Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วอลเลย์บอล

วอลเลย์บอล

Published by benjawan_ked17, 2022-01-05 07:31:09

Description: ประวัติ กติกา มารยาท และประโยชน์กีฬาวอลเลย์บอล

Keywords: 004

Search

Read the Text Version

1

2 ประวตั ิกฬี าวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) น้ัน ถือกาเนิดข้ึนต้ังแต่ปี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อานวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ท่ีต้องการมีกีฬาสาหรับเล่นในช่วงฤดู หนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพือ่ ออกกาลังกายและพกั ผ่อนหยอ่ นใจยามหมิ ะตก โดย นายวิลเลียม จี. มอรแ์ กน เกิดไอเดียในการพฒั นากีฬาวอลเลยบ์ อลขึ้น ขณะท่ีเขากาลังนั่ง ดูเทนนิส และเลือกนาเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็นส่วนประกอบในกีฬาท่ีเขาคิดค้น และเลอื กใชย้ างในของลูกบาสเกต็ บอล มาเปน็ ลกู บอลท่ีใชต้ โี ตต้ อบกนั ไปมา แต่ยางในของลกู บาสเก็ต บอลกลบั ให้น้าหนกั เบาจนเกนิ ไป จึงเปล่ียนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่งลูกบาสเกต็ บอลกม็ ขี นาดใหญ่ และน้าหนักมากจนเกินไปอีก เขาจึงสั่งทาลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 น้ิว และกาหนดนา้ หนักไว้ท่ี 8-12 ออนซ์ จากน้นั จงึ ตงั้ ชือ่ กีฬาชนดิ น้ีว่า มินโทเนตต์ (Mintonette) ต่อมา ช่ือของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลัง ได้รับคาแนะนาจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงาน ประชุมสัมมนาผู้นาทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) เม่ือปี ค.ศ.1896 (พ.ศ. 2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปท่ัวโลก รวมท้ังมี การปรบั ปรงุ และพฒั นาอยู่เป็นระยะ ประวัติวอลเลยบ์ อลในประเทศไทย วอลเลยบ์ อลไดแ้ พรห่ ลายเขา้ มาในไทย ตั้งแตเ่ มอ่ื ใดไม่มีหลักฐานยนื ยันแน่ชดั เพียงแต่ทราบกัน ว่าในระยะแรก ๆ เป็นท่ีนิยมเล่นกันในหมู่ชาวจีนและชาวญวนมาก จนกระทั่งมีการแข่งขันระหว่าง คณะ ชมุ ชน สโมสร และสมาคมข้นึ บางครัง้ ตดิ ต่อแขง่ ขนั กันไปในภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ และมกี ารแขง่ ขนั ชิงถว้ ยทองคาทางภาคใต้ ปี พ.ศ. 2477 กรมพลศึกษาได้จัดพิมพ์กติกาวอลเลย์บอลข้ึน โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณ เปน็ ผู้แปล และทา่ นเป็นผู้เชย่ี วชาญในกฬี าวอลเลย์บอลเป็นอย่างยิง่ จงึ ได้รับเชิญเปน็ ผ้บู รรยายเกี่ยวกับ เทคนคิ วธิ กี ารเลน่ ตลอดจนกตกิ าการแข่งขนั วอลเลยบ์ อล แกบ่ รรดาครูพลศึกษาทวั่ ประเทศในโอกาสที่ กระทรวงศกึ ษาไดเ้ ปดิ อบรมขน้ึ ในปนี ้เี องกรมพลศึกษาได้จดั ให้มีการแขง่ ขนั กฬี าประจาปขี ้นึ และบรรจุกฬี าวอลเลยบ์ อลหญงิ เข้าไว้ในรายการแขง่ ขันเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งในหลักสตู รของโรงเรียนพลศึกษากลางไดก้ าหนดวชิ า บังคับให้นักเรียน หญิงเรียนวิชาวอลเลยบ์ อลและเนตบอล สมัยนน้ั มี น.อ.หลวงสุภชลาศัย ร.น. ดารง ตาแหนง่ อธบิ ดีกรมพลศึกษา

3 จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2500 ไดม้ กี ารจดั ตั้ง “สมาคมวอลเลยบ์ อลสมคั รเลน่ แหง่ ประเทศไทย” (Amature Volleyball Association of Thailand) โดยมวี ัตถุประสงค์เพื่อสนับสนนุ และเผยแพรก่ ีฬา วอลเลย์บอลให้เจริญรดุ หนา้ และดาเนนิ การจดั การแข่งขนั วอลเลย์บอลในระบบ 6 คน มหี น่วยราชการ อืน่ ๆ จัดการแขง่ ขนั ประจาปี เชน่ กรมพลศึกษา กรมการคณะกรรมการกฬี ามหาวทิ ยาลยั เทศบาล นครกรงุ เทพฯ สภากีฬาทหาร ตลอดจนการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ได้มีการจดั แข่งขันทั้ง ประเภททมี ชายและทมี หญิงประจาปที ุกปี กติกาวอลเลยบ์ อล การชมกีฬาวอลเลย์บอล หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจกติกาวอลเลย์บอลมากนักการวนหน้าที่ ของนักกีฬาในสนาม การเสิร์ฟ การเล่นจังหวะในแต่ละแดน เป็นต้น เราจึงมีกฎกติกาการแข่งขัน วอลเลยบ์ อลมาฝากกนั เพื่อการชมกีฬาวอลเลยบ์ อลให้สนกุ และได้อรรถรสในการชมมากยิง่ ขึน้ ขนาดสนามวอลเลย์บอล • จะตอ้ งเป็นพืน้ ไมห้ รอื พน้ื ปูนทีม่ ีลักษณะเรยี บ ไม่มสี ิง่ กดี ขวาง • เป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณ โดยรอบหา่ งจากสนามประมาณ 3 เมตร • แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กาหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังหา่ ง 8 เมตร และมีความสงู 12.5 เมตร • เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเสน้ จะตอ้ งกวา้ ง 5 เซนตเิ มตร เปน็ สีออ่ นตัดกบั พื้นสนาม มองเหน็ ได้ชัดเจน • เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ท่ีอยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตา ข่ายพอดี ตาข่าย • จะตอ้ งมีความสูงจากพืน้ 2.43 เมตร กวา้ ง 1 เมตร ยาว 9.5 – 10 เมตร • ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนตเิ มตร ผู้ตดิ ไวก้ บั เสากลางสนาม • ตาข่ายสาหรบั ทมี หญิงสูง 2.24 เมตร

4 ลูกวอลเลยบ์ อล • เป็นทรงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้าหนกั 260-280 กรัม • ทาจากหนังสังเคราะห์ท่ยี ดื หยุ่นได้ • ซ่ึงในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออก นอกสนาม ผเู้ ล่น • ในทีมจะต้องมผี ูเ้ ลน่ ไมเ่ กิน 12 คน ผฝู้ ึกสอน 1 คน ผชู้ ่วยผูฝ้ ึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และ แพทย์ 1 คน • ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้คร้ังละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน • สามารถเปล่ียนตัวผู้เล่นคร้ังละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมท่ีถูกเปล่ียนออก สามารถเปล่ียนกลับมา เลน่ ในสนามได้อกี • การแตง่ กายในชุดแขง่ ขัน ตอ้ งแตง่ กายเหมอื นกันท้ังทีม ประกอบไปดว้ ย เสอ้ื สวมคอ กางเกงขา ส้ัน ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพ้ืนยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกากับไว้ท่ี เส้ือ กาหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สาหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8×2 เซนติเมตร ติดอยใู่ ต้หมายเลขบริเวณอกเส้อื ดว้ ย การคิดคะแนนกีฬาวอลเลย์บอล • ทีมจะได้คะแนนเมื่อลูกบอลตกลงในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเป็นลูกละ 1 คะแนน และหากมกี ารเสยี คะแนน จะต้องเปลย่ี นใหท้ มี ทีไ่ ด้คะแนนเปน็ ผู้เสริ ์ฟ • หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอ กันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทาคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถงึ จะเปน็ ผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นตน้ • ต้องแขง่ ขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเปน็ ผู้ชนะในเกมนั้น วธิ กี ารเลน่ วอลเลยบ์ อล • ทีมที่ได้เสิร์ฟ จะต้องให้ผู้เล่นที่อยู่ในตาแหน่งขวาหลัง เป็นผู้เสิร์ฟเพื่อเปิดเกม จากน้ันผู้เล่นทุก ตาแหน่งจะขยับตาแหนง่ วนไปตามเขม็ นาฬกิ า

5 • การเสริ ์ฟจะต้องรอฟงั สญั ญาณนกหวดี ก่อน และให้เริ่มเสิรฟ์ ลกู บอลภายใน 5 วนิ าที • ทมี ทไ่ี ด้คะแนนจะเปน็ ผไู้ ดเ้ สริ ฟ์ จนกวา่ จะเสยี คะแนนให้ฝา่ ยตรงข้ามจงึ จะเปล่ยี นเสิร์ฟ • เมื่อลกู เข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเลน่ บอลได้มากทีส่ ุด 3 ครั้งเท่านั้น • สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามท่ีหน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้าเข้าไปในแดนของฝ่าย ตรงขา้ มจะถือวา่ ฟาวล์ • สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครง้ั ต่อ 1 เซต ใหเ้ วลาครงั้ ละ 30 วนิ าที • ทกุ ครง้ั ท่แี ข่งขนั จบ 1 เซต จะตอ้ งมีการเปลีย่ นฝ่งั มารยาทที่ดขี องผเู้ ลน่ กีฬาวอลเลย์บอล การเล่นกีฬาทุกชนิดมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิตให้เจริญเติบโตได้อย่างมี ประสิทธิภาพ การเล่นกีฬาจะช่วยให้ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน ลดความตึงเครียด เป็นการใช้ เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ กีฬาวอลเลย์บอลก็มีจุดประสงค์เช่นเดียวกัน แต่ท้ังน้ีท้ังน้ันผู้เล่นจะพบ ความสาเร็จตามจดุ มุง่ หมายได้ ก็ควรจะต้องมมี ารยาทในการเลน่ กฬี าวอลเลย์บอลทีด่ ี ดังต่อไปนี้ 1. แต่งกายให้เหมาะสม และใสเ่ ครอ่ื งแบบชดุ กีฬาของทีมตนใหถ้ กู ต้อง เมือ่ เข้าร่วมการแขง่ ขนั 2. เลน่ และปฏบิ ัติตนตามกตกิ าอย่างเครง่ ครัด 3. เลน่ อยา่ งมมี ารยาทต่อผ้เู ลน่ ทุกคนและทุกฝ่าย 4. ให้เกียรติตอ่ ผเู้ ล่นฝ่ายตรงกนั ข้าม 5. ใหเ้ กียรติตอ่ ผ้ชู มตลอดจนเจา้ หน้าทีผ่ ู้เกีย่ วข้องทกุ ฝา่ ย 6. ไม่แสดงกิริยาทไ่ี มส่ ุภาพ และพดู จาโตเ้ ถียง กา้ วรา้ วตอ่ ผูอ้ น่ื 7. ใจคอหนกั แน่น อดทนอดกล้นั รูจ้ ักควบคุมอารมณเ์ ม่ือเกิดโทสะได้ 8. ผเู้ ล่นต้องยอมรับ และเคารพคาตัดสนิ ของผูต้ ดั สนิ 9. ผเู้ ล่นต้องเชือ่ ฟัง เคารพคาส่ังของหัวหนา้ ทมี และผู้ฝึกสอน 10. ปฏบิ ัติหน้าท่ีอยา่ งดที ีส่ ุดเต็มความสามารถของตน 11. เมอ่ื ชนะกไ็ ม่ควรดใี จจนเกินไป และไม่ทับถม เยาะเย้ยฝา่ ยที่แพ้ 12. เม่อื แพ้กไ็ มเ่ สยี ใจจนเกนิ ไป คน้ หาจุดดอ้ ยของตนเอง และปรับปรุงพฒั นาตนเองใหด้ ยี งิ่ ขน้ึ 13. รู้จักให้อภัย ไม่ติเตียนกล่าวโทษเพ่ือนร่วมทีม และถึงแม้เพ่ือนร่วมทีมจะทาผิดพลาดก็ไม่ควรแสดง อาการไม่พอใจ 14. ไม่สร้างความเดือดรอ้ น ราคาญใจให้กับผอู้ ่ืน

6 มารยาทท่ดี ีของผดู้ ูกีฬาวอลเลยบ์ อล ผู้ดูกีฬาถือวา่ เปน็ ส่วนสาคญั สว่ นหนึ่งของกฬี าทุกประเภท ผู้ดูกีฬาชว่ ยให้ผ้เู ลน่ มีกาลงั ใจ ชว่ ยให้ เกมกฬี าตา่ ง ๆ มคี วามสนุกสนานมากข้ึน และมีความจาเป็นต่อการพัฒนาการกีฬาใหก้ ้าวหน้า ไมว่ ่าจะ เป็นการไปเชียร์เพ่ือให้กาลังใจทีมของตน หรือไปดูเพ่ือความเพลิดเพลินของตนและหมู่คณะ ผู้ดูที่ดีก็ ควรจะต้องปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม เพราะพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมนอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเอง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ดูกีฬาคนอ่ืน ยังทาให้เสียอรรถรสในการชมกีฬาของท้ังตนเองและผู้อื่นอีก ด้วย โดยมารยาททีด่ ที ีผ่ ูด้ กู ีฬาวอลเลย์บอลควรมี ได้แก่ 1. นั่งชมกฬี าดว้ ยความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ไม่ยนื กดี ขวาง หรอื เกะกะผูอ้ ่นื 2. ไม่ส่งเสียงดงั รบกวนผอู้ ืน่ และไมค่ วรส่งเสียงดงั รบกวนนกั กีฬา ในเวลาท่ีนกั กฬี าตอ้ งการสมาธิ 3. เมือ่ นกั กีฬาและผตู้ ดั สินลงสสู่ นาม ผูด้ คู วรปรบมือเพื่อเปน็ การใหเ้ กียรติ 4. หากผเู้ ล่นเล่นไดด้ ี ควรปรบมอื เพือ่ เปน็ การชมเชย และใหก้ าลังใจ 5. แมท้ ีมท่ชี นะจะไมใ่ ชท่ มี ของตนเอง ผดู้ ทู ด่ี ีควรปรบมือเพอ่ื แสดงความยินดี 6. ควรปรบมือใหน้ ักกีฬาทีย่ อมรับคาตัดสินของผู้ตดั สิน 7. ควรปรบมือให้กับผูต้ ดั สนิ ด้วย เมอ่ื ผู้ตดั สนิ ทาการตัดสินได้ถกู ตอ้ ง 8. ปรบมือใหผ้ ู้เล่น เมือ่ ผ้เู ลน่ ได้รบั การประกาศชื่อ หรอื ได้รับรางวลั 9. ไม่แสดงกิรยิ าโวยวาย พูดจาหยาบคาย ก้าวร้าว 10. ไม่โยนหรือขวา้ งปาสิ่งของลงไปในสนามแข่ง ใส่ผูเ้ ล่น รวมถงึ ผ้ตู ดั สินในสนาม 11. ไม่ทะเลาะวิวาทกบั ผเู้ ลน่ หรอื ผชู้ มคนอ่ืน 12. ไม่ทาตนเป็นผตู้ ัดสนิ หรอื แทรกแซงการตดั สนิ รวมท้ังการทางานของเจา้ หนา้ ท่ี 13. หากไปเป็นหมู่คณะ ควรน่ังรวมกันในกลุ่มของตนเชียร์กีฬาด้วยถ้อยคาสุภาพ ไม่เชียร์ในส่ิงที่เป็น การเสยี ดสใี นทางไม่ดตี อ่ ทมี ใดทีมหนง่ึ 14. ช่วยเหลือ ให้ความรว่ มมอื กับเจ้าหน้าท่ี กรณีเมอ่ื มเี หตุการณ์ทไ่ี มส่ งบเกดิ ขึ้น 15. ช่วยตักเตือน หา้ มปรามเม่ือหมคู่ ณะของตนเองกระทาผดิ 16. แต่งกายอย่างเหมาะสม ถกู กาลเทศะ 17. ไม่สูบบหุ ร่ี ไม่ดื่มเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ทกุ ชนดิ กอ่ นและขณะดกู ีฬา

7


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook