Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore scine_19_december_unit1

scine_19_december_unit1

Published by g5988chalineela, 2018-12-19 01:56:19

Description: scine_19_december_unit1

Search

Read the Text Version

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ พว 31001 มธั ยมศึกษาตอนปลาย เรอ่ื ง ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ อาจารยช์ าลิณี เหลาสงิ ห์ ผสู้ อน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้จดุ ประสงคข์ องรายวชิ าน้ีก็เพ่ือขยายขอบเขตทศั นะของหลกั สูตรวทิ ยาศาสตรข์ องแตล่ ะคนออกไป รวมถึงการศึกษาโปรแกรมการเรยี นทางวทิ ยาศาสตร์ โมเดลของหลกั สูตร การออกแบบและการสรา้ งหลกั สูตรนอกจากน้ียงั มี วธิ ีการสอนและการประเมินผลนกั ศกึ ษาจะสามารถทท่ี าไดค้ อื1. นกั ศึกษาวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบตา่ งๆทมี่ ีผลกระทบตอ่ หลกั สูตรวทิ ยาศาสตร์2. อธบิ ายถึงการวางแผนหลกั สตู รหลายแบบทเี่ ก่ียวกบั จดุ แข็งและขอ้ จากดั3. อธิบายโมเดบการพฒั นาหลกั สตู รหลายแบบ และจดุ แข็งและขอ้ จากดั

เรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นเรอ่ื งของการเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั ธรรมชาติ โดยมนุษยใ์ ช้ กระบวนการสงั เกต สารวจ ตรวจสอบ ทดลองเกี่ยวกบั ปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ และนาผลมาจดั เป็นระบบหลกั การ แนวคดิ และทฤษฎี แนวคดิ และทฤษฎี ดงั นนั้ ทกั ษะวทิ ยาศาสตร์ จงึ เป็นการปฏิบตั เิ พ่ือให้ ไดม้ าซงึ่ คาตอบในขอ้ สงสยั หรอื ขอ้ สมมตฐิ านตา่ ง ๆ ของมนุษยต์ งั้ ไว้

ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ ประกอบดว้ ย• การสงั เกต เป็นวธิ ีการไดม้ าของขอ้ สงสยั รบั รูข้ อ้ มูล การใชก้ ระบวนการวทิ ยาศาสตร์ แสวงหาความรู้• พิจารณาขอ้ มลู จากปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ เ่ี กิดข้นึ หรือแกป้ ัญหาอยา่ งสา่ เสมอ ชว่ ยพฒั นาความคดิ ตง้ั สมมตฐิ าน เป็นการการระดมความคดิ สรุปสง่ิ ทคี่ าดวา่ สรา้ งสรรคท์ างวทิ ยาศาสตร์ เกิดผลผลิตหรอื ผลิตภณั ฑ์ จะเป็นคาตอบของปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั นน้ั ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์ เกิดผลผลิตหรอื ผลิตภณั ฑท์ าง• ออกแบบการทดลองเพอ่ื ศึกษาผลของตวั แปรทตี่ อ้ งศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ทแ่ี ปลกใหม่ และมีคณุ คา่ ตอ่ การดารงชวี ติ โดยควบคมุ ตวั แปรอน่ื ๆ ทอี่ าจมีผลตอ่ ตวั แปรทต่ี อ้ งการ ศกึ ษา ของมนุษยม์ ากข้นึ• ดาเนินการทดลอง เป็นการจกั กระทากบั ตวั แปรทก่ี าหนด ซง่ึ ไดแ้ ก่ ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม และตวั แปรทตี่ อ้ ง ควบคมุ• รวบรวมขอ้ มลู เป็นการบนั ทกึ รวบรวมผลการทดลองหรือ ผลจากการกระทาของตวั แปรทก่ี าหนด• แปลและสรุปผลการทดลอง

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรป์ ระกอบดว้ ย 13 ทกั ษะ ดงั น้ี1. ทกั ษะขนั้ มูลฐาน 8 ทกั ษะ ไดแ้ ก่ 2. ทกั ษะขนั้ สงู หรือทกั ษะขนั้ ผสม 5 ทกั ษะ ไดแ้ ก่1.1 ทกั ษะการสงั เกต ( Observing )1.2 ทกั ษะการวดั ( Measuring ) 2.1 ทกั ษะการตง้ั สมมุตฐิ าน1.3 ทกั ษะการจาแนกหรอื ทกั ษะการจดั ประเภทสง่ิ ของ ( Classifying ) ( Formulating Hypthesis )1.4 ทกั ษะการใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมิตกิ บั เวลา( Using Space/Relationship ) 2.2 ทกั ษะการควบคมุ ตวั แปร1.5 ทกั ษะการคานวณและการใชจ้ านวน( Using Numbers ) ( Controlling Variables )1.6 ทกั ษะการจดั กระทาและสอื่ ความหมายขอ้ มูล( Comunication ) 2.3 ทกั ษะการตคี วามและลงขอ้ สรุป1.7 ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล ( Inferring ) ( Interpreting data )1.8 ทกั ษะการพยากรณ์ ( Predicting ) 2.4 ทกั ษะการกาหนดนิยามเชงิ ปฏิบตั กิ าร ( Defining Operationally ) 2.5 ทกั ษะการทดลอง ( Experimenting )

รายละเอยี ดทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรท์ ง้ั 13 ทกั ษะ มีรายละเอยี ดโดยสรุปดงั น้ี1.ทกั ษะการสงั เกต ( Observing ) 2.ทกั ษะการวดั ( Measuring )หมายถึงการใชป้ ระสาทสมั ผสั ทง้ั 5 ในการสงั เกต ไกแ้ ก่ หมายถึง การเลอื กและการใชเ้ ครอื่ งมือวดั ปรมิ าณของใชต้ าดรู ูปรา่ ง ใชห้ ูฟังเสยี ง ใชล้ ้นิ ชมิ รส ใชจ้ มูกดมกลนิ่ สง่ิ ของออกมาเป็นตวั เลขทแ่ี นน่ อนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และและใชผ้ วิ กายสมั ผสั ความรูส้ กึ รอ้ นเย็น หรอื ใชม้ อื จบั ตอ้ ง ถกู ตอ้ งโดยมีหนว่ ยกากบั เสมอในการวดั เพ่ือหาปรมิ าณความออ่ นแข็ง เป็นตน้ การใชป้ ระสาทสมั ผสั เหลา่ น้ีจะใชท้ ี ของสง่ิ ทวี่ ดั ตอ้ งฝึ กใหผ้ เู้ รยี นหาคาตอบ 4 คา่ คอื จะวดัละอยา่ งหรอื หลายอยา่ งพรอ้ มกนั เพื่อรวบรวมขอ้ มูลก็ได้ อะไร วดั ทาไม ใชเ้ ครอื่ งมืออะไรวดั และจะวดั ไดอ้ ยา่ งไรโดยไมเ่ พิ่มความคดิ เหน็ ของผูส้ งั เกตลงไป

รายละเอยี ดทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรท์ งั้ 13 ทกั ษะ มรี ายละเอยี ดโดยสรุปดงั น้ี3(C.ทlกaั ษsะกsาiรfจyาแiนnกgหร)อื ทกั ษะการจดั ประเภทสง่ิ ของ 4.ทกั ษะการหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมิตกิ บั มิติและมิติกบั เวลา ( Space/space Relationshipหมายถงึ การแบง่ พวกหรือการเรยี งลาดบั วตั ถุ หรอื สงิ่ ทอี่ ยใู่ น and Space/Time Relationship)ปรากฏการณโ์ ดยการหาเกณฑห์ รอื สรา้ งเกณฑใ์ นการจาแนก หมายถึง การหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมิติตา่ งๆ ท่ีประเภท ซงึ่ อาจใชเ้ กณฑค์ วามเหมอื นกนั ความแตกตา่ งกนั เกี่ยวกบั สถานท่ี รูปทรง ทศิ ทาง ระยะทาง พ้ืนที่ เวลาหรอื ความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงก็ได้ ซง่ึ แลว้ แตผ่ เู้ รยี น ฯลฯ เชน่ การหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง มิตกิ บั มิติ คอืจะเลือกใชเ้ กณฑใ์ ด นอกจากน้ีควรสรา้ งความคดิ รวบยอดให้ การหารูปรา่ งของวตั ถุ โดยสงั เกตจากเงาของวตั ถุ เมื่อให้เกิดข้นึ ดว้ ยวา่ ของกลมุ่ เดยี วกนั นน้ั อาจแบง่ ออกไดห้ ลาย แสงตกกระทบวตั ถุในมุมตา่ งๆกนั ฯลฯประเภท ทง้ั น้ีข้นึ อยกู่ บั เกณฑท์ เี่ ลอื กใช้ และวตั ถุช้นิ หนึ่งในเวลาเดยี วกนั จะตอ้ งอยเู่ พยี งประเภทเดยี วเทา่ นน้ั

บรรณานุกรมhttp://203.159.251.144/pattana/p at%20-%20bookmedia1.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook