สวนพฤกษศาสตรใ์ นโรงเรียน ประกอบวิชา ว32101 เทคโนโลยี2 ครผู สู้ อน ครรู ชั ชนก วงศเ์ ขยี ว
คำนำ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์เล่มน้ีจดั ทำข้ึนเพื่อใชป้ ระกอบกำร เรียนวชิ ำ ว32101 เทคโนโลยี 2 ซ่ึงเน้ือหำประกอบดว้ ย ควำมรู้เก่ียวกบั ตน้ ไม้ และดอกไมใ้ นโรงเรียน ผจู้ ดั ทำหวงั วำ่ เน้ือหำในหนงั สือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ ใหก้ บั ผศู้ ึกษำเป็นอยำ่ งดี นำงสำว กฤตธีรำ แกว้ วงคว์ รรณ นำงสำว พรหมพร ศรีเพชร ผจู้ ดั ทำ
แคฝรั่งมีช่ือทำงวทิ ยำศำสตร์วำ่ Gliricidia Sepium อยใู่ นวงศ์ PAPILIONOIDEAE (LEGUMINOSAE) เป็นไมย้ นื ตน้ ผลดั ใบขนำด กลำง สูงรำว ๑๐เมตร (๕-๑๕เมตร) ลำตน้ ค่อนขำ้ ง ตรง ก่ิงกำ้ นสำขำนอ้ ย เปลือกหุม้ ลำตน้ สีเทำอ่อน (ข้ีเถำ้ ) เมื่อตน้ แก่เปลือกจะแตกเป็นสะเกด็
ลกั ษณะทว่ั ไป ใบ เป็นใบรวมแบบขนนก ออกเป็นคูย่ อ่ ย มีใบยอ่ ย รวม๑๑-๑๕ใบต่อกำ้ นใบรวม ขนำดใบยอ่ ยกวำ้ ง ๑-๒ เซนติเมตร ยำว ๓-๕ เซนติเมตร ปลำยใบแหลม โคน ใบทู่ หนำ้ ใบสีเขียวเขม้ หลงั ใบสีเขียวนวล มีขนส้นั ละเอียดนุ่มปกคลุม ใบอ่อนสีน้ำตำล ขอบใบเรียบไม่ มีจกั ใบจะร่วงหล่น (ผลดั ใบ) ช่วงฤดูหนำวเดือน ตุลำคม-ธนั วำคม
ดอก ออกเป็นช่อตำมโคนกำ้ นใบและตำดอกท่ีลำตน้ ช่อยำว ๕-๑๒ เซนติเมตร ดอกสีชมพ-ู ขำว รูปร่ำง คลำ้ ยผเี ส้ือ เช่นเดียวกบั ดอกถว่ั อื่นๆ ออกดอกช่วง ผลดั ใบแลว้ รำวเดือนธนั วำคม-พฤษภำคม
ผล แคฝร่ังเป็นฝักแบน เมื่อแก่เปลือกฝักเปลี่ยนจำกสี เขียวเป็นสีน้ำตำล/ดำ โคนและปลำยฝักแหลม เมื่อแก่ ฝักจะแตกท้งั ๒ ดำ้ น มีเมลด็ แบนรูปไขส่ ีดำ ๓-๘ เมลด็ /ฝัก ฝักแก่รำวเดือนสิงหำคม-ตุลำคม
รำชพฤกษ,์ คูน, ลมแลง้ (ช่ือวิทยำศำสตร์: Cassia fistula) เป็นไมด้ อกในตระกลู Fabaceae เป็นพชื พ้นื เมืองของเอเชียใต้ ต้งั แต่ทำงตอนใตข้ องปำกีสถำน ไปจนถึงอินเดีย ศรีลงั กำ พม่ำ และไทย นอกจำกน้ี ดอกรำชพฤกษย์ งั เป็นดอกไมป้ ระจำชำติไทยอีกดว้ ย
ราชพฤกษจ์ ะสวย แคไ่ หนกนั นะ ไปดกู นั เลยยย
ลกั ษณะทวั่ ไป ใบ ลกั ษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นมนั ช่อ หน่ึงยำวประมำณ 2.5 เซนติเมตร และมีใบยอ่ ยเป็นไข่ หรือรูปป้อม ๆ ประมำณ 3-6 คู่ ใบยอ่ ยมีควำมกวำ้ ง ประมำณ 5-7 เซนติเมตร และยำวประมำณ 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนและสอบไปทำงปลำยใบ เน้ือ ใบบำงเกล้ียง มีเสน้ แขนงใบถ่ี และโคง้ ไปตำมรูปใบ
ดอก ออกดอกเป็นช่อ ยำวประมำณ 20-45 เซนติเมตร มีกลีบรองดอกรูปขอบขนำนมีควำมยำวประมำณ 1 เซนติเมตร กลีบมี 5 กลีบ หลุดร่วงไดง้ ่ำย และกลีบ ดอกยำวกวำ่ กลีบรองดอกประมำณ 2-3 เท่ำ และมี กลีบรูปไขจ่ ำนวน 5 กลีบ บริเวณพ้ืนกลีบจะเห็นเสน้ กลีบชดั เจน ที่ดอกมีเกสรตวั ผู้ ขนำดแตกต่ำงกนั จำนวน 10 อนั มีกำ้ นอบั เรณูโคง้ งอข้ึน ดอกมกั จะ บำนในช่วงเดือนมีนำคมถึงเดือนพฤษภำคม
ผล มีลกั ษะเป็นฝักรูปทรงกระบอกเกล้ียง ๆ ฝักยำว ประมำณ 20-60 เซนติเมตร และวดั เสน้ ผำ่ ศูนยก์ ลำง ไดร้ ำว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝัก แก่จดั จะมีสีดำ ในฝักจะมีผนงั เยอ่ื บำง ๆ กนั อยเู่ ป็น ช่อง ๆ ตำมขวำงของฝัก และในช่องจะมีเมลด็ สี น้ำตำลแบน ๆ อยู่ มีขนำดประมำณ 0.8-0.9 เซนติเมตร
ปี บ หรือ กำสะลอง ในภำษำไทยถ่ินเหนือ (ชื่อ วทิ ยำศำสตร์: Millingtonia hortensis) เป็นไมย้ นื ตน้ สูงประมำณ 15 เมตร มีดอกรูปแตรสีขำวหอมอ่อน ๆ นิยมปลูกเป็นไมป้ ระดบั ปี บยงั มีชื่อพ้ืนเมืองอื่นอีกคือ เตก็ ตองโพ่ (กะเหรี่ยง กำญจนบุรี)
ลกั ษณะทวั่ ไป ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ช้นั มีควำมกวำ้ ง ประมำณ 13-20 เซนติเมตรและยำวประมำณ 16-26 เซนติเมตร กำ้ นใบยำว 3.5-6 เซนติเมตร ท่ีตวั ใบจะ ประกอบไปดว้ ยแกนกลำงยำวประมำณ 13-19 เซนติเมตร มีใบยอ่ ย 4-6 คู่ กวำ้ งประมำณ 2.5-3 เซนติเมตรและยำวประมำณ 4-5 เซนติเมตร ลกั ษณะ ใบมีรูปร่ำงคลำ้ ยรูปหอกแกมรูปไข่ ปลำยใบเรียว แหลม ฐำนใบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบหยกั เป็นซี่หยำบ ๆ เน้ือใบเกล้ียงบำงคลำ้ ยกบั กระดำษ
ดอก ลกั ษณะดอกเป็นช่อกระจุกแยกแขนง มีควำม ยำวประมำณ 10-25 เซนติเมตร ดอกยอ่ ยจะประกอบ ไปดว้ ยกลีบเล้ียงสีเขียว ดอกมีกลิ่นหอม มีควำมกวำ้ ง ประมำณ 0.5 เซนติเมตรและยำวประมำณ 6-10 เซนติเมตร เช่ือมกนั เป็นหลอดปำกแตร แยกออกเป็น 5 แฉก 3 แฉกรูปขอบขนำน 2 แฉกล่ำงค่อนขำ้ ง แหลม มีเกสรตวั ผจู้ ำนวน 4 กำ้ น สองคู่จะยำวไม่ เท่ำกนั และมีเกสรตวั เมียจำนวน 1 กำ้ น อยเู่ หนือวง กลีบ
ผล ลกั ษณะเป็นผลแหง้ แตก ผลแบนยำว ขอบขนำน มีเน้ือและเมลด็ จำนวนมำก เป็นแผน่ บำงมีปี ก
นำงสำว กฤตธีรำ แกว้ วงคว์ รรณ ช้ัน ม.5/2 เลขท่ี 11 Email [email protected] นำงสำว พรหมพร ศรีเพชร ช้ัน ม.5/2 เลขท่ี 36 Email [email protected]
THE END
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: