หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรภูมิปัญญาการทำน้ำตาลมะพร้าวสมุทรสงคราม ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้ นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง 2555 กศน.อำเภออัมพวา สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
1
ก คำนำ จังหวดั สมุทรสงครามเป็ นจงั หวดั ที่มีการปลูกมะพร้าว ซ่ึงถือว่าเป็ นพืชเศรษฐกิจของ จงั หวดั ชาวสวนส่วนใหญ่ จึงมีอาชีพที่เก่ียวขอ้ งกบั มะพร้าว อาทิเช่น การขายผลมะพร้าว การทา น้าตาลมะพร้าว การแปรรูปมะพร้าว เป็นตน้ สาหรับอาชีพที่จะแนะนาให้รู้จกั ต่อไปน้ี คือ อาชีพ การทาน้าตาลมะพร้าว ซ่ึงเป็ นอาชีพท่ีใช้องค์ความรู้หลากหลายของชาวสมุทรสงคราม ท่ีมีการ ประกอบอาชีพท้งั อาเภอเมืองสมุทรสงคราม อาเภออมั พวา และอาเภอบางคนที หรือที่เรียกกัน โดยทวั่ ไปวา่ น้าตาลมะพร้าวเมืองแม่กลองนนั่ เอง ดงั น้นั การจดั ทารายวิชาเลือก ภูมิปัญญาการทาน้าตาลมะพร้าวสมุทรสงคราม เป็ น ภูมิ ปัญญาท่ีผเู้ รียนควรท่ีจะเรียนรู้ถึงวถิ ีชีวติ ของคนด้งั เดิม เพือ่ ใหต้ ระหนกั ในคุณค่าและวถิ ีชีวติ ของภูมิ ปัญญา และเขา้ กบั สภาพบริบทของพ้ืนที่ เหมาะแก่การเป็ นวิชาเลือกของผูเ้ รียน โดยผูจ้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ ว่า เอกสารเล่มน้ีจะเป็นประโยชนต์ ่อผูเ้ รียน และบคุ คลทว่ั ไปที่สนใจศึกษา หากเอกสาร เล่มน้ีมีขอ้ ผิดพลาดประการใดตอ้ งขออภยั ไว้ ณ โอกาสน้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา
สำรบัญ ข เนื้อหำ หน้ำ คำนำ 1 คำแนะนำกำรใช้หนงั สือ 2 โครงสร้างรายวิชา ภูมิปัญญาการทาน้าตาลมะพร้าวสมทุ รสงคราม 4 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องของมะพร้าว บทที่ 1 เรื่องของมะพร้าว 10 11 เรื่องท่ี 1 ช่องทางการเขา้ สู่อาชีพการทาน้าตาลมะพร้าว 13 1. ความสาคญั ของการประกอบอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าว 14 2. ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ 21 3. แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาเกี่ยวกบั การทาน้าตาลมะพร้าว 22 4. ทิศทางการประกอบอาชีพการทาตาลมะพร้าว 27 กิจกรรม ที่ 1 28 เร่ืองที่ 2 ความเป็นมาของมะพร้าว1 กิจกรรมท่ี 2 30 เรื่องที่ 3 พนั ธุ์มะพร้าว 32 กิจกรรมที่ 3 33 เร่ืองท่ี 4 การปลูกมะพร้าวในจงั หวดั สมุทรสงคราม 35 กิจกรรมท่ี 4 36 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ืองของมะพร้าว 49 50 แบบทดสอบก่อนเรียน การทาน้าตาลมะพร้าวของสมุทรสงคราม 62 บทท่ี 2 การทาน้าตาลมะพร้าวของสมุทรสงคราม เร่ืองที่ 5 ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว กิจกรรมที่ 5 เร่ืองที่ 6 เคร่ืองมือและวตั ถดุ ิบในการทาน้าตาลมะพร้าว กิจกรรมท่ี 6 เร่ืองที่ 7 การทาน้าตาลมะพร้าว กิจกรรมที่ 7 การทาน้าตาลมะพร้าว
ค สำรบญั (ต่อ) เนื้อหำ หน้ำ แบบทดสอบหลงั เรียน การทาน้าตาลมะพร้าวของสมุทรสงคราม 63 แบบทดสอบก่อนเรียน ประโยชนข์ องน้าตาลมะพร้าวและบรรจุภณั ฑ์ 65 บทท่ี 3 ประโยชน์ของน้าตาลมะพร้าวและบรรจุภณั ฑ์ 67 เรื่องที่ 8 มะพร้ำว นำ้ ตำลมะพร้ำวสู่กำรเรียนรู้อำหำรคำวหวำนของคนไทย 68 กิจกรรมที่ 8 83 เรื่องที่ 9 กำรบรรจุภณั ฑ์ 84 กิจกรรมท่ี 9 87 แบบทดสอบหลงั เรียน ประโยชน์ของน้าตาลมะพร้าวและบรรจุภณั ฑ์ 88 บรรณำนุกรม 90 ภำคผนวก 92
1 คำแนะนำกำรใช้หนังสือเรียน ในการศึกษาเร่ือง “ภูมิปัญญำกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำว” ซ่ึงมี 3 บท บทที่ 1 เรื่องของมะพร้าว บทที่ 2 การทาน้าตาลมะพร้าวของสมุทรสงคราม และบทท่ี 3 ประโยชน์ของน้าตาลมะพร้าวและ บรรจุภณั ฑ์ มีแนวทางในการศึกษา ดงั น้ี 1.ศึกษาจุดประสงคแ์ ละทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2.ศึกษาเน้ือหาในแต่ละเร่ือง 3.ทาแบบทดสอบหลงั เรียน จุดประสงค์ 1.เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนรู้เร่ืองของมะพร้าว 2.เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจในเร่ืองการทาน้าตาลมะพร้าวของสมทุ รสงคราม 3.สามารถนาความรู้ในเรื่องประโยชนข์ องน้าตาลมะพร้าวและบรรจุภณั ฑ์
2 คำอธิบำยรหสั วชิ ำ อช.................... กำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำวสมทุ รสงครำม สำระกำรประกอบอำชีพ ระดับประถมศึกษำ/มัธยมศึกษำตอนต้น/มัธยมศึกษำตอนปลำย จานวน 3 หน่วยกิต จานวน 120 ชว่ั โมง มำตรฐำนกำรเรียนรู้ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทางและการ ตดั สินใจ ประกอบอาชีพไดต้ ามความตอ้ งการและศกั ยภาพของตนเอง ตลอดจนมีความรู้เก่ียวกบั เป็นมาของมะพร้าว พนั ธุ์มะพร้าว และการปลกู มะพร้าว ในจงั หวดั สมทุ รสงคราม 3.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว เคร่ืองมือและวตั ถุดิบ และการทาน้าตาลมะพร้าว ของสมุทรสงคราม 3.3 มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยชนข์ องน้าตาลมะพร้าว และการบรรจุภณั ฑ์
3 โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รหสั วชิ ำ อช0.............. ภูมิปัญญำกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำวสมุทรสงครำม จานวน 3 หน่วยกิต จานวน 120 ชวั่ โมง ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาปลาย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคติท่ีดีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทางและการ ตดั สินใจ ประกอบอาชีพไดต้ ามความตอ้ งการและศกั ยภาพของตนเอง ตลอดจนมีความรู้เก่ียวกบั เป็นมาของมะพร้าว พนั ธุม์ ะพร้าว และการปลกู มะพร้าว ในจงั หวดั สมทุ รสงคราม 3.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว เครื่องมือและวตั ถุดิบ และการทาน้าตาลมะพร้าว ของสมทุ รสงคราม 3.3 มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยชน์ของน้าตาลมะพร้าว และการบรรจุภณั ฑ์ สำระสำคัญ เก่ียวกบั ความเป็นมาของมะพร้าว ของจงั หวดั สมุทรสงคราม เกี่ยวกบั ประวตั ิ ความสาคญั ความเป็ นมาในอดีตในการเข้ามาของมะพร้าว ตลอดจน พันธุ์มะพร้าวต่าง ๆ ที่มีการปลูก ความเป็ นมาของน้าตาลมะพร้าวในจงั หวดั สมุทรสงคราม ตลอดจนการแนะนา อุปกรณ์การใช้ เคร่ืองมือในการทาน้าตาลมะพร้าว ประโยชนน์ ้าตาลมะพร้าวและการบรรจุภณั ฑ์ ผลกำรเรียนรู้ท่คี ำดหวัง 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เกี่ยวกบั เรื่องของมะพร้าว 2 . เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เกี่ยวกบั การทาน้าตาลมะพร้าวของสมุทรสงคราม 3. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เก่ียวกบั ประโยชนข์ องน้าตาลมะพร้าวและบรรจุภณั ฑ์ ขอบข่ำยเนื้อหำ 1. ช่องทางการเขา้ สู่อาชีพ การทาน้าตาลมะพร้าว 2. ความเป็นมาของมะพร้าว 3. พนั ธุ์มะพร้าว 4. การปลกู มะพร้าวในจงั หวดั สมทุ รสงคราม 5. ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว 6. เครื่องมือและวตั ถดุ ิบในการทาน้าตาลมะพร้าว 7. การทาน้าตาลมะพร้าว 8. มะพร้าว น้าตาลมะพร้าวสู่การเรียนรู้อาหารคาวหวานของคนไทย 9. การทาบรรจุภณั ฑ์
4 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องของมะพร้ำว 1. มะพร้าวส่วนใหญป่ ลกู อยใู่ นบริเวณใด ก. เกาะในมหาสมทุ รอินเดีย ข. เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิ ค ค. เกาะในมหาสมทุ รแอตแลนติค ง. ถูกทกุ ขอ้ 2. มะพร้าวออกผลไดน้ านจนอายไุ ดน้ านประมาณกี่ปี ก. 20 – 30 ปี ข. 30 - 50 ปี ค. 60 - 80 ปี ง. 80 - 90 ปี 3. พชื ในขอ้ ใดท่ีมีลกั ษณะเหมือนมะพร้าว ก. สาคู ข. มะมว่ ง ค. มะเหม่ียว ง. ลาไย 4. มะพร้าวท่ีทาน้าตาลมะพร้าวพนั ธุใ์ ดที่นิยมปลูกในพ้นื ที่น้าเคม็ ก. มะพร้าวพนั ธุแ์ ดง ข. มะพร้าวพนั ธุส์ ีนนชา ค. มะพร้าวพนั ธุห์ มูสีเขยี ว ง. มะพร้าวพนั ธุก์ ะโหลกกลม 5. ลกั ษณะใดท่ีชาวสวนใชเ้ ป็นเกณฑใ์ นการคดั เลือกพนั ธุม์ ะพร้าวท่ีใหน้ ้าตาลมาก ก. มีผลขนาดใหญ่ ข. มีขนาดใบยาวใหญ่ ค. มีลาตน้ สูงและปลอ้ งห่าง ง. ใหผ้ ลเร็วและมีงวงถี่
5 6. ชาวสมุทรสงครามนิยมปลกู มะพร้าวท่ีใชท้ าน้าตาลแบบใด ก. ปลูกแบบยกโคก ข. ปลูกในที่ต่อแผน่ ค. ปลกู แบบยกร่อง ง. ปลูกในพ้ืนท่ีดอน 7. ขอ้ ดีของมะพร้าวพนั ธุ์ลูกผสม คอื ขอ้ ใด ก. ใหผ้ ลผลิตสูง ข. ลาตน้ เต้ีย ค. มีเน้ือหนากวา่ พนั ธุ์อื่นๆ ง. เป็นท่ีนิยมมากกวา่ พนั ธุ์อ่ืน 8. มะพร้าวพนั ธุใ์ ดนิยมนามาทาน้าตาลมะพร้าว ก. พนั ธุค์ อ่ ม ข. นาฬิเก ค. หมูสี ง. น้าหอม 9. ชาวสวนท่ีทาน้าตาลมะพร้าวจึงเลือกปลกู มะพร้าวพนั ธ์ใหญ่ เพราะเหตใุ ด ก. ปลูกไดใ้ นพ้ืนที่เฉพาะ ข. มีงวงยาว ใหง้ วงตลอดปี ค. มีลาตน้ สูงใหญ่ สามารถต้งั พะองไดด้ ี ง. มีงวงขนาดพอดี สามารถรองในกระบอกได้ 10. การเลือกพนั ธุ์มะพร้าวในแตล่ ะพ้ืนท่ี ชาวสวนคานึงถึงเร่ืองใดเป็นสาคญั ก. สภาพของน้าบริเวณท่ีปลกู ข. สภาพดินในบริเวณท่ีปลกู ค. การเดินทางเขา้ ออกในสวนมะพร้าว ง. การตลาดของการขายมะพร้าวที่เลือกปลกู
6 บทท่ี 1 เรื่องของมะพร้ำว สำระสำคัญ ช่องทางและการตดั สินใจเลือกประกอบอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าว ปัจจยั ที่เกี่ยวกบั การ ทาน้าตาลมะพร้าว ความเป็ นมาของมะพร้าว ของจังหวดั สมุทรสงคราม เก่ียวกับ ประวตั ิ ความสาคญั ความเป็นมาในอดีตในการเขา้ มาของมะพร้าว ตลอดจน พนั ธุ์มะพร้าวต่าง ๆ ที่มีการ ปลกู ในบริเวณน้าจืด พ้นื ที่ท่ีเหมาะสมในการปลกู มะพร้าวในจงั หวดั สมทุ รสงคราม ผลกำรเรียนรู้ทคี่ ำดหวัง 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เก่ียวกบั ช่องทางการประกอบอาชีพ การทาน้าตาล มะพร้าว 2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เกี่ยวกบั เป็นมาของมะพร้าว ของจงั หวดั สมุทรสงคราม 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เก่ียวกบั พนั ธุ์มะพร้าว และการปลกู มะพร้าว ขอบข่ำยเนื้อหำ 1. ช่องทำงกำรเข้ำสู่อำชีพกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำว ความเป็นไดใ้ นการ ประกอบอาชีพ ตลอดจนแหลง่ เรียนรู้ (ภูมิปัญญาในจงั หวดั สมุทรสงคราม) และความเป็นไปได้ และทิศทางการประกอบอาชีพ 2. ควำมเป็ นมำของมะพร้ำว ของจงั หวดั สมทุ รสงคราม เกี่ยวกบั ประวตั ิความ เป็นมาในอดีต ท่ีมาของการปลกู มะพร้าวเกิดข้นึ ในประเทศไทยวา่ มีความเป็นมาอยา่ งไร ใครเป็น คนนามะพร้าวเขา้ มาปลูก 3. พันธ์ุมะพร้ำว โดยนกั พฤกษศาสตร์ไดจ้ ดั กลุ่มมะพร้าวท่ีมีลกั ษณะเหมือนกัน ต่างกัน รวมถึงการถ่ายทอดลักษณะประจาตวั ท่ีแตกต่างกันไวเ้ ป็ นพวก โดยอาศยั ลกั ษณะการ เจริญเติบโตของลาตน้ อายุท่ีเริ่มตกผล และลกั ษณะการบานของดอกเป็ นเกณฑ์ในการแบ่งพนั ธุ์ มะพร้าว 4. กำรปลูกมะพร้ำวในจังหวัดสมุทรสงครำม พ้ืนท่ีท่ีเหมาะสมในการปลกู มะพร้าว ในจงั หวดั สมุทรสงคราม ลกั ษณะพนั ธุ์มะพร้าวตา่ งๆ
7 เรื่องท่ี 1 ช่องทำงกำรเข้ำสู่อำชีพกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำว 1. ควำมสำคญั ของกำรประกอบอำชีพกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำว จงั หวดั สมทุ รสงครามเป็นจงั หวดั เลก็ ๆ ที่มีการปลูกมะพร้าว ซ่ึงถือวา่ เป็นพืชเศรษฐกิจของ จงั หวดั ชาวสวนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ และมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวขอ้ งกบั มะพร้าว อาทิเช่น การขายผล มะพร้าว การทาน้าตาลมะพร้าว การแปรรูปผลผลิตต่างๆ ที่เก่ียวกับมะพร้าว เป็ นตน้ สาหรับ อาชีพที่จะแนะนาใหร้ ู้จกั ต่อไปน้ี คอื อาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวของชาวสมทุ รสงครามหรือที่เรียก กนั โดยทวั่ ไปวา่ น้าตาลมะพร้าวเมืองแม่กลองนนั่ เอง จากขอ้ มลู ในหนงั สือคนแม่กลอง ซ่ึงเขียนโดย สุรจิต ชิรเวทย์ ไดพ้ ูดถึงคนแม่กลองและอาชีพของคนแม่กลองไวว้ า่ “แม่กลองเป็นเมืองสุขสงบ ช้านาน ขโมย ขโจรไม่ค่อยจะมี บา้ นช่องไม่ตอ้ งใส่กุญแจ ไม่ตอ้ งมีร้ัวอาชีพท่ีทาส่วนใหญ่เป็ น ชาวสวนตาล ซ่ึงท้งั วนั ต้งั แต่เชา้ จนมืดค่าดึกดื่น วนั เวลาส่วนใหญ่หมดไปกบั การข้ึนตาล เค่ียวตาล การทาความสะอาดเคร่ืองมือเครื่องใช้ การหาฟื นไวส้ าหรับเค่ียวตาลชาวสวนส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่งตวั สวยๆ ไม่ไดใ้ ส่น้าหอม มีเพียงกล่ินเหงื่อไคลที่พอจะสัมผสั ได้ มือเทา้ หยาบกร้านเพราะการ ตรากตราทางานกบั อาชีพทาน้าตาลมะพร้าวนน่ั เอง 2. ควำมเป็ นไปได้ในกำรประกอบอำชีพ อนาคตน้าตาลมะพร้าวแม่กลอง อาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวของชาวสมุทรสงคราม หรือ เมืองแม่กลองเป็นอาชีพท่ีมีมาแต่ด้งั เดิมและทากนั มากเพราะเป็นพ้นื ที่ที่มีน้าทว่ มถึงจึงปลูกมะพร้าว ไดผ้ ลดีกวา่ พืชชนิดอ่ืน ตอ่ มาเมื่อสภาพการและสิ่งแวดลอ้ มเปล่ียนไปส่งผลใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลง ในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 2.1 กำรเปลย่ี นแปลงด้ำนเศรษฐกจิ และสังคม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมทาให้ชาวสวนมีวิถีชีวิตท่ี เปล่ียนไป บตุ รหลานของชาวสวนไดร้ ับการศึกษาสูงข้นึ จึงไมน่ ิยมทาอาชีพสวนตาลเหมือนดงั ที่ บรรพบุรุษเคยทา ประกอบกับการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพ้ืนท่ีจังหวัด สมุทรสงครามและพ้ืนที่ใกลเ้ คียง ส่งผลใหค้ นรุ่นหนุ่มสาวในวยั ทางาน เบนวิถีชีวิตไปทางานใน หน่วยงานต่างๆ ท่ีมีรายได้สูงกว่าและเสี่ยงภัยจากการตกต้นตาลน้อยกว่า จึงเป็ นสาเหตุของ การละทิง้ อาชีพเดิม ทอดทิ้งวิถีชีวติ ของชาวสวนตาล 2.2 กำรล่มสลำยของอำชีพกำรทำนำ้ ตำล อีกสาเหตุหน่ึงของการล่มสลายของอาชีพการทาน้ าตาลมะพร้าวคือ ค่าจ้าง คา่ แรงงาน คา่ ใชจ้ ่ายในการทาน้าตาลมะพร้าวสูงมาก แต่ผลตอบแทนท่ีไดร้ ับไม่คุม้ กบั การลงทุนท่ี เสียไป จึงทาใหช้ าวสวนตาลหลายรายละทิง้ อาชีพการทาน้าตาลมะพร้าว หนั ไปประกอบอาชีพอื่น
8 ที่มีรายไดท้ ่ีดีกว่า ทาใหว้ ฒั นธรรมการทาน้าตาลมะพร้าวและเตาตาลท่ีเคยมีมากในอดีตค่อยๆ สิ้น สูญไปในท่ีสุด 2.3 กำรปลอมปนผสมน้ำตำลทรำย สาเหตุสาคญั อีกประการหน่ึงคือ พ่อคา้ คนกลางที่รับซ้ือน้าตาลมะพร้าวแทจ้ ากสวน แลว้ นาไปหลอมใหม่โดยปนน้าตาลทรายในปริมาณมากเพ่ือเพ่ิมน้าหนักและทาให้น้าตาลแข็งตวั มากข้ึนสะดวกแก่การจัดส่งในพ้ืนท่ีห่างไกล เช่นจังหวดั ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ ภาคเหนือของประเทศ 3. แหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ัญญำเกยี่ วกบั กำรทำน้ำตำลมะพร้ำว ภูมิปัญญำกำรก่อสร้ำงเตำเคีย่ วน้ำตำลมะพร้ำว กรณศี ึกษำ พระบุญเลศิ อนิ ท้ำย พระบุญเลิศ อินทา้ ย อายุ 48 ปี (พ.ศ.2546) จาพรรษา ณ วดั ป้อมแกว้ อาเภอเมือง จงั หวดั สมุทรสงคราม ภูมิลาเนาเดิมอยู่ 3 ตาบลเหมืองใหม่ อาเภออมั พวา จงั หวดั สมุทรสงคราม เป็นบุตร นายแมน้ - นางมว้ น อินทา้ ย สืบทอดวิธีการก่อสร้างเตาปล่องมาจากบิดาที่มีความเช่ียวชาญในการ ก่อเตาปล่องจนเป็ นที่ยอมรับนบั ถือของคนในหมู่บา้ น เริ่มช่วยก่อเตาปล่องคร้ังแรกเมื่ออายุ 15 ปี และทาการรับจา้ งก่อเตาเองเม่ืออายุ 18 ปี มีประสบการณ์การก่อเตาขนาดเลก็ ความสูงของปลอ่ ง 10 ศอก ไปจนถึงก่อเตาปล่องสูง 7 วา เป็นเตาคู่สองช่องเดินไฟ จานวน 18 กระทะ ปัจจุบนั อยทู่ ี่ตาบล นางตะเคียน อาเภอเมือง จงั หวดั สมุทรสงคราม และที่อาเภอศรีราชา จงั หวดั ชลบุรี ท้งั 2 แห่ง เป็ น เตา 2 ช่องไฟ แต่ละช่องมีขนาด 50 x 60 เซนติเมตร ความสูงของปล่อง 7 วา วางกระทะคู่จานวน 9 คู่ มีกาลงั ผลิตน้าตาลปึ กไดว้ นั ละ 45 ปี บน้าตาลแหง้ หรือ 1,350 กิโลกรัมต่อวนั พระบุญเลิศเคยก่อสร้างเตาปล่องมาแลว้ ประมาณ 200 เตา จนมีความชานาญการในการ ก่อสร้างเตา เป็นที่รู้จกั กนั ท้งั ในจงั หวดั และต่างจงั หวดั การก่อสร้างเตาเค่ยี วตาลของพระบุญเลิศสืบ ทอดมาจากบิดา ชานาญงานสามารถที่จะคิดคานวณขนาดของเตาปล่องแต่ละขนาดไดถ้ ูกตอ้ งและ แม่นยาจนบคุ คลทว่ั ไปที่สามารถทาสูตรขนาดเตาของพระบญุ เลิศไปใชก้ ่อเตาตาลได้ สูตรคำนวณกำรก่อสร้ำงเตำของพระบญุ เลศิ 1. เตาขนาด 3 กระทะปล่องสูง 10 ศอก ช่องไฟขนาด 50x40 เซนติเมตร ความยาว กระทะละ 75 เซนติเมตร เส้นผา่ ศนู ยก์ ลางช่องวางกระทะ 58 เซนติเมตร ใชอ้ ิฐขนาด 2,500 กอ้ น 2. เตาขนาด 5-9 กระทะช่องไฟขนาด 50x60 เซนติเมตร ปล่องไฟสูง 3-7 วา การก่อสร้าง เตาปล่องตอ้ งมีความราดเอียงจากหนา้ เตาไฟถึงโคนปลอ่ งทามุมประมาณ 10 องศา ช่องลูกหมู หรือ คอรีลมที่จะสามารถทาใหเ้ ตาเดือดดีจะตอ้ งมีขนาด 40x50 เซนติเมตร
9 ภูมิปัญญำกำรเคยี่ วตำล กรณศี ึกษำ หมู่ 12 ตำบลท่ำคำ อำเภออมั พวำ จงั หวัดสมุทรสงครำม นำงกัญจน ปำนำพุฒ บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ 12 ตาบลท่าคา อาเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม อายุ 65 ปี (พ.ศ.2500) เร่ิมทาน้าตาลคร้ังแรกตอนอายุ 20 ปี เลิกข้นึ ตาลตอนอายุ 60 ปี เพราะลูก ๆ ใหเ้ ลิก แต่ยงั ช่วยเคยี่ วตาล ท่ีตาบลท่าคาทาน้าตาลมานานแล้วต้ังแต่สมัยพ่อมา น่าจะทามาประมาณกว่า 100 ปี เม่ือก่อนเตาตาลจะมีเกือบทุกบา้ น ช่วงหลงั มีนอ้ ยลงเพราะคนรุ่นใหม่ไม่ข้ึนตาล เม่ือก่อนการเค่ียว ตาลมีการรวมกลุ่มในญาติพ่นี อ้ งเรียกเตารวม จะแบ่งเคี่ยวเป็นยาม ๆ ละ 1 เดือน ใชไ้ หกระเทียมตวง ตอ่ มาใชก้ ระแป๋ งเลก็ ๆ ตวง โดยแต่ละบา้ นจะข้นึ ตาลแลว้ มาตวงที่เตารวมวา่ ของตนเองไดก้ ่ีไห แลว้ ฝากไวโ้ ดยจดบันทึกท่ีเตาตาลแยกแต่ละเจ้า คนท่ีถึงยามเค่ียวก็จะเค่ียวประมาณ 1 เดือนแล้ว ผลัดเปลี่ยนกันโดยเค่ียวไปก่ีไหก็จดเอาไว้ ถา้ เคี่ยวเกินท่ีตวั เองข้ึนไวก้ ็จะข้ึนตาลชดใช้ให้ครบ จานวน พอครบเดือนก็เปลี่ยนเจา้ เค่ียวน้าตาลใหม่ ทาอย่างน้ีไปเร่ือย ๆ บางคนโชคดีตอนเขา้ ยาม น้าตาลแพงก็จะมีเงินเหลือเกบ็ เม่ือก่อนสูงสุดบีบละประมาณ 120 บาท ต่าสุดประมาณ 40 บาท เตาตาลมีหลายแบบ ถา้ เป็นลูกเดียวเรียกเตาหลุม สมยั ก่อนจะมีเตาไมเ่ กิน 2 ลกู ถา้ เป็น 2 ลูก เรียกเตาดนั ถา้ ทาเตาหลาย ๆ ลูก เรียกเตาปล่อง จะมีประมาณ 5-7 ลูก ถา้ ปล่องสูงกจ็ ะดูดมาก ท่ีน่ีใช้ ช่างก่อสร้างเป็นคนก่อเตา ป้าไม่ทราบสัดส่วนความสูง แต่ท่ีตาบลท่าคาในยคุ ท่ีทาน้าตาลมากก็ทา เตาคูป่ ล่องเดียว กระบอกรองน้าตาลเม่ือก่อนทาด้วยไมไ้ ผ่ ข้ึนตาลแลว้ ก็จะลา้ งกระบอกตาลแลว้ นาไป รมควนั ทาให้น้าตาลใสและมีกลิ่นหอม เช้ือที่ใส่ คือไมพ้ ะยอม ไมเ้ คี่ยม ไม้ตะเคียน ใส่ทาให้ น้าตาลใส เวลานามาเคี่ยวจะแข็ง ใส่ประมาณ 2-5 ชิ้นเล็ก ๆ ถา้ เช้ือดี ๆ น้าตาลจะไม่มีฟอง ปัจจุบนั เช้ือท่ีใชม้ ีไมห้ ลายชนิด น้าตาลจึงมีฟองมาก เวลาเคี่ยวน้าตาลไดท้ ่ีตอ้ งป่ันก่อนป่ันเพื่อใหน้ ้าตาลจบั ตวั เร็วข้นึ ทาใหเ้ วลาสุ่มใชเ้ วลา นอ้ ยลง สุ่มเพื่อใหส้ ีสวยข้ึน ขาวข้นึ และน้าตาลแหง้ การเรียนรู้เรื่องการทาน้าตาลมะพร้าวเรียนรู้จากพ่อแม่ เรียนรู้จากการสังเกต ในการ คดั เลือกพนั ธุ์มะพร้าว ใชก้ ารสังเกตวา่ ตน้ ไหนออกมากจะเวน้ ลกู ไวแ้ ลว้ นามาปลูก มะพร้าวตาลตอ้ ง ดูแลรักษา โดยมีการทาดินปี ละอย่างนอ้ ย 1 คร้ังโดยการสาดโคลนในทอ้ งร่องข้ึนมา เป็นการใหป้ ๋ ุย อยา่ งหน่ึงเพราะในร่องจะมีตะกอนทบั ถม คุณหนู แสงพนั ธ์ ลูกสาวคุณสาราญ แสงพนั ธ์ อายุ 43 ปี (พ.ศ.2546) เคี่ยวตาลมาต้งั แต่อายุ 15 ปี ไดร้ ับการถ่ายทอดวธิ ีทาน้าตาลมะพร้าวจากพ่อและแม่โดยการสงั เกต จดจาและช่วยงาน ปัจจุบนั ยงั เคี่ยวตาลอยู่ ส่วนใหญ่ส่งเป็นปี บ โดยจา้ งญาติข้ึนตาลในสวน แต่ก่อนก็ข้ึนตาล ไดส้ ังเกตพบวา่ ตน้ มะพร้าวน้ันมีความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิก่อนคนประมาณ 2-3 วนั ถา้ วนั ไหนข้ึน ตาลน้าตาลใสรองไดน้ อ้ ยอีก 2-3 วนั จะมีอุณหภูมิสูงข้ึน ถา้ วนั ไหนรอน้าตาลใสไดม้ าก อีก 2-3 วนั อณุ หภมู ิจะเยน็ ลง ในการนวดงวงปาดตาลตอ้ งทาอยา่ งระมดั ระวงั จะตอ้ งมีความชานาญการมิฉะน้นั
10 น้าตาลจะไมอ่ อก ส่วนการเค่ียวตาลน้นั ใชก้ ารสงั เกตและคดิ คน้ วิธีทาใหส้ ีน้าตาลเป็นไปตามท่ีตลาด ตอ้ งการ เช่น พ่อคา้ ตอ้ งการน้าตาลสีเขม้ ก็จะยกน้าตาลแก่ (เป็นสีแดงเกือบไหมข้ า้ งกระทะ) แต่เมื่อ ยกแก่ก็มีปัญหาน้าตาลแหง้ เร็วท้งั ๆ ที่สุ่มยงั ไม่เสร็จ ตอนแรกใส่น้าไปให้น้าตาลขน้ น้อยลงแต่เมื่อ แห้งแล้วน้าจะคืนตัว ตอนหลงั ใส่น้าตาลใสท่ียงั ไม่เค่ียวลงไปสีสวยข้ึนและน้าไม่คืนตัว แต่ถ้า ตอ้ งการน้าตาลสีอ่อนกย็ กเร็วข้นึ และคุณหนุ ยงั มีความเชื่อในเรื่องแมเ่ ตาไฟ มีความเชื่อท่ีวา่ เตาไฟมี ความรู้สึก เม่ือตอ้ งการน้าตาลราคาสูงก็จะขอแม่เตาไฟ เม่ือถึงเทศกาลตรุษจีน ก็จะไหวแ้ ม่เตาไฟ เป็นความผกู พนั ในอาชีพ กรณีศึกษำ หมู่ 2 ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออมั พวำ จงั หวัดสมุทรสงครำม นายอุบล คุม้ ลว้ นลอ้ ม หมู่ 2 ตาบลเหมืองใหม่ อาเภออมั พวา ซ่ึงประกอบอาชีพการทา น้าตาลมาต้งั แต่อายุ 15 ปี เหตุที่ประกอบอาชีพน้ีเนื่องจากครอบครัวรุ่นป่ ู ย่า ประกอบอาชีพการ น้าตาลมะพร้าว ซ่ึงนบั วา่ เป็นครอบครัวที่ประกอบอาชีพมานานกวา่ 100 ปี อาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวเป็นอาชีพที่ตอ้ งใชอ้ งค์ความรู้หลายดา้ น ท่ีตาบลเหมืองใหม่ การทาสวนมะพร้าวจะตอ้ งมีการทาสวนแบบยกร่องสูง มีการร่องน้าปิ ดหวั ทา้ ย ใหน้ ้าสามารถเขา้ ได้ 4 ช่อง โดยปิ ดน้าคูดา้ นบนให้น้าเขา้ สองดา้ นล่าง เม่ือเวลาน้าข้ึน น้าจืดจะไหลเขา้ มาในคลองก่อน น้าเคม็ จึงไหลเขา้ มาทีหลงั เนื่องจากพ้ืนท่ีตาบล เหมืองใหม่ ดงั น้นั องคค์ วามรู้ท่ีมีมาแต่บรรพ บรุ ุษจึงทาใหพ้ ้ืนที่บริเวณหมู่ 2 ของตาบลเหมืองใหม่สามารถปลูกมะพร้าวได้ โดยการปลูกมะพร้าว จะขดุ หลมุ ไมล่ ึกมากนกั เลือกปลกู มะพร้าวพนั ธุห์ มูสีหมอ้ และมีการคดั พนั ธุม์ ะพร้าวเพ่อื ขยายพนั ธุ์ เองโดยเลือกพนั ธุจ์ ากตน้ ท่ีใหน้ ้ามะพร้าวจานวน 4-6 ลิตร มาทาพนั ธุ์ ส่วนการข้ึนตาล จะข้นึ 2 เวลา คือ ตาลเชา้ จะเริ่มข้ึนประมาณ ตี 3 หรือ ตี 4 ข้นึ เสร็จประมาณ 8 ถึง 9 โมงเชา้ ส่วนตาลเยน็ ประมาณ บ่าย 3 โมง แลว้ ประมาณ 1 ทุ่ม เวลาเคี่ยวตาล จะเค่ียวตาล จะเคี่ยวในตอนเชา้ น้าตาลของเขามกั ยก น้าตาลแก่ (หมายถึงเคี่ยวจนสีมีเขม้ ) และจะหยอดโดยใชช้ ้อนวางเป็นกอ้ นสวยงามบนผา้ ขาวบาง เนื่องจากบริเวณน้ีน้าจะกร่อยค่อนขา้ งเค็มทาให้น้าตาลที่ไดม้ ีรส หวานแหลม มนั และปนเค็ม ไม่ เหมือนน้าตาลบริเวณอ่ืน ซ่ึงเป็นเสน่หข์ องน้าตาลเมืองแม่กลอง ท่ีแตล่ ะถิ่นมีรสชาติเฉพาะตวั นี่เป็ นเพียงตวั อย่างครอบครัวที่ประกอบอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าว จากการสัมภาษณ์ ครอบครัวน้ีจะพบวา่ ภูมิปัญญาไม่ใช่ความรู้ที่หยดุ นิ่ง เป็นความรู้ที่ส่งั สมและมีการพฒั นาตลอดเวลา มิใช่ถ่ายทอดและหยุดน่ิงเหมือนเดิม ความรู้มีการปรับปรุงพฒั นาตามกาลเวลา หมอประเวศ วะสี (2530 : 72-92) กล่าวว่า ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินเกิดจากการส่ังสม การเรียนรู้มาเป็นระยะเวลายาวนานมี ลกั ษณะเช่ือมโยงกนั ไปหมดในทุกสาขาไม่แยกเป็นรายวิชาแบบท่ีเราเรียน ชลทิตย์ เอี่ยมสาอางค์ และวิศนี ศีลตระกูล (2533 : 201-248) ได้ให้ความหมายว่า ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินหมายถึง ความรู้ ประสบการณ์ของประชาชนในทอ้ งถิ่น ซ่ึงไดร้ ับการศึกษาอบรม ส่ังสมและถ่ายทอดมาจากบรรพ บุรุษ หรือเป็ นความรู้ประสบการณ์ที่เกิดจากประสบการณ์ตรงของตนเอง ซ่ึงได้เรียนรู้จากการ ทางาน จากธรรมชาติแวดลอ้ ม สิ่งเหล่าน้ีเป็นสิ่งมีคุณค่า เสริมสร้างความสามารถทาใหค้ นเรามีชีวิต
11 ร่วมกนั อย่างสันติสุข เป็นความรู้ที่สร้างสรรค์และมีส่วนเสริมสร้างการผลิต ยพุ า ทรัพยอ์ ุไรรัตน์ (2537 : 9) ไดแ้ บ่งภมู ิปัญญาเป็น 9 ประเภท 1) ดา้ นคติ ความเชื่อ 2) ดา้ นวฒั นธรรม และ ธรรม เนียมประเพณี 3) ดา้ นเกษตรพ้ืนฐาน 4) ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม 5) ดา้ นสวสั ดิการชุมชน 6) ดา้ นการรักษา พ้นื ฐาน 7) ดา้ นเทคโนโลยพี ้ืนบา้ น 8) ดา้ นศิลปะพ้ืนบา้ น 9) ดา้ นหตั ถกรรมพ้ืนฐาน ในการประกอบอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวอาจกล่าวไดว้ ่า “มะพร้ำวสอนอำชีพ เตำตำล สอนกำรทำงำน” คนสมุทรสงคราม เป็นคนท่ีช่างสังเกต จดจา ทดลอง และบนั ทึกเรื่องราวเกี่ยวกบั อาชีพ รวมท้งั ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกหลานสืบทอดกนั มา เรื่องราวของอาชีพทาน้าตาลมะพร้าว บง่ บอกถึงสังคมวิทยา ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บ่งบอกถึงการเป็น คนช่วยเหลือตนเอง พ่ึงพาตนเองของชาวสมุทรสงคราม ถึงแมจ้ ะประสบปัญหาต่าง ๆ รวมท้งั บ่งบอกถึงการพฒั นาในอาชีพ อาจกล่าวไดว้ ่าการศึกษาเช่นน้ีเป็ นการศึกษาตามอธั ยาศยั ในเรื่อง การเคี่ยวตาลก็มีหลายจงั หวดั ท่ีทาน้าตาลแต่น้าตาลสมุทรสงครามก็เป็นน้าตาลที่มีชื่อและไดช้ ่ือว่า เป็ นน้ าตาลที่ดีท่ีสุดของประเทศไทย 4. ทศิ ทำงกำรประกอบอำชีพกำรทำตำลมะพร้ำว แต่เดิมอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวของชาวสวนจงั หวดั สมุทรสงครามน้ันทากนั มากใน หลาย ๆ ตาบล ในเขตอาเภอบางคนที อาเภออมั พวา และอาเภอเมืองสมทุ รสงคราม ปัจจุบนั การทาน้าตาลมะพร้าวของชาวสวนจงั หวดั สมุทรสงครามเหลืออยู่ไม่มากนกั เช่น ทากนั ท่ีตาบล จอมปลวกอาเภอบางคนที ตาบลปลายโพงพางอาเภออมั พวา ตาบลท่าคา อาเภออมั พวา ตาบล คลองเขินอาเภอเมือง สาเหตุที่เปล่ียนแปลงไปเพราะปัญหาสภาพแวดลอ้ มปัญหาความเสี่ยงกบั ความยากลาบากในการประกอบอาชีพ ปัญหาราคาน้าตาลมะพร้าว ปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจและสังคม ชาวสวนนิยมส่งบุตรหลานเรียนต่อให้ไดร้ ับการศึกษาสูงข้ึนจึงอพยพยา้ ยถ่ิน ไปทางานในสถานประกอบการต่าง ๆ ไม่กลบั มาช่วยพ่อแม่ทาสวนตาลเหมือนดงั ที่บรรพบุรุษเคย ทามาแตด่ ้งั เดิม อีกท้งั การขยายตวั ของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพ้ืนท่ีจงั หวดั สมุทรสงครามและ พ้ืนที่จงั หวดั ใกลเ้ คียงทาให้เยาวชนรุ่นหลงั ที่ยงั หนุ่มสาวอยู่ในวยั ทางานเปลี่ยนวิถีชีวิตไปทางานใน โรงงาน หรือตามหน่วยงานต่าง ๆท้ังรัฐและเอกชนท่ีมีรายได้สูง มั่นคงแน่นอนและปลอดภยั มากกว่าการเส่ียงภยั จากการตกตน้ ตาล จึงส่งผลให้วิถีชีวิตของชาวสวนตาลเริ่มแปรเปล่ียนไป ชาวสวนมะพร้าวหลายสวนไมม่ ีผสู้ ืบทอดอาชีพ จึงเลิกอาชีพการทาน้าตาลมะพร้าวไป
12 กจิ กรรมที่ 1 1. ผูเ้ รียนศึกษาแหล่งเรียนรู้ดว้ ยตนเอง โดยศึกษาเกี่ยวกบั ช่องทางการประกอบอาชีพการทาตาล มะพร้าว พร้อมท้งั สรุปความคิดเห็น จากการศึกษาแหล่งเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... 2. ผูเ้ รียนมีความคิดเห็นว่าอาชีพการทาตาลมะพร้าวมีความน่าสนใจในเรื่องใด และอนาคตของ อาชีพแนวโนม้ น่าจะเป็นอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………...
13 เร่ืองท่ี 2 ควำมเป็ นมำของมะพร้ำว อดีตมะพร้าวเป็ นต้นไมท้ ่ีมีมากในจังหวดั สมุทรสงคราม ซ่ึงมีมามากว่าร้อยปี สาหรับ มะพร้าวเร่ิมปลูกในประเทศไทยต้งั แต่สมยั ไหนยงั ไม่มีประวตั ิชดั เจน จากหนังสือเร่ืองการทาไร่ มะพร้าว (หลวงบุเรศบารุงการ, 2519 : 2-3) ระบุว่าประเทศไทยในสมยั โบราณตอนท่ีพระนางจาม เทวีจะเสดจ็ จากกรุงละโวไ้ ปครองนครหริภุญชยั น้นั เพื่อใหม้ น่ั พระทยั วา่ เมื่อเสด็จไปครอบครองหริ ภุญชยั แลว้ จะนาความสุขสมบูรณ์ให้เกิดแก่นครน้นั พระนางจึงมีพระราชเสาวนียใ์ ห้ทดลองสร้าง นครตวั อยา่ งข้ึนดูก่อน ให้ก่อกาแพงแวดลอ้ ม เสร็จเรียบร้อยแลว้ รับส่ังให้ปลูกตน้ มะพร้าว ตน้ ตาล หวานส้ม เป็ นระเบียบแลดูสง่างามยิ่งนัก ดังปรากฏในหนังสือพระนางจามเทวี แสดงให้เห็นว่า มะพร้าวเป็นผลไมค้ ู่เมืองของไทยมาแตโ่ บราณสมยั จนถึงทกุ วนั น้ี สภาพสวนมะพร้าวในจงั หวดั สมุทรสงคราม ประวัตขิ องมะพร้ำว มะพร้าวเป็นพนั ธุ์ไมใ้ นวงศป์ าลม์ (Palmaceae) พนั ธุ์ไมว้ งศน์ ้ีแบง่ เป็นสกุล สาคญั ๆ ดงั น้ี วงศม์ ะพร้าว ทางพฤกษศาสตร์เรียก Cocos nucifera, Linn. วงศต์ าลโตนด ทางพฤกษศาสตร์เรียก Borasus flabellifer, Linn. วงศส์ าคู ทางพฤกษศาสตร์เรียก Metroxylon ramphii, Mart. วงศจ์ าก ทางพฤกษศาสตร์เรียกวา่ Nipa Fruticanas, Wurmb. วงศห์ วาย ทางพฤกษศาสตร์เรียกวา่ Calamus aquatica, Rdl. ตามประวตั ิเดิม มะพร้าวมีกาเนิดเดิมอย่ใู นเกาะโกโส ในมหาสมุทรอินเดีย แต่ต่อมากล่าว กนั วา่ เดิมเกิดอยใู่ นทวีปอเมริกาใต้ มะพร้าวเป็นพืชที่ถูกขนานนามวา่ เป็นพืชแห่งชีวิต (The Tree of
14 Life) ปัจจุบันการปลูกมะพร้าวส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเซีย และตามเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิ ค มากกวา่ บริเวณอื่น ๆ เพราะมะพร้าวชอบข้นึ ในพ้ืนที่ท่ีมีปริมาณน้าฝนมากพอ บริเวณริมฝ่ังทะเลที่มี น้าทะเลเขา้ ถึง และอากาศมีอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซสเซียส ประเทศไทยเริ่มมีการปลกู มะพร้าวเม่ือใดไมม่ ีหลกั ฐานชดั เจน แตเ่ ช่ือวา่ คงจะปลกู มะพร้าว ในเวลาท่ีใกลเ้ คียงกบั ประเทศมาเลเซีย จากการพบมะพร้าวพนั ธุ์ตน้ เต้ียสีแดงท่ีนิยมปลูกเป็ นไม้ ประดบั ซ่ึงพบในจงั หวดั ภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช สงขลา และยะลา เขา้ ใจวา่ มะพร้าวพนั ธุ์น้ีคง จะนามาจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากประเทศไทยกบั ประเทศมาเลเซียมีเขตติดต่อกนั และมีการ ติดต่อกนั มานาน ประเทศไทย ไดร้ ับอิทธิพลทางความเช่ือ และศาสนาผ่านประเทศอินเดียเขา้ มา จึงทาให้มะพร้าว เขา้ มามีบทบาท และเป็ นส่วนสาคญั ในพิธีต่าง ๆ เช่น การแห่ขนั หมากในพิธี หม้นั พิธีลงเสาเอกในการปลูกบา้ น พิธีบวงสรวงเทวดาในพิธีการต่าง ๆ พิธีโกนจุกเด็กชายในสมยั โบราณ เป็ นตน้ ปัจจุบนั มะพร้าวเป็ นพืชเศรษฐกิจอย่างหน่ึงของคนไทย เพราะมะพร้าวเป็ นพืชท่ี ปลูกง่าย ขายคล่อง ถา้ เปรียบเทียบกบั พืชชนิดอ่ืน ๆ มะพร้าวปลูกคร้ังหน่ึงก็จะออกดอกให้ผลไป นานจนอายุ 80-90 ปี มะพร้าวสามารถข้ึนไดท้ ุกจงั หวดั ทัว่ ประเทศ แต่ข้ึนได้ดีในดินที่มีสภาพ เป็ นกลางหรือเป็ นกรดเล็กน้อย (pH ระหวา่ ง 6-7) ลกั ษณะดินร่วน หรือร่วนปนทราย มี การ ระบายน้าดี มีฝนตกกระจายสม่าเสมอแทบทุกเดือน อากาศอบอุ่น หรือค่อนขา้ งร้อนและมีแสงแดด มาก ภาคท่ีมีการปลูกมะพร้าวมากและเป็ นอาชีพ คือ ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรี ธรรมราช ฯลฯ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ระยอง ฯลฯ ภาคตะวันตก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ฯลฯ มะพร้าวที่ปลูกส่วนใหญ่เป็ นพันธุ์ไทยต้นสูง ผลผลิต ส่วนใหญ่ใชใ้ นการบริโภคโดยตรง ดงั น้นั มะพร้าวจึงมีความสาคญั ต่อการดารงชีวิตประจาวนั ของ คนไทยมาก ในจงั หวดั สมุทรสงคราม การปลูกมะพร้าวนอกจากจะไดผ้ ลผลิตจากลูกมะพร้าวแลว้ ยงั มี ภูมิปัญญาท่ีทาน้าตาลจากจนั่ มะพร้าวซ่ึงเรียกว่า “น้าตาลมะพร้าว” หรือ “น้าตาลปึ ก” หรือ “น้าตาล ปี บ” อีกดว้ ย
15 กจิ กรรมที่ 2 จงอธิบายความเป็นมาของมะพร้าว พอสังเขป ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………...
16 เรื่องท่ี 3 พนั ธ์ุมะพร้ำว นักพฤกษศาสตร์ไดจ้ ดั กลุ่มมะพร้าวท่ีมีลกั ษณะเหมือนกัน ต่างกัน รวมถึงการถ่ายทอด ลกั ษณะประจาตวั ท่ีแตกต่างกนั ไวเ้ ป็นพวก โดยอาศยั ลกั ษณะการเจริญเติบโตของลาตน้ อายุท่ีเริ่ม ตกผล และลกั ษณะการบานของดอกเป็ นเกณฑ์ในการแบ่งพนั ธุ์มะพร้าวโดยแบงออกเป็ นพนั ธุ์ สาคญั ๆ 3 พนั ธุ์ คือ 1. พันธ์ุต้นเตี้ย (Dwarf type) คือ มะพร้าวที่มีลาตน้ เล็ก ที่ลาตน้ อาจจะมีสะโพก (Bole) หรือไมม่ ีก็ได้ ตน้ โตเตม็ ที่สูงไมเ่ กิน 12 เมตร มีทางใบส้ันเพราะมีการผสมพนั ธุก์ นั เองในช่อเดียวกนั เน่ืองจากดอกตวั เมียเร่ิมบาน ในขณะท่ีดอกตวั ผูย้ งั โรยไม่หมด ผลท่ีไดค้ ่อนขา้ งเล็ก แต่ดก ซ่ึงผล มะพร้าวพนั ธุเ์ ต้ียจะดกอยเู่ พยี ง 35-40 ปี แลว้ กจ็ ะลดนอ้ ยลงจนอาจจะไม่ออกผลเลย ส่วนใหญ่ท่ีนิยม ปลูกไวเ้ พื่อรับประทานผลอ่อน เพราะเน้ือมีลกั ษณะอ่อนนุ่ม น้ามีรสหวาน บางพนั ธุ์น้ามีกล่ินหอม มะพร้าวพนั ธุเ์ ต้ียมีชื่อพ้นื บา้ นเรียกตามลกั ษณะที่โดดเด่นของแต่ละสายพนั ธุ์ ดงั น้ี - นกค่มุ ลกั ษณะผลเลก็ เปลือกผลสีเขยี ว มีเน้ือมะพร้าวสด ประมาณ 200 กรัมต่อผล ลาตน้ เลก็ ทางส้นั - หมสู ีเขยี ว ลกั ษณะผลเลก็ แตใ่ หญก่ วา่ นกคุม้ เปลือกผลสีเขยี ว มีเน้ือมะพร้าวสด ประมาณ 300 กรัมตอ่ ผล ตน้ เต้ีย ทางส้ัน - หมสู ีเหลอื ง หรือ นาฬิเก (ในอดีตเคยนากะลาของมะพร้าวชนิดน้ีผา่ คร่ึงดา้ นที่มีรูไป ลอยน้าเพ่ือใชก้ าหนดเวลาในแต่ละช่วงเวลา) ลกั ษณะผลกลมขนาดค่อนขา้ งเลก็ ผลค่อนขา้ งยาวมี เน้ือมะพร้าวสดประมาณ 264 กรัมต่อผล เปลือกผลสีงาชา้ งจนถึงเหลือง - นา้ หอม ลกั ษณะผลเหมือนหมสู ีเขียวหรือนาฬิเก แตบ่ างตน้ มีน้าหอมเหมือนใบเตย - ไฟ ลกั ษณะผลเลก็ เทา่ มะพร้าวนาฬิเก เปลือกผลอ่อนเป็นสีสม้ - มะพร้าวเต้ยี ผลกลมเลก็ คอ่ นขา้ งดก หน่ึงทะลายอาจจะมีถึง 40-50 ผล เปลือกผล สีน้าตาลปนแดง มีเน้ือมะพร้าวสดประมาณ 168 กรัมตอ่ ผล 2. พันธ์ุต้นสูง (Tall type) คือ มะพร้าวท่ีมีลาต้นใหญ่ เม่ือโตเต็มท่ีสูงถึง 18 เมตร หรือ มากกวา่ น้นั มีอายยุ นื 80-90 ปี ทางใบใหญแ่ ละยาวเร่ิมออกผลหลงั จากปลกู แลว้ ประมาณปี ท่ี 5 ผลมี ขนาดต่าง ๆ กนั ไม่แน่นอน บางชนิดมีผลเลก็ กวา่ มะพร้าวนกคุ่ม บางชนิดมีผลใหญ่มากเนื่องจากมี การผสมขา้ มพนั ธุ์ เพราะดอกตวั เมียบานรับละอองเกสรช้า ในขณะท่ีดอกตวั ผูใ้ นช่อเดียวกนั โรย หมดแลว้ พนั ธุ์ตน้ สูงท่ีสาคญั ๆ มีช่ือเรียกตามภาษาพ้ืนบา้ น ดงั น้ี - กะโหลก ลกั ษณะผลใหญม่ ากที่สุด โดยใหญก่ วา่ มะพร้าวกลางถึง 2 เท่า แต่ส่วนมาก
17 ออกผลไมค่ อ่ ยดก - ใหญ่ ลกั ษณะผลมีขนาดใหญ่ มกั จะปลูกเพอื่ ขายผลแก่ และใชท้ ามะพร้าวแหง้ เร่ิมออก ดอกประมาณ 5-6 ปี หลงั ปลูก ใหผ้ ลดอก บางตน้ ใหผ้ ลถึง 100 ผล มีเน้ือสดหนกั ประมาณ 500 กรัม ต่อผล - กลาง ลกั ษณะผลมีขนาดกลาง อยรู่ ะหวา่ งมะพร้าวใหญ่กบั มะพร้าวหมสู ี ใหผ้ ล ทะลายละ 10-15 ผล มีน้าหนกั เน้ือสดประมาณ 420 กรัมต่อผล - ปากจก ลกั ษณะรูปร่างของผลยาวปลายแหลมเหมือนลูกรักบ้ี กะลาหนา น้านอ้ ย น้าหนกั ของเน้ือมะพร้าวสดประมาณ 400-750 กรัมตอ่ ผล - ทะลายร้อย เหตทุ ่ีเรียกช่ือทะลายร้อย เพราะวา่ จน่ั มะพร้าวแตล่ ะจนั่ มีดอกตวั เมียมาก ถึงร้อยดอก และสามารถผสมพนั ธุ์ติดเป็ นผลได้ แต่ไม่เป็ นผลสมบูรณ์ท้งั หมด ผลมีขนาดเล็กกว่า นกคุ่ม เริ่มออกดอกประมาณ 5-6 ปี หลงั ปลูก เป็ นมะพร้าวพนั ธุ์ที่ไม่ค่อยพบบ่อยเพราะไม่ค่อยมี คณุ คา่ ในทางการคา้ มากนกั เน่ืองจากผลเลก็ - เปลือกหวาน ลกั ษณะผลผิดกวา่ มะพร้าวอยา่ งอื่น ท่ีเปลือกผลอ่อนมีรสหวานใช้ รับประทานได้ - กะทิ ลกั ษณะเน้ือสดอ่อนนุ่ม และฟูกวา่ มะพร้าวธรรมดา เหมาะสาหรับทาเป็นอาหาร หวาน ในบางทอ้ งที่ผลมีราคาสูงกวา่ มะพร้าวธรรมดามาก - มะแพร้ว เป็นมะพร้าวชนิดหน่ึงมีลกั ษณะแตกตา่ งกบั พนั ธุ์อ่ืนที่ช่อดอก ที่ไม่มีช่อดอก แขนงแยกออกไป แต่มีดอกตวั เมียจานวนมากอยูต่ ิดกา้ นอนั เดียว ซ่ึงมีความยาวเท่ากบั ดอกมะพร้าว ธรรมดา และมีดอกตวั ผตู้ ิดอยตู่ อนปลายช่อดอก 3. พันธ์ุลูกผสม มะพร้าวพนั ธุ์น้ีเกิดจากการคน้ ควา้ วิจยั ของมนุษย์ ที่พยายามจะปรับปรุง ขอ้ บกพร่องของมะพร้าวท้งั สองพนั ธุ์ โดยนามะพร้าวพนั ธุ์ท่ีมีความแข็งแรง ให้ผลผลิตสูงจากท่ี ต่าง ๆ มาทดลองผสมกนั แลว้ นาไปทดลองปลูก ประเทศไทยเร่ิมคน้ ควา้ วิจยั มาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2517 การค้นควา้ เน้นหนักไปท่ีการหาพนั ธุ์มะพร้าวลูกผสม ที่ให้ผลผลิตสูง และตกผลเร็วกว่าพนั ธุ์ พ้ืนเมือง โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือปรับปรุงพนั ธุ์ให้ไดม้ ะพร้าวลูกผสมท่ีตกผลเร็ว ให้ผลผลิตสูงกว่า พนั ธุ์ไทยพ้ืนเมือง โดยนามะพร้าวจากสถาบนั I R H O ประเทศ ไอวอรี่ โคสท์ แอฟริกาตะวนั ตก เขา้ มาปลูกทดลองเปรียบเทียบพนั ธุ์ท่ีสถานีทดลองพืชสวนสวี จงั หวดั ชุมพร จนไดพ้ นั ธุ์ลูกผสม ดงั น้ี - พ.ี บ.ี 121 (พนั ธ์ุสวีลูกผสม 1) เป็นลูกผสมช่วงแรกระหวา่ งพนั ธุแ์ อฟริกาตน้ สูงกบั พนั ธุ์ตน้ เต้ียของประเทศมาเลเซีย ลกั ษณะเด่นคือให้ผลผลิตเป็นเน้ือมะพร้าวไดไ้ ร่ละ 223 กิโลกรัม ในขณะท่ีมะพร้าวไทยพนั ธุต์ น้ สูงใหผ้ ลผลิต 34 กิโลกรัม
18 - ไทยต้นสูง ผสม เวสท์แอฟริกาต้นสูง - ตาฮิติต้นสูง ผสมกบั เวสท์แอฟริกาต้นสูง - มาลายูสีแดงต้นเตี้ย ผสม ตาฮิติต้นสูง - มาลายสู ีเหลอื งต้นเตย้ี ผสมกบั ปากจก - มาลายูสีเหลอื งต้นเตยี้ ผสมกบั กะโหลก - มาลายสู ีเหลอื งต้นเตี้ย ผสมกบั มะพร้าวใหญ่ ลกั ษณะทว่ั ไปของมะพร้าวลกู ผสม คือ ตน้ โตปานกลาง ใหผ้ ลในปี ที่ 4 หลงั การปลูก เพราะ มีการตอบสนองต่อป๋ ุยดี ผลมีขนาดค่อนขา้ งเล็ก แต่เน้ือหนา ตน้ พนั ธุ์ทนต่อสภาพแห้งแลง้ ได้ดี พอควร แมฝ้ นจะแหง้ แลง้ นาน 2-3 เดือน กำรคดั เลือกพนั ธ์ุ - ควรเป็นตน้ ท่ีอยใู่ นบริเวณกลาง ๆ สวน ใหผ้ ลดกไม่นอ้ ยกวา่ 60 ผล/ตน้ /ปี - ควรมีการจดบนั ทึกการใหผ้ ลของตน้ ท่ีคดิ วา่ จะใชเ้ ป็ นตน้ พนั ธุ์ก่อนสัก 3-4 ปี เพ่ือให้ แน่ใจวา่ ใหผ้ ลดกจริง โดยทาสีไวท้ ่ีตน้ เป็นที่สงั เกตหรืออาจทาเครื่องหมายอยา่ งอ่ืนกไ็ ด้ - เป็นตน้ ท่ีไม่อยใู่ กลบ้ า้ น คอกสัตวห์ รือในที่ที่คดิ วา่ ดีกวา่ ตน้ อื่น - ลาตน้ ตรง แขง็ แรง ปลอ้ งถี่ พ่มุ ใบเป็นรูปคร่ึงวงกลม มีจานวนทาง (ใบ) มาก โคน ทางส้ันและใหญ่ มีจนั่ อย่างนอ้ ย 10 จนั่ กระจายอยู่รอบตน้ และทุกจนั่ มีผลขนาดต่าง ๆ กนั ติดอยู่ ทะลายควรนง่ั ทางกา้ น ทะลายส้ันและใหญ่ - เป็นตน้ ที่มีอายไุ ม่นอ้ ยกวา่ 15 ปี ใหผ้ ลมีลกั ษณะกลมขนาดใหญ่ เวน้ รอบของกะลา ไมต่ ่ากวา่ 45 เซนติเมตร เน้ือหนา เปลือกไม่หนาหรือบางเกินไป ผลมะพร้าวแมจ้ ะเก็บจากตน้ แมพ่ นั ธุท์ ่ีไดร้ ับการคดั เลือกแลว้ ก็ตาม อาจมีบางผลที่มี ลกั ษณะไม่เหมาะจะนาไปเพาะทาพนั ธุ์ เช่น ผลแตกระหว่างเก็บเกี่ยว มีโรคแมลงทาลาย จึงควร คดั เลือกผลก่อนนาไปเพาะ ซ่ึงมีลกั ษณะการพจิ ารณาดงั น้ี - เป็นผลท่ีไดร้ ับการกระทบกระเทือนนอ้ ย จึงควรเกบ็ โดยใชเ้ ชือกโยงลงมา หรือโยน ลงน้า - ผลโตไดข้ นาด รูปผลค่อนขา้ งกลม หรือมีลกั ษณะตรงตามพนั ธุ์ - ผลแก่จดั เปลือกมีสีกา้ มปู หรือสีน้าตาล มีลกั ษณะคลอนน้า - ไมม่ ีโรคแมลงทาลาย กำรเตรียมผลพนั ธ์ุก่อนเพำะ - นามะพร้าวที่ไดค้ ดั เลือกไวแ้ ลว้ มาปาดเปลือกทางดา้ นหวั ออกขนาดประมาณเทา่ ผล
19 ส้มเขียวหวานเพื่อให้น้าซึมเขา้ ไดส้ ะดวกในระหว่างเพาะ และช่วยให้หน่องอกแทงออกมาไดง้ ่าย (การที่จะปาดดา้ นไหนให้นาลกู มะพร้าวไปลอยน้าดา้ นหัวส่วนท่ีลอยอยูเ่ หนือน้าใหป้ าดเปลือกดา้ น น้นั ) - ถา้ เป็นผลที่ยงั ไม่แก่จดั เปลือกมีสีเขยี วปนเหลือง ใหน้ าไปผ่งึ ไวใ้ นที่ร่มโดยวางเรียงให้ รอยปาดอยดู่ า้ นบน ผ่งึ ไวป้ ระมาณ 15-30 วนั จนเปลือกเปล่ียนเป็นสีน้าตาล - เตรียมผลพนั ธุไ์ วป้ ระมาณ 2 เท่าของจานวนหน่อที่ตอ้ งการ เพราะในขณะเพาะจะมีผล พนั ธุ์ที่ไมง่ อก และเม่ืองอกแลว้ ก็ตอ้ งคดั หน่อท่ีไมแ่ ขง็ แรงออก กำรเตรียมแปลงเพำะ - แปลงเพาะควรอยกู่ ลางแจง้ ใกลแ้ หล่งน้า และมีการระบายน้าดี - ไม่เป็นแหล่งท่ีเคยมีโรคและแมลงระบาดมาก่อน - พ้ืนแปลงควรเป็นทรายหยาบ เพ่ือสะดวกในการเพาะและยา้ ยกลา้ - ปราบวชั พืชออกใหห้ มด ถา้ พ้ืนดินเป็นดินแขง็ ควรไถดินลึก 15-20 เซนติเมตร - ถา้ แปลงกวา้ งมาก ควรแบง่ เป็นแปลงยอ่ ย ขนาดกวา้ งประมาณ 2.50 เมตร ยาวตาม ความตอ้ งการ เวน้ ทางเดินระหวา่ งแปลง 50 เซนติเมตร - ในแต่ละแปลงยอ่ ยขดุ เป็นร่องลึกประมาณ 10 เซนติเมตร กวา้ งเท่าขนาดของ ผลมะพร้าว ยาวตลอดพ้นื ที่ แต่ละแปลงจะเพาะมะพร้าวได้ 10 แถว วิธกี ำรเพำะ - วางมะพร้าวตามแนวนอนลงในร่องท่ีเตรียมไว้ หนั ดา้ นท่ีปาดข้ึนขา้ งบนเรียงไป ตามทิศทางเดียวกนั ใหแ้ ต่ละผลติดกนั หรือห่างกนั ไมเ่ กิน 5 เซนติเมตร - กลบทรายหรือดินใหส้ ่วนของผลมะพร้าวโผลพ่ น้ ดินประมาณ 1/3 ของผล - ถา้ ฝนไม่ตก รดน้าใหช้ ุ่มอยเู่ สมอ โดยสงั เกตจากความช้ืนตรงบริเวณรอยปาด - คอยดูแลกาจดั วชั พืช โรค-แมลงตา่ ง ๆ หลงั จากเพาะแลว้ ประมาณ 2-3 สัปดาหห์ น่อจะเริ่มงอก ในระยะแรก ๆ จะงอกนอ้ ย เม่ือเลย 4 สัปดาห์ไปแลว้ หน่อจะงอกมากข้ึน มะพร้าวท่ีไม่งอกภายใน 10 สัปดาห์ หรือ 70 วนั ควรคดั ทิ้ง หรือนาไปทามะพร้าวแหง้ เพราะถา้ ปล่อยทิ้งไวใ้ ห้งอกก็จะไดห้ น่อท่ีไม่ดี ตามปกติมะพร้าวจะงอก ประมาณร้อยละ 60 ภายใน 10 สัปดาห์ เมื่อหน่อยาวประมาณ 1-3 นิ้ว ควรยา้ ยลงแปลงชา ในการคา้ จะไม่ยา้ ยแปลงชาทีละนอ้ ย แต่จะรอยา้ ยพร้อมกนั ในคราวเดียว ในกรณีท่ีทาการเพาะมะพร้าวเป็นจานวนไมม่ ากนกั อาจทาการเพาะโดยไม่ตอ้ งนาลง
20 แปลงชาก็ได้ แต่ในการเพาะจะต้องขยายระยะให้กว้างข้ึน โดยวางผลห่างกันประมาณ 45-50 เซนติเมตร เพือ่ ใหห้ น่อเจริญไดด้ ี จะไดห้ น่อท่ีอว้ นและแขง็ แรง เมื่อหน่อมีใบประมาณ 4-6 ใบ ก็คดั ไปปลกู ได้ วิธกี ำรชำ เตรียมแปลงชาเช่นเดียวกบั แปลงเพาะ แปลงชาควรอยใู่ กลก้ บั แปลงเพาะเพ่ือสะดวกในการ ขนยา้ ยหน่อ ถา้ ดินไม่ดีให้ใส่ป๋ ุยคอกไร่ละ 24 ปี บ (240 กิโลกรัม) ขุดหลุมขนาดเท่าผลมะพร้าว ระยะระหวา่ งหลุม 60 เซนติเมตร อาจวางผงั การทาแบบสามเหลี่ยมดา้ นเท่า หรือแบบสี่เหลี่ยมจตั ุรัส กไ็ ด้ ยา้ ยหน่อมะพร้าวจากแปลงเพาะลงชาในหลุมใหห้ น่อต้งั ตรง กลบดินหนาประมาณ 2/3 ของผล เพ่ือไม่ให้ดินทบั ส่วนคอของหน่อพนั ธุ์ ใชท้ างมะพร้าวหรือหญา้ แห้งคลุมแปลง (อาจใช้วสั ดุอื่นก็ ได)้ เพอ่ื รักษาความชุ่มช้ืน ถา้ ฝนไม่ตกรดน้าใหช้ ุ่มอยเู่ สมอ ป้องกนั กาจดั วชั พชื โรค-แมลง เม่ือมะพร้าวมีอายุระหว่าง 6-8 เดือน (อยู่ในแปลงชา 4-6 เดือน) หรือมีใบประมาณ 4-6 ใบ (ทาง) กค็ ดั เลือกหน่อท่ีสมบูรณ์ไปปลกู ได้ ลกั ษณะหน่อพนั ธ์ทีด่ ี - หน่อมีอายุ 6-8 เดือน หรือมีใบ 4-6 ใบ - หน่อมีลกั ษณะอวบ โคนหน่อโต ใบกวา้ งสีเขียวเขม้ กา้ นทางส้นั ใหญ่ - ไมม่ ีโรคและแมลงทาลาย กำรเลือกท่ปี ลกู มะพร้ำว หลกั ทว่ั ไปในการคดั เลือกที่ปลูกมะพร้าวควรคานึงถึงสิ่งต่อไปน้ี - ดิน เป็นดินร่วน หรือร่วนปนทราย อมุ้ น้าไดด้ ี ถา้ เป็นดินเหนียวตอ้ งมีการระบายน้าดี สภาพดินเป็ นกลาง หรือเป็ นกรดเพียงเล็กน้อย pH ระหว่าง 6-7 หน้าดินมีความลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร ระดบั น้าใตด้ ินไมค่ วรต้ืนกวา่ 2 เมตร - ปริมำณน้ำ ควรมีฝนตกไม่นอ้ ยกวา่ 1,300 มิลลิเมตรตอ่ ปี และตกกระจายสม่าเสมอ แทบทุกเดือน ถา้ มีฝนตกน้อยกว่า 50 มิลลิเมตรต่อเดือน เป็ นเวลานานติดต่อกนั เกินกว่า 3 เดือน ผลผลิตจะลดลง หรือไมใ่ หผ้ ลเลย มะพร้ำวพนั ธ์ุตำลจังหวดั สมุทรสงครำม จงั หวดั สมุทรสงครามเป็ นจงั หวดั ท่ีมีการปลูกมะพร้าวมานานหลายร้อยปี จนมีการพฒั นา พนั ธุ์มะพร้าวซ่ึงโดยธรรมชาติมะพร้าวมีความหลากหลายพนั ธุ์ พ้ืนที่ดินในการปลูกมะพร้าวของ
21 จงั หวดั สมุทรสงครามมีท้งั 3 อาเภอ แต่ละอาเภอมีลกั ษณะพนั ธุ์ที่แตกต่างกนั โดยแบ่งตามสภาพ ของน้า คือ น้าเคม็ น้ากร่อย และน้าจืด 1. พนั ธ์ุมะพร้ำวในเขตน้ำเคม็ จะเป็ นพนั ธ์ุมะพร้ำวใหญ่ซ่ึงมีความตา้ นทานตอ่ ความเคม็ ไดด้ ี มะพร้าวที่ปลกู จะเป็นพนั ธุส์ ีนนชา มีลกู กลม มีลกั ษณะดา้ นใบของมะพร้าวจะมีสีเขยี วปนแดง และเขียวปนเหลือง ซ่ึงมะพร้าวพนั ธุ์น้ีจะข้ึนและเจริญเติบโตไดด้ ีในดินเค็มที่มีน้าท่วมถึง ดินเปี ยก ตลอดท้งั ปี ลกั ษณะพิเศษของมะพร้าวพนั ธุ์ น้ี คือ ลาตน้ ใหญ่ กา้ นทางใหญ่และยาว ดอกหรืองวง ใหญ่ยาวเม่ือนาไปทาน้าตาลมะพร้าวจะให้ปริมาณน้าตาลมาก ดังน้ันชาวสานมะพร้าวในแถบ พ้ืนท่ีดินเค็มจะนิยมปลกู มะพร้าวพนั ธุ์น้ี พ้ืนที่ท่ีปลูกมากไดแ้ ก่ ตาบลแหลมใหญ่ ตาบลบางขนั แตก บางส่วนท่ีกบั ตาบลแหลมใหญ่ ผลของมะพร้าวพนั ธุน์ ้ีจะยาวทุยจะไมค่ ่อยกลมใหญ่เหมือนมะพร้าว พนั ธุ์อื่น เช่น พนั ธุ์กะโหลก ทาใหข้ ายผลไม่ไดร้ าคาจึงมกั จะใชเ้ ป็ นพนั ธุ์ให้น้าตาลมากกวา่ เพราะ ใหผ้ ลผลิตน้าตาลสม่าเสมอ และออกงวง (ดอก) เกือบตลอดท้งั ปี 2. พนั ธ์ุมะพร้ำวในบริเวณนำ้ กร่อยในจังหวัดสมุทรสงครำม มีบริเวณท่ีเป็นน้ากร่อย (ชาวสวนเรียกว่าน้าลกั จืดลกั เค็ม) เพราะมีปริมาณความเค็มจดั ประมาณ 2-3 เดือนช่วงหน้าแลง้ ) สภาพของพ้ืนดินบริเวณน้ีจะเป็ นท่ีลุ่มมีน้าท่วมถึง บริเวณใกลแ้ ม่น้าแต่พ้ืนที่สูงจะสูงกว่าบริเวณ พ้ืนที่น้าเค็ม พ้ืนท่ีน้ากร่อยในจงั หวดั สมุทรสงครามมีพ้ืนที่กวา้ งครอบคลุมอาเภอเมือง และอาเภอ อมั พวาบางส่วน ดงั น้ันพนั ธุ์มะพร้าวท่ีปลูกในบริเวณพ้ืนที่น้ีจึงมีมากพนั ธุ์กว่าพ้ืนท่ีน้าเค็ม พนั ธุ์ที่ ปลูกจะมีมากกวา่ 10 พนั ธุ์ข้ึนไป แต่ส่วนมากจะปลูกมะพร้าวพนั ธุ์ผลใหญ่พวกกะโหลกกลม พนั ธุ์ หมูสี และพนั ธุ์สายบวั เป็นพนั ธุท์ ี่ให้ปริมาณน้าตาลมาก เพราะอาชีพการปลูกมะพร้าวของชาวสวน จะมีการปลูกมะพร้าวเพ่ือนาน้าตาลใสของมะพร้าวมาเค่ียวเป็นน้าตาล ดงั น้นั จึงมีการปลูกมะพร้าว พนั ธุท์ ี่ใหป้ ริมาณน้ามาก จนมีพนั ธุ์มะพร้าวผสมปะปนจนเกิดพนั ธุใ์ หม่ข้ึนอีกหลากหลายพนั ธุ์ บาง พนั ธุ์เกิดใหมก่ ใ็ หป้ ริมาณน้าตาลสูง บางพนั ธุก์ จ็ ะใหป้ ริมาณน้าตาลนอ้ ย ชาวสวนก็จะไวผ้ ลแทนแต่ ชาวสวนบางสวนท่ีมีอาชีพทาน้าตาลมะพร้าวมกั จะไม่เก็บไวจ้ ะตัดทิ้งไปเหลือท่ีเป็ นพนั ธุ์ท่ีให้ ปริมาณน้าตาลมาก และเลือกปลูกพนั ธุ์ท่ีใหป้ ริมาณน้าตาลมากแทนจนนานปี สวนน้ีก็จะมีมะพร้าว ท่ีให้ปริมาณน้าตาลมากเกือบท้งั สวน การทาแบบน้ีเป็ นภูมิปัญญาของชาวสวนอย่างหน่ึงในการ คดั เลือกพนั ธุ์ เพราะมะพร้าวเป็นพืชใบเล้ียงเด่ียวการขยายพนั ธุ์จะตอ้ งใชเ้ มล็ดพนั ธุ์อย่างเดียว การ ขยายพนั ธุ์ดว้ ยเมลด็ มีการกลายพนั ธุ์ง่ายกวา่ วิธีอื่น ถา้ มีการทาใหก้ ารผสมเกสรของมะพร้าวไดเ้ กสร จากพนั ธุด์ ี โอกาสในการกลายพนั ธุก์ ็จะมีนอ้ ย คือ เกสรตวั ผจู้ ากพนั ธุ์ดีผสมกบั เกสรตวั เมียจากพนั ธุ์ ดีลกู ออกมายอ่ มดีดว้ ย ดงั น้นั ชาวสวนท่ีมีการสังเกตใชว้ ธิ ีตดั มะพร้าวพนั ธุ์ไมด่ ีออก ยง่ิ สวนที่มีพ้ืนที่ มากก็จะทาใหไ้ ดพ้ นั ธุม์ ะพร้าวพนั ธุด์ ี และใหป้ ริมาณน้าตาลมากข้ึน การทาสวนมะพร้าวจึงเป็ นภูมิปัญญาอย่างหน่ึง คือ ตอ้ งมีการสังเกตทดลอง ปรับปรุงอยู่ เสมอ โดยเฉพาะการทาน้าตาลมะพร้าวชาวสวนตอ้ งการปริมาณน้าตาลมากก็จะตอ้ งมีการพฒั นา
22 ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา สวนท่ีมีการพฒั นาพนั ธุ์อยู่ตลอดเวลาจะได้ผลผลิตมากข้ึน และก็มีการ ถ่ายทอดภูมิปัญญาน้ีผา่ นครอบครัว ถา้ ยงั มีการทาน้าตาลมะพร้าวกนั อยอู่ ย่างแพร่หลาย การพฒั นา พนั ธุ์มะพร้าวใหด้ ีข้นึ ก็ยงั มีอยตู่ ่อไป การปลูกมะพร้าวและการเขา้ มาของพนั ธุ์มะพร้าวจากพ้ืนท่ีอื่น ได้แก่ การเลือกพนั ธุ์ท่ีมี ปริมาณน้าตาลมากจากที่อ่ืนมาปลูก โดยเฉพาะจะทากันมากในบริเวณตาบลแพรกหนามแดง บางขนั แตก ปลายโพงพาง บางท่ีเปลี่ยนจากการทานามาเป็นการทาสวน กจ็ ะนามะพร้าวจากบริเวณ น้าเคม็ บริเวณน้ากร่อยและบริเวณน้าจืดที่มีลกั ษณะพนั ธุ์ดีมาปลกู เพอ่ื จะไดผ้ ลผลิตน้าตาลมาก ซ่ึงก็ ไดผ้ ลดีจนกระทง่ั เม่ือมีการสร้างเขือ่ นก้นั แมน่ ้าแมก่ ลองที่จงั หวดั กาญจนบุรีหลายเขื่อนทาให้เกิดน้า จืดลงมานอ้ ยน้าเคม็ ข้ึนสูงและแช่ขงั เป็นเวลานานเป็นเหตใุ หม้ ะพร้าวท่ีเป็นพนั ธุไ์ มท่ นต่อน้าเค็มเฉา ตายสร้างความเสียหายใหก้ บั ชาวสวนบริเวณน้นั
23 กจิ กรรมที่ 3 1.พนั ธุ์มะพร้าว ในจงั หวดั สมุทรสงครามท่ีนิยมปลูกมีพนั ธุใ์ ดบา้ งและมีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไรใน แต่ละพนั ธุ์ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. 2. สภาพของน้ามีผลต่อการเพาะปลกู พนั ธุม์ ะพร้าวหรือไมอ่ ยา่ งไร จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….
24 เรื่องที่ 4 กำรปลกู มะพร้ำวในจังหวัดสมุทรสงครำม กำรปลูกมะพร้ำวในบริเวณน้ำจืด พ้ืนท่ีบริเวณน้ีไดแ้ ก่อาเภอบางคนทีและบางส่วนของ อาเภออมั พวา ในเขตตาบลสวนหลวง บางแค แควออ้ ม เหมืองใหม่ วดั ประดู่ บางชา้ ง ทา่ คา บริเวณ น้ีจึงเป็ นสวนท่ีมีการปลูกพืชผลไมห้ ลายชนิด โดยเฉพาะ หมากและมะพร้าว มีมากกว่าผลไมอ้ ่ืน การทาสวนมะพร้าวจึงถือเป็นอาชีพหลกั และเป็นผลไมอ้ ย่างหน่ึง การบริโภคเน้ือและน้าอ่อนจะมี รสชาติหวานอร่อยจึงมีพนั ธุ์มะพร้าวชนิดหน่ึงคือพนั ธุห์ มสู ีมีคุณสมบตั ิน้าหวานเน้ืออ่อนอร่อยปลูก กนั มากในบริเวณน้ี ลกั ษณะของพ้ืนดินบริเวณน้ีจะเป็ นที่สูงน้าท่วมไม่ถึงมีลกั ษณะเป็ นดินร่วนและดินปน ทราย (มีทรายข้ีเป็ด) มีน้าจืดตลอดปี นาน ๆ จะมีน้ากร่อยข้ึนมาถึงบา้ งแต่ก็ไม่มากประมาณ 2-5 วนั ก็จะเป็ นน้าจืด พนั ธุ์มะพร้าวที่ปลูกในบริเวณน้ีในสมยั ก่อนคงเป็ นการปลูกเพื่อนามะพร้าวแก่มา ประกอบอาหารหวาน อาหารคาวกนั เป็ นส่วนใหญ่ เพราะบริเวณน้ีในอดีตเป็นแหล่งรวมของผูท้ ี่มี ฝี มือทาอาหาร การทาน้าตาลมะพร้าวก็เร่ิมข้ึนที่บริเวณน้ีก่อน เดิมเรียกไวว้ า่ “การทาน้าตาลหมอ้ ” คือเมื่อนาน้าตาลจากจั่นมะพร้าวมาเค่ียวจนแห้งแล้วก็จะนามาหยอดเก็บในหมอ้ ดินท่ีเรียกว่า “หมอ้ ตาล” ต่อมาความนิยมในการบริโภคน้าตาลมะพร้าวมากข้ึนจนเป็ นสินค้าเศรษฐกิจของ จงั หวดั การทาน้าตาลมะพร้าวจึงแพร่หลายไปทว่ั ท้งั จงั หวดั สมุทรสงคราม จากหมอ้ ตาลมาเป็ น หยอดลงปี บและทาเป็นปึ กในปัจจุบนั พนั ธุ์มะพร้าวที่ใช้ทาน้าตาลมะพร้าวในพ้ืนที่น้าจืดนิยมกันทาทุกพนั ธุ์ เน่ืองจากพ้ืนที่ บริเวณน้ีมีมะพร้าวสามารถใหป้ ริมาณน้าตาลคงที่ และเม่ือนาไปเคี่ยวจนแหง้ จะไดเ้ น้ือน้าตาลมาก เน่ืองจากมีปริมาณน้าตาลในมะพร้าวมาก แตพ่ นั ธุท์ ่ีนิยมทาน้าตาลมะพร้าวกนั มากคือมะพร้าวพนั ธุ์ หมสู ีเพราะทาง่าย ออกงวงเร็ว แต่ขอ้ เสียคอื ในรอบปี งวงจะหมดเร็วกวา่ พนั ธุม์ ะพร้าวใหญ่ มะพร้าว หมูสีสามารถปลูกไดเ้ จริญงอกงามดีในพ้ืนที่น้าจืด ในพ้ืนท่ีน้ากร่อยและน้าเค็มจะให้ผลผลิตไม่ดี เนื่องจากไม่สามารถทนต่อความเค็มได้ การให้ปริมาณเน้ือน้าตาลต่อปริมาตรของน้าตาลใส เท่ากนั มะพร้าวหมูสีจะใหเ้ น้ือน้าตาลมากกวา่ มะพร้าวพนั ธุอ์ ่ืน และขอ้ ดีคือลาตน้ ของมะพร้าวหมูสี ไม่ใหญ่และไม่สูงมากสะดวกต่อการข้ึนไปเอาน้าตาลใส การใหผ้ ลผลิตกจ็ ะเร็วกวา่ คือสามารถปลูก เพียง 2-3 ปี ก็ออกงวงสามารถนาน้าตาลใสมาเคี่ยวไดแ้ ลว้ และการปลูกมะพร้าวหมูสียงั สามารถ ปลูกผลไมอ้ ่ืนได้ เช่น ส้มโอ ลิ้นจ่ี กลว้ ย เพราะมะพร้าวหมูสีทรงพุ่มไม่กวา้ งสามารถปลูกบริเวณ ขา้ งร่องสวนเพื่อกนั ดินใหร้ ากยดึ เกาะดินขา้ งร่องไม่ให้พงั ทลายได้ ดงั น้นั สวนบริเวณน้าจืดท่ีมีการ
25 ปลูกผลไมห้ ลายชนิดจึงนิยมปลูกมะพร้าวพนั ธุ์หมูสีใชใ้ นการทาน้าตาลมะพร้าว และอีกประการ หน่ึงมะพร้าวหมสู ีสามารถกินเป็นมะพร้าวอ่อนไดด้ ีกวา่ มะพร้าวใหญเ่ พราะน้าจะหวานกวา่ แต่ถา้ สวนใดที่ปลูกมะพร้าวเพื่อทาน้าตาลมะพร้าวเป็ นอาชีพจะเลือกปลูกมะพร้าวใหญ่ มากกวา่ เพราะการให้น้าต่องวงมากกวา่ มะพร้าวหมูสี งวงของมะพร้าวใหญ่จะใหญ่กวา่ และยาวกวา่ สามารถให้น้าตาลใสไดน้ านกว่า เม่ือทาการผลิตน้าตาลมะพร้าวต่อตน้ ระหว่างมะพร้าวใหญ่กับ มะพร้าวหมูสี มะพร้าวใหญ่จะให้น้าตาลมากกว่าเป็ นเท่าตวั และอายุการให้ผลผลิตต่องวงจะนาน กวา่ กนั ดว้ ย กำรคดั เลือกพนั ธ์ุมะพร้ำวนำ้ ตำล การคัดเลือกพันธุ์มะพร้าวน้ าตาลน้ าได้ทาต่อเนื่องมาเป็ นเวลาหลายร้อยปี (สมัย สมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีการเก็บ “อากรสวน” เก็บจากไมใ้ นสวนต่าง ๆ เกณฑ์ที่เก็บคือ เก็บจาก ผลไมท้ ่ีออกผลแลว้ มาในรัชการท่ี 4 ดูขนาดดว้ ย ถา้ ตน้ โตเสียมากตน้ เลก็ เสียนอ้ ย “อากรสวน” น้ีมี การประเมิน “นับตน้ ” เป็ นคร้ังคราวเรียกว่า “การเดินสวน” ทาให้ชาวบา้ นตอ้ งคดั เลือกพนั ธุ์ปลูก เฉพาะที่มีคุณภาพดีให้ผลมาก ถา้ ไม่ดี ฟันทิ้งเสียเพราะไม่คุม้ ภาษี) เป็ นภูมิปัญญาจากการสังเกต ลูบคลาอยู่ทุกวนั หรือเป็นวิถีเป็ นจิตวิญญาณของคนสวนมะพร้าว มะพร้าวที่คอใหญ่ ทางมะพร้าว ใหญ่คร้ึม ทางถ่ี หมายถึงการออกทางบ่อยและ ชิดกนั ทางใหญ่ส้ันมีกา้ นใบถ่ี หมายถึงใบท่ีติดอยู่ กบั ทางมะพร้าวน้นั ถ่ีแน่นชิดกนั ออกงวงถ่ี หมายถึง ออกดอกหรือจน่ั บ่อย มะพร้าวลกั ษณะน้ีหา อาหารเก่งมี “กาลงั ” มาก ใหน้ ้าตาล (สด) มาก และยนื ระยะให้ผลผลิตไดน้ าน ซ่ึงจะเร่ิมให้น้าตาล หรือมีงวงเม่ืออายไุ ด้ 5-6 ปี ซ่ึงชาวสวนส่วนใหญ่ใชก้ ารสังเกตท่ีเวลาทาน้าตาลมะพร้าวตน้ ไหนให้ผลผลิตสูง เขาจะ เวน้ ไวใ้ ห้ลูก 1 อนั โดยตน้ น้ันจะเป็ นตน้ ที่อายมุ ากและปลูกในที่ดอนมากกว่าท่ีลุ่ม แลว้ นามาปลูก เป็ นพนั ธุ์เพ่ือเสริมตน้ เดิม แต่บางคร้ังก็พลาดเน่ืองจากมะพร้าวเป็ นไมผ้ ลให้เมล็ดบางคร้ังปลูกไป อาจจะใหน้ ้าตาลนอ้ ยเน่ืองจากผสมขา้ มตน้ ขา้ มพนั ธุ์ และมะพร้าวเป็นไมผ้ ลท่ีใหน้ ้าตาลเมื่อเขา้ ปี ท่ี 7 แลว้ ถา้ ปลูกให้ผลผลิตน้อยกว่าจะรู้ว่าเป็ นเช่นน้นั ก็เขา้ ปี ท่ี 10 ซ่ึงเขา้ ไปเกือบคร่ึงอายุคน จึงเป็ น สาเหตุหน่ึงท่ีอาชีพตาลแทบหมดไปจากจงั หวดั สมุทรสงคราม เน่ืองจากความไม่แน่นอนของพนั ธุ์ มะพร้าว
26 กำรปลกู มะพร้ำวทำตำล เมื่อชาวสวนไดค้ ดั เลือกพนั ธุ์แลว้ ว่ามะพร้าวตาลตน้ ไหนดีท่ีจะเอาไวท้ าพนั ธุ์ ชาวสวนจะ ปล่อยให้ติดลูกในช่วงฤดูฝน เม่ือลูกมะพร้าวมีสีเหมือนก้ามปูทะเลที่ยงั ไม่ได้ตม้ และตูดเป็ นสี น้าตาลบา้ งแลว้ ไม่ออ่ นและไมแ่ ก่เกินไป (ถา้ อ่อนเกินไปเมื่อนาไปเพาะหวั จุกและกะลาจะเน่า ถา้ แก่ เกินไปหรือปล่อยให้ตกลงมาเอง จะกระเทือนมากอตั ราการงอกเป็ นตน้ จะไม่ดี และพนั ธุ์จะกลาย) แลว้ เพาะเอาไว้ (วิธีเพาะเหมือนการเพาะมะพร้าวทวั่ ๆ ไป) เม่ือถึงฤดูฝนปี ถดั ไปมะพร้าวที่เพาะไว้ จะมีใบอ่อน 2-3 ใบ เป็นเวลาที่มะพร้าวไดก้ ินอาหารท่ีสะสมอยใู่ นรูปของจาวมะพร้าว ที่อยภู่ ายใน กะลาหมดแลว้ รากเริ่มกินดินแลว้ ใหใ้ ชม้ ีดคม ๆ มาตดั รากนาไปลงหลงั ร่องสวนท่ีเตรียมดินไวแ้ ลว้ โดยมีหลกั การ“ปลูกถ่ีออกงวงช้ำ สูงเร็ว ปลูกห่ำงออกงวงมำกสูงช้ำ” ชาวสวนจะลงมะพร้าวหลงั ร่องให้มีระยะห่างกันตน้ ละประมาณ 4 วา หรือ 4 วาเศษ ( 1 วา ประมาณ 2 เมตร) จานวนที่ลงอยู่ ระหว่าง 7-12 ตน้ ต่อความยาวของหลงั ร่องหรือความยาวของขนดั สวนหน่ึง ๆ หลงั จากน้นั จะมีการ ทาดินเสริมหลงั ร่องหรือโกยดินทุก ๆ 1-3 ปี ต่อคร้ัง เหตุท่ีทาเช่นน้ีเพราะรากมะพร้าวก็ขยายกวา้ ง ออกไปตาม ในขณะเดียวกนั น้าข้ึนลงในทอ้ งร่องสวนทุกวนั จะพาเอาตะกอนมาทบั ถมการโกยดิน หรือ “ทาดิน” ลงุ สาราญบอกว่าเป็นการใหป้ ๋ ุยมะพร้าวอยา่ งหน่ึง ทาใหม้ ะพร้าวตาลมีน้าตาลใสมาก ข้นึ ตน้ สมบูรณ์ข้นึ ดีกวา่ ใส่ป๋ ยุ วทิ ยาศาสตร์อีก สวนมะพร้ำวทำตำลยคุ เก่ำของสมทุ รสงครำม ข้อสรุปพนั ธ์ุมะพร้ำวทใ่ี ช้ทำนำ้ ตำลมะพร้ำว การเลือกพนั ธุ์มะพร้าวในการทาน้าตาลมะพร้าวชาวสวนจะใชว้ ิธีเลือกพนั ธุ์ท่ีสามารถทน ต่อสภาพของดินบริเวณต่าง ๆ ในแตล่ ะทอ้ งท่ีได้ เช่น พนั ธุ์สีนนชาจะปลูกไดด้ ีในพ้ืนท่ีน้าเคม็ ส่วน บริเวณน้ากร่อยจะมีการปลูกหลายพนั ธุ์เพราะมะพร้าวส่วนมากจะเจริญเติบโตไดด้ ีในดินกร่อยมีน้า
27 ตลอดปี ดงั น้นั บริเวณน้ากร่อยจึงมีการปลูกมะพร้าวหลากหลายพนั ธุ์ พนั ธุ์ใดท่ีให้ผลผลิตน้าตาล มากก็จะเลือกพนั ธุ์น้นั ปลูก ส่วนบริเวณพ้ืนที่น้าจืดน้นั เป็นแหล่งสวนมาแต่โบราณต้งั แต่สมยั อยุธยา และเป็นแหล่งรวมของพนั ธุ์ผลไมน้ านาชนิดของไทยในลุ่มน้าหน่ึง ในลุ่มน้าที่สาคญั ของประเทศ ไทย เช่น ล่มุ น้าเจา้ พระยาแหลง่ สวนจะอยู่บริเวณ กรุงเทพ ธนบรุ ี นนทบุรี สมุทรปราการ ลมุ่ น้าท่า จีนก็จะมีสวนอยู่ต้งั แต่อาเภอนครชยั ศรี จงั หวดั นครปฐม ลงไปจนถึงจงั หวดั สมุทรสาคร และ สวนท่ีลุ่มน้าแม่กลองจะมีสวนอยบู่ ริเวณอาเภอบางคนที อาเภออมั พวา จงั หวดั สมุทรสงคราม ส่ิงที่ ปรากฏอย่างหน่ึงของสวนในแต่ละลุ่มน้าคือจะอยใู่ นรัศมีท่ีทาให้เกิดน้าข้ึน-ลงได้ ห่างจากปากอ่าว ประมาณ 30-40 กิโลเมตร จะเป็นแหลง่ รวมของผลไมท้ ่ีมีคณุ ภาพหลากหลายชนิด บริเวณอาเภอบาง คนทีและอาเภออมั พวาที่เป็นบริเวณน้าจืดจึงเป็ นแหล่งที่ต้งั ของชุมชนที่เก่าแก่มีอายุนบั ร้อยปี จึงมี การสั่งสมและพฒั นาพนั ธุ์พืชผลไมต้ ่าง ๆ หลากหลายชนิดรวมท้งั พนั ธุ์มะพร้าวดว้ ย บริเวณน้ีจึงมี พนั ธุม์ ะพร้าวท่ีมีคณุ ภาพดีท้งั ความมนั ของเน้ือมะพร้าวแก่ และความหวานหอมของน้าตาลมะพร้าว ท่ีสามารถพูดไดว้ ่าเป็ นที่ยอมรับของทอ้ งถิ่นอื่นในเรื่องคุณภาพและรสชาติ แต่พนั ธุ์มะพร้าวที่พบ กนั มากและนิยมปลูกเพ่ือทาน้าตาลคือมะพร้าวพนั ธุ์หมูสีหมอ้ ซ่ึงเป็นพนั ธุ์ท่ีมีการผสมกนั ระหว่าง มะพร้าวกะโหลกกลม (มะพร้าวพนั ธุ์ใหญ่) กบั มะพร้าวพนั ธุ์หมูสีหนู (มะพร้าวพนั ธุ์เล็ก) นนั่ เอง ซ่ึงพนั ธุ์มะพร้าวพนั ธุ์น้ีไม่สามารถปลูกไดผ้ ลดีในบริเวณพ้ืนที่ดินเคม็ และ พ้ืนท่ีดินกร่อย จึงจดั ว่าพนั ธุ์มะพร้าวหมูสีและพนั ธุ์มะพร้าวหมูสีหมอ้ จึงเป็ นพนั ธุ์พ้ืนเมืองของพ้ืนท่ีบริเวณน้าจืดของ จงั หวดั สมุทรสงคราม แต่ถา้ จะปลูกมะพร้าวเพอื่ การทาน้าตาลมะพร้าวเป็นอาชีพหลกั แลว้ ชาวสวนน้นั จะใชพ้ นั ธุ์ มะพร้าวใหญ่เน่ืองจากให้ผลผลิตไดด้ ีกว่า มีงวงยาวใหญ่ ให้งวงตลอดปี ปลูกไดท้ ุกสภาพพ้ืนดิน อายยุ นื ใหผ้ ลผลิตไดด้ ีกวา่ มะพร้าวพนั ธุ์อ่ืน พนั ธุ์มะพร้าวท่ีชาวบา้ นเรียกกนั ในจงั หวดั สมุทรสงคราม มีดงั น้ี 1. มะพร้าวใหญ่กะโหลกกลม 2. มะพร้าวแดง 3. มะพร้าวเขยี ว 4. มะพร้าวลาย 5. มะพร้าวใหญเ่ หลือง 6. มะพร้าวกะโหลกซอ 7. มะพร้าวไฟ 8. มะพร้าวนาฬิเก
28 9. มะพร้าวนาฬิเกน้าหอม 10. มะพร้าวหมูสีหนู 11. มะพร้าวหมสู ีหมอ้ 12. มะพร้าวทะเลบา้ 13. มะพร้าวลกู ทุย 14. มะพร้าวพนั ธุ์สายบวั 15. มะพร้าวพนั ธุส์ ีนนชา 16. มะพร้าวพนั ธุเ์ ทิ้งบอ้ ง
29 กจิ กรรมที่ 4 1.ทาไมการทาสวนมะพร้าวของชาวสมทุ รสงครามตอ้ งยกร่องสวน ……………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. เหตุใดมะพร้าวพนั ธุต์ าลในแต่ละทอ้ งท่ีปลกู แตกต่างกนั ไป ……………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. จากการศึกษาเน้ือหาเรื่องมะพร้าว ถา้ ตอ้ งประกอบอาชีพการปลูกมะพร้าวจะมีโครงการพฒั นา อาชีพอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
30 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ืองของมะพร้ำว 1. พืชในขอ้ ใดที่มีลกั ษณะเหมือนมะพร้าว ก. สาคู ข. มะม่วง ค. มะเหมี่ยว ง. ลาไย 2. มะพร้าวส่วนใหญ่ปลูกอยใู่ นบริเวณใด ก. เกาะในมหาสมทุ รอินเดีย ข. เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิ ค ค. เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติค ง. ถูกทกุ ขอ้ 3. มะพร้าวออกผลไดน้ านจนอายไุ ดน้ านประมาณกี่ปี ก. 20 – 30 ปี ข. 30 - 50 ปี ค. 60 - 80 ปี ง. 80 - 90 ปี 4. ลกั ษณะใดที่ชาวสวนใชเ้ ป็นเกณฑใ์ นการคดั เลือกพนั ธุ์มะพร้าวท่ีใหน้ ้าตาลมาก ก. มีผลขนาดใหญ่ ข. มีขนาดใบยาวใหญ่ ค. มีลาตน้ สูงและปลอ้ งห่าง ง. ใหผ้ ลเร็วและมีงวงถ่ี 5. มะพร้าวท่ีทาน้าตาลมะพร้าวพนั ธุ์ใดท่ีนิยมปลูกในพ้นื ท่ีน้าเคม็ ก. มะพร้าวพนั ธุ์แดง ข. มะพร้าวพนั ธุส์ ีนนชา ค. มะพร้าวพนั ธุห์ มสู ีเขยี ว ง. มะพร้าวพนั ธุก์ ะโหลกกลม
31 6. ชาวสมทุ รสงครามนิยมปลูกมะพร้าวแบบใด ก. ปลูกแบบยกโคก ข. ปลูกในที่ตอ่ แผน่ ค. ปลูกแบบยกร่อง ง. ปลูกในพ้นื ที่ดอน 7. ขอ้ ดีของมะพร้าวพนั ธุล์ ูกผสม คือขอ้ ใด ก. ใหผ้ ลผลิตสูง ข. ลาตน้ เต้ีย ค. มีเน้ือหนากวา่ พนั ธุ์อื่นๆ ง. เป็นท่ีนิยมมากกวา่ พนั ธุ์อื่น 8. ชาวสวนที่ทาน้าตาลมะพร้าวจึงเลือกปลกู มะพร้าวพนั ธ์ใหญ่ เพราะเหตใุ ด ก. มีงวงขนาดพอดี สามารถรองในกระบอกได้ ข. มีลาตน้ สูงใหญ่ สามารถต้งั พะองไดด้ ี ค. มีงวงยาว ใหง้ วงตลอดปี ง. ปลกู ไดใ้ นพ้นื ท่ีเฉพาะ 9. การเลือกพนั ธุ์มะพร้าวในแต่ละพ้นื ที่ ชาวสวนคานึงถึงเร่ืองใดเป็นสาคญั ก. สภาพของน้าบริเวณที่ปลกู ข. สภาพดินในบริเวณท่ีปลกู ค. การเดินทางเขา้ ออกในสวนมะพร้าว ง. การตลาดของการขายมะพร้าวที่เลือกปลูก 10. มะพร้าวพนั ธุใ์ ดนิยมนามาทาน้าตาลมะพร้าว ก. พนั ธุ์คอ่ ม ข. นาฬิเก ค. หมสู ี ง. น้าหอม
32 แบบทดสอบก่อนเรียน กำรทำน้ำตำลมะพร้ำวของสมุทรสงครำม 1. ส่วนใดของมะพร้าวที่ใหน้ ้าตาลใส ก. ผล ข. ยอด ค. ดอก ง. เมลด็ 2. น้าตาลมะพร้าวในสมยั โบราณชาวสวนเรียกวา่ อยา่ งไร ก. น้าตาลปึ ก ข. น้าตาลปี บ ค. น้าตาลหมอ้ ง. น้าตาลตะโหนด 3. เตาเคย่ี วน้าตาลประเภทใดประหยดั เช้ือเพลิงมากที่สุด ก. เตารุน ข. เตาโดด ค. เตาหลุม ง. เตาปล่อง 4. เตาปลอ่ งใชห้ ลกั การวิทยาศาสตร์ ขอ้ ใด ก. การเคลื่อนที่ของอากาศ ข. การควบคมุ อณุ หภูมิความร้อน ค. การนา การพา การแผร่ ังสีความร้อน ง. การขยายตวั ของอากาศเมื่อไดร้ ับความร้อน 5. ชาวสวนตาลใชอ้ ะไรเป็นสารกนั น้าตาลบูดก่อนนาน้าตาลมาเคย่ี ว ก. ไมม้ ะขาม ข. ไมพ้ ะยอม ค. ไมข้ ้ีเหลก็ ง. ไมส้ กั
33 6. เมื่อเคีย่ วน้าตาลไปไดร้ ะยะหน่ึง น้าตาลจะผดุ ตรงกบั หลกั การ วทิ ยาศาสตร์ ในขอ้ ใด ก. เกิดการรวมตวั ของน้าตาลเป็นของแขง็ ข. การระเหยของขอเหลวกลายเป็นไอ ค. การระเหิดของน้าตาลเป็นกา๊ ซ ง. เกิดการตกผลึกของน้าตาล 7. การท่ีน้าตาลในกระทะท่ี 3 ท่ี 4 ของเตาปล่องเดือดไดเ้ ป็นเพราะเหตุใด ก. ความร้อนจากเช้ือเพลิงถูกกระทะที่วางเรียงพาไป ข. ความร้อนถกู แผร่ ังสีโดยผา่ นช่องไฟในเตาปล่อง ค. ความร้อนท่ีเกิดจากการเผาอิฐหนา้ เตา ง. ความร้อนจากเช้ือเพลิงนาไป 8. วธิ ีการใดเป็นวิธีการที่ทาใหน้ ้าตาลใสเปล่ียนสถานะจากของเหลวเป็นของแขง็ ก. การสุ่มน้าตาล ข. การหยอดน้าตาลเป็นปึ ก ค. การปุดของน้าตาลท่ีเคย่ี วบนเตา ง. การหมนุ กระทะน้าตาลในขณะที่ปุด 9. ขอ้ ใดไม่ใช่ภูมิปัญญาการเค่ยี วน้าตาล ก. การสังเกตการปุดของน้าตาล ข. การเหนี่ยวงวงมะพร้าว ค. การสร้างเตาปลอ่ ง ง. การสุ่มน้าตาล 10. วธิ ีการใดทางกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่ชาวสวนตาลใชม้ ากที่สุด ก. การสังเกต ข. การทดลอง ค. ระบุปัญหา ง. ต้งั สมมติฐาน
34 บทท่ี 2 กำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำวของสมุทรสงครำม สำระสำคญั ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าวในจงั หวดั สมุทรสงคราม ตลอดจนการแนะนา อุปกรณ์การใชเ้ คร่ืองมือในการทาน้าตาลมะพร้าว ผลกำรเรียนรู้ทคี่ ำดหวัง น้าตาลมะพร้าว 1.เพื่อใหผ้ เู้ รียน มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั เครื่องมือและวตั ถดุ ิบในการทา 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เกี่ยวกบั การทาน้าตาลมะพร้าว ขอบข่ำยเนื้อหำ 1. ความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว 2. แนะนาเก่ียวกบั อปุ กรณ์เครื่องมือที่สาคญั ในการทาน้าตาลมะพร้าว 3. ข้นั ตอนและกระบวนการในการทาน้าตาลมะพร้าว
35 เร่ืองท่ี 5 ควำมเป็ นมำของน้ำตำลมะพร้ำว ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินเป็นองคค์ วามรู้ประจาทอ้ งถิ่น หรือวทิ ยาศาสตร์ชาวบา้ นท่ีพฒั นาข้ึนจาก ประสบการณ์ส่ังสมมาจนเกิดความชานาญแลว้ ถ่ายทอดความรู้ความสามารถกนั ต้งั แต่ครอบครัวไป จนถึงชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบนั การพฒั นาเกิดข้ึนโดยศกั ยภาพของมนุษยท์ ี่ตอ้ งอาศยั และเก้ือกูล จากธรรมชาติทาให้เกิดประโยชน์ในการดารงชีวิตในแนวทางท่ีสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติและวิถี ชาวบา้ นจนเกิดเป็นความเชื่อ กฎเกณฑ์ และวฒั นธรรมข้ึนในชุมชน การทาน้าตาลมะพร้าวของชาวสมุทรสงครามนบั เป็นภูมิปัญญาชาวบา้ นของทอ้ งถิ่นเช่นกนั จงั หวดั สมุทรสงครามมีการทาน้าตาลมะพร้าวกนั มาก และทามานานนบั ร้อยปี จากหลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์การเสด็จประพาสตน้ ของรัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว) ไดม้ ีการพบเห็นการเคีย่ วตาลมะพร้าว ในจงั หวดั สมุทรสงครามแลว้ โดยเฉพาะที่ตาบลบางชา้ ง มี คากล่าวติดปากกันว่า “บำงช้ำงสวนนอก บำงกอกสวนใน” แต่เดิมบา้ นสวนติดแม่น้าแม่กลอง ต้งั แต่เขตติดต่อดาเนินสะดวกลงมาจนถึงบางคนที-อมั พวา คนต่างถิ่นจะเรียกย่านน้ีรวม ๆ กนั ว่า “บางชา้ ง” ซ่ึงมีช่ือมากในเร่ืองน้าตาลมะพร้าว พริก หอม กระเทียม หมาก พลู ผกั ใบยาจืด เป็น ตน้ เป็นบา้ นสวนท่ีมีคลองและลากระโดงต่าง ๆ นบั ร้อยนบั พนั เช่ือมทะเลถึงกนั หมด และมีย่าน การคา้ เป็นชุมชนริมแม่น้าและลาคลอง และในปัจจุบนั ยงั มีหอ้ งแถว ร้านคา้ ท่ีแสดงลกั ษณะชุมชน แบบชาวลุ่มแม่น้าอยู่ เช่น คลองอมั พวา คลองบางจาก คลองบางนอ้ ย คลองบางนกแขวก หรือ คลองดาเนินสะดวก น้าตาลท่ีน่ีเป็ นสุดยอดในความหวานมนั หอม พริกที่นี่เม็ดโตภายในมีเม็ดน้อยรสไม่เผด็ เกินไป และยงั มีรสมนั หมากที่นี่เน้ือละเอียดแน่นน่ิมมีรสฝาด รสมนั กว่า ท่ีไหน ส่วนทุเรียน ลาไย ก็เคยมีมาเพ่ิงหมดไปเมื่อสร้างเขื่อนท่ีจงั หวดั กาญจนบุรีตน้ แม่น้าแม่กลอง มะม่วงอกร่อง หวานหอมยงั มีหลงเหลืออยู่นิดหน่อยส่วนบางกอกสวนในน้นั คงกินบริเวณรวมไปถึงเขตนนทบุรี ดว้ ย เป็นแหลง่ สวนผลไมช้ ้นั ดีจาพวกกระทอ้ น ทุเรียน มงั คุด เป็นตน้ จึงใหม้ ีคาพูดที่กล่าวไวข้ า้ งตน้ แตโ่ บราณมา ในปัจจุบนั เมื่อไม่ใชก้ ารคมนาคมทางเรือ ไม่มีการเดินเรือมาคา้ ขายแลกเปลี่ยนสินคา้ กัน กลบั มีแต่ทางรถยนตม์ ากมาย ชื่อบา้ นชื่อบางก็เปลี่ยนแปลงไป บางชา้ งก็เลยเหลืออย่เู ป็ นช่ือตาบล เล็ก ๆ ในเขตอาเภออัมพวาเท่าน้ัน เม่ือพูดถึงน้าตาลบางช้างท่ีมีช่ือมาแต่อดีตจึงไม่ได้หมายถึง
36 บางชา้ งอนั เป็นตาบลเลก็ ๆ ตามเขตการปกครองของมหาดไทยในปัจจุบนั แต่หมายถึงน้าตาลจาก เมืองแม่กลองสมุทรสงครามท้งั หมดช่ือบา้ นเท่าน้ันท่ีหดหายไป แต่วิธีทาน้าตาลหรือภูมิปัญญา ชาวบา้ นน้นั ยงั ดารงอยู่ ยงั สืบทอดกนั ลงมาไม่ขาดสาย น้าตาลบางชา้ งคือน้าตาลจากเมืองแม่กลอง ไม่วา่ จะทาที่บางนางล่ี บางขนั แตก ทา้ ยหาด ปลายโพงพาง ลาดใหญ่ นางตะเคียน คลองเขิน ท่าคา เหมืองใหม่ บางกระบือ บางใหญ่ บางนอ้ ย ฯลฯ ขอใหเ้ ขา้ ใจวา่ คือ น้าตาลคุณภาพดี คนอย่ทู างไกล อาจไม่รู้ว่าน้าตาลมะพร้าวแท้ ๆ น้ันทาขนมไทย ๆ ได้หวานหอมอร่อยอย่างไร คนไกลก็กินแค่ น้าตาลหลอมไปเถอะ ในบรรดาประชาชนคนขยนั ของจงั หวดั สมุทรสงครามถา้ จดั อนั ดบั ไม่มีใคร ขยนั เกินกว่าชาวสวนตาล (มะพร้าว) เพราะงานอาชีพน้ีตอ้ งการเวลามากกว่าอาชีพ อื่น ๆ ตอ้ งมี ความอดทน มีความพิถีพิถนั มีความช่างสงั เกต รักในอาชีพน้ี เนื่องจากเป็นอาชีพท่ีใชแ้ รงงานมาก มี รายละเอียดของการทางานมาก มีข้นั ตอนมาก การข้ึนตาลวนั ละสองรอบเชา้ -เยน็ ช่วงระหวา่ งท่ีไม่ ข้ึนตาลกค็ ือการเคยี่ วน้าตาล การทาความสะอาดเครื่องมือและอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ และการหาฟื น อาชีพทาน้าตาลมะพร้าวเป็ นอาชีพที่มีความเสี่ยงเน่ืองจากตน้ มะพร้าวเป็ นไมท้ ี่มีความสูง เวลาข้ึนตอ้ งใชพ้ ะอง บางคร้ังก็พลาดพล้งั ตกลงไปในทอ้ งร่องสวนเน่ืองจากความเก่าของพะองบา้ ง ความล่ืนในหนา้ ฝนบา้ ง บางคร้ังกอ็ าจบาดเจบ็ เลก็ นอ้ ย บางคร้ังกต็ ายหรือพิการท้งั ที่เป็นอาชีพสุจริต คนไม่รักสงบไม่อดกล้นั ก็จะทาตาลไม่ได้ ชาวสวนตาลมกั เป็ นคนพูดนอ้ ย อดทนกบั ทุกเร่ืองราว ยมิ้ เก่ง อารมณ์ดี หนกั แน่น รักแผน่ ดิน ผกู พบั แผน่ ดินอยา่ งลึกซ้ึง ยงิ่ เป็นท่ีทางพ่อแม่ใหส้ ืบต่อกนั มา ยิ่งรักษา หวงแหนเป็ นพิเศษ จากการสัมภาษณ์ ลุงสาราญ แสงพนั ธ์ อดีตผูใ้ หญ่บา้ นหมู่ 1 ตาบล คลองเขิน ปัจจุบนั อายุ 69 ปี ลุงเล่าวา่ ลุงทาตาลมาต้งั แต่อายุ 15 ปี เป็นเวลา 54 ปี มาแลว้ ทาน้าตาล มานานแลว้ ต้งั แต่สมยั พ่อมา น่าจะทามาประมาณกว่า 100 ปี เม่ือก่อนเตาตาลจะมีเกือบทกุ บา้ น ช่วง หลงั มีนอ้ ยลงเพราะคนรุ่นใหมไ่ ม่ข้นึ ตาล ซ่ึงการทาตาลในเขตตาบลคลองเขินน้ีจะทาหลงั น้าตาลใน เขตอาเภออมั พวา และบางคนที แสดงให้เห็นวา่ อาชีพน้ีมีมานาน ปัจจุบนั ลุงสาราญก็ยงั เค่ียวตาลอยู่ ครอบครัวและ ลูก ๆ บางส่วนยงั ทาตาล ลุงมีลูกชายเป็ นกรรมการองค์การบริหารส่วนตาบล คลองเขินก็ยงั สานความรู้สึกผูกพนั ในอาชีพทาตาลโดยไดร้ วมกลุ่มการทาน้าตาลคุณภาพเพื่อหวงั ใหอ้ าชีพทาน้าตาลมะพร้าวยงั อยคู่ ู่แผน่ ดินของชาวสมทุ รสงคราม และยงั คงมาตรฐานน้าตาลแทท้ ี่มี ความหวานหอมมนั ยงั คงอยตู่ อ่ ไป
37 กจิ กรรมที่ 5 1. ความเป็นมาของน้าตาลมะพร้าว มีความเป็นมาอยา่ งไร จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. แหลง่ ที่มีการทาน้าตาลมะพร้าว ส่วนใหญใ่ นจงั หวดั สมุทรสงคราม อยใู่ นแหลง่ ใดบา้ ง และ คิดวา่ ผลผลิตแต่ละแหล่งมีความแตกต่างกนั หรือไม่อยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
38 เร่ืองที่ 6 เครื่องมือและวัตถดุ ิบในกำรทำนำ้ ตำลมะพร้ำว การทาน้าตาลมะพร้าวนอกจากจะมีข้ันตอนมากมายแล้ว ยงั ใช้อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ รวมท้งั วตั ถดุ ิบในการทาน้าตาลมะพร้าวมาก สามารถแบ่งไดด้ งั น้ี ข้ันตอนกำรขนึ้ ตำลและเหน่ียวงวงปำดตำล พะอง และกระบอก พะองและกระบอกตาลทาจากไมไ้ ผ่ ซ่ึงไมไ้ ผ่ท่ีใช้ในการทาพะองสาหรับปี นข้ึนไปปาด ตาลและทากระบอกสาหรับรอน้าตาลน้นั ในอดีตจะล่องน้ามาจากป่ าเมืองกาญจนบุรีมาจนถึงแม่ กลอง การขนส่งไมไ้ ผ่ทางน้าทาใหไ้ มไ้ ผ่ไม่มีมอดกิน ผิดกบั ปัจจุบนั ท่ีใชก้ ารขนส่งทางบกไม่ไดแ้ ช่ น้า นอกจากน้ีไมไ่ ผแ่ ต่ก่อนมีอายมุ ากเน้ือแกร่ง ลาโต ไม่ไผ่ท่อนแรกจากโคนที่เรียกว่า “ไม้โคนซอ” น้ัน แมจ้ ะมีความแข็งแรงท่ีสุด แต่ก็ไม่ เหมาะที่จะนามาทาไมพ้ ะอง เพราะเน้ือหนาน้าหนักมาก และมีปลอ้ งถี่เกินไปไม่สอดคล้องกับ จงั หวะกา้ วปี นลูกพะอง (ซ่ึงตอ้ งใส่อยู่เหนือขอ้ ) เหมาะกบั การนาไปใชง้ านรับน้าหนกั มาก ๆ เช่น ทาไมเ้ ข็ม ทาเสา หรือเอาไปทอดสะพานสาหรับหาบกระบอกตาลจากหลงั ร่องมายงั ถนนระหวา่ ง ขนดั สวน ไมท้ ี่ใชท้ าพะองคือทอ่ นที่อยถู่ ดั จากโคนซอข้ึนไป ซ่ึงอาจยาวถึง 7 วา (14 เมตร) เป็นทอ่ นที่ มีปลอ้ งห่างข้ึนเหมาะจะนามาเจาะรูเหนือขอแล้วใส่ “ลูกพะอง” หรือลูกสลกั เพ่ือเป็ นข้นั บันได สาหรับเหยยี บข้ึนไป ลกู พะองทาจาก “ไมฝ้ าด” หรือ “ไมก้ วาด” แลว้ แตส่ าเนียงทอ้ งถิ่น ซ่ึงเป็นไมท้ ่ี ข้นึ อยตู่ ามป่ าชายเลน มีเน้ือเหนียวทนทาน อายกุ ารใชง้ านยาวกวา่ ไมพ้ ะอง ไมพ้ ะองเมื่อได้มาจะนามาตัดแขนงให้ได้ขนาดพอเหมาะในการเหยียบข้ึนไป ถา้ ด้าน บนสุดไมม่ ีแขนงท่ีมีขนาดเหยยี บไดจ้ ะใส่ลูกพะองโดยเจาะรูเหนือขอ้ ซ่ึงไมพ้ ะองแตก่ ่อนมีอายุการ ใชง้ านไดถ้ ึง 4-5 ปี แต่ไมพ้ ะองปัจจุบนั เป็นไมอ้ ่อนกว่าและไม่ไดล้ ่องมาทางน้า จะมีขนาดส้ันกว่า เลก็ กวา่ และอายกุ ารใชง้ านส้ันประมาณไมถ่ ึง 2 ปี ก็หมดสภาพเอาไปทาฟื นเคยี่ วตาล การพาดพะองกับตน้ มะพร้าวน้ัน ถา้ มะพร้าวสูง 4 วา ก็ตอ้ งใช้ไม้พะองยาว 5 วา ก็คือ ไมพ้ ะองจะยาวเลยคอมะพร้าวไปประมาณ 1 วา จึงจะมีเสถียรภาพมน่ั คงเวลาปี นข้ึนลง ไมพ้ ะองที่ ยาวท่ีสุดท่ีชาวสวนใชค้ ือไมเ้ จ็ด (ไมย้ าว 7 วา หรือ 14 เมตร) แต่ปัจจุบนั คงหาไมข้ นาดน้ีไดย้ าก ซ่ึง หมายความว่าหากตาลมะพร้าวสูงกว่าน้ีก็ไม่มีไมพ้ ะองจะใช้ ตอ้ งใช้วิธีบากตน้ หรือไม่ก็ตอ้ งลง มะพร้าวซ่อมใหม่ สาหรับกระบอกน้าตาลที่ชาวสวนจะตอ้ งนาไปแขวนรอท่ีงวงน้นั จะมีหลายขนาด แลว้ แต่ ตาลตน้ ไหนออกมากออกนอ้ ย กต็ อ้ งเลือกใชข้ นาดเหมาะสมกนั กระบอกน้ีในอดีตส่วนใหญก่ ็จะทา
39 จากไมไ้ ผ่โดยตอ้ งลอกเปลือกหรือผิวนอกออก เพราะเมื่อนากระบอกไปแขวนรอน้าตาลไว้น้ัน กระบอกจะถูกแดดถูกฝน ถา้ ไม่เอาผิวนอกออกผิวนอกจะรัดเน้ือไมท้ าให้กระบอกแตกร้าวไดง้ ่าย และเม่ือลอกผิวนอกออกแลว้ จะทาใหภ้ ายในกระบอกเยน็ ข้ึนน้าตาลไม่บูดงา่ ยหรือมีฟองมาก เพราะ กระบอกน้าตาลท่ีลอกผิวออกแลว้ น้ี จะใส่ขา้ วใส่โอเล้ียงก็เก็บไวไ้ ดน้ านเหมือนกระติกช้นั ดี และ กระบอกไม้ไผ่น้ีแต่ก่อนชาวสวนจะต้องล้างรมควนั ให้แห้งทุกคร้ังหลังใช้งานทาให้น้าตาลมี กล่ินหอม แต่ปัจจุบนั ไมห้ ายากคุณภาพไม่ดี หรือไมไ้ ม่แก่ จึงตอ้ งหนั มาใช้กระบอกอลูมิเนียมบา้ ง กระบอกพลาสติกบา้ ง ซ่ึงชาวสวนกท็ าความสะอาดดว้ ยวิธีลวกน้าร้อนในกระทะเคี่ยวตาล (ซ้ำย) ไม้พะอง (ขวำ) กระบอกตำล
40 มดี ตำล มีดตาลเป็นอุปกรณ์ที่สาคญั อยา่ งหน่ึงในการทาน้าตาลมะพร้าวมีดตาลท่ีดีที่สุดคมท่ีสุดตอ้ ง ทามาจากเหล็กที่ใช้ทาแหนบรถไฟเน้ือแกร่งคมไม่มีลม้ มีลกั ษณะดงั รูป และตอ้ งมีการดูแลรักษา ความคมคือ ถา้ ข้ึนตาลมากตน้ ชาวสวนจะตอ้ งลบั มีดตาลวนั ละ 2 คร้ัง ก่อนข้ึนตาลแต่ละรอบ หรือ แต่ละม้ือ ถา้ ตาลนอ้ ยอาจลบั มีดตาลก่อนข้นึ ตาลเชา้ คร้ังเดียว มดี ปาดตาล ข้นั ตอนกำรเคย่ี วตำลและบรรจุ เตำตำลเคีย่ วนำ้ ตำล เตาตาลมีความสาคญั ต่อการทาน้าตาลมะพร้าวมาก ถา้ ไม่มีเตาเคี่ยวตาลก็จะไม่สามารถได้ น้าตาลปึ กหรือน้าตาลบรรจุปี บไดเ้ ลย ดงั น้นั เตาเค่ยี วตาลจึงมีความสาคญั ต่อการทาน้าตาลใสใหเ้ ป็น น้าตาลก่อนแขง็ มาก การทาเตาเค่ียวตาลจึงเป็นภูมิปัญญาของทอ้ งถิ่นท่ีมีการทาน้าตาลมะพร้าว และ การทาเตาในแต่ละถิ่นจะมีขอ้ แตกต่างกนั ไปตามสภาพแวดลอ้ มของทอ้ งถิ่นน้ัน ๆ การทาเตาเค่ียว ตาลจะตอ้ งเลือกพ้นื ที่ทาโดยมากจะทาเตาบนที่สูง หรือก่อนสร้างเตาตาลจะตอ้ งถมพ้นื ดินใหส้ ูงเพื่อ ป้องกันน้าท่วมเตา ถ้าน้าท่วมเตาจะไม่สามารถเคี่ยวตาลได้ มีผลทาให้น้าตาลที่ข้ึนมาเสียหาย เน่ืองจากปริมาณน้าตาลที่ข้ึนมามีจานวนมากในแตล่ ะวนั ดงั น้นั เตาที่ใชเ้ คย่ี วตาลจึงมีขนาดใหญ่กวา่ การทาเตาหุงตม้ อาหาร และภาชนะที่ใชเ้ คี่ยวตาลจะใชก้ ระทะในการตม้ น้าตาล กระทะจะตอ้ งเป็ น กระทะขนาดใหญ่ เพราะการตม้ น้าตาลจะมีส่วนหน่ึงท่ีเป็ นน้าถูกระเหยกลายเป็ นไอเป็ นจานวน มากกว่า คือถา้ ปริมาณน้าตาล 1 กระทะ จะใชน้ ้าตาลใส 100 ลิตรเม่ือตม้ หรือเค่ียวจนเดือดเหลือแต่ เน้ือน้าตาลจะมีน้าตาลเขม้ ขน้ ประมาณ 5-8 ลิตร ถา้ ใชภ้ าชนะที่มีรูปทรงเท่ากนั จะทาใหเ้ กิดการไหม้ ของเน้ือน้าตาล ดงั น้นั ภาชนะที่ใชเ้ คี่ยวตาลที่ดีคือกระทะ จึงตอ้ งออกแบบเตาเคี่ยวตาลเป็นพเิ ศษดว้ ย และมีการพฒั นารูปแบบของเตาเค่ียวตาลมานานจนได้รูปแบบท่ีมีประสิทธิภาพดีและประหยดั เช้ือเพลิง จึงสามารถแบง่ ข้นั ตอนและการพฒั นาเตาเคี่ยวตาลได้ ดงั น้ี
41 1. เร่ิมแรกของกำรรู้จักวธิ ีกำรทำน้ำตำลมะพร้ำว ชาวสมุทรสงครามเร่ิมรู้จกั การทาน้าตาลจากตน้ มะพร้าวมาเคี่ยวเป็ นน้าตาลมานาน หลายชว่ั คนแลว้ ในสมยั แรกจะเรียกน้าตาลหมอ้ คือ เมื่อเค่ียวน้าตาลจะแหง้ แลว้ นามาบรรจุลงหมอ้ ท่ีทาดว้ ยดินเผาเรียกวา่ “หมอ้ ตาล” มีลกั ษณะเป็นหมอ้ ปากกวา้ งกน้ มน ความสูงของหมอ้ ประมาณ 3 นิ้ว เส้นผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 10-12 นิ้ว ในช่วงน้นั ยงั คงไม่ทาน้าตาลมะพร้าวเป็นอาชีพ แต่จะทา การเค่ียวไว้เพ่ือใช้ประกอบอาหารในครัวเรือน หรือแลกเปล่ียนกันในชุมชนเท่าน้ัน สมยั น้ัน ลกั ษณะของเตาเค่ียวตาลก็จะเป็นเตำโดด คือ ก่อดว้ ยอิฐเคี่ยวน้าตาลทีละกระทะต่อมาน้าตาลเป็ นที่ ตอ้ งการของคนท้งั ในและนอกทอ้ งถ่ินมากข้ึน จึงมีการทาน้าตาลเพื่อเป็นอาชีพมีการซ้ือขายเกิดข้นึ นอกชุมชน ปริมาณน้าตาลมีมากข้ึน เตาเค่ียวตาลแบบเตาโดดจึงไดพ้ ฒั นาเป็นเตำดุน ซ่ึงมี 2 กระทะ ตอ่ ช่องไฟใหถ้ ึงกนั และตอ่ ช่องมีรูใหค้ วนั ออกเป็นหลาย ๆ รู เพื่อนากระบอกน้าตาลที่ลา้ งเสร็จแลว้ มาคว่าลงเพ่ือรมควนั ให้แห้ง ทาใหภ้ ายในกระบอกสะอาด การทาน้าตาลในสมยั น้ันจึงมีคุณภาพดี และมีกลิ่นหอมเน่ืองจากกระบอกมีความสะอาดมาก การเคี่ยวตาลดว้ ยเตาดุนมีการนิยมทากันมาก จนถึงสมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ยงั มีการพฒั นาเป็ นเตำปล่อง เพราะหลงั สงครามโลกมีการพฒั นา ดา้ นเศรษฐกิจมาก เป็ นยุคฟ้ื นฟูประเทศ มีการคา้ ขายแบบเสรีเกิดข้ึนมาก การประกอบอาชีพใน สภาวะเพื่อการคา้ ขายเป็ นเงินตรา มีการขยายพ้ืนท่ีในการปลูกมะพร้าวมากข้ึน มีการทาน้าตาล มะพร้าวกนั มากข้ึน การเคี่ยวตาลแบบเตาดุนไม่ทนั ต่อปริมาณน้าตาลจานวนมากจึงพฒั นาเป็ นเตา ปล่อง แต่เตาดุนยงั คงมีการใชก้ บั ครอบครัวท่ีมีปริมาณน้าตาลนอ้ ยอยู่ 2. ยคุ กำรทำน้ำตำลมะพร้ำวเฟื่ องฟู ในยคุ น้ีเริ่มต้งั แตส่ งครามโลกคร้ังที่ 2 ยตุ ิลง ประเทศทาการพฒั นาดา้ น เศรษฐกิจมีการ คา้ ขายกนั มากท้งั ในและนอกประเทศ มีการใช้แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบบั ที่ 1 ประเทศมีความต้องการน้าตาลสูง การผลิตน้าตาลไม่เพียงพอกับความต้องการของผูบ้ ริโภค ภายในประเทศ เน่ืองจากประชากรเพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็ว ชาวสวนในจงั หวดั สมุทรสงครามจึงปลูก มะพร้าวกนั มากข้ึน ในครอบครัวมีแรงงานมากเน่ืองจากมีลูกมากจาเป็ นตอ้ งหารายไดเ้ พ่ิมมากข้ึน อาชีพทาน้าตาลมะพร้าวสามารถตอบสนองความตอ้ งการการใชแ้ รงงานในครัวเรือนไดด้ ี มีการใช้ แรงงานทาตาลครอบครัวละ 3-10 คน ดังน้ันปริมาณน้าตาลใสที่ไดใ้ นแต่ละวนั มีมากข้ึนจนเกิน กาลงั ท่ีจะใชเ้ ตาแบบเดิม คือเตาโดด และเตาดุน ทาการเคย่ี วตาล จึงไดม้ ีการทาเตาปลอ่ งมาใช้ เพราะ เตาปล่องเป็นเตาขนาดใหญ่ที่สามารถเคี่ยวน้าตาลไดค้ ร้ังละมาก ๆ และเป็นเตาท่ีประหยดั เช้ือเพลิง มากกวา่ เตาดุน เตาปล่องมีต้งั แต่ 3 กระทะ ไปจนถึง 18 กระทะ (เป็นเตาคู่) ความร้อนของเตาแบบน้ี จะสูงเพราะมีปล่องสาหรับดูดความร้อนภายในเตา
42 การทาเตาปล่องในยุคน้นั ครอบครัวท่ีมีที่ดินมากมีการทาน้าตาลมะพร้าวมากจะลงทุน สร้างเตาปล่อง ซ่ึงในแต่ละเตาจะผลิตน้าตาลแหง้ ไดว้ นั ละ 2 ปี บไปจนถึง 45 ปี บ จึงมีการสร้างเตา ปล่องกนั เพราะการสร้างเตาปล่องใชท้ ุนสูง และตอ้ งใชเ้ น้ือที่มาก ตอ้ งมีพ้ืนท่ีโรงเรือนสาหรับเก็บ เช้ือเพลิง เก็บวสั ดุและผลผลิต ถา้ ครอบครัวใดเค่ียวตาลไดน้ ้าตาลไม่ถึง 1 ปี บ จะไม่สร้างเตาปล่อง เพราะไม่คุม้ กบั การลงทุน จึงจะใช้วิธีทาน้าตาลใสท่ีข้ึนได้ไปฝากไวก้ ับเจา้ ของเตาปล่องเรียกว่า “การเขา้ ยาม” วิธีคิดจะใชก้ ารตวงปริมาณโดยจะกาหนดเครื่องมือในการตวงเป็นขอ้ ตกลงร่วมกนั เช่น เป็นไห คือ ใชไ้ หดินเผาที่ใชด้ องกระเทียมใส่น้าตาลใสเตม็ ไห เรียกวา่ 1 ไห ในบางท่ีใชก้ ารวดั ปริมาณความสูงของน้าตาลในท่ีตวงลงในปี บเป็น 1 นิ้ว น้าตาลใสเตม็ ปี บจะมีความสูงของน้าตาลท่ี ใช้ไมว้ ดั ได้ 20 นิ้ว ( 20 นิ้ว = 1 ปี บ หรือ 3 ไห) หรือบางแห่งเรียกไมว้ ดั ว่า “ไมห้ มอ” (คลองเขิน เรียกไมล้ ิตร) ซ่ึงลกั ษณะการฝากน้าตาลแบบน้ีเป็นระบบการมีส่วนร่วมแบบหน่ึง เพราะตอ้ งอาศยั ความซ่ือสัตยก์ ารเก้ือกลู กนั และตอ้ งมีความยตุ ิธรรมและความสามคั คี ถา้ ฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงไม่มีความ ซื่อสัตย์ หรือเอาเปรียบกนั ก็จะทาไม่ไดน้ าน ในยคุ น้นั การสร้างเตาปล่องตอ้ งใชช้ ่างฝีมือ และความ ชานาญในการก่อสร้างเตา ช่างก่อเตาปล่องมีนอ้ ยมากตอ้ งรอคิวกนั ถา้ ไม่มีการเขา้ ยามกนั ก็ตอ้ งเค่ียว ดว้ ยเตาดุน ซ่ึงตอ้ งใชเ้ วลามาก และเค่ียวไม่ทนั จึงจาเป็นตอ้ งอาศยั การมีส่วนร่วมแบบเขา้ ยาม ซ่ึงมี ลกั ษณะเหมือนการลงแขกเกี่ยวขา้ วในอดีต ลกั ษณะของเตำตำล เตาเคี่ยวน้าตาลมะพร้าวมี 2 แบบ คือ 1. เตำตำลแบบโดดและเตำดนุ เตาตาลแบบน้ีเป็ นเตาท่ีใชก้ นั ในระยะเริ่มทาน้าตาลใหม่ ซ่ึงมีปริมาณ น้าตาลใสนอ้ ย เตาประเภทน้ีมีมานานกวา่ ร้อยปี แลว้ ลกั ษณะของเตาจะเป็นเตาใชเ้ คย่ี ว เตาโดด
43 กระทะเดียวต่อช่องไฟ 1 ช่อง (เตาโดด) กวา้ งประมาณ 1.50 เมตร ยาว 1.50 เมตร ความสูง ของเตาไม่แน่นอนมีต้งั แต่ 60-70 เซนติเมตร มีช่องสาหรับใส่เช้ือเพลิงมากกว่า 1 ช่อง ต่อมามีการ พฒั นาเป็ น 2 กระทะ (เรียกเตาดุน) และพ้ืนด้านบนจะเจาะรูเล็ก ๆ ไวห้ ลายรูเพ่ือใช้ในการรม กระบอกเพื่อทาความสะอาดกระบอกน้าตาลดว้ ย การเค่ียวน้าตาลดว้ ยเตาประเภทน้ีใชก้ นั มาจนถึง สงครามโลกคร้ังท่ี 2 และ คร้ังหน่ึงทหารญี่ป่ ุนไดน้ าเตาแบบน้ีไปใชใ้ นการหุงขา้ วเล้ียงทหารและ เชลยสงครามในจงั หวดั กาญจนบุรี ต่อมาปริมาณน้าตาลใสมีมากข้ึน เตาแบบน้ีจึงไดร้ ับความนิยม นอ้ ยลงจะมีการใชเ้ ฉพาะชาวสวนที่ข้ึนมะพร้าวตาลปริมาณนอ้ ยตน้ สาเหตุท่ีไม่นิยมเพราะเตาแบบ น้ีใชเ้ วลาเคี่ยวน้าตาลใสนานกวา่ จะไดน้ ้าตาลแหง้ การสิ้นเปลืองของเช้ือเพลิงมาก การเคี่ยวตาลแต่ ละกระทะกวา่ จะแลว้ เสร็จตอ้ งใชฟ้ ื นจานวนมากเน่ืองจากความร้อนสูญเสียไปในอากาศมาก 2. เตำปล่อง เป็นเตาขนาดใหญม่ ีปลอ่ งควนั ออกก่อดว้ ยอิฐถือปูน มีขนาดต้งั แตว่ าง กระทะ 3 ใบ ไปจนถึงกระทะคู่ 18 ใบ ความสูงของปล่องต้งั แต่ 10 ศอก ไปจนสูง 6 วา ( 4 ศอก เป็น 1 วา และ 1 วา เท่ากบั 2 เมตร) เตาปล่องแบบมฉี างและตะแกรงเหลก็
44 วิธีกำรสร้ำงเตำปล่องมี 2 ลกั ษณะ คือ 1. เตำปล่องแบบหน้ำตัด เตาปลอ่ งแบบน้ีมีขนาดต้งั แต่ 2 กระทะไปจนถึง 5 กระทะ ลกั ษณะเตาแบบน้ีจะใช้ ตะแกรงทาดว้ ยอิฐ เตาแบบน้ีใชเ้ ช้ือเพลิงท่ีเป็นฟื นท่อนไดอ้ ยา่ งเดียว มีขนาดช่องไฟท่ีเรียกวา่ อโุ มงค์ หรือ ขือ่ ทางไฟกวา้ งประมาณ 60 เซนติเมตร 2. เตำปล่องแบบมีฉำงและตะแกรงเหลก็ เตาแบบน้ีจะใส่เช้ือเพลิงดา้ นบน มีฉางไวส้ าหรับวางเช้ือเพลิง เช้ือเพลิงจะตกลงมา อยู่ที่ตะแกรงเหล็กขนาด 4 หุนวางเรียงกนั จานวน 30-40 อนั สามารถใชเ้ ช้ือเพลิงไดห้ ลายประเภท ต้งั แต่ ข้ีกบ ข้ีเลื่อย ฟื นทอ่ น กาบมะพร้าว เตาประเภทน้ีใหค้ วามร้อนสูงมาก และจะเป็นเตาท่ีก่อดว้ ย อิฐถือปูนมีขนาดต้งั แต่ 3 กระทะไปจนถึงเตาคู่ 2 ช่องไฟ มี กระทะวางคู่ 9 แถว จานวน 18 กระทะ สามารถเค่ียวน้าตาลได้น้าตาลแห้งวนั ละ 45 ปี บ ให้ความร้อนสูง เหมาะสาหรับการเคี่ยวตาลใน ปริมาณมาก ๆ คือ ตอ้ งเค่ยี วคร้ังหน่ึงได้ น้าตาลแหง้ วนั ละ 2 ปี บข้ึนไปจึงจะประหยดั พลงั งาน เตา ประเภทน้ีนิยมทามาในช่วง พ.ศ.2500 มาจนถึงปัจจุบนั แต่ช่วงที่มีเตาประเภทน้ีมากอย่ใู นระหว่าง พ.ศ. 2500-2525 เพราะช่วงน้ันมีการทาน้าตาลมะพร้าวกันมากเกือบท้งั จงั หวดั สมุทรสงคราม มี ปริ มาณ น้ าตาลแห้งท่ีเคี่ยวได้รวมท้ังจังหวัดวันละไม่ต่ากว่า 1,000 ปี บ เป็ นช่วงท่ีจังหวัด สมุทรสงครามมีรายได้ทางเศรษฐกิจดีมาก ประชาชนที่ทาตาลต่างมีฐานะดี มีความ มนั่ คงใน ครอบครัว กิจการคา้ ขายตา่ ง ๆ เจริญรุ่งเรืองมาก วิธีกำรทำเตำแบบต่ำง ๆ 1. เตำโดด เตำดุน เตาโดดเป็ นเตาขนาดเล็กมีขนาดความกวา้ งยาว 1.50 เมตร จะก่อดว้ ยอิฐกบั ดินเหนียว สลบั กบั ข้ีเถา้ หรือแกลบ ก่อเป็นลกั ษณะฐานสี่เหลี่ยม มีช่องไฟเขา้ และช่องไฟออก 1 ช่อง ตรงกลาง วางกระทะขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 35 นิ้ว แต่ละวงเตาจะมีเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 28 นิ้ว เป็นรูแอ่งวงกลม ไฟจะลกุ ไหมอ้ ยตู่ รงใตก้ ระทะเม่ือใชเ้ ช้ือเพลิงมากก็จะใหค้ วามร้อนมาก เตาแบบน้ีจะมีควนั ไฟออก ทกุ ท่ีที่มีช่องไฟ เตาดุนลักษณะเหมือนเตาโดด แต่มี 2 วงกระทะการก่อสร้างก็เช่นเดียวกัน แต่พ้ืน ดา้ นบนเจาะรูเลก็ ๆ ไวห้ ลายรูเพอ่ื ใชใ้ นการรมกระบอกเพือ่ ทาความสะอาด
45 2. เตำปล่อง เป็ นเตาขนาดใหญ่มีต้งั แต่ 2 กระทะจนถึงเตาคู่ 2 แถว จานวน 9 คู่ 18 กระทะ เป็ นเตา เคย่ี วตาลที่อาศยั ช่างท่ีมีความชานาญในการสร้าง จึงจะทาใหเ้ ตามีประสิทธิภาพในการทางานสูง คือ ใหไ้ ฟแรงแบะประหยดั เช้ือเพลิง โดยทวั่ ไปการทาเตาปล่องมี 2 แบบ คือ 2.1 เตำปล่องแบบหน้ำตัด เตาแบบน้ีจะไม่ตะแกรงลมผ่านแต่จะมีอิฐท่ีทาเป็ นตะแกรงอิฐหรือรังผ้ึงที่ใช้กบั เตาถา่ นหุงตม้ ตามบา้ นทว่ั ไป โดยจะใชอ้ ิฐรูปตวั ไอขนาดกวา้ ง 4 นิ้ว ยาว 16 นิ้ว หรือ 18 นิ้ว หนา 4 นิ้ว ซ่ึงมีขายเฉพาะใชท้ าเตาเท่าน้นั เราเรียกวา่ “อิฐขื่อ” เป็นอิฐทนไฟ ทนความร้อนสูงได้ การวางจะ วางห่างหันประมาณ 1-2 นิ้ว แลว้ แต่ความเหมาะสมของเช้ือเพลิงเพื่อทาหน้าท่ีให้ลมผ่านช่องง ตะแกรงได้ โดยมากเตาแบบหนา้ ตดั จะมีขนาดประมาณ 2 กระทะ ไปจนถึง 5 กระทะ ความสูงของ ปล่องประมาณ 10 ศอก ถึง 4 วา 2.2 เตำปล่องแบบมฉี ำงและตะแกรง เตาแบบน้ีจะมีตะแกรงเหล็กขนาด 4 หุน วางเอียงประมาณ 75 องศา ใช้เหล็ก ประมาณ 30-40 อนั เพ่ือทาหนา้ ท่ีรองรับเช้ือเพลิง เตาแบบน้ีสามารถใชเ้ ช้ือเพลิงไดห้ ลายอยา่ งต้งั แต่ เช้ือเพลิงละเอียดไปจนถึงเช้ือเพลิงท่อน คือ สามารถใช้แกลบ ข้ีเร่ือย ข้ีกบ และฟื นท่อน เป็ น เช้ือเพลิงได้ จะเป็นเตาขนาดเลก็ ไปจนถึงเตาขนาดใหญ่ 18 กระทะ ความสูงของปล่อง 6 วา กม็ ี ส่วนประกอบของเตำปล่อง เตาปล่องท้ัง 2 แบบ มีส่วนประกอบเหมือนกัน ส่วนของเตา จะแบ่งออกเป็ น 4 ส่วน ท่ี ทางานไมเ่ หมือนกนั คือ ส่วนท่ี 1 หน้ำเตำทสี่ ำหรับใส่เชื้อเพลงิ ประกอบดว้ ย 1. ฉาง มีลกั ษณะเป็นคอกสี่เหล่ียม กวา้ ง 1.20 - 2.00 เมตร ยาว 1 เมตร สูง ประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีไวส้ าหรับใส่เช้ือเพลิงโดยเฉพาะท่ีเป็นแกลบและข้ีเลื่อย 2. ตะแกรงไฟ มีหนา้ ที่รองรับเช้ือเพลิงและใหล้ มสามารถผา่ นเขา้ ไปทาปฏิกิริยากบั ไฟและทาให้ไฟสามารถติดไดต้ ลอด ถา้ ไม่มีตะแกรงเช้ือเพลิงจะไปทบั กนั อากาศผ่านไมไ่ ดไ้ ฟก็จะ ดบั ตะแกรงมี 2 ชนิด คือ ตะแกรงอิฐ และตะแกรงเหลก็ 3. ช่องอโุ มงคเ์ ตา เป็นช่องกลมขนาด 60 เซนติเมตร ท่ีจะทาใหไ้ ฟผา่ นไปจนออก ปากปลอ่ ง ฉาง ช่องอโุ มงค์เตา ตะแกรงไฟ
Search