เอกสารวชิ าการ ภาษีอากร เขี ยนโดย อเลสซานดรา มอนเตซ ภาพประกอบโดย ไดแอนนา วิ กเกอร แมน
ใครมีหนา้ ทีเสียภาษเี งินไดบ้ คุ คลธรรมดา ? ผมู้ หี นา้ ทีเสียภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา ไดแ้ ก่ ผทู้ ีมีเงินไดเ้ กิดขึนระหวา่ งปีทีผา่ นมาโดยมสี ถานะ อยา่ งหนึงอยา่ งใด ดงั นี 1) บุคคลธรรมดา 2) หา้ งหุ้นส่วนสามญั หรือคณะบุคคลทีมิใช่นิติบุคคล 3) ผถู้ ึงแก่ความตายระหวา่ งปี ภาษี 4) กองมรดกทียงั ไมไ่ ดแ้ บง่ 5) วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมวสิ าหกิจชุมชน เฉพาะทีเป็นห้าง หุ้นส่วนสามญั หรือคณะบคุ คลทีมิใช่นิติบุคคล เมือมีเงนิ ไดเ้ กิดขึนแลว้ ผมู้ ีหนา้ ทีเสียภาษจี ะตอ้ งทาํ อะไรบา้ ง? 1. ขอมีเลข และบตั รประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษี ภายใน 60 วนั นบั แตว่ นั ทีมีเงินไดเ้ กิดขึน กรณีเป็นผู้ มีเงินได้ ทีไม่มีเลขประจาํ ตวั ประชาชน ไดแ้ ก่ เป็นคนต่างดา้ ว หรือกองมรดกทียงั ไม่ไดแ้ บง่ เว้นแต่ ผมู้ เี งินได้ ทีมีเลขประจาํ ตวั ประชาชน สามารถใช้ เลขประจาํ ตวั ประชาชน แทนเลข ประจาํ ตวั ผ้เู สียภาษีอากรได้ โดยไม่ตอ้ งขอมีเลขประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษีอากรอีก ผมู้ ีเงินไดท้ ีมีภูมิลาํ เนา อยู่ในกรุงเทพมหานคร อาจยนื คาํ ร้อง ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนที กรุงเทพมหานคร ทงั 30 แห่ง หรือ สาํ นกั สรรพากรพืนที สาขา(อาํ เภอ)ทุกแห่ง สาํ หรับในต่างจงั หวัด ยนื คาํ ขอไดท้ ีสาํ นกั งานสรรพากร พืนที (จงั หวดั ) และสาํ นกั งาน สรรพากร พืนทีสาขา (อาํ เภอ) ทกุ แห่ง แลว้ แต่กรณี 2. ยนื แบบแสดงรายการ ปกติปี ละ 1 ครัง เงินได้ ของปี ใด ก็ยนื แบบฯ ภายใน วนั ที 31 มีนาคม ของปี ถดั ไป เวน้ แต่ เงินได้ บางลกั ษณะ เช่น การใหเ้ ช่า ทรัพยส์ ิน เงินไดจ้ าก วิชาชีพอสิ ระ เงินไดจ้ าก การรับเหมา เงินได ◌้จากธุรกิจ การพาณิชย์ เป็นตน้ จะตอ้ ง ยืน แบบฯ ตอนกลางปี สาํ หรับเงินได้ ทีเกิดขึนใน 6 เดือนแรก ภายใน เดือนกนั ยายน ของทุกปี
เงินไดอ้ ะไรบา้ งทีตอ้ งเสียภาษี? ตามกฎหมาย เงินไดท้ ีตอ้ งเสียภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา เรียกวา่ \"เงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน\" หมายถงึ เงิน ไดข้ องบุคคลใดๆ หรือหน่วยภาษใี ดขา้ งตน้ ทีเกิดขึนระหวา่ งวนั ที 1 มกราคม ถึง 31 ธนั วาคม ของปี ใดๆ หรือเงินได้ ทีเกิดขึนในปี ภาษี ไดแ้ ก่ 1. เงิน 2. ทรัพยส์ ินซึงอาจคิดคาํ นวณไดเ้ ป็นเงิน ทีไดร้ ับ ทีไดร้ ับจริง(เกณฑเ์ งิน จริง สด) 3. ประโยชนซ์ ึงอาจคิดคาํ นวณไดเ้ ป็นเงิน 4. เงินค่าภาษอี ากรทีผจู้ ่ายเงินหรือผอู้ ืนออกแทนให้ 5. เครดิตภาษตี ามทีกฎหมายกาํ หนด
ผทู้ ีมีเงนิ ไดเ้ กิดขึนในระหวา่ งปี ภาษีมหี นา้ ทีตอ้ งยนื แบบฯ เสียภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดาทุกกรณี หรือไม?่ ผทู้ ีมีเงินไดเ้ กิดขึนระหวา่ งปีภาษจี ะมหี นา้ ทีตอ้ งยนื แบบฯ กต็ ่อเมือมีเงินไดถ้ ึงเกณฑข์ นั ตาํ ตามที กฎหมายกาํ หนด ไม่ว่าเมือคาํ นวณภาษแี ลว้ จะมีภาษตี อ้ งชาํ ระเพิมเติมหรือไม่ก็ตาม ดงั นี เกณฑเ์ งินไดพ้ งึ ประเมินขนั ตาํ ทีผมู้ เี งินไดต้ อ้ งยนื แบบแสดงรายการภาษี (1) บุคคลธรรมดาและผถู้ ึงแก่ความตาย มีเงนิ ไดพ้ ึงประเมิน ดงั นี ประเภทเงนิ ได้ โสด สมรส เงนิ เดือนเพียงอยา่ งเดียว 120,000 220,000 เงินไดป้ ระเภทอืน 60,000 120,000 (2) ห้างหุน้ ส่วนสามญั ทีมิใช่นิติบคุ คล หรือคณะบุคคลทีไม่ใช่นิติบคุ คล มเี งินไดพ้ งึ ประเมิน เกิน 60,000 บาท (3) กองมรดกทียงั ไม่ไดแ้ บง่ มีเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ เกิน 60,000 บาท เงนิ ไดอ้ นั เป็นเหตใุ หต้ อ้ งนาํ ไปรวมคาํ นวณภาษีมาจากแหลง่ ใดบา้ ง? แหล่งทีมาของเงนิ ได้ ซึงแบ่งเป็นเงนิ ไดจ้ ากแหล่งในประเทศและนอกประเทศ เงินไดจ้ ากแหล่ง ต่างๆ นีจะตอ้ งนาํ ไปรวมคาํ นวณภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาหรือไม่ ใหพ้ จิ ารณา ดงั นี 1. เงินได้เกดิ จากแหล่งในประเทศ หมายถึง เงินไดท้ ีเกิดขึน หรือเป็นผลสืบเนืองจากมี 1.1 หนา้ ทีงานทีทาํ ในประเทศไทย หรือ 1.2 กิจการทีทาํ ในประเทศไทย หรือ 1.3 กิจการของนายจา้ งในประเทศไทย หรือ 1.4 ทรัพยส์ ินทีอยใู่ นประเทศไทย (ดอกเบีย เงินปันผล คา่ เช่า ฯลฯ
* เงือนไข ผมู้ เี งินไดเ้ กิดจากแหลง่ ในประเทศนีมีหนา้ ทีตอ้ งเสียภาษีเงินไดต้ ามทีประมวลรษั ฏากร กาํ หนดไวเ้ สมอเวน้ แต่จะมขี อ้ ยกเวน้ ตามกฎหมาย ทงั นี ไมว่ า่ เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ในปี ภาษที ีลว่ ง มาแลว้ นนั จะจ่ายในหรือนอกประเทศ และไม่วา่ ผมู้ ีเงินไดน้ ันจะเป็นผูอ้ ยใู่ นประเทศไทยหรือไม่ก็ ตาม) 2. เงินได้เกดิ จากแหล่งนอกประเทศไทย หมายถงึ เงินไดท้ ีเกิดขึนหรือเป็นผลสืบเนืองจากมี 2.1 หนา้ ทีงานทีทาํ ในตา่ งประเทศ หรือ 2.2 กิจการทีทาํ ในตา่ งประเทศ หรือ 2.3 ทรัพยส์ ินทีอยใู่ นตา่ งประเทศ * เงือนไข ผมู้ ีเงินไดเ้ กิดจากแหลง่ นอกประเทศในปี ภาษีทีล่วงมาแลว้ จะตอ้ งเสียภาษีเงนิ ได้ ใน ประเทศไทยก็ต่อเมือเขา้ องคป์ ระกอบทงั 2 ประการ ดงั ต่อไปนี (1) ผมู้ ีเงินไดเ้ ป็น ผูอ้ ยใู่ นประเทศไทย ในปี ภาษนี นั ชวั ระยะเวลาหนึงหรือหลายระยะเวลา รวม ทงั หมดถึง 180 วนั และ (2) ผมู้ เี งินได้ นาํ เงินไดน้ นั เขา้ มาในประเทศไทยในปี ภาษนี นั ดว้ ย ในการเสียภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดาบางกรณี ถา้ เกียวขอ้ งกบั บคุ คลของบางประเทศทีมี อนุสญั ญา ภาษีซอ้ น* หรือความตกลงเพือป้องกนั การเก็บภาษีซาํ ซอ้ นกบั ประเทศไทยจาํ เป็นตอ้ งพจิ ารณาถึง ความ ตกลงหรืออนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการเวน้ การเกบ็ ภาษซี อ้ นระหวา่ งประเทศไทยไดท้ าํ ความตกลงไว้ ดว้ ย ประเภทเงนิ รายไดท้ ีตอ้ งเสียภาษี เนืองจากผมู้ ีเงินไดป้ ระกอบอาชีพแตกตา่ งกนั มีความยากงา่ ยหรือตน้ ทนุ ทีแตกต่างกนั เพือความ เป็นธรรม ในกฎหมายจงึ ไดแ้ บง่ ลกั ษณะเงินได(้ พึงประเมิน) ออกเป็นกลุ่มๆ ตามความเหมาะสมเพือ กาํ หนด วธิ ีคาํ นวณภาษีให้เกิดความเป็นธรรมมากทีสุด ดงั นี 1. เงนิ ได้ประเภทที 1 ไดแ้ ก่ เงนิ ไดเ้ นืองจากการจา้ งแรงงาน ไม่ว่าจะเป็น
- เงนิ เดือน ค่าจา้ ง เบียเลียง โบนสั เบียหวดั บาํ เหน็จ บาํ นาญ - เงินค่าเช่าบา้ นทีไดร้ ับจากนายจา้ ง - เงนิ ทีคาํ นวณไดจ้ ากมลู ค่าของการไดอ้ ยบู่ า้ น ซึงนายจา้ งใหอ้ ยโู่ ดยไมเ่ สียค่าเช่า - เงินทีนายจา้ งจ่ายชาํ ระหนีใด ๆ ซึงลกู จา้ งมีหนา้ ทีตอ้ งชาํ ระ - เงนิ ทรัพยส์ ิน หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาทีไดเ้ นืองจากการจา้ งแรงงาน เช่น มลู คา่ ของการไดร้ ับ ประทานอาหาร เป็นตน้ 2. เงินได้ประเภทที 2 ไดแ้ ก่ เงินไดเ้ นืองจากหนา้ ทีหรือตาํ แหน่งงานทีทาํ หรือจากการรบั ทาํ งาน ให้ ไมว่ า่ จะเป็น - คา่ ธรรมเนียม ค่านายหนา้ ค่าส่วนลด - เงนิ อดุ หนุนในงานทีทาํ เบียประชุม บาํ เหน็จ โบนสั - เงนิ ค่าเช่าบา้ นทีไดร้ ับเนืองจากหนา้ ทีหรือตาํ แหน่งงานทีทาํ หรือจากการรับทาํ งานให้ - เงนิ ทีคาํ นวณไดจ้ ากมลู ค่าของการไดอ้ ยบู่ า้ น ทีผจู้ ่ายเงินไดใ้ หอ้ ยโู่ ดยไม่เสียค่าเช่า - เงินทีผจู้ ่ายเงินไดจ้ า่ ยชาํ ระหนีใด ๆ ซึงผูม้ ีเงินไดม้ หี นา้ ทีตอ้ งชาํ ระ - เงนิ ทรัพยส์ ิน หรือประโยชนใ์ ด ๆ บรรดาทีไดเ้ นืองจากหนา้ ทีหรือตาํ แหน่งงานทีทาํ หรือ จากการ รับทาํ งานใหน้ นั ไม่วา่ หนา้ ทีหรือตาํ แหน่งงาน หรืองานทีรับทาํ ใหน้ นั จะเป็นการประจาํ หรือ ชวั คราว 3. เงินได้ประเภทที 3 ไดแ้ ก่ ค่าแห่งกดู๊ วิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิหรือสิทธิอยา่ งอืน เงนิ ปี หรือเงินไดท้ ี มีลกั ษณะ เป็นเงินรายปี อนั ไดม้ าจากพนิ ยั กรรม นิติกรรมอยา่ งอืน หรือคาํ พิพากษาของศาล 4. เงนิ ได้ประเภทที 4 ไดแ้ ก่ ดอกเบีย เงินปันผล เงินส่วนแบง่ กาํ ไร เงินลดทนุ เงินเพมิ ทุน ผลประโยชน์ทีไดจ้ ากการโอนหุน้ ฯลฯ เป็นตน้ (ก) ดอกเบียพนั ธบตั ร ดอกเบียเงินฝาก ดอกเบียหุน้ กู้ ดอกเบียตวั เงนิ ดอกเบียเงินกูย้ มื ไมว่ า่ จะ มี หลกั ประกนั หรือไม่ ดอกเบียเงินกูย้ มื ทีอยใู่ นบงั คบั ตอ้ งถูกหกั ภาษไี ว้ ณ ทีจ่ายตามกฎหมายวา่ ดว้ ย ภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลยี มเฉพาะส่วนทีเหลือจากถูกหกั ภาษีไว้ ณ ทีจา่ ยตามกฎหมายดงั กลา่ ว หรือ ผลต่างระหวา่ งราคาไถถ่ อน กบั ราคาจาํ หน่ายตวั เงนิ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนีทีบริษทั หรือหา้ ง
หุน้ ส่วนนิติบคุ คล หรือนิติบคุ คลอืน เป็นผอู้ อกและจาํ หน่ายครังแรกในราคาตาํ กวา่ ราคาไถ่ถอน รวมทงั เงินไดท้ ีมีลกั ษณะทาํ นองเดียวกนั กบั ดอกเบีย ผลประโยชนห์ รือคา่ ตอบแทนอืน ๆ ทีไดจ้ าก การใหก้ ยู้ ืมหรือจากสิทธิเรียกร้องในหนีทุกชนิดไม่วา่ จะมีหลกั ประกนั หรือไมก่ ็ตาม (ข) เงินปันผล เงินส่วนแบง่ ของกาํ ไร หรือประโยชน์อืนใดทีไดจ้ ากบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติ บคุ คล กองทนุ รวม หรือสถาบนั การเงินทีมีกฎหมายไทยให้จดั ตงั ขึนโดยเฉพาะสาํ หรับใหก้ ยู้ ืมเงิน ฯลฯ (ค) เงินโบนสั ทีจ่ายแก่ผถู้ ือหุน้ หรือผเู้ ป็นหุน้ ส่วนในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล (ง) เงินลดทุนของบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลเฉพาะส่วนทีจา่ ยไมเ่ กินกวา่ กาํ ไรและเงินที กนั ไวร้ วมกนั (จ) เงินเพิมทุนของบริษทั หรือห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลซึงตงั จากกาํ ไรทีไดม้ าหรือรับช่วงกนั ไว้ รวมกนั (ฉ) ผลประโยชน์ทีไดจ้ ากการทีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลควบเขา้ กนั หรือรับช่วงกนั หรือ เลกิ กนั ซึงตีราคาเป็ นเงินไดเ้ กินกวา่ เงนิ ทุน (ช) ผลประโยชน์ทีไดจ้ ากการโอนการเป็นหุน้ ส่วนหรือโอนหุน้ หุน้ กู้ พนั ธบตั ร หรือตวั เงนิ หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี ทีบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบคุ คล หรือนิติบุคคลอืนเป็นผอู้ อก ทงั นี เฉพาะซึงตรี าคา เป็นเงินไดเ้ กินกวา่ ทีลงทนุ เงนิ ไดป้ ระเภทที 4 ในหลาย ๆ กรณี กฎหมายใหส้ ิทธิทีจะเลือกเสียภาษโี ดยวิธีหกั ภาษี ณ ที จา่ ย แทนการนาํ ไปรวมคาํ นวณกบั เงินไดอ้ ืนตามหลกั ทวั ไป ซึงจะทาํ ใหผ้ มู้ ีเงินไดท้ ีตอ้ งเสียภาษตี าม บญั ชีอตั ราภาษี ในอตั ราทีสูงกวา่ อตั ราภาษี หกั ณ ทีจ่าย สามารถประหยดั ภาษีได้ 5. เงินได้ประเภทที 5 เงินไดจ้ ากการใหเ้ ช่าทรัพยส์ ิน เงินหรือประโยชนอ์ ยา่ งอืน ทีไดเ้ นืองจาก - การใหเ้ ช่าทรัพยส์ ิน - การผิดสัญญาเช่าซือทรัพยส์ ิน - การผดิ สัญญาซือขายเงินผอ่ นซึงผูข้ ายไดร้ ับคืนทรัพยส์ ินทีซือขายนนั โดยไม่ตอ้ งคืนเงินหรือ ประโยชน์ทีไดร้ ับไวแ้ ลว้
6. เงินได้ประเภทที 6 ไดแ้ ก่ เงินไดจ้ ากวิชาชีพอสิ ระ คือวชิ ากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบญั ชี ประณีตศิลปกรรม หรือวชิ าชีพอืนซึงจะไดม้ ีพระราชกฤษฎีกา กาํ หนดชนิดไว้ 7. เงินได้ประเภทที 7 ไดแ้ ก่ เงินไดจ้ ากการรับเหมาทีผรู้ บั เหมาตอ้ งลงทนุ ดว้ ยการจดั หาสัมภาระ ในส่วนสาํ คญั นอกจากเครืองมอื 8. เงินได้ประเภทที 8 ไดแ้ ก่ เงินไดจ้ ากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอตุ สาหกรรม การ ขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอืนนอกจากทีระบุไวใ้ นประเภทที 1 ถึงประเภทที 7 แลว้
วธิ ีการคาํ นวณภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาสินปี จะตอ้ งทาํ อยา่ งไร? โดยทวั ไปผูม้ ีเงินไดต้ อ้ งนาํ เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ทุกประเภทของตน ตลอดปี ภาษี (ไมร่ วมเงินไดท้ ี กฎหมายยกเวน้ ภาษี หรือทีไม่ตอ้ งเสียภาษ)ี ไปคาํ นวณภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดาสินปี เพือยนื แบบ แสดงรายการและชาํ ระภาษภี ายในเดือนมีนาคมของปี ถดั จากปีทีมีเงินได้ การคาํ นวณภาษีใหท้ าํ เป็น 3 ขนั คือ
ขันทีหนงึ คาํ นวณหาจาํ นวนภาษตี าม วิธีที 1 เสียก่อน การคาํ นวณภาษตี ามวธิ ีที 1 เงินไดพ้ งึ ประเมินทุกประเภทรวมกนั ตลอดปีภาษี xxxx (1) หัก คา่ ใชจ้ ่ายตามทีกฎหมายกาํ หนด xxxx (2) (1)-(2) เหลือเงินไดห้ ลงั จากหักค่าใชจ้ ่าย xxxx (3) หกั คา่ ลดหยอ่ นต่าง ๆ (ไมร่ วมคา่ ลดหยอ่ นเงินบริจาค) ตามที xxxx (4) กฎหมายกาํ หนด (3)-(4) เหลือเงินไดห้ ลงั จากหักคา่ ลดหยอ่ นตา่ ง ๆ xxxx (5) หกั ค่าลดหยอ่ นเงินบริจาค ไมเ่ กินจาํ นวนทีกฎหมายกาํ หนด xxxx (6) (5-6) เหลือเงินไดส้ ุทธิ xxxx (7) นาํ เงินไดส้ ุทธิตาม (7) ไปคาํ นวณภาษีตามอตั ราภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดา จาํ นวนภาษีตามการคาํ นวณภาษวี ิธีที 1 xxxx (8) ขันทีสอง ใหพ้ ิจารณาว่าจะตอ้ งคาํ นวณภาษตี าม วธิ ีที 2หรือไม่ ถา้ เขา้ เงือนไขทีจะตอ้ งคาํ นวณภาษี ตามวธิ ีที 2 จึงคาํ นวณภาษตี ามวิธีที 2 อกี วิธีหนึง กรณีทีตอ้ งคาํ นวณภาษตี ามวธิ ีที 2 ไดแ้ ก่ กรณีที เงนิ ไดพ้ ึงประเมินทุกประเภทในปี ภาษี แต่ไม่รวม เงินไดพ้ งึ ประเมินตามประเภทที 1 มีจาํ นวน รวมกนั ตงั แต่ 120,000 บาทขึนไป การคาํ นวณภาษีตามวิธีที 2 นี ใหค้ าํ นวณในอตั รารอ้ ยละ
0.5 ของยอดเงินไดพ้ งึ ประเมนิ (= เงินไดพ้ ึงประเมินทกุ ประเภทลบเงินไดพ้ ึงประเมินประเภทที 1 คูณดว้ ย 0.005) ดงั กล่าวนนั ขันทีสาม สรุป จาํ นวนภาษีทีตอ้ งเสียภาษี กาํ หนดให้ (10) คือ จาํ นวนภาษีทีคาํ นวณไดต้ ามวธิ ีที 2 การคํานวณภาษี จาํ นวนภาษเี งินไดส้ ินปี ทีตอ้ งเสีย เทยี บ (8) และ (10) จาํ นวนที xxxx (11) สูงกวา่ หัก ภาษที ีถูกหัก ณ ทีจา่ ยแลว้ xx ภาษเี งนิ ไดค้ รึงปี ทีชาํ ระไวแ้ ลว้ xx ภาษเี งนิ ไดช้ าํ ระล่วงหนา้ xx เครดิตภาษีเงินปันผล xx xx (12) (11-12) เหลือ ภาษเี งินไดท้ ีตอ้ งเสีย (หรือทีเสียไวเ้ กินขอคืน xx ได)้ หมายเหตุ สาํ หรับเงินไดพ้ ึงประเมนิ ทีไดร้ ับ ตงั แตว่ นั ที 1 มกราคม 2552 เป็นตน้ ไป หาก คาํ นวณตามวธิ ีที 2 แลว้ มภี าษเี งนิ ไดท้ ีตอ้ งเสียจาํ นวนทงั สินไม่เกิน 5,000 บาท ผมู้ ีเงินได้ ไดร้ ับ การยกเวน้ ภาษีเงินไดต้ ามวิธีที 2 ( 10 ) แตย่ งั คงมีหนา้ ทีเสียภาษีตามจาํ นวนทีคาํ นวณไดต้ ามวธิ ี ที 1 ( 8 ) โดยนาํ มาสรุปจาํ นวนภาษีทีตอ้ งเสียขนั ทีสาม
เงนิ ไดพ้ ึงประเมินแต่ละกรณีจะคาํ นวณหกั คา่ ใชจ้ ่ายไดเ้ ทา่ ใด? ค่าใชจ้ ่ายเป็นองคป์ ระกอบหนึงในการคาํ นวณภาษี ถือเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีอยา่ งหนึงที กฎหมายกาํ หนดไว้ สาํ หรับหักเป็นตน้ ทนุ ในการทาํ งาน เพือให้ไดเ้ งินไดห้ รือรายไดส้ ุทธินนั มาคดิ ภาษีตามบญั ชีอตั ราภาษี โดยมีอตั ราการหักค่าใชจ้ ่ายมากหรือนอ้ ยตามแต่ละประเภทของเงินได้ สรุปไดด้ งั นี ประเภทเงนิ ได้ หกั ค่าใช้จ่าย 1. เงินเดือน ค่าจา้ ง โบนัส เบียเลียง 50% ไมเ่ กิน 100,000 2. เงนิ ไดจ้ ากหนา้ ทีหรือตาํ แหน่งงานทีทาํ หรือ บาท จากการรับทาํ งานให้ ค่าธรรมเนียม คา่ นายหนา้ หากมีเงนิ ไดป้ ระเภทที 1 และ 2 ฯลฯ ให้นาํ เงินไดท้ งั 2 ประเภท รวมกนั แต่หกั ไดไ้ มเ่ กิน 3. ค่าแห่งก๊ดู วลิ ล์ คา่ แห่งลขิ สิทธิหรือสิทธิอยา่ ง 100,000 บาท อืน 50% ไมเ่ กิน 100,000 บาท หรือตามจริง 4. ดอกเบีย เงินปันผล ส่วนแบง่ กาํ ไร ฯลฯ หักค่าใชจ้ ่ายไม่ได้ 5. รายไดจ้ ากการใหเ้ ช่าทรัพยส์ ิน การผดิ สญั ญา ตามจริงหรืออตั ราเหมา เช่าซือ การผดิ สัญญาซือขายเงนิ ผอ่ น 30% 20% - บา้ น โรงเรือน สิงปลูกสร้าง แพ 15% - ทีดินทีใชใ้ นการเกษตร 30% - ทีดินทีมิไดใ้ ชใ้ นการเกษตร 10% - ยานพาหนะ - ทรัพยส์ ินอืน
6. วิชาชีพอสิ ระ ตามจริงหรืออตั ราเหมา - ประกอบโรคศิลปะ 60% - กฎหมาย วศิ วกรรม สถาปัตยกรรม บญั ชี 30% ประณีตศิลปกรรม 7. รับเหมาก่อสร้าง ตามจริงหรืออตั ราเหมา 60% 8. รายไดอ้ ืน นอกเหนือจาก 1-7 * ตามจริงหรืออตั ราเหมา 40% * ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบบั ที 629) พ.ศ.2560 และ 60% ผมู้ เี งินไดม้ ีสิทธิหกั ลดหยอ่ นอะไรไดบ้ า้ ง? ค่าลดหยอ่ นและยกเวน้ เป็นอีกหนึงองคป์ ระกอบในการคาํ นวณภาษที ีกฎหมายกาํ หนดใหน้ าํ ไปหกั ออกจากเงนิ ไดไ้ ดอ้ กี หลงั จากหกั คา่ ใชจ้ ่ายแลว้ โดยมีการหักลดหยอ่ นกรณีตา่ ง ๆ แตกตา่ งกนั ออกไป สรุปไดด้ งั นี (1) กรณบี ุคคลธรรมดา หรือผ้ถู ึงแก่ความตายระหว่างปี ภาษี 1. ผมู้ ีเงินได้ 60,000 บาท 2.คูส่ มรส (ไม่มีเงินได)้ 60,000 บาท 3. ผมู้ ีเงินไดห้ รือคู่สมรสต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้หกั ลดหยอ่ นรวมกนั ได้ ไม่เกิน 120,000 บาท 4. บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายและบุตรบญุ ธรรม หกั ค่าลดหยอ่ นไดค้ นละ 30,000 บาท ตอ้ ง เขา้ เงือนไข ดงั นี - บุตรชอบดว้ ยกฎหมาย หกั ลดหยอ่ นไดไ้ ม่จาํ กดั จาํ นวน - บตุ รบุญธรรม หักลดหยอ่ นไดไ้ ม่เกิน 3 คน - กรณีมีบุตรชอบดว้ ยกฎหมายทีมีชีวติ อยจู่ าํ นวนตงั แต่ 3 คน จะนาํ บตุ รบญุ ธรรมมาหักอีก
ไม่ได้ - กรณีมีบุตรชอบดว้ ยกฎหมายมีจาํ นวนไมถ่ ึง 3 คน ใหน้ าํ บตุ รบุญธรรมมาหกั ไดร้ วมกบั บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย แตร่ วมกนั ตอ้ งไม่เกิน 3 คน บตุ รทีนาํ มาหักลดหยอ่ นตอ้ งไม่มีเงนิ ไดต้ งั แต่ 30,000 บาทขึนไป และเขา้ หลกั เกณฑ์ ดงั ต่อไปนี - เป็ นผเู้ ยาว์ - บุตรมอี ายไุ ม่เกิน 25 ปี และกาํ ลงั ศึกษาในระดบั มหาวทิ ยาลยั หรืออุดมศกึ ษา - เป็นผทู้ ีศาลสังใหเ้ ป็นคนไรค้ วามสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถอนั อยใู่ นความ อปุ การะเลียงดู การนบั จาํ นวนบตุ รใหน้ บั เฉพาะบตุ รทีมีชีวติ อยตู่ ามลาํ ดบั อายสุ ูงสุดของบตุ ร โดยนบั รวม บตั รทีอยใู่ นเกณฑไ์ ดร้ ับการลดหยอ่ นดว้ ย 5. ค่าอปุ การะเลียงดบู ิดามารดาทีมีอายุ 60 ปี ขึนไป และอยใู่ นความอปุ การะเลียงดูของผูม้ ี เงินได้ โดยบิดามารดาตอ้ งมีเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินในปี ภาษที ีขอหักลดหยอ่ นไม่เกิน 30,000 บาท หักค่าลดหยอ่ น คนละ 30,000 บาท และสามารถหกั ลดหยอ่ นสาํ หรับบิดามารดาของคสู่ มรสได้ อีกคนละ 30,000 บาท 6. คา่ อุปการะเลียงดคู นพิการหรือคนทพุ พลภาพ หกั ค่าลดหยอ่ น คนละ 60,000 บาท 7. ค่าเบียประกนั ชีวิต (กรมธรรมอ์ ายุ 10 ปี ขึนไป) ของผมู้ ีเงินไดห้ กั คา่ ลดหยอ่ นและไดร้ ับ การยกเวน้ ภาษีเงินไดส้ าํ หรับเงินไดเ้ ท่าทีจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ทงั นี หากคู่สมรสมี การประกนั ชีวติ และความเป็นสามีภริยาไดม้ ีอยตู่ ลอดปี ภาษี ผมู้ ีเงนิ ไดม้ ีสิทธิหักลดหยอ่ น สาํ หรับ เบียประกนั ชีวิตของคูส่ มรสทีไม่มีเงินไดต้ ามจาํ นวนทีจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท แตห่ าก สามีภริยาต่างฝ่ ายตา่ งมีเงินได้ (ก) ถา้ ความเป็นสามีภริยามิไดม้ ีอยตู่ ลอดปีภาษที ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษี ใหส้ ามีและภริยาซึงเป็น ผมู้ เี งินไดต้ ่างฝ่ายตา่ งไดร้ บั ยกเวน้ ภาษตี ามจาํ นวนทีจา่ ยจริง เฉพาะส่วนทีเกิน 10,000 บาท แต่ ไมเ่ กิน 90,000 บาท ซึงไม่เกินเงินไดพ้ ึงประเมินของแต่ละคนหลงั จากหักค่าใชจ้ ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึง มาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแลว้ (ข) ถา้ ความเป็นสามีภริยาไดม้ ีอยตู่ ลอดปีภาษีทีไดร้ ับยกเวน้ ภาษีและภริยาไม่ใชส้ ิทธิแยกยืน
รายการและเสียภาษตี ่างหากจากสามตี ามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรษั ฎากร ใหส้ ามีและภริยา ซึงเป็นผมู้ ีเงินไดต้ ่างฝ่ายต่างไดร้ ับยกเวน้ ภาษตี ามจาํ นวนทีจา่ ยจริง เฉพาะส่วนทีเกิน 10,000 บาท แต่ไมเ่ กิน 90,000 บาท ซึงไม่เกินเงินไดพ้ งึ ประเมินของแต่ละคนหลงั จากหกั ค่าใชจ้ ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแลว้ (ค) ถา้ ความเป็นสามภี ริยาไดม้ ีอยตู่ ลอดปีภาษที ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษีและภริยาใชส้ ิทธิแยกยืน รายการและเสียภาษตี า่ งหากจากสามี ตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร ใหส้ ามีและภริยา ซึงเป็นผมู้ ีเงินไดต้ ่างฝ่ายตา่ งไดร้ ับยกเวน้ ภาษีตามจาํ นวนทีจา่ ยจริง เฉพาะส่วนทีเกิน 10,000 บาท แตไ่ ม่เกิน 90,000 บาท ซึงไมเ่ กินเงินไดพ้ งึ ประเมินของแตล่ ะคนหลงั จากหกั ค่าใชจ้ ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแลว้ 8. คา่ เบียประกนั สุขภาพบิดามารดาของผมู้ ีเงินไดแ้ ละคู่สมรส หกั ค่าลดหยอ่ นเท่าทีจ่ายจริง แตไ่ มเ่ กิน 15,000 บาท ทงั นี บิดามารดาของผูม้ ีเงินไดแ้ ละคู่สมรสตอ้ งไม่มเี งินไดพ้ งึ ประเมิน ในปี ภาษที ีใชส้ ิทธิยกเวน้ ภาษเี งินไดเ้ กิน 30,000 บาท 9. เงนิ สะสมทีจ่ายเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ หกั ลดหยอ่ นไดต้ ามจาํ นวนทีไดจ้ ่ายไปจริงในปี ภาษี แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนทีเกิน 10,000 บาทแต่ไมเ่ กิน 490,000 บาท ซึงไม่ เกินรอ้ ยละ 15 ของคา่ จา้ งใหห้ ักจากเงนิ ได้ 10. เงินค่าซือหน่วยลงทุนในกองทนุ รวมเพือการเลียงชีพ (RMF) ไดร้ ับยกเวน้ เทา่ ทีจา่ ยเงิน ค่าซือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพือการเลียงชีพตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาด หลกั ทรพั ย์ ในอตั ราไมเ่ กินร้อยละ 15 ของเงนิ ไดพ้ ึงประเมินทีไดร้ ับซึงตอ้ งเสียภาษีเงนิ ไดใ้ นปี ภาษนี นั และเมือรวมกบั เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ เงินสะสมเขา้ กองทุนสาํ รองเลียงชีพ เงินสะสม เขา้ กองทุนบาํ เหน็จบาํ นาญขา้ ราชการ เงินสะสมเขา้ กองทนุ สงเคราะห์ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียน เอกชน และเงินสะสมเขา้ กองทนุ การออมแห่งชาติแลว้ ตอ้ งไมเ่ กิน 500,000 บาท 11. ค่าเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ หกั คา่ ลดหยอ่ นในอตั รารอ้ ยละ 15 ของเงนิ ไดท้ ีนาํ มา เสียภาษีเงินไดใ้ นแต่ละปี แต่ไมเ่ กิน 200,000 บาทตอ่ ปี ทงั นี ตอ้ งเป็นค่าเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ ความคุม้ ครองตงั แต่ 10 ปี ขึนไป และจ่าย ผลประโยชนเ์ งนิ บาํ นาญเมือผมู้ ีเงินไดอ้ ายตุ งั แต่ 55 ปี ขึนไปถึงอายุ 85 ปี หรือกว่านนั และเมือ รวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ เงินสะสมเขา้ กองทนุ บาํ เหน็จบาํ นาญขา้ ราชการ (กบข.)
เงนิ สะสมเขา้ กองทนุ สงเคราะหต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน เงินทีซือหน่วยลงทนุ ในกองทนุ รวมเพือการเลียงชีพ (RMF) และเงินสะสมเขา้ กองทุนการออมแห่งชาติ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท 12. เงนิ สะสมกองทุนการออมแห่งชาติ ตามจาํ นวนทีจา่ ยจริง แต่ไมเ่ กิน 500,000 บาท และเมือรวมกบั เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ เงินสะสมเขา้ กองทนุ บาํ เหน็จบาํ นาญขา้ ราชการ เงินสะสมเขา้ กองทุนสงเคราะหต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียน เอกชน และเงนิ ทีซือหน่วยลงทนุ ในกองทนุ รวมเพือการเลียงชีพ (RMF) แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท 13. ค่าซือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุน้ ระยะยาว (LTF) หกั ค่าลดหยอ่ นเทา่ ทีจา่ ยจริง แต่ ไมเ่ กินร้อยละ 15 ของเงินไดพ้ ึงประเมินทีไดร้ ับซึงตอ้ งเสียภาษเี งนิ ไดใ้ นปี นนั แตไ่ ม่เกิน 500,000 บาท และตอ้ งถือหน่วยลงทนุ ในกองทนุ รวมระยะยาวตอ่ เนืองกนั ไม่นอ้ ยกว่า 7 ปี ปฏทิ ิน แตไ่ ม่รวมถึงกรณีผมู้ ีเงินไดไ้ ถ่ถอนหน่วยลงทนุ รวมหุน้ ระยะยาว เพราะทพุ พลภาพหรือตาย 14. ดอกเบียกูย้ มื ทีจ่ายใหแ้ ก่ธนาคารหรือสถาบนั การเงินอืน บริษทั ประกนั ชีวติ สหกรณ์ หรือ นายจา้ ง สาํ หรับการกยู้ มื เงินเพือซือ เช่าซือ หรือสร้างอาคารอยอู่ าศยั โดยจาํ นองอาคารทีซือหรือ สร้างเป็ นประกนั การกยู้ มื หักค่าลดหยอ่ นตามจาํ นวนเท่าทีจา่ ยจริง แตไ่ มเ่ กิน 100,000 บาท 15. เงินสมทบประกนั สังคม หกั คา่ ลดหยอ่ นเท่าทีจ่ายจริง 16. ค่าเบียประกนั สุขภาพ หกั ค่าลดหยอ่ นเท่าทีจา่ ยจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท แต่เมือ รวมกบั เบียประกนั ชีวติ สาํ หรับกรมธรรมป์ ระกนั ชีวติ ทีมีกาํ หนดตงั แต่ 10 ปี ขึนไป และเงินฝากที จา่ ยไวก้ บั ธนาคารทีมีกฎหมายจดั ตงั ขึนโดยเฉพาะแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 100,000 บาท 17. เงนิ บริจาค - เงนิ บริจาคสนบั สนุนการศึกษา หกั ลดหยอ่ นได้ 2 เทา่ ของทีจ่ายจริง แต่ไมเ่ กินร้อยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หักค่าใชจ้ า่ ยและค่าลดหยอ่ นอืน - เงนิ บริจาคสาธารณประโยชน์ หกั ลดหยอ่ นได้ 2 เทา่ ของทีจ่ายจริง แตไ่ ม่เกินร้อยละ 10 ของเงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ า่ ยและค่าลดหยอ่ นอืน ไดแ้ ก่ เงินบริจาคใหแ้ ก่กองทุนพฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาทีกระทรวงศึกษาธิการจดั ตงั ขึน เงนิ บริจาคในการจดั หา หนงั สือหรือสืออิเลก็ ทรอนิกส์เพือส่งเสริมการอ่าน เงินบริจาคในการจดั ใหค้ นพิการไดร้ ับสิทธิ
เขา้ ถึงและใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ากสิงอาํ นวยความสะดวก เงนิ บริจาคใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน ในการจดั ตงั ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ เงนิ บริจาคเพือสนบั สนุนการกีฬา และเงนิ บริจาคเขา้ โครงการ ฝึกอบรมอาชีพและการจดั กิจกรรมทีเกียวขอ้ งกบั การบาํ บดั แกไ้ ข ฟื นฟู และสงเคราะหเ์ ด็กและ เยาวชนของสถานพินิจและคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชนหรือศูนยฝ์ ึกและอบรมเด็กและเยาวชน กระทรวงยตุ ธิ รรม เงินบริจาคใหก้ องทนุ พฒั นาสิงปลอดภยั และสร้างสรรค์ กองทุนเสริมงาน วฒั นธรรม กองทนุ เสริมศิลปะร่วมสมยั กองทนุ ส่งเสริมงานจดหมายเหตหุ รือกองทุนโบราณคดี และเงินบริจาคใหส้ ถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชน (แตไ่ มร่ วมถึงโรงเรียนนอกระบบ) - เงนิ บริจาคเพือช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภยั ทีเกิดขึนในประเทศไทย หักลดหยอ่ นได้ 1.5 เท่าของทีจา่ ยจริง แตไ่ มเ่ กิน ร้อยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ า่ ยและค่าลดหยอ่ นอืน ตอ้ ง บริจาค ระหวา่ งวนั ที 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2560 และระหวา่ งวนั ที 5 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2560 มติ ครม. เมือวนั ที 31 ตุลาคม 2560 ขยายระยะเวลาใหถ้ งึ วนั ที 31 ธนั วาคม 2560 - เงินบริจาคทวั ไป หกั ลดหยอ่ นไดเ้ ท่าทีจ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินไดห้ ลงั หักค่าใชจ้ ่ายและคา่ ลดหยอ่ นอืน เพมิ เตมิ ลดหย่อนตามมาตรการภาษกี ระตุ้นเศรษฐกจิ ของรัฐ 1. คา่ ซืออสงั หาริมทรัพยต์ ามมาตรการกระตุน้ เศรษฐกิจ (บา้ นหลงั แรก) หกั ลดหยอ่ นสาํ หรับ การซืออสังหาริมทรัพยฯ์ ทีมีมลู ค่าไมเ่ กิน 3,000,000 บาท แต่ไมเ่ กินรอ้ ยละ 20 ของคา่ ซือ อสังหาริมทรัพยฯ์ ทีเป็นอาคารพอ้ มทีดินหรือหอ้ งชุดในอาคารชุด ซึงไดจ้ ่ายคา่ ซืออสังหาริมทรพั ย์ และมกี ารจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิระหวา่ งวนั ที 13 ตุลาคม 2558 - 31 ธนั วาคม 2559 ทงั นี ใชส้ ิทธิยกเวน้ ภาษเี ป็นเวลา 5 ปี ต่อเนืองกนั นบั แตป่ ีภาษีทีมีการาจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ โดยใหใ้ ชส้ ิทธิจาํ นวนเท่า ๆ กนั ในแตล่ ะปี 2. คา่ ซ่อมแซมบา้ นและรถทีไดร้ ับผลกระทบจากอุทกภยั ทรัพยส์ ินทีไดร้ ับความเสียหาย 2.1 คา่ ซ่อมแซมบา้ น คา่ ซ่อมแซมหรือค่าวสั ดุหรืออปุ กรณ์ทีจ่าย ระหว่างวนั ที 1 ธนั วาคม 2559 - 31 พฤษภาคม 2560 และระหวา่ งวนั ที 5 กรกฎาคม 2560 - 31 ธนั วาคม 2560 หกั
ลดหยอ่ นไดต้ ามจาํ นวนทีจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยทรัพยส์ ินนนั ไดร้ ับความ เสียหายจากอุทกภยั ในช่วงระยะเวลาดงั กล่าวและอยใู่ นพืนทีทีทางราชการประกาศใหเ้ ป็นพืนทีเกิด อุทกภยั 2.2 คา่ ซ่อมแซมรถ คา่ ซ่อมแซมหรือคา่ วสั ดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมรถทีจา่ ย ระหวา่ งวนั ที 1 ธนั วาคม 2559 - 31 พฤษภาคม 2560 และระหวา่ งวนั ที 5 กรกฎาคม 2560 - 31 ธนั วาคม 2560 หักลดหยอ่ นไดต้ ามจาํ นวนทีจา่ ยจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท โดยรถหรืออปุ กรณห์ รือ สิงอาํ นวยความสะดวกในรถเสียหายจากการถูกนาํ ท่วมเนืองจากอทุ กภยั ในช่วงระยะเวลาดงั กลา่ ว และอยใู่ นพืนทีทีทางราชการประกาศใหเ้ ป็นพืนทีเกิดอุทกภยั และตอ้ งเป็นเจา้ ของกรรมสิทธิหรือผู้ เช่าซือรถ 3. ชอปช่วยชาติ หกั ลดหยอ่ นเทา่ ทีจา่ ยจริง แต่ไมเ่ กิน 15,000 บาท จากการซือสินคา้ หรือ บริการจากผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิมและขอหลกั ฐานใบกาํ กบั ภาษีเตม็ รูป ระหวา่ ง วนั ที 11 พฤศจิกายน - 3 ธนั วาคม 2560 ตารางแสดงรายการสินคา้ และบริการทีสามารถนาํ มาหกั เป็นค่าลดหยอ่ นทางภาษี
(2) กรณีห้างหุ้นส่วนสามัญทีมิใช่นิตบิ ุคคล หรือคณะบุคคลทีไม่ใช่นิตบิ ุคคล หักค่าลดหย่อนได้ คนละ 60,000 บาท แต่รวมกนั ต้องไม่เกนิ 120,000 บาท 1. เงนิ บริจาคสนบั สนุนการศึกษาและการกีฬา หกั ได้ 2 เทา่ ของทีจ่ายจริง แต่ไมเ่ กินรอ้ ยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายและคา่ ลดหยอ่ น 2. เงินบริจาค หกั ไดเ้ ทา่ ทีจา่ ยจริง แตไ่ ม่เกินรอ้ ยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ า่ ยและค่า ลดหยอ่ น (3) กรณกี องมรดกทียังไม่ได้แบ่ง หักค่าลดหย่อนได้ 60,000 บาท 1. เงินบริจาคสนบั สนุนการศึกษาและการกีฬา หกั ได้ 2 เทา่ ของทีจ่ายจริง แตไ่ มเ่ กินร้อยละ 10 ของ เงนิ ไดห้ ลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและค่าลดหยอ่ น 2. เงนิ บริจาค หกั ไดเ้ ทา่ ทีจ่ายจริง แตไ่ มเ่ กินรอ้ ยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและคา่ ลดหยอ่ น
ผมู้ ีเงินไดม้ หี นา้ ทีตอ้ งยนื แบบแสดงรายการภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาอยา่ งไร และเมือใด? แบบแสดงรายการทีใช้มีดังต่อไปนี ชือแบบ ใช้ยืนกรณี กาํ หนดเวลายืน ภ.ง.ด. มีเงินไดพ้ ึงประเมินทกุ ประเภท มกราคม - มีนาคม ของปี 90 ภาษีถดั ไป ภ.ง.ด. มีเฉพาะเงินไดพ้ งึ ประเมินประเภทที 1ม. มกราคม - มีนาคม ของปี 91 40(1) ประเภทเดียว ภาษถี ดั ไป ภ.ง.ด. มีเงินไดข้ อชาํ ระภาษลี ว่ งหนา้ กอ่ นถงึ กาํ หนดเวลาการยืน 93 แบบตามปกติ ภ.ง.ด. ยนื ครึงปี สาํ หรับผูม้ ีเงินไดพ้ ึงประเมินเฉพาะ กรกฎาคม - กนั ยายน ของปี 94 ประเภทที 5,6,7 และ 8 ภาษนี นั ภ.ง.ด. คนต่างดา้ วผมู้ ีเงินไดจ้ ากการาจา้ งแรงงาน มกราคม - มีนาคม ของปี 95 จากสาํ นกั งานปฏิบตั ิการภูมิภาค ภาษถี ดั ไป การยืนแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรมดามี 2 ระยะ คือ 1. \"ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึงปี \" เป็นการยนื แบบแสดงรายการเงินไดเ้ ฉพาะเงินไดพ้ ึง ประเมนิ ประเภทที 5,6,7 หรือ 8 ทีไดร้ ับตงั แต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนไม่วา่ จะมีเงินได้ ประเภทอืนรวมอยดู่ ว้ ยหรือไม่ก็ตาม โดยยนื ภายในเดือนกนั ยายนของปี ภาษนี ัน และภาษีทีเสียนี นาํ ไปเป็นเครดิตหักออกจากภาษสี ินปี ได
2. \"ภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดาสินปี \" เป็นการยนื แบบแสดงรายการเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินทีไดร้ ับแลว้ ในระหวา่ งปี ภาษี โดยยนื ภายในเดือนมีนาคมของปี ถดั ไป การยนื แบบ ภ.ง.ด. 90 91 ผา่ นอนิ เทอร์เน็ต ขันตอนการยืนแบบฯ 1. เขา้ web site ของกรมสรรพากรที www.rd.go.th 2. เลือกรายการบริการยืนแบบผา่ นอนิ เทอร์เน็ต 3. เลอื กรายการบริการยืนแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 แลว้ แตก่ รณี 4. ถา้ เขา้ สู่การใชบ้ ริการครังแรก ใหเ้ ลอื กรายการลงทะเบียนก่อน เมือไดล้ งทะเบียนเรียบร้อยแลว้ ระบบจะแสดง หมายเลขผใู้ ช้ และรหสั ผา่ นบนหนา้ จอ 5. เขา้ ระบบโดยบนั ทึก หมายเลขผใู้ ชแ้ ละรหสั ผา่ น 6. ป้อนรายการขอ้ มูล ไดแ้ ก่ รายการเงินได้ คา่ ลดหยอ่ น เงินไดท้ ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษีหัก ณ ทีจ่าย ฯลฯ แลว้ คลิก \"ตกลง\" เพือยนื ยนั การยนื แบบฯ 7. เมือไดต้ รวจสอบรายการขอ้ มูลทีบนั ทึกและสังใหร้ ะบบ \"คาํ นวณภาษีแลว้ \" 7.1 กรณีไมม่ ีภาษีตอ้ งชาํ ระ (1) โปรแกรมจะแจง้ ผลการรับแบบและหมายเลขอา้ งองิ เพือใชเ้ ป็ นหลกั ฐานในการยนื แบบฯ (2) กรมสรรพากรจะส่งใบเสร็จรับเงินใหต้ ามทีอยทู่ ีไดล้ งทะเบียนไว้
7.2 กรณีมีภาษตี อ้ งชาํ ระ (1) หากเลือกวิธีชาํ ระภาษีผ่าน e-payment ระบุนาคารทีทา่ นใชบ้ ริการอยู่ และ ดาํ เนินการตามขนั ตอนของ ธนาคารนนั (2) หากเลือกวธิ ีชาํ ระภาษีผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ของธนาคาร (1) ระบบจะแจง้ เลข ประจาํ ตวั ผูเ้ สียภาษอี ากร รหสั ควบคุม และจาํ นวนภาษีทีตอ้ งเสีย เพือใชเ้ ป็นขอ้ มลู นาํ ไปชาํ ระภาษี ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ของธนาคารต่อไป เพือความสะดวกและถูกตอ้ ง โปรดสังพิมพห์ รือจด ขอ้ มลู ดงั กล่าวไวด้ ว้ ย (3) หากเลือกวธิ ีชาํ ระภาษี ณ เคานเ์ ตอร์ ไปรษณียอ์ ตั โนมตั ิ (Pay at Post ) ระบบ จะแจง้ รายการขอ้ มูลเช่นเดียวกบั (2) เพอื ใชเ้ ป็นขอ้ มูลนาํ ไปชาํ ระภาษี ณ ทีทาํ การไปรษณียท์ ุก แห่ง (ยกเวน้ ปณ. โสกเชือก จ. ร้อยเอด็ และ ปณ. ชุมแสงสงคราม จ.พิษณุโลก ขันตอนการชําระภาษี เมือไดท้ าํ รายการยนื แบบ ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91 ผา่ นอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแลว้ และเป็นกรณีทีมี ภาษีตอ้ งชาํ ระ ผใู้ ชบ้ ริการจะตอ้ งชาํ ระภาษีทงั จาํ นวนในวนั ใดกไ็ ดภ้ ายในกาํ หนดเวลายืนแบบ โดยมี ทางเลือกในการชาํ ระภาษีวธิ ีใดวิธีหนึง ดงั นี 1. การชําระภาษีผ่านบริการอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ของธนาคารพาณิชย์ 1.1 การชําระภาษีผ่าน e-payment เป็ นระบบการชําระเงนิ พร้อมกบั การยืนรายการ ข้อมูลตามแบบ (1) ผใู้ ชบ้ ริการตอ้ งทาํ ความตกลงกบั ธนาคารไวแ้ ลว้ (2) เลือกธนาคารทีตอ้ งการสงั โอนเงินจากบญั ชีเงินฝากธนาคารเพือชาํ ระภาษี
(3) ทาํ รายการโอนเงินตามขนั ตอนของธนาคาร (4) เมือทาํ รายการโดยครบถว้ นแลว้ โปรแกรมจะแจง้ หมายเลขอา้ งองิ การยืนแบบฯ และชาํ ระ ภาษใี ห้ (5) กรมสรรพากรจะส่งใบเสร็จรับเงินทางไปรษณียล์ งทะเบียนตามทีอยทู่ ีแสดงในแบบให้ โดยเร็ว 1.2 การชําระวิธีอืน (1) เลือกบริการชาํ ระภาษ (2) ป้อนขอ้ มูลหมายเลขประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษี รหสั ควบคุม และจาํ นวนภาษที ีตอ้ งชาํ ระทีไดจ้ าก โปรแกรมการยนื แบบฯ ผ่านอนิ เทอร์เนต็ (3) หากขอ้ มูลตามขอ้ (2) ถกู ตอ้ งธนาคารจะโอนเงินจากบญั ชีเงินฝากของทา่ นเขา้ บญั ชี กรมสรรพากรเพือชาํ ระภาษี (4) กรมสรรพากร จะส่งใบเสร็จรับเงินทางไปรษณียล์ งทะเบียนตามทีอยทู่ ีไดล้ งทะเบยี นไวใ้ น แบบฯใหโ้ ดยเร็ว หมายเหตุ กรณีชาํ ระผา่ นเครือง ATM ตอ้ งเป็นเครือง ATM ของธนาคารผอู้ อกบตั รเท่านนั 2. การชําระเงนิ ทางไปรษณยี ์ Pay at Post ให้นาํ รายการขอ้ มูลทีไดร้ ับจากระบบไดแ้ ก่ เลขประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษอี ากร รหสั ควบคมุ จาํ นวนเงินภาษี ไปชาํ ระเงนิ ภาษอี ากรได้ ณ ทีทาํ การ ไปรษณียท์ วั ประเทศ (ยกเวน้ ปณ. โสกเชือก จ.รอ้ ยเอด็ และ ปณ.ชุมแสงสงคราม จ. พิษณุโลก) กรมสรรพากรจะส่งใบเสร็จรับเงินทางไปรษณียล์ งทะเบียนตามทีอยทู่ ีไดล้ งทะเบยี นไว้ ใหโ้ ดยเร็ว
เงือนไขการใช้บริการยืนแบบ ภ.ง.ด. 90 ภ.ง.ด. 91 1. เป็นบริการยนื แบบ ภ.ง.ด.91 สาํ หรับผมู้ ีเงินไดจ้ ากการจา้ งแรงงานประเภทเดียวเป็นบริการ ยนื แบบ ภ.ง.ด.90 สาํ หรับผมู้ ีเงินไดก้ รณีทวั ไป 2. เป็นผมู้ ีเลขประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษอี ากรและมเี ลขประจาํ ตวั ประชาชน (กรณีมีสัญชาติไทย) 3. เป็ นแบบฯ ทีไม่ไดข้ อคืนภาษี 4. เป็ นการยนื แบบฯ และชาํ ระภาษตี ลอด 24 ชม.ของทุกวนั เวน้ แต่วนั ที 31 มีนาคม 2546 จะปิ ดการใหบ้ ริการเวลา 22.00 น. 5. เป็ นการยนื แบบฯ ภายในกาํ หนดเวลาและชาํ ระภาษที งั จาํ นวนในคราวเดียวเทา่ นนั 6. กรณีชาํ ระผา่ น ATM ตอ้ งเป็นเครือง ATM ของธนาคารผอู้ อกบตั รกนั 7. กรณีชาํ ระภาษีผา่ น e-payment จะตอ้ งทาํ ความตกลงกบั ธนาคารก่อน หมายเหตุ หากมิไดช้ าํ ระภาษภี ายในกาํ หนดเวลาจะถือวา่ ทา่ นยงั มไิ ดย้ ืนแบบ ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91 สาํ หรับปี ภาษี 2545 ทา่ นยงั คงมหี นา้ ทีไปยนื แบบ ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91 และชาํ ระภาษี ณ สาํ นกั งานสรรพากรเขต หรือสาํ นกั งานสรรพากรอาํ เภอ
การชาํ ระภาษดี ว้ ยวธิ ีใดบา้ ง ? การชาํ ระภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา นอกจากผเู้ สียภาษี จะชาํ ระภาษโี ดยการ ถูกหักภาษี ณ ทีจ่ายแลว้ ถา้ ในการยนื แบบ แสดงรายการ และคาํ นวณภาษี ตามแบบแสดงรายการ ทียนื นนั มภี าษีทีตอ้ งชาํ ระ หรือตอ้ งชาํ ระเพิมเติมอกี ก็ใหช้ าํ ระ หรือชาํ ระเพิมเติม ต่อเจา้ หนา้ ทีสรรพากร พร้อมกบั การยนื แบบ นนั โดยเจา้ หนา้ ทีผรู้ ับชาํ ระ จะออกหลกั ฐานใบเสร็จ แสดงการรับเงินภาษี และถือเป็นหลกั ฐาน แสดงการยนื แบบฯ ใหก้ บั ผยู้ นื แบบแสดงรายการ ทุกราย การชาํ ระภาษเี ลือกวิธีการชาํ ระไดด้ งั นี 1. ชําระด้วยเงินสด 2. ชําระด้วยบตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (โดยผถู้ อื บตั รอเิ ลก็ ทรอนิกส์เป็นผชู้ าํ ระค่าธรรมเนียม) สามารถ ชาํ ระภาษไี ด้ ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา ดงั นี (1) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตกรุงเทพมหานคร (2) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั ชลบุรี ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา เมืองชลบุรี 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาพานทอง สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาศรีราชา 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาศรีราชา 2 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาบางละมงุ 1 และ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาบางละมงุ 2 (3) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั สมุทรปราการ ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากร พนื ทีสาขาเมืองสมทุ รปราการ 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาเมืองสมทุ รปราการ 2 สาํ นกั งาน สรรพากรพืนทีสาขา พระประแดง 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาพระประแดง 2 และ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาพระสมุทรเจดีย์ (4) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั ฉะเชิงเทราไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนที สาขา เมืองฉะเชิงเทรา และสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาบางปะกง (5) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั ระยอง ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา เมืองระยอง 2 และสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาปลวกแดง (6) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั นนทบุรี ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนที สาขาเมืองนนทบรุ ี 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาเมืองนนทบรุ ี 2 สาํ นกั งานสรรพากรพืนที
สาขาปากเกร็ด 1 สาํ นกั งาน สรรพากรพืนทีสาขาปากเกร็ด 2 สาํ นกั งานสรรพากรพนื ทีสาขาบาง กรวย และสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา บางบวั ทอง (7) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั ปทุมธานี ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนที สาขาเมืองปทมุ ธานี สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาคลองหลวง 1 สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา คลองหลวง 2 สาํ นกั งาน สรรพากรพืนทีสาขาธญั บุรี และสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาลาํ ลูกกา (8) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ไดแ้ ก่ สาํ นกั งาน สรรพากรพืนทีสาขาบางปะอนิ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาวงั นอ้ ย และสาํ นกั งานสรรพากร พนื ทีสาขาอทุ ยั (9) สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาในเขตจงั หวดั สระบรุ ี ไดแ้ ก่ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา แก่งคอย และสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาหนองแค 2.1 บตั รเครดิต TAX SMART CARD และบตั รเดบิต ของ บมจ. บตั รกรุงไทย (KTC) ธนาคารกรุงไทย (KTB) สามารถชาํ ระภาษีได้ ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาตาม (1) – (9) 2.2 บตั รเครดิต และ TAX SMART CARD ของธนาคาร กสิกรไทย (KBANK) และ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) สามารถชาํ ระภาษีได้ ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาตาม (1) – (5) 2.3 บตั รเครดิต ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สามารถชาํ ระภาษีได้ ณ สาํ นกั งานสรรพากร พนื ทีสาขา ตาม (1) - (5) 3. ชําระด้วยเช็คหรือดราฟต์ 3.1 เชค็ ทีชาํ ระตอ้ งเป็นเช็ค 4 ประเภท ไดแ้ ก่ (1) เชค็ ธนาคารแห่งประเทศไทย (เชค็ ประเภท ก.) (2) เชค็ ทีมีธนาคารคาํ ประกนั (เช็คประเภท ข.) (3) เชค็ ทีธนาคารเซ็นสังจ่าย (เช็คประเภท ค.) (4) เช็คทีผมู้ หี นา้ ทีชาํ ระเงินภาษีอากรเป็นผเู้ ซน็ สังจ่าย และใชช้ าํ ระโดยตรง (เช็คประเภท ง.)
การใช้เช็คประเภท ง. ให้ปฏบิ ัตดิ งั นี ( ก ) กรณีใชช้ าํ ระภาษใี นกรุงเทพมหานคร และในจงั หวดั นนทบุรี จงั หวดั ปทมุ ธานี จงั หวดั สมุทรปราการ จงั หวดั สมุทรสาคร (เฉพาะอาํ เภอเมืองสมทุ รสาคร และอาํ เภอกระทุม่ แบน) จงั หวดั นครปฐม (เฉพาะอาํ เภอสามพราน) และจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา (เฉพาะอาํ เภอบางปะอิน) ตอ้ ง เป็นเช็คของธนาคาร หรือสาขาธนาคาร ซึงตงั อยใู่ น ทอ้ งทีใดทอ้ งทีหนึงขา้ งตน้ เทา่ นนั ( ข ) กรณีใชช้ าํ ระภาษใี นจงั หวดั (อาํ เภอ) อืนนอกจาก (ก) ใหใ้ ชไ้ ดเ้ ฉพาะกรณีทีเปิ ดบญั ชีเงิน ฝากไวก้ บั ธนาคารหรือ สาขาธนาคารซึงตงั อยใู่ นจงั หวดั ทอ้ งทีอนั เป็นภูมิลาํ เนาเทา่ นนั 3.2 การสงั จ่ายเช็คหรือดราฟต์ ใหข้ ีดคร่อม และสังจ่ายดงั นี (1) ในกรุงเทพมหานคร กรณียนื แบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 และชาํ ระภาษที ีสาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา เช็คทกุ ประเภทใหส้ ังจ่ายแก่ “กรมสรรพากร” และขีดฆ่าคาํ ว่า “ผถู้ ือ” ออก (2) ในตา่ งจงั หวดั กรณียนื แบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 และชาํ ระภาษที ีสาํ นกั งานสรรพากร พืนทีสาขาดว้ ยเช็ค ประเภท ง. ใหส้ ังจ่ายแก่ “กรมสรรพากร” ถา้ เป็นเช็คประเภท ก. ข. ค. ใหต้ ิดต่อสาํ นกั งานสรรพากร พนื ทีสาขา หลกั เกณฑก์ ารใชเ้ ชค็ หรือดราฟต์ (1) กรณียนื ที สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา เช็คทกุ ประเภทหรือดราฟต์ ตอ้ งลง วนั ทีในเชค็ ใน วนั ทียนื แบบฯ หรือ ก่อนวนั ทีทียนื แบบฯ ไม่เกิน 15 วนั สาํ หรับเช็คประเภท ก. ข. ค. หรือดราฟต์ หรือไมเ่ กิน 7 วนั สาํ หรับเช็คประเภท ง. (2) กรณียนื ทีธนาคาร/ทีทาํ การไปรษณีย์ เช็คทุกประเภท หรือดราฟตท์ ีชาํ ระภาษี ตอ้ งลงวนั ทีใน เชค็ ในวนั ทียนื แบบฯ หรือก่อนวนั ทียนื แบบฯ ไม่เกิน 7 วนั (3) หา้ มใชเ้ ช็คลงวนั ทีล่วงหนา้ (4) ห้ามใชเ้ ช็คหรือดราฟตโ์ อนสลกั หลงั (5) หา้ มใชเ้ ช็คหรือดราฟตท์ ีมีจาํ นวนเงินสูงกวา่ จาํ นวนภาษอี ากรทีตอ้ งชาํ ระ
(6) การชาํ ระภาษี จะถือวา่ สมบูรณ์ ต่อเมือ กรมสรรพากร ไดร้ ับเงิน ตามเช็ค หรือ ดราฟต์ ครบถว้ นแลว้ 4.ชําระด้วยธนาณตั ิ 1. ผมู้ เี งินไดท้ ียนื แบบฯ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 ตอ้ งมภี มู ิลาํ เนาอยใู่ นกรุงเทพมหานคร 2. ส่งธนาณัติเทา่ กบั จาํ นวนเงินภาษที ีตอ้ งชาํ ระ ไปพร้อมกบั การยนื แบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด. 91 (ห้ามหกั ค่าธรรมเนียม ในการส่งธนาณตั ิ) โดยสังจ่าย “ผอู้ าํ นวยการกองบริหารการคลงั และรายได้ กรมสรรพากร” ปณ.กระทรวงการคลงั ถา้ ไมช่ าํ ระในกาํ หนดเวลาหรือชาํ ระไมถ่ ูกตอ้ งจะมีความรับผดิ อยา่ งไรบา้ ง? เบียปรับและเงินเพิม ถือเป็ นบทลงโทษเกียวกบั ภาษีอากรอยา่ งหนึง และอาจมีโทษทางอาญาดว้ ย แลว้ แต่ความผิดวา่ เป็นเรืองร้ายแรงขนั ไหน โดยหากบุคคลใดยืนแบบฯ ภายในกาํ หนดแตช่ าํ ระภาษี ไม่ครบถว้ น หรือยนื แบบฯ ล่าชา้ ละเลย หรือหลีกเลียงการยนื แบบฯ จะตอ้ งเสียเงนิ เพิมและเบียปรับ ตามกฎหมายกาํ หนด และหากฝ่าฝืนไม่ยอมชาํ ระ กต็ อ้ งรับโทษทางอาญาดว้ ย ซึงมบี ทลงโทษ ดงั นี 1. กรณีไม่ชาํ ระภาษภี ายในกาํ หนดเวลา จะตอ้ งเสียเงินเพิมอีกรอ้ ยละ 1.5 ตอ่ เดือน (เศษของ เดือนให้นบั เป็น 1 เดือน) ของเงินภาษที ีตอ้ งชาํ ระนบั แตว่ นั พน้ กาํ หนดเวลาการยนื รายการ จนถึงวนั ชาํ ระภาษี 2. กรณีเจา้ พนกั งานตรวจสอบออกหมายเรียก และปรากฏว่ามไิ ดย้ ืนแบบแสดงรายการไวห้ รือ ยนื แบบแสดงรายการไวแ้ ตช่ าํ ระภาษีขาดหรือตาํ ไป นอกจากจะตอ้ งรับผดิ ชาํ ระเงนิ เพิมแลว้ ยงั จะตอ้ งรับผดิ เสียเบียปรับอีก 1 เทา่ หรือ 2 เทา่ ของภาษีทีตอ้ งชาํ ระแลว้ แต่กรณี เงินเบีย ปรับดงั กล่าวอาจลดหรืองดไดต้ ามระเบียบทีอธิบดีกาํ หนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี
3. กรณีไมย่ นื แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในกาํ หนดเวลา ตอ้ งระวาง โทษปรับทางอาญาไมเ่ กิน 2,000 บาท 4. กรณีจงใจ แจง้ ขอ้ ความเท็จ หรือแสดงหลกั ฐานเทจ็ หรือฉอ้ โกง เพือหลีกเลียงหรือพยายาม หลีกเลียงการเสียภาษอี ากร มโี ทษจาํ คุกตงั แต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตงั แต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท 5. กรณีเจตนาละเลยไมย่ นื แบบแสดงรายการเพือหลีกเลียงการเสียภาษอี ากร มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจาํ คุกไมเ่ กิน 1 ปี หรือทงั จาํ ทงั ปรับ
การบริจาคเงินภาษีใหแ้ ก่พรรคการเมอื ง ตงั แต่ปี ภาษี 2551 เป็ นตน้ ไป บคุ คลธรรมดา ทีมีสัญชาตไิ ทย (ไมร่ วมถึง ห้างหุน้ ส่วนสามญั หรือ คณะบุคคล ทีมิใช่ นิตบิ ุคคล และกองมรดก ทียงั ไม่ไดแ้ บ่ง) สามารถบริจาค เงินภาษี ใหแ้ ก่ พรรคการเมืองได้ ตามมาตรา 58 แห่งพระราชบญั ญตั ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าดว้ ยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 โดยแสดง เจตนาบริจาค เงินภาษี ให้แก่พรรคการเมือง พรอ้ มการยืนแบบ แสดง รายการภาษี ประจาํ ปี โดยมีหลกั เกณฑ์ และวิธีการ ตามประกาศอธิบดีฯ ภาษเี งินได้ ( ฉบบั ที 176 ) ดงั นี 1. ผมู้ เี งินได้ เมือคาํ นวณภาษี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 แลว้ มีเงินภาษี ทีตอ้ งชาํ ระ ตงั แต่ 100 บาท ขึนไป 2. ผมู้ เี งินได้ ทีมีสิทธิบริจาค ตอ้ งแสดง เจตนาไวใ้ น ช่องทีกาํ หนดไว้ ในแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 โดยตอ้ ง ระบใุ หช้ ดั เจนวา่ ประสงคจ์ ะบริจาค หรือ ไม่บริจาค และระบุ รหสั พรรค การเมือง ทีตอ้ งการบริจาค หากไม่ระบ ◌ุ ความประสงค์ หรือไมร่ ะบุ รหัสพรรคการเมือง ถือวา่ ไม่ไดแ้ สดง เจตนาบริจาค ตามหลกั เกณฑ์ ดงั นี ( 1 ) ระบุรหสั พรรคการเมือง ทีตอ้ งการบริจาค ไดเ้ พยี ง 1 พรรคการเมือง หากแสดง เจตนา เกินกว่า 1 พรรคการเมือง ถอื วา่ ไมป่ ระสงค์ จะบริจาคใหพ้ รรคการเมืองใด ( 2 ) เมือแสดงเจตนาบริจาค ใหแ้ ก่พรรคการเมืองใดแลว้ หา้ มปลียนแปลง ( 3 ) พรรคการเมือง ทีผบู้ ริจาค จะแสดงเจตนา บริจาคเงินภาษี ใหไ้ ดใ้ นปีภาษีใด จะตอ้ ง เป็น พรรคการเมือง ทีมีชืออยใู่ น ทะเบียนพรรคการเมือง ในปี ภาษีนัน หากพรรคการเมือง ทีแสดง ความประสงค์ บริจาคเงินภาษี ใหส้ ินสภาพ เลกิ หรือยบุ ตามกฎหมาย ในปี ภาษีใด ใหถ้ ือเสมอื นวา่ ไมม่ ีพรรคการเมืองนนั ทีจะไดร้ บั การแสดงเจตนา บริจาคเงินภาษีในปี ภาษนี ัน สามารถค้นหา รหัสพรรคการเมือง ได้จากเว็บไซต์สํานักงานคณะกรรมการเลือกตัง www.ect.go.th หรือจากเวบ็ ไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
3. การแสดงเจตนา บริจาคเงินภาษีใหแ้ ก่ พรรคการเมืองตาม 2. หา้ ม มใิ หน้ าํ ไป หกั เป็นคา่ ลดหยอ่ น ตามมาตรา 47 แห่งประมวลรัษฎากร 4. ผมู้ เี งินได้ ซึงมีสิทธิระบุการแสดงเจตนา บริจาคเงินภาษี ใหแ้ ก่พรรคการเมือง ในแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด.91 ให้ถอื ตามหลกั เกณฑ์ ดงั นี ( 1 ) กรณีสามีหรือภริยามีเงนิ ไดฝ้ ่ายเดียว ใหฝ้ ่ายทีมีเงนิ ไดเ้ ป็นผรู้ ะบคุ วามประสงคใ์ น แบบฯ ( 2 ) กรณีสามี หรือภริยา ต่างฝ่ายต่างมเี งนิ ได้ และแยกยืนแบบฯ หรือรวมยืนแบบฯ แต่ แยกคาํ นวณภาษี ใหส้ ามี และภริยา ต่างฝ่ ายต่าง มีสิทธิระบคุ วามประสงคใ์ นแบบฯ ( 3 ) กรณีสามี หรือภริยา ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และรวมยืนแบบฯ รวมทงั รวมคาํ นวณภาษี ใหต้ ่างฝ่ าย ตา่ งมสี ิทธิ ระบคุ วามประสงค์ ของตนเอง ในแบบฯ โดยกรอก รายละเอยี ด การคาํ นวณ แยกรายการบคุ คลใน \"ใบแนบ ภ.ง.ด.90/91 ปี ภาษี 2551 รายละเอยี ด คาํ นวณ ภ.ง.ด. 90/91 แยกรายบคุ คล กรณีคู่สมรส รวมคาํ นวณภาษี และบริจาคภาษี แก่พรรคการเมอื ง\" (แลว้ แต่กรณี) ซึงสามารถ Download ไดจ้ าก เวบ็ ไซตก์ รมสรรพากร HOT MENU > Download > บริการอเิ ลก็ ทรอนิกส์ > แบบแสดงรายการภาษี แบบคาํ ร้อง/คาํ ขอต่างๆ > ภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา \" อนึง หากผมู้ ีเงินได้ คาํ นวณภาษี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 แลว้ มีเงินภาษี ทีตอ้ ง ชาํ ระ ตงั แต่ 100 บาท ขึนไป และมภี าษหี กั ณ ทีจา่ ย ไวเ้ กินกวา่ เงินภาษที ีตอ้ งชาํ ระ เมือแจง้ ความ ประสงค์ ขอคืนเงนิ ภาษี ทีชาํ ระไวเ้ กิน พร้อมทงั แสดงเจตนา บริจาคเงินภาษี ใหแ้ ก่พรรคการเมือง ดว้ ย กรมสรรพากร จะหกั เงินบริจาคดงั กลา่ ว จากเงินภาษี ทีตอ้ งชาํ ระ ดงั นนั การบริจาค เงินภาษี ดงั กล่าว ไม่มีผลตอ่ เงินภาษี ทีขอคืนไวแ้ ตอ่ ยา่ งใด
หากยนื แบบแลว้ มีภาษีตอ้ งชาํ ระจะขอผอ่ นชาํ ระภาษีไดห้ รือไม่ ? ถา้ มีภาษที ีตอ้ งชาํ ระจาํ นวนตงั แต่ 3,000 บาทขึนไป ทงั ภาษีครึงปี และภาษีสินปี ผเู้ สียภาษมี ีสิทธิ ขอผอ่ นชาํ ระภาษไี ดเ้ ป็น 3 งวดเทา่ ๆ กนั โดยไมต่ อ้ งเสียเงินเพิมใดๆ ผเู้ สียภาษีอาจติดต่อขอผอ่ น ชาํ ระไดท้ ี สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขาโดยใชแ้ บบบ.ช. 35 จาํ นวน 1 ชุด 3 แผน่ ขอ้ ความ เหมือนกนั ดงั นี งวดที 1 ชาํ ระพร้อมกบั การยนื แบบแสดงรายการภายในวนั ที 30 กนั ยายน หรือวนั ที 31 มีนาคม งวดที 2 ชาํ ระภายใน 1 เดือนนบั แตว่ นั ทีตอ้ งชาํ ระงวดที 1 งวดที 3 ชาํ ระภายใน 1 เดือนนบั แต่วนั ทีตอ้ งชาํ ระงวดที 2 ถา้ ภาษงี วดใดงวดหนึงมไิ ดช้ าํ ระภายในกาํ หนดเวลาดงั กล่าว ผเู้ สียภาษหี มดสิทธิทีจะชาํ ระภาษีเป็น รายงวด และตอ้ งเสียเงินเพิมในอตั ราร้อยละ 1.5 ตอ่ เดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีงวดที เหลือ
การขอคืนเงินภาษีอากร กรณีขอคืนภาษที ีชาํ ระไวเ้ กิน กรมสรรพากรจะคืนเงินภาษีโดยส่งเป็นเชค็ ธนาคารกรุงไทย จาํ กดั (มหาชน) พร้อมกบั หนงั สือแจง้ คืนเงินภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาใหผ้ ขู้ อคืนตามทีอยทู่ ีระบุในแบบฯ ทางไปรษณีย์ ทงั นี กรมสรรพากรมีบริการเพือเป็ นทางเลือกให้กบั ผเู้ สียภาษที ีประสงคจ์ ะขอคืนเงนิ ภาษีทีชาํ ระไว้ เกินตามแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 , ภ.ง.ด.91 ตงั แต่ปี ภาษี 2558 โดยผมู้ ีเงนิ ไดท้ ีไดร้ ับคืนเงินภาษีสามารถเลือกใหส้ ่งเช็คคนื ภาษีทางไปรษณีย์ ด่วนพิเศษ (EMS) เสียค่าใชจ้ า่ ยฉบบั ละ 32 บาท โดยจะหกั จากเงินภาษีทีไดร้ ับคืน (ตอ้ งไดร้ ับคืนไม่นอ้ ยกวา่ คา่ บริการฝากส่ง) กรณีขอคืนภาษีทีชาํ ระไวเ้ กิน หากมิไดล้ งลายมือชือแจง้ ความประสงคจ์ ะขอคืนเงนิ ภาษีทีชาํ ระไว้ เกิน กรมสรรพากรจะยงั ไม่พจิ ารณาคืนเงินภาษที ีชาํ ระไวเ้ กินนนั
ขอ้ คิดสะกิดใจ ก่อนการยนื แบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดฯ้ (ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91) กรณีหักลดหยอ่ นค่าอปุ การะเลียงดูบิดามารดา ในการยนื แบบแสดงรายการภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา(ภ.ง.ด.90,91) กรณีใชส้ ิทธิหักลดหยอ่ น และการยกเวน้ เงินไดฯ้ พบขอ้ ผดิ พลาด การหักลดหยอ่ นค่าอุปการะเลียงดูบิดามารดา ดงั นี 1. หักลดหย่อนบดิ ามารดาซํา เนืองจากบุตรหลายคนร่วมกนั อปุ การะเลียงดู บดิ ามารดา ซึงกฎหมายใหส้ ิทธิหกั ลดหยอ่ น แก่บตุ รเพียงคนเดียวเท่านนั โดยใช้ แบบ ล.ย.03 ตวั อย่างเช่น บุตร 3 คน (ก. ข. และ ค. ) อปุ การะเลียงดูบิดามารดา ปี ภาษี 2552 ก. ใชส้ ิทธิหกั ลดหยอ่ นทงั บิดาและมารดา ส่วน ข. และ ค. จะไมส่ ามารถใชส้ ิทธิได้ หรือ ข. ใชส้ ิทธิหักลดหยอ่ นบิดา และ ค. ใชส้ ิทธิหกั ลดหยอ่ น มารดา ส่วน ก. จะไม่สามารถใช้ สิทธิได้ หมายเหตุ บตุ รแต่ละคนควรตกลงกนั ว่าใครจะเป็นผูใ้ ชส้ ิทธิ หากตกลงกนั ไมไ่ ด้ บตุ รผมู้ ี เงินไดท้ กุ คนไมม่ ีสิทธิหักลดหยอ่ น 2. บิดามารดาต้องมีอายตุ ังแต่ 60 ปี ขึนไป ตวั อย่างเช่น บิดามารดา เกิดปี พ.ศ. 2493 ปี ภาษี 2552 บิดามารดา มีอายุ 59 ปี ไม่ สามารถนาํ มาหักลดหยอ่ นได้
ตัวอย่างเช่น บิดามารดา เกิดปี พ.ศ. 2492 ปี ภาษี 2552 บิดามารดา มอี ายุ 60 ปี สามารถนาํ มาหักลดหยอ่ น 3. บิดามารดาต้องไม่มีเงินได้พงึ ประเมินในปี ภาษี ทีขอหักลดหย่อนเกนิ 30,000 บาท ขึน ไป ตัวอย่างเช่น ถา้ บิดามารดามีเงินไดพ้ งึ ประเมินคนละ 30,001 บาท ไม่สามารถนาํ มาหกั ลดหยอ่ นได้ ถา้ บิดามารดามเี งินไดพ้ งึ ประเมนิ คนละ 30,000 บาท สามารถนาํ มาหกั ลดหยอ่ นได้ ถา้ ตอ้ งการรายละเอียดเพิมเติมท่านสามารถเขา้ ไปในเวบ็ ไซต์ www.rd.go.th > อา้ งองิ > ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร > เกียวกบั ภาษีเงนิ ไดฉ้ บบั ที 136 “การหักลดหยอ่ น กรณีบริจาคเงินเพือสนบั สนุนการศกึ ษา และหลกั ฐานการใชส้ ิทธิยกเวน้ ภาษเี งิน ไดเ้ ป็นจาํ นวนสองเทา่ ” ในการยนื แบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา(ภ.ง.ด.90,91) พบขอ้ ผิดพลาด ในการใช้ สิทธิยกเวน้ ภาษเี งินไดเ้ ป็นจาํ นวนสองเทา่ ของรายจา่ ยทีจ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยเพือสนบั สนุนการศึกษา มีรายละเอียดขอ้ แนะนาํ ดงั นี การใชส้ ิทธิยกเวน้ ภาษเี งินไดเ้ ป็นจาํ นวนสองเท่า 1. ตอ้ งเป็นการบริจาคใหก้ บั สถานศกึ ษาตามรายชือสถานศกึ ษาทีกระทรวงศึกษาธิการประกาศ กาํ หนด และไมเ่ ป็นการบริจาคเพือแลกเปลียนผลประโยชน์ต่อผใู้ ดโดยเฉพาะ ตวั อยา่ งเช่น การจ่ายค่าเทอมของผมู้ ีเงินไดห้ รือบุตร การซือวสั ดอุ ปุ กรณ์ ตาํ ราเรียน ของผมู้ ี เงนิ ไดห้ รือบตุ ร หรือ ค่าเลา่ เรียนพเิ ศษบตุ ร เป็นตน้
2. เงนิ ทีบริจาคนาํ ไปยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ เป็นจาํ นวน 2 เทา่ ของรายจ่าย แต่ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละสิบ ของเงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน 3. การบริจาคใหแ้ ก่สถานศึกษา ตอ้ งเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยสาํ หรับรายการ ดงั ต่อไปนี 3.1 จดั หาหรือจดั สร้างอาคาร อาคารพร้อมทีดิน หรือทีดิน ใหแ้ ก่ สถานศึกษาเพือใช้ ประโยชน์ทางการศึกษา 3.2 จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์เพอื การศึกษา แบบเรียน ตาํ รา หนงั สือวชิ าการ สือ และเทคโนโลยี เพอื การศกึ ษาตลอดจนวสั ดอุ ุปกรณ์อืนๆ ทีเกียวขอ้ ง กบั การศึกษา 3.3 จดั หาครู อาจารย์ หรือผทู้ รงคณุ วฒุ ิทางการศึกษา การประดิษฐ์ การพฒั นา การคน้ ควา้ หรือการวิจยั สาํ หรับนกั เรียน นิสิต หรือ นกั ศึกษาของสถานศึกษา 4. ตอ้ งมีหลกั ฐานจากสถานศึกษา เป็นใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาเท่านัน โดย “ สถานศกึ ษาตอ้ งระบุ คาํ วา่ “เงินบริจาคเพือ.... 3.1, 3.2, 3.3 เพอื สนบั สนุนการศึกษา ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที 420) พ.ศ. 2547 ” ซึงใหเ้ ป็ นส่วนกลางของ สถานศึกษา นนั 5. หากเป็นการบริจาคใหแ้ ก่สถานศึกษา โดยมีวตั ถุประสงค์ ทีนอกเหนือจาก ขอ้ 3.1 3.2 และ 3.3 ใหน้ าํ ไปหกั ลดหยอ่ นได้ ตามมาตรา 47(7)(ก) แห่งประมวลรษั ฎากร ท่านสามารถคน้ หารายชือสถานศกึ ษาตามขอ้ 1 จากเวบ็ ไซต์ กรมสรรพากร www.rd.go.th > กฎหมายภาษี > ประมวลรัษฎากร >ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร แลว้ คลิกทีรายชือสถานศึกษาทีกระทรวงศึกษาธิการประกาศ หรือสอบถามไดท้ ีสํานกั งานสรรพากร พนื ที(ทกุ พนื ที)/สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา(ทุกสาขา) สาํ หรับพระราชกฤษฎีกา จากเวบ็ ไซต์ กรมสรรพากร www.rd.go.th > กฎหมายภาษี > ประมวลรัษฎากร > พระราชกฤษฎีกา (ฉบบั ที 420) พ.ศ. 2547 ซึงแกไ้ ขเพมิ เติม (ฉบบั ที 476) พ.ศ. 2551
“กรณีการหักลดหยอ่ นการอุปการะเลียงดูคนพิการและคนทพุ พลภาพ” ผมู้ ีเงินไดห้ กั ค่าลดหยอ่ นคา่ อุปการะเลียงดูคนพิการหรือคนทพุ พลภาพไดค้ นละ 60,000 บาท ตามรายละเอยี ด ดงั นี 1. ความสัมพนั ธ์กบั ผ้มู เี งนิ ได้ (1) เป็ นบิดามารดาของผูม้ ีเงินได้ (2) เป็ นบิดามารดาของสามีหรือภริยาของผมู้ ีเงินได้ (3) เป็ นสามีหรือภริยาของผมู้ เี งินได้ (4) เป็ นบตุ รชอบดว้ ยกฎหมายหรือบุตรบญุ ธรรมของผมู้ ีเงินได้ (5) เป็ นบตุ รชอบดว้ ยกฎหมายของสามหี รือภริยาของผมู้ ีเงินได้ (6) เป็ นบุคคลอืนทีไม่ไดม้ ีความสัมพนั ธก์ บั ผมู้ ีเงนิ ไดต้ าม (1) – (5) แต่ผูม้ ีเงินไดเ้ ป็นผู้ อุปการะเลียงดู ผมู้ ีเงินไดน้ าํ มาลดหยอ่ นได้ 1 คน 2. หลกั เกณฑ์และองค์ประกอบการหกั ลดหย่อนค่าอุปการะเลียงดคู นพกิ าร หลกั เกณฑก์ ารเป็นคนพกิ ารทีผมู้ ีเงินไดจ้ ะหกั ลดหยอ่ นค่าอุปการะเลียงดูคนพิการได้ (1) คนพกิ ารตอ้ งมีบตั รประจาํ ตวั คนพิการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร (2) เป็ นบคุ คลทีมีความสัมพนั ธ์กบั ผูม้ ีเงินไดต้ าม 1 (3) ผมู้ เี งินไดเ้ ป็นผอู้ ุปการะเลียงดู และมีชือเป็นผดู้ ูแลคนพิการในบตั รประจาํ ตวั คนพิการ (4) คนพกิ ารมีเงินไดพ้ งึ ประเมินไม่เกิน 30,000 บาท ในปี ภาษีทีผมู้ เี งนิ ไดใ้ ชส้ ิทธิหกั ลดหยอ่ น (ไมร่ วมเงินไดท้ ีไดร้ ับยกเวน้ ตามมาตรา 42) (5) คนพกิ ารตอ้ งมีเลขประจาํ ตวั ประชาชน 13 หลกั (6) กรณีคนพิการมีผอู้ ุปการะเลียงดูหลายคน ใครเป็นผมู้ ีสิทธิหกั ลดหยอ่ นนนั ใหด้ ูวา่ ผมู้ ีเงินได้ คนใดมีชือเป็ นผดู้ ูแลในบตั รประจาํ ตวั คนพิการ ผูม้ ีเงินไดค้ นนนั เป็นผมู้ ีสิทธิหักลดหยอ่ น
3. หลกั เกณฑ์และองค์ประกอบการหกั ลดหย่อนค่าอุปการะเลียงดคู นทพุ พลภาพ กรณีคนทุพพลภาพทีผมู้ ีเงินไดซ้ ึงอุปการะเลียงดคู นทุพพลภาพจะนาํ มาหกั ลดหยอ่ นภาษไี ดต้ อ้ งมี องคป์ ระกอบดงั นี (1) ตอ้ งมีใบรับรองแพทยท์ ีไดต้ รวจ และแสดงความเห็นวา่ บุคคลนัน มภี าวะจาํ กดั หรือขาด ความสามารถ ในการประกอบกิจวตั รหลกั อนั เป็นปกต ◌ิเยียงบคุ คลทวั ไปอนั เนืองมาจาก สาเหตุ ทางปัญหาสุขภาพ หรือความเจ็บป่ วยทีเป็นต่อเนือง มาไม่นอ้ ยกวา่ 180 วนั หรือทพุ พลภาพ มาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ 180 วนั (2) บคุ คลทุพพลภาพตอ้ งมเี งินไดพ้ งึ ประเมินไม่เกิน 30,000 บาท ในปี ภาษีทีผมู้ ีเงินไดใ้ ช้ สิทธิ หักลดหยอ่ น (ไมร่ วมเงินไดท้ ีไดร้ ับยกเวน้ ตามมาตรา 42) (3) บุคคลทพุ พลภาพตอ้ งมเี ลขประจาํ ตวั ประชาชน 13 หลกั (4) ผมู้ ีเงินไดต้ อ้ งมหี นงั สือรับรองการเป็นผอู้ ปุ การะเลียงดูคนทุพพลภาพ 4. การรับรองและหลักฐานกรณคี นทพุ พลภาพ กรณีคนทุพพลภาพทีผมู้ ีเงินไดอ้ ุปการะเลียงดูจะนาํ มาหกั ลดหยอ่ นได้ หลักฐานทีแสดงวา่ เป็น คนทพุ พลภาพคอื ใบรับรองแพทย์ กรณีหกั ลดหยอ่ นคนทุพพลภาพ นอกจากหลกั ฐานใบรับรองแพทยแ์ ลว้ ผูม้ ีเงินไดต้ อ้ งมหี นงั สือ รับรอง การเป็นผูอ้ ุปการะ เลียงดูคนพกิ าร ทีรับรองวา่ ผมู้ ีเงินไดเ้ ป็นผอู้ ุปการะเลียงดูคนทุพพลภาพ ผู้รับรองต้องมคี วามสัมพันธ์กบั คนทุพพลภาพดงั นี - สามี ภริยา - บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย บุตรบุญธรรม หรือหลาน - บิดามารดา
- พนี อ้ งร่วมบิดามารดาเดียวกนั หรือร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกนั - ป่ ยู า่ ตายาย - ลงุ ป้านา้ อา ผ้รู ับรองอาจเป็ นบุคคลอืนกไ็ ด้ซึงได้แก่ - กาํ นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ในทอ้ งทีทีบุคคลทพุ พลภาพอยอู่ าศยั - บคุ คลทีเป็นสมาชิกองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถินในทอ้ งทีทีบคุ คลทพุ พลภาพอยอู่ าศยั 5. การใชส้ ิทธิและหลกั ฐานการหกั ลดหยอ่ น (1) การหักค่าอปุ การะเลียงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพให้หกั ไดต้ ลอดปี ภาษี ไมว่ า่ กรณีทีจะหกั ไดน้ นั จะมีอยตู่ ลอดปีภาษหี รือไม่ (2) กรณีผมู้ ีเงินไดม้ ิไดเ้ ป็นผอู้ ยใู่ นประเทศไทย ใหห้ ักลดหยอ่ นคา่ อุปการะเลียงดูคนพิการหรือ คนทุพพลภาพไดเ้ ฉพาะคนพกิ าร หรือคนทุพพลภาพทีเป็นผอู้ ยใู่ นประเทศไทย (3) กรณีผมู้ ีเงินไดห้ กั ลดหยอ่ นค่าอปุ การะเลียงดูคนพกิ าร และคนพกิ ารดงั กลา่ วกย็ งั เป็น ผทู้ พุ พลภาพดว้ ยการใชส้ ิทธิหักค่าลดหยอ่ น ใหห้ กั ไดใ้ นฐานะเป็นคนพิการฐานะเดียว (4) หลกั ฐานในการหกั ค่าลดหย่อน ผมู้ ีเงินไดท้ ีใชส้ ิทธิหกั ค่าลดหยอ่ น อปุ การะเลียงดูคนพกิ าร คนทุพพลภาพตอ้ งยนื แบบ ล.ย.04 พร้อมหลกั ฐานดงั ตอ่ ไปนี พร้อมกบั การยนื แบบแสดงรายการ ภาษี - กรณีหักลดหยอ่ นค่าอปุ การะเลียงดูคนพกิ าร ใหแ้ นบภาพถา่ ยบตั รประจาํ ตวั คนพกิ าร โดยแนบใน ส่วนทีแสดงว่า ผมู้ ีเงินไดเ้ ป็นผดู้ ูแลดว้ ย - กรณีหกั ลดหยอ่ นค่าอุปการะเลียงดูคนทพุ พลภาพใหแ้ นบ (ก) ใบรับรองแพทย์ (ข) หนงั สือรับรองการเป็นผอู้ ุปการะเลียงดูคนทพุ พลภาพ (แบบ ล.ย.04-1) (5) กรณีผมู้ ีเงินไดซ้ ึงเป็ นผมู้ สี ิทธิหกั ลดหยอ่ น ค่าอุปการะเลียงดูบุตรซึงเป็นคนพกิ ารหรือ คน ทพุ พลภาพ เป็นสามีหรือภริยา และความเป็นสามภี ริยาไดม้ ีอยตู่ ลอดปี ภาษีโดยภริยามีเงินไดต้ าม
มาตรา 40(1) และแยกยนื แบบตา่ งหาก จากสามีให้สามีภริยาตา่ งฝ่ายต่างหกั ลดหยอ่ นไดค้ นละ 30,000 บาท ต่อบตุ รทีพกิ าร หรือทุพพลภาพนนั โดยสามีภริยาตอ้ งแนบหลกั ฐานดงั นี - ภาพถ่ายแบบ แบบ ล.ย.04 ของผมู้ ีเงินได้ ซึงสามีหรือภริยาของผมู้ ีเงินได้ ไดล้ งลายมือชือรับรอง - ภาพถา่ ยบตั รประจาํ ตวั คนพกิ าร / ใบรับรองแพทยแ์ ละหนงั สือการอุปการะเลียงดู คนพกิ าร (ล.ย.04-1) ถา้ ตอ้ งการรายละเอยี ดเพิมเติมทา่ นสามารถเขา้ ไปในเวบ็ ไซต์ https://www.rd.go.th > กฎหมายภาษี > ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร > เกียวกบั ภาษเี งินไดฉ้ บบั ที 182 https://www.rd.go.th > กฎหมายภาษี > ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร > เกียวกบั ภาษเี งินไดฉ้ บบั ที 193 “หลกั เกณฑก์ ารยกเวน้ การหกั ค่าลดหยอ่ นเบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ” การยกเวน้ ภาษีเงินไดส้ าํ หรับการประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ เป็นการเพิมเติมค่าลดหยอ่ นเบียประกนั ชีวติ ทีมีอยแู่ ลว้ ตามปกติ 100,000 บาท เพิมขึนอีก 200,000 บาท ซึงวงเงินทีเพมิ ขึนตอ้ ง ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินไดพ้ ึงประเมนิ แตเ่ มือรวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ หรือ เงนิ สะสมเขา้ กองทนุ บาํ เหนจ็ บาํ นาญขา้ ราชการ หรือเงินสะสมเขา้ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน แลว้ แตก่ รณีหรือเงินค่าซือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพือการเลียงชีพตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ ตอ้ งไมเ่ กิน 500,000 บาท ในปี ภาษีเดียวกนั หลกั เกณฑ์การยกเว้นเงินได้สําหรับการประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ (1) เป็ นกรมธรรมป์ ระกนั ชีวิตแบบบาํ นาญมีกาํ หนดเวลาตงั แต่ 10 ปี ขึนไป (2) ตอ้ งเอาประกนั ไวก้ บั ผรู้ ับประกนั ภยั ทีประกอบกิจการประกนั ชีวิตในไทย
(3) มีการกาํ หนดการจา่ ยผลประโยชนเ์ ป็นรายงวดอยา่ งสมาํ เสมอ จะจ่ายเทา่ กนั ทกุ งวดหรือจ่ายใน สดั ส่วนทีเพมิ ขึนตามระยะเวลาการเอาประกนั กไ็ ด้ โดยจะจ่ายตามการทรงชีพทีอาจมีการรับรอง จาํ นวนงวดในการจ่ายทีแน่นอน (4) มีการกาํ หนดช่วงอายขุ องการจ่ายผลประโยชน์เมือผมู้ ีเงินไดม้ ีอายตุ งั แต่ 55 ปี ขึนไป ถึงอายุ 85 ปี หรือกว่านนั และตอ้ งจา่ ยเบียประกนั ภยั ครบถว้ นแลว้ ก่อนไดร้ ับผลประโยชน์ ตัวอย่างการคาํ นวณฯ ที 1 ตวั อยา่ งที 1 นาย ข. มีเงินไดป้ ี ละ 1,280,000 บาท จ่ายค่าเบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญปี ละ 143,500 บาท จ่ายเงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ 128,000 บาท และจ่ายคา่ ซือหน่วย ลงทุนในกองทุน RMF จาํ นวน 121,000 บาท นาย ข. สามารถหกั คา่ ลดหยอ่ นและยกเวน้ ภาษีไดด้ งั นี (1) คาํ นวณยอดการใชส้ ิทธิหกั ไมเ่ กินร้อยละ 15 ของเงนิ ได้ แลว้ พกั ไว้ = 1,280,000 x 15 % = 192,000 (2) นาย ข. จ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ 143,500 บาท ใหไ้ ปใชส้ ิทธิหกั ประกนั ชีวติ ปกติ ก่อน (10,000 + 90,000) = 100,000 บาท ส่วนทีเหลอื นาํ ไปใชส้ ิทธิคา่ ลดหยอ่ นประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ 43,500 บาท (143,500 - 100,000) (3) นาํ ยอดค่าเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญทีเหลอื 43,500 บาท เทียบกบั วงเงนิ ตาม 1. พบวา่ ไม่เกิน 192,000 บาท (15 % ของเงนิ ไดแ้ ละไมเ่ กิน 200,000 บาท) (4) นาํ ยอดคา่ ประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญทีเหลอื ไปรวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ และ เงินคา่ ซือหน่วยลงทนุ ในกองทนุ RMF แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท = 43,500 +
128,000 + 121,000 = 292,500 บาท นาย ข. สามารถนาํ เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญไปหกั เป็นเบียประกนั ชีวติ แบบปกติ 100,000 บาท และหกั เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญไดอ้ กี 43,500 บาท ตัวอย่างการคํานวณฯ ที 2 ตวั อยา่ งที 2 นาย ง. มีเงินไดป้ ี ละ 1,350,000 บาท จ่ายคา่ เบียประกนั ชีวิตแบบตลอดชีพปี ละ 120,000 บาท ค่าเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญปี ละ 250,000 บาท จ่ายเงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ 135,000 บาท และจ่ายค่าซือหน่วยลงทุนในกองทนุ RMF จาํ นวน 100,000 บาท นาย ง. สามารถหักค่าลดหยอ่ นและยกเวน้ ภาษีไดด้ งั นี (1) คาํ นวณยอดการใชส้ ิทธิหกั ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงนิ ได้ แลว้ พกั ไว้ = 1,350,000 x 15 % = 202,500 บาท (2) นาย ง. จ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบตลอดชีพ 120,000 บาท ใหน้ าํ เบียประกนั ชีวติ แบบ ตลอดชีพไปใชส้ ิทธิหักเบียประกนั แบบปกติก่อน 100,000 บาท ส่วนทีเกิน 100,000 บาท (20,000 บาท) ตดั ทิงเพราะหกั เบียประกนั ชีวติ แบบปกตคิ รบถว้ นแลว้ (3) นาํ ยอดเบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญทีจา่ ยจริง 250,000 บาท เทียบกบั วงเงินตาม 1. พบวา่ เกิน 15% (202,500 บาท) และเกิน 200,000 บาท จึงสามารถใชส้ ิทธิหัก ลดหยอ่ นไดเ้ ตม็ 200,000 บาท (4) นาํ ยอดค่าเบียประกนั ภยั แบบบาํ นาญทีสามารถหกั ไดต้ าม 3. ไปรวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทุน สาํ รองเลียงชีพและเงินค่าซือหน่วยลงทนุ ในกองทุน RMF แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท = 200,000 + 135,000 + 100,000 = 435,000 บาท พบวา่ ไมเ่ กิน
นาย ง. สามารถหกั เบียประกนั ชีวติ แบบตลอดชีพได้ 100,000 บาท และหกั เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญได้ 200,000 บาท ตวั อย่างการคํานวณฯ ที 3 ตวั อยา่ งที 3 นาย ก. มีเงินไดม้ ีเงินไดท้ กุ ประเภทภาษีรวมทงั ปี เท่ากบั 3,400,000 บาท ไดซ้ ือ ประกนั ชีวติ แบบสะสมทรัพยข์ องตนเองไวร้ วมปีละ 60,000 บาท ไดซ้ ือประกนั ชีวติ แบบ บาํ นาญไว้ 300,000 บาท และซือหน่วยลงทนุ RMF ไวใ้ นปี เดียวกนั ถึง 360,000 บาท นาย ก. สามารถหกั ลดหย่อนเบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญไดด้ งั นี (1) คาํ นวณยอดการใชส้ ิทธิหกั ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงนิ ได้ แลว้ พกั ไวม้ เี งินไดท้ งั ปี 3,400,000 บาท ไม่เกินร้อยละ 15 มีเพดานสูงสุดเทา่ กบั = 3,400,000 X 15% = ไมเ่ กิน 510,000 บาท (2) นาย ก. จ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 60,000 บาท ใหน้ าํ เบียประกนั ไปใชส้ ิทธิหัก เบียประกนั ชีวติ ปกตกิ ่อน 60,000 บาท คงเหลืออีก 40,000 บาท (100,000 - 60,000 = 40,000 ) จึงนาํ เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญมาใชส้ ิทธิใหค้ รบ 100,000 บาท (3) นาย ก. จ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ 300,000 บาท คงเหลืออีก 260,000 บาท (300,000 - 40,000) นาํ มาเปรียบเทียบกบั ตาม 1. พบวา่ ไม่เกิน จึงสามารถใชส้ ิทธิหักเบีย ประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญไดเ้ ตม็ 200,000 บาท (4) นาํ เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ 200,000 บาท ไปรวมกบั เงนิ คา่ ซือหน่วยลงทุน RMF 360,000 บาท = 560,000 (200,000 + 360,000) ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท พบวา่ เกินวงเงินทีสามารถหกั ไดร้ วม 60,000 บาท (560,000 - 500,000 = 60,000)
(5) นาํ สิทธิทีสามารถหักเบียประกนั แบบบาํ นาญตาม 3. 200,000 บาท มาหกั กบั วงเงินที เกินสิทธิหกั ได้ 60,000 บาท คงเหลือสิทธิทีหักไดจ้ ริง 140,000 บาท (200,000 – 60,000 = 140,000 บาท ) นาย ก. สามารถหกั ลดหย่อนเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญได้ 180,000 บาท โดยนาํ ไปหกั ลดหยอ่ นในส่วนของเงนิ ประกนั ชีวิตปกติ 40,000 บาท รวมกบั เบียประกนั ชีวิตแบบสะสม ทรัพย์ 60,000 บาท รวมเป็นเบียประกนั ชีวิตปกติ 100,000 บาท และในส่วนของเบีย ประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญอีก 140,000 บาท ตวั อย่างการคาํ นวณฯ ที 4 ตวั อยา่ งที 4 นาย จ. มีเงินไดป้ ี ละ 1,280,000 บาท จ่ายคา่ เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญปี ละ 143,500 บาท จ่ายเงินสะสมเขา้ กองทุนสาํ รองเลียงชีพ 128,000 บาท และจ่ายคา่ ซือหน่วย ลงทนุ ในกองทุน RMF จาํ นวน 121,000 บาท สมรสกบั นาง เอ. มีเงินไดป้ ี ละ 1,100,000 บาท ซึงไดจ้ ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญปี ละ 140,000 บาท จ่ายเงนิ สะสม เขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ 120,000 บาท และจ่ายค่าซือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF จาํ นวน 100,000 บาท นาง เอ. ใชส้ ิทธิแยกยนื เสียภาษี นาย จ. และนาง เอ. สามารถหกั ค่าลดหยอ่ นและ ยกเวน้ ภาษีไดด้ งั นี การคาํ นวณของ นาย จ. (1) คาํ นวณยอดการใชส้ ิทธิหกั ไมเ่ กินร้อยละ 15 ของเงินได้ แลว้ พกั ไว้ = 1,280,000 x 15 % = 192,000 (2) นาย จ. จ่ายเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญ 143,500 บาท ใหไ้ ปใชส้ ิทธิหกั ประกนั ชีวติ ปกติ กอ่ น (10,000 + 90,000) = 100,000 บาท
ส่วนทีเหลือนาํ ไปใชส้ ิทธิคา่ ลดหยอ่ นประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ 43,500 บาท (143,500 - 100,000) (3) นาํ ยอดค่าเบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญทีเหลอื 43,500 บาท เทียบกบั วงเงนิ ตาม 1. พบวา่ ไม่เกิน 192,000 บาท (15 % ของเงนิ ไดแ้ ละไมเ่ กิน 200,000 บาท) (4) นาํ ยอดค่าประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญทีเหลือ ไปรวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ และ เงนิ ค่าซือหน่วยลงทนุ ในกองทุน RMF แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท = 43,500 + 128,000 + 121,000 = 292,500 บาท การคาํ นวณของ นางเอ. (1) คาํ นวณยอดการใชส้ ิทธิหกั ไมเ่ กินร้อยละ 15 ของเงนิ ได้ แลว้ พกั ไว้ = 1,100,000 x 15 % = 165,000 (2) นาย เอ. จ่ายเบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ 140,000 บาท ใหไ้ ปใชส้ ิทธิหักประกนั ชีวติ ปกติก่อน (10,000 + 90,000) = 100,000 บาท ส่วนทีเหลอื นาํ ไปใชส้ ิทธิคา่ ลดหยอ่ นประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ 40,000 บาท (140,000 - 100,000) (3) นาํ ยอดคา่ เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญทีเหลอื 40,000 บาท เทียบกบั วงเงนิ ตาม 1. พบวา่ ไมเ่ กิน 165,000 บาท (15 % ของเงินไดแ้ ละไมเ่ กิน 200,000 บาท) (4) นาํ ยอดค่าประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญทีเหลอื ไปรวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ สาํ รองเลียงชีพ และ เงนิ ค่าซือหน่วยลงทุนในกองทนุ RMF แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 500,000 บาท = 40,000 + 120,000 + 100,000 = 260,000 บาท
นาย จ. สามารถนาํ เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญไปหกั เป็นเบียประกนั ชีวิตแบบปกติ 100,000 บาทและหกั เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญไดอ้ ีก 43,500 บาท นาย เอ. สามารถนาํ เบียประกนั ชีวิตแบบบาํ นาญไปหกั เป็นเบียประกนั ชีวติ แบบปกติ 100,000 บาท และหกั เบียประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญไดอ้ ีก 40,000 บาท
เขี ยนโดย อเลสซานดรา มอนเตซ ภาพประกอบโดย ไดแอนนา วิ กเกอร แมน
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: