Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อารธรรมจีน 2

อารธรรมจีน 2

Published by dutasit2525, 2020-08-17 11:54:05

Description: อารธรรมจีน 2

Search

Read the Text Version

มรดกทางวัฒนธรรม • ชาวโรมนั เรียนรู้งานศิลปวฒั นธรรมตา่ งๆ จากกรีก และดดั แปลงให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตน • ประสบความสาํ เร็จในการสร้างส่ิงก่อสร้างเพ่ือสนองความตอ้ งการของรัฐและประชาชน เช่น โคลอสเซียม สถานที่อาบน้าํ สาธารณะ สะพานส่งน้าํ เป็นตน้ สะพานส่งน้าํ (aqueduc)ใชเ้ พือ่ ส่งน้าํ ใหช้ าวเมืองใช้

• งานด้านสถาปัตยกรรม เนน้ ความใหญ่โตทนทาน อาคารประตโู คง้ ที่เป็นศิลปะ โดดเด่นของโรมนั ไดแ้ ก่ แพนธีออน • งานประตมิ ากรรม ของชาวโรมนั มีลกั ษณะสมจริงตามธรรมชาติ สะทอ้ น บุคลิกภาพและอารมณ์ความรู้สึกของมนุษยไ์ ดส้ มจริง • งานประพนั ธ์ ของโรมนั แทๆ้ มีวตั ถุประสงคท์ ี่จะสนอง จกั รวรรดิ และสร้าง ความภาคภมู ิใจให้ พลเมืองโรมนั เช่น มหากาพยอ์ ิเนียด วหิ ารแพนธีออน



สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ • พบโครงกระดกู มนุษยโ์ บราณ • วฒั นธรรมแรก คือ วฒั นธรรมหยางเซ่า อยทู่ างตอนเหนือของจีน • มีการเพาะปลกู ทาํ เคร่ืองมือจบั ปลา เคร่ืองป้ันดินเผา แบบลายเขียนสี กระดกู ศรีษะมนุษยป์ ักกิ่ง เครื่องป้ันดินเผาลายเขียนสี พบทถ่ี ้าํ โจวโข่วเต้ียน ใกลก้ รุงปักกิ่ง วฒั นธรรมหยางเซ่า

• ในยคุ โลหะ-สาํ ริด มีวฒั นธรรมหลงซาน อยเู่ ป็นชุมชนใหญ่ มีถนน มีการ จดั ระเบียบการปกครอง การทาํ เคร่ืองป้ันดินเผาแบบรมดาํ นาํ หยกมาเป็ น เครื่องมือเคร่ืองใช้ ภาชนะสามขาและภาชนะสาํ ริดวฒั นธรรมหลงซาน

สมยั ประวตั ศิ าสตร์ 1. ราชวงศ์ชาง • มีการประดิษฐต์ วั อกั ษรแบบรูปภาพบนกระดูกสัตวแ์ ละบนกระดองเต่า • มีการทาํ เครื่องใชต้ ่างๆ ดว้ ยสาํ ริด • นบั ถือเทพเจา้ แห่งการเพาะปลูก เรียกวา่ ชางต้ี ทาํ ปฏิทินบอกฤดูกาล ต่างๆ ซ่ึงมีความสาํ คญั ต่อการเพาะปลูก ตวั อกั ษร บนกระดองเต่า ภาชนะสาํ ริดในสมยั ราชวงศช์ าง

2. ราชวงศ์โจว • เป็นราชวงศท์ ี่ปกครองจีนนานท่ีสุด ในประวตั ิศาสตร์ราชวงศข์ องจีน • มีความเชื่อวา่ กษตั ริยค์ ือโอรสแห่งสวรรค์ • มีความรุ่งเรืองทางปรัชญา เกิดลทั ธิขงจ้ือ ลทั ธิเต๋า • มีการประดิษฐ์เข็มทิศ การประดิษฐ์ตะเกียบเพื่อใชห้ ยิบอาหารซ่ึงได้ กลายเป็นสัญลกั ษณ์อยา่ งหน่ึงของจีน เล่าจ้ือ ผใู้ หก้ าํ เนิดลทั ธิเต๋า ขงจ้ือ ผใู้ หก้ าํ เนิดลทั ธิขงจ้ือ

3. ราชวงศ์ฉิน • ปฐมจกั รพรรดิ คือ จ๋ินซีฮ่องเต้ • สามารถรวมจีนใหเ้ ป็นปึ กแผน่ และมีอาํ นาจเด็ดขาดในการปกครองมณฑลต่างๆ • โปรดใหส้ ร้างถนน ขดุ คลอง เพอ่ื เชื่อมโยงราชธานีกบั มณฑลต่างๆ • ทรงใหส้ ร้างกาํ แพงเมืองจีน โดยต่อเติมและเช่ือมโยงจากกาํ แพงท่ีมีอยเู่ ดิม • สัญลกั ษณ์ของความยง่ิ ใหญ่อีกอย่างหน่ึงคือ พระราชวงั ขนาดใหญ่ และสุสานท่ีมีทรัพยส์ ิน และรูปป้ันขนาดเท่าตวั จริงของนกั รบและมา้

4. ราชวงศ์ฮ่ัน • เป็นสมยั ที่จีนมีความเจริญรุ่งเรือง • เริ่มมีการสอบจอหงวน • พระพทุ ธศาสนาจากอินเดียเร่ิมเผยแผส่ ู่จีน มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมจีนมาก • มีการสาํ รวจเสน้ ทางสายไหมเพอ่ื ใชต้ ิดต่อกบั อินเดีย และยโุ รป ภาพวาดการสอบจงหงวน

• ซือหม่า เชียน ไดป้ รับปรุงปฏิทินจนั ทรคติ และ เขียนหนงั สือ สื่อจ้ี • มีการประดิษฐก์ ระดาษ และเครื่องมือวดั แผน่ ดินไหว • เม่ือสิ้นสุดสมยั ราชวงศฮ์ น่ั จีนเกิด การแตกแยกภายใน หรือสมยั สามก๊ก แต่ในช่วงเวลาดงั กล่าว พระพทุ ธศาสนา มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เคร่ืองมือวดั แผน่ ดินไหว

5. ราชวงศ์ถงั • จีนกลบั มาเป็นปึ กแผน่ อีกคร้ัง และนบั เป็นยคุ ทองของจีน • มีเขตแดนกวา้ งใหญ่ อารยธรรมรุ่งเรืองสูงสุด โดยเฉพาะ ดา้ นบทกวี และจิตรกรรม • มีการเผยแผ่ศาสนามากมาย และพระถงั ซาํ จงั๋ เดินทางไป ศึกษาพระพทุ ธศาสนาที่อินเดีย ทาํ ใหเ้ กิดการแปล พระไตรปิ ฎกเป็นภาษาจีนจาํ นวนมาก

6. ราชวงศ์ซ้อง • จีนถกู ชนเผา่ ทางเหนือรุกรานจนตอ้ งยา้ ย เมืองหลวงลงมาทางใต้ • มีการประดิษฐด์ ินปื น เพอ่ื ใชใ้ นการทาํ ดอกไมไ้ ฟ • งานศิลปะที่โดดเด่น ไดแ้ ก่ ภาพวาด และเคร่ือง กระเบ้ือง

7. ราชวงศ์หยวน • อําน า จแล ะ ช่ื อ เ สี ย งข อ งจี น ข ย า ย ออ กไ ป อย่า ง กวา้ งขวาง มีอาณาเขตไปจนถึงยโุ รป • ชาวยโุ รปเดินทางเขา้ สู่ราชสาํ นกั จีน ท่ีสาํ คญั คือ มาร์โค โปโล ได้เขียนบนั ทึกเหตุการณ์ เก่ียวกบั จีนในยคุ น้นั ไว้ กบุ ไลข่าน

8. ราชวงศ์หมิง • ระยะแรก เมืองหลวงอยทู่ ่ีเมืองหนานจิง ต่อมายา้ ยไปอยทู่ ่ีเป่ ยจ์ ิง (หรือปักกิ่งในปัจจุบนั ) • มีการส่งกองเรือขนาดใหญ่ออกสาํ รวจทางทะเลไป จนถึงแอฟริกาตะวนั ออก • มีการแต่งวรรณกรรมสาํ คญั เช่น สามกก๊ ไซอ๋ิว

9. ราชวงศ์ชิง • ในระยะแรกขยายอาํ นาจออกไปไดก้ วา้ งใหญ่ แต่ต่อมาเส่ือมอาํ นาจ เพราะจกั รพรรดิไม่มีความสามารถ และเกิด การฉอ้ ราษฎร์บงั หลวงกนั มาก • มีการทาํ สงครามฝิ่นระหวา่ งจีนกบั องั กฤษ ซ่ึงจีนเป็ นฝ่ ายแพ้ • การเขา้ มาของจกั รวรรดินิยมตะวนั ตก เป็น สาเหตุหน่ึงที่ทาํ ใหก้ ารปกครองแบบ จกั รพรรดิสิ้นสุดลง ผอู่ ้ี จกั รพรรดิจีนองคส์ ุดทา้ ย



สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยุคหินเก่า ผคู้ นยงั เร่ร่อนเกบ็ หาอาหาร ล่าสตั ว์ ยคุ หินกลาง รู้จกั นาํ สุนขั ป่ ามาเล้ียง ทาํ เคร่ืองมือ หินใหด้ ีข้ึน ยุคหินใหม่ รู้จกั การเพาะปลูก นาํ สตั วม์ าเล้ียง ป้ันภาชนะใส่อาหาร รู้จกั ทอผา้ อยรู่ วมกนั เป็นชุมชน มีการ นบั ถือพระแม่ธรณีเพอ่ื ความอุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลกู ยคุ โลหะ หรืออารยธรรมลุ่มแม่น้าํ สินธุ เป็นอารยธรรมของชาวอินเดียด้งั เดิม ที่เรียกวา่ เผา่ ทฺรวฑิ ชาวเผา่ ทฺรวฑิ หรือทมิฬ มีรูปร่างเลก็ ผวิ คล้าํ

ซากเมืองโมเฮนโจ-ดาโร • แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าํ สินธุอยทู่ ี่เมืองโมเฮนโจ-ดาโร และเมืองฮารัปปา • ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงความเจริญแบบอารยธรรมเมือง มีการวางผงั เมือง มีท่ีอาบน้ํา สาธารณะ มีระบบการระบายน้าํ และยา่ นการคา้

ซากเมืองฮารัปปา • ต่อมาชาวอารยนั รุกรานเขา้ มาในอินเดีย และใหช้ าวทมิฬเป็นผรู้ ับใช้ และถูกเรียกว่า ทาส ซ่ึงเป็นท่ีมาของการเกิด วรรณะ • มีการแต่งบทสรรเสริญพระผูเ้ ป็ นเจ้า แต่ไม่มีการจดบันทึก ต่อมาอินเดียเร่ิมมีการ ประดิษฐต์ วั อกั ษร จึงมีการจดบนั ทึกคมั ภีร์ท้งั หลาย

ยคุ พระเวท เรียกตามช่ือพระเวท ส่วนหน่ึงของคมั ภีร์พระเวท ท่ีศกั ด์ิสิทธ์ิของชาวอารยนั คือ 1. ฤคเวท เป็ นพระเวทท่ีศกั ด์ิสิทธ์ิที่สุด เป็ นการสวดออ้ น วอนใหเ้ ทพเจา้ ประทานชยั ชนะแก่ตน 2. ยชุรเวท เป็นคมั ภีร์อธิบายวธิ ีประกอบพธิ ีบวงสรวง 3. สามเวท เป็นบทสวดสาํ หรับการทาํ พิธีบูชาดว้ ยน้าํ โสมใน พธิ ีของบา้ นเมือง หรือของกษตั ริย์ 4. อถรรพเวท เป็ นคมั ภีร์เกิดข้ึนทีหลงั นบั ถือเทพและไม่ใช่ เทพ ท้งั ท่ีใหค้ ุณและใหโ้ ทษแก่มนุษย์

ยุคมหากาพย์ • เรียกตามชื่อมหากาพยย์ ่ิงใหญ่ของอินเดีย 2 เรื่อง คือ มหาภารตะ และรามายณะ • พวกอารยันได้ขยายอํานาจต่อไปทาง ตะวันออก และไปต้ังอาณาจักรในเขต พาราณสี • มีการก่อต้ังอาณาจกั รของเผ่าต่างๆ การค้า และงานฝีมือมีมากข้ึน การบนั ทึกมีมากข้ึน ภาพวาดมหากาพยม์ หาภารตะ พระกฤษณะ กบั อรชุนกลางสนามรบ

สมยั ประวตั ศิ าสตร์ ศาสนาฮินดู • เชื่อวา่ พระวิษณุและพระศิวะเป็ นผมู้ าโปรด ช่วยใหพ้ น้ จากชีวติ ที่ยากลาํ บาก และช่วยให้ มีชีวติ ที่ดีกวา่ ในชาติหนา้ • ยอมรับวา่ ทางไปสู่สัจธรรมมีหลายทาง • มีเสรีภาพท่ีจะปฏิบัติตามความเชื่อของ ตนเอง • มีอิทธิพลต่อวฒั นธรรมอินเดียอยา่ งมาก ศิวนาฏราช ปางหน่ึงของพระศิวะ เทพเจา้ สาํ คญั องคห์ น่ึงในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

พระพุทธศาสนา • ถือกาํ เนิดข้ึนเพอ่ื ใหเ้ ป็นทางเลือกของมนุษยท์ ี่ตอ้ งการหลุดพน้ จากทุกข์ • หลกั คาํ สอนมีบทบาทสาํ คญั ต่อวถิ ีการดาํ เนินชีวติ ของ ผคู้ น เช่น เช่ือเร่ืองกรรม ทาํ ดีไดด้ ี ทาํ ชวั่ ไดช้ ว่ั เป็นตน้ • หวั ใจของพระพทุ ธศาสนา คือ การทาํ ความดี ละเวน้ ความชวั่ ทาํ จิตในใหบ้ ริสุทธ์ิ • ภายหลงั พระพทุ ธเจา้ ปรินิพพาน พระพุทธศาสนา แยกออกเป็น 2 นิกาย คือ เถรวาท และมหายาน เจดียพ์ ทุ ธคยา

ราชวงศ์เมารยะ • พระเจา้ จนั ทรคุปตไ์ ดร้ วบรวมอินเดียใหเ้ ป็นปี กแผน่ และรวมอาํ นาจไวท้ ี่ศนู ยก์ ลางไดเ้ ป็นคร้ังแรก • กษตั ริยท์ ่ีสาํ คญั ในเวลาต่อมา คือ พระเจา้ อโศกมหาราช ทรงทาํ นุบาํ รุงและ พระเจา้ อโศกมหาราช เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาไปยงั ดินแดนต่างๆ • เมื่อราชวงศเ์ มารยะหมดอาํ นาจ อินเดียถกู ต่างชาติหลาย พวกรุกราน ทาํ ใหอ้ ินเดียแตกแยกและอ่อนแอ เสาหินพระเจา้ อโศกมหาราช

ราชวงศ์คุปตะ • พระเจา้ จนั ทรคุปตท์ ่ี 1 เริ่มรวมประเทศและขยายอาํ นาจออกไปจากแควน้ มคธ • เป็ นสมยั แห่งความรุ่งเรืองทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยเป็ นผูเ้ ร่ิมใช้เลขอารบิก และ เลขศูนย์ ก่อนดินแดนอื่น • หลงั การสิ้นสุดของราชวงศค์ ุปตะ อินเดียทางเหนือถูกต่างชาติรุกราน ทาํ ให้ศาสนาอิสลามเร่ิมเผย แผเ่ ขา้ สู่อินเดีย ส่วนทางใตศ้ าสนาพราหมณ์-ฮินดูยงั รุ่งเรือง ถ้าํ เอลโลรา ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมืองออรังกบาด รัฐมหาราษฎระ

ราชวงศ์โมกุล • เป็นราชวงศส์ ุดทา้ ยที่ปกครองอินเดีย • ผกู้ ่อต้งั จกั รวรรดิโมกลุ คือ อกั บาร์มหาราช ทรงส่งเสริมใหม้ ีขนั ติธรรมทางศาสนา • สุลต่านท่ีสาํ คญั อีกพระองค์ คือ ชาห์ เจฮนั ผสู้ ร้างทชั มาฮลั • จกั รวรรดิโมกลุ หมดอาํ นาจลง เม่ือองั กฤษเขา้ ยดึ ครองอินเดีย

อนิ เดยี ภายใต้การปกครองขององั กฤษ • องั กฤษปกครองอินเดียโดยวธิ ีแบ่งแยกการปกครอง โดยต้งั ขา้ หลวงเป็นผปู้ กครอง • มีการสร้างทางรถไฟ ถนน สะพาน โรงพยาบาล และจดั การศึกษา • ต่อมาชาวอินเดียเรียกร้องการปกครองตนเอง สมเดจ็ พระราชินีนาถวกิ ตอเรีย และนาํ ไปสู่การเรียกร้องเอกราช จกั รพรรดินีพระองคแ์ รกแห่งอินเดีย มหาตมะ คานธี ผนู้ าํ ชาวอินเดีย ในการเรียกร้องเอกราชจากองั กฤษ



การขยายอานาจ และการเผยแผ่ศาสนา ในสมยั พระเจา้ อะเลก็ ซานเดอร์มหาราช แห่งมาซิโดเนีย รุกรานเอเชียมีผลทาํ ให้ สถาปัตยกรรมของกรีกแพร่หลายใน เอเชีย การเผยแผศ่ าสนาในทวปี เอเชีย ภาพวาดคณะพระธรรมทตู ท่ีเดินทาง ดว้ ยกนั มีพระพทุ ธศาสนา และ ไปประกาศพระพทุ ธศาสนาใดินแดน ศาสนาอิสลาม ส่วนศาสนาท่ีเผยแผ่ ต่างๆ ขา้ มทวปี คือ คริสตศ์ าสนา พระพุทธรูปท่ีไดร้ ับอิทธิพล รูปแบบประติมากรรมกรีกในสมยั พระเจา้ อะเลก็ ซานเดอร์มหาราช

การแสวงหาพนั ธมติ ร และการผจญภยั • ในสมยั ราชวงศฮ์ น่ั มีการส่งทูตไปยงั ดินแดน ทางตะวนั ตกของจีน เสน้ ทางท่ีเดินทางไป เรียกวา่ เสน้ ทางสายไหม • นกั ผจญภยั เช่น อิบน์ บตั ตูตา ชาวโมร็อกโก เดินทางไปยงั ดินแดนต่างๆ และเป็นแรง บนั ดาลใจใหน้ กั เดินทางรุ่นหลงั ทาํ ตาม อบิ น์ บตั ตูตา ชาวโมร็อกโก นกั เดินทางในยคุ กลาง

การค้าขาย • มีการแลกเปลี่ยนซ้ือขายสินคา้ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก สินคา้ ของจีน โดยเฉพาะผา้ ไหม เป็นท่ีนิยมของชาวโรมนั ช้นั สูง • สมยั กลางชาวยโุ รปตอ้ งการสินคา้ เคร่ืองเทศและพริกไทย จึงเป็นสาเหตุใหเ้ กิดการแสวงหา เสน้ ทางเดินเรือ นายพลเจิ้งเหอหรือซาํ ปอกง แม่ทพั บญั ชาการสูงสุดของจีน ในการเดินทางท่องทะเลของเรือมหาสมบตั ิ



ความต้องการสินค้าจากโลกตะวนั ออก • ชนช้นั สูงของชาวโรมนั • ชาวตะวนั ตกใชเ้ ครื่องเทศ • ชาวตะวนั ตก ซ้ือใบชา นิยมแต่งกายดว้ ยผา้ ไหม และพริกไทยในการปรุง จากจีนจาํ นวนมากไปปลูก จีน ผา้ ไหมจึงเป็นที่ รสและถนอมอาหาร ในอาณานิคม ทาํ ใหก้ าร ตอ้ งการมาก เครื่องเทศและพริกไทย ด่ืมชากลายเป็นวฒั นธรรม จึงกลายเป็นของจาํ เป็น ของชาติตะวนั ตก เป็นตน้ มา

เลขอารบกิ และระบบการคานวณ • อินเดียคิดคน้ ระบบตวั เลขอารบิกมาใช้ • ชาวอินเดียยงั ไดค้ ิดคน้ ระบบทศนิยม แทนเลขโรมนั ข้ึนมาเพอื่ ใชใ้ นการคาํ นวณ • เม่ือแลกเปล่ียนสินคา้ การคา้ ขาย การคาํ นวณผลกาํ ไร ขาดทุน จึงจาํ เป็นตอ้ งใชค้ วามรู้ในการ คาํ นวณมาเพอื่ หาคาํ ตอบ

เข็มทศิ • จีนประดิษฐเ์ ขม็ ทิศไดเ้ ป็น • มีการพฒั นาเขม็ ทิศเพอ่ื ใช้ • ต่อมาพฒั นาเขม็ ทิศไวใ้ ช้ ชาติแรกของโลก ใชเ้ พอ่ื ในการบอกทิศทาง ใน ในการเดินทาง เดินเรือ การทาํ นายเป็นหลกั ระยะแรกใชเ้ พอื่ หาทิศทาง ชาวอาหรับไดน้ าํ ความรู้ ในการก่อสร้างบา้ นเมือง จากเร่ืองเขม็ ทิศจากจีน ไปใช้ และชาวยโุ รปกร็ ับ มาจากอาหรับอีกต่อหน่ึง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook