Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ

การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ

Published by Niphol Toraksa, 2021-08-30 04:58:16

Description: การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ

Search

Read the Text Version

การปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ ท่ีมาของขอ มลู : วชิ าการ อรพนิ ถริ ะวฒั น กองปอ งกนั และกําจัดศัตรูพืช กองปอ งกนั และกําจัดศัตรูพืช ประพนธ ไทยวานชิ กองปอ งกนั และกําจัดศัตรูพืช กองเกษตรสมั พนั ธ ศภุ ลักษณ กลบั นว ม กองเกษตรสัมพนั ธ กองเกษตรสมั พนั ธ จดั ทํา วไิ ลภรณ ชนกนําชยั กองเกษตรสมั พนั ธ กองเกษตรสมั พนั ธ ปฏวิ ตั ิ วงศร ัตนธรรม ศลิ ป มยุรี สขุ เกษม เรยี งพมิ พ ลออ พรพงษก ลุ พมิ พท ่ี ฝา ยเอกสารคําแนะนํา • การปลูกผักปลอดภัยจากสารพษิ ……………………………..………….2 • ความหมายของผักปลอดภยั จากสารพษิ …………………………….2 • ขอดีของการปลูกผกั ปลอดจากสารพิษ……………………………….2 • วิธีการผลิตผักปลอดจากสารพษิ ………………………………………….2 • การเตรียมแปลงปลกู …………………………………………………………….4 • การเตรียมเมลด็ พนั ธุ……………………………………………………………..5 • การปลกู และการดแู ล…………………………………………………………….5 • การใหอ าหารเสรมิ แกพ ชื ………………………………………………………5 • การใชก บั ดกั กาวเหนยี ว…………………………………………………………6 • การใชกับดักแสงไฟ……………………………………………………………….6 • การใชพลาสตกิ หรอื ฟางขา วคลมุ แปลงปลกู ……………………..7 • การปลกู ผกั ในโรงเรอื นมงุ ตาขา ยไนลอ น…………………………..7 • การควบคมุ โดยชวี วธิ ี…………………………………………………………….8 • การใชส ารสกดั จากพชื …………………………………………………………..9 • การใชส ารเคมปี อ งกนั และกําจดั ศตั รพู ชื …………………………10

ก า ร ป ลู ก ผั ก ป ล อ ด ภั ย จ า ก ส า ร พิ ษ พืชผักเปนพืชอาหารท่ีคนไทยนิยมนํามาใชรับประทานกันมากเน่ืองจากมีคุณคาทางอาการท้ัง วิตามินและแรธ าตตุ า งๆ ทเ่ี ปน ประโยชนต อ รา งกายสงู แตค า นยิ มในการบรโิ ภคผกั นน้ั มกั จะเลอื ก บริโภคผกั ทส่ี วยงามไมม รี อ งรอยการทําลายของหนอนและแมลงศตั รพู ชื จึงทําใหเกษตรกรที่ปลูกผัก จะตองใชสารเคมปี อ งกนั และกําจดั แมลงฉดี พน ในปรมิ าณทม่ี าก เพ่อื ใหไ ดผ กั ท่สี วยงามตามความ ตองการของตลาด เมอ่ื ผซู อ้ื นํามาบริโภคแลว อาจไดรบั อันตรายจากสารพษิ ที่ตกคางอยูในพชื ผักน้นั ได เพ่ือเปน การแกป ญ หาดงั กลา ว เกษตรกรจงึ ควรหนั มา ทําการปลูกผักปลอกภัยจากสารพิษ โดยนําเอา วิธีการปองกนั และกําจัดศัตรูพืชหลายวิธีมาประยุกตใชรวมกัน เปน การทดแทนหรอื ลดปรมิ าณการใช สารเคมีใหนอยลง เพอ่ื ความปลอดภัยของเกษตรกร ผบู ริโภคและสิ่งแวดลอม ความหมายของผกั ปลอดภยั จากสารพษิ ผักปลอดภัยจากสารพิษ หมายถึง ผลผลติ พชื ผกั ทไ่ี มม สี ารเคมปี อ งกนั และกําจัดศตั รพู ชื ตกคาง อยู หรือมีตกคา งอยไู มเ กนิ ระดบั มาตรฐานทก่ี ระทรวงสาธารณสขุ กําหนดไว ในประกาศกระทรวง สาธารณสขุ ฉบับที่ 163 พ.ศ. 2538 ลงวนั ท่ี 28 เมษายน 2538 เรอ่ื ง อาหารที่มีสารพิษตกคาง ขอดีของการปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ 1. ทําใหไดพืชผักที่มีคุณภาพ ไมม สี ารพษิ ตกคา ง เกิดความปลอดภัยแกผูบริโภค 2. ชวยใหเกษตรกรผูปลูกผักมีสุขภาพอนามัยดีข้ึนเนื่องจากไมมีการฉีดพนสารเคมีปองกัน และกําจัดศัตรูพืช ทําใหเกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษเหลานี้ดวย 3. ลดตนทุนการผลติ ของเกษตรกรดา นคา ใชจ า ยในการซอ้ื สารเคมปี อ งกนั และกําจัดศัตรูพืช 4. ลดปรมิ าณการนําเขา สารเคมปี อ งกนั และกําจัดศัตรูพืช 5. เกษตรกรจะมรี ายไดเ พม่ิ มากขน้ึ เนอ่ื งจากผลผลติ ทไ่ี ดม คี ณุ ภาพ ทําใหส ามารถขายผลผลติ ไดใ นราคาสงู ขน้ึ 6. ลดปริมาณสารเคมปี อ งกนั และกําจดั ศตั รพู ชื ทจ่ี ะปนเปอ นเขา ไปในอากาศและน้ํา ซง่ึ เปน การอนุรักษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละลดมลพษิ ของสง่ิ แวดลอ มไดท างหนง่ึ วิธีการผลติ ผกั ปลอกภยั จากสารพษิ ในการปลูกผักปลอดภยั จากสารพษิ นนั้ จะใชหลักการปลูกพืชผักโดยการใชสารเคมีในการผลิต ใหนอยที่สุด หรอื ใชต ามความจําเปน และจะใชห ลกั “การปอ งกนั และกําจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน หรือไอพีเอ็ม” แทนแตการที่จะปองกันและกําจัดศตั รูพืชใหไดผลน้ันจะตอ งเลือกวธิ ีทีป่ ระหยดั เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ซง่ึ ผปู ลกู จะตอ งเขา ใจเรอ่ื งตา งๆ ที่เกี่ยวของ ดงั น้ี

การปลูกผักปลอดภยั จากสารพิษ ❀ 3 1. สาเหตกุ ารระบาดของศตั รพู ชื 1.1 ศตั รพู ชื เคลอื่ นยา ยจากแหลงหนง่ึ ไปยังอีกแหลงหนึ่ง ทม่ี คี วามเหมาะสมมากกวา ทําใหม ี การขยายพันธุและระบาดทําความเสียหายเพิ่มขึ้น 1.2 สภาพแวดลอมและสภาพทางนิเวศนเ ปลย่ี นแปลงไปทําใหศตั รพู ืชมีการขยายพันธไุ ดดขี นึ้ เพิ่มจํานวนมากขน้ึ หรอื มผี ลตการพฒั นาสายพนั ธใุ หม คี วามตา นทาน และมีประสทิ ธภิ าพในการเขา ทาํ ลายมากขน้ึ เชน การกําจดั งู ทาํ ใหหนูระบาด การใชส ารเคมี ทําใหแ มลงทก่ี นิ แมลงศตั รพู ชื ตาย เปน ตน 1.3 สภาพแวดลอ มทางเศรษฐกจิ และสงั คมของมนษุ ยท เ่ี ปลย่ี นแปลงไป ทําใหค วามตอ งการ ผลิตในการบรโิ ภคเปลย่ี นไป ทําใหค วามตอ งการผลผลติ ในการบรโิ ภคเปลย่ี นไป ทาํ ใหค วามตอ งการผล ผลิตท่ีแตกตา งกนั ไปตามความตอ งการของบรโิ ภค ทําใหบ างครง้ั รอ งรอยการทําลายของศตั รพู ชื เพยี งจดุ เดียว ก็ถือวา ผลผลติ ตกเกรดไมไ ดม าตรฐาน มกี ารระบาดของศตั รพู ชื ได 2. การควบคมุ ศตั รพู ชื ใหป ระสบผลสําเรจ็ มหี ลกั การงา ยๆ 2.1 ตองปอ งกนั ไมใ หเ กดิ โรคในแปลงปลกู เชน การใชพันธุที่ปราศจากโรคและแมลง การไม นําช้ินสว นของพชื ทม่ี โี รคแมลงเขา มาในแปลงปลกู เปน ตน 2.2 ถามีศัตรูพืชเขา มาในแปลงปลกู หรอื แสดงอาการเปน โรคแลว ตอ งยบั ยง้ั การแพรร ะบาด 2.3 และถา มกี ารระบาดแลว ตอ งกําจัดใหหมดไป อยางไรก็ตามสาเหตุสําคญั ทก่ี อ ใหเ กดิ การระบาดของศตั รพู ชื ในแปลงปลกู คอื ตวั เกษตรกรเอง ที่ละเลยการควบคุมดูแลทําใหศ ตั รพู ชื สะสมในแปลงปลกู จนถงึ ระดบั ทไ่ี มส ามารถควบคมุ กําจดั ได 3. วิธีการควบคมุ ศตั รพู ชื อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ มีข้ันตอนดงั น้ี 3.1 ตองศกึ ษาชนดิ ของศตั รพู ชื ในแปลงปลกู นน้ั ๆ กอ น 3.2 สํารวจสถานการณศ ตั รพู ชื ในแปลงปลกู 3.3 พิจารณาแนวโนม การระบาดของศตั รพู ชื แลว จงึ หาแนวทางปอ งกนั และกําจดั ตอ ไป 3.4 เม่ือควบคมุ การระบาดใหอ ยใู นระดบั ทไ่ี มก อ ใหเ กดิ ความเสยี หายมากขน้ึ แลวใหเ ลอื กใชว ิธี การท่ีเหมาะสมเพอ่ื ลดปรมิ าณ หรือรกั ษาระดบั การเขาทําลายใหค งทห่ี รอื ลดลง 3.5 ในกรณที ไ่ี มส ามารถควบคมุ สถานการณศ ตั รพู ชื ดว ยวธิ การอน่ื ๆ ได มคี วามจําเปน ทจ่ี ะตอ ง ใชสารเคมีใหเลือกใชสารเคมีที่ถูกตองเหมาะสมกับชนิดศัตรูพืชและการระบาดตามคําแนะนําวิธีการใช ในฉลาก 4. ผลดีของการปอ งกนั และกําจดั ศตั รพู ชื โดยวธิ ผี สมผสาน 4.1 ลดปริมาณศัตรูพืชใหตํ่ากวาระดับที่จะกอใหเกิดความเสียหายแกพืช 4.2 ลดปริมาณการใชส ารเคมปี อ งกนั และกําจัดศัตรูพืช 4.3 มีความปลอดภยั ตอ สขุ ภาพของเกษตรกรผบู รโิ ภครวมไปถงึ สภาพแวดลอ ม

การปลูกผักปลอดภยั จากสารพิษ ❀ 4 5. วิธกี ารผสมผสานในการควบคมุ ศตั รพู ชื จะเปน การนําเอาวธิ กี ารปอ งกนั และกําจดั ศตั รู พืชหลายวิธีมาประยุกตใชรวมกัน โดยวิธีการปลกู ผักปลอดภัยจากสารพิษนี้มีขอแนะนําใหเกษตรกร เลือกใชวิธีการปอกกันและกําจัดศัตรูพืช ทดแทนการใชสารเคมี ดงั น้ี 5.1 การเตรยี มแปลงปลกู 5.2 การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ 5.3 การปลกู และการดแู ล 5.4 การใหธ าตอุ าหารเสรมิ 5.5 การใชกับกัดกาวเหนียว 5.6 การใชกับดักแสงไฟ 5.7 การใชพลาสตกิ หรอื ฟางขา วคลมุ แปลงปลกู 5.8 การปลูกผักในโรงเรอื นมงุ ตาขา ยไนลอ น 5.9 การควบคุมโดยชีววิธี 5.10 การใชสารสกัดจากพืช 5.11 การใชส ารเคมปี อ งกนั และกําจัดศัตรูพืช (กรณที ีใ่ ชว ิธีการปอ งกันและกําจดั ศตั รพู ชื ขา ง ตนไมไ ดผ ล) การเตรยี มแปลงปลกู เน่ืองจากเมล็ดพืชผักสว นใหญมขี นาดเลก็ มรี ะบบรากละเอยี ดออ น ถา เกษตรกรเตรยี มดนิ ไมด ี กอาจมีผลกระทบตอ การงอกของเมลด็ และการเจรญิ เตบิ โตของพชื ผกั ได ดงั นน้ั กอ นการปลกู พชื ควรมี การปรับสภาพดนิ ใหเ หมาะสมเสยี กอ น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีการปลูกผักหรือพืชชนิดอื่นโดยการ ปลอยน้ําใหท ว มแปลงแลว สบู ออก เพอื่ ใหนํ้าชะลา งสารเคมแี ละกําจดั แมลงตา งๆ ทอ่ี าศยั อยใู นดนิ แลว จึงทําการไถพลกิ หนา ดนิ ตากแดดไว เพื่อทาํ ลายเชอ้ื โรคและแมลงศตั รทู อ่ี าศยั อยใู นดนิ อกี ครง้ั จากนน้ั เกษตรกรควรจะปรบั สภาพความเปน กรดเปน ดา งของดนิ ใหอ ยใู นสภาพทเ่ี ปน กลาง โดยใชป นู ขาว ปนู มารล หรือ แรโดโลไมท อตั รา 200-300 กิโลกรัม/ไร แลว รดน้ําตามหลงั จากการใสป นู ขาวเพอ่ื ปรับสภาพดินที่เปนกรดใหเปนกลางนอกจากน้ีควรเพิ่มความอุดมสมบรู ณข องดนิ ดว ยการใสป ยุ อนิ ทรยี  เชน ปยุ คอก ปุยหมัก ในอตั รา 1,000-2,000 กิโลกรัม/ไร ซึ่งจะชวยใหตนพืชผักมีความแข็งแรง สามารถตา นทานตอ การเขา ทําลายของโรคและแมลงได โรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน

การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ❀ 5 การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ กอนนําเมล็ดพันธุผักไปปลูกในแปลงปลูกหรือแปลงกลาเกษตรกรควรทําความสะอาดเมล็ด พันธุกอน ตามขน้ั ตอนดงั น้ี 1. คดั แยกเมลด็ พนั ธุ โดยการคดั เมลด็ ทเ่ี สยี เมล็ดวัชพืชที่มีอยูปะปน และสง่ิ เจอื ปนตา งๆ ออก 2. แชเมล็ดพันธุในนํ้าอนุ ที่อุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซยี สเปน เวลา 15-30 นาที จะชวย ลดปริมาณเช้ือโรคทต่ี ดิ มากบั เมลด็ พนั ธแุ ละยงั กระตนุ การงอกของเมลด็ อกี ดว ย 3. ในพ้ืนที่ที่มีการระบาดของโรครานํ้าคา ง และโรคใบจดุ ควรคลกุ เมลด็ พนั ธดุ ว ยสารเคมี เชน เมทาแล็กซิน 35 เปอรเ ซน็ ต SD (เอพรอน) และไอโปรไดโอน (รอฟรัล) อตั รา 10 กรัม / เมลด็ พันธุ 1 กิโลกรัม การปลกู และการดแู ล การเลือกวิธีการปลูก ระยะปลกู เปน เทา ใดนน้ั จะขน้ึ อยกู บั ชนดิ ของพชื ผกั ทเ่ี กษตรกรเลอื กปลกู แตมีขอแนะนํา คอื เกษตรกรควรปลูกผักใหมีระยะหางพอสมควร อยา ใหแ นน จนเกนิ ไป เพอื่ ใหม ีการ ระบายอากาศที่ดี เปน การปรบั สภาพแวดลอ มไมใ หเ หมาะสมตอ การระบาดของโรค นอกจากนค้ี วรหมน่ั ตรวจแปลงอยเู สมอ โดยอาจเลอื กสํารวจเปน จดุ ๆ ประมาณ 10-20 จุด/ไร ถา พบวา มกี ารระบาดของ โรคและแมลงในระดับที่กอใหเกิดความเสียหายแกพืชผักนั้น กค็ วรดําเนนิ การกําจัดโรคและแมลงที่พบ ทันที การสมุ ตรวจนบั โรคและแมลง การใหธ าตอุ าหารเสรมิ แกพ ชื จะมีความจําเปน ตอ พชื ผกั ในบางชนดิ เทา นน้ั ทง้ั นเ้ี พอ่ื สรา งความตา นทานโรคใหแ กพ ชื นน้ั เชน พืชในตระกูลกะหล่ําจะตอ งการธาตโุ บรอนเพอ่ื สรา งความตา นทานโรคไสก ลวงดํา มะเขอื เทศจะตอ งการ ธาตุแคลเซยี มเพอ่ื สรา งความตานทานโรคผลเนา เปน ตน

การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ❀ 6 การใชก บั ดกั กาวเหนยี ว กับดักกาวเหนียวนม้ี คี ณุ สมบตั ไิ มม สี ี ไมม กี ลน่ิ และไมม พี ษิ ตอ สง่ิ แวดลอ ม จะใชใ นการควบคมุ ปริมาณตัวเต็มวัยของแมลงศตั รพู ชื ไดห ลายชนดิ เชน เพลี้ยไฟ แมลงวนั เจาะผล แมลงวนั ของหนอนชอน ใบ ผีเสื้อกลางวันชนิดตางๆ ทง้ั ของหนอนคบื และหนอนใย เปน ตน โดยทั่วไปมักจะนิยมใชกาวเหนียวมา ทาบนวัสดุท่ีมีสีเหลอื ง เชน แผนพลาสติก หรอื กระปอ งน้ํามนั เครอ่ื ง เนอ่ื งจากแมลงมกั ชอบสเี หลอื งโดย กับดักน้ีจะใชลอ แมลงใหบ นิ มาตดิ กาวเหนยี วทท่ี าไวส ําหรบั การตดิ ตง้ั นน้ั ควรตดิ ตง้ั กบั ดกั ในแปลงผกั ให สูงประมาณ 30 เซนตเิ มตร หรอื สงู กวา ยอดตน ผกั เมอ่ื เจรญิ เตบิ โตเตม็ ทแ่ี ลว โดยจะใชกับดักประมาณ 60-80 กับดัก/พื้นที่ 1 ไร ในชว งทม่ี กี ารระบาดมาก (ฤดรู อ น, ฤดฝู น) สว นในฤดหู นาวมกี ารระบาด นอ ย อาจใชเพียง 15-20 กบั ดกั /ไร วิธีการทํากาวเหนยี ว วสั ดทุ ใ่ี ชป ระกอบดว ย 1. นา้ํ มนั ละหงุ 550 ซีซี 2. นา้ํ มนั ยางสน 380 กรัม 3. ไขคารน วั วา (Canova wax) 60 กรัม ข้ันแรกเคี่ยวน้ํามนั ระหงุ จนเดอื ดแลว จงึ เตมิ น้ํามนั ยางสนและไขคารน วั วาลงไป คนชา ๆ ใหเ ขา กันดีแลวจึงยกออกจากเตา ตง้ั ทง้ิ ไวใ หเ ยน็ กอ นนําไปใชเ ปนกบั ดกั กาวเหนียวตอไป กบั ดกั กาวเหนยี ว การใชก บั ดกั แสงไฟ เปน การใชแ สงไฟจากหลอดฟลูออรเรสเซนต (หลอดนอี อน) หรือหลอดไฟแบล็คไลท ลอ แมลง ในเวลากลางคนื เชน ผีเสื้อ หนอน กระทูหอม หนอนกระทูผัก ใหม าเลน ไฟและตกลงในภาชนะทบ่ี รรจุ น้ํามันเครอ่ื งหรอื น้ําทร่ี องรบั อยดู า นลา ง การตดิ ตง้ั กบั ดกั และแสงไฟจะตดิ ตง้ั ประมาณ 2 จุด/พื้นที่ 1 ไร โดยติดต้ังใหสูงจากพ้ืนดินประมาณ 150 เซนติเมตร และใหภาชนะที่รองรับอยูหางจากหลอดไฟ 30 เซนติเมตรและควรปด สว นอน่ื ๆ ที่จะทําใหแ สงสวา งกระจายเปน บรเิ วณกวา งเพอ่ื ลอ จบั แมลงเฉพาะ ในบริเวณแปลง มใิ ชล อ แมลงจากทอ่ี น่ื ใหเ ขา มาในแปลง

การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ❀ 7 การใชก บั ดกั แสงไฟ การใชพ ลาสตกิ หรอื ฟางขา วคลมุ แปลงปลกู เปนการควบคมุ ปรมิ าณวชั พชื และเกบ็ รกั ษาความชน้ื ในดนิ ไวไ ดน าน ทําใหประหยัดนํ้าที่ใชรด แปลงผัก การใชพ ลาสตกิ หรอื ฟางขา วคลมุ แปลงปลกู น้ี ควรใชกับพืชผักที่มีระยะปลูกแนนอน ในแปลง ท่ีพบการระบาดของโรคทม่ี เี ชอ้ื ไวรัสเปนสาเหตุ และมเี พลย้ี ออ นหรอื แมลงเปน พาหะ แนะนําใหใช พลาสติกที่มีสีเทา-ดํา โดยใหด า นทม่ี สี เี ทาอยดู า นบน เนื่องจากสีเทาจะทําใหเกิดจากสะทอนแสง จึงชวยไลแมลงพาหนะได การใชพ ลาสตกิ หรือฟางขา วคลุกแปลงปลูก การปลกู ผกั ในโรงเรอื นมงุ ตาขา ยไนลอ น พ้ืนที่ที่จะใชปลกู ผักในโรงเรือน ควรเปน พน้ื ทท่ี ส่ี ามารถปลกู ผกั ไดอ ยา งตอ เนอ่ื ง ไมน อ ยกวา 3 ป เพ่ือจะไดคมุ คา ตอ การสรา งโรงเรอื นและการใชต าขา ยไนลอ น โครงสรา งของโรงเรอื นอาจทําดว ย เหล็กหรือไมกไ็ ด ขน้ึ อยกู บั เกษตรกรวา ตอ งการจะใชพ น้ื ทน่ี ป้ี ลกู ผกั นานเทา ใด สว นตาขา ยทใ่ี ชน น้ั จะใช มุงตาขายไนลอ นทม่ี ขี นาด 16 ชอ งตอ ความยาว 1 นว้ิ โดยมงุ สขี าวมคี วามเหมาะสมกบั การปลกู ผกั เน่ืองจากแสงผา นไดเ กอื บปกติ สว นมงุ สฟี า ไมค อ ยเหมาะสม เนอ่ื งจากแสงผา นไดเ พยี งรอ ยละ 70 เทา นน้ั

การปลูกผักปลอดภยั จากสารพิษ ❀ 8 การปลูกผักในโรงเรอื นมงุ ตาขา ยน้ี จะไมส ามารถปอ งกนั แมลงศตั รพู ชื ผกั ไดท กุ ชนดิ มีเพียง หนอนผีเสื้อและดวงหมัดผัก เทา นน้ั ทส่ี ามารถปอ งกนั ได สว นเพลย้ี ออ น เพลี้ยไฟ หนอนแมลงวนั ชอบ ใบแมลงหวี่ขาวและไร ซง่ึ เปน แมลงขนาดเลก็ จะไมส ามารถปอ งกนั ไดร อ ยเปอรเ ซน็ ต ซ่งึ ถา หากใชมงุ ไน ลอนที่มีความถี่เพิ่มขึ้นเปน 24 และ 32 ชอ งตอ นว้ิ แลว จะปอ งกนั ได แตอ าจมปี ญ หาเรอ่ื งอณุ หภมู แิ ละ ความชน้ื ภายในมงุ ขอควรระวงั สําหรบั การปลกู ผกั ในโรงเรอื นมงุ ตาขา ย ❖ อยาใหมีหนอนผีเสื้อหรือหนอนตางๆ หลดุ เขา ไปในโรงเรอื นได เพราะหนอนตา งๆ เหลา น้ี จะสามารถขยายพนั ธไุ ดอ ยา งรวดเรว็ ❖ ในการยายกลา จะตอ งตรวจดกู ลา ผกั อยา ใหม ไี ขต วั หนอนหรอื ดกั แดต ดิ เขา ไปในโรงเรอื น ❖ ควรดูแลอยา ใหม งุ ตาขา ยชํารดุ ฉดี ขาด เพราะอาจทําใหด ว งหมดั ผกั เลด็ ลอดเขา ไปได อาจจะ มีการรองดวยผาหรือแผนยางบริเวณที่มีการเสียดสีระหวางตาขายกับโครงสรา งเพอ่ื ปอ งกนั การฉดี ขาด ❖ มุงตาขายจะตอ งปด มดิ ชดิ ตลอดเวลา และควรทําประตเู ปน แบบสองชน้ั ❖ การปลูกผักในโรงเรือนมงุ ตาขา ยไมส ามารถปอ งกนั แมลงขนาดเลก็ ได ดงั นน้ั จึงอาจจะตอง ใชวิธีการกําจดั ศตั รพู ชื อน่ื ๆ รว มดว ย ❖ ผักท่ีปลกู ไดใ นมงุ ตาขา ยไนลอ น ประเภทกินใบ ไดแ ก คะนา ผกั กาดขาว กวางตงุ ฮอ งเต ตง้ั โอ ปวยเลง ขน้ึ ฉา ย เปน ตน ประเภทกินดอก ไดแก กะหลํ่าดอก บลอ็ กโคล่ี เปน ตน ประเภทกินฝกและผล ไดแก ถั่วฝกยาว มะเขอื เปราะ ถว่ั ลนั เตา เปน ตน การควมคมุ โดยชวี วธิ ี เปน การใชส ง่ิ มชี วี ติ ควบคมุ ศตั รพู ชื ซึ่งไดแก แมลง ตัวหํ้า ตัวเบียน ที่ทําลายแมลงศตั รพู ชื ชนดิ อ่ืน หรอื อาจใชส ง่ิ มชี วี ติ เลก็ ๆ เชน เชอ้ื บกั เตรี เชอ้ื ไวรัส เชื้อรา ไสเ ดอื นฝอย เปน ตน ในการควบคมุ ซง่ึ มี รายละเอียด ดงั น้ี เชื้อบักเตรี ท่ีนิยมใชใ นการควบคมุ แมลง คอื เชื้อบีที (BT) โดยแมลงทไ่ี ดร บั เชอ้ื บกั เตรชี นดิ น้ี เขาไปแลว น้าํ ยอ ยในลําไสข องแมลงจะละลายผลกึ ของเชอ้ื บกั เตรี ทําใหเกิดสารพิษทําลายระบบยอ ย อาหารและอวยั วะของแมลง ทาํ ใหข ากรรไกรแข็ง กนิ อาหารไมไ ด เคลอ่ื นไหวชา ลง และตายไปในที่สุด เช้ือบักเตรที ม่ี ขี ายเปน การคา จะมี 2 กลมุ คอื 1. Kurstaki ไดแก แบคโทรฟนเอชพี ดับเบิ้ลยูพี, เซ็นทารี่ยูดีจี มีประสิทธิภาพในการกําจัด หนอนในผกั หนอนกระทหู อม และหนอนคบื กะหล่ํา 2. Aizawai ไดแก ฟลอรแบค เอชพี, ฟลอรแบค เอฟซี, ธรู ไี ซด เอชพี มีประสิทธิภาพในการ กาํ จดั หนอนใยผกั และหนอนคบื กะหล่ํา เทา นน้ั

การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ❀ 9 ดังน้ัน การที่จะใชเชื้อบักเตรีใหไดผล ควรเลอื กชนดิ ของเชอ่ื ใหต รงกบั แมลงศตั รู และควรฉดี พนเม่ือหนอนยงั เปน ตวั ออ นอยู หลกี เลย่ี งแสงในขณะฉดี พน และไมค วรใหน้ําหลงั จากฉดี พน เชอ้ื บกั เตรี แลว เชื้อไวรัส เชอ้ื ไวรัสทใ่ี ชใ นการควบคมุ คอื เอน็ พวี ี (NPV) โดยใชใ นการกําจดั หนอนหลอดหอมหรอื หนอน หนงั เหนยี ว ซง่ึ เชอ้ื ไวรัสชนิดนจ้ี ะเขา ไปทําลายระบบตา งๆ ของรา งกาย ทาํ ใหหนอนลดการกินอาหาร เคลอ่ื นไหวชา ลําตัวมสี ซี ดี ลง มจี ดุ สขี นุ หรอื สม แลวจะใชขาเทียมเกาะที่ตนพืชหอยหัวลงมาตายในที่สุด เชื้อรา ท่ีใชใ นการควบคุม คอื ไตรโครเดอรมาจะควบคมุ เชอ้ื สาเหตขุ องโรครากเนา โคนเนา เนา คอดนิ ของมะเขือเทศและผักกาดหัว โดยจะใชเชื้อราผสมกับรําขา วและปุยหมกั ในอตั รา 1:10:40 แลว ใชร อง กนหลมุ หรอื โรยรอบโคนตน ไสเ ดอื นฝอย จะชวยควบคมุ ดว งหมดั ผกั โดยชอนไชเขา สรู ะบบเลอื ดหรอื กระเพาะอาหาร เมอ่ื เขา ไปแลว จะถกู ยอยทําลาย จากนน้ั จะปลดปลอ ยเชอ้ื บกั เตรที เ่ี ปน อนั ตรายตอ แมลงออกมา ทําใหแ มลงตายในทส่ี ดุ ใน การใชไสเดือนฝอยนั้น เกษตรกรควรเก็บรักษาไวในที่เย็น และใชไ สเ ดอื นฝอยในการควบคมุ หลงั จาก การใหนํ้าแกต น พชื ชว งเวลาเยน็ ๆ เนือ่ งจากไสเ ดือนฝอยจะไมท นทานตอสภาพที่แหงแลง หรือถูกแสง แดด การใชส ารสกดั จากพชื พืชท่ีนิยมนํามาใชส กดั เปน สารควบคมุ โรคและแมลง คอื สะเดา เนอ่ื งจากในสะเดามสี าร อะซาดแิ รคตนิ (Azadirachtin) ซ่ึงมีคุณสมบตั ชิ ว ยในการปอ งกนั และกําจดั แมลงไดโ ดย • สามารถใชฆ า แมลงไดบ างชนดิ • ใชเ ปน สารไลแ มลง • ทาํ ใหแ มลงไมก นิ อาหาร • ทําใหก ารเจรญิ เตบิ โตของแมลงผดิ ปกติ • ยับย้ังการเจรญิ เตบิ โตของแมลง • ยับย้ังการวางไขแ ละการลอกคราบของแมลง • เปน พษิ ตอ ไขข องแมลง ทําใหไขไมฟก • ยับย้ังการสรา งเอนไซมใ นระบบยอ ยอาหารของแมลง วธิ กี ารใช คือ นําเอาผลสะเดาหรอื สะเดาทบ่ี ดแลว 1 กิโลกรัม แชใ นน้ํา 20 ลติ ร ทง้ิ คา งคนื ไว 1 คืน แตถา เกษตรกรมเี ครอ่ื งกวนสว นผสมดงั กลา ว กจ็ ะลดเวลาเหลอื เพยี ง 3-4 ชั่วโมง จากนน้ั กรอง เอาแตน ้ํามาผสมดว ยสารจบั ใบประมาณ 1 ชอ นโตะ แลวนําไปรดพืชผักทันที สว นกากของสะเดาทเ่ี หลอื ใหนําไปโรยโคนตน เพอ่ื ปรบั ปรงุ สภาพดนิ และกําจดั แมลงในดนิ ไดอ กี ดว ย

การปลูกผักปลอดภยั จากสารพิษ ❀ 10 ขอ ควรระวงั พืชบางชนิดเมอ่ื ไดร บั สารนแ้ี ลว อาจเกดิ อาการใบไหมเ หย่ี วยน หรอื ตน แคระ แกร็น ดังน้ีเมอ่ื พบอาการตา งๆ เหลา น้ี ก็ควรจะงดใชสารสกัดจากสะเดาทันที ชนิดของแมลงทส่ี ามารถกําจดั ไดด ว ยสะเดา 1. ชนิดที่ใชแลวไดผลดี ไดแก หนอนใยผัก หนอนหนังเหนยี ว หนอนกระทชู นดิ ตา งๆ หนอน กัดกินใบ หนอนเจาะยอด หนอนชอนใบ หนอนมว นใบ หนอนหัวกระโหลก 2. ชนิดทใ่ี ชแ ลว ไดผ ลปานกลาง ไดแก เพลี้ยจักจั่น หนอนเจาะ สมอฝา ย หนอนตน กลา ถว่ั แมลงหวี่ขาว แมลงวันทอง เพลี้ยไกแจ เพลย้ี ออ น 3. ชนิดท่ีใชแ ลว ไดผ ลนอ ย ไดแก หนอนเจาะฝก ถว่ั เพลี้ยไฟ ไรแดง มวนและดว งชนดิ ตา งๆ พชื ผักที่ใชสารสกัดจากสะเดาไดผล ไดแก ผักคะนา กวาง ผักกาดหอม กะหลํ่าปลี กะหลํ่าดอก แตงกวา แตงโม แตงเทศ มะเขอื เทศ มะเขอื ยาว หนอ ไมฝ รง่ั ขา วโพดออ น พรกิ ขห้ี นู ตําลงึ มะนาว มะกรดู การใชส ารแคมปี อ งกนั และกําจดั ศตั รพู ชื จากขอมูลท่ีไดกลา วมาแลว ขา งตน ในการปฏบิ ตั จิ รงิ ของเกษตรกรนน้ั เกษตรกรตอ งหมน่ั ตรวจ แปลงปลูกพืชของตนอยา งสม่ําเสมอ เพอ่ื เปน การพยากรณส ถานการณข องศตั รพู ชื ในแปลงของตน เมอ่ื ทราบสถานการณแลวจึงพิจารณาเลือกใชวิธีการปองกนั และกําจัดที่เหมาะสม แตใ นกรณที ไ่ี มส ามารถ ควบคุมหรือไมมวี ธิ กี ารควบคมุ ใดทใ่ี ชไ ดผ ลแลว เกษตรกรอาจใชส ารเคมใี นการควบคมุ ศตั รพู ชื นน้ั ๆ ได โดยพิจารณาจาก 1. เปนสารเคมที เ่ี หมาะสมกบั ศตั รพู ชื ชนดิ นน้ั 2. สารเคมนี น้ั สลายตวั ไดเ รว็ 3. ใชใ นอตั ราทเ่ี หมาะสมตามคําแนะนํา 4. เวน ระยะการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ตามคําแนะนํา ท้ังนี้เพ่ือไมกอใหเกิดอันตราย หรือมีสารพิษตกคางในพืชผักนั้น และมีความปลอดภัยตอ ผูบริโภคอีกดวย จดั ทาํ เอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook