คำอธิบายรายวิชา ทร11001 ทักษะการเรียนรู้ จำนวน 5 หน่วยกติ ระดับประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ สาระทักษะการเรยี นรู้ เปน็ สาระเกยี่ วกบั การพัฒนาทกั ษะการเรยี นรขู้ อง ผู้เรียนในด้านการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การใชแ้ หล่งเรียนรู้ การจดั การความรู้ การคิดเปน็ และการวิจัยอยา่ งง่าย โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสามารถ กำหนดเป้าหมาย วางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เข้าถึงและเลือกใช้แหล่ง เรยี นรู้ จดั การความรู้ กระบวนการแกป้ ัญหา และตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล ท่ี สามารถใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือในการชี้นำตนเองในการเรยี นรู้ และการประกอบ อาชีพใหส้ อดคล้องกบั หลกั การพ้ืนฐาน และการพฒั นา 5 ศักยภาพหลกั ของ พน้ื ท่ีใน 5 กลมุ่ อาชีพใหม่ คอื กลมุ่ อาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม ความคดิ สร้างสรรค์ การบริหารจัดการเปน็ การบริการ ตาม ยุทธศาสตร์ 2555 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดอ้ ยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ ดังนั้นสาระทักษะการเรียนรู้ระดับประถมศกึ ษาจึงมีมาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั ดงั นี้ 1. ความสามารถในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 2. รจู้ กั เห็นคุณคา่ และใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ถกู ต้อง 3. เข้าใจ ความหมาย กระบวนการชุมชน และศักยภาพของชุมชนใน การปฏิบตั ิการและทำตามกระบวนการจัดการความรู้ชมุ ชน ด้านอาชพี เพอื่ เพมิ่ ศักยภาพและขดี ความสามารถในการแข่งขนั ที่สามารถ สรา้ งรายไดท้ ่ีมงั่ ค่ัง และมน่ั คง
4. ความสามารถในการอธิบายกระบวนการคิดเป็น และทกั ษะในการใช้ กระบวนการคิดเป็นในการแก้ปัญหา การเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชีพได้ อยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวติ 5. เขา้ ใจความหมาย เหน็ ความสำคัญ และปฏิบัติการรวบรวมข้อมลู วิเคราะหข์ อ้ มูล และสรุปผลการหาความรู้ ความจริง ในการเรียนรู้และการ ประกอบอาชพี 6. เข้าใจความหมาย และเหน็ ความสำคัญของศกั ยภาพของพ้ืนที่ใน การเพม่ิ ขีดความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลมุ่ อาชีพใหม่ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกับเร่ืองดงั ตอ่ ไปนี้ 1. การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ความหมาย ความสำคญั ของการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ฝกึ ทกั ษะพื้นฐานทางการศกึ ษาหาความรู้ ทักษะการแกป้ ญั หาและ เทคนิคในการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ด้านการอา่ น การฟัง การสงั เกต การจำ และ การจดบนั ทกึ เจตคต/ิ ปัจจัย ท่ีทำให้การเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสำเรจ็ การ เปดิ รับโอกาสการเรียนรู้การคิดริเร่ิมและเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสรา้ งวินัยในตนเอง การคดิ เชิงความคิดสรา้ งสรรค์ ความรักในการเรยี น การใฝ่รู้ใฝ่เรียน และความรับผดิ ชอบ 2. การใช้แหล่งเรยี นรู้ ศกึ ษาความหมาย ความสำคัญ ของแหล่งเรยี นรู้ โดยท่ัว ไป เชน่ กลมุ่ บรกิ ารขอ้ มลู กลุ่มศิลปวฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ กลุม่ ข้อมลู ทอ้ งถิ่น กลุม่ สอ่ื
กลมุ่ สนั ทนาการศึกษา สำรวจแหล่งเรียนรภู้ ายในชุมชน จัดกลมุ่ ประเภท และความสำคัญ ศึกษาเรยี นรู้กบั ภมู ิปัญญา ปราชญ์ ผูร้ ใู้ นท้องถิ่น การเข้าถึงและเลอื กใชแ้ หล่งเรยี นรู้ ห้องสมดุ ประชาชน สถานศึกษา และ ศูนย์การเรียนชุมชน(ศรช.) ศกึ ษาบทบาทหนา้ ที่และการบริการของแหลง่ เรยี นร้ดู ้านตา่ ง ๆ กฎ กตกิ า เงอ่ื นไขตา่ ง ๆ ในการไปขอใช้บริการ ฝกึ ทักษะ การใชข้ อ้ มลู สารสนเทศจากห้องสมดุ ประชาชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ความ ตอ้ งการ ความจำเปน็ เพื่อนำไปใชใ้ นการเรยี นรขู้ องตนเอง 3. การจดั การความรู้ ศกึ ษาความหมาย ความสำคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการ จดั การความรู้ การรวมกลมุ่ เพ่ือตอ่ ยอดความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ยความรู้ ของกลุ่ม การจัดทำสารสนเทศ เผยแพรค่ วามรู้ ฝึกทักษะกระบวนการจัดการความรู้ด้วยตนเองและด้วยการรวมกลุ่ม ปฏบิ ัติการโดยการกำหนดเป้ าหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ท่ีตอ้ งใช้ การ แสวงหาความรู้ สรปุ องค์ความรู้ ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ การ รวมกลุ่มปฏบิ ัติการเพ่ือต่อยอดความรู้ การพฒั นาขอบขา่ ยความรขู้ องกลมุ่ สรปุ องคค์ วามรู้ของกลุ่ม จัดทำสารสนเทศองค์ความรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครวั 4. การคิดเปน็ ศกึ ษาทำความเข้าใจกบั ความเชื่อพน้ื ฐานทางการศึกษาผ้ใู หญ่/ การศกึ ษานอกระบบ และเชอื่ มโยงไปสู่การเรียนรู้เรอ่ื งความหมายและ ความสำคญั ของการคดิ เปน็ โดยใชข้ อ้ มูลด้านวิชาการ ตนเอง สงั คม
สิง่ แวดล้อมอย่างพอเพยี ง มาวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ เพอ่ื กำหนดทางเลือก ในการคดิ การตัดสินใจ แก้ปญั หาท่ีเหมาะสมอย่างคนคิดเปน็ ฝึกทักษะใน การทำความเข้าใจในลักษณะของข้อมลู ด้านวชิ าการ ตนเอง และสงั คม สิง่ แวดลอ้ ม และฝกึ การใช้ข้อมูลทั้ง 3 ด้าน ในการประกอบการคดิ และการ ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาที่หลากหลายตามกระบวนการแก้ปัญหาอยา่ งคนคดิ เป็น 5. การวจิ ยั อยา่ งง่าย ศึกษา / ฝกึ ทกั ษะ ความหมาย ความสำคัญของ การวิจยั อย่างงา่ ย กระบวนการและข้ันตอนของการดำเนินงาน ได้แก่ การระบุ / กำหนดปญั หา ท่ีต้องการหาความรู้ ความจรงิ หรอื ส่ิงตอ้ งการพัฒนาการแสวงหาความรู้จาก การศึกษาเอกสาร ผูท้ รงคุณวฒุ ิ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน แหล่งความร้ตู า่ ง ๆ เพ่ือ กำหนดแนวคำตอบเบื้องตน้ การเก็บรวบรวมข้อมลู โดยการ สอบถาม สำรวจ / สัมภาษณ์ / ทดลอง การนำข้อมลู ท่ไี ด้มาวิเคราะหห์ าคำตอบที่ ตอ้ งการ การเขียนรายงานสรปุ ผล และการนำความร้ไู ปปฏิบตั ิจรงิ 6. ทักษะการเรยี นรู้ และศกั ยภาพหลักของพ้ืนท่ีในการพัฒนาอาชพี ศกึ ษา วเิ คราะห์ และประยกุ ตใ์ ช้ทกั ษะการเรียนรู้ เพอื่ ใชเ้ ปน็ เครื่องมอื ในการ เพม่ิ ศักยภาพและขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ การบริหารจดั การและการบริการ โดยคำนึงถึงศักยภาพหลกั ของพ้ืนท่ี คือ ศกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ ในแตล่ ะพ้ืนท่ี ศักยภาพของพ้ืนที่ตาม ลกั ษณะภมู ิอากาศ ศักยภาพของภมู ปิ ระเทศ และทำเลที่ต้ังของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวถิ ีชวี ิตของแตล่ ะพนื้ ที่ และ ศกั ยภาพของทรัพยากรมนุษยใ์ นแต่ละพ้ืนที่
การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ 1. การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ควรจดั ในลกั ษณะของการบรู ณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้าง สถานการณ์ในการเรยี นรูอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพอื่ 1) ฝึกใหผ้ ู้เรียนได้กำหนด เปา้ หมาย และวางแผนการเรียนรู้ 2) เพม่ิ พนู ให้มีทักษะพนื้ ฐานในการอ่าน ฟงั สังเกต จำ จดบันทกึ 3) มีเจตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นร้ดู ้วยตนเองท่ีทำใหก้ าร เรยี นรู้ดว้ ยตนเองประสบผลสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวถิ ีชีวติ ให้เหมาะสม กับตนเอง และชุมชน/สังคม 2. การใช้แหล่งเรยี นรู้ ต้องให้ผเู้ รยี นทุกคนไปศึกษาห้องสมดุ ประชาชนอำเภอ ทำความเข้าใจ บทบาท หนา้ ท่ี กฎ กติกา เงอื่ นไขการใหบ้ ริการ เพอ่ื ใชห้ ้องสมุดประชาชนให้ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการ ความจำเปน็ ในการนำไปใช้ในการเรียนรู้ของ ตนเอง รวมทั้งมอบหมายใหผ้ ู้เรียนไปศึกษาจากแหล่งเรยี นรูอ้ ื่น ๆ เช่นภมู ิ ปญั ญาทอ้ งถ่ิน แหล่งเรียนรู้ชมุ ชน 3. การจัดการความรู้ ศึกษาคน้ ควา้ หลักการ และกระบวนการของการจดั การความรู้ การฝึก ปฏิบตั จิ ริงโดยการรวมกลมุ่ ปฏบิ ัติการ/ชุมชนปฏิบตั ิการ (Community of practice = Cops) สรุปองคค์ วามรู้ของกลมุ่ และจัดทำสารสนเทศเผยแพร่ ความรู้ 4. การคดิ เป็น ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาทำความเข้าใจกับความเช่ือพ้ืนฐานทางการศึกษา ผู้ใหญ่/การศึกษานอกระบบดว้ ยกระบวนการอภิปรายกลมุ่ และร่วมสรุป
สาระสำคญั ท่ีเชื่อมโยงไปสกู่ ารคิดเป็นด้วยการวิเคราะหข์ ้อมลู ท้งั ด้านวชิ าการ ตนเอง สงั คม และส่ิงแวดล้อม และนำไปสู่การคดิ และการแก้ปัญหาตาม กระบวนการคิดเปน็ ท่มี คี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีความสขุ จากใบงานและใบ ความรตู้ า่ ง ๆ ท่ีมีการจดั เตรียมไวใ้ หผ้ เู้ รียนมโี อกาสฝึกทักษะในการคดิ การ ให้เหตผุ ลในการแก้ปัญหาหลากหลายชนิดท่ีเสนอขึ้นมาเป็นกรณีตวั อย่าง และสรุปให้เหน็ ว่าการแก้ปญั หาตามกระบวนการคิดเป็นนั้นต้องใชข้ ้อมลู ประกอบอย่างน้อย 3 ประการดังกลา่ ว 5. การวิจัยอย่างงา่ ย จดั ใหผูเ้ รยี นได้ศึกษา คน้ ควา้ เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง ฝกึ ทักษะการสังเกต และค้นหาปญั หาท่พี บในชีวติ ประจำวัน / ในสาระทเี่ รยี น การตั้งคำถาม การ แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ บั เพื่อน / ผู้รู้ การคาดเดาคำตอบอยา่ งมีเหตผุ ล การฝกึ ปฏิบตั กิ ารเขียนโครงการวจิ ยั ง่าย ๆ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู การสรุปข้อมลู และเขยี นรายงานผลอยา่ งง่าย ๆ 6. ทักษะการเรยี นรแู้ ละศักยภาพหลักของพื้นท่ใี นการพัฒนาอาชีพ จัดใหผ้ ูเ้ รียนท้ังรายบคุ คล/กลุ่มไดศ้ กึ ษา ประยุกตท์ ักษะการเรียนรู้ โดย คำนึงถงึ พ้ืนฐานศักยภาพแต่ละพนื้ ที่ ท่ีมีความแตกต่าง และมคี วามต้องการ ของท้องถ่ินไม่เหมอื นกนั ในการเพมิ่ ขดี ความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลุม่ อาชีพใหม่ คือ กลุม่ อาชีพดา้ นเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยก รรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ เพอื่ สรา้ งอาชพี และรายได้ อยา่ งม่ันคง และยง่ั ยืนอย่างต่อเนอื่ ง
การวดั และประเมินผล 1. การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ใช้การประเมินจากสภาพจรงิ ของผ้เู รียนท่ีแสดงออกเกยี่ วกบั การ กำหนดเป้ าหมาย และวางแผนการเรียนรู้ รวมทกั ษะพื้น ฐานและเทคนคิ ใน การเรยี นร้ตู ่าง ๆ ตลอดจนปจั จัยท่ีทำใหก้ ารเรียนรูป้ ระสบความสำเร็จ 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ ข้อมลู จากการนำเสนอ ซ่ึงเป็นผลจากการศึกษาจากแหล่งเรียนรใู้ น รูปแบบตา่ งๆ เชน่ การเขียนรายงาน การรว่ มกันอภปิ ราย การนำในการพบ กลมุ่ เป็นต้น 3. การจดั การความรู้ จากการสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเหน็ การมีสว่ นร่วม การ ใหค้ วามร่วมมอื ในกลมุ่ ปฏิบตั ิการ ผลงาน/ช้ินงานจากการรวมกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ าร ใช้วธิ กี ารประเมินแบบมสี ่วนร่วมระหว่างครู ผู้เรียนและผู้เกยี่ วข้องร่วมกัน ประเมนิ ตีคา่ ความสามารถ ความสำเร็จกับเป้าหมายท่ีวางไว้ และระบุ ขอ้ บกพรอ่ งที่ตอ้ งแก้ไข สว่ นที่ทำไดด้ ีแลว้ ก็พัฒนาใหดย้ี ิ่ง ข้ึนตอ่ ไป 4. การคดิ เปน็ ประเมินจากการร่วมอภปิ รายของผู้เรยี น และจากการใชข้ ้อมลู ทาง วชิ าการ ตนเอง และสังคมสิง่ แวดลอ้ ม มาประมวลใชป้ ระกอบการคดิ การ ตัดสินใจแกป้ ญั หาอย่างเหมาะสมและพอเพยี งของผเู้ รียน 5. การวจิ ยั อย่างงา่ ย จากการสงั เกต ความสนใจ การมสี ว่ นรว่ ม ความร่วมมือ จากผลงาน / ช้ินงานท่ีมอบหมายใหฝ้ ึกปฏบิ ัติ ในระหวา่ งเรียนและการสอบปลายภาคเรียน
6. ทกั ษะการเรียนรแู้ ละศักยภาพหลักของพื้นท่ใี นการพัฒนาอาชีพ จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความรว่ มมอื จากผลงาน / ชิ้นงานทมี่ อบหมายใหฝ้ กึ ปฏบิ ัติ ในระหวา่ งการเรยี นและการสอบปลายภาค เรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: