สรปุ ผลการจัดกิจกรรมการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาพนื้ ทภ่ี าคตะวนั ออก ปีงบประมาณ 2563 (ไตรมาส3-4) โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ระหว่างวันท่ี 14-15 กรกฎาคม 2563 ณ บา้ นเลขที่ 17/1 หมู่ 11 ตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนสั นคิ ม จังหวดั ชลบุรี กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนสั นิคม สำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ชลบุรี
คำนำ กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ สังกัด ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นิคม ได้จดั ทำโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ประชาชนในตำบลหนา้ พระธาตุ สามารถพฒั นาศักยภาพด้านเกษตรของตน ให้มีการบรหิ ารจัดการเป็นเกษตรเชิงท่องเทยี่ วใหเ้ พมิ่ ขน้ึ และเปน็ เกษตรกร ตน้ แบบ (Master Trainer) ขยายผลใหเ้ ป็นเกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer แก่ชมุ ชนได้ ซง่ึ มีการสรปุ ผลการจัดกิจกรรม โครงการดงั กล่าวเพ่ือต้องการทราบว่าการดำเนินโครงการบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ทีก่ ำหนดไว้หรอื ไม่ บรรลุในระดับใดและได้ จดั ทำเอกสารสรปุ ผลการจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เสนอต่อผู้บริหาร ผู้เกยี่ วข้องเพ่ือ นำข้อมลู ไปใช้ในการปรับปรงุ และพฒั นาการดำเนินโครงการใหด้ ีย่งิ ขึน้ คณะผู้จัดทำ ขอขอบคุณผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม ทใี่ หค้ ำแนะนำ คำปรึกษา ในการจัดทำสรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ในคร้งั นี้ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานโครงการและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ต่อไป กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ กรกฎาคม 2563
สารบัญ หนา้ ก หวั เร่อื ง ข คำนำ ค สารบัญ 1 สารบัญตาราง 3 บทที่ 1 บทนำ 17 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยท่ีเกีย่ วข้อง 20 บทที่ 3 วธิ ีดำเนินงาน 25 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล บทที่ 5 อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม คณะผู้จดั ทำ
สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 20 20 1. ผเู้ ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ 21 2. ผู้เข้ารว่ มโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอายุ 21 3. ผู้เขา้ ร่วมโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี 21 4. ผเู้ ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามระดบั การศึกษา 22 5. แสดงคา่ ร้อยละเฉลี่ยความสำเรจ็ ของตวั ช้วี ัด ผลผลติ ประชาชนทว่ั ไป 22 6. ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 23 7. ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นบริหารจดั การ 23 8. คา่ เฉลี่ยและสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ด้านการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 9. คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ด้านประโยชนท์ ่ีได้รับ
1 บทท่ี 1 บทนำ หลักการและเหตุผล ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี มีนโยบายชว่ ยเหลอื เกษตรกร โดยชนี้ ำเกษตรกรไทยต้องเปน็ Smart Farmer คือ ตอ้ งนำความรู้ หลกั วิชาการ และเทคโนโลยีสมยั ใหม่ เขา้ มาช่วยในการทำการเกษตร โดยต้องทำให้ น้อยลง ได้ผลผลิตมากข้ึน ใช้พ้นื ท่ีใหน้ ้อยลง ใช้น้ำใหน้ ้อยลง ผลผลติ เพม่ิ ข้นึ ในปีงบประมาณ 2563 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี ได้รบั งบประมาณในการพัฒนาศักยภาพการผลติ ภาค การเกษตร การสร้างองค์ความรู้แกก่ ลุ่มเป้าหมายใหม้ คี วามรู้ ความชำนาญอยา่ งตอ่ เน่ืองสามารถขยายผลแกผ่ อู้ ืน่ ได้ เปน็ ความจำเป็นท่ีจะต้องดำเนนิ การใหส้ อดคล้องกบั ยุทธศาสตรช์ าติ มุ่งเน้นการสร้างสมดลุ ระหว่างการพฒั นาความมั่นคง สังคม และสง่ิ แวดล้อม โดยการมีสว่ นรว่ มของทุกภาคส่วนในรปู แบบ “ประชารฐั ” โดยยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการสรา้ งความสามารถ ในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพฒั นาทม่ี ุ่งเนน้ การยกระดบั ศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพน้ื ฐานแนวคดิ 3 ประการ ไดแ้ ก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลบั ไปท่รี ากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชวี ติ และ จุดเด่นทาทรัพยากรธรรมชาติทหี่ ลากหลาย รวมทั้งความได้เปรยี บเชิงเปรียบเทยี บของประเทศในดา้ นอน่ื ๆ นำมาประยกุ ต์ ผสมผสานกับเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม เพ่ือให้สอดกบั บริบทของเศรษฐกจิ และสังคมโลกสมยั ใหม่ (2) “ปรบั ปจั จุบัน” เพื่อปู ทางสู่อนาคตผา่ นการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานของประเทศในมิตติ ่าง ๆ ท้ังโครงข่ายระบบคมนาคม และการขนส่ง โครงสรา้ ง พน้ื ฐานวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละดิจทิ ลั และปรับสภาพแวดล้อมใหเ้ อ้ือต่อการพฒั นาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ดว้ ยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่รวมถึงปรบั รปู แบบธุรกิจเพ่อื ตอบสองความต้องการของตลาด ผสมผสานกบั ยุทธศาสตร์ที่รองรบั อนาคต บนพนื้ ฐานของการต่อยอดอดตี และปรบั ปัจจุบนั พรอ้ มท้งั การสง่ เสริมและสนับสนุนจากภาครฐั ให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทาง การค้าและการลงทุนในเวทโี ลก ควบคกู่ ับการยกระดบั รายไดแ้ ละการกนิ ดีอยดู่ ี รวมถึงการเพมิ่ ขน้ึ ของคนช้ันกลาง และลด ความเหล่อื มลำ้ ของคนในประเทศในคราวเดียวกัน ในปงี บประมาณ 2561 ได้ดำเนนิ การจดั อบรมประชาชนในตำบล จำนวน 92 แหง่ มีประชาชนท่ผี า่ นการอบรมเร่ือง เกษตรกรปราดเปรอ่ื ง Smart Farmer จำนวน 1,380 คน และเพ่ือการพฒั นาต่อเนื่องให้เกษตรกรผผู้ ่านการอบรมสามารถ ไปขยายผลกับเกษตรกรอื่น ๆ ให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ สรา้ งรายได้ให้แกต่ นเองและ ครอบครัว มีความมน่ั คงในอาชีพดา้ นการเกษตร มีความภูมิใจในการเปน็ เกษตรกร รวมทั้งเปน็ แบบอย่างใหก้ ับคนรุ่นหลัง ให้ เกดิ ความรัก หวงแหนในอาชีพดา้ นการเกษตร จึงได้กำหนดใหม้ โี ครงการ Smart ONIE เพ่ือสรา้ ง Smart Farmer ปงี บประมาณ 2562 เพื่อจัดอบรมต่อยอดการพัฒนาให้เปน็ เกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ปงี บประมาณ 2563 เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ทผ่ี ่านการอบรมในปงี บประมาณ 2562 ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนใหเ้ ปน็ เกษตรกรปราดเปรอ่ื ง Smart Farmer ต่อไป จากเหตุผลดงั กลา่ ว กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ จึงได้จดั โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เพอ่ื เปน็ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องใหเ้ กษตรกรผูผ้ ่านการอบรมสามารถไปขยายผลกบั เกษตรกรอืน่ ๆ ให้สามารถประกอบอาชีพด้าน การเกษตรได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สร้างรายไดใ้ ห้แกต่ นเองและครอบครวั มีความม่ันคงในอาชีพดา้ นการเกษตร มคี วามภูมิใจ ในการเป็นเกษตรกร รวมทั้งเป็นแบบอยา่ งใหก้ บั คนร่นุ หลัง ให้เกิดความรัก หวงแหนในอาชพี ด้านการเกษตรต่อไป
2 วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มอี งคค์ วามรู้ด้านการบริหารจัดการงานเกษตรและการเกษตรเชิงท่องเท่ียว เพ่ิมขน้ึ 2. เพ่อื ให้เกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกรปราดเปรอ่ื ง Smart Farmer เป้าหมาย (Outputs) เชิงปรมิ าณ - เกษตรกรตำบลหน้าพระธาตุ จำนวน 15 คน เชิงคุณภาพ - ร้อยละ 80 ของประชาชนทีไ่ ดร้ ับการอบรมมีความรเู้ พ่ิมมากข้ึนและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรอ่ื ง Smart Farmer ได้ ผลลพั ธ์ - ผูเ้ ข้าร่วมสามารถพัฒนาศักยภาพดา้ นเกษตรของตน ให้มีการบรหิ ารจดั การเปน็ เกษตรเชงิ ทอ่ งเทยี่ วใหเ้ พ่มิ ข้นึ และเป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ขยายผลให้เป็นเกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer แกช่ ุมชนได้ ดัชนีชว้ี ดั ผลสำเร็จของโครงการ ตวั ชี้วัดผลผลิต - รอ้ ยละ 80 ผู้เข้ารบั การอบรมมกี ารพัฒนาศักยภาพเกษตรกรใหม้ ีองค์ความรู้ดา้ นการบรหิ ารจดั การงาน เกษตรและการเกษตรเชงิ ท่องเที่ยวเพม่ิ ขึ้น ตัวชว้ี ดั ผลลัพธ์ - รอ้ ยละ 80 ผู้เข้ารับการอบรมเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้ เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer
3 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและรายงานท่เี กี่ยวขอ้ ง การเกษตรกบั การดำรงชวี ิต ความหมาย ความสำคัญของการเกษตร การเกษตร หมายถงึ การปฏบิ ตั เิ พื่อให้เกดิ ผลผลิตจากการปลูกพชื เลี้ยงสัตว์ การประมงและการจดั การที่ดนิ ความสำคญั ของการเกษตร การเกษตรมคี วามสำคัญต่อการดำรงชวี ิตของมนุษยท์ ้งั ในชวี ิตประจำวัน การพัฒนาประเทศและส่ิงแวดล้อม ได้แก่ 1. ปจั จยั 4 คือ อาหาร เคร่ืองนงุ่ หม่ ยารักษาโรค และท่ีอยู่อาศัย ซงึ่ เป็นผลผลติ มาจากการเกษตร 2. สรา้ งรายไดใ้ หค้ นไทยและประเทศไทย จากการจำหน่ายผลผลติ ทั้งภายในประเทศและตา่ งประเทศ 3. สร้างสง่ิ แวดล้อมทด่ี ี ให้ความรม่ ร่ืนสวยงามและลดภาวะโลกรอ้ น อาชีพเกษตรกรรม ความสำคญั ของอาชีพ 1. อาชีพทท่ี ำให้เกิดรายได้ 2. อาชพี ชว่ ยให้ประเทศมคี วามม่ันคง 3. อาชพี สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ 4. อาชพี ชว่ ยแก้ปญั หาทางสงั คม ประเภทของอาชีพ 1. อาชีพอสิ ระ หมายถงึ การประกอบอาชีพทีบ่ ุคคลหรือกล่มุ บุคคลน้ันเป็นเจ้าของกิจการ ไม่มนี ายจ้าง มอี ิสระ ในการทำงาน เชน่ อาชีพค้าขาย อาชพี เกษตรกรรม เสริมสวย ซ่อมรถ 2. อาชพี รับจา้ ง หมายถึง อาชีพท่มี ีรายได้จากคา่ จ้างแรงงานแตไ่ ม่ได้เปน็ เจา้ ของกิจการ เชน่ ข้าราชการ พนักงานบริษทั แพทย์ พยาบาล การประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้สำเรจ็ 1. การร้จู ักตนเอง ตอ้ งสำรวจความถนดั ความชอบและมคี วามสนใจในอาชีพนเ้ี พอื่ เปน็ ข้อมลู ในการตัดสินใจ หรอื ค้นหาขอ้ บกพรอ่ งของตนเองแลว้ นำไปปรบั ปรงุ 2. ศกึ ษานโยบายส่งเสริมจากภาครฐั บาล รฐั บาลไดม้ ีนโยบายสง่ เสริมสนบั สนนุ กิจการต่างๆในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีแหล่งสง่ เสรมิ การค้า แหลง่ เงนิ ทุน แหลง่ ความรู้ เช่น กระทรวงเกษตรฯ สถาบันการศกึ ษา 3. การตลาด การตลาดเป็นส่ิงสำคญั และจำเปน็ สำหรับอาชพี เกษตร ควรตอ้ งรู้ข้อมลู เก่ยี วกับการตลาด ตลอดจน วเิ คราะห์ปญั หาและอปุ สรรคของการตลาดได้ 4. รสู้ ภาพแขง่ ขันทางการคา้ ต้องรจู้ กั คู่แข่ง เพื่อเป็นขอ้ มลู ในการพฒั นาปรบั ปรงุ สนิ คา้ และบริการให้เป็นทน่ี ิยมของ ผบู้ ริโภค 5. การบริหารงานอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 6. การทำบัญชี 7. การรปู้ ัญหาทางการเงนิ
8. การเลือกบุคลากรมาร่วมงาน 4 9. พฒั นาวธิ กี ารขายสนิ คา้ และบริการ ปัญหาในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม 1. สภาพดนิ ฟา้ อากาศ 2. โรคพชื และโรคสตั ว์ 3. ผลผลิตลน้ ตลาดและราคาผลผลิตตกตำ่ การเกษตรทฤษฎีใหม่ การเกษตรทฤษฎีใหม่ เปน็ แนวพระราชดำริของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวในเร่อื งของการบรหิ ารจัดการนำ้ และ ทด่ี ิน เพ่ือการจัดการเกษตร มี 3 ขน้ั ตอนดังนี้ ขัน้ ท่ี 1 ทฤษฎใี หม่ข้ันต้น การทำทฤษฎใี หม่ขน้ั ที่ 1 มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อศักยภาพของการผลติ ให้มอี าหารประจำวนั พงึ่ ตัวเองมากขนึ้ มีความ เปน็ อยู่อยา่ งพอเพียง จดั สรรพืน้ ทที่ ำกินและที่อยูอ่ าศัย แบ่งเป็น 4 สว่ น ตามอัตราสว่ น 30:30:30:10 ขนั้ ท่ี 2 ทฤษฎใี หม่ข้ันกลาง เมื่อเกษตรกรมีความเข้าใจในหลกั การเกษตรถูกต้องตามแนวเกษตรทฤษฎใี หม่ สามารถอยู่อย่างพอเพยี ง มีการ พฒั นาอยู่ในระดับ \"พออยพู่ อกนิ \" แลว้ กด็ ำเนินไปสขู่ นั้ \"พอมีอนั จะกิน\"และเพ่ือให้ความม่ันคงของรายได้ให้เร่ิมเขา้ สู่ทฤษฎี ใหม่ ขน้ั ท่ี 2 หรอื ทฤษฎใี หม่ข้ันกลาง คอื การรวมพลังสร้างความสามัคคใี นรปู ของกลุ่มสหกรณ์ ดังนี้ 1. การผลิต เกษตรกรตอ้ งรว่ มมือกันในการผลติ 2. การตลาด ศึกษาการตลาด รวมกนั ขายผลผลติ ในราคากลางที่ยุติธรรม 3. ความเป็นอยู่ เกาตรกรต้องมีความเปน็ อยูท่ ่ีดี 4. สวสั ดกิ าร แต่ละชมุ ชนมีสวสั ดิการและความเป็นอยู่ที่ดี 5. การศกึ ษา โรงเรยี นและสถานศึกษาในชมุ ชนมบี ทบาทสำคัญเพอื่ เป็นแหล่งเรียนรู้ 6. สังคมและศาสนา มคี ุณธรรมในการประกอบอาชีพ มีการพฒั นาจิตใจ ขั้นท่ี 3 ทฤษฎีใหม่ขน้ั กา้ วหน้า ผา่ นข้นั ท่ี 1 ขัน้ ที่ 2 มาแล้วมีฐานะม่นั คง มรี ายได้มากขึ้นจากการจำหนา่ ยผลผลติ เกษตรกรควรรวมกล่มุ การพัฒนา ไปสขู่ ั้น 3 ตอ่ ไป มกี ารตดิ ต่อประสานงานเพอ่ื หาแหล่งเงนิ ทนุ จากสถาบนั การเงิน เช่น ธนาคาร บริษัทเอกชน เศรษฐกิจพอเพียง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาทีช่ ถ้ี ึงแนวทางการดำรงอยูแ่ ละปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ ครอบครัว ชุมชน รัฐ ท้งั ในการพัฒนาและการบริหารประเทศให้ดำเนินในทางสายกลาง ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มภี มู คิ มุ้ กันท่ดี ี อันเกิดอนั เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงทงั้ ภายในและภายนอก ความพอเพยี งประกอบดว้ ยคุณลักษณะ 3 ประการ 1. ความพอประมาณ หมายถงึ การกระทำของบคุ คลในลักษณะไมน่ ้อย ไมม่ ากเกินไป โดยไมเ่ บยี ดเบียนตนเองหรือ ผู้อนื่ 2. ความมเี หตผุ ล หมายถึง การทีบ่ ุคคลได้พจิ ารณาอย่างรอบคอบดว้ ยวิธกี ารต่างๆ ทั้งเหตผุ ลตามหลักวิชา เหตุผล ในการดำเนนิ ชีวิต
5 3. การมีภูมคิ มุ้ กันทด่ี ีในตัว หมายถงึ ความสามารถท่จี ะปรับตัวให้พร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงพรอ้ มรับผลกระทบทง้ั ที่ ดีและไม่ดีในอนาคต การวางแผนจัดการในการผลิตพชื การวางแผนจัดการในการผลิตพืช 2.1 การศึกษาข้อมูลผลติ พืช เปน็ การเริ่มดำเนินงานแสวงหาความรูเ้ กีย่ วกับพืชที่จะปลูก ทั้งนเี้ พื่อจะไดเ้ รียนรูใ้ ห้ ประชากรปลูกพืชได้ตามความต้องการและสนใจ ซง่ึ มีแนวทางการศึกษาหลายดา้ นดงั น้ีหนงั สอื ตำรา เอกสาร วารสาร และ ส่งิ พิมพ์ต่างๆ ข่าวจากอินเตอรเ์ นต็ โดยศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆ ทงั้ ของราชการและเอกชน แหล่งวิชาการเกษตรในทอ้ งถิ่น 2.2 การวางแผนการผลติ พืช เปน็ การกำหนดการปฏบิ ตั งิ านปลกู พืชพร้อมระยะเวลา และผู้รับผิดชอบไว้ลว่ งหนา้ เพ่อื การปฏิบัตงิ านดำเนนิ ไปด้วยความรวดเร็ว และเรียบรอ้ ย การวางแผนการปฏบิ ัติงานประกอบด้วย 1. ช่ือพชื ท่จี ะปลกู 2. จุดประสงค์ 3. แผนการปฏิบัตงิ านระยะเวลา และผรู้ ับผิดชอบ การจัดการศตั รพู ชื โดยวธิ ผี สมผสาน การจัดการศัตรพู ชื โดยวธิ ีผสมผสาน (Integrated Pest Management : IPM) หมายถึง การเลือกใช้วิธคี วบคุม ศตั รูพชื ทมี่ ีอยู่อย่างรอบคอบ แล้วนำมาผสมผสานกันอยา่ งเหมาะสม เพ่อื ลดปริมาณศัตรูพชื และคงไว้ซงึ่ ระดับการใชส้ าร กำจดั ศัตรูพชื หรอื การใช้ส่ิงแปลกปลอมอนื่ ๆ อย่างคุ้มคา่ และลดหรอื หลีกเล่ียงอนั ตรายที่อาจเกิดกบั มนุษย์และส่งิ แวดล้อม IPM เน้นการปลูกพืชให้แข็งแรง ให้มกี ารกระทำท่อี าจรบกวนระบบนิเวศเกษตรนอ้ ยทสี่ ุด และสนับสนนุ กลไกการใช้ศัตรู ธรรมชาตคิ วบคุมศัตรูพชื การควบคุมแมลงศัตรพู ชื โดยชวี วิธี หมายถงึ การใช้ส่ิงมชี ีวติ ในการควบคุมแมลงศตั รูพืชให้อยภู่ ายใตร้ ะดับความ เสียหายทางเศรษฐกิจท่กี ำหนด เชน่ ไส้เดือนฝอย ฉีดพน่ ไสเ้ ดือนฝอยให้สมั ผสั ตวั แมลง โดยเฉพาะในระยะไขและระยะตวั หนอน ไสเ้ ดือนฝอยจะเขา้ ไป ตามชอ่ งเปิดของลำตัวแมลง แล้วเข้าไปอยู่ในกระแสเลอื ดของแมลง จากนัน้ แบคทเี รียซึ่งอยใู่ นทางเดินอาหารของไสเ้ ดือน ฝอยเริ่มขยายพนั ธ์ุ เพม่ิ ปริมาณ และเคล่ือนตัวออกทางทวารของไส้เดือนฝอย เข้าไปอยู่ในชอ่ งวา่ งลำตัวแมลง เข้าทำลาย ของเหลวภายในตวั แมลงทำใหเ้ ลอื ดเปน็ พิษ และตายภายใน 3-4 วัน ลักษณะอาการของตวั หนอนทีถ่ ูกทำลายมสี ีครีม นำ้ ตาล อ่อน ลำตวั เหนยี ว ไมเ่ ละ ไสเ้ ดอื นฝอยสามารถเคล่ือนที่เข้าหาเหยื่อได้ ในระยะใกล้ ๆ ได้ เชอื้ แบคทีเรีย พน่ เชอ้ื แบคทีเรยี ให้จบั อยู่ทใ่ี บพชื เม่ือตวั หนอนกนิ ใบพืช เช้อื แบคทีเรยี ท่ีจับตามใบพืชจะเขา้ สู่ ร่างกาย ไปรบกวนการย่อยอาหารของตวั หนอน ทำให้ตัวหนอนไม่สามารถกินอาหารไดต้ ามปกติ และตายในทีส่ ุด ตัวหนอน ได้รับแบคทเี รยี ทางปาก การตายจะช้าหรือเร็วข้ึนอย่กู บั ชนิดของแบคทเี รยี สภาพแวดล้อม อาหารหนอน ความเป็นกรด-ดา่ ง ในลำไส้ แบคทเี รียไม่มีอนั ตรายตอ่ คน สตั ว์เลือดอุ่น ตัวห้ำ ตวั เบียน
6 เชอ้ื รา จะทำลายโดยการทำลายเนื้อเยื่อ เส้นใยจะเจรญิ อยูใ่ นลำตวั ทำใหแ้ มลงแหง้ ตาย ไวรัส มคี วามเฉพาะเจาะจงกับแมลงอาศยั เชน่ NPV ของหนอนกระทหู้ อม จะเกดิ กบั หนอนกระทู้หอมเทา่ นัน้ เมือ่ ตวั หนอนกินกนิ ไวรัสทป่ี ะปนอยู่บนพืชอาหาร ไวรสั จะไปเพิ่มจำนวนอยู่ในนิวเคลยี สของเยอื่ หุม้ ต่าง ๆ ของหนอน เช่น เม็ด เลือด ไขมัน ทางเดินอาหาร ทอ่ หายใจ และผนังลำตัวหนอนจะเปน็ โรค และตายภายใน 2-7 วนั ข้ึนอยู่กบั ขนาดตัวหนอน ตวั ห้ำ หมายถงึ สงิ่ มีชวี ิตดำรงชีวิตโดยการกินแมลงศตั รูพืชเปน็ อาหารเพื่อการเจรญิ เตบิ โตจนครบวงจรชวี ติ ตวั ห้ำมี ท้ังสตั วม์ กี ระดกู สันหลงั เชน่ นก งู กงิ้ ก่า กบ และสตั ว์ไมม่ ีกระดูกสันหลงั หรอื แมลง ต่าง ๆ เชน่ มวนพิฆาต มานเพชฌฆาต ด้วงเต่าลาย แมงมุม ตวั เบยี น หมายถึง แมลงซึ่งอาศัยกนิ และเบียนแมลงอน่ื ๆ แมลงเบยี นมีขนาดตัวเล็กกว่าเหย่ือ และมีความ เฉพาะเจาะจงกับชนิดของเหย่ือ ไข่ของแมลงเบียนบางชนิดมคี วามสามารถในการแบง่ ตัว เพอื่ เพิ่มปริมาณให้มากขน้ึ ได้ การ ทำลายเหย่ือของแมลงเบียนมีลักษณะค่อยเปน็ ค่อยไป แมลงเบียนจะเข้าทำลายในระยะต่าง ๆ ของการเจริญเติบโต เช่น ไข่ ตวั ออ่ น ดักแด้ และตวั เต็มวยั ทำให้เหยือ่ ค่อย ๆ ตายไปในท่ีสุด การควบคมุ แมลงศัตรูพืชโดยวธิ ีเขตกรรม หมายถงึ การดูแลและปรบั ปรุงสภาพแวดล้อมของต้นพืชให้มีความอุดม สมบรู ณ์ เช่น การตัดแตง่ กิง่ การกำจัดวัชพืช การไถพรวนดิน การปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสม นอกจากจะเป็นการ ทำลายแหลง่ อาศัยของศัตรูพืชแล้ว พืชจะเจริญเตบิ โตไดด้ ี แขง็ แรงสามารถทนต่อการเข้าทำลายของแมลงได้ด้วย การปรบั สภาพดิน เชน่ การเตรยี มดินให้มีระดับ pH ทีเ่ หมาะสม มแี รธ่ าตุอาหารสมบรู ณ์ มีความสมำ่ เสมอของ หน้าดนิ การไถพรวน เป็นการกลับหน้าดินขึ้นเพ่ือทำลายไข่และตัวอ่อนของแมลงทอี่ ยู่ในดิน และกำจดั วัชพชื ได้อกี ทาง หนึง่ ดว้ ย การกำจัดวชั พชื เพ่ือจำกัดแหล่งท่อี ยู่อาศยั ของแมลง และเป็นการลดการแกง่ แย่งอาหาร ทำให้พชื ท่ีปลูกดูดซึมน้ำ แรธ่ าตุ อาหารได้อย่างเตม็ ที่ การตดั แตง่ กิ่ง เพือ่ จำกดั ที่อยู่อาศยั ของแมลง ทำใหแ้ สงแดดส่องผา่ นได้มากย่ิงขน้ึ การสังเคราะห์แสงของพชื ทำได้ เตม็ ที่ การจดั การกับต้นพชื และแมลงก็ทำได้สะดวกข้นึ การปลกู พชื หมุนเวียน คือ การหลกี เลย่ี งไมใ่ ห้มีแหล่งอาหารและที่อยู่อาศยั ของแมลงน้ัน ๆ เปน็ เวลานาน เพ่ือ ควบคุม แมลงทม่ี ีการเคล่อื นทไี่ ม่ไกล แมลงท่มี ีชนดิ อาหารจำกัด และมีการผสมพันธช์ุ า้ การปลูกพชื แบบผสมผสาน เพอื่ จำกัดแหล่งอาหารของศัตรูพชื การควบคมุ แมลงศัตรูพชื โดยวิธีกล คือ เม่ือพบว่ามีศัตรูพืชเขา้ ทำลาย ถ้าพบจำนวนนอ้ ยสามารถจะใช้มอื หรือวสั ดุ ช่วยในการทำลาย หรือการใช้กับดกั ชนดิ ตา่ ง ๆ ในการควบคมุ การจบั ทำลายใช้มือ ในการทำลายเมื่อพบแมลงศตั รู การป้องกันกำจดั แบบงา่ ย ๆ คือการจับแมลงด้วยมือ หรือเขยา่ ตน้ ไม้ หรอื การเก็บดกั แด้ของหนอนกนิ ใบสักที่อยู่ตามเศษใบไมแ้ หง้ บนพ้ืนดนิ การใช้ตาขา่ ยคลุมแปลง เพอื่ ปอ้ งกนั แมลงจากภายนอกแปลงเขา้ มาทำลายภายในแปลงได้ เช่น การทำผกั กางมุ้ง การใช้เคร่ืองยนต์ เชน่ เคร่อื งจับตัก๊ แตน หรือเครือ่ งดดู แมลง การควบคมุ แมลงศัตรพู ืชโดยสารสกัดจากธรรมชาติ คอื การนำสารทส่ี กดั ได้จากธรรมชาติมาใช้ในการควบคมุ แมลง ศตั รพู ืช เชน่ สารสกดั จากสะเดา ตะไคร้หอม พลปู ่า หางไหล เป็นต้น การควบคมุ แมลงศัตรพู ชื โดยการใช้สารเคมี คือ การใช้สารเคมใี นการปอ้ งกันและกำจัดศัตรูพชื เช่น การใช้สารเคมี กำจดั แมลง การใชเ้ หยอ่ื พษิ การใชส้ ารล่อ เป็นตน้ การเลอื กใช้สารเคมที ี่มีความเฉพาะในการป้องกนั กำจัด ควรเลอื กสารเคมที ่กี ำจดั เฉพาะแมลงศัตรูพชื ปา่ ไมเ้ ทา่ น้นั เพ่ือป้องกันศตั รธู รรมชาตขิ องแมลงท่ีเปน็ ตัวรักษาสมดลุ ธรรมชาติ
7 การใช้สารลอ่ โดยการสงั เคราะห์สารฟีโรโมนเพศของแมลงทีพ่ บวา่ มีการระบาด แล้วสร้างกับดกั นำฟีโรโมนมาเป็น สารลอ่ แมลงท่มี าติดกับดักจะเป็นแมลงเพศเดียวกนั เป็นการชว่ ยลดการผสมพนั ธ์ุ และลดจำนวนประชากรของแมลง การใช้เหยื่อพิษ ทำใหอ้ าหารของแมลงศตั รูพืชเป็นพิษ โดยจะใหผ้ ลเม่ือศตั รพู ืชมากินเหยื่อ การควบคมุ แมลงศัตรูพชื โดยทางฟิสิกส์ คือ การนำเอาวิธที างฟสิ กิ สเ์ ข้ามาใช้ เช่น การใช้รังสี ทำใหแ้ มลงวนั ผลไม้ เปน็ หมันหรือการใช้กบั ดักแสงไฟเพ่ือควบคมุ ปริมาณผเี ส้ือกลางคนื เป็นต้น การใช้รังสีในการปราบแมลง เช่น การฉายรังสที ำใหแ้ มลงวนั ผลไมเ้ ปน็ หมัน การใชเ้ ครอ่ื งทำเสียง เพือ่ ไลแ่ มลง การใชค้ วามร้อน เชน่ การนำดนิ มาผ่านความร้อนเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชในดนิ การควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยการสำรวจศตั รูพืช คือ การศึกษาสำรวจ และสำรวจแมลงศัตรู เชน่ การสมุ่ สำรวจนับ แมลงศัตรูพืช หรือการศกึ ษาระดบั เศรษฐกจิ ของแมลงศตั รูพชื การยึดระดับเศรษฐกจิ คอื การศึกษาการระบาดของแมลงระดับความเสียหายของพืชวา่ อยู่ในระดบั ใดทีค่ วรจะมีการ ปอ้ งกันกำจดั เพือ่ ให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกจิ ถ้าหากมีความเสียหายยงั ไมม่ ากก็ยังไม่ตอ้ งทำการป้องกนั กำจดั เนือ่ งจาก ไม่คุ้มคา่ การนบั ศตั รูพืช สำรวจการระบาดของศัตรูพชื ชนดิ ต่าง ๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด สมุ่ สำรวจ 10 จุด เพอ่ื นับเปอรเ์ ซ็นตก์ ารระบาดของแมลง การควบคุมแมลงศัตรูพชื โดยการใชก้ ฎหมาย มีกฎหมายสำหรับป้องกนั และกำจัดแมลง เช่น มีพระราชบัญญัตกิ ักกันพืช มีกฎหมายปราบศัตรูพืช การคัดเลือกสายพนั ธ์ุ ทำการคัดเลอื กสายพนั ธุ์ หรอื แม่ไม้ท่ดี ี มคี วามต้านทานสูงท้ังทางดา้ นโรคและแมลงได้ดี คดั เลือกเมลด็ จากแม่ไม้ท่ีมคี ุณภาพ มีความแขง็ แรง ปลอดภัยจากโรคและแมลง คดั เลอื กสายพนั ธ์ุ เลอื กจากสายพนั ธ์ทุ ม่ี ีความตา้ นทาน คัดเลือกพื้นที่ทีม่ ีความเหมาะสม พืน้ ทที่ ี่ทำการปลูกควรเป็นแหล่งที่เคยมีไมช้ นิดน้ันขึน้ ในธรรมชาติได้ดีมาก่อน
8 การแพรร่ ะบาดของโรคพชื โรคพืชไร่ โรคพชื หนา้ หนาว โรคพชื ท่ีเกิดจากเช้ือราชัน้ สงู วงจรการเกดิ โรคพืช โรคพืชท่วั ไป การแพรร่ ะบาดของโรคพืช กม็ ปี จั จัยเกีย่ วข้องหลายอย่างแต่เน่อื งจากโรคพชื เกดิ จากหลายสาเหตุเชน่ โรคทเี่ กิดจากเชื้อแบคทีเรยี เช้ือราเชอ้ื ไวรสั ฯลฯดงั นนั้ การแพรร่ ะบาดก็ขึ้นกับประเภทของโรคพืชด้วยดงั รายละเอียดดงั ต่อไปนี้ 1. การแพร่ระบาดของโรคพชื ท่ีเกดิ จากแบคทเี รีย 1.1 โดยการใชเ้ คร่อื งมอื ทางการเกษตรที่ไม่สะอาดเช่นการใช้มีดหรอื กรรไกรตดั แตง่ กิ่งก้านของตน้ ท่ีเป็นโรค ซึง่ สมั ผสั กับของเหลวหรือน้ำเมือก(slime mass)จากเน้ือเยื่อพืชจากตน้ ทีเ่ ป็นโรคเม่ือนำไปตัดแต่งก่ิงตน้ พชื อนื่ ก็ทำใหต้ ้นพืช อนื่ เปน็ โรคได้ 1.2 เมล็ดหรือส่วนขยายพันธุ์ของตน้ พืชท่ีเป็นโรคถูกนำไปโดยแมลงสัตว์วัชพืชและโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ มนุษย์ เป็นตวั การทำใหโ้ รคพืชเพื่อระบาดยังท่ีปลกู ที่ไกลออกไป 1.3 การขนถา่ ยผลผลติ การเกษตรที่ปนเป้ือนด้วยเชอ้ื โรคพืชไปยังท่ีตา่ งๆท่อี ย่หู ่างไกล 1.4 การกระจายไปพรอ้ มกับนำ้ ฝนการทน่ี ำ้ เมือกหรือของเหลวจากแผลทีม่ ีเชื้อสาเหตโุ รคพชื กระเดน็ ไปถกู ตน้ อนื่ ๆและเข้าทำลายพชื ต้นใหม่ เมือ่ เชอื้ แบคทีเรียเข้าไปในพชื แล้วจะไปเจรญิ เติบโตอยู่ในบรเิ วณ intercellular space หรือ vascular bundle ทำ ให้พชื แสดงลกั ษณะอาการแตกตา่ งกันไปเชน่ แบคทเี รียบางชนดิ สรา้ งเอนไซม์ protopectinase ยอ่ ยสาร pectin หรือสารที่ เช่ือมเซลลแ์ ละผนังเซลล์ของพชื ทำให้เซลล์เหล่านัน้ แตกหลุดออกจากกันหรอื แบคทีเรียบางชนิดสามารถสร้างสารพิษทำให้ เซลลข์ องพชื ตายได้
9 2 การแพร่ระบาดของโรคพชื ท่เี กดิ จากเชอื้ ราการขยายพนั ธขุ์ องเชือ้ รามี 2 แบบคือการขยายพนั ธแุ์ บบไม่ใชเ้ พศ (asexual reproduction) ได้แก่ conidia สว่ นการขยายพันธุแ์ บบใช้เพศ(sexual reproduction) ได้แก่ oospores, teliospores, ascospores และ basidiospore สว่ นที่ใช้ในการแพร่พนั ธไ์ุ ด้แกส่ ปอร(์ spore) และเส้นใย(hypha) ซึ่งจะมี ลักษณะตา่ งกันไปตามชนดิ ของเช้อื ราสปอรข์ องราส่วนใหญ่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมท่ีไมเ่ หมาะสมได้โดยเช้อื ราจะสรา้ ง สปอร์ที่มผี นงั หนาพิเศษเช่น clamydospores, sclerotia และ oospores วธิ ีการแพรร่ ะบาดของเชื้อราโรคพืชเกดิ โดย 2.1 ลมพัดพาสปอร์ของโรคพืชกระจายไปยังที่ตา่ งเช่นสปอร์หรือเส้นใยของเชือ้ ราตกลงบนพชื และเข้าตาม รอยแผล(wound)ของพชื ที่อาจเกิดจากการตดั แต่งกิ่งเนื้อเยอื่ ฉีกขาดของพชื ทีเ่ กิดขน้ึ โดยลมหรอื การกระทำของคนหรอื สตั ว์ นอกจากนนั้ แลว้ เชอ้ื รายงั เข้าสู่พืชทางช่องเปดิ ธรรมชาติ(natural opening) เช่นปากใบ(stomata) ช่องคายน้ำ (hydrathode) ต่อมนำ้ หวาน(nectary gland) หรอื ชอ่ งเปิดตามกง่ิ หรือลำตน้ (lenticels) อีกท้งั ยงั พบวา่ เช้ือราสามารถเข้า ทำลายโดยตรงทางควิ ติเคลิ (cuticle) และอพิ ิเดอร์มสิ (epidermis) เชอื้ ราสามารถสรา้ งเอ็นไซม(์ enzyme) ย่อยสลายสง่ิ ปก คลุมมผี ลกระทบกระเทือนโดยทางตรงหรอื ทางอ้อมกบั เซลลพ์ ืชแลว้ งอกเสน้ ใยเข้าสู่ภายในเนอื้ เยื่อพืชเพ่ือดูดอาหารและแร่ ธาตมุ าใช้เพื่อการเจรญิ เติบโตและใชใ้ นการขยายพนั ธุข์ องเชื้อโรค 2.2 เช้ือราตดิ ไปกับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตรท่ีไม่สะอาด 2.3 การขนถา่ ยผลผลติ การเกษตรทปี่ นเปื้อนด้วยเชื้อโรคพืชไปยังที่ตา่ งๆทีอ่ ยูห่ ่างไกล 3. การแพร่กระจายโรคพชื ท่เี กดิ จากเชอ้ื ไวรสั เนือ่ งจากไวรัสเปน็ สิ่งมีชีวิตที่สามารถเพ่มิ จำนวนได้เฉพาะเม่อื อยู่ใน เซลล์ที่มีชีวติ ของเหย่ือเทา่ นนั้ ไวรสั จึงจัดวา่ เปน็ ปรสติ ท่แี ท้จรงิ (obligatory intercellular parasite) การแพรก่ ระจายเช้ือ ไวรัสจากต้นพืชทเ่ี ปน็ โรคไปยังพืชปกติสามารถแพรก่ ระจายไดด้ ังน้ี 3.1 การแพร่กระจายเช้ือไวรัสต้องมีพาหะหรือส่ิงที่จะนำพาไปซง่ึ ได้แก่ 3.2 แมลงปากดูดเชน่ แมลงหวขี่ าวเพล้ยี อ่อนเพล้ียจกั จ่ันเพลี้ยแป้งเพลีย้ ไฟ 3.3 เชือ้ รา 3.4วชั พืชเช่นฝอยทอง 3.5 สัตวอ์ ื่นๆเชน่ ไรและไส้เดือนฝอยโดยการทำลายหรอื ดูดกินจากต้นหนึง่ ไปยังต้นหนึ่งแลว้ จึงถา่ ยเช้อื ไวรัส ไปยังต้นพืชใหม่ได้ 3.6 น้ำคั้นจากต้นทเ่ี ป็นโรคไวรสั เม่อื สัมผัสกับตน้ ปกติหรือเสยี ดสีกนั จนเกิดบาดแผลกจ็ ะทำใหเ้ ป็นโรคได้ 3.7 ติดไปกบั ส่วนของพชื เช่นท่อนพันธุ์เมลด็ พนั ธุ์และอุปกรณ์เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานท่ไี ม่มีการทำ ความสะอาดโดยอาจตัดแต่งกิ่งตน้ ทเี่ ป็นโรคและนำมาใช้กับตน้ ปกติกจ็ ะทำใหพ้ ชื ต้นใหม่เปน็ โรคได้
10 4 การแพร่กระจายของโรคพืชท่ีเกดิ จากเช้ือไมโครพลาสมาไมโครพลาสมาเป็นสง่ิ มีชีวติ ท่ีเปน็ สาเหตขุ องโรคในท้งั คน สัตว์และพชื ดังนนั้ ไมโครพลาสมาท่ีเป็นสาเหตุโรคพชื อาจเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ไฟโตพลาสมา(phytoplasma) รปู รา่ งลักษณะ ของเชื้อไฟโตพลาสมาภายในเซลล์ของของเชื้อไฟโตพลาสมาประกอบไปดว้ ย DNA และ RNA เช่นเดยี วกันกับแบคทเี รียแตไ่ ม่ มีผนังเซลลจ์ ะมเี พยี งแต่เยื่อหุ้มเซลล์ซ่ึงเป็นสารพวก phospholipids ลอ้ มรอบเซลล์ไว้จึงทำใหเ้ ชอ้ื ไฟโตพลาสมามรี ูปรา่ งและ ขนาดไมแ่ นน่ อนเรยี กว่า polymorphic หรือ pleomorphic ซงึ่ คล้ายกับเซลลแ์ บคทเี รยี ขนาดเลก็ นอกจากน้ีแลว้ เชื้อไฟโต พลาสมาสามารถเพาะเลย้ี งบนอาหารเลีย้ งเชื้อได้เมื่อมีการใชส้ ารปฏิชวี นะ tetracycline กบั ต้นท่ีเปน็ โรคพบว่าอาการเปน็ โรคจะหายไปช่วั คราวเช้ือไฟโตพลาสมามีความต้านทานตอ่ penicillin และสารปฏชิ วี นะอยา่ งอ่ืนแต่ไมต่ ้านทานตอ่ ความรอ้ น การแพรร่ ะบาดของไฟโตพลาสมาเกิดขึ้นไดด้ งั นี้ 4.1 ตอ้ งมีพาหะหรือสง่ิ ที่จะนำพาไปซึ่งไดแ้ ก่แมลงปากดดู เช่นเพลย้ี อ่อนแมลงหว่ีขาวเพล้ียจกั จ่นั เพล้ียแปง้ เพล้ียไฟเช้อื ราโดยการทำลายหรือดดู กนิ น้ำเลีย้ งของต้นพชื ทีเ่ ป็นโรคไปยงั ตน้ ปกติ 4.2 ตดิ ไปกับส่วนของพืชเช่นท่อนพันธุแ์ ละเมลด็ พันธ์ุ 4.3 ตดิ ไปกับอุปกรณ์หรือเครื่องมือการเกษตรที่ไมม่ ีการทำความสะอาดในการปฏิบตั งิ านเชน่ การติดตาทาบ ก่งิ ตอน 5. การแพรก่ ระจายของโรคพืชทเ่ี กิดจากไสเ้ ดอื นฝอยไสเ้ ดือนฝอยเปน็ ส่งิ มชี ีวติ ขนาดเล็กลำตวั กลมคลา้ ยเส้นด้ายผิว เกลี้ยงไม่มปี ลอ้ งไม่มขี าหรือรยางคใ์ นสว่ นอื่นๆมีขนาด 300 - 1,000 ไมครอนแต่กพ็ บว่าไสเ้ ดอื นฝอยบางชนดิ ตัวเมยี เม่ือเปน็ ตวั เตม็ วยั จะมีลำตวั ขยายตัวพองโตกลมรตี วั อย่างเชน่ ไสเ้ ดือนฝอย Heterodera glycines ที่ทำใหเ้ กดิ โรครากปมถั่วเหลอื ง (soybean cyst nematode)
11 การทำลายพืชของไส้เดือนฝอยพบว่าไสเ้ ดือนฝอยเขา้ ทำลายพชื โดยแทงสว่ นปากท่ีมีเข็มแหลม(stylet) เข้าสเู่ น้อื เยือ่ ของพืชและปล่อยนำ้ ลายออกมาทำใหผ้ นังเซลล์พชื สลายตวั แล้วดูดกนิ สว่ นต่างๆของพชื ทำใหเ้ ซลลพ์ ืชเปน็ แผลบวมโปง่ หรือ เป็นปมเชน่ รากพืชไมส่ ามารถดูดน้ำดูดอาหารได้ตามปกติทำให้พืชเกดิ การขาดอาหารแสดงอาการผดิ ปกติของส่วนท่ีอยู่เหนอื พนื้ ดินอีกทง้ั แผลท่เี กดิ ข้นึ ทำใหเ้ ชือ้ จุลนิ ทรยี ช์ นิดอ่นื เขา้ ทำลายพชื ได้งา่ ยยิ่งข้นึ ทำให้การเกิดโรคมีความรุนแรงเพ่ิมข้ึน นอกจากนย้ี งั พบวา่ ไส้เดือนฝอยบางชนิดยังเปน็ พาหะนำเชอ้ื ไวรสั เข้าสพู่ ืชได้อีกด้วย ไสเ้ ดือนฝอยมกั อาศยั ในดนิ หรือในรากและลำต้นพืชเราจงึ พบไสเ้ ดอื นฝอยส่วนใหญ่ทีบ่ รเิ วณความลกึ 0-15 เซนตเิ มตรไส้เดือนฝอยบางชนดิ อาจพบอยูท่ ่ีความลึก 35-150 เซนตเิ มตรขึ้นกบั ชนิดพชื ไส้เดือนฝอยจะแพร่ระบาดทางดนิ ไป ไดอ้ ย่างช้าๆ 2-3 ฟุตต่อปีแตอ่ าจจะแพร่กระจายไปไดไ้ กลๆโดยติดไปกับดินกับล้อรถไถนำ้ ชลประทานพายนุ ำ้ ฝนฯลฯ 6 วงจรของโรคพืช(plant disease cycle) โรคพืชทเี่ กดิ จากเชื้อสาเหตโุ รคพชื น้ันมีวงจรของโรคพชื แบ่งได้เปน็ 2 ระยะคอื 6.1 ระยะทเี่ ช้ือเขา้ ทำลายพชื (pathogenic phase) ทำให้พืชแสดงอาการเป็นโรคเชอื้ สาเหตโุ รคพชื จะอยู่ ในเน้อื เย่ือของพืช 6.2 ระยะทเ่ี ชื้อโรคพักตัว(independent phase) เช้อื สาเหตุโรคพืชอาจพกั ตัวในดนิ หรือเกาะติดอยู่กับเศษ พชื ท่รี ว่ งหลน่ อยู่ตามพนื้ ดนิ ในรูปของสปอร์หรือเส้นใยหรืออยู่การแพรร่ ะบาดของศตั รูพชื ตามตอซังของพชื อาศัยอยกู่ ับวัชพืช หรือพืชอน่ื ๆที่เป็นพชื อาศยั ในบรเิ วณใกล้เคียงพอถงึ ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่จึงเขา้ ทำลายพชื หลกั อีก 7. ปจั จัยที่เกย่ี วข้องกบั การเกิดโรคการที่พืชเปน็ โรคไดจ้ ะต้องมีปัจจยั ต่างๆมาเก่ียวขอ้ งดังน้ีพืชเจ้าบ้าน(host plant) เชือ้ สาเหตุโรคพืช(pathogens) สภาพแวดลอ้ ม(environment) และช่วงระยะเวลา(time) โดยทีป่ จั จยั ที่กล่าวถงึ เหล่าน้ี จะตอ้ งมาเก่ยี วขอ้ งกนั อย่างเหมาะสมเชน่ สายพนั ธ์ุพืชอ่อนแอต่อการเกดิ โรค(susceptible host) เช้ือสาเหตุมคี วามรนุ แรงใน การทำให้เกดิ โรค(virulent pathogen) ปรมิ าณเชอื้ โรคท่มี ีมากพอท่ีจะเกดิ โรคไดส้ ภาพแวดล้อมท่เี หมาะสม(favorable
environment) เชน่ สภาพแวดลอ้ มมีความช้นื สงู หรอึ อุณหภูมเิ หมาะสมและมีชว่ งเวลาที่เหมาะสมต่อการเป็นโรคเข้ามา 12 เกีย่ วข้องด้วยซ่ึงถา้ ปัจจัยเหล่านเ้ี กดิ ข้นึ อยา่ งพอเหมาะกจ็ ะทำให้พืชแสดงอาการเปน็ โรคได้เรารวมเรยี กปจั จัยเหลา่ นี้วา่ สามเหลยี่ มโรคพชื (disease pyramid) ความหมายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเท่ียวเชิงเกษตร หมายถงึ การท่องเทยี่ วท่มี ุง่ เนน้ ทางดา้ นการเรยี นรู้วิถีเกษตร กรรมของชาวชนบท โดยเนน้ การมสี ว่ นร่วมของนักท่องเทยี่ วในการดำเนินกจิ กรรมให้เกดิ การเรียนรดู้ า้ นการเกษตรและวถิ กี ารดำรงชวี ติ วัฒนธรรม ประเพณี และเปน็ การนำเอาทรพั ยากรที่มีอยใู่ หเ้ กิดการเรียนรูม้ าทำใหเ้ กดิ ประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้ตอ่ ชุมชน และตัว เกษตรกร การท่องเทีย่ วเชิงเกษตร จะเป็นการอนรุ ักษ์ควบคู่ไปกบั การท่องเที่ยวเพ่ือไมใ่ ห้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและผล กระทบตอ่ สภาพสงิ่ แวดล้อม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการเดินทางทอ่ งเท่ียวไปยังพืน้ ทเี่ กษตรกรรม สวนเกษตร วนเกษตร สวน สมนุ ไพร ฟาร์มปศุสัตวแ์ ละสัตวเ์ ล้ียง เพ่ือชื่นชมความสวยงาม ความสำเรจ็ และเพลดิ เพลนิ ในสวนเกษตร ไดค้ วามรู้ ได้ ประสบการณ์ใหม่ บนพื้นฐานความรบั ผิดชอบ มีจิตสำนกึ ต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น ในแหล่งท่องเท่ียวเชงิ เกษตรแตล่ ะแหง่ จะมีกิจกรรมท่จี ะให้บริการนักท่องเทยี่ วหลาย ๆ กิจกรรม แล้วแต่ สภาพจุดท่องเทยี่ วเชงิ เกษตรแต่ละแห่ง ได้แก่ 1.) ประเภทนกั ทอ่ งเที่ยวรว่ มกิจกรรมระยะส้นั ไดแ้ ก่ การเข้าชมสวนเกษตร โดยนกั ท่องเทย่ี วอาจเก็บ ผลผลิตในสวนหรือซ้อื ผลผลติ โดยเลือกเก็บได้ และทำกจิ กรรมพื้นบ้านระยะสัน้ ร่วมกับชาวบา้ น เชน่ ข่ีควาย น่ังเกวยี น และอ่นื ๆ 2.) ประเภทใหน้ ักท่องเทีย่ วพักแรมในหมู่บา้ น การให้นักทอ่ งเที่ยวพักแรมในหมู่บ้านเพือ่ ศึกษา และสัมผสั กบั ชวี ิตของชาวชนบทเกษตรโดยนกั ท่องเท่ียวจะไดร้ บั บริการทอ่ี บอนุ่ ปลอดภยั สะดวกและสะอาด 3.) ประเภทอบรมให้ความรเู้ กษตรแผนใหมแ่ ละความรู้ทเ่ี ป็นภูมิปัญญาชาวบา้ น การทำการเกษตรแผนใหม่ เชน่ การปลูกและการดแู ลรักษา การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร อาจมกี ารให้ใบประกาศนยี บัตรดว้ ย การเรยี นรภู้ มู ิปัญญา ชาวบ้าน เช่น การศึกษาแมลงทม่ี ีประโยชน์ พืชผักพื้นเมืองท่กี ินได้ การทำนำ้ ตาลมะพร้าวและนำ้ ตาลโตนด ฯลฯ 4.) ประเภทจำหนา่ ยสินคา้ และผลติ ภัณฑ์เกษตรสนิ คา้ หัตถกรรมพ้นื บ้านของเกษตร กร ของใช้และของท่ี ระลึกต่าง ๆ ผลไม้สด ดอกไม้สด เมลด็ พนั ธ์พุ ชื ทีน่ า่ สนใจให้นกั ท่องเที่ยวซือ้ ไปปลกู 5.) ประเภทให้ลู่ทางธุรกิจ ชว่ งท่ีธุรกิจอืน่ ๆ ประสบปัญหาจากธรุ กิจตกต่ำ ให้นกั ท่องเทยี่ วส่วนหน่ึงเดินทาง มาทอ่ งเที่ยวเพื่อหาลทู่ างในการทำธุรกจิ เก่ียวกบั การเกษตร เพราะเปน็ ธรุ กจิ ที่ใหผ้ ลตอบแทนเรว็ การท่องเท่ยี วในลกั ษณะนี้ นอกจากจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้แก่เกษตรกรแลว้ ยงั เป็นหนทางท่ีช่วยภาคเอกชนทรี่ บั ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจใน ปัจจบุ นั อีกด้วย
13 รูปแบบการท่องเท่ียวเชิงเกษตร สามารถแบง่ ได้ 3 ประเภทดังนี้ 1.) แบบกจิ กรรมรายบุคคล ได้แก่ การนำเทยี่ วชมสวนของเกษตรกรรายบุคคลทปี่ ระสบความสำเร็จในการ ประกอบอาชีพ เชน่ สวนทเุ รียน มงั คุด สวนไม้ดอกไมป้ ระดับ หรอื แม้แต่ฟาร์มเลีย้ งสตั ว์ ทงั้ นผี้ ู้เย่ียมชมจะไดร้ ับความรู้ด้าน เทคโนโลยีการผลิต การจัดการ การตลาดแลว้ ยงั สามารถซื้อผลผลิตต่าง ๆ ที่ทางสวนจัดข้ึนอีกดว้ ย 2.) กจิ กรรมการทอ่ งเที่ยวตามฤดกู าลหรือเทศกาล เช่น การจัดงานวันทุเรียนโลก งานวนั เงาะโรงเรียนทงุ่ ทานตะวันบาน ท่งุ ดอกปทุมมา ซง่ึ การท่องเทย่ี วแบบน้ีจะมีข้นึ เฉพาะในชว่ งที่มกี ารจดั นิทรรศการเก่ยี วกับการเกษตรเท่านั้น 3.) กจิ กรรมการท่องเท่ียวตามชมุ ชนหรือหมู่บ้านเกษตรกร ซง่ึ เกษตรกรในชมุ ชน รว่ มกนั จัดตง้ั บริหาร และ จดั การท่องเที่ยว โดยกรมสง่ เสริมการเกษตรใหค้ วามร่วมมือสนับสนุนในการจดั ทำโครงสรา้ งทางกายภาพ การจดั ภูมิทัศน์ การใหแ้ นวความคดิ ในการพัฒนาแหลง่ ทอ่ งเท่ียวให้เหมาะสมกบั พนื้ ท่ีและความสามารถของเกษตรกรในชมุ ชน การแปรรปู สมุนไพร สมนุ ไพรถูกนำมาใชส้ ารพัดประโยชน์ และถกู แปรรปู ออกมาในแบบต่างๆ สงิ่ สำคัญที่สุดของการแปรรปู สมนุ ไพร คือ การปรงุ ยา การปรงุ ยาหมายถึง การสกดั เอาตัวยาออกมาจากเน้ือไมย้ า สารท่ใี ชส้ กดั เอาตัวยาออกมาท่นี ิยมใชก้ ัน ไดแ้ ก่ นำ้ และ เหลา้ สมุนไพรที่นำมาเปน็ ยาตามภูมปิ ัญญาดั้งเดิมมีรูปแบบ คอื 1.ยาตม้ เปน็ การสกดั ยาออกมาจากไม้ยาดว้ ยน้ำรอ้ น เป็นวธิ ที ีน่ ิยมใชม้ ากทสี่ ุด ใช้กับส่วนของเน้อื ไม้ทแี่ น่นและแข็ง เชน่ ลำตน้ และราก ซึ่งจะต้องใชก้ ารต้มจงึ จะได้ตัวยาที่เป็นสารสำคัญออกมา -ขอ้ ดขี องการตม้ คอื สะอาด ปลอดจากเชอื้ โรค มี 3ลักษณะ +การตม้ กินตา่ งน้ำ คือการต้มให้เดือดก่อนแล้วตม้ ดว้ ยไฟอ่อนๆอีก 10 นาที หลงั จากนน้ั นำมากินแทนนำ้ +การตม้ เคี่ยว คอื การตม้ ใหเ้ ดือดอ่อนๆ ใช้เวลาตม้ 20-30 นาที +การตม้ 3 เอา1 คือ การตม้ จากน้ำ 3 ส่วน ใหเ้ หลือเพียง 1 ส่วน ใช้เวลาตม้ 30-45นาที 2.ยาชง เปน็ การสกัดตัวยาด้วยน้ำร้อน ใช้กับสว่ นท่บี อบบาง เชน่ ใบ ดอก ที่ไมต่ ้องการโดนนำ้ เดือดนานๆตวั ยาก็ออกมาได้ วิธกี ารชง คือ ให้นำยาใส่แกว้ เติมน้ำร้อนจดั ลงไป ปดิ ฝาแกว้ ทง้ิ ไว้จนเยน็ ลกั ษณะน้เี ป็นการปล่อยตัวยาออกมา เตม็ ท่ี 3. ยาน้ำมนั ตวั ยาบางชนดิ ไม่ย่อยละลายนำ้ แม้วา่ จะต้มเค่ียวแล้วก็ตาม ส่วนใหญย่ าที่ละลายน้ำจะไม่ละลายในน้ำมนั เช่นกัน จงึ ใช้น้ำมันสกัดยาแทน แตเ่ นอื่ งจากยาน้ำมันทาแล้วเหนียว เหนอะหนะ เป้อื นเสื้อผ้า จงึ ไม่นยิ มปรุงใชก้ ัน 4.ยาดองเหล้า เป็นการใชก้ บั ตวั ยาทีไ่ มล่ ะลายน้ำ แตล่ ะลายได้ดีในเหลา้ ยาดองเหล้ามกั มีกล่ินแรงกวา่ ยาตม้ เนื่องจากเหลา้ มกี ล่ินฉนุ และหากกินบอ่ ยๆอาจทำใหต้ ิดได้ จึงไมน่ ยิ มกินกัน จะ ใชต้ อ่ เมื่อกนิ ยาเมด็ หรอื ยาตม้ แล้วไม่ไดผ้ ล
14 5.ยาต้มค้ันเอานำ้ เป็นการนำเอาส่วนของต้นไม้ทม่ี ีน้ำมากๆออ่ นนุ่ม ตำแหลกง่าย เช่น ใบ หวั หรอื เหง้า นำมาตำใหล้ ะเอียด และคัน้ เอาแตน่ ำ้ ออกมา ยาประเภทนี้กนิ มากไม่ไดเ้ ช่นกนั เพราะน้ำยาท่ีไดจ้ ะมกี ล่ินและรสชาตทิ ่ีรุนแรง ตัวยาเขม้ ข้นมาก ยากที่จะกลืนเขา้ ไปท่ีเดียว ฉะนั้นกินคร้ังละหน่ึงถว้ ยชากพ็ อแลว้ 6.ยาผง เปน็ การนำยาไปอบหรอื ตากแห้งแล้วบดใหเ้ ป็นผง ยาที่เปน็ ผงละเอยี ดมากย่งิ มีสรรพคุณดี เพราะจะถกู ดดู ซึมสู่ลำไส้ง่าย จึงเขา้ สูร้ ่างกายไดร้ วดเร็ว ยาผงชนิดใดทกี่ นิ ยากก็จะใชป้ ัน้ เป็นเม็ดทเ่ี รยี กว่า \"ยาลกู กลอน\" โดยใชน้ ้ำเชอ่ื ม,น้ำขา้ วหรอื น้ำผ้ึง เพ่ือให้ติดกนั เป็น เมด็ ส่วนใหญ่นิยมใชน้ ้ำผ้ึงเพราะสามารถเก็บไวไ้ ดน้ านโดยไมข่ ้ึนรา 7.ยาฝน เป็นวิธีการทหี่ มอพืน้ บา้ นนิยมกนั มาก วิธกี ารฝน คอื หาภาชนะใสน่ ้ำสะอาดประมาณครง่ึ หนึ่งแลว้ นำหินลบั มดี เล็กๆจ่มุ ลงไปในหนิ โผล่เหนอื นำ้ เล็กนอ้ ย ฝนจนไดน้ ้ำยาสีขุน่ เลก็ น้อยกินครง้ั ละ 1 แกว้ สมุนไพรถูกนำมาใชส้ ารพัดประโยชน์ และถกู แปรรปู ออกมาในแบบตา่ งๆ สิ่งสำคัญที่สดุ ของการแปรรูปสมุนไพร คือ การปรุง ยา พชื สมุนไพรไทยริมร้วั อย่าง ดอกอัญชนั ท่ีคนโบราณชอบเอาไว้เขยี นคิว้ ให้ลกู เด็กเล็กแดงตัวเล็ก ๆ ไดแ้ ล้ว ยงั นยิ มนำมา ทำเปน็ เครื่องดืม่ ดว้ ย เพราะดอกอญั ชนั มีสมี ว่ งอมน้ำเงิน แถมยงั สามารถนำมาทำเป็นเคร่ืองดม่ื ดบั กระหายไดด้ ีทเี ดยี ว ประโยชนข์ องดอกอญั ชันก็มีเยอะ เช่น ดอกอัญชันมสี ารแอนโธไซยานิน ที่มีสว่ นสำคญั ในการชว่ ยใหร้ ะบบการมองเหน็ ของ ดวงตาดขี นึ้ วนั น้กี ระปุกดอทคอม นำสูตรการทำนำ้ อัญชนั มะนาว หรือ นำ้ พันซ์ดอกอญั ชันมาฝาก ท่ไี มใ่ ชม่ ีดีแค่สีสวย แตด่ ื่ม แล้วสดช่นื และมปี ระโยชน์อีกดว้ ย สว่ นผสม น้ำอญั ชันมะนาว ◆ ดอกอญั ชันสด 100 กรัม ◆ น้ำ 2 ถ้วยตวง ◆ นำ้ เชือ่ ม 4 ชอ้ นโตะ๊ ◆ น้ำมะนาว (ตามชอบ) ◆ น้ำแข็ง 1 แก้ว วธิ ที ำนำ้ อัญชันมะนาว 1. ต้มดอกอญั ชันในน้ำ ปดิ ฝาต้มประมาณ 2-3 นาที จนเดอื ด ยกลงจากเตา ยกลงกรองดอกอัญชนั ออกเอาเฉพาะ นำ้ เตรียมไว้ 2. รอจนนำ้ อัญชนั เริ่มอนุ่ ใสน่ ำ้ เชอื่ มลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากนั ชิมรสตามชอบ เทใสแ่ ก้วทีม่ ีน้ำแข็ง พร้อมด่มื หรือใครทีต่ อ้ งการความซา่ ก็ใหเ้ ติมโซดาแชเ่ ย็นจดั ลงไปตบท้ายกจ็ ะได้น้ำพันซ์อันชญั มะนาวโซดาเคร่ืองดม่ื สมุนไพร อีกแบบหนึ่งแล้ว อยากผอมและสุขภาพดี กินเยอะแบบนี้มันต้องมตี วั ช่วยกับเครอ่ื งด่ืมท่ที ำได้เองท่ีบา้ น สูตรช่วยเผาพลาญไขมนั และเป็น วตั ถดุ ิบทีห่ าได้งา่ ย ข้ันตอนไม่เยอะอยา่ งน้ำมะนาว แต่ไม่ใช่เอามาชงกับน้ำตาลนะคะ แต่ควรจะผสมอยา่ งถกู วธิ ี เช่นเอาผลไม้ อย่างอื่นเขา้ มาช่วยด้วย มาดูกันวา่ มีสูตรอะไรกันบ้าง
15 รวมสูตร นำ้ มะนาวเพ่ือสุขภาพ ไลไ่ ขมนั ไดก้ ระจยุ 1. น้ำมะนาวผสมนำ้ อ่นุ ส่วนผสม น้ำอนุ่ 1 แก้ว มะนาว 1/2 ลูก วธิ ีทำ บีบมะนาวลงไปในน้ำอนุ่ คนให้เข้ากันแลว้ รบี ดืม่ ในทันที ให้ดม่ื หลงั ตื่นตอนเชา้ สูตรน้จี ะช่วยเผาผลาญไขมนั ไดด้ ี แถมยงั ช่วยเรอ่ื งของการขบั ถา่ ยด้วย 2. ชาเขยี วมะนาว สว่ นผสม มะนาวฝานบางๆ 1 ชิ้น ชาเขียว 1 ถุงชา ใบม้นิ ท์หรือใบสาระแหน่ 4-5 ใบ น้ำเปล่า 1 ขวด วธิ ที ำ เทน้ำใส่แก้ว จากน้นั กห็ ยอ่ นถุงชาเขียวลงไป นำเขา้ ตู้เยน็ ประมาณครึ่งชัว่ โมง เมอ่ื ครบเวลาแล้วก็นำถงุ ชา เขียวออก ใสม่ ะนาวฝานและใบมนิ้ ท์ลงไป จากนน้ั ก็นำกลบั ไปแชต่ เู้ ย็นอีกครึ่งชว่ั โมง หรือนานกวา่ นนั้ ไดจ้ ากนัน้ ก็นำมาดื่ม ตามท่ตี ้องการไดเ้ ลยค่ะ 3. นำ้ มะนาวผสมส้ม สว่ นผสม ส้มฝานบางๆ 3 ชนิ้ มะนาวฝานบางๆ 3 ช้นิ ใบมนิ้ ท์ 2-3 ใบ น้ำเปล่า 1 ขวด วิธีทำ เทน้ำใสแ่ กลว้ ตามด้วย ใบม้ินท์ สม้ และมะนาว ใสล่ งไปทั้งชิ้นเลยคะ่ จากนัน้ ก็เทนำ้ แข็งตามลงไปเล็กน้อย คนให้เขา้ กนั วางทงิ้ ไวจ้ นสารจากสม้ และมะนาวปล่อยสารออกมา ทิ้งไวร้ ะมาณ 15 นาที จากนั้นกด็ ืม่ ได้เลยค่ะ 4. นำ้ มะนาวผสมสับปะรดและเมล็ดเจีย ส่วนผสม สับปะรดหัน่ ช้ิน 3 ชิน้ มะนาวฝานบางๆ 1 ชิ้น เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ เปล่า 1 แก้ว วธิ ีทำ เทน้ำใสแ่ ก้ว ใสส่ บั ปะรดหั่นชิ้น มะนาวหั่นฝาน และเมล็ดเจีย คนให้เขา้ กนั คนจนนำ้ ของสบั ปะรดและ มะนาวซึมออกมา และคนจนเมล็ดเจยี ออ่ นนุ่ม จากนัน้ ก็พร้อมด่มื ค่ะ
16 5. มะนาวนำ้ ขิง สว่ นผสม ขงิ ฝานบางๆ 1 ชิ้น ชาเขยี ว 1 ถุงชา มะนาวฝานบางๆ 1 ชน้ิ นำ้ เปล่า 1 แกว้ วิธที ำ ต้ังน้ำใหเ้ ดอื ด จากนั้นก็ใสข่ ิงฝานบางๆ ลงไป ต้มไว้ 5 นาที จากนัน้ กป็ ดิ ไฟ เทเอาแตน่ ำ้ ใส่ถว้ ยกาแฟ ใส่ มะนาวและหย่อนถุงชาเขยี วลงไป รอใหช้ าละลาย คนใหเ้ ข้ากัน จากน้ันก็นำถุงชาออกแล้วด่ืมไดเ้ ลยค่ะ
17 บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนนิ งาน การดำเนนิ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตำบลหน้าพระธาตุ ได้ดำเนนิ การตามข้นั ตอนต่างๆ ดังน้ี 1. ขั้นเตรยี มการ การศกึ ษาเอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ งกับโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ผู้รับผดิ ชอบ โครงการได้ศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือเปน็ ข้อมลู และแนวทางในการดำเนนิ การโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ดังนี้ 1. ศกึ ษาเอกสาร / คู่มือ ข้อมูลจากหนังสอื เกี่ยวกบั การบริหารจดั การงานเกษตร การนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั การบรหิ ารจดั การพน้ื ที่เกษตรกรรม การปลกู ขยายพันธุ์พชื ดว้ ยเทคนิคต่าง ๆ ข้อพจิ ารณาให้การ ปลกู พชื เพ่ือสร้างรายได้เพื่อเป็นแนวทางเก่ียวกับการจัดโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer 2. ศกึ ษาขน้ั ตอนการดำเนินโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer เพื่อเปน็ แนวทางในการจัด เตรียมงาน วสั ดุอปุ กรณ์ และบุคลากรให้เหมาะสม การสำรวจความตอ้ งการของประชาชนในพืน้ ท่ี (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลุ่มภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตำบล สำรวจความตอ้ งการของ กลุ่มเป้าหมายเพื่อทราบความต้องการท่ีแทจ้ รงิ ของประชาชนในตำบล และมีข้อมูลในการจดั กิจกรรมท่ีตรงกับความต้องการ ของชุมชน การประสานงานผู้นำชมุ ชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตำบล ได้ประสานงานกบั หวั หนา้ /ผ้นู ำชมุ ชนและประชาชนในตำบลเพือ่ รว่ มกันปรึกษาหารือใน กลุ่มเกีย่ วกบั การดำเนนิ การจัดโครงการให้ตรงกบั ความต้องการของชมุ ชน 2. ครู กศน.ตำบล ได้ประสานงานกบั หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องเพ่ือจดั หาวิทยากร การประชาสมั พนั ธโ์ ครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดด้ ำเนินการประชาสมั พันธ์การจดั โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer เพอ่ื ให้ประชาชนทราบข้อมลู การจดั กจิ กรรมดงั กลา่ วผา่ นผู้นำชมุ ชน ประชุมเตรียมการ / วางแผน 1) ประชุมปรกึ ษาหารือผทู้ ่ีเก่ียวข้อง 2) เขียนโครงการ วางแผนมอบหมายงานให้ฝา่ ยตา่ งๆ เตรียมดำเนินการ 3) มอบหมายหนา้ ที่ แต่งตงั้ คณะทำงาน การรบั สมคั รผเู้ ขา้ รว่ มโครงการฯ ครู กศน.ตำบล ไดร้ ับสมัครผูเ้ ข้ารว่ มโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยใหป้ ระชาชนท่วั ไปที่อาศัยอยู่ในพืน้ ท่ีตำบลหน้าพระธาตุ เขา้ รว่ ม เปา้ หมายจำนวน 15 คน
18 การกำหนดสถานทแี่ ละระยะเวลาดำเนินการ ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถานทใ่ี นการจัดอบรมคือ บา้ นเลขท่ี 17/1 หมู่ 11 ตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบรุ ี ระหวา่ งวันท่ี 14-15 กรกฎาคม 2563 จำนวน 2 วัน เวลา 08.30-16.30 น. 2. ขน้ั ดำเนนิ งาน กลุม่ เป้าหมาย กล่มุ เป้าหมายของโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer - เกษตรกรตำบลหน้าพระธาตุ จำนวน 15 คน สถานทีด่ ำเนินงาน ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ณ บา้ นเลขที่ 17/1 หมู่ 11 ตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนสั นคิ ม จังหวดั ชลบุรี การขออนุมัติแผนการจัดกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพื้นทภี่ าคตะวันออก กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุได้ดำเนินการขออนุมัติแผนการจดั กจิ กรรม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตอ่ สำนักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี เพอ่ื ให้ต้นสงั กดั อนุมตั ิแผนการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกร ตน้ แบบ Master Trainer การจัดทำเครอ่ื งมือการวัดความพงึ พอใจของผรู้ ่วมกิจกรรม เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการติดตามประเมินผลโครงการ ได้แก่ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ขนั้ ดำเนนิ การ / ปฏิบัติ 1. เสนอโครงการเพือ่ ขอความเห็นชอบ/อนมุ ัติจากต้นสงั กัด 2. วางแผนการจัดกจิ กรรมในโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer โดยกำหนดตารางกจิ กรรมที่กำหนดการ 3. มอบหมายงานใหแ้ กผ่ ู้รบั ผิดชอบฝ่ายตา่ งๆ 4. แต่งตั้งคณะกรมการดำเนนิ งาน 5. ประชาสัมพันธ์โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer 6. จัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตามตารางกิจกรรมท่กี ำหนดการ 7. ติดตามและประเมนิ ผลโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer 3. การประเมินผล วเิ คราะหข์ ้อมูล 1. บนั ทกึ ผลการสงั เกตจากผู้เข้ารว่ มกิจกรรม 2. วเิ คราะหผ์ ลจากการประเมินในแบบประเมินความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานรวบรวมสรุปผลการปฏบิ ตั งิ านของโครงการนำเสนอต่อผู้บริหารนำปัญหา ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขคร้งั ต่อไป
19 ค่าสถติ ิทใ่ี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวช้ีวัดความสำเร็จของโครงการ ตามแบบสอบถามคดิ เปน็ รายข้อ โดยแปลความหมายค่าสถิตริ ้อยละออกมาได้ดังน้ี คา่ สถิติรอ้ ยละ 90 ขน้ึ ไป ดมี าก ค่าสถติ ิร้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่าสถติ ริ ้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ คา่ สถิติร้อยละ 50 – 59.99 ปรับปรงุ ค่าสถติ ิรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรับปรงุ เรง่ ดว่ น ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซ่ึงมีลักษณะเป็นค่าน้ำหนักคะแนน และ นำมาเปรยี บเทียบ ได้ระดับคณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี เกณฑก์ ารประเมนิ (X) ค่านำ้ หนกั คะแนน 4.50 – 5.00 ระดบั คุณภาพ คือ ดีมาก ค่านำ้ หนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคณุ ภาพ คอื ดี คา่ น้ำหนกั คะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคณุ ภาพ คือ พอใช้ ค่านำ้ หนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คณุ ภาพ คอื ต้องปรบั ปรงุ ค่านำ้ หนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคณุ ภาพ คอื ต้องปรบั ปรงุ เรง่ ดว่ น
20 บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งานและการวิเคราะห์ข้อมลู ตอนที่ 1 รายงานผลการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer การจดั กจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer สรุปรายงานผลการจัดกจิ กรรมไดด้ งั น้ี ในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ตามโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เปน็ การอบรมให้ความรู้ โดยมี นางประไพ สรุ ินทร์ และนางสาวอุทมุ พร สขุ สวัสดิ์ เปน็ วทิ ยากรในการบรรยายให้ความรู้ เรอื่ ง การบรหิ ารจดั การงานเกษตร การนำปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน การบริหารจัดการพ้นื ที่ เกษตรกรรม การปลกู ขยายพันธ์พุ ชื ด้วยเทคนิคตา่ ง ๆ ข้อพจิ ารณาให้การปลกู พืชเพ่ือสร้างรายได้ หลังจากเสร็จสนิ้ กิจกรรม ดงั กลา่ วแลว้ ผูเ้ ขา้ อบรมสามารถพฒั นาศักยภาพด้านเกษตรของตน ให้มกี ารบรหิ ารจัดการเปน็ เกษตรเชิงท่องเท่ยี วให้เพม่ิ ขึ้น และเป็นเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ขยายผลให้เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer แกช่ มุ ชนได้ ตอนท่ี 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer การจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ซง่ึ สรปุ รายงานผลจากแบบสอบถามความ คดิ เหน็ ข้อมูลทไี่ ด้สามารถวิเคราะหแ์ ละแสดงค่าสถติ ิ ดังนี้ ตารางท่ี 1 ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามเพศ รายละเอยี ด เพศ หญิง ชาย 14 93.33 จำนวน (คน) 1 ร้อยละ 6.67 จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามท่เี ขา้ ร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพื้นท่ีภาคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer เป็นหญงิ จำนวน 15 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ตารางที่ 2 ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามได้นำมาจำแนกตามอายุ รายละเอยี ด อายุ (ป)ี อายุ 15-29 30 - 39 40 - 49 50-59 60 ขน้ึ ไป 1 10 จำนวน (คน) - - 4 6.67 66.67 รอ้ ยละ - - 26.67 จากตารางที่ 2 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามท่ีเขา้ รว่ มกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาพืน้ ท่ีภาคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer มอี ายุ 40 – 49 ปี จำนวน 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 26.67 มีอายุ 50 – 59 ปี จำนวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.67และมีอายุ 60 ปีข้นึ ไป จำนวน 10 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 626.67
ตารางที่ 3 ผู้เขา้ รว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามอาชพี 21 รายละเอยี ด เกษตรกรรม รับจา้ ง อาชีพ ค้าขาย อ่ืนๆ รบั ราชการ/รัฐวิสาหกจิ - - - - จำนวน (คน) 15 - - ร้อยละ 100.00 - - จากตารางท่ี 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาพื้นทภ่ี าคตะวนั ออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตำบลหนา้ พระธาตุ มีอาชีพเกษตรกรรม จำนวน 15 คน คดิ เป็นรอ้ ย ละ 100.00 ตารางที่ 4 ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ำมาจำแนกตามระดับการศึกษา รายละเอียด ระดบั การศกึ ษา การศึกษา ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย/ปวช. ปวส./ป.ตรีข้นึ ไป - จำนวน (คน) 13 2 - - ร้อยละ 86.67 13.33 - จากตารางที่ 4 พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถามทเี่ ขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพื้นทภ่ี าคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer มรี ะดบั ประถมศกึ ษา จำนวน 13 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 86.67 มรี ะดับ มธั ยมศึกษาตอนต้น จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 13.33 ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละเฉลี่ยความสำเร็จของตวั ชวี้ ัด ผลผลติ ประชาชนทวั่ ไปเขา้ ร่วมโครงการจำนวน 15 คน ผลสำเรจ็ ของโครงการ เปา้ หมาย(คน) ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ(คน) คดิ เปน็ ร้อยละ 15 15 100 จากตารางท่ี 5 พบว่าผลสำเรจ็ ของตวั ช้ีวดั ผลผลติ กจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพ้นื ทีภ่ าคตะวนั ออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer มีผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ จำนวน 15 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 ซึง่ บรรลุเป้าหมายดา้ นตวั ช้ีวัด ผลผลิต
22 ตารางท่ี 6 ค่าเฉล่ยี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมที่มคี วามพงึ พอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ในภาพรวม รายการ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดับ ความพึงพอใจ ดา้ นบรหิ ารจดั การ () () ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4.47 0.50 ดีมาก ด้านประโยชนท์ ่ีได้รับ 4.54 0.50 ดมี าก รวมทุกด้าน 4.57 0.50 ดมี าก 4.53 0.50 ดมี าก จากตารางที่ 6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทีม่ ีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตำบลหน้าพระธาตุ ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดีมาก (=4.53) เมือ่ พจิ ารณาเป็นรายดา้ น พบวา่ ดา้ นประโยชน์ท่ี ไดร้ บั อยู่ในระดับมากท่สี ุด มีค่าเฉล่ีย (= 4.57) รองลงมาคอื ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ มีอยูใ่ นระดับดมี าก มี คา่ เฉล่ยี (= 4.54) และดา้ นบรหิ ารจัดการ อยู่ในระดบั ดีมาก มีค่าเฉล่ยี (= 4.47) ตามลำดบั โดยมีสว่ นเบ่ียงเบน มาตรฐาน () อย่รู ะหว่าง 0.50 - 0.50 แสดงว่า ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมมคี วามพงึ พอใจสอดคล้องกัน ตารางท่ี 7 ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ด้านบริหารจัดการ รายการ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบี่ยงเบน ระดับ ความพึงพอใจ 1. อาคารสถานท่ี () มาตรฐาน () 2. สงิ่ อำนวยความสะดวก 4.60 0.49 ดมี าก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 4.40 0.49 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.27 0.44 ดี 5. วิทยากรผ้ใู หก้ ารอบรม 4.47 0.50 4.60 0.49 ดมี าก รวม 4.47 0.48 ดี ดมี าก จากตารางที่ 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ด้านบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉล่ีย (= 4.47) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อาคาร สถานที่ มีค่าเฉลี่ย (= 4.60) วิทยากรผู้ให้การอบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.60) เอกสารการอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.47) สิ่ง อำนวยความสะดวก มีค่าเฉล่ีย (= 4.40) กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉล่ีย (= 4.27) ตามลำดับ โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.44 - 0.50 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไปใน ทิศทางเดยี วกนั
23 ตารางท่ี 8 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่มคี วามพึงพอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รายการ คา่ เฉลยี่ สว่ นเบ่ียงเบน ระดับ () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตำบลหนา้ พระธาตุ 4.73 0.44 ดี 7. การใหค้ วามรู้เร่ืองปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8. การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร 4.47 0.50 ดมี าก 4.67 0.47 ดมี าก 9. การแลกเปลี่ยนเรียนรขู้ องผู้เขา้ รับการอบรม 10. การสรุปองค์ความรรู้ ว่ มกัน 4.47 0.50 ดี 11. การวดั ผล ประเมินผล การฝกึ อบรม 4.53 0.50 ดมี าก 4.40 0.49 รวม 4.55 0.48 ดี ดีมาก จากตารางท่ี 8 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.55) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer มีค่าเฉล่ีย (= 4.73) รองลงมาคือ การตอบ ขอ้ ซกั ถามของวิทยากร มีค่าเฉลี่ย (= 4.67 ) การสรุปองค์ความรู้รว่ มกนั มีค่าเฉลี่ย (= 4.53 ) การให้ความรู้เรื่องปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าเฉลี่ย (=4.47) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้เข้ารับการอบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.47) และการ วัดผล ประเมินผล การฝกึ อบรม ( = 4.40) ตามลำดบั โดยมีส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน () อยู่ระหวา่ ง 0.44 - 0.50 แสดง ว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามคดิ เห็นสอดคลอ้ งกนั ตารางท่ี 9 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมทม่ี ีความพึงพอใจตอ่ โครงการขยายผล เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ด้านประโยชนท์ ่ีได้รับ รายการ ค่าเฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พึงพอใจ 12. ได้เรียนรแู้ ละฝึกตนเอง เกี่ยวกบั การพฒั นา 4.67 ดมี าก ศักยภาพด้านเกษตรของตน ใหม้ กี ารบริหารจดั การเปน็ 0.47 เกษตรเชิงท่องเทีย่ วใหเ้ พม่ิ ขึ้นและเปน็ เกษตรกร 4.47 ดมี าก ต้นแบบ (Master Trainer) 4.57 0.50 ดมี าก 13. นำความร้ทู ีไ่ ด้รบั มาปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั 0.49 รวม
24 จากตารางที่ 9 พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ด้านประโยชน์ท่ีได้รบั ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.57) เมอ่ื พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ได้เรียนรู้และฝึก ตนเอง เกี่ยวกับกฎหมายในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.67) รองลงมา นำความรู้ท่ีได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉล่ีย (= 4.47) โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.47 - 0.50 แสดงว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความ คิดเหน็ ไปในทศิ ทางเดียวกนั สรปุ ในภาพรวมของกิจกรรมคิดเปน็ รอ้ ยละ 90.51 มคี ่าน้ำหนกั คะแนน 4.50 ถือวา่ ผู้รับบรกิ าร มีความพึงพอใจทางด้านตา่ งๆ อยใู่ นระดับดีมาก โดยเรียงลำดบั ดังน้ี อันดับแรก ดา้ นดา้ นประโยชนท์ ี่ไดร้ ับ คดิ เป็นรอ้ ยละ 91.33 มคี า่ นำ้ หนักคะแนน 4.57 อยู่ในระดบั คุณภาพ ดมี าก อันดบั สอง ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 90.89 มคี ่าน้ำหนักคะแนน 4.54 อยใู่ นระดบั คุณภาพดี อนั ดับสาม ด้านบริหารจัดการ คดิ เปน็ ร้อยละ 89.33 มคี า่ น้ำหนกั คะแนน 4.50 อยูใ่ นระดบั คณุ ภาพดี
บทที่ 5 25 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ ผลการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ไดผ้ ลสรุปดังน้ี วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื พัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีองคค์ วามรู้ด้านการบรหิ ารจัดการงานเกษตรและการเกษตรเชิงท่องเท่ยี ว เพ่ิมขนึ้ 2. เพ่ือให้เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ไดไ้ ปขยายผลการอบรมประชาชนใหเ้ ป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer เปา้ หมาย (Outputs) เป้าหมายเชิงปริมาณ - เกษตรกรตำบลหนา้ พระธาตุ จำนวน 15 คน เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ - รอ้ ยละ 80 ของประชาชนท่ีไดร้ บั การอบรมมีความรู้เพมิ่ มากข้นึ และสามารถเปน็ เกษตรกรปราดเปรอ่ื ง Smart Farmer ได้ เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูลในครงั้ นี้ คือ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ไดม้ อบหมายให้ ครู กศน.ตำบลหน้าพระธาตุทรี่ บั ผิดชอบกิจกรรมแจกแบบสอบถามความ พึงพอใจให้กับผูร้ ว่ มกจิ กรรม โดยใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการขยายผลเกษตรกร ต้นแบบ Master Trainer ตำบลหนา้ พระธาตุ สรุปผลการดำเนนิ งาน กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุได้ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมตาม โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตำบล หน้าพระธาตุโดยดำเนินการเสร็จสิ้นลงแล้วและสรุปรายงานผลการดำเนนิ งานได้ดงั นี้ 1. ผู้รว่ มกจิ กรรมจำนวน 15 คน สามารถพฒั นาศักยภาพด้านเกษตรของตน ให้มกี ารบริหารจัดการเปน็ เกษตรเชงิ ท่องเท่ยี วใหเ้ พ่มิ ขน้ึ และเป็นเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ขยายผลให้เปน็ เกษตรกรปราดเปรือ่ ง Smart Farmer แก่ ชุมชนได้ 2. ผ้รู ่วมกิจกรรมร้อยละ 91.33 นำความรทู้ ่ีไดร้ บั มาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 3. จากการดำเนนิ กิจกรรมตามโครงการดังกลา่ ว สรุปโดยภาพรวมพบว่า ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมสว่ นใหญ่มีความพงึ พอใจ ตอ่ โครงการ อยู่ในระดบั “ดีมาก ” และบรรลุความสำเรจ็ ตามเป้าหมายตวั ชวี้ ัดผลลัพธท์ ตี่ ง้ั ไว้ โดยมีคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละภาพรวม ของกิจกรรม 90.51 และค่าการบรรลุเป้าหมายคา่ เฉล่ีย 4.50 ขอ้ เสนอแนะ - อยากให้มีการจัดกจิ กรรมอีก จะไดน้ ำความรู้ไปใช้ในการดำเนนิ ชวี ิตต่อไป
บรรณานุกรม ทม่ี า กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น (2546) บญุ ชม ศรสี ะอาด และ บญุ ส่ง นลิ แกว้ (2535 หน้า 22-25) กระทรวงศกึ ษาธิการ . (2543). https://cooking.kapook.com/view70045.html https://www.thairath.co.th/content/344944 https://www.posttoday.com/politic/report/465067
แบบสอบถามความพงึ พอใจ โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ อำเภอพนัสนคิ ม จงั หวัดชลบุรี คำชแ้ี จง 1. แบบสอบถามฉบบั นี้มีวตั ถุประสงค์ เพือ่ ใชใ้ นการสอบถามความพงึ พอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer 2. แบบสอบถามมี 3 ตอนดังน้ี ตอนที่ 1 ถามข้อมูลเกีย่ วกับผตู้ อบแบบสอบถามจำนวน 4 ข้อ ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งใหต้ รงกบั สภาพจริง ตอนที่ 2 ความพึงพอใจตอ่ โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตำบลหนา้ พระธาตุ จำนวน 13 ข้อ ซึ่งมรี ะดบั ความพงึ พอใจ 5 ระดับ ดังนี้ 5 มากท่ีสุด หมายถึง มคี วามพงึ พอใจมากท่ีสดุ 4 มาก หมายถึง มีความพึงพอใจมาก 3 ปานกลางหมายถงึ มีความพงึ พอใจปานกลาง 2 นอ้ ย หมายถงึ มีความพงึ พอใจน้อย 1 น้อยท่ีสุด หมายถงึ มีความพงึ พอใจนอ้ ยที่สดุ ตอนที่ 3 ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตำบลหน้าพระธาตุ ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม หญงิ 40 ปี – 49 ปี เพศ 30 ปี – 39 ปี ชาย 60 ปีข้ึนไป อายุ 15 ปี – 29 ปี 50 ปี – 59 ปี การศกึ ษา ตำ่ กว่า ป.4 ป.4 ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย ประกอบอาชพี อนุปรญิ ญา ปรญิ ญาตรี สงู กวา่ ปริญญาตรี รบั จ้าง คา้ ขาย เกษตรกร ลกู จ้าง/ขา้ ราชการหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน อ่ืน ๆ ………………………………….
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจเก่ียวกบั โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ขอ้ ท่ี รายการ ระดับความคิดเห็น 1 5 432 ดา้ นบริหารจัดการ 1. อาคารและสถานท่ี 2. สิ่งอำนวยความสะดวก 3. กำหนดการและระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการ 4. เอกสารการอบรม 5. วทิ ยากรผู้ให้การอบรม ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 6. การจดั กิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer 7. การให้ความรู้เรื่องการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer 8. การตอบข้อซักถามของวิทยากร 9. การแลกเปล่ยี นเรยี นรูข้ องผเู้ ข้ารับการอบรม 10. การสรุปองค์ความรรู้ ว่ มกนั 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝกึ อบรม ดา้ นประโยชน์ทไี่ ด้รบั 12 ได้เรียนรแู้ ละฝึกตนเอง จดั การงานเกษตรและการเกษตรเชิง ทอ่ งเท่ียว 13 นำความร้ทู ีไ่ ด้รับมาปรบั ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ตอนท่ี 3 ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะ ขอ้ คดิ เห็น .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคณุ ทใี่ ห้ความร่วมมอื กศน. อำเภอพนสั นิคม จงั หวดั ชลบรุ ี
คณะผจู้ ดั ทำ ท่ปี รึกษา หม่ืนสา ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอพนัสนิคม การงานดี ครู 1. นางณัชธกัญ ศรีเทพ บรรณารกั ษ์ปฏิบัติการ 2. นางสาวมทุ กิ า อดุ านนท์ ครู อาสาสมัคร กศน. 3. นางปลมื้ จติ ร 4. นายวัชรินทร์ ประทมุ ทอง ครู กศน.ตำบลหนา้ พระธาตุ คณะทำงาน ประทมุ ทอง ครู กศน.ตำบลหน้าพระธาตุ นางสาวพจนยี ์ บรรณาธกิ าร นางสาวพจนยี ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: