Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 การจัดองค์การ

หน่วยที่ 1 การจัดองค์การ

Published by deunnony, 2020-08-03 05:04:11

Description: หน่วยที่ 1 การจัดองค์การ

Search

Read the Text Version

หนว่ ยที่ 1 การจดั องคก์ าร องค์การ คือ กลุม่ บุคคล แต่เปน็ กลุ่มท่คี อ่ นข้างใหญ่ และมี ลักษณะเฉพาะที่มีจดุ มุ่งหมายในการดาเนินการอยา่ งใดอย่างหนึ่งโดย กลุ่มบุคคลนีจ้ ะมีสงิ่ ยดึ เหนีย่ วรว่ มกนั และร่วมแรงรว่ มใจกนั ทางานเพื่อ บรรลุเปา้ หมายที่ไดว้ างไว้ เนอื่ งจาก ทฤษฏีนี้จะเน้นให้เห็นถงึ ความสาคัญของคนที่ทา หนา้ รว่ มกนั ในองค์การ ถือว่าองคก์ ารประกอบไปด้วยบุคคลซึ่งทางาน โดยมีเปา้ หมายร่วมกัน และกลุม่ คนงานจะเป็นผู้มีสว่ นร่วมในการ กาหนดผลผลติ ดว้ ย ความสัมพันธ์ระหวา่ งบุคคลเปน็ ปัจจัยท่สี าคัญและ มีอทิ ธิพลต่อการกาหนดการผลิต ครูแสงเดือน เพญ็ ศศธิ ร แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปน็ องค์การที่ ให้บริการเพือ่ สังคม เพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น สมาคมการกุศลต่างๆ สมาคมศิษยเ์ ก่า มูลนิธิ เป็นต้น โครงสรา้ งองคก์ ารตามหน้าทีก่ ารงาน (Functional Organization Structure) มีลักษณะและข้อดีคือโครงสรา้ งที่จัดตัง้ ขนึ้ โดยแบง่ ไปตามประเภทหรือหน้าทีก่ ารงาน เพื่อแสดงใหเ้ หน็ วา่ ในแต่ละ แผนกนัน้ มีหน้าที่ตอ้ งกระทาอะไรบ้าง ซ่ึงผลดีก่อให้เกิดการไดค้ นมี ความสามารถทางานในแผนกนั้น ๆ ทั้งยังฝึกบุคคลในแผนกนัน้ ๆ ให้มีความเชีย่ วชาญกับหน้าที่ของงานนัน้ อย่างลกึ ซึ้ง การจัดแผนกงานตามประเภทผลติ ภณั ฑ์ (Depart mentation by Product)การจัดแผนกแบบนี้มักจะใช้ในการจดั แผนก งานขององค์การธุรกิจขนาดใหญ่มีกระบวนการในการปฏบิ ัติงาน ซับซอ้ น องค์การธุรกจิ ผลติ สนิ ค้าหลายอย่าง การแบง่ กจิ กรรมออกเปน็ กลมุ่ ตามขัน้ ตอน กระบวนการผลติ หรอื กระแสการไหลของงาน เชน่ กิจการหนังสือพมิ พ์อาจจะมีการจดั แผนกศิลป์ทาหน้าที่ออกแบบรูปเลม่ แบบหน้าโฆษณา แบบตัวอักษร แผนกพมิ พแ์ ผนกสตอ๊ ก แผนกจัดสง่ สินค้า ฯลฯ ข้อดกี ารจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ - ชว่ ยใหเ้ กิดผลดีจากการแบ่งงานกนั ทาตามความถนัด - สะดวกและง่ายที่จะนามาใช้ในระดับตา่ ขององค์การ ขอ้ เสยี การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ - การประสานงานระหว่างแผนกทาไดย้ าก คือ อานาจ หน้าที่ เปน็ สทิ ธิที่ไดร้ ับมอบหมายมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ครูแสงเดือน เพญ็ ศศิธร แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

อานาจ เป็นสงิ่ ทีบ่ คุ คลนั้นสร้างขน้ึ มาเองและทาใหบ้ ุคคลอน่ื ยอมรับ เพือ่ ที่จะปฏิบตั ติ าม อานาจเกดิ ในด้านบวกหรือด้านลบกไ็ ด้ การมอบหมายงาน หมายถึง การที่ผู้บังคับบัญชาได้ กาหนดความรับผิดชอบและอานาจหน้าที่ (Assignment of Responsibility and Authority ) หรือเป็นการกระจายงานในหน้าที่ ความรับผิดชอบ (Responsibility) และให้อานาจในการตัดสินใจ (Authority) ภายในขอบเขตที่กาหนดให้ผู้ร่วมงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ไปปฏิบัติ การมอบหมายงานชัว่ คราว เป็นการมอบหมายงาน เฉพาะกิจหรืองานพเิ ศษ เมื่อเสรจ็ ภารกิจก็หมดภาระหน้าท่ี ปัจจยั บางประการทสี่ าคัญกับความสาเรจ็ ในงานทีม่ อบหมาย คือ ใครเหมาะสมกบั งานทีจ่ ะมอบหมาย คานงึ ถงึ หลักการทางานเป็นทีม การตดิ ตามและประเมนิ ผลเป็นสิ่งที่สาคัญ ครูแสงเดือน เพ็ญศศธิ ร แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

แบบทดสอบ หน่วยที่ 1 คาสงั่ จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องทีส่ ุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะขององคก์ าร ก. มีโครงสรา้ งมีการบงั คับบญั ชา ข. แบ่งงาน จัดสรรหนา้ ที่ ค. การรวมบคุ คล ง. ทากจิ กรรมอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ โดยไม่ต้องมีความสมั พันธ์ 2.ข้อใดไมใ่ ช่จุดอ่อนขององค์การแบบราชการตามแนวความคิดทฤษฎีดั้งเดมิ ของแมค วี เบอร์ (Max Weber) ก. สายการบงั คับบญั ชาไมช่ ัดเจน ข. ไมเ่ คร่งครัดในกฎเกณฑ์ระเบียบวนิ ัย ค. การแบง่ งานกันทา ง. เน้นที่องคก์ ารละเลยปญั หาของคน 3.ข้อใดเปน็ ลักษณะที่เนน้ ในการจัดองคก์ ารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) ของเฟรดเดอริค เทย์เลอ่ ร์ (Frederic Taylor) แนวความคดิ ทฤษฎีดัง้ เดิม ก. นาวธิ ีการศึกษาวทิ ยาศาสตรม์ าวิเคราะห์และแก้ปญั หา ข. หาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานและหัวหนา้ งาน ค. ศึกษาถงึ แรงจูงใจ อารมณ์ และความต้องการ ง. ศกึ ษาความต้องการในสังคมของกลุม่ คนงาน 4.ทฤษฎีที่เน้นเร่ืองมนุษย์สัมพันธ์ กาหนดผลผลิตด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็น ปจั จัยทีส่ าคัญคือขอ้ ใด ก. ทฤษฎีดัง้ เดิม ข. ทฤษฎีการจดั การทางวทิ ยาศาสตร์ ค. ทฤษฎีเกา่ ง. ทฤษฎีสมยั ใหม่ ครูแสงเดือน เพญ็ ศศิธร แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

5.องค์การที่สมาชิกมีความรู้สึกสนิทสนมกันดี มีลักษณะเป็นครอบครัว เป็นองค์การ ประเภทใด ก. องค์การแบบเป็นทางการ (Formal Organization) ข. องค์การทุติยภูมิ (Secondary Organization) ค. องค์การเบ้อื งตน้ (Primary Organization) ง. องคก์ ารแบบไมเ่ ป็นทางการ (Informal Organization) 6.สานักงานเปน็ องคก์ ารประเภทใด ก. องคก์ ารทีแ่ สวงผลประโยชน์ (Profit Organization) ข. องค์การทีไ่ มแ่ สวงหาผลประโยชน์ (Non–Profit Organization) ค. องค์การแบบไม่เป็นทางการ (Informal Organization) ง. องคก์ ารแบบเปน็ ทางการ (Formal Organization) 7.ใน “หลักในการจัดองค์การที่ดี” OSCAR ของ Henri Fayol คือการนาเอาตัวอักษรตัว แรกของคาทัง้ 5 มาเรียงตอ่ กัน จะทาใหส้ ะกดไดค้ าว่า OSCAR ข้อใดไม่ใช่คาทัง้ 5 ก. หลักวัตถุประสงค์ (Objective) ข. หลักการโต้ตอบและการตดิ ต่อ (Correspondence) ค. หลักการประสานงาน (Coordination) ง. หลักความรูค้ วามสามารถเฉพาะอยา่ ง (Specialization) 8.ข้อใดไม่ใชก่ ระบวนการจัดองคก์ าร (Process of Organizing) ก. ทาคาบรรยายลักษณะงาน (Job Description ข. จัดวางความสมั พันธ์ (Establishment of Relationship) ค. จัดค่าตอบแทน ค่าจ้าง เงินเดือน ง. แยกประเภทงาน จัดกลุ่มงาน และออกแบบงาน 9.ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ประเภทการจัดโครงสร้างขององคก์ าร ก. ทีมการทางาน ข. งานอนุกรม ค. คณะกรรมการบริหาร ง. คณะที่ปรกึ ษา 10.ข้อใด ไม่ใช่หลักเกณฑ์พื้นฐานทีจ่ ะใช้สาหรับการจัดแผนกงาน ก. ตามหรอื ลูกค้า (Depart mentation by Customer) ข. ตามกระบวนการผลติ (Depart mentation by Process) ค. ตามความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ง. ตามหนา้ ที่ (Depart mentation by Function) ครูแสงเดือน เพ็ญศศธิ ร แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook