สรปุ ผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพือ่ พฒั นาสงั คมและชมุ ชน ปีงบประมาณ 2563 (ไตรมาส3-4) โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย กับยุค EEC ในวนั ที่ 19 มิถนุ ายน 2563 ณ วดั หน้าพระธาตุ หมทู่ ี่ 10 ตำบลหนา้ พระธาตุ อำเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบรุ ี กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนสั นิคม สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดชลบรุ ี
คำนำ กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ สังกดั ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นิคม ได้จดั ทำโครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรใหท้ ันสมยั กับยุค EEC โดยมวี ตั ถุประสงค์เพื่อให้ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี ความรู้เก่ียวกับการแปรรปู สมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ พรอ้ มทัง้ นำความรเู้ รอ่ื งประโยชนข์ องการแปรรูป สมุนไพรและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ ซง่ึ มีการสรปุ ผลการจัดกิจกรรมโครงการดงั กลา่ วเพื่อต้องการทราบว่าการดำเนิน โครงการบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคท์ ่ีกำหนดไว้หรือไม่ บรรลใุ นระดบั ใดและไดจ้ ัดทำเอกสารสรุปผลการจดั กจิ กรรมการศึกษา เพอ่ื พัฒนาสังคมและชุมชนเสนอตอ่ ผูบ้ ริหาร ผู้เกยี่ วข้องเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการปรบั ปรุงและพัฒนาการดำเนนิ โครงการให้ดี ยงิ่ ขึ้น คณะผูจ้ ดั ทำ ขอขอบคณุ ผู้อำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม ท่ใี ห้คำแนะนำ คำปรึกษา ในการจัดทำสรปุ ผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชนในครงั้ น้ี หวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนฉบับนี้ จะเป็น ประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตอ่ ไป ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ มถิ ุนายน 2563
สารบญั หนา้ ก หวั เร่ือง ข คำนำ ค สารบัญ 1 สารบัญตาราง 3 บทที่ 1 บทนำ 9 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วข้อง 12 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ งาน 17 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู บทท่ี 5 อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก คณะผจู้ ัดทำ
สารบัญตาราง หนา้ ตารางท่ี 12 12 1. ผเู้ ข้ารว่ มโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ 12 2. ผู้เข้าร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ 13 3. ผู้เขา้ รว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอาชพี 13 4. ผเู้ ข้ารว่ มโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามระดับการศึกษา 13 5. แสดงค่าร้อยละเฉลี่ยความสำเรจ็ ของตัวช้ีวดั ผลผลติ ประชาชนทว่ั ไป 13 6. คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 14 7. ค่าเฉลยี่ และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ดา้ นบริหารจดั การ 14 8. คา่ เฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 9. คา่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นประโยชน์ท่ีไดร้ ับ
1 บทท่ี 1 บทนำ หลกั การและเหตผุ ล โครงการพัฒนาระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เป็นแผนยทุ ธศาสตร์ ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพอ่ื ยกระดบั ประเทศให้มีความเป็นอยู่ทีด่ ีข้นึ เปลย่ี นผ่านประเทศไทยจากประเทศทม่ี รี ายได้ ปานกลางไปสู่ประเทศท่มี รี ายได้สูง ดว้ ยการลงทนุ ดา้ นเทคโนโลยีและนวตั กรรม ภายใตว้ สิ ยั ทัศน์ การพัฒนาประเทศอยา่ ง มั่นคง มงั่ คั่ง และยั่งยืน ทง้ั น้ี รฐั บาลได้เร่งผลกั ดนั โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกทตี่ อ่ ยอดความสำเรจ็ มาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard มกี ารครอบคลุมพ้ืนที่ 3 จังหวดั ไดแ้ ก่ ระยอง ชลบรุ ี และฉะเชงิ เทรา เน่ืองจากมีความพร้อมในการเป็นเมืองท่องเท่ียวในอนั ดบั ตน้ ๆ ของโลก มรี ะบบโครงสรา้ งพนื้ ฐานทีม่ ีความ พรอ้ ม และด้วยลักษณะทางภูมิศาสตรท์ ่ีตง้ั สามารถเช่ือมโยงกับประเทศเพ่อื นบา้ นได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ซึง่ ขณะนี้ ภาครฐั อย่รู ะหว่างการปรบั แก้กฎหมายและกฎระเบียบตา่ ง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการลงทนุ และจะผลักดนั ใหเ้ กดิ การลงทุนใน รูปแบบคล้ายกบั EEC ในภูมิภาคตา่ ง ๆ ท้ังภาคเหนือ ภาคใตแ้ ละภาคตะวนั ตกของประเทศไทย พืชสมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานบั พนั ปแี ตเ่ มื่อการแผนปัจจบุ นั เริ่มเข้ามามบี ทบาทในบา้ นเรา สรรพคุณและ คุณค่าของสมนุ ไพรไทยอันเป็นสง่ิ ท่ีเรียกได้ว่า ภมู ิปญั ญาโบราณก็เรม่ิ ถกู บดบังไปเรื่อย ๆ และถูกทอดทง้ิ ไปในท่ีสุดซึง่ ความ เป็นจริงคนสว่ นใหญ่ก็พอรู้กันวา่ สมนุ ไพรไทยเปน็ ส่งิ ท่ีมีคณุ คา่ ใชป้ ระโยชน์ได้จรงิ และใชไ้ ดอ้ ย่างกว้างขวางแตเ่ ป็นเพราะเรา ใชว้ ิธรี กั ษาโรคแผนใหม่มานานมากจนวิชาการแพทยแ์ ผนโบราณทีม่ สี มุนไพรเปน็ ยาหลกั ถกู ลมื จนต่อไมต่ ิด ทำให้เยาวชนรุ่น หลงั ๆ ร้จู กั สมนุ ไพรไทยได้น้อยมากและแทบจะไมร่ จู้ ักเลยทง้ั ๆ ทสี่ มนุ ไพรเหล่านนั้ อยู่ใกล้ ๆ ตวั เราน้เี อง การใช้สมนุ ไพรใน การดูแลสขุ ภาพ เป็นหนง่ึ ในภูมิปญั ญาไทยทส่ี บื ทอดกนั มา ซงึ่ มีหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ ท่รี ะบุถึงการใช้พืชพรรณสมุนไพร ตงั้ แต่สมยั พุทธกาล การนำสมุนไพรมาใช้ได้ท้ังในแง่การนำมารับประทานเป็นอาหาร เช่น การรับประทานพืชผัก หรือนำมา ประกอบเป็นอาหาร นอกจากนั้นยงั นำมาใช้เปน็ ยารักษาโรคเวลาเกิดอาการเจบ็ ป่วยได้ กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ จึงไดเ้ ลง็ เห็นความสำคญั จากเหตุผลข้างตน้ ดังกลา่ ว จงึ ไดด้ ำเนินการจัดทำโครงการอบรม เชงิ ปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรใหท้ นั สมัย กบั ยคุ EEC ขึน้ เพอื่ ให้ผู้เขา้ รว่ มโครงการมีความรู้เกี่ยวกับการแปรรูปสมนุ ไพรไป ใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ พร้อมทั้งนำความร้เู รื่องประโยชน์ของการแปรรูปสมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ วัตถุประสงค์ 1. เพอื่ ให้ผเู้ ข้าร่วมโครงการมีความรู้เก่ยี วกบั การแปรรปู สมุนไพรไปใช้ในประกอบอาชีพของตนเองได้ 2. เพอ่ื ให้ผ้เู ข้ารว่ มโครงการนำความรเู้ รอื่ งประโยชนข์ องการแปรรปู สมุนไพรและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ เปา้ หมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ ประชาชนตำบลหนา้ พระธาตุ จำนวน 15 คน เปา้ หมายเชิงคุณภาพ ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้เก่ียวกบั การแปรรปู สมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้และสามารถ เพอื่ ให้ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการนำความรูเ้ รือ่ งประโยชนข์ องการแปรรูปสมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้
2 ผลลัพธ์ -ผ้เู ข้ารว่ มโครงการมีความรู้เก่ียวกบั การแปรรูปสมนุ ไพรไปใช้ในประกอบอาชีพของตนเองได้และสามารถเพื่อให้ ผู้เข้าร่วมโครงการนำความรเู้ ร่ืองประโยชนข์ องการแปรรปู สมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ดัชนชี วี้ ัดผลสำเร็จของโครงการ ตัวชว้ี ดั ผลผลิต (Outputs) มผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการ ร้อยละ 80 ของกล่มุ เปา้ หมาย ตัวชวี้ ัดผลลัพธ์ (Outcome) ร้อยละ 80 ของ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการมคี วามรู้เกี่ยวกบั การแปรรูปสมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชพี ของตนเอง ได้และสามารถนำความรเู้ รอ่ื งประโยชน์ของการแปรรูปสมุนไพรและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
3 บทท่ี 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวจิ ัยทเี่ กยี่ วขอ้ ง ในการจดั ทำสรุปผลโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย กับยุค EEC คร้ังน้ี คณะผจู้ ัดทำโครงการไดท้ ำการคน้ คว้าเน้อื หาเอกสารการศึกษาและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดังนี้ 1. กรอบการจดั กิจกรรมการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสังคมและชมุ ชน 2. เอกสาร/งานวจิ ยั ท่เี กยี่ วข้อง 1. กรอบการจดั กจิ กรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนนิ งาน ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6 ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสทิ ธิภาพระบบบริหารจัดการ ภารกิจตอ่ เน่ือง 1.ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ 1.3 การศกึ ษาต่อเนอ่ื ง 3) จดั การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใชห้ ลกั สูตรและการจัดกระบวนการเรยี นรแู้ บบ บูรณาการในรปู แบบของการฝึกอบรม การประชมุ สมั มนา การจดั เวทีแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมจิตอาสา การสรา้ ง ชมุ ชนนกั ปฏบิ ตั ิ และรปู แบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับกล่มุ เป้าหมาย และบริบทของชมุ ชนแต่ละพ้ืนท่ี เคารพความคิดเห็นของ ผ้อู ่ืนโดย ยอมรบั ความแตกต่างและหลายหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ รวมท้งั สงั คมพหวุ ัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการ ให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปลีย่ นเรยี นรรู้ ว่ มกนั สรา้ งกระบวนการจิตสาธารณะ การสร้างจิตสำนึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิ และรบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีความเป็นพลเมืองดี การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การบำเพญ็ ประโยชนใ์ น ชมุ ชนการบรหิ ารจดั การน้ำ การรับมือกับสาธารณภัย การอนุรักษพ์ ลงั งานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ชว่ ยเหลือซ่ึง กันและกนั ในการพฒั นาสังคมและชมุ ชนอยา่ งยั่งยืน 2. เอกสาร/งานท่เี กยี่ วขอ้ ง 1. ความหมาย ที่มา และความสำคญั ของสมุนไพร คำว่า สมุนไพร ตาม พระราชบัญญัติยา หมายถึง \"ยาท่ไี ด้จากพชื สัตว์ หรอื แร่ ซ่งึ ยงั ไม่ได้ผสม ปรงุ หรอื เปลย่ี น สภาพ\" เช่น พชื กย็ งั เปน็ สว่ นของ ราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซ่ึงยังไม่ไดผ้ ่านขนั้ ตอนการแปรรปู ใด ๆ แตใ่ นทางการค้า สมนุ ไพรมักจะถูกดดั แปลงในรูปตา่ ง ๆ เข่น ถูกห่ันให้เป็นช้นิ เลก็ ลง บดเป็นผงละเอยี ด หรืออดั เป็นแทง่ อย่างไรกต็ ามใน ความรู้สกึ ของคนท่ัว ๆ ไป เมื่อกลา่ วถงึ สมนุ ไพร มักจะนกึ ถึงเฉพาะต้นไม้ทีน่ ำมาใช้เป็นยาเทา่ น้ัน ทงั้ นี้อาจเปน็ เพราะว่าสัตว์ หรอื แร่ มกี ารนำมาใชน้ ้อย และใชใ้ นโรคบางชนิดเท่านั้น มนษุ ยเ์ ราสว่ นใหญ่จะสนใจเก่ียวกบั เรือ่ งความสวยความงามเป็นอยา่ งมาก ไมว่ ่าจะเปน็ ร่างกาย ใบหน้า และเส้นผม ยงิ่ ถ้าเรามเี ส้นผมท่ีสวย ดกดำ เงางาม ก็เปน็ ส่วนหน่งึ ท่ีทำให้หน้าตาเราดดู ีขนึ้ ไดเ้ ชน่ กนั ยิง่ ไดท้ ราบถงึ ประโยชนข์ องสมุนไพร ไทยแลว้ ไมว่ ่าจะเป็นว่านหางจระเข้ ดอกอัญชัน เปน็ ต้น ที่จะชว่ ยบำรุงเส้นผมเราใหเ้ งางาม โดยเฉพาะว่านหางจระเข้ และ ดอกอญั ชนั นอกจากจะมีประโยชนม์ ากมายต่อรา่ งกายมนษุ ย์เราแล้ว วา่ นหางจระเข้ และดอกอญั ชนั ก็ยังมีประโยชนต์ ่อเส้น ผมและหนงั ศรี ษะเราเชน่ กัน ไมว่ า่ จะช่วยบำรงุ รากผม ทำให้รากผมแข็งแรง ผมดกดำ เงางาม
4 ทางผรู้ ับผดิ ชอบโครงการจงึ ไดป้ รึกษากันว่าการท่ีเราจะนำว่านหางจระเข้ และดอกอัญชัน มาผสมกับยาสระผมน่าจะ เป็นอีกวธิ หี นงึ่ ท่จี ะชว่ ยบำรงุ เส้นผมเราใหด้ ูดขี น้ึ ทางผูร้ ับผิดชอบโครงการจงึ ได้ศึกษาเกย่ี วกับวิธกี ารทำยาสระผมจากวา่ นหาง จระเข้ และดอกอัญชนั จึงได้ทำโครงการน้ีขน้ึ มาทำให้ประหยัดต้นทนุ และใช้ในการส่งเสรมิ สุขภาพร่างกายได้ 1.2 ความสำคญั ในด้านสาธารณสขุ พืชสมนุ ไพร เปน็ ผลผลติ จากธรรมชาติ ที่มนษุ ย์รู้จักนำมาใช้เป็นประโยชน์ เพอ่ื การรกั ษาโรคภัยไขเ้ จ็บตั้งแต่โบราณ กาลแลว้ เชน่ ในเอเชยี ก็มีหลักฐานแสดงว่ามนษุ ยร์ จู้ ักใช้พชื สมุนไพรมากว่า 6,000 ปี แต่หลงั จากท่ีความร้ดู ้านวทิ ยาศาสตร์ มี การพฒั นาเจริญก้าวหนา้ มากข้นึ มกี ารสังเคราะห์ และผลิตยาจากสารเคมี ในรปู ทใี่ ช้ประโยชน์ได้งา่ ย สะดวกสบายในการใช้ มากกว่าสมุนไพร ทำใหค้ วามนิยมใช้ยาสมุนไพรลดลงมาเป็นอันมาก เป็นเหตใุ ห้ความรู้วิทยาการด้านสมนุ ไพรขาดการพัฒนา ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าท่ีควร ในปัจจบุ ันทัว่ โลกได้ยอมรบั แล้วว่าผลทไ่ี ด้จากการสกัดสมุนไพร ใหค้ ณุ ประโยชนด์ กี วา่ ยา ที่ได้จาก การสังเคราะห์ทางวทิ ยาศาสตรป์ ระกอบกบั ในประเทศไทยเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อันอุดมสมบรู ณ์ มีพชื ตา่ ง ๆ ที่ใช้ เปน็ สมนุ ไพรได้อย่างมากมายนบั หม่นื ชนดิ ยังขาดก็แตเ่ พยี งการค้นคว้าวิจัยในทางท่เี ปน็ วทิ ยาศาสตร์มากขนึ้ เท่านนั้ ความ ตนื่ ตัวท่จี ะพฒั นาความรู้ด้านพืชสมุนไพร จึงเรม่ิ ข้นึ อีกคร้งั หนง่ึ มีการเรม่ิ ต้นนโยบายสาธารณสขุ ข้นั มูลฐานอย่างเป็นทางการ ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2522 โดยเพ่ิมโครงการสาธารณสุขขั้นมลู ฐานเข้าในแผนพฒั นาการสาธารณสุข ตามแผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524) ตอ่ เน่ืองจนถึงแผนพฒั นาการเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 7 (พ.ศ. 2535-2539) โดยมี กลวธิ กี ารพฒั นาสมนุ ไพรและการแพทยแ์ ผนไทยในงานสาธารณสุขมูลฐาน คอื สนบั สนนุ และพฒั นาวชิ าการและเทคโนโลยีพื้นบ้านอนั ได้แก่ การแพทยแ์ ผนไทย เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย สมนุ ไพร และเทคโนโลยพี ้ืนบา้ น เพอื่ ใชป้ ระโยชนใ์ นการแก้ไขปัญหา สขุ ภาพของชมุ ชนในระดบั บคุ คล ครอบครัว และชมุ ชน ให้เปน็ ไปอยา่ งถูกต้องเปน็ ระบบสามารถปรบั ประสานการดแู ลสขุ ภาพแผนปจั จบุ นั ได้ อาจกลา่ วไดว้ ่าสมุนไพรสำหรบั สาธารณสุขมูลฐานคือสมนุ ไพรท่ีใช้ในการส่งเสรมิ สุขภาพ และการรกั ษาโรค/อาการเจ็บป่วยเบื้องตน้ เพ่ือใหป้ ระชาชน สามารถพึ่งตนเองได้มากขน้ึ 1.3 ความสำคญั ในดา้ นเศรษฐกจิ ในปจั จุบนั พชื สมุนไพรจดั เปน็ พืชเศรษฐกิจชนิดหน่งึ ทีต่ ่างประเทศกำลังหาทางลงทนุ และคดั เลอื กสมนุ ไพรไทยไป สกัดหาตัวยาเพื่อรักษาโรคบางโรคและมหี ลายประเทศทนี่ ำสมนุ ไพรไทยไปปลูกและทำการค้าขายแขง่ กับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดทเี่ ราสง่ ออกเป็นรูปของวัตถุดบิ คอื กระวาน ขมิน้ ชนั เร่ว เปล้านอ้ ยและมะขามเปยี กเปน็ ตน้ ซ่ึงสมนุ ไพร เหลา่ น้ตี ลาดตา่ งประเทศยังคงมีความต้องการอีกมาก และในปจั จบุ นั กรมวชิ าการเกษตร กรมสง่ เสรมิ การเกษตร กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ไดใ้ ห้ความสนใจในการศึกษาเพ่ิมข้ึนและมโี ครงการวจิ ัยบรรจุไว้ในแผนพัฒนาระบบการผลติ การตลาด และการสรา้ งงานในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาคุณภาพและแหลง่ ปลูกสมนุ ไพรเพอื่ สง่ ออก โดยกำหนดชนิดของสมุนไพรท่มี ี ศักยภาพ 13 ชนดิ คอื มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดงึ เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมน้ิ จนั ทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และนำ้ ผึง้ 1.4 ประโยชน์ของพืชสมนุ ไพร 1) สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใชย้ าแผนปจั จุบัน ซึง่ บางชนิดอาจมรี าคาแพง และต้องเสยี คา่ ใช้จ่ายมาก อีกท้ังอาจหาซ้ือไดย้ ากในท้องถ่นิ นั้น 2) ใหผ้ ลการรกั ษาได้ดใี กล้เคียงกับยาแผนปจั จุบัน และให้ความปลอดภยั แก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจบุ ัน 3) สามารถหาได้งา่ ยในท้องถิ่นเพราะสว่ นใหญ่ได้จากพชื ซึ่งมีอยทู่ ว่ั ไปทงั้ ในเมืองและ ชนบท
5 4) มีราคาถูก สามารถประหยัดคา่ ใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ทตี่ อ้ งสัง่ ซื้อจากตา่ ง ประเทศเป็นการลดการขาด ดุลทางการค้า 5) ใชเ้ ปน็ ยาบำรงุ รกั ษาใหร้ า่ งกายมสี ขุ ภาพแขง็ แรง 6) ใชใ้ นการถนอมอาหารเชน่ ลกู จันทร์ ดอกจนั ทร์และกานพลู 7) ใช้ปรุงแต่ง กลน่ิ สี รส ของอาหาร เชน่ ลกู จนั ทร์ ใชป้ รุงแตง่ กลน่ิ อาหารพวก ขนมปงั เนย ไสก้ รอก แฮม เบคอน 8) ใชป้ รุงเปน็ เคร่ืองสำอางเพื่อเสรมิ ความงาม เช่น วา่ นหางจระเข้ 9) ใชเ้ ปน็ ยาฆา่ แมลงในสวนผกั , ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ 10) เปน็ การอนรุ กั ษม์ รดกไทยใหป้ ระชาชนในแต่ละท้องถิ่น ร้จู กั ช่วยตนเองในการ นำพืชสมนุ ไพรในท้องถ่นิ ของตน มาใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ 11) ทำให้เกดิ ความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเปน็ ไทย ใชส้ กดั นำ้ มันหอมระเหย สมุนไพรในกลุ่มนเี้ ปน็ พวกทม่ี ีน้ำมนั หอมระเหยอยู่ในตัว สามารถนำมาสกดั โดยวิธี นำมากล่ัน ซึง่ จะมีกลน่ิ และปริมาณท่ีแตกตา่ งกันออกไป ขนึ้ อย่กู ับชนิดของสมนุ ไพร สมนุ ไพรท่ีน้ำมันหอมระเหยทรี่ ูจ้ กั กนั ดี ไดแ้ ก่ ตะไคร้หอม นำ้ มันตะไครห้ อมนำมาใชใ้ นอุตสาหกรรมผลติ สบู่ แชมพู น้ำหอม และสารไล่แมลง ไพล นำ้ มันไพล ใช้ใน ผลติ ภณั ฑ์ครีมทาภายนอก ลดการอักเสบฟกช้ำ กระวานน้ำมนั กระวานใช้แต่งกล่นิ เหล้า เคร่อื งด่ืมตา่ งๆ และอุตสาหกรรม น้ำหอม พลู น้ำมันพลู ใช้ในอุตสาหกรรม เครอ่ื งสำอาง หรอื เจลทาภายนอกแก้อาการคัน ใชเ้ ป็นยารบั ประทาน มีสมนุ ไพรหลายชนิดท่สี ามารถนำมาใช้ รบั ประทานเพื่อรักษาอาการของโรคต่าง ๆ เชน่ ได้แก่ แก้ไข เจ็บคอ บอระเพด็ ฟา้ ทะลายโจร แก้ทอ้ งอึด ท้องเฟอ้ กระเพรา ไพล ขงิ ระงับประสาท ข้เี หล็ก ไมยราพ ลดไขมันในเสน้ เลือด คำฝอย กระเจ๊ยี บแดง กระเทยี ม ใช้เปน็ ยาทาภายนอก เป็น สมนุ ไพรทมี่ ีสรรพคุณบำบัดโรคท่เี กิดตามผิวหนัง รวมท้งั แผลท่ีเกิดในช่องปาก ได้แก่ รักษาแผลในปาก บวั บก หวา้ โทงเทง ระงับกล่ินปาก ฝร่ัง กานพลู แกแ้ พ้ ผกั บุ้งทะเล เสลดพงั พอน ตำลงึ เทา้ ยายม่อม รักษาแผลนำ้ ร้อนลวก บัวบก ยาสูบ ว่าน หางจระเข้ งสู วัด ตำลึง พดุ ตาน วา่ นมหากาฬ เสลดพังพอน ใชท้ ำเปน็ สว่ นผสมของอาหารและเคร่ืองด่ืม เปน็ เคร่อื งดมื่ ทสี่ กดั จากธรรมชาตทิ ี่ยังให้ประโยชนใ์ นการรักษาโรค ควบคู่ไปด้วย ได้แก่ บุก ให้ประโยชน์ในการดูดจับไขมันจากเสน้ เลอื ด ลด น้ำหนกั ส้มแขก ดดู ไขมัน ลดน้ำหนัก หญ้าหนวดแมว ลดน้ำหนกั บำรุงสุขภาพ ใช้ทำเครื่องสำอาง มีสมนุ ไพรหลายชนิดใน ปัจจบุ นั ทน่ี ยิ มใช้เปน็ ส่วนผสมของเครื่องสำอาง และไดร้ บั ความ นิยมอย่างดี เน่ืองจากผใู้ ชม้ น่ั ใจวา่ ปลอดภัยมากกวา่ การใช้สารเคมี ได้แก่ ว่านหางจระเข้ อญั ชัน มะคำดีควาย โดยนำมา ใช้เปน็ สว่ นผสมของยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ โลชัน่ บำรุงผิว ใชเ้ ป็นผลติ ภณั ฑป์ ้องกนั กำจดั ศัตรพู ืช มักเปน็ สมุนไพรจำพวกท่ีมฤี ทธิ์ เบือ่ เมา หรือมรี สขม ข้อดีคอื ไม่มีฤทธต์ิ กค้าง ทีเ่ ปน็ พิษต่อสิ่งแวดลอ้ ม ได้แก่ สะเดา ยาสูบ ตะไครห้ อม ไพล เปน็ ต้น ใชบ้ รโิ ภคเป็นอาหารและเคร่อื งเทศ สมนุ ไพรในกลมุ่ น้ีจัดวา่ เป็นพชื ผกั สมนุ ไพร น่ันเองสามารถนำมารบั ประทาน ให้ คุณคา่ ทางอาหาร เพิ่มรสชาติ ดบั กลนิ่ คาว และยงั ช่วยย่อยอาหาร ได้แก่ กระเพรา โหระพา แมงลัก ผกั ชี สะระแหน่ ขิง ข่า กระชาย บางชนิดเปน็ พชื ผักสมุนไพรเมอื งหนาว เชน่ พาร์สเรย่ ์ หรอื ผักชีฝรัง่ เฟนเนล (ผกั ชลี าว) เปเปอรม์ ้ินท์ ออริกาโน่ ทมี ไชฟ์ ดลิ มาร์เจอร์แรม เซจ ซึ่งสว่ นใหญเ่ ป็นพชื พมุ่ เตีย้ ใช้ส่วนของใบมาทานสด หรือแก้ง เป็นเครื่องเทศ ชูรส เปน็ ต้น ปลอดภยั สมนุ ไพรส่วนมากมีฤทธ์ิอ่อน ไมเ่ ป็นพิษหรือมีอาการขา้ งเคียงมาก แตกตา่ งกับยาแผน ปัจจุบันทบี่ างครั้งจะมฤี ทธ์ิ เฉยี บพลนั ถ้าบรโิ ภคเกนิ ขนาดเพยี งเล็กน้อยอาจเสยี ชวี ิตได้ ประหยัด ราคาของสมนุ ไพรถูกกวา่ ยาแผนปัจจุบนั มาก เนื่องจาก เปน็ ทรัพยากรท่ีมีอยู่แล้ว จึง ควรอย่างย่งิ ที่เราจะนำมาใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์เพ่ิมมากข้นึ ทั้งยงั ชว่ ยกนั ลดดลุ การคา้ ทเ่ี สียบ เปรยี บตา่ งประเทศ เปน็ การสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกจิ ของชาตอิ ีกด้วย
6 เหมาะสำหรับผทู้ ี่อยหู่ า่ งไกล คนไข้ที่อยูต่ ามชนบท บางคร้ังไม่สามารถมารบั บริการจากสถานบริการทางการแพทย์ แผนปจั จุบันไดค้ วรใช้สมุนไพรทเ่ี ช่อื ถือได้รักษาโรค ไมต่ ้องกลัวปัญหาขาดแคลนยา ปัจจบุ นั มยี าหลายตวั ทีท่ ำมาจากวัตถเุ คมี ทีไ่ ดจ้ ากผลติ ผลของนำ้ มัน ซง่ึ ปัจจุบนั น้ำมนั กเ็ ร่ิมจะขาดแคลนทำให้ทุกส่ิงทุกอยา่ งถูกกระทบกระเทือนรวมไปถงึ การรักษา โรค เราจึงตอ้ งศึกษาเก่ียวกบั ยาสมนุ ไพรและนำมาใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์มากขึ้น เป็นพืชเศรษฐกจิ สง่ เสรมิ การปลูกสมนุ ไพรท่ีใช้ ในประเทศ และเพอื่ การส่งออกอย่างจรงิ จัง และต้องคำนงึ ถึงผลผลิตท่ีมีคณุ ภาพดีและต้นทุนต่ำสำหรับการสง่ ออกในรูปของ สารสกัด ทำใหไ้ ดร้ าคาดีกวา่ การส่งออกในรปู วัตถดุ ิบ 2. การถนอมอาหาร(ไขเ่ ค็มพอกเกลือ) อาหารเปน็ ปจั จยั หนึง่ ที่มีความจำเปน็ ต่อการดำรงชีวิตของมนษุ ย์ ในปัจจบุ ันดว้ ยจำนวนประชากรและทรพั ยากร ดา้ นอาหาร ท่ีมีปรมิ าณเพมิ่ ขึ้นจำนวนมาก และรวมถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหารทมี่ ีการเปลย่ี นแปลงไปหลากหลาย จึงจำเปน็ ตอ้ งมีการเก็บรกั ษาอาหารให้ไว้ไดน้ านท่ีสดุ การถนอมอาหาร คือกรรมวิธกี ารปฏบิ ัติทมี่ ีวัตถุประสงค์ ไม่ใหอ้ าหารเส่ือมสภาพเรว็ เกินไป และเพือ่ ยดื อายุการเกบ็ รักษาอาหาร ชะลอสภาพการเนา่ เสยี ของอาหารจากหลายๆสาเหตุ ทงั้ ดา้ นจุลินทรี ,สารเคมี และทางกายภาพของอาหาร ชนิดตา่ งๆ โดยจะคงรักษาไว้ ซ่ึงคุณภาพ รสชาติ และคณุ ค่าของสารอาหารแนวทางในการถนอมอาหาร ในสมัยอดตี ที่ผ่าน มา มกี รรมวธิ ีการทำหลายอย่าง อาทิเชน่ การถนอมอาหารด้วยแสงอาทติ ย์ เช่น ปลาแหง้ , เนอื้ แห้ง , กล้วยตาก, ใบชาแห้ง การถนอมอาหารดว้ ยควันไฟ เช่น ปลารมควนั จะนำปลาแหง้ มารมดว้ ยควนั ไฟ เพ่อื กนั มอดและแมลง จะทำให้เก็บไว้ บริโภคได้นานๆ และมกี ล่ินหอมเป็นเอกลกั ษณ์ของอาหารชนิดนนั้ ๆ การถนอมอาหารด้วยความเคม็ ของเกลอื เช่น เนื้อเคม็ , ปลาเคม็ , ผักกาดเคม็ และไขเ่ ค็ม ก็เชน่ เดยี วกนั ในท่ีนเี่ ราจะมาทำการถนอมอาหารประเภท ไข่ ซงึ่ ผ้เู ขยี นได้เคยเขยี นเกี่ยวกบั การทำไข่เค็ม ไว้ในบลอ็ กก่อนหน้าน้ี แลว้ แต่เปน็ การเขียนการทำไข่เคม็ ด้วยการดองน้ำเกลือ แต่วนั น้เี ราจะมาแนะนำการทำไขเ่ ค็มดว้ ยการพอกเกลือ วิธีถนอมอาหารดว้ ยเกลอื ( ไข่พอกเกลอื ) วสั ดุ ประกอบดว้ ย ไข่เป็ด นำ้ เปลา่ น้ำส้มสายชู เกลือป่น ขวดโหล ชามกระเบ้ือง ตะกรา้ วิธีทำ 1.นำไข่เปด็ ( แนะนำให้ใชไ้ ขเ่ ปด็ ไล่ทุ่ง ชนิดเบอร์ 0/ขนาดใหญส่ ดุ ) เพอื่ จะได้คุณภาพของไข่แดงใหญ่ สสี ดสวย จำนวนฟองตามแตต่ ้องการ มาล้างทำความสะอาดในนำ้ เปลา่ ให้สะอาดปราศจากสิ่งปนเป้ือนใด ๆ
7 2.นำไข่เปด็ ทลี่ า้ งสะอาดแลว้ ผง่ึ ในตะกร้าให้แหง้ 3.นำไข่เปด็ ท่แี หง้ แลว้ มาจดั วางเรยี งไว้ในภาชนะประเภทกระเบือ้ งเคลือบ แล้วเทน้ำส้มสายชูลงไป ใหท้ ว่ มไข่ แชท่ ิ้ง ไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้เปลอื กไขอ่ ่อนนุ่ม เกลือป่นสามารถดดู ซึมเข้าสลู่ กู ไข่ได้โดยง่าย 4.นำไข่เป็ดมาพอกด้วยเกลือปน่ คลุกเคล้าให้ทัว่ ทั้งใบ
8 5.จัดวางเรียงไวใ้ นโหลแก้ว ปดิ ฝาให้สนิท ทิ้งไว้ประมาณ 5- 7 วนั 6.เม่อื ครบกำหนด 5 วนั สามารถนำมาทอดเป็นไขด่ าวได้ และเมอ่ื ครบกำหนด 7 วนั ใหน้ ำมาตม้ ใชเ้ วลาต้มประมาณ 10 นาที จะได้ไข่เค็มท่ีเนื้อไข่ขาวนุ่ม ไข่แดงสสี นั สดสวย รสชาตอิ รอ่ ย นา่ รบั ประทาน. วธิ ีการทำไขเ่ ค็ม ที่ไมย่ งุ่ ยากมาก ทุกทา่ นสามารถทำไว้รับประทานเองแบบง่ายๆได้เอง โดยไมต่ ้องไปซ้ือในราคาแพงๆ
9 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ งาน การดำเนนิ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมัย กับยคุ EEC ได้ดำเนินการตามขัน้ ตอนต่างๆ ดังนี้ 1. ขนั้ เตรียมการ การศกึ ษาเอกสารที่เกีย่ วขอ้ งกับโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย กบั ยคุ EEC ผูร้ ับผดิ ชอบโครงการได้ศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารท่ีเก่ียวข้องเพ่ือเปน็ ข้อมลู และแนวทางในการดำเนนิ การโครงการอบรม เชิงปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมยั กับยคุ EEC ดังน้ี 1. ศึกษาเอกสาร / คมู่ ือ ข้อมูลจากหนังสือ เกี่ยวกับการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมัย กบั ยุค EEC เพือ่ เป็นแนวทางเกี่ยวกบั การจดั โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมุนไพรใหท้ ันสมัย กบั ยุค EEC 2. ศกึ ษาขน้ั ตอนการดำเนนิ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั กับยุค EEC เพื่อเป็นแนวทางใน การจัดเตรียมงาน วสั ดุอุปกรณ์ และบคุ ลากรใหเ้ หมาะสม การสำรวจความต้องการของประชาชนในพืน้ ท่ี (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลุม่ ภารกิจ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล สำรวจความต้องการของ กลุ่มเปา้ หมายเพื่อทราบความต้องการทีแ่ ท้จริงของประชาชนในตำบล และมีขอ้ มูลในการจัดกิจกรรมที่ตรงกบั ความต้องการ ของชุมชน การประสานงานผู้นำชุมชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกับหัวหน้า/ผู้นำชมุ ชนและประชาชนในตำบลเพ่ือร่วมกันปรึกษาหารือใน กลมุ่ เกี่ยวกบั การดำเนนิ การจัดโครงการให้ตรงกับความตอ้ งการของชมุ ชน 2. ครู กศน.ตำบล ไดป้ ระสานงานกบั หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องเพื่อจัดหาวิทยากร การประชาสมั พันธ์โครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดด้ ำเนินการประชาสมั พนั ธก์ ารจดั โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมนุ ไพรให้ทนั สมัย กับยุค EEC เพ่ือใหป้ ระชาชนทราบข้อมูลการจัดกิจกรรมดังกลา่ วผ่านผนู้ ำชุมชน ประชุมเตรียมการ / วางแผน 1) ประชมุ ปรกึ ษาหารือผู้ท่เี ก่ียวขอ้ ง 2) เขยี นโครงการ วางแผนมอบหมายงานให้ฝ่ายต่างๆ เตรยี มดำเนินการ 3) มอบหมายหนา้ ที่ แต่งตั้งคณะทำงาน การรบั สมคั รผ้เู ขา้ รว่ มโครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดร้ ับสมัครผู้เขา้ รว่ มโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ ันสมัย กบั ยุค EEC โดยใหป้ ระชาชนทั่วไปท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนทต่ี ำบลหนา้ พระธาตุ เขา้ รว่ ม เป้าหมายจำนวน 15 คน การกำหนดสถานที่และระยะเวลาดำเนนิ การ ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถานที่ในการจดั อบรมคอื วดั หน้าพระธาตุ หมู่ที่ 10 ตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอ พนสั นคิ ม จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 19 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2563 จำนวน 1 วนั เวลา 08.00-15.30 น.
10 2. ขนั้ ดำเนินงาน กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนตำบลหน้าพระธาตุ จำนวน 15 คน สถานท่ดี ำเนินงาน ครู กศน.ตำบล จดั กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย กบั ยุค EEC โดยจัด กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ในวันท่ี 19 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2563 จำนวน 1 วัน เวลา 08.00-15.30 น. ณ วดั หน้าพระธาตุ หมทู่ ี่ 10 ตำบลหนา้ พระธาตุ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบรุ ี การขออนุมตั แิ ผนการจัดกิจกรรมการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสงั คมและชุมชน กศน.ตำบล ได้ดำเนินการขออนุมัตแิ ผนการจดั กิจกรรมการศกึ ษาเพื่อพฒั นาสังคมและชมุ ชน โครงการ อบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย กบั ยุค EEC ตอ่ สำนักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี เพ่อื ให้ตน้ สังกัดอนุมตั แิ ผนการ จดั กจิ กรรมการศึกษาเพอื่ พัฒนาสังคมและชุมชน การจัดทำเครื่องมือการวัดความพึงพอใจของผู้รว่ มกิจกรรม เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการติดตามประเมินผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมินความพงึ พอใจ ข้ันดำเนินการ / ปฏบิ ัติ 1. เสนอโครงการเพอ่ื ขอความเห็นชอบ/อนมุ ตั จิ ากต้นสงั กดั 2. วางแผนการจัดกจิ กรรมในโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารแปรรูปสมุนไพรใหท้ นั สมยั กับยคุ EEC โดย กำหนดตารางกิจกรรมทก่ี ำหนดการ 3. มอบหมายงานใหแ้ ก่ผูร้ ับผิดชอบฝ่ายต่างๆ 4. แตง่ ตง้ั คณะกรมการดำเนนิ งาน 5. ประชาสมั พนั ธ์โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรให้ทันสมยั กับยุค EEC 6. จดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมัย กบั ยุค EEC ตามตารางกิจกรรมท่ี กำหนดการ 7. ตดิ ตามและประเมินผลโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรให้ทันสมัย กบั ยุค EEC 3. การประเมนิ ผล วเิ คราะหข์ อ้ มลู 1. บนั ทึกผลการสังเกตจากผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรม 2. วเิ คราะหผ์ ลจากการประเมินในแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 3. รายงานผลการปฏิบัติงานรวบรวมสรปุ ผลการปฏิบตั ิงานของโครงการนำเสนอต่อผูบ้ ริหารนำปญั หา ข้อบกพร่องไปแก้ไขครงั้ ตอ่ ไป
11 ค่าสถติ ิทใ่ี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ ตามแบบสอบถามคดิ เปน็ รายข้อ โดยแปลความหมายคา่ สถติ ริ ้อยละออกมาได้ดังนี้ คา่ สถิติรอ้ ยละ 90 ขน้ึ ไป ดีมาก ค่าสถติ ิร้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่าสถติ ริ ้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ คา่ สถิติร้อยละ 50 – 59.99 ปรับปรุง ค่าสถติ ิรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรบั ปรุงเรง่ ดว่ น ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซ่ึงมีลักษณะเป็นค่าน้ำหนักคะแนน และ นำมาเปรยี บเทียบ ได้ระดับคณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมิน ดงั นี้ เกณฑก์ ารประเมนิ (X) ค่านำ้ หนกั คะแนน 4.50 – 5.00 ระดบั คุณภาพ คือ ดีมาก ค่านำ้ หนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคณุ ภาพ คือ ดี คา่ น้ำหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคณุ ภาพ คอื พอใช้ ค่านำ้ หนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คณุ ภาพ คือ ต้องปรับปรุง ค่านำ้ หนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคณุ ภาพ คอื ตอ้ งปรบั ปรุงเรง่ ดว่ น
12 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะหข์ อ้ มูล ตอนที่ 1 รายงานผลการจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรใหท้ ันสมยั กับยุค EEC การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรใหท้ นั สมัย กับยคุ EEC สรุปรายงานผลการจัดกจิ กรรม ไดด้ งั นี้ ในการจดั กิจกรรมอบรมให้ความรตู้ ามโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมัย กับยุค EEC เปน็ การ อบรมให้ความรู้ โดยมี นางสาวชตุ มิ า เบ้าภาระ เป็นวทิ ยากรในการบรรยายให้ความรู้ เรอื่ ง การแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมยั กับยุค EEC ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมัย กบั ยุค EEC การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารแปรรูปสมนุ ไพรใหท้ ันสมยั กับยุค EEC ซง่ึ สรุปรายงานผลจาก แบบสอบถามความคิดเห็น ข้อมูลท่ีไดส้ ามารถวเิ คราะห์และแสดงค่าสถติ ิ ดงั นี้ ตารางที่ 1 ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามเพศ รายละเอยี ด เพศ หญิง ชาย 14 93.33 จำนวน (คน) 1 รอ้ ยละ 6.67 จากตารางท่ี 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมยั กับยุค EEC เปน็ ชาย 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.67 และเปน็ หญิง จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 ตารางท่ี 2 ผูเ้ ข้าร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอายุ รายละเอยี ด อายุ (ปี) อายุ 15-29 30 - 39 40 - 49 50-59 60 ขน้ึ ไป 3 8 จำนวน (คน) 1 1 2 20.00 53.33 รอ้ ยละ 6.67 6.67 13.33 จากตารางที่ 2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เขา้ ร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมัย กับยคุ EEC มอี ายุ 15-29 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 6.67 อายุ 30-39 ปี จำนวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ6.67 อายุ 40-49 ปี จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 13.33 อายุ 50-59 ปี จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00 อายุ 60 ปี จำนวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 53.33
ตารางที่ 3 ผ้เู ข้ารว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี 13 รายละเอียด เกษตรกรรม รบั จา้ ง อาชีพ คา้ ขาย อน่ื ๆ รบั ราชการ/รัฐวิสาหกจิ 1 4 6.67 26.67 จำนวน (คน) - 10 - รอ้ ยละ - 66.67 - จากตารางท่ี 3 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทันสมยั กับยุค EEC มีอาชีพรับจา้ ง จำนวน 10 คน คิดเปน็ ร้อยละ 66.67 อาชพี คา้ ขาย จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 6.67 และอาชีพอ่นื ๆ จำนวน 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 26.67 ตารางที่ 4 ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามระดบั การศึกษา รายละเอยี ด ระดบั การศกึ ษา การศกึ ษา ประถม ม.ต้น ม.ปลาย/ปวช. ปวส./ป.ตรีขน้ึ ไป - จำนวน (คน) 9 6 - - รอ้ ยละ 60.00 40.00 - จากตารางที่ 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชิง ปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมัย กบั ยุค EEC มีระดบั ประถม จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60.00 และมรี ะดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 40.00 ตารางท่ี 5 แสดงคา่ รอ้ ยละเฉลยี่ ความสำเร็จของตวั ช้วี ดั ผลผลติ ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโครงการจำนวน 15 คน เปา้ หมาย(คน) ผลสำเรจ็ ของโครงการ คดิ เป็นรอ้ ยละ 15 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ(คน) 100 15 จากตารางท่ี 5 พบว่าผลสำเรจ็ ของตวั ชี้วัดผลผลิตกจิ กรรมการศกึ ษาเพือ่ พฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ ันสมัย กับยคุ EEC มผี ้เู ข้ารว่ มโครงการ จำนวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ซ่ึงบรรลเุ ป้าหมายดา้ นตวั ช้วี ดั ผลผลิต
14 ตารางท่ี 6 ค่าเฉลยี่ และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่มคี วามพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชิง ปฏบิ ัติการแปรรูปสมุนไพรให้ทันสมัย กบั ยุค EEC ในภาพรวม รายการ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดับ ความพงึ พอใจ ด้านบริหารจดั การ () () ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.61 0.49 ดีมาก ดา้ นประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับ 4.46 0.50 ดีมาก รวมทกุ ด้าน 4.63 0.40 ดีมาก 4.56 0.46 ดีมาก จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทีม่ ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรปู สมนุ ไพรให้ ทันสมยั กบั ยุค EEC ในภาพรวมอยู่ในระดับดมี าก (=4.56) เมื่อพจิ ารณาเป็นรายดา้ น พบว่า ด้านประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ อยู่ใน ระดับดีมาก มคี ่าเฉล่ีย (= 4.63) รองลงมาคอื ด้านบรหิ ารจดั การ มอี ยู่ในระดับดีมาก มคี ่าเฉลีย่ (= 4.61) และ ด้าน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ อยู่ในระดับดี มีค่าเฉลีย่ (= 4.46) ตามลำดับ โดยมีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.50 - 0.52 แสดงว่า ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมีความพงึ พอใจสอดคล้องกัน ตารางที่ 7 ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิง ปฏบิ ตั กิ ารแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมยั กับยุค EEC ด้านบรหิ ารจัดการ รายการ ค่าเฉลย่ี ส่วนเบย่ี งเบน ระดบั ความพึงพอใจ 1. อาคารสถานที่ () มาตรฐาน () 2. สง่ิ อำนวยความสะดวก ดีมาก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการ 4.60 0.49 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.40 0.49 5. วิทยากรผใู้ ห้การอบรม 4.67 0.47 ดีมาก 4.67 0.47 ดมี าก รวม 4.73 0.44 ดีมาก 4.61 0.47 ดมี าก จากตารางท่ี 7 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรปู สมุนไพรให้ ทันสมยั กับยุค EEC ด้านบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.61) เมื่อพจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบว่า วิทยากรผู้ให้การอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.73) รองลงมา คือ กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉล่ีย (= 4.67) เอกสารการอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.67) อาคารสถานที่ มีค่าเฉล่ีย (= 4.60) และ สิ่งอำนวยความสะดวก มี ค่าเฉลี่ย (= 4.40) ตามลำดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.44 - 0.54 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมี ความคดิ เห็นไปในทิศทางเดียวกัน
15 ตารางท่ี 8 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมัย กบั ยคุ EEC ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รายการ คา่ เฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบน ระดับ () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรปู 4.33 สมนุ ไพรให้ทันสมัย กับยุค EEC 0.47 ดี 7. การให้ความรเู้ ร่ืองการป้องกันโรคติดเชอื้ ไวรัส 4.53 โคโรนา 2019 (COVID-19) 0.50 ดมี าก 8. การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร 4.53 4.20 0.50 ดีมาก 9. การแลกเปลยี่ นเรียนรขู้ องผู้เข้ารับการอบรม 4.67 0.40 ดมี าก 10. การสรุปองค์ความรูร้ ่วมกัน 4.47 0.47 ดมี าก 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝกึ อบรม 4.46 0.50 0.47 ดี รวม ดมี าก จากตารางท่ี 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรให้ ทนั สมัย กับยุค EEC ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ในภาพรวมอยใู่ นระดับดี มีคา่ เฉลย่ี (= 4.46) เมือ่ พจิ ารณาเป็นราย ขอ้ พบวา่ การสรปุ องค์ความรรู้ ว่ มกัน มีค่าเฉลย่ี (= 4.67) รองลงมาคือ การให้ความร้เู รือ่ งการป้องกนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั โค โรนา 2019 (COVID-19) มีค่าเฉลี่ย(= 4.53 ) การตอบข้อซักถามของวิทยากร มีค่าเฉลย่ี (= 4.53 ) การวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม มีค่าเฉลี่ย (=4.47) การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารแปรรปู สมุนไพรให้ทันสมยั กบั ยุค EEC มีค่าเฉลยี่ (= 4.33) และการแลกเปลีย่ นเรียนร้ขู องผเู้ ข้ารับการอบรม มคี ่าเฉล่ยี ( = 4.20) ตามลำดับ โดยมสี ่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน () อย่รู ะหว่าง 0.40 - 0.50 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมีความ คดิ เห็นสอดคล้องกัน ตารางท่ี 9 คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมทม่ี ีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการแปรรปู สมนุ ไพรให้ทันสมยั กับยคุ EEC ดา้ นประโยชน์ทีไ่ ด้รับ รายการ คา่ เฉล่ีย สว่ นเบยี่ งเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พึงพอใจ 12. ได้เรยี นรูแ้ ละฝึกตนเอง เกยี่ วกับทำแชมพูสมนุ ไพร 13. นำความรทู้ ่ีไดร้ ับมาปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวัน 4.47 0.47 ดี รวม 4.60 0.49 ดีมาก 4.54 0.48 ดีมาก
16 จากตารางท่ี 9 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแปรรูปสมุนไพรให้ ทันสมัย กับยุค EEC ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉล่ีย (= 4.53) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นำความรู้ท่ีได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.60) รองลงมา ได้เรียนรู้และฝึกตนเอง เก่ียวกับทำ แชมพูสมุนไพร มีค่าเฉลี่ย (= 4.47) โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.49 - 0.50 แสดงว่าผู้ตอบ แบบสอบถามมีความคดิ เห็นไปในทศิ ทางเดยี วกัน สรุปในภาพรวมของกิจกรรมคดิ เป็นรอ้ ยละ 91.35 มคี า่ น้ำหนกั คะแนน 4.57 ถือวา่ ผู้รบั บรกิ าร มีความพงึ พอใจทางด้านต่างๆ อยใู่ นระดับดีมาก โดยเรียงลำดบั ดังน้ี อันดบั แรก ดา้ นประโยชน์ที่ไดร้ บั คิดเป็นร้อยละ 92. 67 มีค่านำ้ หนักคะแนน 4.63 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก อนั ดับสอง ดา้ นบรหิ ารจดั การ คิดเป็นร้อยละ 92.27 มีค่าน้ำหนกั คะแนน 4.61 อยใู่ นระดบั คุณภาพดีมาก อันดบั สาม ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คิดเป็นร้อยละ 89.11 มคี า่ น้ำหนักคะแนน 4.46 อยู่ในระดบั คณุ ภาพดี
17 บทท่ี 5 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ ผลการจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแปรรูปสมุนไพรให้ทนั สมัย กบั ยคุ EEC ได้ผลสรุปดังน้ี วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้เก่ียวกับการแปรรูปสมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชีพของตนเองได้ 2. เพือ่ ให้ผูเ้ ข้าร่วมโครงการนำความรู้เร่อื งประโยชน์ของการแปรรปู สมนุ ไพรและนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ เปา้ หมาย (Outputs) เป้าหมายเชิงปรมิ าณ - ประชาชนตำบลหนา้ พระธาตุ จำนวน 15 คน เปา้ หมายเชิงคุณภาพ - ผู้เขา้ รว่ มโครงการมีความรู้เก่ยี วกบั การแปรรปู สมนุ ไพรไปใช้ในประกอบอาชพี ของตนเองได้และสามารถ เพ่ือให้ผู้เข้ารว่ มโครงการนำความรู้เร่ืองประโยชนข์ องการแปรรปู สมนุ ไพรและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ เครื่องมือท่ใี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครอ่ื งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ในครงั้ น้ี คือ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ไดม้ อบหมายให้ ครู กศน.ตำบล ที่รบั ผิดชอบกิจกรรมแจกแบบสอบถามความพึงพอใจ ให้กับผรู้ ว่ มกจิ กรรม โดยให้ผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรมประเมินผลการจดั กจิ กรรมตา่ งๆ ตามโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมยั กบั ยุค EEC สรุปผลการดำเนินงาน กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ ได้ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมตาม โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารแปรรปู สมนุ ไพรให้ทนั สมยั กบั ยุค EEC โดยดำเนินการเสรจ็ สิ้นลงแล้วและสรปุ รายงานผลการดำเนินงานไดด้ ังน้ี 1. ผรู้ ว่ มกิจกรรมจำนวน 15 คน มีความรู้เกย่ี วกบั การแปรรูปสมุนไพรไปใชใ้ นประกอบอาชพี ของตนเองได้และ สามารถเพื่อให้ผู้เขา้ ร่วมโครงการนำความรู้เรื่องประโยชน์ของการแปรรูปสมนุ ไพรและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ 2. ผรู้ ่วมกิจกรรมรอ้ ยละ 91.00 นำความรู้ท่ีได้รับมาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 3. จากการดำเนนิ กิจกรรมตามโครงการดงั กล่าว สรปุ โดยภาพรวมพบวา่ ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมส่วนใหญม่ ีความพงึ พอใจ ต่อโครงการ อยใู่ นระดบั “ดีมาก ” และบรรลคุ วามสำเรจ็ ตามเป้าหมายตวั ชีว้ ัดผลลัพธ์ท่ตี ง้ั ไว้ โดยมีค่าเฉลยี่ ร้อยละภาพรวม ของกิจกรรม 91.35 และค่าการบรรลุเป้าหมายคา่ เฉล่ยี 4.57 ข้อเสนอแนะ - อยากใหม้ ีการจัดกิจกรรมอีก จะไดน้ ำความรู้ไปใช้ในการดำเนนิ ชีวติ ต่อไป
บรรณานุกรม ที่มา กรมการศึกษานอกโรงเรยี น (2546) บุญชม ศรสี ะอาด และ บญุ ส่ง นลิ แก้ว (2535 หน้า 22-25) กระทรวงศกึ ษาธิการ . (2543). https://sites.google.com/site/yasraphmsmunphir01/khorngkar/bth-thi2
แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารแปรรูปสมนุ ไพรให้ทนั สมยั กบั ยุค EEC ปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 กศน.อำเภอพนสั นคิ ม จังหวัดชลบุรี คำช้แี จง 1. แบบสอบถามฉบบั นม้ี ีวัตถุประสงค์ เพื่อใชใ้ นการสอบถามความพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรูปสมุนไพรใหท้ นั สมยั กบั ยคุ EEC 2. แบบสอบถามมี 3 ตอนดงั น้ี ตอนที่ 1 ถามขอ้ มูลเกีย่ วกบั ผตู้ อบแบบสอบถามจำนวน 4 ขอ้ ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งใหต้ รงกับสภาพจรงิ ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรให้ทนั สมยั กับยคุ EEC จำนวน 13 ข้อ ซง่ึ มีระดับ ความพึงพอใจ 5 ระดบั ดงั น้ี 5 มากท่สี ดุ หมายถึง มคี วามพึงพอใจมากท่ีสดุ 4 มาก หมายถึง มีความพงึ พอใจมาก 3 ปานกลางหมายถงึ มีความพึงพอใจปานกลาง 2 นอ้ ย หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจน้อย 1 น้อยที่สดุ หมายถงึ มคี วามพึงพอใจน้อยที่สดุ ตอนที่ 3 ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะต่อโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารแปรรปู สมนุ ไพรใหท้ นั สมัย กบั ยุค EEC ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม หญงิ 40 ปี – 49 ปี เพศ 30 ปี – 39 ปี ชาย 60 ปขี ึน้ ไป อายุ 15 ปี – 29 ปี 50 ปี – 59 ปี การศกึ ษา ตำ่ กวา่ ป.4 ป.4 ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย ประกอบอาชีพ อนปุ ริญญา ปรญิ ญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรี รบั จ้าง ค้าขาย เกษตรกร ลกู จ้าง/ขา้ ราชการหนว่ ยงานภาครัฐหรือเอกชน อืน่ ๆ ………………………………….
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจเกย่ี วกับโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการแปรรปู สมุนไพรให้ทนั สมัย กับยคุ EEC ข้อที่ รายการ ระดบั ความคดิ เหน็ 1 5 432 ดา้ นบริหารจดั การ 1. อาคารและสถานที่ 2. สิ่งอำนวยความสะดวก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 4. เอกสารการอบรม 5. วิทยากรผใู้ หก้ ารอบรม ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6. การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแปรรูปสมนุ ไพร ใหท้ นั สมัย กับยคุ EEC 7. การให้ความรู้เรื่องปฏบิ ตั กิ ารเรียนรมู้ งุ่ สู่ความพอเพยี ง 8. การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร 9. การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ของผเู้ ข้ารบั การอบรม 10. การสรุปองคค์ วามรูร้ ว่ มกัน 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝกึ อบรม ด้านประโยชนท์ ่ไี ด้รับ 12 ไดเ้ รยี นรู้และฝึกตนเอง เกีย่ วกับปฏบิ ัตกิ ารเรียนรมู้ ุ่งสูค่ วาม พอเพยี ง 13 นำความรู้ทไี่ ด้รบั มาปรับใช้ในชีวิตประจำวนั ตอนที่ 3 ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะ ข้อคิดเหน็ .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคณุ ทใี่ หค้ วามรว่ มมือ กศน. อำเภอพนสั นิคม จังหวดั ชลบุรี
คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา หม่นื สา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพนัสนิคม การงานดี ครู 1. นางณชั ธกัญ ศรีเทพ บรรณารักษป์ ฏบิ ตั ิการ 2. นางสาวมุทิกา อุดานนท์ ครู อาสาสมัคร กศน. 3. นางปลื้มจติ ร 4. นายวชั รินทร์ ประทมุ ทอง ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ คณะทำงาน ประทมุ ทอง ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ - นางสาวพจนีย์ บรรณาธิการ - นางสาวพจนีย์
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: