โครงงานคอมพวิ เตอร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
ใบความรูท้ ่ี 1.1 ความหมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ มผี ลกระทบตอ่ ความเจริญกา้ วหนา้ ของ สงั คม ปจั จบุ นั เทคโนโลยดี า้ นน้มี กี าร เปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว จงึ เป็น เร่อื งยากทป่ี ระชาชนจะคอยตดิ ตามความกา้ วหนา้ อยู่ตลอดเวลา ดงั นน้ั การศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพวิ เตอร์ จงึ ตอ้ งศึกษาหลกั การและเน้ือหา พ้นื ฐานเป็นสาคญั การศึกษาดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ เป็นสง่ิ จาเป็น เสมอื นกบั การศึกษาวทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาติ คอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ปลย่ี นแปลง โลกของเราในดา้ นตา่ งๆ มากมาย ไดแ้ ก่ 1.สงั คมโดยสว่ นใหญ่เปลย่ี นจากสงั คมอตุ สาหกรรมเป็นสงั คมสารสนเทศ 2.การตดั สนิ ใจในเร่อื งต่างๆ มกั ข้นึ อยู่กบั ขอ้ มลู ซง่ึ ไดจ้ ากระบบ คอมพวิ เตอร์ 3.คอมพวิ เตอรก์ ลายเป็นเคร่อื งมอื ทส่ี าคญั แทนเคร่ืองมอื อ่ืนๆ ในอดตี เช่น เคร่อื งพมิ พด์ ดี เคร่อื งคดิ เลข เป็นตน้ 4.คอมพวิ เตอรถ์ กู ใชใ้ นการออกแบบสถานการณ์หรือปญั หาทซ่ี บั ซอ้ นตา่ งๆ 5.คอมพวิ เตอรเ์ ป็นอปุ กรณห์ ลกั ทใ่ี ชใ้ นงานตดิ ต่อสอ่ื สารของโลกปจั จบุ นั
การศึกษาดา้ นเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ มขี ้นึ เพอ่ื พฒั นาใหผ้ ูเ้รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในวทิ ยาการคอมพวิ เตอรแ์ ละมคี วามสามารถในการพฒั นา โปรแกรมได้ การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ะเป็นสง่ิ ทท่ี าใหผ้ ูเ้รยี น สามารถบรรลเุ ป้าหมายน้ไี ดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ จดุ มงุ่ หมายทส่ี าคญั ประการหน่งึ ของการเรียน การสอน คอมพวิ เตอร์ ในโรงเรียน คอื การทผ่ี ูเ้รียนไดม้ โี อกาสนาความรูเ้ ก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรไ์ ปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ หรือคน้ ควา้ หาความรู้ ตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง ซง่ึ วธิ กี ารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพมากวธิ หี น่งึ คือ การทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ โครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ป็นการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณอ์ น่ื ๆ ในการศึกษา ทดลองแกป้ ญั หาต่างๆ เพอ่ื นาผลงานทไ่ี ดม้ าประยุกตใ์ ชง้ านจริง หรอื เพอ่ื ใชช้ ่วยสรา้ งสอ่ื เสริมการเรียนการสอนใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพยง่ิ ข้นึ โครงงานคอมพวิ เตอรจ์ งึ เป็นกจิ กรรมทางวทิ ยาศาสตรท์ ช่ี ่วยให้ ผูเ้รยี นไดเ้รียนรูแ้ ละฝึกทกั ษะการใชเ้คร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ พรอ้ มทงั้ เคร่อื งมอื ต่างๆในการแกป้ ญั หา รวมทงั้ การพฒั นาเจตคตใิ นการ สรา้ งผลงาน
โครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ป็นกจิ กรรมหน่งึ ทผ่ี ูเ้รียนสามารถศึกษา ปญั หาทต่ี นสนใจ ซง่ึ อาจเป็นปญั หาทต่ี อ้ งใชค้ วามรูท้ เ่ี ก่ียวกบั คอมพวิ เตอรม์ า ผสมผสานกนั ซง่ึ บางโครงงานอาจตอ้ งใชค้ วามรูอ้ น่ื ๆ มาร่วมดว้ ย โดย ผูเ้รยี นจะตอ้ งวางแผนการดาเนนิ งาน ศึกษา พฒั นาโปรแกรมหรอื อุปกรณ์ท่ี เกย่ี วขอ้ ง ตลอดจนทกั ษะพ้นื ฐานในการพฒั นาโครงงาน โครงงานบางเร่อื งอาจตอ้ งการวสั ดอุ ปุ กรณ์นอกเหนอื จากทม่ี อี ยู่ ซง่ึ ผูเ้รียนจะตอ้ งพฒั นาข้นึ หรือดดั แปลงเพอ่ื ใหใ้ ชง้ านไดต้ รงกบั ความ ตอ้ งการ โดยในการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ะอยูภ่ ายใตก้ ารดูแลและให้ คาปรกึ ษาของผูส้ อน และผูท้ รงคุณวุฒดิ า้ นต่างๆศึกษามาก่อน หรอื เป็นเร่อื งท่ี ไดเ้คยคน้ ควา้ และพฒั นามาแลว้ แต่ผูเ้รียนกย็ งั สามารถทาโครงงานเร่อื ง ดงั กลา่ วไดเ้พยี งแตค่ ดิ ดดั แปลงแนวทางในการศึกษา การวเิ คราะหข์ อ้ มลู การ พฒั นาโปรแกรม หรือศึกษาเพม่ิ เตมิ จากผลงานเดมิ ทม่ี ผี ูร้ ายงานไว ้
กิจกรรมท่จี ดั วา่ เป็นโครงงานคอมพิวเตอรค์ วรมีองคป์ ระกอบหลกั ดงั ตอ่ ไปนี้ •เป็นกจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ซอฟตแ์ วร์ และ/หรือ ฮารด์ แวร์ •ผูเ้รยี นเป็นผูร้ ิเร่มิ และเลอื กเร่อื งทจ่ี ะศึกษา คน้ ควา้ พฒั นา ดว้ ยตนเองตาม ความสนใจและระดบั ความรูค้ วามสามารถ •ผูเ้รยี นเป็นผูว้ างแผนในการศึกษา คน้ ควา้ ตลอดจนการพฒั นา เก็บรวบรวม ขอ้ มลู หรือประดษิ ฐค์ ดิ คน้ รวมทง้ั การสรุปผล และการเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง โดยมผี ูส้ อนและผูท้ รงคุณวฒุ ิ เป็นผูใ้ หค้ าปรกึ ษา การทาโครงงานคอมพวิ เตอรม์ แี ตล่ ะเร่อื งใชเ้วลาและค่าใชจ้ ่ายใน การพฒั นาไมเ่ ทา่ กนั ตงั้ แตเ่ ร่ืองงา่ ยไปจนถงึ เร่อื งทย่ี ่งุ ยากซบั ซอ้ น ผูเ้รยี นจงึ ควรเลอื กทาโครงงานทเ่ี หมาะสมกบั ระดบั ความรู้ ความสามารถ ความ สนใจ และงบประมาณของผูเ้รียน โดยทวั่ ไปการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ จดั เป็นสว่ นหน่งึ ของการเรียนการสอนรายวชิ าคอมพวิ เตอรข์ องทกุ ระดบั การศึกษา โดยอาจจะทาเป็นกลมุ่ หรอื ทาเป็นรายบคุ คล ทง้ั น้ขี ้ึนอยูก่ บั ความ สนใจของผูเ้รยี นแต่ละคนแต่ละกลมุ่ เป็นสาคญั
ใบความรูท้ ่ี 1.2 คณุ คา่ ของโครงงานคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานและการจดั งานแสดงโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ะมคี ุณค่าตอ่ การ ฝึกฝนใหผ้ ูเ้รยี นมคี วามรู ้ ความชานาญ และมที กั ษะในการนาระบบคอมพวิ เตอร์ ไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ หรือคน้ ควา้ หาความรูต้ ่างๆ ดว้ ยตนเอง ดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วมาแลว้ และยงั มคี ุณค่าอน่ื ๆ อกี ดงั ตอ่ ไปน้ี • เปิดโอกาสใหผ้ ูเ้รยี นไดพ้ ฒั นาและแสดงความสามารถตามศกั ยภาพของตนเอง • กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้รียนมคี วามสนใจในการศึกษาดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ และมีความ สนใจทจ่ี ะประกอบอาชพี ทางดา้ นน้ี • เปิดโอกาสใหผ้ ูเ้รยี นไดศ้ ึกษา คน้ ควา้ และเรียนรูใ้ นเร่อื งทผ่ี ูเ้รียนสนใจไดล้ กึ ซ้งึ กวา่ การเรียนในหอ้ งตามปกติ • สง่ เสริมและพฒั นากระบวนการคดิ การแกป้ ญั หา การตดั สนิ ใจ รวมทงั้ การส่ือสาร ระหวา่ งกนั • สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้รียนไดใ้ ชเ้วลาใหเ้ป็นประโยชนใ์ นทางสรา้ งสรรค์ • สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผูเ้รียนกบั ผูส้ อนและชมุ ชน รวมทงั้ สง่ เสริมใหช้ มุ ชนสนใจ คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยที เ่ี ก่ยี วขอ้ งมากข้นึ • สรา้ งสานึกและความรบั ผดิ ชอบในการศึกษาและพฒั นาระบบดว้ ยตนเอง
ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอรเ์ ป็นเคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นงานวจิ ยั ในทกุ สาขา วชิ า ดงั นนั้ โครงงาน คอมพวิ เตอรจ์ งึ มคี วามหลากหลายทง้ั ในลกั ษณะของเน้อื หา กจิ กรรม และประโยชน์ หรอื ผลงานทไ่ี ด้ โครงงานคอมพวิ เตอรม์ หี ลายประเภท ในทน่ี ้แี บง่ เป็น 5 ประเภท คอื โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศึกษา (Educational Media Development) โครงงาน พฒั นาเคร่อื งมอื (Tools Development) โครงงานจาลองทฤษฏี (Theory Simulation) โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน (Application) และโครงงานพฒั นาเกม (Game Development) 1.โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศึกษาลกั ษณะ เด่นของโครงงานประเภทน้ี คอื เป็น โครงงานทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการผลติ สอ่ื เพอ่ื การศึกษา โดยการสรา้ งโปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยการเรยี น ซง่ึ อาจจะตอ้ งมภี าคแบบฝึกหดั บททบทวน และคาถาม คาตอบไวพ้ รอ้ ม ผูเ้รยี นสามารถเรยี นแบบรายบคุ คลหรือรายกลมุ่ การสอน โดยใช้ คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนน้ี ถอื วา่ คอมพวิ เตอรเ์ ป็นอปุ กรณ์การสอน ซง่ึ อาจเป็นการพฒั นา บทเรยี นแบบออนไลน์ ใหผ้ ูเ้รยี นเขา้ มาศึกษาดว้ ยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทน้ี สามารถพฒั นาข้นึ เพอ่ื ใชป้ ระกอบการสอนในวชิ าต่างๆ โดยผูเ้รียนอาจคดั เลอื กเน้อื หา ทเ่ี ขา้ ใจยาก มาเป็นหวั ขอ้ ในการพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศึกษา ตวั อย่างโครงงาน เช่น การ เคลอ่ื นทแ่ี บบโปรเจก็ ไตลร์ ะบบสุริยจกั รวาล ตวั แปรต่างๆ ทม่ี ผี ลต่อการชาก่งิ กหุ ลาบ หลกั ภาษาไทย และสถานทส่ี าคญั ของประเทศไทย เป็นตน้
2. โครงงานพฒั นาเคร่ืองมอื โครงงานประเภทน้เี ป็นโครงงานเพอ่ื พฒั นาเคร่อื งมอื ช่วยสรา้ งงานประยกุ ตต์ า่ งๆ โดย สว่ นใหญ่จะอยูใ่ นรูปซอฟตแ์ วร์ เช่น ซอฟตแ์ วรว์ าดรูป ซอฟตแ์ วรพ์ มิ พง์ าน และ ซอฟตแ์ วรช์ ่วยการมองวตั ถใุ นมมุ ต่างๆ เป็นตน้ สาหรบั ซอฟตแ์ วรเ์ พ่ือการพมิ พง์ าน นนั้ สรา้ งข้นึ เป็นโปรแกรมประมวลคา ซง่ึ จะเป็นเคร่อื งมอื ใหเ้ราใชใ้ นการพมิ พง์ านตา่ งๆ บนเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ สว่ นซอฟตแ์ วรก์ ารวาดรูป พฒั นาข้นึ เพอ่ื อานวยความสะดวก ใหก้ ารวาดรูปบนเคร่อื งคอมพวิ เตอรใ์ หเ้ป็นไปได้ โดยงา่ ย สาหรบั ซอฟตแ์ วรช์ ่วยการ มองวตั ถใุ นมมุ ตา่ งๆ ใชส้ าหรบั ช่วยการออกแบบสง่ิ ของ อาทเิ ช่น ผูใ้ ชว้ าดแจกนั ดา้ นหนา้ และตอ้ งการจะดูวา่ ดา้ นบนและดา้ นขา้ งเป็นอยา่ งไร ก็ใหซ้ อฟตแ์ วรค์ านวณ ค่าและภาพทค่ี วรจะเป็นมาให้ เพอ่ื พจิ ารณาและแกไ้ ขภาพแจกนั ทอ่ี อกแบบไวไ้ ดอ้ ย่าง สะดวก เป็นตน้
3.โครงงานจาลองทฤษฏี โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอรช์ ่วยในการจาลองการทดลองของ สาขา ตา่ งๆ ซง่ึ เป็นงานทไ่ี มส่ ามารถ ทดลองดว้ ยสถานการณ์จรงิ ได้ เช่น การจดุ ระเบดิ เป็นตน้ และเป็นโครงงานทผ่ี ูท้ าตอ้ ง ศึกษารวบรวมความรู้ หลกั การ ขอ้ เทจ็ จรงิ และแนวคดิ ต่างๆ อยา่ งลกึ ซ้งึ ในเร่ืองท่ี ตอ้ งการศึกษาแลว้ เสนอเป็นแนวคดิ แบบจาลองหลกั การ ซง่ึ อาจอยูใ่ นรูปของสูตร สมการ หรือคาอธบิ าย พรอ้ มทงั้ การจาลองทฤษฏดี ว้ ยคอมพวิ เตอรใ์ หอ้ อกมาเป็นภาพ ภาพทไ่ี ดก้ จ็ ะเปลย่ี นไปตามสูตรหรอื สมการนนั้ ซง่ึ จะทาใหผ้ ูเ้รยี นมคี วามเขา้ ใจไดด้ ี ยง่ิ ข้นึ การทาโครงงานประเภทน้ีมจี ดุ สาคญั อยู่ทผ่ี ูท้ าตอ้ งมคี วามรูใ้ นเร่อื งนนั้ ๆ เป็น อยา่ งดี ตวั อยา่ งโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเร่อื งการไหลของของเหลว การ ทดลองเร่อื งพฤตกิ รรมของปลาปิรนั ยา่ และการทดลองเร่อื งการมองเหน็ วตั ถแุ บบสาม มติ ิ เป็นตน้
4.โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ านเป็นโครงงานทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอรใ์ น การสรา้ งผลงานเพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชง้ านจริงในชวี ติ ประจาวนั อาทเิ ช่น ซอฟตแ์ วรส์ าหรบั การออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟตแ์ วรส์ าหรบั การผสมสี และซอฟตแ์ วร์ สาหรบั การระบคุ นรา้ ย เป็นตน้ โครงงานประเภทน้จี ะมกี ารประดษิ ฐฮ์ ารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ หรืออปุ กรณ์ใชส้ อยตา่ งๆ ซง่ึ อาจเป็นการคดิ สรา้ งสง่ิ ของข้นึ ใหม่ หรือ ปรบั ปรุงเปลย่ี นแปลงของเดมิ ทม่ี อี ยู่แลว้ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสูงข้นึ โครงงานลกั ษณะน้ี จะตอ้ งศึกษาและวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของผูใ้ ชก้ ่อน แลว้ นาขอ้ มลู ท่ีไดม้ าใชใ้ นการ ออกแบบ และพฒั นาสง่ิ ของนน้ั ๆ ตอ่ จากนน้ั ตอ้ งมกี ารทดสอบการทางานหรอื ทดสอบ คณุ ภาพของสง่ิ ประดษิ ฐแ์ ลว้ ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหม้ คี วามสมบูรณ์ โครงงานประเภทน้ี ผูเ้รยี นตอ้ งใชค้ วามรูเ้ก่ยี วกบั เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ภาษาโปรแกรม และเคร่อื งมอื ต่างๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง
5. โครงงานพฒั นาเกม โครงงานพฒั นาเกมเป็นโครงงานพฒั นาซอฟตแ์ วรเ์ กมเพอ่ื ความรู้ และ/หรือ ความ เพลดิ เพลนิ เช่น เกมหมากรุก เกมทายคาศพั ท์ และเกมการคานวณเลข เป็นตน้ ซง่ึ เกมทพ่ี ฒั นาข้นึ น้ีน่าจะเนน้ ใหเ้ป็นเกมทไ่ี มร่ ุนแรง เนน้ การใชส้ มองเพอ่ื ฝึกความคดิ อย่างมหี ลกั การ โครงงานประเภทน้จี ะมกี ารออกแบบลกั ษณะและกฎเกณฑก์ ารเล่น เพอ่ื ใหน้ ่าสนใจแก่ผูเ้ลน่ พรอ้ มทง้ั ใหค้ วามรูส้ อดแทรกไปดว้ ย ผูพ้ ฒั นาควรจะไดท้ า การสารวจและรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั เกมต่างๆ ทม่ี อี ยูท่ วั่ ไป และนามาปรบั ปรุงหรือ พฒั นาข้นึ ใหมเ่ พอ่ื ใหเ้ป็นเกมทแ่ี ปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผูเ้ลน่ กลมุ่ ตา่ งๆ
การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ถอื เป็นกระบวนการในการทาโครงงานท่ี ตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งเป็นลาดบั ขน้ั ตอน เพอ่ื ใหเ้กดิ ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ ตอ่ การพฒั นา โครงงานคอมพวิ เตอร์ โดยมขี นั้ ตอนดงั ต่อไปน้ี 1.การคดั เลอื กหวั ขอ้ โครงงาน หวั ขอ้ สว่ นใหญ่ทน่ี ามาพฒั นาเป็นโครงงานคอมพวิ เตอร์ มกั จะไดม้ าจากปญั หา คาถาม หรือความสนใจในเร่อื งต่างๆ การสงั เกตสง่ิ ตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ระบบ คอมพวิ เตอร์ หรือสง่ิ ต่างๆ รอบตวั ปญั หาทจ่ี ะนามาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรน์ นั้ ไดจ้ ากแหลง่ ทต่ี ่างกนั ไดแ้ ก่ การอ่านคน้ ควา้ จากหนงั สอื เอกสาร หนงั สอื พมิ พ์ หรือ วารสารต่างๆ การไปเยย่ี มชมสถานทต่ี า่ งๆ การฟงั บรรยายทางวชิ าการ รายการวทิ ยุ โทรทศั น์ ขอ้ มลู ขา่ วสารจากอนิ เทอรเ์ น็ต รวมทง้ั การสนทนา อภปิ รายแลกเปลย่ี น ความคดิ เหน็ ระหวา่ งเพอ่ื นนกั เรียนหรือกบั บคุ คลอน่ื ๆ กจิ กรรมการเรียนการสอนใน โรงเรียน งานอดเิ รกของนกั เรียน การเขา้ ชมงานนิทรรศการหรืองานประกวด โครงงานคอมพวิ เตอร์
2.การศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู การศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสาร และแหลง่ ขอ้ มลู รวมถงึ การขอคาปรกึ ษาจากผูท้ รงคุณวฒุ ิ จะช่วยใหเ้กดิ แนวคดิ ในการกาหนดขอบเขตของเร่อื งทจ่ี ะศึกษาไดเ้ฉพาะเจาะจงมากยง่ิ ข้นึ และได้ ความรูเ้พม่ิ เตมิ ในเร่อื งทจ่ี ะศึกษา จนสามารถใชอ้ อกแบบและวางแผนดาเนนิ การ ทาโครงงานนนั้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ในการศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารและ แหลง่ ขอ้ มลู จะตอ้ งไดค้ าตอบวา่ จะทาอะไร ทาไมตอ้ งทา ตอ้ งการใหเ้กดิ อะไร ทา อยา่ งไร ใชท้ รพั ยากรอะไร ทากบั ใคร และจะเสนอผลงานอย่างไร
3.การจดั ทาขอ้ เสนอโครงงาน การจดั ทาขอ้ เสนอโครงงานเป็นการจดั ทาเคา้ โครงของโครงงานเพอ่ื เสนอครูท่ปี รึกษา โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ดงั น้ี • 1. ศึกษาคน้ ควา้ เอกสารอา้ งองิ และรวบรวมขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากผูท้ รงคณุ วฒุ ิ • 2. วเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอ่ื กาหนดขอบเขตและลกั ษณะของโครงงานทจ่ี ะพฒั นา • 3. ออกแบบการพฒั นา มกี ารกาหนดลกั ษณะของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วร์ และตวั แปลภาษาโปรแกรม และอปุ กรณ์ต่างๆ ทต่ี อ้ งใช้ • 4. กาหนดตารางการปฏบิ ตั งิ านของการจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน ลงมอื ทา โครงงาน และสรุปรายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอยา่ งกวา้ งๆ • 5. ทาการพฒั นาโครงงานขน้ั ตน้ เพอ่ื ศึกษาความเป็นไปไดเ้บ้อื งตน้ โดยอาจจะทา การพฒั นาสว่ นยอ่ ยๆ บางสว่ น ตามทไ่ี ดอ้ อกแบบไวแ้ ลว้ นาผลจากการศึกษาในช่วงน้ี ไปปรบั ปรุงแผนการทดลองทอ่ี อกแบบไวใ้ นครงั้ แรกใหเ้หมาะสมมากยง่ิ ข้นึ • 6. เสนอเคา้ โครงของโครงงานคอมพวิ เตอรต์ อ่ ครูทป่ี รึกษา เพอ่ื ขอคาแนะนาและ ปรบั ปรุงแกไ้ ข เพราะในการวางแผนการศึกษาพฒั นา ความคดิ ของนกั เรียนอาจยงั ไม่ ครอบคลมุ ทกุ ดา้ นเน่อื งจากยงั ขาดประสบการณ์ จงึ ควรถา่ ยทอดความคดิ ท่ีไดศ้ ึกษา และบนั ทกึ ไวใ้ หค้ รู
เมอ่ื ผูเ้รียนไดศ้ ึกษาเอกสารอา้ งองิ ตา่ งๆ และเลอื กเร่อื งท่จี ะทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ รวมทง้ั วางแผนการทาโครงงานทกุ ขนั้ ตอนเรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ ทาการเขยี น เคา้ โครงของโครงงานเพอ่ื ใชเ้ป็นกรอบแนวคดิ และแนวทางในการทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ นอกจากจะตอ้ งใชห้ ลกั การทางวชิ าการในการวางแผนทาโครงงานแลว้ ยงั ตอ้ งมขี อ้ ตกลงและเงอ่ื นไขตา่ งๆ เช่น การขออนุญาตใชห้ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ การจดั หาซอฟตแ์ วรท์ ม่ี ลี ขิ สทิ ธ์ิ เคร่ืองมอื และตวั แปลภาษาโปรแกรม เพอ่ื ช่วยในการ ทาโครงงานดาเนินไปอยา่ งราบร่ืน โดยมอี งคป์ ระกอบเคา้ โครงของโครงงาน คอมพวิ เตอร์ ดงั น้ี
4.การพฒั นาโครงงานเมอ่ื เคา้ โครงของโครงงานไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากครูทป่ี รึกษา แลว้ ขน้ั ตอนตอ่ ไปจงึ เป็นการลงมอื พฒั นาโครงงานตามขน้ั ตอนทว่ี างแผนไว ้ เช่น จดั เตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ใหพ้ รอ้ ม รวมทง้ั การกาหนดหนา้ ท่ี ความรบั ผดิ ชอบของ สมาชกิ ในกลมุ่ ใหช้ ดั เจน แลว้ จงึ ดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมกี าร ทดสอบ ตรวจสอบ ปรบั ปรุงแกไ้ ข เพอ่ื พฒั นาโครงงานเป็นระยะๆ เพอ่ื ใหแ้ น่ใจวา่ ผลงานทพ่ี ฒั นาข้นึ นน้ั ทางานไดถ้ กู ตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการทร่ี ะบไุ วใ้ นเป้าหมาย และเกดิ ประสทิ ธภิ าพตามขนั้ ตอน ดงั น้ี
5.การเขียนรายงานโครงงาน การเขยี นรายงาน เป็นวธิ กี ารสอ่ื ความหมายเพอ่ื ใหผ้ ูอ้ น่ื ไดเ้ขา้ ใจแนวคดิ วธิ ดี าเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ ตลอดจนขอ้ สรุปและ ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ เก่ยี วกบั โครงงานนนั้ โดยในการเขยี นรายงานนน้ั ควรใชภ้ าษาทอ่ี ่าน งา่ ย ชดั เจน กระชบั ตรงไปตรงมา รวมทง้ั ใหจ้ ดั ทาคู่มอื การใชง้ าน ซง่ึ ประกอบดว้ ย รายละเอยี ด ดงั น้ี 1.ชอ่ื โครงงาน 2.ความตอ้ งการของระบบคอมพวิ เตอร์ ระบรุ ายละเอยี ดของคอมพวิ เตอรท์ ต่ี อ้ งมี เพอ่ื ทจ่ี ะใชก้ บั โครงงานนนั้ 3.ความตอ้ งการของซอฟตแ์ วร์ ระบรุ ายละเอยี ดชอ่ื ซอฟตแ์ วรท์ ต่ี อ้ งใชก้ บั เคร่อื ง คอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื จะใหโ้ รงงานนน้ั ทางานไดอ้ ย่างสมบูรณ์ 4.คณุ ลกั ษณะของโครงงาน ซง่ึ อธบิ ายวา่ ผลงานนนั้ ทาหนา้ ทอ่ี ะไรบา้ ง รบั อะไรเป็น ขอ้ มลู ขาเขา้ และอะไรทอ่ี อกมาเป็นขอ้ มลู ขาออก 5.วธิ กี ารใชง้ านของแตล่ ะฟงั กช์ นั อธบิ ายวา่ ตอ้ งกดคาสงั่ ใด หรือกดป่มุ ใด เพอ่ื ให้ ผลงานทางานในฟงั กช์ นั หน่งึ ๆ
โครงงานทด่ี จี ะตอ้ งมคี ณุ ลกั ษณะ ดงั น้ี 1.สามารถตอบสนองความตอ้ งการหรอื แกป้ ญั หาของโครงงานไดอ้ ย่างครบถว้ น 2.เป็นไปตามขอบเขตทก่ี าหนด 3.สามารถดาเนนิ การเป็นไปตามแผนทก่ี าหนดไวแ้ ละเสร็จส้นิ ตามระยะเวลาท่ีกาหนด 4.ไมก่ ่อใหเ้กดิ ผลกระทบทางลบต่อคณุ ภาพชวี ติ ในดา้ นต่างๆ ในการทาโครงงานคอมพวิ เตอรท์ ด่ี จี ะตอ้ งคานงึ ถงึ ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั และตอ้ งมคี ุณลกั ษณะทด่ี ตี ามทก่ี ลา่ วขา้ งตน้ แตท่ งั้ น้กี ็ตอ้ งคานงึ ถงึ ผลกระทบ ในทางลบทอ่ี าจเกดิ ข้นึ จากการทาโครงงานซง่ึ ผูจ้ ดั ทาอาจตอ้ งหลกี เลย่ี ง โดยจะตอ้ ง คานึงถงึ ผลกระทบทางลบในดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม และดา้ น สง่ิ แวดลอ้ ม ดงั ตวั อย่างต่อไปน้ี
ดา้ น ตวั อย่างผลกระทบทางลบ เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม เชน่ ระบบคานวณเลขหวย สาหรบั หาเลขทค่ี าดว่าสลากกนิ แบง่ รฐั บาลจะออกในแตล่ ะ งวด ส่งผลใหค้ นในสงั คมใชเ้งนิ ในการซ้อื สลากกนิ แบง่ รฐั บาลมากข้นึ ทาใหม้ เี งนิ สาหรบั สง่ิ แวดลอ้ ม จบั จ่ายใชส้ อยนอ้ ยลง จนบางครงั้ กอ็ าจกอ่ ใหเ้กดิ ปญั หาตดิ หน้สี นิ มากมาย เช่น โครงงานเกมตอ่ สู ้ ทาใหน้ กั เรยี นทต่ี ดิ เกมนน้ั ใชเ้วลาส่วนใหญ่ไปกบั การเลน่ เกม ซ่งึ จากการวจิ ยั ของตา่ งประเทศพบวา่ หากเลน่ เกมตดิ ต่อกนั นาน 15 สปั ดาห์ อาจทาใหผ้ ู้ เลน่ คมุ้ คลงั่ ได้ นอกจากน้ี อาจส่งผลกระทบตอ่ ผูเ้ลน่ อาจเกดิ อาการประสาทหลอน ไม่ สามารถแยกแยะโลกความเป็นจรงิ กบั โลกในเกมออกจากกนั ได้ ทาใหเ้ดก็ เหลา่ น้ีมี อารมณ์รนุ แรง เกร้ยี วกราดและตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาดว้ ยการใชก้ าลงั เชน่ โครงงานสารวจมลพษิ ทางอากาศ เป็นการประเมนิ มลพษิ ทางอากาศบรเิ วณรอบ โรงเรยี นทน่ี กั เรยี นศกึ ษาอยู่ วา่ มแี กส๊ ประเภทใดทเ่ี ป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ ทงั้ น้ใี น ปจั จบุ นั มนุษยไ์ ดต้ ดั ไมท้ าลายป่า เผาป่า และใชย้ วดยานพาหนะตลอดจนมกี ารทาโรงงาน อตุ สาหกรรมเพม่ิ มากข้นึ ทาใหเ้กดิ ปญั หามลพษิ ทางอากาศซง่ึ ทวคี วามรุนแรงมากข้นึ ตวั อยา่ งหวั ขอ้ โครงงานคอมพวิ เตอรท์ ่อี าจนาไปสูแ่ นวคดิ ในการเลอื กเร่ืองเพอ่ื จดั ทา โครงงานคอมพวิ เตอร์ การเลอื กหวั ขอ้ เร่ืองโครงงานข้นึ อยูก่ บั ความสนใจของผูเ้รียน การตง้ั ชอ่ื เร่ืองตอ้ งใหม้ คี วามสมั พนั ธ์ กบั เน้อื เร่ืองและมคี วามเฉพาะเจาะจง ตวั อย่าง หวั ขอ้ โครงงานต่อไปน้เี ป็นตวั อย่างทย่ี กมาแสดงเพอ่ื ใหเ้หน็ ขอบข่ายของเร่อื งต่างๆ ท่ี ผูเ้รียนสามารถคดิ ทาโครงงานได้
โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศึกษา (Educational Media Development) 1.สารานุกรมไทยฉบบั มลั ตมิ เี ดยี 2.สง่ิ มชี วี ติ ใตท้ อ้ งทะเล 3.พพิ ธิ ภณั ฑห์ นุ่ ข้ผี ้งึ ไทย 4.โปรแกรมช่วยสอนการถา่ ยภาพ 5.76 จงั หวดั ของไทย 6.สูตรขนมไทยอร่อยทวั่ โลก 7.คอมพวิ เตอรส์ อนพมิ พด์ ดี 8.ยาไทยและยาจนี 9.โปรแกรมช่วยสอนการทางานของทรานซสิ เตอร์
โครงงานพฒั นาเคร่อื งมือ(Tools Development) 1.โปรแกรมการคน้ หาคาภาษาไทย 2.โปรแกรมอา่ นอกั ษรไทย 3.โปรแกรมวาดภาพสามมติ ิ 4.โปรแกรมเขา้ และถอดรหสั ขอ้ มลู 5.โปรแกรมบบี อดั ขอ้ มลู 6.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏบิ ตั กิ ารลนี ุกซ์ 7.โปรแกรมการออกแบบผงั งาน 8.พอรต์ แบบขนานของไทย 9.การสง่ สญั ญาณควบคมุ อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
โครงงานจาลองทฤษฎี (Theory Simulation) 1.การทดลองปจั จยั ต่างๆ ในการเล้ยี งปลานิลดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 2.การทดลองปจั จยั ตา่ งๆ ในการเพาะปลูกแกว้ มงั กรดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 3.ระบบจองตวั๋ รถไฟบนอนิ เทอรเ์ น็ต 4.ระบบแนะนาเสน้ ทางเดนิ รถประจาทาง 5.โปรแกรมสงั เคราะหเ์ สยี งสาหรบั คนตาบอดบนรถประจาทาง 6.โปรแกรมออกและตรวจขอ้ สอบ 7.โฮมเพจสว่ นบคุ คล 8.โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ 9.โปรแกรมพจนานุกรมไทย-องั กฤษ
โครงงานพฒั นาเกม (Game Development) 1.เกมผจญภยั กบั พระอภยั มณี 2.เกมอกั ษรเขาวงกต 3.เกมเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 4.เกมผจญภยั กบั ภาษาองั กฤษ 5.เกมหมากฮอส 6.เกมบวกลบเลขแสนสนุก 7.เกมศึกรามเกยี รต์ิ 8.เกมมวยไทย 9.เกมอกั ษรไขว ้
การจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน เมอ่ื ผูท้ าโครงงานไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงงานแลว้ ผูท้ าจะตอ้ งจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน เพอ่ื เสนอตอ่ ครู-อาจารยท์ ่ี ปรึกษาโครงงาน โดยมหี วั ขอ้ ในเคา้ โครงของโครงงานนาเสนอดงั ต่อไปน้ี หวั ขอ้ รายละเอยี ด ช่ือโครงงาน ทาโครงงานอะไร รายวชิ า เน้อื หาเก่ยี วกบั วชิ า ช่ือผูท้ าโครงงาน ช่อื ผูร้ บั ผดิ ชอบ อาจเป็นรายบุคคลหรือรายกลมุ่ กไ็ ด้ ช่ือท่ปี รึกษาโครงงาน ครู-อาจารยผ์ ูท้ าหนา้ ทเ่ี ป็นท่ปี รกึ ษาโครงงาน ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลาดาเนนิ งานโครงงาน ตง้ั แต่เร่มิ ตน้ จนถงึ ส้นิ สดุ แนวคดิ ท่มี าและ สภาพปจั จบุ นั ทเ่ี ป็นความตอ้ งการ ความคาดหวงั ท่จี ะเกิดผล หรือ ความสาคญั วตั ถปุ ระสงค์ ส่งิ ทต่ี อ้ งการใหเ้กิดข้นึ เมอ่ื ส้นิ สดุ การทาโครงงาน หลกั การและทฤษฎี หลกั การและทฤษฎที ่นี ามาใชใ้ นการพฒั นาโครงงาน วิธดี าเนินงาน กิจกรรมหรอื ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน เคร่อื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์ สถานท่ี งบประมาณ ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ วนั เวลา และกจิ กรรมดาเนนิ การต่างๆ ตามท่รี ะบุไวใ้ นวธิ ดี าเนนิ งานตงั้ แต่เร่ิมตน้ จนส้นิ สุด ผลท่คี าดว่าจะไดร้ บั สภาพของผลทต่ี อ้ งการใหเ้กิด ทง้ั ท่เี ป็นผลผลติ กระบวนการ เอกสารอา้ งองิ ช่อื เอกสาร ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากแหลง่ ต่างๆ ท่นี ามาใชใ้ นการดาเนินงาน
เมอ่ื ผูท้ าโครงงานไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงงานแลว้ ผูท้ าจะตอ้ ง จดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน เพอ่ื เสนอตอ่ ครู-อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาโครงงาน โดยมหี วั ขอ้ ในเคา้ โครงของโครงงานนาเสนอดงั ตอ่ ไปน้ี ช่ือโครงงาน การพฒั นาสอ่ื การเรยี นรู…้ สูแ่ ทบ็ เลต็ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่อื ง We Will Go to The Zoo สาหรบั นกั เรียน ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 รายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ช่ือผูท้ าโครงงาน เดก็ หญงิ พรสุดา มาหวั เขา ชน้ั ม.3/1 เดก็ หญงิ จติ ราวดี ชะวูรมั ย์ ชนั้ ม.3/1 เดก็ หญงิ วรรณา ทนั ดอน ชน้ั ม.3/1 ช่ืออาจารยท์ ่ปี รึกษา นายธนวุฒิ รตั นดอน ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดอื น ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2555
รายละเอยี ดเกย่ี วกบั โครงงาน แนวคดิ ท่มี า และความสาคญั ของโครงงาน จากทร่ี ฐั บาลไดด้ าเนนิ งานตามนโยบายดา้ นการจดั สรรเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ แทบ็ เลต็ ใหก้ บั นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ในปีการศึกษา 2555 และกาลงั ดาเนินการจดั สรรใหก้ บั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ในปีการศึกษา 2556 เพอ่ื สง่ เสรมิ การใชเ้ทคโนโลยเี ป็นเคร่อื งมอื ยกระดบั คณุ ภาพและกระจายโอกาสทาง การศึกษาใหก้ บั นกั เรียนทวั่ ประเทศ สง่ ผลใหเ้กดิ ความตน่ื ตวั ในการสรา้ งสรรคแ์ อพ พลเิ คชนั เพอ่ื นาไปใชเ้ป็นบทเรยี นใหก้ บั แทบ็ เลต็ การพฒั นาสอ่ื การเรยี นรู…้ สูแ่ ทบ็ เลต็ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่อื ง We Will Go to The Zoo สาหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เป็นแอพพลเิ คชนั รูปแบบเสรมิ การ เรยี น (Learning Media) ทน่ี าเสนอเน้ือหา มวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอ่ื ใหผ้ ูเ้รียนสามารถ เรยี นรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง โดยสามารถเรยี นรูไ้ ดต้ ามอธั ยาศยั ทกุ ท่ี ทกุ เวลา และยงั สามารถ เลอื กเรยี นไดต้ ามความสามารถและความสนใจของตนเองอกี ดว้ ย
วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื ใหไ้ ดส้ อ่ื การสอนวชิ าภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่อื ง We Will Go to The Zoo ผา่ นเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ทบ็ เลต็ ซง่ึ เป็นแอพพลเิ คชนั รูปแบบเสรมิ การเรยี น (Learning Media) มวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอ่ื ใหผ้ ูเ้รยี นสามารถเรียนรูไ้ ด้ ดว้ ยตนเอง 2.เพอ่ื ใหผ้ ูเ้รียนสามารถเรียนรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง โดยสามารถเรยี นรูไ้ ดต้ ามอธั ยาศยั ทกุ ท่ี ทกุ เวลา และยงั สามารถเลอื กเรียนไดต้ ามความสามารถและความสนใจของ ตนเองอกี ดว้ ยในรูปแบบสอ่ื มลั ตมิ เี ดยี ทง้ั เกม,การต์ นู และแบบทดสอบใหเ้ลอื กทา ตามความตอ้ งการ 3.เพอ่ื ใหค้ รูผูส้ อนสามารถนามาใชป้ ระกอบการสอนใหห้ อ้ งเรยี นและ โดยผา่ น เคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ทบ็ เลต็ หลกั การและทฤษฎี 1. ประเภทของแอพพลเิ คชนั เพอ่ื การศึกษา 2. ประเภทของสอ่ื ทน่ี ามาใชผ้ ลติ แอพ 3. 5 เคลด็ ลบั การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้หมาะสมกบั ผูเ้รยี น 4. การใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตเ์ พอ่ื พฒั นาสอ่ื การเรยี นรู…้ สูแ่ ทบ็ เลต็
ขน้ั ตอนการดาเนินงาน 1. ปรกึ ษาอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาเกย่ี วกบั การใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระยุกตเ์ พอ่ื พฒั นา สอ่ื การเรยี นรู…้ สูแ่ ทบ็ เลต็ แผนการปฏบิ ตั งิ าน ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั 1. ผูเ้รียนสามารถเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างเขา้ ใจในเน้อื หาวชิ าเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่อื ง We Will Go to The Zoo และสามารถทาแบบทดสอบได้ ผ่านเกณฑ์ มคี วามสนใจในการเรียนมากข้นึ 2. ครูผูส้ อนสามารถนาสอ่ื การสอนทไ่ี ดจ้ ากโครงการน้ีไปใชป้ ระกอบการ จดั การเรียนการสอนในหอ้ งเรยี น
การพฒั นาโครงงาน การพฒั นาโครงงานเป็นการลงมอื พฒั นาโครงงานตามเคา้ โครงของ โครงงานทไ่ี ดว้ างแผนไว ้ หลงั จากเสนอเคา้ โครงของโครงงานต่อครู-อาจารยท์ ป่ี รึกษา แลว้ ไดร้ บั ความเหน็ ชอบวา่ เหมาะสม สามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ โดยระหวา่ งการพฒั นา โครงงานหากพบปญั หาหรืออปุ สรรคในการทา ผูพ้ ฒั นาโครงงานจะตอ้ งจดบนั ทกึ ปญั หาและการแกป้ ญั หาต่างๆ นอกจากน้ผี ูพ้ ฒั นาโครงงานจะตอ้ งขอคาแนะนาจาก ผูเ้ชย่ี วชาญ ครู-อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา เพอ่ื ตรวจสอบโครงงานเป็นระยะๆ ตลอด ระยะเวลาทพ่ี ฒั นาโครงงานโดยมรี ายละเอยี ดตา่ งๆ ในการดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จดั ประชมุ ระดมความคดิ วางแผน ออกแบบช้นิ งานร่วมกนั 2. แบง่ งาน มอบหมายงานใหผ้ ูร้ บั ผดิ ชอบ 3. บนั ทกึ ในแบบรายงานความกา้ วหนา้ สมา่ เสมอ 4. สรา้ งผลงาน อย่างถกู ตอ้ ง สวยงาม มคี ณุ ภาพ 5. ประเมนิ ผลงาน และ ตรวจผลงานเป็นระยะ ๆ 6. ทารายงานฉบบั สมบูรณ์ บทคดั ย่อ และคู่มอื การใชง้ าน 7. เตรียมนาเสนอผลงานโครงงาน เช่น ทาโปสเตอร์ ทามลั ตมิ เี ดยี เป็นตน้
วธิ ีเขียนรายงานโครงงาน การทารายงานเป็นการรวบรวมขอ้ มลู ทกุ อย่างเก่ยี วกบั โครงงาน เพอ่ื สอ่ื ความหมายใหผ้ ูอ้ น่ื ไดเ้ขา้ ใจแนวคดิ วธิ กี ารดาเนนิ การคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ ตลอดจนขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ เกย่ี วกบั โครงงานในการเขยี นรายงานควรใชภ้ าษาท่ี เขา้ ใจงา่ ย กระชบั และตรงไปตรงมา ใหค้ รอบคลมุ หวั ขอ้ ตา่ งๆ ดงั น้ี 1. สว่ นนา เป็นขอ้ มลู เก่ยี วกบั โครงงาน ประกอบดว้ ยชอ่ื โครงงาน ช่ือสาขา โครงงาน ช่อื ผูพ้ ฒั นาโครงงาน ช่อื ครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน คาขอบคณุ บคุ คลหรอื หน่วยงานทม่ี สี ว่ นทาใหโ้ ครงงานน้ีสาเร็จและบทคดั ยอ่ ซง่ึ สรุปผลการพฒั นา โครงงานโดยย่อ 2. บทนา เป็นสว่ นรายละเอยี ดเน้ือหาของโครงงาน ไดแ้ ก่ แนวคดิ ทม่ี า ความสาคญั และวตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นาโครงงาน 3. หลกั การและทฤษฎี เป็นสว่ นสรุปขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ทฤษฎี หลกั การหรือวธิ กี าร ตลอดจนโครงงานอน่ื ทน่ี ามาเปรียบเทยี บหรอื พฒั นาเพม่ิ เตมิ
วธิ เี ขียนรายงานโครงงาน 4. วธิ ดี าเนนิ การ เป็นขน้ั ตอนการดาเนนิ งานโดยละเอยี ด ทกุ ขนั้ ตอน 5. ผลการดาเนินงาน เป็นการนาเสนอขอ้ มลู ใหผ้ ูอ้ น่ื เขา้ ใจไดง้ า่ ยดว้ ยการ นาเสนอเป็นตาราง กราฟ ขอ้ ความ หรอื รูปแบบอน่ื ๆ ใหแ้ ก่ผูท้ ส่ี นใจ 6. สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ เป็นการสรุปขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการพฒั นาโครงงาน รวมไปถงึ ปญั หาและแนวทางการแกป้ ญั หาทผ่ี ูพ้ ฒั นาไดจ้ ดบนั ทกึ ไวร้ ะหวา่ ง การพฒั นาโครงงาน 7. ประโยชนแ์ ละแนวคดิ ในการพฒั นา ผูพ้ ฒั นาโครงงานควรระบปุ ระโยชนท์ ่ี ไดร้ บั และแนวทางการนาโครงงานน้ไี ปพฒั นา 8. บรรณานุกรมและภาคผนวก เป็นการรวบรวมแหลง่ ขอ้ มลู ทง้ั หมดทใ่ี ชใ้ น การพฒั นาโครงงาน 9. คู่มอื การใชง้ าน ในการพฒั นาโครงงานทเ่ี ป็นการสรา้ งช้นิ งานข้นึ มาใหม่ ควร จดั ทาคู่มอื อธบิ ายวธิ กี ารใชง้ านช้นิ งานนนั้ โดยละเอยี ด
เคา้ โครงการเขยี นรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ ช่ือโครงงาน (ภาษาไทย) - (ภาษาองั กฤษ) สาขาของโครงงาน ช่ือผูพ้ ฒั นาโครงงาน ช่ืออาจารยท์ ่ปี รึกษา ช่ืออาจารยท์ ป่ี รึกษาร่วม คาขอบคณุ บทคดั ยอ่ บทท่ี 1 บทนา ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตของโครงงาน
เคา้ โครงการเขียนรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ บทท่ี 2 หลกั การและทฤษฎี บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการ บทท่ี 4 ผลการศึกษา บทท่ี 5 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม คูม่ อื การใชง้ าน
การนาเสนอและเผยแพร่โครงงาน การแสดงผลงานนน้ั อาจทาไดห้ ลายรูปแบบตา่ ง ๆ กนั เช่น การแสดง ในรูปนทิ รรศการ ซง่ึ มที ง้ั การจดั แสดงและการอธบิ ายดว้ ยคาพูด หรือในรูปแบบของ การจดั แสดงโดยไมม่ กี ารอธบิ ายประกอบ หรือในรูปของการรายงานปากเปลา่ ไม่วา่ การแสดงผลงานจะอยูใ่ นรูปแบบใด ควรจะจดั ใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ สาคญั ดงั ต่อไปน้ี 1. ชอ่ื โครงงาน ช่อื ผูท้ าโครงงาน ช่อื ทป่ี รกึ ษา 2. คาอธบิ ายถงึ เหตจุ งู ใจในการทาโครงงาน และความสาคญั ของโครงงาน 3. วธิ กี ารดาเนินการโดยเลอื กเฉพาะขน้ั ตอนทเ่ี ดน่ และสาคญั 4. การสาธติ หรือแสดงผลทไ่ี ดจ้ ากการทดลอง 5. ผลการสงั เกตและขอ้ มลู เด่น ๆ ทไ่ี ดจ้ ากการทาโครงงาน
ในการจดั นิทรรศการโครงงานน้นั ควรคานึงถงึ สง่ิ ตา่ ง ๆ ตอ่ ไปน้ี 1. ความปลอดภยั ของการจดั แสดง 2. ความเหมาะสมกบั เน้ือทจ่ี ดั แสดง 3. คาอธบิ ายทเ่ี ขยี นแสดงควรเนน้ ประเดน็ สาคญั และสง่ิ ทน่ี ่าสนใจเท่านนั้ โดยใช้ ขอ้ ความกะทดั รดั ชดั เจน และเขา้ ใจงา่ ย 4. ดงึ ดูดความสนใจผูเ้ขา้ ชม โดยใชร้ ูปแบบการแสดงทน่ี ่าสนใจ ใชส้ ที ส่ี ดใส เนน้ จดุ ท่ี สาคญั หรอื ใชว้ สั ดตุ า่ งประเภทในการจดั แสดง 5. ใชต้ าราง และรูปภาพประกอบ โดยจดั วางอยา่ งเหมาะสม 6. สง่ิ ทแ่ี สดงทกุ อยา่ งตอ้ งถกู ตอ้ ง ไมม่ กี ารสะกดผดิ หรอื อธบิ ายหลกั การทผ่ี ดิ 7. ในกรณีทเ่ี ป็นสง่ิ ประดษิ ฐ์ สง่ิ นน้ั ควรอยู่ในสภาพทท่ี างานไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์
การประเมนิ ผลโครงงาน การประเมนิ ผลโครงงานเป็นการวดั คุณภาพของผลงานวา่ มคี ณุ ภาพ เพยี งใด โดยอาศยั เกณฑ์ ดงั ตารางดา้ นลา่ ง ทงั้ น้ี นกั เรียนควรทราบเกณฑส์ าหรบั การประเมนิ ผล เพอ่ื สรา้ งผลงานทม่ี คี ุณภาพ การเรยี นรูก้ ารจดั ทาโครงงานนน้ั จะทาใหผ้ ูเ้รียนไดน้ าความรูพ้ ้นื ฐาน เก่ยี วกบั การทางานของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ หลกั การและกระบวนการทใ่ี ชใ้ นการ แกป้ ญั หา หลกั การเขยี นโปรแกรม การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรม มาเป็น พ้นื ฐานในการสรา้ งความรูใ้ หม่ โดยมคี รูทป่ี รึกษาใหค้ าแนะนาอย่างตอ่ เน่อื ง และทา ใหผ้ ูเ้รียนเขยี นรายงานสรุปไดอ้ ยา่ งมขี น้ั ตอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: