แบบทดสอบก่อนเรยี น 1.กรณีการขายสนิ ค้าทว่ั ไป ความรับผิดเกดิ ขนึ้ เม่ือใด ก.เม่ือครบชำระ ข.เมื่อสง่ มอบสินค้า ค.เมื่อโอนกรรมสทิ ธ์สิ นิ คา้ ง.เมื่อถึงกำหนดชำระราคาแต่ละงวด จ.เมอื่ ตัวแทนไดส้ ่งมอบสินค้าใหแ้ ก่ผ้ซู ้ือแล้ว 2. กรณขี ายสนิ ค้าตามสัญญาให้เช่าซ้อื ความรับผิดเกิดขน้ึ เม่ือใด ก.เม่ือถึงกำหนดชำระราคาแต่ละงวด ข.เมอื่ ออกใบกำกับภาษี ค.เมือ่ โอนกรรมสิทธิ์สินค้า ง.เมือ่ มีการตัง้ ตัวแทนเพื่อขาย จ.เม่อื ถึงกำหนดชำระราคาแต่ละงวด 3.ขายเสร็จเดด็ ขาด, สัญญาจะขาย หลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบคืออะไร ก.เม่อื มกี ารผา่ นพิธีการทางศุลกากร ข.เม่อื นำเงนิ ออกจากเคร่ืองอัตโนมัติ ค.เมื่อเลิกกจิ การหรอื เมื่อขอถอนหรอื ถูกเพกิ ถอนทะเบียน แล้วแต่กรณี ง.เม่อื มีการสง่ มอบสนิ คา้ เว้นแต่ไดโ้ อนกรรมสทิ ธ์ิ รับชำระราคา ออกใบกำกับภาษี จ.เม่ือรับชำระราคา เว้นแตม่ ีการออกใบกำกับภาษีก่อนรบั ชำระราคา 4.Tax Point หมายถึงอะไร ก.วันทผ่ี ปู้ ระกอบการมีภาระภาษแี ล้ว ข.ชว่ งเวลาทไี่ ดร้ บั ชำระภาษี ค.เมือ่ ออกใบกำกบั ภาษี ง.การฝากขายทเ่ี ปน็ ไปตามเง่ือนไข จ.จุดทผี่ ปู้ ระกอบการถูกกำหนดโดยกฎหมาย
5.การสง่ ออกซึง่ สินค้าอยู่ในคลงั สนิ ค้าทณั ฑบ์ น ตามกฎหมายศุลกากร ความรับผิดเกิดข้ึน เมอ่ื ใด ก.เม่ือนำสินค้าออกจากคลงั สินคา้ ข.เม่ือนำสินคา้ เข้าไปในคลงั สินคา้ ค.เม่ือวันท่ีนำสินค้าในคลังสนิ ค้าเขา้ ไปเกบ็ ง.เม่ือชำระอากรขาออกวางหลักประกันอากรขาออก จ.เมอื่ นำเงินออกจากคลงั สินค้า 6.สตู รการคำนวณภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ทีต่ ้องชำระคือ ก.ภาษขี าย – ภาษีซ้ือ ข.ภาษีขาย + ภาษีซ้ือ ค.ภาษีขาย - อัตราภาษี ง.เงินได้สุทธิ + อัตราภาษี จ.เงนิ ได้ – คา่ ใชจ้ ่าย – ค่าลดหยอ่ น 7.การนำสินค้าเข้าทุกกรณีหลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบคืออะไร ก.เมอ่ื ชำระคา่ บริการ ข.เมอ่ื ตรวจพบ ค.เมื่อผา่ นพธิ ีการทางศลุ กากร ง.เมอ่ื โอนกรรมสิทธสิ์ ินคา้ จ.เม่อื ตวั แทนสง่ มอบสินคา้ ให้แกล่ ูกค้า 8. การใหบ้ รกิ ารโดยไม่มคี ่าตอบแทนหลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบคอื อะไร ก.เม่อื ชำระราคาค่าบริการ ข.เมื่อผ่านพิธีการทางศุลกากร ค.เมือ่ มีการออกหลกั ฐานการใชบ้ ตั รเครดติ ง.เมื่อมีการใช้บรกิ ารไมว่ ่าโดยตนเองหรอื บุคคลอน่ื เวน้ แต่มีการออกใบกำกบั ภาษีก่อนใช้ จ.เม่ือรับชำระราคา เว้นแต่มีการออกใบกากบั ภาษกี ่อนรับชำระราคา 9.การคำนวณภาษีมูลค่าเพิม่ หากภาษีขาย > ภาษีซ้ือหมายถงึ อะไร ก.ภาษีมูลค่าเพม่ิ ที่มสี ทิ ธไิ ดร้ บั คืน ข.ภาษมี ลู คา่ เพิม่ ทีต่ ้องชำระ ค.ภาษที ่ีมีสิทธิขอคนื ส่วนตา่ งเปน็ เงนิ สด ง.ภาษที ีม่ ีสทิ ธิขอเครดิตภาษีในเดือนถัดไป จ.จำนวนภาษที ี่ตอ้ งนำส่งหรือขอคืน
10.หลักเกณฑก์ ารออกใบกำกับภาษมี อี ะไรบา้ ง ก.การขายสนิ ค้า การซื้อสินค้า การให้บรกิ าร ข.การขายสนิ คา้ การซ้ือสนิ ค้า การนำเข้า ค.การซอ้ื สนิ คา้ การให้บริการ การนำเขา้ ง.การซ้ือสนิ คา้ การเช่าซ้ือ การให้บรกิ าร จ.การขายสนิ คา้ การให้บรกิ าร การขำเขา้ ความรบั ผิดในการเสียภาษมี ลู ค่าเพิ่ม (Tax Point) ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ช่วงเวลา / จุด / วันที่ผู้ประกอบการมีภาระภาษีที่จะต้อง ชำระเกิดขนึ้ แล้ว Tax Point คอื จุดที่ผูป้ ระกอบการถูกกำหนดโดยกฎหมาย ว่ามีภาระภาษีเกดิ ข้ึนแล้ว 1. การขายสนิ คา้ (มาตรา 78) 1.1 กรณีการขายสินค้าทั่วไป ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้าเว้นแต่มีการกระทำต่อไปนี้เกิด ก่อนการส่งมอบสินค้าใหถ้ ือว่าเกดิ ความรับผิดขึ้น เม่ือไดม้ ีการกระทำนัน้ ๆ คอื 1. โอนกรรมสทิ ธสิ์ ินค้า 2. ไดร้ บั ชำระราคาสนิ ค้า 3. ออกใบกำกับภาษี หากเกิดขึ้นก่อนส่งมอบสินค้า ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นแล้วทั้งน้ี ใหค้ วามรับผิดชอบเกิดขนึ้ ตามสว่ นของการกระทำนนั้ ๆ แลว้ แตก่ รณี ตัวอยา่ ง บริษทั สทิ ธย์ิ นต์ จำกดั ขายรถยนตใ์ ห้นายดำความรับผิดในการเสียภาษีของบริษัทเกิดข้ึนเม่ือมีการส่ง มอบรถยนต์ให้แก่นายดำ แต่ถ้าการส่งมอบรถได้โอนกรรมสิทธิ์ให้นายดำ หรือได้รับการชำระเงินค่ารถแล้ว หรอื ได้ออกใบกำกับให้แล้วใหถ้ ือวา่ เกดิ ความรบั ผดิ เม่อื มีการกระทำน้นั ๆ 1.2 กรณีขายสินค้าตามสัญญาให้เช่าซื้อหรือซื้อขายผ่อนชำระ ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนด ชำระราคาแตล่ ะงวดเว้นแต่ 1. ได้รับชำระราคาสินค้า 2. ออกใบกำกับภาษีเกิดขึ้นก่อนถึงกำหนดชำระ ราคาแต่ละงวด ให้ถือว่าความรับผิด เกิดข้ึนแลว้ ตัวอย่าง บริษัท ก จำกัดได้ทำสัญญาเช่ารถแก่นายดำ ในราคา 200,000 บาท ตกลงราคา 10 งวดละ 20,000 บาท ดงั น้นั ความรับผิดในการเสียภาษเี กิดเมื่อมีการกำหนดชำระค่างวด แต่ถ้านายดำชำระไปแลว้ 6 งวดแต่ไม่ ต้องการผ่อนอีกจึงนำเงินไปให้ 3 งวด และบริษัทได้ออกใบกำกับให้โดยยังชำระเงนิ ไมค่ รบตามสัญญาให้ถือว่า ความรับผดิ เกิดขน้ึ แลว้
1.3 กรณกี ารขายสินค้าโดยมีการตั้งตัวแทนเพื่อขายและไดส้ ่งมอบสนิ ค้าให้ตัวแทนแล้ว ความรับผิด เกดิ ข้นึ เมื่อตวั แทนได้สง่ มอบสนิ ค้าให้แก่ผู้ซ้ือแล้ว เวน้ แตม่ กี ารกระทำดังต่อไปน้ีเกิดขึ้นก่อน ก็ให้ถือว่า ความรับผิดเกดิ ขึ้นทนั ที ตามสว่ นของการกระทำนั้น ๆ นัน่ คือ 1. ตัวแทนได้โอนกรรมสิทธส์ิ ินค้าใหแ้ ก่ผซู้ อ้ื 2. ตัวแทนได้รับชำระราคาสินคา้ 3. ตัวแทนไดอ้ อกใบกำกบั ภาษี 4. ไดม้ ีการนำสนิ คา้ ไปใชไ้ มว่ า่ โดยตวั แทนหรือบุคคลอนื่ ตัวอย่าง โรงงานผลิตตู้เย็นทำสัญญาให้ห้างสรรพสินค้าเป็นตัวแทนจำหน่าย เมื่อโรงงานส่งมอบตู้เย็นให้ ห้างสรรพสินค้าเพื่อขาย ความรับผิดชอบในการเสียภาษีของโรงงานยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าห้างสรรพสินค้าจะได้ ขายตู้เย็นใหผ้ ู้ซือ้ และมอบตู้เย็นให้แก่ผูซ้ ื้อแล้ว ความรับผิดในการเสียภาษีของโรงงานจงึ จะเกดิ ขึ้นเว้นแต่ก่อน สง่ มอบตเู้ ย็นหรือได้รับชำระค่างวดตู้เย็นหรือได้ออกใบกำกับภาษี หรือได้มีการนำเอาตู้เย็นไปใช้ไม่ว่าบุคคลใด ใหถ้ ือวา่ ความรับผดิ ชอบในการเสียภาษเี กิดขึน้ แล้ว หมายเหตุ ตัวแทนที่ขายสินค้าดังกล่าวนั้นต้องเป็นตัวแทนที่มีสัญญาตั้งตัวแทนเพื่อขายตามประเภท สนิ คา้ ท้ังต้องเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขท่ีอธบิ ดกี รมสรรพกรกำหนด 1.4 กรณีการขายสนิ ค้าโดยการสง่ ออก ความรับผิดเกดิ ข้ึนตามแต่ละเหตกุ ารณด์ งั นี้ 1. การส่งออกโดยทั่วไป เกิดขึ้นเมื่อชำระอากรขาออกวางหลักประกันอากรขาออก หรือจัด ให้มีผู้ค้าประกันขาออก เว้นแต่กรณีไม่ต้องเสียอากรขาออกให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อออกใบขนสินค้าขา ออกตามกฎหมายศลุ กากร 2. การสง่ ออกในกรณีนำสินค้าเข้าไปในเขตอตุ สาหกรรมส่งออก เฉพาะสนิ ค้าท่ีต้องเสียอากร ขาออกหรือได้รับยกเว้นอากรขาออก ความรับผิดเกิดขึ้นในวันที่นำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขต อตุ สาหกรรมสง่ ออก 3. การส่งออก ซึ่งสินค้าอยู่ในคลังสินค้าทัณฑ์บน ตามกฎหมายศุลกากร ความรับผิดเกิดขึ้น เมอ่ื นำสนิ ค้าออกจากคลงั สนิ คา้ 1.5 กรณีการขายสินค้าที่ได้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ในกรณีขายให้สถานทูต สถาน กงสุล หรือองค์การสหประชาชาติ และภายหลังได้มีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้าแล้วทำให้ผู้รับโอนสินค้ามีหน้าที่ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม(โอนให้ผู้มิใช่องค์การสหประชาชาติสถานทูต) เกิดขึ้นเมื่อโอนกรรมสิทธิ์สินค้ามาตรา 82/1 (2) ตวั อยา่ ง บริษทั ก.ไก่ จำกดั ขายรถยนตใ์ ห้แก่สถานทตู พม่าเสยี ภาษีมลู ค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 0 ต่อมาสถานทูต ขายตอ่ ใหน้ ายขาว นายขาวผ้รู ับโอนเป็นผมู้ ีหน้าทเี่ สยี ภาษมี ลู คา่ เพ่ิม ความรับผิดในการเสียภาษีเกดิ ขึ้นเม่ือโอน กรรมสิทธ์ิรถยนต์
2. การใหบ้ ริการ (มาตรา 78/1) 2.1 การให้บริการทั่วไป เกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ เว้นแต่ได้มีการออกใบกำกับภาษีให้แก่ ลูกคา้ หรอื ไดใ้ ชบ้ รกิ าร ก่อนไดร้ บั ชำระคา่ บริการ กใ็ ห้ถอื ว่าเกดิ ขนึ้ แล้วตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ ตัวอย่าง นายสนเปิดบริการซ่อมรถยนต์ ความรับผิดในการเสียภาษีเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าได้ชำระ ค่าบริการซ่อม รถยนต์ เว้นแต่ก่อนได้รับชำระค่าซ่อมรถยนต์นายสนได้ออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า จึงถือว่าความรับผิดในการ เสียภาษีเกิดขน้ึ แลว้ 2.2 การให้บริการตามสัญญาที่กำหนดค่าตอบแทนตามส่วนของบริการทีท่ ำ เกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระ ราคาคา่ บริการตามส่วนบริการทีส่ ิน้ สดุ ลง เว้นแต่กอ่ นได้รับชำระค่าบริการได้มีการออกใบกำกับภาษีหรือได้ใช้ บริการ กใ็ หถ้ อื ว่าเกิดขึน้ แล้วตามส่วนของการกระทำนน้ั ๆ ตัวอย่าง บริษัทรบั เหมาสร้างบ้านทำสัญญาตกลงแบ่งสว่ นการชำระราคาตามสว่ นของงานท่ที ำออกเปน็ 3 งวด งวดที่ 1 เมื่อตอกเสาเข็ม ทำคาน ทำเสาเสร็จ งวดที่ 2 เมื่อทำผนัง ทำหลังคา ทำพื้นเสร็จ งวดที่ 3 เมื่อเดิน ไฟฟ้า น้ำประปา ทาสี และเก็บงานให้เรียบร้อย ความรับผิดในการเสียภาษีของบริษัทเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระ ราคาค่าก่อสร้างของแต่ละงวดเว้นแต่ก่อนการรับชำระราคาดังกล่าว บริษัทได้ออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ว่าจ้าง ถอื ว่าความรับผิดในการเสยี ภาษีไดเ้ กิดขึน้ แล้ว 2.3 การให้บริการที่ทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร เกิดขึ้นเมื่อมีการ ชำระราคาคา่ บริการท้ังหมดหรอื บางส่วนแล้วแตก่ รณี ตวั อย่าง บรษิ ัท ก. กอ่ สร้าง จำกัด ว่าจ้างให้บริษทั ในประเทศญี่ปุ่นออกแบบสรา้ งโรงงานในประเทศไทย ความ รับผิดในการเสียภาษีเกิดขึ้นเมื่อบริษัท ก. ก่อสร้าง จำกัด ชำระค่าออกแบบให้แก่บริษัทในประเทศญี่ปุ่นโดย บรษิ ัท ก. ก่อสรา้ ง จำกดั มีหน้าทนี่ ำสง่ เงินภาษมี ลู คา่ เพมิ่ 2.4 การใหบ้ รกิ ารท่ีเสียภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(5) และภายหลังได้มีการ โอนกรรมสิทธิ์ในการบริการอันทำให้ผู้รับโอนมีหน้าที่ต้องเสียภาษมี ูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/1(2) ความรับผดิ เกดิ ข้นึ เม่ือไดร้ ับชำระคา่ บริการ ตวั อย่าง สถานทตู ญ่ปี ุ่นได้สทิ ธกิ ารเชา่ โทรศพั ท์ โดยเสยี ภาษมี ูลคา่ เพิม่ ในอตั รา 0% ต่อมาสถานทตู ญีป่ ุ่นได้โอน สิทธิการเช่าโทรศัพท์ไปให้นายทอง ทำให้นายทองมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ความรับผิดในการเสียภาษี ขององค์การโทรศัพท์เกิดขน้ึ เมือ่ ได้รับชำระราคาค่าบริการจากนายทอง 3. การนำเข้า (มาตรา 78/2) 3.1 การนำเข้าทั่วไป เกิดขึ้นเมื่อชำระอากรขาเข้า วางหลักประกันอากรขาเข้าหรือจัดให้มีผู้ค้า ประกันอากรขาเขา้ เว้นแต่กรณีไมต่ อ้ งเสียอากรขาเขา้ หรอื ยกเว้นอากรขาเขา้ 3.2 นำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมส่งออก แล้วนำสินค้าออกจากเขต อุตสาหกรรมส่งออก (เข้ามาในประเทศ) โดยมิใช่เพื่อการส่งออก (ไปต่างประเทศ) เกิดขึ้นในวันที่นำสินค้าน้ัน ออกจากเขตอุตสาหกรรมโดยมใิ ช่เพื่อสง่ ออก
3.3 การนำเข้ากรณีตกค้างตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร เกิดขึ้นเมื่อทางการได้ขายทอดตลาดหรือ ขายโดยวิธีอื่น เพื่อนำเงินมาชำระค่าภาษี ค่าเก็บรักษา ค่าย้ายขน หรือค่าภาระติดพันตามวิธีที่กำหนดใน กฎหมายว่าด้วยศุลกากร 3.4 การนำเข้าสินค้าที่จำแนกประเภทไว้ในภาคที่ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าดว้ ย พิกัดอัตราศลุ กากร เกดิ ขึ้นพร้อมกบั ความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยพกิ ัดอตั ราศลุ กากร หลกั เกณฑก์ ารออกใบกำกับภาษี 1.การขายสนิ คา้ รายการกิจกรรมภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักการเกี่ยวกับความรับผิดชอบ(TAX POINT) ขายเสร็จเดด็ ขาด, สญั ญาจะขาย เมื่อมีการสง่ มอบสนิ ค้า เว้นแตไ่ ดโ้ อนกรรมสิทธิ์ /รบั ชำระ ราคา / ออกใบกำกับภาษี เชา่ ซื้อ/ขายผ่อนชำระท่ีกรรมสิทธยิ์ ังไมโ่ อนไปยงั ตามงวดทถี่ ึงกำหนดชำระ เวน้ แต่ไดร้ บั ชำระราคา /ออก ผซู้ ือ้ ใบกำกบั ภาษกี ่อนถึงกำหนดชำระราคาแตล่ ะงวด การฝากขายที่เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งประกาศ เมื่อตวั แทนส่งมอบสนิ คา้ ให้แกล่ ูกคา้ เวน้ แต่ อธบิ ดฯี (ฉบบั ที่ 8) - ตวั แทนโอนกรรมสทิ ธิ์ / รับชาระราคา / ออกใบกำกบั ภาษกี อ่ นส่งมอบสินค้าใหล้ ูกค้า - ตัวแทนนำสินค้าไปใช้ การสง่ ออก เม่ือมีการผ่านพธิ ีการทางศลุ กากร การขายกระแสไฟฟา้ น้ำประปา หรือสินค้าที่ไมม่ ี เม่อื รับชำระราคา เว้นแต่มีการออกใบกำกบั ภาษีก่อนรบั รปู ร่าง ชำระราคา การขายสนิ ค้าด้วยเครื่องอัตโนมตั ิ เมอ่ื นำเงินออกจากเครื่องอัตโนมัติ กรณีจำหนา่ ย จ่าย โอนสินคา้ โดยไมค่ ่าตอบแทน เมื่อสง่ มอบสินคา้ เวน้ แต่มกี ารโอนกรรมสิทธก์ิ ่อนสง่ มอบ สินคา้ กรณีนำสินค้าไปใชใ้ นกิจการอื่น เมือ่ นำไปใช้ กรณีมีสินค้า/ทรพั ย์สนิ ในวนั เลกิ กิจการหรือขอ เม่ือเลิกกจิ การหรือเมื่อขอถอนหรอื ถูกเพิกถอนทะเบยี น ถอนหรอื ถกู เพิกถอนทะเบียน แลว้ แตก่ รณี กรณสี นิ คา้ ขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ เมื่อตรวจพบ กรณีรบั โอนกรรมสิทธิส์ ินค้าท่ีเคยเสีย VAT อัตรา เมอื่ โอนกรรมสทิ ธ์สิ นิ คา้ 0%
2.การให้บริการ รายการกิจกรรมภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักการเกี่ยวกับความรับผิดชอบ(TAX POINT) การใหบ้ ริการโดยมีคา่ ตอบแทน เม่ือรบั ชำระราคา เวน้ แต่มีการออกใบกากับภาษีก่อนรับชำระ ราคา การใหบ้ ริการโดยไมม่ ีคา่ ตอบแทน เม่อื มีการใชบ้ ริการไม่วา่ โดยตนเองหรือบุคคลอืน่ เวน้ แตม่ ีการ ออกใบกำกับภาษีก่อนใช้ การให้บริการทกี่ ระทำในต่างประเทศ และใช้ เม่ือชำระราคาค่าบริการ (ผูจ้ า่ ยเงินต้องนาสง่ VAT 7% โดย บรกิ ารนนั้ ในประเทศไทย ยน่ื แบบ ภ.พ. 36 ตามมาตรา 83/6 (2)) การใหบ้ รกิ ารดว้ ยเครือ่ งอตั โนมัติ เมือ่ นำเงินออกจากเครื่อง(กรณีการ์ดโฟน ถือว่าชำระ ราคาก่อนให้บริการ) การรับชำระค่าบริการดว้ ยบตั รเครดติ เม่อื มีการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดติ กรณีรบั โอนสทิ ธใิ นบริการที่เคยเสยี VAT อัตรา เม่อื ชำระค่าบรกิ าร 0% 3.การนำเขา้ หลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบ(TAX POINT) รายการกิจกรรมภาษีมูลค่าเพิ่ม เมือ่ ผ่านพธิ ีการทางศลุ กากร เมื่อได้ขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีการอื่น การนำสินค้าเข้าทุกกรณี เ กิ ด ขึ้ น พ ร้ อ ม กั บ ค ว า ม รั บ ผิ ด ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด้ ว ย พิ กั ด การขายของตกค้าง (โดยกรมศุลกากร) อัตราศุลกากร กรณีผิดเง่ือนไขเกี่ยวกับสินค้านำเข้าท่ี จำแนกประเภทไว้ในภาคว่าด้วยของที่ ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า การคำนวณภาษมี ูลค่าเพม่ิ ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่ิม มหี น้าท่ตี อ้ งคำนวณภาษีมูลคา่ เพิ่มท่ีจะต้องชำระหรือมีสิทธิ ได้รบั คนื เปน็ รายเดือนๆ ละหนง่ึ ครั้งตามเดือนปฏทิ ิน วิธคี ำนวณภาษมี ลู ค่าเพิม่ แบ่งเป็น 2 กรณี ดังน้ี 1.กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนทั่วไป (เสียภาษีอัตราร้อยละ 7)ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 พร้อมกับ ชำระภาษี (ถ้ามี) เป็นรายเดือนภาษีทกุ เดือน ไม่ว่าจะได้ขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในเดือนภาษีนั้นหรือไม่ก็ตาม การคำนวณภาษีท่ีต้องชำระในแตล่ ะเดอื น ดงั นี้ ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ท่ีต้องชำระ = ภาษขี าย – ภาษซี ้อื หากภาษีขาย>ภาษซี อื้ = ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ท่ตี อ้ งชำระ หากภาษขี าย <ภาษซี ือ้ = ภาษีทม่ี สี ิทธขิ อคืนส่วนตา่ งเปน็ เงนิ สดหรือขอเครดิตภาษใี นเดือนถัดไป
ตวั อย่างที่ 1 บรษิ ัท รงุ้ ฟา้ จำกัด มียอดขายสนิ ค้าประจำเดือน มิถุนายน 25x1 ดงั นี้ ยอดซ้อื สนิ ค้า เปน็ จำนวน 120,000 บาท ขายสินค้า เปน็ เงนิ จำนวน 250,000 บาท อัตราภาษมี ูลคา่ เพมิ่ 7% ให้ทำ 1.คำนวณภาษขี าย 2.คำนวณภาษีซ้อื 3.คำนวณจำนวนเงนิ ภาษีท่ีต้องนำสง่ หรือขอคืน วธิ คี ำนวณ ภาษขี าย = ขายสินคา้ x 7% = 250,000 x 7% = 17,500 ภาษซี ือ้ = ซ้ือสินค้า x 7% = 120,000 x 7% = 8,400 ภาษีทต่ี อ้ งชำระ = ภาษขี าย - ภาษีซ้ือ = 17,500 – 8,400 = 9,100 สรปุ ภาษขี าย <ภาษซี ้อื ดังนน้ั กิจการสามารถขอคนื ภาษีมูลคา่ เพิ่มเปน็ เงนิ จำนวน 9,100 บาท 2. กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0ผู้ประกอบการส่งออก สินค้ามีการคำนวณภาษีที่ต้องชำระในแต่ละเดือนจะใชว้ ิธีคำนวณทำนองเดียวกับผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 (ภาษีที่ต้องชำระ = ภาษีขาย – ภาษีซื้อ) แต่มีความแตกต่างกันในด้าน ภาษีขาย เนอ่ื งจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเสียภาษีอัตราร้อยละ 0 จากมลู คา่ ส่งออก ภาษีขายจึงมี คา่ เป็น 0 เสมอ ในขณะท่ภี าษีซื้อจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดงั น้ัน ผลการคำนวณจึงเป็นลบ (-) อันเกิดจากภาษี ซื้อมากกว่าภาษีขาย ทำให้มีการคืนภาษีให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ส่งออกเท่าจำนวนภาษีซื้อท่ี เกดิ ข้นึ จรงิ ในแต่ละเดือน การคำนวณภาษีทต่ี ้องชำระในแตล่ ะเดอื น ดงั นี้ ภาษขี าย = 100,000 x 0 (อัตรารอ้ ยละ 0) = 0 บาท ภาษซี อ้ื = 50,000 x 7/100 = 3,500 บาท ภาษีทตี่ ้องชำระ = ภาษขี าย - ภาษซี ้ือ
ภาษีจากผลการคำนวณ = 0 - 3,500 = - 3,500 บาท ผลการคำนวณภาษีหนเดือนนี้ ปรากฏว่าเป็นลบ (-) กลา่ วคอื ภาษซี ื้อมากกวา่ ภาษขี ายผู้ประกอบการ จดทะเบียนท่ีเสยี ภาษมี ลู คา่ เพิม่ ในอัตราร้อยละ 0 มีสทิ ธิขอคนื ภาษจี ำนวน 3,500 บาท ภาษีขาย หมายความว่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบยี นได้เรียกเก็บหรือพึงเรยี กเก็บจากผู้ ซื้อสินค้า หรือผูร้ ับบริการเมือ่ ขายสินค้า หรือรับชำระค่าบริการ หากภาษีขายเกิดขึน้ ในเดือนใดก็เป็นภาษขี าย ของเดือนนั้น ไม่คำนึงว่าสินค้าที่ขายหรือบริการที่ให้นั้นจะซื้อมาหรือเป็นผลมาจากการผลิตในเดือนใดก็ตาม มาตรา ( 77/1(17 ) ภาษีซื้อ หมายความว่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการได้จ่ายให้แก่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่เป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนเมื่อซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการ เพื่อให้ใช้ในการประกอบกิจการของตน(ทั้งที่เป็น วัตถุดิบหรือสนิ ค้าทุนประเภทเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ เป็นต้น) หากภาษีซื้อเกิดข้ึนในเดอื นใดก็เปน็ ภาษซี อ้ื ของเดือนน้นั ไมค่ ำนงึ วา่ สินค้าที่ซอ้ื มานั้นจะขายหรอื นำไปใช้ในการผลติ ในเดือนใดก็ตาม มาตรา ( 77/1(18) ) การคำนวณภาษีมลู ค่าเพม่ิ แยกได้เป็น 2 กรณีดงั นี้ 1.กรณแี ยกภาษีมลู คา่ เพิ่มออกจากราคาสินค้า การคำนวณมวี ธิ ีดังน้ี ตวั อย่าง การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของผผู้ ลติ เสอ้ื สำเร็จรูป ผู้ผลิตเส้อื สำเรจ็ รปู ซอ้ื ผา้ 5,000 บาท วสั ดุอ่นื ๆ เช่น ด้าย กระดุม กลอ่ งบรรจุ รวม 3,000 บาท ขาย เส้ือสำเร็จรูปไปในราคา 10,000 บาท 1.กรณกี ารซ้ือและการขายเกิดข้ึนในเดือนเดียวกนั วธิ ีทำ ภาษที ีผ่ ู้ผลติ ซื้อสนิ ค้าสำเร็จรูป = ภาษีขาย – ภาษีซือ้ ภาษขี าย (เรยี กเก็บจากผู้ซอ้ื ) = 10,000 x 7 = 700 บาท ภาษีซื้อ (จา่ ยให้แกผ่ ูข้ ายผ้าและวสั ดอุ ่นื ) 100 ตามหลักฐานใบกำกับภาษี = (5,000 x 7 ) + ( 3,000 x 7 ) 100 100 = 350 + 210 = 650 บาท ภาษมี ูลค่าเพ่มิ จากผลการคำนวณ = 700 – 560 =140 บาท ผลการคำนวณภาษีในเดือนนี้ปรากฏวา่ ภาษขี ายมากกว่าภาษีซื้อ ผูผ้ ลติ สำเรจ็ รปู จะต้อง ชำระภาษี 140 บาท
2. กรณีการซือ้ เกิดขึ้นคนละเดือนกบั การขาย 2.1 การคํานวณภาษมี ลู คา่ เพิ่มสำหรบั เดือนท่ซี ้ือผา้ และวัสดุอนื่ ๆ วธิ ีทำ ภาษีท่ผี ผู้ ลติ เสอ้ื สำเรจ็ รปู จะต้องชำระ = ภาษขี าย – ภาษซี อื้ ภาษีขาย (ยังไมม่ ีการขาย) = 0 บาท ภาษีซอ้ื ตามหลักฐานใบกำกับภาษเี ท่ากับ = (5,000 x 1700) + ( 3,000 x 1700) = 350 + 210 = 560 บาท = 0 – 560 = -560 บาท ภาษจี ากการคำนวณ ผลการคำนวณภาษใี นเดือนนีป้ รากฏวา่ เป็นลบ (-) กล่าวคอื ภาษีซื้อมากกว่าภาษีขายผู้ผลติ เสื้อ สำเร็จรปู มีสิทธไ์ิ ด้รับคืนภาษีจำนวน 560 บาท 2.2 การคํานวณภาษมี ูลคา่ เพมิ่ สำหรับเดือนทีม่ ีการขาย วธิ ที ำ ภาษีทผ่ี ผู้ ลิตเส้อื สำเรจ็ รปู จะต้องชำระ = ภาษขี าย – ภาษีซอื้ ภาษขี าย = 10,000 x 7 107 = 700 ภาษีซอ้ื (ไมม่ รี ายการซ้ือ) =0 ภาษจี ากผลการคำนวณ = 700 – 0 = 700 บาท ผลการคำนวณภาษีในเดือนนี้ เมื่อผู้ผลิตซื้อเสื้อสำเร็จรูปไม่ได้จ่ายค่าภาษีซื้อสำหรับผ้าหรือ วัสดุอื่นใดอีกก็ไม่มีภาษีซื้อที่นำมาหักในการคำนวณภาษีสำหรับในเดือนนี้แต่อย่างใดดังนั้นจึงต้องนำ ภาษีขายจำนวน 700 บาทส่งสหกรณ์ทั้งจำนวนท้ังนจ้ี ะเห็นไดว้ ่าภาษีณที่จา่ ยไฟสำหรับซ้ือผ้าและวัสดุ จำนวน 560 บาทผู้ผลิตเสื้อสำเรจ็ รปู ได้รับคืนในขณะที่ถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษใี นเดือนนี้มี การซื้อไปแล้ว 2. กรณรี วมภาษมี ลู คา่ เพม่ิ เข้ากับราคาสินค้า การรวมภาษมี ูลค่าเพม่ิ ไวใ้ นราคาสินค้าหรอื บริการ มีผลเทา่ กบั ผู้ประกอบการเรยี กเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ไปพรอ้ มกับการขายแล้ว ดังน้ันเม่อื ขายสินค้าหรือบรกิ ารไปแลว้ ผู้ขายจะต้องคำนวณแยกภาษีมูลค่าเพ่ิมออกมา เพื่อนำไปลงในการของภาษขี าย และแสดงในใบกำกับภาษีทจ่ี ะตอ้ งออกให้แกผ่ ซู้ ื้อต่อไป
วธิ ีทำ คำนวณได้ดังนี้ ราคาสินค้า 100 บาท เรียกเก็บภาษีมลู ค่าเพิ่ม 7 ราคาค่าสินคา้ + พมิ พส์ มการท่นี ่ภี าษมี ลู ค่าเพ่มิ 100 + บาทจะมภี าษีมูลค่าเพิ่ม 7 บาท ราคาสนิ คา้ บวกภาษีมลู ค่าเพิ่ม 1 บาทจะมีภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 ������ 7 บาท . 100 ดงั น้นั ในการคำนวณหาภาษมี ูลค่าเพม่ิ ทรี่ วมอยู่ในราคาสนิ ค้าก็สามารถทำได้โดยเอา 7 คูณกบั ราคาสนิ คา้ 100 ภาษามูลคา่ เพ่มิ = ราคาสินค้าหรอื บรกิ าร x 7 107 ตวั อยา่ ง บรษิ ทั กิตตคิ ุณ จำกัด ขายตู้เย็นไปในราคา 32,000 บาท ซงึ่ ได้รวมภาษมี ูลค่าเพิ่มท่ีจะต้องเรียกเกบ็ จากผซู้ อ้ื ไวแ้ ล้ว จงคำนวณภาษมี ลู ค่าเพ่มิ ราคาสนิ คา้ ที่ขาย = 32,100 บาท ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ = 32,100 x 7 = 2,100 บาท 107
แบบทดสอบหลงั เรียน 1.กรณกี ารขายสินคา้ ทวั่ ไป ความรับผดิ เกดิ ขึน้ เมอื่ ใด ก.เมอ่ื ครบชำระ ข.เมอ่ื ส่งมอบสนิ ค้า ค.เมอ่ื โอนกรรมสิทธสิ์ ินคา้ ง.เม่อื ถงึ กำหนดชำระราคาแต่ละงวด จ.เมื่อตัวแทนได้สง่ มอบสินคา้ ใหแ้ ก่ผู้ซื้อแลว้ 2. Tax Point หมายถึงอะไร ก.วนั ทผ่ี ปู้ ระกอบการมภี าระภาษีแล้ว ข.ชว่ งเวลาทีไ่ ดร้ บั ชำระภาษี ค.เม่ือออกใบกำกบั ภาษี ง.การฝากขายทีเ่ ป็นไปตามเงื่อนไข จ.จุดท่ีผปู้ ระกอบการถูกกำหนดโดยกฎหมาย 3.การส่งออกซง่ึ สนิ คา้ อยู่ในคลังสินค้าทณั ฑบ์ น ตามกฎหมายศลุ กากร ความรับผดิ เกดิ ข้ึน เมื่อใด ก.เมอ่ื นำสนิ ค้าออกจากคลังสินคา้ ข.เมอื่ นำสนิ คา้ เข้าไปในคลังสินค้า ค.เมื่อวันทน่ี ำสนิ ค้าในคลังสนิ ค้าเข้าไปเกบ็ ง.เม่อื ชำระอากรขาออกวางหลกั ประกันอากรขาออก จ.เม่ือนำเงินออกจากคลงั สินค้า 4.กรณีขายสนิ ค้าตามสญั ญาใหเ้ ชา่ ซ้อื ความรับผิดเกิดข้ึนเม่ือใด ก.เม่อื ถึงกำหนดชำระราคาแต่ละงวด ข.เมื่อออกใบกำกบั ภาษี ค.เม่ือโอนกรรมสทิ ธิส์ ินค้า ง.เมอื่ มีการต้งั ตัวแทนเพื่อขาย จ.เม่อื ถงึ กำหนดชำระราคาแต่ละงวด
5.ขายเสรจ็ เดด็ ขาด, สัญญาจะขาย หลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบคืออะไร ก.เมอ่ื มกี ารผา่ นพิธกี ารทางศุลกากร ข.เมอ่ื นำเงินออกจากเครื่องอัตโนมตั ิ ค.เมอื่ เลิกกจิ การหรอื เม่ือขอถอนหรือถูกเพิกถอนทะเบยี น แลว้ แต่กรณี ง.เม่อื มีการส่งมอบสนิ ค้า เว้นแตไ่ ด้โอนกรรมสทิ ธิ์ รบั ชำระราคา ออกใบกำกับภาษี จ.เมื่อรบั ชำระราคา เว้นแตม่ ีการออกใบกำกับภาษีก่อนรับชำระราคา 6.การให้บรกิ ารโดยไมม่ ีค่าตอบแทนหลักการเก่ียวกับความรับผิดชอบคืออะไร ก.เมอื่ ชำระราคาค่าบรกิ าร ข.เม่ือผา่ นพธิ ีการทางศลุ กากร ค.เมื่อมีการออกหลักฐานการใชบ้ ัตรเครดติ ง.เมอ่ื มีการใช้บริการไม่วา่ โดยตนเองหรอื บคุ คลอืน่ เวน้ แตม่ ีการออกใบกำกับภาษกี ่อนใช้ จ.เม่อื รับชำระราคา เวน้ แต่มีการออกใบกากบั ภาษีก่อนรบั ชำระราคา 7.การคำนวณภาษีมูลคา่ เพ่ิมหากภาษีขาย > ภาษีซ้ือหมายถงึ อะไร ก.ภาษมี ูลค่าเพม่ิ ที่มสี ทิ ธิไดร้ บั คนื ข.ภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ทตี่ ้องชำระ ค.ภาษที ม่ี ีสิทธิขอคนื ส่วนตา่ งเปน็ เงินสด ง.ภาษที ่ีมสี ิทธิขอเครดิตภาษีในเดือนถัดไป จ.จำนวนภาษีทีต่ อ้ งนำสง่ หรือขอคืน 8.สูตรการคำนวณภาษีมลู ค่าเพม่ิ ทต่ี ้องชำระคือ ก.ภาษีขาย – ภาษซี ือ้ ข.ภาษขี าย + ภาษีซอ้ื ค.ภาษขี าย - อัตราภาษี ง.เงินได้สุทธิ + อตั ราภาษี จ.เงินได้ – คา่ ใชจ้ ่าย – คา่ ลดหยอ่ น 9.การนำสินค้าเข้าทุกกรณีหลักการเกี่ยวกับความรับผิดชอบคืออะไร ก.เมอ่ื ชำระค่าบรกิ าร ข.เมื่อตรวจพบ ค.เมอ่ื ผ่านพธิ ีการทางศุลกากร ง.เมื่อโอนกรรมสิทธิ์สนิ คา้ จ.เมือ่ ตวั แทนส่งมอบสนิ ค้าให้แก่ลูกค้า
10.หลกั เกณฑ์การออกใบกำกับภาษีมีอะไรบา้ ง ก.การขายสินคา้ การซื้อสินค้า การให้บริการ ข.การขายสินค้า การซื้อสนิ คา้ การนำเข้า ค.การซื้อสินคา้ การให้บริการ การนำเข้า ง.การซอ้ื สินคา้ การเช่าซ้ือ การใหบ้ ริการ จ.การขายสินค้า การใหบ้ รกิ าร การขำเขา้
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: