Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม public

พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม public

Published by creamwithcake, 2021-07-14 11:44:55

Description: พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม public
วิทยากร นางสาวขวัญฤทัย ฤทธิ์เรืองเดช
เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนวญการ

Search

Read the Text Version

3) โครงสร้างรายวชิ า : ระดบั อนุบาล ตัวอยา่ งโครงสร้างรายวชิ า หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ชั่วโมง 1 การคดิ แยกแยะ 1. ความหมายของของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม 14 ระหว่างผลประโยชน์ ๒. การจาแนกของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวม 12 ๓. การปฏิบตั ิตนในการใชข้ องใชส้ ว่ นตนและของใช้สว่ นรวม สว่ นตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวม (ของเล่น การรบั ประทานอาหาร การเข้าแถว การเกบ็ ของใช้สว่ นตน) ๔. ความหมายของระบบคดิ ฐานสอง และระบบคดิ ฐานสิบ ๕. การแยกแยะระบบคดิ ฐานสอง และระบบคิดฐานสบิ 2 ความละอายและ 1. ความหมายของความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต ความไมท่ น ๒. การเก็บของเล่นใหเ้ ป็นระเบียบ ตอ่ การทจุ รติ ๓. ความละอายและไมแ่ ย่งหรือขโมยอาหารเพือ่ น ๔. ความละอายและไม่แซงควิ ผู้อ่นื ๕. การใช้ของใช้สว่ นตนอย่างถกู วิธี ๖. ความละอายและไมแ่ ย่งหรอื ขโมยของใชผ้ ู้อ่ืน ๗. ความรบั ผิดชอบต่อการทางานท่ีได้รับมอบหมาย ๘. การไมล่ อกหรือไมน่ าผลงานของคนอื่นมาเป็นของตนเอง 9. ความหมายของการแบง่ ปัน ๑๐. พฤตกิ รรมการแบง่ ปันและปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ท่มี ีความละอายและไม่ทนต่อการทจุ ริต ๑๑. การแตง่ กายดว้ ยตนเองและการไมน่ าเอาเครือ่ งแต่งกายของผู้อน่ื มาเปน็ ของตนเอง ๑๒. ความหมายของกจิ วัตรประจาวัน 51

โครงสร้างรายวชิ า : ระดบั อนบุ าล (ตอ่ ) ตัวอย่างโครงสร้างรายวชิ า หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง ช่วั โมง 3 STRONG : จติ 1. Sufficient : ความหมายของความพอเพียง 9 พอเพียงต้านทจุ รติ 2. Transparent : ความหมายของความโปร่งใส 5 3. Realise/Knowledge : ความหมายของความต่นื รูแ้ ละความรู้ 4. Onward : ความหมายของมุ่งไปขา้ งหน้า 5. Generosity : ความหมายของความเอ้ืออาทร 6. ความหมายของการต้านทุจรติ 7. การรับประทานอาหารท่ีสอดคล้องกบั STRONG 8. การชว่ ยเหลอื เพ่ือนท่ีสอดคลอ้ งกับ STRONG 9. การใช้กระดาษทีส่ อดคลอ้ งกับ STRONG 4 พลเมอื งกับความ 1. ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง (การแปรงฟนั , การแตง่ กาย,รบั ประทานอาหาร) รบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 2. ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม (การเก็บขยะ, ทาความสะอาดในห้องเรยี น) รวม 40 หมายเหตุ 1. การจดั ประสบการณแ์ ตล่ ะกิจกรรมจะใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที 2. จานวนเวลาทกี่ าหนดไวใ้ นแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้ สถานศกึ ษาสามารถปรบั ไดต้ ามความเหมาะสม แตต่ อ้ งมเี วลาเรยี นทงั้ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ รวม 40 ชัว่ โมง 52

โครงสร้างรายวิชา : ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ตวั อย่างโครงสรา้ งรายวชิ า หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ช่ัวโมง 1 การคดิ แยกแยะ 1. การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 14 ระหวา่ งผลประโยชน์ 1.1 การวเิ คราะห์ วิจารณ์ ระหว่างผลประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมใน ประเทศ ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 1.2 การแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนออกจากผลประโยชน์สว่ นรวม โดยใชร้ ะบบคดิ ฐาน สอง 1.3 พฤติกรรมระบบคิดฐานสิบที่เกิดขน้ึ ในระดบั ประเทศ 1.4 ผลของพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐานสิบ ทส่ี ่งผลในระดับประเทศ 1.5 การเปรยี บเทียบผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวมในประเทศ 1.6 ขอ้ ดขี ้อเสียของผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมในระดบั ประเทศ 2. ความแตกตา่ งระหวา่ งจริยธรรมและการทุจริต 2.1 การทุจรติ ทเี่ กิดขนึ้ ภายในโรงเรยี น 2.2 จรยิ ธรรมท่ใี ชใ้ นการป้องกันการทุจรติ ภายในโรงเรยี น 3. การขัดกันระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 3.1 ความหมายของคาว่า “การขัดกัน” 3.2 ผลกระทบการขดั กนั ระหว่างผลประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวมใน ประเทศชาติ 3.3 วิธีการแก้ไขความขัดกันระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 4. ผลประโยชน์ทับซอ้ นและรูปแบบของผลประโยชน์ทบั ซอ้ น 4.1 สาเหตุการเกิดของผลประโยชน์ทบั ซ้อนภายในชมุ ชน 53 4.2 รปู แบบผลประโยชนท์ ับซอ้ นภายในชุมชน 4.3 แนวทางการป้องกนั ผลประโยชน์ทบั ซ้อนในชุมชน

โครงสรา้ งรายวชิ า : ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 (ตอ่ ) ตัวอยา่ งโครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ ง ช่ัวโมง 2 ความละอายและ 1. ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ ในระดบั ประเทศ 6 10 ความไม่ทนต่อการ 1.1 กิจกรรมท่ีปฏิบัตแิ ละสง่ ผลให้เกิดความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริตใน 10 ทุจริต ระดบั ประเทศ 3 STRONG / จติ 1.2 แนวทางการปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มคี วามละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ ในระดบั ประเทศ พอเพยี งต่อต้านการ ทจุ ริต 1. การอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ มท่สี อดคล้องกบั STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต 2. การอนุรักษ์แหลง่ นา้ ท่ีสอดคล้องกบั STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต 4 พลเมอื งกบั ความ 3. การเสยี ภาษีทส่ี อดคลอ้ งกบั STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจรติ 4. การเลอื กตั้งท่ีสอดคล้องกบั STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. พืน้ ทีส่ าธารณะท่ีสอดคล้องกบั STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต 1. ความหมายของคาว่าพลเมอื ง 2. ทม่ี าของคาศัพทท์ ่ีเกีย่ วกบั พลเมอื ง 3. การเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งราษฎรกับพลเมือง 4. การเสียภาษแี ละการปฏิบัติตนตามกฎหมาย 5. สิทธิและหน้าทก่ี ารเลือกตงั้ 6. การสรา้ งสานึกพลเมืองตอ่ ชุมชน รวม 40 หมายเหตุ : จานวนชวั่ โมงที่กาหนดไวใ้ นแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ สถานศึกษาสามารถปรบั ไดต้ ามความเหมาะสม แตต่ ้องมี 54 เวลาเรยี นทัง้ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ รวม 40 ชว่ั โมง

โครงสรา้ งรายวิชา : มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ตวั อยา่ งโครงสร้างรายวชิ า หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ชัว่ โมง 1 การคิดแยกแยะ 1. ความแตกตา่ งระหว่างจริยธรรมและการทจุ ริต (โลก) 12 ระหวา่ ง 1.1 หลกั การแยกแยะระหว่างจริยธรรมและการทจุ รติ ผลประโยชนส์ ่วน 1.2 เกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งจริยธรรมและการทจุ ริต ตนและผลประโยชน์ 2. ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม (โลก) สว่ นรวม 2.1 ความแตกตา่ งระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ท่ีส่งผลต่อ ประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก 3. การขัดกันระหว่างประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม (โลก) 3.1 การขัดกนั ท่เี กิดขน้ึ ระหวา่ งบุคคล สงั คม ประเทศชาติ และสังคมโลก 4. กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับการทจุ รติ 4.1 ระเบียบการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต 4.2 พ.ร.บ.ประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต 5. ผลประโยชนท์ บั ซ้อน (โลก) ๕.๑ กฎหมายท่เี กยี่ วขอ้ งกับผลประโยชนท์ ับซ้อน 5.2 รปู แบบของผลประโยชน์ทับซอ้ น (โลก) 55

โครงสรา้ งรายวชิ า : มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 (ต่อ) ตัวอยา่ งโครงสร้างรายวชิ า หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง ช่วั โมง 2 ความละอายและ 1. ตัวอย่างกรณศี กึ ษาเกี่ยวกับประเทศทม่ี ปี ัญหาการทุจรติ เกิดข้นึ ในประเทศไทยและส่งผล 8 ความไมท่ นตอ่ การ กระทบต่อต่างประเทศและโลก ทจุ ริต 2. แนวทางการแก้ปญั หาและวธิ ีการปฏบิ ตั ิ 3 STRONG / จติ 1. การจัดกจิ กรรมอาสาโดยผ่านกระบวนการ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ 8 พอเพียงตอ่ ต้านการ 2. STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ กับการพฒั นาประเทศสสู่ งั คมโลก 12 ทจุ รติ 4 พลเมืองกบั ความ 1. ความเป็นพลเมืองไทย กบั ความเปน็ พลเมอื งโลก รับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 2. พลเมอื งท่มี คี วามรบั ผดิ ชอบต่อการปอ้ งกนั การทจุ ริต 3. พลโลกท่มี ีความรับผิดชอบตอ่ การป้องกนั การทจุ ริต 4. ความเปน็ พลเมืองไทยท่สี มบรู ณ์ รวม 40 หมายเหตุ : จานวนชวั่ โมงทก่ี าหนดไว้ในแต่ละหนว่ ยการเรยี นรู้ สถานศกึ ษาสามารถปรบั ได้ตามความเหมาะสม 56 แต่ตอ้ งมเี วลาเรยี นท้งั 4 หน่วยการเรยี นรู้ รวม 40 ชว่ั โมง

หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา องค์ประกอบของ หลกั สูตร 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ 2) การเรยี นรแู้ ละความรว่ มมือ 3) เนน้ ทักษะกระบวนการคิด 4) การเรียนรู้ 5 ข้นั ตอน 5) การเรยี นรู้แบบ Active Learning 6) แกป้ ัญหา 7) โครงงาน 8) อภปิ ราย 57

หลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา องคป์ ระกอบของ หลกั สตู ร 7. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้ 1) สอื่ ท่สี านักงาน ป.ป.ช. จัดหาให้ เชน่ วดี โี อ VTR การต์ นู ภาพยนตรส์ ้ัน 2) ส่ิงทีร่ ะบุตามแผนการจดั การเรยี นรู้ 58

หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา องคป์ ระกอบของ หลักสูตร 8. การประเมนิ การเรยี นรู้และการประเมนิ ผล 1) ความรู้ - ทดสอบ/สอบถาม.....แบบทดสอบ/แบบสอบถาม 2) ทกั ษะ - ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ าน.....แบบใหค้ ะแนนผลการปฏบิ ัติงาน 3) เจตคติ – สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น.....แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นทกุ กิจกรรม ร้อยละ 80 ขึ้นไป (หรอื ระดับดีข้นึ ไป) 59

การขับเคลือ่ นหลักสูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา หลกั สูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน หลกั สูตรกล่มุ ทหารและตารวจ หลกั สูตรอดุ มศึกษา หลกั สูตรหลกั สูตรวทิ ยากร ป.ป.ช./ ป.ป.ช. ร่วมกบั ศธ. บุคลากรภาครัฐและรัฐวสิ าหกจิ ( ศธ. : คณะกรรมการขบั เคล่ือน หลกั สูตรโค้ช หลกั สูตร ป.ป.ช. ต้านทุจริตศึกษา (นายประมนต์ สุธี วงศ์) โดย สานกั ต้านทจุ ริตศึกษา : คณะทางานขับเคล่ือนหลกั สูตร ต้านทุจริตศึกษา (ด้านการสร้าง platform และออกแบบกจิ กรรม, ด้านการนาไปสู่ สถานศึกษาและสร้างการรับรู้, ด้านการวดั 60 และประเมนิ ผล)

การขบั เคล่ือนหลกั สูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา หลกั สูตรการศึกษาข้นั พื้นฐาน เป้าหมาย ๑. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน (สพฐ.) จานวน ๓๐,๑๑๒ แหง่ ๒. โรงเรยี นสาธติ จานวน ๖๗ แหง่ ๓. สานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จานวน ๓,๕๙๗ แหง่ 4. สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย (กศน.) จานวน ๙๒๘ แหง่ 5. โรงเรยี นมหดิ ลวิทยานสุ รณ์ 6. กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น (สถ.) **จะเร่มิ ใช้...ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา - โรงเรยี น จานวน ๑,๗๐๑ แห่ง 2562 - ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก ๑๘,๙๓๓ แห่ง รวมจานวน ๒๐,๖๓๔ แห่ง (วันท่ี 16 พฤษภาคม 2562)** 7. สานกั การศึกษา กรงุ เทพมหานคร จานวน ๔๓๗ แห่ง 61

การขบั เคลอื่ นหลกั สูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา หลกั สูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน เปา้ หมาย 8. กองบญั ชาการตารวจตระเวนชายแดน สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 9. สานกั การศกึ ษา เมอื งพัทยา 10. กรมกิจการเดก็ และเยาวชน 11. สถาบนั การบนิ พลเรือน 12. สานักพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ 13. กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม 14. กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม ๑5. กองทัพบก กระทรวงกลาโหม 62

การขบั เคล่ือนหลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา เปา้ หมาย หลกั สูตรอดุ มศึกษา ๑. สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา (สกอ.) - มหาวทิ ยาลัย จานวน ๑๕๖ แหง่ ๒. มหาวทิ ยาลัยนวมินทราธริ าช ๓. โรงเรียนนายร้อยตารวจ สานกั งานตารวจแห่งชาติ ๔. สถาบนั พระบรมราชชนก ๕. ศูนยฝ์ กึ พาณิชย์นาวี ๖. สถาบนั บัณฑิตพฒั นศลิ ป์ ๗. สถาบันการพลศึกษา ๘. สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา (สอศ.) - รัฐ จานวน ๔๒๘ แหง่ - เอกชน จานวน ๔๘๖ แห่ง รวมจานวน ๙๑๔ แห่ง 63

การขับเคลื่อนหลกั สตู รต้านทุจริตศกึ ษา หลกั สูตรกล่มุ ทหารและตารวจ เปา้ หมาย ๑. กองทัพบก 2. กองทพั อากาศ 3. กองทพั เรอื 4. กองบัญชาการกองทัพไทย 5. ตารวจ 6. สถาบนั วิชาการป้องกันประเทศ กองบญั ชาการกองทัพไทย 64

การขับเคล่ือนหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา หลกั สตู รวิทยากร ป.ป.ช./บุคลากรภาครฐั และรฐั วิสาหกิจ เปา้ หมาย 1. สานักนายกรัฐมนตรี - กรมประชาสัมพันธ์ - สานกั งาน ก.พ. - สานักงาน ก.พ.ร. 2. กระทรวง 19 กระทรวง 65

การขับเคล่ือนหลักสูตรต้านทุจรติ ศึกษา เป้าหมาย หลกั สูตรโคช้ รคู้ ดิ ต้านทจุ ริต โค้ชภาคประชาสังคมในพ้นื ทร่ี ะดบั จังหวัด จานวน ๗๖ จังหวดั และ ๑ เขตปกครองท้องถนิ่ รูปแบบพิเศษ (กรงุ เทพมหานคร) 66