โรงเรียนวัดเทพชมุ นมุ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 หนว่ ยที่ 6 สง่ิ มีชวี ิตกับส่งิ แวดลอ้ ม เรื่อง การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย์ (2) ผ้สู อน : ครูพชั รี วรรตั นานุรักษ์ (ครไู ก่)
การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย ์ เร่ืองน่ารู้: ยนี ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสามารถถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปสู่ลูกได้ โดยอาศยั หน่วยพนั ธุกรรมท่ีเรียกวา่ ยนี
ยีน (Gene) คือ หน่วยพนั ธุกรรมท่ีทาหน้าท่ีควบคุมและถ่ายทอดลกั ษณะทาง พนั ธุกรรมของส่ิงมีชีวติ ยนี จะอยบู่ นโครโมโซมซ่ึงอยภู่ ายในเซลลข์ องสิ่งมีชีวิต โดย โครโมโซมแท่งหน่ึงจะมียนี อยเู่ ป็นจานวนมาก และเน่ืองจากโครโมโซมอยกู่ นั เป็นคู่ ยนี ท่ีอยบู่ นโครโมโซมจึงมีเป็นคู่ดว้ ย
ยีน 1 ยีน จะควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมเพียงลักษณะเดยี ว โดย ยีนทค่ี วบคมุ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมมี 2 ชนดิ ได้แก่ ยีนเด่น คือ ยีนที่สามารถแสดงลักษณะน้ันออกมาได้ แม้มียีน นั้นเพียงยีนเดียว เรียกว่า ลักษณะเด่น เขียนแทนด้วยตัวอักษร ภาษาองั กฤษตวั พมิ พใ์ หญ่ เช่น AA , Aa ยีนดอ้ ย คือ ยีนท่ีสามารถแสดงลักษณะน้ันออกมาได้ก็ต่อเม่ือ ต้องเข้าคู่กับยีนด้อยด้วยกัน เรียกว่าลักษณะด้อย เขียนแทนด้วย ตวั อกั ษรภาษาอังกฤษตวั พิมพ์เล็ก เชน่ aa
เราเรียกการจับคู่กันของยีนท่ีควบคุมการปรากฏลักษณะ ทางพันธุกรรมว่า จโี นไทป์ (Genotype) จะเขียนแทนดว้ ย ตวั อังษรภาษาอังกฤษ 2 ตัวคู่กัน เช่น AA , Bb , dd และ เรียกการปรากฏของลักษณะทางพันธุกรรมว่า ฟีโนไทป์ (Phenotype) เช่น ลักษณะการมีติ่งหู ลักษณะขนสีขาว ลักษณะลาต้นเปน็ หนาม
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมของส่ิงมีชีวติ สามารถสรุปได้ 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี 1. ลกั ษณะเด่น คือ ลักษณะทแี่ สดงหรอื ปรากฏในทกุ รนุ่ ของสงิ่ มชี ีวิต 2. ลกั ษณะดอ้ ย คือ ลักษณะที่แสดงหรอื ปรากฏในบางรนุ่ เทา่ นน้ั เพราะถูก ลกั ษณะเดน่ ขม่ ไว้ 3. ลกั ษณะทแ่ี ปรผนั คือ ลกั ษณะท่ีแตกต่างจากลักษณะของสมาชิกใน ครอบครัว และสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นตอ่ ๆไปได้
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย ์ สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคน มีลกั ษณะอย่างไร เราลองมาสารวจลกั ษณะ ของสมาชิกในห้องเรียนกนั
การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย ์ 2. อภิปราย เปรียบเทียบบุคคลที่มีลกั ษณะใกลเ้ คียงกนั หรือแตกต่างกนั 1. สงั เกตลกั ษณะต่อไปน้ีของสมาชิกในหอ้ งเรียนและบนั ทึกขอ้ มูล นาเสนอขอ้ มูล ในรูปกราฟแท่ง ∙ สีดวงตา (ดา, น้าตาล) ∙ สีผม (ดา, น้าตาล) ∙ สีผวิ (ขาว, ดาแดง) ∙ เสน้ ผม (ตรง, หยกั ศก) ∙ ลกั ยมิ้ (มี, ไม่มี)
การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย ์ แนวคำถำม 1. สมาชิกคนใดในหอ้ งเรียนท่ีมีลกั ษณะเหมือนกนั ทุกอยา่ ง ไม่มี 2. สมาชิกในหอ้ งเรียนมีลกั ษณะใดท่ีเหมือนกนั มากที่สุด กี่คน แนวคาตอบ สีผมเหมือนกนั มากท่ีสุด คือ มีผมสีดา 25 คน
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย ์ แนวคำถำม 3. นกั เรียนไดป้ ระโยชนอ์ ะไรจากการปฏิบตั ิกิจกรรมน้ี แนวคาตอบ ทราบวา่ เพื่อนแต่ละคนมีลกั ษณะแตกต่างกนั และไม่ควรลอ้ เลียนเพ่อื นท่ีมีลกั ษณะแตกต่างจากคนอื่น
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย ์ ตวั เรากบั นอ้ งอาจจะมีความสูงไม่เท่ากนั ความแตกต่างดงั กล่าว เรียกวา่ ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม
นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 1. ส่ิงใดเป็นตวั กาหนดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ของมนุษย์ ยนี 2. พ่นี อ้ งท่ีเกิดจากพอ่ แม่เดียวกนั แต่มีลกั ษณะ บางอยา่ งแตกต่างกนั เนื่องจากสาเหตุใด ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม
ข้นั ประเมิน ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ 1. สิ่งมีชีวติ สามารถใหก้ าเนิดลูกหลานไดโ้ ดยผา่ นกระบวนการใด การสืบพนั ธุ์ 2. ลกั ษณะเฉพาะบางอยา่ งที่ถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปสู่ลูกหลานได้ เรียกวา่ อะไร ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ 3. ยกตวั อยา่ งลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษยม์ า 5 อยา่ ง แนวคาตอบ 1) ผมตรง–ผมหยกั ศก 4) มีลกั ยมิ้ –ไม่มีลกั ยมิ้ 2) มีติ่งหู–ไม่มีติ่งหู 5) ห่อลิ้นได–้ ห่อลิ้นไม่ได้ 3) หนงั ตาช้นั เดียว–หนงั ตาสองช้นั 4. หนูนามีผมยาวเหมือนแม่ ถือวา่ เป็นลกั ษณะทางพนั ธุกรรมหรือไม่ เพราะอะไร ไม่ เพราะผมยาวไม่ใช่ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ 5. เป็นไปไดห้ รือไม่วา่ ตวั เราอาจมีลกั ษณะบางอยา่ งท่ีคลา้ ยป่ ู ยา่ ตา หรือยาย เป็ นไปได้ 6. คนในครอบครัวเดียวกนั อาจมีลกั ษณะบางอยา่ งท่ีแตกต่างกนั ลกั ษณะที่แตกต่างกนั น้ีเกิดจากอะไร ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม
ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจท่คี งทน 1. พิจารณาลกั ษณะต่อไปน้ี แลว้ บอกวา่ ลกั ษณะใดเป็นลกั ษณะทาง พนั ธุกรรม และลกั ษณะใดไม่เป็นลกั ษณะทางพนั ธุกรรม มแี ผลเป็ น ถนัดซ้าย ผมตรง ผวิ ผมส้ัน หนังตาสองช้ัน สายตายาว ชอบกนิ หวาน ดาแดง มลี กั ยมิ้ ห่อลนิ้ ได้ ดวงตาสีนา้ ตาล มีตง่ิ หู
ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจทค่ี งทน ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ไดแ้ ก่ ผมตรง หนังตาสองช้ัน ผวิ ดาแดง มีลกั ยมิ้ ห่อลนิ้ ได้ ดวงตาสีนา้ ตาล และมตี ง่ิ หู ลกั ษณะทไ่ี ม่ใช่ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ไดแ้ ก่ มแี ผลเป็ น ถนัดซ้าย ผมส้ัน สายตายาว และชอบกนิ หวาน
ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจทค่ี งทน 2. พอ่ แม่ของเดก็ หญิงไม่มีลกั ยมิ้ แต่ตวั เดก็ หญิงมีลกั ยมิ้ นกั เรียน จะใชค้ วามรู้ท่ีเรียนมาอธิบายเรื่องน้ีอยา่ งไร เดก็ หญิงไดร้ ับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมการมีลกั ยมิ้ จากป่ ู ยา่ ตา หรือยาย
ข้นั ประเมิน สรุป การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย์ เรียนรู้เก่ียวกบั ลกั ษณะของมนุษย์ทสี่ ามารถถ่ายทอดไปสู่รุ่นลกู รุ่นหลานได้ เช่น เสน้ ผม หนงั ตา การห่อลิ้น สีผวิ ต่ิงหู
แบบฝึ กหัดท้ายบทที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของส่ิงมชี ีวติ 1. ลูกมา้ และพอ่ ของลูกมา้ มีลกั ษณะดงั รูป แม่ของลูกมา้ ตวั น้ีน่าจะ มีลกั ษณะอยา่ งไร แม่มา้ มีลกั ษณะ มีหางยาว มีขนท่ีหางสีดา มีขนท่ีลาคอสีดา มีลาตวั สีน้าตาล มีกีบเทา้ สีขาว 199
แบบฝึ กหัดท้ายบทที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสิ่งมีชีวติ 2. ตน้ เทียนท่ีมีลกั ษณะดอกดงั รูปน่าจะเกิดจากตน้ พอ่ และตน้ แม่ท่ีมี ลกั ษณะดอกอยา่ งไร เพราะเหตุใด ตน้ เทียนมีสองสีรวมกนั คือสีม่วงกบั สีขาวเกิดจากการผสมขา้ ม สายพนั ธุ์ ตน้ เทียนตน้ พอ่ จะมีสีม่วง ตน้ เทียนตน้ แม่จะมีสีขาว 200
แบบฝึ กหัดท้ายบทที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธ์ุกรรมของสิ่งมีชีวติ 3. ถา้ นาตน้ เทียนน้ีผสมพนั ธก์ บั ตน้ เทียนท่ีมีดอกสีขาวรุ่นลูกน่าจะมี ลกั ษณะดอกเป็นอยา่ งไร เพราะเหตุใด จะมีดอกสีขาวม่วง สามดอก มีดอกสีขาว หน่ึงดอก เพราะดอกสี ขาวเป็นลกั ษณะดอ้ ยแสดงออกมาในรุ่นหลาน 201
แบบฝึ กหัดท้ายบทท่ี 1 ลกั ษณะทางพนั ธ์ุกรรมของส่ิงมีชีวติ 4. ครอบครัวหน่ึงแม่มีลกั ยมิ้ มีลูก 3 คน มีลกั ยมิ้ 1 คน ไม่มีลกั ยมิ้ 2คนเป็นไปไดห้ รือไม่วา่ พอ่ จะไม่มีลกั ยมิ้ เพราะเหตุใด เป็นไปไดท้ ี่พอ่ ไม่มีลกั ยมิ้ แต่เป็นพนั ทาง แม่มีลกั ยมิ้ พนั ธุ์แท้ และลกั ษณะไม่มีลกั ยมิ้ มีจานวนมากกวา่ เป็นลกั ษณะเด่น ลกั ษณะมีลกั ยมิ้ มีจานวนนอ้ ยกวา่ เป็นลกั ษณะดอ้ ย 202
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: