โรงเรียนวดั เทพชมุ นมุ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 หนว่ ยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร เร่ือง การเปล่ยี นแปลงทางเคมีในชวี ติ ประจาวัน ผสู้ อน : ครพู ชั รี วรรัตนานรุ กั ษ์ (ครไู ก่)
ถา้ เราทิ้งแกงกะทิไวน้ อกตูเ้ ยน็ 1 คืน นกั เรียนคิดวา่ วนั ต่อมาแกงกะทิจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยา่ งไร นกั เรียนสงั เกตการเปลี่ยนแปลงจากส่ิงใด 190
2. การเปลย่ี นแปลงทางเคมี การสังเกตการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีของสาร การเกิดฟองแก๊ส การเปล่ียนสี การเกิดตะกอน การเกิดกลิ่น 191
บริเวณบ้านของนกั เรียน เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางเคมีใดบ้าง เราลองมาสารวจ การเปลย่ี นแปลงทางเคมีกนั 192
1. สารวจการเปล่ียนแปลงทางเคมีในบริเวณบา้ นของนกั เรียน 2. ระบุลกั ษณะของการเปลี่ยนแปลใงทางเคมี แลว้ จาแนกเป็นการเปลี่ยนแปลง ทางเคมีท่ีเกิดประโยชน์และเกิดโทษ 193
แนวคาถาม 1. การเปล่ียนแปลงทางเคมีลกั ษณะใดเกิดข้ึนมากท่ีสุด แนวคาตอบ การเกิดกล่ิน 2. การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดประโยชน์มีอะไรบา้ ง แนวคาตอบ การสุกของอาหารและการกาจดั คราบของ น้ายาลา้ งหอ้ งน้า 194
แนวคาถาม 3. การเปลี่ยนแปลงทางเคมีท่ีเกิดโทษมีอะไรบา้ ง แนวใคาตอบ การเกิดสนิมและการบูดของอาหาร 195
ให้นักเรียนวงกลมคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษในตารางอักษร ท่ีตรงกบั คาภาษาไทยที่ใกาหนดให้ 196
การหลอมเหลว การระเหย การเดือด การควบแน่น การระเหิด การเกิดปฏิกิริยา ตวั ละลาย ตวั ทาละลาย 197
นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 1. นกั เรียนมีวธิ ีสงั เกตอาหารบูดอยา่ งไร สงั เกตวา่ มีฟองแก๊สหรือมีกล่ินเหมน็ หรือไม่ 2. นกั เรียนมีวิธีสงั เกตน้าเสียในคลองอยา่ งไร สงั เกตวา่ มีกลิ่นเหมน็ หรือสีของน้าเปลี่ยนไปหรือไม่ 198
กิจกรรมประจาหน่วย ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะสาคญั ของการเกิดปฏิกิริยาคืออะไร เม่ือสารมารวมกนั แลว้ ตอ้ งมีสารใหม่เกิดข้ึนเสมอ 199
กิจกรรมประจาหน่วย ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจทคี่ งทน จาแนกรูปวา่ เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรือการเปล่ียนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลง การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลง ทางเคมี ทางกายภาพ ทางกายภาพ 200
กิจกรรมประจาหน่วย ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจทค่ี งทน จาแนกรูปวา่ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพหรือการเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลง การเปล่ียนแปลง การเปล่ียนแปลง ทางเคมี ทางกายภาพ ทางเคมี 201
กิจกรรมประจาหน่วย บทความชวนคดิ คาชี้แจง อ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถาม อาหารกระป๋ อง อาหารกระป๋ องเป็ นอาหารท่ีเก็บไวไ้ ดน้ านและสะดวกในการนามา รับประทาน อาหารที่บรรจุในกระป๋ องน้ันผ่านกระบวนการฆ่าเช้ือ จุลินทรียท์ ี่เป็ นสาเหตุของการบูดเน่า กระป๋ องทาจากโลหะที่เคลือบ ดา้ นในดว้ ยดีบุกเพื่อป้องกนั สนิม และมีฝาปิ ดมิดชิดเพอื่ ป้องกนั ไม่ให้ อากาศเขา้ การเลือกซ้ืออาหารกระป๋ องมีวิธีพิจารณา ดงั น้ี 202
กิจกรรมประจาหน่วย บทความชวนคดิ คาชี้แจง อ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถาม อาหารกระป๋ อง ลกั ษณะภายนอก 1. ฉลากต้องแสดงชื่ออาหาร เลขทะเบียนอาหาร น้ าหนักหรื อ ปริมาตรสุทธิ ช่ือและท่ีต้ังของผูผ้ ลิต วัน/เดือน/ปี ที่ผลิตหรือ หมดอายุ รวมถึงชนิดและปริมาณของวตั ถุเจือปน 2. ฝาและกน้ กระป๋ องตอ้ งไม่บุบหรือพอง 3. ผวิ ของกระป๋ องตอ้ งไม่ข้ึนสนิม 203
กิจกรรมประจาหน่วย บทความชวนคดิ คาชี้แจง อ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถาม อาหารกระป๋ อง ลกั ษณะภายใน 1. ผวิ ดา้ นในกระป๋ องควรเรียบ ไม่ข้ึนสนิมหรือมีรอยด่าง 2. ขณะท่ีเปิ ดกระป๋ องไม่ควรมีลมดนั จากภายในกระป๋ องออกมา 3. อาหารท่ีมีความเป็นกรดสูงควรเป็นกระป๋ องที่มีสารเคลือบดา้ นใน ที่ไม่เป็นอนั ตราย 204
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามที่ 1: อาหารกระป๋ อง การรับประทานอาหารกระป๋ องใหป้ ลอดภยั ที่สุด ควรทาวธิ ีใด 1. เทอาหารกระป๋ องลงในภาชนะอื่นก่อนนาไปอุ่น ใหร้ ้อน 2. เปิ ดอาหารกระป๋ องรับประทานไดเ้ ลยโดยไม่ตอ้ ง ลา้ งกระป๋ อง 3. อาหารกระป๋ องที่กระป๋ องข้ึนสนิมแคภ่ ายนอก สามารถนามารับประทานได้ 4. อาหารกระป๋ องท่ีหมดอายไุ ม่เกิน 1 เดือน ยงั คง รับประทานไดแ้ ต่ตอ้ งนาไปใหค้ วามร้อนก่อน 205
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามท่ี 2: อาหารกระป๋ อง นกั โภชนาการตอ้ งการศึกษาวา่ อาหารที่เป็นกรด ทาใหก้ ระป๋ องข้ึนสนิมไดง้ ่ายหรือไม่ นกั โภชนาการ ควรศึกษาเก่ียวกบั เร่ืองใด 1. กระป๋ องทาจากโลหะใดบา้ ง 2. สนิมมีผลต่อร่างกายอยา่ งไร 3. กรดทาปฏิกิริยากบั โลหะหรือไม่ 4. อาหารชนิดใดมีความเป็นกรดบา้ ง 206
กิจกรรมประจาหน่วย คาถามท่ี 3: อาหารกระป๋ อง การเลือกอาหารกระป๋ องตอ้ งสงั เกตวา่ ฝาและกน้ กระป๋ องตอ้ งไม่บุบหรือพองเพราะอะไร เพราะการท่ีอาหารกระป๋ องบุบแสดงว่าไดร้ ับแรง ก ร ะ แ ท ก ซ่ึ ง อ า จ ท า ใ ห้ เ กิ ด ร อ ย ร่ั ว แ ล ะ มี ส า ร ปนเป้ื อนในอาหารได้ ส่วนการที่อาหารกระป๋ อง บวมแสดงว่าอาหารภายในกระป๋ องมีแก๊สเกิดข้ึน จากการบูดของอาหาร ดงั น้นั เราไม่ควรเลือกซ้ือ อาหารกระป๋ องที่ฝาและกน้ กระป๋ องบุบหรือพอง 207
สรุป ลกั ษณะของการเปลยี่ นแปลงทางเคมี แบ่งเป็ น เกดิ ประโยชน์ เกดิ โทษ เช่น เช่น การสุกของอาหาร การเกิดสนิมและ และการกาจดั คราบ การบูดของอาหาร ของน้ายาลา้ งหอ้ งน้า 208
แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสสาร 209
เลือกคาตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. การหลอมเหลวเกดิ ขึน้ เม่ือใด ก อุณหภูมิลดลง ข สารละลายในน้า ค สารเดิมเปลี่ยนเป็นสารใหม่ ง ของแขง็ เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะการหลอมเหลวเป็นการเปล่ียนสถานะของสสาร จากสถานะของแขง็ เป็นของเหลว 210
22.. การกระทาใดไม่ทำให้เกดิ การกลายเป็ นไอ ก ตม้ น้าใหเ้ ดือด ข นาแกงจืดมาอุ่น ค นาเนยมาทาอาหาร ง นาผา้ ท่ีซกั แลว้ ไปตาก คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะความร้อนจะทาใหเ้ นยที่มีสถานะของแขง็ เปล่ียนเป็นเนยเหลวท่ีมีสถานะของเหลว ซ่ึงเรียกการเปลี่ยนแปลงลกั ษณะน้ีวา่ การหลอมเหลว 211
3. ข้อความใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั การควบแน่น ก เกิดข้ึนเม่ืออุณหภูมิเพิ่มข้ึน ข เกิดข้ึนเมื่อมีสารมาผสมกนั ค เป็นการเปลี่ยนสถานะของแก๊ส ง เป็นการเปล่ียนแปลงท่ีผนั กลบั ไม่ได้ คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะการควบแน่นเกิดข้ึนเมื่ออุณหภูมิลดลง ทาใหส้ ารท่ีมีสถานะแก๊สเปลี่ยนเป็นสถานะ ของเหลว 212
4. การแข็งตวั ของสารสังเกตได้จากอะไร ก สารไม่ละลายในน้า ข สารเปลี่ยนเป็นสารใหม่ ค สารมีอุณหภูมิเปล่ียนแปลง ง สารเปลี่ยนสถานะเป็นของแขง็ คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะการแขง็ ตวั ของสารเกิดข้ึนเม่ือสารเปลี่ยนสถานะเป็นของแขง็ 213
5. การระเหิดมแี นวโน้มการเปลย่ี นแปลงอุณหภูมเิ หมือนกบั การเปลยี่ นแปลงของสสารแบบใด ก การเดือด ข การละลาย ค การควบแน่น ง การระเหิดกลบั คาอธิบาย: ก ถูกตอ้ ง เพราะการระเหิดและการเดือดเกิดข้ึนเม่ืออุณหภูมิเพิ่มข้ึน 214
6. การละลายสังเกตได้จากส่ิงใด ก เน้ือสารมีสีเปล่ียนแปลงไป ข เน้ือสารรวมเป็นเน้ือเดียวกนั ค เน้ือสารเปลี่ยนเป็นสารชนิดใหม่ ง เห็นเน้ือสารท่ีเป็นส่วนผสมชดั เจน คาอธิบาย: ข ถูกตอ้ ง เพราะการละลายเป็นการรวมเป็นเน้ือเดียวกนั ของสารผสม และมองเห็นสารผสมน้นั เป็ นเน้ือเดียวกนั 215
7. ข้อความใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั นา้ เกลือ ก น้าเป็นตวั ละลาย ข เกลือเป็นตวั ทาละลาย ค น้าเกลือเป็นสารละลาย ง น้าเกลือเป็นสารเน้ือผสม คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะน้าเกลือเป็นสารผสมท่ีเกิดจากน้าและเกลือละลายเป็นเน้ือเดียวกนั 216
8. สารละลายใดใช้เกณฑ์ในการจาแนกตวั ทาละลาย และตัวละลายแตกต่างจากกลุ่ม ก โซดา ข น้าทะเล ค น้าเช่ือม ง แอลกอฮอลล์ า้ งแผล คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะแอลกอฮอลใ์ ชป้ ริมาณของสารเป็นเกณฑใ์ นการจาแนกตวั ทาละลายและตวั ละลาย ซ่ึงแตกต่างจากโซดา น้าทะเล และน้าเช่ือม 217
9. เมื่อผสมของเหลว 2 ชนิดแล้ว การเปลย่ี นแปลงใด ไม่ได้แสดงถึงการเปลยี่ นแปลงทางเคมี ก มีกลิ่นฉุน ข มีฟองแก๊ส ค เกิดตะกอน ง รวมเป็นเน้ือเดียวกนั คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะการรวมเป็นเน้ือเดียวกนั ไม่ไดแ้ สดงวา่ มีสารใหม่เกิดข้ึน แต่เป็นการแสดงถึง การละลายของสาร 218
10. เหตุการณ์ใดไม่ใช่การเปลยี่ นแปลงทผ่ี นั กลบั ไม่ได้ ก การจุดไมข้ ีดไฟ ข การเกิดสนิมของตะปู ค การวางน้าแขง็ แหง้ กลางแจง้ ง การผสมน้าสม้ สายชูกบั ผงฟู คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะการวางน้าแขง็ แหง้ กลางแจง้ ทาใหน้ ้าแขง็ แหง้ ไดร้ ับความร้อน น้าแขง็ แหง้ ท่ีมีสถานะ ของแขง็ จะเปลี่ยนเป็นไอของน้าแขง็ แหง้ ที่มีสถานะแก๊ส ซ่ึงเป็นการเปล่ียนสถานะของสสาร จึงเป็นการ เปล่ียนแปลงที่ผนั กลบั ได้ 219
น้านามาใชป้ ระโยชน์ในการทาเป็ นตวั ทาละลาย นักเรียนคิดว่า เรา สามารถนาน้าจากแหล่งน้าแต่ละแหล่งมาใชป้ ระโยชน์ไดเ้ ท่ากนั หรือไม่ ให้นกั เรียนอ่านเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แหล่งน้าธรรมชาติ เพอ่ื เรียนในคร้ังต่อไป เตรียมประเด็นคาถามท่ีสงสัยจากภาระงานก่อนเรียนมาอยา่ งนอ้ ย คนละ 1 คาถาม 220
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: