โครงงาน เรื่อง ลิปสติกจากดอกไม้

โครงงาน เร่ือง ลิปสติกจากดอกไม้ จดั ทาโดย นางสาวอธิชา ชาวแหลง เลขที่๑๕ ม.๕/๘ นางสาวปทุมพร หาญยทุ ธ เลขท่ี๒๐ ม.๕/๘ นางสาวนฤภร ชวายวงั เลขที่๓๒ ม.๕/๘ นางสาวองั คว์ รา ต้งั มณีกาญจน์ เลขที่๓๖ ม.๕/๘ นางสาวกนกวลยั ละขะไพ เลขท่ี๓๘ ม.๕/๘ คุณครูท่ีปรึกษา คุณครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ โครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต37

โครงงาน เรื่อง ลิปสติกจากดอกไม้ จดั ทาโดย นางสาวอธิชา ชาวแหลง เลขที่๑๕ ม.๕/๘ นางสาวปทุมพร หาญยทุ ธ เลขท่ี๒๐ ม.๕/๘ นางสาวนฤภร ชวายวงั เลขท่ี๓๒ ม.๕/๘ นางสาวองั คว์ รา ต้งั มณีกาญจน์ เลขที่๓๖ ม.๕/๘ นางสาวกนกวลยั ละขะไพ เลขท่ี๓๘ ม.๕/๘ คุณครูท่ีปรึกษา คุณครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ โครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต37

ก คานา เอกสารประกอบการเรียน โครงงาน เรื่อง ลิปสติกจากดอกไม้ จดั ทา ข้ึนเพอ่ื ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 เพอื่ ใหน้ กั เรียน สามารถคน้ ควา้ หาความรู้เพือ่ เพม่ิ ภูมิปัญญาความรู้ของตนเองในเร่ือง ลิปสติกจาก ดอกไม้ เกิดความเขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้ เกิดทกั ษะการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ในการแสวงหาความรู้ต่าง ๆ รวมท้งั การเรียนรู้เน้ือหาของโครงงาน เรื่อง ลิปสติก จากดอกไม้ ประกอบดว้ ย การคน้ ควา้ เอกสารประกอบโครงงาน ข้นั ตอนวธิ ีการ ทารวมไปถึงผลลพั ธ์ท่ีได้ ขา้ พเจา้ และคณะหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ โครงงาน เรื่อง ลิปสติกจากดอกไมจ้ ะเป็นประโยชน์ในการพฒั นาการเรียน สาหรับนกั เรียน และ เป็นแนวทางในการพฒั นางานแก่ผสู้ นใจ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

ข ช่ือโครงงาน : เร่ือง ลิปสติกจากดอกไม้ ผู้จดั ทา : นางสาวอธิชา ชาวแหลง เลขท่ี๑๕ ม.๕/๘ นางสาวปทุมพร หาญยทุ ธ เลขที่๒๐ ม.๕/๘ นางสาวนฤภร ชวายวงั เลขท่ี๓๒ ม.๕/๘ นางสาวองั คว์ รา ต้งั มณีกาญจน์ เลขที่๓๖ ม.๕/๘ นางสาวกนกวลยั ละขะไพ เลขที่๓๘ ม.๕/๘ ครูทป่ี รึกษาโครงงาน : คุณครูดารง คนั ธะเรศย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานศึกษา : โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานพ้นื ท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาเขต37 บทคดั ย่อ การใชเ้ คร่ืองสาอางจดั เป็นศิลปะอยา่ งหน่ึงที่มีมาแต่สมยั โบราณ ซ่ึงกลุ่มสตรีในที่ ราบลุ่มเมโสโปเตเมียจะใชข้ ้ีผ้งึ ในและไขมนั สตั วม์ าทาปากเพ่ือป้องกนั การแตกแหง้ และ นาผลเบอร์ร่ีสีแดงมาแต่งแตม้ ใหม้ ีสีสนั เน่ืองจากในปัจจุบนั มีความนิยมในการประทิน โฉมความงามโดยใชเ้ ครื่องสาอางมากข้ึน รวมไปถึงลิปสติกสาหรับการแต่งแตม้ ใหส้ ีของ ริมฝีปากมีสีสนั มากข้ึน ดว้ ยเทคโนโลยใี นปัจจบุ นั มีการนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สมยั ใหม่ทาใหเ้ ครื่องสาอางหรือลิปสติกในปัจจุบนั มีส่วนผสมของสารเคมี ทาใหผ้ ใู้ ชเ้ กิด

ค อาการแพ้ หรืออาการระคายเคืองซ่ึงมาจากสารกนั เสีย ไดแ้ ก่ สารเคมีกลุ่มพาราเบน ท่ีอาจ ส่งผลใหอ้ วยั วะภายในร่างกายเสี่ยงเป็นพิษเร้ือรัง เสี่ยงเป็นมะเร็งผวิ หนงั และสารเพิ่ม ความติดทนใหผ้ ลิตภณั ฑ์ ดว้ ยเหตุน้ีจึงทาใหค้ ณะผจู้ ดั ทาตอ้ งการศึกษาและสร้าง ผลิตภณั ฑท์ ี่มีส่วนประกอบของสารเคมีใหน้ อ้ ยที่สุดและเป็นวสั ดุจากธรรมชาติ ที่หาได้ ง่ายและราคาไม่แพง โดยใชข้ ้ีผ้งึ ซ่ึงเป็นไขท่ีสกดั มาจากน้าผ้งึ ในบริเวณทอ้ งนอ้ ยที่ผ้งึ สร้างข้ึนมาเพื่อทารังรวมถึงสีท่ีไดจั ากดอกไมเ้ ช่นดอกกหุ ลาบ และดอกอญั ชนั ที่ใหส้ ีฟ้า สารเคมีเพื่อลดอาการแพแ้ ก่ผใู้ ช้ และเพ่ือเพิ่มความปลอดภยั ใหแ้ ก่ผใู้ ช้ ผสมปิ โตรเล่ียมเจลล่ีและน้ามนั มะพร้าวสะกดั เยน็ ในปริมาณอยา่ งละ 2 ชอ้ นโต๊ะ หลอมปิ โตรเลี่ยมเจลล่ีและน้ามนั มะพร้าวรวมกนั โดยใชไ้ อน้าเป็นตวั ใหค้ วามร้อน จน ละลายเขา้ กนั ค้นั สีจากดอกกหุ ลาบและดอกอญั ชนั โดยการบด และเติมน้ามนั มะพร้าว สะกดั เยน็ ปริมาณ 1 ชอ้ นโต๊ะเพ่อื ใหไ้ ดส้ ีจากดอกไมใ้ นปริมาณท่ีมากและสีสนั ชดั เจน นา วสั ดุท่ีไดม้ าผสมกนั จนเป็นเน้ือเดียวกนั ตรวจสอบเน้ือลิปวา่ เหลวไปหรือแขง็ ไปดว้ ยการ นาเน้ือลิปบางส่วนมากลิ้งบนชอ้ นอลูมิเนียม หากรู้สึกวา่ เหลวไปใหใ้ ส่ปิ โตรเลี่ยมเจลล่ี เพ่ิม หากเน้ือแขง็ ไปใหใ้ ส่น้ามนั มะพร้าวสะกดั เยน็ เพ่ิม จนไดเ้ น้ือท่ีตอ้ งการ บรรจุใส่ แม่พิมพ์ ทิ้งไวใ้ หอ้ ุณหภูมิของลิปสติกต่าลง จึงสามารถนาไปใชง้ านได้ การใชล้ ิปสติกจากดอกกหุ ลาบและดอกอญั ชนั กบั การใชล้ ิปสติกท่ีซ้ือตาม ทอ้ งตลาดเพื่อทดสอบความแตกต่างของสี กลิ่นและจะพบวา่ ลิปสติก ท้งั สองมีความ แตกต่างกนั คือ ลิปสติกท่ีมรขายตามทอ้ งตลาดจะมีกลิ่นคอ่ นขา้ งแรงและสีที่เขม้ อีกท้งั เน้ือลิปสติกเป็นเน้ือสมั ผสั ท่ีแหง้ ทาใหค้ วามชุ่มช้ืนคงอยบู่ นริมฝีปากไม่นาน ส่วนลิปสติก จากดอกไมจ้ ะมีกลิ่นหอมของดอกกหุ ลาบเน้ือลิปสติกเป็นเน้ือบาลม์ เพราะ มีส่วนผสม ของน้ามนั มะพร้าวจึงทาใหเ้ มื่อใชล้ ิปสติกริมฝีปากจะไดร้ ับความชุ่มช้ืน

ง กติ ติกรรมประกาศ โครงงาน เรื่อง ลิปสติกจากดอกไม้ เสร็จสมบูรณ์ไดด้ ว้ ยเพราะไดร้ ับการอนุเคราะห์ อยา่ งดียง่ิ จาก คุณครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ คุณครูผสู้ อนวิชาโครงงานการศึกษาคน้ ควา้ และสร้าง องคค์ วามรู้(IS) ที่กรุณณาใหค้ าแนะนาและตรวจสอบขอ้ บกพร่องต่างๆของโครงงานฉบบั ที่ถูกตอ้ งและสมบูรณ์ ขอขอบพระคุณ คุณครูทุกท่านท่ีใหค้ วามร่วมมือในการจดั ทาโครงงานในคร้ังน้ีท่ีให้ คาแนะนาในการตรวจสอบและประเมินคุณภาพของโครงงานเร่ือง ลิปสติกจากดอกไม้ ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มีส่วนร่วมและใหค้ วามอนุเคราะหใ์ นการทาโครงงานไว้ ณ โอกาสน้ี คณะผจู้ ดั ทา 7 กนั ยายน 2565

สารบญั ช เร่ือง คานา หน้า บทคดั ยอ่ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบญั ง บทท่ี1 บทนา ช *****1.1*ความเป็นมา ความสาคญั ของโครงงาน 1 1 1.2วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา 4 1.3สมมุติฐานการศึกษา 4 1.4ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 6 1.5 นิยามศพั ท์ 7 บทท่ี2การศึกษาเอกสารที่เก่ียวขอ้ ง 8 2.1 เอกสาร หลกั การ ทฤษฎี 8

สารบญั ซ เรื่อง บทท่ี 3วิธีดาเนินโครงงาน หน้า 12 3.1 ตารางปฏิบตั ิกิจกรรมโครงงาน 12 3.2 ข้นั ตอนการดาเนินโครงงาน 13 บทท่ี 4ผลการดาเนินงาน 15 4.1 ผลการดาเนินการโครงงาน 15 4.2 การนาไปใช้ 16 บทท่ี 5สรุปผล อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 18 5.1สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 18 5.2ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากโครงงาน 18 5.3ปัญหา อุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ 19 บรรณานุกรม 20 ภาคผนวก (ภาพถา่ ย) 21 ประวตั ิผจู้ ดั ทา(สมาชิกทุกคน) 22

1 บทท่ี 1 บทนา 1. ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา การใชเ้ ครื่องสาอางจดั เป็นศิลปะอยา่ งหน่ึงที่มีมาแต่สมยั โบราณ ในปัจจุบนั ผคู้ น มกั ใหค้ วามสาคญั เก่ียวกบั เรื่องความสวยความงามเป็นอยา่ ง มาก สงั คมมีการกาหนดมาตรฐานความงามข้ึนทาใหเ้ คร่ืองสาอางคเ์ ขา้ มา มีอิทธิพลต่อ สงั คมเป็นอยา่ งมาก ต่อมาไดม้ ีการนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สมยั ใหม่เขา้ มาปรับปรุงคุณภาพของเคร่ืองสาอางโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ วชิ าเคมีไดม้ ีส่วนเขา้ มาช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภณั ฑเ์ คร่ืองสาอางใหม้ ี คุณภาพสูงในการผลิตแต่ละคร้ังตอ้ งมีส่วนประกอบท่ีคงท่ีไดผ้ ลิตภณั ฑอ์ ยา่ ง เดียวกนั มี หลกั การเลือกใชว้ ตั ถุดิบท่ีไดม้ าตรฐานในการผลิตและมีการตรวจสอบ คุณสมบตั ิ ตลอดจนการเกบ็ รักษาผลิตภณั ฑซ์ ่ึงลิปสติกท่ีมีตามทอ้ งตลาดมี กรรมวธิ ีที่ยงุ่ ยากและมี การใชส้ ารเคมีจึงทาใหผ้ ใู้ ชบ้ างรายเกิดอาการแพห้ รือ อาการระคายเคืองซ่ึงมาจากสารกนั เสีย น้าหอม เมด็ สีท่ีใชผ้ สมในลิปสติก สารเพม่ิ ความติดทนใหผ้ ลิตภณั ฑ์

2 ลิปสติกเป็นสิ่งที่ผคู้ นส่วนใหญ่พกติดตวั ลิปสติกมีท้งั แบบลิปปาลม์ ท่ีใชท้ าเวลา ปากแหง้ และแบบมีสีสนั ขอ้ ดีของลิปสติกคือการช่วยบารงริมฝีปากและการเติมสีสนั ให้ ริมฝีปากของผใู้ ช้ ขอ้ เสียของลิปสติกคือราคาที่สูงและมีปริมาณนอ้ ยหรือราคาต่าแต่ไม่มี คุณภาพเส่ียงต่อการแพล้ ิปสติก ลิปสติกเป็นสิ่งท่ีผคู้ นไม่วา่ จะหญิงหรือชายต่างใช้ ผคู้ นบางคนกใ็ ชด้ ีแต่บางคนกแ็ พ้ สารประกอบของลิปสติก ปัญหาคือสารที่อยใู่ นลิปสติกคือ สารเคมีกลุ่มพาราเบน เช่น เม ทิลพาราเบน รวมถึงสารกนั หืน BHT ที่ร่างกายอาจส่งผลใหอ้ วยั วะภายในร่างกายเส่ียง เป็นพิษเร้ือรัง สารในกลุ่มเรตินอยด์ มีคุณสมบตั ิช่วยฟ้ื นฟูผวั พรรณ ทาใหร้ ิมฝีปากเรียบ เนียนสวย แต่หากไดป้ ริมาณท่ีมากไปกอ็ าจเป็นตวั เร่งปฏิกิริยาต่อแสงแดด ส่งผลร้ายต่อ DNA ในร่างกายทาใหเ้ สี่ยงเป็นมะเร็จผวิ หนงั ได้ น้าหอม เมด็ สีท่ีผสมในิปสติก สีที่กลนั่ จากปิ โตเรียมเช่น D&C RED 17,D&C RED จะส่งผลอนั ตรายต่อร่างกายได้ ไม่วา่ จะทา ใหร้ ิมฝีปากคล้าหรือก่อใหเ้ กิดมะเร็งบางชนิด และสารเพ่ิมความติดทนใหผ้ ลิตภณั ฑ์ ท่ีอยู่ ในตวั ลิปสติกทาใหค้ นแพ้ แนวทางแกไ้ ขคือเราจะทาการทดลองทาลิปสติกที่เนน้ ส่วนประกอบของธรรมชาติใหม้ ากท่ีสุดเพ่ือลดอาการพล้ ิปของผใู้ ช้

3 ดงั น้นั ผศู้ ึกษาจึงมุ่งศึกษาในการทาลิปสติกท่ีใชว้ สั ดุจากธรรมชาติโดยการทา ผลิตภณั ฑท์ ี่มีส่วนผสมจากสารเคมีใหน้ อ้ ยที่สุด คือการใชส้ ่วนผสมหลกั คือข้ีผ้งึ และใชส้ ี จากดอกไมเ้ พอ่ื แกป้ ัญหาการแพส้ ารเคมีท่ีพบจากลิปสติกในทอ้ งตลาดต่อไป

4 2. วตั ถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาเป็นความรู้ในการทาลิปสติกจากวสั ดุธรรมชาติ และนาความรู้ไปต่อยอดในการทา ผลิตภณั ฑต์ ่างๆได้ 2.เพ่ือเป็นการสร้างผลิตภณั ฑท์ ่ีช่วยสร้างรายไดเ้ สริม 3.เพื่อศึกษาคุณภาพของลิปสติกจากวสั ดุธรรมชาติ 4.เพื่อศึกษาคุณภาพของสีจากดอกไมท้ ่ีเรานามาทาเป็นสีของลิปสติก 3. สมมุตฐิ าน สมมติฐานของการศึกษา : กลุ่มของพวกเราสามารถทาลิปสติกจากสีของดอกไม้ จากธรรมชาติประกอบไปดว้ ย ดอกกหุ ลาบ ดอกอญั ชนั และดอกดาวเรืองไดโ้ ดยการค้นั น้าที่ประกอบดว้ ยสีของดอกไมอ้ อกมานามาผสมกบั วาสลีนและนามาใส่ในบรรจุภณั ฑ์ และสามารถนามาใชไ้ ดจ้ ริง ตวั แปรตน้ : การทาลิปสติกจากดอกไมต้ ่างชนิดกนั ไดแ้ ก่ ดอกกหุ ลาบ ดอกอญั ชนั ดอก ดาวเรือง ตวั แปรตาม : คุณภาพของลิปสติก สีที่ชดั เจนของลิปสติก

5 ตวั แปรควบคุม : ปริมาณของดอกไม้ ปริมาณของส่วนผสมต่างๆ 4. ขอบเขตของการศึกษา 4.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา 1. ประชากรที่มีจานวนจากดั ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ นกั เรียนช้นั ม.5/8 โรงเรียนปัว จานวน 1 หอ้ งเรียน เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 40 คน 4.2 กลุ่มตวั อย่างทใ่ี ช้ในการศึกษา 1. การสุ่มตวั อย่างแบบง่าย นิยมใชก้ นั 2 วธิ ีคือ 1.1 การจบั ฉลาก 1.2.1 การจบั ฉลาก ใชก้ บั ประชากรขนาดเลก็ มีข้นั ตอนคือ (1) เขียนบญั ชีรายช่ือ โดยรวบรวมทุกๆหน่วยของประชากร และใหห้ มายเลขกากบั เช่น รายช่ือเจา้ หนา้ ท่ีทกุ คนในแผนก รายช่ือนกั เรียนทุกคนในช้นั เรียน (2) ทาฉลากหมายเลขเท่ากบั ประชากรเป้าหมายท่ีอยใู่ นบญั ชี รายช่ือ (3) นาฉลากมาเคลา้ ปนกนั ใหท้ ว่ั (4) จบั ฉลากข้ึนมาคร้ังละ 1 ใบใหค้ รบจานวนตวั อยา่ งที่ ตอ้ งการ

6 กล่มุ ตัวอย่างท่ีใช้ในการศึกษา กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีเป็นนกั เรียน(ท่ี1)ระดบั ช้นั ม.5/8 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2565 จานวน5คน 4.3 เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา เน้ือหาท่ีใชใ้ นการศึกษาเป็นเน้ือหาท่ีเลือกจากปัญหาท่ีพบในโรงเรียนหรือเร่ืองท่ี นกั เรียนสนใจ คือ ลิปสติกจากดอกไม้ 4.4 ระยะเวลา ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ดาเนินการในปี การศึกษา 2565ในวนั ท่ี 25 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.เพื่อประหยดั เงินในการซ้ือลิปสติก 2.เพื่อเป็นส่ิงการันตีวา่ ลิปสติกที่เราทาจะไม่มีสารตกคา้ ง 3.เพื่อเนน้ การใชว้ สั ดุจากทาธรรมชาติเพื่อประหยดั ตน้ ทนุ ในการทา 4.เพ่ือเป็ นการศึกษาหาความรู้ในการทาลิปสติกจากธรรมชาติและสามารถนาความรู้ไปต่อ ยอดในการทาผลิตภณั ฑต์ ่อได้

7 คาที่ใชส้ าหรับการเขียนประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ เช่น 1. เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นา คุณภาพของลิปสติก 2. ไดท้ ราบถึงสาเหตุ( ทศั นคติ ) ของนกั เรียน เพ่ือพฒั นาคุณภาพของลิปสติกและ ลดอาการแพล้ ิปสติก 3. เป็นแนวทางในการ ศึกษาคน้ ควา้ การทาลิปสติกจากดอกไม้ 4. ผลการศึกษาท่ีพบ - ลิปสติกท่ีทาจากดอกไมช้ ่วยประหยดั เงินในการซ้ือเพราะ สามารถทาไดเ้ องและไม่มีสารตกคา้ ง

8 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ กยี่ วข้อง การใชเ้ ครื่องสาอางจดั เป็นศิลปะอยา่ งหน่ึงท่ีมีมาแต่สมยั โบราณ ในปัจจุบนั ผคู้ น มกั ใหค้ วามสาคญั เกี่ยวกบั เรื่องความสวยความงามเป็นอยา่ งมาก สงั คมมีการกาหนด มาตรฐานความงามข้ึน ทาใหเ้ คร่ืองสาอางคเ์ ขา้ มามีอิทธิพลต่อสงั คมเป็นอยา่ งมาก ต่อมา ไดม้ ีการนาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์สมยั ใหม่ เขา้ มาปรับปรุงคุณภาพของเครื่องสาอาง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ วชิ าเคมี มีการใชส้ ารเคมี จึงทาใหผ้ ใู้ ชบ้ างรายเกิดอาการแพห้ รืออาการ ระคายเคืองซ่ึงมาจากสารกนั เสีย น้าหอม เมด็ สีที่ใชผ้ สมในลิปสติก สารเพ่ิมความติดทน ใหผ้ ลิตภณั ฑก์ ารศึกษาในคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดศ้ ึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยแบง่ เน้ือหาของเอกสารและงานวิจยั ออกเป็นหวั ขอ้ ต่างๆ ดงั น้ี 1. ความหมายของดอกไม้ หมายถึง ดอกของพชื ในท่ีน้ีไดแ้ ก่ ดอกกหุ ลาบ ดอกอญั ชนั และ ดอกดาวเรือง 2. แนวคิด/ทฤษฎีในเร่ือง คือ 2.1.สงั คมมีการกาหนดมาตรฐานความงามข้ึน ทาใหเ้ คร่ืองสาอางคเ์ ขา้ มามี อิทธิพลต่อสงั คมเป็นอยา่ งมาก ต่อมาไดม้ ีการนาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ สมยั ใหม่ เขา้ มาปรับปรุงคุณภาพของเครื่องสาอาง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ วิชาเคมี มี การใชส้ ารเคมี จึงทาใหผ้ ใู้ ชบ้ างรายเกิดอาการแพห้ รืออาการระคายเคอื งซ่ึงมา จากสารกนั เสีย น้าหอม เมด็ สีท่ีใชผ้ สมในลิปสติก

9 2.2.นิกเกิล (Nickel) เป็นสารท่ีมีคุณสมบตั ิในการป้องกนั การกดั กร่อน จึงเป็น ส่วนผสมท่ีนิยมใชผ้ สมอยใู่ นวตั ถุดิบในการผลิตโลหะเพ่อื เพ่ิมความแขง็ แรงแลว้ ยงั นิยมนามาเคลือบชิ้นงานเพ่ือใหเ้ กิดความมนั วาวบนพ้ืนผวิ วตั ถุอีกดว้ ยท้งั น้ีเม่ือ ผวิ หนงั บริเวณที่สมั ผสั กบั วตั ถุท่ีมีส่วนผสมของนิกเกิลเป็นเวลานานๆ บวกกบั อากาศร้อนหรือมีเหงื่อออก สารนิกเกิลจะทาปฎิกิริยากบั ผวิ หนงั บริเวณน้นั ๆและ อาจก่อใหเ้ กิดภูมิแพส้ มั ผสั นิกเกิลไดใ้ นท่ีสุด อาการแพจ้ ะปรากฎบริเวณผวิ สมั ผสั ทาใหเ้ กิดผน่ื ตุ่ม และอาการระคายเคือง ท้งั ยงั อาจลุกลามไปตามบริเวณอ่ืนๆ ของ ร่างกายไดอ้ ีกดว้ ยหากไปสมั ผสั ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยพบผทู้ ่ีมีอาการภูมิแพ้ สมั ผสั จากสารนิกเกิลในผหู้ ญิงมากกวา่ ผชู้ ายเนื่องจากผหู้ ญิงมกั สวมใส่ เคร่ืองประดบั หรือเครื่องสาอางท่ีมีส่วนผสมนิกเกิลในชีวิตประจาวนั 2.3.ปรอทเป็นโลหะสีขาวคลา้ ยเงิน เป็นของเหลวที่อุณหภูมิปกติ สามารถทาใหเ้ ป็น ของแขง็ ไดแ้ ต่เปราะท่ีอุณหภูมิปกติ ปรอทสามารถระเหยกลายเป็นไอได้ ทาใหเ้ ป็น อนั ตรายตอ่ ร่างกายไดง้ ่ายข้ึน สารประกอบของปรอททาใหเ้ กิดการแพ้ ผนื่ แดง ผวิ ปากดา ผวิ ปากบางลง และเมื่อใชต้ ิดต่อกนั เป็นเวลานานจะทาใหเ้ กิดพิษสะสมของสารปรอทใน ผวิ หนงั และดูดซึมเขา้ สู่กระแสโลหิต ทาใหต้ บั และไตอกั เสบ เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดิน ปัสสาวะอกั เสบ อีกท้งั ในสตรีมีครรภป์ รอทจะดูดซึมเขา้ สู่ร่างกาย และไปสู่ทารก ทาให้ เดก็ มีสมองพิการและปัญญาอ่อน 2.4.น้าหอมเป็นสิ่งท่ีใหผ้ ลิตภณั ฑต์ ่างๆมีกล่ินหอมรวมถึงลิปสติกซ่ึงอาจจะเป็นจุด ขายของสินคา้ น้นั ๆแต่บางผลิตภณั ฑบ์ างชนิดมีส่วนผสมของMethyl cellosolve สารน้ีถูก ใชใ้ นผลิตภณั ฑท์ ่ีผสมน้าหอมที่อยใู่ นเคร่ืองสาอาง เป็นพิษต่อระบบประสาทและระคาย เคืองที่อาจทาใหเ้ กิดการกลายพนั ธุ์ของดีเอน็ เอ

10 2.5.ลิปสติกมีส่วนประกอบหลกั คือ บีแวกซ์ ไขมนั และสารใหค้ วามชุ่มช้ืน ซ้ือ ปริมาณของไขมนั และชนิดของไขมนั มีผลต่อการบารุงของลิปสติกซ่ึงหากใชไ้ ขมนั ที่ไม่ เหมาะกบั ผวิ หนงั ของมนุษยก์ อ็ าจทาใหเ้ กิดการระคายเคียงไดเ้ ช่นหากใชน้ ามนั มะพร้าว ธรรมดาอาจจะไม่เกิดประโยชนเ์ ท่ากบั น้ามนั มะพร้าวสกดั เยน็ และหากใชใ้ นปริมาณที่ นอ้ ยหรือมากเกินไปอาจทาใหป้ ระสิทธิภาพของลิปสติกลดลง 3. ความสาคญั ของการใชล้ ิปสติกจากดอกไม้ คือ ไดส้ ีที่เป็นธรรมชาติโดยไม่ปนเป้ื อน สารเคมีใหไ้ ดม้ ากที่สุด ลดการใชส้ ารเคมีท่ีทาใหเ้ กิดการแพห้ รือความระคายเคืองต่อผใู้ ช้ 4. องคป์ ระกอบของ ดอกไม้ ไดแ้ ก่ ดอกกหุ ลาบ ดอกอญั ชนั และดอกดาวเรือง 5. งานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง 5.1 งานวิจยั ในประเทศ https://sites.google.com/site/nrwis2562naturallipstick/ file:///C:/Users/ACER/Downloads/ORY010449c.pdf https://minikar.ru/th/children/issledovatelskaya-rabota-gubnaya-pomada-vrednye- komponenty-gubnoi/ 5.2 งานวิจยั ตา่ งประเทศ https://www.researchgate.net/publication/341900286_Design_Development_and_Asses sment_of_Herbal_Lipstick_from_Natural_Pigments https://www.researchgate.net/publication/351428708_The_People_Acceptance_of_The _Red_Rose_Rosa_hybrida_L_Flowers_Extract_as_Lipsticks_Dye https://www.thespruce.com/lipstick-plant-care-5083734

11 http://www.dynamicpublisher.org/gallery/5-ijsrr-d-2423-f.pd

12 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ในการศึกษาคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษาเก่ียวกบั การทาลิปสติกจากวสั ดุ ธรรมชาติซ่ึงในที่น้ีเราใชเ้ ป็นดอกไมเ้ ป็นหลกั เน่ืองจากในปัจจุบนั น้นั ลิปสติกส่วนใหญ่มี ส่วนผสมของสารเคมีทาใหผ้ คู้ นน้นั อาจจะมีอาการแพห้ รือระคายเคืองได้ ทาใหเ้ ราตอ้ ง การศึกษาการทาลิปสติกจากวสั ดุธรรมชาติ ซ่ึงมีวิธีการดงั น้ี 1.ตารางการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมโครงงาน กิจกรรม ระยะเวลาที่ทากิจกรรม การศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูล 25 ก.ค. - 31 ก.ค. 2565 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน 1 ส.ค. - 10 ส.ค. 2565 15 ส.ค. - 19 ส.ค. 2565 ปฏิบตั ิการทดลอง 22 ส.ค. - 5 ก.ย. 2565 การเขียนโครงงาน 7 ก.ย. - 8 ก.ย. 2565 นาเสนอโครงงาน

13 2.เครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการศึกษา 2.1) ปิ โตรเลี่ยมเจลลี่ 2.2) น้ามนั มะพร้าวสกดั เยน็ 2.3) สีน้าสกดั จากวตั ถดุ ิบธรรมชาติ (ดอกกหุ ลาบ และดอกอญั ชนั ) 2.4) แม่พิมพ์ (ตลบั หรือแท่งท่ีสามารถหมุนได)้ 2.5) ชามสาหรับผสม 2.6) อุปกรณ์ในการตวง (ชอ้ นตวง) 2.7) อุปกรณ์ใหค้ วามร้อน 3.ข้นั ตอนการดาเนินโครงงาน 3.1) ผสมปิ โตรเล่ียมเจลลี่และน้ามนั มะพร้าวสะกดั เยน็ ในปริมาณอยา่ งละ 2 ชอ้ น โตะ๊ หลงั จากน้นั หลอมปิ โตรเลี่ยมเจลล่ีและน้ามนั มะพร้าวรวมกนั โดยใชไ้ อน้าเป็น ตวั ใหค้ วามร้อน จนละลายเขา้ กนั 3.2) ค้นั สีจากดอกกหุ ลาบและดอกอญั ชนั โดยการบด และเติมน้ามนั มะพร้าว สะกดั เยน็ ปริมาณ 1 ชอ้ นโตะ๊ เพอ่ื ใหไ้ ดส้ ีจากดอกไมใ้ นปริมาณที่มากและสีสนั ชดั เจน จากน้นั กรองเอากากออก

14 3.3) นาวสั ดุท่ีไดม้ าผสมกนั จนเป็นเน้ือเดียวกนั ตรวจสอบเน้ือลิปวา่ เหลวไปหรือ แขง็ ไปดว้ ยการนาเน้ือลิปบางส่วนมากลิ้งบนชอ้ นอลูมิเนียม หากรู้สึกวา่ เหลวไปใหใ้ ส่ปิ โตรเล่ียมเจลล่ีเพ่ิม หากเน้ือแขง็ ไปใหใ้ ส่น้ามนั มะพร้าวสะกดั เยน็ เพ่ิม จนไดเ้ น้ือที่ตอ้ งการ 3.4) บรรจุใส่แม่พิมพ์ ทิ้งไวใ้ หอ้ ุณหภมู ิของลิปสติกต่าลง จึงสามารถนาไปใชง้ าน ได้

15 บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 1. ผลการดาเนินงาน จากการศึกษาคน้ ควา้ โครงงานและพฒั นาเรื่องการทาลิปสติกจากวสั ดุธรรมชาติ เราไดน้ าลิปสติก ไปทดลองใชก้ บั กลุ่มตวั อยา่ ง เพื่อวดั ประสิทธิภาพของผลงาน ซ่ึงประกอบดว้ ย 4.1 นกั เรียน ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/8 จานวน 40 คน เพ่ือใหแ้ สดงความ คิดเห็นโดยการตอบแบบประเมิน 2 ดา้ นดงั น้ี 1. ดา้ นสีสนั ของลิปสติก 2. ดา้ นความชุ่มชื่นของลิปสติกเม่ือทา โดยมีระดบั ความพึงพอใจดงั น้ี ระดบั 5 หมายถึง มีคุณภาพดีมาก ระดบั 4 หมายถึง มีคุณภาพดี ระดบั 3 หมายถึง มีคุณภาพปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง มีคุณภาพพอใช้ ระดบั 1 หมายถึง มีคุณภาพไม่ดี

16 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากผตู้ อบแบบสอบถามไดด้ งั ต่อไปน้ี ตอนท่ี 1 ดา้ นขอ้ มูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางแสดงคา่ ร้อยละ ของเพศผตู้ อบแบบสอบถาม ร้อยละ เพศ จานวน 65 หญิง 26 35 ชาย 14 100 รวม 40 จากตาราง คา่ ร้อยละของกลุ่มตวั อยา่ งเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 35 และเพศหญิงคิด เป็นร้อยละ 65 ตอนที่ 2 ระดบั ความพึงพอใจของผตู้ อบแบบสอบถาม ซ่ึงหาจากการนาคะแนนรวมท้งั ไปหาดว้ ยวธิ ีการหาร้อยละ โดยคิดเป็น ระดบั ความพึงพอใจดงั น้ี ร้อยละ 80 - 100 หมายถึง มีความพงึ พอใจมากท่ีสุด

17 ร้อยละ 70 - 50 หมายถึง มีความพึงพอใจมาก ร้อยละ 40 - 20 หมายถึง มีความพงึ พอใจปานกลาง ร้อยละ 10 - 0 หมายถึง ไม่มีมีความพึงพอใจ ความพึงพอใจ คิดเป็ นร้อยละ ระดบั ความพึงพอใจ ดา้ นสีสนั 80 พึงพอใจมากที่สุด 96 พึงพอใจมากท่ีสุด ดา้ นความชุ่มช่ืน 88 พึงพอใจมากท่ีสุด รวม จากตาราง สอบถามความพึงพอใจของผตู้ อบแบบสอบถาม ที่มีต่อโครงงานลิปสติกจากธรรมชาติพบวา่ ความพึงพอใจของดา้ นสีสนั อยใู่ นระดบั มีความพึงพอใจมากที่สุด โดยคิดเป็นร้อยละ 80 และ ความพึงพอใจของดา้ นความชุ่มช่ืน อยใู่ นระดบั มีความพึงพอใจมากท่ีสุดเช่นกนั โดยคิดเป็นร้อยละ 88 โดยรวมท้งั สองดา้ น แลว้ กลุ่มตวั อยา่ ง มีระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด โดยคิดเป็นร้อยละ 88

18 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปและอภปิ รายผลการทดลอง การใชล้ ิปสติกจากดอกกหุ ลาบและดอกอญั ชนั กบั การใชล้ ิปสติกท่ีซ้ือตาม ทอ้ งตลาดเพ่ือทดสอบความแตกต่างของสี กลิ่นและจะพบวา่ ลิปสติก ท้งั สองมีความ แตกต่างกนั คือ ลิปสติกที่มรขายตามทอ้ งตลาดจะมีกล่ินคอ่ นขา้ งแรง และสีท่ีเขม้ อีกท้งั เน้ือลิปสติกเป็นเน้ือสมั ผสั ท่ีแหง้ ทาใหค้ วามชุ่มช้ืนคงอยบู่ นริมฝีปาก ไม่น่าน ส่วนลิปสติกจากดอกไมจ้ ะมีกลิ่นหอมของดอกกหุ ลาบเน้ือลิปสติกเป็นเน้ือบาลม์ เพราะ มีส่วนผสมของน้ามนั มะพร้าวจึงทาใหเ้ มื่อใชล้ ิปสติกริมฝีปากจะไดร้ ับความชุ่มช้ืน 5.2 ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากโครงงาน 1. เพื่อเนน้ การใชว้ สั ดุจากทาธรรมชาติเพื่อประหยดั ตน้ ทุนในการทา 2. สามารถนาวตั ถุดิบที่มีอยตู่ ามธรรมชาติและมีในชุมชนมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 3. ไดเ้ ผยแพร่ขอ้ มูลการทาลิปสติกใหป้ ระชาชนไดศ้ ึกษา 4. ไดค้ วามรู้เกี่ยวกบั การทาลิปสติกจากวสั ดุธรรมชาติและสามารถนาความรู้ไป ต่อยอดทาเป็นผลิตภณั ฑแ์ ละสร้างรายไดเ้ สริม

19 5.3 ปัญหาอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ในการเติมน้ามนั มะพร้าวสกดั เยน็ มากกวา่ 2ชอ้ นโตะ๊ อาจจะทาใหเ้ น้ือลิปสติกเหลวกวา่ ปกติ ใหใ้ ส่ปิ โตรเล่ียมเจลล่ีเพ่ิมเพ่ือใหเ้ น้ือลิปสติกคงสภาพเดิม

20 บรรณานุกรม การศึกษาลิปสติกจากธรรมชาติ (2562) สืบคน้ เมื่อ 3 สิงหาคม 2565 จากhttps://sites.google.com/site/nrwis2562naturallipstick/ งานวิจยั ลิปสติก ส่วนผสมที่อนั ตรายในลิปสติก(2557) สืบคน้ เม่ือ 4 สิงหาคม 2565 จากhttps://minikar.ru/th/children/issledovatelskaya-rabota- gubnaya-pomada-vrednye-komponenty-gubnoi/ งานวจิ ยั ลิปสติก จากดอกกหุ ลาบ(2557) สืบคน้ เม่ือ 5 สิงหาคม 2565 จาก https://www.researchgate.net/publication/351428708_The_People_Acceptance_of_The _Red_Rose_Rosa_hybrida_L_Flowers_Extract_as_Lipsticks_Dye Lipstick Plant: Care & Growing Guide(2557) สืบคน้ เมื่อ 3 สิงหาคม 2565 จากhttps://www.thespruce.com/lipstick-plant-care-5083734

21 ภาคผนวก

22 ประวตั ผิ ้จู ดั ทา นางสาวอธิชา ชาวแหลง เลขที่15 ม.5/8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน นางสาวปทุมพร หาญยทุ ธ เลขท่ี20ม.5/8 124/2 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน 55120 เบอร์ โทร 0932902481 นางสาวนฤภร ชวายวงั เลขท่ี32 ม.5/8 28 ม.11 ต.เปื อ อ.เชียงกลาง จ.น่าน 55160 เบอร์โทร 0803688640 นางสาวองั คว์ รา ต้งั มณีกาญจน์ เลขท่ี36 ม.5/8 96 ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน 55120 เบอร์โทร 0644181465

23 นางสาวกนกวลยั ละขะไพ เลขท่ี38 ม.5/8 126/3 ต.ไชยวฒั นา อ.ปัว จ.น่าน 5512 0629622466