Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลมหายใจของครู โสภิณทองปาน

ลมหายใจของครู โสภิณทองปาน

Published by atcharapatoom, 2021-12-30 05:46:30

Description: อนุสรณ์งานฌาปนกิจ ศ.ดร.โสภิณ ทองปาน

Search

Read the Text Version

อนุสรณ์งานฌาปนกิจ ศ.ดร.โสภณิ ทองปาน ณ วัดพระศรมี หาธาตวุ รมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ๑๙ กันยายน ๒๕๕๘ Page1

ลมหายใจของครู โสภิณ ทองปาน พมิ พค์ รั้งท่ี 1 เดอื นกนั ยายน 2558 จานวน 1,000 เลม่ จานวนหนา้ 64 หน้า จดั ทาโดย ครอบครัวทองปาน และ ภาควชิ าเศรษฐศาสตรเ์ กษตรและทรพั ยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ 50 ถ.งามวงศว์ าน บางเขน กรุงเทพ Page2

3Page

ประวัตกิ ารศึกษา พ.ศ. 2500 ปริญญาเศรษฐศาสตร์สหกรณบ์ ณั ฑติ ม พ.ศ. 2506 M.S. (Agricultural Economics), Oregon State University พ.ศ. 2512 Ph.D. (Agricultural Economics and Rural Sociology), Ohio State University ประวตั ติ าแหนง่ ทางวิชาการ พ.ศ. 2516 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ พ.ศ. 2522 รองศาสตราจารย์ พ.ศ. 2538 ศาสตราจารย์ ประวัติการทางาน พ.ศ. 2502 ผชู้ ่วยอาจารย์ประจา คณะเศรษฐศาสตรส์ หกรณ์ พ.ศ. 2506 ประจา คณะเศรษฐศาสตรแ์ ละบรหิ ารธรุ กิจ พ.ศ. 2515 - 17 พ.ศ. 2517 - 19 บดีคณะเศรษฐศาสตรแ์ ละบริหารธุรกิจ พ.ศ. 2519 - 28 คณบดคี ณะเศรษฐศาสตร์และบรหิ ารธุรกิจ เครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ พ.ศ. 2511 จัตรุ ภรณช์ า้ งเผอื ก พ.ศ. 2514 ตริตาภรณม์ งกุฎไทย พ.ศ. 2519 ตรติ าภรณช์ ้างเผอื ก พ.ศ. 2521 ทวีติยาภรณม์ งกุฎไทย พ.ศ. 2524 ทวีตยิ าภรณ์ช้างเผอื ก พ.ศ. 2527 ประถมาภรณ์มงกฎุ ไทย พ.ศ. 2530 ประถมาภรณช์ า้ งเผอื ก พ.ศ. 2531 Page4 พ.ศ. 2536

5Page

6Page

ภาคต้น: โสภิณ…เล่าเร่ืองโสภณิ เกดิ วันที่ 15 เมษายน 2478 เป็นวนั เกิดตามปฏิทินร้อยปี วันเกิดจริง ๆ ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงเกิดวันอังคารเดือนห้า บ้านหมู่ที่ 11 กิ่งอาเภอขนอม (ปัจจุบันเป็นอาเภอ) จังหวัดนครศรีธรรมราช จากครอบครัวชาวสวนมะพร้าว เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาท่ีโรงเรียนประชาบาลตาบลขนอม 5 (บ้านเปร็ด) ซ่ึง อยู่คนละหมู่บ้าน ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณเท่ียวละหน่ึงชั่วโมง จบแล้วไป เรียนมัธยมที่โรงเรียนมัธยมอุดมปัญญาจารย์ซ่ึงเป็นโรงเรียนเอกชนอยู่ใน วัด กระดังงา อยู่ไกลไปกลับไม่ได้ ต้องไปอาศัยกับคุณยาย มีแค่ชั้นมัธยมสาม (คง จะเทียบกับ ป.7 ในปัจจุบัน) ท้ังสองโรงเรียนที่กล่าวก็ยังคงดาเนินการอยู่ใน ปัจจบุ นั โรงเรียนมัธยมอุดมปัญญาจารย์เป็นโรงเรียนท่ีเจ้าของเสียสละเห็น ประโยชน์ของการศึกษาที่แท้จริง เพราะมีนักเรียนน้อย ช้ันมัธยม 2 - ั้ 4 น จึงมีครูหรืออาจารย์เพียงคนเดียว กระทรวงศกึ ษาธิการไม่ได้รับรองวุฒิช้ันมัธยมปีท่ี ่าเป็นระดับประโยค มัธยมต้น ต้องไปสอบไล่ประจาปีที่อาเภอ คือ อาเภอสิชล จังหวัด นครศรธี รรมราช เปน็ คร้งั แรกท่ีตอ้ งจากบา้ นเพ่อื การศกึ ษา เมื่อสอบได้ก็ไม่ได้เรียนต่อในโรงเรียนเดิม เพราะไม่มีช้ันมัธยม 4 ซ่ึงเจ้าอาวาส เป็นคนขนอม และสมัครเรียนช้ันมัธยม 4 ที่โรงเรียนศรีธรรมราชวิทยาเพียงปี เดยี วมัธยม 5 เปล่ียนไปเรยี นท่โี รงเรยี นประจาจงั หวัดเบญจมราชูทิศ อยู่ที่น่ีจน จบเตรียมอดุ มศึกษา จบแล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาอยู่กับคุณลุงท่ีถนนหลานหลวง ข้าง บ้านมนังคศิลา มาอยู่เป็นเดือนไม่กล้าไปไหน จึงไม่ทราบว่าควรจะสมัครเข้า เรียนอะไร คุณลุงนึกข้ึนได้ ก็แนะนาว่าควรจะเรียนสหกรณ์ เพราะมีเพ่ือนเป็น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ท่ีกรมสหกรณ์ก็ไปสมัครเรียนท่ีคณะเศรษฐศาสตร์และ สหกรณ์ จบหลักสูตร 4 ปีแล้วไปเป็นทหารหนึ่งปี ไปฝึกที่ศูนย์การทหารราบ ลพบรุ ีและกลบั มาประจาที่กรมทหาร ถนนอานวยสงคราม ปลดจากทหารก็ต้องหางานทา เพ่ือนท่ีจบก็ทางานท่ีกรมที่เกี่ยวข้อง กับสหกรณ์ แต่จาไม่ได้ว่าทาไมไม่ไปสมัครตามเพื่อน แต่กลับมาสมัครเป็น อาจารย์ที่คณะฯ เป็นลูกจ้างชั่วคราว ทาหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้ช่วย ช่วยอาจารย์ ดร.ไชยยงค์ ชูชาติ และอาจารย์อาบ นคะจัด ต่อมาในปี 4 ให้ไป ศกึ ษาปริญญาโทที่โอเรกอน แต่เพราะไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ จึงต้องลาออก ก ลั บ ม า ปี Page7 แลว้ ได้รับเงินเดือน 1,950 บาท ต่อมาเมื่อ

พ.ศ. Page8 .. 1 และทางานอยู่ที่เดิม ไม่ได้โยกย้ายไปไหนจนถึงวันท่ีเขียน และยังสนุก อยู่กับงาน เพราะแต่ละวนั ปรากฏว่ายังมงี านค้างอกี มาก... โสภณิ ทองปาน กันยายน 2538 ภาคตอ่ (20 ปีต่อมา): ลกู …เลา่ เรือ่ ง อาจารย์โสภิณ อาจารย์โสภิณรักการสอนเป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้อาจารย์จะเกษียณไป แล้วแต่ยังช่วยสอนอยู่หลายวิชา ท้ังวิชานโยบายเกษตรเพ่ือธุรกิจการเกษตร วชิ าระเบียบวิธีวิจัย และวิชาบูรณาการ ทางภาควิชาได้มอบหมายอาจารย์หนึ่ง ท่านเป็นผู้ช่วยของอาจารย์โสภิณ ซ่ึงคอยเดินประกบและน่ังในห้องเวลา อาจารยโ์ สภิณไปสอนตลอด จนใครๆ แซวกนั ตดิ ปากวา่ เลขา อาจารยโ์ สภณิ แต่ อาจารย์โสภิณกลับให้เกียรติและปฏิบัติตัวกับเลขาของอาจารย์เสมือนเพื่อน ร่วมงานในระดับเดียวกัน อาจารย์โสภิณมักพูดเสมอว่า “ผมไม่บังอาจใช้งาน ระดับด๊อกเตอร์” อย่างเดียวท่ีท่านยอมจะให้ทาบ้างคือการเปิดและปิดประตูให้ และอาจารยโ์ สภณิ จะพดู ตบทา้ ยเสมอว่า “ขอบคุณครับอาจารย์” อาจารยโ์ สภณิ เปน็ คนขยนั ทางานแต่เช้า จึงมักจะเห็นโน๊ตของอาจารย์ แปะหนา้ หอ้ งซง่ึ เปน็ ขอ้ ความคลา้ ย ๆ เดิมวา่ “ผมมาพบ แตไ่ ม่เจอ มาเม่อื ไรแล้ว ชว่ ยมาหาผมหน่อย” หรอื “ผมเจอข่าวนี้ คิดวา่ อาจารยอ์ าจสนใจ” ลงเวลาก่อน 8.00 น. เปน็ ประจา ทุก ๆ เทอมอาจารย์จะแนะนาตัวหน้าชั้นเรียนว่า “ผม อาจารย์โสภิณ ทองปาน เรยี กผมสนั้ วา่ อาจารยโ์ สภณิ ก็พอ ไมต่ ้องใสย่ ศให้เยอะมันยาวไป” แต่ นสิ ติ มักเรยี ก อาจารยโ์ สภณิ วา่ อาจารยค์ ณุ ตา เพราะอาจารย์มีบุคคลิกท่ีอบอุ่น เหมอื นกับคุณตาของนสิ ติ หลาย ๆ คน (ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจารย์จะเสียงดังจน นิสิตตกใจสะดุ้งต่ืนก็ตาม แต่อาจารย์ต้ังใจพูดเสียงดังเม่ือสังเกตเห็นว่ามีนิสิต เร่ิมมีอาการสัปหงก) นอกจากนี้ อาจารย์โสภิณมักแจกชีทที่ท่านเขียนด้วย ตนเองใหแ้ ก่นิสิต แตเ่ นอ่ื งจากลายมอื ท่เี ปน็ เอกลกั ษณ์ตามแบบฉบับของโสภิณ ทองปาน ทาให้นิสิตทุกคน ขนานนามชีทเหล่าน้ันว่า...ลายแทงขุมทรัพย์ของ คุณตา ในการสอนของอาจารย์โสภิณ จะมกี ารสอบย่อยเป็นจานวน 4 คร้ังต่อ เทอม เพ่ือทดสอบความเขา้ ใจของนิสิต นิสติ มักพดู เสมอวา่ ขอ้ สอบของอาจารย์ ตอ้ งใช้ความคดิ มาก ตอ้ งใช้มันสมองระดับผวู้ า่ การจังหวัดมาสอบ ฟังแล้วได้แต่

ขาในใจ และเป็นเช่นนั้นจริงๆ คะแนนที่นิสิตได้มักอยู่ที่ระดับ 2-4 คะแนนจาก เตม็ 10 มีอยคู่ รัง้ หนงึ่ ระหว่างที่นสิ ิตกาลงั ทาการสอบย่อย อาจารยโ์ สภิณได้ส่ง ข้อสอบชุดหน่ึงให้เลขาฯ และบอกว่า “ไหนอาจารย์ผู้ช่วยลองทาข้อสอบผมดู หน่อย ผมจะประเมินว่าอาจารย์พร้อมมาสอนเต็มตัวหรือยัง” พอทาส่ง อาจารยโ์ สภณิ อา่ นคาตอบดว้ ยสหี นา้ ครนุ่ คิดแล้วบอกว่า “ทาถูกคร่ึงหน่ึงหล่ะ” เงียบไปชั่วขณะ... (ได้ยินแล้วใจหล่นไปที่ตาตุ่ม) แล้วสักพักอาจารย์ก็ยิ้มกว้าง แล้วพูดต่อว่า “ฝึกกับผมอีกสักพักปล่อยเด่ียวได้” (ฟังแล้วกาลังใจไหลมาท่วม ท้น) อาจารยโ์ สภณิ เปน็ คนทที่ ุ่มเทใหก้ ับการสอนมาโดยตลอด เปิดรับความ คิดเห็นจากคนอื่น และปรับปรุงการสอนให้ทันสมัยอยู่เสมอ หลังสิ้นสุดเทอม ทุก ๆ ครง้ั อาจารยโ์ สภณิ จะนาผลการประเมินการสอนจากนิสิตมาดู และนามา เล่าให้ฟงั วา่ ท่านเรยี นรู้อะไรบ้างจากผลการประเมนิ และก่อนเปิดเทอม อาจารย์ โสภิณมักมาเลา่ ให้ฟงั ดว้ ยสีหน้าย้ิมแย้มเสมอว่า “ผมคิดว่าปีน้ีผมจะลองวิธีการ ใหม่ ผมอยากให้นิสิตหัดวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองมากข้ึน โดยผมจะลอง .......ดู คดิ วา่ นิสติ น่าจะเรยี นรไู้ ด้มากกว่าเดมิ ” ในปีน้ีอาจารย์ก็ยังทาเหมือนเดิม เช่นกนั และ อาจารย์โสภิณยังคงทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้แก่การสอนตราบจน ลมหายใจสดุ ท้ายของชวี ติ ตอ่ ไปน้ีคงได้แต่คิดถึงข้อความแปะหน้าห้องและลาย แทงสมบัติของคุณตา... ไม่จาเป็นต้องเอ่ยคาลา เพราะภาพ คาสอนและ น้าเสียงของอาจารยโ์ สภณิ ทองปาน ยังคงดังกอ้ งอยใู่ นความทรงจา... เลขากน้ กุฏิ กนั ยายน 2558 Page9

ใครคอื ครู ใครคือครูครคู อื ใครในวันน้ี ใช่อยู่ทป่ี ริญญามหาศาล ใช่อย่ทู เี่ รยี กวา่ ครูอาจารย์ ใช่อยนู่ านแสนนานในโรงเรียน ครูคอื ผู้ชน้ี าทางความคดิ ใหร้ ูถ้ กู ร้ผู ิดคดิ อา่ นเขียน ให้รู้ทกุ ข์รู้ยากรู้พากเพยี ร ใหร้ เู้ ปลีย่ นแปลงสรู้ สู้ ร้างงาน ครคู ือผูย้ กระดบั วิญญาณมนุษย์ ให้สงู สุดกว่าสัตวเ์ ดรัจฉาน ครูคอื ผูส้ ั่งสมอุดมการณ์ มดี วงมานเพ่อื นมวลชนใชต่ นเอง ครูจงึ เป็นนักสร้างท่ีใหญย่ ่ิง สร้างคนจริงสรา้ งคนกล้าสรา้ งคนเกง่ สร้างคนใหเ้ ปน็ ตวั ของตนเอง ขอมอบเพลงน้ีมาบูชาครู Page10

Page11

Page12

พอ่ Page13 ในบรรดาลกู สามคน มจี ุ้ย ลูกสาวคนเล็กคนเดยี วทเี่ รียนเศรษฐศาสตร์ เ ห มื อ น พ่ อ ร ะ ห ว่ า ง เ รี ย น ป ริ ญ ญ า โ ท ท่ี ค ณ ะ เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ้ยุ จาไดว้ ่าอาจารยท์ ี่พบเห็นบ่อยท่ีสุดในห้องสมุดก็ คือพอ่ - “อาจารยโ์ สภณิ ” ของคนท้ังมหาวทิ ยาลัยนน่ั เอง ! แต่ความสนใจใฝ่รู้ของพ่อมิได้หยุดอยู่เฉพาะแต่เรื่องเศรษฐศาสตร์ เกษตร ตู้หนังสือของพ่อท่ีบ้านอัดแน่นไปด้วยหนังสือแนวประวัติศาสตร์และ วัฒนธรรม มีต้ังแต่หนังสือชุดประเพณีชีวิตไทยของพระยาอนุมานราชธน ไป จนถึงหนังสือฝ่ายซ้ายอย่าง “โฉมหน้าศักดินาไทย” ของจิตร ภูมิศักด์ิ และ หนังสอื ก็เปน็ หน่ึงในไม่กี่อย่างที่พ่อให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะโดยปกติพ่อ ไมค่ ่อยแสดงให้รวู้ า่ ชอบหรอื ไม่ชอบอะไร ยังจาได้ดีว่าเมื่อใดท่ีถามพ่อว่าอาหาร อรอ่ ยไหม คาตอบที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กก็คือ “กินได้ ดีกว่าไม้ดีดปาก” (เพราะไม้ ดีดปากมนั เจบ็ !) เรือ่ งอ่นื ๆ ก็เชน่ กนั เราไมเ่ คยเห็นพ่อจะอยากได้ อยากมี อยากเปน็ อะไร พ่อแค่ทางานของพ่อ ทาหน้าท่ีของพ่อ – ก็เท่าน้ัน และงานหรือหน้าท่ีสาคัญ ท่สี ุดของพ่อกค็ ือการสอนหนงั สอื จนแทบจะเรียกได้วา่ พอ่ ใชเ้ วลาอยูท่ ่คี ณะฯ อยู่ ท่ีมหาวิทยาลัยมากกว่าอยู่บ้านด้วยซ้า เสาร์อาทิตย์ พ่อก็ยังมักจะ “เข้าคณะ” “ไปทางาน” จนคุน้ เคยกบั ยามทกุ คนดี พ่อ “ทางาน” น้ีอย่างเต็มกาลังมาท้ังชีวิต อ่าน-คิด-เขียน-สอน หนังสอื แสวงหาความรแู้ ละเผยแพร่ความรู้อย่างไม่มีวันจบส้ิน มีช่วงหน่ึงเมื่อ หลายปีก่อน พ่อเขียนบทความด้านเศรษฐศาสตร์ไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ รายวันบ่อยๆ มีคนมาเล่าให้ฟังว่า คุณนิลวรรณ ปิ่นทอง อดีตบรรณาธิการ บรหิ ารของ “สตรสี าร” ยังฝากคาชมมาถงึ พ่อ ว่าเขียนหนงั สือดี มีประเด็น เป็น ขน้ั เปน็ ตอน อา่ นเข้าใจง่าย ทุกวัน พ่อจะดูทีวีเฉพาะรายการข่าว ไม่ดูหนังดูละคร ไม่ฟังเพลง จนถงึ อายุ ๘๐ พอ่ กย็ งั รบั หนังสอื พมิ พว์ นั ละ ๓ – ๔ ฉบับ พ่วงดว้ ยนิตยสารข่าว ต่างประเทศอีกจานวนหนึ่ง อ่านแล้วก็ฉีกบางเร่ืองทากาวแปะกระดาษไว้ เป็น เหมือน “คลิปป้ิง” ส่วนตัว ตามหัวกระดาษหนังสือพิมพ์ท่ีพับกองๆ อยู่จะมี ลายมือเขียนไว้ว่ามีเร่ืองนั้นเร่ืองนี้อยู่ในนี้ หรือไม่ก็เขียนว่า “เก็บ” ท้ังหมดคง เพอ่ื เป็นขอ้ มูลสาหรบั งานของพ่อ เรยี กง่ายๆ วา่ สาหรับพ่อแล้ว งานคอื การพกั ผ่อน งานคือความร่ืนรมย์ และงานคือความสุข แต่ถ้าเล่าอย่างน้ี คนที่ได้อ่านอาจนึกว่าชีวิตในบ้านกับพ่อจะเป็นชีวิตที่ เคร่งเครยี ด ที่จริงก็ไมไ่ ด้ถึงขนาดนน้ั แน่นอนว่าเรื่องความรู้เป็นสิ่งที่

ได้รับการปลูกฝังส่งเสริมเต็มท่ี เช่นที่พ่อบอกรับเป็นสมาชิกวารสารวิชาการ ดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมและแมกกาซนี สารคดขี องฝรง่ั ให้ลูกๆ ต้ังแต่ยังเป็นนักเรียน รวมถึงยังเคยทาตรายาง “หอ้ งสมดุ หนุย่ -แน-่ จยุ้ ” ไว้ให้ใช้ป๊ัมหนังสือของพวก เราดว้ ย แต่พร้อมกนั นนั้ พอ่ กย็ งั คงเปน็ “พ่อ” ธรรมดาๆ เหมือนพ่อบ้านท่ัวไป พ่อไปรับไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนทุกคนจนจบชั้นมัธยม ขับรถไปเที่ยวทะเลกันใน วนั หยดุ บา้ ง พาลูกไปดเู คร่อื งบินตอนงานวันเด็กก็เคย รวมถึงยอมเข้าโรงหนัง ไปดูหนังการ์ตูนกับลูกๆ เสมอ (แม้ว่าพอเข้าโรงหนังทีไร สักพักเดียวพ่อก็จะ หลบั ทกุ ที !) จนเมื่อมีหลานๆ พ่อก็เป็น “คุณปู่” ที่น่ารัก เม่ือหลานยังเล็ก ไม่เข้า โรงเรียน ตอนเยน็ กลับมาจากท่ที างาน คุณปู่ก็จะพาหลานออกไปเดินเล่นกันใน ซอย เมื่อหลานโตขึ้นอีกหน่อย บางวันคุณปู่ก็อาสาไปรับหลานท่ีโรงเรียนให้ แทนแม่ของหลานบ่อยๆ แต่บางวันเกิดความสับสน เมื่อต่างฝ่ายต่างนึกว่าอีก คนจะไปรบั สุดทา้ ยเลยไมม่ ใี ครไป จนโรงเรียนตอ้ งโทรศัพทม์ าตามผปู้ กครองถึง ท่ีบ้านก็เคย จนเม่ือหลานๆ เติบโตเป็นวัยรุ่น คุณปู่ก็ยังชอบมาคุยเล่น มาเย้า แหย่ขาๆ เปน็ ประจา แม้เราอาจบอกไม่ได้แน่ว่าพ่อชอบอะไรบ้าง แต่เราก็รู้ดีว่าพ่อไม่ชอบ อะไร สง่ิ ท่ีพ่อไม่ชอบทส่ี ดุ ก็คือการต้องเป็นภาระแก่ผู้อ่นื พอ่ ไม่ต้องการสร้าง ความเดอื ดรอ้ นใหแ้ ก่ใครเลย แมแ้ ต่เวลาจะ “ไป” พ่อก็ไปงา่ ยๆ คือนง่ั หลับอยู่ท่ี เก้าอ้ีนวมตวั โปรด (เพราะมตี วั เดยี วในห้องท่ีบา้ น) สงบ สบาย งา่ ยๆ แคน่ นั้ เอง ถา้ จะมีอะไรอีกอยา่ งนอกจากหนังสือท่ีพ่อชอบก็คงเป็นเร่ืองต้นไม้ พ่อ ชอบปลกู ต้นไม้ ทาตน้ ไม้ จนเมื่อไม่นานมานกี้ ย็ ังชอบปีนบันไดขึน้ ไปตดั ก่งิ ไม้สูงๆ สร้างความหวาดเสยี วให้แก่ผู้พบเหน็ เสมอ ไม่ก่ีวันหลังจากงานศพแม่ในปี ๒๕๕๔ พ่อซื้อต้นไม้มาใหม่อีก เป็นไม้ กระถาง มีดอกเล็กๆ สีขาว พ่อเอาวางไว้ริมถนนในบ้าน บอกว่า “แม่เขาชอบ ...” หวังวา่ ปา่ นนท้ี ้ังพอ่ และแมค่ งได้พบกนั อกี ครั้งแล้ว ศรณั ย์ ทองปาน (หนยุ่ ) วตั สณั ห์ ทองปาน (แน)่ จิตสดุ า ทองปาน (จ้ยุ ) Page14

Page15

Page16

ผ ม แ ล ะ อ า จ า ร ย์ โ ส ภิ ณ เ รี ย น ห นั ง สื อ ร ะ ดั บ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ท่ี โ ร ง เ รี ย น Page17 เบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยไม่รู้จักกัน แต่มาพบปะเป็นเพื่อนกัน เมื่อเข้าเรียนคณะสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี พ.ศ. 2497 เมื่อจบ หลักสตู ร ศสบ.กแ็ ยกย้ายไปเป็นทหารเกณฑ์สัญญาบัตร (โสภิณเป็นทหารบก ผม เป็นทหารเรอื ) เมื่อรับใช้ชาติโดยการเป็นทหารเสร็จแล้ว เราสองคนมารับราชการ ด้วยกันที่ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร เร่ิมจากปฏิบัติงานช่วยสอนและช่วย งานวิจัย ซ่ึงมีศาสตราจารย์ ดร.ไชยยงค์ ชูชาติ เป็นผู้นา (อาจารย์ส่วนใหญ่เรียก ท่านวา่ “แมท่ ัพ”) งานชนิ้ แรกของอาจารย์โสภณิ เขียนร่วมกบั อาจารย์ไชยยงค์คือ “เศรษฐกจิ ขา้ วไทย” อาจารย์โสภิณศึกษาต่อระดับปริญญาโทท่ี Oregon State University (ผมเรียนท่ี University of Hawaii) และปริญญาเอกที่ Ohio State University (ผมเรียนที่ University of Illinois) ชีวิตการทางานของเราก้าวหน้าไปเร่ือยๆ อาจารย์โสภิณและผมทางานในหน้าท่ีหัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตรแ์ ละบริหารธรุ กิจติดตอ่ กนั อาจารย์โสภิณเป็นคนเอาใจใส่เอาจริงเร่ืองงานมากติดตามงานสาคัญๆ ตลอดเวลา มีจดหมายน้อยทวงงานอยา่ งเอาจริงเอาจงั คราใดทล่ี ูกนอ้ ง (ทุกระดับ ตั้งแต่อาจารย์ถึงพนักงาน คนงาน) ทางานไม่ถูกใจทันทีก็จะโดนอาจารย์โสภิณ จัดการไมไ่ ว้หนา้ ตงั้ แตร่ ะดบั ธรรมดาและดุ (ดา่ ) แต่แปลก ที่ทุกคนท่ีโดนดุไม่มีใคร โกรธเกลียดอาจารย์โสภิณมากนัก มีแต่บอกกับเพ่ือนว่าวันน้ีได้รับ “พร” จาก อาจารยโ์ สภณิ อีกแลว้ อาจารยโ์ สภณิ ชอบการออกกาลังกายอยา่ งสมา่ เสมอ เรมิ่ จากตนื่ นอนเช้า ออกจากบา้ นพกั ก่อนตีห้า เดินไปขนึ้ รถเมล์ที่ปากซอย (ระยะทาง 1 กม.กว่า) แทบ ทกุ วนั ทัง้ ๆ ทีม่ ีรถยนต์ส่วนตัวใชต้ ัง้ สองคัน ถึงที่ทางานก็เปลี่ยนเคร่ืองแต่งกายไป ออกกาลงั ท่สี นามอินทรรี ว่ ม 20 รอบ แล้วจึงกลับมาอาบน้าแล้ว เข้าทางานก่อน เวลาราชการ อาจารยโ์ สภิณเอาใจใสด่ ูแลทกุ ข์สุขของลูกน้องทุกระดับ อาจารย์โสภิณมี งานบริหารทางวิชาการแก่สังคมมากมาย ท่ีปฏิบัติมาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต คอื อนุกรรมการของสานักงานก.พ.และงานกรรมการของสถาบันอุดมศึกษาของ รัฐและเอกชน งานสุดท้ายก่อนเสียชีวิตคือการไปประชุมที่มหาวิทยาลัยทักษิณ 2 วนั กอ่ นวันส้นิ ลม ผมขอถามว่าเหตใุ จจึงรับงานมากมายตลอดเวลา อาจารย์โสภิณ บอกว่าปฏิเสธไม่ได้ เพราะแต่ละสถานศึกษาอยากได้กรรมการและอนุกรรมการท่ี ทาการบ้านจรงิ ๆ และตดิ ตามงานนอกการประชมุ ตลอดเวลา ผศ.ดร.จาเนียร บุญมา 15 กนั ยายน 2558

13 กันยายน 2558 ขอแสดงความเสียใจอยา่ งสดุ ซง้ึ ตอ่ การจากไปของท่าน ศ. ดร. โสภณิ ทองปาน อดตี คณบดีคณะเศรษฐศาสตรแ์ ละบริหารธุรกจิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านเป็นอาจารย์ นักบริหาร นักวิจัย นักพัฒนา นักวิชาการทางด้าน เศรษฐศาสตร์เกษตรระดับต้นของประเทศไทย ตลอดเวลาในการทางานของอาจารย์ อาจารย์ทุ่มเทกาลังกายและ กาลงั ใจในการทางานตลอดเวลา อาจารย์ผลิตผลงานด้านวิชาการอย่างโดดเด่น ทาให้คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจในขณะน้ัน จนมาเป็นคณะ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบันที่มีช่ือเสียงและเป็นที่รู้จัก ของคนในสังคมและของประเทศชาตดิ ้วย ในนามของคณะเศรษฐศาสตร์ขอน้อม ราลึกถงึ บุญคณุ ของอาจารย์ที่มีต่อคณะ ต่อคณาจารย์และต่อบุคคลากรทุกคน และขอกราบขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงท่ีสร้างชื่อเสียงให้คณะมาโดย ตลอด ในนามของลูกศิษย์ของท่านอาจารย์คนหนึ่งขอกราบขอบพระคุณ อาจารยท์ ใี่ หค้ วามรกั ความเอาใจใส่ อบรมส่ังสอนให้เป็นคนดีมีศีลธรรมและให้ ความเมตตาต่อลูกศิษย์คนน้ีและต่อทุกคนตลอดมา ขอกราบขอบพระคุณ อาจารยม์ า ณ โอกาสน้ี ผศ. ดร. นชุ นาถ มงั่ คั่ง คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ Page18

ในชีวิตการทางานของผม ผมทางานด้านการวิเคราะห์นโยบายมา Page19 ตลอด ไม่ว่าจะเป็น \"นโยบายเกษตร\" หรือ \"นโยบายพลังงาน\" หรือ\"นโยบาย สาธารณะ\" ในภาพรวม ครูผู้สอนวิชา \"นโยบาย\" คนแรกของผมคือ ศ.ดร. โสภิณ ทองปาน แห่งภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ตอนนั้น ผมเรียนปริญญาตรีอยู่ท่ีคณะอุตสาหกรรมเกษตร แต่มา เลือกเรียนวิชาโทด้านเศรษฐศาสตร์เกษตร เม่ือได้มาเรียนวิชานโยบาย การเกษตร ผมประทับใจในลีลาการสอนของทา่ น ศ.โสภิณ ทองปาน เป็นอย่าง มาก ทัง้ พลัง มุมมอง และความลึกซ้ึงในข้อเท็จจรงิ ของภาคเกษตรไทย ไม่ว่าจะ ในแงม่ มุ ทางเทคโนโลยี ทางเศรษฐกิจ หรือทางสังคม อาจารย์เข้าใจอย่างทะลุ ปรโุ ปร่ง จนผมทึ่งและรู้สึกวา่ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์เกษตร โดยเฉพาะนโยบาย การเกษตรน่ีมันช่างนา่ สนใจจริงๆ ต่อมา ผมจงึ ไดม้ าเรียนปรญิ ญาโทด้านเศรษฐศาสตร์เกษตร และได้เข้า มาเป็นอาจารย์ทภ่ี าควชิ าเดยี วกบั ท่านอาจารย์ เม่ือได้เข้ามาเป็นอาจารย์ ผมจึง ทราบว่า ความยิ่งใหญ่ของท่าน ศ.ดร.โสภิณ ทองปาน มิใช่มีเพียงแค่พลังใน การสอน แต่ความยิ่งใหญ่ของอาจารย์ยังอยู่วิถีการดาเนินชีวิตเรียบง่าย ขยัน และสม่าเสมอ และท่ีสาคัญ อาจารย์ยังใส่ใจในพัฒนาการของอาจารย์รุ่นน้อง ทกุ ๆ คน ในกรณขี องผม อาจารยจ์ ะชวนผมไปคุยเกยี่ วกับนโยบายพลังงาน และ เศรษฐศาสตร์การเมืองเสมอ ท้ังอาจารย์ยังขอให้ความเห็น ท้ังชมเชย ติติง และ (ทส่ี าคัญทีส่ ุด) แนะนา การให้สัมภาษณ์ของผมท่ีผ่านส่ือต่างๆ เสมอ และ ผมก็ได้พยายามนามาปรับใชเ้ รื่อยมา ต่อมาเมื่อ 5 ปีท่ีแล้ว หลังจากผมสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ผมก็ได้มาสอนวิชา \"นโยบายเกษตร\" วิชาที่ท่านเคยสอน และผมก็มาเรียนกับ ท่านเปน็ ครง้ั แรก ผมสนกุ และมีความสุขกับการสอนวิชาน้ีมาก แม้ว่าคงจะไม่ได้ มพี ลงั ในการสอนเท่าทา่ นอาจารย์ก็ตาม หลังจากเกษียณอายุ ท่านอาจารย์โสภิณยังสอนในวิชาต่างๆ เร่ือยมา โดยวิชานโยบายการเกษตรสาหรับธรุ กิจการเกษตร ซง่ึ ท่านสอนให้กบั นิสิตสาขา ธุรกิจการเกษตร ต้ังแต่รุ่นท่ี 1 จนถึงรุ่นท่ี 20 จนกระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ คุณหมอได้ขอให้ท่านพัก และขอให้ภาควิชาฯ หาคนมาสอนแทนท่าน และผมก็ กลายเป็นผู้ท่ีเข้ามาสอนแทนท่าน ก่อนเปิดเทอมท่านอาจารย์เดินมาหาผมท่ี ห้อง แล้วแนะนาเรื่องการสอนในวิชานี้ อย่างละเอียด พร้อมทั้งมอบเอกสารท่ี สาคัญทัง้ หมดใหผ้ มไปปรับใชต้ ่อไป

ตอนแรกผมก็เกร็งๆ อยู่เหมือนกันที่ต้องสอนแทนท่านอาจารย์ แต่ ปรากฏว่า ผมโชคดีมากที่นิสิตสนใจเรียนวิชาน้ีมาก คอยซักถาม วิเคราะห์ และ พูดคยุ กันในกรณีศึกษาต่างๆ ตลอด คาแนะนาของท่านอาจารย์เรื่องการสอนให้ นสิ ิตตดิ ตามสถานการณ์ แล้วนาคิดวิเคราะห์ก็ใช้ได้ผลจริงๆ ด้วย ผมมีความสุข มากๆ เชน่ กนั ในการสอนวิชาน้ี แตว่ นั น้ี ทา่ น ศ.ดร.โสภิณ ทองปาน ได้จากพวกเราไปแล้วอย่างสงบท่ี บ้านของท่าน ด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน สร้างความตกใจและเสียใจให้กับ พวกเราอยา่ งสุดซ้งึ ในฐานะของผู้ท่ีทางานและสอนด้านนโยบายเกษตร ผมซาบซ้ึงใน พระคณุ ของทา่ น ศ.ดร.โสภิณ ทองปาน อย่างที่สุด โดยเฉพาะอย่างย่ิงในฐานะ ท่ีท่านเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมเลือกเส้นทางน้ี ผมขอใช้โอกาสน้ีกราบ ขอบพระคุณอาจารย์เป็นครั้งสุดท้าย และผมจะพยายามทาหน้าท่ีท่ีได้สืบทอด มาจากอาจารยใ์ ห้ดีที่สดุ ผมจะพยายามสรา้ งแรงบันดาลใจให้กับนิสิต ให้มีนิสิต ร่นุ ใหม่มาสนใจ และมาเปน็ พลงั ในการขบั เคลื่อนนโยบายเกษตรของเราตอ่ ไป ในฐานะหัวหนา้ ภาควชิ าเศรษฐศาสตรเ์ กษตรและทรัพยากร ผมต้องขอ กราบขอบพระคุณที่ท่านอาจารย์ได้ขอชี้แนะทิศทางและแนวทางให้ภาควิชาฯ ของเรา และคณาจารย์ของเรา ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องของผม ซ่ึงล้วนได้รับ คาแนะนาจากท่านอาจารยท์ งั้ ส้ิน จากน้ีต่อไปคงไม่มีคาแนะนาเพิ่มเติมจากท่าน อาจารย์อกี แล้ว แตค่ าแนะนาท่ีท่านเคยใหไ้ วก้ บั เราน้นั พวกเรายงั จาไดแ้ ละจะทา ต่อไปใหด้ ีทสี่ ดุ ดร.เดชรตั สุขกาเนิด หวั หน้าภาควิชาเศรษฐศาสตรเ์ กษตรและทรพั ยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ และเปน็ นิสิตทค่ี งลงทะเบียนเรยี นวิชานโยบายเกษตร เมือ่ ปีการศกึ ษา 2531 Page20

คาอาลัย ผมไม่มีโอกาสเรียนกับท่านอาจารย์โสภิณสมัยเรียนปริญญาตรีเพราะเป็น ชว่ งทที่ า่ นไปเรียนตอ่ ปรญิ ญาเอกท่ี Ohio State U. เทื่อท่านกลับมาในปี 2512 กเ็ ป็นชว่ งที่ผมเข้ามาเป็นอาจารยน์ ้องใหม่ของภาควิชา เจอกันคร้ังแรกอาจารย์ ทักวา่ อุตสา่ ห์ต้ังชอื่ ลูกชายมาจากเมอื งนอกว่าศรัณยเ์ พราะเห็นว่าแปลกดี ไม่คิด วา่ จะเจอคนมีชอ่ื น้อี กี งานวิจัยและบริการวิชาการของภาควิชาซึ่งมีอาจารย์อาบ นคะจัด เป็น หัวหน้าภาคในสมัยน้ันเข้มข้นมาก อาจารย์หนุ่มจะถูกส่งไปทาหน้าที่ส่งเสริม ชาวบ้านใหใ้ ช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นการเล้ยี งหมูเลย้ี งไก่พรอ้ มท้ังเกบ็ ขอ้ มลู ด้านการใช้แรงงานและรายได้ที่บา้ นวังชยั อ.นา้ พอง จ.ขอนแก่น อาจารย์สมคิด และผมต้องผลดั กนั ขบั รถแลนด์โรเวอร์ของคณะบรรทุกไกไ่ ปขอนแก่นอาทติ ย์ละ 4 วัน ที่เหลืออีก 3 วัน กลับมาสอน Lab Farm และเรียนปริญญาโทของภาค ไปด้วย วิชาที่จาได้แม่นคือวิชาการวิเคราะห์ราคาสินค้าเกษตรข้ันสูงของท่าน อาจารย์โสภิณน่ีแหละท่ีมีนักศึกษาป.โทภาคภาษาอังกฤษของธรรมศาสตร์มา เรียนด้วยหลายคน ทาเอาอาจารย์ลูกทุ่งอย่างผมและอาจารย์สมคิดซ่ึงมัวแต่ เลี้ยงหมอู ยู่ ตอ้ งตกไปอยู่หางแถวและไดเ้ กรด C อยา่ งน่าเห็นใจ เวลาผ่านไปรวดเรว็ จนถึงคราวผมไปเรียนต่อบ้างและกลับมาทาวจิ ยั และ เรียนรู้กับท่านอาจารย์โสภิณซ่ึงเป็นหัวหน้าโครงการการศึกษาตลาดสินค้า เกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นับว่าโชคดีที่นักวิจัยรุ่นใหม่ๆ ได้มีโอกาสทา วิจัยร่วมกับอาจารย์อาวุโสที่มีประสบการณ์สูง ถือเป็นแบบอย่างท่ีดีของ ภาควิชาท่ีมีอาจารย์อาวุโสเช่นอาจารย์โสภิณ อาจารย์จาเนียร อาจารย์ทอง โรจน์และอาจารย์กาพลที่ทาหน้าทเ่ี ป็น Mentor ให้กับอาจารย์รุ่นหลัง การจากไปอย่างไม่คาดคิดของท่านอาจารย์โสภิณในขณะท่ียังมีภารกิจ เต็มมือท้ังงานสอน งานดูแลวิทยานิพนธ์ของลูกศิษย์ งานอ่านตาราของ อาจารย์รุ่นหลัง เป็นเรื่องท่ีน่าเสียใจอย่างยิ่ง ท่านได้ทุ่มเทให้กับภาควิชามาก ท่ีสดุ สมควรเป็นแบบอย่างทีด่ ีของอาจารยท์ ุกท่านต่อไป ศรณั ย์ วรรธนจั ฉริยา Page21

ระลกึ ถงึ ท่านศาสตราจารย์ ดร.โสภิณ ทองปาน Page22 ขอเรียกว่าอาจารย์เฉยๆ แทนท่ีจะเรียกตาแหน่งทางวิชาการของท่าน อาจารย์โสภิณ ทองปาน เพราะเคยเรียกท่านอย่างนั้นและรู้สึกเป็นกันเองใน ฐานะอาจารยก์ บั ศษิ ย์ อ า จ า ร ย์ โ ส ภิ ณ นั บ เ ป็ น ท รั พ ย า ก ร บุ ค ค ล อั น มี ค่ า ยิ่ ง ข อ ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นตัวอย่างของผู้ท่ีอุทิศตนเพื่อการสั่งสอนและ ศึกษาวิจัยทางดา้ นเศรษฐศาสตร์เกษตรอย่างแทจ้ รงิ มาเป็นเวลาช้านานกว่า 50 ปี นอกจากนั้น ยังเป็นผู้บริหารในระดับหัวหน้าภาควิชาเป็นเวลา 3 ปี ดารง ตาแหน่งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจถึง 8 ปี ในช่วงที่ยังรับ ราชการและช่วงท่ีเกษียณอายุราชการ อาจารย์โสภิณได้สร้างความสาเร็จและ คุณประโยชน์ในด้านวิชาการอย่างมากมาย อาจารย์เป็นผู้นาและผู้บุกเบิก งานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์เกษตรมาอย่างยาวนาน มีผลงานวิจัยท่ีสาคัญ เช่น Agricultural Marketing Improvement in Thailand’s Northeastern Region; อนาคตการพัฒนาด้านการเกษตร; Deforestation and Poverty: Can Commercial and Social Forestry Break the Vicious Circle? เป็นต้น ในส่วนของตาราเรยี นอาจารย์โสภิณ ได้แตง่ ตาราเรียน “นโยบายเกษตรไทย” ที่ ใชเ้ ป็นเอกสารประกอบการเรยี นการสอนในหลายสถาบนั การศึกษา อาจารย์โสภณิ เปน็ แบบอย่างของอาจารย์ท่มี คี วามกรุณาและมีเมตตา อย่างสูงให้กบั ศษิ ยท์ กุ คนไมว่ ่าจะอย่ใู นวยั ไหน เป็นอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขาน ถงึ ความเป็นสมถะและเปน็ นักวชิ าการ “ติดดนิ ” โดยไม่ได้ยึดติดกับตาแหน่งทาง วิชาการท่ีได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นถึงศาสตราจารย์ อาจารย์โสภิณได้ทุ่มเท แรงกายแรงใจให้กับงานสอน งานวิชาการ เป็นพี่เลี้ยงให้กับอาจารย์รุ่นใหม่ๆ เป็นแรงกระตุ้นให้กับอาจารย์รุ่นน้องๆ ในภาควิชาฯ ในการพัฒนาตนเข้าสู่ ตาแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น อาจารย์จึงเปรียบเสมือนเป็นท้ังพ่อที่คอยดูแล เป็นพ่ีเล้ียง (mentor) ผู้ฝึกฝนงานวิชาการให้กับพวกเรา เป็นครูท่ีรัก และเป็น แบบอยา่ งทีด่ ีของศษิ ย์ทกุ คน ทุกรนุ่ ที่ได้เคยศึกษาเลา่ เรยี นกบั อาจารย์ บัดนี้ อาจารย์ได้จากพวกเราไปแล้ว คงจะเหลือแต่ความสาเร็จและ ความดีงามทิ้งไว้เบื้องหลัง ขอดวงวิญญาณของอาจารย์ที่เป็นท่ีเคารพและรัก ย่ิงของพวกเรา ไดส้ ถิตอยใู่ นสรวงสวรรคช์ นั้ บนสดุ ดว้ ยเถดิ ด้วยความเคารพรักและอาลยั ยิ่ง สมพร อศิ วลิ านนท์ นักวชิ าการอาวโุ ส สถาบนั คลังสมองของชาติ

Page23

การจากไปของ ศาสตราจารย์ ดร.โสภิณ ทองปาน เป็นเร่ืองที่ไม่คาด Page24 มาก่อนว่าท่านจะจากเราไปเร็วอย่างนี้ ในสัปดาห์ท่ีผ่านมาท่านยังทางานอย่าง เข้มแข็งอยู่ในมหาวิทยาลัยเช่นท่ีทาอยู่เป็นประจา แม้ท่านจะเกษียณอายุ ราชการมา ยี่สิบปีแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านยังทางานวิชาการให้ความรู้ ดูแลศษิ ย์ ให้ความเมตตาแก่ผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างทั่วถึง ท่านให้ความสาคัญ และให้เวลาแก่การทางานทางวิชาการอย่างมีความสุขท่ีได้ทาคุณประโยชน์แก่ คนรอบขา้ ง พวกเราในมหาวิทยาลัยคุ้นชินกับการได้เห็นท่านตามที่ต่างๆ ทั้งใน และนอกภาควิชาฯ และท่านยังได้แบ่งเวลาทางานร่วมกับสถาบันการศึกษา ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายแห่ง ส่วนหน่ึงเป็นการร่วมงานกับมิตรสหาย และศิษย์ในสถาบันนั้นๆ ท่านเป็นปูชนียบุคคลสาขาเศรษฐศาสตร์การเกษตร ระดบั ชาตอิ ยา่ งแท้จริง ศาสตราจารย์ ดร.โสภิณ ทองปาน เป็นอาจารย์ท่ีศิษย์เคารพรัก ประทับใจในการถ่ายทอดความรู้ วิธีการสอนที่ประยุกต์หลักการเข้ากับ สถานการณ์การเกษตรของไทยได้อย่างชัดเจนและปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ มีพลังที่ทาให้ศิษย์สนใจใฝ่หาความรู้โดยยึดถือท่านเป็นแบบอย่าง เป็น นกั วิชาการที่เขา้ ใจปัญหาเศรษฐกจิ การเกษตรอย่างถ่องแท้ มีความมุ่งมั่นสร้าง ความก้าวหน้าให้แก่หน่วยงาน เป็นผู้ใหญ่ท่ีมีความเมตตาต่อผู้อ่ืนมีความอาทร ให้ความอนเุ คราะหเ์ กอื้ กูลผอู้ ื่นเตม็ ความสามารถ เป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตอย่าง มีคุณค่าจนนาทีสุดท้ายของลมหายใจ การจากไปของท่านเป็นความสูญเสีย อย่างย่ิงของพวกเรา หลายคนท่ีได้รับความเมตตาจากท่านตั้งใจว่าจะทดแทน พระคณุ ด้วยการทางานสืบทอดความรูพ้ ฒั นาเศรษฐกิจการเกษตรตามท่ีท่านได้ วางแนวทางและปฏิบัติเป็นตัวอย่างไว้ หากท่านได้ทราบและมองเห็นจากเบ้ือง บนในความตง้ั ใจทดแทนพระคณุ ทา่ นครั้งนี้ แนใ่ จว่าทา่ นจะมคี วามสุขเหมอื นทุก คร้ังทที่ า่ นได้ทราบข่าวความเจริญก้าวหนา้ ของแตล่ ะคน “...นรชาติวางวาย มลายสิ้นท้ังอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา... (สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชติ ชิโนรส)” จะขอจดจาคุณความดีของศาสตราจารย์ ดร.โสภิณ ทองปาน ตลอดไป ขอส่ิง ศักดิ์สทิ ธิ์รบั ท่านสูส่ ุคติขอให้ทา่ นได้พกั ผอ่ นอยา่ งสงบสขุ ในสัมปรายภพ ด้วยความเคารพรกั เรอื งไร โตกฤษณะ 13 กนั ยายน 2558

ด้วยรกั และอาลัย ศาสตราจารย์ ดร.โสภณิ ทองปาน เป็นอยา่ งยิง่ Page25 รู้สึกใจหายและไม่อยากเช่ือเม่ือรู้ข่าวว่าอาจารย์โสภิณเสียชีวิตแล้ว เม่ือ สองสามวนั ก่อนยงั ทกั ทายสวสั ดอี าจารยอ์ ยู่เลย ไมค่ ดิ ว่าอาจารย์จะรีบจากพวกเรา ไปอย่างไม่มีวันกลับ ในระยะหลังๆ พอรับรู้ได้ว่าอาจารย์สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจารย์เดินข้ึนบันไดมาถึงชั้นหน่ึงก็มาน่ังพักเหนื่อย ใกล้หน้าห้องที่ผมเข้ามานั่ง ทางาน เลยกลายเป็นจุดที่ผมได้พบพูดคุยทักทายถามไถ่ในเร่ืองต่างๆ กับอาจารย์ บ่อยๆ ต่อไปนี้ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรฯ ของเราก็ขาดปรมาจารย์ด้าน เศรษฐศาสตร์เกษตรท่ีเป็นเสาหลักในวิชาการด้านนี้และเป็นอาจารย์รุ่นบุกเบิกก่อ ร่างสร้างภาควิชาฯ ไปอกี 1 ท่าน อาจารยโ์ สภณิ เปน็ แบบอยา่ งท่ีอาจารย์รุ่นหลังๆ ตอ้ งจดจาเอามาใชใ้ นการ ทางาน ทาหน้าท่ีเป็นครูบาอาจารย์ อาจารย์ทุ่มเทให้กับงานสอนในฐานะอาจารย์ และงานบริหารภาควิชาฯ และคณะฯ ในตาแหน่งหวั หนา้ ภาควชิ าและคณบดี ในชว่ ง ท่ีอาจารย์รับราชการอยู่ รวมท้ังทุ่มเทให้กับงานทางวิชาการหลังจากที่อาจารย์ เกษยี ณอายรุ าชการ ท้ังงานสอน งานอาจารย์ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ตรวจประเมินบทความและผลงานทางวิชาการ และเป็นกรรมการ เป็นที่ปรึกษา ให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ หลายแห่ง อีกทั้ง อาจารยไ์ ดเ้ ขยี นบทความเก่ียวกับประเด็นร้อนต่างๆ ทางด้านเศรษฐศาสตร์เกษตร และได้รับการยอมรบั ลงตีพิมพใ์ นหนังสือพมิ พ์รายวนั เปน็ ประจา อาจารย์อุทิศชีวิตให้กับหน้าท่ีการงาน จนผมยังพูดล้อเล่นว่าที่ทางาน (ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรฯ) เป็นเสมือนบ้านของอาจารย์ ส่วนบ้านที่เมือง นนท์เป็นเพียงบ้านหลังที่สอง อาจารย์มีความผูกพันกับภาควิชาฯ มากจนหาคา กล่าวไมไ่ ด้ ผมจาได้เสมอวา่ อาจารย์มาถึงทที่ างานก่อนใครๆ และกลบั หลังใครๆ ผม มาถงึ ท่ีทางาน 7 – 8 โมงเช้า อาจารยน์ งั่ ทางานอยู่ในหอ้ งแลว้ ผมกลบั บา้ น 6 – 7 โมงเย็น อาจารย์ก็ยังนั่งทางาน ยังไม่กลับบ้าน ขณะอยู่ท่ีทางานอาจารย์ยังช่วย ดูแลต้นไม้กระถางในตึก ดูแลเรื่องผ้าเช็ดมือในห้องน้า และอื่นๆ เสมือนเป็นบ้าน ของตนเอง อาจารย์เป็นแบบอย่างในการยึดถือแนวทางความพอเพียง ก่อนถึงยุค ปัจจุบันท่ีใช้การนาเสนอด้วยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน พวกเราใช้ แผ่นใสเป็นส่ือช่วยในการสอน อาจารย์โสภิณก็ใช้แผ่นใสในการสอน อาจารย์เอา แผน่ ใสทใ่ี ช้สอนแล้วมาล้างน้าเอาหมึกออกและนามาใช้เตรียมสอนใหม่อีก อาหาร การกินของอาจารย์ตอนอยู่ที่ทางานก็เป็นแบบพอเพียง อาจารย์หุงข้าวไว้กินเอง และเผ่ือแผ่พวกเราท่ีข้นึ ไปกินอาหารเท่ียงในหอ้ งพักอาจารยข์ องภาควิชาฯ อาจารย์มีวิธีการสอนท่ีเป็นเอกลักษณ์ ผมเรียนวิชานโยบายการเกษตร กับอาจารย์ เคยไปนั่งฟังอาจารย์สอนวิชาระเบียบวิธีวิจัยในระดับบัณฑิตศึกษา ถ้า ตรงไหนท่ีอาจารย์ต้องการเน้นมากๆ เป็นพิเศษ และเป็นเรื่องสาคัญที่นิสิตมักไม่ เข้าใจหรือเข้าใจผิดกันมาก อาจารย์จะใช้คาพูดแรงๆ และมีบางคาที่ดูเหมือนไม่

เหมาะสมในการสอน แตผ่ มเข้าใจเจตนาของอาจารย์ เพราะถ้าไม่อย่างนนั้ นิสติ กแ็ ค่ ฟังผ่านไปแล้วกล็ ืมไมไ่ ดต้ ระหนักถึงประเด็นท่สี าคัญในเร่อื งนน้ั ๆ สาหรับผม อาจารย์เป็นอาจารย์ของผมและเปรียบเสมือนเป็นพ่อคนที่ สองของผม อาจารย์ใหค้ วามรัก ความเอน็ ดูกบั ผมเสมอตน้ เสมอปลาย เป็นกันเอง ไม่ถอื ตน และผมเช่ือว่าอาจารย์ปฏิบัติกับอาจารย์ท่านอ่ืนๆ ในภาควิชา และกับลูก ศิษย์ทุกคน อาจารยเ์ ปน็ คนตดิ ดนิ และมีจิตวิญญาณของความเป็นครู หลักฐานท่ี ดีที่สุดผมขออนุญาตหยิบยกเอาส่ิงท่ีอาจารย์โสภิณเขียนไว้ตอนหนึ่งในหนังสือ ต้อนรับนิสิตใหม่คณะเศรษฐศาสตร์ฯ รุ่นของผม KU 32 ที่ขณะน้ันอาจารย์โสภิณ เป็นหวั หนา้ ภาควชิ าฯ ดังน้ี “..... แต่ส่ิงท่ีผู้สอนดีใจมิใช่สอนไปนับรุ่นไปเหมือนคน แจวเรือจ้าง แต่ดูวา่ คนโดยสารได้อะไรติดไมต้ ิดมือไปบา้ ง ซ่ึงจะข้ึนอยกู่ บั ทัง้ คนสอน และผู้โดยสาร ผู้โดยสารปีนี้ต้องดีกว่าปีที่แล้ว....” และอีกข้อความหน่ึงอาจารย์ เขียนในฐานะคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ฯ ลงในทาเนียบเกษตรบัณฑิต รุ่น KU 32 ดังน้ี “..... คุณอาจจะเบื่อหรือราคาญอาจารย์ผู้สอนบางคนหรือเบื่อหมดทุกคน ผู้สอนก็เช่นเดียวกัน บางคราวก็เบ่ือจนไม่อยากเจอคนเรียนหนังสือ แต่ความเบื่อ ข้างต้นส่วนใหญ่เกิดจากภาวะสิ่งแวดล้อมประจาวันท้ังทางด้านผู้เรียนและผู้สอน แต่โดยลักษณะอาชีพแล้ว ผู้สอนทุกคนเป็นห่วงทั้งตอนท่ีคุณเรียนหนังสือ และ อยากจะรู้ว่าเมื่อจบไปแล้ว ใครไปทาอะไรที่ไหน ความก้าวหน้าในการงานและชีวิต เป็นอยา่ งไร การไดถ้ ามขา่ วคราวและทราบความเคลอ่ื นไหวของคณุ ทกุ คนไม่ว่าเคย สอนหรอื ไม่เคยสอน ไม่ว่าสนิทสนมเป็นการส่วนตัว หรือรู้จักกันเพียงผิวเผิน จะมี ความสุขและปลม้ื ใจ ..............” เวลามีงานต้อนรบั หรอื งานเลี้ยงในภาควิชาฯ ถ้าเราขอให้อาจารย์อวยพร ท่านบอกว่าคาอวยพรทท่ี ่านใหเ้ ราประสบอะไรและเป็นอยา่ งไรน้ัน ถ้าเราได้ตามนั้น ก็ไมใ่ ชเ่ พราะพรที่ทา่ นให้ แต่อยู่ท่ีตัวเราเองเป็นสาคัญ และในช่วงที่ผมเป็นหัวหน้า ภาควชิ าฯ อาจารยไ์ มเ่ คยเข้ามาก้าวก่ายในการบริหารภาควิชา (ท้ังที่โดยความเป็น อาจารย์อาวุโสทา่ นก็สามารถทาได้) อาจารยท์ างานทางวิชาการเท่านั้น ซ่ึงสะท้อน แนวคดิ และอปุ นิสัยของอาจารยไ์ ด้เปน็ อยา่ งดี ด้วยคุณความดีทั้งปวงท่ีอาจารย์สร้างสมไว้ ผมขอให้ดวงวิญญาณของ ศาสตราจารยโ์ สภณิ ทองปาน ได้ไปยังสัมปรายภพ สสู่ ขุ คติ ถ้าผมกระทาการใดๆ ที่ ลว่ งเกินอาจารย์ดว้ ย กาย วาจา ใจ ผมขอโทษและขออโหสิกรรม ถา้ ชาตหิ นา้ มีจรงิ ผมขอเกิดมาเปน็ ลกู ศิษย์ของอาจารย์อีกทกุ ๆ ชาตไิ ป รกั และอาลยั ยิง่ รศ.ดร.ปติ ิ กนั ตังกลุ Page26

Page27

กราบอาจารย์ดว้ ยความเคารพ Page28 ผมได้รับทราบข่าวการจากไปของศาสตราจารย์ ดร.โสภิณ ทองปาน ดว้ ยความตกใจเปน็ อย่างยง่ิ ในตอนเทย่ี งวนั อาทติ ยท์ ่ี 13 กันยายน เนื่องจากผม เพง่ิ เดนิ ทางมาถงึ เมอื งมิลาน ประเทศอติ าลี เพือ่ ดงู านจัดนทิ รรศการอาหารโลก กอ่ นหนา้ นเ้ี พยี งหน่ึงวัน คือในชว่ งบา่ ยวนั เสารท์ ่ี 12 กันยายน ผมได้พบกับท่าน อาจารย์ท่ีระเบียงตึกคณะเศรษฐศาสตร์ ก่อนท่ีผมจะเดินทางไปสนามบิน สุวรรณภูมิ ท่านอาจารย์ได้ถามผมเป็นปกติว่า ผมจะเกษียณอายุราชการแล้ว เป็นอยา่ งไรบ้าง และการสรรหาอธกิ ารบดขี องมหาวิทยาลัยไปถึงไหนแล้ว ผมก็ ตอบอาจารย์ไปว่า ผมเข้าใจและเตรยี มใจจะเกษยี ณอายุราชการเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ไม่พร้อมอยู่เสมอ ส่วนปัญหาในการสรรหาอธิการบดีน้ันยังไม่ทราบจะจบ เม่อื ใดและจบอย่างไร อาจารย์ก็ได้แตฟ่ ังและพยกั หนา้ พลางบอกว่ากต็ อ้ งวา่ กันตอ่ ไป น่าเห็น ใจด้วยกันทกุ ฝ่าย ส่วนคณุ เองก็คือตัวผมน้นั ก็ขอให้ดแู ลตัวเองใหด้ ี ผมไมค่ ดิ ว่าน่คี อื บทสนทนาสุดทา้ ยของท่านอาจารยท์ ี่ฝากไวใ้ หผ้ มเพยี ง หน่งึ วนั กอ่ นจะจากไป แมผ้ มจะทราบมาบ้างวา่ ทา่ นอาจารย์มีอาการไม่สบายอยู่ บ้างตามสังขารท่เี รม่ิ ร่วงโรยลงไป แต่ก็ไมเ่ คยคดิ ว่าอาจารย์จะมาด่วนจากไปเร็ว เชน่ น้ีเลย ผมเช่ือม่ันว่า ท่านอาจารย์เป็นผู้เข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เข้าใจในหลัก อนิจจัง คือความไม่เท่ียงของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นอย่างดี จะเห็นได้จาก การดารงตนอย่างคนธรรมดาเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา อัตลักษณ์ที่ชัดเจน ของอาจารย์คือการเป็นผู้ประหยัด เรียบง่าย และไม่มีพิธีรีตองต่าง ๆ มากมาย หากแต่เต็มไปด้วยความเข้มข้นลึกซ้ึงและกล้าหาญในวิชาการ จนเป็นท่ียอมรับ ทัว่ ไปในวงการเศรษฐศาสตร์ของประเทศไทย เกียรติคณุ ของอาจารย์จงึ หาได้มา จากภาพชดุ ครยุ ปรญิ ญา หรือภาพชดุ ข้าราชการใสส่ ายสะพาย หากแต่เป็นภาพ ของอาจารยท์ ่ีเป็นคนธรรมดาที่สมบูรณ์ด้วยความรู้และคุณธรรม แจ่มชัดอยู่ใน ใจของผทู้ ่ีรูจ้ ักอาจารยท์ ุกคน ผมขอกราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพ น้อมระลึกถึงพระคุณของ อาจารยท์ ่ีมีตอ่ ผม นบั ตัง้ แต่วนั แรกที่เข้ารับราชการและจะเกษียณอายุในอีกไม่ก่ี วันท่ีจะมาถึงน้ี ท่านอาจารย์ซึ่งได้ทาหน้าท่ีอย่างครบถ้วนเป็นอย่างดีแล้ว ส่วน ผมจะยังคงทาหน้าท่ีของลูกศิษย์ต่อไป และขออุทิศคุณความดีทั้งหลายที่จะพึง มีให้แก่ท่านอาจารย์ ซ่ึง ณ บัดน้ีคงจะได้สถิตอยู่ในที่อันเป็นสุขคติดีแล้วอย่าง แน่นอน ดร.ธนั วา จติ ตส์ งวน

Page29

อาจารยโ์ สภณิ ทองปาน ที่ผมรู้จกั ... Page30 วชิ า 119461 หรอื นโยบายเกษตร เปน็ วชิ าท่ีผมและใครอีกหลายๆ คนคงได้ เคยเรยี นกบั ท่านอาจารย์ อาจารยส์ อนวชิ านีม้ าอยา่ งตอ่ เนอื่ งยาวนานจนกระทั่ง ถึงวาระสดุ ทา้ ยของชวี ติ อาจารย์ “ตกลงจะมาเปน็ อาจารย์แน่นะ เอาแน่นะ ไม่เปลย่ี นใจแน่นะ?” เปน็ คาพูดที่ อาจารย์ถามผมตอนสอบสมั ภาษณเ์ ป็นอาจารย์ใหมข่ องภาควชิ าฯ อาจารยช์ อบวิง่ ออกกาลงั กายตอนเชา้ เม่ือหมอสั่งหา้ มวิ่ง อาจารย์เลยวา่ “หมอไม่ให้วิ่ง อ๊วั กเ็ ลยเดนิ มาทางานแทน” (คอื เดนิ มาจากเดอะมอลล์ งามวงศ์ วาน และบางวนั ก็แถมด้วยการเดินกลบั บา้ นดว้ ย!) วันหนงึ่ ตอนเช้าตร่มู นี ิสติ กึ่งเดนิ ก่ึงว่งิ สวนผมลงจากมาจากตกึ พรอ้ มกบั บอกวา่ สงสัยจะโดนผีหลอก นสิ ิตเล่าว่า เหน็ ลงุ แก่ๆ ไมใ่ สเ่ สอ้ื นงุ่ ผ้าขาวม้าเดิน อยู่บนชน้ั 3 (ชัดเลย...อาจารยโ์ สภิณเดนิ ไปอาบน้า) อาจารย์เป็นคนชอบเดนิ ไปไหนต่อไหน ภาพที่อาจารยเ์ ดินไปประชมุ ในทต่ี ่างๆ ภาพที่อาจารย์เดินไปตลาดนดั โครงการหลวง และสามแยกเกษตร เพื่อซ้ือของ และห้ิวของพะรุงพะรงั เป็นภาพที่เห็นได้บอ่ ยคร้งั อาจารย์มกั จะซือ้ ก๋วยเตย๋ี วราดหน้าจากตลาดนดั มาฝากเจา้ หน้าท่ภี าควิชาฯ เสมอๆ ทุกวนั อังคาร อาจารย์เคยโกรธแมบ่ า้ นจนความดันขึ้นและล้มหงายตงึ ไปทงั้ เกา้ อ้ี พวกเรา หลายคนต้องช่วยกนั แบกอาจารยล์ งมาจากชน้ั 4 เพื่อส่งโรงพยาบาล และอกี คร้ังคอื อาจารย์หนา้ มืดและล้มหัวแตกท่ชี ้ัน 3 นั่นคงเป็น 2 ครงั้ ท่อี าจารย์ทาให้ พวกเราต่ืนเตน้ และตกใจมาก หอ้ งทางานของอาจารย์โสภณิ นา่ จะเปน็ ห้องทางานทรี่ กทสี่ ดุ หอ้ งหนง่ึ ใน มหาวทิ ยาลยั เพราะเป็นห้องท่เี ตม็ ไปดว้ ยหนงั สือและเอกสารทางวิชาการ จานวนมาก และใครก็อย่าไดไ้ ปย่งุ กบั เอกสารของแกเป็นอนั ขาด ภาควชิ าฯ เคยจดั งานปใี หม่ทบ่ี า้ นอาจารย์โสภณิ และผมเคยขบั รถไปสง่ อาจารย์ทบี่ ้าน 2 ครั้ง แตช่ ว่ งหลัง คนท่ขี บั รถไปสง่ อาจารยท์ บี่ ้านเปน็ ประจาคอื ดร.จกั รกฤษณ์ ผมเคยขันอาสาจะไปส่งแตอ่ าจารย์ก็บอกผมทกุ คร้งั ว่า บา้ นอยู่ กนั คนละทาง และกไ็ ม่ยอมให้ไปสง่ เพราะรถมันตดิ เสยี เวลา “รายงานคณุ แม่ด้วยนะวา่ อาจารยโ์ สภิณกินหมดแล้ว อร่อยมาก” “วนั นี้ขอ กลับก่อนนะ และถ้าได้ยินเสียงอะไร ใหร้ ้นู ะวา่ ไมใ่ ช่อาจารยโ์ สภณิ ” “พธิ กี ร เคา้ ใหผ้ มขึน้ มา Say Something” “ใครจะเกษียณก็เกษียณไปครับ แต่ผมยงั ไม่ เกษยี ณ” “เป็นยงั ไงหัวหนา้ ภาค เหนอ่ื ยไหม กลับบา้ นไปดูแลคณุ พ่อคณุ แม่บา้ ง นะ” คาพดู เหลา่ นีล้ ว้ นเป็นคาพดู ทท่ี าใหผ้ มนกึ ถงึ อาจารย์โสภณิ ครบั ด้วยรกั และอาลยั ผศ.ดร.วิศษิ ฐ์ ลิ้มสมบญุ ชยั

ก่ อ น อื่ น ผ ม ต้ อ ง บ อ ก ว่ า เ สี ย ใ จ อ ย่ า ง ท่ี สุ ด ที่ อ า จ า ร ย์ ไ ด้ จ า ก ไ ป อ ย่ า ง Page31 กะทันหันครับ ท่ีผ่านมาในช่วงระยะเวลา 5 ปีหลัง ผมได้มีโอกาสพบและคุยกับ อาจารย์บ่อยๆ เนื่องจากอาจารยก์ ลบั บา้ นกบั ผมเปน็ ประจา ซ่ึงถือว่าเป็นเกียรติ กับผมอย่างมากและเป็นโอกาสดีของผมที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ ในช่วงแรกๆ ต้ังแต่ปี 2553 ผมจะไปส่งอาจารย์บริเวณก่อนถึงซอยจุฬาเกษม เพราะอาจารยใ์ หผ้ มส่งแคน่ น้ั แต่ในช่วงหลงั ผมต้องขอส่งอาจารยถ์ ึงบ้านเพราะ อาจารย์รู้สกึ เหนอื่ ยมากแมไ้ มเ่ อ่ยปากแตผ่ มต้องขอรอ้ งอาจารย์ให้ผมไปส่งครับ ในชว่ งระยะเวลาท่นี ่งั รถไปดว้ ยกันเรื่องทไ่ี ด้คยุ กบั อาจารย์มีหลากหลายมาก ผม ต้องบอกว่าเป็นโชคของผมท่ีมีโอกาสได้คุยกับอาจารย์มากๆ ในช่วงกลับบ้าน ด้วยกัน เรื่องที่คุยกัน เร่ิมต้นต้องบอกว่าอาจารย์ให้ความสนใจกับชีวิต ครอบครัวครับ อาจารย์ถามถึงความเป็นอยู่ของลูกๆ และครอบครัวว่าสบายดี หรือไม่หรือมีสิ่งผิดปกติอย่างไร ถือเป็นความห่วงใยเร่ิมแรกที่ถามถึงเม่ือไป ดว้ ยกนั นอกจากนั้นอาจารย์จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เม่ือครั้งท่ีอาจารย์ต้อง ดแู ลลูกๆ เหมือนกัน อาจารย์เล่าเสมอว่าในช่วงวันหยุดอาจารย์ไปซ้ือกับข้าวให้ ลูกๆ หลานๆ และพ่ีเลี้ยงหลานๆ อะไรบ้าง อาหารอีสานหลายอย่างที่อาจารย์ เคยกินและที่ต้องซ้ือ ซ่ึงเรามีการแลกเปลี่ยนกันช่วงเวลานี้ครับ อาหารอีสาน หลายอย่างที่อาจารย์ถามผม เช่น ส้มผัก หมูยออุบล ก๋วยจ๊ับญวน หมก แกง อ่อม ปลาส้ม ฯลฯ สว่ นใหญอ่ าจารยจ์ ะซอ้ื อาหารเหลา่ นจ้ี ากตลาดประชานิเวศน์ ในวันหยุดให้ท่ีบ้านและหลานๆ ซึ่งผมเดาว่าอาทิตย์นี้ถ้าอาจารย์ไม่เสียก่อนคง เปน็ เรอื่ งท่ีคยุ กันเหมือนเดิมครับ ระหว่างทางกลับบ้านเราคุยต้ังแต่รถยนต์รอบข้าง มารยาทการขับรถ EIA ของบางกิจการที่ไมผ่ ่าน แนวโนม้ ของการค้าแต่ละร้านคา้ ทเ่ี ราขับรถผา่ นว่า จะรอดไมร่ อดหรือกลมุ่ ตลาดเปา้ หมายคอื ใคร กลยทุ ธท์ ่ตี อ้ งใช้ควรทาอยา่ งไรคือ สิ่งทแ่ี ลกเปล่ียนกับอาจารย์ สุดทา้ ยผมยังมีโจทยท์ า้ ทายว่าหอ้ งสดุ ทา้ ยของร้าน ขายกาแฟอาคารจอดรถ 2 ควรทาอะไรดี คือสิ่งที่ผมกับอาจารย์วิเคราะห์และ หารือกันประจาครบั การวเิ คราะหเ์ ศรษฐกิจ นโยบาย และการตลาดรอบตัวเป็น ส่ิงที่ทาประจาระหวา่ งการเดนิ ทางกบั อาจารย์และผมเองต้องใช้ในการเรียนการ สอนวชิ าการตลาดด้วย ซง่ึ เปน็ ประโยชน์อย่างมากสาหรับผมที่จะสอนนิสิตตอ่ ไป ครบั ถึงวันนี้ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงสาหรับแง่คิดและ ประสบการณท์ ไ่ี มอ่ าจจะถ่ายทอดได้หมดในที่นไี้ ด้ และขอน้อมสง่ อาจารย์ในวาระ สดุ ท้ายด้วยความเคารพรกั ครับ จกั รกฤษณ์ พจนศลิ ป์ พลขบั ประจากาย

Page32

Page33

Page34

Page35

Page36

เอกสารประกอบการสอนวิชา นโยบายเกษตรเพ่อื ธุรกจิ การเกษตร Page37

Page38

Page39

Page40

Page41

เอกสารประกอบการสอนวิชา ระเบยี บวธิ วี จิ ยั Page42

Page43

Page44



Page46

ตอบโตก้ ารทมุ่ ตลาด ความหมายจริงๆ ของการทุ่ม Page47 โดยโสภิณ ทองปาน ตลาดและท่ียอมรับกันคือ “ขาย (มติชน: 12 สิงหาคม 2547) สินคา้ ชนดิ น้นั ในตลาดนาเข้าต่ากว่า เรียบร้อยไปแล้วเม่ือวันท่ี 29 ราคาในตลาดของประเทศส่งออก กรกฎาคม 2547 เม่ือกระทรวง และยังรวมท้ังราคาส่งออกต่ากว่า พาณิชย์อเมริกาประกาศจัดเก็บ ทุนการผลิต” ถ้าเป็นไปตามเกณฑ์ ภาษีนาเข้ากุ้งจากไทย และจาก น้ี อ ง ค์ ก า ร ก า ร ค้ า โ ล ก ย อ ม ใ ห้ ใ ช้ ประเทศอื่น ๆ อีก 5 ประเทศ ของ มาตรการตอบโต้สินค้านาเข้าได้ ถ้า จีนและเวียดนามได้ประกาศไปก่อน ก า ร ทุ่ ม ต ล า ด นั้ น ส ร้ า ง ค ว า ม แล้ว อัตราภาษีท่ีเพ่ิงประกาศ เสียหายต่ออุตสาหกรรม นั้นๆ ใน จดั เกบ็ จากไทยประมาณ 6.4 ถือว่า ประเทศนาเข้า ต่าสุด ขณะท่ีจัดเก็บจากเวียดนาม โดยเฉล่ีย 16 เปอร์เซ็นต์ และ 49 ประเทศนาเข้าก็ใช้มาตรการนี้ เปอร์เซ็นต์ จากจีนท่ีเรียกอัตรา เป็นวา่ เล่นปลี ะไมต่ ่ากว่า 300 กรณี เฉลย่ี เพราะจัดเก็บจากผู้ส่งออกแต่ จะไมใ่ ช้กไ็ ทยนแี้ หละ ผอู้ า่ นจะสงสัย ละรายไม่เท่ากัน ผู้ท่ีเก่ียวข้องบอก ว่ า ก า ร ทุ่ ม ต ล า ด ใ น ค ว า ม ห ม า ย ว่าพอรบั ไดภ้ าษไี มส่ งู ข้างต้นจะมีคนทาหรือ ทาให้เจ๊ง ทาไม เช่น ขายต่ากว่าทุนหรือขาย ภ า ษี ท่ี ว่ า นี้ เ ป็ น ภ า ษี อ ะ ไ ร ถูกกว่าราคาในประเทศเป็นไปไม่ได้ เรียกว่าภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด ก่ อ น ที่ เ ชื่ อ ห รื อ ไ ม่ เ ชื่ อ ล อ ง อ่ า น (antidumping) เป็นภาษีจัดเก็บ ตัวอย่างของจรงิ ต่อไปครับ เพื่อแก้เผ็ดน่าจะสื่อความหมายได้ ดีกว่าตอบโต้ ปัญหาคือทุ่มตลาด เมื่อต้นปีนี้หอการค้าเชียงราย (dumping) คอื อะไร คานี้มีปรากฎ มีข้อตกลงกับบริษัทเบียร์ล้านช้าง อยู่ในรายงานสรุปข้อตกลงท่ัวไป ของจีน โดยทางเชียงรายจะนาเข้า ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ว่ า ด้ ว ย ภ า ษี เบียรแ์ ล้วบรษิ ัทในจีนจะนาข้าวสาร ศุลกากรและการค้า (รู้จักในช่ือ จากเชียงรายไปจาหน่าย ตกลง ทว่ั ไปว่า แกตต์ มกี ารเจรจาและตก เสร็จปลายกรกฎาคม 2547 เบียร์ ลงกันได้ในรอบเคเนด้ีในข้อ V1 แต่ ล้านช้างก็มาถึงด่านศุลกากร ต้อง สภาสูงของอเมริกาไม่เห็นด้วย มา เสียภาษีตามระเบียบ ถามว่าขาย พิจารณากันใหม่ในรอบโตเกียว ราคาเท่าใด เบียร์มีสองขนาด คือ และตกลงกันได้ในรอบอุรุกวัย การ ขนาด 300 ซีซี และ 600 ซีซี เ จ ร จ า ข อ ง อ ง ค์ ก า ร ก า ร ค้ า โ ล ก ขนาดขวดเล็ก ราคานาเข้าขวดละ ขณะน้ีอยู่ในรอบโดอา (ชื่อเมืองใน สองบาทหกสิบสตางค์และสาม ประเทศกาตาร์) บาทสลึงราคาถูกย่ิงกว่าน้าดื่มขวด เล็กในเมืองไทย เจ้าหน้าท่ีไม่กล้า ประเมินภาษีนาเข้าเพราะราคาต่า

เ ห ลื อ เ ช่ื อ เ กิ น จ ริ ง ด้ ว ย ซ้ า ไ ป อเมริกาลดลง เน่ืองจากมีการ Page48 สอบถามว่าทาไมจึงได้ถูกอย่างน้ี นาเข้ากุ้งราคาถูกจาก 6 ประเทศ ไ ด้ ค า ต อ บ ว่ า รั ฐ บ า ล จี น ใ ห้ ก า ร ทาให้เขาเสียหาย เมื่อเห็นว่าควร อุดหนุน (มติชนรายวัน 29 ก.ค. รั บ ค า ร้ อ ง ก็ ใ ห้ เ จ้ า ห น้ า ท่ี จ า ก 2547) คณะกรรมการการค้าต่างประเทศ เป็นผู้พิจารณาคือ จัดเก็บข้อมูล ถามท่านผู้อ่านต้นทุนต่าขนาด เพื่อพิสูจน์ว่าต้นทุนจริงๆ จะเป็น นถ้ี อื ว่าเปน็ ต้นทุนจริงๆ ได้ไหม? ไม่ เทา่ ใด น่าจะได้เพราะรัฐให้การอุดหนุนคง ในแทบทุกเร่ือง ถ้าจัดเก็บภาษี ปัญหาก็คือ ต้นทุนการเลี้ยง อัตราปกติเข้ามาขายเมืองไทยไม่ กุ้งและแปรรูปถ้าจะให้กรอกข้อมูล เกินขวดละห้าบาท-หกบาท ขาย จะไดค้ าตอบคล้ายกบั เบียร์ล้านช้าง ราคานี้ไม่ว่ายอดขายเบียร์จระเข้ ย่ิงไปกว่านั้นทุกประเทศในโลกก็รู้ เบียร์ช้าง เบียร์มา้ เบยี ร์เสอื ในแถบ กั น ว่ า น า น า ป ร ะ เ ท ศ ไ ม่ ไ ด้ ถื อ ว่ า จงั หวัดเชยี งรายจะลดลงอย่างมาก เ ศ ร ษ ฐ กิ จ จี น เ ป็ น ร ะ บ บ ท่ี อ า ศั ย และถา้ นาเข้ามาอีกรอบต่อไป เบียร์ กลไกของระบบตลาด เพราะมีการ ย่ีห้อข้างต้นอาจจะสูญพันธ์ุไปเลย แท ร กแ ซ ง ข อ ง รั ฐ ก ว่ าน า น า คือประสบความเสียหายว่างน้ั เถอะ ประเทศจะยอมรับว่าเป็นเศรษฐกิจ ระบบตลาด ก็ต้องรออีก 12 ปี คือ ถ้ า อ ย่ า ง นี้ ผู้ ผ ลิ ต เ บี ย ร์ ย่ี ห้ อ พ . ศ . 2 5 5 9 โ น้ น แ ห ล ะ ข อ ง ข้างต้นสามารถขอใช้สิทธิตอบโต้ เวยี ดนามก็พอกันประกอบกับยังไม่ ก า ร ทุ่ ม ต ล า ด โ ด ย ร้ อ ง เ รี ย น เป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกอีก กระทรวงพาณิชย์ขอให้จัดเก็บภาษี ด้วย ตอบโต้กระทรวงพิจารณาแล้วถ้า เหน็ ควรรับคาร้อง ก็เดนิ ทางไปเก็บ เ จ้ า ห น้ า ท่ี ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง ขอ้ มูลต้นทุนการผลิต ได้ข้อมูลแล้ว พาณิชย์อเมริกาจะไปเอาตัวเลข พิจารณาดูว่าต้นทุนต่า เพราะ ต้นทุนจากไหน ไม่ยากพอจะเอา รัฐบาลอุดหนุนเท่าใด ถ้าต่าไปร้อย จ า ก ตั ว เ ล ข ต้ น ทุ น ใ น ป ร ะ เ ท ศ ที่ มี ละ 40 ก็มาประกาศจัดเก็บภาษี ร ะ ดั บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ ๆ กั น จึ ง ตอบโต้ร้อยละ 40 ตามนั้น ง่าย ตัดสินใจใช้ตัวเลขของอินเดีย จีน ดกี วา่ นะครบั ไ ม่ ว่ า แ ต่ เ วี ย ด น า ม โ ว ย ว่ า ร ะ ดั บ พัฒนาของเขายังไม่เท่าอินเดีย กลับมาภาษีตอบโต้การนาเข้า อ เ ม ริ ก า ก็ บ อ ก ว่ า ถ้ า งั้ น เ อ า กุ้ง เร่ิมจากผู้เล้ียงกุ้งในแปดมลรัฐ บังกลาเทศก็แล้วกัน ก็ต้องยอม ทางใต้ของอเมริการ้องเรียนเมื่อ ตัวเลขที่ใช้มีทั้งค่าแรง ค่าน้า ค่า กลางเดือนธันวาคม 2546 ต่อ น้าแข็ง ค่าใช้จ่ายในสานักงานของ กระทรวงพาณิชย์ ว่าพวกเขาได้รับ บริษัทผู้ส่งออก ของ ห้องเย็น ค ว า ม เ สี ย ห า ย เ พ ร า ะ ร า ค า กุ้ ง ใ น

พิจารณาจากตัวเลขในสี่เมืองหลัก ร้องเรียน ตามสิทธิและวิธีปฏิบัติ ของอินเดียและสองเมืองหลักของ สาหรับอเมริกาเองใช้เวลากว่าคร่ึง บังกลาเทศ ปีจึงตัดสินออกมา ถามดูว่าถ้าเป็น แหล่งขอ้ มูลกห็ าได้ง่าย ค่าแรง เกษตรกรไทยเดือดร้อน มีขั้นตอน ร้องเรียนไหม รัฐบาลไทย จะทาได้ ดูจากตัวเลขขององค์การกรรมกร ไหม มกี ึ๋นไหมใชเ้ วลากป่ี ี ระหว่างประเทศ ค่าน้าดูจากบัญชี ค่ า น้ า ข อ ง ธ น า ค า ร พั ฒ น า แ ห่ ง Page49 เอเชีย ค่าน้าแข็งในอินเดียก็มี เอกสารของทางราชการ ค่าไฟฟ้าก็ ใช้ตัวเลขขององค์การพลังงาน ระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายใน สานักงานก็ดูจากงบการเงินของ บริษัทส่งออกซึ่งเผยแพร่ท่ัวไป ท้ังหมดนี้จะทราบว่าต้นทุนจริงๆ เท่าใด จัดเก็บภาษีเท่าใด จึงจะทา ให้ต้นทุนเท่าต้นทุนจริง จึงเป็น อัตราภาษขี ้างต้น อัตราที่ประกาศข้างต้นมีผลใช้ ทันทีจนถึง 17 ธันวาคม 2547 ถือ ว่าเป็นอัตราข้างต้น แล้วกระทรวง พาณิชย์ก็ยังเก็บข้อมูลอยู่ต่อไป รวมท้ังประเมินความเสียหายอีก หน ถ้าเสียหายมากและมีตัวเลข ชัดเจนจะประกาศการจัดเก็บภาษี ต อ บ โ ต้ ค ร้ั ง สุ ด ท้ า ย ใ น ต้ น ปี ห น้ า ตั้ ง แ ต่ วั น น้ี ไ ป ผู้ ส่ ง อ อ ก จ ะ ต้ อ ง วางเงินสดค้าประกันเท่าภาษีท่ีต้อง เสีย หลังจากประกาศอัตราใหม่ แล้ว ซง่ึ โดยปกติจะมีผลบังคับใช้ 5 ปี การจัดเกบ็ ภาษีตอบโต้ รัฐมนตรี ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกใ็ ห้สมั ภาษณ์ทานองว่า อเมริกาทาตนเหมือนไม่ใช่มหามิตร จริงๆ แล้วคนละเรื่อง แต่เป็นการ ป้องกันความเสียหายของคนใน ประเทศของเรา เขาเสียหาย เขาก็

มขี องแพงใหซ้ ้ือดีกว่าไม่มขี องขาย และอนุญาตเป็นรายชนิด เช่น น้ามัน Page50 โดย โสภิณ ทองปาน ปาล์ม น้ามันถ่วั เหลือง (มติชนรายวัน (มติขน: 18 มกราคม 2551) 9 มกราคม) แต่ถ้าบรรจุภาชนะขนาด ใหญ่ เชน่ ป๊ีบ ก็ไมค่ วบคมุ ปั ญ ห า ร า ค า สิ น ค้ า ท่ี จ า เ ป็ น ใ น ชีวิตประจาวัน ไม่ว่าน้ามันพืช มใิ ชแ่ ต่นา้ มันปาลม์ และน้ามัน เนอ้ื สัตว์ แป้งสาลี แป้งมัน ปลายข้าว เชือ้ เพลงิ เท่านั้นทขี่ ้ึนราคา แต่ราคา และราข้าว เป็นเรื่องปวดหัวของ พชื อาหารสตั ว์ เช่น ข้าวโพด มันเสน้ กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะกรมการ ราขา้ ว ปลายขา้ ว ข้ึนราคากันหมด ค้าภายใน ซึ่งมีหน้าท่ีรวบรวมและ ส่งผลใหร้ าคาไขไ่ ก่ เนื้อสตั ว์ สัตว์น้าก็ คานวณดัชนีราคาสินค้าและควบคุม ราคาสินค้าท่ีจาเป็น รายการสินค้า ตอ้ งข้ึนราคา เพราะใช้อาหารเลยี้ ง ควบคุมราคาขอข้ึนราคานับจะเพ่ิมขึ้น เหมอื นกัน แป้งข้าวสาลีข้นึ ราคามา เรือ่ ยๆ ราวหกเดอื นแล้ว น้าผลไม้ทกุ ชนิดข้นึ ราคา สินคา้ มีราคาสงู ขึน้ มใิ ช่มเี ฉพาะแต่ ในเมืองไทย แต่เกิดขึ้นท่ัวโลก ส่วนหนึง่ เพราะอากาศแห้งแล้งใน ผู้ บ ริ โ ภ ค ก็ โ อ ด ค ร ว ญ เ ป็ น ธ ร ร ม ด า ออสเตรเลีย แคนาดา ฟลอริดา ทาให้ ข้ า ร า ช ก า ร ซึ่ ง มี ห น้ า ที่ ดู แ ล ก็ ต้ อ ง ข้าวสาลีเสียหาย ผลผลิตส้มเสียหาย พยายามที่จะไม่ให้ราคาข้ึน ข้ันตอน น้าส้มราคาแพง มีผลทาให้น้าแอป ความพยายามเร่ิมด้วยเจ้าของสินค้า เปิ้ลแพงตาม คนไทยต้องกินน้าผลไม้ ต้องย่ืนเรื่องขอปรับราคา ทางกรมก็ รวมไปอกี นาน จะพิจารณาว่าขอปรับข้ึนเท่าใด มี เหตุผลหรือไม่ การที่นา้ มนั แพง หลายประเทศใช้ เอทานอลผสมเบนซินในสัดส่วนต่างๆ แทบท้ังหมดก็มีเหตุผล แต่จะให้ กัน ซ่ึงต้องผลิตจากพืช ในอเมริกา ข้ึนเท่าใดใช้วิธีการแบบไทย คือ ให้ข้ึน แทบท้ังหมดผลิตจากข้าวโพดเล้ียง แต่น้อยกว่าที่ขอ หรือให้ขึ้นแต่ขอให้ สัตว์ มีผลทาให้ข้าวโพดราคาแพง รอไปก่อน รวมทง้ั อ้อยและหัวมนั สาปะหลงั จริงๆ แล้วเจ้าของสินค้าก็ไม่ เมือ่ ข้าวโพดแพง เกษตรกรก็ปลูก อยากขึ้นหรอก เพราะราคาแพงก็จะ มากขึ้น ต้องลดเนื้อท่ีปลูกพืชอื่นๆ เสียลูกค้าไป ดูแต่บะหม่ีสาเร็จรูปก็ โ ด ย เ ฉ พ า ะ ใ น อ เ ม ริ ก า ก็ ล ด ป ลู ก ถ่ั ว แลว้ กัน อนญุ าตใหข้ ้ึนแล้วแต่ยงั กล้าๆ เหลืองทาให้ราคาถั่วเหลืองแพงขึ้น กลัวๆ มาก มผี ลถึงราคานา้ มันถ่ัวเหลืองและ กากถ่ัวเหลืองซึ่งเป็นโปรตีนหลักใน บางทีก็ต้องอนุญาตให้ปรับข้ึน อาหารสัตว์ แต่ท้ังปีไม่เกินก่ีบาท เช่น น้ามันพืช ขนาดหนึ่งลิตรท่ีก็จาเป็น ให้ข้ึนไม่เกิน ขณะเดียวกัน ใช้น้ามันปาล์มไป 3 บาทในเดือนมกราคม 2551 อีก ผลิตไบโอดีเซล ทาให้ราคาน้ามัน 2.50 บาท อาจให้ปรับขึ้นภายหลัง ปาล์มซึ่งมาเลเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ของโลกราคาเพิ่มไม่หยุดจากราคาตัน ละประมาณ 24,000 บาท ในปลาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook