Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรแนะแนว2565

หลักสูตรแนะแนว2565

Published by นนนภรรท โสมณวัฒน์, 2022-08-24 04:12:12

Description: หลักสูตรแนะแนว2565

Search

Read the Text Version

๔๕ การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นัน้ ให้ระดับผลการประเมนิ เปน็ ผา่ นและไม่ผ่าน กรณีท่ีผ่านให้ระดับผลการเรยี นเปน็ ดีเยยี่ ม ดแี ละผา่ น สถานศกึ ษาสามารถกาหนดความหมายของผลการประเมินคุณภาพดีเย่ียม ดีและผ่าน ไดด้ ังนี้ ๑. การประเมนิ อา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ดเี ย่ยี ม หมายถึง สามารถจับใจความสาคญั ได้ครบถว้ น เขียนวิพากษว์ จิ ารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความคดิ เหน็ ประกอบอยา่ งมเี หตุผล ได้ถกู ตอ้ งและสมบูรณ์ ใช้ภาษาสภุ าพและเรียบเรยี ง ไดส้ ละสลวย ดี หมายถึง สามารถจบั ใจความสาคญั ได้ เขียนวิพากษว์ จิ ารณ์ และเขียนสรา้ งสรรคไ์ ดโ้ ดยใช้ภาษาสภุ าพ ผ่าน หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคัญและเขียนวิพากษว์ จิ ารณไ์ ดบ้ ้าง ๒. การประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดเี ยี่ยม หมายถึง ผู้เรยี นมีคุณลักษณะในการปฏบิ ัตจิ นเปน็ นสิ ัยและ นาไปใช้ในชีวติ ประจาวันเพือ่ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสงั คม ดี หมายถงึ ผู้เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะในการปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ เพอ่ื ให้เปน็ ทย่ี อมรบั ของสังคม ผ่าน หมายถงึ ผู้เรียนรบั รู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเงอื่ นไข ที่สถานศึกษากาหนด การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผ้เู รียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนดและใหผ้ ลการประเมินเปน็ ผ่านและไม่ผ่าน ๓. การเลือ่ นชน้ั สถานศึกษาสามารถกาหนดเกณฑ์การเล่ือนช้ัน โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับเกณฑ์การตัดสิน ผลการเรยี น ตลอดจนกาหนดเกณฑ์เกย่ี วกับการผ่านตวั ชี้วดั ใหช้ ดั เจนและประกาศใหท้ ราบทั่วกนั สถานศกึ ษาสามารถ กาหนดเกณฑ์การเลื่อนช้นั ได้ดังนี้ ๑) ผู้เรียนต้องมเี วลาเรียนตลอดปีการศกึ ษาไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทง้ั หมด ๒) ผเู้ รยี นตอ้ งได้รบั การประเมนิ ทุกตัวชี้วดั และผ่านตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด ๓) ผู้เรียนต้องได้รบั การตดั สนิ ผลการเรยี นทกุ รายวิชา ๔. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด ในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน การพิจารณาเล่ือนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวช้ีวัด ซ่ึงสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า สามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสรมิ ได้ กใ็ หอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษาทจี่ ะผ่อนผันใหเ้ ลือ่ นชน้ั ได้ ในกรณีท่ีผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ สถานศึกษา อาจให้โอกาสผู้เรียนเล่ือนชั้นระหว่างปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยคณะกรรมการ บริหารหลักสูตรและวิชาการและผู้แทนของเขตพืน้ ท่ีการศึกษาหรือต้นสังกดั อย่างนอ้ ย ๑ คน เม่ือผู้เรียนมีคุณสมบัติ ครบถ้วนตามเง่อื นไขท้ัง ๓ ประการ ตอ่ ไปน้ี ๑. มีผลการเรียนปีการศึกษาทผ่ี า่ นมาและมผี ลการเรียนระหว่างปอี ยใู่ นเกณฑด์ เี ยี่ยม ๒. มีวฒุ ภิ าวะเหมาะสมที่จะเรียนในชน้ั ท่สี งู ข้นึ ๓. ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถตามตัวช้ีวัดรายปีท้ังหมดในภาคเรียนท่ี ๒ ปีปัจจุบัน และภาคเรียนท่ี ๑ ของปกี ารศกึ ษาถัดไป

๔๖ การอนุมัติให้เล่ือนไปเรียนชั้นสูงได้ ๑ ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอมจากนกั เรียนและผู้ปกครอง และตอ้ งดาเนินการใหเ้ สรจ็ ส้นิ ภายในวันที่ ๑ กนั ยายนของปกี ารศึกษาน้ัน สาหรับในกรณีท่ีพบว่ามีผู้เรียนกลุ่มพิเศษประเภทต่าง ๆ ที่มีปัญหาในการเรียนรู้ ให้สถานศึกษา ดาเนนิ งานรว่ มกบั สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา/ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษจงั หวัด/ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษเขตการศกึ ษา หา แนวทางการแกไ้ ขและพฒั นา ๔. การเรียนซา้ ช้ัน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดว่า หากผู้เรียน ไม่ผ่านรายวิชาจานวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นท่ีสูงข้ึน สถานศึกษาอาจตั้ง คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าชั้นได้ ทั้งนี้ให้คานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็นสาคัญ ผูเ้ รยี นท่ีไมม่ คี ณุ สมบัติตามเกณฑก์ ารอนุมตั เิ ลอ่ื นช้นั เรียน สถานศึกษาจะตอ้ งจดั ใหเ้ รยี นซ้าชั้น ในกรณีทผ่ี ู้เรยี นขาดคณุ สมบตั ิข้อใดขอ้ หนง่ึ สถานศึกษาอาจใช้ดลุ พินิจใหเ้ ลอ่ื นชัน้ ได้ หากพจิ ารณาเห็นวา่ ๑) ผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐ อันเน่ืองจากสาเหตุจาเป็น หรือเหตุสุดวิสัยแต่มีคุณสมบตั ิ ตามข้ออ่นื ๆ ครบถ้วน ๒) ผูเ้ รยี นผ่านมาตรฐานและตัวชว้ี ดั ไมถ่ งึ เกณฑต์ ามทส่ี ถานศึกษากาหนดในแตล่ ะรายวชิ า และ เห็นวา่ สามารถสอนซอ่ มเสริมไดใ้ นปกี ารศกึ ษาถัดไปและมคี ณุ สมบตั ขิ อ้ อ่นื ๆ ครบถว้ น ๓) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและ คณติ ศาสตร์อยู่ในเกณฑ์พอใช้และผู้เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖ มีผลการประเมินกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมอยู่ในเกณฑผ์ า่ น ๕. การสอนซอ่ มเสรมิ การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียน ได้มีเวลาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดท่ีกาหนดไว้ การสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนจัดการเรียนรู้ปกติเพ่ือแก้ ไขข้อบกพร่องที่พบในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรยี นร้ทู ่ีหลากหลายและคานึงถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผู้เรยี น การสอนซ่อมเสรมิ สามารถดาเนินการไดใ้ นกรณดี งั ต่อไปน้ี ๑) ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอท่ีจะศึกษาในแต่ละรายวิชาน้ัน ควรจัดการสอน ซอ่ มเสริม ปรบั ความรู้/ทกั ษะพน้ื ฐาน ๒) การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการหรือ เจตคติ / คุณลักษณะ ทกี่ าหนดไวต้ ามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ๓) ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์และ/หรือต่ากว่าเกณฑ์การประเมิน ต้องจัดการสอนซ่อมเสริม กอ่ นจะใหผ้ ูเ้ รียนสอบแก้ตัว ๔) ผู้เรียนมีผลการเรียนไม่ผ่าน สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อน ทั้งน้ีให้อยู่ในดุลยพินิจ ของสถานศกึ ษา

๔๗ ๖. การจบระดับประถมศกึ ษา ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพ่ิมเติม ตามโครงสร้างเวลาเรียนท่ีหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานกาหนด ๒) ผูเ้ รียนต้องมผี ลการประเมนิ รายวชิ าพ้ืนฐานผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนด ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่สี ถานศึกษากาหนด ๔) ผเู้ รียนมผี ลการประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามที่ สถานศึกษากาหนด ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามทสี่ ถานศึกษากาหนด  การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียน เป็นการแจ้งผลการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นความก้าวหน้า ของผู้เรียนให้ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องรับทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไข และส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียนให้ประสบความสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังใช้เป็นข้อมูลสาหรับ ออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน รบั รองผลการเรยี นและวุฒิการศกึ ษาของผ้เู รียน ๑. จุดม่งุ หมายการรายงานผลการเรยี น ๑.๑ เพ่ือแจ้งให้ผู้เรียน ผู้เกย่ี วข้องทราบความก้าวหน้าของผู้เรยี น ๑.๒ เพ่ือให้ผู้เรียน ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมและพัฒนาการเรียน ของผเู้ รียน ๑.๓ เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี น ผู้เก่ยี วข้องใช้เปน็ ข้อมูลในการวางแผนการเรยี น กาหนดแนวทางการศึกษาและ การเลอื กอาชีพ ๑.๔ เพ่ือเป็นข้อมูลให้ผู้ท่ีมีหน้าเกี่ยวข้อง ใช้ดาเนินการออกเอกสารหลักฐานการศึกษา ตรวจสอบ และรบั รองผลการเรียน หรอื วฒุ ทิ างการศกึ ษาของผู้เรียน ๑.๕ เพ่ือเป็นข้อมูลสาหรับสถานศึกษา เขตพื้นท่ีการศึกษาและหน่วยงานต้น สังกัด ใช้ประกอบในการกาหนดนโยบาย วางแผนในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ๒. ข้อมูลในการรายงานผลการเรียน ๒.๑ ข้อมูลระดับช้ันเรียน ประกอบด้วย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการเรียน ความประพฤติและผลงานในการเรยี นของผู้เรียน เป็นข้อมูลสาหรับรายงานให้ผู้มีส่วนเกีย่ วข้อง ได้แก่ ผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสาเร็จในการเรียนของผู้เรียนเพื่อนาไปใช้ในการวางแผนกาหนด เปา้ หมายและวธิ กี ารในการพฒั นาผู้เรียน ๒.๒ ข้อมลู ระดบั สถานศกึ ษา ประกอบด้วย ผลการประเมนิ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น กลุ่ม สาระการเรยี นรู้ ๘ กล่มุ สาระ ผลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ผลการประเมินคุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ ผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนรายปี/รายภาค ผลการประเมินความกา้ วหนา้ ใน การเรียนรู้ รายป/ี รายภาคโดยรวมของสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลและสารสนเทศในการพัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพของ ผู้เรียน ให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั การตัดสินการเล่ือนช้ันและการซ่อมเสริมผู้เรียนที่มีข้อบกพร่องให้ ผา่ นระดบั ช้ันและเป็นข้อมูลในการออกเอกสารหลักฐานการศกึ ษา

๔๘ ๒.๓ ขอ้ มูลการประเมนิ คุณภาพระดบั เขตพนื้ ท่ีการศึกษา ได้แก่ ผลการประเมนิ คณุ ภาพของผเู้ รียน ด้วยแบบประเมินท่ีสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจัดทาข้ึนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สาคัญในระดับช้ันที่นอกเ หนือ จากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลท่ีผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดาเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษาในเขตพนื้ ที่การศึกษาเพื่อใหเ้ กดิ การยกระดบั คณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของผู้เรียนและสถานศึกษา ๒.๔ ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนด้วย แบบประเมินท่ีเป็นมาตรฐานระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนร้ทู ่ีสาคัญในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ และมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ซึง่ ดาเนินการโดยหน่วยงานระดบั ชาติ เป็นข้อมลู ท่ีผู้เกย่ี วข้องใชว้ างแผนและ ดาเนินการพฒั นาคุณภาพการศึกษาในส่วนท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของ ผู้เรียน สถานศึกษาท้องถ่ิน เขตพ้ืนที่การศึกษาและประเทศชาติ รวมท้ังนาไปรายงานในเอกสารหลักฐานการศึกษา ของผู้เรยี น ๒.๕ ขอ้ มลู พฒั นาการของผู้เรยี นด้านอน่ื ๆ ประกอบด้วย ขอ้ มลู เกยี่ วกบั พฒั นาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนหน่ึงของการแนะแนวและจัดระบบการดูแลช่วยเหลือ เพื่อแจ้งให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูล โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายนาไปใช้ ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งนาไปจัดทาเอกสารหลักฐานแสดง พฒั นาการของผู้เรียน ๓. ลกั ษณะขอ้ มูลสาหรับการรายงาน การรายงานผลการเรยี น สถานศกึ ษาสามารถเลือกลักษณะข้อมูลสาหรับการรายงานไดห้ ลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกับวิธีการรายงาน โดยคานึงถึงประสิทธิภาพของการรายงานและการนาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ของผูร้ ับรายงานแต่ละฝา่ ย ลกั ษณะขอ้ มลู มีรูปแบบดังนี้ ๓.๑ รายงานเป็นตัวเลข ตัวอักษร คา หรือข้อความที่เป็นตัวแทนระดับความรู้ ความสามารถ ของผ้เู รียนทเี่ กดิ จากการประมวลผล สรุปตัดสนิ ข้อมูลผลการเรียนรูข้ องผเู้ รียน ได้แก่ ๑) คะแนนที่ไดก้ ับคะแนนเตม็ ๒) คะแนนร้อยละ ๓) ระดบั ผลการเรียน “๐ - ๔” (๘ ระดับ) หรอื ตามทีส่ ถานศึกษากาหนดและผลการเรียน ท่มี ีเงือ่ นไข “ผ” “มผ” “ร” “มส” ๔) ผลการประเมินคุณภาพ “ดเี ยีย่ ม” “ดี” “ผ่าน” ๕) ผลการตดั สนิ ผา่ นระดับช้นั “ผ่าน” “ไม่ผา่ น” ๓.๒ รายงานโดยใช้สถิติ เป็นการรายงานจากข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือข้อความให้ เป็นภาพแผนภูมิหรือเส้นพัฒนาการ ซ่ึงจะแสดงให้เห็นพัฒนาการความก้าวหน้าของผู้เรียนว่าดีขึ้นหรือควรได้รับ การพัฒนาอย่างไร เม่ือเวลาเปลย่ี นแปลงไป ๓.๓ รายงานเป็นข้อความ เป็นการบรรยายพฤติกรรมหรือคุณภาพที่ผู้ประเมินสังเกตพบ เพื่อรายงานให้ทราบวา่ ผู้เรยี นมีความสามารถ มีพฤติกรรม ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั และบคุ ลิกภาพอย่างไร เชน่  ผู้เรยี นมคี วามเชอื่ ม่นั ในตนเองสูง ชอบแสดงความคิดเห็นและมีเหตุผล  ผู้เรียนสนใจอ่านเร่ืองต่าง ๆ หลากหลายประเภท สามารถสรุปใจความของเรื่อง ไดถ้ กู ต้องสมบูรณ์  ผู้เรียนมีผลการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้เป็นท่ีน่าพอใจ แต่ควรมีการพัฒนาด้าน การเขียน โดยไดร้ บั ความรว่ มมอื จากผูป้ กครองในการฝกึ หรือสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมที กั ษะในการเขียนสงู ข้ึน

๔๙ ๔. เปา้ หมายการรายงาน การดาเนินการจัดการศึกษา ประกอบด้วยบุคลากรหลายฝ่ายมาร่วมมือประสานงานกัน พัฒนาผู้เรียนท้ังทางตรงและทางอ้อม ให้มีความรู้ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ โดยผมู้ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งควรไดร้ ับการรายงานผลการประเมนิ ของผู้เรยี นเพอื่ ใช้เป็นข้อมลู ในการดาเนินงาน ดงั น้ี กลุม่ เป้าหมาย การใชข้ อ้ มูล ผูเ้ รยี น - ปรับปรงุ แก้ไขและพัฒนาการเรียน รวมทัง้ พฒั นาร่างกาย อารมณ์ สงั คม ผ้สู อน และพฤติกรรมตา่ ง ๆ ของตน - วางแผนการเรียน การเลือกแนวทางการศึกษา และอาชีพในอนาคต ครวู ัดผล - แสดงผลการเรียน ความรู้ ความสามารถ และวฒุ กิ ารศึกษาของตน นายทะเบียน - วางแผนและดาเนินการปรบั ปรงุ แกไ้ ขและพฒั นาผเู้ รยี น ครูแนะแนว - ปรับปรงุ แก้ไขและพัฒนาการจดั การเรยี นการสอน คณะกรรมการบริหาร หลักสตู รและวิชาการ - ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการประเมินผลของผู้สอน/ผูเ้ รยี น ของสถานศกึ ษาและ - พัฒนาระบบ ระเบียบและแนวทางการประเมนิ ผลการเรียน คณะกรรมการอื่น ๆ - จัดทาเอกสารหลักฐานการศกึ ษา - ให้คาแนะนาผเู้ รียนในดา้ นตา่ ง ๆ - พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบผลการเรียนของผูเ้ รียน - พัฒนาแนวทางการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา - พิจารณาตดั สนิ และอนุมัติผลการเรยี นของผ้เู รียน - พฒั นากระบวนการจดั การเรียนของสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง - วางแผนการบรหิ ารจัดการศึกษาด้านต่าง ๆ - รบั ทราบผลการเรยี นและพฒั นาการของผู้เรียน ฝา่ ย/หนว่ ยงานทมี่ ีหนา้ ที่ - ปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นาการเรียนของผู้เรยี น รวมทง้ั การดแู ลสุขภาพ ตรวจสอบรับรองความรู้ และวฒุ ิการศกึ ษา/ อนามยั ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ของผ้เู รยี น สถานศกึ ษา - พจิ ารณาวางแผนและส่งเสรมิ การเรยี น การเลือกแนวทางการศกึ ษาและ สานักงานเขตพน้ื ท่ี การศกึ ษา/หน่วยงาน อาชีพในอนาคตของผู้เรียน ตน้ สงั กดั - ตรวจสอบ และรับรองผลการเรียนและวุฒกิ ารศึกษาของผเู้ รียน - เทยี บระดับ/วุฒกิ ารศกึ ษาของผ้เู รียน - เทยี บโอนผลการเรยี น - ยกระดบั และพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา - นิเทศ ติดตาม และให้ความช่วยเหลือการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของ สถานศึกษาทีม่ ีผลการประเมนิ ต่ากวา่ ค่าเฉลีย่ ของสานักงานเขตพ้นื ท่ี การศกึ ษา

๕๐ ๕. วิธีการรายงาน การรายงานผลการเรยี นใหผ้ ้เู กีย่ วข้องรบั ทราบ สามารถดาเนินการได้ดังนี้ ๕.๑ การรายงานผลการเรยี นในเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ไดแ้ ก่  ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑)  หลักฐานแสดงวุฒิการศกึ ษา (ปพ.๒)  แบบรายงานผู้สาเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.๓)  แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบคุ คล  แบบบนั ทกึ ผลการเรยี นประจารายวชิ า  ระเบยี นสะสม  ใบรับรองผลการเรยี น ฯลฯ ขอ้ มลู จากแบบรายงาน สามารถใช้อา้ งอิง ตรวจสอบและรับรองผลการเรียนของผเู้ รยี นได้ ๕.๒ การรายงานคุณภาพการศึกษาให้ผู้เกยี่ วข้องทราบ สามารถรายงานไดห้ ลายวิธี เชน่  รายงานคณุ ภาพการศกึ ษาประจาปี  วารสาร/จุลสารของสถานศึกษา จดหมายสว่ นตวั  การใหค้ าปรึกษาหารอื เป็นรายบคุ คล  การใหพ้ บครูท่ปี รึกษาหรอื การประชมุ เครือขา่ ยผปู้ กครอง  การให้ข้อมูลทาง Internet ผา่ น Web site ของสถานศกึ ษา ๖. การกาหนดระยะเวลาในการรายงาน การกาหนดระยะเวลาในการรายงานผลการเรียนแต่ละประเภทที่ได้มีการดาเนินการในโอกาสต่าง ๆ ทั้งการประเมินระดับชั้นเรียน การประเมินระดับสถานศึกษา การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษาและการประเมิน ระดบั ชาติ สถานศกึ ษาควรกาหนดช่วงเวลาในการรายงานให้สอดคลอ้ งกบั ชว่ งระยะเวลาท่ีผ้เู รยี นและผู้เกี่ยวข้องจะนา ข้อมูลการรายงานไปใช้ในการดาเนินการปรับปรุงแกไ้ ขและส่งเสริมการเรียนของผู้เรยี นตามบทบาทหน้าที่ของแตล่ ะ ฝ่าย โดยยึดหลักการรายงานให้เร็วท่ีสุดภายหลังการประเมินผลแต่ละครั้ง เพ่ือให้การรายงานเกิดประโยชน์และมี ประสทิ ธภิ าพในการนาไปใชส้ ูงสดุ

๕๑ แผนภาพที่ ๓.๑ แสดงแผนการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ของสถานศึกษา

๕๒  แผนการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของสถานศกึ ษา เมือ่ สถานศกึ ษาจัดทาหลกั สูตรท่ีสอดคล้องกับหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานและเหมาะสมกับสภาพ บริบทของตนเองแลว้ ภารกจิ ตอ่ ไปคอื วางแผนการวัดและประเมินผลการเรียนรูใ้ ห้สอดคลอ้ งกับหลกั สูตร เพ่ือใชเ้ ป็น แนวทางในการดาเนินการวัดและประเมนิ ผลในระดบั ช้ันเรียนสาหรบั ผู้สอนโดยในการประเมนิ ความรู้และทกั ษะต่าง ๆ นนั้ ควรยดึ บรู ณาการไปพร้อม ๆ กบั การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอื่น ๆ มีรายละเอยี ดที่สถานศึกษาตอ้ งประเมิน ดังนี้ ๑. การประเมินผลการเรียนรตู้ ามกล่มุ สาระการเรียนรู้ ๒. การประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน ๓. การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๔. การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน นอกจากนี้ ส่ิงท่ีสถานศึกษาต้องตรวจสอบเพ่ิมเติมเพื่อให้มน่ั ใจว่าการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลการ เรียนรู้ท่ีครูผู้สอนดาเนินการนั้น นาสู่การพัฒนาสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษา ข้ันพื้นฐาน ๕ ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี โดยการประเมินสมรรถนะสาคัญท้งั ๕ ดา้ น น้ันควรเป็นการประเมินในลกั ษณะบรู ณาการไปพรอ้ ม ๆ กบั การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอ่นื ๆ  การประเมินผลการเรียนรตู้ ามกลุม่ สาระการเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ัง้ ๘ กลุ่มสาระ เปน็ การประเมินผลการเรียนรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ในหลักสูตร ซ่ึงจะนาไปสู่การสรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ต่อไป ภารกิจของสถานศึกษา ในการดาเนนิ การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามกลุ่มสาระการเรียนรู้ มรี ายละเอียดดังนี้ ๑. กาหนดสัดสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี นกบั คะแนนปลายป/ี ปลายภาค โดยใหค้ วามสาคญั ของคะแนนระหว่าง เรียนมากกวา่ คะแนนปลายป/ี ปลายภาค เชน่ ๖๐:๔๐ , ๗๐:๓๐ , ๘๐:๒๐ เป็นต้น ๒. กาหนดเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน โดยพิจารณาความเหมาะสมตามระดับชั้นเรียน เช่น ระดับ ประถมศึกษาอาจกาหนดเป็นระดับผลการเรียน หรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนเป็นระบบตัวเลข ระบบ ตวั อักษร ระบบรอ้ ยละและระบบคุณภาพสะท้อนมาตรฐาน สาหรับระดับมัธยมศกึ ษากาหนดเปน็ ระดบั ผลการเรียน ๘ ระดบั และกาหนดเง่อื นไขตา่ ง ๆ ของผลการเรยี น เชน่ การประเมินทีย่ ังไม่สมบรู ณ์ (ได้ ร) การไม่มีสทิ ธิเขา้ รับการสอบ (ได้ มส) เป็นต้น นอกจากนี้ สถานศึกษาอาจกาหนดคุณลักษณะของความสาเร็จตามมาตรฐานการศึกษาแต่ละชั้นปี เป็นระดบั คณุ ภาพเพม่ิ อีกกไ็ ด้ ๓. กาหนดแนวปฏิบัติในการสอนซ่อมเสริม การสอบแก้ตัว กรณีผู้เรียนมีระดับผลการเรียน “๐” และ แนวดาเนินการกรณผี ู้เรยี นมผี ลการเรยี นทีม่ เี งอื่ นไข คอื “ ร ” “ มส.” ๔. กาหนดแนวปฏิบตั ใิ นการอนุมัติผลการเรียน ๕. กาหนดแนวทางในการรายงานผลการประเมนิ ต่อผ้เู กีย่ วข้อง เชน่ ผู้ปกครอง ๖. กาหนดแนวทาง วิธีการในการกากับ ติดตามการบันทึกผลการประเมินในเอกสารหลักฐานการศึกษา ทง้ั แบบทห่ี ลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และแบบทีส่ ถานศกึ ษากาหนด

๕๓  การประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้มีการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ดังน้ันสถานศึกษาต้องวางแผนการพัฒนาความสามารถ ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ควบคู่ ไปกบั การจัดการเรียนรใู้ นรายวชิ าตา่ ง ๆ สถานศกึ ษาอาจกาหนดขัน้ ตอนดาเนนิ การ ดังแผนภาพที่ ๓.๒ ประชมุ ชี้แจงแนวการส่งเสริม/พัฒนา กาหนดเกณฑ์ คณะกรรมการพฒั นาและประเมนิ การประเมนิ และแนวทางการวดั ผลประเมนิ ผล การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น ดาเนนิ การสง่ เสริม/พฒั นา ควบคกู่ บั การจัดกจิ กรรม ครูผสู้ อน การเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ สาระ/โครงการ/กจิ กรรมส่งเสริม ครูผสู้ อน ครูทป่ี รกึ ษา/ครปู ระจาชั้น วัดผล ประเมินผล บันทึกผล (สรปุ ผล) หรอื ผ้ทู ่ีไดร้ ับมอบหมาย ประมวลผล สรุปผล คณะกรรมการพัฒนาและประเมินการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน ไมผ่ า่ น ผา่ น ซอ่ มเสรมิ - ครปู ระจาชนั้ ดเี ยย่ี ม - ครูที่ปรกึ ษา ดี - นายทะเบียน ผา่ น บันทึกผล

๕๔ แนวดาเนินการพฒั นาและประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น การพัฒนาและประเมนิ ความสามารถการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น สถานศกึ ษาอาจกาหนดแนวดาเนินการ ดงั นี้ ๑. คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ของสถานศึกษากาหนดผลการเรียนรู้ หรือความสามารถ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน จากกลุ่มสาระการเรียนรู้พร้อมกาหนดเกณฑ์ตัดสินคุณภาพ (ดเี ย่ยี ม ดแี ละ ผ่าน) ให้เหมาะสมกบั ระดบั การศกึ ษา ๒. ผ้สู อนแตล่ ะกลุม่ สาระออกแบบการประเมนิ เพอ่ื ประเมินความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น ให้เหมาะสมกบั ผู้เรียนแตล่ ะชน้ั ปี และการจัดการเรียนรใู้ นแตล่ ะภาคเรียน รปู แบบและวธิ กี ารพัฒนาและประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน คณะกรรมการการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน สามารถดาเนนิ การไดห้ ลายวธิ ีดงั น้ี ๑. ประเมินจากผลงานและการเข้ารว่ มกิจกรรม ๑.๑ กรณีที่บุคลากรสอนตามเพียงพอ ใช้วิธีการบูรณาการความสามารถ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เข้ากับหน่วยการเรียนรู้ ในรายวิชา ที่มีสัดส่วนเพียงพอสามารถเป็นตัวแทนได้ เมื่อนาหน่วยการเรียนรู้ ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แต่ละรายวิชาแล้ว มีผลการประเมินของผู้เรียนเป็นผลงานในหน่วยการเรียนรู้นั้น ให้นา ผลการประเมนิ นั้นนับเขา้ เปน็ ผลการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี นด้วย ๑.๒ กรณีที่สถานศึกษามีบุคลากรเพียงพอ นอกจากส่งเสริมและพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในกลุ่มสาระท่ีสอนแล้ว ยังสามารถจัดโครงงาน/กิจกรรมเสริมอีก เช่น โครงการรักการอ่าน - การเขียน เป็นต้น การประเมินผลก็ใชผ้ ลจากการประเมินในกลมุ่ สาระและผลจากการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรม ๒. ประเมนิ จากแบบทดสอบมาตรฐานประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละ เขยี น โดยทดสอบกับผเู้ รียนทุกคน การนาแบบทดสอบมาตรฐานมาใช้ประเมินผลต้องมีความมั่นใจในความเที่ยงตรง(Validity) ความยุติธรรม(Fair) และความเชื่อถือได้ (Reliability) เกณฑก์ ารตดั สินผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน การวิเคราะหข์ อ้ มูลเพอ่ื ตดั สนิ ระดบั คุณภาพ ใชว้ ธิ ีการท่ีเหมาะสมกับลกั ษณะของข้อมูลซ่ึง ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ได้แก่ ฐานนิยม (Mode) แล้วตัดสินผลตามเกณฑ์ที่กาหนด ส่งผลให้แก่คณะกรรมการดาเนินการประเมินการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน เพื่อดาเนนิ การส่งเสริมพฒั นาต่อไป เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ให้กาหนดเป็นระดับคุณภาพดเี ย่ยี ม ดีและผ่าน อย่างไรกต็ ามในกระบวนการพัฒนาสถานศึกษา ควรกาหนดให้ผู้สอนได้ให้ขอ้ มูลย้อนกลับแกผ่ ู้เรียนเพ่ือการพัฒนา การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น ไดบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ของสถานศึกษา การให้ข้อมูลย้อนกลับจะทาได้ดีหากมีการใช้เกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) เป็นแนวทาง การกาหนดเกณฑก์ ารให้คะแนน สถานศึกษาสามารถดาเนนิ การได้ดงั นี้ ๑. กาหนดระดบั คุณภาพตามทห่ี ลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกาหนดไว้ ได้แก่ ดเี ยยี่ ม ดแี ละผ่าน ๒. กาหนดประเด็นการประเมนิ ใหส้ อดคลอ้ งกับความสามารถท่จี ะประเมนิ เชน่ - การนาเสนอเน้อื หา - การใช้ภาษา

๕๕  การประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หมายถึง ลักษณะที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียนอันเป็นคุณลักษณะท่ีสังคม ต้องการ ในด้านคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม จิตสานึก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งในฐานะ พลเมืองไทยและพลโลก ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐานกาหนดซ่ึง มีอยู่ ๘ คุณลักษณะ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุง่ มั่นในการทางาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ น อกจากนี้สถาน ศึกษาสามารถกาหน ดคุณลักษณะ อัน พึง ประ สง ค์เพิ่มเติมให้สอดคล้อง กับบริบท แ ล ะ จดุ เนน้ ของตนเองได้ การพัฒนาคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของสถานศึกษาจะบรรลุผลไดน้ ั้น ตอ้ งอาศยั การบรหิ ารจดั การและการ มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ครูท่ีปรึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองและชมุ ชนท่ตี อ้ งมงุ่ ขัดเกลา บ่มเพาะ ปลกู ฝงั คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ใหเ้ กดิ ขน้ึ แกผ่ ู้เรยี น ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถกระทาได้โดยนาพฤติกรรมบ่งชี้หรือพฤติกรรมท่ีแสดงออก ของคุณลักษณะแต่ละด้านท่ีวิเคราะห์ไว้ บูรณาการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ใน กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นและโครงการพิเศษต่าง ๆ ทีส่ ถานศกึ ษาจดั ทาข้ึน เช่น โครงการวันพ่อ วนั แมแ่ หง่ ชาติ โครงการ ลดภาวะโลกร้อน วันรักษส์ ิง่ แวดลอ้ ม แหเ่ ทยี นพรรษา ตามรอยคนดี หรอื กิจกรรมทีอ่ งคก์ รในทอ้ งถิ่นจัดขึ้น เปน็ ต้น สาหรบั การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์น้นั สถานศึกษาควรจัดให้มกี ารประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ โดยอาจ ประเมินผลเปน็ รายสปั ดาห์ รายเดือน รายภาค รายปีดว้ ย เพอื่ ใหม้ กี ารส่ังสมและการพฒั นาอย่างตอ่ เนอื่ ง โดยเฉพาะ การนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และประเมินผลสรปุ เมอื่ จบปสี ดุ ท้ายของแตล่ ะระดบั การศึกษา ประชมุ ชี้แจงแนวทาง คณะกรรมการพัฒนาและ การประเมิน การเก็บรวบรวม การ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง รายงานความกา้ วหนา้ ประสงค์ การรายงานผล และสรปุ ผล สง่ เสรมิ /พัฒนา ประเมิน บันทึก วิเคราะห์ แปลผล ครผู สู้ อน ผูเ้ รยี น ครทู ปี่ รึกษา ครูประจาช้ัน และรายงานผลการประเมนิ หรอื ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไม่ผ่านเกณฑ์ ตอ่ ผเู้ กี่ยวข้อง - เกบ็ รวบรวม ทะเบียน-วัดผล - ประมวลผล - สรุปผล - บนั ทึกขอ้ มูลใน ปพ.1 นาขอ้ มูลทีไ่ ดม้ าวางแผน คณะกรรมการ แผนภาพที่ ๓.๓ แสดงขน้ั ตอนการดาเนนิ การวัดและประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของสถานศึกษา

๕๖ แนวดาเนินการพฒั นาและประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สถานศึกษาควรดาเนินการพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นขั้นตอนที่ชัดเจน สามารถ ตรวจสอบกลบั การดาเนินงานได้ แผนภูมิท่ี ๓.๒ แสดงขั้นตอนการดาเนนิ การวัดและประเมินคุณลกั ษณะ อัน พึงประสงค์ทส่ี ถานศึกษาสามารถนาไปปรบั ใชต้ ามบริบทของสถานศึกษา โดย การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์จะทาการประเมินแยกจากการประเมินของกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยดาเนนิ การดังน้ี ๑. คณะกรรมการการพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาทาความเข้าใจกับ คณะครูผ้สู อนทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้/รายวชิ า ครูทปี่ รึกษา ครผู ูด้ ูแลกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนถงึ นโยบายของสถานศกึ ษา ในการพฒั นาคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้เู รียน โดยขอให้ครูทปี่ รึกษา ครูประจาสาระวชิ า ครผู ู้รบั ผดิ ชอบโครงการ ต่าง ๆ ได้ให้ความสนใจร่วมกันพัฒนา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนทุกข้อ และร่วมกาหนดตัวช้ีวัดหรือ พฤตกิ รรมบ่งชหี้ รือพฤติกรรมท่แี สดงออกของ แต่ละคณุ ลักษณะตามท่ีคณะกรรมการพฒั นาและประเมินคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ของสถานศึกษาไดว้ เิ คราะห์ไว้ ให้เหมาะสมกับธรรมชาตขิ องวัยและวฒุ ภิ าวะของนกั เรยี น ๒. กาหนดเกณฑ์และคาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพให้สอดคล้องกบั เกณฑ์การประเมินท่ีหลกั สูตรแกนกลางกาหนด ๓. กาหนดวิธกี ารประเมนิ และเคร่ืองมือการประเมนิ ใหเ้ หมาะสมกบั ตวั ชวี้ ัด ๔. ดาเนนิ การประเมินผูเ้ รียนอย่างตอ่ เนอื่ งและรายงานผลการประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ ๕. กาหนดระดับของพฤติกรรมที่บ่งช้ีว่าพฤติกรรมนักเรียนอยู่ในระดับ “เส่ียง” กล่าวคือ การพัฒนา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูเ้ รยี นด้วยวธิ ธี รรมดาอาจจะไมส่ ามารถทาให้ผู้เรียนบรรลตุ ามเกณฑ์ได้ มีความจาเปน็ ที่ ครทู ีป่ รกึ ษา หรือครูผู้สอนรว่ มกบั คณะกรรมการพฒั นาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาต้องใช้ กระบวนการวิจยั เขา้ มาช่วยในการแกป้ ญั หาโดยทากรณีศึกษา ๖. เมื่อส้ินภาคเรียน/สิ้นปี ครูผู้สอนส่งผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนทุกคนที่ รับผิดชอบใหค้ ณะกรรมการของสถานศึกษา ซ่งึ มคี รวู ัดผลเปน็ เลขานกุ าร ๗. ครวู ดั ผลดาเนินการประมวลผลตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด โดยใช้ฐานนิยม (mode) ๘. นาเสนอผบู้ ริหารสถานศกึ ษาเพื่อพจิ ารณาอนุมัติ รูปแบบนาคณุ ลักษณะประเมนิ รว่ มกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัด กระบวนการปลูกฝัง เลอื กคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ครู ู้ผสอนแต่ละกลุ่มสาระส่งผลการ ครูวดั ผล ผ่านกลุ่มสาระและ ท่ีสอดคลอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ัด ประเมิน ประมวลผล กจิ กรรม ๑๒๓๔๕๖๗๘ โดยใชฐ้ านนยิ ม ๑๒๓๔๕๖๗๘ ภาษาไทย ๑๒๓๔๕๖๗๘ อนมุ ตั ิ ๑๒๓๔๕๖๗๘ คณิตศาสตร์ ๑๒๓๔๕๖๗๘ วทิ ยาศาสตร์ ๑๒๓๔๕๖๗๘ ๑๒๓๔๕๖๗๘ สขุ ศกึ ษา-พละศกึ ษา ๑๒๓๔๕๖๗๘ ๑๒๓๔๕๖๗๘ สงั คมศึกษาฯ ๑๒๓๔๕๖๗๘ การงานอาชพี ฯ ศลิ ปศกึ ษา ภาษาตา่ งประเทศ ชมรม/ชมุ นุม โครงการ/กจิ กรรม

๕๗ เป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับโรงเรียนที่มีความพร้อมปานกลาง กล่าวคือ มีจานวนบุคลากรครูที่ครบช้ันเรียน มีครูพิเศษบ้าง แต่ไม่มากนัก ครูคนหน่ึงอาจต้องทางานทั้งเป็นผู้สอนและทางานส่งเสริมรวมท้ังรับผิดชอบกิจกรรม พัฒนาผูเ้ รยี นอนื่ ๆ ดว้ ย สถานศกึ ษาประเภทดงั กล่าวสามารถเลอื กใช้รปู แบบการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รูปแบบน้ี โดยการเลือกคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์เฉพาะข้อที่มีเน้ือหาใกล้เคียงกับมาตรฐานหรอื ตัวช้ีวัดในกลุ่มสาระ น้ัน ๆ ท่ีครูแต่ละคนรับผิดชอบ เพ่ือบูรณาการและจัดทาแผนการเรียนรู้ และแผนการพัฒนาคุณลักษณะพึงประสงค์ ในข้อน้ัน ๆ ด้วยในคราวเดียวกัน การประเมินคุณลักษณะอันพึง-ประสงค์ ก็ดาเนินการประเมินร่วมกับตัวชี้วัด ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาคาดหวังว่าเม่ือได้ดาเนินการในภาพรวมแล้ว การพัฒนาคุณลักษณะ อนั พึงประสงคจ์ ะครบทกุ ขอ้ ตามทีส่ ถานศึกษากาหนด โดยดาเนินการดังนี้ ๑. คณะกรรมการการพัฒนาและประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาร่วมกับครูผู้สอนร่วมกัน วิเคราะห์มาตรฐาน/ตัวช้ีวัดเน้ือหาในกลุ่มสาระวิชา และพิจารณาเลือกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ว่ามีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ข้อใดบ้างที่สอดคล้องกับธรรมชาติวิชาที่ครูแต่ละคนรับผิดชอบ รวมท้ังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนดว้ ย ๒. ครูผู้สอนนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ คัดเลือกไว้ไปบูรณาการกับตัวชี้วัด ของกลุ่มสาระ การเรียนรู้ ดาเนินการพัฒนาและประเมินร่วมกนั ๓. ครูผู้สอนส่งผลการประเมินใหค้ รูวดั ผลเพื่อสรปุ ผลการประเมิน และนาเสนอผู้บริหารเพ่อื พจิ ารณาอนมุ ตั ิ ตอ่ ไป  การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกระดับช้ัน เพื่อส่งเสริมพัฒนา ความสามารถของตนเองตามความถนัด ความสนใจ ให้เต็มศักยภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของความ เป็นมนุษย์ท้ังด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม สร้างเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพ่ือสังคมและสามารถบริหาร การจัดการตนเองได้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น แบง่ เป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่ ๑. กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสริมและพัฒนาผ้เู รียนให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนดั และ ความสนใจ โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ด้วยกระบวนการทางจิตวิทยาการแนะแนวให้สอดคล้อง ครอบคลุมด้านการศึกษา อาชีพส่วนตวั และสงั คม กจิ กรรมสาคัญในการพฒั นาได้แก่ กจิ กรรมการรู้จกั เขา้ ใจและเห็น คุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน กิจกรรมการปรับตัวและดารงชีวิต กิจกรรมแสวงหาและ ใช้ข้อมูลสารสนเทศ กิจกรรม การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา เปน็ ตน้ ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ม่งุ พัฒนาความมรี ะเบียบวินัยความเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี ความรับผิดชอบ การทางานร่วมกนั การรู้จกั แก้ปัญหา การตดั สนิ ใจท่เี หมาะสม ความมเี หตผุ ล การชว่ ยเหลือแบ่งปนั กัน เอือ้ อาทร และ สมานฉนั ท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรยี น ให้ผเู้ รยี นได้ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทางาน เน้นการทางาน ร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและท้องถ่ิน กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย ๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ - ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบยี บวินัย ความเป็นผู้นาผตู้ ามที่ดี ความรบั ผดิ ชอบ การทางานร่วมกนั การรจู้ กั แกป้ ัญหา การตัดสินใจทเี่ หมาะสม ความมเี หตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน การประนีประนอม เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีความสมบูรณ์ พร้อมทงั้ ด้านร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคมและสตปิ ัญญา เปน็ ตน้

๕๘ ๒.๒ กิจกรรมชุมนุม /ชมรม เปน็ กจิ กรรมทีส่ ง่ เสรมิ และพัฒนาผู้เรยี นให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติด้วยตนเอง ตั้งแต่การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรบั ปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกนั เป็นกลุ่ม กิจกรรมสาคญั ในการพัฒนา ไดแ้ ก่ ชุมนมุ หรอื ชมรม ต่าง ๆ ท่สี ถานศกึ ษากาหนดข้ึนตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับ วฒุ ิภาวะของผ้เู รยี นและบรบิ ทของสถานศึกษา และท้องถิ่น ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทาประโยชน์ ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทาประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม กิจกรรมสาคัญ ได้แก่ กิจกรรม บาเพ็ญประโยชน์ กจิ กรรมสรา้ งสรรคส์ ังคม กิจกรรมดารงรักษา สบื สานศาสนา ศลิ ปะและวัฒนาธรรม กิจกรรมพัฒนา นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่อื สังคม เป็นตน้ เวลาเรียนสาหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีละ ๑๒๐ ชั่วโมง เป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและ กิจกรรม เพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ ผ้เู รยี นดงั น้ี ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ - ๖ รวม ๖ ปี จานวน ๖๐ ชั่วโมง (เฉลย่ี ปีละ ๑๐ ช่ัวโมง) การจดั กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชนส์ ามารถนาไปสอดแทรก หรือบรู ณาการในกจิ กรรมลกู เสอื - ยวุ กาชาด ผบู้ าเพ็ญประโยชน์ ไดต้ ามความเหมาะสม ทง้ั นี้ การทากิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ให้ผเู้ รียน รายงานแสดงการเขา้ ร่วมกิจกรรมและมผี ูร้ บั รองผลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมด้วย การประเมินผลการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นเงื่อนไขสาคัญประการหนึ่งสาหรับ การเล่ือนชั้นและ การจบระดับการศึกษา ผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตลอดจนผ่านการประเมิน ตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากาหนด โดยแนวทางการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นมีรายละเอียดดังแผนภาพที่ ๓.๔ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น แนะแนว ลกู เสอื ฯ ผูบ้ าเพ็ญฯ กิจกรรมเพื่อสังคมฯ ชุมนมุ /ชมรม เกณฑก์ ารประเมิน ๑. เวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒. การปฏิบัติกจิ กรรม ๓. ผลงาน / ชิน้ งาน ตามเกณฑ์ ประเมิน ไมต่ ามเกณฑ์ ไมผ่ ่าน ผา่ น ซอ่ มเสรมิ ส่งผลการประเมนิ แผนภาพที่ ๓.๔ แสดงขนั้ ตอนการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน

๕๙ แนวดาเนนิ การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น สถานศึกษาควรมกี ารดาเนินการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นเป็นข้นั ตอนท่ชี ัดเจน ๑. การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นรายกิจกรรม มีแนวปฏิบตั ิดงั นี้ ๑.๑ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ท่สี ถานศึกษากาหนด ดว้ ยวิธีการท่หี ลากหลาย และใชก้ ารประเมินตามสภาพจรงิ ๑.๒ ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกจิ กรรมของผู้เรยี นว่าเป็นไปตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนดไวห้ รอื ไม่ ๑.๓ ในกรณีท่ี กิจกรรมใดต้องใชเ้ วลาปฏิบตั ติ ลอดปี เม่อื สิน้ ภาคเรียนแรกควรจดั ให้มีการประเมินผล การปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน เพ่ือสรุปความก้าวหน้า ปรับปรุงแก้ไข และรายงานให้ผู้ปกครองทราบ (โดยนาผล การประเมนิ ในภาคเรยี นแรกไปรวมกับผลการประเมนิ ในภาคเรียนท่ีสองเพอื่ ตัดสินผลการผ่านกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น เมอื่ จบปีการศึกษาในระดบั ประถมศึกษา ๑.๔ ผู้เรียนที่มีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ท่ีสถานศกึ ษากาหนด เป็นผผู้ า่ นการประเมินรายกจิ กรรมและนาผลการประเมินไปบนั ทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน ๑.๕ ผู้เรียนที่มีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม หรือเกณฑ์การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียนหรือท้ังสองเกณฑ์ ถือว่าไม่ผ่านการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้สอน ต้องดาเนินการซ่อมเสริมและประเมินจนผ่าน ทั้งน้ีควรดาเนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษาน้ัน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยใู่ นดุลพินจิ ของสถานศึกษา ๒. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนเพ่อื เล่อื นชั้นและจบระดับการศกึ ษา การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเล่ือนชั้นและจบระดับการศึกษาเป็นการประเมินการผ่าน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นรายปี / รายภาค เพ่ือสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุปผลรวมเพื่อเล่ือนช้ันและ ประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพื่อการจบแต่ละระดับการศกึ ษา โดยการดาเนนิ การดังกลา่ วมแี นวปฏบิ ัติ ดงั น้ี ๒.๑ กาหนดให้มผี ้รู บั ผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั การร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นของผู้เรียน ทุกคนตลอดระดบั การศึกษา ๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด (เกณฑ์การจบแต่ละระดับการศึกษาท่ีสถานศึกษากาหนดนั้น ผู้เรียนจะต้องผ่าน กิจกรรม ๓ กจิ กรรมสาคญั ดงั น้ี ๑) กิจกรรมแนะแนว ๒) กิจกรรมนักเรียน ซึ่งได้แก่ (๑) กิจกรรมลูกเสือ - ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญ-ประโยชน์ (๒) กิจกรรมชมุ นุม/ ชมรม ๓) กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒.๓ นาเสนอผลการประเมินต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพือ่ ใหค้ วามเห็นชอบ ๒.๔ เสนอผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์ การจบแตล่ ะระดับการศกึ ษา ๓. ข้อเสนอแนะ การประเมนิ ผลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนนั้น จะต้องคานงึ ถึงสงิ่ ตอ่ ไปนี้ ๓.๑ เวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรมของผเู้ รยี นตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากาหนด สถานศกึ ษา ควร กาหนดเวลาไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ๓.๒ ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมและผลงานของผเู้ รียนให้เป็นไปตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด โดยอาจ จดั ใหผ้ ้เู รียนแสดงผลงาน แฟม้ สะสมงานหรอื จัดนทิ รรศการ

๖๐ ๓.๔ ผู้เรียนทุกคนต้องมีผลการประเมนิ ระดับผ่าน ทั้งเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏิบัติกิจกรรม และผลงานของผู้เรียนจึงจะได้ผลการประเมินเปน็ ผา่ น (ผ) เพ่ือบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรยี น ๓.๕ กรณีที่ผู้เรียนไม่ผ่านกิจกรรม (มผ) ให้เป็นหน้าท่ีของครู หรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้น ๆ ที่จะต้องซ่อมเสริม โดยให้ผู้เรียนทากิจกรรมจนครบตามเวลาที่ขาดหรือปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของกจิ กรรมนนั้ แลว้ จงึ ประเมินใหผ้ ่านกิจกรรมเพื่อบันทึกในระเบียนแสดงผลการเรยี น ยกเว้นมเี หตสุ ดุ วิสยั ใหร้ ายงาน ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาทราบ เพอ่ื ดาเนินการชว่ ยเหลือผ้เู รียนอยา่ งเหมาะสมเปน็ รายกรณีไป ๓.๖ ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หากสถานศึกษามีบุคลากรไม่เพียงพอหรือไม่สามารถ จัดกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย สถานศึกษาอาจจัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการ หรือสอดแทรกในกิจกรรมหรือ โครงการต่าง ๆ เช่นกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมวันสาคัญ กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น ซ่ึงสถานศึกษาสามารถ ดาเนนิ การประเมินผลการเข้าร่วมกจิ กรรมดงั กลา่ วและนามาเปน็ ส่วนหน่ึงในการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนได้ เกณฑก์ ารผ่านการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องได้รับการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและผ่านเกณฑ์ตามท่ีสถานศึกษากาหนด โดยกาหนดเกณฑ์ในการประเมินอยา่ งเหมาะสม ดังนี้ ๑. กาหนดคุณภาพหรือเกณฑ์ในการประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน กาหนด ไว้ ๒ ระดบั คอื ผา่ น และไมผ่ า่ น ๒. กาหนดประเด็นการประเมินให้สอดคล้องตามจุดประสงค์ในแต่ละกิจกรรมและกาหนดเกณฑ์ การผ่านการประเมิน ดังนี้ ๒.๑ เกณฑ์การตัดสนิ ผลการประเมนิ รายกิจกรรม ผ่าน หมายถงึ ผเู้ รยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมครบตามเกณฑ์และปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและ ผลงานของผเู้ รยี นตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผ้เู รยี นมเี วลาเข้ารว่ มไมค่ รบตามเกณฑ์ หรอื ไมผ่ า่ นการปฏิบตั ิกจิ กรรม และผลงานของผเู้ รยี นตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด ๒.๒ เกณฑก์ ารตดั สินผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นในแตล่ ะภาค/ปี ผา่ น หมายถึง ผู้เรยี นมผี ลการประเมินระดับ “ผ่าน” ในกิจกรรมสาคญั ท้งั ๓ กิจกรรม คอื กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน กิจกรรม เพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ไมผ่ ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นมผี ลการประเมนิ ระดับ“ไมผ่ า่ น” ในกิจกรรมสาคญั กจิ กรรมใดกจิ กรรมหน่งึ จาก ๓ กจิ กรรม คือ กิจกรรม แนะแนว กจิ กรรมนกั เรยี น กิจกรรมเพ่ือสังคมและ สาธารณประโยชน์ ๒.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนเพ่อื จบระดับการศกึ ษา ผา่ น หมายถึง ผเู้ รยี นมีผลการประเมินระดับ “ผา่ น” ทกุ ชั้นปใี นระดับ การศึกษานัน้ ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผเู้ รยี นมีผลการประเมินระดับ “ ไมผ่ า่ น ” บางช้ันปใี นระดับ การศกึ ษาน้นั

๖๑ เอกสารอา้ งองิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๕๑). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. สานกั การศกึ ษา. (๒๕๕๓). ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษา ขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๕๓). แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา ขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑.

๖๒

๖๓

๖๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook