โรงเรียนวดั เทพชุมนุม รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยที่ 6 ส่งิ มชี วี ิตกับสิ่งแวดลอ้ ม เรื่อง โครงสร้างลกั ษณะสิง่ มีชีวติ ในแหล่งท่ีอยู่ (2) ผสู้ อน : ครพู ชั รี วรรัตนานรุ ักษ์ (ครูไก่)
ข้นั สำรวจและคน้ หำ ป่ าชายเลน เป็นป่ าที่พบบริเวณชายฝั่งทะเล ทะเลสาบ และปากแม่น้า ดินมี ลกั ษณะเป็นดินเลน มีน้าทะเลท่วมถึงสม่าเสมอ น้าเป็นน้ากร่อย และจะพบ สิ่งมีชีวติ หลายชนิดในบริเวณป่ าชายเลน เช่น ตน้ โกงกาง ตม้ แสม ตน้ ลาพู ตน้ เหงือกปลาหมอ ปลาตีน ปูกา้ มดาบ ลิงแสม กงุ้ ดีดขนั
ปูก้ามดาบ: ตัวชี้วดั ความสมบูรณ์ของป่ าชายเลน หากมีความสมดุลท้งั ดนิ นา้ และพรรณไม้จะมปี ูก้ามดาบอาศัยอยู่จานวนมาก
กงุ้ ดีดขนั : กงุ้ ขนาดเลก็ ลาตวั ใส ส่วนหวั มี ขนาดใหญ่ ตาเลก็ มีหนวดยาว มีกา้ มโต
เร่ืองท่ี 1 โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่ 1. ปำ่ ชำยเลนมลี ักษณะอย่ำงไร ตอบ เปน็ ปำ่ ท่พี บอยบู่ ริเวณชำยฝั่งทะเล ทะเลสำบ และปำกแม่นำ้ ดินเป็นดินเลน มีนำ้ ทะเลท่วมถึงสม่ำเสมอ น้ำเป็นน้ำกรอ่ ย 2. สง่ิ มีชวี ิตในป่ำชำยเลนมีอะไรบ้ำง ส่ิงมชี ีวิตเหลำ่ นั้นมีโครงสรำ้ ง และลักษณะเหมำะสมกบั กำรดำรงชวี ิตในปำ่ ชำยเลนอย่ำงไร ตอบ พบสงิ่ มชี วี ิต ต้นโกงกำง ต้นแสม ต้นลำพู ต้นเหงือกปลำหมอ ปลำตนี ปกู้ ำ้ มดำบ ลิงแสม กงุ้ ดีดขัน
จดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม ทำกิจกรรมนเี้ พอื่ อธบิ ำย โครงสร้ำงและลกั ษณะของสิ่งมชี วี ติ ที่เหมำะสมกบั กำรดำรงชวี ิตในแหลง่ ทอ่ี ยู่ตำ่ งๆ
บันทึกผลกำรทำกจิ กรรม ส่งิ มีชีวิตทีส่ ารวจพบ ลักษณะทเ่ี หมาะสมตอ่ การดารงชวี ติ แหลง่ ทอ่ี ยู่ 1. บวั ลำตน้ มโี พรงอำกำศเพ่ือให้ลอยนำ้ ได้ แม่นำ้ 2. จิง้ จก มีสีของลำตวั กลมกลนื กับสีของผนัง อำคำร/ บำ้ น บ้ำนเรือน 3. ต้นตำลงึ มมี ือเกำะเพื่อช่วยยดึ ลำต้น ป่ำ 4. ผักตบชวำ ลำต้นมโี พรงอำกำศเพื่อใหล้ อยน้ำได้ แม่นำ้ 5. ตก๊ั แตน มลี ำตน้ สเี ขยี วเหมอื นตน้ หญำ้ ใบไม้ ปำ่
ขั้นอธบิ ำย ผลการอภปิ รายโครงสรา้ งและลกั ษณะของสิ่งมชี ีวิตที่เลือก โครงสรำ้ งและลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ ท่เี หมำะสมกบั กำรดำรงชวี ิตในแหล่งทอี่ ยู่ คือ 1. ในนำ้ ลำตน้ มีโพรงอำกำศ มีโคนกำ้ นพองออกเพ่ือให้ลอยนำ้ ได้ 2. ในทะเลทรำย มลี ำต้นหนำ ใบเปลี่ยนเปน็ หนำม มรี ำกแผก่ ระจำย 3. ในปำ่ ชำยเลน มรี ำกค้ำจุน เพอื่ ป้องกนั ไมใ่ ห้ลำตน้ โค่นล้มได้งำ่ ย โครงสรำ้ งและลักษณะนั้นเหมำะสมกับกำรดำรงชีวติ ในแหลง่ ที่อยู่ ดงั นี้ ในนำ้ ในทะเลทรำย และในปำ่ ชำยเลน
ฉันรอู้ ะไร 1. สตั วแ์ ละพืชทอี่ ยใู่ นนา้ มีโครงสรา้ งและลักษณะของร่างกายเหมาะสมกับ การดารงชวี ิตในนา้ อยา่ งไร ตอบ สัตวใ์ นนำ้ ได้แก่ ปลำ ก้งุ หอย และกบ มโี ครงสร้ำงชว่ ยในกำรเคล่ือนท่ี ในนำ้ เชน่ ปลำมีครบี กบมีพังผดื เชอ่ื มระหวำ่ งนิว้ พชื นำ้ เช่น ผักตบชวำ ลำตน้ มีช่องอำกำศ ผกั ระเฉด มีนวมสีขำวห้มุ ลำต้น 2. สัตวท์ ่อี ยบู่ ริเวณขั้วโลกมโี ครงสร้างและลักษณะของร่างกายเหมาะสมกบั การดารงชวี ิตในบรเิ วณขวั้ โลกอย่างไร ตอบ หมีข้วั โลกมีขนหนำปกคลุมรำ่ งกำย และมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนำ นกฮกู ขว้ั โลก มขี นดกแน่นทอ่ี ุ้งเท้ำ หมำปำ่ ขัว้ โลก มใี บหูและจมูกสน้ั เพอื่ ลดกำรระบำยควำมรอ้ น
3. สตั ว์และพืชทีอ่ ยู่บรเิ วณทะเลทรายมีโครงสรา้ งและลกั ษณะของร่างกายเหมาะสม กับการดารงชวี ติ ในบรเิ วณทะเลทรายอย่างไร ตอบ อฐู มีโหนกสำหรบั เกบ็ ไขมัน มีขนตำยำว มีขำยำว สุนขั จง้ิ จอกทะเลทรำย มใี บหูใหญ่ มจี มกู ยำว กระบองเพชร มใี บแหลมแข็ง ลดกำรคำยนำ้ มีลำต้นอวบน้ำ 4. ตนี ของนก ไก่ และเปด็ มโี ครงสร้างและลกั ษณะแตกต่างกนั หรอื ไม่ โครงสร้าง และลกั ษณะนนั้ ๆ เหมาะสมกับการดารงชวี ติ ในแหลง่ ทอ่ี ยอู่ ย่างไร ตอบ ตนี ของนก มนี ว้ิ ตนี ข้ำงหนำ้ 3 น้วิ ข้ำงหลัง 1 นว้ิ ทำใหน้ กกระโดดได้ ไกจ่ ะมนี ้วิ 4 นว้ิ นิ้วตนี ดำ้ นหลังยกสงู ทำใหค้ ยุ้ เขี่ยอำหำรไดส้ ะดวก เป็ดมีพังผดื ระหว่ำงน้วิ ชว่ ยในกำรว่ำยนำ้
5. จากกิจกรรมนี้ คน้ พบอะไรบา้ งเกยี่ วกบั โครงสร้างและลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ิต ท่เี หมาะสมกับแหล่งทอี่ ยู่ ตอบ สิง่ มชี ีวิตมีโครงสรำ้ งและลักษณะของรำ่ งกำยที่เหมำะสมกับ แหล่งท่อี ยตู่ ่ำงๆซ่งึ เปน็ ผลมำจำกกำรปรบั ตวั ของสง่ิ มชี ีวิต เพื่อให้ สำมำรถดำรงชีวิตอยู่รอด 6. จากสิง่ ทค่ี น้ พบ สรปุ ได้ว่าอย่าง ตอบ สิ่งมีชวี ติ จะปรับโครงสรำ้ งและลักษณะของตนเองให้มีควำม เหมำะสมกับสง่ิ แวดล้อมมำกท่สี ดุ เพอื่ ใหส้ ำมำรถดำรงชวี ติ อย่รู อด
ข้นั ขยำยควำมรู้ นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 1. สิ่งมีชีวิตที่อาศยั อยใู่ นชุมชนของนกั เรียน มีการปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ ม ในลกั ษณะใด แนวคำตอบ ก้งิ ก่ำปรับตวั ให้เขำ้ กับ สภำพแวดล้อมท่อี ำศยั อยู่ โดยกำรปรับสี ตัวให้กลมกลนื กบั สภำพแวดลอ้ ม
นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 2. การสูญพนั ธุข์ องสิ่งมีชีวิตเกี่ยวขอ้ งกบั การ ปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มหรือไม่ ลกั ษณะใด เกีย่ วข้อง เนื่องจำกส่งิ มชี วี ิตทไ่ี ม่สำมำรถ ปรบั ตวั ให้เขำ้ กับสภำพแวดล้อมท่อี ำศยั อยู่ ได้จะทำใหส้ ่งิ มชี วี ติ นัน้ สญู พนั ธ์ุไป
กิจกรรมประจาหน่วย ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ อูฐมีการปรับตวั ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มในลกั ษณะใด มีหนอกเพอื่ สะสมอำหำรไวใ้ ช้ มีขำยำว มขี นเกรียน ทำให้ ระบำยควำมร้อนได้ดี
ค้นหาคาตอบ 1. ยกตวั อยา่ งส่ิงมีชีวิตท่ีมีการปรับรูปร่างใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ ม ที่อาศยั อยู่ แนวคาตอบ ตกั๊ แตนกิ่งไม้ ตกั๊ แตนใบไม้ และผเี ส้ือกลางคืน 2. ถา้ ส่ิงมีชีวิตไม่ปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มจะเกิดสิ่งใดข้ึน ไม่สามารถอาศยั อยใู่ นสภาพแวดลอ้ มน้นั ได้
นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 1. จิ้งจกมีการปรับตวั ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มในลกั ษณะใด ปรับสีตวั ใหเ้ ขา้ กบั บริเวณท่ีอาศยั อยู่ เพอื่ พรางตวั จากศตั รูและเหยอ่ื 2. สิ่งมีชีวติ มีการปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มที่อาศยั อยเู่ พอ่ื อะไร เพ่ือการอยรู่ อดและดารงพนั ธุ์ต่อไป
ขั้นประเมิน กิจกรรมประจาหน่วย บทความชวนคดิ คาชี้แจง อ่านบทความตอ่ ไปน้ีแลว้ ตอบคาถาม โกงกาง โกงกางเป็ นพืชที่อาศยั อยู่ตามป่ าชายเลน ซ่ึงเป็ นพ้ืนท่ีที่มีน้าขงั อยู่เสมอเนื่องจาก อิทธิพลของน้าข้ึน น้าลง ทาให้แก๊สออกซิเจนในอากาศไม่สามารถแพร่ลงสู่ดินได้ โกงกางจึงมีการปรับตวั ให้เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มท่ีอาศยั อยู่โดยการมีรากจานวน มากไวค้ ้าจุน บางส่วนโผล่พน้ มาจากดิน เพ่ือไวห้ ายใจเวลาน้าทะเลข้ึนท่วมบริเวณป่ าชาย เลน ป่ าโกงกางมีความสาคญั มากสาหรับสัตวท์ ะเลต่าง ๆ เนื่องจากเป็ นที่วางไข่และ ฟักตวั ออ่ น และเป็นบริเวณท่ีมีความสมดุลทางธรรมชาติสูงมาก
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามที่ 1: โกงกาง ทาไมโกงกางจึงตอ้ งมีรากค้าจุนในดินเลนซ่ึงเป็นพ้ืนที่ท่ีมีน้าขงั อยเู่ สมอ 1. เพื่อใหล้ าตน้ ยนื อยไู่ ด้ 2. เพือ่ สะสมอาหารไวใ้ ช้ 3. เพื่อหาธาตุอาหารไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ 4. เพอ่ื ป้องกนั อนั ตรายจากสตั วท์ ะเลต่าง ๆ
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามท่ี 2: โกงกาง ไมโ้ กงกางมีลกั ษณะที่เหมาะสาหรับการนามาแปรรูปเป็น เฟอร์นิเจอร์ เคร่ืองมือเครื่องใช้ ต่าง ๆ ใชใ้ นงานก่อสร้าง ถา้ มนุษย์ นาไมโ้ กงกางมาแปรรูปเป็นสิ่งต่าง ๆ มากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อ สตั วท์ ะเลชนิดต่าง ๆ ที่อาศยั อยใู่ นป่ าโกงกางลกั ษณะใด สตั วท์ ะเลชนิดต่าง ๆ มีจานวนลดลงเน่ืองจากไม่มีพ้ืนที่สาหรับ วางไข่และฟักตวั อ่อน
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามที่ 3: โกงกาง ความเสียหายของ ไม่มีป่ าโกงกาง ชายฝ่ัง1ท0ะ0เล (ร้อยละ) มีป่ าโกงกาง นกั วทิ ยาศาสตร์ไดท้ าการสารวจ 90 แห่งท่ี 5 80 แห่งที่ 1 70 ความเสียหายของพ้ืนท่ีชายฝั่งทะเล 60 แห่งท่ี 3 จากการกดั เซาะของกระแสน้า 50 ไดผ้ ลสรุปดงั ตารางต่อไปน้ี 40 30 20 10 0 แห่งที่ 2 แห่งที่ 4 การสารวจน้ีพยายามตอบคาถามอะไร พ้นื ท่ีชายฝั่งทะเล ป่ าโกงกางมีผลต่อความเสียหายของชายฝั่งทะเลจากการกดั เซาะของ กระแสน้าหรือไม่
สรุป การปรับตวั ของสิ่งมชี ีวติ ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อม ทาให้ ส่ิงมีชีวติ อยรู่ อดและดารงพนั ธุ์ตอ่ ไปได้ เรียนรู้เกี่ยวกบั การปรับตัวของสิ่งมชี ีวติ แต่ละชนิด เช่น ตกั๊ แตนใบไม้ ผกั ตบชวา จงิ้ จก อฐู โกงกาง ปลา
สรุป การปรับตวั ของส่ิงมีชีวติ ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อม ทาให้ สิ่งมีชีวติ อยรู่ อดและดารงพนั ธุ์ต่อไปได้ เรียนรู้เก่ียวกบั การปรับตวั ของส่ิงมชี ีวิตแต่ละชนิด เช่น กระบองเพชร หมขี าว
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: