Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัย 2563

วิจัย 2563

Published by Jeerawan Patiwong, 2021-05-15 07:03:38

Description: วิจัย 2563

Search

Read the Text Version

บรู ณาการอ่านออกเขียนได้ในรายวชิ าสงั คมศกึ ษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โดยหนงั สืออา่ นเพิม่ เตมิ นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ตาแหน่ง ครู โรงเรยี นวดั พชื นิมิต(คาสวัสดริ์ าษฎร์บารุง) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 กระทรวงศึกษาธิการ ปกี ารศกึ ษา 2563

สารบัญ หนา้ บทคัดย่อ 1 สารบญั 4 บทที่ 4 4 1. บทนา 5 ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา 6 วตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั 7 ขอบเขตของการศกึ ษา 7 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ ประโยชนท์ ี่คากว่าจะได้รับ 8 2. เอกสารและผลงานวจิ ัยท่เี กี่ยวขอ้ ง 9 เอกสาร 9 ผลงานวิจยั ท่ีเก่ยี วขอ้ ง 9 3. วธิ ีดาเนนิ การวิจัย 10 วิธีดาเนินการวิจัย 10 10 4. ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 11 การวเิ คราะห์ข้อมูล ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล 12 5. สรุปผลการวจิ ัย อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบบันทึกคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ภาคผนวก ข หนังสืออ่านเพมิ่ เติม ภาคผนวก ค แบบประเมินคุณภาพของหนงั สืออา่ นเพม่ิ เติม

๑ ชื่องานวจิ ัย บรู ณาการอา่ นออกเขยี นได้ในรายวชิ าสังคมศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 โดย หนังสืออา่ นเพ่มิ เติม ช่ือผู้วิจยั คุณครูจรี วรรณ ปฏิวงศ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม บทคดั ยอ่ การอ่านท่ีมีความสาคัญ และจาเป็นในการสื่อสารของมนุษย์ การสื่อสารของมนุษย์ ใช้ทักษะทีส่ าคัญหลายทักษะท่จี าเปน็ ได้แก่ ฟงั พดู อา่ น และเขยี น และเป็นหลกั ฐานของวชิ าอ่นื ๆ รวมไปถึง วิชาสังคมศึกษา บทบาทหน้าที่พลเมืองที่ดีมีความสาคัญซึ่งพึงกระทาเพื่อให้ตนเองเป็นประโยชน์ต่อ บ้านเมือง ก็คือเป็น “พลเมือง”ซึ่งมีความหมายและขอบข่ายที่ชัดเจน และกว้างกว่าความเป็นประชาชน การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม การสร้างระเบียบวินัยการมีจิตสานึก ความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนัน้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น งานวิจยั ครงั้ นม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ศกึ ษาผลสัมฤทธท์ิ างการ เรียน เรอ่ื ง พลเมืองไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ควบคู่การอ่านออกเขยี น ได้ นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต(คาสวัสดิร์ าษฎร์บารงุ ) ปีการศกึ ษา 2563 โดย ใช้นกั เรยี นจานวนท้งั หมด 54 คน หนังสอื อ่านเพมิ่ เติม โดยบันทกึ คะแนนเป็นตาราง และสรปุ ผลการ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรยี น ผลการศกึ ษาคร้ังน้ี ปรากฏวา่ การใช้หนังสืออา่ นเพ่ิมเตมิ สรุปไดว้ า่ การใชห้ นังสืออา่ นเพม่ิ เติม ชดุ พลเมอื งไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ก่อนเรียนมีคา่ เฉลย่ี เทา่ กบั 3.07 หลังเรยี นมคี ่าเฉลยี่ เท่ากับ 7.40 จะเหน็ ไดว้ ่าคะแนนของคา่ เฉลี่ยหลังเรยี นมีค่ามากกว่าคะแนนเฉลยี่ ก่อน เรียน ข้อเสนอแนะจากการทาวิจยั ในช้ันเรียน เรือ่ ง บูรณาการอา่ นออกเขียนไดใ้ นรายวชิ าสงั คมศึกษา ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โดยหนงั สอื อา่ นเพิม่ เตมิ จากผลการศกึ ษาคน้ ควา้ คร้ังนี้มีข้อเสนอแนะเพอ่ื ประโยชนต์ อ่ วง การศึกษาดังน้ี 1. ก่อนนาแบบฝึกทักษะไปใช้ประกอบการสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียดของทุกกิจกรรม ก่อนนาไปใช้ 2. หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุดพลเมืองไทย นี้ จะเกิดความสมบูรณ์ครูผู้สอนต้องใช้ควบคู่ไปกับ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ีผูว้ ิจัยจัดทาข้ึน จัดกิจกรรมให้ครบทุกขั้นตอน ต้องตรวจแบบฝึกอย่างเปน็ ปัจจบุ นั ให้ผูเ้ รียนรผู้ ลทนั ที พรอ้ มกับเฉลยคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งใหผ้ ูเ้ รยี นไดร้ ู้ทุกคร้ัง

๒ บทที่ 1 บทนา ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา บทบาทหน้าท่ีพลเมืองท่ีดีมีความสาคัญซ่ึงพึงกระทาเพ่ือให้ตนเองมี “พละ หรือกาลัง” ท่ีดีเป็น ประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็คือเป็น “พลเมือง”ซ่ึงมีความหมายและขอบข่ายท่ีชัดเจน และกวา้ งกว่าความเป็น ประชาชน การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม การสรา้ งระเบยี บวนิ ัยการมจี ิตสานึกความรบั ผิดชอบต่อสังคม การ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความภาคภูมิใจให้ แก่เด็กซึ่งจะเป็นพลเมืองที่ดีที่จะ นาไปสู่การพัฒนา และยกระดับคุณภาพของสังคมไทยในอนาคตแนวคิดดังกล่าว คือ การพัฒนาความเป็น พลเมืองไทย และพลเมืองโลก ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 นอกจากนี้ ในการจัดการศึกษาของไทย มี แนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงในมิติ ดา้ นเนอื้ หา และการเรียนรู้ กอปรกับในขณะนี้มีนโยบายด้านการ เรียน การสอนวิชาหน้าท่ีพลเมือง ที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในชาติได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง ความเป็นไทย รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความสามัคคี เพื่อสันติสุขในสังคมไทย การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองตาม วัฒนธรรมไทย คือ การกระทา หรือผลการกระทาที่พัฒนาจากสภาพเดิมตามธรรมชาติให้ดีงามย่ังยืนจน เป็นท่ียอมรับของคนในสังคม เช่น กิริยา มารยาท การพูด การแต่งกาย การรับประทานอาหาร เป็นต้น วัฒนธรรมการไหว้ เป็นวัฒนธรรมภายนอกที่มักได้รับการตอบสนองจากผู้ได้รับการไหว้ ตอบ นอกจากน้ี ยังมีวัฒนธรรมไทยอ่ืน ๆที่งดงาม เช่น การพูด การกราบ การทาบุญตักบาตร การแต่งกายแบบ ไทย เป็นต้น การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามประเพณีไทยขนบธรรมเนียมประเพณี คือ ส่ิงท่ีปฏิบัติสืบ ทอดกันมาและถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามของแต่ละสังคมอาจเหมือนกัน คล้ายกัน หรือแตกต่างกันก็ได้ และ สิ่งที่ดีงามของสังคมหนึ่งเม่ือเวลาผ่านไปสังคมนั้นอาจเห็นเป็นสิ่งไม่ดีงาม ก็ได้ วัฒนธรรมและประเพณีไทย เป็นกิจกรรมที่สืบทอดมายาวนาน และสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งดีควรอนุรักษ์ไว้ในช่วงที่บ้านเมืองมี ปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองท่ีผ่านมา สังคมไทยมีความแตกแยกและขัดแย้งกัน อยา่ งรุนแรง ขาดธรรมาภิบาลและขาดวัฒนธรรมของระบอบประชาธิปไตยที่เราถือว่า เปน็ ระบอบการปกครอง ที่ดีที่สุด ทาให้คนไทยรู้จักความเป็นไทย ที่แท้จริง คือ มีความรักสามัคคี ปรองดอง และช่วยเหลือเก้ือกูลซึ่ง กันและกัน มีส่วนร่วมหรือความรับผิดชอบต่อสังคมมากข้ึน มีความภาคภูมิใจ รักชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ย่ิงขนึ้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง 2560 กลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ว่าด้วยการอยู่ร่วมกันบนโลกท่ีมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา การเช่ือมโยงทางเศรษฐกิจท่ีแตกต่างกันอย่างหลากหลาย การปรบั ตัวเอง กับบรบิ ท สภาพแวดลอ้ มทาให้เป็นพลเมืองทร่ี ับผดิ ชอบ มคี วามสามารถทางสงั คม มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และ ค่านิยมท่ีเหมาะสม เป็นการสร้างพื้นฐานการคิดและเป็นกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาและวิกฤตของชาติ โดยให้ ผ้เู รียนมีความเจริญงอกงามด้านความรู้ ความคิดรวบยอด และหลกั การทส่ี าคัญ ๆ ในสาขาวิชาตา่ ง ๆ ผเู้ รียนควรจะ ได้พัฒนากระบวนการและทักษะการคิด เช่น การสรุปความคิด การแปลความ การวิเคราะห์หลักการและ การ นาไปใช้ ตลอดจนคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะแก้ปัญหาตามกระบวนการทางสังคมศาสตร์ ทักษะการ

๓ เรียนรู้ ปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ สร้างสรรค์ผลงาน ช่วยลดข้อขัดแย้งและแก้ปัญหา ของกล่มุ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ดา้ นเจตคติ และค่านยิ มเกย่ี วกับประชาธปิ ไตย และความเป็นมนษุ ย์ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โดยเฉพาะสาระท่ี 2 หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม เป็นสาระการเรียนรู้ที่ผู้เรียนไม่ ค่อยสนใจ และอีกประการคือการอ่านยังไม่ดี จึงทาให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนไม่อยู่ในระดับที่พอใจและสาเหตุอีก ประการ คอื จากตวั ครูผสู้ อน ยังใช้วิธีการสอนยังไม่หลากหลาย ใช้วิธีสอนแบบบรรยายทาให้ผูเ้ รียนไม่ให้ความ สนใจเห็นว่าเป็นการเรียนการสอนที่น่าเบื่อหน่าย ดังนั้น ครูผู้สอนควรมีวิธีสอนที่จะโน้มน้าวความ กระตือรือร้น ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน โดยการใช้สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น หนังสือ อ่านเพิ่มเติม ชุดการเรียนใหแ้ ก่ผู้เรียน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนและเอกสาร ประกอบการเรียน เป็นตน้ จากความเป็นมาของการจัดการเรียนการสอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทาให้ครูผู้สอนควรตระหนักในการพัฒนาสอื่ เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง)สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ได้ทาการประเมินผล สัมฤทธ์ิทางการเรียน ปีการศึกษา 2561 และ 2562 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีคะแนนเฉลี่ยไม่บรรลุเป้าหมายของโรงเรียนที่ได้ตั้งไว้ที่ร้อยละ 75 ในการท่ีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในเกณฑ์ท่ีไม่น่าพอใจ ท้ังน้ีจากประสบการณ์ท่ีผู้ศึกษาได้ทาการสอนรายวิชานี้มานาน พิจารณาแล้วพบว่า ปัญหาเน่ืองมาจากการท่ีครูผู้สอนขาดการปรับปรุงวิธีการสอน สอนแบบบรรยาย มุ่งเน้นให้ นักเรียนจดจา เนื้อหามากกว่าการฝึกให้นักเรียนแก้ปัญหา ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น นักเรียนจึงไม่สนใจเรียน ดังน้ัน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูผู้สอน คือผู้มีบทบาทสาคัญอย่างย่ิงในการปลูกฝังให้ นกั เรยี นมีความใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น อยา่ งตอ่ เน่ืองและรกั การอา่ น สนบั สนนุ การใหก้ ารศกึ ษาแก่นักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่ เข้าใจชัดเจนในเร่ืองเกี่ยวกับ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และการมีส่วนร่วม ในฐานะ พลเมอื งดขี องประเทศ และสง่ เสรมิ เรอ่ื งการพัฒนาการอ่านใหก้ ับนกั เรียน จงึ สง่ ผลให้การพัฒนาเป็นไปอย่าง ล่าช้า ผู้ศึกษาจึงได้จัดทาหนังสืออ่านเพ่ิมเติม คือ ทาให้นักเรียน อ่านเน้ือหา และรู้ใจความได้มากขึ้น มีความรู้ ความเข้าใจในเน้ือหาเพิ่มขึ้นจากการศึกษาในหนังสือเรียน เป็นสื่อที่เร้าใจด้วยภาพประกอบสีสันสวยงาม ตัวอักษรมีขนาดพอเหมาะกับวัยและระดับชั้นเรียนของนักเรียน และได้มีนักวิจัยหรือนักการศึกษาหลาย ท่านได้ทาการวิจัยเก่ียวกับ การใช้หนังสืออ่านเพ่ิมเติมเพ่ือใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยการใช้ เป็นส่ือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประสบ ความสาเร็จ ผู้ศึกษาจึงเสาะแสวงหาแนวคิด วิธีการสร้างหนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด พลเมืองไทย เพ่ือเป็นส่ือการ เรียนรู้ในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สาระที่ 2 หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง พลเมืองไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คาสวัสดิ์ราษฎร์บารุง) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระที่ 2 หน้าที่ พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ได้รับการพัฒนาสูงขึ้นจนบรรลุเป้าหมาย และบูรณาการ ควบคู่ภาษาไทย เพื่อการอ่านเป็นรากฐานของทุกวิชา ของโรงเรียนท่ีได้ตั้งไว้ในระดับคุณภาพดี ส่งผลให้ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยรวมของกลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม บรรลุเป้าหมาย ต่อไป

๔ วัตถปุ ระสงค์ของการวิจยั 1. เพ่อื ศกึ ษาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรื่อง พลเมืองไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มากกวา่ คา่ เปา้ หมายท่ีสถานศึกษากาหนด คอื ร้อยละ 75 ข้ึนไป 2. เพอ่ื วดั คุณภาพผเู้ รียนในการทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียนเพ่อื ให้ผลสัมฤทธ์หิ ลังเรยี นสงู ขน้ึ กว่ากอ่ นเรียน 3. เพอื่ พัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้ไปสผู่ ลสมั ฤทธท์ิ ่มี ากขน้ึ ในการสอบอา่ นออกเขยี นไดใ้ น ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ขอบเขตของการศกึ ษา 1. ขอบเขตดา้ นประชากร ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษาครง้ั นี้ ไดแ้ ก่ นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คา สวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารุง)สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 ปีการศึกษา 2563 จานวน 54 คน 2. ขอบเขตด้านเนอื้ หา เน้ือหาที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ เน้ือหาวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ปีการศึกษา 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ซงึ่ เปน็ ไป ตามหลกั สตู รการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ 2560) กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี เน้ือหารายละเอียดเก่ียวกับเร่ือง พลเมืองไทย นามาจัดทาเป็นหนังสืออ่านเพ่ิมเติม เรื่อง พลเมืองไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 ประกอบดว้ ยหนงั สืออา่ นเพมิ่ เติม ขอบเขตด้านเวลา ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศกึ ษา ดาเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 จานวน 7 ชั่วโมง ตัวแปรอสิ ระ ไดแ้ ก่ การจดั การเรยี นการสอนใชห้ นังสอื อา่ นเพม่ิ เติม เรอื่ ง พลเมืองไทย ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เรือ่ ง พลเมอื งไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ ในการศึกษาครง้ั น้ีมีนิยามศพั ท์เฉพาะดังน้ี บรู ณาการ หมายถึง การประสานกลมกลนื กันของแผนการสอน กระบวนการ สารสนเทศ ใบงาน ชุดแบบฝึกงาน การปฏิบัติการ ผลลัพธ์ และการวิเคราะห์ เพ่ือสนับสนุนเป้าประสงค์ที่สาคัญของ กระบวนการทางวิชาชพี (PLC) ให้สอดคล้องไปในแนวทางเดยี วกนั

๕ อ่านออกเขียนได้ หมายถึง ทาให้ก้าวหน้าในเร่ือง “อ่านออก” ความสามารถในการอ่านออก และเขยี นได้โดยอย่างนอ้ ยจะตอ้ งอา่ นและเขียนข้อความงา่ ยๆ ได้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 หมายถึง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 จานวน 54 คน โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง)สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน หนังสืออ่านเพ่ิมเติม หมายถึง สื่อที่ผู้ศึกษาจัดทาขึ้น เพื่อใช้ประกอบการเรียนของนักเรียนและ ประกอบการสอนของครู โดยมีเนื้อหาหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง พลเมืองไทย กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระท่ี 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) ซึ่งหนังสือเพิ่มเติม มีจานวน 7 เร่ือง ประกอบด้วย เร่อื งที่ 1 ครอบครัวเปยี่ มสุข เรื่องท่ี 2 รอบรวั้ โรงเรียน เร่ืองที่ 3 ความดีความสามารถ เรอื่ งที่ 4 โครงสรา้ งครอบครวั เร่อื งท่ี 5 โรงเรียนของหนู เร่ืองที่ 6 บทบาทหน้าที่ เร่ืองที่ 7 ประชาธปิ ไตย ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รบั ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจากการใช้หนังสืออา่ นเพิ่มเติม ชุด พลเมืองไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีดังนี้ ประโยชนต์ ่อนกั เรียน 1. นกั เรยี นได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าท่ีของการปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองของชาติไทยได้ ถกู ต้องและปฏบิ ตั ไิ ด้ตามวยั และในระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ตามค่าเปา้ หมายของสถานศึกษากาหนดสงู ข้ึน 3. เพอ่ื พฒั นาการอา่ นออกเขยี นไดใ้ ห้กับนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ประโยชน์ต่อครูผู้สอน 1. ทาให้ครูมีส่ือการเรียนรู้ประกอบการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพของกลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ให้ครูผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่สอนแทนสามารถ ปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นการสอนได้ถูกตอ้ ง 2. เป็นแบบอย่างท่ีดีสาหรับผู้สนใจท่ีจะดาเนินการจัดทาส่ือการเรียนรู้ประเภทหนังสืออ่าน เพิ่มเติมอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 เพ่ือพัฒนา และ ส่งเสริมการอ่านในระดับประถมศึกษา

๖ บทท่ี 2 เอกสารและผลงานวจิ ัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง การวิจัยครั้งน้ีผวู้ ิจยั ไดศ้ ึกษาบูรณาการอา่ นออกเขียนได้ในรายวชิ าสังคมศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 โดยหนงั สืออ่านเพิ่มเตมิ จงึ ได้ศึกษาค้นควา้ เอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวข้อง เพือ่ ให้การวจิ ัยเปน็ ไปตาม วตั ถุประสงคจ์ งึ กาหนดแนวทางการศึกษา ดงั นี้ เอกสารประกอบการวจิ ัย หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารุง) เปิดสอนต้ังแต่ระดับอนุบาลปีท่ี 1 ถึงระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 6 มีเน้ือที่ 6 ไร่ (เป็นที่ธรณีสงฆ์) มีเขตพ้ืนที่บริการ 1 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ท่ี 20 ตาบล คลองหน่ึง อาเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สถานที่ตั้ง 47/2 หมู่ที่ 20 ตาบลคลองหนึ่ง อาเภอคลอง หลวง จังหวัดปทุมธานี 13180 โทรศัพท์/โทรสาร 02-5294100 สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 1 สงั กัดสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ต้ังขึ้นเมื่อ วันท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 โดยคณะกรรมการอาเภอคลองหลวง มอบให้ นายเหรียญ เจริญศรี ปลดั อาเภอเปน็ ประธานเปดิ โรงเรยี นเปน็ ปฐมฤกษ์ โดยมี นายเช่อื ม ครี ี เป็นครใู หญ่ มี นายเร่ิม เป็นครูน้อย โดยมีพระอธิการเทียม อุปนน·โท เจ้าอาวาสวัดพืชนิมิตและร้อยตารวจตรีพิณ วีณะ คปุ ต์ เป็นผ้อู ปุ การะพร้อมคณะกรรมการวัดและประชาชนจัดหาอุปกรณ์การสอนโดยอาศยั ศาลาการเปรียญ วัดพืชนิมิตรเป็นที่เรยี นโรงเรียนจัดอยู่ในประเภทนายอาเภอจัดตั้งโดยได้รับเงินอุดหนุนจากทางราชการโดย ตลอดไป ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2514 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนหน่ึงหลังถาวร แบบ ป.1 ข ใต้ ถุนสูง จานวน 4 ห้องเรียน เป็นเงิน จานวน 132,000 บาท ส่วนเงินสมทบซื้ออุปกรณ์การเรียนและอื่น ๆ จากท่านเจ้าคุณมหาขวัญ ทัดทอง คณะ 6 วัดอรุณราชวรา-ราม บางกอกน้อย กรุงเทพ พร้อมประชาชน เป็นเงนิ 22,924 บาท เร่มิ ใชเ้ ม่อื 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 เป็นตน้ มา โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) อยตู่ ดิ กบั นิคมนวนคร ท่ตี ัง้ 47/2 หมู่ 20 ตาบลคลองหน่ึง อาเภอ คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สังกัด สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พื้นฐาน โทร 02-5294100 email:[email protected] เปิดสอนระดับชั้น อนุบาล 1 ถึง ระดับชั้น ประถมศึกษาปที ี่ 6 เขตพนื้ ทบี่ รกิ าร สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 1 วิสัยทศั น์ จดั การศึกษาอย่างมีคุณภาพ สรา้ งผูเ้ รียนให้มีทักษะในศตวรรษท่ี 21 รูร้ ักษาความเปน็ ไทย เปน็ พลเมืองทีเ่ ข็มแข็ง สมู่ าตรฐานสากล กลยุทธ์ กลยทุ ธ์ที่ 1 พฒั นาผูเ้ รยี นอย่างเตม็ ตามศักยภาพ กลยทุ ธท์ ่ี 2 พฒั นาครแู ละบุคลากรอย่างเต็มศักยภาพ กลยุทธท์ ี่ 3 การเสรมิ สรา้ งการบริหารจดั การ การศกึ ษา

๗ พนั ธกิจ 1. จดั การ การศึกษา ตามมาตรฐานและหลักสตู รการศกึ ษาทุกระดับชั้น อย่างมีคุณภาพ 2. พัฒนาผู้เรียน ครู และบุคลากร เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถในการดาเนินชีวิตในยุค ศตวรรษที่ 21 3. ส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 4. ส่งเสริมสนับสนนุ ให้ผู้เรยี นนาศาสตรพ์ ระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ ในการดาเนนิ ชวี ิต 5. ปลูกฝงั ให้ผู้เรยี นมที ักษะในการดารงชีวติ ให้เป็นพลเมอื งทเ่ี ข้มแข็ง สามารถอยู่รว่ มกบั ผู้อน่ื ในสงั คมได้อย่างมีความสุข เปา้ ประสงค์ 1. ผ้เู รยี นเปน็ ผมู้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา และหลักสูตรการศึกษา 2. ผู้เรียนระดับปฐมวัย มีความพร้อมดา้ นร่างกาย อารมณ์ สงั คม สตปิ ัญญา และ ผู้เรียนระดบั ประถมศึกษา มีความสามารถเต็มตามศักยภาพ สกู่ ารดารงชีวิตในยุคศตวรรษที่ 21 3. ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา สามารถจัดการเรยี นการสอนอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4. ผเู้ รียนเป็นคนดีมคี วามสขุ มีคณุ ธรรมจริยธรรม บนพ้นื ฐานความเปน็ ไทย 5. ผู้เรียนนาศาสตร์พระราชา หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ นการดาเนิน ชีวติ 6. ครูนาศาสตร์พระราชา มาสอดแทรกในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นกั เรยี น นาไปปรับใชใ้ นการดาเนินชวี ติ 7. ผู้เรยี นมที กั ษะในการดารงชวี ติ เป็นพลเมืองทีเ่ ข้มแข็ง และอยรู่ ่วมกับผูอ้ ่ืนในสงั คมได้ อย่างมีความสุข 8. การบรหิ ารจดั การศกึ ษาแบบมีสว่ นร่วม มหี ลักธรรมาภบิ าล จดุ เนน้ ของสถานศึกษา 1. นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตอาสา ยึดม่ันการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย และดาเนินชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ผู้เรียน มผี ลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กจิ กรรม พัฒนาผเู้ รยี น ผา่ นตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด 3. พฒั นาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาให้มคี วามร้คู วามสามารถ มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการปฏิบัตหิ น้าท่อี ยา่ งต่อเน่อื ง 4. ครู และนกั เรยี นใช้สอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ และนาภมู ปิ ัญญา ทอ้ งถน่ิ มา ใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนอยา่ งมคี ณุ ภาพ 5. นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษด้านตา่ ง ๆ ได้รับการส่งเสรมิ ตามความถนัด

๘ ผลงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วข้อง นาอีมะ มดู อ ( บทคดั ย่อ : 2557 )ได้ศกึ ษาเรื่องการพัฒนาทักษะการอา่ นสาหรบั นักเรียนชั้น ประถมศึกษาท่ี 2 โดยใชช้ ดุ ฝกึ ซ่อมเสรมิ การสะกดคา ภาษามลายกู ลาง ผลการวิจัยสรปุ ไดด้ ังน้ี ผลการค้นควา้ อิสระพบว่า 1. ประสทิ ธิภาพของชดุ ฝึกซ่อมเสรมิ การสะกดคา ภาษามลายูกลาง สาหรับนกั เรยี น ปีอบิ ตดี า อี ยะฮปีท่ี 2 มีประสทิ ธภิ าพ 78.25/ 84.83 2. ทักษะการอา่ นคา ภาษามลายกูลางของนักเรยี นชั้น ปีอิบตีดา อยี ะฮปีท่ี 2โดยใชช้ ุดฝึก ซอ่ ม เสรมิ การสะกดคา ภาษามลายกลู างหลงั เรยี นสูงกวา่ ก่อนเรียนอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติท่รี ะดบั 0.01 3. ระดับความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีมีต่อชดุ ฝึกซ่อมเสริมการสะกดคา ภาษามลายู กลางสาหรับ นกั เรียนปีอิบตีดา อยี ะฮปีที่ 2 ที่อยู่ในระดบั มาก( X = 4.41.0.65) นงเยาว์ทอง กาเนิด ( บทคดั ย่อ : 2558 )ได้ศึกษาเร่อื งการพัฒนาแบบฝกึ ทักษะการอา่ นจับใจ ความภาษาไทยสาหรบั นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 อาเภอเขาชะเมา จังหวดั ระยอง ผลการวิจยั สรปุ ได้ ดงั น้ี ผลการวจิ ยั พบวา่ 1. แบบฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความภาษาไทย สาหรบั นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 อาเภอเขา ชะเมา จงั หวัดระยอง ประกอบด้วยแบบฝกึ ย่อย 5 แบบฝึกและมปี ระสิทธภิ าพ 82.42/ 83.19 ซึ่งสงู กว่า เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ท่กี าหนดไว้ 2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรยี นโดยใชแ้ บบฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความภาษาไทย สาหรบั นักเรยี นประถมศึกษาปีที่ 3 อาเภอเขาชะเมา จังหวดั ระยอง มีระดับคะแนนสูงกว่า ก่อนการได้รับการเรยี น อย่างมีนยั สาคัญ ทางสถติ ทิ ่ีระดับ .05 นางสาววะยรุ า กลุ ทอง ( บทคัดย่อ : 2561 ) ไดศ้ ึกษาเรอ่ื งการส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคา ของนักเรียน ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ผลการวจิ ยั สรุปได้ดังน้ี ผลการศึกษาครง้ั น้ี ปรากฏว่าการใช้แบบฝกึ อ่าน และแบบสะกดคาของนักเรียน ชน้ั ประถมศึกษาปี ท่ี 1 นักเรยี นสามารถอ่าน และทาแบบสะกดคาไดค้ ่อนข้างดี คดิ คา่ เฉล่ยี ไวเ้ ป็นรอ้ ยละ 70.90 นางสาวจารุวรรณ จนั ทร์เกดิ ( บทคดั ย่อ : 2562 ) ไดศ้ กึ ษาเร่ืองการสง่ เสริมทกั ษะการอ่าน สะกดคาของนักเรียน ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ผลการวจิ ัยสรปุ ได้ดงั นี้ ผลการศกึ ษาครงั้ นี้ ปรากฏวา่ การใชแ้ บบฝึกอา่ น และแบบสะกดคาของนกั เรียน ชน้ั ประถมศึกษาปี ท่ี 1 นกั เรียนสามารถอ่าน และทาแบบสะกดคาไดค้ ่อนข้างสงู คดิ ค่าเฉล่ยี ไวเ้ ปน็ รอ้ ยละ 62.27

๙ กรอบแนวคิดของการศกึ ษา ผศู้ กึ ษาไดว้ างกรอบแนวคดิ ในการเรยี นการสอนสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เรือ่ ง พลเมืองไทย โดยหนงั สืออ่านเพม่ิ เติม 7 เรื่อง ดงั น้ี การเรียนการสอนโดยใช้ หนังสือ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เรื่อง พลเมอื งไทย อา่ นเพ่ิมเตมิ ชุดพลเมืองไทย กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและ วฒั นธรรม สงู กวา่ ค่าเปา้ หมายขอสถานศกึ ษา กาหนด แผนภาพท่ี 1 แสดงกรอบแนวคิดของการศึกษา ตวั แปรทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา ตวั แปรอสิ ระ ไดแ้ ก่ การจดั การเรียนการสอนใช้หนงั สืออา่ นเพ่ิมเติม ตวั แปรตาม ได้แก่ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เรื่อง พลเมืองไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๑๐ บทท่ี 3 วธิ ีดาเนนิ การวจิ ัย การวิจยั เร่ือง บรู ณาการอ่านออกเขยี นได้ในรายวชิ าสงั คมศึกษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 โดยหนังสอื อา่ นเพ่ิมเติม ผู้วจิ ัยได้ดาเนนิ การโดยใช้หนังสืออ่านเพ่ิมเติมและแบบประเมนิ การอ่าน เป็นเครื่องมือในการ เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากประชากร เพ่ือนาไปวิเคราะหข์ ้อมลู จึงไดก้ าหนดเปน็ ขน้ั ตอนดงั นี้ วธิ ดี าเนนิ การวิจัย 1. ประชากร ประชากรเป็นนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต(คาสวสั ด์ิราษฎรบ์ ารุง) สงั กัดสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน 2. เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในการวิจยั 2.1 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น 2.2 หนงั สืออ่านเพ่มิ เตมิ ชดุ พลเมอื งไทย สาหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 2.3 แผนการจัดการเรียนรบู้ รู ณาการ หน่วยที่ 4 พลเมืองไทย 3. ขน้ั ตอนการสรา้ งเคร่อื งมือ 3.1 ศกึ ษาเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดทฤษฏกี ารเรยี นการสอน 3.2 ศึกษาปัญหาของนักเรียน จากการประชุมกลุ่ม PLC วิเคราะห์ข้อมูลที่พบในการ จดั การเรียนการสอน 3.3 ศึกษาเทคนคิ การจัดทาหนงั สืออ่านเพ่ิมเตมิ เพอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั เน้อื หาและผ้เู รยี น 3.4 สรา้ งแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน 3.5 ประเมนิ ผลนักเรียนโดยใช้แบบทดสอบกอ่ นใชห้ นงั สืออ่านเพมิ่ เติม 3.6 ดาเนนิ การจดั กิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นรู้ 3.5 ประเมินผลนกั เรยี นโดยใชแ้ บบทดสอบ หลังใช้ หนังสืออา่ นเพิม่ เติม

๑๑ บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวจิ ยั เรอ่ื ง บรู ณาการอ่านออกเขยี นไดใ้ นรายวิชาสังคมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 โดยหนังสือ อา่ นเพ่ิมเตมิ ผ้วู จิ ัยได้ดาเนินการวิเคราะห์ขอ้ มลู และนาเสนอ ผลการวเิ คราะห์ตามลาดับ ดังนี้ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน ก่อนและหลังใช้ “หนังสืออ่านเพ่ิมเติม ชุด พลเมืองไทย 7 เร่ือง” และสังเกตพฤติกรรม ของผู้เรยี นระหวา่ งจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้จากแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน นามาวเิ คราะห์หาคา่ เฉล่ยี (  ) และ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบคะแนนความกา้ วหน้าของนกั เรยี นแตล่ ะคน ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มที่ศึกษา คือ เป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ทั้งหมดรวม ๕5 คน มีการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์กิ ่อนเรยี น แลว้ จึงดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใชห้ นังสือ อ่านเพ่ิมเติม ชุด พลเมืองไทย 7 เรื่อง หลังจากนั้นจึงทาการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน แล้วจึงนาผล มาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนที่รวบรวมได้จากเคร่ืองมือที่ผู้วจิ ัยสร้างขึ้นมาจาแนกผลการ เรียนรู้ ดงั น้ี ตารางท่ี ๑ แสดงคา่ เฉล่ยี และค่าเบยี่ งเบนมาตรฐานของนกั เรียนในการใช้หนังสืออา่ นเพ่ิมเติม ชุด พลเมืองไทย การฝกึ จานวน ผลรวม คา่ เฉล่ยี นักเรยี น X X ร้อยละ ค่า S.D กอ่ นเรียน 54 คน 166 3.07 21.48 2.20 หลังเรียน ๕4 คน 400 7.40 74.07 2.71 จากตาราง สรปุ ได้ว่าการใชห้ นังสอื อา่ นเพ่ิมเตมิ ชุด พลเมืองไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม กอ่ นเรียนมคี ่าเฉลย่ี เท่ากบั 3.07 หลงั เรยี นมีคา่ เฉลีย่ เท่ากับ 7.40 จะเหน็ ได้ว่า คะแนนของค่าเฉล่ียหลังเรียนมีค่ามากกวา่ คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรยี น มีค่าเท่ากับ 2.20 ส่วนค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 2.71 แสดงว่าข้อมูลมีค่าคะแนน ใกลเ้ คยี งกนั

๑๒ บทที่ 5 สรุปผลการวจิ ัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรปุ ผลการวจิ ัย การวิจัยคร้ังนีม้ วี ตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เร่อื ง พลเมืองไทย โดยใชห้ นงั สอื อ่านเพ่ิมเติมชุด พลเมืองไทย สาหรับนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโรงเรียนวัดพืชนิมิต(คาสวสั ด์ิ ราษฎรบ์ ารุง) พบวา่ นักเรยี นมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น เรอ่ื ง พลเมืองไทย หนังสอื อา่ นเพม่ิ เติมดีขึ้น อภปิ รายผล ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งน้ีปรากฏว่า ผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้หนังสืออ่าน เพมิ่ เตมิ ชุดพลเมอื งไทย มีคุณภาพและประสทิ ธภิ าพอยา่ งดีย่งิ ด้วยเหตผุ ลดงั ต่อไปนี้ 1. หนงั สอื อ่านเพิม่ เติม ชดุ พลเมอื งไทย 7 เรื่อง เป็นหนงั สอื อ่านเพ่มิ เตมิ ที่มีคุณภาพและ ประสิทธภิ าพตามผลของการวเิ คราะหข์ ้อมลู ดงั กล่าว 2. หนังสอื อ่านเพิม่ เติม ชดุ พลเมืองไทย 7 เรื่องน้ี สรา้ งขน้ึ อยา่ งถกู วิธี ไดผ้ า่ นข้ันตอน การสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่เอกสารหลักสูตรและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนา ข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านเน้ือหาการจัดกิจกรรมการ เรยี นรู้ ความเหมาะสมของเนื้อหา 3. การสอนโดยใช้หนงั สืออ่านเพ่มิ เตมิ ชุดพลเมืองไทย 7 เร่ือง ส่งผลใหผ้ ้เู รียนเกิดการเรียนรไู้ ด้ อย่างเหมาะสมกบั เน้อื หา 4. การจดั การเรียนรเู้ ร่ือง พลเมืองไทย โดยใช้หนังสอื อ่านเพิ่มเติม 7 เร่ือง บทบาทหนา้ ที่เดก็ ดี ไทย ได้เรียงลาดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทาให้เรียนรู้สึกว่าตนเองประสบ ความสาเร็จในการเรยี นรู้ จึงสรุปได้ว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุดพลเมืองไทย 7 เรื่อง มีประสิทธิภาพอยา่ ง ยง่ิ สามารถนาไปใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ สง่ ผลให้ผเู้ รียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขึ้น 5. หนังสืออา่ นเพิม่ เติม ชดุ พลเมืองไทย 7 เรอ่ื ง เปน็ หนงั สืออ่านเพ่มิ เติม ช่วยในการพฒั นาการ อ่านให้กบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ได้ ขอ้ เสนอแนะ จากผลการศึกษาค้นควา้ ครงั้ นม้ี ขี ้อเสนอแนะเพอ่ื ประโยชนต์ ่อวงการศกึ ษาดงั นี้ 1. ก่อนนาหนังสืออ่านเพิ่มเติมไปใช้ประกอบการสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียดของทุก กิจกรรมก่อนนาไปใช้ 2. หนังสอื อ่านเพิม่ เตมิ ชดุ พลเมืองไทย 7 เร่อื ง น้ี จะเกดิ ความสมบูรณค์ รผู ูส้ อนต้องใชค้ วบคู่ไป กับแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยจัดทาขึ้น จัดกิจกรรมให้ครบทุกข้ันตอน ต้องตรวจแบบฝึกอย่างเป็น ปัจจุบันใหผ้ ูเ้ รยี นรผู้ ลทนั ที พรอ้ มกับเฉลยคาตอบท่ีถกู ต้องใหผ้ ู้เรยี นได้รู้ทุกคร้งั

๑๓ บรรณานุกรม หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารงุ ) ( 2563 ) หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) นาอมี ะ มูดอ ( บทคดั ย่อ : 2557 ) การพัฒนาทกั ษะการอา่ นสาหรบั นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาท่ี 2 โดยใช้ชดุ ฝึกซอ่ มเสรมิ การสะกดคา ภาษามลายกู ลาง นงเยาวท์ อง กาเนดิ ( บทคัดยอ่ : 2558 ) การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความภาษาไทย สาหรับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ 3 อาเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง นางสาววะยุรา กุลทอง ( บทคัดย่อ : 2561 ) การส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคาของนักเรียน ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ นางสาวจารุวรรณ จันทร์เกิด ( บทคัดย่อ : 2562 ) การส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคาของ นักเรียน ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑

๑๔ ภาคผนวก

๑๕ แบบบันทกึ คะแนนทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นก่อนเรยี น – หลงั เรียน เร่ือง พลเมอื งไทย นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ คะแนนกอ่ นเรยี น คะแนนหลงั เรียน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1/1 5 9 0 3 1 ด.ญ. ยศวดี ชานาญ 1 4 4 6 2 ด.ช. ณฐั วีร์ นวิ าตพนั ธ์ 6 10 2 10 3 ด.ช. รฐั ภูมิ สุขสงวน 1 6 1 8 4 ด.ญ. พัณณติ า สารศิ รี 0 3 3 9 5 ด.ญ. ชนติ รา บญุ เดช 1 5 2 7 6 ด.ช. เจตนพิ ัทธ์ แกว้ โผงเผง 0 2 0 4 7 ด.ญ. ภทั รวรินทร์ พรมสอน 0 2 0 4 8 ด.ช. วุฒิกร ธรรมมณีการณ์ 6 9 6 10 9 ด.ญ. ปฑติ ตา แสงเรือง 4 8 5 9 10 ด.ญ. ปณั ณพร ปาริชาตบิ ริบรู ณ์ 5 9 4 8 11 ด.ช. ชชั วาล มากสกลุ กจิ 0 3 4 9 12 ด.ช. พชร เปล่อื งชัย 6 10 5 10 13 ด.ช. นาราวินท์ ร่นื เรนู 0 2 5 9 14 ด.ช. อทวิ ราห์ สนิทรักษา 6 10 15 ด.ช. จิรายุทธ หาญทนงค์ 5 9 16 ด.ช. นพดล พรมสงิ ห์ 17 ด.ช. กนั ตวฒั น์ พูลทอง 18 ด.ช. สุธาวี ไกรษร 19 ด.ญ. กนั ตา เกลียวทองสกลุ 20 ด.ญ. ปาณิสรา ปาริน 21 ด.ช. จริ ายุ แยม้ ขยัน 22 ด.ญ. พชั รี ตน้ ศรี 23 ด.ช. ภรี ภัทร โชตชิ ว่ ง 24 ด.ช. จิรายุ คาเหลอื 25 ด.ช. อนุชา ยังสีชาติ 26 ด.ญ. รญั ธดิ า นุชเสถยี ร 27 ด.ช. กิตตพิ ศภคิน เทียนสะอาด 28 ด.ช. ภูตะวนั จิตรกลาง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1/2 1 ด.ช. นิปุณ บดิ าทมุ 2 ด.ญ. ปวริศา เหมแดง

3 ด.ช. ธีรธร เขยี วเด็ด 7 ๑๖ 4 ด.ช. ภวู ณัฎฐ์ ยมิ้ ศรี 4 5 ด.ช. กายสทิ ธิ์ ระไหวนอก 4 10 6 ด.ญ. พิชฌญา พง่ึ นา 4 9 7 ด.ญ. จริ าภา พรหมเอาะ 5 9 8 ด.ช. นวภสั ทมิ หา 7 9 9 ด.ญ. ศริ ประภา ภูมพิ นา 3 9 10 ด.ช. พชิ ติ ชยั อยสู่ ุข 2 10 11 ด.ญ. อินทิรา ชา่ งปรชี า 2 10 12 ด.ช. ศริ ากรณ์ เสนเผอื ก 2 7 13 ด.ญ. วรรณศิ า 3 9 14 ด.ญ. พชิ ชาพร เงินสรอ้ ยทรายขาว 5 7 15 ด.ญ. ญดาพร พัดเพ็ชร 5 8 16 ด.ช. ธีรภทั ร คากิง่ 1 10 17 ด.ญ. จิดาภา 1 10 18 ด.ช. คณุ ภัทร บญุ ดเี ลก็ 0 6 19 ด.ช. กฤษณพล ป้องคาสงิ ห์ 0 7 20 ด.ช. ณฐั วัชร ชนื่ ชู 0 3 21 ด.ญ. ณัฏฐณชิ า ฉมิ พลี 6 3 22 ด.ญ. อนสุ รา แสงสด 4 2 23 ด.ญ. มณรี ตั นา สุภาผล 2 10 24 ด.ญ. นันทนัท จอมฟู 4 8 25 ด.ญ. พรพรรณ ลาใยผล 5 9 26 ด.ญ. ธัญภัสร์ 3 9 บัวศรีภูมิ 10 สงกระสนิ ธ์ุ 9 มถี าวร

๑๗


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook