รายงาน เรอง ความฉลาดทางดิจิทลั (DQ: Digital Intelligence Quotient) จดั ทาํ โดย นางสาว ศริ นธร มิลินททัต รหสั นกั ศึกษา 634102057 เสนอ อาจารย์ สธุ ิดา ปรชานนท์ รายงานนเี ปนส่วนหนงึ ของการเรยนวชา นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพือการสอื สารการศึกษาและการเรยนรู้ PC62506 สาขาวชาภาษาอังกฤษ มหาวทยาลยั ราขภฏั หม่บู ้านจอมบงึ ภาคเรยนที 1 ปการศกึ ษา 2564
คํานํา ก รายงานเลม่ นจี ัดทําขึนเพอื เปนสว่ นหนึงของวชานวัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื การสอื สารการศกึ ษาและการเรยนรู้ PC62506 โดยมวี ัตถุประสงค์เพอื ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเรอง ความฉลาดทางดิจทิ ลั (DQ) และได้ศกึ ษาอย่างเข้าใจเพือเปนประโยชน์กบั การเรยน หัวขอ้ ของรายงานเลม่ นีเปนเรองทนี า่ สนใจและเปนเรองทีใกล้ตวั รวมทังเปนเรองทีแสดง ใหเ้ ห็นถึงการเปลียนแปลงทางสังคมทมี ีโลกออนไลนม์ าเปนสว่ นสําคญั ผ้จู ัดทําหวงั ว่า รายงานเลม่ นีจะ เปนประโยชน์กับผอู้ า่ นหรอนักเรยน นักศึกษา ทกี าํ ลงั หาข้อมลู เรองนอี ยู่ หากมขี ้อแนะนําหรอข้อผดิ พลาดประการใด ผู้จดั ทําขอนอ้ มรับไว้และขออภัยมา ณ ทนี ดี ว้ ย นางสาวศริ นธร มิลนิ ททตั ผู้จัดทํา
สารบัญ ข เรอง หนา้ คาํ นาํ ก สารบญั ข ความหมายของความฉลาดทางดิจทิ ลั 1-2 ความหมายของความเปนพลเมืองดิจทิ ัล 3 ทกั ษะทสี าํ คัญ 8 ประการของการเปนพลเมืองในยุคดิจทิ ัล 4-15 สรุปความฉลาดทางดจิ ิทัล 16 บรรณานกุ รม 17
1 ความฉลาดทางดจิ ทิ ัล (DQ: Digital Intelligence Quotient)
ความฉลาดทางดิจิทลั (DQ: Digital Intelligence 2 Quotient) ความฉลาดทางดจิ ทิ ลั (DQ: Digital Intelligence Quotient) คือ กลมุ่ ความสามารถทางสังคม อารมณ์และการรับรู้ที จะทําใหค้ นคนหนึงสามารถเผชิญกบั ความท้าทายของชวี ตดิจิทลั และ สามารถปรับตัวใหเ้ ข้ากบั ชวี ตดจิ ิทัลได้ความฉลาดทางดิจิทัลครอบคลมุ ทังความรู้ทกั ษะ ทศั นคติและค่านิยม ทจี าํ เปนตอ่ การใช้ชวี ตในฐานะ สมาชกิ ของโลกออนไลน์ กลา่ วอกี นยั หนงึ คอื ทักษะการใชส้ อื และการ เข้าสงั คมในโลกออนไลน์ ความฉลาดทางดจิ ทิ ัล เปนผลจากศึกษาและพัฒนาของ DQ institute หนว่ ยงานทเี กดิ จากความ ร่วมมอื กันของ ภาครัฐและเอกชนทวั โลกประสานงานร่วมกับเวลด์อโี คโนมิกฟอรัม (World Economic Forum) ทีมงุ่ มนั ใหเ้ ด็กๆทุก ประเทศได้รับการศกึ ษาด้านทกั ษะพลเมืองดิจทิ ลั ทีมีคณุ ภาพและใชช้ วี ตบนโลกออนไลนอ์ ย่างปลอดภัยด้วยความก้าวหนา้ ของ เทคโนโลยสี มยั ใหม่
ความเปนพลเมืองดจิ ิทัล (Digital Citizenship) คอื อะไร 3 ความเปนพลเมอื งดิจทิ ัล คอื พลเมอื งผูใ้ ชง้ านสือดิจิทลั และสอื สงั คมออนไลน์ทีเข้าใจบรรทัดฐานของการ ปฏิบัตติ ัวให้เหมาะสมและมีความรับผดิ ชอบในการใชเ้ ทคโนโลยี โดยเฉพาะอยา่ งยงิ การสือสารในยคุ ดจิ ิทัลเปนการ สอื สารทไี ร้พรมแดน สมาชกิ ของโลกออนไลนค์ ือ ทกุ คนทีใช้เครอขา่ ยอินเทอร์เนต็ บนโลกใบนีผ้ใู ช้สอื สังคมออนไลน์มี ความหลากหลายทางเชอื ชาติ อายุ ภาษา และวฒั นธรรม พลเมอื งดิจทิ ลั จึงต้องเปนพลเมอื งทมี คี วามรบผิดชอบ มี จรยธรรม เห็นอกเหน็ ใจและเคารพผู้อืน มสี ว่ นร่วม และมุ่งเน้นความเปนธรรมในสังคม การเปนพลเมอื งในยคุ ดจิ ิทลั นนั มที ักษะทสี ําคัญ 8 ประการ
4 ทักษะทสี ําคญั 8 ประการ ของการเปนพลเมอื งใน ยคุ ดิจิทัล
1.ทกั ษะในการรักษาอตั ลกั ษณท์ ีดขี องตนเอง 5 (Digital Citizen Identity) สามารถสร้างและบรหารจัดการอตั ลักษณ์ทีดีของตนเองไว้ ไดอ้ ย่างดใี นโลกออนไลน์และโลกความจรง อัตลักษณท์ ีดคี ือการ ทผี ู้ใช้สือดจิ ทิ ัลสร้างภาพลกั ษณใ์ นโลกออนไลน์ของตนเองในแง่ บวก ทงั ความคิด ความรู้สึกและการกระทาํ โดยมวี จารณญาณ ในการรับสง่ ขา่ วสารและแสดงความคดิ เหน็ มีความเหน็ อกเหน็ ใจ ผรู้ ่วมใชง้ านในสังคมออนไลน์ และรู้จักรับผิดชอบตอ่ การกระทํา ไม่กระทาํ การทผี ดิ กฎหมาย และจรยธรรมในโลกออนไลน์ เช่น การละเมดิ ลขิ สทิ ธกิ ารกลันแกลง้ หรอการใช้วาจาทีสร้างความ เกลยี ดชงั ผู้อืนทางสือออนไลน์
2. ทักษะการคิดวเิ คราะห์มวี จิ ารณญาณทดี ี 6 (Critical Thinking) สามารถในการวเคราะหแ์ ยกแยะแยะวางข้อมูลทถี กู ตอ้ งและข้อมลู ทผี ดิ ขอ้ มลู ทีมีเนีอหาเปนประโยชนแ์ ละข้อมูลทเี ขา้ ข่าย อันตราย ขอ้ มลู ติดต่อทางออนไลน์ทีน่าตงั ข้อสงสยั และนา่ เชือถอื ไดเ้ มือใช้อนิ เทอร์เนต็ จะรู้วา่ เนอื หาอะไรเปนสาระมปี ระโยชน์ รู้ เทา่ ทันสอื และสารสนเทศ สามารถวเคราะหแ์ ละประเมนิ ขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลทีหลากหลายได้เข้าใจรูปแบบการหลอกลวงต่าง ๆ ในโลกไซเบอร์ เช่น ขา่ วปลอม เวบ็ ปลอม ภาพตดั ต่อ เปนต้น การคิดวเคราะหม์ วี จารณญาณทดี มี อี งคป์ ระกอบดังนี 1.ความรู้ สามารถอธิบายและจดจําข้อมลู ได้ 2.ความเขา้ ใจ สามารถจัดระเบยี บและเลือกข้อเทจ็ จรงและความคดิ ออกมาใชไ้ ด้ 3.การประยุกต์ สามารถนําข้อเท็จจรงและกฎขอ้ บงั คับนาํ มาสร้างความคิดใหมๆ่ ได้ 4.การวเคราะห์ สามารถแยกความคิดและเรองตา่ งๆออกมาเปนขอ้ ยอ่ ยๆได้ 5.การสังเคราะห์ สามารถนาํ ความคดิ ยอ่ ย ๆ มารวมเปนแนวคิดใหญๆ่ ได้ 6.การประเมนิ สามารถพัฒนาความคดิ เห็น และจัดลําดับความสําคญั ได้
3. ทกั ษะในการรกั ษาความปลอดภัยของตนเองในโลก 7 ไซเบอร์ (Cybersecurity Management) สามารถปองกันขอ้ มลู ด้วยการสร้างระบบความปลอดภยั ที เขม้ แขง็ และปองกันการโจรกรรมขอ้ มูลหรอการโจมตีออนไลนไ์ ด้ มที กั ษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกออนไลน์ การ รักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์ คือ การปกปองอปุ กรณด์ ิจทิ ัลขอ้ มูลทีจดั เกบ็ และข้อมูลสว่ นตวั ไม่ให้เสียหาย หรอถูก โจรกรรมจากผไู้ มห่ วังดีในโลกไซเบอร์
8 การรักษาความปลอดภยั ทางดจิ ิทัลมีความสําคญั ดังนี 1.เพือรักษาความเปนส่วนตวั และความลับ หากไม่ได้รักษาความปลอดภยั ใหก้ บั อุปกรณด์ ิจิทลั ขอ้ มูลส่วนตัวและ ขอ้ มลู ทเี ปนความลับอาจจะรัวไหลหรอถกู โจรกรรมได้ 2.เพอื ปองกนั การขโมยอตั ลักษณ์ หากไม่มีการรักษาความปลอดภยั ทีเพียงพอมจิ ฉาชพี อาจจะล้วงข้อมูลเกียวกับ บัตรเครดติและขอ้ มลู ส่วนตวั ของผใู้ ชง้ านไปสวมรอย ทาํ ธุรกรรมได้ เชน่ ไปซอื สินคา้ กู้ยมื เงิน หรอสวมรอยรับผล ประโยชน์และสวสั ดิการ 3.เพือปองกันการโจรกรรมขอ้ มูลเนอื งจากขอ้ มูลตา่ ง ๆ มกั เกบ็ รักษาในรูปของดจิ ิทัลไม่ว่าจะเปนเอกสาร ภาพถ่าย หรอคลิปวดโิ อขอ้ มูลเหล่านอี าจจะถกู โจรกรรมเพอื นําไปขายต่อแบลค็ เมล์ หรอเรยกคา่ ไถ่ 4.เพือปองกันความเสยี หายของขอ้ มลู และอปุ กรณภ์ ยั คกุ คามทางไซเบอร์อาจส่งผลเสยี ตอ่ ขอ้ มลู และอุปกรณ์ดจิ ิทลั ได้ ผไู้ มห่ วงั ดีบางรายอาจม่งุ หวงั ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ขอ้ มลู และอปุ กรณท์ ีเก็บรักษามากกว่าทจี ะโจรกรรมข้อมลู นัน
4. ทกั ษะในการรกั ษาขอ้ มูลส่วนตวั (Privacy 9 Management) มดี ุลพนิ จิ ในการบรหารจดั การขอ้ มลู ส่วนตัวรู้จกั ปกปองข้อมูล ความสว่ นตวั ในโลกออนไลน์โดยเฉพาะการแชร์ขอ้ มลู ออนไลนเ์ พือ ปองกนั ความเปนส่วนตัวทงั ของตนเองและผ้อู ืน รู้เทา่ ทันภัยคกุ คาม ทางอนิ เทอร์เนต็ เช่น มลั แวร์ ไวรัสคอมพวิ เตอร์ และกลลวงทาง ไซเบอร์
5. ทกั ษะในการจัดสรรเวลาหนา้ จอ 10 (Screen Time Management) สามารถในการบรหารเวลาทีใช้อุปกรณย์ คุ ดิจทิ ลั รวมไปถึงการควบคมุ เพอื ใหเ้ กดิ สมดลุ ระหวา่ งโลกออนไลน์ และโลกภายนอก ตระหนกั ถึงอันตรายจากการใชเ้ วลาหน้าจอนานเกนิ ไป การทํางานหลายอยา่ งในเวลาเดียวกนั และ ผลเสยี ของการเสพติดสอื ดจิ ทิ ลั
ผลกระทบจากการใชเ้ วลาหนา้ จอมากเกนิ ไปสําหรับผู้ใหญ่ 11 • นาํ หนกั เพมิ ขนึ ยิงใชเ้ วลาหนา้ จอนานเท่าไร นาํ หนกั กย็ งิ เพมิ ขนึ เท่านัน การดโู ทรทศั นเ์ พยี งแค่ 2 ชัวโมงใน แต่ละวนั สามารถเพิมความเสียง ของโรคอว้ น โรคเบาหวาน และโรคหวั ใจได้ • ปญหาด้านสายตา การจ้องมองหนา้ จอนาน ๆ เปนสาเหตุของโรค คอมพวิ เตอร์วชนั ซินโดรม (Computer Vision Syndrome) โรคนีจะมีอาการ เมอื ยลา้ จากการใช้สายตา ตาแห้ง สายตาพร่า มัว แสบตา สูแ้ สงไมไ่ ด้ รวมถงึ อาจปวดศีรษะ และคลนื ไส้ อาเจียน • ปวดเมือยและเจ็บหลงั ทา่ ทางการนังทีไม่เหมาะสมเมือใชห้ นา้ จอ สามารถทาํ ใหเ้ กิดอาการเมือยคอ ปวดหลงั ปวดแขน ปวดไหล่และขอ้ เท้าเสอื ม • นอนไม่หลบั แสงสฟี าทีสว่างมากจากหน้าจอมอื ถือและแท็บเลต็ ส่งผลต่อการหลงั ฮอร์โมนเม ลาโทนนิทชี ่วยควบคมุ การนอนหลบั สง่ ผลใหห้ ลบั ไดย้ ากขนึ
6. ทกั ษะในการบรหิ ารจัดการข้อมูลทีผใู้ ช้งานมกี ารทงิ ไว้ 12 บนโลกออนไลน์ (Digital Footprints) สามารถเข้าใจธรรมชาตขิ องการใช้ชวี ตในโลกดิจทิ ลั วา่ จะหลงเหลอื ร่อยรอยขอ้ มลู ทงิ ไว้เสมอ รวมไปถึงเขา้ ใจผลลพั ธ์ ทีอาจเกดิ ขึน เพอื การดูแลสิงเหล่านีอย่างมีความรับผิดชอบ รอยเท้าดิจิทัล (Digital Footprints) คอื อะไร รอยเทา้ ดจิ ิทัล คือ คาํ ทีใชเ้ รยกร่องรอยการกระทาํ ตา่ งๆ ทีผใู้ ชง้ าน ทิงรอยเอาไวใ้ นโลกออนไลน์ โซเชียลมเี ดีย เวบ็ ไซต์หรอโปรแกรม สนทนา เชน่ เดียวกบั รอยเทา้ ของคนเดินทาง ข้อมูลดิจิทลั เช่น การลง ทะเบียน อีเมล การโพสต์ขอ้ ความหรอรูปภาพ เมือถกู ส่งเขา้ โลก ไซเบอร์แลว้ จะทงิ ร่อยรอยขอ้ มลู ส่วนตวั ของผ้ใู ชง้ านไว้ใหผ้ ้อู นื ติดตามได้ เสมอ แม้ผใู้ ชง้ านจะลบไปแล้ว ดังนัน หากเปนการกระทําทผี ิด กฎหมายหรอศีลธรรม ก็อาจมผี ลกระทบตอ่ ชือเสียงและภาพลกั ษณ์ ของผกู้ ระทาํ
7. ทกั ษะในการรับมือกับการกลันแกล้งบนโลกไซเบอร์ 13 (Cyberbullying Management) การกลนั แกล้งบนโลกไซเบอร์ คอื การใช้อนิ เทอร์เนต็ เปนเครองมือ หรอช่องทางเพือกอ่ ใหเ้ กดิ การคุกคาม ล่อลวงและการกลนั แกล้งบนโลก อนิ เทอร์เนต็ และสือสงั คมออนไลน์ โดยกลมุ่ เปาหมายมกั จะเปนกลมุ่ เดก็ จนถงึ เด็กวยั รุ่นการกลันแกล้งบนโลกไซเบอร์คล้ายกันกบั การกลันแกลง้ ในรูปแบบอนื หากแตก่ ารกลันแกล้งประเภทนจี ะกระทาํ ผา่ นสอื ออนไลน์ หรอสือดจิ ทิ ลั เช่น การส่งข้อความทาง โทรศัพท์ ผู้กลันแกลง้ อาจจะเปน เพอื นร่วมชัน คนรู้จกั ในสอื สงั คมออนไลน์ หรออาจจะเปนคนแปลกหนา้ กไ็ ด้
8. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งมจี ริยธรรม 14 (Digital Empathy) มีความเห็นอกเหน็ ใจ และสร้างความสัมพนั ธ์ทดี ีกับผอู้ ืนบนโลกออนไลน์ แมจ้ ะเปนการสือสารทีไม่ไดเ้ หน็ หนา้ กนั มีปฏสิ มั พันธ์อนั ดีต่อคนรอบขา้ ง ไมว่ า่ พอ่ แม่ ครู เพอื นทังในโลกออนไลน์และในชวี ตจรง ไม่ดว่ นตดั สนิ ผู้อนื จากข้อมูล ออนไลนแ์ ต่เพียงอยา่ งเดยี ว และจะเปนกระบอกเสียงให้ผ้ทู ีตอ้ งการความช่วยเหลอื
คดิ กอ่ นจะโพสต์ลงสังคมออนไลน์ (Think Before You Post) 15 ใคร่ครวญกอ่ นทีจะโพสตร์ ูปหรอขอ้ ความลงในสอื ออนไลน์ ไม่โพสต์ขณะกําลงั อยใู่ นอารมณโ์ กรธ สือสารกับผู้ อนื ด้วยเจตนาดี ไม่ใชว้ าจาทีสร้างความเกลยี ดชงั ทางออนไลน์ ไม่นาํ ล้วงขอ้ มูลสว่ นตัวของผอู้ นื ไมก่ ลนั แกล้งผอู้ นื ผา่ นสือดจิ ิทลั การตังคําถามกบั ตัวเองก่อนโพสต์ ( THINK ) T – is it true? เรองทจี ะโพสต์เปนเรองจรงหรอไม่ H – is it hurtful? เรองทจี ะโพสตท์ ําใครเดือดร้อนหรอไม่ I – is it illegal? เรองทจี ะโพสตผ์ ิดกฎหมายหรอไม่ N – is it necessary? เรองทจี ะโพสต์มีสาระหรอความ จําเปนหรอไม่ K – is it kind? เรองทีจะโพสตม์ เี จตนาดหี รอไม่
สรปุ ความฉลาดทางดิจิทลั 16 ความฉลาดทางดิจทิ ลั เปนทกั ษะทีสาํ คัญสาํ หรับการสือสารในโลกออนไลนเ์ ปนอยา่ งยิง เมอื ผูใ้ ช้ อินเทอร์เน็ตนาํ ความฉลาดทางดิจทิ ลั มาประยุกตใ์ ช้ทําให้มคี วามสามารถในการใช้อนิ เทอร์เน็ตในการบรหาร จัดการ ควบคมุ กาํ กบั ตน รู้ผดิ รู้ถูก และรู้เท่าทันเปนบรรทดั ฐานในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั อย่างเหมาะสม มคี วามรับผดิ ชอบ เรยนรู้ทจี ะใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และปลอดภัย
บรรณานกุ รม 17 ดร.สรานนท์ อนิ ทนนท.์ (2563). ความฉลาดทางดิจิทลั (DQ Digital Intelligence). สืบคน้ 18 สงิ หาคม 2564, จาก http://cclickthailand.com/wp- content/uploads/2020/04/dq_FINAL.pdf Phichitra Phetparee|. (2562). ทกั ษะดิจิทัล ก้าวสู่ พลเมอื งในศตวรรษที 21. สบื คน้ 18 สิงหาคม 2564, จาก https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge- base/article-pr/1355-goto-citizens21st ธนวฒั น์ เจรญษา. (2563). ความฉลาดทางดจิ ทิ ลั กบั ทักษะการเรยนรู้และนวตั กรรมในศตวรรษที 21. สืบคน้ 18 สิงหาคม 2564, จาก https://so06.tci- thaijo.org/index.php/ivebjournal/article/download/245251/166618/
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: