รปู แบบการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรมอทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ ในศตวรรษท่ี 21 ของนกั เรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา จงั หวดั เลย* A Model for using Chanda in Iddhipada 4 to Support Learning in 21st Century of Student at Phrapariyattidham Schools in Loei Province จกั รกฤษณ์ โพดาพล Chakgrit Podapol มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตศรีล้านชา้ ง Mahamakut Buddhist University, Srilanchang Campus, Thailand E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การวิจัยครัง้ น้ี มีวัตถุประสงคเ์ พอ่ื 1) ศึกษาการใช้ฉันทะจากหลกั ธรรมอิทธิบาท 4 เพือ่ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ 3) เพ่ือศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการใช้ฉันทะจากหลักธรรม อิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสรมิ การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 โดยแบง่ ขั้นตอนการวิจัยเป็น 3 ข้นั ตอน คอื ขน้ั ตอน ที่ 1 การสรา้ งและการตรวจสอบกรอบแนวคดิ ทฤษฎขี องรปู แบบขน้ั ตอนท่ี 2 การตรวจสอบและปรบั ปรงุ รูปแบบและขั้นตอนที่ 3 ศึกษาประสทิ ธภิ าพของรปู แบบในภาคสนาม ผลการวจิ ยั พบว่า 1. นกั เรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา จงั หวดั เลยมกี ารใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรม อิทธิบาท 4 เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดับคร้ังเว้นครั้ง เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การใช้วธิ ีทถ่ี กู ต้องในการบรรลเุ ปา้ หมาย มคี า่ เฉลยี่ สงู สุด อยู่ในระดบั คร้งั เว้นคร้ัง รองลงมา คือ ความสนใจในการเรยี นอยใู่ นระดบั ครงั้ เวน้ และความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ มคี า่ เฉลยี่ ตำ�่ สดุ อยใู่ นระดบั นานๆ ครง้ั ซง่ึ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารพฒั นาการใช้ฉนั ทะจากหลักธรรมอทิ ธิบาท 4 เพอ่ื สง่ เสริมการเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 * ไดร้ บั บทความ: 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2562; แกไ้ ขบทความ: 30 มีนาคม 2563; ตอบรบั ตีพมิ พ์: 21 เมษายน 2563 Received: February 27, 2019; Revised: March 30, 2020; Accepted: April 21, 2020
2 Dhammathas Academic Journal Vol. 20 No. 2 (April - June 2020) เพราะส่ิงส�ำคัญในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 คือ ตอ้ งมคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรดู้ ้วยตนเอง 2. การพฒั นาหลกั สตู รฝกึ อบรมประกอบดว้ ยเนอ้ื หาการฝกึ อบรม 6 หนว่ ย ประกอบดว้ ย หนว่ ย การอบรมท่ี 1 การเหน็ คณุ คา่ ในตนเอง หนว่ ยการอบรมท่ี 2 การเรยี นรรู้ ว่ มกนั หนว่ ยการอบรมท่ี 3 บคุ คล ผู้ประสบความส�ำเร็จในชีวิต หน่วยการอบรมที่ 4 การวางแผนชีวิต หน่วยการอบรมท่ี 5 การเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 หน่วยการอบรมที่ 6 คุณธรรมน�ำชวี ิต 3. การใชโ้ ปรแกรมในการฝกึ อบรมภาคสนามใชร้ ะเบยี บวิธวี จิ ยั กงึ่ ทดลอง (Pre-Experiment) พบวา่ คุณลกั ษณะฉันทะในการเรียนในภาพรวมและรายด้าน มีค่าเฉลยี่ หลงั การทดลองมีค่าสูงกวา่ กอ่ น การทดลองอยา่ งมนี ยั ส�ำคญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดับ 0.01 คำ� สำ� คญั : รูปแบบการใช้ฉันทะ; การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21; ประสทิ ธภิ าพของรูปแบบ Abstract The objectives of research were: 1) to study implementation of aspiration, a virtue in the fourfold path of accomplishment, to enhance the 21st century learning, 2) to develop the model of aspiration implementation to enhance the 21st century learning, 3) to study the efficiency of aspiration implementation model to enhance the 21st cen- tury learning. The research operation was divided into three phrases. The first phrase was the creation and examination of model concepts and theories. The second phrase was the model examination and improvement. The third phrase was the field study of model efficiency. The research results were found that: 1. The implementation of aspiration of students, Phrapariyattidhamma school in Loei, to enhance the 21st century learning was found to be at a level of every other time. Each aspect considered, ‘implementation of the right way to reach the target’ was found to be at the highest level of ‘every other time, followed by ‘paying attention to learning’ at the level of ‘every a few times; ‘putting effort persistently’ was found to be at the lowest level of ‘once in a while’. So, it was found important for the students to develop the implementation of aspiration, a virtue in the fourfold path to accomplish- ment, to enhance the 21st century learning because ‘putting effort persistently’ was important in the 21st century learning.
ปีที่ 20 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2563) วารสารวิชาการธรรมทรรศน์ 3 2. The training course development found that consisted of six units: Unit 1 - Self-esteem, Unit 2 - Learning together, Unit 3 - Successful Persons, Unit 4 - Life Planning, Unit 5 - The 21st Century Learning, and Unit 6 - Virtue-based Life. 3. The training course in the field study, based on the quasi-experimental meth- odology, the result of the field training course was found that the mean scores of post- test for aspiration in learning were found to be overall and separately higher than the pretest’s mean scores at a statistically significant level of 0.01. Keywords: Model for using Chanda; 21st Century Learning; Efficiency of the Model 1. บทนำ� สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั ชมุ ชนและสงั คม สามารถ ดำ� รงชวี ติ ในสงั คมอย่างมคี วามสุข และปฏบิ ัตติ าม โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ วิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ศึกษาด�ำเนินการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไป มีจิตส�ำนึกท่ีเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม อนุรักษ์ ตามหลกั การ จดุ หมาย และโครงสรา้ งของหลกั สตู ร ภมู ปิ ญั ญาไทย ศลิ ปวฒั นธรรมไทย มัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 (ฉบับ โดยส่วนมากนักเรียนของโรงเรียนพระ ปรับปรุง พ.ศ. 2533) และหลักสูตรมัธยมศึกษา ปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดเลย ตอนปลาย พุทธศักราช 2524 (ฉบับปรับปรุง เป็นนักเรียนที่ขาดแคลนโอกาสทางการศึกษา พ.ศ. 2533) โดยเปิดสอนในลักษณะเป็นการ จงึ ไดบ้ วชเรยี นเพอื่ ไดเ้ ลา่ เรยี นในระดบั มธั ยมศกึ ษา ศึกษาสงเคราะห์ให้ผู้ท่ีขาดโอกาสเล่าเรียนได้เรียน หลงั จากจบการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษามภี มู ลิ ำ� เนา โดยบวชเปน็ สามเณรกอ่ น มจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ พฒั นา อยใู่ นจงั หวดั ตา่ งๆ ไมเ่ ฉพาะเพยี งจงั หวดั เลย ถอื วา่ ผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ท้ังด้านสติ มาจากรอ้ ยพอ่ พนั แม่ แตม่ าอยอู่ าศยั จำ� วดั วดั ตา่ งๆ ปญั ญา รา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม ผูเ้ รียนมีความรู้ ในเขตจังหวัดเลย ดังน้ัน จึงมีปัญหาเกี่ยวกับ และทักษะพ้ืนฐาน มีความสามารถในการคิด นักเรียนหลายๆ ด้านทั้งเร่ืองความประพฤติและ วิเคราะห์ สังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิด เรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเฉพาะการไม่ สรา้ งสรรค์ และมวี สิ ยั ทศั น์ เปน็ บคุ คลแหง่ การเรยี น ตั้งใจเรียนดังท่ีโรงเรียนพระปริยัติธรรมศรีจันทร์ รู้ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมที่พึงประสงค์ วทิ ยา ไดร้ ายงานวา่ ผปู้ กครองสว่ นใหญม่ ภี มู ลิ ำ� เนา มีสุนทรียภาพ รู้จักตนเอง พ่ึงตนเองได้และ อยู่ต่างจังหวัดพ้ืนท่ีห่างไกล มีความแตกต่างและ บคุ ลกิ ภาพดี มสี ขุ นสิ ยั สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดีขาดความเอาใจใส่ดูแล ท่ีดี ปลอดจากสิ่งเสพย์ติดให้โทษ มีทักษะในการ บุตรหลานในด้านการศึกษา เป็นภาระของสถาน จัดการและการท�ำงานรักการท�ำงาน มีเจตคติที่ดี ศึกษา และวัดในการช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น ต่ออาชีพสุจริต และท�ำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้เป็น
4 Dhammathas Academic Journal Vol. 20 No. 2 (April - June 2020) ปัจจัยที่ส�ำคัญส�ำหรับผู้เรียนที่เป็นพระภิกษุ เอาใจใส่และมีความเพียรในการเรียนรู้ สนใจเข้า สามเณร รวมท้ังทุนการศึกษาอ่ืนๆ นอกจากน้ัน รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ งๆ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความ นักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมท่ีทางโรงเรียนไม่พึง รจู้ ากสอื่ ตา่ งๆ ไมว่ า่ จะเปน็ จากหนงั สอื เอกสาร สอ่ื ประสงค์ คือ ขาดความรับผิดชอบ ขาดระเบียบ สง่ิ พมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรทู้ ง้ั ภายนอกและ วนิ ยั ขาดสมั มาคารวะ ขาดศลี าจารวตั ร จากขอ้ มลู ภายในสถานศึกษา (Minister of Education, ของฝ่ายกิจการนักเรียนและงานแนะแนวระบุว่า 2005 : 29) นักเรียนท่ีมีคุณลักษณะไม่พึงประสงค์ร้อยละ 60 ดังนั้นผู้ วิจัยในฐานะเป็นอาจารย์ใน ซึง่ เรียนในระดับชั้น มธั ยมปที ่ี 2-มัธยมปีที่ 4 หรอื มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ทจี่ ดั การศกึ ษา มีอายุอยใู่ นช่วงอายุ 14-16 ปี ทม่ี ีพฒั นาการดา้ น ให้ภกิ ษสุ ามเณร ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั วสิ ัยทศั นป์ รชั ญา อารมณแ์ ละสงั คมอยใู่ นวยั อนั ตราย (Srijanwittaya ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยท่ีว่า Phrapariyattithamma School, 2014) “ความเป็นเลิศทางวิชาการตามแนวพระพุทธ การสร้างความสนใจในการเรียนถือเป็น ศาสนา” จึงเห็นความส�ำคัญในการท�ำวิจัย เรื่อง เรื่องส�ำคัญในการจัดการเรียนการสอนของครู รูปแบบการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 โดยใชเ้ ทคนคิ ตา่ งๆ ในการดงึ เขา้ สบู่ ทเรยี น แตก่ าร เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของ ขาดความตงั้ ใจในการใฝเ่ รยี นรเู้ ปน็ ปญั หาใหญข่ อง นักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ การศึกษา เพราะเป็นการเกิดค�ำถามในใจเด็ก ศึกษา จงั หวดั เลย นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเก่ียวกับเป้าหมาย ในชีวิตที่ท�ำให้เด็กไม่รู้จะเรียนไปท�ำไม หรือเรียน 2. วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย แล้วจะได้อะไร ซึ่งเป็นปัญหาในการจัดการศึกษา ในศตวรรษท่ี 21 ที่มีแนวคิดหลักว่า เด็กเป็น 1. เพอื่ ศกึ ษาการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรม ศูนย์กลางของการเรียนรู้ เด็กต้องค้นคว้าความรู้ อทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ดว้ ยตนเอง มคี รเู ปน็ ผอู้ ำ� นวยความสะดวกใหก้ ารท่ี ของนกั เรียนโรงเรยี นพระปริยัติธรรม แผนกสามญั จะให้เรียนประสบความส�ำเร็จจึงเป็นการสร้าง ศกึ ษา จังหวดั เลย ความสนใจ ใฝใ่ จ และพอใจในการเรยี นรใู้ หก้ บั เดก็ 2. เพื่อพัฒนารูปแบบการใช้ฉันทะจาก นักเรียน ซ่ึงเป็นการสร้างฉันทะในการเรียนให้ หลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ใน นักเรียนนั่นเอง ซ่ึงสอดคล้องกับคุณลักษณะท่ีพึง ศตวรรษท่ี 21 ของนกั เรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม ประสงค์ของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการ แผนกสามญั ศกึ ษา จงั หวัดเลย ศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 ประการหนง่ึ น่ันคือ 3. เพ่ือศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบ การก�ำหนดให้ผู้เรียนต้องมีคุณสมบัติใฝ่เรียนรู้ การใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรมอทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ ซึ่งเป็นการมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความตั้งใจเรียน การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียน พระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา จังหวดั เลย
ปีท่ี 20 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2563) วารสารวชิ าการธรรมทรรศน์ 5 3. วิธีด�ำเนนิ การวิจัย อทิ ธบิ าท 4 ระยะที่ 2 ประเมนิ ประสทิ ธิภาพความ คงทนของการฝึกอบรม การวิจัยคร้ังนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี (Mixed Research Method) ระหว่างการวิจัย 4. สรปุ ผลการวจิ ัย เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Research) กบั การวจิ ยั เชงิ ก่งึ ทดลอง (Quasi-Experimental Research) จากการศกึ ษาวจิ ยั ผวู้ จิ ยั จะไดน้ �ำเสนอผล มีในการด�ำเนินการวิจัยให้บรรลุจุดมุ่งหมายของ การวจิ ัยตามวัตถปุ ระสงค์ ดังนี้ การวิจยั ดงั กลา่ วคณะผวู้ จิ ัยก�ำหนดวธิ กี ารวจิ ยั โดย 1. การศกึ ษาการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรม แบ่งขน้ั ตอนการวจิ ัยเปน็ 3 ขัน้ ตอน ดังนี้ อทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ขั้นตอนที่ 1 การสรา้ งและการตรวจสอบ ของนักเรยี นโรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั กรอบแนวคิดทฤษฎีของรปู แบบ แบง่ เปน็ 3 ระยะ ศึกษา จังหวัดเลย ผู้วิจัยได้ท�ำการศึกษาไว้ในข้ัน ประกอบด้วย ระยะท่ี 1 ศึกษาการใช้ฉันทะจาก ตอนท่ี 1 ของการวจิ ัย คือ การสรา้ งและการตรวจ หลกั ธรรมอิทธบิ าท 4 ระยะที่ 2 สร้างหลกั สูตรฝกึ สอบกรอบแนวคดิ ทฤษฎขี องรปู แบบ การใชฉ้ นั ทะ อบรม ระยะท่ี 3 การปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอ จากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ แนะ และจัดท�ำเอกสารประกอบโครงการ ในศตวรรษท่ี 21 ของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติ ขน้ั ตอนท่ี 2 การตรวจสอบและปรับปรงุ ธรรม แผนกสามัญศกึ ษา จังหวดั เลย อยใู่ นระยะที่ รปู แบบ แบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบดว้ ย ระยะท่ี 1 1 ศึกษาการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 การตรวจสอบ ระยะที่ 2 การทดลองใชห้ ลกั สูตร การศกึ ษาวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั การใชฉ้ นั ทะจาก ขั้นตอนท่ี 3 ศึกษาประสิทธิภาพของ หลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ รูปแบบในภาคสนาม แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบ ในศตวรรษท่ี 21 ใช้การวิเคราะหค์ ่าเฉลย่ี ( ) และ ดว้ ย ระยะที่ 1 ฝกึ อบรมการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรม ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 1 ค่าเฉลยี่ และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานการใชฉ้ ันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพอื่ ส่งเสรมิ การ เรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21ของนักเรียนทีเ่ ปน็ ของกลุ่มตัวอย่าง การใช้ฉนั ทะจากหลกั ธรรมอทิ ธิบาท 4 S.D. แปลผล ความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ 2.45 0.57 นานๆ ครง้ั ความสนใจในการเรยี น 2.61 0.59 คร้งั เว้นครัง้ ความมงุ่ มนั่ ใหส้ ิ่งทที่ �ำนัน้ บรรลเุ ป้าหมาย 2.59 0.58 ครง้ั เวน้ คร้ัง การใช้วธิ ที ถ่ี กู ต้องในการบรรลุเปา้ หมาย 2.63 0.58 คร้ังเวน้ ครง้ั 2.57 0.50 ครั้งเว้นครง้ั รวม
6 Dhammathas Academic Journal Vol. 20 No. 2 (April - June 2020) จากตาราง 1 พบวา่ นกั เรยี นโรงเรยี นพระ บรรลเุ ปา้ หมาย และความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ โดยเฉพาะ ปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา จงั หวดั เลยมกี ารใช้ อยา่ งยงิ่ ดา้ นความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ อยใู่ นระดบั นานๆ ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการ คร้ัง ซ่ึงจ�ำเป็นต้องมีการพัฒนาการใช้ฉันทะจาก เรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ในภาพรวมอยใู่ นระดบั ครง้ั หลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ใน เวน้ ครงั้ ( = 2.57, S.D. = 0.50) เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ ศตวรรษที่ 21 เพราะส่ิงส�ำคัญในการเรียนรู้คือ รายด้านพบว่า การใช้วิธีที่ถูกต้องในการบรรลุ ตอ้ งมีความสนใจใฝ่เรยี นร้ดู ้วยตนเอง เปา้ หมาย มคี า่ เฉลย่ี สงู สดุ อยใู่ นระดบั ครง้ั เวน้ ครง้ั 2. การพัฒนารูปแบบการใช้ฉันทะจาก ( = 2.63, S.D. = 0.58) รองลงมา คอื ความสนใจ หลักธรรมอิทธิบาท 4 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ใน ในการเรยี นอยใู่ นระดบั ครง้ั เวน้ ครง้ั ( = 2.61, S.D. ศตวรรษที่ 21 ของนกั เรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม = 0.59) และความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ มีคา่ เฉลยี่ ตำ�่ สุด แผนกสามัญศึกษา จังหวัดเลย ในการพัฒนา อยใู่ นระดับนานๆ ครง้ั ( = 2.45, S.D. = 0.57) รูปแบบการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 จากการศกึ ษาการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรมอทิ ธบิ าท เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของ 4 เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของ นักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ นักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ศึกษา จังหวัดเลยผู้วิจัยได้มีขั้นตอนการพัฒนา ศกึ ษา จังหวัดเลย พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดบั ต้ังแต่ข้ันตอนท่ี 1 การสร้างและการตรวจสอบ ระดบั ครง้ั เวน้ ครงั้ สามารถเรยี งจากมากไปหานอ้ ย กรอบแนวคดิ ทฤษฎขี องรปู แบบในระยะที่ 2 สรา้ ง ได้คือ การใช้วิธีที่ถูกต้องในการบรรลุเป้าหมาย หลกั สตู รฝกึ อบรม จนถงึ ขน้ั ตอนท่ี 2 การตรวจสอบ ความสนใจในการเรียน ความมุ่งมั่นให้สิ่งที่ท�ำนั้น และปรับปรุงรูปแบบ สรปุ ไดด้ ังน้ี ตารางที่ 2 เนื้อหาและกิจกรรมของหลักสูตรการพัฒนาการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพ่ือ ส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา จังหวัดเลย เนื้อหา กิจกรรม ส่ือการเรียนรู้ ระยะเวลา 1 ชม. 1. การเห็นคุณค่าในตนเอง 1. ชแ้ี จงสาระสำ� คญั เกยี่ วกบั การ 1. แผนการอบรม ฝกึ อบรม 2. เอกสารประกอบการ 2. บรรยาย บรรยาย 3. มอบหมายงาน 3. เพาเวอร์ พอยท์ 4. อภิปราย บรรยาย 5. ชมวีดิทศั น์ 4. วีดิทศั น์ 6. สรปุ สาระสำ� คัญ 5. ใบงาน
ปที ี่ 20 ฉบบั ท่ี 2 (เมษายน - มถิ นุ ายน 2563) วารสารวชิ าการธรรมทรรศน์ 7 เนอื้ หา กิจกรรม สือ่ การเรยี นรู้ ระยะเวลา 2. การเรียนรูร้ ว่ มกนั 1. ชแี้ จงสาระสำ� คญั เกย่ี วกบั การ 1. อปุ กรณ์เกม 1 ชม. ฝึกอบรม 2. เกมกลุม่ 3. อภิปราย 4. สรุปสาระสำ� คญั 3. บคุ คลผูป้ ระสบความ 1. ชี้แจงสาระส�ำคญั เกี่ยวกับ 1. ใบงาน 1 ชม. ส�ำเรจ็ ในชวี ิต การฝึกอบรม 2. วดี ิทัศน์ 2. แบง่ กลมุ่ หาบุคคลประสบ ความสำ� เรจ็ ในชีวติ 3. อภิปราย 4. ชมวดี ิทัศน์ 5. สรุปสาระสำ� คญั 4. การวางแผนชีวิต 1. ชแ้ี จงสาระสำ� คญั เก่ยี วกบั 1. ใบงาน 1 ชม. การฝกึ อบรม 2. แบง่ กลุ่มท�ำโครงงาน 3. อภปิ ราย 5. สรปุ สาระสำ� คญั 5. การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 1. ชแี้ จงสาระสำ� คญั เกย่ี วกบั การ 1. เอกสารประกอบการ 1 ชม. 21 ฝกึ อบรม บรรยาย 2. บรรยาย 2. เพาเวอร์ พอยทบ์ รรยาย 3. ชมวดี ิทัศน์ 3. วดี ทิ ศั น์ 4. สรุปสาระสำ� คญั 6. คุณธรรมนำ� ชวี ติ 1. ชแี้ จงสาระสำ� คญั เกย่ี วกบั การ 1. เอกสารประกอบการ 1 ชม. ฝึกอบรม บรรยาย 2. บรรยาย 2. เพาเวอร์ พอยทบ์ รรยาย 3. ชมวดี ทิ ัศน์ 3. วีดทิ ศั น์ 4. สรุปสาระสำ� คัญ
8 Dhammathas Academic Journal Vol. 20 No. 2 (April - June 2020) 3. การศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบ การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ของนักเรียนโรงเรียน การใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรมอทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา จงั หวัดเลย ตารางท่ี 3 ผลการเปรยี บเทยี บคุณลกั ษณะก่อนและหลงั การใช้หลักสตู รของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม คุณลักษณะฉันทะในการเรียน ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง t - test Sig. S.D. S.D. หน่วยการอบรมท่ี 1 การเหน็ คุณค่าในตนเอง 2.16 0.37 3.69 0.13 38.59** 0.00 หนว่ ยการอบรมที่ 2 การเรียนรู้ร่วมกนั 2.21 0.53 3.80 0.11 28.54** 0.00 หนว่ ยการอบรมท่ี 3 บคุ คลผู้ประสบความ 2.24 0.51 3.74 0.14 26.65** 0.00 ส�ำเรจ็ ในชีวติ หนว่ ยการอบรมที่ 4 การวางแผนชวี ติ 2.27 0.58 3.74 0.13 25.75** 0.00 หนว่ ยการอบรมท่ี 5 การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 2.29 0.60 3.73 0.22 23.09** 0.00 หน่วยการอบรมที่ 6 คุณธรรมน�ำชวี ิต 2.21 0.48 3.74 0.22 23.92** 0.00 รวม 2.23 0.49 3.74 0.07 30.48** 0.00 ** ระดับนยั ส�ำคัญทางสถติ ิทีร่ ะดับ 0.01 จากตาราง พบว่า คุณลักษณะฉันทะใน และความใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ มคี า่ เฉลยี่ ตำ่� สดุ อยใู่ นระดบั การเรียนในภาพรวมและรายด้าน มีค่าเฉล่ียหลัง นานๆ ครงั้ ทงั้ นอี้ าจเปน็ เพราะวา่ นกั เรยี นโรงเรยี น การทดลองมีค่าสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัย พระปรยิ ตั ธิ รรม เปน็ พระภกิ ษสุ ามเณร ซง่ึ สว่ นมาก ส�ำคญั ทางสถติ ิ ทร่ี ะดับ 0.01 อยใู่ นศีลปฏบิ ตั ิเป็นแนวทางการด�ำเนินชวี ิต ดังน้ัน การใชฉ้ นั ทะในการเรยี นรดู้ า้ นการใชว้ ธิ ที ถ่ี กู ตอ้ งใน 5. อภิปรายผลการวจิ ยั การบรรลเุ ป้าหมาย มีคา่ เฉลย่ี สงู สุด จึงมีความสม เหตสุ มผล สอดคลอ้ งกบั สำ� นกั งานพระพทุ ธศาสนา 1. ศึกษาการใช้ฉันทะจากหลักธรรม แหง่ ชาติ (National Office of Buddhism, 2005 อทิ ธบิ าท 4 นกั เรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนก : 11) ท่กี ล่าวถงึ วตั ถปุ ระสงค์ท่จี ะใหม้ ีการศึกษาใน สามัญศึกษา จังหวัดเลยมีการใช้ฉันทะจากหลัก โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเพ่ือ ธรรมอทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษ เปน็ ประโยชน์ตอ่ ฝา่ ยศาสนจกั รและฝา่ ยบา้ นเมอื ง ท่ี 21อยใู่ นระดบั ครง้ั เวน้ ครงั้ เมอื่ พจิ ารณาเปน็ ราย กล่าวคือ ทางฝ่ายศาสนจักรก็จะได้ศาสนทายาท ดา้ นพบวา่ การใชว้ ธิ ที ถ่ี กู ตอ้ งในการบรรลเุ ปา้ หมาย ที่ดี ปฏิบัติชอบ ด�ำรงอยู่ในศาสนจักร สมควรแก่ มคี า่ เฉลย่ี สงู สดุ อยใู่ นระดบั ครงั้ เวน้ ครงั้ รองลงมา คือ ความสนใจในการเรียนอยู่ในระดับคร้ังเว้น ภาวะ สามารถธำ� รงสบื ตอ่ พระพทุ ธศาสนาใหเ้ จรญิ
ปีที่ 20 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถนุ ายน 2563) วารสารวชิ าการธรรมทรรศน์ 9 สถาพรตอ่ ไป และรายดา้ น มคี า่ เฉลยี่ หลงั การทดลองมคี า่ สงู กวา่ 2. สรา้ งหลกั สตู รฝกึ อบรมการตรวจสอบ ก่อนการทดลองอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติท่ีระดับ และปรับปรุงรูปแบบ การสร้างหลักสูตรฝึกอบรม 0.01 แสดงให้เห็นว่า หลักสูตรมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาการใช้ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่า หลักสูตรที่พัฒนาขึ้น เพอื่ สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ของนกั เรยี น ส่งผลต่อทัศนคติ ความรู้ ความเข้าใจของผู้เข้า โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา อบรม เป็นผลมาจากองค์ประกอบของหลักสูตร จงั หวดั เลย พบวา่ หลกั สตู รทส่ี รา้ งขน้ึ ประกอบดว้ ย ทม่ี คี วามสอดคลอ้ งกนั ทง้ั 6 องคป์ ระกอบ คอื ไดแ้ ก่ 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ จุดหมายกลุ่ม หลักการ จุดหมาย กลุ่มเป้าหมาย เนื้อหาและ เปา้ หมาย เนอื้ หา และกจิ กรรม การวดั และประเมนิ ผล กิจกรรม การวัดและประเมินผล ซึ่งสร้างความ ซ่ึงองค์ประกอบของหลักสูตรน้ีเป็นส่วนส�ำคัญ ชัดเจนต่อการพัฒนาหลักสูตรในการน�ำไปใช้ ที่จะท�ำให้ความหมายของหลักสูตรสมบูรณ์และ ขณะท่ีพินโย พรมเมือง (Prommuang, 2017; สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นการสอน cited by Prakru Sutheavarasarnet, et al., การประเมนิ ผล และการปรบั ปรงุ การเรยี นการสอน 2017 : 23) กล่าวว่า องค์ประกอบทั่วไปของ หรือการพัฒนาหลักสูตร สอดคล้องกับพินโย หลักสูตรมี 4 องค์ประกอบ คือ ความมุ่งหมาย พรมเมอื ง และคณะ (Prommuang, et al., 2017) (Objectives) เนอ้ื หาวชิ า (Content) การนำ� หลกั สตู ร ที่วิจัยเกี่ยวกับพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมส�ำหรับ ไปใช้ (Curriculum Implementation) และการ พัฒนาเชาว์อารมณ์ของนักศึกษาครูโดยใช้หลัก ประเมินผล (Evaluation) แต่ละองค์ประกอบมี สมถะและวิปัสสนากรรมฐานทางพระพุทธศาสนา สาระสำ� คญั ดงั น้ี 1) ความมงุ่ หมาย เปน็ เสมอื นการ พบว่า หลักสูตรที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 6 ก�ำหนดทิศทางของการจัดการศึกษา การจัดการ องค์ประกอบ คือสภาพปัญหาและความจ�ำเป็น เรยี นการสอน เพอ่ื มงุ่ ใหผ้ เู้ รยี นพฒั นาไปในลกั ษณะ จดุ หมาย เนอื้ หา แนวทางการฝกึ อบรมสอื่ ประกอบ ตา่ งๆ ทพี่ งึ ประสงคอ์ นั กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นสงั คม การฝกึ อบรม และการวัดและประเมนิ ผลหลักสูตร การก�ำหนดความมุ่งหมายของหลักสูตรต้องค�ำนึง ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของ Tyler (1950 : 205) ถึงข้อมูลพ้ืนฐานของสังคม นโยบายการจัดการ ที่กล่าวว่า การสร้างและการพัฒนาหลักสูตรต้อง ศึกษาของชาติ กรมวิชาการ และกระทรวง ประกอบดว้ ย การก�ำหนดจุดมุง่ หมาย การกำ� หนด ศึกษาธิการ 2) เน้ือหาวิชา เป็นสาระส�ำคัญท่ี ประสบการณก์ ารศึกษา และการจัดประสบการณ์ ก�ำหนดไว้ในหลักสูตรให้ชัดเจน โดยมุ่งให้ผู้เรียน ทางการศึกษาให้ผู้เรียน และประเมินผลสัมฤทธ์ิ ได้มีประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาไปสู่ความ ของหลักสตู ร มุ่งหมายของหลักสูตร 3) การน�ำหลักสูตรไปใช้ 3. การน�ำหลักสูตรอบรมในภาคสนาม เป็นองค์ประกอบท่ีสำ� คัญยง่ิ เพราะเป็นกิจกรรมที่ พบว่า คุณลักษณะฉันทะในการเรียนในภาพรวม จะแปลงหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติกิจกรรมนั้น
10 Dhammathas Academic Journal Vol. 20 No. 2 (April - June 2020) กจิ กรรมทสี่ ำ� คญั ทส่ี ดุ คอื กจิ กรรมการเรยี นการสอน การนำ� ไปใช้ โดยปัจจัยท่มี ผี ลสำ� คญั คือ หลกั สูตรมี และ 4) การประเมินผล เป็นองค์ประกอบท่ีช้ีให้ เน้ือหาท่ีได้จัดเรียงตามล�ำดับท่ีเหมาะสม มีการ เหน็ วา่ การนำ� หลกั สตู ร แปลงสกู่ ารปฏบิ ตั นิ นั้ บรรลุ วางแผนและการเตรียมตัวของวิทยากรในแต่ละ มุ่งหมายหรือไม่ หลักสูตรเกิดสัมฤทธ์ิผลมากน้อย หน่วยงานฝึกอบรม แต่หลักสูตรยังสามารถขยาย เพยี งใด ขอ้ มลู จากการประเมนิ นจ้ี ะเปน็ แนวทางไป กิจกรรมในแต่ละหน่วยการฝึกอบรมได้ให้หลาก ส่กู ารปรบั ปรุงและพฒั นาหลักสูตรต่อไป หลายมากขึ้น และขยายเวลาออกไปตามความ เหมาะสม การนำ� ไปปฏิบัตจิ งึ มีข้อเสนอแนะ ดงั นี้ 6. ขอ้ เสนอแนะ 2.1 การจดั อบรมสามารถขยายระยะ เวลาในการฝกึ อบรมออกเปน็ ระยะเวลา 2 วนั หรอื จากผลการวิจัยและอภิปรายผลดังกล่าว 3 วนั ก็ได้ โดยเพิม่ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมใน แลว้ คณะผวู้ จิ ยั สามารถนำ� ขอ้ คน้ พบมากำ� หนดเปน็ แต่ละหนว่ ยการอบรม ข้อเสนอแนะได้เปน็ 3 ระดับ ดงั นี้ 2.2 ควรมีการประชุมวางแผนของ 1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย คณะผอู้ บรม รวมถึงมกี ารเตรยี มตวั ศึกษาเก่ยี วกบั จากการศกึ ษาการใชฉ้ นั ทะจากหลกั ธรรม เนื้อหาในหน่วยการอบรมต่างๆ เพื่อความชัดเจน อทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ในหลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา กจิ กรรม และการ ของนกั เรยี นโรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญ ประเมนิ ท่ชี ัดเจน ศกึ ษา จังหวดั เลย พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดบั 2.3 ไม่ควรมีสลับเนื้อหาของหน่วย ระดับครั้งเว้นคร้ังดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควร การอบรมต่างๆ ดำ� เนนิ การดังน้ี 3. ข้อเสนอแนะส�ำหรับการวิจัยในครั้ง 1.1 โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนก ต่อไป สามัญศึกษา ควรมีการจัดอบรมให้กับนักเรียน 3.1 ควรมีการท�ำวิจัยเก่ียวกับการ อยา่ งน้อย 1 ครง้ั เพอ่ื พฒั นาการเพอ่ื สง่ เสรมิ การ พฒั นาหลกั สูตรในการพัฒนาการใฝส่ ัมฤทธิ์ในการ เรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ของนกั เรียน เรยี นของนกั เรยี นโรงเรยี นปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั 1.2 ส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ง ศกึ ษา ชาติ ควรมีนโยบายเก่ียวกับการแนะแนวทางการ 3.2 ควรมีการพัฒนาหลักสูตร ศึกษาของนักเรียนโรงเรียนปริยัติธรรม แผนก ออนไลน์และส่ือมัลติมีเดียในการพัฒนาการใช้ สามัญศึกษา ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพ่ือส่งเสริมการ 2. ขอ้ เสนอแนะเชงิ ปฏบิ ตั ิ เรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ของนกั เรยี นโรงเรยี นปรยิ ตั ิ จากการลงพน้ื ทนี่ ำ� หลกั สตู รไปทดสอบหา ธรรม แผนกสามญั ศึกษา จงั หวัดเลย ประสิทธิภาพ พบว่า หลักสูตรมีประสิทธิภาพใน
ปที ่ี 20 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2563) วารสารวิชาการธรรมทรรศน์ 11 7. องค์ความรทู้ ่ีได้รับ ฉันทะจากหลักธรรมอิทธิบาท 4 เพ่ือส่งเสริมการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนพระปริยัติธรรม งานวิจัยนี้ เป็นโครงการวิจัยท่ีได้รับทุน แผนกสามญั ศกึ ษา มกี ารพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา สนับสนุนจากส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพ่ือสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนในศตวรรษ ประจ�ำปีงบประมาณ 2561 มีวัตถุประสงค์เพ่ือ ที่ 21 และนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมเรียน พั ฒ น า รู ป แ บ บ ก า ร ใ ช ้ ฉั น ท ะ จ า ก ห ลั ก ธ ร ร ม อย่างมีความต้ังใจเรียน และเรียนอย่างความสุข อทิ ธบิ าท 4 เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 มากข้นึ โครงการวจิ ัยน้มี ปี ระโยชน์ ท�ำใหไ้ ดร้ ปู แบบการใช้ References Minister of Education. (2008). Approach of Measure Desirable Characteristics of Students as Based on the Core Basic Education Curriculum B.E. 2551 (2008). Bangkok : Bureau of Academic Affairs and Educational Standards, Office of the Basic Education Commission. National Office of Buddhism. (2006). The Strategic Plan of Phrapariyattithamma Schools for General Education Phase 1, 2549-2553 (2006-2011). Bangkok : National Office of Buddhism. Prakru Sutheavarasarn, et al. (2017). The Development of Monks’ Competency in the Development of Citizenship of Community. Research funding for the fiscal year 2017 from Yanna Sangworn Research Institute. Bangkok : Yanna Sangworn Research Institute. Prommuang, P., et al. (2017). A Training Curriculum Making for Teacher Students’ Emotional Intelligence Development through an Application of Buddhist Meditation and Insight Meditation. Research funding for the fiscal year 2017 from Yanna Sangworn Research Institute. Bangkok : YannaSangworn Research Institute. Srijanwittaya Phrapariyattithamma School. (2014). Self Assessment Report Annual 2013. Loei : Srijanwittaya Phrapariyattithamma School. Tyler, Ralph, W. (1950). Basic Principles of curriculum and Instruction. Chicago : The University of Chicago press.
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: