รายงานเรอ่ื ง โฆษณาชวนเชื่อ จดั ทาโดย นาย ณภทั ร ฤกษ์สังเกต เลขที่ 10 นาย นพเกา้ นวลสวาย เลขที่ 39 นาย รัฐพงษ์ บุญธรรม เลขที่ 41 นาย สตั ยา มิง่ สันเทียะ เลขท่ี 44 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8 เสนอ คณุ ครู สภุ ลกั ษณ์ แสงพลเรอื ง รายงานเล่มนีเ้ ป็นส่วนหนง่ึ ของ รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนท่2ี ปีการศึกษา2563 โรงเรียนราชสีมาวทิ ยา
รายงานเรอ่ื ง โฆษณาชวนเชื่อ จัดทาโดย นาย ณภทั ร ฤกษ์สังเกต เลขที่ 10 นาย นพเกา้ นวลสวาย เลขที่ 39 นาย รัฐพงษ์ บุญธรรม เลขที่ 41 นาย สตั ยา ม่ิงสันเทียะ เลขท่ี 44 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/8 เสนอ คณุ ครู สภุ ลักษณ์ แสงพลเรอื ง รายงานเล่มนีเ้ ป็นส่วนหนง่ึ ของ รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนท2่ี ปีการศึกษา2563 โรงเรียนราชสีมาวทิ ยา
คำนำ รายงานเลม่ นีจ้ ดั ทาเพอื่ เปน็ สว่ นหน่ึงของรายวิชาภาษาไทยชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี5/8 เพือ่ ให้ ไดศ้ ึกษาหาความรู้เรอ่ื ง โฆษณาชวนเช่อื เพื่อใหป้ ระโยชน์ในการเรยี น ผจู้ ดั ทาหวังว่า รายงานเลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชน์กับผ้อู ่าน หรือนักเรียน นักศกึ ษา ที่กาลงั หา ข้อมลู เรื้องนอี้ ยู่ หากมขี ้อแนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทาขอนอ้ มรับไว้ และขออภัย มา ณ ที่น้ดี ว้ ย
โฆษณำชวนเช่ือ กำรโฆษณำชวนเชื่อ เป็นการส่ือสารรูปแบบหน่งึ ทีม่ งุ่ ชกั จงู ทศั นคติของประชาคมตอ่ อดุ มการณห์ รอื มมุ มองบางอยา่ งโดยการนาเสนอการให้เหตผุ ลเพียงขา้ งเดยี ว การโฆษณาชวน เชื่อมกั ทาซ้าและกระจายในสื่อหลายชนิดเพือ่ สรา้ งผลทีเ่ ลือกสรรแล้วในทศั นคตขิ องผู้ชม กำรโนม้ น้ำวใจ คอื การพยายามเปลยี่ นแปลง ความเชอ่ื ทัศนคติ การกระทาของ บุคคล อื่นดว้ ยกลวิธีท่ีเหมาะสม ใหม้ ผี ลกระทบใจผูน้ ั้น จนเกิดการ ยอมรบั และเปลยี่ นตามผู้ โน้มนา้ วใจตอ้ งการ 1. เพ่อื ชักนาหรอื โนม้ นา้ วใจใหเ้ กดิ ความเช่อื ถือ ศรัทธา ในเรือ่ งทพ่ี ูดหรอื เขยี น เช่น การชกั นาใหท้ าประกันชีวิต การโฆษณาคณุ ภาพของสนิ คา้ การ โนม้ น้าวใจให้ศรทั ธาในศาสนา เปน็ ตน้ 2. เพื่อกระตุ้นหรือเร้าใจให้เหน็ ความสาคญั ของสง่ิ ใดส่ิงหน่งึ เช่น การพดู ให้เห็นความสาคัญของป่าไม้ การพูดใหเ้ หน็ ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย การ เขียนให้ประทับใจในการทางานอย่างเสยี สละของตารวจตระเวนชายแดน เปน็ ต้น 3. เพอ่ื ปลกุ ใจใหเ้ กิดความสานึกและปิบิ ัติอย่างใดอย่างหน่ึง เช่น การปลกุ ใจให้รกั ชาติ การปลุกใจใช้สินคา้ ไทย การปลกุ ใจให้รวมพลงั สามัคคีเปน็ ต้น 4. เพอ่ื ให้ผูร้ บั สารเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ มคี วามเหน็ คล้อยตามและนาไปปิบิ ตั ิ เชน่ การโนม้ นา้ วใจใหร้ ู้จกั การวางแผนครอบครวั การโน้มนา้ วใจใหร้ จู้ ักใชถ้ งุ ยางอนามยั เพ่ือ ป้องกันการตดิ เชือ้ เอดส์ การเชญิ ชวนให้เลิกสูบบุหร่ี เปน็ ต้น
สำรโนม้ นำ้ วใจ สว่ นใหญม่ ักพบเห็นในโฆษณาและการหาเสยี งเลอื กตงั้ จากการพูดปลุกใจ การอภิปรายในที่ชุมนุมทางการเมอื ง ผฟู้ ังไมค่ วรเชื่อในทนั ที แตต่ อ้ งใชว้ ิจารณญาณแยกแยะ ให้ดี เพอ่ื ประเมนิ ค่าและพจิ ารณาหาเหตุผล คน้ หาความถกู ต้องว่าควรเชื่อถอื มากน้อย เพยี งใด หลักการฟงั และดสู ารโนม้ น้าวใจอยา่ งมวี ิจารณญาณ มขี ้อแนะนาดงั นี้ ๑. สังเกตผู้พูดว่ามีเจตนารมณต์ อ่ ผ้ฟู ังอยา่ งไร และเรื่องท่ีนามาพดู เปน็ เรื่องอะไร ๒.ใชส้ ติปัญญาคิดตามไปวา่ เนือ้ หาสาระหรือสารท่ผี ู้พูดๆ น้นั เชอื่ ถือได้หรอื ไม่ และเชือ่ ได้มากน้อยเพยี งใด ๓. พจิ ารณาว่าสารทฟ่ี งั นั้นมีประโยชน์มากนอ้ ยเพียงใด หากนาไปปิิบัตจิ ะเกิดผลดแี ละ ผลเสยี อยา่ งไรแกต่ นเองและผู้อ่ืน ๔. ผพู้ ูดเร่งเร้าผู้ฟงั ใหเ้ ชอื่ ถือและปิิบัตติ ามอย่างไร ๕. ผพู้ ูดใช้ภาษาเรา้ อารมณใ์ หค้ ลอ้ ยตามอย่างไร ๖. ผพู้ ูดเสนอแนะแนวทางในการปิิบตั หิ รอื ชวนใหท้ า ซึง่ การเสนอแนวทางในการกระทา นัน้ มีความเหมาะสมหรอื ไม่ เป็นไปได้หรือไม่ ต้องพิจารณาดว้ ยเหตุและผล การกระทาน้ันจะ เกดิ ผลเสยี หรือผลดีตอ่ ไปในวันข้างหน้าหรอื ไม่ และเรอื่ งนัน้ สนองความตอ้ งการของผู้ฟัง หรือไม่ หากสนองความตอ้ งการ การกระทานน้ั เป็นวิธีการท่ถี ูกตอ้ งหรือไม่
สำรจรรโลงใจ ไดแ้ ก่เรอื่ งราวทใี่ หแ้ ง่คิด มคี ติสอนใจ รวมไปถึงการแสดงความช่ืนชมยินดใี ห้ กาลงั ใจแก่ผู้ฟังไมย่ อ่ ทอ้ กบั ชวี ิต รู้จกั ปรบั ปรุงชีวติ ของตนเองให้ดีขน้ึ มจี ิตใจเบกิ บานมีความสุข และเกิดทศั นคตทิ ดี่ ีในการดาเนนิ ชวี ิต ผู้ฟังหรอื ผู้ดูทมี่ วี จิ ารณญาณในการฟังจะไดร้ ับแงค่ ดิ และ คตสิ อนใจมากมายที่สามารถนามาปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั หลกั การฟงั และการดสู ารจรรโลงใจอย่างมีวจิ ารณญาณ มขี อ้ แนะนาสาหรบั ผฟู้ ังหรอื ดู ดงั น้ี ๑. ต้องทราบวา่ ฟงั เร่ืองอะไร และตอ้ งต้งั จดุ ประสงคใ์ นการฟงั วา่ จะฟงั เพื่ออะไร ต้องการความคดิ หรอื ความเพลดิ เพลินเทา่ นั้น ๒. มีความตง้ั ใจในการฟงั ๓. ทาความเข้าใจเนือ้ หาสาระที่ฟัง ๔. พิจารณาสารทฟ่ี งั วา่ ให้ความจรรโลงใจดา้ นใด สารทฟี่ ังมเี หตผุ ลหรอื ไม่ ๕. พิจารณาภาษาทใี่ ชว้ า่ เหมาะสมกบั รูปแบบ เน้อื หาหรือผฟู้ ังหรือไม่อยา่ งไร
กำรใชภ้ ำษำในกำรโฆษณำ กำรโฆษณำ หมายถึง การใหข้ ้อมลู ขา่ วสาร เปน็ การส่ือสารจูงใจผ่านส่ือโฆษณาประเภทตา่ ง ๆ เพ่ือจงู ใจหรือโน้มน้าวใจให้กลุม่ ผู้บริโภคเป้าหมาย มพี ฤติกรรมคลอ้ ยตามเนื้อหาสารที่โฆษณา อนั เอ้ืออานวยให้มกี ารซ้ือหรือใช้สนิ คา้ และบรกิ ารตลอดจนชักนาใหป้ ิิบัตติ ามแนวความคดิ ต่าง ๆ ท้ังนี้ขอใหผ้ โู้ ฆษณาหรอื ผูอ้ ปุ ถมั ภ์จะต้องเสียคา่ ใช้จา่ ยในการสื่อนนั้ ๆ องคป์ ระกอบของโฆษณำ องค์ประกอบของการโฆษณาจาแนกออกเปน็ 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1. ผโู้ ฆษณา คือ เจา้ ของสินคา้ เจ้าของบรกิ าร ซึ่งจะต้องประสานกับงานด้านการตลาดของ หน่วยงานนั้น โฆษณาทกุ ชน้ิ จะต้องปรากิตัวผโู้ ฆษณาใหช้ ัดเจน และผู้โฆษณาจะต้อง รบั ผดิ ชอบ คา่ ใช้จ่ายใน การโฆษณาทง้ั หมด 2. สง่ิ โฆษณา คือ โฆษณาท่ที าสาเร็จรูปแลว้ หรือสิ่งพมิ พป์ ระเภทต่าง ๆ ทป่ี ระกอบด้วย ข้อความ รปู ภาพซึ่งจะสื่อ ถึงสินค้าหรอื บรกิ าร ที่เหน็ อยู่บนหนา้ หนังสือพิมพ์ นติ ยสาร รวมถึง ภาพยนตร์โฆษณา ทางโทรทศั นแ์ ละบทโฆษณาทางวิทยุ เป็นตน้ 3. ส่ือโฆษณา คือ สื่อทีผ่ โู้ ฆษณาเลอื กใช้ในการเผยแพร่งานโฆษณาไปยังกลมุ่ บริโภคเป้าหมาย เชน่ โทรทศั น์ วิทยุ หนังสอื พิมพ์ เป็นตน้ ส่ือโฆษณาเปน็ เคร่อื งมือสาคัญท่นี าโฆษณาไปยัง กลมุ่ ผู้บรโิ ภค สื่อโฆษณาแบ่ง เปน็ ประเภทต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของสนิ ค้าท่ตี ้องการ นาเสนอ นักโฆษณาแบง่ ส่อื โฆษณาเป็น 3 ประเภท คือ 3.1 ส่อื โฆษณาประเภทสงิ่ พิมพ์ เปน็ การโฆษณาโดยใชต้ ัวหนังสอื เป็นตัวกลางถ่ายทอด ความคิดไปสูป่ ระชาชน ไดแ้ ก่ หนงั สอื พมิ พ์รายวนั หนงั สือพิมพ์รายสปั ดาห์ นิตยสาร ใบปลิว แผ่นพบั โปสเตอร์ ค่มู ือการใชส้ ินค้า แบบตวั อย่างสินค้า (catalogs) เป็นตน้
3.2 สอ่ื โฆษณาประเภทกระจายเสียงและแพร่ภาพ เปน็ การโฆษณาโดยใชเ้ สยี ง ภาพ หรอื ตัวอักษร ไดแ้ ก่ เสยี งตามสาย วทิ ยุ และโทรทัศน์ เป็นต้น 3.3 สอ่ื โฆษณาประเภทอื่น ๆ หมายถงึ ส่ือโฆษณาอนื่ ๆ นอกเหนือจากสื่อท่ีกล่าวแลว้ ขา้ งต้น เชน่ ภาพยนตร์ อนิ เทอรเ์ นต ส่ือทใี่ ช้โฆษณาท่จี ดุ ขาย รวมถึงส่ือโฆษณา นอกสถานที่ เช่น ปา้ ยโฆษณา ท่ีตดิ รถโดยสาร ประจาทางหรอื รถแท็กซี่ ป้ายราคาสนิ คา้ ธงราว แผน่ ปา้ ยตา่ ง ๆ ที่ตดิ ต้งั ไว้ตามอาคารสูง ๆ หรอื ตามสี่แยก ปา้ ยโฆษณาที่ป้ายรถประจาทาง หรอื ตดิ ไว้ ณ ท่ี พกั ผโู้ ดยสาร ป้ายโฆษณารอบ ๆ สนามกีฬาเมือ่ มกี ารแขง่ ขันกฬี านดั สาคญั ๆ เป็นตน้ 4. กลมุ่ ผู้บรโิ ภคเปา้ หมาย บคุ คลท่ัวไปทีร่ บั สารเก่ียวกบั งานโฆษณา ซงึ่ หากเกิดความรูส้ กึ ถกู ใจ ชื่นชมหรือชอบสนิ ค้า หรอื บรกิ าร จะนาไปสกู่ ารตัดสินใจเลือกซ้ือสนิ คา้ หรือบริการได้ ในทางโฆษณากลุ่มผู้บริโภค เปา้ หมายจะหมายรวมถึงผู้ใช้สนิ คา้ หรอื บริการ การโฆษณา มีความจาเป็นต้องใชภ้ าษาท่ดี ึงดูดความสนใจของคนอา่ นคนฟัง นกั โฆษณาจึง มกั คิดคน้ ถอ้ ยคา สานวนภาษาแปลก ๆ ใหม่ ๆ นามาโฆษณาอย่เู สมอ เพ่อื เรียกรอ้ งความสนใจ จากคนซอ้ื ในขณะเดียวกนั การโฆษณาตอ้ งใช้ภาษาทีง่ ่าย ๆ กะทัดรัด ได้ใจความชัดเจนดี นา่ สนใจ ใหท้ ันเหตุการณ์ รวดเร็ว มเี สียงสัมผสั คล้องจอง จดจาไดง้ ่ายดว้ ย จึงมีถ้อยคาเกดิ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ 1.เรยี กร้องตวามสนใจ คือเลือกใชภ้ าษาทีง่ า่ ย สภุ าพ กระตนุ้ ความรู้สึกของลูกค้า 2.ให้ความกระจ่างแก่ลกู คา้ เป็นการใช้ภาษาที่ง่ายชดั เจนในการกลา่ วถงึ คุณภาพของสินคา้ หรอื บรกิ าร 3.ใหค้ วามม่นั ใจ เปน็ การอา้ งอิงข้อมูลตา่ ง ๆ เพือ่ ใหล้ กู ค้าเกดิ ความม่นั ใจ
กำรเขียนขอ้ ควำมปิดทำ้ ยโฆษณำ การเขียนข้อความปิดท้ายในโฆษณาเป็นส่วนทส่ี าคัญมากคาขวญั หรือคาคมทใี่ ช้ในการ โฆษณามกั เปน็ วลีหรอื ประโยคสัน้ ๆ มถี อ้ ยคาที่สัมผสั คล้องจองกนั เพอื่ ความไพเราะและจดจางา่ ย มี ๒ ลักษณะ คอื ๑. คาขวญั ท่ใี ช้ชอื่ สถาบนั ช่ือบรษิ ทั หรือชื่อผลิตภณั ฑใ์ นการโฆษณา เช่น - ผนู้ าด้านการกอ่ สร้าง บรษิ ัทเอสซีจี - ไทยประกันชวี ติ บรษิ ทั คนไทย เพ่ือคนไทย ๒. คาขวัญทีโ่ ฆษณาสินค้าโดยตรง เป็นการกลา่ วถงึ ลักษณะเด่นของสนิ คา้ หรือบรกิ าร เช่น - เตม็ รสหวาน แตม่ ีแคลอรีเ่ พียงครึ่งเดยี ว (ไลท์ชูการ)์ - ทกุ หยดซา่ โซดาสิงห์ - ดื่มความสดชื่น ด่ืมโคก้ โฆษณาทีด่ ี จะต้อง - สั ้น แต่ ไดใ้ จความ - ตรงประเดน็ - สร้างความอยากรู้ อยากเห็น ให้เกิดข้นึ ได้ในเส้ยี ววนิ าที (ขอ้ นี ้สาคัญมาก ๆ) โฆษณำจะประกอบไปด้วย 1 หัวขอ้ 2 เน้ือหา (ควรมภี าพประกอบ)
ตัวอย่ำงกำรโฆษณำ ยกตวั อย่างเชน่ ถ้าหากคุณขายน้าาหอมชาย ระหว่างหวั ขอ้ ท่เี ขียนวา่ ฟลอเร่ นา้ หอมสาหรับคณุ ผชู้ าย กล่ินไม่ฉุน แหง้ ไว ไม่ระคายเคอื งผิว เพม่ิ เสนห่ ์ให้ตวั คณุ กับหัวขอ้ ท่วี ่า “ฟลอเร่ สาวสะดุด หนมุ่ สะดุ้ง น้าหอมทที่ าให้คุณมีเสนห่ ์มดั ใจคน ตัวอยำ่ งกำรเขียนโฆษณำ (หัวขอ้ ) เพ่ือความสวยทีท่ นทานของกระเบ้ือง เจาะจงใชแ้ ต.่ ..ปนู ซีเมนต์ขาว ตราเสือ (เน้ือหา) เพราะปนู ซเี มนตข์ าวตราเสือผลติ ข้ึนเพ่ือใช้กับงานปแู ละยากระเบ้ืองโดยเฉพาะ ดว้ ยคุณสมบตั ิพิเศษที่ให้การยดึ เกาะได้แนน่ กวา่ และป้องกนั ความชนื้ ใตแ้ ผ่นกระเบ้ือง จึงไมท่ าใหเ้ กดิ คราบดา่ งดาขึ้นภายหลัง ท้ังยงั มเี วลาแหง้ ตัวพอเหมาะพอทีช่ า่ งจะปรบั แตง่ ระดับและแนวกระเบื้องได้อยา่ งประณตี จึงไมม่ ีปัญหาเรอื่ งหลุดร่อนของพืน้ และผนงั กระเบื้อง ไดอ้ ย่างเดด็ ขาด (ขอ้ ความปิดทา้ ย) สาหรับกระเบ้ืองต้องปนู ซีเมนต์ขาวตราเสือเทา่ น้ัน ตัวอยา่ งปิดทา้ ยโฆษณา ได้ผลคุ้มคา่ เม่อื ลงโฆษณาข่าวสด เชิ ต้ คอื แอรโ์ รว์ แอรโ์ รว์คือเชิ ต้ กินไม่ไดแ้ ต่เท่ รสชาตขิ องคนรนุ่ ใหม่ ”
ตวั อย่างโฆษณาชวนเช่อื
บรรณำนุกรม ผู้แตง่ ศน.สุทธมิ าศ อภิรกั ษ์วณชิ ย์ เร่อื งการใช้ภาษาในการโฆษณา(ออนไลน)์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://sites.google.com/ ปที ี่คน้ ควา้ พ.ศ.2564 ผู้แตง่ อ. บญุ กว้าง ศรีสุโธ เร่ืองสารจรรโลงใจ (ออนไลน)์ เข้าถึงได้จาก https://sites.google.com/ ปที ่คี ้นควา้ พ.ศ.2564 ผู้แต่ง วริ ดา แซ่ลิ่ม เร่อื ง โฆษณาตัวอย่าง (ออนไลน)์ เข้าถึงไดจ้ าก https://www.tcijthai.com/ ปที ี่ค้นควา้ พ.ศ.2564 ผแู้ ตง่ Superpng เรอ่ื งโฆษณาตัวอยา่ ง (ออนไลน์) เข้าถงึ ไดจ้ าก http://superpuengg.blogspot.com/ ปที ่ีค้นคว้าพ.ศ.2546 ผู้แตง่ ครูสรุ งั เรื่อง โฆษณา (ออนไลน)์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://krusurang.files.wordpress.com/
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: