Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุดบันทึกการเรียนรู้

สมุดบันทึกการเรียนรู้

Published by 223 ญาณิศา คนซื่อ, 2021-10-23 17:24:34

Description: สมุดบันทึกการเรียนรู้ของรายวิชาแนวทางการศึกษาวรรณคดีไทย

Search

Read the Text Version

๑.๒ วรรณคดใี ชป้ ระกอบกำรแสดง ๔๗ ๑.๓ วรรณคดมี ไี วส้ งั่ สอน ๑.๔ วรรณคดมี ไี วส้ ง่ สำร ๑.๕ วรรณคดเี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของพธิ ตี ำ่ งๆ

๒.คุณคำ่ ของวรรณคดีไทย ๔๘ ๑. วรรณคดไี ทยชว่ ยนำเสนอภำพสงั คมไทยบำงแงม่ ุม ๒. วรรณคดีไทยช่วยยกระดบั จิตใจของผ้อู ่ำน (ควำมเช่ือเรอื่ งควำมดี ควำมเช่อื เรื่องกรรม) ๓. วรรณคดีไทยแสดงใหเ้ ห็นภูมิปัญญำทำงภำษำและวัฒนธรรมของคนไทย *กลอนตอ่ ไปน้แี สดงให้เหน็ ภำพสังคมไทยในอดตี อยำ่ งไร อนั อเิ หนำเอำมำทำเปน็ คำรอ้ ง สำหรับงำนกำรฉลองกองกุศล แต่ก่อนเกำ่ เจ้ำสตรเี ธอนิพนธ์ แตเ่ รอ่ื งตน้ ตกหำยพลดั พรำยไป หำกพระองคท์ รงพิภพปรำรภเล่น ใหร้ ำเต้นเล่นละครคดิ กลอนใหม่ เติมแตม้ ตอ่ ตดิ ประดิษฐ์ไว้ บำรงุ ใจไพร่ฟ้ำขำ้ แผน่ ดิน *แต่กอ่ นไดม้ กี ำรนำเอำอิเหนำมำทำเปน็ คำรอ้ ง เพอื่ ฉลองในงำนกำรกศุ ล แลว้ ชว่ งหลัง กข็ ำดควำมนยิ ม แต่เมอื่ มำถงึ สมยั รชั กำลที่ ๒ พระองค์ทรงไดน้ ำเอำอเิ หนำมำทำเป็นบท ละครใน เพื่อสร้ำงควำมบันเทงิ ใหแ้ ก่ขำ้ รำชบริพำรและประชำชน ๓.ศิลปะกำรประพันธ์ในวรรณคดีไทย อุปลักษณ์ กำรใช้ กำรเล่น เล่นเสียงพยญั ชนะ คำเลยี นเสียงธรรมชำติ ภำพพจน์ เสยี ง เลน่ เสียงสระ บุคคลวัต เลน่ เสยี งวรรณยุกต์ อุปมำ กำรเลน่ คำซ้ำ กำร กำรเล่นคำพ้อง เล่นคำ กำรเลน่ คำเชิงคำถำม

๓.๑ กำรเลน่ เสยี ง ๔๙ *กำรเล่นเสยี ง คือ กำรสรรคำให้มเี สยี งสัมผสั เป็นพิเศษกว่ำปกตเิ พ่ือใหเ้ กิดทำนอง เสียงทไี่ พเรำะน่ำฟังและเพื่ออวดฝมี ือของกวี มีท้ังกำรเลน่ เสยี งพยญั ชนะ เล่นเสยี ง สระ และเล่นเสียงวรรณยกุ ต์ จิบจบั เจำเจำ่ เจ้ำ รังมำ จอกจำบจน่ั จรรจำ จ่ำจ้ำ เคำ้ ค้อยคอ่ ยคอยหำ เหน็ โทษ ซอนซอ่ นซอ้ นสร้ิวหน้ำ น่ิงเรำ้ เอำขวญั ๓.๒ กำรเลน่ คำ (โคลงอักษรสำมหมู่ ของพระศรมี โหสถ) *กำรเล่นคำ คือ กำรสรรคำมำเรียงร้อยในคำประพันธ์โดยพลิกแพลงให้เกิด ควำมหมำยที่พิเศษและแปลกออกไปจำกที่ใช้กันอยู่นั้น เพื่ออวดฝีมือของกวี เช่นเดยี วกับกำรเลน่ เสยี ง เชน่ *กำรเล่นคำพ้อง *กำรเลน่ คำซำ้ *กำรเล่นคำเชงิ คำถำม ๓.๒.๑ กำรเลน่ คำพอ้ ง กำรเล่นคำพ้องเสียง เบญจวรรณจบั วลั ย์ชำลี เหมอื นวันเจ้ำวอนพ่ีใหต้ ำมกวำง กำรเล่นคำพอ้ งรูป ไมเ่ มำเหล้ำแตเ่ รำยังเมำรัก สดุ จะหักห้ำมจิตคดิ ไฉน ถงึ เมำเหลำ้ เช้ำสำยกห็ ำยไป แตเ่ มำใจน้ีประจำทุกคำ่ คนื ๓.๒.๒ กำรเลน่ คำซำ้ *กำรนำคำคำเดยี วมำใชซ้ ำ้ ๆในทใี่ กลๆ้ กนั เพอ่ื ยำ้ ควำมหมำยของขอ้ ควำมใหห้ นกั แน่นมำกขน้ึ ...แต่แม่เทีย่ วเซซังเสำะแสวงทุกแหง่ หอ้ งหมิ เวศทัว่ ประเทศทกุ รำวป่ำ สดุ สำยนัยนำทแ่ี มจ่ ะตำมไปเลง็ แล สุดโสตแล้วทีแ่ ม่จะซบั ทรำบฟงั สำเนียง สดุ สรุ เสียงทแ่ี มจ่ ะร่ำเรยี กพิไรร้อง สดุ ฝีเทำ้ ที่แม่จะเย้อื งยอ่ ง ยกยำ่ งลงเหยยี บดนิ ก็สดุ สิ้นสุดปัญญำสุดหำสุดคน้ เห็นสดุ คดิ ... ๓.๒.๓ กำรเลน่ คำเชงิ คำถำม กำรเรียงรอ้ ยถอ้ ยคำใหเ้ ปน็ ประโยคเชงิ คำถำม แตเ่ จตนำทีแ่ ท้จรงิ ไมไ่ ด้ถำม เพรำะไมต่ อ้ งกำรคำตอบ แตต่ ้องกำรเน้นใหข้ อ้ ควำมมีนำ้ หนกั ดึงดดู ควำมสนใจ และใหผ้ ู้ฟังคิดตำม เปลกไ็ กวดำบก็แกวง่ แข็งหรอื ไม่ ไม่อวดหยิ่งหญงิ ไทยมใิ ชช่ ว่ั ไหนไถถำกตรำกตรำไหนทำครวั ใช่ร้จู ักแต่จะยัว่ ผวั เมอื่ ไร (นำรเี รอื งนำม)

กำรเลน่ คำ รูป เสยี ง ควำมหมำย ๕๐ คำซ้ำ / / / (ใกล้ๆกนั ) ซ้ำคำ / / / ๆ (ไมย้ มก) พ้องรูป / - - พอ้ งเสยี ง - / - ไวพจน์ - - / ๓.๓ กำรใชภ้ ำพพจน์ กำรใช้ถ้อยคำเพือ่ สร้ำงจินตภำพแกผ่ อู้ ำ่ น โดยกำรเรยี บเรียงถอ้ ยคำด้วยวธิ ีตำ่ ง ๆ ให้พิเศษกวำ่ กำรเรียงลำดบั คำ หรือกำรใช้ควำมหมำยคำตำมปกติ เชน่ *อุปมำ *อุปลักษณ์ *บคุ คลวตั *กำรใช้คำเลยี นเสยี งธรรมชำติ ๓.๓.๑ กำรเลน่ คำพอ้ ง *อุปมำ = กำรเปรียบเทียบว่ำสง่ิ หนึง่ เหมอื นอกี สิ่งหนึง่ โดยนำสงิ่ ทตี่ ่ำงจำพวกกัน แตม่ ีลกั ษณะเดน่ เหมือนกนั มำเปรียบเทยี บกนั และใช้คำแสดงควำมเปรียบ วำ่ เหมือน คลำ้ ย ดง่ั เพย้ี ง ดจุ ฯลฯ คุณแมห่ นำหนักเพี้ยง พสุธำ คณุ บดุ รดุจอำ- กำศกวำ่ ง คณุ พ่ีพ่ำงศิขรำ เมรุมำศ คณุ พระอำจำรย์อำ้ ง อำจสู้สำคร (โครงโลกนติ ิ) สิ่งทตี่ อ้ งกำร สิ่งทเ่ี ปน็ ตวั ลักษณะเดน่ ท่ี คำแสดงควำม กล่ำวถงึ เปรยี บเทยี บ รว่ มกนั เปรยี บ พระคณุ ของแม่ แผน่ ดนิ (พสธุ ำ) หนำหนัก เพีย้ ง พระคณุ ของพ่อ ทอ้ งฟำ้ (อำกำศ) กว้ำง ดุจ พระคณุ ของพ่ี ภเู ขำ (ศขิ รำเมรุมำศ) (สงู ) พ่ำง พระคณุ ของครู ทอ้ งน้ำ (สำคร) (กว้ำง) สู้ ขอ้ พงึ ระวงั กำรเปรยี บเทยี บธรรมดำ กำรเปรยี บแบบอปุ มำ เชยี งใหม่เหมอื นกบั กรุงเทพฯ อำกำศทเี่ ชยี งใหม่รอ้ นประดจุ มี ไฟบรรลยั กลั ป์มำลำ้ งโลก

๕๑ ๓.๓.๒ ภำพพจนแ์ บบอปุ ลกั ษณ์ *อุปลักษณ์ = กำรเปรียบว่ำสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง โดยนำสิ่งสองสิ่งที่ต่ำง จำพวกกัน แต่มลี กั ษณะเดน่ เหมอื นกนั มำเปรียบเทยี บกันเชน่ เดยี วกบั อปุ มำ แตไ่ ม่ใช้คำแสดงควำมเปรยี บวำ่ เหมอื น คลำ้ ย ดัง ฯลฯ อย่ำงอปุ มำ *ในควำมควำมเปรียบแบบอุปลักษณ์ มักมีคำแสดงควำมเปรียบว่ำ เป็น หรือ คือ อย่ดู ว้ ยกัน โอ้เจ้ำดวงสรุ ยิ จันทรทง้ั คขู่ องแม่เอย แมไ่ ม่ร้เู ลยว่ำจะหนี พระมำรดำไปสพู่ ำรำใดไม่รทู้ ี่ (ร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก) ๓.๓.๓ ภำพพจนแ์ บบบคุ คลวตั *กำรสมมตวิ ำ่ สงิ่ ไมม่ ชี ีวติ เช่น พืช สตั ว์ หรือควำมคิดท่ีเปน็ นำมธรรมให้มี ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ และแสดงออกเยี่ยงมนุษย์ …ฝงู ทชิ ำชำติชวนกันช่นื ชมถวำยชัย สง่ เสยี งใสเสนำะป่ำ รอ้ งเปน็ ภำษำมนุษย์อำนวยพร วำ่ พระองค์จะทรงสโมสรสำรภิรมย์ ดว้ ยบรมบุตรบำทบริจำขัตติยนำรีเลี้ยงพระชนมีชีพ เปรมปรดี ิป์ รำโมทย์ อยำ่ รูม้ ีทุกขโ์ ทษมำแผว้ พำน จงทรงเสวยสุขเกษมศำนต์ระงับร้อน ต่ำงๆก็ทูลถวำยพร พระเพรยี กพรอ้ งรอ้ งระงมไพร... (ร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก) ๓.๓.๔ รเลยี นเสยี งธรรมชำติ *กำรเลียนเสียงธรรมชำติ = กลวธิ ีกำรประพนั ธอ์ ย่ำงหนึง่ ทถ่ี ำ่ ยทอดเสยี งต่ำง ๆ ที่ไม่ใช่คำพูด เช่น เสียงสัตว์ร้อง เสียงคนร้อง เสียงดนตรี ฯลฯ ไว้ในบท ประพนั ธ์เพ่ือใหผ้ อู้ ำ่ นเกิดควำมรูส้ ึกวำ่ ไดย้ ินเสยี งนัน้ ๆ ตำมเนื้อควำมในเรื่อง ไปด้วย นกกระเรยี นเวียนลงหนอง ตรอมเท่ียวย่องร้องแกรแ๋ กร๋ (กำพย์หอ่ โคลงประพำสธำรทองแดง)๓ ตอ้ ยตะรดิ ติดต่ีเจ้ำพเี่ อย๋ จะละเลยเรร่ อ่ นไปนอนไหน แอ้อีอ่อยสร้อยฟ้ำสุมำลยั แม้เดด็ ไดแ้ ลว้ ร้ำงใหห้ ำ่ งเชย (นิทำนคำกลอน เรื่องพระอภัยมณ)ี

๕๒ เกร็ดควำมรู้ กลุ่มท่ี ๕ -ใหค้ ะแนนตวั เอง : ๗/๑๐ -ปญั หำอปุ สรรค : ฝนตก ไม่คอ่ ยไดย้ ินอำจำรยส์ อน -ควำมรูส้ ึก : เน้ือหำเยอะมำกๆ งว่ งนอนสดุ ๆ



๕๔ กจิ กรรมหำศิลปะกำรประพันธ์ในบทเพลง เพลง อำย (สิงโต นำโชค) “ท้องทะเลท้องฟ้ำมเี พียงแคเ่ รำ ท่ำมกลำงหำดทรำยขำว แสงดวงดำวพรำ่ งพรำว ประกำยสวยงำม ดง่ั บนสวรรคเ์ ปิดทำง ใหค้ นอำ้ งวำ้ งอยำ่ งฉัน บอกควำมในใจใหเ้ ธอไดฟ้ ัง โอกำสอย่ำงน้ี ต้องพดู ไป” คำว่ำ “ด่ัง” เปน็ อุปมำ มกี ำรใช้อปุ ลักษณท์ ปี่ รำกฏในเน้อื เพลง คือ “ว่ำทง้ั หวั ใจ มแี ต่เธอน้นั อยำกใหเ้ ช่อื กัน พยำนคือฟ้ำท่ีเฝำ้ ดู” คำว่ำ “พยำนคือฟ้ำทีเ่ ฝำ้ ดู” เปน็ อุปลักษณ์ กำรเลน่ เสยี ง มีกำรเลน่ เสยี งพยัญชนะในเนอ้ื เพลง คอื “แค่ร้องว่ำอ๊ำอิยำอยิ ำ อ๊ำอยิ ำอิยำ กพ็ อ” และ “และฉนั กอ็ ำ๊ อิยำอิยำ อำ๊ อิยำอยิ ำ เหมอื นเธอ” คำว่ำ “อำ๊ อิยำอยิ ำ อ๊ำอิยำอยิ ำ” เป็นกำรเลน่ เสียงพยญั ชนะ ตัว อ และ ย มีกำรเล่นเสยี งสระในเนอื้ เพลง คอื “บอกควำมในใจให้เธอไดฟ้ ัง โอกำสอย่ำงน้ี ต้องพดู ไป” คำวำ่ “ในใจให้” เปน็ กำรเล่นเสียงสระ ใ กำรเล่นคำ มกี ำรเลน่ คำซำ้ ท่ีปรำกฏในเน้ือเพลง คอื “แค่รอ้ งว่ำอ๊ำอยิ ำอยิ ำ อ๊ำอยิ ำอยิ ำ ก็พอ” และ “และฉันกอ็ ๊ำอยิ ำอยิ ำ อ๊ำอยิ ำอิยำ เหมอื นเธอ” คำวำ่ “อิยำอิยำ” เปน็ กำรเลน่ คำซ้ำ เรำอ่ำนวรรณคดไี ทยไปทำไม...? - อ่ำนเพื่อควำมเพลิดเพลนิ อำรมณ์ - อ่ำนเพรำะชอบวำ่ เปน็ เรอื่ งทถ่ี ูกกับนสิ ยั และชวี ิตของตน - อำ่ นเพรำะชอบว่ำเปน็ เรอ่ื งทีแ่ ปลกและตำ่ งกบั ท่ตี นเคยประสบ - อ่ำนอย่ำงเพ็งเล็งข้อเท็จจรงิ เหมอื นอยำ่ งตำรำ - อ่ำนเพ่ือเพ่มิ พูนประสบกำรณช์ ีวิต - อำ่ นเพื่อรับรสควำมงำม ควำมไพเรำะของบทประพันธ์

กำรวจิ กั ษ์วรรณคดี ๕๕ วจิ กั ษ์ = แปลตำมรูปศัพท์ไดว้ ่ำ กำรเหน็ หรอื กำรมองเห็น = ควำมเขำ้ ใจและตระหนกั ในคณุ ค่ำของศลิ ปกรรมและวรรณกรรม ควำมนิยม ควำมซำบซงึ้ เช่น วรรณคดวี จิ กั ษ์ (appreciation) วจิ ักษ์ = ควำมเขำ้ ใจ + ควำมตระหนกั ในคณุ คำ่ (เขำ้ ถงึ ) วรรณคดีวจิ ักษ์ หมำยถึง กำรทำควำมเข้ำใจและเข้ำถึงวรรณคดีทุกแง่ทุกมุม เกิด ควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ รู้แจ้งในคุณค่ำของวรรณคดีในฐำนะ ศิลปกรรมทำงภำษำ ซึ่งมีควำมงำมควำมไพเรำะ ผสำนกับควำมลึกซึ้งทำง อำรมณแ์ ละควำมคดิ อนั ทำใหผ้ ู้อำ่ นเกิดควำมเข้ำใจโลกและชีวติ อย่ำงล่มุ ลกึ ทำอย่ำงไรจึงจะเขำ้ ใจและเข้ำถึงวรรณคดี ? ๑. อำ่ นอยำ่ ง ๒. ศกึ ษำขอ้ มลู ๓. พจิ ำรณำ ละเอยี ด พน้ื ฐำน ประเภทเนือ้ หำ+ จุดมงุ่ หมำย ๔. พิจำรณำเนื้อหำ ๕. พจิ ำรณำ ๖. วินจิ สำร ในภำพรวม องคป์ ระกอบของ (ตีควำม)) วรรณคดีตำม ๔. พจิ ำรณำเน้ือหำ ประเภทนน้ั ในภำพรวม ประโยชนข์ องกำรวจิ ักษ์วรรณคดี *ทำใหผ้ ู้อำ่ นแยกงำนเขียนชัน้ เยยี่ มออกจำกงำนเขยี นพ้นื ๆ ทว่ั ไปได้ *ทำใหเ้ กดิ กำรสรำ้ งรสนยิ มสนุ ทรียใ์ นศิลปะ *เกดิ กำรเปรยี บเทียบและมีพื้นฐำนในกำรประเมนิ คณุ ค่ำหนังสอื ได้ต่อไป

แนวทำงกำรศกึ ษำวรรณคดไี ทย ๕๖ กำรศกึ ษำวรรณคดีไทย กำรศึกษำวรรณคดีไทย เชิงวิเครำะหเ์ นอื้ หำและวรรณศิลป์ เชิงวรรณคดเี ปรียบเทยี บ กำรศกึ ษำวรรณคดไี ทยเชงิ ประวัติ กำรศกึ ษำวรรณคดไี ทยเชงิ ประวตั ิhistoricism กำรศึกษำวรรณคดโี ดยใชเ้ หตุกำรณ์ทำงประวตั ิศำสตรท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งมำเป็น เคร่อื งมอื หรือท่ีเรียกว่ำ กำรศึกษำประวัตวิ รรณคดี ศึกษำกำรกอ่ กำเนดิ ของวรรณคดี ศึกษำเหตกุ ำรณท์ มี่ อี ทิ ธพิ ลวรรณคดี ศกึ ษำผแู้ ตง่ วรรณคดี ศึกษำประวตั วิ รรณคดแี ลพกำรชำระวรรณคดี กำรศกึ ษำวรรณคดไี ทยเชงิ วเิ ครำะหเ์ นอ้ื หำและวรรณศลิ ป์ *วเิ ครำะห์เนอื้ หำและวรรณศลิ ปข์ องวรรณคดไี ทยเฉพำะเรือ่ ง *กำรวเิ ครำะหเ์ นอื้ หำและวรรณศลิ ปใ์ นงำนของนกั เขียนเฉพำะบุคคล *กำรวเิ ครำะห์เนอื้ หำและวรรณศลิ ปใ์ นวรรณคดเี ฉพำะประเภท กำรศกึ ษำวรรณคดไี ทยเชงิ วรรณคดเี ปรียบเทยี บ ลองพจิ ำรณำวำ่ งำนวจิ ัยตอ่ ไปนีจ้ ดั อย่ใู นกำรศึกษำวรรณคดี ในเชิงวรรณคดเี ปรยี บเทยี บแนวใด ซำตำนในวรรณกรรมตะวันตกและมำรในวรรณกรรมไทย - ข้ำมชำติ รำมเกยี รติ์ : ควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงวรรณกรรมกบั ทัศนศิลป์ - ขำ้ มศลิ ป์ กำรใชว้ ทิ ยำศำสตร์ในนวนิยำยของแก้วเก้ำ - ขำ้ มศำสตร์ เร่อื งอิเหนำฉบบั ลำว : ควำมสัมพันธก์ ับเร่อื งอเิ หนำฉบับไทยและลกั ษณะเด่น ในฐำนะวรรณคดลี ำว - ข้ำมชำติ กำรศกึ ษำเปรยี บเทยี บวรรณกรรมคำสอนหญิงของไทยและเกำหลี - ข้ำมชำติ

๕๗ เกรด็ ควำมรู้ กลุ่มท่ี ๖ -ให้คะแนนตวั เอง : ๖/๑๐ เนือ้ หำเขำ้ ใจง่ำย -ปญั หำอปุ สรรค : - -ควำมรสู้ กึ : สนกุ ไมง่ ว่ งนอนเหมอื อำทิตย์ท่แี ลว้





๖๐ กลุ่มท่ี ๑ นำงสบิ สอง meetingZoom / cover “รักตดิ ไซเรน กลุ่มนี้นำเสนอเรื่องของนำงสิบสองผ่ำนบทเพลง ในรูปแบบใหม่โดยมีกำรนำเสนอที่น่ำสนใจ เพื่อนๆแต่ง เพลงเอง มีกำรนำเสนอข่ำวเด่นประเด็นร้อนเกริ่นนำ ก่อนเริ่มบทเพลง เพลงมีควำมไพเรำะ ฟังแล้วสำมำรถ เข้ำใจเร่ืองของนำงสิบสองไดด้ ี ตดั ต่อวีดีโอไดส้ ุดยอด กล่มุ ที่ ๒ เกมส์ ศกึ แหง่ ศักดิ์ศรี ROV ในดินแดนหมิ พำนต์ กลุ่มนี้นำเสนอเรื่องรำวของตัวละครในวรรณคดี ในรูปแบบของเกมส์ ROV ซึ่งในเกมส์จะแบ่งออก เป็น ๒ โหมด ได้แก่โหมดมหำศึกกรงุ ลงกำ มที ้ังหมด ๑เลน มผี ู้ เลน่ ๓vs๓ และโหมดกองทัพ มีทั้งหมด ๓ เลน และมีผู้ เล่น ๕vs๕ เพื่อนๆกลุ่มนี้ได้ศึกษำเกี่ยวกับตัวละครใน วรรณคดีแล้วนำมำดัดแปลงให้เป็นตัวละครในเกมส์ที่มี พลังที่สอดคล้องกับตัวละครในวรรณคดีได้เหมำะสม แสดงให้เหน็ วำ่ เพ่ือนๆกลมุ่ นี้มีควำมตั้งใจมำกๆในกำรหำ ข้อมูล และสำมำรถนำเสนอเร่อื งรำวในเกมสไ์ ด้ดีมำกๆ กลุ่มที่ ๓ เมอ่ื พระเอกในวรรณคดมี ำเกิดใหมเ่ ป็นโอป้ ปำ้ เกำหลี เพอื่ นๆกลุ่มนีย้ กตัวอย่ำงพระเอกในซรี ีส์จำกแดน กิมจิอย่ำงเกำหลีใต้ ที่มีคำแรคเตอร์โดดเด่นในเรื่องท่ี คล้ำยคลึงกับพระเอกในวรรณคดีไทยม้ำได้รู้จักกัน นำเสนอโดยรูปแบบกำรInstagram เพื่อนกลุ่มนี้ทำ เนื้อหำออกมำได้น่ำสนใจ น่ำติดตำม มีกำรสร้ำงสรรค์ ผลงำนได้ยอดเยีย่ มมำกๆ

๖๑ กลุม่ ที่ ๔ เพลงทกุ ข์ระทมปมควำมรัก กลุ่มนี้นำเสนอเป็นบทเพลงที่เป็นเรื่องรำวของ มัทธนะพำธำ มีกำรเล่ำถึงเรื่องนำงมัทธนะพำธำผ่ำนบท กลอนตำมดว้ ยเพลงทำ่ งกลุ่มของเพอ่ื นๆไดแ้ ตง่ ขึ้นมำเอง เพลงมีควำมไพเรำะ น่ำฟังและน่ำสนใจเป็นอย่ำงมำก รูปภำพในเพลงที่เพื่อนวำดมีควำมสวยและน่ำมอง แล้ว ยงั มีกำรพูดถงึ คณุ ค่ำทำงด้ำนต่ำงๆของเรื่องมัทธนะพำธำ อีกด้วย มีกำรตัดต่อวีดีโอที่สร้ำงสรรค์และมีควำม นำ่ สนใจ กลุม่ ที่ ๕ Make Up แก้วหนำ้ มำ้ @มณีรัตนำ เพื่อนกลุ่มนี้นำเสนอรูปแบบกำรแต่งหน้ำ โดยมี กำรแต่งหน้ำให้เหมือนกับแก้วหน้ำม้ำในวรรณคดีเรื่อง สังข์ทองและมีกำรแต่งหน้ำแบบนำงมณีรัตนำ และใน วีดีโอยังมีกำรบรรยำยประกอบไปด้วย มีกำรยกตัวอย่ำง บทกลอน และมีกำรพดู ขอ้ คดิ ปดิ ทำ้ ยอีกด้วย ทำให้วีดีโอ น่ำสนใจเปน็ อย่ำงมำก -ใหค้ ะแนนตัวเอง : ๑๐ ทกุ คนนำเสนอผลงำนไดด้ ี มำกๆ เหน็ ถงึ ควำมตงั้ ใจของทุกคน -ปญั หำอุปสรรค : - -ควำมรสู้ กึ : เนื้อหำในสปั ดำหน์ ด้ี ีมำกๆ ต่นื เต้นด้วย ที่จะไดน้ ำเสนองำนของกล่มุ ตวั เอง และเพือ่ นๆใน กลุม่ ต่ำงๆกท็ ำออกมำน่ำสนใจมำกๆ เกง่ ทุกคนเลย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook