Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ 2562 กศน.อำเภอคลองหลวง

สรุปผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ 2562 กศน.อำเภอคลองหลวง

Published by Thitirat Seannam, 2019-12-02 21:24:58

Description: 0 เล่มสรุปงาน

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 197 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี กจิ กรรมสรำ้ งเสริมสขุ ภำพกำรออกกำลังกำย โดยใช้ไมพ้ ลอง ชมรมผูส้ ูงอำยุผำสกุ หมู่ 4 ตำบลคลองหก กิจกรรมสร้ำงเสริมสุขภำพกำรออกกำลังกำย โดยใช้ไมพ้ ลอง ชมรมผู้สูงอำยุยมิ้ งำม หมู่ 9 ตำบลคลองหก

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 198 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี กิจกรรมกำรตรวจสุขภำพ และกำร ออกกำลังกำย โดยใช้หนังยำง หมู่ 4 ตำบลคลองหก กจิ กรรมส่งเสริมสขุ ภำพ และ กำรใชเ้ วลำวำ่ งให้เกิดประโยชน์ ชมรมผ้สู ูงอำยุ หนมุ่ นอ้ ย สำวน้อย หมู่ 13 ตำบลคลองหก กิจกรรม ใหค้ วำมรู้เรอ่ื งสมุนไพร โดย ปรำชญช์ ำวบ้ำน กำรตรวจสุขภำพ และกำรออกกำลงั กำยโดยใชไ้ ม้ พลอง โดย นำยเกียรติศักดิ์ หมัน่ อตุ ส่ำห์ ครู กศน.ตำบลคลอง

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 199 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี กจิ กรรมให้ควำมรู้ เรอื่ ง กำรทำนำ้ ยำกำจัดปลวก โดย ครู กศน.ตำบลคลองหก ชมรมผู้สูงอำยุ ชมรมผสู้ ูงอำยุบำรงุ สขุ หมู่ 7 ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธำนี

สรุปผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 200 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวัดปทมุ ธานี ชือ่ ผลงำน .............น้ายาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวกไลแ่ มลง ....................................................................... ผู้เสนอผลงำน ..............นายไชยพัฒน์ นยั เนตร............................................................................................ ตำแหนง่ ..............ครู กศน.ตาบลคลองเจ็ด........................................................................................... สถำนศึกษำ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอคลองหลวง................................ สังกดั สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั ปทมุ ธาน.ี ............. 1. ควำมสอดคล้อง ยทุ ธศาสตร์ด้านความมั่นคง ข้อ 1.3 รว่ มขบั เคลอ่ื นการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยง่ั ยนื - บูรณาการขบั เคลอื่ นการทางานตามแนวทางประชารัฐ ดาเนนิ โครงการ/กจิ กรรมในพื้นทที่ ง้ั ใน ระดบั ตาบล/หม่บู า้ น สนบั สนุนกลไกการขบั เคลื่อนในพ้นื ทท่ี ุกระดับต้งั แตจ่ งั หวัด อาเภอ ตาบล และหมบู่ า้ น 2. ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั น้ายาอเนกประสงค์ ไล่ปลวก ไล่แมลง เป็นน้ายาที่สกัดจากพืชสมุนไพรไทย เช่น หางไหล ตระไคร้ หอม ข่า ขมิ้นชัน หัวแห้วหมู พริกขี้หนู เมล็ดงา และใบสาบเสือ ฯ สมุนไพรเหล่าน้ี เป็นพืชที่ปลวกไม่สามารถ สร้างกลไก ในการย่อยสลายสาระสาคัญจากพืชเหล่านี้ได้ สารสสาคัญจากพืชเหล่าน้ี มีผลในการควบคุม ประชากรปลวกโดยกลไกที่แตกต่างกันตงั้ แต่ การยับยั้ง การเจรญิ เติบโตของตัวอ่อน การวางไข่ การกนิ อาหาร ตลอดถงึ การลดการพัฒนาการ ของจุลนิ ทรีย์ในลาใส้ปลวก ซงึ่ มีผลโดยตรงตอ่ ความอยู่ รอดและการทาลายของ ปลวก ซึ่งทาให้มีการควบคุมประชากรของปลวก โดย ลดขบวนการย่อยอาหาร ทาลายจุลินทรีย์ ในทางเดิน อาหาร หยุดการลอกคราบของตัวอ่อน ทาให้ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโต ลดการฟักไข่ ของนางพญา ผลิตภัณฑ์ สมุนไพรน้มี ีประสิทธิภาพ ในการลดประชากรของปลวกในสกุล Coptotermes spp. จะมีผลทาให้ปลวกคอ่ ย ๆ อ่อนแอลง ตวั ทีแ่ ขง็ แรงก็จะมากดั กนิ ตวั ทอ่ี อ่ นแอ ทาใหส้ ารแพรก่ ระจาย ในรงั ของมนั โดยอัตโนมตั ิ ปรมิ าณ ประชากรปลวก จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนสูญพันธ์ุ ไปในที่สุด แต่ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ขึ้นอยกู่ ับจานวนประชากร ของปลวกด้วย กศน.ตาบลคลองเจ็ด ได้เหน็ ความสาคัญของการลดสารเคมี จึงได้จดั กิจกรรมสง่ เสริมความรู้ เร่อื งการ เพอื่ สง่ เสรมิ การใช้สมุนไพรในท้องถน่ิ ไมเ่ ป็นอนั ตรายกบั คนทว่ั ไป กระต้นุ ให้เกษตรกรในพื้นท่ีหนั มาใชช้ ีวภาพ มากข้ึน จึงดาเนินการทานา้ ยาอเนกประสงค์ ไล่ปลวก ไล่แมลง หลักสูตร 3 ช่ัวโมง และให้ความรู้เรื่องการทา น้ายา เพอ่ื ใช้ในครอบครวั 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในท้องถ่ิน ไม่เป็นอันตรายกับคนท่ัวไป กระตุ้นให้เกษตรกรในพืน้ ท่ี หนั มาใชช้ ีวภาพมากขึน้ 2. เพ่ือการนาสมุนไพรในท้องถ่ินมาใช้เป็นการลดรายจ่าย จากการซื้อสารเคมีมาใช้กาจัดปลวก และแมลง

สรุปผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 201 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 4. เปำ้ หมำย เป้าหมายเชิงปรมิ าณ ประชาชน/นักศกึ ษา/ผสู้ นใจท่วั ไป จานวน 155 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ ผู้ท่เี ข้ารับการอบรม ไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ การจดั ทานา้ ยาอเนกประสงค์ ไล่ ปลวก ไลแ่ มลง เพือ่ น้าไปใช้ด้ 5. ข้ันตอนกำรดำเนนิ งำน มีข้นั ตอนการดาเนนิ การดงั น้ี 1. ศกึ ษาพ้ืนท่ีชุมชนตาบลคลองเจด็ มีทรัพยากรอะไรบา้ ง ผนู้ าชมุ ชน ความตอ้ งการของชุมชน ความ โดยเดน่ ของชุมชน โดยครศู ึกษาประวตั ิชมุ ชน การทางาน การบรหิ ารงานในชุมชนตาบลคลองเจด็ 2. ครู กศน.ตาบล ลงพ้ืนท่สี ารวจความต้องการของชมุ ชน ดา้ นการศกึ ษา และการพฒั นาชุมชนด้าน ต่าง ๆ ท่ชี มุ ชนต้องการของชมุ ชน โดยปรึกษาหารอื กบั สมาชิกผูน้ าชุมชน ประชาชนในพืน้ ทกี่ านัน ผู้ใหญ่บา้ น สมาชกิ อบต. 3. ครู กศน.ตาบลจัดทาแผนเพื่อส่งเสรมิ การพฒั นาชุมชนในพน้ื ท่ีตาบล 4. ดาเนินการส่งเสริมจัดกิจกรรมตามความต้องการของชุมชน เรื่องการทาน้ายาอเนกประสงค์ ไล่ ปลวกไล่แมลง เพ่ือลดสารเคมี ส่งเสริมการใช้สมุนไพรในท้องถ่ิน ไม่เป็นอันตรายกับคนท่ัวไป กระตนุ้ ใหเ้ กษตรกรในพื้นที่หนั มาใช้ชีวภาพมากขน้ึ ลดรายจา่ ยการซ้ือสารเคมีทีม่ ีราคาแพง มาใช้ กาจดั ปลวกและแมลง 5. นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดกจิ กรรม 6. สรปุ รายงานผลโครงการ ส่วนท่สี องเขียนลำดบั ขน้ั ตอนกำรพฒั นำ (Flow Chart) หรอื รูปแบบ (Model) เพอื่ ควำมชัดเจน P วำงแผนกำรปฏบิ ัติกำรทำงำนร่วมกบั ชมุ ชน โดยกำรนำของผู้นำชุมชน ผู้ใหญบ่ ้ำน ซ่งึ มีควำมพร้อมใน กำรเป็นผนู้ ำและสำมำรถนำไปพัฒนำในชุมชนได้ ครูกศน.ตาบลคลองเจ็ด มีการสารวจความต้องการของประชาชน ในการทานา้ ยาอเนกประสงคไ์ ล่ปลวก ไล่ แมลง ตามขั้นตอนดังน้ี 1. ประชุมกลุม่ ย่อยกบั ประชาชนในชมุ ชนเกยี่ วกบั ประเดน็ การใชส้ มุนไพรในชวี ิตประจาวนั เพื่อ ลดรายจา่ ยเพ่มิ รายได้ และการแก้ไขปัญหาของปลวก และการกาจัดปลวก โดยใช้สมุนไพรใน ท้องถนิ่ ไลป่ ลวกและแมลง เปน็ แนวทางจากการวเิ คราะหค์ วามเหมาะสมของสถานที่ และ อาศยั แนวทางในการฝกึ อาชีพ 2. เพือ่ ลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้ เป็นการลดมลพษิ ภาวะทางอากาศได้ด้วย กศน.ตาบลคลองเจ็ดจงึ มีการวางแผน 3. การจดั ทาหลักสูตร 4. จดั ทาส่ือใบปลวิ /ใบความรู้

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 202 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี 5. ประชาสัมพนั ธก์ ารจดั ทาน้ายาอเนกประสงค์ ไล่ปลวก ไลแ่ มลง นายไชยพัฒน์ นัยเนตร ครูกศน.ตาบลคลองเจ็ด ได้มกี ารประชาสัมพันธ์เพ่ือใหป้ ระชาชนในพื้นท่ตี าบลได้ทราบ ใน กระบวนการจัดทาน้ายาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวก แมลง 6. ประชาสมั พนั ธ์สาธิตกับเครอื ขา่ ยในพืน้ ทอ่ี าเภอคลองหลวง D ครู กศน.ตำบล ดำเนนิ กำรจดั กิจกรรมส่งเสรมิ ควำมรใู้ ห้กบั ชุมชน ในดำ้ นตำ่ ง ๆ ครูกศน.ตาบลคลองเจด็ ดาเนินการ ดังน้ี 1. ศึกษาเน้ือหาและกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่ือให้มีความชัดเจนในการถ่ายทอด ความรู้ 2. ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิตการ เรอ่ื งการจัดทาหลกั สตู รน้ายาอเนกประสงค์ ไล่ ปลวกและไล่แมลง เป็นการส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้นาชุมชน ประชาชน และนักศกึ ษาได้ใช้สารจากพืชสมนุ ไพร กาจดั ปลวกและแมลง เพอ่ื ลดรายจ่าย และลดการใช้ สารเคมี 3. สาธติ วธิ ีการและใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารทานา้ ยาอเนกประสงค์ กาจดั ปลวกและไลแ่ มลง C เพอ่ื จดั ทำเป็นสรุปผลรำยงำนกำรจัดโครงกำร/กิจกรรม นำเสนอผ้บู รหิ ำรสถำนศกึ ษำเหน็ ชอบและ เผยแพร่ต่อไป จากการสอนการทานา้ ยาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวก ไลแ่ มลง มีการตรวจเชค็ ดงั นี้ 1. ประเมินความรู้ด้วยการปฏิบัติจริงตามขั้นตอนที่วิทยากร ประเมินความสาเร็จของโครงการ ประเมินความพงึ พอใจตอ่ การเข้าร่วมโครงการ 2. การสรุปผลการนาไปใช้ ตดิ ตามประสิทธภิ าพของน้ายาทนี่ าไปใช้ ท้ังยังเผยแพร่คลิป สือ่ การ สอน วธิ ีการทา A นำผลกำรสรุปโครงกำรมำปรบั ปรุงแกไ้ ข เพ่ือเปน็ แนวทำงกำรดำเนนิ งำนครั้งตอ่ ไป มีนาแบบประเมนิ ผลจากการจดั กิจกรรมทุกรายการ แลว้ นามาสรุปรายงานผลการปฏิบัติงาน พรอ้ มนามา แกไ้ ขปรบั ปรุงพฒั นาให้ดยี ิ่งขนึ้ ปัญหำอปุ สรรค - ระยะเวลา ในการดาเนินกิจรรมต้องใช้เวลานานในการทา - การส่ือสารการจดั เตรยี มวัสดุ/อุปกรณ์ - ผู้เรยี น แนวทำงกำรพัฒนำ - การพัฒนาหลักสูตรใหม่ - เทคนคิ วิธีการกระบวนการในการดาเนินกจิ กรรม - การปรับปรุงรปู แบบผลติ ภัณฑข์ วด

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 203 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทมุ ธานี 6. ผลกำรดำเนินงำน จากการที่ กศน.ตาบลคลองเจ็ด ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตการ เร่ือง การจัดทา น้ายาอเนกประสงค์ กาจัดปลวกและไล่แมลง เป็นการส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้นาชุมชน ประชาชน และนักศกึ ษาไดใ้ ช้สารจากพืชสมนุ ไพร กาจัดปลวกและแมลง เพื่อลดรายจา่ ย และลดการใช้สารเคมี และได้จัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสรมิ ความรูใ้ นด้านต่าง ๆ ให้กับชุมชนตาบลคลองหนึ่ง ตาบลคลองสาม ตาบลคลอง หา้ และตาบลคลองหก ความรู้ ประชาชน จานวน 155 คนที่เข้ารบั การอบรมการทาน้ายาอเนกประสงค์ ไล่ปลวก ไลแ่ มลง จานวน มคี วามรู้ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ ความพึงพอใจ จากการสอบถามประชาชนท่ีเข้าร่มอบรมการทาน้ายาไล้ปลวก ไล่แมลง อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดี รอ้ นละ 100 ของผ้นู าไปใช้ 7. บทเรยี นท่ไี ดร้ ับ 1. การพัฒนาต่อยอดการทาน้ายาอเนกประสงค์ ไล่ปลวก ไล่แมลง ประชาชนชุมชนในพ้ืนท่ีท่ีได้เข้า รว่ มการฝกึ ปฏิบตั ิ สามารถนาไปจัดทาใช้เองในครอบครัว และยงั นาไปสาธติ ให้กบั บุคลอนื่ ไดอ้ ีก 2. การสร้างหลกั สูตรในลกั ษณะเดียวกนั ประเภทเดียวกัน เพอื่ ถ่ายทอดความรู้ให้สอดคล้องกับบริบท ในท้องถน่ิ ได้ เช่น นา้ ยาไลม่ ด น้ายาไลย่ งุ 8. ปัจจัยแห่งควำมสำเรจ็ ปจั จยั แห่งความสาเร็จของน้ายาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวก ไล่แมลง คือการท่ปี ระชาชนในชมุ ชนนาไปใช้ กับครอบครัว และนาไปใช้สอนผู้อื่นต่อ คือผลงานความสาเร็จของนา้ ยาเอนกประสงค์ ไล่ปลวก ไล่แมลง การ ได้รับการการยอมรับจากประชาชน หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และสามารถนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต โดน ปราศจากสารเคมี ด้านผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และนาไปปฏิบัติทาใช้ในครอบครัวได้ ซ่ึงจะเป็นการประหยัด คา่ ใช้จ่าย ด้านชุมชน ชุมชนเมื่อเรียนจบ สามารถนาไปใช้ และนาไปให้ความรู้กับหน่วยงาน หรือชุมชนอ่ืน ๆ ต่อไปได้ ด้านเครอื ขา่ ย เครอื ขา่ ยให้การสนับสนุน และยังสามารถนาไปใหค้ วามรู้ กบั หนว่ ยงานอ่นื ด้านทมี งาน ทมี งานไดร้ บั ฝึกมคี วามชานาญ สามารถนาไปสอนให้กับประชาชน หรอื ชมุ ชนได้ นา้ ยาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวก ไลแ่ มลง เป็นการสอนแบบสาธิตที่สามารถเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งงา่ ย และสมารถ นาไปทาหรืออธิบายสอนผ้อู ่นื ต่อไปได้ เป็นทีย่ อมรับของทุกคนท่ีได้นาไปใช้ 9. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงกำรพัฒนำ ให้ระบุแนวทางการนาแนวปฏิบัติท่ีดีไปใช้ในการพัฒนางาน หรือพัฒนากระบวนการทางาน ควรเขียนใน ลักษณะเสนอแนะวธิ กี ารปรบั ปรงุ /พฒั นางาน หรอื พัฒนากระบวนการทางานให้ดีขนึ้

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 204 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวัดปทุมธานี แนวทางการพัฒนาในอนาคต คือ การปรับปรุงสูตรจากการไล่ปลวก ไล่แมลง น้ายาอเนกประสงค์ กาลังพฒั นาขบวนการทดลองการนาไปใชใ้ นการไล่มด และยุง ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะมาจากประชาชนในพ้นื ที่ ที่ ได้นาน้ายาอเนกประสงค์ ไลป่ ลวก ไล่แมลง ไปใช้แล้วเกิดผลดี จึงขอใหม้ กี ารเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการไล่มด ไล่ ยงุ ต่อไป 10. กำรเผยแพร่/กำรได้รบั กำรยอมรบั /รำงวลั ที่ไดร้ บั (ระบขุ อ้ มลู ท่ีทาให้เหน็ รอ่ งรอย หลักฐานการเผยแพรผ่ ลงานหรือนวตั กรรม และการยกย่องชมเชย) การเผยแพร่ - การดาเนนิ โครงการ/กจิ กรรมกับกับหน่วยงานภาคเี ครือข่าย - เผยแพร่ทาง Facebook, Website การได้รับการยอมรับ สถานศึกษา ชมุ ชน หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้อง เช่น การมาศึกษาดงู าน การรับเชญิ ไปเปน็ วทิ ยากรบรรยายผลงานทดี่ าเนนิ การประสบความสาเรจ็ เป็นตน้ (ถา้ มี) - ไดร้ บั การเปน็ วิทยากรจากตาบลคลองหน่ึง คลองสาม คลองหา้ และตาบลคลองหกลองเจ็ด - ได้รบั การเป็นวทิ ยากรการทาน้ายาอเนกประสงค์จากอาเภอลาลูกกา

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 205 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 1. ชื่อโครงกำรหรอื ชื่อกจิ กรรม การสรา้ งขอ้ สอบออนไลน์โดย Google form 2. ควำมเป็นมำของโครงกำรหรอื กิจกรรม เน่ืองด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เข้ามามีบทบาทในการดาเนินงานด้านต่าง ๆ มากย่ิงขึ้น การจัดการเรยี นการสอนในปัจจุบันก็จาเป็นทีจ่ ะต้องใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพอ่ื อานวยความสะดวกและตอบ รับกบั การดาเนนิ ชีวติ ของผ้เู รยี นในปจั จบุ นั การสรา้ งขอ้ สอบออนไลน์โดย Google form เป็นอกี รูปแบบหนงึ่ ทีป่ ระยุกต์เอาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใชใ้ นดา้ นการวดั ผลการศึกษาให้มีความสะดวก รวดเร็ว ถกู ตอ้ งเทีย่ งตรง อกี ทง้ั ยงั เปน็ วิธกี ารในการพัฒนาตัว ข้อสอบให้ได้มาตรฐาน จัดเก็บในรูปแบบของฐานข้อมูล Google drive แบ่งหมวดหมู่ของแต่ละวิชา และยัง สามารถแทรกสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง และวีดีโอ ลงในข้อสอบได้อีกด้วย เป็นการมุ่งพัฒนาเพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน ที่จะอานวยความสะดวกในการเพม่ิ แก้ไขและลบข้อมูล รวมถึงการ สง่ ผ่านข้อมลู การทาขอ้ สอบของนกั ศกึ ษา เขา้ ไปประมวลผลผ่าน เครอื ขา่ ย ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ท้ัง ในด้านเวลา และทรัพยากรอ่ืน ๆ เช่น กระดาษ ค่าจัดพิมพ์ แรงงาน หรือแม้แต่พ้ืนท่ีจัดเก็บ นอกจากนี้ยัง สามารถสรปุ ผลคะแนนการสอบของแต่ละวิชาออกมาไดโ้ ดยอัตโนมัติ ซง่ึ ทาใหล้ ดขน้ั ตอนการทางานลงได้ ทาให้ เกดิ ความประหยดั รวดเรว็ และสะดวกในการออกข้อสอบ จัดเกบ็ ข้อสอบ เขา้ สอบและวดั ผลการสอบมากย่ิงข้ึน การสร้างข้อสอบออนไลน์โดย Google form จะสามารถแก้ปัญหาการออกข้อสอบและการสอบในแบบเดิม โดยจะสามารถจัดการกับการออกข้อสอบและการสอบผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนและเครือข่าย อินเตอรเ์ น็ต เพอ่ื ให้ผ้สู อนสามารถเลือกรูปแบบในการจดั ทาขอ้ สอบและเลอื กข้อสอบมาสร้างใหมไ่ ด้ตามความ ต้องการ สามารถจัดการข้อสอบและการสอบในรูปแบบออนไลน์ได้ ทาให้เพิ่มความปลอดภัยของไฟล์ข้อสอบ ไดม้ ากยิง่ ขึ้น ซึ่งจะอานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผสู้ อนในการออกข้อสอบแบบออนไลน์ ทาใหค้ ณุ ภาพของการออก ข้อสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถทาให้การตรวจเฉลยข้อสอบได้รวดเร็วและถูกต้อง อีกท้ังผู้สอน สามารถให้ผเู้ รยี นสอบแบบออนไลน์ได้ เมอ่ื ทาการสอบจะทราบผลคะแนนได้ทนั ทีเมอื่ สอบเสร็จ ซึ่งช่วยอานวย ความสะดวกในการสอบทั้งผู้เรียนและผู้สอนได้ และยังช่วยลดการใช้กระดาษ เน่ืองจากสอบผ่านคอมพิวเตอร์ หรือสมารท์ โฟนไมต่ ้องพิมพข์ ้อสอบออกมา 3. ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน 1. ศึกษาทฤษฎีและเทคโนโลยที ี่ใช้ในการสรา้ งขอ้ สอบออนไลน์โดย Google form 1.1 ศึกษาและทาความเข้าใจเก่ียวกับทฤษฎีท่ีเก่ียวข้อง เช่น รูปแบบและหลักการการสร้าง ขอ้ สอบแบบตา่ ง ๆ 1.2 รวบรวมขอ้ มลู จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งและทาการจดั เก็บข้อมูล 2. ดาเนนิ การสรา้ งข้อสอบออนไลน์โดย Google form 3. ดาเนนิ การทดสอบและปรบั ปรุงแกไ้ ขการสร้างข้อสอบออนไลน์โดย Google form 4. สรปุ ผลและรายงานผลการดาเนินงาน

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 206 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 4. ควำมสำเรจ็ ท่ีเปน็ จุดเดน่ 1. ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาใหก้ ารสนับสนุน 2. ผูเ้ รยี นใหค้ วามร่วมมอื 3. ประหยัดงบประมาณ 4. สามารถใส่ภาพหรือวิดโี อลงไปในข้อสอบออนไลนไ์ ด้ 5. เอกสารขอ้ มลู ถูกจดั อย่างเปน็ ระเบยี บในบญั ชี Google Account ง่ายต่อการค้นหา 6. สามารถนาผลลัพธ์จากการทาข้อสอบออนไลนไ์ ปใช้ต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพราะเราสามารถ Export ขอ้ มลู ผลลพั ธอ์ อกมาเปน็ ไฟลไ์ ด้ 7. กระตุ้นให้ผ้เู รยี นเกดิ การเรยี นรู้ 8. เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการสอนเพื่อพฒั นาผู้เรียนแตล่ ะคนได้เตม็ ศักยภาพ 5. ปัญหำ อุปสรรค/ ข้อควรระวังในกำรจดั โครงกำรหรอื กิจกรรม ควรเตรียมข้อมูลให้พรอ้ มก่อนท่ีจะทาเป็นข้อสอบออนไลน์ และต้องตรวจสอบความถูกต้องของเฉลย ให้เรยี บรอ้ ยก่อนใหผ้ เู้ รียนสอบออนไลน์ 6. รำงวัลแหง่ ควำมสำเรจ็ รางวลั ครู ศรช. ดีเด่น ประเภทเทคโนโลยี 7. ข้อควรคำนึงในกำรนำไปขยำยผล Google ได้แจง้ ไวใ้ นขอ้ กาหนดในการให้บรกิ ารวา่ Google สามารถใชข้ ้อมูลดังกลา่ วตามนโยบายส่วน บคุ คล โดยถือวา่ เราไดอ้ นญุ าตให้ Google (และผทู้ เ่ี ราทางานด้วย) มีสิทธ์ใิ นเน้อื หาของเรา ไม่วา่ ท่ีใดในโลก ใน การใช้โฮสตจ์ ดั เกบ็ ทาซา้ แก้ไข สร้างงานต่อยอดเน้ือหาของเรา (เชน่ งานการแปลภาษา การปรับเปลี่ยน หรือ การเปลี่ยนแปลงอ่ืน ๆ ท่ีทาง Google ทาเพ่ือให้เน้ือหาของเราสามารถใช้งานได้ดีข้ึนร่วมกับบริการ ของ Google) ดงั นนั้ ข้อมูลใด ๆ ของเรากต็ ามที่อาจเปน็ ประโยชน์ต่อ Google นัน้ ทาง Google สามารถนาข้อมูล ของเราไปไปใช้ต่อยอดได้ในระดับนึง โดยถือว่าเราสมัครใจในการแบ่งปันไปแล้วต้ังแต่เราเร่ิมใช้งาน Google Form แตท่ าง Google จะยังคงเกบ็ ความลับใหเ้ รา เพราะสทิ ธคิ์ วามเปน็ เจ้าของข้อมลู ยังอยู่ทเ่ี รา

สรุปผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 207 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวดั ปทมุ ธานี 8. ภำพกิจกรรม

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 208 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวัดปทุมธานี 9. ขอ้ มูล/เอกสำร/เวบ็ ไซต/์ ท่ใี ช้อำ้ งองิ ประกอบกำรเขยี น (ถ้ำมี) http://officemanner.com/2014/11/21/%E0%B8%A3%E0%B8... http://officemanner.com/2015/09/08/%E0%B8%A7%E0%B8... http://www.it24hrs.com/2016/google-forms-quiz/ http://faq.bu.ac.th/wordpress/%e0%b8%a1%e0%b8%... http://pattarachon-chaiyagul.blogspot.com/2010/01/blog-post_23.html https://sites.google.com/site/elearningboy33/khxdi-khx-seiy-khxng-kar-reiyn-ru-phan-e-learning 10. ผเู้ ขยี น นายชยั วฒั น์ อนิ ทร์ปาน ครศู นู ยก์ ารเรียนชุมชน 11. ผู้สนับสนุนและตรวจสอบ 1. นางพมิ พา หาญวฒั นะชัย ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอคลองหลวง 2. นายอดลุ เพิม่ เจริญ ครชู านาญการ 12. ผู้บรรณำธิกำร นายชยั วฒั น์ อนิ ทร์ปาน ครูศูนยก์ ารเรียนชมุ ชน

สรุปผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 209 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 1. ชื่อโครงกำรหรือชื่อกจิ กรรม การจดั การเรยี นรู้แบบโครงงาน (Project Method) 2. ควำมเปน็ มำของโครงกำรหรือกิจกรรม การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ หรือการค้นคว้าหาคาตอบในส่ิงท่ีผู้เรียน อยากรู้หรอื สงสัยด้วยวิธกี ารต่าง ๆ เป็นวิธกี ารเรยี นรู้ท่ผี ู้เรียนได้เลอื กศึกษาตามความสนใจของตนเองหรือของ กลุ่ม เป็นการตัดสินใจร่วมกัน จนได้ชิ้นงานท่ีสามารถนาผลการศึกษาไปใช้ในชีวิตจริงได้ การเรียนรู้แบบ โครงงาน เป็นการเรียนร้ทู ี่ใช้เทคนิคหลากหลายรูปแบบนามาผสมผสานกัน ได้แก่กระบวนการกลุ่ม การฝึกคิด การแกป้ ัญหา การเนน้ กระบวนการ การสอนแบบปริศนาความคิด และการสอนแบบร่วมกันคิด ท้ังนมี้ ่งุ หวงั ให้ ผู้เรียนเรียนรู้เร่ืองใดเร่ืองหน่ึงจากความสนใจอยากรู้อยากเรียนของผู้เรยี นเอง โดยใช้กระบวนการและวิธที าง วิทยาศาสตร์ ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อค้นหาคาตอบด้วยตนเอง เป็นการเรยี นรู้ท่ีผู้เรยี น ได้มาไม่จาเป็นต้องตรงกบั ตารา แต่ผู้สอนจะสนบั สนนุ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งการเรยี นรแู้ ละ ปรับปรุงความรทู้ ่ีได้ให้สมบรู ณ์ ดังน้ันโครงงานนี้คณะผู้จัดทาต้องการใช้ยางรถยนต์เก่าซึ่งเป็นทรัพยากรท่ีใช้แล้วก็หมดประโยชน์ ทางตรงเน่ืองจากโดยส่วนมากคนมักจะเปล่ียนยางรถยนต์ใหม่เมื่อรสู้ ึกว่ายางรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพในการใช้ งานแล้ว จงึ เปลย่ี นยางรถยนต์ใหม่สว่ นยางรถยนตเ์ กา่ ก็ถูกนาไปทิ้ง ท้ังน้ีเราจึงอยากนาทรัพยากรที่ยังคงสภาพ สมบูรณน์ ี้มาประดิษฐ์ใหเ้ กิดประโยชนน์ อกจากการวางทง้ิ ไว้เฉยๆ โดยการนามาประดิษฐ์เป็นชุดโต๊ะกาแฟจาก ยางรถยนต์เกา่ ศูนย์การเรียนรู้คลองหลวง 3 (ม.ปลาย)ได้มีแนวคิดรวมกันนายางรถยนต์เก่าท่ีไม่ได้ใช้งานแล้วมาแปร รูปเป็นส่ิงประดิษฐ์ท่ีใช้ประโยชน์ได้ เราสามารถประดิษฐ์ชุดโต๊ะกาแฟจากยางรถยนต์เก่าได้ เป็นการนาขยะ กลบั มาใชใ้ หม่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ช่วยลดปริมาณขยะ และปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มต่างๆ เปน็ การลดภาวะโรคร้อน ลดปริมาณการเผาขยะทาใหเ้ กิดมลพษิ ในอากาศ และเป็นการเพ่ิมมูลค่าให้กบั วัสดุเหลือใช้ ตามหลักเศรษฐกิจ พอเพยี งเป็นหลกั ทสี่ ่งเสรมิ ให้ประชาชนสามารถหารายไดแ้ ละเลย้ี งดตู ัวเองได้ 3. ข้ันตอนกำรดำเนินงำน 1. สารวจประชากรท่ีมีเพ่ิมมากขึ้นตลอดเวลา หรือทรัพยากรท่ีมนุษย์สร้างข้ึน จึงรวบรวมกลุ่มและ กาหนดหวั ขอ้ ปรึกษาอาจารย์และหารือภายในกลมุ่ 2. ค้นคว้าหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเก่ียวกับส่ิงประดิษฐ์ที่จะทา หาข้อมูลความสนใจของคนในชุมชน และสรา้ งแรงบันดาลใจ เพื่อนามาทาชนิ้ งาน 3. ออกแบบช้ินงานส่ิงประดิษฐ์ ปรึกษาร่วมกันเพ่ือสร้างชิ้นงาน และลงมือปฏิบัติแล้วแบ่งหน้าท่ีกัน ทางานภายในกลุม่ 4. จัดหาวัสดุอุปกรณ์ท่ตี อ้ งการใช้ในการประดิษฐ์ชน้ิ งาน ลงมือปฏิบัตติ ามโครงงาน 5. โดยเตรยี มยางรถยนตเ์ ก่ามาตัดใหไ้ ดร้ ปู รา่ งทต่ี ้องการ 6. เขยี นรายงานพรอ้ มสรุปผล และอภปิ ราย

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 210 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 4. ควำมสำเร็จทเี่ ป็นจุดเด่น นอกจากการที่ได้นาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลัก7R มาปรับใช้ในชีวิตประจาวันให้มี ประโยชน์แล้ว โครงงานชน้ิ นีย้ ังชว่ ยเสรมิ สร้างความสามัคคีระหว่างสมาชิกในกลุม่ ผ่านการร่วมมอื รว่ มใจกันใน การทาโครงงานชิน้ นใี้ หส้ าเร็จได้ดว้ ยดี ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ 1. นาสง่ิ ทีไ่ ม่ไดใ้ ชแ้ ล้วมาแปรรปู เปน็ ส่ิงของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ 2. ลดปัญหาทางสิ่งแวดล้อม 3. ลดปรมิ าณขยะ 4. ได้ปฏบิ ตั ติ ามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั 5. ไดร้ ู้จกั การทางานร่วมกันกับผ้อู ืน่ 6. เปน็ แบบอย่างทดี่ ีใหก้ ับผู้อ่ืนไดน้ าไปปฏิบัติตาม 7. ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 5. ปัญหำ อปุ สรรค/ ข้อควรระวังในกำรจดั โครงกำรหรอื กิจกรรม 1. ควรเลือกยางรถยนตท์ ีม่ ีลวดลายทเ่ี หมือนกัน 2. ควรจัดหาสถานท่ีในการทางานให้เหมาะสม 3. ควรจัดทาตารางเวลาการทางานให้มีวันทสี่ มาชิกได้ชว่ ยกนั ทามากกวา่ น้ี 4. ควรมรี ะยะเวลาในการทาให้มากกว่าน้ี และสภาพอากาศทไ่ี ม่เออ้ื อานวย 6. รำงวัลแห่งควำมสำเร็จ ไดร้ บั รับรางวลั รองชนะเลิศอันดับ1 (1 รางวลั ) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย ปกี ารศึกษา 1 / 2562 ได้รับรับรางวัลชมเชย (3 รางวัล) ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ปกี ารศึกษา 1 / 2562 7. ขอ้ ควรคำนงึ ในกำรนำไปขยำยผล จัดการการเรยี นแบบการจดั การเรยี นรูแ้ บบโครงงาน (Project Method) นาสงิ่ ที่ไมไ่ ดใ้ ชแ้ ลว้ มาแปร รูปเป็นสงิ่ ของทีส่ ามารถใชป้ ระโยชน์ได้ และสามารถทาเป็นอาชพี ได้

สรปุ ผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 211 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี 8. ภำพกจิ กรรม การจัดนทิ รรศการแสดงผลงาน พร้อมนาเสนอผลงาน ในการประกวดโครงงาน ผลงานแหง่ ความสาเร็จ ของศนู ย์การเรียนรคู้ ลองหลวง3 (ม.ปลาย) 9. ขอ้ มูล/เอกสำร/เวบ็ ไซต์/ทใ่ี ชอ้ ้ำงองิ ประกอบกำรเขียน (ถำ้ มี) - นักศึกษาศนู ย์การเรยี นร้ชู ุมชนคลองหลวง3 - ครูศูนย์การเรยี นรชู้ ุมชน - ครู กศน.ตาบล - กศน.อาเภอคลองหลวง - ขา้ ราชการครู กศน.อาเภอคลองหลวง - ห้องสมุดประชาชน อาเภอคลองหลวง 10. ผเู้ ขยี น นางสาวศิรพิ ร จนั มะลิ 11. ผสู้ นับสนนุ และตรวจสอบ 1. นางพมิ พา หาญวัฒนะชัย 2. นายอดลุ เพิม่ เจริญ 12. ผบู้ รรณำธกิ ำร นางสาวศิรพิ ร จันมะลิ

สรุปผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 212 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทุมธานี 1. ชอื่ กำรศึกษำเรียนรูแ้ บบโครงงำน “ส่ิงประดิษฐ์” 2. ควำมเป็นมำของกจิ กรรม การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะนาไปสู่ความสาเร็จของการเรียนการสอน จึงจาเป็นต้องมีวิธีการเรยี น การสอนและเทคนิคการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมอย่างหลากหลาย การจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยการฝกึ ทกั ษะ ลงมือปฏิบัติ และการมีความคิดสร้างสรรค์จงึ เปน็ อกี ทางเลือกท่มี ีความสาคัญที่ช่วยสู่ความสาเร็จ กิจกรรมการ ฝึกทักษะเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เน้นการจัดการเรียนรู้ตามสภาพจริงของ ผเู้ รียน เช่น การเรยี นรู้ตวั เอง การเรยี นรกู้ ารอย่รู ว่ มกนั กบั ผู้อ่ืน การเรยี นรูจ้ ากชุมชน และการเรียนรู้บรู ณาการ จากการเรียนการสอนรายวิชาการบริหารจัดการขยะ ช้ันระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากการจัดทาโครงงาน มหกรรมวิชาการ กศน.อาเภอคลองหลวง ไดม้ ขี อ้ เสนอแนะให้มกี ารนาเสนอผลงานของนกั ศึกษาแต่ละศนู ย์การ เรียนรู้ เพื่อเป็นผลงานในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานการประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ โดยการบูรณาการกับ รายวิชาการบรหิ ารจัดการขยะ การประดิษฐ์เป็นการนาภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ มาเผยแพรอ่ ีกดว้ ย ศูนย์การเรยี นรู้ชุมชนคลองหลวงจึงสง่ เสริมการเรียนรู้ตามความสนใจของผู้เรียน เพอ่ื เปน็ การเรียนรู้ที่ ให้ผู้เรียนได้เลือกการศึกษาโครงงานจากส่ิงท่ีสนใจและอยากรจู้ ากขยะท่ีไม่มคี ่า สามารถนามาประดิษฐ์ใหเ้ กดิ มูลคา่ เกดิ ประโยชนใ์ ห้มากที่สุดได้อย่างไร โดยการศกึ ษาจากรายวิชาการบริหารจัดการขยะนักศึกษาจะทราบ ได้ว่าวัสดุหรือของเหลือใชส้ ิง่ ใด ประเภทอะไรที่จะสามารถนามาประดิษฐล์ ัดทาเปน็ โครงงานที่เดน่ เปน็ ของ ศร ช.คลองหลวง การทาโครงงานน้ีต้องยึดเนื้อหาสาระตามหลักสูตรของรายวิชาโครงงานช้ันระดับการศึกษา ตอนต้น บทบาทของผู้สอนได้มีการจัดการเรียนการสอนช้ีแจงวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิด แนวคดิ ที่จัดทาโครงงานบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ ผ้สู อนอยู่ร่วมเปน็ ทปี่ รึกษาในการวางแผนการ แนะนาการเลือก วัสดุที่ใกล้ตัวผู้เรียนมากที่สุด เช่น กล่องกระดาษ ไม้ไอติม ขวดพลาสติก และช้อนพลาสติก ซ่ึงเป็นของทีห่ าได้ ง่าย หลังจากท่ีผู้เรียนได้ค้นคว้าข้อมูลจึงสามารถลงมอื ปฏิบัติจัดทาโครงงานได้ตามขั้นตอนท่ีวางแผนไว้ ผู้สอน คอยตติ าม สอบถามความก้าวหน้าของการทาโครงงานส่ิงประดษิ ฐ์ของผเู้ รียนเสมอ เพอ่ื ความพรอ้ มของผ้เู รียน ในการเผยแพรผ่ ลงานตอ่ ไป 3. ข้ันตอนดำเนินงำน 1. ครศู ึกษารายวชิ าการจดั การเรยี นการสอนตามหลักสตู รการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 2. ศึกษาและสารวจความต้องการของผเู้ รยี นท่มี ีแนวคิดของการเกดิ เรียนรทู้ ่ีจะทาโครงงานสิง่ ประดิษฐ์ 3. จัดการเรียนการสอนแบบผู้เรยี นเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนมีแนวคิดท่ีเกิดการเรยี นร้คู ิดเปน็ จากการเรยี น แบบบูรณาการจากรายวชิ าการบริหารจดั การขยะ สู่การเรียนรแู้ บบโครงงานส่งิ ประดษิ ฐ์ 4. ดาเนนิ การจัดการเรยี นการสอนแบบโครงงาน สิ่งประดิษฐ์ - การกาหนดช่ือโครงงาน - การสารวจวัสดุที่เหลอื ใชท้ ่ีจะสามารถดาเนนิ โครงงานส่ิงประดิษฐ์ - การวางแผนดาเนนิ งาน - การเขยี นแบบเสนอโครงงาน

สรุปผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 213 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี - แบบนาเสนอโครงงาน,รายงาน - การนาเสนอผลงาน 5. ใหผ้ ้เู รียนคิดชอื่ ช้ินงาน รวบรวมส่งให้กับผสู้ อนเพ่อื เก็บข้อมูลไว้ 6. ผเู้ รยี นลงมือปฏิบัติตามทวี่ างแผนไว้ 4. ผลกำรดำเนนิ งำน ผลจากการจัดการเรียนรู้ของศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคลองหลวงท่ีเป็น best practices กิจกรรมการ เรียนการสอบแบบโครงงาน สิ่งประดษิ ฐ์ เป็นการสง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียน คดิ เปน็ ทาเป็น และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ท่ี นาวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์เป็นส่ิงของที่มีประโยชน์ ทั้งนี้ การจัดการเรียนครั้งน้ีผู้เรียนสามารถมีความคิด สร้างสรรค์ เสนอผลงานเป็นส่ิงของใช้ สิ่งของตบแต่ง เพื่อให้เกิดความสวยงามหรือสามารถสร้างรายได้ให้แก่ ตัวเอง สามารถนาความร้ทู ีไ่ ดร้ บั ไปเผยแพร่สง่ เสรมิ การมีรายได้ใหก้ ับคนในชมุ ชนอกี ดว้ ย 5. ควำมสำเร็จท่ีเปน็ จดุ เด่น 1. ผูเ้ รียนมีความต้องการเรยี นรู้โครงงาน สงิ่ ประดิษฐ์ 2. ครมู ที ักษะการจัดการเรยี นการสอนแบบบูรณาการเรยี นรู้ชน/สถานศึกษามีการสนบั สนุนผู้เรยี น สม่าเสมอ 3. ผเู้ รียนมคี วามสามคั คแี ละช่วยเหลือซึง่ กัน 4. การวางแผนลงมือปฏบิ ตั ิผลงานส่ิงประดษิ ฐ์ 6. ปัญหำ อุปสรรค ข้อควรระวังกำรดำเนนิ งำนโครงงำนสิ่งประดิษฐ์ บาง คร้ั ง มีก าร ร วมก ลุ่ มทาชิ้ นง านส่ิง ปร ะดิษฐ์น อก เว ลาเรีย นจึง ทาให้เกิ ดปัญหาเวลาก าร นัดหมาย ดาเนินงาน 7. รำงวัลแห่งควำมสำเรจ็ 1. ได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับที่ 1 โครงงานคอนโดโคมไฟไม้ไอติม ภาคเรียนท่ี 2/2561 จาก กศน. อาเภอคลองหลวง 2. ได้รบั รางวัลชมเชย โครงงานหุน่ ยนต์จากกล่อง ภาคเรียนท่ี 1/2562 จาก กศน.อาเภอคลองหลวง 8. ข้อควรคำนึงถึงในกำรนำไปขยำยผล ควรสารวจส่ิงที่เหลือใช้และความต้องการของผู้เรียนในศูนย์การเรยี นรชู้ ุมชนนั้นๆ มีความต้องการอะไร อยากได้อะไร และท่ีสาคัญผู้สอนต้องจัดการเรียนการสอบโครงงานที่สามารถบูรณาการเรียนรู้ให้ได้กับรายวิชา เพ่อื จัดกิจกรรมได้ตรงกบั ความตอ้ งการ พร้อมไดร้ บั ความร่วมมือผู้เรยี นในศนู ย์การเรยี นชมุ ชน

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 214 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 9. ภำพกจิ กรรม โครงงานสิง่ ประดษิ ฐ์ ภาคเรียนที่ 2/2561 โครงงานสิง่ ประดษิ ฐ์ ภาคเรยี นที่ 2/2561

สรุปผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 215 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี 10. ขอ้ มูล/เอกสำรเว็บไซด์ /ทใี่ ช้อำ้ งองิ - เพจ กศน.อาเภอคลองหลวง - เพจ กศน.ตาบลคลองสอง 11. ผเู้ ขยี น นางสาวมณีรตั น์ ปทั มาภรณพ์ งศ์ ครู ศรช.คลองหลวง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี 12. ผู้สนบั สนนุ 1.ผอู้ านวยการสถานศึกษาศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี 2.ผเู้ รียนศูนย์การศึกษาชมุ ชนคลองหลวง 13. ผู้บรรณำธิกำร นางสาวมณีรตั น์ ปทั มาภรณ์พงศ์ ครู ศรช.

สรปุ ผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 216 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี 1. ชอ่ื กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นร้กู ำรสอนแบบโครงงำน (PROJECT BASED LEARNING) 2. ควำมเปน็ มำของกิจกรรม การจดั การเรียนการสอนในศตวรรษท่ี 21 การเรียนรู้ต้องสรา้ งแรงบนั ดาลใจให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้ เขา้ ใจ และสนุกกับกิจกรรมตามท่ีผู้สอนได้ออกแบบการเรียนรู้อย่างเหมาะสม โดยเอาเนื้อหาเป็นตัวตั้ง และจัด ประสบการณ์ท่ีหลากหลาย เรียนรู้ผ่านการเสาะหาความรู้ การลงมือทาและแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อให้ผู้เรียนมี ประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ่ีมคี ุณค่า การสอนแบบโครงงาน เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นหาความรู้ ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของตนเองในด้านต่าง ๆ มาจากแนวคิดพ้ืนฐานของการเรียนรู้โดย ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) และการเรียนรู้ตามสภาพจริง โดยมีการศึกษาหลักการ และวิธี เกี่ยวกบั โครงงานทีเ่ ลอื กศกึ ษา วิเคราะห์ วางแผนการทางาน ลงมอื ทางาน และปรบั ปรุง เพือ่ ใหง้ านบรรลุตาม วัตถุประสงค์ ในกระบวนการเรยี นการสอนไดใ้ ชท้ ักษะกระบวนการ สอดแทรกคุณธรรม ทางานเป็นกลุ่ม ฝกึ ปฏิบัติจริง เน้นผู้เรียนมีส่วนรว่ ม มีครูเป็นผู้ช้ีแนะ ให้คาปรึกษาตลอดเวลา เน้นฝึกคนให้แสวงหาความรดู้ ้วย ตนเอง ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคลองหลวง ได้จัดการเรียนการสอนให้กับนกั ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และได้จัดการเรียนการสอนแบบโครงงานให้กับผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการทางานด้วยตนเอง หรือร่วมกันทางานเป็นกลุ่มตามความถนัด ความสนใจของตนเอง สามารถวางแผนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ พัฒนาความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ศึกษา ค้นคว้า และแก้ปัญหาจากการทางาน เป็นส่ิงยืนยันว่าผู้เรียนเป็นผู้คดิ เปน็ ทาเปน็ แกป้ ญั หาเป็น มีความรู้ ความสามารถ และได้รบั ประสบการณ์ตรงในโครงงานท่ีทาจรงิ และนา แสดงผลงานในการประกวดโครงงาน ของ กศน.อาเภอคลองหลวง 3. ขนั้ ตอนดำเนนิ งำน 1. จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานในรายวิชาการทาโครงงานและรายวิชาการบริหารจัดการ ขยะ 2. ขั้นกาหนดปัญหา หรือสารวจความสนใจ ผู้สอนเสนอสถานการณ์หรือตัวอย่างท่ีเป็นปัญหาและ กระตุ้นให้ผู้เรียนหาวิธีการแก้ปัญหาหรือย่ัวยใุ ห้ผู้เรียนมคี วามต้องการใคร่เรียนใครร่ ู้ ในเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง พร้อม ยกตวั อย่างให้ผเู้ รียนไดร้ ่วมกนั วิเคราะห์ด้วยการใช้คาถาม อะไร เมื่อไหร่ หรือไม่ อย่างไร 3. ข้ันวางแผนและวิเคราะห์โครงงาน ให้ผู้เรียนวางแผนแก้ปัญหา ซึ่งเป็นโครงงานเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้ แล้วเสนอแผนการดาเนนิ งานใหผ้ ู้สอนพิจารณา ผูส้ อนแนะนาให้ผู้เรียนกาหนดจุดมงุ่ หมายให้ชัดเจนว่าเรียนเพ่ือ อะไร จะทาโครงงานนน้ั เพ่ือแก้ปญั หาอะไร ซ่ึงทาให้ผ้เู รียนกาหนดโครงงานแนวทางในการดาเนนิ งานได้ตรงตาม จุดมุ่งหมาย ให้ผู้เรียนวางแผนแก้ปัญหา ซึ่งเป็นโครงงานเด่ียวหรือกลุ่มก็ได้ แล้วเสนอแผนการดาเนินงานให้ ผู้สอนพิจารณา ให้คาแนะนาช่วยเหลือและข้อเสนอแนะการวางแผนโครงงานของผู้เรียน ผู้เรียนเขียนโครงงาน ตามหัวข้อซ่ึงมีหัวข้อสาคัญ (ชื่อโครงงาน หลักการและเหตุผลวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมาย เจ้าของโครงการ ท่ี ปรึกษาโครงการ แหลง่ ความรู้ สถานทดี่ าเนนิ การ ระยะเวลาดาเนินการ งบประมาณ วธิ ดี าเนนิ การ เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั )

สรุปผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 217 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 4. ขั้นลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหา ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหาตามแผนการที่กาหนดไว้โดยมี ผู้สอนเป็นท่ีปรึกษา คอยสังเกต ติดตาม แนะนาให้ผู้เรียนรู้จักสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกผลดาเนินการ ด้วยความมานะอดทน มีการประชุมอภปิ ราย ปรึกษาหารอื กันเปน็ ระยะ ๆ ผ้สู อนจะเข้าไปเกยี่ วข้องเท่าทจ่ี าเป็น ผู้เรียนเป็นผู้ใช้ความคิด ความรู้ ในการวางแผนและตัดสินใจทาด้วยตนเอง ผู้สอนแนะนาให้ผู้เรียนรู้จัก ประเมินผลก่อนดาเนินการระหว่างดาเนินการและหลังดาเนินการ คือรู้จักพิจารณาว่าก่อนท่ีจะดาเนินการมี สภาพเป็นอย่างไร มีปัญหาอย่างไรระหว่างท่ีดาเนินงานตามโครงงานน้ัน ยังมีส่ิงใดที่ผิดพลาดหรือเป็น ขอ้ บกพร่องอยู่ ตอ้ งแก้ไขอะไรอกี บา้ ง มีวิธแี ก้ไขอยา่ งไร เมื่อดาเนินการไปแล้วผู้เรยี นมีแนวคิดอย่างไร มคี วาม พึงพอใจหรือไม่ ผลของการดาเนนิ การตามโครงงาน ผเู้ รียนได้ความรู้อะไร ไดป้ ระโยชน์อย่างไร และสามารถนา ความรู้น้ันไปพัฒนาปรับปรุงงานได้อยา่ งดียง่ิ ขึน้ หรอื เอาความรู้น้นั ไปใชใ้ นชีวติ ได้อยา่ งไร 5. ในการรายงานผล และเสนอผลงาน ได้ให้ผู้เรียนสรุปและเขียนรายงานเพ่ือนาเสนอผลงาน ซ่ึง นอกเหนือจากรายงานเอกสารแล้ว แผนภาพ แบบจาลอง หรือของจริงประกอบการนาเสนอ พร้อมให้กลุ่ม ผู้เรียนที่ได้รับการคัดสรรในกลุ่มศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคลองหลวง เข้าแสดงนิทรรศการ ในโครงการประกวด โครงงานโดยการใช้หลักสะเตม็ ศกึ ษา STEM Education กศน.อาเภอคลองหลวง 4. ควำมสำเรจ็ ทเี่ ปน็ จุดเดน่ 1. ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจของตนเอง 2. ผู้เรยี นเปน็ ผใู้ ชค้ วามคิด ความรู้ ในการวางแผนและตัดสนิ ใจทาดว้ ยตนเอง 3. ผ้เู รยี นไดฝ้ ึกทักษะกระบวนการทางานดว้ ยตนเองและการทางานรวมกันเป็นทมี 4. สามารถวางแผนการทางานอย่างเป็นระบบ พฒั นาความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ 5. เปน็ สง่ิ ยืนยนั ว่าผ้เู รยี นเป็นผู้ คิดเป็น ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ 5. ปัญหำ อปุ สรรค ขอ้ ควรระวงั ในกำรจดั โครงกำร ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบโครงงานเนน้ ไปท่กี ิจกรรมกลุ่ม การร่วมกลุ่มของนักศึกษาใน การทางานนอกสถานท่ี นอกเวลาเรียน มเี วลาวา่ งไมค่ ่อยตรงกนั 6. รำงวลั แหง่ ควำมสำเร็จ ได้รบั รางวลั รองชนะเลศิ อันดับ 1 โครงงานส่ิงประดิษฐ์ และ รางวลั ชมเชย 2 รางวัล จากการประกวด โครงงานโดยการใช้หลักสะเต็มศึกษา STEM Education กศน.อาเภอคลองหลวง

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 218 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทุมธานี 7. ข้อควรคำนงึ ถึงในกำรนำไปขยำยผล 1. การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน จะประสบความสาเร็จได้ต้องเป็นโครงงานท่ีมาจากความสนใจท่ี แทจ้ ริงของผู้เรียน 2. ครูผ้สู อนเป็นทป่ี รกึ ษาใหข้ อ้ เสนอแนะจนบรรลุผลตามจุดมงุ่ หมายของโครงงาน 8. ภำพกจิ กรรม การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวเิ คราะห์ด้วยการใชค้ าถาม อะไร เมื่อไหร่ หรือไม่ อย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันตอนลงมือปฏิบตั ิ การแกป้ ญั หา การทางานเปน็ ทีม

สรปุ ผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 219 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี การจัดนิทรรศการแสดงผลงาน พร้อมนาเสนอผลงาน ในโครงการประกวดโครงงานโดยการใช้หลักสะ เตม็ ศึกษา STEM Education กศน.อาเภอคลองหลวง รางวัลแห่งความสาเร็จ เกียรติบัตรประกาศรางวัล โครงงานส่งิ ประดิษฐ์ รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดับ 1 โครงงานสงิ่ ประดษิ ฐ์ และ รางวัลชมเชย 2 รางวัล 9. ขอ้ มูล/เอกสำรเว็บไซด์ /ทีใ่ ชอ้ ำ้ งองิ  เพจ ศรช.คลองหลวง อาเภอคลองหลวง  เพจกศน.อาเภอคลองหลวง  เวบ็ ไซด์ กศน.อาเภอคลองหลวง

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 220 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี 10. ผู้เขียน นางสาวฐิติรัตน์ แสนนาน ครูศนู ย์การเรียนรชู้ มุ ชนคลองหลวง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี 11. ผสู้ นบั สนนุ  นกั ศกึ ษาศูนยก์ ารเรียนรู้ชมุ ชนคลองหลวง  ครูศูนยก์ ารเรียนรชู้ มุ ชน  ครู กศน.ตาบล  ข้าราชการ กศน.อาเภอคลองหลวง  ผู้อานวยการ กศน.อาเภอคลองหลวง  ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคลองหลวง  เครือข่ายผ้ปู กครอง 12. ผบู้ รรณำธกิ ำร นางสาวฐิติรตั น์ แสนนาม ครูศนู ยก์ ารเรียนรชู้ ุมชน

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 221 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี ผลงำน กจิ กรรม การอภิปรายกล่มุ ยอ่ ยที่มผี ลตอ่ การเรียนรู้ในชั้นเรียน เสนอผลงำน นางสาวสมจติ ร์ เดชบุญ สถำนศึกษำ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอคลองหลวง สังกดั สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จังหวัดปทมุ ธานี ควำมสอดคลอ้ ง แนวทางตามยุทธศาสตร์ และจุดเนน้ การดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั ประจาปี 2562 ควำมเปน็ มำ การจัดการศึกษาในปัจจุบันได้มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญและใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง ให้มีการเช่ือมโยงการคิดวิจารณญาณการแก้ไขปัญหา การเรียนรู้ด้วยตนเอง การใฝ่รู้และการ พัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ งตลอดชีวิตการใช้กระบวนการทางปัญญาในการส่งเสริมการเรียนรูข้ องผู้เรียน การ คิดอย่างมีวิจารณญาณเป็นการคิดพิจารณาไตร่ตรองอยา่ งมีเหตุผล เพื่อการตัดสินใจว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือส่ิงใด ควรทาซึง่ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณสามารถเรยี นรไู้ ด้ และเปน็ ผลของบุคคลท่ไี ด้การฝึกอบรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการเรียนการสอนทม่ี ีกลยทุ ธใ์ นการใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ ม ให้โอกาสผูเ้ รยี นไดม้ ีโอกาสโตแ้ ยง้ ถกเถยี งได้แสดง ความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผล และเปน็ อสิ ระยอ่ มไปสกู่ ารคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณได้ การเรียนแบบอภิปรายกลุ่มย่อย เป็นกลยุทธ์การเรียนการสอนวิธีหน่ึงที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีการ แลกเปล่ียนความคิดเห็นซ่ึงกนั และกนั เพื่อชว่ ยแก้ไขปญั หาอย่างใดอยา่ งหน่งึ ระหว่างผเู้ รียนกับ ผู้สอนหรือระหวา่ งผู้เรยี นด้วยกัน โดยผู้สอนเป็นผู้ประสานงาน การเรียนแบบอภิปรายกลุ่มย่อยจะช่วยฝึกการ คิดอย่างมีวิจารณญาณได้มาก เน่ืองจากผู้เรียนต้องแสดงความคิดเห็น และอภิปรายได้ ผู้เรียนต้องผ่าน กระบวนการคดิ ในตวั ของผเู้ รยี นเองการเรยี นแบบอภิปรายกลุ่มย่อยจะดาเนินการได้บรรลุวัตถุประสงคย์ อ่ มเกิด จากความรู้เดมิ ของผู้เรยี นส่วนหนึง่ และการสร้างความรู้ใหม่จากการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น ซ่ึงกนั และกันระหว่างผู้เรยี นในกลุ่ม วิธีการน้ีจะเป็นรปู แบบการเรียนการสอนทีเ่ น้นผู้เรยี นเป็นศูนยก์ ลาง โดยผู้เรยี น สรา้ งสรรค์ความรตู้ า่ งๆ ออกมาจากการระดมความคดิ รว่ มกนั ของสมาชกิ กลุม่ เพ่ือสรปุ ความคดิ เห็นของกลมุ่ ดังนั้นในการเรียนแบบอภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย ศรช.มัสยิดลาสนนุ่ ไดใ้ หส้ าคญั กับกสารพัฒนาการเรียนรขู้ อง ผู้เรียน โดยออกแผนการเรียนรู้รูปแบบการอภิปรายผู้สอนต้องเปน็ ผู้จุดประกายให้ผู้เรียนเกิดประเด็นปัญหาที่ นาไปส่กู ารอภิปรายหาข้อสรุปรว่ มกัน การทผี่ ู้เรยี นซงึ่ เป็นสมาชิกกล่มุ ต้องการให้กลมุ่ ยอมรับความคดิ เห็นของ ตนน้ันต้องมีข้อมูลสนับสนุนมากพอ ผู้เรียนจึงต้องศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติม นาไปสู่การเรียนรู้ด้วยตนเอง การ เรียนรู้ดว้ ยตนเองเปน็ การท่ีผู้เรียนเสาะแสวงขวนขวายท่ีจะศกึ ษาต่อดว้ ยตนเอง โดยไม่ตอ้ งมีผู้ใดบังคับเป็นการ เรียนท่ีเกิดจากใจรักใจชอบ เพ่ือความพึงพอใจท่ีเกิดจากกิจกรรมการเรียนเกิดจากแรงจูงใจภายในของบุคคล ดังนนั้ จึงกลา่ วได้วา่ การสอนแบบอภปิ รายกลมุ่ ย่อยนาไปสกู่ ารฝึกการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ให้เกิดความสามัคคี ทางานเปน็ หมู่คณะ 2. เพือ่ ใหน้ ักศึกษากล้าแสดงออก มีความเป็นผนู้ า

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 222 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 3. เพอ่ื ให้นักศกึ ษาเข้าใจเนอ้ื หาวิชาท่ีเรยี นเพม่ิ มากขึ้น 4. เพ่ือใหน้ กั ศกึ ษามีส่วนร่วมในการเรียนการสอนในช้ันเรยี น 5. เพื่อให้มีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เนอื้ หาวิชาการเรียนการสอน เปำ้ หมำย เชิงปริมำณ 1. นักศึกษา ศรช.มสั ยิดลาสนุ่น ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น จานวน 91 คน 2. นักศึกษา ศรช. มัสยดิ ลาสน่นุ ได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ เชงิ คณุ ภำพ 1. นักศึกษากลา้ แสดงออก และทางานเป็นหมู่คณะ 2. นกั ศึกษาเขา้ ใจเน้ือหาวิชาในการจัดกระบวนการเรยี นการสอน ขันตอนกำรดำเนนิ งำน 1. ผูส้ อนจัดผเู้ รียนออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ กล่มุ ละประมาณ 4-8 คน 2. ผสู้ อน / ผู้เรียนกาหนดประเดน็ ในการอภปิ ราย 3. ผูเ้ รยี นพดู คยุ แลกเปล่ียนความคิดเห็นกนั ตามประเดน็ อภิปราย 4. ผเู้ รยี นสรุปสาระท่ีสมาชิกกลมุ่ ได้อภิปรายรว่ มกันเปน็ ขอ้ สรปุ ของกลุ่ม 5. ผสู้ อนและผู้เรยี นนาข้อสรุปของกลมุ่ ย่อยมาใชใ้ นการสรปุ บทเรยี น 1. กำรวำงแผนกำรจัดกิจกรรม (P) 1. วางแผนการจดั การเรียนรกู้ ารอภิปรายกลุม่ ย่อยที่มีผลต่อการเรยี นรใู้ นชั้นเรียน 2. จดั ทาการออกแบบแผนการจัดการเรยี นรกู้ ารอภปิ รายกลมุ่ ยอ่ ยทมี่ ีผลตอ่ การเรียนรู้ ในช้นั เรยี น 3. จดั ดาเนนิ การจัดทาการสอนการออกแบบแผนการจดั การเรียนร้กู ารอภิปรายกลุม่ ยอ่ ยทีม่ ีผลตอ่ การเรยี นร้ใู นช้นั เรยี น 4. สรปุ ผล และให้นักศึกษาจดั ทารายงานผลการอภปิ รายกลมุ่ ยอ่ ย 2. กำรดำเนนิ กำรจัดกิจกรรม (D) 1. กำรจดั ผู้เรียนเป็นกล่มุ ย่อย จานวนสมาชิกในกลุ่มย่อยควรมีประมาณ 4-8 คน จานวนท่ีเหมาะสมที่สุดคือระหวา่ ง 4-6 คน คือเป็นกลุ่มท่ีไม่เล็กเกินไป และไม่ใหญ่เกินไป เพราะถ้ากลุ่มเล็กเกินไป กลุ่มจะไม่ได้ความคิดท่ี หลากหลายเพียงพอ ถ้ากลุ่มใหญ่เกนิ ไป สมาชิกกลุ่มจะมีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้นอ้ ยหรือได้ไม่ทั่วถึง การ แบง่ ผเู้ รยี นเขา้ กลุ่ม อาจทาโดยวิธีสมุ่ เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมโี อกาส ไดร้ ว่ มกลุ่มกบั เพือ่ นไม่ซา้ กัน หรอื อาจจัดผเู้ รียนเข้า กลุ่มคละความสามารถ เพ่ือให้ผู้เรียนท่ีเก่งช่วยเหลือผู้ที่เรียนอ่อน หรืออาจจัดผู้เรียนเข้ากลุ่มจาแนกตามเพศ วัย (ถ้าผู้เรียนมีหลายวัย) ความสนใจ ความสามารถ หรือเลือกอย่างเจาะจงตามปัญหาที่มีก็ได้ ข้ึนกับ วัตถปุ ระสงค์ของผู้สอนและส่งิ ทจ่ี ะอภิปราย เทคนิคทใ่ี ช้ในการแบ่งกล่มุ มีหลากหลาย เช่น ใชก้ ารนับหมายเลข

สรุปผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 223 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี หรือเป็นภาพ เป็นข้อความ ผู้ที่จับฉลากได้เหมือนกัน ให้รวมกลุ่มกัน หรือใช้เกมต่าง ๆ เช่น เกมคาสั่งจับกลุ่ม โดยผู้เรียนราวงตามเสียงเพลงหรือดนตรี เมื่อดนตรีหรือเพลงหยุด ผู้สอนจะออกคาสั่งให้ผู้เรียนจับกลุ่มตาม จานวนที่ครสู ง่ั เชน่ จับ 4 จบั 6 หรือจบั กลุ่มหญิง 3 ชาย 1 ให้ผูเ้ รยี นเกดิ ความสนกุ สนาน จนกระทง่ั ในท่สี ดุ ครู สง่ั ใหจ้ บั กลมุ่ ตามจานวนที่ครตู ้องการ เทคนิคการจดั กล่มุ จะช่วยให้ผ้เู รยี นไมเ่ กดิ ความเบ่ือหน่ายในการแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะเม่ือครูจาเป็นต้องแบ่งกลุ่มบ่อย ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกและสนใจที่จะเรียนรใู้ นกิจกรรมต่อไป เมื่อจัดผู้เรียนเข้ากลุ่มแล้ว ผู้สอนควรดูแลให้กลุ่มจัดท่ีนั่งภายในกลุ่มให้เรียบร้อย ให้อยู่ในลักษณะท่ีทุกคน มองเห็นกัน และรับฟังกันได้ดี นอกจากนั้นในกรณีที่มีหลายกลุ่ม ผู้สอนควรจัดกลุ่มให้ห่างกันพอสมควร เพ่ือ ไมใ่ หเ้ สียงอภปิ รายจากลุ่มรบกวนกนั และกนั 2. ประเด็นกำรอภปิ รำย การอภปิ รายจาเปน็ ต้องมีประเดน็ ในการอภิปราย มีวัตถปุ ระสงค์ของการอภิปรายที่ ชดั เจน ประเดน็ การอภปิ รายอาจจะมาจากผู้สอนหรือผู้เรียนก็ได้ แล้วแตก่ รณี การอภปิ รายแตล่ ะคร้ังไม่ควรมี ประเด็นมากจนเกนิ ไป เพราะจะทาให้ผู้เรียนอภิปรายไดไ้ มเ่ ต็มที่ 3. กำรอภปิ รำย การจัดกล่มุ อภปิ รายมีหลายแบบ (ดรู ายละเอยี ดในขอ้ 7.5.6) ผูส้ อนควรเลือกใช้ให้ เหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ ในการอภปิ รายทด่ี โี ดยทวั่ ไป ควรมกี ารกาหนดบทบาทหนา้ ทท่ี จ่ี าเปน็ ในการอภิปราย เชน่ ประธานหรือผูน้ าในการอภปิ ราย เลขานุการผจู้ ดบันทึกการประชุม และผรู้ ักษาเวลา เปน็ ตน้ นอกจากน้ัน สมาชิกล่มุ ทุกคนควรมีความเข้าใจตรงกนั ว่า ตนมบี ทบาทหน้าท่ีทจ่ี ะตอ้ งช่วยให้กลมุ่ ทางานได้สาเร็จ มใิ ชป่ ล่อย ให้เปน็ ความรับผิดชอบของสมาชิกเพยี งบางคน หากสมาชิกกล่มุ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจว่า สมาชกิ กลุ่มทดี่ คี วรทา อะไรบ้าง เช่น ให้ข้อมูล แสดงความคิดเห็น ซักถาม โต้แย้ง สนับสนุน ช่วยไม่ให้กลุ่มออกนอกเรื่อง และสรุป เป็นต้น การอภิปรายจะเป็นไปได้ดี ผู้สอนจึงควรให้ความรู้ความเข้าใจหรือคาแนะนาแก่กลุ่มก่อนการอภปิ ราย และควรย้าถึงความสาคัญของการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่วมในการอภิปรายอย่างทั่วถึง ไม่ให้มีการ ผูกขาดการอภิปรายโดยผู้ใดผู้หนึง่ เพราะวัตถุประสงค์หลักของการอภิปรายก็คือ การให้ผู้เรียนมีโอกาสแสดง ความคิดเห็นอย่างท่ัวถึง และได้รับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย อันจะช่วยให้ผู้เรียนมีความคิดที่ลึกซ้ึง และ รอบคอบขึ้น การอภิปรายที่ดีควรดาเนินการไปท่ีละประเด็น จะได้ไม่เกิดความสับสน และในกรณีท่ีมีหลาย ประเด็น ควรมีการจากัดเวลาของการอภิปรายแต่ละประเดน็ มิฉะน้นั การ อภิปรายอาจยืดยาว เย่ินเย้อ และประเด็ดที่อยู่ท้าย ๆ จะไม่ได้รับการอภิปราย เพราะหมดเวลาเสียก่อน ประเดน็ การอภิปรายกับเวลาท่ใี ห้ ควรมคี วามพอเหมาะกนั 4. กำรสรุปผลกำรอภิปรำย ก่อนที่การอภิปรายจะยุติลง กลุ่มจาเป็นต้องมีการสรุปผลการอภิปราย เพื่อให้ได้ คาตอบตามประเด็นท่ีกาหนด ผู้สอนควรบอกหรือให้สัญญาณแก่กลุ่มอภิปรายประมาณ 3-5 นาที ก่อนหมด

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 224 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี เวลา เพอื่ กลมุ่ จะได้สรุปผลการอภิปรายเปน็ ข้อสรุปของกลมุ่ ซึ่งหลงั จากน้ันผสู้ อนอาจใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผล การอภปิ รายแลกเปลย่ี นกัน หรอื ดาเนนิ การในรูปแบบอ่ืนตอ่ ไป ผลกำรดำเนนิ กจิ กรรม ตัวชว้ี ัดผลผลิต นกั ศึกษามีความสามัคคี ทางานเป็นทมี กลา้ แสดงออก มีความเปน็ ผนู้ า ตัวช้วี ัดผลลพั ธ์ นักศกึ ษาไดร้ ับความรู้ ความเข้าใจ เนื้อหาวิชาการเรียนการสอนในช้นั เรยี น 3.ขนั้ ตอนกำรตรวจสอบกิจกรรม (C) 1. การดาเนนิ งานติดตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ 2. การจัดทารายงานการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษา เพอื่ สะทอ้ นผลใหส้ ถานศกึ ษานาไป ปรบั ปรุงและพัฒนาการดาเนนิ งานตามระบบการประกันคณุ ภาพภายในอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 5. การนาขอ้ มูลทไ่ี ด้ไปใช้ประโยชน์ในการปรบั ปรุงและพัฒนาคุณภาพการจดั การเรยี นการสอน ควำมสำเรจ็ ทีเ่ ป็นจดุ เด่น 1. นักศกึ ษาใหก้ ารตอบรบั ในกจิ กรรม การอภิปรายกลมุ่ ย่อยทมี่ ผี ลต่อการเรยี นรู้ ในชั้นเรียน โดยประเมินจากการใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเปน็ อย่างดี มีความสามัคคี กล้าคิด กล้าแสดงออก 2. งบประมาณสนบั สนนุ่ จาก หน่วยงานตน้ สังกดั 3. จดั ทาการสรุปบันทกึ การทาการอภปิ รายกลมุ่ ยอ่ ยทมี่ ีผลต่อการเรยี นรู้ ในชนั้ เรยี น ทกุ ครงั้ โดยการทางาน

สรปุ ผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 225 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 4.ขน้ั ตอนกำรปรับปรงุ แกไ้ ข (A) ปญั หำ อปุ สรรค/ ข้อควรระวังในกำรจดั โครงกำร หรือกจิ กรรม 1. การจัดกิจกรรมการอภิปรายกลุ่มย่อยที่มีผลต่อการเรียนรู้ในชั้นเรียนเป็นวิธีการสอนท่ีใช้ เวลามาก 2. การจดั กจิ กรรมการอภิปรายกลุ่มย่อยที่มีผลตอ่ การเรียนรู้ในช้ันเรียนเปน็ วิธีการสอนท่ีต้อง อาศยั สถานท่ี หรอื บริเวณทกี่ วา้ งพอจะจัดกลุ่มใหอ้ ภิปรายกันได้ โดยไม่รบกวนกนั 3. ผู้เรียนไม่รู้ หรือไม่ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของสมาชิกกลุ่มที่ดีการอภิปรายอาจไม่ได้ ผลดี 4 สามาชิกกล่มุ และผูส้ อน ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไดด้ ี อาจเกดิ ปัญหาการปฏิสมั พนั ธ์ ระหวา่ งสมาชกิ ในกล่มุ ได้ กำรขยำยผล 1. สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในการประชมุ ในพ้ืนที่ ชมุ ชน หมู่บ้าน เพอ่ื เปิดโอกาสใหช้ าวบ้านมีการอภปิ รายรว่ มกนั ในการสะท้อนปญั หาและความต้องการของ ชุมชน 2. นักศกึ ษาสามารถนาไปใชใ้ นการเรยี นการสอนในสถานทีเ่ รียนใหม่ ระดบั ชน้ั ท่ีสงู ข้ึน 3. นกั ศกึ ษาสามารถนาไปใช้ในสถานทท่ี างาน โดยการใหพ้ นักงานจักกลมุ่ อภิปรายเกี่ยวกับ งาน

สรปุ ผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 226 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี ผเู้ สนอผลงำน นางกาญจนา ศรีโบราณ สถำนศึกษำ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหลวง สังกัด สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดปทุมธานี การทางานเปน็ กล่มุ เป็นการที่บุคคลต้งั แต่สองคนขึ้นไปรว่ มกนั ปฏิบตั งิ านอย่างใดอย่างหนึง่ โดยมเี ปา้ หมายรว่ มกนั และทกุ คนในกลุ่มมบี ทบาทในการช่วยดาเนินงานกลมุ่ มีการตดิ ตอ่ สื่อสาร ประสานงาน และตัดสนิ ใจร่วมกนั เพอื่ ให้งานบรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของกลุม่ มนษุ ยท์ ุกคนมคี วามจากัด ด้านพลัง การทางานเป็นกลุ่มจึงเป็นเรื่องที่จาเป็น โดยเฉพาะการทางานใหญ่ หรือการทางานท่ีสลับซับซ้อน ซึ่งต้องช่วยกันทางานและช่วยกันคิดแก้ปัญหา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่ืน ซ่ึงเป็นการ ตอบสนองความต้องการพ้ืนฐานทจี่ าเป็นของมนษุ ย์ ลักษณะสงั คมในปัจจบุ ันเปน็ สงั คมทม่ี กี ารทางานร่วมกันใน ทุกระดับและทุกองค์กรหากเราไม่มีความสามรถในการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มแล้วก็จะเกิดปัญหาในทุกระดบั และทุกองค์กร ซ่ึงเป็นอุปสรรคต่อความเป็นอยู่และความเจริญก้าวหน้าของสถาบันและประเทศชาติ การทางานเป็นกลุ่มให้ผลงานทด่ี กี วา่ การทางานเดี่ยว มพี ลังมากกวา่ การนาพลงั ของแตล่ ะบคุ คลมารวมกัน และ การท่บี คุ คลมโี อกาสมารวมกันทางานชว่ ยให้บุคคลนัน้ ได้เรียนรู้จากผู้อื่น เกดิ เปน็ ความเจริญงอกงามแหง่ ตนข้ึน ในขณะเดยี วกันความเจรญิ สว่ นบคุ คลกจ็ ะสง่ ผลใหก้ ลุม่ เจรญิ งอกงามตามไปด้วย ในการน้ี ศรช.อบต.คลองสาม เล็งเห็นถึงปัญหาในการจัดการเรยี นการสอน เพราะนักศึกษา บางคนมาช้า มาเร็ว ซึ่งในการจัดการเรยี นการสอนเป็นปัญหาอย่างมาก เพราะบางคร้งั ครูจะตอ้ งเร่มิ ต้นใหม่ทา ให้เสยี เวลาในการสอนสาหรับผทู้ ีม่ าพบกลุ่มตามเวลาปกติ โดยดฉิ นั ได้เลง็ เห็นถึงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ กิจกรรมกลุ่มเพื่อใหเ้ พ่ือนในกลมุ่ ช่วยกนั ใหค้ นท่มี าเรว็ ช่วยสอนผู้ที่มาช้าเพ่ือใหแ้ สดองออกถงึ ความมีนา้ ใจ รูจ้ ัก การช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม รู้จักเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ รู้จักการเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี ยอมรับความคิดเห็นของกันและ กันภายในกลุ่ม ทาให้งานออกมาประสบความสาเร็จได้ และสามารถพัฒนาตัวเองทาให้สามารถอยู่ร่วมกัน ภายในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 227 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพือ่ ให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปตามแผน 2.เพื่อให้นักศึกษาแสดงออกถึงความมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีดี กล้าแสดงออก รู้จักช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน มีนา้ ใจ และสามารถอยรู่ ่วมกันในสังคมได้ 3.เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมีผลการเรียนท่ีดขี ้ึน กล่มุ เปำ้ หมำย นักศึกษาศนู ย์การเรยี น อบต.คลองสาม เชิงคุณภาพ นักศึกษาศูนย์การเรียน อบต.คลองสาม แสดงออกถึงความมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีดี กล้าแสดงออก รู้จกั ช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกัน มนี ้าใจ และสามารถอยูร่ ่วมกันในสงั คมได้ รวมทง้ั มผี ลการเรียนท่ีดีข้นึ 3.ขนั้ ตอนการดาเนินงาน กำรวำงแผนกำรจัดกิจกรรม (P) การเรียนรู้ท่ีเกิดจากการบรรยายเพียงอย่างเดียวไม่พอ ที่จะทาให้ผู้เรียนเกิดการเปล่ียนแปลงและ พัฒนาพฤติกรรม แต่การจดั การเรียนการสอนเพอื่ พฒั นาพฤติกรรมผู้เรยี นโดยกระบวนการกลมุ่ จะเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ใช้ศักยภาพของแต่ละคนทั้งในด้านความคิด การกระทาและความรู้สึกมาแลกเปลี่ยนความคิดและ ประสบการณ์ซ่ึงกันและกัน การเรียนรู้ควรจะเป็นกระบวนการกลุ่มที่สร้างสรรค์บรรยากาศการทางานการ ทางานกลุ่มที่ให้ผูเ้ รยี นมอี สิ ระในการแสดงความรู้สกึ นกึ คิด มีบทบาทในการรับผิดชอบตอ่ การเรยี นรขู้ องตนโดย มีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนการสอนจะชว่ ยให้การเรยี นรเู้ ปน็ ไปอย่างมชี วี ิตชวี าและชว่ ยกระต้นุ ให้ผเู้ รยี นเกิด ความกระตือรือร้นในการเรียน การเรียนรู้ควรเป็นระบวนการที่ผู้เรียนค้นพบด้วยตนเอง การเรียนรู้ด้วยการ กระทากิจกรรมด้วยตนเองจะช่วยให้ผู้เรียนมโี อกาสเรียนรู้เน้อื หาวิชาหรือสาระจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม ซึ่งจะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความใจอยา่ งลกึ ซ้งึ จดจาไดด้ ี อันจะนาไปสูก่ ารปรบั เปล่ยี นเจตคติและพฤติกรรมของตน ได้รวมท้ังสามารถนาไปสู่การนาไปพัฒนาบุคลิกภาพทุกด้านของผู้เรียน การเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการเรียนร้เู ปน็ เครอ่ื งมือท่ีจาเป็นในการแสวงหาความรู้ทีเ่ ปน็ ตอ่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกด้าน ดังนัน้ ถ้าผู้เรียนได้เรียนรู้อยา่ งมีระและมขี ั้นตอนจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้เป็นเครือ่ งมือในการแสวงหาความรหู้ รือ ตอบคาถามการรูไ้ ด้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ในการนี้ ศรช.อบต.คลองสาม เริม่ ตน้ วางแผน

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 228 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 1.วิเคราะห์ผู้เรียน โดยพ้ืนฐานของผู้เรียนแต่ละคนพ้ืนฐานมาไม่เท่ากัน จาเป็นอย่างมากที่ครูต้อง วิเคราะห์ผ้เู รียนกอ่ น เพอื่ ที่จะนามาใช้เป็นองคป์ ระกอบในการจัดการเรียนรู้โดยใชก้ จิ กรรมกล่มุ 2.กาหนดแผนการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้ตอบสนองปัญหาของ นักศึกษาและครูผูส้ อน 3.กาหนดเนื้อหาในการสอนแต่ละคร้ัง เพราะเน้ือหาบางเนื้อหามีท้ังยาก ปานกลาง ง่าย แตกต่าง กันไป จาเป็นอย่างมากที่ครูและนักศึกษาจะต้องร่วมกันวิเคราะห์เน้ือหาที่จะนามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมกลมุ่ 4.กาหนดสมาชกิ ในกล่มุ เพราะผเู้ รียนบางคนมคี วามสามารถในการเรียนไมเ่ ท่ากนั จะได้ชว่ ยกันทางาน กลุ่ม คนท่เี กง่ ก็จะดึงเพ่ือนขน้ึ มาได้ คนท่ไี มเ่ กง่ ก็ขยับตวั ขนึ้ มา 5.กาหนดกฎและกติกาการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม เพราะเป็นการประเมินผลในการจัด กจิ กรรมด้วย ว่ากจิ กรรมท่ีดาเนินการจัดไปนน้ั บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามทเี่ ราวางแผนไว้ไหม เพอ่ื ท่ีจะนากลับมา แกไ้ ขในครง้ั ถดั ไป กำรดำเนินกำรจัดกิจกรรม (D) การเรียนแบบกระบวนการกลุ่ม เป็นประสบการณ์ทางการเรียนรู้ที่นักเรียนได้รับจากการลงมือร่วม ปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่ม เป็นการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนโดยให้ผู้เรียนทุกคนมี โอกาสเข้าร่วมกิจกรรมมากท่ีสุด กลุ่มจะเป็นแหล่งความรู้สาคัญที่จะฝึกให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความใจ และ สามารถปรับตัวและเขา้ กบั ผ้อู ่นื ได้ ยึดหลกั การค้นพบและสรา้ งสรรคค์ วามรู้ดว้ ยตัวเองของผเู้ รียนเอง ขน้ั ตอนกำรสอนแบบกระบวนกำรกลุ่ม 1.กาหนดจดุ ม่งุ หมายของการเรียนการสอน ท้งั จุดมุ่งหมายทวั่ ไปและจุดมุ่งหมายเชงิ พฤตกิ รรม 2.การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ โดยเนน้ ใหผ้ ู้เรยี นลงมอื ประกอบกิจกรรมดว้ ยตนเองและมีการเพอ่ื ทางานเป็นกลุม่ เพือ่ ใหม้ ีประสบการณใ์ นการทางานกลมุ่ ซึ่งมีขัน้ ตอนดงั นี้ 2.1. ข้ันนา เป็นการสร้างบรรยากาศและสมาธขิ องผู้เรียนใหม้ คี วามพรอ้ มในการเรียน การสอน การจัดสถานท่ี การแบง่ ผู้เรยี นออกเปน็ กล่มุ ย่อย แนะนาวธิ ดี าเนนิ การสอน กติกาหรือกฎเกณฑ์การ ทากิจกรรม ระยะเวลาการทากิจกรรม 2.2. ขน้ั สอน เป็นข้นั ท่ีครลู งมอื สอนโดยให้ผ้เู รยี นลงมอื ปฏิบตั ิกจิ กรรมเปน็ กลมุ่ ๆ เพอื่ ให้ เกิดประสบการณต์ รง โดยท่กี ิจกรรมตา่ ง ๆ จะต้องคดั เลอื กให้เหมาะสมกบั เน้ือเรอ่ื งในบทเรยี น เช่นกจิ กรรม เกมและเพลง บทบาทสมมติ สถานการณ์จาลอง การอภิปรายกลมุ่ เปน็ ต้น 2.3. ขั้นวเิ คราะห์ เมอ่ื ดาเนนิ การจดั ประสบการณเ์ รียนรู้แลว้ จะให้ผเู้ รยี นวิเคราะหแ์ ละ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาต่าง ๆ ความสัมพันธ์กันในกลุ่ม ตลอดจนความร่วมมือในการทากิจกรรม ร่วมกัน โดยวิเคราะห์ประสบการณ์ที่ได้รับจาการทากิจกรรมกลุ่มให้คนอื่นได้รับรู้ โดยการถ่ายทอด ประสบการณก์ ารเรียนรขู้ องกนั แนะกัน นาเสนอหน้าช้นั เรยี น สรุปออกมาเป็น Mind Map ขั้นวเิ คราะหจ์ ะช่วย

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 229 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี ให้ผู้เรียนเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อ่ืน และมองเห็นปัญหาและวิธีการทางานท่ีเหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางในการ ปรับปรุงการทางาน เป็นการถ่ายโอนประสบการณ์การเรียนท่ีดีจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถค้นแนวคิดท่ีต้องการ ดว้ ยตนเอง เป็นการขยายประสบการณ์การเรียนรู้ใหถ้ ูกต้องเหมาะสม 2.4. ขั้นสรปุ และนาหลักการไปประยุกต์ใช้ ผ้เู รยี นสรุป รวบรวมความคิดให้เปน็ หมวดหมู่ โดยครูกระตุ้นให้แนวทางและหาข้อสรุป จากนั้นนาข้อสรปุ ที่ค้นพบจากเนื้อหาวชิ าท่ีเรยี นไปประยุกต์ใช้ให้เขา้ กบั ตนเองและนาหลกั การท่ไี ด้ไปใชเ้ พอื่ การปรับปรงุ ตนเอง ประยกุ ตใ์ ช้ให้เขา้ กับคนอน่ื ประยกุ ตเ์ พอ่ื แก้ปญั หา และสร้างสรรค์สิ่งท่ีเกิดประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และดารงชีวิตประจาวันเช่น การปรับปรุงบุคลิกภาพ เกดิ ความเหน็ อกเห็นใจ เคารพสิทธิของผูอ้ ื่น แก้ปัญหา ประดษิ ฐ์ส่ิงใหม่ เปน็ ต้น 2.5. ขน้ั ประเมนิ ผล เปน็ การประเมนิ ผลว่า ผูเ้ รียนบรรลผุ ลตามจุดมงุ่ หมายมากนอ้ ยเพียงใด โดยจะประเมินทั้งด้านเน้ือหาวิชาและด้านคุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ ประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรม ผลสัมฤทธิ์ของกลุ่ม เช่น ผลการทางาน ความสามัคคี คุณธรรมหรือค่านิยมของกลุ่ม ประเมินความสัมพันธ์ ในกลุ่ม จากการให้สมาชิกติชมหรือวิจารณ์แกก่ ันโดยปราศจากอคติ จะทาให้ผู้เรียนสามารถประเมนิ ตนเองได้ และจะทาผู้สอนเข้าใจนักเรียนได้ อันจะทาให้ผู้เรียนผู้สอนเข้าใจปัญหาซ่ึงกันและกันอันจะเป็นหนทางในการ นาไปพจิ ารณาแกป้ ัญหาและจดั ประสบการณ์การเรียนรใู้ หแ้ ก่ผู้เรียน ขนำดของกลมุ่ และกำรแบง่ กลุม่ การแบ่งกลุ่มเพอ่ื ให้ผเู้ รียนปฏิบัติงานร่วมกนั นน้ั ผ้สู อนอาจจะแบง่ กลุ่มโดยคานงึ ถงึ วตั ถุประสงคก์ ารจัดการเรียนการสอน โดยศนู ย์การเรยี น อบต.คลองสาม ได้แบ่งกล่มุ ดังน้ี 1. แบ่งตามความสามารถ ใช้ในกรณีท่ีครูมีภาระงานมอบหมายให้แต่ละกลุ่มแตกต่างไปตามความ สามารถ หรอื ตอ้ งการศกึ ษาความแตกตา่ งในการทางานระหว่างกลุ่มทมี่ คี วามสามารถสงู และต่า 2. แบง่ กลมุ่ ตามความสมคั รใจ โดยใหส้ มาชกิ เลอื กเข้ากลุ่มดับคนทีต่ นเองพอใจ ซง่ึ ครทู าไดแ้ ต่ไม่ควรใช้ บ่อยนกั เพราะจะทาให้ผู้เรียนขาดประสบการณใ์ นการทางานกับบุคคลทห่ี ลายหลาย 3. แบ่งกลุ่มแบบเจาะจง ครูเจาะจงให้เดก็ บางคนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เชน่ ใหเ้ ด็กเรยี นเกง่ กบั เด็กทเี่ รียน อ่อนเพอ่ื ใหเ้ ดก็ เรยี นเกง่ ช่วยเดก็ ที่เรียนออ่ น หรอื ใหเ้ ดก็ ปรบั ตัวเขา้ หากนั 4. แบ่งกลมุ่ โดยการสุ่ม ไม่เปน็ การเจาะจงว่าให้ใครอยใู่ ครกบั ใคร วธิ กี ำรสอนทส่ี อดคล้องกบั หลักกำรกำรสอนแบบกระบวนกำรกลุม่ ศนู ยก์ ารเรยี น อบต.คลองสาม ไดน้ าหลักการสอนแบบกระบวนการกลุ่ม มาใชใ้ นการจัดการเรียนรโู้ ดย ใหก้ ิจกรรมกลมุ่ มดี ังนี้ 1. การระดมความคดิ ให้ทกุ คนแสวงความคดิ เหน็ อย่างท่วั ถึง เพอ่ื รวบรวมความคดิ ในเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง ให้ได้หลายแง่มมุ ทุกความคิดได้รบั การยอมรบั โดยไม่มีการโต้แย้งกน แล้วนาความคดิ ทง้ั มวลมาผสานกัน 2. ครูผู้สอนสร้างสถานการณ์สมมติข้ึนโดยให้ผู้เรียนตัดสินใจทาอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมีการสรุปผล ในลักษณะของการแพ้การชนะ วิธีการน้ีจะช่วยให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์ความรู้สึกนึกคิด และพฤติกรรมต่าง ๆ วธิ กี ารสอนนีจ้ ะช่วยให้ผเู้ รียนมีความสขุ ในการเรียนและเกดิ ความสนุกสนาน

สรปุ ผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 230 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี 3. บทบาทสมมติ เป็นวิธีการสอนท่ีมีการกาหนดบทบาทของผู้เรียนในสถานการณ์ท่ีสมมติข้ึนมา โดยให้ผู้เรียนสวมบทบาทและแสดงออกโดยใช้บุคลิกภาพประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดของตนเป็นหลัก วธิ ีการสอนนเ้ี ปิดโอกาสให้ผู้เรียนมโี อกาสศึกษาวิเคราะห์ความรสู้ ึกและพฤติกรรมของตนอยา่ งลึกซ้ึง ทั้งยงั ช่วย สร้างบรรยากาศการเรยี นรู้ท่มี ชี ีวิตชวี า ผู้เรียนเกดิ ความสนุกสนาน ต่นื เตน้ 4. กรณีตัวอย่าง เป็นวิธีการสอนที่ใช้การสอนเรื่องราวต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ันจริง แต่นามาดัดแปลงเพ่ือให้ ผู้เรียนใช้เป็นแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์และอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นซึ่งกันและกันอันจะนาไปสู่ การสร้างความเข้าใจและฝึกทักษะการแก้ปัญหา การรับฟังความคิดเห็นซ่ึงกันและกันซึ่งจะช่วยให้เกิดการ เรียนรทู้ ี่มคี วามหมายสาหรับผู้เรียนยิ่งข้ึน 5. เปน็ วธิ ีการสอนโดยการจดั ผู้เรยี นเป็นกลมุ่ ยอ่ ยท่ีมีสมาชิกประมาณ 6 -12 คน และมีกากาหนดให้มี ผู้นากลุ่มทาหน้าที่เป็นผู้ดาเนินการอภิปราย สมาชิกทุกคนมีสวนร่วมในการแลกเปล่ียนความคิดเห็นแล้วสรุป หรอื ประมวลสาระท่ีได้จากการแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กนั วธิ กี ารน้ีเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมใน การเสนอข้อมลู หรอื ประสบการณ์ของตนเองเพอื่ ใหก้ ลุม่ ไดข้ อ้ มลู มากข้นึ วิธีการสอนท่ีสนับสนุนหลักการสอนแบบกระบวนการกลุ่มเหล่าน้ี เป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้การจัด ประสบการณ์การสอนท่ีหลากหลายและผู้สอนอาจใช้วิธีสอนอ่ืน ๆ ได้อีก โดยยึดหลักสาคัญ คือ การเลือกใช้ วธิ กี ารสอนที่สอดคล้องกบั จุดประสงคข์ องการสอนแต่ละครั้ง ขน้ั ตอนกำรตดิ ตำม ตรวจสอบ (C) กำรประเมินผลกำรสอนแบบกระบวนกำรกลุ่ม 1. การให้ผู้เรียนประเมินผลการเรียนรู้ของตนเอง ซ่ึงผู้สอนควรสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีโอกาส ประเมินผลการเรียนร้ขู องตนเองจะชว่ ยให้การเรยี นรมู้ คี วามหมายและมีประโยชน์ต่อผู้เรียนยง่ิ ข้นึ 2. การใหผ้ ้เู รยี นร่วมประเมนิ ผลการเรยี นรู้จากการทางานรว่ มกนั ซงึ่ สามารถประเมนิ ผลได้ 2 ลกั ษณะ 1.การประเมินผลสมั ฤทธิ์ของกลุ่ม ครผู ู้สอนดูจากการนาเสนอหนา้ ขัน้ เรียนซ่ึงดสู มาชิกทกุ คน ภายในกลุ่ม แบง่ เนอ้ื หาการนาเสนอ สมาชกิ ทุกคนมีบทบาทในการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 2.การประเมนิ ผลความสมั พันธภ์ ายในกลมุ่ ครูผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของสมาชิกทกุ คน ภายในกลุ่ม เมอ่ื เวลามอบหมายงานให้ช่วยกนั ทาภายในกลุ่ม ชว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกนั ทา และเมือ่ ถึงเวลาการ นาเสนอหนา้ ช้ันเรียน เม่ือเพ่ือนในหอ้ งถาม หรือครูถาม สมาชกิ ทกุ คนช่วยกนั ตอบคาถามไหม ขน้ั ตอนกำรปรบั ปรุงแกไ้ ข (A) 1.ปรบั รูปแบบวิธกี ารสอน หาเทคนคิ วิธีการสอนใหม่ ๆ 2.รวบรวมข้อเสนอแนะ เพือ่ ปรับปรุงการจดั การเรยี นการสอน 3.มีการจดั และประเมนิ ผลเพื่อใหม้ ีประสิทธภิ าพมากยงิ่ ข้นึ

สรุปผลการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 231 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 1.นักศกึ ษามสี ว่ นร่วมในการเรยี นร้อู ย่างตอ่ เน่ือง โดยในระหวา่ งการทากิจกรรมสมาชิก ภายในกลุ่มทุกคน จะต้องช่วยกันหาข้อมูลสาหรับไว้เตรียมการนาเสนอหน้าช้ันเรียน หรือแลกเปล่ียน การเรยี นรูก้ นั ภายในกลุม่ ทาให้เกดิ การเรียนร้อู ย่างต่อเนือ่ ง 2.เป็นกจิ กรรมทท่ี าเป็นกลมุ่ มีการช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม เนน้ ให้สมาชกิ ในกลุม่ เกิดความช่วยเหลือ กันภายในกลมุ่ แสดงออกถงึ ความมีนา้ ใจ ช่วยเหลือกัน รบั ฟงั ความคดิ เห็นซง่ึ กันและกัน 3.เป็นกิจกรรมท่ีกระตุ้นให้นักศึกษากล้าแสดงออกอย่างมั่นใจ เพราะนักศึกษาได้ค้นคว้าหาข้อมูล อย่างจริงจัง มีแหล่งที่มาของข้อมูล ทาให้กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างม่ันใจในการนาเสนอหน้าช้ันเรียน และอธิบายกันภายในกลุ่ม หรืออาจแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ ันภายในห้องเรียน 5.ปัญหา อุปสรรค ข้อควรระวงั ในการจดั กจิ กรรม ในการจัดการเรียนการสอนโดยใชก้ จิ กรรมกลุ่มในครัง้ แรกอาจจะยังใชไ้ ม่ไดผ้ ลเทา่ ท่คี วรนัก เพราะนักศึกษาเพ่งิ มาพบกลุ่มครั้งแรก ซ่ึงมีท้ังผู้เรียนเกา่ และผู้เรียนใหม่ คุณครูจะต้องจัดกิจกรรมเพื่อละลาย พฤติกรรมกอ่ น ให้ผเู้ รยี นค้นุ เคยกันก่อน และคอ่ ยนากจิ กรรมในการจัดการเรียนการสอนโดยใชก้ ิจกรรมกลุ่มมา ใชใ้ นการสอนภายในหอ้ งเรยี น แต่สิง่ ทีค่ รจู ะตอ้ งพงึ ระวงั ในการจัดกจิ กรรม มีดังนี้ 1.การนากิจกรรมน้ีไปใช้ต้องระวังในเรื่องของการแบ่งกลุ่มคานึงถึงอายุ เพศ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพราะอายุท่ีแตกต่างกัน บางครั้งความคิดอาจจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ครูจะต้องคอยให้คาชี้แนะด้วย และเรื่องของเพศก็สาคัญ ครูจะต้องมีวัตถปุ ระสงค์ท่ีชเี้ ฉพาะลงไป เช่น ต้องการสารวจความแตกต่างเพศหญิง และชาย ในดา้ นต่าง ๆ เชน่ ทัศนคติ ค่านิยม ฯลฯ 2.เนือ้ หาทน่ี าไปใชใ้ นการจัดกจิ กรรม ครทู ่นี ากิจกรรมนไ้ี ปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน จะตอ้ งศกึ ษา เนื้อหาอย่างลึกซ้ึง ชัดเจน ถูกต้อง เพ่ือไว้คอยเติมเต็มให้ผู้เรียนเมื่อเวลาผู้เรียนไม่เข้าใจแล้วถามครู ครูจะต้อง อธิบายได้ เพื่อให้ผเู้ รยี นเกิดความชัดเจนในเน้ือหาท่คี รูได้แบ่งใหค้ ้นคว้า 3.เทคนคิ และวิธกี ารสอน ครูจะตอ้ งศกึ ษาหาเทคนิควิธีการสอนหลาย ๆ รปู แบบ เพ่อื ไม่ใหผ้ ู้เรียนเกิด ความเบื่อหน่าย

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 232 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี 6.รางวลั แห่ง ความสาเร็จ ในภาคเรียนท่ี 1/2562 ศูนย์การเรยี น อบต.คลองสาม ไดด้ าเนินการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ กิจกรรมกลุ่ม เกิดผลดีเป็นที่น่าพึงพอใจทั้งกับครแู ละนักศึกษา ทาให้ในเทอมน้ี ศูนย์การเรียน อบต.คลองสาม ไดร้ บั รางวลั ดังน้ี 1.รางวลั การประกวดโครงการได้รบั รางวลั ชมเชย 2.รางวลั นักศกึ ษามีคุณธรรม จริยธรรมทด่ี ี 3.รางวลั เรียนดอี ันดบั ท่ี 3 ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 4.รางวลั ศิษย์เกา่ ดีเดน่ 5.รางวัลครูสอนดี 7.ข้อควรคานึงในการนาไปขยายผล 1.ครูผู้สอนควรมีการเตรียมเน้ือหา ประเด็นในการทากิจกรรมกลุ่มให้ชัดเจน การกาหนดเน้ือหาที่ ชดั เจน จะช่วยใหค้ รูสามารถดาเนนิ กจิ กรรมไปได้อย่างตอ่ เน่ือง ไมต่ ดิ ขัด ผู้เรยี นไมเ่ กิดความเบื่อหน่าย 2.ศึกษาเนื้อหาอย่างดี ลึกซึ้ง เข้าใจเน้ือหาอย่างดี ครูจาเป็นจะต้องศึกษาเนื้อหาในการสอนไปอยา่ งดี เข้าใจเน้ือหาอย่างลึกซง้ึ เพ่ือที่จะได้อธิบายใหผ้ ู้เรียนเข้าใจได้ สามารถตอบคาถามผู้เรียนได้เม่ือเวลาผู้เรียนไม่ เข้าใจแลว้ ถามครู 3.ครูควรมีการบูรณาการกลุ่มเข้าด้วยกัน คานึงถึง เพศ วัย ฯลฯ การแบ่งกลุ่มน้ันสาคัญต้องคานึงถึง เพศ อายุ วัย ดว้ ย เพอ่ื ให้การแบ่งกลมุ่ เป็นไปอย่างราบรื่น ไมเ่ กดิ ผลเสยี ตามมาภายหลัง 4.ครูควรมีเทคนิคการสอนใหม่ ๆ เพือ่ ให้ผเู้ รยี นสนใจอย่างต่อเนอ่ื ง เกดิ การรับรู้ ไม่นา่ เบ่อื ในกจิ กรรม และเพ่ือใหก้ ารจดั กิจกรรมประสบความสาเร็จ

สรปุ ผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 233 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทมุ ธานี 8.ภาพกิจกรรม นักศกึ ษำศรช.อบต.คลองสำม ไดร้ บั รำงวัลชมเชยกำรประกวดโครงงำน รำงวลั นกั ศกึ ษำมีคุณธรรม จริยธรรมทดี่ ี

สรปุ ผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 234 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี รำงวลั ศษิ ย์เก่ำดเี ดน่ รำงวลั ครสู อนดี

สรุปผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 235 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี ชื่อผลงาน การจดั การเรียนรโู้ ดยใช้กิจกรรมโครงงาน ผเู้ สนอผลงาน นายณัฐพงษ์ วเิ ชยี รชัย สถานศึกษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอคลองหลวง สงั กดั สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั ปทุมธานี 1. ควำมสอดคลอ้ ง แนวทางตามยทุ ธศาสตร์ และจุดเน้น การดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยประจาปี 2562 ภารกจิ ตอ่ เนือ่ ง 1.ดา้ นการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู้ 2.กิจกรรมการศกึ ษาเรยี นรู้ตลอดชีวิต 2. ควำมเป็นมำ ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 มหี ลกั การจัดการเรียนร้เู พอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ความสามารถตามมาตรฐาน/ตัวชวี ัด สมรรถนะสาคญั ของ ผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยยึดหลักว่าผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและทุกคนสามารถเรยี นรู้และพนั า ตนเอง กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คานงึ ถึง ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลเนน้ ให้ความสาคัญทง้ั ความรแู้ ละคุณธรรมผูส้ อนตอ้ งสรรหากระบวนการ เรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับศัยภาพและบริบทของผู้เรียน ให้ความสาคัญกับการใช้ส่ือการ พัฒนา สื่อการใช้แหล่งเรียนรูแ้ ละภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน มกี ารวดั และประเมนิ ผลทห่ี ลากหลายและนาผลท่ไี ด้ใช้เป็น ขอ้ มูล เพื่อพฒั นา ปรบั ปรุงการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ ใหเ้ กิดคณุ ภาพสงู สุดต่อผู้เรียน จากการวัดผลสัมฤทธ์ิ การเรียนของผู้เรียน ศรช.เทศบาลเมืองท่าโขลง พบว่า ผู้เรียนยังขาดทักษะ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ซ่ึงเปน็ ทกั ษะการคิดขนั้ พน้ื ฐาน ผู้สอู นจงึ ได้ใช้กจิ กรรมโครงงานเป็นนวัตกรรม ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พื่อพฒั นากระบวนการคิดวเิ คราะหข์ องผูเ้ รียน 3. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมที ักษะกระบวนการทางโครงงาน 2. เพ่ือใหผ้ ูเรียนมีผลสมฤั ทธทิ์ างการเรยี นสงู ข้นึ 3. เพื่อใหผ้ ููเ้ เรียนไดูเรยี นรู้ดว้ยตนเองและอย่างมคี วามสขุ 4. เพือ่ ใหผ้ ูู้เรยี นมคี วามกล้าแสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ 5. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 236 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี 4. เปำ้ หมำย เชิงปรมิ าณ นักศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ศรช.เทศบาลเมืองท่าโขลง จานวน 30 คน เชิงคุณภาพ นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศรช.เทศบาลเมืองท่าโขลง มีทักษะกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการทางโครงงาน กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรคม์ ีทกัษะในการคดิ วูเคราะห์สามารถนาทรพั ยากรท่ีมี อยใู่ นท้องถิน่ ของตนเองมาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์และมเี จตคติท่ดี ตี อ่ การเรยี น 5. ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน ไดน้ าวงจรคณุ ภาพของเดมมิง่ (PDCA ) มาประยุกต์ใช้ในการ “การจดั การเรยี นรโู้ ดยใชโ้ ครงงาน ดงั น้ี Plan =การวางแผน ได้ดาเนินการศกึ ษาดงั นี้ 1. ศึกษาปญั หาและข้อมูลพนื้ ฐานของผเู้ รียน 2. ศกึ ษาหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุธศักราช 2551 เพอ่ื ศึกษารูปแบบ วธิ กี ารสอน / เลอื กรูปแบบวิธีการสอนท่ีเหมาะสมเพ่ือแก้ปญ้ หาและพฒั นาผรู้ ียน / จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ DO จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ขนั้ ตอนการจัดการเรยี นูร้โดยใชโ้ ครงงาน 1. ขั้นสารวจปญั หาของผ้เู รยี นและครรู ว่ มกันูวิคราะห์เนื้อหาในบทเรียน แล้วสารวจว่าเน้ือหาใดเป็น ปญั หาในการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และสามารถจัดทาโครงงานได้ 2. ขั้นรวบรวมขอ้ มูล ผู้เรยี นศึกษาเอกสารข้อมลู จากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ งๆเพื่อนามาเปน็ ขอ้ มลู ในการ จัดทาโครงงาน โดยมคี รเู ป็นท่ปี รึกษาคอยให้คาแนะนาเกยี่ วกบั ความถกู ต้องของเน้ือหาและแหลง่ เรียนรูท้ ่ี ผู้เรยี นควรศกึ ษา 3. ขน้ั วางแผนดาเนินงาน ผู้เรียนจดั ทาเค้าโครงของโครงงานเพือ่ กาหนดปัญหาวัตถุประสงคเ์ น้ือหาที่ เก่ียวข้องแผนปฏบิ ตั โิ ครงงานท่ีประกอบดว้ ยขนั้ ตอนการปฏิบูัติงาน กรอบเวลาผรู้ ับผดิ ชอบและแหล่งเรยี นรู้ โดยครูคอยตรวจสอบความถกู ตอ้ งของเคา้ โครงของโครงงานและความเป็นไปไดข้ องการปฏิบตั งิ าน 4. ข้นั ดาเนนิ การ ผ้เู รยี นลงมอื ปฏบิ ัติโครงงานตามแผนงานทว่ี างไว้โดยอาจมีการแกไ้ ข ปรับปรงุ และ เพ่มิ เติมโครงงานจนสมบรู ณ์โดยมคี รูหรอื วิทยากรในท้องถ่นิ เป็นทปี่ รกึ ษา 5.ขัน้ นาเสนอผลงานผู้เรยี นนาผลงานทีไ่ ด้จากการทา โครงงานมานาเสนอในรปู แบบต่างๆ เช่น แผ่นพบั โครงงาน โปสเตอรร์ ายงานผลโครงงาน การนาเสนอปากเปลา่ Check ตรวจสอบการจดั การเรียนูรแ้ ละโครงงานของนักเรยี น 1. ประเมินโครงงานของผเู้ รียนตามเกณฑ์ท่กี าหนดลงในแบบประเมินโครงงาน 2. ประเมินความพงึ พอใจผ้เู รยี น ในแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ Act ปรบั ปรงุ และพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ของครูและโครงงานของผ้เู รยี น จากการประเมินโครงงานนามาอภปิ รายร่วมกัน จุดเด่น จุดดอ้ ย มาพฒั นาแกไขและปรบั ปรงุ ในลาดบั ต่อไป

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 237 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี 6. ผลสำเรจ็ ที่ไดจ้ ำกกำรดำเนินงำน จากผลการสอนคดิ วิเคราะห์ด้วยกิจกรรมโครงงานสง่ ผลดีตอ่ ผู้ท่ีเกย่ี วข้องในสว่ นต่างๆดังนี้ 6.1 ผลต่อผู้เรยี น การสอนคิดวิเคราะห์ด้วยกิจกรรมโครงงานทา ให้ผเู้ รียนมคี วามกระตือรือรน้ ในการเรยี นรมู้ คี วามสขุ ใน การเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสงู ข้นึ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ปัญหาต่างๆและนาความรไู้ ป ประยุกต์ใชใ้ นการทาโครงงาน ประเภท ทดลองและประดิษฐ์ นอกจากนผี้ ู้เรียนยงั สามารถหารายได้จากการทา โครงงาน 6.2 ผ้บู รหิ าร ผบู้ ริหาร ให้ความช่วยเหลอื สง่ เสริม สนับสนนุ ในการจัดกระบวนการเรียนรู้การพัฒนาส่ือการเรยี นรู้ และแหลง่ เรยี นรู้รวมทั้งสนับสนนุ ด้านงบประมาณ ส่งเสรมิ ให้บคุ คลากรเข้ารับการอบรมเพ่ือพัฒนาศักยภาพ ของตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของการทางานในสถานศกึ ษา ทาใหเ้ กดิ การขบั เคลอื่ นกระบวนการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของครไู ปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการเรยี นรอู้ ันกอ่ ให้เกิดผลต่อ การพัฒนาผู้เรยี นให้บรรลุตามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร 6.3 บคุ ลกรภายในสถานศกึ ษา บุคลากรในสถานศึกษามีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ แบ่งปนั ประสบการณ์ในการทางานให้ความช่วยเหลือ ในการปฏบิ ัตงิ าน ให้การยอมรบั ให้ความคิดเหน็ ที่เป็นประโยชนต์ ่อการจัดการเรยี นรู้ และไดร้ ู้ถึงข้อดี ขอ้ เสยี ข้อบกพร่องในการทางาน 7. ผลได้รบั กำรยอมรบั ได้รับรางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 2 ประกวดโครงงานโดยใช้หลกั สเตม็ ศกึ ษา Steam Eduxation 8. กำรจัดกำรเรยี นรโู้ ดยใชก้ ิจกรรมโครงงำน 1. เปน็ วิธีสอนทีเ่ ปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนพบปัญหาและคิดหาวูิธิแก้ปัญหา 2. ข้ันแยกปัญหาและวางแผน ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั วางแผนและกาหนดวิธีการแก้ปญั หา แบ่งผูเ้ รียน เปน็ กล่มุ รบั ผดิ ชอบและทางานตามความสามารถและความสนใจ 3. ข้ันลงมือแก้ปญั หาและเกบ็ ขอ้ มลู 4. ขน้ั วเิ คราะห์ขอ้ มูลหรอื รวบรวมความรู้เขา้ ด้วยกนั และแสดงผลเปน็ ขั้นการรวบรวมความรู้ต่างๆ จาก ปญั หาทีแ่ ก้ไขแลว้ ผู้เรยี นแต่ละกล่มุ จะต้องแสดงผลงานของตนในรปู แบบของโครงงาน 5. ขั้นสรุปและประเมนิ ผลและการนาไปใช้ ครูและผู้เรียนช่วยกนั สรุปและประเมินผลการปฏิบัตกิ าร แก้ปัญหาดังกล่าวว่า มผี ลดี ผลเสียอยา่ งไรแลว้ บันทกึ เรียบเรียงไว้เป็นหลักฐาน

สรุปผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 238 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี 10. ปัญหำ อุปสรรค/ ข้อควรระวังในกำรจดั โครงกำรหรอื กจิ กรรม 1. ผเู้ รยี นได้ศึกษาค้นควา้ หาความร้ดู ว้ ยตนเองและได้ร่วมปฏิบตั ิงานเป็นทมี 2. ส่งเสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย 3. ส่งเสริมให้มีความรบั ผิดชอบ 4. สง่ เสริมให้ผเู้ รียนได้ใช้ความคดิ หาเหตุผลและมกี ารคิดอย่างเป็นระบบ 11. รำงวัลแห่งควำมสำเรจ็ ศรช.เทศบาลเมอื งท่าโขลง ไดร้ บั รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 2 ประกวดโครงงานโดยใชห้ ลกั สเตม็ ศกึ ษา Steam Eduxation

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 239 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวัดปทมุ ธานี 12. ข้อควรคำนงึ ในกำรนำไปขยำยผล 1. กลมุ่ เป้าหมาย และเครือขา่ ย มีความร่วมมอื และสามารถนาความรทู้ ไี่ ดร้ ับไปขยายผลให้กบั ประชาชนท่ี ยังไม่เข้ารว่ มกิจกรรม และอยากจัดกิจกรรมสง่ เสริมพฒั นาประชาธปิ ไตย 2. การวางแผนการจดั กจิ กรรม ต้องมกี ิจกรรมทค่ี รอบคลุมและหลากหลาย โดยคานึงถึงการมสี ่วนรว่ ม ของผ้รู ่วมกิจกรรม 3. การเดนิ ทางมารว่ มกิจกรรม ผสู้ ูงอายุ ต้องจัดรถรบั ส่ง สาหรบั ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมบางรายท่ี ญาตพิ ่ี นอ้ ง หรอื ลกู หลาน ไม่สามารถมาส่งในการร่วมกิจกรรมได้ ผู้จดั กิจกรรมควรจัดรถรับส่ง และคอยอานวยความ สะดวกใหผ้ ู้สงู อายุท่เี ข้าร่วมกจิ กรรม 4. เวลาและสถานที่ ในการจดั กจิ กรรม ต้องเป็นสถานท่ี ทเ่ี หมาะสมกบั การจัดกิจกรรม มีการอานวย ความสะดวกในดา้ นต่างๆ และระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ใหเ้ หมาะสมกับวยั เชน่ วยั ของผสู้ งู อายุ นำเสนอโครงงำน

สรุปผลการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 240 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทุมธานี ภำพกจิ กรรม กจิ กรรมประกวดโครงงำน ผู้เรียนนำเนอโครงงำนตอ่ คณะกรรมกำรกำรตัดสินประกวดโครงงำน ควำมภำคภมู ใิ จ

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 241 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทมุ ธานี 1.ชอ่ื โครงกำร หรอื ช่อื กิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ช่ือโครงงาน รถจักรยานไฟฟ้า รายวิชาการจัดการขยะ 2.ควำมเป็นมำของโครงกำรหรือกิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (PROJECT-BASED LEARNING) การจัดการเรียนรู้ที่มีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนาความสนใจที่เกิดจากตัวนักศึกษามาใช้ในการทา กิจกรรมค้นควา้ หาความรูด้ ้วยตวั นักศึกษาเอง นาไปสู่การเพม่ิ ความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟังและการ สังเกตุจากผู้เช่ียวชาญ(จากส่ือ หรือบุคคล) โดยนักศึกษามีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทางานเป็นกลุ่ม ท่ีจะ นามาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียนกระบวนการจัดทาโครงงาน และได้ผลการจัดกิจกรรมเป็นผลงานแบบ รปู ธรรม 3.ขั้นตอนกำรทำกิจกรรม ขั้นตอนท1ี่ กำรคดิ เลือกหวั เร่ืองและกำรศกึ ษำเอกสำรท่ีเกี่ยวข้อง เปน็ การหาหัวขอ้ ในการทดลอง ทีอ่ ยากรูอ้ ยากเห็น รวมถงึ การขอคาปรึกษา หรือข้อมูลต่างๆจากผูท้ รงคณุ วุฒิทเี่ กี่ยวข้อง ขน้ั ตอนท2ี่ กำรเขียนเค้ำโครงของโครงงำน ขั้นตอนท3่ี กำรปฏิบัตโิ ครงงำน เปน็ การดาเนินงานตามแผน ทีก่ าหนดไว้ในเคา้ โครงของโครงงาน และ ต้องมีการจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ต่างๆให้ละเอียด และต้องจัดทาอยา่ งเป็นระบบ มคี วามระเบียบ เพอ่ื ที่จะไดใ้ ช้เปน็ ข้อมูลตอ่ ไป ขั้นตอนท4่ี กำรเขียนรำยงำน ควรใช้ภาษาท่ีเขา้ ใจง่าย กระชับ ชัดเจน และครอบคลมุ ประเด็นสาคัญ ของโครงงาน โดยสามารถเขียนให้อยู่ในรูปตา่ งๆ เช่น การสรุป การรายงานผล ซ่งึ ประกอบไปด้วยหัวข้อต่างๆ เชน่ บทคดั ย่อ บทนา เอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง เป็นต้น ขั้นตอนท่ี5 กำรแสดงผลงำน เป็นการนาเสนอผลงาน สามารถจัดได้หลายรูปแบบ เช่น การจัด นิทรรศการ หรือทาเป็นส่งิ พิมพ์ การสอนแบบเพอื่ นสอนเพ่อื น ตามความเหมาะสมของโครงงาน 4.ควำมสำเรจ็ ทเ่ี ป็นจุดเด่น โครงงานในวิชาการจดั การขยะระดบั ม.ปลาย จนเกิดเปน็ ตวั ช้ินงาน(รูปธรรม) ชื่อโคงงำน รถจักรยำน ไฟฟ้ำ 5.ปญั หำหรอื อุปสรรคข้อควรระวงั กำรจัดทำโครงกำร และกิจกรรม 5.1. กำรมสี ว่ นร่วมในงำนอย่ำงไมเ่ ท่ำเทยี ม (Unequal Contributions) จะมีความสาคัญต่อการอยู่ร่วมกันและความสามัคคีของทีม ผู้บริหารก็ต้องยอมรับว่าไม่มีความเสมอ ภาคอย่างแทจ้ ริงในสงั คม ดังนัน้ ถึงสมาชิกแตล่ ะคนจะมสี ่วนรว่ มทางานไม่เท่ากนั หรือมีความสามารถไม่เท่ากัน แต่เขาก็ควรจะแสดงความตั้งใจและเต็มใจในการเป็นสมาชิก ซ่ึงเราอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหน้าท่ีและความ รับผิดชอบของหัวหน้าทมี ทีจ่ ะต้องกาหนด และจดั สรรความรับผิดชอบของสมาชกิ อยา่ งชดั เจนและเปน็ รปู ธรรม

สรปุ ผลการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 242 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทุมธานี 5.2. กำรขำดควำมรู้สึกมสี ว่ นรว่ ม (No Sense of Belonging) ทมี ในองค์การต่างๆ อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจากสมาชิกทีทางานรว่ มกันนานพอที่จะร้จู ักกนั และมคี วาม เคารพซงึ่ กนั และกนั มากนัก โดยสมาชิกส่วนใหญจ่ ะมคี วามจาเปน็ ที่จะต้องทางานร่วมกันตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากฝ่ายบรหิ าร ทาใหส้ มาชกิ ขาดความผกู พนั และความรสู้ กึ เป็นเจ้าของทีม จึงไม่ทมุ่ เทและมุ่งม่ันใน การทางานให้กับทีมอย่างเตม็ ท่ี 6.รำงวัลแห่งควำมสำเร็จ รางวัลชนะเลิศระดับ ม.ปลาย กิจกรรมการประกวดโครงงานการใช้หลัก stem ศกึ ษา กศน..อาเภอคลองหลวง ช่อื โครงงำน รถจกั รยำนไฟฟำ้ 7.ข้อควรคำนงึ ถึงกำรนำไปขยำยผล ในการนาไปขยายผลสิ่งที่ควรคานงึ ถึงในเร่ืองของวัสดุอุปกรณท์ ีม่ ีมาตรฐาน เพิ่มขึ้น เนอ่ื งดว้ ยในหัวขอ้ การเรยี นเปน็ การนาวสั ดุทีไ่ มใ่ ชแ้ ลว้ มาแปรสภาพเพอ่ื นากลับมาใซใ้ หมต่ ามหลัก 3rs ใน r ที่ 3 คอื rycycle จึง ได้วสั ดทุ ่มี าจากตา่ งท่แี ตม่ รี าคางบประมาณการผลิตทถ่ี ูกลง เพราะฉะนั้นถา้ มีการนาไปขยายผลเป็นส่ิงปรัดิษฐทื ี่ สร้างรายได้ควรจะจัดหาวสั ดุอุปกรณ์ เป็นเช็ทเดวกันนัน่ อาจหมายถึงราคาของวัสดุทีส่ ูงขึ้น ต่อต้นทุนการผลิต 8.ภำพกิจกรรม รว่ มกนั หำข้อสรุปและอภิปรำยเลอื กเรอ่ื งในกำรทำโครงงำน จัดหาอุปกรณ์จากรา้ นขายของเกา่ และวัสดุเหลอื ใชจ้ ากสมาชกิ ภายในกลุม่

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 243 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทุมธานี จดั หาอปุ กรณ์จากร้านขายของเกา่ และวัสดุเหลือใชจ้ ากสมาชกิ ภายในกลุม่ โครงจักรยานเกา่ แบตเตอรร์ ่แี ละมอเตอร์ เกา่ ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง การแปรสภาพจักรยานเกา่ สร้างเฟืองทา้ ย จักรยานไฟฟ้า ขั้นตอนการใส่มอเตอรไ์ ฟฟา้ ติดต้งั และทดลองระบบไฟ

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 244 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี 9.ขอ้ มูลเอกสำรในเวป็ ไซด์ทีใ่ ชอ้ ำ้ งองิ ประกอบกำรเขียน https://www.ebikethaikit.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E 0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9 %89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3% E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9 %89%E0%B8%B2-980.page 10.ผู้เขียน นายสกนธ์ พนู ดษิ ฐ์ 11.ผู้สนบั สนนุ และตรวจสอบ อ.จิดาภา จันทิพย์ 12.ผูบ้ รรณำธิกำร นายสกนธ์ พูนดิษฐ์

สรุปผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 245 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานักงาน กศน.จังหวดั ปทมุ ธานี ช่ือผลงาน การเรียนรู้ กศน.เพอ่ื ส่งเสรมิ การอา่ น ผู้เสนอผลงาน นางจิดาภา จันทพิ ย์ สถานศึกษา กศน.อาเภอคลองหลวง สงั กดั สานักงาน กศน.จังหวดั ปทมุ ธานี ความสอดคล้อง ยุทธศาสตรท์ ี่ 3 ดา้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคนให้มีคณุ ภาพ - จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านในรปู แบบต่าง ๆ ผลักดนั ใหเ้ กดิ หอ้ งสมุดส่กู ารเปน็ หอ้ งสมดุ เสมอื นจริงตน้ แบบ ความเป็นมาของโครงการ/กจิ กรรม การอ่านเป็นเสมอื นกุญแจสาคญั ที่จะเปิดประตวู ิถชี ีวติ ของมนษุ ยใ์ ห้ไปสสู่ ่งิ ทดี่ ีและสมบรู ณท์ ี่สุดของ ชีวติ เปน็ วธิ ีการสะสมความร้แู ละประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ทส่ี ามารถนาไปใช้ ให้เกิดคุณค่าในชีวิตในด้านความรู้ อาชีพ สขุ ภาพ พลานามัย และการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ ปจั จุบนั น้ีการอา่ นหนงั สอื ของคนไทยเปน็ กจิ กรรมทไ่ี มแ่ พร่หลายแมใ้ นหม่ผู ู้รู้หนังสอื แล้ว การอา่ น หนังสอื ทด่ี มี สี าระยิง่ นอ้ ยลงไปอีก สาเหตมุ อี ยูห่ ลายประการนับต้งั แตก่ ารขาดแคลน หนงั สือที่ดีและตรงกับ ความสนใจและการแย่งเวลาของสื่ออื่น ๆ เชน่ โทรทัศน์ วทิ ยกุ ระจายเสยี ง ฯลฯ รวมทงั้ ขาดการชักจงู กระตุน้ ใหเ้ หน็ ความสาคัญของการอา่ น ตลอดจนมีนิสัยรักการอา่ นท้งั ในและนอกสถานศกึ ษา เมือ่ เทียบความ เพลิดเพลินและการไดฟ้ ัง ได้ร้ไู ด้เหน็ เร่อื งตา่ ง ๆ จากโทรทัศน์และวทิ ยกุ ระจายเสยี ง แลว้ การอา่ นหนังสอื เพ่ือ วตั ถุประสงคด์ ังกล่าวตอ้ งใช้ความพยายามมากกว่าและต้องมีทักษะในการอ่าน ถ้าจะใหก้ ารอ่านหนังสอื เกิดเป็น นสิ ัย จาเป็นตอ้ งมกี ารปลกู ฝงั และชกั ชวนใหเ้ กดิ ความสนใจ แตส่ ภาพปัจจุบนั พบวา่ สังคมไทยยงั ไม่เป็นสังคมการอา่ น จงึ จาเปน็ ตอ้ งมกี ารส่งเสริมนสิ ยั รักการอ่าน อยา่ งต่อเนอ่ื งและเพ่ิมมากขึ้น ดังนั้น กศน.อาเภอคลองหลวง ซ่งึ เปน็ แหลง่ ใหบ้ ริการศกึ ษาหาความรู้ส่งเสรมิ การอ่านเพื่อการเรยี นรู้ ตลอดชวี ิต ถอื วา่ เป็นสว่ นหนงึ่ ของการพฒั นาสงั คมและชุมชน การขยายบรกิ าร สอ่ื ไปสู่หน่วยงานเครือข่าย กศน.ตาบล หอ้ งสมุดศูนย์การเรียน ทัณฑสถานบาบดั พิเศษหญิง และทัณฑสถานวยั หนุ่มกลาง โดยใช้วธิ ี หมุนเวียนสอ่ื และการจัดกิจกรรมเสริมสร้างนสิ ยั การอ่าน เป็นการให้บรกิ ารสง่ เสริมการอ่านใหแ้ ก่ผู้ทไ่ี มม่ ีโอกาส เข้ามาใช้บริการ

สรปุ ผลการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 246 ของ กศน.อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จังหวัดปทมุ ธานี วัตถุประสงค์ 1.เพือ่ สง่ เสริมการอา่ นแกผ่ ู้ดอ้ ยโอกาส 2.เพื่อสร้างเสริมนิสยั รกั การอา่ น 3.เพ่ือกระตุน้ ให้เห็นความสาคญั ของการอา่ น กลุม่ เป้ำหมำย 1. ผูเ้ รยี น ประชาชนทัว่ ไปในชมุ ชนทองแท้ 2. ผู้ตอ้ งขังในทัณฑสถานบาบัดพิเศษหญิง ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน 1. ศึกษาความเป็นมาของกลุ่มเป้าหมายเพอ่ื วเิ คราะหป์ ญั หาและความต้องการของกลุม่ เป้าหมาย 2. สารวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 3. จดั ทาแผนการปฏิบัติงาน กำรวำงแผนกำรจัดกิจกรรม(P) 1. ประชมุ วางแผนและประสานงานผทู้ เี่ ก่ียวข้อง เพื่อชีแ้ จงและวางแผนการทางาน 2. ออกแบบกจิ กรรม จัดทาสื่อ ในการจดั กจิ กรรม ข้นั ตอนกำรดำเนนิ งำน(D) 1. จัดบริการหมุนเวยี นสอื่ และกจิ กรรมเสริมสรา้ งนิสัยรักการอา่ นออกใหบ้ รกิ ารตามพ้นื ทเ่ี ปา้ หมาย เพ่ือให้ผู้เรยี น ประชาชน และผ้ตู ้องขังไดร้ บั ความรู้และความเพลดิ เพลนิ จากการให้บริการส่ือและ กิจกรรม 2. เสริมสรา้ งความรูแ้ ละสามารถนาความรู้จากการอ่านไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ ขั้นตอนกำรตดิ ตำม ตรวจสอบ(C) 1. ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมเดือนละ 1 ครัง้ เพ่อื ประเมนิ ผลความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม 2. สรปุ ผลการจัดกิจกรรมเพ่ือประเมนิ ความสาเร็จของการดาเนนิ โครงการ ควำมสำเร็จทเ่ี ปน็ จุดเดน่ (A) 1. ผเู้ รยี น ผู้ตอ้ งขงั ในทณั ฑสถานบาบัดพิเศษหญงิ ไดร้ ับความรู้และความเพลิดเพลินจาการจดั กจิ กรรม 2. ผูเ้ รียน ผ้ตู อ้ งขงั ในทัณฑสถานบาบัดพิเศษหญงิ ไดเ้ สรมิ สรา้ งความรูแ้ ละสามารถนาความรู้จาก การอ่านไปใชัในชวี ิตประจาวนั ได้ 3. ผู้เรียน ผูต้ อ้ งขงั ในทัณฑสถานบาบัดพเิ ศษหญงิ