ประสิทธิภาพของทีมท่ีดี• เป้ าหมายที่ตรงกนั• เปิ ดเผยท่ีจรงิ ใจ• ไวใ้ จผอู้ ่ืนและสนบั สนนุ• ใหค้ วามรว่ มมือ• มีขนั้ ตอน / กระบวนการที่ดี
ประสิทธิภาพของทีมท่ีดี• ผนู้ า• ทบทวน• พฒั นาบคุ คล• ความสมั พนั ธใ์ นกลม่ ุ• การติดต่อสื่อสาร
ขอ้ เสนอแนะในการสรา้ ง มนษุ ยส์ มั พนั ธท์ ี่ดี• สภุ าพอ่อนโยน ใหเ้ กียรติ และมีความเคารพต่อ บคุ คล อื่น• จดจาชื่อ-นามสกลุ และรายละเอียดบางอยา่ งเก่ียวกบั บคุ คลอื่นๆที่สาคญั ใหแ้ มน่ ยา• มีความจรงิ ใจ• มีความรบั ผิดชอบ
ขอ้ ควรระวงั และหลีกเล่ียง ในการสรา้ งมนษุ ยส์ มั พนั ธท์ ่ีดี• ระวงั ในเรอ่ื งสีหนา้ ท่าทาง และบคุ ลิกภาพ• การโตแ้ ยง้ ถกเถียง เอาชนะ และทะเลาะกนั ในเรอ่ื งไรส้ าระ• การตาหนิติเตียนผอู้ ื่น หลีกเลย่ี งการฉีกหนา้ คน• การพดู ตอ้ งไมพ่ ดู มาก พดู เพอ้ เจอ้ วิพากษว์ ิจารณ์ สอ่ เสียด นินทา หรอื ประชดประชนั ผอู้ ่ืน• การไมฟ่ ังผอู้ ื่น• การอิจฉารษิ ยากนั• ความเห็นแกต่ วั มากกว่าประโยชนส์ ว่ นรวม• ความโลภ โกรธ หลง
หลกั การสรา้ งความสมั พนั ธ์ อนั ดีกบั ผบู้ งั คบั บญั ชาทางานใหด้ ี ประจบผบู้ งั คบั บญั ชาดว้ ยผลงาน หลีกเลี่ยงการประจบสอพลอชว่ ยทาใหค้ วามคดิ หรือคาสงั่ ของผบู้ งั คบั บญั ชาไดร้ บั ผลสาเร็จไมค่ วร “ครบั ,ค่ะ”หรือ “ไม”่ ตลอดไปจนเสยี ประโยชนข์ องตนอยา่ กอ่ ศตั รอู นั จะเป็ นเหตใุ หก้ วนใจผบู้ งั คบั บญั ชาเรียนรนู้ สิ ยั การทางานของผบู้ งั คบั บญั ชาใหเ้ ขา้ ใจอยา่ รบกวนเร่ืองเล็กๆนอ้ ยๆจกุ จกิ
หลกั การสรา้ งความสมั พนั ธ์ อนั ดีกบั ผบู้ งั คบั บญั ชาจะเขา้ หาใหด้ เู วลาและโอกาสท่เี หมาะสมอยา่ นนิ ทาลบั หลงัประเมนิ ตวั เองบา้ งว่า เรามจี ดุ เดน่ หรือจดุ บกพร่องตรงไหนอย่าแสดงความโกรธเมอ่ื ผบู้ งั คบั บญั ชาไมเ่ ห็นดว้ ยกบั ท่านเมอื่ ทา่ นดตี อ่ เรา ตอ้ งหาทางแสดงความกตญั ญกู ตเวทิตาอย่าบน่ ถึงความยากลาบากในการทางานตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชา
หลกั การสรา้ งความสมั พนั ธ์ อนั ดีกบั เพ่ือนรว่ มงานใหค้ วามเคารพนบั ถือ ยกย่องใหเ้ กยี รตใิ นคณุ วฒุ ิ วยั วฒุ ิและประสบการณใ์ นการทางานใหค้ วามรว่ มมอื ในงานอย่างเต็มท่ี ชว่ ยงานตา่ งๆเท่าท่จี ะทาได้ปฏิบตั ติ วั ดว้ ยความสภุ าพ นม่ิ นวล ไมเ่ ย่อหยิ่งขอคาปรึกษาแนะนาดว้ ยความสภุ าพใหค้ วามชว่ ยเหลือเอ้ือเฟื้ อเผอื่ แผต่ ามสมควร
หลกั การสรา้ งความสมั พนั ธ์ อนั ดีกบั เพ่ือนรว่ มงานไมค่ ิดอิจฉาริษยาเม่ือเขาไดด้ ีใหค้ าตชิ มโดยสจุ ริตใจ และรบั คาตชิ มอย่างใจกวา้ ง อารมณเ์ ย็นหากมปี ัญหาขดั แยง้ กนั พยายามชว่ ยกนั แกป้ ัญหาขอ้ ขดั แยง้ ดว้ ยกนั เอง ไมฟ่ ้ องผบู้ งั คบั บญั ชา
มนษุ ยส์ มั พนั ธใ์ นการทางานรว่ มกนั• มที ศั นคตทิ ด่ี ตี อ่ กนั• ทางานร่วมกนั แบบคนท่อี ย่ใู นเรือลาเดยี วกนั• ชว่ ยเหลืองานของผอู้ ่ืนเมอื่ ไดร้ บั การรอ้ งขอ• เห็นใจเมอ่ื ผอู้ ่ืนมที กุ ข์• ยอมรบั ว่าไมม่ ใี ครในโลกท่ีดพี รอ้ ม• ไวใ้ จและใหเ้ กยี รตซิ ึ่งกนั และกนั• ไมซ่ ดั ทอดความผดิ ใหผ้ อู้ ื่น
มนษุ ยส์ มั พนั ธใ์ นการทางานรว่ มกนั • มคี วามจริงใจและเสมอตน้ เสมอปลาย • ไมก่ า้ วกา่ ยงานในหนา้ ท่ีของผอู้ ่ืน • มมี ารยาทดตี อ่ กนั
การสรา้ งสขุ ภาพจิตท่ีดีในการทางาน • มีสขุ ภาพกายแข็งแรง • รจู้ กั ระงบั อารมณ์ • มีทศั นคติที่ดีในการมองโลก • มีงานอดิเรกท่ีชอบทา • ทาตวั ใหส้ นกุ กบั ชีวิต • ออกกาลงั กายตามโอกาสอนั ควร • ทาตวั ใหเ้ ป็ นประโยชนต์ ่อผอู้ ื่น
การพฒั นาตนเองเพื่อความกา้ วหนา้ ในการทางาน • พฒั นาความรู้ • พฒั นาความเช่ือมน่ั ในตนเอง • พฒั นาความคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ • พฒั นาความจา • พฒั นาความกระตือรอื รน้
การทางานเป็ นทีมที่มีประสิทธิภาพ (Effective Team – Working)เทคนิคการทางานรว่ มกนั มีดงั น้ี• กาหนดวตั ถปุ ระสงคห์ รอื เขา้ ใจวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้ าหมายรว่ มกนั• เลือกผนู้ าที่เหมาะสมในการทางาน• วางแผนรว่ มกนั มีขนั้ ตอนอยา่ งกระจ่างชดั เพื่อใหบ้ รรลเุ ป้ าหมาย• กาหนดหนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบของแต่ละคน• ดาเนินการตามขนั้ ตอนท่ีวางไว้• ติดตามผลเพ่ือหาขอ้ บกพรอ่ งเป็ นระยะๆจนบรรลเุ ป้ าหมาย
คณุ สมบตั ิที่ดีและพึงปรารถนา ในการทางานรว่ มกนั• รจู้ กั เป็ นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี• รจู้ กั ประสานงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น• รจู้ กั การติดต่อท่ีดี• รบั ฟังและยอมรบั มติของกลม่ ุ ดว้ ยความจรงิ ใจ• ไม่เป็ นผสู้ รา้ งปัญหา แต่ลดการขดั แยง้• รกั ษาวินยั และกฎเกณฑข์ องสว่ นรวม
การฝึ กใจใหม้ ีสว่ นรว่ ม• ฝึ กรจู้ กั ความสาคญั และคณุ คา่ ในความรคู้ วามสามารถ ของผอู้ ื่น• ฝึ กตระหนกั ในความดีของผอู้ ื่นใหท้ นั ท่วงที• เสาะหาวิธีท่ีจะทาตวั เราไมใ่ หเ้ บื่อผอู้ ื่น• ฝึ กนิสยั เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผด่ ว้ ยการกระทา• ฝึ กเห็นดว้ ยกบั คนอื่นบา้ ง อยา่ งนอ้ ยเม่ือเรมิ่ การสนทนา• ฝึ กเป็ นคนใจเยน็ อยา่ หวงั ผลอะไรเรว็ เกินไป• ฝึ กเป็ นคนพรอ้ มท่ีจะรว่ มมือและพรอ้ มท่ีจะรบั รู้• ฝึ กใจตนเองใหเ้ ป็ นผทู้ ี่ใหเ้ กียรติและใหอ้ ภยั ต่อผอู้ ่ืน
จติ สานกึ รกั องคก์ าร:การทางานใหม้ คี วามสขุ และสนกุ ในการทางาน ความหมาย.. • การท่ีบคุ ลากรขององคก์ าร หรือหนว่ ยงานหลายคนมาทางาน ร่วมกนั โดยทาหนา้ ท่ปี ระจาวนั ของตนดที สี่ ดุ และประสานงาน กบั ผอู้ นื่ ดว้ ยสมั พนั ธภาพทีด่ ี รงู้ านผอู้ ื่นและสามารถทดแทน ทางานใหไ้ ด้ (แตต่ อ้ งไมก่ า้ วกา่ ยงานที่ผอู้ ่ืนรบั ผดิ ชอบ) สามารถปฏิบตั แิ ละกระจายนโยบายของผบู้ ริหาร หรือ องคก์ าร ใหเ้ ป็ นผลงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายประสบผลสาเร็จสงู สดุ
ความสาคญั ตอ่ หนว่ ยงาน..• การท่ีบคุ ลากรในองคก์ าร หรือหนว่ ยงาน มสี มั พนั ธภาพท่ีดตี อ่ กนั มมี นษุ ยสมั พนั ธท์ ่ดี นี น้ั มคี วามสาคญั ตอ่ องคก์ ารเป็ นอยา่ ง ยิ่ง เพราะ..ถา้ ทกุ คนมคี วามสขุ ความพึงพอใจในการทางาน จะมแี รงกระตนุ้ ใหเ้ กดิ “ความตอ้ งการอยากมาทางาน” และ กระทบตอ่ การท่อี งคก์ ารได้ “ผลงานที่มคี ณุ ภาพ” และสง่ ผลไป ยงั “การบริการที่ด”ี ตอ่ กนั ทงั้ ลกู คา้ ภายใน และลกู คา้ ภายนอก นาผลไปสคู่ วามสาเร็จของธรุ กิจตามเป้ าหมายท่ีองคก์ ารนน้ั ๆ ตง้ั ไว้
ความสาคญั ตอ่ บคุ ลากรในองคก์ าร..• บคุ ลากรมคี วามสขุ ความพึงพอใจ ท่จี ะทางานใหแ้ ลว้ เสร็จตาม ผลงานท่ีไดร้ บั มอบหมายใหท้ าออกมามผี ลดี ยอ่ มหมายถึง ความเจรญิ กา้ วหนา้ ในการทางาน ผลตอบแทนที่ ดีจะไดร้ บั ตามมาอยา่ งแน่นอน
ความประพฤติบคุ ลากรท่ีพึงประสงคใ์ นองคก์ าร..• มง่ ุ งาน สนใจทางานที่ไดร้ บั มอบหมายตามหนา้ ที่ มีทศั นคติที่ดี ต่องาน ต่อองคก์ าร มีพลงั กระตือรอื รน้ ที่จะทางานใหมๆ่ สะสม ประสบการณก์ ารทางานใหม้ าก ขยนั และมาทางานอยา่ ง สม่าเสมอ อทุ ิศเวลาใหก้ บั งาน ทางานเสรจ็ โดยเรว็ และตรงต่อ เวลา• เคารพกฎเกณฑข์ ององคก์ าร และหน่วยงาน• ใหค้ วามรว่ มมือกบั ผอู้ ื่นเสมอ มีความเป็ นมิตร ประสานงาน ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืนตามโอกาส เป็ นสมาชิกที่ดีของทีมงาน รบั ฟัง และกลา้ เสนอความคิดเห็นท่ีดี• มีความรจู้ รงิ ในการทางาน หาโอกาสเพ่ิมพนู ความรใู้ หก้ บั ตนเอง
ความประพฤตสิ ว่ นท่ีควรเสริมสรา้ งในองคก์ าร..• มีสมั มาคารวะ ใหค้ วามเคารพหวั หนา้ และผมู้ ีอาวโุ ส ใหเ้ กียรติ ผอู้ ่ืน• มีความรบั ผิดชอบ และทางานดว้ ยความซื่อสตั ยส์ จุ รติ• เป็ น “ผใู้ หญ่” มีเหตผุ ลรอบคอบ กลา้ ตดั สินใจ และกลา้ รบั ผิด• รนื่ เรงิ ย้มิ แยม้ แจ่มใส เขา้ กบั สงั คมและวฒั นธรรมของ องคก์ ารท่ีดีได้• สะอาด เรยี บรอ้ ย รกั ษาสขุ ภาพทง้ั กาย วาจา ใจ• มีคณุ สมบตั ิของผชู้ นะที่ดี ไม่เหยยี บยา่ ซ้าเติมผแู้ พ้ เห็นอกเห็น ใจคน
ภาพลกั ษณ์ผนู้ าํ 71
1. คุณสมบตั ิบุคคล• หัวหน้า• คอื ผเู้ สมือนเป็นหนา้ ตาของหน่วยงาน โดยตอ้ ง เป็นผทู้ ี่พร้อมยนื อยขู่ า้ งหนา้ 72
คุณสมบตั ิของ “หวั หนา้ งาน”• ความเป็ นผู้นาและการบังคบั บัญชา• ความสามารถในการวางแผนและจดั ระบบงาน การ ควบคุมงาน หรือ การบงั คบั บญั ชา• ความขยนั หมน่ั เพยี รและการไม่ขาดงาน• ความคดิ ริเริ่มและดุลพนิ ิจ• ความสามารถในการคิด และการกระทาํ อยา่ งสร้างสรรค์และกระทาํ ไปไดเ้ อง โดยมิตอ้ งบอกรายละเอียด รวมท้งั ความสามารถในการตดั สินใจ 73
• ความรู้งานและความคล่องตวั• ความรู้และความเขา้ ใจในงานทุกดา้ น รวมท้งั ความสามารถที่• จะรับงานยงุ่ ยากมากข้ึน• ความสามารถเรียนรู้• ความสามารถในการจดจาํ คาํ สงั่ และรับความคิด รวมท้งั วิธีการ• ทาํ งานใหม่ๆ• ความไว้วางใจได้• ความสามารถในการปฏิบตั ิตามคาํ สงั่ และสามารถไวว้ างใจไดใ้ น การ• ทาํ งานอยา่ งถูกตอ้ ง โดยการบงั คบั บญั ชาเพยี งเลก็ นอ้ ย• คุณภาพงาน• ความสามารถและความสม่าํ เสมอในการทาํ งานใหไ้ ดผ้ ลที่ถูกตอ้ งเตม็ ท74ี่
• บุคลิกภาพ• ความชอบพอจากเพอ่ื นร่วมงานจากลกั ษณะต่างๆ เช่น อารมณ์ ความรู้สึก กาลเทศะ ความสุภาพ การวางตวั และท่าทางการพดู• ทัศนคตแิ ละความร่วมมือ• ทศั นคติที่มีต่องาน เพื่อนร่วมงาน และความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ผลกระทบท่ีจะมีผลต่อบุคคลอ่ืน หรือ บริษทั ฯ• ความเคารพต่ออานาจการบงั คบั บญั ชาและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ• ความเชื่อฟังผบู้ งั คบั บญั ชาและการปฏิบตั ิตามข้นั ตอนท่ีไดร้ ับ คาํ แนะนาํ การปฏิบตั ิตามระเบียบขอ้ บงั คบั ของบริษทั และของหน่วยงาน 75
ความเป็น “ผนู้ าํ ” หมายถึง•• ศิลปะ ในการใช้ ความสามารถ ท่ีจะทาํ ใหบ้ ุคคลอื่น คลอ้ ย ตามเรา• และทาํ ตามเราอยา่ งเตม็ ใจ ในสิ่งท่ีเราตอ้ งการจะใหเ้ ขาทาํ• คอื ผทู้ ี่สามารถทาํ ใหบ้ ุคคลอื่นคลอ้ ยตาม และทาํ ตามอยา่ ง เตม็ ใจ ในส่ิงที่ตอ้ งการจะใหท้ าํ 76
ความแตกต่างสาํ คญั 2 ประการผู้ตาม ผู้นา - จะเป็ นผู้ลงมอื ทาตาม - จะเป็ นผู้ทาให้งานน้ัน คาสั่งให้เสร็จ สาเร็จ โดยจูงใจให้คนอนื่ ทา - จะจัดการเกย่ี วกบั งาน - จะเป็ นผู้จัดการเกย่ี วกบัหรือ ส่ิงของเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ คน 77
ทกั ษะความเป็น “ผนู้ าํ ” (Leadership Skill)• การสร้างทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพ • การมอบหมายงาน • การควบคุม ติดตามงาน• เทคนิคการแกป้ ัญหา และตดั สินใจ 78
แบบของการเป็นผนู้ าํ 3 แบบ1. แบบเผดจ็ การ - จะเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ (อตั ตาธิปไตย) - ไม่ยอมฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน - ชอบออกคาํ สงั่ - ไม่ชอบใหค้ นโตแ้ ยง้ 79
2. แบบอิสระเสรี - ไม่ค่อยจะยงุ่ เกี่ยวกบั ลูกนอ้ ง - ไม่ชอบบงั คบั ข่เู ขญ็ - ขอใหท้ ุกอยา่ งเป็นไปโดยปกติ ธรรมดาเป็นใชไ้ ด้ 80
3. แบบประชาธิปไตย - ถือความเห็นส่วนใหญ่เป็นหลกั ไวก้ ่อนเสมอ - ชอบปรึกษาหารือ - ชอบขอความเห็นลกู นอ้ ง หรือผรู้ ่วมงาน - ใหท้ ุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ก่อนลงมติ - กรณีมีผคู้ ดั คา้ น จะถือเอาเสียงขา้ งมากเป็นเกณฑ์ เสมอ 81
“ผนู้ าํ ” แบบไหนดีท่ีสุด มิไดข้ ้ึนอยกู่ บั กฎเกณฑ์ หรือขอ้ กาํ หนดที่วางไวต้ ายตวั แลว้ แตค่ วามเหมาะสม ถกู ตอ้ งกบั สถานการณ์ สรุป ข้ึนอยกู่ บั สถานการณ์ ของ ส่ิงแวดลอ้ ม กาลเวลา 82
หลกั การพฒั นาตนเองใหเ้ ป็น “ผนู้ าํ ท่ีดี”1. มีความรู้ในงานที่ตนเป็นหวั หนา้ อยู่ และความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ2. มีการวางแผนงานการปฏิบตั ิในหน่วยงานไวใ้ หช้ ดั เจน3. รู้จกั รับผดิ ชอบผลงานการปฏิบตั ิของหน่วยงาน4. จะตอ้ งใหผ้ ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชารู้ในสิ่งท่ีควรรู้5. รอบรู้ / ฝึกในเรื่องมนุษยสมั พนั ธ์6. ฝึกความคุน้ เคย และดูแลสวสั ดิภาพของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา 83
• 7. ตอ้ งควบคุมการปฏิบตั ิใหเ้ ป็นไปตามความมุ่งหมายของคาํ สง่ั ท่ีส่งั ออกไป• 8. ปลกู ผงั / ส่งเสริม ความรับผดิ ชอบใหเ้ กิดแก่ผใู้ ตบ้ งั บญั ชา• 9. ยอมรับความคิดใหม่ดว้ ยความไว• 10. มีความคิดริเร่ิมเสมอ• 11. เป็นตวั อยา่ งที่ดีแกผ้ ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา• 12. เสริมเทคนิคที่จะใหเ้ กิดความสามคั คี ข้ึนภายในหน่วยงาน 84
ความแตกต่างระหวา่ งการเรียก “เจา้ นาย” กบั “ผนู้ าํ ” เจ้านาย ผ้นู า1. ผลกั ดนั จ้ี แนะนาํ2. ใชอ้ าํ นาจ กระตุน้ จูงใจ3. ชอบส่ัง ปรึกษาหารือ4. “พวกคุณ” “พวกเรา”5. ตดั ปัญหา แกป้ ัญหา6. รู้วธิ ีทาํ งาน ลงมือทาํ เองไดด้ ว้ ย 85
ลกั ษณะเด่นของบุคคลผเู้ ป็น “ผนู้ าํ ท่ีดี”1. ตอ้ งมีความสุขใจท่ีเห็นบุคคลอ่ืนพฒั นาไดภ้ ายใตก้ ารแนะนาํ และอาํ นวยการ ของตน แต่มิใช่อยภู่ ายใตก้ ารบีบบงั คบั มากเกินไป2. การออกคาํ สงั่ หรือ การอาํ นวยการกระทาํ อยา่ งเปิ ดเผย และเฉียบขาดในทุกกรณี3. มีความกลา้ ในทางที่ถูกตอ้ ง4. สร้างอารมณ์ขนั เป็นคุณสมบตั ิประจาํ ตวั5. มีความรู้สึกรับผดิ ชอบต่องาน (อุทิศกาํ ลงั กาย สมอง เวลาอยา่ งแทจ้ ริง)6. มีความเขา้ ใจในธรรมชาติความเป็นมนุษยข์ องบุคคลไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง7. เลือกใชบ้ ุคคลไดต้ รงกบั ความสามารถของแต่ละบุคคล 86
นกั บริหาร• หมายถึง• ผู้ดาเนินการในการใช้ปัจจัยในการบริหาร ได้แก่• - บุคลากร• - วสั ดุ• - อุปกรณ์• - งบประมาณ• - เวลา• อย่างมปี ระสิทธิผลด้วยประสิทธิภาพ 87
ทกั ษะของผบู้ ริหาร1.ทกั ษะในเรื่อง “การคดิ ”2.ทกั ษะในเร่ือง “งาน”3.ทกั ษะในเร่ือง “บุคคล” 88
2 แนวทางการพฒั นางาน • การติดตามงาน• ความสาํ คญั และประโยชน์• 1. แสดงความรับผิดชอบ• 2. รับรู้ความคืบหนา้ ของ งาน• 3. ใหบ้ รรลุตามเป้ าหมาย 89
หลกั การ1. สงั เกตการณ์ เพ่อื ใหก้ าํ ลงั ใจ2. บอกกล่าว / แนะนาํ3. สอบถาม เพื่อการแกไ้ ขไดท้ นั ที• 4. รายงาน เพ่ือใหเ้ กิดความกระตือรือร้น และรู้สึกที่ดีต่อหวั หนา้ งาน เพื่อเสริมสร้างผลงาน 90
เทคนิค1. เกิดความรู้สึกที่ใหเ้ กียรติ และเชื่อถือเขา2. ตอ้ งการใหค้ วามช่วยเหลือ3. ตอ้ งการใหก้ ารปรึกษา 91
การวางแผนงาน1. รู้นโยบาย ทิศทางขององคก์ ร2. รู้เป้ าหมายของการทาํ งาน (บทบาทหนา้ ท่ี)3. รู้วตั ถุประสงคข์ องงาน4. รู้วิธีปฏิบตั ิของงานแต่ละเรื่อง5. มีแผนการปฏิบตั ิงาน6. มีแผนการควบคุมงาน 92
การบริหารงานบคุ คล 931. การวางแผนกาํ ลงั คน2. การสรรหา คดั เลือก3. การกาํ หนดอตั ราค่าจา้ ง และผลตอบแทน4. การกาํ หนดสวสั ดิการต่างๆ5. การสร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง• - บุคลากรกบั บริษทั• - บุคลากรดว้ ยกนั เอง• 6. การพฒั นาทรัพยากรบุคคล• 7. การกาํ หนดความกา้ วหนา้ ในอาชีพ• 8. การกาํ หนดวนิ ยั แก่บุคคล
ศิลปะการวา่ กล่าว (การตาํ หนิ)1. จาํ เป็นตอ้ งสอบถามเขาก่อน2. ตอ้ งใหโ้ อกาสเขาช้ีแจง3. กาละเทศะดา้ นเวลา และสถานท่ีท่ีเหมาะสม4. ใชว้ ิธีการ และตอ้ งไดร้ ับความร่วมมือเป็นการตอบสนอง5. แนะนาํ / บอกส่ิงท่ีควรทาํ6. ช้ีใหเ้ ขาเห็นประโยชนข์ องการพฒั นา / ปรับปรุง 94
การควบคุมงาน1. กาํ หนดมาตรฐานของงาน2. สร้างระบบการควบคุมงาน3. วธิ ีกาํ กบั และติดตามผลงาน4. การประเมินผลงาน5. การปรับปรุงมาตรฐานการปฏิบตั ิงาน6. ความปลอดภยั การทาํ งาน 95
การสงั่ งาน1. บุคลิกภาพการเป็นผนู้ าํ2. วธิ ีการสื่อสาร3. การมอบหมาย4. การสอน5. การจูงใจ และกระตุน้ ใหท้ าํ งาน6. สนบั สนุนการทาํ งานดา้ นทรัพยากร7. การใหค้ าํ ปรึกษา และแนะนาํ 96
การพดู จูงใจ องค์ประกอบทสี่ าคญั “คนพดู ” “เร่ืองทจี่ ะพูด”หลกั สาคญั ทไ่ี ด้ผลทสี่ ุด คอื 1. ตอ้ งชูประเดน็ “ผลประโยชน”์ ของผฟู้ ังท่ีถกู ตอ้ งและควรได้ 2. ตอ้ งวิเคราะห์ “ขอ้ ดี” “ขอ้ เสีย” 3. รู้สัญชาตญาณธรรมชาติของคน โดยเนน้ เร่ือง “ความถกู ตอ้ ง” หรือ “ความดี งาม” ไดอ้ ยา่ งซาบซ้ึง 97
ปัญหา• หมายถึง• ความไม่สอดคลอ้ งกนั ระหวา่ งความตอ้ งการ หรือความคาดหวงั กบั สภาพปัจจุปันที่เป็นอยจู่ ริง (ยงิ่ ความ สอดคลอ้ งตอ้ งกนั มีนอ้ ยเท่าไร ปัญหากจ็ ะเกิดมากข้ึนเท่าน้นั ) 98
ข้นั ตอนการแกไ้ ขปัญหา 99 (สร้างสมประสบการณ์) 1. รับรู้ 2. วเิ คราะห์ 3. หาวิธีแกไ้ ข 4. ตดั สินใจ และแสดงออก 5. ประเมินผลบนแนวคดิ ทค่ี วรพจิ ารณา 2 ประการ 1. คุณภาพการตดั สินใจ (Quality) 2. การยอมรับ (Acceptance)
การวิเคราะห์ปัญหา1. บรรยายลกั ษณะปัญหา • รวบรวมใหช้ ดั เจน 2. ระบุสาเหตุท่ีอาจทาํ ใหเ้ กิดปัญหา 3. ประเมินสาเหตุที่อาจทาํ ใหเ้ กิดปัญหา 4. การยนื ยนั สาเหตุที่แทจ้ ริง 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124