บทที่ 4 การพัฒนาประชาธิปไตย

บทที่ 4 การพฒั นาประชาธิปไตย อยา่ งยงั่ ยนื

2หน่วยการเรยี นรู้ที่ วิเคราะหร์ ะบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย การพัฒนาประชาธิปไตยอยา่ งย่ังยืน การพัฒนาประชาธิปไตยให้ย่ังยืน คือ การพัฒนาไปที่ความเป็น ประชาธิปไตยมากกว่ารูปแบบหรือโครงสร้างท่ีอาจจะเป็นส่วนหน่ึงของระบอบ ประชาธปิ ไตย ประเดน็ ปัญหาและผลกระทบทีเ่ ป็นอุปสรรคตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตยของไทย ระบบอปุ ถัมภ์ สังคมไทยเป็นระบบที่ผู้มีอานาจจะดูแลผู้น้อย และ ผู้นอ้ ยจะตอบแทนผู้มีอานาจ ซ่ึงถือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย เนอ่ื งจากเกดิ การปกป้อง เห็นแกพ่ วกพอ้ ง

2หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ วเิ คราะห์ระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย การท่ปี ระชาชนขาดความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย คือ การปกครองโดยประชาชน ของประชาชน และ เพ่อื ประชาชน แต่ปัจจุบันคนไทยบางส่วนยังคิดว่า การปกครองเป็นบทบาท หน้าที่ของชนชั้นปกครองไม่ใช่หน้าที่ของตน จึงไม่ค่อยรักษาสิทธิที่ตนมีอยู่ มากนกั เชน่ การไมไ่ ปใชส้ ิทธใิ นการเลอื กต้ัง การซ้ือสทิ ธิขายเสียง การยอมรบั ในระบบอาวโุ สมากกว่าความรูค้ วามสามารถ ผ้ทู ี่มคี วามรูค้ วามสามารถมีความอาวโุ สน้อยก็จะไม่ไดร้ บั การยอมรบั

2หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี วิเคราะหร์ ะบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย การไม่กลา้ แสดงความคดิ เห็นของประชาชน เน่ืองจากในสังคมไทยมีความเชื่อว่าการถกเถียงเพ่ือแลกเปล่ียน ความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ จะนาไปสู่ปัญหาความขัดแย้งกันขึ้น จึงปล่อยให้ เป็นหน้าท่ีของรัฐเปน็ ผ้ดู าเนนิ การ ปัญหาเกีย่ วกบั วธิ ีคิดหรือความเช่ือต่อประชาธิปไตยที่ไมถ่ ูกต้อง มีความเชื่อว่า ประชาธิปไตยเป็นเพียงการเลือกตั้งเท่านั้น เป็นเร่ือง ของนักการเมือง ตลอดจนประชาธิปไตยเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในด้าน ตา่ ง ๆ ของตนอยา่ งไรข้ ีดจากดั

2หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ วิเคราะห์ระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ปัญหาทางดา้ นเศรษฐกิจ ประชาชนส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่มีฐานะยากจน ความสนใจท่ีจะเข้ามา มสี ว่ นร่วมในการปกครองกจ็ ะมีน้อย เกิดปญั หาการซ้ือสิทธิขายเสยี ง ปญั หาจากการเมืองที่ไมเ่ ขม้ แข็ง เกดิ ความแตกแยกทางความคดิ อย่างรุนแรงของประชาชนในสังคม

2หน่วยการเรียนรู้ท่ี วเิ คราะห์ระบอบประชาธปิ ไตยของประเทศไทย ปญั หาการนาเสนอขา่ วสารที่ไม่เปน็ กลางของส่อื มวลชน เกิดจากการนาเสนอข่าวสารที่เอนเอียง เข้าข้างฝ่ายหน่ึงฝ่ายใด การนาเสนอประเด็นข่าวสารต่าง ๆ ท่ีไม่ครบถ้วน ทาให้ผู้รับข่าวสารได้รับ ข้อมูลเพียงด้านเดียว ซึ่งทาให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากความ เปน็ จริง นาไปสกู่ ารเกดิ ปัญหาความขัดแย้งในสงั คม

2หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ วิเคราะหร์ ะบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย แนวทางการแก้ไขปญั หาสกู่ ารพัฒนาประชาธิปไตยอย่างย่ังยืน ภาครัฐ รฐั บาล นกั การเมืองและผมู้ ีอานาจทางการเมอื ง •มีการบริหารงานอย่างมีธรรมาภบิ าล •สรา้ งกลไกในการกระจายอานาจไปยังท้องถิน่ ให้มากข้ึน •คิดถงึ ผลประโยชนข์ องประเทศชาติมาเป็นอนั ดบั แรก •มคี วามจรงิ ใจตอ่ ประชาชน •รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน

2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ วเิ คราะหร์ ะบอบประชาธปิ ไตยของประเทศไทย ภาคประชาชน • ตระหนกั วา่ ประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นเพียงระบอบการปกครองประเทศ แต่เปน็ ส่วน หนงึ่ ของวิถีชวี ติ • ฝกึ ให้มีวถิ ีชวี ติ แบบประชาธปิ ไตยจนเปน็ นสิ ัย • การไปใช้สทิ ธเิ ลอื กต้ัง • พยายามเข้าไปมีส่วนรว่ มทางการเมืองในรปู แบบตา่ ง ๆ • ตระหนักวา่ ประชาธปิ ไตย คอื เรือ่ งของประชาชนทุกคน ไมใ่ ช่เปน็ เร่ืองของ นักการเมอื งหรือผมู้ ีอานาจเทา่ น้นั • ไมป่ ฏบิ ัตติ นเป็นผ้ทู ีท่ าใหป้ ระชาธิปไตยของไทยถดถอยลง

2หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ วเิ คราะห์ระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ภาคสือ่ มวลชน •สื่อมวลชนควรเป็นตวั แทนของภาคประชาชนในการนาเสนอความคดิ เหน็ ของ ประชาชนที่มีประโยชนต์ ่อสาธารณะ •สื่อมวลชนควรเปดิ โอกาสให้ภาคประชาชนได้มีสว่ นร่วม •สื่อมวลชนควรนาเสนอขา่ วสารในทุกแง่มมุ มากกว่าการนาเสนอขอ้ มลู ดา้ นเดียว •สอ่ื มวลชนควรวางตวั เป็นกลางทางการเมือง •สื่อมวลชนนอกจากการนาเสนอขอ้ มลู ข้อเทจ็ จริง และความคดิ เห็นที่หลากหลายแล้ว ควรใหค้ วามเข้าใจในข้อเท็จจรงิ น้นั แก่ผูร้ บั สาร

2หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี วิเคราะหร์ ะบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ภาคประชาชนกบั สื่ออิเล็กทรอนิกส์ •พึงตระหนักและควรสง่ เสริมใหเ้ ปน็ จิตสานกึ ทกุ คร้งั กอ่ นพิมพข์ อ้ ความลงไปในสื่อ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ คอื ไม่นาเรือ่ งสว่ นตัวของตนเองหรอื บุคคลอื่นมาเผยแพร่สู่สาธารณะโดยไมไ่ ด้รับอนุญาต ไม่ใช้ถ้อยคาทีแ่ สดงอารมณ์รนุ แรง ไม่นาเสนอขอ้ ความท่ีอาจกระทบตอ่ ความรว่ มมอื หรือต่อความมน่ั คงของประเทศ •ตอ้ งมีความระมดั ระวงั ในการใช้ท้ังการสง่ สารและการรบั สาร •นาสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ สม์ าใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์ในเชงิ สรา้ งสรรค์

ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การพฒั นาประชาธิปไตยอยา่ งย่งั ยนื คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย ในขอ้ ท่ถี กู ทาเครอ่ื งหมาย x ในขอ้ ท่ผี ิด ................................ 1. ระบบอปุ ถมั ภ์ คอื ระบบท่ชี ว่ ยใหก้ ารปกครองในระบอบประชาธิปไตยดีขนึ้ เน่ืองจาก เป็นการชว่ ยเหลือลกู นอ้ งของตวั เองใหม้ ีหนา้ ท่ีการงานท่ดี ขี นึ้ ................................ 2.การยอมรบั ความคิดเหน็ ตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นคนท่อี ายนุ อ้ ยหรอื อายมุ ากโดยดจู าก ความสามารถของบคุ คลเป็นหลกั ทาใหป้ ระเทศชาตสิ ามารถเดนิ หนา้ ไปไดเ้ รว็ ................................ 3. การไมย่ อมรบั เสียงสว่ นใหญ่และไมเ่ คารพเสยี งสว่ นทาอาจทาใหเ้ กิดปัญหาท่ีรุนแรงซง่ึ ขดั ตอ่ วิถีประชาธิปไตย ................................ 4. รฐั บาล นกั การเมือง ตอ้ งมีการบรหิ ารงานโดยยดึ หลกั ธรรมมาภิบาล คือโปรง่ ใส ยตุ ิธรรม มีความรบั ผิดชอบ และตรวจสอบได้ ................................ 5 ส่ือมวลชน ตอ้ งเป็นตวั แทนของประชาชนและตอ้ งเป็นกลางทางการเมืองคอื นาเสนอ ขา่ วในหลายๆ ดา้ น