หน่วย4 การใช้พลงั งานเพื่อการขนส่ง 4.2 สถานการณ์พลงั งานของโลกและของประเทศไทย ในปัจจบุ นั มีประชากรเพิ่มจานวนข้ึนอยา่ งมาก มีการขยายพ้ืนท่ีอยอู่ าศยั การพฒั นาชุมชนเมือง ส่งผลต่อการ พฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม อตุ สาหกรรมอยา่ งไม่หยดุ ย้งั การผลิตสินคา้ ปรับเปลี่ยนจากการผลิตระดบั ครัวเรือนไปสู่ระดบั อุตสาหกรรม เพื่อใหพ้ อเพียงแกค่ วามตอ้ งการของประชากรที่เพม่ิ ข้นึ ทาใหร้ ะบบการคมนาคมขนส่งเขา้ มามีบทบาทมาก ข้นึ ทาใหร้ ะบบการคมนาคมขนส่งเขา้ มามีบทบาทมากกข้ึน นอกจากการคมนาคมขนส่งแลว้ ยงั มีการใชพ้ ลงั งานท่ีไดจ้ าก ธรรมชาติทากิจกรรมอน่ื ๆ อกี มากมาย เช่น นอกจากเพ่อื การอยรู่ อดของชีวิตแลว้ พลงั งานยงั เอ้อื อานวยความสะดวกสบาย ในดา้ นการคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม เกษตรกรรมอาคารพาณิชย์ บา้ นอาศยั ลว้ นตอ้ งพ่งึ พาพลงั งานท้งั สิ้นโดยเฉพาะ พลงั งานไฟฟ้า การใชพ้ ลงั งานที่โลกตอ้ งการใชก้ ิจกรรมต่างๆ ของมนุษยจ์ ากอดตี ปัจจบุ นั และอนาคตมีแนวโนม้ สูงข้ึนอยา่ ง ต่อเนื่อง โดยที่ความตอ้ งการน้ามนั ดิบมีมากท่ีสุด รองลงไป คือถา่ นหิน ซ่ึงเป็นแหล่งพลงั งานที่มีราคาถูกและปริมาณมาก พลงั งานจากเช้ือเพลิงซากดึกดาบรรพน์ บั เป็นแหลง่ พลงั งานที่สาคญั ท้งั น้ามนั ดิบ ถา่ นหิน รวมท้งั กา๊ ซธรรมชาติ เป็น แหลง่ พลงั งานสาหรับกิจกรรมตา่ งๆของมนุษยใ์ นปัจจุบนั และจะมีความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานมากข้ึน จะเห็นไดว้ า่ ประเทศไทยก็มีความตอ้ งการพลงั งานเพอื่ กิจกรรมตา่ งๆ เช่นเดียวกบั ประเทศอ่นื ๆ พลงั งานที่ใชใ้ น ประเทศไทยมาจากหลายแหล่ง ส่วนใหญม่ าจากธรรมชาติและใชแ้ ลว้ หมดไป ไมส่ ามารถสร้างข้ึนมาทดแทนไดอ้ ีก ยง่ิ ประชากรเพม่ิ จานวนข้ึนความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานก็ย่ิงมากข้ึนดว้ ย ประเทศไทยใชพ้ ลงั งานเพอื่ การอตุ สาหกรรม และ คมนาคมเป็นส่วนมาก ชีวติ ประจาวนั ของเราจาเป็นตอ้ งเก่ียวขอ้ งกบั การคมนาคมขนส่ง ซ่ึงส่วนใหญ่ตอ้ งใชพ้ ลงั งานจาก ธรรมชาติท้งั สิ้น แนวโน้นการใช้พลงั งานของประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2548-2558
4.1 ววิ ฒั นาการของการขนส่ง การขนส่ง หมายถึง การนา การพา หรือการลาเลียงคน สัตวส์ ิ่งของจากทีหน่ึงไปอีกท่ีหน่ึงไปยงั อีกท่ีหน่ึง โดยใชย้ านพาหนะ ทางบก ทางน้า หรือ ทางอากาศ 1.ทางบก ในสมยั โบราณการขนส่งใชแ้ รงงานคนจากคน จากสัตวแ์ ละลอ้ เล่ือน ปัจจุบนั พฒั นาจากการใช้ แรงงานคนและสัตวม์ าเป็นกลจกั รสนั ภาย นอก เช่น กลจกั รไอน้า กลจกั รสนั ดาปภายใน เช่น เครื่องยนต์ แกส๊ โซลีน เครื่องยนตด์ ีเซล เป็นตน้ 2.ทางน้า เดิมใชแ้ พ เรือใชค้ นถ่อ แจวหรือพาย ตอ่ มาไดม้ ีพฒั นาการดา้ นใชแ้ รงงานและพลงั งาน จากคน กระแสลม โดยสร้างเป็นเรือใบ เรือสาเภา แลว้ ไปเป็นกลจกั รสนั ดาปภายนอก เช่น เรือกลไฟ และกลจกั ร สนั ดาปภายใน เช่น เรือเดินทะเล ปัจจุบนั ไดน้ าพลงั งานนิวเคลียร์มาใชเ้ ป็นพลงั งาน เช่น เรือดาน้าพลงั งาน นิวเคลียร์ 3.ทางอากาศ เร่ิมต้งั แตบ่ อลลูนที่ลอยตวั ข้ึนไดด้ ว้ ยแรงลอยตวั ของอากาศ เครื่องร่อน ใชแ้ รงงานของคน และกระแสลมแลว้ ไดพ้ ฒั นาเป็นเคร่ืองบินไอพน่ และจรวด ปัจจุบนั สามารถสร้างกระสวยอวกาศในการนา มนุษยแ์ ละอุปกรณ์ตา่ งๆ ไปมาระหวา่ งโลกกบั สถานีอวกาศ และระหวา่ งยานอวกาศลาอ่ืนๆ 4.3 การใช้พลงั งานด้านการคมนาคมของประเทศไทย ในปี 2540 ประเทศไทยมีความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานปฐมภมู ิโดยรวม 93 พนั ลา้ นลิตรเทียบเท่า น้ามนั ดิบ โดย มีสดั ส่วนการใชน้ ้ามนั สูงเป็นอนั ดบั หน่ึง ถึงร้อยละ 42 อนั ดบั สองคือ พลงั งานหมุนเวียนร้อยละ 26 รองลงมาคอื กา๊ ซธรรมชาติร้อยละ 17 ลิกไนตร์ ้อยละ 9 และถา่ นหิน นาเขา้ และซ้ือไฟฟ้าสดั ส่วนเท่ากนั คือ ร้อยละ 3 จะเห็นไดว้ า่ สดั ส่วนการใชพ้ ลงั งานหมุนเวียน ของไทยค่อนขา้ งสูง พลงั งานหมุนเวียนที่นิยมใชก้ นั มากไดแ้ ก่ ไมฟ้ ื น ถ่าน กากออ้ ย และแกลบ โดยส่วนใหญ่ใชเ้ ป็นเช้ือเพลิงหุงตม้ ของครัวเรือนในชนบทและ ในอตุ สาหกรรมอาหาร สัดส่วนการใช้พลงั งานปฐมภูมิ (Primary Energy) ของไทยในปี 2540
พลังงาน พนั ล้านลิตร ร้อยละ เทยี บเท่าน้ามนั ดิบ นา้ มนั 42 พลังงานหมุนเวียน 39.5 26 24.4 17 ก๊าซธรรมชาติ 16.3 9 ลิกไนต์ 8.1 3 3 ถ่านหินนาเข้า 2.4 100 ซื้อ (ไฟฟ้า) 2.3 รวม 93.0 สัดส่วนการใช้พลงั งานข้ันสุดท้าย (Final Energy) ในสาขาการผลติ ต่างๆ ของไทย แบ่งเป็ น 4 สาขา ใหญ่ๆ คือ สาขาเกษตรกรรม สาขาอุตสาหกรรม สาขาทอี่ ยู่อาศัยและธุรกจิ และสาขาคมนาคมขนส่ง โดยมสี ัดส่วน การใช้พลงั งานในสาขาต่างๆ ดงั นี้ ลดั ส่วนการใช้พลงั งานข้ันสุดท้าย (Final Energy) แยกตามสาขาการผลติ ในปี 2540ดส่วนการใช้พลงั งานข้ัน สุดท้าย (Final Energy) แยกตามสาขาการผลติ ในปี 2540 สาขาการผลติ พันล้านลิตร ร้อยละ เทยี บเท่าน้ามันดิบ คมนาคมขนส่ง 40 อุตสาหกรรม 24.4 32 ที่อยอู่ าศยั และธุรกิจ 19.8 25 เกษตรกรรม 15.1 3 รวม 2.3 100 61.6 หมายเหตุ พลงั งานข้นั สุดท้าย (Final Energy) หมายถึงพลงั งานข้ันสุดท้ายทผี่ ้บู ริโภคใช้ โดยไม่รวม เชื้อเพลงิ ท่ีนาไปใช้ในการผลิตพลงั งานทุตยิ ภูมิ (Secondary Energy) ซ่ึงหมายถงึ การนาพลงั งานปฐมภูมมิ า ผ่านการแปรรูป เช่น นา้ มันสาเร็จรูป และไฟฟ้า 4.5 นา้ มันแก๊สโซฮอล์ โครงการน้ามนั แก๊สโซฮอล์ เริ่มจากแนวคิดพระราชดาริของ พระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยู่หวั รัชกาลที่9ในการหาสิ่งมาทดแทนพลงั งานที่กาลงั จะหมดไปของน้ามนั +กบั แนวทางการ แกป้ ัญหาของพชื ผกั ที่มีราคาตกต่า มาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2528 โดยแนวทางหลกั ๆ คอื การนาแอลกอฮอลท์ ี่ไดจ้ าก การสกดั พชื ออ้ ยของเกษตรกรชาวไทยที่กาลงั มีปัญหา นามาผสมผสานกบั น้ามนั เบนซิน จนกลายมาเป็น พลงั งานทดแทน แกส๊ โซฮอล์ (Gasohol) จนถึงปัจจุบนั แตก่ ่อนสารท่ีใชเ้ ติมน้ามนั เบนซิน 95 จะใชเ้ ป็น Methyl Tertiary Butyl Ether หรือเรียกส้นั ๆวา่ MTBE แตน่ ้ามนั แกส๊ โซฮอลจ์ ะถกู ปรับใหใ้ ช้ แอลกอฮอลท์ ี่ สกดั จากมนั สาปะหลงั ขา้ วโพด ขา้ ว และออ้ ย เรียกวา่ เอทานอล หรือ Ethyl Alcohol 99.5%
แก๊สโซฮอล คือ การเอาน้ามนั เบนซินธรรมดาพ้นื ฐาน มาผสมกบั แอลกอฮอลที่มากจากพชื ผลการเกษตร จน กลายเป็นน้ามนั สูตรใหม่เรียกวา่ “Gasohol” น้ามนั แกส๊ โซฮอล 91 คอื น้ามนั ท่ีไดจ้ ากการนาน้ามนั เบนซินไร้สารตะกวั่ ธรรมดาๆผสมกบั เอทานอล หรือ เอทิแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) ซ่ึงเป็นแอลกอฮอลบ์ ริสุทธ์ิ 99.5% ในอตั ราส่วน 10 % จึงไดอ้ อกมาเป็น น้ามนั แก๊สโซฮอลออกเทน 91 โดยยงั คงคณุ สมบตั ิในการใชง้ านกบั เคร่ืองยนต์ เช่นเดียวกบั น้ามนั เบนซิน ออกเทน 91 แบบปกติ น้ามนั แก๊สโซฮอล Gasohol (E20) น้ามนั เบนซิน ท่ีมีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอลห์ รือเอทานอล (Ethyl Alcohol) ชนิดความบริสุทธ์ิ 99.5% ในอตั ราส่วน 20% กบั น้ามนั เบนซินชนิดพเิ ศษ (Base Gasohol) 80% * ในอตั ราส่วนขนาดน้ีจะมีขอ้ ยกเวน้ สาหรับรถยนตร์ ุ่นๆเก่าๆ ท่ีท่อยางส่งน้ามนั เร่ิมเส่ือมสภาพ และระเหยไว น้ามนั แกส๊ โซฮอล Gasohol E85 น้ามนั แก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลบริสุทธ์ิสูงถึง 85% กบั เบนซิน15% เป็น เช้ือเพลิงท่ีเป็นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม (Environmentally Friendly Fuel) เนื่องจากมลพษิ ที่ปล่อยจากไอเสียและ ก๊าซเสียตา่ งๆนอ้ ยมากเมื่อเทียบกบั เบนซินแบบธรรมดา ปัจจุบนั นิยมแพร่หลายใชใ้ นบราซิล สวเี ดน และ อเมริกา *ในอตั ราส่วนขนาดน้ีจะมีขอ้ ยกเวน้ สาหรับรถยนตร์ ุ่นๆเก่าๆ ที่ท่อยางส่งน้ามนั เริ่มเสื่อมสภาพ และ ระเหยไว ขอ้ ดีของแกส๊ โซฮอล์ นอกจากจะช่วยประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการเติมน้ามนั ลงจากเม่ือก่อนแลว้ ยงั ทาให้ ปริมาณไฮโดรคาร์บอนมอนนอกไซดล์ ดลงไดม้ ากถึง 25-30 % อีกดว้ ย ถือเป็นการช่วยลดมลพษิ ลดสภาวะ โลกร้อนไปไดอ้ ยา่ งมาก นอกจากขอ้ ดีในเบ้ืองตน้ กม็ ีขอ้ เสียบางอยา่ งท่ีแลกมา น้นั ก็คอื การระเหยที่เร็ว หรือ อตั ราการเร่งท่ีลดลง ทาใหผ้ ูข้ บั ขบ่ี างคนท่ีชอบเหยบี คนั เร่งหนกั ๆ รู้สึกวา่ น้ามนั หมดไวก้ วา่ เติมเบนซินปกติ อีกท้งั ขอ้ จากดั ของรถยนตบ์ างชนิดที่ไม่สามารถเติมน้ามนั แก๊สโซฮอล์ E20-E85 ไดอ้ ีกดว้ ย 4.5ไบโอดีเซล ไบโอดีเซลคืออะไร ไบโอดีเซล คอื เช้ือเพลิงเหลวที่ผลิตจากไขมนั พืช ไขมนั สตั ว์ หรือสาหร่ายขนาดเลก็ รวมถึงน้ามนั ที่ใชแ้ ลว้ จากการปรุงอาหาร ซ่ึงลว้ นเป็นสารประกอบอินทรียป์ ระเภทไตรกลีเซอไรด์ โดยผา่ นกระบวนการทรานเอ สเทอริฟิ เคชน่ั (Transesterification)หรือการเติมแอลกอฮอล์ เช่น เมทานอลหรือเอทานอล และมี ตวั เร่งปฏิกิริยา เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ ภายใตภ้ าวะอุณหภมู ิสูง เพอ่ื เปลี่ยนไขมนั ให้เป็นเมทิลเอสเตอร์ ของกรดไขมนั (Fatty acid methyl ester) หรือเอทิลเอสเตอร์ของกรดไขมนั (Fatty acid ethyl ester) ข้นึ อยกู่ บั ประเภทของแอลกอฮอลท์ ่ีใชใ้ นกระบวนการผลิตและมีกลีเซอรอลเป็นผล พลอยได้ ซ่ึงสามารถนามาใชใ้ นอุตสาหกรรมยาและเคร่ืองสาอาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: