Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือวรรคทอง ในวรรณคดี (2)

หนังสือวรรคทอง ในวรรณคดี (2)

Published by chompoo.worada00, 2021-09-27 06:13:38

Description: หนังสือวรรคทอง ในวรรณคดี (2)

Search

Read the Text Version

ห นั ง สื อ วรรคทองในว ร ร ณ ค ดี จัดทำโดย นางสาววรดา กลิ่นฟุ้ง รหัสนักศึกษา ๖๓๑๘๑๐๑๐๒๐๒ ส า ข า วิ ช า ภ า ษ า ไ ท ย ค ณ ะ ค รุ ศ า ส ต ร์ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ ลำ ป า ง

กลอนสี่ จักกรีดจักกราย จักย้ายจักย่อง ไม่เมินไม่มอง ไม่หมองไม่หมาง งามยิ้มงามย่าง งามเนื้องามนิ่ม ดูปรางดูปรุง ดูคิ้วดูคาง ดั่งจะเลื่อนดั่งจะลอย พิ ศ ส ร้ อ ย พิ ศ สุ ง ดั่งดาวดั่งเดือน ช่างเรืองช่างรุ่ง พิศเช่นพิศช้อย ทรงวุ้งทรงแวง ช่างปลอดช่างเปรื่อง กลบทจาตุรงคนายก, ศิริวิบุลกิตติ, หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ทรงแดดทรงดุ่ง สัมผัสนอก : ในทุกบาท คำสุดท้ายของวรรหน้า สัมผัสกับคำที่สองของวรรคหลัง มีสัมผัสระหว่างบาทที่สอง กับสาม คือ คำสุดท้ายวรรที่สี่สัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่หก ส่วนสัมผัสระหว่างบทนั้นจะแตกต่างจากแบบแรก เ นื่ อ ง จ า ก ใ ห้ คำ สุ ด ท้ า ย ข อ ง บ ท แ ร ก สั ม ผั ส กั บ คำ สุ ด ท้ า ย ข อ ง ว ร ร ค ที่ สี่ ข อ ง บ ท ถั ด ไ ป สัมผัสใน : เด่นเรื่องการซ้ำคำ คือคำว่า จัก ไม่ งาม ดู ดั่ง พิศ ช่าง ทรง สัมผัสพยัญชนะที่มีอยู่ทุกวรรค เช่น กรีด/กราย ย้าย/ย่อง เมิน/มอง หมอง/หมาง เนื้อ/นิ่ม ยิ่ม/ย่าง

กลอนเเปด ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน แ ม้ อ ยู่ ใ น ใ ต้ ห ล้ า สุ ธ า ธ า ร ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เ ช ย ผ ก า โ ก สุ ม ป ทุ ม ท อ ง แม้เป็นถ้ำอำไพขอให้พี่ เ ป็น ร า ช สี ห์ ส ม สู่ เ ป็น คู่ ส อ ง ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป จากเรื่องพระอภัยมณี : สุนทรภู่ สัมผัสนอก : ให้คำสุดท้ายวรรคแรก(วรรคสดับ) ไปสัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๕ ของวรรคที่ ๒(วรรครับ)ให้ คำสุดท้ายวรรคที่สอง(วรรครับ) ไปสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓(วรรครอง)ให้คำสุดท้ายของวรรคที่ สาม(วรรครอง) ไปสัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๕ ของวรรคที่สี่ (วรรคส่ง)การสัมผัสระหว่างบทให้คำสุดท้าย ของวรรคทึ่สี่ คือ วรรคส่ง ไปสัมผัส กับคำสุดท้ายของวรรคที่สอง คือวรรครับของบทถัดไป สัมผัสใน : การเล่นคำซ้ำ คำว่า เเม้ สิ้น สัมผัสพยัญชนะ เช่น สิ้น/สุด พบ/พาน คลาด/คลา เป็นต้น สัมผัสสระ เช่น ใน/ใต้ เย็น/เป็น สุม/ทุม สู่/คู่ ตาม/ทราม สงวน/นวล เป้นต้น การใช้ภาพพจน์ : อุปลักษณ์ เช่น แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นกุมรา คือ หากหญิงที่รักเป็นดอกบัว ตัวเขาก็จะเป็น เเมลงที่จะอยู่คู่กับดอกบัว บทนี้เเสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อนางอันเป็นที่รัก ให้สัญญาว่าจะเป็นคู่กันตลอดไป

กาพย์ยานี ๑๑ พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี ม ล า ย สิ้ น ทั้ ง อิ น ท รี ย์ นรชาติวางวาย ประดับไว้ในโลกา สถิตทั่วแต่ชั่วดี พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สัมผัสนอก : กาพย์ยานี ๑๑ หนึ่งบท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คำ วรรคหลัง มี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ กาพย์ยานี ๑ บท จะมี ๒๒ คำ ซึ่งในการเเต่งนั้นต้องแต่งอย่างน้อย ๑ บท หรือ ๔ วรรคเสมอ สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ เช่น ปลด/ปลง โท/ทน วาง/วาย ไว้/ใน สัมผัสสระ เช่น ทั่ว/ชั่ว เพิ่มเติมความหมาย พฤษภ = วัว, กาสร = ควาย, กุญชร = ช้าง, เสน่ง = เขา, โท = สอง, ทนต์/ทันตะ = ฟั น/งา อธิบายว่า บรรดาสัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปยังเหลือเขาหนังและงาไว้ใช้ประโยชน์ ส่วนมนุษย์เมื่อ ยามสิ้นชีพ มอดมลายทั้งเนื้อหนังเหลือทิ้งไว้แต่ คุณความดีประดับไว้ในโลกหรือความเลวร้ายให้ ผู้คนกล่าวขาน

กาพย์ยานี ๑๖ น ก ก ด ส อ ง สิ่ ง เ สี ย ง ห ว า น ไก่เถื่อนอันตรกาน อเนกในไพรสณฑ์ กวักกว่าเปล้าปล่าโจษจล ออกเอี้ยงอลวล ก็ร้องวางเวงเวหา ซังแซวเหยี่ยวรุ้งเร้นกา จับจอมพฤกษา สรหล้ายสรหลมซมกัน สาลิกาแขกเต้าขานขัน บันลิงลายพรรณ เพียงพบูมแมนเขียน มหาชาติคำหลวง กัณฑ์มหาพน สัมผัสนอก : หนึ่งบทมี 16 คำ 3 วรรค วรรคละ 6 - 4 - 6 คำตามลำดับ บังคับสัมผัสท้ายวรรคแรก กับวรรคที่สอง สัมผัสระหว่างบทส่งจากคำสุดท้ายบทแรก ไปยังคำท้ายวรรคแรกในบทต่อไป กวี อาจเพิ่มสัมผัสระหว่างวรรคที่ 2 กับวรรคที่ 3 เพื่อเพิ่มความไพเราะก็ได้ สัมผัสใน : สัมผัสพญัญชนะ เช่น สอง/สิ่ง/เสียง กวัก/กว่า เปล้า/เปล่า ออก/เอี้ยง/อลวล วาง/เวง/เว เป็นต้น สัมผัสสระ ใน/ไพร เปล้า/เปล่า สัมผัสวรรณยุกต์ : การเล่นเสียงเอก โท เปล้า/เปล่า

โคลงสองสุภาพ เปรมปรีดิ์ปราโมทย์แท้ เพราะพระโหรหากแก้ กล่าวต้องตามฝั น ฯ พระพลันทรงเครื่องต้น งามประเสริฐเลิศล้น แหล่งหล้าควรชม ชื่นนา ฯ ลิลิตตะเลงพ่าย : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีการบังคับรูปวรรณยุกต์เอกโทตามการแต่งโคลง โดยบังคับรูปเอกที่คำที่ห้าของวรรค แรก คำที่สามของวรรคที่สอง และคำแรกของวรรคที่สาม รูปโทนั้นบังคับที่คำที่ห้าวรรคแรกและสอง คำที่สองของวรรคที่สาม ส่วนคำสร้อยนั้นจะมี หรือไม่ก็ได้ สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ เช่น เปรม/ปรีดิ์/ปรา เพราะ/พระ โหร/หาก ต้อง/ตาม เเหล่ง/หล้า เป็นต้น สัมผัสสระ เสริฐ/เลิศ

โคลงสี่สุภาพ จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง บางยี่เรือราพราง พี่พร้อง เมียงม่าน มานา เรือแผงช่วยพานาง คล่าวน้ำตาคลอ ๚ บางบ่รับคำคล้อง นิราศนรินทร์ : นายนรินทรธิเบศร์ สัมผัสนอก : บทหนึ่งมี ๔ บรรทัด วรรคหน้าของทุกบรรทัด มี ๕ พยางค์ วรรคหลังของบรรทัดที่ ๑ - ๓ มี ๒ พยางค์ บรรทัดที่ ๔ มี ๔ พยางค์ จำนวนพยางค์มีดังนี้ ห้า - สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อค่ เชื่อมคำ ) ห้า- สอง ห้า - สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อคำ เชื่อมคำ ) ห้า - สี่ (หากจะให้เกิดความไพเราะในการอ่านนิยมลงเสียงจัตวา) มีตำแหน่งสัมผัสตามเส้นโยง บังคับรูปวรรณยุกต็ เอก ๗ โท ๔ ตามตำแหน่งในแผนผัง กรณีที่ไม่ สามารถหาพยางค์ที่มีรูปวรรณยุกต์ตามต้องการได้ให้ใช้ สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ เช่น มา/มา ลิ่ว/ลม/ลำ เรือ/รา พี่/พร้อม เมียง/ม่าน/มา คล้อง/คล่าว สัมผัสสระ ล้ำ/ลำ มา/นา

ร่ายสุภาพ ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้ า หล้าหล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่ อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจ แกล้วบมิกล้า บค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ ทุกเขตทุกด้าว น้าวมกุฎมานบ น้าวพิภพมานอบ เถลิงพระเกียรติฟุ้ งฟ้ า ลือ ตรลบแหล่งหล้าโลกล้วนสดุดี ลิลิตตะเลงพ่าย : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส บทหนึ่งมี ๓ วรรค วรรคที่ ๑ และวรรคที่ ๒ มีวรรคละ ๕ คำ วรรคที่ ๓ มี ๔ คำ รวม ๓ วรรคเป็น ๑๔ คำ นอกจากนี้อาจมีคำสร้อยเติมในวรรคสุดท้ายได้อีก ๒ คำ สัมผัสบังคับ ดูได้จากแผนผังของ โคลงสองดังนี้ คำที่ ๕ ของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๕ ของวรรคที่ ๒ เพียงแห่งเดียวตามเส้นที่ โยงไว้ ถ้าแต่งต่ออีกหลายบท คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ จะสัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของ วรรคแรกในบทต่อไป สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ เช่น เกริก/เกรียง เพียง/พก ฟาก/ฟ้ า หล้า/หล่ม ฟุ้ ง/ฟ้ า เเหล่ง/หล้า โลก/ล้วน ท้าว/ทั่ว/ทิศ/ทั่ว/เทศ/ไท้/ทุก สมัผัสสระ เช่น หาญ/ลาญ การซ้ำคำ คำว่า ทั่ว,น้าว

อินทรวิเชียรฉันทร์ ๑๑ โขดเขินศิรขรเขา ณ ลำเนาพนาลัย สูงลิ่วละลานนั - ยนพ้นประมาณหมาย รุจิเรขเรียงราย ยอดมัวสลัวเมฆ ก็สลับระยับสี เลื่อมเลื่อมศิลาลาย อิลราชคำฉันท์ พระยาศรีสุนทรโวหาร ( ผัน ) สัมผัสนอก : บทหนึ่งมี ๒ บาท ๔ วรรค วรรคที่ ๑ มี ๕ คำ วรรคที่ ๒ มี ๖ คำ วรรคที่ ๓ มี ๕ คำ วรรคที่ ๔ มี ๖ คำ หนึ่งบทมี ๒๒ คำ มีสัมผัสในบท ๒ แห่ง คือ ๑. คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ ๒. คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ สัมผัสระหว่างบท คือคำสุดท้ายของบท สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ในบทต่อไป สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ โขด/เขิน ขร/เขา ลิ่ว/ละ/ลาน มาณ/หมาย เรข/เรียง/ราย เลื่อม/เลื่อม/ละ/ลาย สัมผัสสระ มัว/สลัว สลับ/ยับ

กลอนสักวา สั ก ว า ห ว า น อื่ น มี ห มื่ น เ เ ส น ไม่เหมือนเเม้นพจมานที่หวานหอม กลิ่นประเทีย[เปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม ผู้ดีไพรไม่ประกอบชอบอารมณ์ ใครฟั งลมเมินหน้าละอาเอย (สักวา : พระเจ้าบรมวงค์เธอ กรมหลวงดินทรไพศาลโสภณ) สัมผัสนอก : กลอนสักวา ๑ บทมี ๔ คำกลอนหรือ ๘ วรรค วรรคแรกหรือวรรคขึ้นจะต้องขึ้น ต้นบทด้วยคำว่า \" สักวา \" และวรรคสุดท้ายหรือวรรคส่งจะต้องลงท้ายด้วยคำว่าเอย ส่วน วรรคที่ ๒-๓ คือวรรครับและวรรครองนั้น ไม่บังคับตัวอักษร แต่ต้องมีสัมผัสระหว่างวรรคทั้ง ๔ อย่างลัษณะของกลอนทั่วไป สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ เช่น มี/หมื่น ไม่/เหมือน/เเม้น หยาม/หยาบ ปลาบ/ปลื้ม ดัง/ดูด/ดื่ม เข็ด/ขม โลม/ลม เป็นต้น สัมผัสสระ เช่น อื่น/หมื่น มาน/หวาน เทียบ/เปรียบ ลาม/หยาม เพ็ด/เข้ด กอบ/ชอบ

กลอนบทละคร บัดนั้น วายุบุตรฤทธิไกรใจเกล้า เเต่ต้องละอองอายยา หลับตาเมามัวไม่สมประดี ครั้นลมพัดก็ตื่นฟื้ นกาย เ รี ย ก สุ ค รี พ น้ า ช า ย ก ร ะ บี่ ศ รี อัศจรรย์เป็นพ้นพ้นทวี เมื่อกี้ข้าเคลิ้มหลับไป หรือว่าไมยราพชาญฉกรรจ์ มันลอบสะกดเข้ามาได้ พระน้าอย่านิ่งนอนใจ จงไปดูองค์พระจักราฯ (รามเกียรติ์ : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช) สัมผัสนอก : กลอนบทละครมีลักษณะบังคับเช่นเดียวกับกลอนสุภาพ วรรคหนึ่งมี ๖ ถึง ๙ คำ แต่นิยมใช้เพียง ๖ ถึง ๗ คำจึงจะเข้าจังหวะร้องและรำทำให้ไพเราะยิ่งขึ้น กลอนบท ละครมักจะขึ้นต้นว่า เมื่อนั้น สำหรับตัวละครที่เป็นกษัตริย์หรือผู้มีบรรดาศักดิ์สูง บัดนั้น สำหรับตัวละครที่เป็นเสนาหรือคนทั่วไป มาจะกล่าวบทไป ใช้สำหรับนำเรื่อง เกริ่นเรื่อง สัมผัสใน : สัมผัสพยัญชนะ ออง/อาย เมา/มัว/ไม่ น้า/นิ่ง/นอน ใจ/จง สัมผัสสระ ไกร/ใจ ตื่น/ฟื้ น ฉกรรจ์/มัน

เเหล่งที่มา สมบัติ สุวรรณกยวิทย์.กลอนสี่.2013. แหล่งที่มา https://www.gotoknow.org/posts/516858 (25 กันยายน 2564) อาสาสมัครวิกิพีเดีย. ลิลิตตะเลงพ่าย [อินเทอร์เน็ต]. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี; 2021 มีนาคม 14 เว็บไซต์ห้องสมุดวชิรญาณ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook