หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์เรอ่ื ง ความรูเ้ บอื้ งต้นเกยี่ วกับตวั ตา้ นทาน จดั ทาโดยนายยุทธภมู ิ ชมภเู ครือ รหสั นกั ศกึ ษา : 60181700120 สาขาวชิ าอตุ สาหกรรมศลิ ป์ คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลาปาง
คานา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับตัวต้านทาน ได้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการเรียนการสอน สาหรับนักเรียนและนักศึกษา ตลอดจนบุคคลที่สนใจ โดยผู้พัฒนาได้แบ่งเน้ือหาของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์น้ีไว้ 12หัวเร่ือง ได้แก่ ตัวต้านทานResistor , ความหมายของโอห์ม , หน่วยของความต้านทาน , กฎของโอห์ม , ตัวต้านทานต่ออนุกรมและต่อขนาน ,ตัวอย่างตัวต้านทานคงที่ , ตัวอย่างตัวต้านทานปรับค่าได้ ,ตัวอย่างตัวต้านทาน , ตัวต้านทานแบบ 5 แถบสี , สีของตัวต้านทาน , วธิ ีหาค่าตวั ตา้ นทาน , คา่ ความคลาดเคลือ่ น เป็นตน้ ผู้พฒั นาหวงั เป็นอย่างย่ิงวา่ เน้ือหาสาระของหนังสอือเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์และให้ความรู้แก่ผเู้ รยี นและผู้สนใจทั่วไป นายยุทธภูมิ ชมภเู ครือ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง 4 กนั ยายน 2561
เรอ่ื ง สารบญั หน้า 4ตัวต้านทาน Resistor 5ความหมายของโอหม์ 6หน่วยของความต้านทาน 7กฎของโอหม์ 8ตวั ตา้ นทานตอ่ อนกุ รมและตอ่ ขนาน 11ตัวอยา่ งตวั ตา้ นทานคงที่ 12ตัวอย่างตัวตา้ นทานปรบั คา่ ได้ 19ตวั อย่างตวั ต้านทาน 21สีของตวั ต้านทาน 22วิธหี าคา่ ตัวต้านทาน 23ค่าความคลาดเคลอ่ื น 24สรุป 25แบบฝึกหดั 35ทม่ี าของข้อมลู 35ท่มี าของภาพ
ตัวต้านทาน Resistor รปู ภาพ ก. ตัวตา้ นทาน หรอื รซี ิสเตอร์ (resistor) เป็นอปุ กรณ์ไฟฟา้ ชนดิ หนึ่งท่ีมีคณุ สมบัติในการตา้ นการไหลผ่านของกระแสไฟฟ้า ทาดว้ ยลวดต้านทานหรือถ่านคารบ์ อน ถ้าอุปกรณน์ นั้ มีความต้านทานมาก กระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลผ่านจะน้อยลง เป็นอุปกรณ์ไฟฟา้ ชนดิ พาสซีฟสองขว้ั ท่ีสร้างความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ครอ่ มข้วั ท้ังสอง (V) โดยมีสัดส่วนมากน้อยตามปรมิ าณกระแสไฟฟ้าทไี่ หลผา่ น (I) อัตราสว่ นระหวา่ งความตา่ งศกั ย์และปริมาณกระแสไฟฟ้า คอื ค่าความต้านทานทางไฟฟ้า หรือค่าความต้านทานของตวั นามหี นว่ ยเปน็ โอหม์ (Ω)
ความหมายของโอห์ม โอห์ม (Ω) เปน็ หน่วย SI ของความตา้ นทานไฟฟ้าตั้งชือ่ ตาม จอร์จ ไซมอนโอหม์ 1 Ω = 1 V ต่อ 1 Aเน่อื งจากตวั ตา้ นทานถูกระบุคา่ และถกู ผลิตในจานวนที่เยอะมากหน่วยทห่ี าไดเ้ ปน็ มลิ ลิโอหม์ (1 mΩ = 10−3Ω),กโิ ลโอหม์ (1 kΩ = 103 Ω) และ เมกะโอหม์(1 MΩ = 106Ω) ยงั มใี นการใช้งานทว่ั ไป ค่าตรงข้ามความต้านทานเรยี กว่าค่า conductance 1ตวั ยอ่ G = ������ และมหี นว่ ยวัดเป็น siemens (หน่วย SI)บางครั้งเรยี กว่า mho ดงั นั้นซเี มนสเ์ ปน็ สว่ นกลบั ของโอห์ม :������ = Ω−1 แนวคดิ ของ conductance มกั จะถูกใชใ้ นการวิเคราะห์วงจร ตัวตา้ นทานในทางปฏบิ ัติจะถูกระบไุ วใ้ นแง่ของความตา้ นทาน (โอห์ม) มากกว่าค่า conductance
หน่วยของความตา้ นทาน คา่ ความต้านทานถูกกาหนดให้มหี นว่ ยเรียกเปน็ โอหม์(OHM) หรือ Ω (โอเมกา้ หรือ โอห์ม) ซึ่งไดจ้ ากค่ามาตรฐานโดยการเอาแรงดนั ไฟฟ้า 1 โวลต์ ตอ่ กบั ความต้านทาน 1 โอห์มและทาใหม้ ีกระแสไหลในวงจร 1 แอมแปร์ ประกอบดว้ ย หนว่ ยค่าความต้านทานตา่ ง ๆ ดังนี้- 1000 Ω(โอห์ม) เท่ากบั 1 KΩ (กโิ ลโอห์ม)- 1000 KΩ (กิโลโอห์ม) เท่ากับ 1 MΩ (เมกกะโอห์ม)ตัวตา้ นทาน บอกค่าในการทนกาลงั ไฟฟา้ มีหนว่ ยเป็น วตั ต์(Walt)
กฎของโอหม์ พฤตกิ รรมของตวั ตา้ นทานจะถกู กาหนดโดความสมั พันธ์ท่ีระบุไว้ในกฎของโอห์มดังน้ี : V = IR กฎของโอห์ม ระบุวา่ แรงดันไฟฟา้ (V) ทต่ี กครอ่ มความตา้ นทานจะเป็นสัดสว่ นกับกระแส(I) เม่ือค่าคงท่ขี องสัดส่วนเป็นความตา้ นทาน(R)ในส่วนที่เทา่ เทยี มกัน กฎของโอห์มสามารถระบุไดว้ า่ : สมการนกี้ าหนดวา่ กระแส(I)เปน็ สดั สว่ นกบัแรงดันไฟฟา้ (V)และแปรผกผนั กับความต้านทาน(R) สมการถูกนามาใช้โดยตรงในการคานวณในทางปฏบิ ตั ิEX. ถา้ ตวั ต้านทาน 300 โอห์ม ต่อคร่อมระหว่างขั้วของ 1m2illโiaวลmตp์ eดrังeนsน้ั) กจระะไแหสลผ31่า0น20ตัว=ต้าน0ท.0า4นตแัวอนม้นั แปร์แบตเตอรี่(หรอื 40
ตัวต้านทานตอ่ อนกุ รมและต่อขนาน การต่อแบบอนกุ รม กระแสท่ีไหลผา่ นตวั Rทุกตัว มี จานวนเท่ากนั แตแ่ รงดันไฟฟา้ ในแต่ละตัว จะเปน็ สัดสว่ นกับ ความต้านทานของมนั ความต่างศกั ย์(แรงดัน)ท่ตี กคร่อมใน เครือขา่ ยท้ังหมดคอื ผลรวมของแรงดันไฟฟ้า ความต้านทานรวม หาได้จากผลรวมของความตา้ นทานของแต่ละตัวเหล่าน้นั ในกรณีพิเศษ ตวั ตา้ นทานของจานวน (N) ตวั มีความตา้ นทานเทา่ กับ R ต่อกันแบบอนกุ รม ความต้านทาน รวมจะเท่ากบั NxR ดังน้นั ถา้ ตวั ตา้ นทาน1ตัว ขนาด 100KΩ ตอ่ อนุกรมกบั ตวั Rขนาด 22KΩ 1ตวั ความตา้ นทานรวมจะ เทา่ กับ 122KΩ ทงั้ สองตัวนีจ้ ะทางานในวงจรราวกบั เป็นตวั ต้านทานตวั เดียวท่ีมีค่าความต้านทาน 122KΩ ตัวตา้ นทาน ขนาด 22KΩ(จานวน = 3, R = 22KΩ ) จะสรา้ งความ ตา้ นทานเท่ากับ 3x22KΩ = 66KΩ
การตอ่ แบบขนาน ความต่างศักย์(แรงดนั )ของแต่ละตัวจะมีค่าเท่ากัน แต่กระแสทั้งหมดจะเท่ากับกระแสท่ีไหลผา่ นตวัตา้ นทานแต่ละตวั นามารวมกัน คา่ conductances ของตวัตา้ นทานจะถูกนามารวมกันเพอ่ื พจิ ารณาคา่ conductancesของเครอื ขา่ ย ดังน้ันคา่ ความต้านทานเทยี บเทา่ (Req) ของเครอื ขา่ ยทสี่ ามารถคานวณไดด้ ังน้ี : 1 11 1������������������ = ������1 + ������2 + ⋯ + ������������ EX. ตวั ตา้ นทาน 10Ω ตอ่ ขนานกบั ตัวต้านทาน 1 15+5Ω และ15Ω ตวั ตา้ นทานจะผลติ ส่วนผกผันของ 10 +1 หรอื 1 = 2,725Ω15 (0.1+0.2+0.67)ยง่ิ มีจานวนของตัวต้านทานต่อขนานกันมาก ความต้านทานรวมจะนอ้ ย และความต้านทานรวมจะไมส่ ูงกว่าตัวต้านทานที่มีค่าตา่ สดุ ในกลุ่ม
ความตา้ นทานขนานเทียบเท่าสามารถแสดงในสมการโดยสองเส้นแนวตั้ง || ใหเ้ ป็นสัญลักษณง์ ่ายๆ บางครงั้ สองslashes \"//\" ถกู นามาใชแ้ ทน \"||\" ในกรณที ่ี แปน้ พิมพห์ รือฟอ้ นท์ขาดสัญลักษณ์เส้นแนวตง้ั สาหรบั กรณี ทีส่ องตวัตา้ นทานตอ่ แบบขนานนสี้ ามารถคานวณโดยใช้ :������������������ = ������1 ∥ ������2 = ������1������2 ������1 + ������2 เครอื ข่ายตวั ตา้ นทานท่ีมกี ารรวมกันของการเชือ่ มต่อแบบขนานและอนุกรม แบง่ ออกเป็นส่วนเลก็ ๆท่ีมีบางตวั ต่ออนุกรมและบางตัวตอ่ ขนานกัน เช่น
ตวั อย่างตัวตา้ นทานคงที่ รูปภาพ ข.ฟิล์มคารบ์ อน ฟิล์มคารบ์ อนจะถกู วางลงบนพนื้ ผวิ ฉนวนและถูกตดั เปน็วงรเี พ่ือสร้างเป็นเส้นทางความตา้ นทานท่ียาวและแคบ การเปลี่ยนแปลงของรูปทรง ควบคูไ่ ปกับความต้านทานของคาร์บอนอสณั ฐาน (ระหวา่ ง 500-800 μΩ เมตร) สามารถใหค้ วามหลากหลายของความต้านทาน เม่ือเทยี บกบั องค์ประกอบคาร์บอนพวกมันใหค้ ณุ ลักษณะของเสียงรบกวนตา่ เน่ืองจากความแมน่ ยาของการกระจายแกรไฟท์บรสิ ุทธโิ์ ดยไม่ต้องมผี ลผูกพนั ตัวต้านทานฟลิ ์มคารบ์ อนมีช่วงอัตรากาลังท่ี 0.125-5 วัตต์ท่ี70 C. ความตา้ นทานช่วงใช้ได้มีต้งั แต่วนั ที่ 1 โอหม์ ถึง 10megaohm ตวั ตา้ นทานฟิลม์ คารบ์ อนมีชว่ งอุณหภูมกิ ารดาเนินงาน ระหวา่ ง -55 C ถงึ 155 C. และมีชว่ งแรงดนั ไฟฟ้าสูงสุดในการทางานที่ 200-600 โวลต์
รูปภาพ ค.ฟลิ ม์ โลหะออกไซด์ ตัวตา้ นทานฟลิ ม์ โลหะออกไซดถ์ ูกทาข้นึ จากโลหะออกไซดเ์ ช่นดีบุกออกไซด์ ซง่ึ ส่งผลให้มี อุณหภมู ใิ นการทางานที่สงู กว่าและมีความม่นั คง นา่ เชื่อถือมากกวา่ ฟลิ ม์ โลหะ ใชใ้ นงานที่มคี วามตอ้ งการความอดทนสูง
รูปภาพ ง. ฟิล์มหนาและบาง ตวั ต้านทานฟลิ ์มบางจะถกู ทาโดยการสปตั เตอร์(วธิ ีการของการสะสมสญู ญกาศ)วัสดตุ า้ นทานบนพน้ื ผวิ ฉนวนจากนัน้ ฟิล์มจะถกู ฝงั ในลกั ษณะที่คล้ายกนั กบั วธิ ีการเก่า (แบบลด) เพ่ือทาแผงวงจรพิมพ์ นนั่ คือ พ้ืนผิวจะถูกเคลอื บด้วยวสั ดุไวแสง จากนั้นจะถูกคลุมด้วยฟิล์มตามแบบ, ฉาบด้วยรงั สีอัลตราไวโอเลต และจากน้ันจัดการฉายแสงลงบนบริเวณที่เคลือบดว้ นสารไวแสง ฟลิ ม์ บางๆที่อยู่ดา้ นใต้จะถูกกัดออกไป ตวั ต้านทานฟลิ ม์ หนาเปน็ ผลิตภัณฑท์ ี่ผลิตโดยใช้การสกรีนและการพมิ พ์ลายฉลเุ พราะช่วงเวลาระหว่างการทาสปตั เตอร์จะสามารถควบคมุ ได้ ความหนาของฟิลม์ บางจึงสามารถ ควบคุมได้อย่างแม่นยา ชนดิ ของวสั ดุก็ยังแตกต่างกันมกั จะประกอบดว้ ยตวั นาเซรามกิ (cermet )หนง่ึ ตัวนาหรือมากกว่า เชน่ แทนทาลัมไนไตรด์ , รูทเี นยี มออกไซด์ , ตะกั่วออกไซด์ , นกิ เกิลโครเมียม
รูปภาพ จ.ลวดพนั ตัวตา้ นทานแบบลวดพนั โดยทว่ั ไปถกู ทาขน้ึ โดยการพนัลวดโลหะทีม่ กั จะเปน็ Nichrome รอบแกนเซรามิก, พลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส ปลายของลวดทง้ั สองดา้ นจะถูกบดั กรีหรอื เชอ่ื มเข้ากบั จกุ หรอื แหวนสองอัน ท่ผี กู ตดิ อยู่กบั ปลายของแกน ชิ้นงานถกูปกป้องดว้ ยช้ันของสี, พลาสติก หล่อหรอื สารเคลอื บทถ่ี กู อบท่ีอณุ หภูมิสงู ตัวต้านทานเหล่าน้ถี กู ออกแบบมาเพื่อทนต่ออณุ หภูมิท่ีสูงผดิ ปกตถิ ึง +450 ฐCเส้นลวดในตัวต้านทานลวดพนั กาลังงานต่าปกติมีเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางระหวา่ ง 0.6 และ 0.8 มม.และเคลอื บด้วยดบี ุกเพอ่ื ความสะดวกในการบัดกรี
ตัวอยา่ งตัวตา้ นทานปรบั คา่ ได้ ตัวตา้ นทานปรบั ได้ ตวั ต้านทานแบบน้อี าจจะมจี ุดแยกติดอย่กู ับท่ีหน่งึ จุดหรือมากกว่า เพือ่ ใหค้ วามตา้ นทานสามารถเปลีย่ นแปลงได้โดยการย้ายสายไฟไปเชือ่ มต่อกบั ข้วั อ่นื ท่แี ตกตา่ งกนั บางตวั ต้านทานกาลังแบบลวดพนั มจี ดุ แยกท่สี ามารถเลื่อนไปตามความยาวของตัวต้านทาน เพอ่ื ปรบั คา่ ของความตา้ นทานให้มีขนาดเล็กลงหรือใหญ่ขน้ึ ตามความยาวนน้ั ในกรณีทตี่ อ้ งการปรับค่าความตา้ นทานอยา่ งต่อเนอ่ื งระหวา่ งการทางานของอปุ กรณ์ จดุ แยกความต้านทานท่ีเลอ่ื นได้สามารถเชื่อมต่อกับลูกบิดที่ผ้ใู ชส้ ามารถเข้าถึงได้ อปุ กรณ์ดังกลา่ วเรยี กว่ารีโอสตทั (rheostat) มีสองข้ัวไฟฟา้ (ขา) อปุ กรณพ์ เิ ศษ มอี ุปกรณ์ตา่ งๆทีม่ คี วามต้านทานเปล่ยี นแปลงค่าได้หลายค่า ความต้านทานของเทอร์มิสเตอร์ NTC แสดงค่าสัมประสทิ ธิอ์ ณุ หภูมิเชงิ ลบที่แขง็ แกรง่ ทาใหม้ ันมปี ระโยชน์สาหรับการวดั อุณหภมู ิ เนือ่ งจาก ความต้านทานของมันสามารถมขี นาดใหญ่จนกระท่งั มนั จะถูกทาให้ร้อนขึ้นเมอ่ื มกี ระแสไหลผ่าน มนั ยังถกูใชเ้ พ่ือป้องกันไม่ใหเ้ กดิ กระแสกระชากมากเกินไป
เมื่ออุปกรณ์ถูกเปดิ ใช้งาน ในทานองเดียวกนั ความตา้ นทานของhumistor จะแปรตามความช้นื ความตา้ นทานของวารสิ เตอร์โลหะออกไซดจ์ ะลดลงมากเมอื่ ไดร้ บั แรงดนั สูง ทาใหม้ นั มปี ระโยชน์สาหรับปกปอ้ งอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสโ์ ดยการดูดซับอันตรายจากไฟกระชาก photodetector ประเภทหนงึ่ คือ photoresistor มีความต้านทานที่เปลยี่ นแปลงตามแสงสว่าง เครอ่ื งวดั แรงตึง(stain gauge)ประดิษฐ์คดิ ค้นโดย เอด็เวิรด์ อี ซมิ มอนส์ และ อาเธอร์ ซี รูจ ใน ปี 1938 เปน็ ชนดิหน่ึงของตัวตา้ นทานท่เี ปลี่ยนแปลงค่าตามแรงตึงท่ใี ช้ ตวั ต้านทานอาจถูกใช้เปน็ ตัวเด่ยี วหรอื เป็นคู่ (half bridge) หรอื สต่ี วัต้านทานเชือ่ มต่อแบบ Wheatstone bridge ตัวต้านทานความตงึ ถกู ผกู มดั ดว้ ยกาวกับวัตถุทีจ่ ะถกู ทาใหต้ ึงเชิงกล ด้วย สเตรนเกจและตวั กรอง ตัวขยายสัญญาณและตวั แปลงอะนาลอ็ ก/ดิจิตอลความตึงบนวตั ถุจึงสามารถวดั ได้ เทอร์มสิ เตอร์ (thermistor) เปน็ ตวั ต้านทานท่มี คี า่ความต้านทานเปลย่ี นแปลงตามระดับอุณหภูมิ แบง่ เป็นสองประเภท คือ
➢ ตัวตา้ นทานทม่ี ีคา่ สัมประสทิ ธขิ์ องความตา้ นทานตอ่ อุณหภูมิ เปน็ ลบ (NTC - Negative Temperature Coefficient) เมอื่ อณุ หภูมิสูงขึ้น ค่าความตา้ นทานมคี ่า ลดลง ปกติใช้เปน็ อุปกรณ์ตรวจวดั อุณหภูมิ➢ ตวั ตา้ นทานทีม่ ีค่าสมั ประสิทธข์ิ องความต้านทานต่ออุณหภูมิ เปน็ บวก (PTC - Positive Temperature Coefficient) เมื่ออณุ หภูมสิ ูงขนึ้ คา่ ความตา้ นทานมีคา่ สงู ขน้ึ ตาม มีพบใช้ในวงจรเครือ่ งรับโทรทัศน์ โดยต่ออนุกรม กับ ขดลวดลบสนามแม่เหลก็ (demagnetizing coil) เพอื่ ป้อนกระแสในชว่ งเวลาสัน้ ๆ ให้กบั ขดลวดในขณะเปดิ โทรทศั น์ นอกจากนั้นแล้ว ตัวตา้ นทานประเภทนี้ยังมีการ ออกแบบเฉพาะเพอื่ ใชเ้ ป็น ฟวิ ส์ (fuse) ท่ีสามารถซ่อมแซม ตัวเองได้ เรียกว่า โพลีสวิตช์ (polyswitch)
รูปภาพ ฉ. กลอ่ งทศวรรษตัวต้านทาน กล่องทศวรรษตวั ต้านทานหรอื กล่องสารองตวั ตา้ นทานเป็นหนว่ ยทม่ี ีความต้านทานหลายคา่ และ สวทิ ช์กลหนึง่ ตัวหรือมากกว่าทช่ี ว่ ยใหต้ วั ต้านทานเดี่ยวตวั ใดตัวหนง่ึ ท่อี ยู่ในกล่องสามารถถกู เลือกไปใชไ้ ด้ ปกติ ความตา้ นทานมกั มคี วามถูกต้องแม่นยาสงู ตงั้ แตเ่ กรดห้องปฏิบัติการ การสอบเทียบทแี่ มน่ ยาถึง20 สว่ นต่อลา้ นส่วน, จนถึงเกรดสนามท่ี 1% นอกจากนี้ กลอ่ งราคาถกู กับความถูกต้องน้อยกวา่ ยังมใี หใ้ ช้อกี ดว้ ย ทุกชนิดจะใหว้ ิธีทส่ี ะดวกในการเลือกและการเปลย่ี นแปลงของความตา้ นทานอย่างรวดเรว็ ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร, ห้องทดลองงานและงานพัฒนาโดยไม่ตอ้ งตอ่ ตัวต้านทานทลี ะตวั หรือแม้กระท่งั เกบ็ ในคลงั ทุกๆคา่ ชว่ งของความต้านทานที่จดั ให้, ความละเอียดสูงสดุ และความถกู ตอ้ งจะเป็นตัวบอกคณุ ลักษณะของกลอ่ ง ตัวอย่างเช่น กล่อง หน่ึงมีความตา้ นทาน 0-24 megaohms, ความละเอียดสงู สุด 0.1 โอหม์ ,ความถูกต้อง 0.1%
ตัวอย่างตัวตา้ นทาน ตวั ต้านทานแบบ 4 แถบสี รปู ภาพ ช ตวั ตา้ นทานแบบมี 4 แถบสนี ้นั เปน็ แบบทนี่ ยิ มใช้มากท่สี ุด โดยจะมีแถบสรี ะบายเปน็ เสน้ 4 เส้นรอบตวั ต้านทาน โดยคา่ ตวั เลขของ 2 แถบแรกจะเปน็ ค่าสองหลกั แรกของความตา้ นทาน แถบที่ 3 เปน็ ตวั คูณ และ แถบที่ 4 เป็นค่าขอบเขตความเบย่ี งเบน ซ่งึ มคี า่ เปน็ 5%, 10%, หรือ 20%
ตวั ต้านทานแบบ 5 แถบสี รูปภาพ ซ. ตัวตา้ นทานแบบ 5 แถบสนี ัน้ ปกติใช้สาหรบั ตวัตา้ นทานท่ีมีความแม่นยาสูง (โดยมคี ่าขอบเขตของความเบยี่ งเบน1%, 0.5%, 0.25%, 0.1%) แถบสี 3 แถบแรกนน้ั ใช้ระบคุ า่ความตา้ นทาน แถบท่ี 4 ใชร้ ะบุคา่ ตวั คณู และ แถบที่ 5 ใช้ระบขุ อบเขตของความเบี่ยงเบน สว่ นตัวต้านทานแบบ 5 แถบสีที่มีความแมน่ ยาปกติ มีพบไดใ้ นตัวตา้ นทานรนุ่ เกา่ หรอื ตวัตา้ นทานแบบพิเศษ ซึง่ คา่ ขอบเขตของความเบ่ียงเบน จะอยูใ่ นตาแหน่งปกติคอื แถบท่ี 4 ส่วนแถบที่ 5 นน้ั ใชบ้ อกคา่สัมประสิทธข์ิ องอณุ หภมู ิ
สขี องตวั ตา้ นทาน รูปภาพ ฌ.
วธิ หี าค่าตวั ตา้ นทาน รปู ภาพ ญ.หาคา่ ตวั Rเรม่ิ จากการอ่านซา้ ยสดุ จะได้ว่าหลักที่ 1 สีแดง 2หลกั ที่ 2 สีมว่ ง 7หลักท่ี 3 สเี หลือง 10000หลกั ที่ 4 สีทอง 5%R=(หลกั ท่ี 1 รวมกับ หลกั ท่ี 2) x หลกั ท่ี3 = (27)x10,000สามารถตอบได้ 2 วธิ ีคอื = 270,000 Ω หรือ 270000 ÷1000=270KΩข้นึ อยู่กับวา่ โจทย์ถาม เปน็ Ω หรอื KΩ
ค่าความคลาดเคลอื่ น ตัวต้านทานมาตรฐานท่ีผลติ มคี ่าตั้งแต่มิลลิโอหม์จนถงึ จิกะโอหม์ ซง่ึ ในช่วงน้ี จะมีเพยี งบางค่าทเ่ี รียกวา่ คา่ ท่พี งึประสงค์ เท่านน้ั ที่ถูกผลิต และตัวทรานซสิ เตอรท์ ี่เป็นอุปกรณ์แยกในท้องตลาดเหลา่ นน้ี ้นั ในทางปฏบิ ตั ิแลว้ ไมไ่ ด้มีคา่ ตามอดุ มคติดังน้นั จงึ มกี ารระบุของเขตของการเบย่ี งเบนจากค่าทร่ี ะบุไว้ โดยการใชแ้ ถบสแี ถบสุดทา้ ย: เงิน 10% ทอง 5% แดง 2% นา้ ตาล 1% นอกจากนแ้ี ล้ว ตวั ต้านทานท่ีมีความแม่นยามากกว่าปกติก็มขี ายในทอ้ งตลาดตัวอยา่ งการหาคา่ ความคลาดเคลอ่ื นถา้ ต้องการหาค่าความคลาดเคลื่อนใหน้ ามา บวก หรอื ลบ 5% คอื270,000+5%= 283500270,000-5%= 256500
สรปุ ตัวต้านทาน หรอื รซี ิสเตอร์ (resistor) เปน็อุปกรณไ์ ฟฟ้าชนิดหน่งึ ทีม่ ีคุณสมบัตใิ นการตา้ นการไหลผ่านของกระแสไฟฟ้า ทาด้วยลวดต้านทานหรือถ่านคาร์บอน เปน็ต้นน่ันคอื ถ้าอุปกรณ์น้ันมคี วามตา้ นทานมาก กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผา่ นจะนอ้ ยลง คา่ ความตา้ นทานทางไฟฟ้า หรอื ค่าความตา้ นทานของตวั นามหี นว่ ยเปน็ โอหม์ ( Ω ) โอหม์ (Ω) เปน็ หนว่ ย SI ของความตา้ นทานไฟฟ้าตง้ั ชือ่ ตาม จอร์จ ไซมอนโอห์ม หนึง่ โอหม์ เทยี บเทา่ กับหนง่ึ โวลต์ตอ่ หน่ึงแอมแปร์ เน่ืองจากตัวตา้ นทานถูกระบุคา่ และถกู ผลิตในจานวนท่เี ยอะมาก ตวั ต้านทานมี 2 ประเภทคือ ตวั ต้านทานค่าคงท่ีและตวั ต้านทานปรับคา่ ได้
แบบฝึกหดั1. ตวั ตา้ นทาน (resistor) หมายถงึ อะไรตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. โอหม์ (Ω) หมายถึงอะไร จงอธิบายตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. กฎของโอห์ม (Ω) หมายถึงอะไรจงอธิบายตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. คา่ ความคลาดเคลื่อน หมายถึงอะไรตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ใหห้ าค่าตัวต้านทานตามสตี ่อไปน้ีหลักท1ี่ สแี ดง หลักที่2 สีมว่ ง หลักท่ี3 สีเหลอื ง หลักท4่ี สที อง วา่ มีกี่ KΩตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. ให้นาคา่ ตอบที่ไดจ้ ากข้อ 5 มาหาค่าความคลาดเคลอ่ื นให้หน่วยเปน็ KΩตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ใหห้ าค่าตัวตา้ นทานตามสีตอ่ ไปนี้หลักท1่ี สีนา้ ตาล หลักท่ี2สีดา หลักท3่ี สีเหลือง หลกั ท4่ี สที อง ว่ามกี ่ี Ωตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. ใหน้ าคา่ ตอบทีไ่ ดจ้ ากข้อ 7 มาหาค่าความคลาดเคล่อื นให้หนว่ ยเปน็ Ωตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9. ใหห้ าค่าตวั ตา้ นทานตามสีต่อไปนี้หลักท่ี1 สีแดง หลกั ท่ี2 สีดา หลกั ท่ี3 สสี ม้ หลักที่4 สีทอง วา่ มีกี่ KΩตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
10. ใหน้ าคา่ ตอบทไี่ ดจ้ ากข้อ 9 มาหาคา่ ความคลาดเคลื่อนให้หนว่ ยเป็น KΩตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ที่มาของข้อมลู- วกิ ิพีเดยี . ตวั ต้านทาน(online). https://th.wikipedia.org/wiki/ตวั ต้านทาน ที่มาของภาพ - รปู ภาพตวั ตา้ นทานรปู หนา้ ปก (online). http://commandronestore.com/products/br103.ph p 29 ธนั วาคม 2561 - รปู ภาพ ก. https://th.wikipedia.org/wiki/ตัวตา้ นทาน - รปู ภาพ ข. https://th.wikipedia.org/wiki/ตวั ต้านทาน - รปู ภาพ ค. http://www.psptech.co.th/ตวั ต้านทาน risistorคอื อะไร-14842.page - รูปภาพ ง http://www.psptech.co.th/ตัวต้านทาน risistorคืออะไร-14842.page - รปู ภาพ จ. http://www.hs8jyx.com/html/r_read.html - รูปภาพ ฉ. https://th.wikipedia.org/wiki/ตัวตา้ นทาน - รูปภาพ ช. http://ansbox.tarad.com/webboard-th- 17679-1152573-จะส่งั +ซื้อ+ts808+คบั .html
- รูปภาพ ซ. https://www.joom.com/ru/products/1510152078 150090012-2-1-709-665621811- รูปภาพ ฌ. https://perspactiveroom.wordpress.com/2016/11 /18- รปู ภาพ ญ. https://www.gravitechthai.com/guru2.php?p=24 4
นายยทุ ธภูมิ ชมภูเครอืรหัสนกั ศึกษา 60181700120 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์ คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: