Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมชุมชน

สังคมชุมชน

Published by รัตน์ ประทุม, 2021-09-07 03:43:09

Description: สังคมชุมชน

Search

Read the Text Version

สรุปผลการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาสงั คมและชุมชน ปีงบประมาณ 2564 (ไตรมาส 3-4) โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมยั ในวันที่ 23 มถิ นุ ายน 2564 ณ ศาลาเมรุ วดั บ้านใหม่ หมทู่ ่ี 3 ตำบลหนา้ พระธาตุ อำเภอพนสั นคิ ม จงั หวัดชลบุรี กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนัสนิคม สำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั ชลบรุ ี

คำนำ กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ สงั กัด ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอพนสั นิคม ไดจ้ ัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมยั โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมคี วามรู้เกยี่ วกบั การแปรรปู สมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ พรอ้ มท้งั นำความรเู้ ร่ืองประโยชนข์ องการแปรรูปสมุนไพรและ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ ซ่ึงมีการสรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการดังกลา่ วเพอ่ื ต้องการทราบวา่ การดำเนนิ โครงการบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ท่ีกำหนดไว้หรอื ไม่ บรรลใุ นระดบั ใดและได้จดั ทำเอกสารสรปุ ผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคม และชุมชนเสนอต่อผู้บริหาร ผเู้ ก่ยี วขอ้ งเพ่ือนำข้อมลู ไปใช้ในการปรับปรงุ และพัฒนาการดำเนินโครงการให้ดยี ่ิงขน้ึ คณะผ้จู ัดทำ ขอขอบคุณผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม ท่ีให้คำแนะนำ คำปรกึ ษา ในการจดั ทำสรปุ ผลการจดั กจิ กรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชนในครงั้ น้ี หวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนฉบับน้ี จะเป็น ประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ต่อไป ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ

สารบญั หนา้ ก หวั เร่ือง ข คำนำ ค สารบัญ 1 สารบัญตาราง 3 บทที่ 1 บทนำ 9 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วข้อง 12 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ งาน 17 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู บทท่ี 5 อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก คณะผจู้ ัดทำ

สารบัญตาราง หนา้ ตารางท่ี 12 12 1. ผเู้ ข้ารว่ มโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ 12 2. ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ 13 3. ผู้เขา้ รว่ มโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี 13 4. ผ้เู ข้ารว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามระดับการศึกษา 13 5. แสดงค่าร้อยละเฉลี่ยความสำเรจ็ ของตัวชีว้ ดั ผลผลติ ประชาชนทว่ั ไป 13 6. ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 14 7. ค่าเฉลยี่ และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นบริหารจดั การ 14 8. คา่ เฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 9. คา่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ดา้ นประโยชน์ท่ีไดร้ ับ

1 บทท่ี 1 บทนำ หลักการและเหตผุ ล โครงการพัฒนาระเบยี งเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เป็นแผนยทุ ธศาสตร์ ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพ่ือยกระดับประเทศใหม้ ีความเป็นอยู่ทีด่ ขี ้ึน เปลยี่ นผ่านประเทศไทยจากประเทศท่มี ีรายได้ ปานกลางไปสู่ประเทศที่มรี ายไดส้ ูง ดว้ ยการลงทนุ ด้านเทคโนโลยีและนวตั กรรม ภายใต้วสิ ยั ทัศน์ การพัฒนาประเทศอย่าง ม่ันคง มั่งคงั่ และยั่งยนื ท้ังนี้ รัฐบาลไดเ้ รง่ ผลักดันโครงการพฒั นาระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออกที่ต่อยอดความสำเรจ็ มาจากแผนพัฒนาเศรษฐกจิ ภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard มกี ารครอบคลุมพื้นที่ 3 จงั หวดั ไดแ้ ก่ ระยอง ชลบรุ ี และฉะเชงิ เทรา เนอ่ื งจากมีความพร้อมในการเปน็ เมืองท่องเทีย่ วในอนั ดับต้นๆ ของโลก มีระบบโครงสรา้ งพืน้ ฐานที่มีความ พรอ้ ม และดว้ ยลักษณะทางภูมิศาสตรท์ ่ีตง้ั สามารถเชื่อมโยงกบั ประเทศเพอื่ นบ้านได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ซึง่ ขณะนี้ ภาครฐั อยรู่ ะหวา่ งการปรับแก้กฎหมายและกฎระเบยี บต่าง ๆ ทเ่ี อื้ออำนวยต่อการลงทุน และจะผลักดนั ให้เกิดการลงทุนใน รูปแบบคลา้ ยกบั EEC ในภูมิภาคตา่ ง ๆ ทง้ั ภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศไทย พืชสมุนไพรเป็นสง่ิ ที่อยู่คคู่ นไทยมานับพนั ปีแต่เมื่อการแผนปัจจบุ ันเร่มิ เข้ามามีบทบาทในบา้ นเรา สรรพคณุ และ คุณค่าของสมุนไพรไทยอนั เป็นสงิ่ ทเ่ี รียกไดว้ า่ ภมู ปิ ัญญาโบราณก็เร่ิมถกู บดบังไปเร่ือย ๆ และถูกทอดท้งิ ไปในทส่ี ดุ ซ่ึงความ เป็นจรงิ คนส่วนใหญก่ ็พอรู้กันว่า สมนุ ไพรไทยเป็นส่ิงท่ีมีคุณค่าใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ และใชไ้ ด้อย่างกว้างขวางแตเ่ ป็นเพราะเรา ใชว้ ธิ ีรกั ษาโรคแผนใหม่มานานมากจนวิชาการแพทย์แผนโบราณที่มสี มนุ ไพรเป็นยาหลกั ถูกลืมจนต่อไมต่ ิด ทำใหเ้ ยาวชนรนุ่ หลัง ๆ ร้จู กั สมุนไพรไทยไดน้ ้อยมากและแทบจะไม่รจู้ ักเลยท้ัง ๆ ที่สมนุ ไพรเหล่าน้ันอยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานเี้ อง การใช้สมนุ ไพรใน การดแู ลสขุ ภาพ เป็นหน่งึ ในภูมปิ ญั ญาไทยท่ีสืบทอดกนั มา ซง่ึ มีหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ท่รี ะบุถงึ การใช้พืชพรรณสมนุ ไพร ต้งั แต่สมัยพุทธกาล การนำสมุนไพรมาใช้ไดท้ ้ังในแง่การนำมารบั ประทานเปน็ อาหาร เชน่ การรบั ประทานพืชผัก หรือนำมา ประกอบเปน็ อาหาร นอกจากนัน้ ยังนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเวลาเกิดอาการเจ็บป่วยได้ กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ จงึ ไดเ้ ลง็ เห็นความสำคัญจากเหตุผลข้างตน้ ดงั กลา่ ว จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการอบรม เชิงปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมนุ ไพรให้ทันสมัยขน้ึ เพือ่ ให้ผู้เข้ารว่ มโครงการมีความรู้เกีย่ วกับการแปรรูปสมนุ ไพรไปใช้ในประกอบ อาชีพของตนเองได้ พร้อมท้ังนำความรเู้ ร่อื งประโยชน์ของการแปรรูปสมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้เกยี่ วกบั การแปรรปู สมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ 2. เพือ่ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการนำความร้เู รื่องประโยชนข์ องการแปรรูปสมนุ ไพรและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ เป้าหมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปริมาณ ประชาชนตำบลหนา้ พระธาตุ จำนวน 15 คน เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ ผู้เข้ารว่ มโครงการมีความรู้เก่ียวกบั การแปรรูปสมนุ ไพรไปใช้ในประกอบอาชีพของตนเองได้และสามารถ เพื่อให้ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการนำความรเู้ รือ่ งประโยชน์ของการแปรรูปสมุนไพรและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้

2 ผลลัพธ์ -ผ้เู ข้ารว่ มโครงการมีความรู้เก่ียวกบั การแปรรูปสมนุ ไพรไปใช้ในประกอบอาชีพของตนเองได้และสามารถเพื่อให้ ผู้เข้าร่วมโครงการนำความรเู้ ร่ืองประโยชน์ของการแปรรปู สมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ดัชนชี วี้ ัดผลสำเร็จของโครงการ ตัวชว้ี ดั ผลผลิต (Outputs) มผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการ ร้อยละ 80 ของกล่มุ เปา้ หมาย ตัวชวี้ ัดผลลัพธ์ (Outcome) ร้อยละ 80 ของ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการมคี วามรู้เกี่ยวกบั การแปรรูปสมุนไพรไปใช้ในประกอบอาชพี ของตนเอง ไดแ้ ละสามารถนำความรเู้ รอ่ื งประโยชน์ของการแปรรูปสมุนไพรและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้

3 บทที่ 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวิจัยทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ในการจัดทำสรปุ ผลโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั ครงั้ นี้ คณะผ้จู ัดทำโครงการได้ทำการคน้ คว้าเนอ้ื หาเอกสารการศึกษาและงานวจิ ยั ที่เกยี่ วข้อง ดังน้ี 1. กรอบการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสังคมและชุมชน 2. เอกสาร/งานวิจัยทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 1. กรอบการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชน ยุทธศาสตรแ์ ละจุดเน้นการดำเนินงาน ยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตรด์ ้านการพัฒนาประสิทธภิ าพระบบบริหารจัดการ ภารกิจต่อเน่ือง 1.ด้านการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ 1.3 การศกึ ษาต่อเนอ่ื ง 3) จดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลกั สูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ บูรณาการในรปู แบบของการฝึกอบรม การประชมุ สมั มนา การจดั เวทแี ลกเปลยี่ นเรียนรู้ การจดั กิจกรรมจิตอาสา การสร้าง ชุมชนนักปฏิบตั ิ และรูปแบบอ่นื ๆ ทีเ่ หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบรบิ ทของชมุ ชนแต่ละพื้นที่ เคารพความคิดเหน็ ของ ผ้อู น่ื โดย ยอมรบั ความแตกต่างและหลายหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ รวมท้งั สังคมพหุวัฒนธรรม โดยจดั กระบวนการ ใหบ้ ุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนร้รู ่วมกนั สร้างกระบวนการจติ สาธารณะ การสรา้ งจิตสำนกึ ความเปน็ ประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิ และรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ความเป็นพลเมืองดี การสง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม การบำเพญ็ ประโยชน์ใน ชุมชนการบริหารจัดการน้ำ การรบั มอื กับสาธารณภัย การอนุรักษพ์ ลงั งานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ช่วยเหลือซ่ึง กนั และกันในการพัฒนาสังคมและชมุ ชนอย่างยั่งยนื 2. เอกสาร/งานทเ่ี กี่ยวข้อง 1. ความหมาย ที่มา และความสำคัญของสมุนไพร คำว่า สมุนไพร ตาม พระราชบญั ญตั ิยา หมายถึง \"ยาท่ไี ดจ้ ากพืช สตั ว์ หรอื แร่ ซึง่ ยงั ไม่ได้ผสม ปรุง หรอื เปลี่ยน สภาพ\" เช่น พืชกย็ ังเป็นสว่ นของ ราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซึง่ ยังไม่ได้ผ่านข้ันตอนการแปรรปู ใด ๆ แตใ่ นทางการค้า สมนุ ไพรมักจะถูกดัดแปลงในรปู ต่าง ๆ เข่น ถูกห่ันให้เป็นชิน้ เล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออดั เป็นแทง่ อยา่ งไรก็ตามใน ความรสู้ ึกของคนท่ัว ๆ ไป เมื่อกลา่ วถงึ สมุนไพร มักจะนกึ ถึงเฉพาะตน้ ไมท้ ่นี ำมาใชเ้ ปน็ ยาเทา่ นั้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าสัตว์ หรือแร่ มีการนำมาใช้น้อย และใช้ในโรคบางชนิดเทา่ นัน้ มนุษย์เราส่วนใหญ่จะสนใจเก่ียวกับเร่ืองความสวยความงามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรา่ งกาย ใบหน้า และเส้นผม ยงิ่ ถา้ เรามีเส้นผมทีส่ วย ดกดำ เงางาม ก็เปน็ ส่วนหนึง่ ที่ทำใหห้ นา้ ตาเราดดู ีขึ้นได้เช่นกัน ย่ิงไดท้ ราบถงึ ประโยชน์ของสมุนไพร ไทยแลว้ ไมว่ า่ จะเปน็ ว่านหางจระเข้ ดอกอัญชัน เป็นต้น ท่ีจะช่วยบำรุงเสน้ ผมเราให้เงางาม โดยเฉพาะวา่ นหางจระเข้ และ ดอกอัญชนั นอกจากจะมีประโยชนม์ ากมายต่อรา่ งกายมนษุ ย์เราแล้ว ว่านหางจระเข้ และดอกอัญชัน ก็ยังมปี ระโยชนต์ ่อเสน้ ผมและหนงั ศรี ษะเราเช่นกนั ไมว่ ่าจะช่วยบำรงุ รากผม ทำให้รากผมแข็งแรง ผมดกดำ เงางาม

3 ทางผรู้ ับผดิ ชอบโครงการจงึ ได้ปรกึ ษากนั ว่าการท่ีเราจะนำว่านหางจระเข้ และดอกอัญชนั มาผสมกบั ยาสระผมน่าจะ เป็นอีกวธิ หี นงึ่ ทจี่ ะชว่ ยบำรงุ เส้นผมเราใหด้ ูดีข้นึ ทางผรู้ ับผิดชอบโครงการจึงได้ศึกษาเกย่ี วกับวิธีการทำยาสระผมจากว่านหาง จระเข้ และดอกอัญชนั จงึ ได้ทำโครงการน้ีขน้ึ มาทำใหป้ ระหยัดต้นทนุ และใช้ในการส่งเสริมสุขภาพรา่ งกายได้ 1.2 ความสำคญั ในด้านสาธารณสขุ พืชสมนุ ไพร เปน็ ผลผลิตจากธรรมชาติ ท่ีมนษุ ยร์ จู้ ักนำมาใช้เป็นประโยชน์ เพอ่ื การรักษาโรคภยั ไข้เจบ็ ตั้งแตโ่ บราณ กาลแลว้ เชน่ ในเอเชยี ก็มีหลกั ฐานแสดงวา่ มนุษยร์ จู้ ักใช้พืชสมนุ ไพรมากวา่ 6,000 ปี แต่หลังจากที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ มี การพัฒนาเจริญก้าวหนา้ มากขึน้ มกี ารสังเคราะห์ และผลติ ยาจากสารเคมี ในรูปทใี่ ช้ประโยชนไ์ ด้งา่ ย สะดวกสบายในการใช้ มากกว่าสมุนไพร ทำใหค้ วามนยิ มใชย้ าสมนุ ไพรลดลงมาเป็นอนั มาก เปน็ เหตใุ ห้ความรวู้ ิทยาการด้านสมุนไพรขาดการพฒั นา ไม่เจริญก้าวหนา้ เท่าท่ีควร ในปจั จบุ นั ท่วั โลกได้ยอมรบั แล้วว่าผลที่ได้จากการสกัดสมุนไพร ใหค้ ณุ ประโยชน์ดีกว่ายา ที่ไดจ้ าก การสังเคราะห์ทางวทิ ยาศาสตรป์ ระกอบกับในประเทศไทยเปน็ แหล่งทรพั ยากรธรรมชาติ อันอดุ มสมบรู ณ์ มีพชื ต่าง ๆ ทีใ่ ช้ เปน็ สมนุ ไพรได้อยา่ งมากมายนบั หมนื่ ชนิด ยังขาดก็แต่เพยี งการคน้ คว้าวจิ ยั ในทางท่เี ป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเทา่ นั้น ความ ตนื่ ตัวท่จี ะพฒั นาความรู้ด้านพชื สมนุ ไพร จึงเริม่ ขึ้นอีกคร้งั หน่งึ มกี ารเรม่ิ ตน้ นโยบายสาธารณสขุ ขัน้ มูลฐานอย่างเป็นทางการ ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มโครงการสาธารณสขุ ขั้นมลู ฐานเข้าในแผนพฒั นาการสาธารณสุข ตามแผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 4 (พ.ศ. 2520-2524) ตอ่ เน่ืองจนถึงแผนพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 7 (พ.ศ. 2535-2539) โดยมี กลวิธีการพฒั นาสมนุ ไพรและการแพทยแ์ ผนไทยในงานสาธารณสขุ มูลฐาน คอื สนับสนนุ และพัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีพน้ื บ้านอันไดแ้ ก่ การแพทย์แผนไทย เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย สมนุ ไพร และเทคโนโลยพี ้ืนบ้าน เพอ่ื ใช้ประโยชนใ์ นการแก้ไขปญั หา สุขภาพของชมุ ชนในระดบั บคุ คล ครอบครัว และชมุ ชน ให้เปน็ ไปอยา่ งถูกต้องเปน็ ระบบสามารถปรบั ประสานการดแู ลสขุ ภาพแผนปจั จุบันได้ อาจกลา่ วไดว้ า่ สมุนไพรสำหรับ สาธารณสุขมูลฐานคือสมุนไพรทใ่ี ช้ในการสง่ เสริมสุขภาพ และการรกั ษาโรค/อาการเจบ็ ป่วยเบอื้ งตน้ เพ่ือใหป้ ระชาชน สามารถพึ่งตนเองได้มากขน้ึ 1.3 ความสำคญั ในดา้ นเศรษฐกิจ ในปจั จุบนั พชื สมนุ ไพรจดั เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหน่งึ ที่ต่างประเทศกำลังหาทางลงทนุ และคัดเลือกสมนุ ไพรไทยไป สกัดหาตัวยาเพื่อรักษาโรคบางโรคและมหี ลายประเทศท่ีนำสมุนไพรไทยไปปลูกและทำการคา้ ขายแข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดทเี่ ราสง่ ออกเปน็ รูปของวัตถุดบิ คอื กระวาน ขม้ินชนั เร่ว เปล้านอ้ ยและมะขามเปียกเป็นต้น ซึ่งสมุนไพร เหลา่ น้ตี ลาดตา่ งประเทศยังคงมีความต้องการอีกมาก และในปจั จุบันกรมวชิ าการเกษตร กรมสง่ เสริมการเกษตร กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ไดใ้ ห้ความสนใจในการศึกษาเพ่ิมขนึ้ และมีโครงการวิจัยบรรจุไวใ้ นแผนพฒั นาระบบการผลิต การตลาด และการสรา้ งงานในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาคุณภาพและแหล่งปลกู สมุนไพรเพอื่ สง่ ออก โดยกำหนดชนดิ ของสมนุ ไพรทมี่ ี ศักยภาพ 13 ชนดิ คอื มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดงึ เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมิ้น จนั ทรเ์ ทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และนำ้ ผึง้ 1.4 ประโยชน์ของพืชสมนุ ไพร 1) สามารถรักษาโรคบางชนดิ ได้ โดยไมต่ ้องใช้ยาแผนปัจจบุ ัน ซึง่ บางชนิดอาจมีราคาแพง และตอ้ งเสยี คา่ ใช้จา่ ยมาก อีกท้ังอาจหาซ้ือไดย้ ากในท้องถนิ่ นั้น 2) ใหผ้ ลการรกั ษาได้ดีใกลเ้ คียงกับยาแผนปจั จุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผใู้ ชม้ ากกวา่ แผนปัจจบุ นั 3) สามารถหาได้งา่ ยในทอ้ งถ่ินเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซงึ่ มีอยทู่ ่ัวไปทง้ั ในเมืองและ ชนบท

4 4) มรี าคาถูก สามารถประหยัดค่าใชจ้ ่ายในการซ้ือยาแผนปัจจบุ ัน ทตี่ อ้ งสั่งซื้อจากตา่ ง ประเทศเปน็ การลดการขาด ดลุ ทางการคา้ 5) ใชเ้ ปน็ ยาบำรงุ รกั ษาให้รา่ งกายมีสขุ ภาพแข็งแรง 6) ใชใ้ นการถนอมอาหารเช่น ลกู จนั ทร์ ดอกจนั ทร์และกานพลู 7) ใชป้ รุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแตง่ กล่ินอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน 8) ใช้ปรงุ เป็นเคร่ืองสำอางเพ่ือเสรมิ ความงาม เช่น วา่ นหางจระเข้ 9) ใชเ้ ปน็ ยาฆา่ แมลงในสวนผกั , ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ 10) เปน็ การอนุรักษม์ รดกไทยใหป้ ระชาชนในแต่ละทอ้ งถ่ิน ร้จู ักชว่ ยตนเองในการ นำพืชสมุนไพรในท้องถ่ินของตน มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ ามแบบแผนโบราณ 11) ทำให้เกิดความภมู ใิ จในวัฒนธรรม และคุณคา่ ของความเปน็ ไทย ใชส้ กดั นำ้ มนั หอมระเหย สมนุ ไพรในกลุ่มน้เี ป็นพวกทม่ี นี ้ำมันหอมระเหยอยใู่ นตวั สามารถนำมาสกัดโดยวธิ ี นำมากล่ัน ซ่ึงจะมีกลิน่ และปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ขน้ึ อย่กู ับชนิดของสมนุ ไพร สมุนไพรท่ีน้ำมันหอมระเหยทร่ี ู้จัก กนั ดี ไดแ้ ก่ ตะไคร้หอม น้ำมนั ตะไครห้ อมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสบู่ แชมพู นำ้ หอม และสารไล่แมลง ไพล นำ้ มันไพล ใช้ใน ผลิตภัณฑค์ รีมทาภายนอก ลดการอักเสบฟกชำ้ กระวานน้ำมนั กระวานใช้แต่งกล่นิ เหล้า เคร่ืองด่ืมต่างๆ และอุตสาหกรรม นำ้ หอม พลู น้ำมนั พลู ใช้ในอุตสาหกรรม เคร่ืองสำอาง หรือเจลทาภายนอกแก้อาการคัน ใชเ้ ปน็ ยารบั ประทาน มสี มุนไพรหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ รับประทานเพอ่ื รักษาอาการของโรคตา่ ง ๆ เช่น ได้แก่ แกไ้ ข เจ็บคอ บอระเพ็ด ฟา้ ทะลายโจร แก้ทอ้ งอดึ ท้องเฟอ้ กระเพรา ไพล ขิง ระงับประสาท ข้เี หล็ก ไมยราพ ลดไขมนั ในเสน้ เลือด คำฝอย กระเจี๊ยบแดง กระเทียม ใช้เปน็ ยาทาภายนอก เปน็ สมนุ ไพรทม่ี สี รรพคุณบำบัดโรคที่เกดิ ตามผิวหนงั รวมท้ังแผลท่ีเกดิ ในช่องปาก ไดแ้ ก่ รักษาแผลในปาก บัวบก หว้า โทงเทง ระงบั กลิน่ ปาก ฝรงั่ กานพลู แก้แพ้ ผกั บุ้งทะเล เสลดพังพอน ตำลึง เท้ายายมอ่ ม รักษาแผลนำ้ รอ้ นลวก บวั บก ยาสบู ว่าน หางจระเข้ งูสวดั ตำลึง พดุ ตาน ว่านมหากาฬ เสลดพังพอน ใช้ทำเปน็ ส่วนผสมของอาหารและเครื่องด่ืม เป็นเครือ่ งดื่มทีส่ กดั จากธรรมชาตทิ ่ียงั ใหป้ ระโยชนใ์ นการรักษาโรค ควบคู่ไปด้วย ได้แก่ บุก ให้ประโยชนใ์ นการดดู จับไขมันจากเสน้ เลือด ลด นำ้ หนกั ส้มแขก ดูดไขมนั ลดนำ้ หนัก หญา้ หนวดแมว ลดน้ำหนกั บำรุงสุขภาพ ใช้ทำเคร่ืองสำอาง มสี มนุ ไพรหลายชนิดใน ปจั จุบันทน่ี ิยมใชเ้ ป็นส่วนผสมของเคร่อื งสำอาง และไดร้ ับความ นยิ มอยา่ งดี เน่อื งจากผูใ้ ช้มัน่ ใจว่าปลอดภัยมากกว่าการใชส้ ารเคมี ไดแ้ ก่ ว่านหางจระเข้ อญั ชนั มะคำดคี วาย โดยนำมา ใช้เปน็ สว่ นผสมของยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ โลชนั่ บำรุงผวิ ใช้เป็นผลติ ภณั ฑป์ ้องกนั กำจดั ศตั รูพืช มักเปน็ สมุนไพรจำพวกทมี่ ฤี ทธิ์ เบอ่ื เมา หรือมรี สขม ข้อดีคือไม่มฤี ทธิต์ กคา้ ง ทเ่ี ปน็ พิษต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สะเดา ยาสูบ ตะไครห้ อม ไพล เป็นตน้ ใช้บริโภคเป็นอาหารและเครอ่ื งเทศ สมนุ ไพรในกลุม่ นี้จดั วา่ เปน็ พืชผักสมุนไพร น่ันเองสามารถนำมารับประทาน ให้ คณุ ค่าทางอาหาร เพิ่มรสชาติ ดบั กลนิ่ คาว และยงั ชว่ ยย่อยอาหาร ได้แก่ กระเพรา โหระพา แมงลัก ผกั ชี สะระแหน่ ขิง ขา่ กระชาย บางชนิดเป็นพืชผกั สมุนไพรเมืองหนาว เชน่ พาร์สเรย่ ์ หรอื ผกั ชีฝรัง่ เฟนเนล (ผักชลี าว) เปเปอรม์ น้ิ ท์ ออริกาโน่ ทมี ไชฟ์ ดลิ มาร์เจอร์แรม เซจ ซึ่งส่วนใหญ่เปน็ พืชพมุ่ เตีย้ ใช้ส่วนของใบมาทานสด หรือแก้ง เป็นเครื่องเทศ ชูรส เป็นตน้ ปลอดภัย สมนุ ไพรส่วนมากมีฤทธิ์อ่อน ไมเ่ ปน็ พิษหรือมีอาการขา้ งเคยี งมาก แตกตา่ งกับยาแผน ปจั จุบันท่ีบางครั้งจะมฤี ทธิ์ เฉยี บพลนั ถา้ บริโภคเกินขนาดเพยี งเล็กน้อยอาจเสียชวี ติ ได้ ประหยัด ราคาของสมุนไพรถูกกว่ายาแผนปัจจุบันมาก เนื่องจาก เปน็ ทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว จึง ควรอย่างยงิ่ ที่เราจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชนเ์ พม่ิ มากขนึ้ ท้ังยังช่วยกันลดดลุ การค้าท่ีเสียบ เปรยี บตา่ งประเทศ เปน็ การสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของชาตอิ ีกด้วย

5 เหมาะสำหรับผูท้ ี่อยหู่ า่ งไกล คนไข้ที่อยู่ตามชนบท บางคร้ังไม่สามารถมารับบริการจากสถานบริการทางการแพทย์ แผนปัจจุบันไดค้ วรใชส้ มุนไพรทเ่ี ช่ือถือได้รักษาโรค ไมต่ ้องกลวั ปัญหาขาดแคลนยา ปจั จุบนั มียาหลายตวั ทท่ี ำมาจากวัตถเุ คมี ทไี่ ดจ้ ากผลิตผลของน้ำมนั ซ่ึงปัจจบุ นั นำ้ มันก็เร่ิมจะขาดแคลนทำให้ทกุ สง่ิ ทกุ อย่างถูกกระทบกระเทือนรวมไปถึงการรักษา โรค เราจงึ ตอ้ งศึกษาเกยี่ วกับยาสมุนไพรและนำมาใช้ใหเ้ ป็นประโยชน์มากขน้ึ เป็นพืชเศรษฐกิจ ส่งเสริมการปลูกสมุนไพรท่ีใช้ ในประเทศ และเพอ่ื การส่งออกอย่างจรงิ จัง และต้องคำนึงถึงผลผลิตทม่ี คี ณุ ภาพดแี ละต้นทุนตำ่ สำหรับการส่งออกในรูปของ สารสกดั ทำให้ได้ราคาดีกว่าการส่งออกในรูปวตั ถุดบิ 2. สตู รและวธิ ีการทำพิมเสนน้ำและยาดมนำ้ ตำรบั โบราณ ในตำรายาไทยแผนโบราณบอกไว้ว่า พมิ เสนนำ้ ชว่ ยให้นอนหลับสนิท แตค่ นชอบเอาไปสูดดมและทาในรถ นั่นเปน็ สาเหตหุ นึง่ ท่ีทำใหร้ ถชนกัน ดังน้นั ห้ามใชใ้ นรถเด็ดขาด พิมเสนนำ้ ใช้ดมแก้หวดั บรรเทาอาการวิงเวยี นศรี ษะ เมารถ เมาเรอื บรรเทาอาการบวมจากแมลงสตั ว์กดั ต่อย แก้ปวดเมื่อย เคลด็ ขัดยอก ส่วนผสมของพิมเสนน้ำ ตำรบั โบราณ 1. พิมเสน 60 กรัม 2. การบรู 50 กรมั 3. เมนทอล 100 กรัม 4. น้ำมันยคู าลิปตสั 1 ช้อนโต๊ะ วธิ ที ำพมิ เสนนำ้ ตำรบั โบราณ ผสมพมิ เสนน้ำและเมนทอลลงในภาชนะแก้ว คนใหเ้ ขา้ กนั แล้วบดให้ละเอยี ดจนส่วนผสมละลายกลายเป็น ของเหลวทงั้ หมด หา้ มใช้ความรอ้ นเมื่อส่วนผสมเข้ากนั แล้ว ใหเ้ ติมการบรู ลงไปกวนไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ เติมนำ้ มันยูคาลิ ปตสั ลงไป (หากจะทำเป็นยาหม่องน้ำกเ็ ติมนำ้ มนั ละกำกับนำ้ มันเปปเปอร์มินตล์ งไป)กวนตอ่ ไปจนสว่ นผสมเข้ากนั ดี นำ ส่วนผสมทีไ่ ด้เทใสข่ วดท่ีเตรียมไว้ พรอ้ มใช้ ขอ้ ควรระวังในการใช้พิมเสนนำ้ ตำรบั โบราณ 1. ควรใชอ้ ยา่ งระมดั ระวงั ไม่ควรใหเ้ ข้าตา จะทำให้แสบตาและอาจจะทำให้ตาบอดได้ 2. ควรวางพิมเสนนำ้ ให้พน้ มือเด็ก สรรพคณุ ของพิมเสนนำ้ ตำรบั โบราณ ชว่ ยทำใหช้ ่ืนใจมกี ลิน่ หอม แก้เปน็ ลม แกห้ วัด บำรุงหัวใจ แกโ้ รคผวิ หนงั เป็นต้น แต่ไม่ควรดมมากเพราะอาจทำ ใหเ้ ย่ือบุจมูกอักเสบหรือประสาทการรับรู้กล่นิ เสียได้ ยาดมนำ้ ตำรับโบราณ ยาดมนำ้ ตำรับโบราณ เป็นยาท่ีจัดอย่ใู นประเภทเปน็ ยาสมุนไพรประจำบา้ น ใช้สูดดม ยาดม ใชส้ ดู ดมบรรเทา อาการวิงเวยี น หน้ามดื ตาลาย เป็นหวดั คัดจมูก ซงึ่ มวี ธิ ีทำทีง่ า่ ยและหาสมนุ ไพรได้สะดวก สว่ นผสมของยาดมนำ้ ตำรบั โบราณ 1. นำ้ มันเปเปอรม์ ินท์ 30 กรมั 2. การบูร 30 กรมั 3. เมนทอลนำ้ 50 กรมั 4. น้ำมนั ยูคา ลิปตัส 50 กรมั

วธิ ีทำยาดมนำ้ ตำรับโบราณ นำสว่ นผสมทงั้ หมดผสมเขา้ ดว้ ยกันคนจนละลายเปน็ เนอื้ เดยี วกนั แลว้ จงึ เทใส่ขวดทเ่ี ตรียมไว้ พร้อมใช้ ยาดมนำ้ ตำรบั โบราณ สามารถเติมกลิ่นลงไป เพ่ือใหไ้ ดก้ ล่นิ ท่ีแปลกใหม่ เช่น กลิ่นมะลิ กลนิ่ กหุ ลาบ เป็นตน้ ข้อควรระวงั ในการใช้ยาดมนำ้ ตำรบั โบราณ 1. ควรใชอ้ ยา่ งระมัดระวังไม่ควรให้เข้าตา จะทำให้แสบตาและอาจจะทำใหต้ าบอดได้ 2. ควรวางยาดมนำ้ ใหพ้ ้นมือเดก็ สรรพคณุ ของยาดมนำ้ ตำรบั โบราณ ชว่ ยทำใหช้ น่ื ใจมีกล่นิ หอม บรรเทาอาการวิงเวยี น หนา้ มืด ตาลาย เป็นหวัด คัดจมกู เป็นต้น แต่ไม่ควรดมมาก เพราะอาจทำให้เย่ือบจุ มูกอักเสบหรอื ประสาทการรับรู้กล่ินเสยี ได้

9 บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ งาน การดำเนนิ โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย ได้ดำเนินการตามขน้ั ตอนต่างๆ ดังน้ี 1. ขน้ั เตรยี มการ  การศึกษาเอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรให้ทันสมัย ผู้รบั ผดิ ชอบ โครงการได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารท่ีเกยี่ วข้องเพื่อเปน็ ข้อมลู และแนวทางในการดำเนนิ การโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมยั ดงั นี้ 1. ศึกษาเอกสาร / คมู่ ือ ข้อมูลจากหนังสือ เกยี่ วกบั การแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั เพ่ือเป็นแนวทางเกยี่ วกับการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมัย 2. ศึกษาขั้นตอนการดำเนินโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมัย เพื่อเปน็ แนวทางในการ จัดเตรียมงาน วัสดุอุปกรณ์ และบุคลากรให้เหมาะสม  การสำรวจความตอ้ งการของประชาชนในพืน้ ท่ี (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลุ่มภารกิจ การจดั การศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล สำรวจความต้องการของ กลุม่ เปา้ หมายเพ่ือทราบความต้องการท่ีแท้จรงิ ของประชาชนในตำบล และมีข้อมูลในการจัดกจิ กรรมท่ีตรงกับความต้องการ ของชุมชน  การประสานงานผูน้ ำชมุ ชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกบั หัวหน้า/ผ้นู ำชมุ ชนและประชาชนในตำบลเพอ่ื ร่วมกันปรกึ ษาหารือใน กลมุ่ เก่ียวกับการดำเนินการจัดโครงการใหต้ รงกับความต้องการของชมุ ชน 2. ครู กศน.ตำบล ได้ประสานงานกับหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งเพอื่ จัดหาวิทยากร  การประชาสมั พนั ธโ์ ครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดด้ ำเนนิ การประชาสมั พนั ธก์ ารจดั โครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแปรรูปสมุนไพรให้ทนั สมยั กับยคุ EEC เพ่ือให้ประชาชนทราบขอ้ มลู การจัดกจิ กรรมดังกล่าวผา่ นผู้นำชุมชน  ประชมุ เตรียมการ / วางแผน 1) ประชมุ ปรกึ ษาหารือผู้ท่ีเก่ียวข้อง 2) เขยี นโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ า่ ยตา่ งๆ เตรยี มดำเนนิ การ 3) มอบหมายหนา้ ท่ี แต่งตัง้ คณะทำงาน  การรบั สมคั รผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดร้ ับสมัครผเู้ ขา้ รว่ มโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย โดยให้ ประชาชนทว่ั ไปท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนทต่ี ำบลหนา้ พระธาตุ เข้าร่วม เป้าหมายจำนวน 15 คน  การกำหนดสถานทีแ่ ละระยะเวลาดำเนินการ ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถานทีใ่ นการจัดอบรมคอื ศาลาเมรุ วัดบ้านใหม่ หมูท่ ี่ 3 ตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนคิ ม จงั หวัดชลบรุ ี ในวันที่ 23 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564 จำนวน 1 วนั เวลา 08.00-12.00 น.

10 2. ขนั้ ดำเนินงาน  กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนตำบลหน้าพระธาตุ จำนวน 15 คน  สถานทีด่ ำเนนิ งาน ครู กศน.ตำบล จัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมัย โดยจัดกจิ กรรมอบรม ใหค้ วามรู้ ในวนั ที่ 23 มิถุนายนพ.ศ. 2564 จำนวน 1 วนั เวลา 08.00-12.00 น. ณ ศาลาเมรุ วดั บา้ นใหม่ หมู่ท่ี 3 ตำบลหนา้ พระธาตุ อำเภอพนัสนคิ ม จงั หวดั ชลบุรี  การขออนมุ ตั ิแผนการจัดกิจกรรมการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสังคมและชุมชน กศน.ตำบล ไดด้ ำเนินการขออนุมัติแผนการจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชมุ ชน โครงการ อบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมัย ต่อสำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี เพอ่ื ให้ต้นสงั กัดอนุมัตแิ ผนการจัดกจิ กรรม การศึกษาเพอ่ื พัฒนาสงั คมและชุมชน  การจดั ทำเคร่ืองมือการวัดความพึงพอใจของผรู้ ่วมกิจกรรม เคร่อื งมือที่ใช้ในการติดตามประเมนิ ผลโครงการ ได้แก่ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ  ขั้นดำเนินการ / ปฏิบัติ 1. เสนอโครงการเพอ่ื ขอความเหน็ ชอบ/อนุมัตจิ ากตน้ สงั กัด 2. วางแผนการจดั กิจกรรมในโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมัย โดยกำหนดตาราง กจิ กรรมท่ีกำหนดการ 3. มอบหมายงานใหแ้ กผ่ ู้รับผิดชอบฝ่ายตา่ งๆ 4. แตง่ ตงั้ คณะกรมการดำเนินงาน 5. ประชาสัมพันธ์โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมุนไพรให้ทนั สมยั 6. จดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ ันสมัย ตามตารางกจิ กรรมทกี่ ำหนดการ 7. ตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั 3. การประเมนิ ผล  วเิ คราะห์ขอ้ มูล 1. บันทกึ ผลการสังเกตจากผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม 2. วเิ คราะหผ์ ลจากการประเมินในแบบประเมินความพงึ พอใจ 3. รายงานผลการปฏบิ ัติงานรวบรวมสรปุ ผลการปฏิบตั งิ านของโครงการนำเสนอต่อผู้บริหารนำปญั หา ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขครงั้ ต่อไป

11  ค่าสถติ ิทใ่ี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวช้ีวัดความสำเร็จของโครงการ ตามแบบสอบถามคดิ เปน็ รายข้อ โดยแปลความหมายคา่ สถิตริ อ้ ยละออกมาได้ดังนี้ คา่ สถิติรอ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป ดีมาก ค่าสถติ ิร้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่าสถติ ริ ้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ คา่ สถิติร้อยละ 50 – 59.99 ปรับปรุง ค่าสถติ ิรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรบั ปรุงเรง่ ดว่ น ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่าน้ำหนักคะแนน และ นำมาเปรยี บเทียบ ได้ระดับคณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดงั นี้ เกณฑก์ ารประเมิน (X) ค่านำ้ หนกั คะแนน 4.50 – 5.00 ระดบั คุณภาพ คือ ดีมาก ค่านำ้ หนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคณุ ภาพ คือ ดี คา่ น้ำหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคุณภาพ คอื พอใช้ ค่านำ้ หนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คุณภาพ คือ ต้องปรับปรุง ค่านำ้ หนักคะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคุณภาพ คอื ตอ้ งปรบั ปรุงเร่งดว่ น

12 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานและการวิเคราะห์ขอ้ มลู ตอนที่ 1 รายงานผลการจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย การจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมยั สรปุ รายงานผลการจัดกจิ กรรมได้ดังนี้ ในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรตู้ ามโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมยั เป็นการอบรมให้ ความรู้ โดยมี นางพรเพ็ญ ชัยยะ เปน็ วทิ ยากรในการบรรยายให้ความรู้ เรอ่ื ง การแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมัย ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมุนไพรใหท้ ันสมัย การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมัย ซงึ่ สรุปรายงานผลจากแบบสอบถามความ คิดเห็น ขอ้ มลู ท่ีได้สามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงค่าสถิติ ดงั นี้ ตารางท่ี 1 ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ รายละเอียด เพศ หญิง ชาย 15 100 จำนวน (คน) - รอ้ ยละ - จากตารางท่ี 1 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามทเี่ ข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชมุ ชน โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ นั สมัย เป็นหญิง จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ตารางท่ี 2 ผู้เข้ารว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ รายละเอียด อายุ (ป)ี อายุ 15-29 30 - 39 40 - 49 50-59 60 ข้นึ ไป 3 8 จำนวน (คน) 1 1 2 20.00 53.33 ร้อยละ 6.67 6.67 13.33 จากตารางที่ 2 พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถามทเ่ี ขา้ รว่ มกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ ันสมยั มีอายุ 15-29 ปี จำนวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.67 อายุ 30-39 ปี จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ6.67 อายุ 40-49 ปี จำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 13.33 อายุ 50-59 ปี จำนวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 20.00 อายุ 60 ปี จำนวน 8 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 53.33

ตารางท่ี 3 ผ้เู ข้ารว่ มโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชีพ 13 รายละเอียด เกษตรกรรม รบั จ้าง อาชีพ ค้าขาย อื่นๆ รบั ราชการ/รฐั วิสาหกจิ 1 4 6.67 26.67 จำนวน (คน) - 10 - ร้อยละ - 66.67 - จากตารางที่ 3 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามที่เข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชิง ปฏบิ ตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั มีอาชีพรบั จ้าง จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67 อาชีพค้าขาย จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.67 และอาชีพอ่นื ๆ จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 ตารางท่ี 4 ผ้เู ข้ารว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามระดบั การศึกษา รายละเอยี ด ระดบั การศึกษา การศกึ ษา ประถม ม.ต้น ม.ปลาย/ปวช. ปวส./ป.ตรีข้นึ ไป - จำนวน (คน) 9 6 - - ร้อยละ 60.00 40.00 - จากตารางที่ 4 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่เขา้ รว่ มกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมัย มีระดับประถม จำนวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 60.00 และมีระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 40.00 ตารางท่ี 5 แสดงค่าร้อยละเฉลย่ี ความสำเร็จของตวั ชว้ี ดั ผลผลติ ประชาชนทัว่ ไปเขา้ รว่ มโครงการจำนวน 15 คน ผลสำเร็จของโครงการ เป้าหมาย(คน) ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการ(คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 15 15 100 จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผลสำเร็จของตวั ชี้วดั ผลผลิตกิจกรรมการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชนโครงการอบรมเชิง ปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมยั มีผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ จำนวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ซง่ึ บรรลุเป้าหมายดา้ นตัวชีว้ ัด ผลผลิต

14 ตารางที่ 6 ค่าเฉลยี่ และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิง ปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมนุ ไพรให้ทนั สมยั ในภาพรวม รายการ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดบั ความพึงพอใจ ด้านบริหารจดั การ () () ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.63 0.52 ดมี าก ดา้ นประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ 4.50 0.50 ดมี าก รวมทกุ ดา้ น 4.53 0.51 ดีมาก 4.53 0.52 ดีมาก จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรให้ ทนั สมัย ในภาพรวมอยูใ่ นระดับดมี าก (=4.53) เม่ือพิจารณาเปน็ รายด้าน พบว่า ด้านบริหารจัดการ อยใู่ นระดับดีมาก มี ค่าเฉลี่ย (= 4.63) รองลงมาคอื ดา้ นประโยชน์ทไี่ ดร้ บั มีอยู่ในระดบั ดมี าก มคี ่าเฉล่ยี (= 4.53) และ ดา้ นการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ อยใู่ นระดับดี มคี ่าเฉลี่ย (= 4.50) ตามลำดบั โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหวา่ ง 0.50 - 0.52 แสดงว่า ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมีความพงึ พอใจสอดคล้องกนั ตารางท่ี 7 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิง ปฏิบัติการแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ นั สมยั ดา้ นบรหิ ารจดั การ รายการ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบี่ยงเบน ระดบั ความพงึ พอใจ 1. อาคารสถานที่ () มาตรฐาน () 2. สิ่งอำนวยความสะดวก ดีมาก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการ 4.60 0.49 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.47 0.50 ดี 5. วิทยากรผ้ใู ห้การอบรม 4.47 0.50 4.80 0.54 ดมี าก รวม 4.73 0.44 ดีมาก 4.61 0.49 ดีมาก จากตารางท่ี 7 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามท่มี ีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรปู สมุนไพรให้ ทนั สมัย ด้านบริหารจัดการ ในภาพรวมอยใู่ นระดบั ดมี าก มคี ่าเฉลย่ี (= 4.61) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ เอกสารการ อบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.80) รองลงมา คือ วิทยากรผู้ให้การอบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.73) อาคารสถานที่ มีค่าเฉลี่ย (= 4.60) ส่ิงอำนวยความสะดวก มีค่าเฉลี่ย (= 4.60) และกำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉล่ีย (= 4.47) ตามลำดับ โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.44 - 0.54 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไป ในทิศทางเดียวกนั

15 ตารางท่ี 8 คา่ เฉลยี่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีมคี วามพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ รายการ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบีย่ งเบน ระดับ () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารแปรรูป สมุนไพรให้ทนั สมยั 4.33 0.47 ดี 7. การให้ความรู้เรื่องปฏบิ ตั กิ ารแปรรปู สมุนไพร 8. การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร 4.53 0.50 ดีมาก 4.53 0.50 ดีมาก 9. การแลกเปลีย่ นเรียนรขู้ องผเู้ ข้ารบั การอบรม 4.50 0.46 ดีมาก 10. การสรปุ องค์ความรูร้ ่วมกัน 4.67 0.47 ดมี าก 11. การวัดผล ประเมินผล การฝึกอบรม 4.47 0.50 4.50 0.47 ดี รวม ดมี าก จากตารางที่ 8 พบวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรปู สมนุ ไพรให้ ทนั สมยั ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ในภาพรวมอยู่ในระดับดี มคี ่าเฉล่ยี (= 4.46) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ การสรุปองค์ความรรู้ ว่ มกัน มีค่าเฉล่ีย (= 4.67) รองลงมาคือ การใหค้ วามร้เู ร่ืองปฏบิ ัติการแปรรูปสมนุ ไพร) มคี า่ เฉลี่ย(= 4.53 ) การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร มีคา่ เฉล่ีย (= 4.53 ) การวดั ผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม มีคา่ เฉลี่ย (=4.47) การจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ ันสมัย มีค่าเฉลย่ี (= 4.33) และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ของผูเ้ ข้ารับการอบรม มีค่าเฉลยี่ ( = 4.20) ตามลำดับ โดยมสี ว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.40 - 0.50 แสดงว่า ผูต้ อบแบบสอบถามมคี วามคดิ เห็นสอดคล้องกนั ตารางท่ี 9 ค่าเฉลี่ยและสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมทม่ี ีความพงึ พอใจตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรูปสมุนไพรให้ทนั สมยั ดา้ นประโยชน์ทไ่ี ด้รับ รายการ คา่ เฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พึงพอใจ 12. ได้เรียนรู้และฝึกตนเอง เก่ียวกบั ทำแชมพูสมุนไพร 13. นำความรทู้ ีไ่ ดร้ บั มาปรับใช้ในชีวติ ประจำวนั 4.47 0.50 ดี รวม 4.55 0.49 ดมี าก 4.50 0.49 ดีมาก

16 จากตารางที่ 9 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรให้ ทันสมัย ด้านประโยชน์ท่ีได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นำ ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.60) รองลงมา ได้เรียนรู้และฝึกตนเอง เก่ียวกับทำแชมพู สมนุ ไพร มีค่าเฉลยี่ (= 4.47) โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหว่าง 0.49 - 0.50 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมี ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน สรปุ ในภาพรวมของกิจกรรมคดิ เปน็ รอ้ ยละ 90.78 มคี ่าน้ำหนักคะแนน 4.53 ถือวา่ ผู้รบั บรกิ าร มคี วามพึงพอใจทางดา้ นต่างๆ อย่ใู นระดับดีมาก โดยเรียงลำดบั ดังนี้  อนั ดับแรก ด้านบรหิ ารจัดการ คิดเป็นร้อยละ 92.72 มคี ่านำ้ หนักคะแนน 4.66 อยู่ในระดบั คุณภาพ ดมี าก  อันดับสอง ด้านประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั คิดเป็นร้อยละ 90.60 มคี า่ นำ้ หนกั คะแนน 4.53 อยใู่ นระดับคณุ ภาพดีมาก  อนั ดบั สาม ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 89.11 มคี า่ น้ำหนักคะแนน 4.46 อยูใ่ นระดับ คณุ ภาพดี

17 บทท่ี 5 อภิปรายและข้อเสนอแนะ ผลการจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมัย ไดผ้ ลสรุปดงั น้ี วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผเู้ ข้าร่วมโครงการมีความรู้เก่ยี วกับการแปรรูปสมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ 2. เพือ่ ให้ผู้เข้ารว่ มโครงการนำความรู้เรอ่ื งประโยชนข์ องการแปรรูปสมุนไพรและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ เป้าหมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ - ประชาชนตำบลหน้าพระธาตุ จำนวน 15 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ผู้เข้ารว่ มโครงการมคี วามรู้เกยี่ วกบั การแปรรูปสมนุ ไพรไปใชใ้ นประกอบอาชพี ของตนเองได้และสามารถ เพ่ือให้ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการนำความรเู้ รอื่ งประโยชนข์ องการแปรรปู สมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครื่องมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในครง้ั น้ี คือ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ การเก็บรวบรวมข้อมลู ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ได้มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล ท่ีรับผดิ ชอบกจิ กรรมแจกแบบสอบถามความพงึ พอใจ ให้กับผรู้ ่วมกจิ กรรม โดยใหผ้ ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมัย สรุปผลการดำเนนิ งาน กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ ไดด้ ำเนินการจัดกิจกรรมตาม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมยั โดย ดำเนนิ การเสร็จสิน้ ลงแลว้ และสรุปรายงานผลการดำเนินงานได้ดงั น้ี 1. ผรู้ ว่ มกิจกรรมจำนวน 15 คน มีความรู้เกยี่ วกับการแปรรูปสมุนไพรไปใช้ในประกอบอาชีพของตนเองได้และ สามารถเพ่ือให้ผู้เข้ารว่ มโครงการนำความรูเ้ ร่ืองประโยชน์ของการแปรรูปสมุนไพรและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ 2. ผ้รู ว่ มกิจกรรมร้อยละ 91.00 นำความรทู้ ่ีได้รบั มาปรบั ใช้ในชวี ติ ประจำวัน 3. จากการดำเนินกิจกรรมตามโครงการดังกล่าว สรุปโดยภาพรวมพบวา่ ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมสว่ นใหญม่ ีความพึงพอใจ ตอ่ โครงการ อยใู่ นระดบั “ดีมาก ” และบรรลคุ วามสำเร็จตามเป้าหมายตัวชว้ี ดั ผลลพั ธท์ ี่ต้งั ไว้ โดยมีค่าเฉลี่ยรอ้ ยละภาพรวม ของกิจกรรม 90.78 และคา่ การบรรลเุ ปา้ หมายคา่ เฉลีย่ 4.53 ขอ้ เสนอแนะ - อยากให้มีการจดั กจิ กรรมอีก จะไดน้ ำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชวี ติ ตอ่ ไป

บรรณานุกรม ที่มา กรมการศึกษานอกโรงเรียน (2546) บุญชม ศรีสะอาด และ บญุ ส่ง นลิ แก้ว (2535 หน้า 22-25) กระทรวงศึกษาธิการ . (2543). https://sites.google.com/site/yasraphmsmunphir01/khorngkar/bth-thi2

แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมุนไพรใหท้ ันสมยั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.อำเภอพนัสนคิ ม จังหวดั ชลบุรี คำชี้แจง 1. แบบสอบถามฉบบั นม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์ เพื่อใช้ในการสอบถามความพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมุนไพรใหท้ ันสมยั กับยคุ EEC 2. แบบสอบถามมี 3 ตอนดังน้ี ตอนท่ี 1 ถามขอ้ มลู เกี่ยวกับผตู้ อบแบบสอบถามจำนวน 4 ขอ้ ใหท้ ำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องให้ตรงกับสภาพจริง ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ นั สมยั กบั ยคุ EEC จำนวน 13 ข้อ ซ่งึ มีระดับ ความพงึ พอใจ 5 ระดับ ดังนี้ 5 มากท่สี ดุ หมายถงึ มคี วามพึงพอใจมากทีส่ ดุ 4 มาก หมายถงึ มีความพงึ พอใจมาก 3 ปานกลางหมายถึง มีความพงึ พอใจปานกลาง 2 นอ้ ย หมายถงึ มีความพึงพอใจนอ้ ย 1 น้อยที่สดุ หมายถึง มคี วามพงึ พอใจน้อยทสี่ ดุ ตอนท่ี 3 ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย กบั ยุค EEC ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม หญิง 40 ปี – 49 ปี เพศ 30 ปี – 39 ปี ชาย 60 ปขี ้ึนไป อายุ 15 ปี – 29 ปี 50 ปี – 59 ปี การศกึ ษา ต่ำกวา่ ป.4 ป.4 ประถม ม.ต้น ม.ปลาย ประกอบอาชีพ อนปุ รญิ ญา ปริญญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรี รบั จ้าง คา้ ขาย เกษตรกร ลกู จ้าง/ขา้ ราชการหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน อนื่ ๆ ………………………………….

ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจเก่ยี วกับโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมัย ขอ้ ที่ รายการ ระดับความคดิ เห็น 1 5 432 ดา้ นบริหารจดั การ 1. อาคารและสถานท่ี 2. ส่ิงอำนวยความสะดวก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการ 4. เอกสารการอบรม 5. วิทยากรผใู้ ห้การอบรม ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6. การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพร ใหท้ ันสมยั 7. การให้ความร้เู รื่องปฏิบัตกิ ารเรียนร้มู ุ่งสูค่ วามพอเพยี ง 8. การตอบขอ้ ซกั ถามของวิทยากร 9. การแลกเปล่ียนเรียนรู้ของผเู้ ข้ารับการอบรม 10. การสรปุ องคค์ วามร้รู ว่ มกัน 11. การวดั ผล ประเมินผล การฝึกอบรม ด้านประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ 12 ได้เรียนรูแ้ ละฝึกตนเอง เกย่ี วกบั ปฏิบัตกิ ารเรียนรมู้ ุ่งสู่ความ พอเพยี ง 13 นำความรู้ที่ไดร้ บั มาปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวัน ตอนที่ 3 ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ขอ้ คดิ เหน็ .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคุณท่ใี หค้ วามร่วมมอื กศน. อำเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบุรี

คณะผู้จัดทำ ทปี่ รึกษา หมืน่ สา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพนัสนิคม การงานดี ครู 1. นางณัชธกญั ศรเี ทพ บรรณารกั ษป์ ฏิบตั ิการ 2. นางสาวมทุ กิ า ทำทอง ครผู ู้ชว่ ย 3. นางปลมื้ จิตร ศรีบณุ ยะแก้ว ครผู ู้ชว่ ย 4. นางพริ ฬุ ห์พร คลังสนิ ธ์ ครู อาสาสมคั ร กศน. 5. นางสาวณภษร 6. นางสาวเฟอ่ื งฟา้ คณะทำงาน ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ นางสาวพจนีย์ ประทุมทอง ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ บรรณาธิการ นางสาวพจนีย์ ประทมุ ทอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook