไหมไทย พระองค์ทรงเป็ นผู้นาในการแต่งกายชุดไหมไทยพระราชนิยม ในคราว ตามเสด็จฯ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว เสดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา และ ยุโรป ทาให้ผ้าไหมเป็ นท่ีรู้จกั กนั แพร่หลายไปท่ัวโลก
ซ่ินไทยวน อาเภอแม่แจ่ม –หัวซิ่น ส่วนที่อยตู่ ดิ กบั เอว มกั ใชผ้ า้ พ้ืนสีขาว สีแดง หรือสีดาตอ่ กบั ตวั ซ่ินเพื่อใหซ้ ิ่นยาวพอดีกบั ความสูงของผูน้ ุง่ และช่วยให้ ใช้ไดค้ งทน เพราะเป็นชายพกตอ้ งขมวดเหนบ็ เอวบอ่ ยๆ –ตวั ซ่ิน ส่วนกลางของซ่ิน กวา้ งตามความกวา้ งของฟื ม ทาใหล้ ายผา้ ขวางลาตวั มกั ทอเป็นร้ิวๆ มีสีตา่ งๆ กนั เช่น ริ้วเหลืองพ้ืนดา หรือทอยกเป็นตาสีเหลี่ยม หรือทอเป็นลายเลก็ ๆ –ตนี ซ่ิน ส่วนลา่ งสุด อาจเป็นสีแดง สีดา หรือทอลายจกเรียก ซิ่นตีนจก ชาวไทยวนนิยมทอตีนจกแคบ เช่น ซิ่นตนี จกแมแ่ จม่ บริเวณ อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชียงใหม่ มกั ทอลายส่ีเหลี่ยมขา้ วหลามตดั อยตู่ รงกลาง เชิงลา่ งสุดเป็นสีแดง ซิ่นตนี จกของคหบดีหรือเจา้ นาย มกั สอดดิ้นเงินหรือด้ินทองใหส้ วยงามยงิ่ ข้ึน การนุ่งซ่ินและห่มสไบเป็นการแตง่ กายที่แพร่หลายในกลุ่มผูห้ ญิงชาวเหนือแทบทุกกลุม่ แตร่ ูปแบบของซ่ินจะแตกตา่ งกนั ตามคตินิยมของแตล่ ะกลุ่ม เช่น ชาวไทล้ือในบริเวณจงั หวดั เชียงราย พะเยา และนา่ น โดยเฉพาะกลุม่ ไทล้ือ จงั หวดั น่าน มแี บบ แผนการทอผ้าซิ่นและการสร้างลวดลายทสี่ าคญั ๓ ประเภท คอื 1.ผา้ ลายน้าไหลเมืองนา่ น 2.ซิ่นมกุ ตอ่ ตีนจก ชาวไทพวน 3.ลายคาดกา่ น หรือ มดั กา่ น
1.ผ้าลายนา้ ไหลเมืองน่าน 1. ลายลว้ งหรือเกาะ คอื การสร้างลายดว้ ยวธิ ีลว้ งดว้ ยมอื คือใชเ้ สน้ ดา้ ยสีตา่ งๆ สอดลงไปในเส้นดา้ ยยนื ตามจงั หวะที่กาหนดให้เป็นลายคลา้ ยการสานขดั จากน้นั จะใชฟ้ ื มกระแทกเสน้ ดา้ ยใหส้ นิทเป็นเน้ือ เดียวกนั ผา้ ลายลว้ งที่มีช่ือเสียงคือ ผา้ ลายน้าไหล หรือ ผา้ ลายน้าไหลเมอื งน่าน ซ่ึงเกดิ จากการลว้ งให้ลาย ตอ่ กนั เป็นทางยาว เวน้ ระยะเป็นช่วงๆ คลา้ ยคล่ืน นอกจากผา้ ลายลว้ งยงั มีลายอ่ืนๆ ที่เรียกชื่อตามลกั ษณะ ลาย เช่น ลายใบมีด หรือลายมดี โกน เป็นลายท่ีเกดิ จากการลว้ งสอดสีดา้ ยหลายๆ สีให้ห่างกนั เป็นช่วงๆ เหมอื นใบมีดบางๆ ลายจรวดมลี กั ษณะคลา้ ยจรวดกาลงั พุ่ง ลายน้าไหลสายรุ้งเป็นลายท่ีพฒั นามาจากลาย น้าไหลโดยคนั่ ดว้ ยการสอดสี ลายไส้ปลา เป็นลายท่ีมหี ลายสีคลา้ ยสีรุ้ง แลว้ คนั่ ดว้ ยการเกบ็ มกุ ชนิดตา่ งๆ เช่น มุกลายดอกหมาก มกุ ขา้ วลีบ ลายกาปุ้งหรือลายแมงมมุ พฒั นาจากการนาลายน้าไหลมาตอ่ กนั ตรง กลาง เติมลายเลก็ ๆ โดยรอบเป็นขาคลา้ ยแมงมุม ตอ่ มาพฒั นาเป็นลายอื่นๆ ไดอ้ ีกมาก เช่น ลายดอกไม้ ลายปู ลวดลายท่ีเกดิ ข้นึ น้ีลว้ นมาจากกรรมวธิ ีในการลว้ งท้งั ส้ิน หากแตล่ ะลายจะดดั แปลงปสมกบั กรรมวิธีอ่ืนเพ่ือใหไ้ ดล้ วดลายท่ีตา่ งกนั ออกไป
2.ซ่ินมุกต่อตีนจก ชาวไทพวน 2.ลายเกบ็ มกุ คือ การสร้างลวดลายดว้ ยการทอคลา้ ยกบั การเกบ็ ขดิ ของอีสาน ไมไ่ ดล้ ว้ งดว้ ยมอื แต่ จะเกบ็ ลายดว้ ยไมไ้ ผเ่ หลากลมปลายไมแ่ หลม เม่ือเกบ็ ลายเสร็จแลว้ จะสอดเส้นดา้ ยดว้ ยไมเ้ กบ็ ลาย ชนิดตา่ งๆ ตามแมล่ ายท่ีจะเกบ็ ลายชนิดน้ีเรียกชื่อตา่ งกนั ไปตามความนิยมทอ้ งถ่ิน
3.ลายคาดก่าน หรือ มัดก่าน 3.ลายคาดกา่ น หรือ มดั กา่ น คอื การสร้างลวดลายที่ใชก้ รรมวธิ ีเช่นเดียวกบั ลายมดั หม่ี การคาด(มดั ) กอ่ นยอ้ ม จะเป็นตวั กาหนดขนาดของลาย คลา้ ยลายมดั หม่ี ลายคาดกา่ นมกั ประดิษฐเ์ ป็นลวดลายเล็กๆ ไมพ่ ัฒนา ลวดลายเหมือนลายน้าไหล กรรมวธิ ีในการทอผา้ ให้เป็นลวดลายประเภทตา่ งๆ เหล่าน้ี ไดน้ ามาใช้กบั ผา้ ทอที่ตอ้ งการใชส้ อยใน ลกั ษณะที่ตา่ งกนั ไป โดยเฉพาะซ่ินไทล้ือเมอื งนา่ น หรือ ซ่ินนา่ น มลี วดลายและสีเดน่ เพราะทอดว้ ยไหมเป็นร้ิ ใหญ่ สลบั สีประมาณสามหรือส่ีสี ส่วนตีนซิ่นมีสีแดงเป็นแถบใหญ่ ถดั ข้นึ ไปเป็นสีน้าเงินหรือมว่ งเขม้ คน่ั ดว้ ย ด้ินเงินหรือดิ้นทอง หรือไหมคาสลบั เพื่อให้เกดิ ความวาวระยบั บางทีแตล่ ะช่วงจะคน่ั ดว้ ยลวดลายใหด้ ูงดงาม ยง่ิ ข้ึน เรียกตา่ งออกไปตามลกั ษณะของลาย เช่น ซ่ินป้อง ซ่ินตาเหล็ม ซ่ินลว้ ง ซ่ินลายน้าไหล
ซ่ินป้อง ซ่ินล้วง
ผ้าหลบ ผ้ากง้ั ไทแดง แขวงหัวพนั ประเทศลาว ใชักนั้ ประตู
ตุง ซ่ินกะเหร่ียง
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: