Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E10 ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา

E10 ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา

Published by yingkamnung, 2017-05-19 10:10:36

Description: E10 ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการสอน วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ รหสั วชิ า 2101-2005หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2556 หนว่ ยท่ี 10เร่อื ง ระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา เรยี บเรยี งโดย นายบญุ ลือ ยง่ิ คานึงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะชานาญการแผนกวิชาช่างยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ นครศรธี รรมราชสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

465ใบเนอื้ หาหนว่ ยท่ี 10

466รหัสวชิ า 2101-2005 ชอ่ื วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-01ชอื่ หน่วย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งท่ี 11 จานวน 2 ช่วั โมงสาระสาคัญ ระบบจุดระเบิดมีหน้าท่ี ผลิตกระแสไฟฟ้าแรงเคลอื่ นสงู เพื่อเผาไหม้ไอดีภายในกระบอกสบู ของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกบั จังหวะการทางานของเคร่ืองยนต์ จึงต้องเลือกใช้สว่ นประกอบของอปุ กรณ์จดุ ระเบดิ ที่มีคณุ ภาพ ซงึ่ จะชว่ ยให้เคร่ืองยนต์มกี าลังและประสิทธิภาพการทางานสงู สดุ ระบบจุดระเบิดของเครอ่ื งยนต์ที่ใช้กนั อยใู่ นปจั จบุ นั มหี ลายแบบคือ แบบธรรมดาและแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึง่ แบบอิเล็กทรอนิกส์ยังแบ่งย่อยเปน็ แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ร่วมกับกลไก แบบอิเล็กทรอนิกสล์ ว้ น แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ควบคุมด้วยกล่องคอมพวิ -เตอร์ ดงั น้นั ผเู้ รียนต้องศึกษาส่วนประกอบ หลักการทางาน การตอ่ วงจรและการตรวจสอบอุปกรณ์ของแต่ละแบบ เพื่อนาไปใชแ้ ก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่อไปสาระการเรียนรู้ 1. หนา้ ทแี่ ละส่วนประกอบของระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา 2. หลักการทางานของระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา 3. การแก้ไขข้อขดั ขอ้ งระบบจุดระเบิดแบบธรรมดาจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกหน้าทแ่ี ละสว่ นประกอบในระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดาได้ 2. อธบิ ายหลกั การทางานของวงจรระบบจุดระเบิดแบบธรรมดาได้ 3. บอกวธิ แี ก้ไขข้อขดั ข้องระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดาได้

467 รหัสวิชา 2101-2005 ชอื่ วชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเน้อื หา I.S. 10-02 ชอ่ื หนว่ ย ระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา สอนคร้ังท่ี 11 จานวน 2 ชว่ั โมง1. หน้าทแี่ ละส่วนประกอบของระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา 1.1 หนา้ ทขี่ องระบบจดุ ระเบิด ระบบจดุ ระเบิดมีหน้า ที่ผลิตกระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนสูงส่งผา่ นเขีย้ วหัวเทียน เพื่อจดุ ระเบดิ ไอดีภายในกระบอกสูบ ตามจงั หวะการจุดระเบิดทเ่ี หมาะสมและสัมพันธ์กบั ความเรว็ รอบและภาระของเครือ่ งยนต์ 1.2 สว่ นประกอบของระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา รูปท่ี 10.1 แสดงสว่ นประกอบของระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา ทม่ี า : นพดล เวชวิฐาน, 2545 : 97 ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดาหรอื ระบบจุดระเบิดแบบกลไก เป็นระบบจดุ ระเบิดที่ควบคุมการทางานโดยใช้หนา้ ทองขาวเป็นตวั กาหนดเวลาการจดุ ระเบิด โดยมชี ้ินส่วนท่ีสาคญั คือ แบตเตอรี่ สวิตช์จุดระเบิด คอยลจ์ ดุ ระเบดิ จานจ่าย และหัวเทียน ฯลฯ 1.2.1 สวิตช์จุดระเบดิ (Ignition Switch) ทาหนา้ ที่ ตดั ต่อกระแสไฟฟ้าระหวา่ งแบตเตอร่ีกับคอยลจ์ ดุ ระเบิด ภายในสวิตช์จะมจี ุดสมั ผสั จัดไวร้ วมบนแผ่นวงกลมทางานโดยการหมุนของลูกกุญแจเพ่อื ให้หน้าสมั ผัสเคล่อื นท่เี ม่ือบิดสวิตช์จุดระเบดิ ดว้ ยลกู กุญแจไปทตี่ าแหน่งต่างๆ ประกอบดว้ ยตาแหนง่ LOCK ,ACC ,ON , และ START

468รหัสวิชา 2101-2005 ช่ือวชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนือ้ หา I.S. 10-03ชื่อหนว่ ย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนครง้ั ที่ 11 จานวน 2 ชั่วโมง รปู ที่ 10.2 แสดงภาพตัดส่วนประกอบของสวติ ช์จุดระเบดิ ทมี่ า : ประสานพงษ์ หาเรอื นชีพ, 2545 : 531.2.2 คอยลจ์ ุดระเบิด (Ignition Coil)รูปท่ี 10.3 แสดงภาพตัดโครงสรา้ งภายในคอยลจ์ ดุ ระเบิด ท่ีมา : ประสานพงษ์ หาเรือนชพี , 2544 : 105

469รหสั วชิ า 2101-2005 ชอ่ื วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-04ชือ่ หน่วย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนครงั้ ท่ี 11 จานวน 2 ชวั่ โมง คอยล์จุดระเบิด (Ignition Coil) ทาหน้าทแี่ ปลงไฟแรงเคลื่อนตา่ จาก 12 โวลต์ เปน็ แรงเคลอ่ื นสงู 20,000 – 30,000 โวลต์ เพ่ือส่งไปกระโดดขา้ มเขี้ยวหัวเทียนทาใหเ้ กิดประกายไฟจุดระเบดิ ไอดีภายในคอยลจ์ ุดระเบิดประกอบดว้ ยขดลวดปฐมภมู ิพันด้วยลวดทองแดงขนาดใหญ่ประมาณ 150–300 รอบ โดยปลายดา้ นหนง่ึ ของขดลวดปฐมภมู ิจะต่อกับขั้วบวก(+)สว่ นปลายอกี ด้านหน่ึงต่อกับขวั้ ลบของคอยล์จดุ ระเบิดและพันทับด้วยขดลวดทตุ ิยภูมซิ ึ่งเป็นลวดทองแดงขนาดเล็กประมาณ 30,000 รอบ ซง่ึ ปลายดา้ นหนง่ึ ของขดลวดทตุ ยิ ภมู ิจะต่อกบั ขวั้ บวก (+) ปลายอกี ด้านหนงึ่ จะต่อกบั ขั้วไฟแรงสงู ของคอยล์จุดระเบิด การพนั ของขดลวดทัง้ สองจะพนั ในทศิ ทางเดยี วกัน พ้ืนทีว่ า่ งภายในคอยล์จุดระเบดิ บรรจุนา้ มนั ทาหน้าท่ีเป็นฉนวนและช่วยระบายความร้อนไฟแรงสูงในคอยลจ์ ดุ ระเบดิ เกดิ จากการเหนีย่ วนาตวั เองและการเหนย่ี วนาร่วม 1.2.2.1 การเหนี่ยวนาตวั เอง (Self-Induction Effect)เม่ือกระแสไฟฟ้าไหลเข้าไปในขดลวดจะมสี นามแมเ่ หล็กและเส้นแรงแมเ่ หล็กเกดิ ขึ้นรอบๆ ขดลวด สนามแมเ่ หลก็ และเส้นแรงแมเ่ หลก็ จะทาใหเ้ กดิ แรงดันไฟฟา้ ขึ้นในทิศทางเดยี วกบั การเหน่ียวนาของเสน้ แรงแม่เหลก็ ซง่ึ กระแสไฟฟ้าจะไม่สามารถไหลเขา้ ไปในขดลวดได้ทันทีทันใดเพราะขดลวดมีความต้านทานอยู่ภายใน ต้องใชร้ ะยะเวลาหนึ่งกระแสจึงสามารถไหลเข้าไปในขดลวดจนเต็ม เม่อื กระแสไฟฟ้าไหลเข้าไปในขดลวดจนเต็มและถูกตดั วงจรอย่างทนั ทีทันใด สนามแม่เหลก็ จะยุบตัวตัดกับขดลวดเกดิ การเปลี่ยนแปลงการเหนี่ยวนาเส้นแรงแมเ่ หลก็ ของขดลวดทาใหเ้ กิดแรงดันไฟฟา้ ข้นึ การเหนี่ยวนาดังกลา่ วเรียกวา่ การเหนี่ยวนาตัวเอง รูปท่ี 10.4 แสดงการเหนี่ยวนาตวั เองของขดลวด ทม่ี า : บุญลือ ยิง่ คานึง, 2557 1.2.2.2 การเหนีย่ วนารว่ ม (Manual-Induction Effect) เมอ่ื มีกระแสไฟฟา้ ไหลเขา้ ไปในขดลวดปฐมภมู จิ ะเกดิ สนามแมเ่ หลก็ ขึ้นรอบๆขดลวดปฐมภูมแิ ละขดลวดทตุ ยิ ภูมเิ นื่องจากขดลวดปฐมภมู ิและทตุ ยิ ภมู ิถูกพันอยรู่ อบๆ แกนเหล็กอ่อนเดียวกัน ขณะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเสน้ แรงแม่เหล็กที่ขดลวดทตุ ยิ ภมู จิ ึงไม่มีแรงดนั ไฟฟ้าเกิดข้ึน เมอ่ื ขดลวดปฐมภมู ถิ ูกตัดวงจรอย่างทันทีทนั ใดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเสน้ แรงแม่เหล็ก ทาใหข้ ดลวดทุตยิ ภูมิเกิดแรงดนั ไฟฟ้าขึน้ ซ่ึงเกิดจากการเหน่ียวนาของเสน้ แรงแมเ่ หลก็

470 รหสั วชิ า 2101-2005 ชื่อวิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเน้ือหา I.S. 10-05 ช่อื หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งท่ี 11 จานวน 2 ชัว่ โมงในขดลวดปฐมภมู ิ การเหนย่ี วนาดงั กลา่ วเรยี กว่า การเหนยี่ วนารว่ ม คอยล์จดุ ระเบิดจะเกิดไฟแรงสูงโดยการเหนย่ี วนารว่ มระหวา่ งขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทุตยิ ภูมิ เมอ่ื วงจรปฐมภูมิถูกตัดวงจรโดยอาศัยการปดิ -เปิดของหน้าทองขาวในระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา หรือ เคร่ืองกาเนิดสญั ญาณระบบจุดระเบดิ แบบอเิ ล็กทรอ-นกิ ส์ รูปที่ 10.5 แสดงการเหนีย่ วนารว่ มของขดลวด ทีม่ า : บุญลอื ยิ่งคานงึ , 2557 1.2.3 จานจ่าย(Distributer) ทาหน้าที่ตัดต่อวงจรไฟแรงตา่ ตามจังหวะการจดุ ระเบิดของเคร่ืองยนต์ และจ่ายไฟฟา้ แรงเคลื่อนสงู จากคอยลจ์ ุดระเบิดไปยังหัวเทียนสูบตา่ งๆ ตามจงั หวะการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ หนา้ ทองขาวสว่ นท่อี ย่กู บั ที่ หน้าทองขาวสว่ นทเี่ คล่อื นท่ีข้วั ตอ่ สายไมล่ งกราวด์ จดุ หมนุ คอนเดนเซอร์ รปู ท่ี 10.6 แสดงส่วนประกอบต่างๆ ของจานจ่ายในระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา ท่มี า : บุญลอื ย่ิงคานงึ , 2557

471รหัสวิชา 2101-2005 ชอื่ วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเน้อื หา I.S. 10-06ชอ่ื หนว่ ย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนคร้งั ที่ 11 จานวน 2 ชัว่ โมง จานจา่ ยในระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา ประกอบด้วยสว่ นประกอบต่างๆ คือ ฝาครอบจานจา่ ย หวั โรเตอร์ (หวั นกกระจอก) ชดุ หน้าทองขาว คอนเดนเซอร์ และชดุ เร่งไฟจดุ ระเบิดลว่ งหนา้ 1.2.3.1 ฝาครอบจานจ่าย ทาหน้าท่ี ปอ้ งกันฝุ่น น้า ความชน้ื ไม่ใหเ้ ข้าไปภายในจานจ่ายฝาครอบจานจา่ ย ด้านในของฝาครอบจานจา่ ยตรงจุดกึ่งกลางจะติดต้ังแทง่ คาร์บอนโดยมีสปรงิ ดนั แท่งคาร์บอนให้สัมผัสกบั หัวโรเตอรต์ ลอดเวลา รอบๆ ฝาครอบจานจ่ายดา้ นนอกจะมีรสู ายหวั เทียนซึง่ รบั ไฟแรงสูงจากหัวโรเตอร์ ส่งไปยังหวั เทียนสูบตา่ งๆ เทา่ กับจานวนสูบของเคร่อื งยนต์ ข้วั กลาง รรู ะบายอากาศ แทง่ คาร์บอนขว้ั ดา้ นข้าง ข้วั ด้านข้าง รปู ท่ี 10.7 แสดงสว่ นประกอบต่างๆ ของฝาครอบจานจา่ ย ทม่ี า : บุญลอื ยิ่งคานงึ , 2557 1.2.3.2 หัวโรเตอร์(หวั นกกระจอก) ทาหนา้ ที่เปน็ สะพานไฟรบั ไฟแรงเคล่ือนสงู จากแกนกลางของฝาครอบจานจา่ ยสง่ ไปยงั หัวเทยี นสูบตา่ งๆ ของเคร่ืองยนต์ หัวโรเตอร์ทาจากอีพอกซเี รซนิ่ สามารถทนความร้อนสงู ๆ และเป็นฉนวนทีด่ ี หัวโรเตอร์จะมสี ะพานไฟอยตู่ รงส่วนบนยน่ื ออกไปนอกโรเตอร์และดา้ นตรงกันข้ามกับสะพานไฟกจ็ ะเป็นสว่ นถ่วงดลุ เพือ่ ให้ตวั โรเตอร์มีความสมดลุ ขณะทาการหมุนตัวจ่ายประกายไฟ สะพานไฟ ตวั ถว่ งให้สมดุล รูปที่ 10.8 แสดงส่วนประกอบตา่ งๆ ของโรเตอร์ ทม่ี า : บญุ ลอื ยิ่งคานงึ , 2557

472รหสั วชิ า 2101-2005 ช่อื วิชา งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนอ้ื หา I.S. 10-07ชื่อหน่วย ระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา สอนคร้ังที่ 11 จานวน 2 ชว่ั โมง1.2.3.3 ชุดหน้าทองขาว ทาหนา้ ที่ เปน็ กลไกในการตัด-ต่อวงจรไฟฟ้าทไ่ี หลผ่านขดลวดปฐมภูมิ ชดุ หนา้ ทองขาวประกอบด้วย 2 สว่ น คอื สว่ นของหนา้ ทองขาวทอี่ ยู่กับทีส่ ว่ นนจี้ ะตอ่ ลงกราวดแ์ ละส่วนหน้าทองขาวทเี่ คล่อื นท่ีหนา้ สัมผัสส่วนทอ่ี ย่กู บั ที่ หนา้ สัมผสั สว่ นที่เคลือ่ นที่ สายไฟ ไฟเบอร์ รปู ท่ี 10.9 แสดงชดุ หน้าทองขาว ท่ีมา : บญุ ลือ ย่ิงคานึง, 2557 หนา้ ทองขาวส่วนท่ีเคลือ่ นทจี่ ะมีฉนวนป้องกันการต่อลงกราวด์หน้าทองขาวของสว่ นนีจ้ ะตอ่ โดยตรงกับขดลวดปฐมภมู ิของคอยลจ์ ุดระเบดิ และมีไฟเบอรท์ าหนา้ ท่ีถ่ายทอดกาลังจากลกู เบย้ี วของจานจ่ายเพื่อทาหนา้ ที่ปิด-เปิดหนา้ ทองขาว ส่วนสปรงิ แผน่ ไดอะแฟรมจะทาหน้าทีป่ ิดหน้าทองขาวให้สนทิ 1.2.4 คอนเดนเซอร์ ทาหน้าทเี่ ก็บประจไุ ฟฟา้ เมื่อหน้าทองขาวเปดิ ปอ้ งกันการอารค์ ท่ีหนา้ ทองขาวและทาหน้าทีห่ ยุดการไหลของกระแสไฟฟา้ ในขดลวดปฐมภมู ิ เพ่อื เพม่ิ การเหนยี่ วนาให้เกดิ แรงดันไฟฟา้ในขดลวดทตุ ยิ ภมู ิ โดยคอนเดนเซอรจ์ ะติดตง้ั อย่ขู า้ งนอกจานจ่ายและตอ่ ขนานกบั หน้าทองขาว การเลือกใช้คอนเดนเซอรจ์ ะต้องเลือกขนาดความจใุ หเ้ หมาะสมกับระบบจดุ ระเบิดของรถยนต์ เช่น 0.20 – 0.25 µF ถา้เลือกความจุมากเกินไปจะทาให้หนา้ สัมผสั ของหน้าทองขาวส่วนท่เี คลอื่ นทเ่ี ปน็ หลมุ และส่วนที่อยู่กบั ท่เี ปน็ยอดแหลม ในทางกลับกนั ถ้าเลอื กความจุน้อยเกินไปจะทาให้หนา้ สัมผัสของหนา้ ทองขาวสว่ นที่เคลือ่ นท่เี ปน็ยอดแหลมและสว่ นทีอ่ ยู่กับที่เป็นหลุม รูปท่ี 10.10 แสดงคอนเดนเซอร์ ที่มา : บุญลือ ยิ่งคานึง, 2557

473รหสั วิชา 2101-2005 ช่อื วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-08ชอ่ื หน่วย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนคร้ังท่ี 11 จานวน 2 ชว่ั โมง 1.2.5 ชดุ เร่งไฟจดุ ระเบดิ ลว่ งหน้า ทาหน้าที่ดึงใหห้ นา้ ทองขาวเปิดเร็วขน้ึ เพ่ือเปน็ การเร่งไฟจุดระเบิดตามการเปลี่ยนแปลงของโหลดและความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ชดุ เร่งไฟจดุ ระเบิดล่วงหนา้ มี 2 แบบคอื แบบสุญญากาศ และแบบกลไกชดุ เร่งไฟแบบสุญญากาศ ชุดเรง่ ไฟแบบกลไกรูปท่ี 10.11 แสดงชดุ เร่งไฟจุดระเบิดลว่ งหนา้ ทมี่ า : บุญลอื ย่ิงคานึง, 2557รปู ที่ 10.12 แสดงการทางานชุดเรง่ ไฟจุดระเบดิ ล่วงหนา้ แบบสญุ ญากาศ ท่มี า : http://cargreen.tk/distributor-vacuum-advance

474รหัสวชิ า 2101-2005 ชื่อวชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนือ้ หา I.S. 10-09ช่ือหน่วย ระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา สอนครัง้ ที่ 11 จานวน 2 ชัว่ โมง ชดุ เร่งไฟจุดระเบิดลว่ งหนา้ แบบสญุ ญากาศ ทาหน้าที่ เรง่ ไฟจดุ ระเบดิ ช่วงความเร็วรอบตา่ ถงึความเร็วรอบปานกลางทางานดว้ ยระบบสุญญากาศประกอบดว้ ย ชุดไดอะแฟรม ขอเกี่ยว ก้านดึง และชุดแผ่นยึดหนา้ ทองขาว ภายในชดุ ไดอะแฟรมจะแบง่ เป็น 2 ห้อง คือ ห้องบรรยากาศและห้องสุญญากาศ โดยมีแผ่นไดอะแฟรมก้ันอย่ตู รงกลาง หอ้ งสุญญากาศจะมีท่อเล็กๆ ย่ืนออกมาเพ่ือต่อกับท่อสุญญากาศทีอ่ ยู่เหนอืลิน้ เรง่ ของคาร์บเู รเตอร์ ภายในห้องสญุ ญากาศจะมสี ปริงดันแผ่นไดอะแฟรมไว้ แผน่ ไดอะแฟรมจะยึดติดกบักา้ นดงึ ท่ีก้านดึงจะมสี ปรงิ เลก็ ๆ และขอเกีย่ วสวมอยู่ ซึ่งขอเกี่ยวทาเปน็ ร่องบากสวมกับสลักของแผน่ ยดึ หน้าทองขาว การทางาน เม่อื เครือ่ งหมุนดว้ ยความเร็วรอบเดนิ เบา ลิน้ เรง่ ปดิ เกือบสนทิ จะเกิดสญุ ญากาศเหนือลน้ิ เรง่ นอ้ ยมาก เปน็ ผลให้ไม่มีการเรง่ ไฟจดุ ระบิดล่วงหนา้ เม่ือเคร่ืองยนตห์ มนุ ดว้ ยความเร็วรอบสงู ข้ึนเลก็ น้อย จะเกิดสุญญากาศเหนอื ลน้ิ เร่งแพร่กระจายมายังท่อทางท่ีต่อกับชุดไดอะแฟรมแรงดันบรรยากาศจะดนั ใหแ้ ผ่นไดอะแฟรมเคล่ือนที่ไปทางดา้ นท่เี ป็นสญุ ญากาศชนะแรงดันของสปริงทาให้ก้านดึงและขอเกีย่ วเคลอ่ื นท่ดี ึงใหแ้ ผ่นยึดหน้าทองขาวเคลอ่ื นท่ีไปในทิศทางตรงกันข้ามกบั การหมนุ ของเพลาจานจา่ ย ทาให้องศาการจดุ ระเบิดลว่ งหน้าเพม่ิ ขนึ้ ชุดเรง่ ไฟจุดระเบดิ ล่วงหนา้ แบบกลไกหรือแบบตุ้มเหวี่ยง ทาหน้าทีเ่ รง่ ไฟจดุ ระเบดิ ชว่ งความเร็วรอบปานกลางถึงความเรว็ รอบสงูองศาการจุดระเบดิ ลว่ งหน้าเพ่ิมข้นึตุม้ นา้ หนกั ลูกเบย้ี วจานจ่ายแผน่ ฐานลูกเบ้ยี วจานจ่าย แผน่ ฐานลูกเบยี้ วจานจ่ายสปริง ตมุ้ นา้ หนัก องศาการจดุ ระเบดิ ลว่ งหน้าเพม่ิ ขนึ้ รปู ท่ี 10.13 แสดงชุดเรง่ ไฟจุดระเบดิ ล่วงหน้าแบบกลไก ทีม่ า : บญุ ลอื ยง่ิ คานงึ , 2557 การทางาน เมอ่ื เคร่ืองยนต์หมุนด้วยความเรว็ รอบเดนิ เบาเพลาจานจ่ายจะหมนุ ต้มุ นา้ หนกั ท้ังสองข้างจะหมนุ ตามไปด้วยแต่ต้มุ นา้ หนักทั้งสองจะไม่กางออกเพราะสปรงิ รั้งเอาไวแ้ ผ่นฐานลูกเบยี้ วจานจ่ายซง่ึ ยึดติดเปน็ ชิ้นเดียวกบั ลกู เบี้ยวจะไม่บิดตวั องศาการจุดระเบดิ จงึ เปน็ องศาการจดุ ระบิดเบอื้ งต้น

475รหสั วิชา 2101-2005 ชอื่ วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-10ช่อื หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนคร้งั ท่ี 11 จานวน 2 ชั่วโมง เม่ือเคร่ืองยนต์หมนุ ดว้ ยความเร็วรอบสูงตมุ้ นา้ หนักท้งั สองข้างถกู แรงเหวีย่ งหนีศนู ย์กลางเหวีย่ งให้กางออกจนกระทง่ั สมดุลกับแรงดึงของสปริง ตุม้ นา้ หนักทกี่ างออกจะไปดันให้แผ่นฐานลูกเบยี้ วจานจา่ ยซึง่ยดึ ตดิ เปน็ ชิ้นเดยี วกับลูกเบ้ยี วหมนุ ไปในทิศทางเดยี วกบั เพลาจานจ่ายแตห่ มนุ ล้าหน้าเพลาจานจ่าย ดังนั้นหนา้ ทองขาวจงึ เปิดเร็วขึน้ ทาใหอ้ งศาการจดุ ระเบิดลว่ งหนา้ เพิม่ มากข้นึ 1.2.6 หัวเทียน (Spark Plug) ทาหน้าท่ีจดุ ระเบิดสว่ นผสมของไอดี และระบายความร้อนออกจากหอ้ งเผาไหม้ การเผาไหม้หวั เทียนทอ่ี ยใู่ นสภาพดแี ละการเลอื กใชห้ วั เทียนให้ถูกต้องกับสภาพการใช้งานจะมผี ลทาใหเ้ ครอื่ งยนตท์ างานได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ หวั เทียนประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ ดงั นี้ รูปท่ี 10.14 แสดงสว่ นประกอบตา่ งๆ ของหวั เทยี น ที่มา : ประสานพงษ์ หาเรือนชีพ, 2544 : 126 1.2.6.1 ขั้วหวั เทยี น (Terminal Insulator) ทาหนา้ ที่ เปน็ สว่ นทีใ่ ช้เสียบสายไฟแรงสูง 1.2.6.2 ฉนวน (Insulator) ทาหน้าที่ กน้ั ระหว่างแกนกลางกบั สว่ นอ่นื ๆ ไม่ใหล้ งกราวด์ทาจากอะลมู ินา่ หรืออะลูมิเนียมออกไซด์มีคณุ สมบัติการนาความรอ้ นไดด้ ีมีความแข็งแรงสูงทนตอ่ ความรอ้ น

476รหสั วิชา 2101-2005 ชอื่ วิชา งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนอื้ หา I.S. 10-11ชื่อหนว่ ย ระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา สอนคร้ังท่ี 11 จานวน 2 ชั่วโมง 1.2.6.3 เกลียว (Thread) ทาหน้าท่ี ยดึ หวั เทยี นให้ตดิ กับฝาสบู 1.2.6.4 แกนกลาง (Center Electrode) ทาหน้าท่ี เป็นทางเดินของไฟแรงสงู เพ่ือไปจุดระเบดิ ไอดีในห้องเผาไหม้ ทาจากโลหะพเิ ศษที่นาไฟฟ้าไดด้ ีและทนต่อการกดั กร่อนของเชอ้ื เพลงิ ทีเ่ ผาไหม้ 1.2.6.5 เปลือกนอก (Spark Plug Shell) ทาหน้าท่ี เปน็ ตัวหมุ้ ฉนวนแกนกลางเป็นส่วนท่ตี ิดอยู่กับเข้ียวหัวเทยี นและเปน็ ตัวจับยดึ หวั เทยี นเขา้ กบั รูหวั เทียนด้วยเกลียวทสี่ ่วนล่างของเปลือกนอก 1.2.6.6 เขี้ยวหัวเทียน (Ground Electrode) ทาหนา้ ท่ี เปน็ กราวด์ไฟแรงสูงกระโดด หวั เทยี นแบ่งออกตามช่วงความรอ้ นได้ 3 ชนดิ คอื หัวเทียนรอ้ น หวั เทียนมาตรฐานและหัวเทียนเยน็ 1. หวั เทียนรอ้ น คือ หัวเทยี นทมี่ ีระยะทางระบายความร้อน (ระยะT) จากเข้ียวหวั เทยี นถงึ ปลายล่างของฉนวนยาว ทาให้ระยะเวลาในการระบายความร้อนต้องใชเ้ วลานาน ความร้อนจึงถูกสะสมอยูใ่ นตวั มากนยิ มใชก้ ับเครื่องยนต์ที่ทางานท่คี วามเร็วรอบต่าๆ หรอื มรี ะยะเวลาการทางานในชว่ งเวลาส้นั ๆเครือ่ งยนต์จะร้อนและถงึ อุณหภมู ิการทางานเรว็ 2. หัวเทยี นปานกลาง หรอื มาตรฐาน คอื หัวเทยี นท่ีมีระยะทางระบายความร้อน (ระยะT) ปานกลางเหมาะสาหรบั เคร่ืองยนต์ทที่ างานดว้ ยความเรว็ รอบปานกลาง 3. หัวเทยี นเยน็ คือหัวเทยี นท่มี ีระยะทางระบายความร้อน (ระยะT) จากเขย้ี วหวั เทียนถงึ ปลายล่างของฉนวนสั้นทาใหร้ ะยะเวลาในการระบายความร้อนสัน้ ความรอ้ นจงึ ระบายไดเ้ ร็ว ทาใหเ้ คร่ืองยนต์ไม่ร้อนจัดเกนิ ไปนิยมใชก้ ับเครื่องยนต์ท่ที างานที่ความเร็วรอบสงู ๆ หรอื ใช้วิ่งระยะทางไกลๆTT T(ก) (ข) (ค)รปู ที่ 10.15 แสดงชนิดของหัวเทียน (ก) หวั เทยี นร้อน (ข) หัวเทียนมาตรฐานและ (ค) หัวเทยี นเยน็ ท่มี า : http://www.toyotanont.com/

477รหัสวชิ า 2101-2005 ชื่อวิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเน้ือหา I.S. 10-12ชอื่ หน่วย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งที่ 11 จานวน 2 ชวั่ โมงชว่ งความรอ้ นของหัวเทียนแต่ละบรษิ ัทจะต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั การออกแบบของผ้ผู ลติ ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี HEAT RANGE CROSS REFERENCE CHARTHOTTER NGK DENSO CHAMPION BOSCH 2 9 18,19 10 4 14 14,16 9 5 16 11,12 8 6 20 9,10 6,7 7 22 7,8 5 8 24 6,61,63 4 9 27 4,59 3 10 31 55 2 11 34 - -COLDER 12 37 - -รูปที่ 10.16 แสดงตารางตวั อย่างเปรียบเทยี บค่าความร้อนของหัวเทียนยห้ี ้อตา่ งๆ ท่ีมา : บญุ ลอื ย่งิ คานึง, 2557 หวั เทยี นแบบธรรมดา เข้ียวและแกนกลางทาจากวัสดุประเภท นเิ กลิ ทองคาขาวอายกุ ารใช้งานทว่ั ไปจะอยทู่ ี่ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร ปัจจุบันได้มีการออกแบบเข้ียวและแกนกลางของหวั เทียนเป็นพิเศษเชน่ อิริเดยี ม เพื่อทาให้การจุดระเบิดมีความแมน่ ยาและทรงพลัง มคี วามทนทานลดการสึกหรอ เครื่องยนต์สตารท์ ติดงา่ ย มีอายุการใช้งานทยี่ าวนาน ประมาณ 80,000 – 100,000 กโิ ลเมตร โดยไม่ต้องมีการปรบั ตั้งระยะหา่ งของเขี้ยวหัวเทยี นใหม่หวั เทียนแบบธรรมดา หัวเทียนแบบเขม็ หัวเทยี นแบบหลายเขย้ี ว รูปท่ี 10.17 แสดงหวั เทยี นชนิดพเิ ศษ ท่มี า : บุญลือ ยงิ่ คานงึ , 2557

478รหัสวิชา 2101-2005 ชอ่ื วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเน้อื หา I.S. 10-13ชอ่ื หน่วย ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนคร้งั ที่ 11 จานวน 2 ชัว่ โมงการวิเคราะห์การทางานของเคร่อื งยนตจ์ ากหวั เทยี นหัวเทียนจะมีอายกุ ารใช้งานประมาณ 20,000 กม. ขนึ้ อยู่กับสภาพการขับข่ี การวเิ คราะหส์ ภาพหัวเทยี นสามารถบง่ ชี้ได้ถงึ สภาพและการทางานของเครื่องยนต์ได้อย่างถูกตอ้ งและแมน่ ยา จากรูปต่อไปนี้เปน็ตัวอยา่ งสภาพของหัวเทียนทเ่ี กิดจากการเผาไหม้ที่สภาวะต่าง ๆหัวเทยี นปกติ หัวเทยี นแหง้ปลายของหัวเทยี นมีสนี า้ ตาลออ่ นหรือสเี ทาอ่อน ขบั รถระยะใกล้ๆเป็นประจา, สว่ นผสมของอากาศ หัวเทยี นร้อนจัด และนา้ มนั มากเกินไป,หัวฉีดมีปญั หาจ่ายนา้ มันช้า ,ใชห้ ัวเทยี นเบอรเ์ ยน็ เกนิ ไป หัวเทียนชงิ จุดระเบิดก่อนบริเวณปลายฉนวนจะมคี ราบไหม้สีเหลอื ง หรือ เกดิ จากปญั หาร้อนจดั การชงิ จุดระเบดิ , ใชห้ ัวเหลืองอมน้าตาลท่ีเปน็ มันวาวเกาะอยู่ ทาใหเ้ ร่ง เทียนเบอร์ร้อนเกนิ ไป, มกี ารปรบั ต้ังการฉีดน้ามันที่เคร่อื งยนต์ไม่ขน้ึ ขณะขับขีด่ ว้ ยความเร็วหรือขณะ ไม่เหมาะสมบรรทกุ ของ หวั เทยี นมีคราบตะกั่วจับ หัวเทียนมคี ราบนา้ มนันา้ มันเครอ่ื งรวั่ ตามแหวนลกู สูบและวาลว์ , สว่ น สาเหตุทหี่ วั เทียนมคี ราบตะกัว่ จบั ได้แก่ นา้ มนั มีผสมนา้ มันมากเกินไป,ไมม่ ีการจดุ ระเบิด ส่วนผสมของตะกวั่ มากเกนิ ไป

479รหัสวิชา 2101-2005 ชอ่ื วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-14ช่อื หน่วย ระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งท่ี 11 จานวน 2 ชว่ั โมง หวั เทยี นแตกหัก หวั เทียนเสื่อมตามอายุการใช้งานเกดิ จากอุณหภูมิท่ีสงู เกินไป, เกิดจากการเปลย่ี น หวั เทียนทีเ่ กา่ นอกจากจะทาให้สิ้นเปลืองน้ามนั แล้วอุณหภูมใิ นห้องเคร่ืองอยา่ งฉับพลัน ซึง่ จะทาให้หัว ยงั ทาใหร้ ะบบการจุดระเบิดทางานหนักเกินไปอีกเทยี นบอดและเครื่องยนต์ไมท่ างาน ดว้ ย เพราะระยะห่างของเขย้ี วหวั เทยี นท่ีเพ่ิมขึ้น หัวเทยี นมีเขี้ยวสกึ ผิดปกติ หัวเทียนละลายเกิดจากการกัดกร่อน, ปฏิกิริยาเคมี, การรั่วไหล เกดิ จากมคี วามร้อนสงู ทาให้เขี้ยวของหัวเทียนมีย้อนกลบั ซึง่ จะทาใหเ้ คร่ืองยนต์สตารท์ ติดยาก, เร่ง ผลกึ ท่ีมนั วาวและผิวไมเ่ รยี บเกาะอยู่ ความร้อนท่ีเครือ่ งยนต์ไม่ข้ึน ทาใหเ้ ขย้ี วของหัวเทียนละลาย สาเหตทุ ่หี วั เทยี น ละลาย ได้แก่ ขนั เกลยี วหวั เทียนไม่ถูกตอ้ งหวั เทยี นสึก กัดกร่อนและเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี หวั เทยี นสกึ อยา่ งรนุ แรงเกิดจากเข้ยี วหวั เทียนทาปฏกิ ิริยาเคมีกบั อากาศถา้ เกดิ จากมสี ว่ นผมของน้ามันมากเกินไปทาให้เกดิทาปฏกิ ิรยิ าเคมมี ากเกินไปจะทาใหพ้ ้ืนผิวมีสีเขียว ปฏิกิรยิ าทางเคมีกับวัสดขุ องเขี้ยวหัวเทยี น ทาให้ทาใหเ้ ข้ยี วของหัวเทียนสึกกร่อนและผวิ ไมเ่ รียบ เกิดความร้อนสงูเครือ่ งยนต์สตาร์ทตดิ ยาก, เรง่ เครื่องยนตไ์ ม่ขน้ึ

480 รหัสวชิ า 2101-2005 ชอ่ื วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-15 ชอื่ หนว่ ย ระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา2. การทางานของวงจรจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งท่ี 11 จานวน 2 ชั่วโมงรูปท่ี 10.18 แสดงวงจรจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา ทมี่ า : บญุ ลือ ยิง่ คานึง, 2557รูปท่ี 10.19 แสดงการทางานของวงจรจดุ ระเบดิ แบบธรรมดาขณะหนา้ ทองขาวปดิ ที่มา : บญุ ลอื ยงิ่ คานงึ , 2557

481รหัสวชิ า 2101-2005 ชือ่ วชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเน้ือหา I.S. 10-16ชอ่ื หน่วย ระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา สอนครงั้ ที่ 11 จานวน 2 ชว่ั โมง จากรปู ท่ี 10.19 เมอ่ื บดิ สวติ ช์จุดระเบิดไปทต่ี าแหน่ง ON กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไหลผ่านสวติ ช์จุดระเบิดท่ีข้ัว IG ผา่ นความตา้ นทานภายนอกไปยังข้ัวบวกของคอยล์จดุ ระเบดิ ผา่ นขดลวดปฐมภูมไิ ปยังชุดหนา้ ทองขาวภายในเรอื นจานจา่ ย ในขณะนนั้ หน้าทองขาวติดกัน กระแสไฟที่ไหลผ่านขดลวดปฐมภูมิผ่านหน้าทองขาวลงกราวด์ครบวงจรทาให้เกิดสนามแม่เหล็กขึ้นรอบๆ ขดลวดปฐมภูมิ เมอ่ื สตารท์ เครือ่ งยนต์ลูกเบยี้ วจะหมุนไปสมั ผัสกบั ไฟเบอร์ทองขาว ทาใหห้ นา้ ทองขาวแยกจากกัน กระแสไฟทไี่ หลผา่ นขดลวดปฐมภูมิจึงหยดุ ไหลทาให้สนามแมเ่ หลก็ รอบๆ ขดลวดปฐมภมู ิยุบตวั ลงอย่างรวดเร็ว การยบุ ตัวของสนามแมเ่ หลก็ จะตดั กบั ขดลวด 2 ชดุ คือสนามแมเ่ หลก็ ยบุ ตวั ตัดกับขดลวดทตุ ยิ ภมู ทิ าให้เกดิ กระแสไฟแรงเคลื่อนสูงประมาณ 30,000 โวลต์ ไหลผา่ นไปยงั ฝาครอบจานจา่ ย โรเตอร์ และส่งไปจดุประกายท่ีหวั เทียนสูบตา่ งๆ ตามจังหวะการจุดระเบดิ ของเคร่อื งยนต์ แสดงดงั รปู ท่ี 10.20 รูปท่ี 10.20 แสดงการทางานของวงจรขณะหนา้ ทองขาวเปิด ท่มี า : บญุ ลือ ยง่ิ คานึง, 2557 ขณะเดียวกันสนามแมเ่ หล็กท่ียบุ ตวั จะตัดกบั ขดลวดปฐมภูมิ ทาใหเ้ กิดกระแสไฟแรงเคลื่อนประมาณ 500 โวลต์ไหลผา่ นหนา้ ทองขาวเป็นสาเหตุให้หน้าทองขาวไหมจ้ ึงตอ้ งใช้คอนเดนเซอรต์ ่อขนานกับหนา้ ทองขาวเพ่ือเกบ็ ประจดุ ังกล่าว

482 รหัสวิชา 2101-2005 ชอื่ วชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-17 จานวน 2 ชวั่ โมง ชื่อหนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนคร้ังที่ 113. ขอ้ ขดั ข้องระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดาขอ้ ขัดข้องและการแกไ้ ขระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา แสดงในตารางที่ 10.1ตารางท่ี 10.1 สาเหตุข้อขัดขอ้ งและการแก้ไขระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา อาการ สาเหตุ การแกไ้ ข1. เครื่องยนต์ไม่ติดหรือติดยาก 1. คอยลจ์ ุดระเบิดชารุด 1. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลย่ี นใหม่ 2. จานจา่ ยชารดุ 2. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลย่ี นใหม่ 3. สายไฟแรงสูงชารุด 3. ตรวจสอบ แก้ไข เปลี่ยนใหม่ 4. องศาจุดระเบิดไมถ่ ูกต้อง 4. ปรับตง้ั ใหม่ 5. หัวเทยี นเสื่อมสภาพ 5. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลย่ี นใหม่2. เครื่องยนต์เดินเบาไมเ่ รยี บ 1. คอยลจ์ ุดระเบิดชารดุ 1. ตรวจสอบ แก้ไข เปลย่ี นใหม่ 2. จานจา่ ยชารดุ 2. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลย่ี นใหม่ 3. สายไฟแรงสงู ชารดุ 3. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลย่ี นใหม่ 4. องศาจุดระเบดิ ไมถ่ ูกตอ้ ง 4. ปรับตั้งใหม่ 5. หวั เทยี นเสื่อมสภาพ 5. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลี่ยนใหม่ 6. ชดุ เรง่ ไฟล่วงหนา้ ทางานไม่ 6. ตรวจสอบ แก้ไข เปล่ยี นใหม่ ถกู ตอ้ ง3. เคร่ืองยนต์เรง่ ไม่ขน้ึ 1. คอยลจ์ ดุ ระเบิดชารดุ 1. ตรวจสอบ แก้ไข เปลี่ยนใหม่ 2. จานจ่ายชารดุ 2. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปลี่ยนใหม่ 3. สายไฟแรงสงู ชารุด 3. ตรวจสอบ แก้ไข เปลยี่ นใหม่ 4. องศาจดุ ระเบิดไม่ถูกต้อง 4. ปรบั ตั้งใหม่ 5. หัวเทยี นเสือ่ มสภาพ 5. ตรวจสอบ แก้ไข เปลย่ี นใหม่ 6. ชดุ เรง่ ไฟล่วงหนา้ ทางานไม่ 6. ตรวจสอบ แกไ้ ข เปล่ียนใหม่ ถกู ตอ้ ง4. เครอื่ งยนต์ไม่ดบั เม่อื ปิดสวิตช์ 1. องศาจดุ ระเบดิ ไม่ถูกตอ้ ง 1. ปรับตั้งใหม่กญุ แจ 2. ใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ไม่ถูกต้อง 2. ตรวจสอบ แก้ไข เปลี่ยนใหม่5. เครื่องยนตร์ ้อนจดั 1. องศาจุดระเบิดไม่ถูกต้อง 1. ปรับต้ังใหม่

483รหสั วชิ า 2101-2005 ช่อื วชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์ ใบเนื้อหา I.S. 10-18ช่ือหนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา สอนครั้งท่ี 11 จานวน 2 ชัว่ โมงสรปุ หน้าที่ของระบบจุดระเบิดแบบธรรมดา มีหนา้ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าแรงเคลือ่ นสูงส่งผา่ นเขี้ยวหวั เทียนเพอ่ื จุดระเบดิ ไอดภี ายในกระบอกสบู ตามจงั หวะการจุดระเบดิ ทเี่ หมาะสมสมั พันธก์ บั ความเรว็ รอบและภาระของเครอื่ งยนต์ สว่ นประกอบของระบบจดุ ระเบดิ แบบธรรมดา ประกอบด้วย แบตเตอรี่ สวติ ช์จุดระเบิด ฟิวส์ คอยล์จดุ ระเบดิ จานจา่ ย หน้าทองขาว คอนเดนเซอร์ ชดุ เร่งไฟจุดระเบิด หัวเทยี น ฯลฯ การทางานของระบบจดุ ระเบิดแบบธรรมดา ใชห้ น้าทองขาวควบคุมการตัดต่อวงจรของขดลวดปฐมภูมิในคอยล์จุดระเบดิ เมื่อใชง้ านไประยะเวลาหนง่ึ จะต้องทาการบารงุ รักษาหรือเปล่ยี นใหม่ ทาใหร้ ะบบจุดระเบิดเกิดปัญหาอยู่ตลอดเวลาสง่ ผลต่อประสทิ ธภิ าพการทางานของเครื่องยนตล์ ดลง การแก้ไขขอ้ ขัดข้องของระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา ต้องดาเนินการคน้ หาสาเหตุปัญหากอ่ นที่จะทาการแก้ไขปัญหาที่เกิดขนึ้ เพ่ือใหก้ ารแก้ไขกระทาได้เรว็ และลดเวลาการซ่อม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook