มูลนธิ ชิ ัยพฒั นา The Chaipattana Foundation นางสาวพัทธธ์ รี า อัศวสมั ฤทธิ์ รหสั 60610292 นางสาวพชิ ญส์ ินี จริยสธุ รรมกลุ รหสั 60610308 นางสาวพิชญา คงรกั ษา รหสั 60610315 นางสาวอริณย์ลภัส คงกระพนั ธ์ รหัส 60610322 นายภูมิพฒั น์ เหล่ยี มดี รหสั 60610339รายงานนเ้ี ป็นส่วนหน่งึ ของรายวชิ าสารสนเทศศาสตรเ์ พ่ือการศกึ ษาคน้ ควา้ รหสั วิชา 001221 คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศกึ ษา 2560
มูลนธิ ชิ ยั พัฒนา The Chaipattana Foundation นางสาวรมดิ า หงษ์โม่ รหสั 60610346 นายรวพิ ล เครือเทพ รหสั 60610353 นางสาวรศิ รา สุทธวริ ีสรรค์ รหสั 60610360 นางสาววิลาสนิ ี ชาญณรงค์ รหสั 60610384 นายสริ วิชญ์ ดรณุ ถนอม รหสั 60610407รายงานน้ีเป็นสว่ นหนงึ่ ของรายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพอ่ื การศกึ ษาคน้ คว้า รหัสวิชา 001221 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร ภาคการศกึ ษาที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2560
กบทคดั ยอ่ จากการศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกบั โครงการมลู นิธชิ ัยพฒั นา มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือ 1. สนับสนุนการดาเนนิ งานตามโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริและโครงการพัฒนาอนื่ ๆ สง่ เสรมิ 2. การพฒั นาสงเคราะห์และชว่ ยเหลอื ประชาชนในดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมให้มคี ุณภาพ ชวี ิตท่ีดีขึ้น และให้สามารถช่วยตัวเองและพ่ึงตนเองได้ 3. ดาเนินการใดๆ อันเปน็ ประโยชนต์ ่อประชาชนและประเทศชาตเิ ปน็ ส่วนรวม 4. รว่ มมอื กบั ส่วนราชการและองค์กรการกศุ ลอ่ืนๆ เพือ่ สาธารณประโยชน์ หรือดาเนินการเพื่อเน้นในการสนบั สนุนสาธารณประโยชน์ 5. ไม่ดาเนินการเกยี่ วข้องกับการเมือง ผลการศึกษาค้นควา้ เกี่ยวกบั โครงการมลู นิธิชัยพฒั นา ปรากฏการศึกษา ดงั ต่อไปนี้ มลู นิธชิ ัยพัฒนาเปน็ มูลนธิ ิทม่ี ีความสาคญั มากในการทีจ่ ะสนบั สนนุ ช่วยเหลอื ประชาชน ใหใ้ ช้ชวี ิตอยูอ่ ยา่ งรม่ เย็นเปน็ สุข และอยดู่ กี นิ ดี โดยชว่ ยใหก้ ระบวนการพัฒนา เกดิ ความสมบูรณ์ขน้ึ ทัง้ ทางดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติอย่างย่งั ยนื ดา้ นการปรบั ปรุงคณุ ภาพส่งิ แวดล้อม ด้านการพฒั นาการเกษตร ดา้ นการพฒั นาสังคม ดา้ นพลังงานและด้านอน่ื ๆ โดยเฉพาะในกรณที โ่ี ครงการของรฐั ถูกจากดั ดว้ ยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรอื งบประมาณท่ีระบบราชการไม่สามารถดาเนนิ การได้อย่างทนั ท่วงที จนเปน็ เหตุใหก้ ารแก้ไขปญั หาไม่สอดคล้อง หรือทนั กับสถานการณ์ที่จาเปน็ เรง่ ดว่ นที่จะต้องกระทาโดยเร็ว ดงั นนั้ มูลนิธชิ ัยพฒั นาจะเขา้ มาช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพอ่ื ให้โครงการนน้ั ๆ ดาเนินการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และโครงการให้มีประสิทธิภาพสงู สุด สง่ ผลใหป้ ระชาชนได้รบั ประโยชน์อยา่ งแท้จรงิ และรวดเร็วทันเหตุการณ์
ข กิตตกิ รรมประกาศ ในการทาโครงงานครงั้ นส้ี าเร็จลุล่วงได้ดว้ ยความกรุณาจาก อาจารยส์ มัทรชา เนยี มเรือง ท่ีได้ให้ความอนุเคราะห์ คอยให้คาปรึกษา ให้คาแนะนา ตลอดจนให้แนวทางในการทาโครงงานมาโดยตลอด จนโครงงานน้ีเสรจ็ สมบรู ณ์ คณะผจู้ ัดทาโครงงานกราบขอบพระคณุ เปน็ อย่างสูง ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ทเี่ ปน็ ผู้ให้กาลงั ใจและใหก้ ารสนบั สนนุ ในการศึกษา สดุ ทา้ ยน้ี ขอขอบคณุ เพอ่ื นๆที่คอยให้ความช่วยเหลอื และให้คาแนะนาดๆี ที่เปน็ ประโยชน์สาหรบั การทาโครงงานน้ี จนทาให้โครงงานสาเรจ็ ลลุ ว่ งไปไดด้ ้วยดี คณะผู้จัดทา
ค สารบัญ หนา้บทคัดย่อ................................................................................................................... ...............................กกติ ติกรรมประกาศ...................................................................................................................................ขสารบัญ...................................................................................................... ...............................................คสารบัญตาราง............................................................................................................................. ..............จสารบญั รูป.................................................................................................................................................จบทที่ 1 บทนา...........................................................................................................................................1 1.1 ความเป็นมา.......................................................................................................................1 2.1 ตราสญั ลักษณ์ของมูลนิธิ.....................................................................................................2 3.1 วัตถุประสงค์.........................................................................................................................3 4.1 เป้าหมาย.............................................................................................................................3 5.1 แนวทางการดาเนินงาน.......................................................................................................3บทท่ี 2 หลกั การและทฤษฎเี บื้องต้น.........................................................................................................5 2.1 ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งยง่ั ยืน..................................................................5 2.2 ดา้ นการปรับปรุงคุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม..................................................................................7 2.3 ด้านการพัฒนาการเกษตร...................................................................................................10 2.4 ดา้ นการพฒั นาสงั คม...........................................................................................................16 2.5 ด้านพลังงาน........................................................................................................................17 2.6 ด้านอ่ืนๆ..............................................................................................................................18บทท่ี 3 วิธกี ารดาเนนิ งาน...................................................................................................................19บทที่4 ผลการศึกษาค้นควา้ .................................................................................................................. .....20
ง สารบญั หนา้บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน............................................................................................................21เอกสารอ้างอิง............................................................................................................................. ........22ประวัตผิ ู้จัดทา.....................................................................................................................................24
จ สารบญั ตารางตารางท่ี หนา้1. วธิ กี ารดาเนินงาน......................................................................................................................19 สารบญั รปูรูปที่ หน้า1. ตราสญั ลกั ษณ์ของมลู นธิ .ิ .........................................................................................................12. สระเกบ็ นา้ พระราม 9..............................................................................................................63. กงั หันน้าชัยพฒั นา...................................................................................................................74. โครงการศกึ ษาวจิ ัยและพัฒนาส่งิ แวดล้อมแหลมผักเบย้ี ..........................................................85. โครงการปลกู หญ้าแฝก............................................................................................................96. การเกษตรทฤษฎีใหม่..............................................................................................................117. ศูนยว์ จิ ยั และพัฒนาการปลูกชานา้ มนั ของมลู นิธิชยั พฒั นา......................................................148. โครงการวจิ ัยพัฒนาและสาธิตไบโอดเี ซลชมุ ชน.......................................................................17
1บทที่ 1บทนา1.1. ความเป็นมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระราชดาริให้จัดตั้ง\"มูลนิธิชัยพัฒนา\" โดยทรงดารงตาแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เพ่ือสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในลักษณะของการดาเนินงานพัฒนาต่างๆ ในกรณีท่ีต้องถูกจากัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดาเนินการได้ทันที จนเป็นเหตุใหก้ ารแก้ไขปัญหาไม่สอดคลอ้ ง หรือทันกับสถานการณ์ท่ีจาเป็นเร่งด่วนท่ีจะต้องกระทาโดยเร็ว การท่ีมูลนิธิชัยพัฒนาเข้ามาดาเนินการเช่นน้ี ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์อยา่ งแท้จริง รวดเรว็ ฉบั พลัน โดยไมต่ กอยู่ภายใต้ข้อจากดั ใดๆ ท้งั ส้ิน อาจกลา่ วได้ว่าการดาเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาเปน็ การช่วยให้กระบวนการพัฒนาเกิดความสมบูรณ์ข้ึน \"ชยั ชนะของประเทศนี้ โดยงานของมูลนิธิชยั พัฒนาน้ันกค็ ือ ความสงบ ... เปน็ เมืองไทยท่ีมีความเจรญิ ก้าวหน้า จนเป็นชัยชนะของการพัฒนาตามท่ีไดต้ ั้งช่ือ มลู นิธิชัยพฒั นา ชยั ของการพัฒนานี้มจี ุดประสงค์ คือ ความสงบ ความเจริญ ความอยู่ดีกนิ ด\"ี (พระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช วันที่ 4 ธันวาคม 2537) มูลนิธิชัยพัฒนาได้รับการจดทะเบียนจัดต้ังเป็นมูลนิธิและมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามเลขทะเบียนลาดับท่ี 3975 ตั้งแต่วันท่ี 14 มิถุนายน 2531 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 105 ตอนท่ี 109วันท่ี 12 กรกฎาคม 2531 นอกจากน้ี กระทรวงการคลังได้ประกาศให้มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นองค์การสถานสาธารณกุศลลาดับท่ี 169 ตั้งแต่วันท่ี 8 กันยายน 2531 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 105 ตอนท่ี 152วันท่ี 16 กันยายน 2531 [1]
21.2. ตราสญั ลกั ษณ์ของมูลนิธิ รูปที่ 1 ตราสญั ลักษณข์ องมูลนธิ ิ (ท่ีมา: http://www.chaipat.or.th/site_content/44-239/16-symbol-of-the-chaipattana-foundation.html ) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิชัยพัฒนาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กาหนดแบบตราสัญลักษณ์ พร้อมทั้งความหมายด้วยพระองค์เอง และได้พระราชทานเป็นเครอ่ื งหมายประจามูลนธิ ิชัยพฒั นา ซงึ่ ประกอบดว้ ย พระแสงขรรค์ชยั ศรี มคี วามหมายถึง พระราชอานาจ พระบารมแี ละกาลงั แผน่ ดินทจ่ี ะ ฟนั ฝ่าให้เกิด การดาเนนิ การตา่ งๆ อนั เปน็ ผลไปสคู่ วามม่ันคงแห่งพระราชอาณาจักร ธงกระบ่ธี ชุ เป็นสัญลกั ษณ์แห่งชยั ชนะในการต่อสู้ เพื่อป้องกันอาณาประชาราษฎร์ และพระ ราชอาณาจักรใหพ้ ้นภยันตรายทัง้ ปวงและประสบความสาเร็จในการตอ่ ส้นู ัน้ ดอกบัว มคี วามหมายถึง ศักดิ์ศรี ความสงบร่มเย็น ความเจริญงอกงามและความบรบิ รู ณ์แหง่ พชื พนั ธ์ุ ธัญญาหาร และบรรดาทรัพยากรท้งั ปวงอนั จะนาไปสคู่ วามอยู่ดกี นิ ดี และความสงบสนั ติสขุ ของ ประชาชนโดยท่วั หน้ากัน สงั ข์ มีความหมายถึง นา้ ทจ่ี ะสรา้ งความชุ่มชนื้ ชโลมแผ่นดินใหเ้ กิดความอุดมสมบูรณแ์ ละความ รม่ เย็นเป็นสุข [2]
31.3 วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือสนบั สนุนการดาเนินงานตามโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดารแิ ละโครงการพฒั นาอ่นื ๆ 2. เพือ่ สง่ เสรมิ การพัฒนาสงเคราะหแ์ ละช่วยเหลือประชาชนในดา้ นเศรษฐกจิ และสังคมให้มีคณุ ภาพ ชีวติ ทดี่ ขี น้ึ และใหส้ ามารถชว่ ยตัวเองและพึ่งตนเองได้ 3. ดาเนินการใดๆ อนั เปน็ ประโยชน์ตอ่ ประชาชนและประเทศชาติเป็นสว่ นรวม 4. ร่วมมือกับสว่ นราชการและองคก์ รการกศุ ลอน่ื ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ หรอื ดาเนินการเพอื่ เนน้ ใน การสนบั สนนุ สาธารณประโยชน์ 5. ไมด่ าเนนิ การเกย่ี วข้องกับการเมอื ง1.4 เป้าหมาย เป้าหมายทีส่ าคัญคือ เพ่ือสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนให้มคี วามรม่ เยน็ เป็นสุข และอยู่ดีกินดีอนั จะนาไปสคู่ วามมั่นคงของประเทศ คอื ชัยชนะแหง่ การพัฒนา [3]1.5 แนวทางการดาเนินงาน“...งานของมูลนิธชิ ัยพัฒนานั้นตอ้ งทาเรว็ คิดเร็ว แกป้ ัญหาเร็ว ... เร่อื งเช่นนี้ไมอ่ าจทาได้ในระบบระเบียบของ ทางราชการ เน่ืองจากราชการมขี ้ันตอน ระเบียบแบบแผนทย่ี งุ่ ยากพอสมควร จะไม่ทนั กับเวลาและปญั หาที่ตอ้ งใชค้ วามรวดเร็ว ... มลู นธิ ฯิ ดาเนินการเปน็ ตวั อย่างก่อน หากรัฐบาลเหน็ สมควรวา่ มีประโยชน์ก็นาไปทาต่อ หรอื จะนาแบบอย่างไปทดลองทีอ่ น่ื กไ็ ด้…” (พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช วนั ที่ 11 กรกฎาคม 2539) การดาเนินงานของมลู นิธิชยั พัฒนาเป็นไปตามแนวพระราชดาริ โดยเน้นกิจกรรมเพ่ือการพฒั นาท่ีไม่ซ้าซ้อนกับแผนงานโครงการของรัฐท่มี ีอยู่แล้ว แตจ่ ะพยายามสนบั สนุน ส่งเสรมิ และประสานการดาเนนิ งานเพ่อื ใหโ้ ครงการต่างๆเกิดความสมบูรณ์และสามารถดาเนนิ การได้อย่างรวดเร็ว และสอดคลอ้ งกับสถานการณ์โดยเฉพาะในกรณีที่โครงการของรัฐถูกจากัดดว้ ยเงือ่ นไขของกฎระเบียบต่างๆ อนั เป็นผลทาใหโ้ ครงการน้นั ๆไมส่ ามารถดาเนนิ การได้อย่างทันท่วงที เชน่ ในกรณีทอี่ าจต้องจดั ซ้ือท่ดี ินจากราษฎรบางสว่ นเพื่อดาเนินงานตามโครงการหน่งึ แต่รัฐมีปัญหาดา้ นงบประมาณไม่เพยี งพอในการจัดซื้อ หรือมิได้ต้ังงบประมาณไว้ หรือถูก
4จากดั ด้วยเง่อื นไขของระเบยี บต่างๆ ทาให้ดาเนินการจดั ซื้อไม่ได้ หรือต้องตั้งงบประมาณจดั ซอ้ื ใน 1-2 ปีขา้ งหน้า ซงึ่ จะทาใหโ้ ครงการล่าช้าไป เป็นต้น ในกรณเี ชน่ น้มี ลู นิธชิ ยั พฒั นาจะได้ช่วยเหลอื ตามความเหมาะสมเพ่ือใหโ้ ครงการนั้น ๆ ดาเนินการได้อย่างรวดเรว็ และมปี ระสิทธภิ าพสงู สุด วิธีการดังตัวอย่างข้างต้นน้ี อาจนับได้ว่าเป็นวิวฒั นาการใหม่ของแนวทางการพัฒนาประเทศทมี่ ีมูลนธิ ิชัยพัฒนาใน ฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่จะเข้ามาประสานงาน ร่วมมือ สนับสนุนโครงการพัฒนาของรัฐอย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้โครงการที่มีปัญหานั้นๆ สามารถดาเนนิ งานไปได้ โดยก่อประโยชน์สงู สุดแกป่ ระชาชนและประเทศชาติอยา่ งไม่เคยมีมาก่อนในอดีต[4] \"มูลนธิ ิชัยพฒั นา มิไดม้ ีหน้าที่โดยตรงทจ่ี ะบรรเทาทกุ ข์แกป่ ระชาชนใหม้ กี นิ ใหส้ ามารถท่ีจะดาเนินชวี ิตท่ีสรา้ งสรรค์ โดยช่วยในการให้มีสิ่งที่เปน็ อุปกรณ์ หรือจะเป็นส่งิ ท่เี ป็นปจั จัยให้สามารถท่ีจะทาการทามาหากนิ โดยมปี ระสิทธภิ าพ โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับโครงการในด้านการเกษตรก็ได้ทามาก และในด้านเกย่ี วขอ้ งกับสง่ิ แวดล้อมก็ไดท้ า เพ่ือที่จะให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีท่ีสุดเปา้ หมายก็คือความเจรญิ รุ่งเรอื งของประเทศชาติ ซึง่ ถือว่าเป็นชยั ชนะ\" (พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชวันที่ 9 พฤศจิกายน 2538)
5 บทที่ 2 หลกั การและทฤษฎเี บอื้ งต้น2.1 ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาตอิ ย่างย่ังยืน การเกิดอุทกภัยน้าท่วมหลากในปี 2538 ส่งผลให้เกิดน้าท่วมขังในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นปริมาณมากและยาวนาน ทาให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งผลกระทบท่ีเกิดข้ึนไม่เฉพาะแต่เศรษฐกิจและสังคมในกรุงเทพฯเท่าน้ัน แต่ยังกระทบไปถึงประเทศชาติอย่างเป็นวงจรด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระราชดาริในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้าท่วม ซึ่งที่ดินชัยพัฒนาได้มีส่วนในเร่ืองนี้ด้วยเช่นกัน เช่น ที่ดินที่ตาบลคลองหก อาเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จัดสรา้ งเปน็ โครงการสระเก็บน้าพระราม 9 เปน็ สระเก็บกกั น้าขนาดใหญ่ บนเนือ้ ทกี่ ว่า 2,800 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการรองรับน้าที่ไหล่บ่ามาจากที่ราบลุ่มตอนบน นอกจากเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดน้าท่วมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล แล้วยังช่วยให้ประชาชนใกล้เคียงมีน้าใช้ ท้ังการอุปโภคบริโภค รวมถึงการเพาะปลูกในช่วงฤดูแลง้ อีกดว้ ย [5]2.1.1. ตัวอย่างโครงการด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งย่งั ยืน 1) โครงการสระเก็บนา้ พระราม 9 อาเภอคลองหลวง จงั หวัดปทมุ ธานี“...ความจรงิ สระนเ้ี ราทาไวส้ าหรบั เปน็ บ่อเกบ็ น้า เพ่ือเอามาล้าง กทม. แตก่ ็ยังมคี นไม่ส้เู ข้าใจวัตถปุ ระสงค์ระยะหลงั มีคนมาบอกว่าระดับน้าต่ากว่า คลอง 5 คลอง 6 ไปอีก กน็ ่าแปลก ไปไปมามา สระนา้ เลยกลายเปน็แก้มลิง ที่ถกู ต้องควรต้องระบายน้าออก แต่เม่ือนา้ มันน้อยก็เลยไม่ต้อง พอน้าเหนือไหลมากน็ านา้ เข้ามาได้อกีมาก เป็นหลักการปอ้ งกันนา้ ท่วม เป็นการชะลอน้าไว้ในระยะแรก เพอ่ื หาทางแก้ไขคิดการต่อไป แตห่ ากมีคนขอนา้ ไปใชก้ ็อาจไม่สะดวก เพราะบางเวลาเราต้องสบู ออก...” “...หากนานา้ ไปใชไ้ ด้และเป็นการใชช้ ัว่ คราวกย็ นิ ด.ี ..” พระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช ในการประชุมกรรมการมลู นธิ ิชัยพัฒนา วนั ที่ 11 กรกฎาคม 2539
6 รปู ท่ี 2 สระเก็บนา้ พระราม 9 (ทม่ี า: http://www.chaipat.or.th/royal-projects-in-various-regions/central/7411-9.html ) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระราชดาริให้สานักงานมูลนิธิชัยพัฒนา สานักงานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ (กปร.) และกรมชลประทาน รว่ มกับสว่ นราชการที่เกี่ยวขอ้ งดาเนนิ การก่อสร้างแหล่งเก็บน้าเอนกประสงค์ ในเขตพ้ืนท่ีซ่ึงต้ังอยู่ระหว่างคลองระบายน้ารังสิต 5 และคลองระบายน้ารงั สติ 6 อาเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีท่ีทางกระทรวงการคลัง น้อมเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันท่ี 30 พฤษภาคม 2532 เริ่มดาเนินการก่อสร้างในปี 2534 และแล้วเสร็จเร่ิมกกั เก็บนา้ ในปี 2538 โครงการสระเก็บน้าพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดาริ มีพื้นที่รวมท้ังส้ิน 2,827 ไร่ 2 งาน 10ตารางวา ซึ่งประกอบด้วย สระเก็บน้า จานวน 2 สระ โดยสระเก็บน้าที่ 1 พื้นท่ีประมาณ 790 ไร่ ความจุประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรับน้าจากคลองระบายน้ารังสิต 6 ส่วนสระเก็บน้าที่ 2 พ้ืนที่ประมาณ1,790 ไร่ ความจุประมาณ 11.10 ลา้ นลูกบาศก์เมตร เพื่อรับน้าจากคลองระบายน้ารงั สิต 5 โดยพื้นท่รี อบสระเกบ็ นา้ ประมาณ 13 กโิ ลเมตร จดั เป็นพืน้ ที่ปลูกต้นไม้ และจดั แตง่ สวน ด้วยพระปรีชาญาณโครงการสระเก็บน้าพระราม 9 แห่งน้ี ก่อเกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อประชาชน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดปทุมธานี ปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งเก็บน้าขนาดใหญ่ท่ีสาคัญเพ่ือส่งน้าช่วยเหลือพ้ืนที่ทานาปรังและกิจกรรมการเกษตรบริเวณดังกล่าวในช่วงฤดูแล้ง ส่วนในช่วงฤดูน้าหลากยังสามารถเก็บกักน้าส่วนหนึ่งเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นท่ีตอนล่าง อีกทั้งช่วยบรรเทา
7ปัญหาน้าเน่าเสียตามคลองและชุมชนบางแห่ง โดยการปล่อยน้าจากสระเก็บน้าไปชะล้างเจือจางการเน่าเสียและผลกั ดนั ให้นา้ เสยี ระบายออกไป2.2 ด้านการปรบั ปรงุ คุณภาพสงิ่ แวดลอ้ ม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทยั ในปัญหาความเสอ่ื มโทรมของสภาพแวดลอ้ มท่ีเกดิ จากการพฒั นาทข่ี าดความสมดลุ ซง่ึ นบั วันปญั หานจี้ ะทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในเร่อื งการแกไ้ ขปัญหาน้าเสยี การกาจดั ขยะมลู ฝอย และการนากากของเหลือทง้ิ มาใชป้ ระโยชน์ใหม่ ท้งั นี้เพื่อปรับปรงุ คุณภาพสิ่งแวดล้อม อันเปน็ ปัจจยั ท่ีส่งเสริมให้คุณภาพชวี ติ ของประชาชนดีขึน้2.2.1. ตัวอย่างโครงการด้านการปรับปรงุ คุณภาพสิงแวดลอ้ ม 1) กงั หนั นา้ ชัยพัฒนา กังหันน้าชัยพัฒนา เคร่ืองกลเติมอากาศเพ่ือปรับปรุงคุณภาพน้า (เครื่องกลเติมอากาศแบบ RX- 2)พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานรูปแบบเคร่ืองกลเติมอากาศให้กรมชลประทาน ศึกษา วิจัย ทดลอง สาหรับการปรับปรุงคุณภาพน้า เพ่ือเป็นต้นแบบแก่หน่วยงานและประชาชนให้สามารถผลิตและใช้เองภายในประเทศ รวมทั้งเป็นการสร้างจิตสานึกการมีส่วนร่วมในการปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีข้ึนด้วย กังหันน้าชัยพัฒนา เป็นเคร่ืองกลเติมอากาศที่ผิ วน้าหมุนช้าแบบทุ่นลอย ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันท่ี 2 กุมภาพันธ์ 2536 และมูลนิธิชัยพัฒนาได้ใช้เป็นเครื่องกลเติมอากาศในแหล่งน้าเสีย โดยดาเนินการควบคู่ไปกับวธิ ที างธรรมชาติ คือ ใช้พืชน้าเป็นตัวกรองนา้ เสีย การศกึ ษาวจิ ยั ทดลองการปรับปรุงคณุ ภาพน้าได้ดาเนินการในหลายสถานที่ ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเทพศิรินทราวาส โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค หนองสนม จังหวัดสกลนคร และวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกเขตห้วยขวาง กรงุ เทพมหานคร เป็นต้น
8 รูปที่ 3 กังหนั น้าชยั พฒั นา (ที่มา: http://www.weloveroyalty.com/main/th/project/detail/กงั หนั ชยั พัฒนา/8.html ) นอกจากน้ี เม่ือวันท่ี 19 เมษายน 2544 กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกสิทธิบัตร เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศ และดูดน้า ( เครื่องกลเติมอากาศแบบ RX-5C ) ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ีได้ทรงคิดค้นและออกแบบเคร่ืองกลเตมิ อากาศขนาดเลก็เพื่อใช้ปรับปรุงคุณภาพน้าในแหล่งน้า ท่ีไม่สามารถติดต้ังกังหันน้าชัยพัฒนาได้ หรือนาไปใช้ควบคู่กับกังหันนา้ชัยพัฒนาเครื่องกลเติมอากาศท้ัง 2 ประเภทนี้ เป็นการแสดงถึงพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ีทรงหาวิธีการแก้ไขและปรับปรุงคุณภาพน้า ท่ีมีความสาคญั ยิ่งต่อชวี ิตมนุษย์ให้ดขี ึน้ 2) แหลมผักเบยี้ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย ต้นแบบการบาบัดน้าเสียโดยวิธีธรรมชาติเป็นการศึกษาและวิจัยเพื่อหาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาน้าเสียและขยะมูลฝอย ตลอดจนการฟ้ืนฟูสภาพป่าชายเลน โดยใช้กระบวนการทางธรรมชาติ 4 วิธี คือ การใช้ระบบบ่อผ่ึงบาบัดน้าเสีย การใช้ระบบกรองน้าเสียด้วยหญ้า การใช้ระบบบาบัดน้าเสียโดยใช้พื้นท่ีชุ่มน้าเทียม และการใช้ระบบบาบัดน้าเสียโดยใช้แปลงปา่ ชายเลน ซง่ึ ดาเนนิ การอยูท่ ี่ตาบลแหลมผกั เบย้ี อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบรุ ี
9 รปู ที่ 4 โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิง่ แวดล้อมแหลมผักเบย้ี (ที่มา: http://www.websitethaitour.com/articles/41934410/โครงการในพระราชดาริแหลมผกั เบ้ียเพชรบุร.ี html ) ณ วันนี้ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่ิงแวดล้อมแหลมผักเบ้ียอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าสามารถบาบัดน้าเสียในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีได้ส่วนหน่ึง และมีการพัฒนารูปแบบการกาจัดน้าเสียและขยะที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม สามารถป้องกันไม่ให้น้าเสียในเขตเทศบาลไหลลงสู่แม่น้าเพชรบุรี เป็นการรักษาสมดุลทางธรรมชาติให้กลับสู่ภาวะปกติได้ดังเดิม โครงการน้ีจะเป็นโครงการต้นแบบการพฒั นาและอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มใหแ้ ก่พน้ื ท่ีอ่ืนๆ ท่มี ลี ักษณะคลา้ ยคลึงกันตอ่ ไป 3) หญา้ แฝก หญ้ามหัศจรรย์ ในอดีตประเทศไทยไม่ได้ให้ความสนใจในการนา หญ้าแฝก มาใช้เป็นพืชอนุรักษ์ดินและน้า แต่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่ิงแวดล้อมแหลมผักเบี้ย ทรงตระหนักถึงศักยภาพของหญ้าแฝก จึงพระราชทานพระราชดาริ เก่ียวกับหญ้าแฝกเป็นครั้งแรก เม่ือวันท่ี 22 มิถุนายน 2534 กับนายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาว่า ให้ศึกษาทดสอบการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและอนุรักษ์ความ ชุ่มช้ืนในดิน ซึ่งข้ันตอนการดาเนินงานเป็นวิธีการแบบงา่ ยๆ ประหยดั และทส่ี าคญั คือ เกษตรกรสามารถดาเนนิ การเองได้ โดยไม่ต้องดแู ลภายหลงั การปลูกมาก
10 รูปท่ี 5 โครงการปลูกหญ้าแฝก (ทม่ี า: http://www.komchadluek.net/news/agricultural/246186 ) ความสมั ฤทธ์ิผลของหญ้าแฝกได้ปรากฏให้เห็นแลว้ อาทิ ช่วยป้องกันการพังทลายของดนิ ขอบถนนบนพ้ืนท่ีสูง เช่น เส้นทางไปโครงการพัฒนาดอยตุง (พ้ืนท่ีทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดาริ จังหวัดเชียงรายช่วยพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพดินที่โครงการพัฒนาท่ีดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเน่ืองมา จากพระราชดาริจังหวัดราชบุรี และดินดานท่ีศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ จังหวัดเพชรบุรีเป็นตน้ [6]2.3. ด้านการพฒั นาการเกษตร \"การอาชีพเพาะปลกู นี้มีความสาคัญมาก เพราะการเพาะปลกู น้เี ปน็ จดุ เร่ิมตน้ ของชวี ิตมนุษย์ ถ้าเราไม่มีการ เพาะปลูก กจ็ ะไม่มีวตั ถดุ ิบท่จี ะมาเป็นอาหาร หรอื เป็นเครือ่ งนงุ่ ห่ม หรือเปน็ สงิ่ ก่อสร้าง ฉะน้ัน ตอ้ งทาการ กสกิ รรม\" (พระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันท่ี 11 พฤษภาคม 2521)
112.3.1. ตัวอยา่ งโครงการดา้ นการพฒั นาการเกษตร 1) การแกไ้ ขปญั หาเรือ่ งดนิ ดินเป็นทรัพยากรท่ีสาคัญต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อดินเส่ือมโทรม ขาดความอุดมสมบรู ณจ์ ะทาใหไ้ มส่ ามารถเพาะปลูกพชื ได้เช่นเดิม ปัญหาของดนิ ท่ีมักพบอยู่เป็นประจา คอื ดินเปรี้ยว ดินเค็มซง่ึ แตล่ ะสภาพปญั หาของดนิ มวี ธิ กี ารแกไ้ ขทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชดาริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาทดลอง เพื่อหาวิธีการแก้ไขในรูปแบบต่างๆ บนที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนาที่ราษฎรน้อมเกล้าฯถวาย จากสถานท่ที ีม่ ีความแตกต่างกัน อาทิ พ้ืนที่ตาบลเขาชะงุ้ม อาเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูที่ดินเส่ือมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดาริ เป็นที่ดินที่มีความเส่ือมโทรมอย่างรุนแรงอันเกิดจากการใช้ดินอย่างผิดวิธีจนไม่สามารถทาประโยชน์ใดได้ การพัฒนาและฟ้ืนฟู ณ ผืนดินแห่งน้ี จากสภาพดินลูกรัง ตอไม้ที่ถูกตัดทิ้งไว้กลายเป็นลาต้นที่งอกใหม่ ความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้นเกิดข้ึน งอกงามเป็นป่าเบญจพรรณดังเช่นที่เป็นมาท่ีแห่งน้ีจึงเป็นที่มาของพระราชดาริท่ีสามารถพิสูจน์ให้เห็นจากความเป็น จริงที่ปรากฏได้ว่า \"อย่ารังแกป่า\"\"อยา่ รังแกธรรมชาต\"ิ และ ทฤษฎี \"การปลูกปา่ โดยไมต่ อ้ งปลกู \" ความเปรีย้ วของดนิ สามารถส่งผลเสียต่อการเพาะปลูกได้ ดงั นน้ั ท่ดี ินทตี่ าบลบ้านพริก อาเภอบ้านนาจังหวัดนครนายก ที่มีสภาพเป็นดินเปรี้ยว ไม่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ จึงเป็นอีกปัญหาหน่ึงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานพระราชดาริในการแก้ไขให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืช ผืนดินแห่งน้ีจึงเป็น โครงการศึกษาทดลองการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ การแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวได้ศึกษาทดลองด้วยกัน 3 วิธี คือ การแก้ไขด้วยวิธีการทางธรรมชาติโดยใช้น้าฝน การจัดทาแปลงทฤษฎีใหม่และทดลองใช้ปูนมาร์ลและน้าจากภายนอกมาเจือจาง และวิธีสุดท้ายใช้เถ้าลอยลิกไนต์ท่ีเป็นส่วนประกอบในการก่อสร้างเข่ือนคลอง ท่าด่านมาศึกษาทดลองด้วย ซึ่งผลสาเร็จของการศกึ ษาทดลองจะเปน็ ตัวอย่างท่ดี ีแกเ่ กษตรกรทจี่ ะนาไปใช้แก้ปญั หาดนิ ในพนื้ ท่ีของตนเอง ส่วนปัญหาเร่ืองดินเค็มนั้นได้ศึกษาทดลองท่ีตาบลตาจ่ัน อาเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โครงการศึกษาทดลองการแก้ไขปัญหาดินเค็ม อันเน่ืองมาจากพระราชดาริโดยเน้นการเพาะปลูกพืชที่มีความเหมาะสมกับลักษณะของดิน เช่น มะพร้าว ปรับปรุงดินโดยการปลูกปอเทือง และถั่วต่างๆ หลังจากเก่ียวข้าวแล้ว และทาคันดินเพ่อื ยกรอ่ งปลกู ไมผ้ ล พืชผกั ตา่ งๆ ควบคู่ไปด้วย
12 2) ทฤษฎใี หม่ เมื่อปี พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานแนวคิด\"ทฤษฎใี หม่\" เพ่ือเป็นแนวทางในการทาการเกษตรทเี่ น้นในเร่ืองการบรหิ ารจดั การที่ดนิ และนา้ ให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด ด้วยทรงตระหนักถึงปัญหาท่ีเกษตรกรมีท่ีดินในจานวนจากัด มีความเส่ียงสูงต่อความเสียหายที่เกิดจากความแปรปรวนของดิน ฟ้า อากาศ และฝนทง้ิ ชว่ ง รวมทัง้ ไม่มีหลักเกณฑ์ในการปลกู พชื และส่วนใหญ่ปลูกพืชชนิดเดยี ว \"ทฤษฎีใหม่” ตามแนวพระราชดาริ เป็นแนวทางหน่ึงในการพัฒนาทางการเกษตรสาหรับเกษตรกรที่ยากจน มีท่ีดินทากินน้อย และหลักการที่สาคัญ คือ เป็นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงที่เกษตรกรสามารถเลยี้ งตัวเองได้ รปู ท่ี 6 การเกษตรทฤษฎใี หม่ (ที่มา: https://sites.google.com/site/doraemoninmyheart/karkestr-thvsdi-him ) การศึกษาทดลองจึงเร่ิมข้ึนท่ีบริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีช่ือโครงการว่า โครงการพฒั นาพ้ืนท่บี ริเวณวัดมงคลชยั พัฒนาอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวดั สระบรุ ี หรอื ทฤษฎใี หมว่ ัดมงคล และที่แห่งน้ีจัดเป็นระบบทฤษฎีใหม่ที่สมบูรณ์ เพราะมีระบบการจัดการน้า จากอ่างใหญ่สู่อ่างเล็ก และส่งต่อไปยังสระเก็บน้าของราษฎร คือ มีน้าจากเข่ือนป่าสักชลสิทธิ์ ไปเติมให้แก่ \"อ่างเก็บน้าห้วยหินขาว\" ซ่ึงอยู่ในพ้ืนท่ีจากนั้นจึงสง่ น้าไปยงั สระน้าในแปลงของเกษตรกร ทาใหม้ นี า้ ใช้เพื่อการเพาะปลกู ในฤดูแลง้ อยา่ งพอเพยี ง ในขณะเดียวกันนั้น ได้มีการศึกษาทดลองทฤษฎีใหม่เขาวง หรือ โครงการพัฒนาพ้ืนที่เกษตรน้าฝนบ้านแดนสามัคคี และขุดสระเก็บน้าตามทฤษฏีใหม่ที่ตาบลคุ้มเก่า อาเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเน้นการจดั การพน้ื ท่ีและการขดุ สระเก็บกักนา้ ให้ราษฎรมีนา้ ใช้อย่างพอเพียง ราษฎรท่นี ี่ยากจนและมีความยากลาบาก
13ในการปลูกขา้ วและได้ผลผลิตน้อย ซึ่งที่แหง่ น้เี ปน็ ท่ีมาของพระราชกระแส \"ทางดิสโก\"้ เพราะทางเขา้ สู่หมู่บ้านมีแต่หลุมบ่อเป็นอปุ สรรคแกก่ ารเดินทางสญั จรของชาวบ้าน นอกจากนี้ที่ดินท่ีราษฎรน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยมีวัตถุประสงค์ที่จะสนองพระราชดาริทฤษฎีใหม่หลายแห่ง ซ่ึงที่ดินท่ีมูลนิธิชัยพัฒนาดาเนินการไปแล้วได้แก่ ทฤษฎีใหม่ปักธงชัย หรือ ทฤษฎีใหม่บ้านฉัตรมงคล ณ ผืนดินท่ีตาบลปักธงชัยเหนือ อาเภอปักธงชัยจังหวัดนครราชสีมา ทฤษฎีใหม่ปากท่อ ณ โครงการพัฒนาท่ีดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ตาบลวันดาวอาเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซ่ึงผลของการดาเนินงานในผืนดินแห่งน้ี ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางแก่เกษตรกรในท้องถ่ินและจากที่อ่ืนและ ทฤษฎีใหม่หนองหม้อ ท่ีโครงการพัฒนาที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนาตาบลหนองหม้อ อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกแห่งหน่ึงที่ดาเนินการตามพระราชกระแสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รูปของแปลงสาธิตทฤษฎีใหม่ โดยคานึงถึงเกษตรกรเป็นสาคัญว่าพืชท่ีปลูกเป็นตัวอย่างและวิธีการต่างๆ ที่ดาเนินการอยู่น้ัน เกษตรกรจะต้องนาไปปรับใช้ในพ้ืนที่การเกษตรของตัวเองไดจ้ ริง และท่ีสาคัญทนี่ ี่จะไมใ่ ชส้ ารเคมใี ดๆ 3) การเกษตรแบบผสมผสาน การพัฒนาและจัดทาเป็นแปลงสาธิตทางการเกษตรในรูปแบบต่างๆบนท่ีดินของมูลนิธิชัยพัฒนาขึ้นอยู่กับสภาพพ้ืนท่ีและอาชีพของราษฎรท่ีอาศัยทามาหากินอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรและประชาชนที่สนใจ สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้และนาไปใช้ในการประกอบอาชีพของตนได้ ดังเช่นสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตาบลสามพระยา อาเภอชะอา จังหวัดเพชรบุรี การดาเนินงานณ ที่แห่งนี้เป็นไปตามแนวพระราชดาริในรูปแบบที่เรียบง่าย เป็นทางเลือกสาหรับเกษตรกรนาไปปฏิบัติ หรือพัฒนาใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มและความเป็นอยใู่ นท้องถิ่น โดยม่งุ เนน้ ในเรื่องเกษตรย่ังยนื ท่ีดินท่ีอาเภอลาลูกกา จังหวัดปทุมธานี จัดทาเป็น ศูนย์บริการวิชาการเกษตร แหล่งถ่ายทอดความรู้ด้านวิชาการเกษตร โดยยึดถือแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบย่ังยืน และให้เกษตรกรที่เช่าที่นาอยู่เดิมสามารถทากินต่อไปได้ในลักษณะแปลงทฤษฎีใหม่ เพ่ือจะได้เป็นแบบอย่างแก่เกษตรกรอ่ืนๆ นาไปดาเนินการในทดี่ ินของตนเอง โครงการศูนย์สาธิตพืชไร่พืชสวนอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ตาบลท่าแร้ง อาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี นอกจากจะเป็นศูนย์สาธิตพืชไร่พืชสวนให้แก่เกษตรกรแล้ว ยังมีที่ดินส่วนหนึ่งขุดเป็นสระเก็บน้าขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่รองรับน้าที่ไหลล้นมาจากแม่น้าเพชรบุรี เก็บไว้ใช้ทานาปรัง ซึ่งทาให้เกษตรกรมีน้าใช้ไมข่ าดแคลนนา้ ในฤดูแล้ง
14 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดาริให้พัฒนาที่ดินท่ีตาบลสขุ เดอื นห้า ก่ิงอาเภอเนินขาม จังหวดั ชัยนาท จดั ตงั้ เปน็ ศนู ยส์ าธิตการเกษตรแบบผสมผสาน เพอื่ ให้เกิดความหลากหลายในพื้นที่เปน็ ตัวอย่างให้แกเ่ กษตรกรนาไปปรับใช้ในพื้นท่ีของตนเอง โครงการพัฒนาพื้นท่ีตามแนวพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโดยดาเนินการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพื้นท่ี อาทิ โครงการพัฒนาพ้ืนที่ของมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านบางขอม ท่ีตาบลดงละคร อาเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้พัฒนาพื้นท่ีเป็นแปลงผลิตพันธุ์ข้าวและพืชหลังนา เพอื่ บรกิ ารและให้ความรู้แก่เกษตรกร ผืนดิน 13 ไร่ ท่ีบ้านปากน้าประแสร์ ตาบลคลองปูน อาเภอแกลง จังหวัดระยอง จัดทาเป็นโครงการพัฒนาสวนไมผ้ ลแบบก้าวหนา้ พืชสวนเหล่าน้ี ได้แก่ มังคุด ทุเรียน และเงาะ เป็นตน้ โดยใช้ปุ๋ยชวี ภาพ เพ่ือเป็นตัวอยา่ งแก่เกษตรกรในบริเวณภาคตะวันออก ไดม้ ีโอกาสเขา้ มาศกึ ษาหาความรู้และนาไปปรบั ใช้ในพ้ืนที่ โครงการสง่ เสรมิ การลดละเลกิ การใชส้ ารเคมีในการทานา เปน็ โครงการทีด่ าเนินงานในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนาในเขตพนื้ ท่ี ๕ จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ลพบรุ ี สพุ รรณบรุ ี สมทุ รสาคร และสระบุรี เพื่อทาเป็นตัวอยา่ งให้แกเ่ กษตรกรไดเ้ หน็ จากสภาพจรงิ โครงการพัฒนาท่ีดินของมูลนิธิชัยพัฒนาตาบลท่าไข่ อาเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นการศึกษาทดลองวิจัยการเลี้ยงกุลาดาแบบระบบปิด ควบคู่ไปกับการทาการเกษตร เพื่อศึกษาหาพันธุ์พืชท่ีเหมาะสมกับสภาพน้ากร่อย ซึ่งเป็นรูปแบบของการเล้ียงกุ้งและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ ก่อให้ เกิดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ส่วนที่ดินบ้านเกาะกา ตาบลท่าเรือ อาเภอปากพลี ในอนาคตอันใกล้น้ีจะได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาธรรมชาติ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพ้ืนที่และการดาเนินชีวิตของราษฎร [7]
153.1) ตัวอยา่ งโครงการดา้ นการเกษตรอย่างผสมผสาน 1. โครงการศกึ ษาและพัฒนาการปลูกชานา้ มันของมูลนธิ ชิ ัยพฒั นา รูปท่ี 7 ศูนย์วจิ ัยและพฒั นาการปลูกชานา้ มนั ของมูลนธิ ิชัยพัฒนา (ทม่ี า: http://www.chiangraifocus.com/เทย่ี วเชยี งราย/96/ศูนยว์ จิ ยั และพัฒนาการปลกู ชานา้ มันของมลู นธิ ชิ ยั พัฒนา )ความเป็นมา แนวทางการให้ “คนอยู่ร่วมกับป่า” เป็นหน่ึงในพระราชดาริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเน้นย้า การเพ่ิมพื้นที่ป่าโดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับราษฎรท่ีครอบครองพื้นท่ีป่าทากิน คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ เป็นวิธีการปฏิบัติที่พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า ท้ังสองส่ิงสามารถพัฒนาควบคู่กันได้ ในส่วนของมูลนธิ ชิ ยั พัฒนา ได้นอ้ มนาแนวพระราชดาริดังกล่าวไปปฏิบตั ิ โดยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดาริให้สานักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ดาเนินการศึกษา และดาเนินการปลูกชาน้ามันสายพันธ์ุ Camellia oleifera จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพ่ือผลิตน้ามันคุณภาพสูงสาหรับการบริโภคและเหนอื สงิ่ อื่นใด คือการอนรุ ักษฟ์ น้ื ฟปู า่ พ้ืนท่ีในภาคเหนือ ซ่งึ เปน็ เสมอื นแหล่งตน้ นา้ ทีส่ าคัญของประเทศ โครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ามันของมูลนิธิชัยพัฒนา จึงเกิดข้ึน ณ บ้านปางมะหันและบ้านปูนะ อาเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยดาเนินการควบคู่กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง จากน้ันทรงมีพระราชดาริเพิ่มเติมให้ศึกษาพืชน้ามันอื่นๆ ด้วย และได้พระราชทานพระราชานุมัติแต่งตั้ง
16หม่อมราชวงศ์ ดิศนดั ดา ดศิ กลุ ให้เปน็ ผู้อานวยการโครงการศึกษาและพฒั นาการปลูกชาน้ามัน และพชื น้ามันอืน่ ๆ ของมูลนิธชิ ัยพฒั นาประโยชนท์ ่ไี ด้รับจากโครงการชานา้ มนั 1) การปลูกชาน้ามันแปลงน้ีเป็นแปลงท่ีใกล้หมู่บ้านสวนป่าท่ีมีชาวบ้านที่ยากจน ทาให้ชาวบ้านมี รายได้ในพ้ืนที่ออกไปรับจ้างภายนอก และเป็นแหล่งท่ีชาวบ้านจะมีส่วนร่วมกับโครงการ เป็นระยะเวลานาน นอกจากน้ียังมีการส่งเสริมการเกษตรด้านอ่ืนๆ เช่นการจัดตั้งธนาคารเป็ด และธนาคารหมู เปน็ ตน้ 2) เปน็ การลดการเกิดไฟไหมป้ ่าซ้าซากในพ้ืนทโ่ี ครงการ 3) เปน็ การปลกู ปา่ เศรษฐกจิ แบบผสมผสาน ร่วมกับไม้ป่าเดิมท่คี งเหลอื จากไฟไหมค้ รั้งทีผ่ า่ นมาทา ให้เกิดรายไดใ้ นพื้นท่แี ละชาวบ้านมีรายได้และความเปน็ อยู่ทีด่ ีข้ึน 2. โครงการศนู ยพ์ ัฒนาและบรกิ ารกสิกรรมบ้านโพนสิม แขวงสะหวนั นะเขต สาธารณรัฐ ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ดร.ทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ได้มหี นังสือกราบบังคมทูลสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพื่อขอพระราชทานโครงการความร่วมมือใ นการสร้างศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรที่แขวงสะหวันนะเขต ในลักษณะศูนย์ศึกษาการพัฒนาอีกแห่งหน่ึง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นสัญลักษณ์แห่งไมตรีจิตสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงไดพ้ ระราชทานพระราชดาริให้สานกั งานมลู นิธิชัยพัฒนาดาเนนิ การโครงการความร่วมมอื ตามที่สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาวรอ้ งขอวตั ถุประสงค์ 1) เพ่ือให้เป็นศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรแขนงต่างๆให้กับเกษตรกร และ ประชาชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและผทู้ ่ีสนใจ 2) เพื่อให้ประชาชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้มีคุณภาพชีวิต และมีผลผลิตทาง การเกษตรเพิ่มมากขึ้น รวมทัง้ มีทางเลือกในกิจกรรมทางการเกษตรท่ีหลากหลายกว่าเดมิ 3) เพื่อเป็นการเสรมิ สร้างความสมั พันธ์ระหวา่ งประเทศ
172.4. ด้านการพัฒนาสงั คม วัดพระราม 9 วัดแห่งแนวพระราชดาริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นแบบอยา่ งในการก่อสรา้ งวดั ท่มี ีขนาดเล็ก เนน้ ความประหยดั เรียบงา่ ย เป็นพุทธสถานในการประกอบศาสนกิจเพื่อสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจและศรัทธาของประชาชน ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ด้านสังคมและจริยธรรมแก่เยาวชนและประชาชนในชุมชน เพื่อขัดเกลาให้มีจิตสานึกที่ดีต่อสังคมเน้นการมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมท่ีก่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมในลักษณะ บ-ว-ร คือ บ้าน วัด และโรงเรียน หรือหน่วยราชการ ซึ่งเป็นจุดเด่นของสังคมไทยในอดีตมาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ทาให้เกดิ การพ่งึ พาอาศยั เกือ้ กูลกนั และนาไปสู่การพัฒนาทีย่ ง่ั ยืนในท่สี ดุ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ท่ีดินท่ี แขวงสมเด็จเจ้าพระยาเขตคลองสาน กรุงเทพฯ ท่ีมีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ เป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่สมเด็จพระศรีนคริน ทราบรมราชชนนีเคยประทับเม่ือครั้งทรงพระเยาว์ โดยจัดทาเป็นพิพิธภัณฑสถานที่แสดงถึงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นแหล่งศึกษาที่แสดงถึงความสัมพันธ์กลมกลืนกันของสังคมชุมชนชาวไทย จนี ลาว และมสุ ลมิ ภายใตพ้ ระบรมโพธสิ มภารแหง่ พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยอีกด้วย ในวันนี้ผืนดินแห่งนี้ นอกจากจะเป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีแล้ว ยังเป็นสวนสาธารณะท่ีเป็นศูนย์รวมของชุมชนย่านคลองสานท่ีประชาชนได้เข้ามา ร่วมทากิจกรรมสัมพนั ธ์ สร้างความรักใคร่สามัคคีระหวา่ งกนั ท่ามกลางกระแสความเปลยี่ นแปลงท่เี กดิ ขึ้นในสังคม2.4.1. ตวั อยา่ งโครงการด้านการพฒั นาสังคม 1) โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีของมูลนิธิชัยพัฒนาชุมชนบ้านโรงวัว จังหวัดเชียงใหม่ แต่เดิมผืนดินน้ีมูลนธิ ชิ ยั พัฒนาได้จัดสรรท่ดี ินทากนิ ให้ราษฎร เขา้ มาอยู่อาศยั และทาสวนผลไม้ เชน่ ลาไย ในระยะแรกเน้นให้ราษฎรสามารถดารงชีวิตได้อย่างพออยู่พอกิน เมอ่ื ระยะเวลาผ่านไปราษฎรกลุ่มน้ี มวี ิถชี ีวติ ทีด่ ีขนึ้ เป็นชุนชนที่มคี วามเข้มแขง็ จนสามารถรวมตวั กนั จดั ตงั้ กลุม่ ในรปู ของสหกรณ์ 2) โครงการพัฒนาพื้นที่ของมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านบึงแวง ผืนดินท่ีบ้านบึงแวง ตาบลศรีภิรมย์อาเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก จัดทาเป็นโครงการพัฒนาพื้นท่ีของมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านบึงแวง เป็นพื้นท่ีที่ส่งเสริมการทานาให้แก่ราษฎรในโครงการ โดยลดการใช้สารเคมี ซึ่งในปัจจุบันราษฎรกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตทด่ี ีข้นึ มคี วามเขม้ แข็งในการดารงชวี ติ อีกชมุ ชนหนึ่ง
18 3) สหกรณ์โคนม จากัด จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เดิมสหกรณ์แห่งน้ี ได้ขอรับการสนับสนุนจากมูลนิธิชัยพัฒนาในด้านการประกอบกิจการโคนม จัดตั้งกลุ่มเล้ียงวัวและโรงนม ซึ่งในปัจจุบันสหกรณ์นี้ประสบความสาเรจ็ อยา่ งดีย่งิ มกี ารรวมกลุ่มทเ่ี ขม้ แขง็ และสามารถพฒั นาไปถึงข้นั ผลิตอาหารสัตวค์ รบวงจร โครงการทั้ง 3 โครงการนี้ นับเป็นตัวอย่างท่ีดีของการพัฒนาจากวิถีชีวิต “พออยู่พอกิน” ไปสู่การพ่ึงตนเอง ของตนเองไดใ้ นทีส่ ดุ [8]2.5 ดา้ นพลงั งาน มูลนิธิชัยพัฒนาได้สนองพระราชดาริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการจัดสร้างโรงงานต้นแบบในการหบี ปาลม์ น้ามันขนาดเล็กตามแนวพระราชดาริ และ โรงงานผลติ ไบโอดีเซลครบวงจร โครงการชัยพฒั นาแมฟ่ ้าหลวง ตาบลหนองพลบั อาเภอหัวหนิ จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ ซึง่ เปน็ การพัฒนาต่อเน่ืองมาจากการดาเนินงานท่ีจังหวัดกระบ่ี และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเน่ืองมาจากพระราชดาริจงั หวัดนราธวิ าส รูปท่ี 8 โครงการวิจัยพัฒนาและสาธติ ไบโอดีเซลชุมชน (ท่มี า: http://www.vcharkarn.com/vcafe/138086 )
19 นอกจากน้ีมูลนิธิฯ ยังได้จัดทาโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านไบโอดีเซลเพ่ือการแข่งขันได้โครงการวิจัยการทดสอบใช้น้ามันปาล์มแบบต่างๆ ผสมกับน้ามันดีเซลในเคร่ืองยนต์ดีเซลสาหรับการเกษตรและไบโอดีเซลผสมน้ามันดีเซลในเคร่ืองยนต์ดีเซลสมัยใหม่สาหรับยานพาหนะ โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมปาล์มน้ามัน และโครงการศึกษาทดลองการปลูกปาล์มน้ามันพันธ์ุดีในทดี่ ินของมูลนธิ ิ ชัยพัฒนาทั่วประเทศ เพอื่ ศึกษาหาสายพันธ์ุทม่ี ีความเหมาะสมกับสภาพพ้นื ท่ี [9]2.6 ด้านอนื่ ๆ การฟ้ืนฟูผู้ประสบภัย ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ ที่ทาให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนท้ังชีวิตและทรพั ย์สิน มูลนธิ ิชัยพัฒนาจะเขา้ ไปใหก้ ารช่วยเหลืออยา่ งเปน็ ระบบเป็นขัน้ ตอน ระยะแรกเน้นการช่วยเหลือในด้านโครงสร้างพ้ืนฐานที่จาเป็นต่อการดาเนินชีวิต เช่น ที่อยู่อาศัย น้า ไฟฟ้า เป็นต้น จากน้ันจะดาเนินการในเร่ืองของการฟ้ืนฟูอาชีพ เพ่ือให้ราษฎรสามารถกลับมาดาเนินชวี ิตตามปกติให้เรว็ ข้ึน รวมไปถึงการพัฒนาและฟ้นื ฟูสภาพแวดล้อมอยา่ งครบวงจร ดังเช่นกรณี หมู่บา้ นชยั พฒั นา-กาชาดไทย อาเภอคุระบุรี จงั หวดั พงั งา ซงึ่ ราษฎรในเขตอาเภอคุระบุรีประสบภัยพิบัติคลื่นยักษ์ มูลนิธิชัยพัฒนาได้ดาเนินงานตามพระราชกระแสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เข้าไปให้การช่วยเหลือในการจัดต้ังหมู่บ้านขึ้นใหม่ โดยการสร้างบ้านพัก จัดทาระบบสาธารณูปโภค น้า ไฟฟ้า ระบบบาบัดน้าเสียและกาจัดขยะ จากนั้นจึงได้ฟ้ืนฟูอาชีพประมง ซึ่งเป็นอาชีพหลักของราษฎร และมูลนธิ ิชยั พัฒนาได้สนับสนุนให้มีการจัดทา เรอื ประมงหวั โทงไฟเบอร์กลาส \"ชยั พฒั นา-กาชาดไทย\" โดยใช้ไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุสร้างเรือแทนไม้ เพ่ือทดแทนเรือประมงเดิมที่สูญหายแจกจ่ายให้แก่ชาวประมง เน้นให้มีการจัดต้ังกลุ่มเรือประมงและกลุ่มอาชีพ เพ่ือให้ราษฎรมีรายได้พอเพียงต่อการเลี้ยงชีพ ขณะเดียวกันมูลนิธิฯได้พัฒนาและปรับปรุงด้านสาธารณสุขและการศึกษาด้วย โดยการปรับปรุงสถานีอนามัยบ้านทุ่งรัก และโรงพยาบาลคุระบุรี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงโรงเรียนบ้านทุ่งรัก และโรงเรียนคุระบุรีพิทยาคม เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพทางการศึกษาให้แก่เยาวชนอกี ด้วย การดาเนินกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิชัยพัฒนาใช้วิธีการตามแนวพระราชดาริ ท่ีมีลักษณะประหยัดเรียบงา่ ย สอดคล้องกบั สภาพแวดล้อม และคานึงถึงวิถีการดาเนินชวี ิตของราษฎรเป็นสาคัญ เพอื่ ให้การพัฒนาน้ันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรอย่างแท้จริง ท้ังในด้านความมั่นคงในการประกอบอาชีพและความสุขในการดาเนนิ ชวี ิตอย่างพอเพียงและยั่งยืน [10]
20 บทท3่ี วธิ กี ารดาเนนิ งานสัปดาห์ วัน เดือน ปี การดาเนนิ งาน 1 25 กันยายน 2560 - 1 ตลุ าคม 2560 ประชุมเลอื กหัวขอ้ เร่ือง 2 2 ตลุ าคม 2560 - 8 ตลุ าคม 2560 แบ่งหนา้ ทก่ี นั ภายในกลมุ่ 3 9 ตุลาคม 2560 – 15 ตุลาคม 2560 รวบรวมข้อมลู และวิเคราะห์ข้อมลู 4 รายงานความคบื หน้า 5 18 ตลุ าคม 2560 6 23 ตลุ าคม 2560 – 29 ตลุ าคม 2560 จัดทารูปเลม่ รายงาน 7 30 ตลุ าคม 2560 – 5 พฤศจิกายน 2560 แกไ้ ขข้อมูล 8 6 พฤศจิกายน 2560 - 13 พฤศจิกายน 2560 จดั ทารปู แบบการนาเสนอ 29 พฤศจกิ ายน 2560 นาเสนอ ตารางที่1 วธิ กี ารดาเนินงาน
21 บทท่ี4ผลการศกึ ษาค้นคว้า ผลการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมลู นิธิชัยพัฒนา สามารถวเิ คราะห์ไดว้ ่า มูลนธิ ิชัยพฒั นา เปน็ มูลนธิ ทิ มี่ ีความสาคญั มากในการทจ่ี ะสนบั สนุนชว่ ยเหลือประชาชน ให้ใช้ชวี ติ อยู่อย่างรม่ เย็นเปน็ สุข และอยู่ดกี ินดี โดยช่วยใหก้ ระบวนการพัฒนา เกิดความสมบรู ณ์ข้ึน ท้ังทางดา้ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งย่งั ยืน ดา้ นการปรบั ปรงุ คุณภาพสงิ่ แวดล้อม ดา้ นการพฒั นาการเกษตร ด้านการพฒั นาสงั คม ด้านพลังงาน และด้านอืน่ ๆโดยเฉพาะในกรณีที่โครงการของรฐั ถูกจากดั ด้วยเง่ือนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณทีร่ ะบบราชการไม่สามารถดาเนินการไดอ้ ย่างทันท่วงที จนเปน็ เหตใุ ห้การแก้ไขปญั หาไมส่ อดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ท่จี าเป็นเรง่ ด่วนท่ีจะต้องกระทาโดยเรว็ ดงั นัน้ มูลนิธชิ ัยพัฒนาจะเข้ามาชว่ ยเหลือตามความเหมาะสมเพอ่ื ให้โครงการนนั้ ๆ ดาเนินการไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มากขึน้ และโครงการให้มปี ระสทิ ธภิ าพสูงสุด ส่งผลให้ประชาชนได้รบั ประโยชนอ์ ย่างแทจ้ รงิ และรวดเร็วทนั เหตุการณ์
22 บทท่ี 5 สรุปผลการดาเนินงาน จากการศึกษามูลนธิ ิชยั พัฒนา คณะผูจ้ ัดทาโครงงาน สามารถสรุปผลการดาเนินงานได้ดงั น้ีสรปุ ผลการดาเนนิ งาน ประเทศไทยนั้นยังคงมีปัญหาหลายๆดา้ นทย่ี งั คงต้องการแก้ไขและพฒั นา ไม่ว่าจะเปน็ ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติอย่างยง่ั ยืน ดา้ นการปรับปรงุ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ด้านการพฒั นาการเกษตร ดา้ นการพัฒนาสังคม ดา้ นพลงั งาน และด้านอนื่ ๆ แตโ่ ครงการของทางรฐั บาล ในหลายๆโครงการจะถูกจากดั ดว้ ยเง่ือนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณ ทาให้เกิดความลา่ ช้าในการดาเนนิ การ ทาให้ชว่ ยเหลอืประชาชนไดไ้ มท่ นั ทว่ งที ซ่งึ ทาให้พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช ได้ทรงเลง็ เหน็ ถงึ ปัญหาดงั กลา่ ว จึงได้พระราชทานพระราชดารใิ หจ้ ัดต้งั มลู นิธิชยั พฒั นา ขึน้ มา การดาเนนิ งานของมูลนิธชิ ยั พฒั นาเปน็ ไปตามแนวพระราชดาริของพระองค์ และเปน็ มลู นธิ ิที่เนน้ การสนบั สนุนโครงการตา่ งๆให้สมบูรณ์ และดาเนินการได้รวดเรว็ ยง่ิ ขึ้น เพ่ือส่งเสริมการพฒั นาสงเคราะห์และชว่ ยเหลือประชาชนในด้านตา่ งๆเศรษฐกจิและสังคมใหม้ คี ุณภาพ ชีวติ ท่ีดีข้ึน และใหส้ ามารถช่วยตวั เองและพ่งึ ตนเองได้ประโยชนท์ ่ีได้รับ 1. ไดท้ ราบถึงปัญหาในด้านตา่ งๆของประเทศไทย 2. ไดร้ ับความรใู้ นการแก้ไขปญั หาในด้านตา่ งๆ ตามแนวพระราชดาริของ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช 3. ไดต้ ระหนักถงึ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช
23เอกสารอ้างองิ[1] ตราสัญลักษณ์ของมูลนธิ ิชัยพัฒนา. สืบคน้ เม่อื 29 ตุลาคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/symbols-of-the-foundation.html[2] ความเปน็ มาของมูลนิธิชัยพัฒนา. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/about-us.html[3] วัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายของมลู นธิ ิชัยพัฒนา. สบื ค้นเม่อื 29 ตุลาคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/objective.html[4] แนวทางการดาเนินงานของมลู นิธิชัยพัฒนา. สืบคน้ เมื่อ 29 ตุลาคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/operational-guidance.html[5] กจิ กรรมหลกั ของมูลนธิ ิชัยพฒั นา ดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยนื . สืบค้น เม่อื 29 ตลุ าคม 2560 จาก,http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/natural-resources.html[6] กิจกรรมหลกั ของมูลนิธชิ ัยพัฒนา ดา้ นการปรบั ปรงุ คุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม. สืบคน้ เม่ือ 29 ตุลาคม 2560 จาก,http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/environmental-improvement.html[7] กจิ กรรมหลักของมูลนิธิชัยพัฒนา ด้านการพัฒนาการเกษตร. สบื ค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2560 จาก,http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/agricultural-development.html
24[8] กิจกรรมหลกั ของมูลนิธชิ ัยพัฒนาด้านการพฒั นาสังคม. สืบคน้ เมอ่ื 29 ตลุ าคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/social-development.html[9] กจิ กรรมหลักของมลู นธิ ชิ ัยพัฒนาดา้ นพลงั งาน. สืบคน้ เมือ่ 29 ตลุ าคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/social-development/30-the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/52-energy.html[10] กิจกรรมหลักของมูลนธิ ิชัยพัฒนาดา้ นอื่นๆ. สบื ค้นเมื่อ 29 ตลุ าคม 2560 จาก, http://www.chaipat.or.th/about-the-chai-pattana-foundation/the-primary-activities-of-the-chai-pattana-foundation/other.html
25 ประวตั ผิ ู้จัดทาชื่อ-สกุล : นายสริ วิชญ์ ดรุณถนอมเชื้อชาติ : ไทย สญั ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดอื นปเี กิด : 1 กรกฎาคม พ.ศ.2542 อาย:ุ 18 ปีท่อี ย่:ู 89 ซ.เรวดี 17 ต.ตลาดขวัญ อ.เมอื งนนทบุรี จ.นนทบุรีEmail : [email protected]ประวัตกิ ารศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเซนตค์ าเบรียลปัจจุบันกาลงั ศึกษาระดับชัน้ อุดมศึกษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรช่ือ-สกลุ : นางสาวพิชญ์สนิ ี จริยสุธรรมกลุเช้อื ชาติ : ไทย สญั ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวันเดือนปีเกิด : 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 อายุ : 19 ปีทีอ่ ยู่ : 9/6 หมู่ 5 ต.ท่าศาลา อ.เมอื ง จ.ลพบุรี 15000Email : [email protected]ประวตั ิการศึกษา : จบการศึกษาในระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรยี นวนิ ติ ศึกษาในพระราชปู ถมั ภ์ปจั จบุ นั กาลงั ศึกษาระดบั ช้ันอุดมศกึ ษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
26ช่อื -สกลุ : นางสาว พชิ ญา คงรักษาเช้ือชาติ : ไทย สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พุทธวันเดือนปเี กิด : 6 ตุลาคม พ.ศ.2541อาย:ุ 19 ปีที่อย่:ู 93/47 ต.ธานี อ.เมือง ถ.ประเวศนคร จ.สุโขทัย 64000Email : [email protected]ประวตั กิ ารศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรยี น อุดมดรุณีปจั จบุ ันกาลงั ศึกษาระดับชน้ั อุดมศึกษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรช่อื -สกุล : นายภมู พิ ัฒน์ เหล่ยี มดีเชอ้ื ชาติ : ไทย สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดือนปีเกดิ : 5 กนั ยายน พ.ศ.2540อายุ: 20 ปีทอี่ ย:ู่ 275/97 ต.สลักได อ.เมือง จ.สรุ ินทร์ 32000Email : [email protected]ประวตั ิการศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลายจากโรงเรียนสรุ วทิ ยาคารปัจจุบนั กาลงั ศกึ ษาระดับชนั้ อุดมศึกษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
27ช่อื -สกลุ : นางสาววลิ าสินี ชาญณรงค์เชอื้ ชาติ : ไทย สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดอื นปีเกดิ : 15 มกราคม 2542อายุ: 18 ปีที่อยู่ : 117/11 ซ.เจรญิ ผล9 ถ.บึงสไี ฟ อ.เมอื ง ต.ในเมือง จ.พิจติ ร 66000Email : [email protected]ประวัตกิ ารศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรยี นพิจติ รพทิ ยาคมปจั จุบนั กาลังศกึ ษาระดบั ชน้ั อุดมศึกษาที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวรชอ่ื -สกุล : นางสาวรมิดา หงษโ์ ม่เช้ือชาติ : ไทย สญั ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดือนปเี กิด : 15 กันยายน 2541อายุ: 19 ปีทอ่ี ยู่ : 120 หมู่ 7 ต.ท่าแดง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบรู ณ์ 67140Email : [email protected]ประวัติการศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนจิตพมิ ลปจั จุบนั กาลงั ศึกษาระดับช้นั อุดมศึกษาท่ีคณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
28ชอื่ -สกุล : นางสาววรศิ รา สทุ ธวิรสี รรค์เชอ้ื ชาติ : ไทย สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดือนปเี กดิ : 19 กนั ยายน 2541อายุ: 19 ปีทอี่ ยู่ : 156 ถ.บารงุ ราษฎร์ ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.กาแพงเพชร 62000Email : [email protected]ประวัติการศึกษา : จบการศกึ ษาในระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลายจากโรงเรยี นวชั รวทิ ยาปัจจุบันกาลงั ศกึ ษาระดับชั้นอุดมศกึ ษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวรช่ือ-สกลุ : นางสาว อรณิ ย์ลภสั คงกระพนั ธ์เชื้อชาติ : ไทย สญั ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดอื นปเี กิด : 22 ตลุ าคม 2541อายุ : 19 ปีทอี่ ยู่ : 83 หมู่ 5 ตาบล วงั ลึก อาเภอ ศรสี าโรง จงั หวดั สุโขทยัEmail : [email protected]ประวัติการศึกษา :จบการศกึ ษาในช้นั มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอดุ มดรุณีปจั จบุ นั กาลังศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษาที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
29ชอื่ -สกลุ : นางสาว พทั ธ์ธีรา อศั วสมั ฤทธ์ิเชอื้ ชาติ : ไทย สญั ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธวนั เดอื นปเี กิด : 27 มีนาคม 2542อายุ : 18 ปีท่ีอยู่ : 97/87 หมู่2 หมบู่ ้านเพชรชมพู ต.สะเดยี ง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ 67000Email : [email protected]ประวตั กิ ารศึกษา :จบการศึกษาในชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเซนตโ์ ยเซฟศรเี พชรบรู ณ์ปจั จบุ นั กาลังศึกษาระดับชน้ั อุดมศกึ ษาที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรชือ่ -สกลุ : นายรวิพล เครือเทพเชอ้ื ชาติ: ไทย สัญชาติ:ไทย ศาสนา:พุทธวนั เดอื นปีเกิด: 19 พฤศจิกายน 2541 อายุ : 19ทีอ่ ย่:ู 41/1 ตาบลไมง้ าม อาเภอเมืองตาก จังหวัดตากEmail: [email protected]ประวัตกิ ารศึกษา: จบการศึกษาชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรยี นจฬุ าภรณราชวทิ ยาลยั พษิ ณโุ ลก(โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภมู ภิ าค)ปจั จุบนั กาลังศึกษาระดบั ชนั้ อุดมศกึ ษาที่คณะทนั ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: