Sport Magazine

Sport Magazine Aqua Sport

บทบรรณาธิการ การว่ายน้ำ เป็นกระบวนการในการเคลื่อนที่ ในน้ำของมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น การว่ายน้ำของ มนุษย์มีจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น นันทนาการ การแข่งขัน การออกกำลังกาย การว่ายน้ำนั้นมีการแบ่งออกเป็นท่าต่าง ๆ โดยท่าที่ใช้สำหรับแข่งขันนั้นได้แก่ ท่าฟรีสไตล์ ท่ากบ ท่ากรรเชียง และท่าผีเสื้อ ประโยชน์ของการว่ายน้ำ 1. ช่วยลดน้ำหนัก การว่ายน้ำ สามารถทำให้ร่างกายเผา ผลาญพลังงานได้ดี 2. ช่วยลดความเครียดและ เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง ... 3. ช่วยให้อารมณ์ดี ... 4. ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ... 5. ว่ายน้ำเป็นการออกกำลัง กายที่เสี่ยงต่อการได้รับบาด เจ็บน้อยมาก ... 6. ช่วยให้นอนหลับสบาย ... 7. ว่ายน้ำไม่มีเหงื่อ ... 8. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการ เกิดโรคต่างๆ

สารบัญ Book Review หน้า 4-15 Coach's Perspective หน้า 16-17 Athlete's Perspective (The Player) หน้า 18-19 บทความทั่วไป ชิ้นที่ 1 หน้า 21 บทความทั่วไป ชิ้นที่ 2 หน้า 22

BOOK REVIEW ARTICLE บทความ ปฏิทัศน์ หนังสือ

ประโยคอมตะของ เซอร์ฟรานซิส เบคอน ที่สะท้อนถึงความสำคัญและพลังของการอ่าน การอ่านเป็นจุด เริ่มต้นที่ทำให้คนเรารับรู้และเข้าใจในความหมายของสิ่งต่างๆ บนโลก นำพาเราท่องไปในดินแดนที่ไม่ เคยไป ทำให้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ หนังสือก็เป็นเหมือนกับอาณาจักรแห่งความรู้และความคิดซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด กิจรวีพงศ์ พงศ์วิไล (อชิ) ซัน ศุภณัฏ ถนอมบูรณ์เจริญ ธาวิน วิธานติรวัฒน์ (วิน) ภูริช พรมเอี่ยม ฟิว ธีรกิติ์ กาย







กายวิภาคการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ(strength training anatomy) เขียนโดยFrederic Delavier แปลโดยนายสัตวแพทย์สนธยา มานะวัฒนา เป็นหนังสือเกี่ยวกับการออกกำลังกายและ สุขภาพ ขนาด ๘ หน้ายก ความยาว ๒๐๐ หน้า ราคา ๔๙๙ บาท “นักกีฬาทั่วไปจะไม่ค่อยเกิดการบาดเจ็บของ pectoralis major แต่ในการ แต่ในการยกน้ำหนักและ นอนยกน้ำหนักอาจเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงเอ็นฉีกขาดได้” นี่เป็นหนึ่งในข้อความของหนังสือ เล่มนี้ ในหนังสือเล่มนี้จะมีข้อความทุกหน้าเพื่อนสอนเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยและไม่ บาดเจ็บ แต่ละหน้าจะมีจุดสำคัญเป็นมัดกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งและจะมีทริคในการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อส่วนนั้นให้ถูกต้อง หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ระบบการทำงานในการฝึกความแข็งแรงของกล้าม เนื้อในระหว่างการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่บายถึงระบบกล้ามเนื้อที่ใช้ระหว่าง การออกกำลังกายโดยมีภาพประกอบมากมายประมาณ 600 ภาพ ในหนังสือเล่มนี้มีถ้าของแต่ละก้าว เนื้อพร้อมรายละเอียดโครงสร้างรอบข้างที่เกี่ยวข้องหมดรวมถึงกระดูกและเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจรายละเอียดการทำงานของกล้ามเนื้อในระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างครบ ถ้วน ในความคิดของผมผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ควรซื้อมาอ่านก่อนออกกำลังกาย เพราะว่าจะทำให้คุณสามารถออกกำลังกายได้อย่างถูกวิธีและไม่เกิดอันตรายขึ้นกับกล้ามเนื้อ ผมเชื่อว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ในหนังสือเล่มนี้สอนให้เรารู้มากมายกับการออกกำลังกายที่ถูกต้องและกล้ามเนื้อทั้งหลายในร่างกาย เราในตอนที่เราออกกำลังกาย เราจึงควรนำหนังสือเล่มนี้ ไปประยุกต์ใช้ในตอนที่เราออกกำลังกายจริงๆ เพื่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุและออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

The False Prince by Jennifer A. Neilson ธาวิน วิธานติรวัฒน์ (วิน) 30 เมษายน 2564

The False Prince เขียนโดยผู้แต่ง Jennifer A. Nielsen เป็นหนังสือแต่ง ประเภทแฟนตาซี ขนาดรูป เล่มประมาณ 16 หน้ายก ความยาวประมาณ 300 หน้า ลักษณะหน้าปกของหนังสือจะมีรูปมงกุฎสีทอง ระเรื่อที่แตกหักอยู่อยู่และมีชื่อผู้แต่งและชื่อของหนังสืออยู่ หนังสือเล่มนี้หลักเกี่ยวกับเมืองๆหนึ่ง ที่พระราชวงศ์นั้นถูกลอบสังหารหมดทั้งครอบครัว เมืองนั้นจึง ใกล้จะเกิดพิบัติ Conner ผู้ให้คำปรึกษาแก่พระราชานั้นจึงต้องจำเป็นออกกลอุบายนำเด็กไร้บ้านกลุ่มนึง เพื่อมาเปลี่ยนแปลงปลอมตัวให้เป็นเจ้าชายที่สูญหายไปของเมืองนี้ และจะเลือกเพียง 1 คนเพื่อขึ้น ครองบัลลังก์เพื่อที่จะทำให้เมืองนั้นสงบสุขเหมือนที่เคยเป็น “เด็กไร้บ้านก็ยังคงเป็นเด็กไร้บ้านวันยังค่ำไม่มีทางที่จะโกหกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายได้ไปตลอดชีวิต” นี่คือประโยคที่ตัวละครหลักของหนังสือเล่มนี้พูดขึ้นมา เมื่อ Conner ถามถึงความพร้อมก่อนที่จะเลือก เด็กไร้บ้านไปเป็นเจ้าชาย ประโยคนี้แสดงถึงความกล้าและความแข็งแรงในจิตใจของตัวเอกนั้นที่ไม่กลัว อะไรจากใครก็ตาม สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับจากหนังสือเล่มนี้ก็คือทั้งความสนุกในการอ่านหนังสือถ้าคุณเป็นคนชอบหนังสือที่ เกี่ยวกับการผจญภัยและแฟนตาซี เป็นหนังสือที่ช่วยอ่านฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดีเพราะเนื้อเรื่องนั้นสนุก ตื่นเต้นและน่าค้นหา การเรียงลำดับเรื่องนั้นเป็นไปได้อย่างมีชั้นเชิง อ่านไปเองก็เพลินเหมือนดั่งตัวเอง เข้าไปอยู่ในหนังสือและเข้าใจเรื่องราวนั้นจริงๆ และสิ่งที่ทำให้น่าอ่านไปมากขึ้นเพราะหนังสือเล่มนี้มีจุด หักมุมตอนท้ายที่ทำให้ผมผู้อ่านเองยังตกใจและประทับใจมากๆ หนังสือที่ดี ผู้อ่านก็ควรจะมีมารยาทการอ่านที่ดี ยกตัวอย่างอย่างนึงก็คือการปฏิบัติกับหนังสือไม่ให้ เกิดความชำรุดหรือว่าปฏิบัติอะไรที่มันรุนแรงต่อหนังสือ อีกอย่างก็คือจดจ่อกับสิ่งที่เราอ่านเพื่อที่จะ ทำให้เรานั้นตามลำดับของหนังสือได้ จับประเด็นสำคัญและวิเคราะห์หนังสือไปพร้อมๆกับการอ่านคือ สิ่งที่ดีมากอย่างหนึ่งที่เราควรจะทำขณะอ่านหนังสือประเภทนี้



หนังสือที่มีชื่อว่า “กรุ็ปเลือดบอกนิสัย ฮาได้ใจยกกำลัง 3” เขียนโดย Park Dong Seon เเละ เป็น หนังสือที่มีต้นฉบับเป็นภาษาเกาหลี และเเปลเป็นฉบับภาษาไทยโดย นิรชา มีวรรณภาค ลักษณะรูปเล่ม ของหนังสือเป็นหนังสือปกอ่อน มีสีสันสวยงาม หน้าปกจะมีสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ หนังสือมีขนาด 16 หน้ายก ความยาวตลอดทั้งเล่ม 287 หน้า จัดเป็นหนังสือกึ่งสารคดีและบันเทิงคดี ลักษณะคล้ายหนังสือ How to ที่นำเสนอเนื้อหาด้วยภาพการ์ตูนเพื่อความบันเทิง หนังสือเล่มนี้มีเค้าโครงเรื่องที่เกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวของเเต่ละกรุ๊ปเลือด ว่าคนในแต่ละกรุ๊ปเลือดมี ลักษณะนิสัยเฉพาะตัวอย่างไร โดยถ้อยยคำที่โดดเด่นจากเนื้อหาในเรื่อง เช่น “ถ้าไม่รู้จักนิสัยของคน ใกล้ตัวละก็ เเย่เเน่ๆ เลยเเต่ถ้ารู้เขารู้เรา ความสำพันธ์จะต้องยืนยาวเเน่” จากข้อความดังกล่าวจะเห็นได้ ว่าผู้เขียนพยายามนำเสนอความสำคัญของการรู้จักนิสัยของคนในแต่ละกรุ๊ปเลือด เพื่อที่เราจะสามารถ ทำความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม สิ่งที่พิเศษในหนังสือเล่มนี้ คือ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ให้ความรู้เเละให้ความบันเทิงได้เป็นอย่าง มาก ซึ่งนอกจากหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ได้ดีเเล้ว ยังเป็นหนังสือเล่มเเรกๆ ที่ผมยอ มอ่านเเละสนุกไปกับมัน ท้ายที่สุดผมอยากเตือนผู้อ่านทุกคนว่า การเป็นผู้อ่านที่ดี เวลาเราอ่านหนังสือเรียบร้อยเเล้วเราไม่ควร ทิ้งไว้เรี่ยราด เราควรเก็บเข้าชี้นไว้อย่างดี เพื่อที่จะให้ คนต่อไปมาอ่าน \\

Biggest Baddest Wolf ธธีีรรกกิิตติิ์์ ววุุฒฒิิเเศศถถกกฤฤตต ((กกาายย)) 3300 เเมมษษาายยนน 22556644

หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า ชื่อเรื่อง “The biggest badest wolf” เป็นผลงานเขียนของ Nick ward หนังสือ เล่มนี้เป็นหนังสือบันเทิงคดี ประเภทนิทานสำหรับของเด็กที่มีต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ รธปลักษณ์ ภายนอกของเล่มเป็นหนังสือปกเเข็ง พื้นหลังของปกหน้ามีสีฟ้า และมีรูปหมาป่าเด่นตระหง่านอยู่กลาง หน้าปก มีขนาด 6 หน้ายก และความยาวตลอดเล่ม 31 หน้า เนื้อเรื่องโดยสรุปของหนังสือนี้เกี่ยวกับหมาป่าตัวหนึ่งที่ทำบังเอิญทำตุ๊กตาหมีหายไป จึงออกตามหา ตุ๊กตาหมีตัวนั้น สุดท้ายหมาป่าก็พบว่าตุ๊กตาหมีที่มันกำลังตามหาอยู่กับเด็กคนหนึ่ง เเต่เด็กคนนั้นกลับ ไม่ยอมคืนตุ๊กตาหมีให้หมาป่า หมาป่าตัวนี้จะทำอย่างไร เพื่อให้ได้ตุ๊กตาหมีของมันคืน คงต้องติดตาม อ่านกันต่อในนิทานเรื่อง The biggest baddest wolf ของ Nick ward หมาป่าที่ตามหาตุ๊กตาหมีของเขา นอกจากนี้หนังสือเล่มอันนี้จะมีเกมเเละคำถามที่ถามถึงเรื่องราวของในเรื่องนี้ในตอนจบด้วย เล่มนี้มี ขนาดุหน้ายก เเละเล่มนี้ผลิคในปี 2005 เเละ 2009 เเต่งโดย Nnick Wward ถ้อยคำที่น่าสนใจจากหนังสือเล่มนี้ เช่น “Run , little kids ,run or i’ll eat you up” ซึ่งแปลเป็น ภาษาไทยได้ว่า “วิ่งไปสิเด็กน้อย จะวิ่งหรือฉันจะให้ข้ากินเจ้าคุณ” ข้อความข้างต้นเป็นคำขู่ของหมาป่า ที่ต้องการตุ๊กตาคืนจากเด็กคนนั้น โดยหลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบลง ผู้อ่านจะได้ความสนุกสนาน เเละรู้จักดูเเลสิ่งของของตนเองให้ดีขึ้น และยังได้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่อง“Run , little kids , or i will eat u up” เเปลเป็นไทยคือ “วิงไปเลยเด็กน้อยหรือจะให้ข้ากินเจ้า” นี่คือประโยคที่ Reflect เกี่ยวกับหนังสือ สิ่งที่ประโยคนี้ Reflect เกี่ยวกับหนังสือคือเรื่อง การโกงเป็นสิ่งไม่ดีอีกด้วย เเต่ถ้าจำเป็นก้ต้องทำ สำหรับผู้อ่านทุกคนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือก็ควรมีมารยาทในการเป็นผู้อ่านที่ดี เพื่อที่จะได้ พัฒนาการอ่านของตนเอง ตัวอย่างมารยาทในการอ่านคือ การวางท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมขณะอ่าน จัดกระยะห่างจากสายตาให้เหมาะสม ควรอ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดอหรือแสงสว่าง จ้าเกินไป และไม่ควรอ่านหนังสือในรถเนื่องจากจะทำให้สายตาเสียได้ นอกจากนี้ยังควร2 มีสมาธิใจ จดจ่อต่อสิ่งที่อ่าน ไม่เล่นกันขณะอ่าน เพื่อสามารถจับประเด็นสำคัญ และสามารถคิดวิเคราะห์ตามใน ประเด็นต่างๆ ได้ชัดเจน

Coach's Perspective ครูระลึก สัทธาพงค์ : Swimming Coach กลับมาพบกันอีกครั้งในคอลัมน์ Coach's Perspective ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 กำลังระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก จนสร้างความ เดือดร้อนไปถ้วนหน้า จากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวคอลัมน์ Coach's Perspective จึงขอนำเสนอ เรื่องราวเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดต่าง ๆ ผ่านมุมมองความเห็น เพื่อสร้างประเด็นความคิดจากผู้คน จากแวดวงต่าง ๆ โดยในฉบับนี้เราได้รับเกียรติจากคุณครูระลึก สัทธาพงค์ โค้ชกีฬาว่ายน้ำที่จะมาพูดคุย กับเราเกี่ยวกับเรื่องมุมมองการเป็นทั้งนักกีฬาว่ายน้ำและโค้ชผู้ฝึกสอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปอ่านบท สัมภาษณ์ประจำเดือนนี้กันได้เลย

คำถาม: ก่อนที่จะมาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำและโค้ชว่ายน้ำในปัจจุบัน เคยทำอะไรมาก่อนบ้าง คำตอบ: เคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน คำถามที่: ในประสบการณ์การว่ายน้ำของคุณที่ผ่านมา ความสำเร็จอะไรบ้างที่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ คำตอบ: ได้เข้าคัดเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5 คำถาม: การจะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ดี ควรประพฤติตนอย่างไร คำตอบ: การที่จะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ดีต้องอยู่ในกฎระเบียบของสระ ของCoach หรือว่าของสโมสร มีวินัยในตัวเองแล้วก็ต่อส่วนรวม แล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบในการฝึกซ้อม คำถาม: นักกีฬาว่ายน้ำต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ควรจัดการกับเวลาอย่างไรจึงจะเหมาะสม คำตอบ: เราต้องมีการจัดการเวลาที่ดี เพื่อจะให้มีเวลาที่จะพักได้ แต่ขณะพักก็ไม่ให้เสียอย่างอื่นยัง เช่นการเรียนด้วย คำถาม: เทคนิคในการว่ายน้ำอย่างถูกวิธี เป็นอย่างไร คำตอบ: “เทคนิคstroke ให้ไหวแล้วออกแรงน้อยที่สุดแต่ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ ดีที่สุดคือการ ควบคุม stroke ให้ถูกต้อง” คำถาม: นักกีฬาว่ายรุ่นใหม่น้ำควรศึกษาเทคนิคอะไรเป็นพิเศษบ้างก่อนที่จะเริ่มเข้าการแข่งขัน คำตอบ: “ต้องศึกษาทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้อง เรื่องอาหารเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย อะไรต่างๆ เหล่านี้ เดี๋ยวนี้มันจะมีให้ศึกษาหมด ขนาดที่ศึกษาแล้วเราไม่ควรเจอด้วยตนเองเพราะว่าจะเกิด อุบัติเหตุ ได้ เพราะฉะนั้นจึงควรปรึกษาโค้ชด้วย” คำถาม: การเตรียมตัวของนักกีฬาว่ายน้ำก่อนการแข่งควรทำอะไรบ้าง คำตอบ: นอกเหนือจากการฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอแล้ว ที่สำคัญคือดูแลเรื่องของการพักผ่อน เรื่อง อาหาร และระมัดระวังในการเสียพลังงานหรือเจ็บตัว คำถาม: เมื่อจบการแข่งขันแล้วนักกีฬาว่ายน้ำควรทำอย่างไร จำเป็นต้องฝึกซ้อมต่อหรือไม่ คำตอบ: เมื่อจบการแข่งขัน หลังจาก cooldown แล้ว สามารถพักได้ 1-2 วันแล้วก็ ควรฝึกซ้อมต่อ เลย และการฝึกซ้อมก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรทของโค้ชที่สอน ซ้อมเบาหน่อยแล้วค่อยเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ คำถาม: อยากฝากข้อคิดอะไรให้กับนักว่ายน้ำรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จ คำตอบ: “ก็คือหนึ่งรื่องความรับผิดชอบ ต้องมีความรับผิดชอบในทุกๆ ด้าน ต่อตัวเองต่อผู้อื่นและ ต่อตัวผู้ปกครอง และตอกโค๊ชด้วย แล้วก็อยู่ในกฎเกณฑ์อยู่ในระเบียบวินัย ตั้งใจฝึกซ้อมสม่ำเสมอ ต้องสู้มันจะเหนื่อยแน่นอน แต่ว่าผลลัพธ์ของมัน ถ้าเราสู้มันก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี และสิ่งสุดท้ายคือ strokeเทคนิค เราควรคมตัวเองให้อยู่ใน Stroke เทคนิคที่ถูกต้อง มันก็คือการออกแรงเท่าคนอื่น แต่ เราสามารถมีความเร็วเหนือกว่าเขาได้ แล้วก็การบาดเจ็บก็จะน้อย ถ้าstrokeเทคนิคเราดี” ข้อคิดจากการสัมภาษณ์ครั้งนี้ที่เราได้จากครูระลึก สัทธาพงค์ นั่นก็คือการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำนั้นต้อง ใช้ความพยายามอย่างมากเพราะงั้นเราจึงควรไม่ยอมแพ้และมีวินัยในการซ้อมอย่างสม่ำเสมอตลอด ควรมีการจัดการเวลาที่ดี และมีความรับผิดชอบ ควรนั่งสมาธิในทุกๆ วันเพื่อให้จิตใจแจ่มใสพร้อมกับ การว่ายน้ำ



ช่วยเล่าเกี่ยวกับประวัติของตนเองคร่าว ๆ ตอนที่ผมอยู่โรงเรียนเก่าผมเริ่มไปเป็นนักกีฬาว่ายนำ้ตอนอยู่ป1อายุแประมาณึขวบผมก้เลยได้เเข่งขันมา เรื่อยๆ ทำไมถึงเลือกกีฬาว่ายน้ำเป็นงานอดิเรก เพราะว่าตอนเเรกเเม่ผมอย่าให้ผมออกกำลังกายก้เลยลองว่ายนำ้ดู เริ่มต้นว่ายน้ำมาตั้งเเต่เมื่อไร 7ขวบครับ อุปสรรคของกีฬาว่ายน้ำคืออะไรบ้าง และผ่านอุปสรรคเหล่า นั้นมาได้อย่างไร ก้มันน่าเบื่ออ่ะครับตอน ซ้อมเเละผมผ่านมันมาได้เพราะว่าผมอบากพัฒราตนเองเเละ ประสบความสำเร็จ การว่ายน้ำสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายอย่างไรบ้าง ก้ว่ายนำ้เป็นกีฬาที่เสริมกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างหายเช่นเขน กับขา นอกจากเรื่องสุขภาพแล้วกีฬาว่ายน้ำยังช่วยเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตบ้างหรือไม่ อย่างไร ผมว่ามันทำให้มีสมาธิเเละทำให้ไม่ค่อยเครียด ต้องฝึกฝนว่ายน้ำกี่วันต่ออาทิตย์เพื่อเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ประมาณ3วันต่ออาทิตย์ครับ คิดว่ายากแค่ไหนสำหรับการฝึกฝนจนประสบความสำเร็จ ยากครับเพราะว่าต้องฝึกฝนร่างกายให้เเข่งเเรงอยู่ตลอดเวลาเผื่อที่กล้ามเนื้อจะได้พัฒนาต่อไปได้ ฝากให้ข้อคิดกับคนที่กำลังพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ความพยายมอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้นครับ ฝากให้กำลังใจกับคนที่กำลังจะเริ่มว่ายน้ำ อย่าพึ่งยอมเเพ้ครับ กว่าผมจะมาประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้ ผมต้องฝึกฝนว่ายน้ำอยู่ตลอดเวลาเเละผมอุปสรรคมากมายเเต่ ผมก้ไม่ยอมเเพ้ ขอให้คุณผ่นอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ครับ

จากการ สัมภาษณ์ ครั้งนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ มุมมองของนักว่ายน้ำ เเละได้เรียนรู้เกี่ยวกับ เทคนิกการ พัฒนาตัวเองให้เก่งมากยิ่งขึ้น ข้อมูล นี้จะทำให้นักว่ายน้ำที่พึ่งเร่มหัดหรือ ต้องการกำลังใจ ได้พัฒนาตัว เองให้ได้มากยิ่งขึ้นไป

บทความทั่วไป ชิ้นที่ 1

บทความทั่วไป ชิ้นที่ 2