ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ “สร้างสรรคง์ านเกา้ อี้” ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 The Chair DIY ประกอบการเรยี นวชิ าการงานอาชพี ฯ (งานชา่ ง) นางสาววรรณภา เอย่ี มสมบตั ิ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการ โรงเรยี นปทมุ วไิ ล จงั หวดั ปทุมธานี สังกดั สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 4
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง งานชา่ ง ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานรว่ มกัน และทักษะการ แสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะนสิ ัยในการทางาน มจี ติ สานึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดลอ้ ม เพื่อการดารงชวี ิตและครอบครัว ตัวช้ีวดั 1. อภปิ รายข้ันตอนการทางานทม่ี ปี ระสิทธิภาพ 2. ใช้ทักษะในการทางานร่วมกันอย่างมีคุณภาพ 3. อภปิ รายการทางานโดยใช้ทักษะการจดั การเพ่ือการประหยดั พลงั งาน ทรัพยากร และ สิ่งแวดลอ้ ม 2. จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตัวชี้วดั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกวิธีการใช้เครื่องมอื ช่างกบั งานชา่ งแต่ละประเภทได้ 2. สร้างชน้ิ งานโดยออกแบบและใช้เครอ่ื งมอื ช่างอย่างถกู ต้องและเหมาะสม 3. ปฏิบัติใช้งานเคร่ืองมือชา่ งด้วยความระมดั ระวงั ไมป่ ระมาท 4. มีระเบียบวินยั ในการใช้เครอ่ื งมือช่างกับงานชา่ งแตล่ ะประเภท 5. ปฏิบตั ิงานกลุม่ ร่วมกันอย่างระมดั ระวัง คานงึ ถึงความปลอดภัย
บัตรกจิ กรรมที่ 1 ทดสอบกอ่ นเรียน
บัตรกิจกรรมท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง งานชา่ งพน้ื ฐาน วิชา การงานอาชพี (ง23102) กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพฯ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที คาชี้แจง ใหเ้ ลอื กคาตอบทถ่ี ูกทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดยี วแลว้ ทาเครอื่ งหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ 1.การปฎบิ ัตงิ านช่างช้อใดสาคญั ทสี่ ุด ก. เพ่อื ยืดอายุการใชง้ านของผลติ ภณั ฑ์ ข. ปฏบิ ตั ิงานช่างดว้ ยความรวดเร็ว ค. ใชเ้ คร่ืองมอื ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะงาน ง. คานงึ ถึงความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ านช่าง 2. ข้อใดกลา่ วถึงงานชา่ งในบ้านได้ถูกตอ้ งทส่ี ุด ก. การใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ข. การฝกึ ความอดทนในการปฏิบัติงานช่าง ค. การใช้ความรู้ ความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานชา่ ง ง. การซอ่ มแซมผลติ ภัณฑท์ าให้ใชง้ านได้ยาวนานมากขึ้น 3. คุณสมบตั เิ บ้อื งต้นของผปู้ ฏบิ ัตงิ านชา่ งที่ดคี อื ขอ้ ใด ก. มคี วามรูเ้ รื่องเทคโนโลยี ข. มีความรเู้ รอื่ งการอ่านแบบ ค. มที ักษะกระบวนการทางานชา่ งแต่ละสาขา ง. มีทัษะการใชเ้ ครอื่ งมอื ของงานชา่ งแตล่ ะสาขา 4.ประโยชน์ของการปฏบิ ัติงานช่างในบา้ นในข้อใด ตรงกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ก. เกิดอาชีพสจุ ริต ข. มีความประหยดั ค. เกิดสงั คมรีไซเคิล ง. มีความพอเพยี งและมคี วามสขุ
บตั รกิจกรรมท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง งานชา่ งพน้ื ฐาน วิชา การงานอาชีพ (ง23102) กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี ฯ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที 5. ในการปฏบิ ตั ิงานช่างในบ้าน หากใช้เคร่ืองมอื ผิดประเภทอาจจะสง่ ผลตอ่ ไปน้ี ยกเวน้ ข้อใด ก.ทาให้เกดิ อุบตั เิ หตุ ข.ช้นิ งานเสรจ็ รวดเร็ว ค.เครือ่ งมือชารดุ เสยี หาย ง.ชน้ิ งานเกดิ ความเสียหายหรอื เกดิ อันตรายได้ 6.การวเิ คราะห์งานในกระบวนการทางานช่างในบา้ นมผี ลอยา่ งไร ก.เปน็ การรวบรวมข้อมูล ข.เปน็ การป้องกนั ปัญหาในการทางาน ค.เป็นขอ้ มลู ในการวางแผนการปฏิบตั งิ าน ง.เป็นแนวทางการจดั เตรียมเครอ่ื งมอื วัสดอุ ปุ กรณ์ 7.การติดตั้งหรอื ประกอบผลิตภัณฑต์ อ้ งใชส้ ่งิ ใดชว่ ยจึงจะเป็นไปตามรูปแบบทถี่ ูกตอ้ ง ก.นอตสกรู ข.คูม่ อื แนะนา ค.อุปกรณ์เสรมิ ง.ความรทู้ างช่าง 8.กระบวนการตดิ ต้ังหรอื ประกอบผลติ ภณั ฑ์ 7 ขน้ั ตอน เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ สามารถนาไป ทาสงิ่ ใดจงึ จะไดป้ ระโยชนม์ ากทีส่ ุด ก.นาไปประกอบอาชพี ข.บารุงรกั ษาผลติ ภัณฑ์ ค.ใช้ศึกษาต่อระดับสงู ขึน้ ง.นาไปซอ่ มแซมผลิตภณั ฑ์
บตั รกิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง งานช่างพ้ืนฐาน วิชา การงานอาชีพ (ง23102) กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพฯ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 คะแนนเตม็ 10 คะแนน จานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที 9. เครือ่ งมอื ชา่ งตามขอ้ ใดทีใ่ ชส้ าหรบั ถอนและตดั หวั ตะปเู ล็กๆ และใช้ตดั และผูกลวด ก. คมี ปากนกแก้ว ข. สายวดั ค. ไขควง ง. เลื่อย 10. การท่ดี ูแลให้เคร่อื งมือมคี วามพร้อมใชง้ านได้ตลอดเวลา และยืดอายุการใช้งานใหย้ าวนานขน้ึ อยู่ กับข้อใด ก. การใช้งาน ข. การบารงุ รกั ษา ค. การซ้อื ใหม่ ง. การใหผ้ ้อู ่นื ยืม
กระดาษคาตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ช่อื -สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... ขอ้ ตวั เลือก ง ก ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ 10
บตั รกจิ กรรมที่ 2 ศึกษาเนอื้ หา
บัตรกิจกรรมท่ี 2 ศกึ ษาเนอื้ หา เร่อื ง งานชา่ งพืน้ ฐาน ปัจจุบนั การดารงชวี ติ ของมนุษย์ทกุ คนตอ้ งการความเป็นอยู่ทีอ่ บอนุ่ มคี วามสขุ และปลอดภัย ดังน้ันทุก ๆ คนต่างก็พยายามใฝ่หาส่ิงอานวยความสะดวกต่าง ๆ เพ่ือให้คนใดครอบครัวมีความสุข และสงิ่ เหล่านั้นก็คอื เครอื่ งใช้ อปุ กรณใ์ นบา้ น ซ่ึงการใช้เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้านให้ถูกวิธี และมีอายุ การใช้งานได้นานนั้น ผู้ใช้จะต้องมคี วามรู้ ความเข้าใจในเรื่องการใช้เคร่ืองใช้ อุปกรณ์ในบ้านอย่างถูก วิธี เชน่ การบารงุ รกั ษา การซ่อมแซม การตดิ ตั้ง เปน็ ตน้ ความรู้เบ้อื งต้นกบั งานช่าง งานช่างในบ้าน เป็นงานชา่ งพื้นฐานท่สี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันซ่ึงสามารถ เรียนรู้และทาได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะการติดต้ังและประกอบผลิตภัณฑ์ การซ่อมแซม การ บารุงรักษาเครื่องใช้และเครื่องอานวยความสะดวกในบ้าน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ช่วย ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยเป็นการใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และคานงึ ถึงความปลอดภัย งานชา่ ง คอื การใช้ การเลอื กใช้ การประกอบและตดิ ต้งั ผลิตภัณฑื รวมทงั้ การบารงุ รกั ษา ซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรงุ แกไ้ ข การสรา้ งหรอื ผลติ ช้ินงาน ฯลฯ เครื่องมือช่าง เป็นองค์ประกอบที่สาคัญสาหรบั การทางานช่างในบ้านดว้ ยตนเอง จะสง่ ผลให้ไดง้ านที่ มีคุณภาพ ช่วยประหยดั เวลา แรงงานและคา่ ใชจ้ ่ายในการตดิ ตง้ั และสามารถประกอบผลิตภัณฑไื ด้ เปน็ อย่างดี งานช่าง มีมาควบคู่กับมนุษย์ตั้งแต่ในยุคต่าง ๆ ต้ังแต่ในยุคหิน ยุคโลหะ จนกระท่ังในยุค ปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ในด้านการดารงชีวิตและความสะดวก สบาย ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง ทง้ั ในดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์และเครอื่ งมือ กลายเปน็ อาชีพในสาขาต่าง ๆ งานช่างจึงมคี วามสาคญั เกี่ยวขอ้ งกบั การดาเนนิ กิจกรรมในชีวิตประจาวันของมนุษย์เป็นส่วน ใหญ่ การมีความรู้ความเข้าใจในงานช่างตลอดจนการมีทักษะงานช่าง สามารถปฏิบัติตามทักษะ กระบวนการทางช่างอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการดารงชีวิตประจาวันเป็น อยา่ งดี ท้งั ในเรือ่ งการเลอื กและการใช้วัสดสุ ่งิ ของเครอื่ งมอื เคร่อื งใช้ในบ้าน ศาสตร์ หมายถึง ตอ้ งใช้ความรู้ ความชานาญ และประสบการณ์ ศิลป์ หมายถึง ต้องมีความสวยงาม ประณตี ละเอยี ดออ่ น งานช่างจงึ ต้องใช้ทั้งสองอย่าง ควบคู่กนั จึงจะได้ผลงานทด่ี มี ปี ระโยชนแ์ ละสวยงามดว้ ย
ช่าง หมายถึง ผู้ชานาญในการฝีมือ หรือศิลปะอย่างใดอย่างหน่ึง งานช่าง หมายถึง การ ทางานหรือส่ิงที่เกิดจากการทางานของช่าง ซ่ึงมีหลายประเภท หลายสาขาผู้เป็นช่างจึงมักมีคา ต่อท้ายเพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานท่ีทา เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ ช่างปูน ช่าง โลหะ ช่างเขียนแบบ ช่างสี ช่างผม ช่างเสริมสวย เป็นต้น งานช่างยังหมายถึง การนาความรู้ พ้ืนฐานของวัสดุ อุปกรณ์และวิธีการทางานตลอดจน กระบวนการทางเทคโนโลยี ทรัพยากร พลังงานและส่ิงแวดล้อม มาใช้ในการบารุงรักษาซ่อมแซมติดตั้งและผลิตเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้โดยมี การวิเคราะห์ ออกแบบ วางแผน และลงมือปฏิบัติอย่างเป็นระบบ อีกท้ังมีการประเมินและ ปรับปรุงกระบวนการทางานเพอื่ ให้ได้ผลงานอยา่ งสร้างสรรค์และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน ชา่ งทด่ี ี นอกจากจะมคี วามรใู้ นงานของตนแล้ว ยังต้องมีฝีมมือหรือศิลปะในการทางานด้วยความรู้ เก่ียวกับงานช่างอาจได้จากการบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือจากการศึกษาเล่าเรียน ท้ังทางตรงและ ทางอ้อม ประสบการณ์ในการทางานของชา่ ง นอกจากจะสรา้ งเสรมิ ความรู้ของช่างแล้วยังช่วยให้มี ความชานาญในฝอื การทางาน (ท่ีมา: เอกสารประกอบการเรียนเร่อื งงานช่าง) ความหมายทกั ษะงานช่าง ทกั ษะ (Skill) หมายถึงความสามารถในการทางานไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว รวดเรว็ ถกู ตอ้ งแมน่ ยา และความชานาญในการปฏิบตั ิจนเป็นท่ีเช่ือถือและยอมรบั ของบคุ คล ท่วั ไป ช่าง (Handy man) หมายถึง ผทู้ ่ีมีความรูแ้ ละชานาญในงานหรือในศิลปะ อยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ในการสรา้ ง การผลติ การซอ่ มแซม บารุงรกั ษา การดดั แปลงแกไ้ ขวสั ดแุ ละ อปุ กรณต์ ่างๆ งานช่าง (Handicraft) หมายถงึ สงิ่ ท่ีเป็นผลเกดิ จากการทางานของชา่ ง งานชา่ ง แบง่ ออกไดห้ ลายสาขา เชน่ งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นตน้ ผเู้ ป็นช่าง จึงมกั มีคาตอ่ ทา้ ย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานท่ีทา เช่น ชา่ งเขียนแบบ ช่างไม้ ชา่ งปนู ชา่ งไฟฟา้ ช่างประปา ชา่ งโลหะ ช่างคอมพวิ เตอร์ เป็นตน้ ทกั ษะเชงิ ชา่ ง (Engineering skill) หรอื ทกั ษะปฏบิ ตั ิ หมายถึง ความสามารถหรือสมรรถนะในการใชเ้ ครื่องมือช่างพืน้ ฐาน เพื่อสามารถปรบั ปรุงซอ่ มแซม ตกแต่งบา้ นเรือน ท่ีอย่อู าศยั เครอื่ งใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ทักษะงานช่างในชวี ิตประจาวนั อาจกลา่ วไดว้ า่ เปน็ งานท่ีต้องใช้ทักษะที่เป็นพ้ืนฐานเก่ียวกับการสร้าง การ ผลิต การซ่อมแซม บารุงรักษา การดัดแปลงเครื่องใช้ในบ้าน ที่ทุกคนสามารถทาได้ด้วยตนเอง ส่วนใหญ่ เป็นงานเก่ียวกับการซ่อมแซมแก้ไขส่ิงของเครื่องใช้ในบ้านที่ชารุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่าย ๆ เช่น ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอ้ี ร้ัว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อ ประปา การดูแลบารุงรักษาเครือ่ งใช้ไม้สอยภายในบา้ น ดว้ ยตนเอง ตลอดถึงเครื่องยนต์กลไกและเครื่องมือ เครือ่ งใช้ทางเทคโนโลยตี ่าง ๆ เป็นต้น เพื่อการดารงชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข คณุ คา่ และความสาคัญของทกั ษะงานช่าง ทักษะงานช่างในชีวิตประจาวันเกี่ยวข้องกบั การใช้เครือ่ งมอื ช่าง เช่น การใช้ค้อน คีม ประแจ ตะใบ มีดหรอื คัตเตอร์ ขวาน ส่ิว ไขควง รวมทงั้ เครอื่ งมือทใี่ ช้ไฟฟ้าบางชนดิ เช่น สว่านไฟฟ้า เลื่อยไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากน้ันยังรวมไปถึงทักษะของการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งอาวุธ และพาหนะ เช่น รถจักยาน รถจัก ยานยนตร์ รถยนต์ เรอื ทใี่ ชเ้ ครอื่ งยนตข์ ับเคลอ่ื น และเครอื่ งมอื เครือ่ งใช้ทางเทคโนโลยี นอกจากน้ัน ยังเป็น การสง่ เสริมใหม้ สี มรรถนะในการจัดระบบความคดิ ในการแก้ปัญหาท่ีต้องใช้กลวิธีหรือเทคนิควิธีที่เหมาะสม อกี ดว้ ยความสามารถหรือสมรรถนะเชงิ ช่างน้ีจะถูกนามาใชเ้ มือ่ มปี ัญหาทตี่ อ้ งแกไ้ ข ในยามภาวะปกติอาจไม่ เห็นคุณค่าและความสาคัญ ทักษะเชิงช่างเป็นทักษะแฝงที่มีไว้แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน และเม่ือประสบ ภัยพบิ ัติ หรือยามฉุกเฉนิ เช่น ในสถานการนา้ ท่วมจะพบว่า ผู้ม่ีทักษะเชิงช่างสามารถแก้ปัญหาบ้านเรือนที่ ประสบภยั ได้ดกี วา่ ประหยดั กวา่ และมีประสทิ ธิภาพสูงกว่าผขู้ าดทักษะงานชา่ ง ประโยชนทไี่ ด้รับจากการปฏบิ ตั ิงานชา่ งในบา้ น 1. เปน็ การฝกึ ฝนการเรียนรูเ้ พ่ือเปน็ ชา่ งฝีมอื ต่อไปในอนาคต 2. เปน็ การตรวจสอบและซอ่ มแซมปรบั ปรงุ แก้ไขเครื่องมือ เครอื่ งใช้ วัสดุอปุ กรณ์ใหม้ สี ภาพการใช้งานได้ เปน็ อย่างดี เพื่อยดื อายุการใช้งาน 3. เปน็ การเรียนรู้เชงิ ประจกั ษใ์ นการใช้เครื่องมอื วัสดอุ ุปกรณ์ในงานช่างโดยตรงเพื่อการสรา้ งสรรคช์ ิน้ งาน ในชวี ติ ประจาวัน หรอื เพ่อื การประกอบอาชพี ต่อไป 4. สง่ เสรมิ การมจี ติ สานึกความปลอดภัยในการทางานได้เปน็ อย่างดี 5. ส่งเสริมการคดิ คดิ วเิ คราะหก์ ารแก้ปญั หา โดยการใช้งานชา่ งในการซ่อมแซม 6. สง่ เสรมิ การใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการซอ่ มแซม เครอื่ งมอื เคร่ืองใช้ในบา้ น 7. สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ ม โดยลดการใช้ทรัพยากรด้วยการซอ่ มแซม ประกอบ ของใช้ท่ีมีอยแู่ ลว้ ให้มีสภาพดที ดแทนการชอ้ื ใหม่
ประเภทของงานช่าง งานช่างท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั สามารถจาแนกได้ 4 ประเภทดงั นี้ 1.งานบารุงรักษา เปน็ งานท่ีตอ้ งใช้ความรู้ความสามารถเกี่ยวกบั หลักการวธิ ีการ ทางาน การดูแลบารงุ รกั ษา และข้อควรระวังในการใชเ่ ครอื่ งมือ เครื่องใช้ และอปุ กรณใ์ นบ้าน เชน่ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า เคร่ืองสุขภณั ฑ์ เฟอรน์ ิเจอร์ ใหส้ ามารถใช้งานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2.งานซ่อมแซม เปน็ งานท่ีตอ้ งใช้ความรู้ความสามรถเกีย่ วกับหลักการทางานของ เครอื่ งมอื เครื่องใช้ วัสดอุ ุปกรณ์ เพื่อตรวจสอบอปุ กรณ์ เครอื่ งใชใ้ นบ้านเมอ่ื มีการชารุดหรอื เสยี หาย 3. งานติดตัง้ เปน็ งานท่ีตอ้ งใชค้ วามรู้ความสามารถเกี่ยวกับหลักการทางานของ เครื่องมอื วัสดุ และอปุ กรณ์ เพื่อติดตงั้ เคร่อื งใช้ อปุ กรณ์ในบา้ นใหส้ ามารถใชง้ านได้ 4. งานผลติ เปน็ งานทีต่ ้องใชค้ วามร้คู วามสามารถและทกั ษะการใชเ้ คร่ืองมอื วัสดแุ ละ อปุ กรณ์ โดยมกี ารคดิ วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบชิ้นงานวิธกี ารทางานอยา่ งเปน็ กระบวนการ สามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครือ่ งมือ และผลิตชน้ิ งานได้ตามความตอ้ งการ
หลักการ วธิ กี าร และขัน้ ตอนในการทางานงานชา่ ง 1. หลักการทางานงานชา่ ง 1.1.มีความรูเ้ กย่ี วกับลกั ษณะสว่ นประกอบและประโยชน์ชองเครอื่ งมือเครื่องใช้ 1.2.มีความรเู้ กี่ยวกับหลักการทางาน การดแู ลรกั ษา และความปลอดภัยของเคร่อื งมอื 1.3.มคี วามรเู้ กีย่ วกับหลักการทางานและดแู ลรกั ษาวสั ดุ อปุ กรณใ์ นบ้าน 2. วิธีการทางานชา่ ง การทางานงานชา่ งทกุ ประเภทตอ้ งมีแนวทางการดาเนนิ งาน ดังน้ี 2.1 ศกึ ษาขอ้ มลู การทางานของเครอื่ งมอื เครอื่ งใช้ ศึกษาคาแนะนาหลกั ความปลอดภยั ในการ ทางาน 2.2.วางแผนการดาเนนิ งาน การบารงุ รักษา การซอมแซม การติดต้งั และการผลติ คานงึ ถึงการ ใช้เทคโนโลยี ทรพั ยากร พลงั งานและวธิ กี ารใชว้ ัสดุ อปุ กรณอ์ ยา่ งเหมาะสม 2.3.ปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนที่ได้วางแผนไว้ พร้อมทง้ั มกี ารตรวจสอบ และแก้ไขระหวา่ งท่ีปฏบิ ัติ จัดเก็บ บารงุ รกั ษาเครอ่ื งใช้ 2.4.ตรวจสอบและประเมินการทางานทกุ ขั้นตอน ตงั้ แต่ขั้นเตรียมการ ขัน้ ดาเนินการและหลัง ดาเนนิ การ 3. ข้นั ตอนการทางานช่าง 3.1.ขั้นเตรยี มการหรือขนั้ วางแผน เปน็ ข้นั ตอนศึกษาคมู่ อื การใช้และการทางานของ ส่วนประกอบทีต่ อ้ งมกี ารบารุงรักษา ผปู้ ฏิบตั ติ อ้ งวิเคราะห์วา่ เครือ่ งมอื เครื่องใช้แตล่ ะชนดิ มีปัญหา เชน่ ใด 3.2.ขน้ั ตอนดาเนนิ การหรอื ปฏบิ ตั ิ เป็นขนั้ ตอนการทางานตามทว่ี างแผนหรือเตรียมไว้ โดยผู้ ปฏบิ ัตจิ ะลงมอื ปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนท่กี าหมดไว้ มแี บบรายการอย่างไร 3.3.ข้นั ตรวจสอบ เป็นขน้ั ตอนการตรวจสอบหรือประเมนิ วธิ ีการทางานชา่ งว่ามขี ้อบกพร่อง หรือปญั หาท่สี ่วนใดเพือ่ แกไ้ ขปัญหาในการทางานให้มปี ระสิทธิภาพ 3.4.ขัน้ ปรบั ปรุงและพัฒนา เป็นขัน้ ตอนท่สี าคัญของการทางานช่าง เพราะขนั้ ตอนนเ้ี ปน็ การ นาผลการตรวจสอบหรอื ประเมนิ การทางานชา่ ง โดยนาขอ้ ดีหรือข้อเด่นมาพฒั นาให้ดีข้นั
หลักการจัดการงานชา่ ง การทางานกลุม่ ในองค์กรมุง่ เนน้ เปา้ หมายสาคัญคือความสาเร็จและคณุ ภาพของงาน เพอ่ื ให้การทางานบรรลเุ ป้าหมาย การจัดการจึงเปน็ สิ่งสาคญั ของการทางาน ดังน้นั การจะทางาน ช่างไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ผ้ปู ฏบิ ัตติ อ้ งมคี วามร้แู ละความเขา้ ใจในการจัดการงานช่าง ความหมายและความสาคัญของการจดั การ การจัดการ หมายถึง ความพยามของบคุ คลทีจ่ ะจัดระบบงาน (ทางานเป็นรายบคุ คล) และจัดระบบคน (ทาเปน็ รายกลุ่ม) ใหเ้ หมาะสม เพื่อให้การทางานสาเรจ็ ตามเปา้ หมายอย่างมี ประสิทธิภาพ กระบวนการจดั การงานชา่ ง 1.การวางแผนดาเนนิ การ เป็นความสามารถในการวางแผนวา่ จะใชก้ าลังคนในการทางานอย่างไร จานวนเท่าไร อปุ กรณ์อะไรบา้ ง 2.การแบง่ งาน เปน็ ความสามารถในการแจกแจงงานทจี่ ะทาวา่ เป็นงานประเภทใด ตอ้ งใช้ เครอ่ื งมอื วสั ดุ และอุปกรณ์อะไรบ้าง 3.การบรหิ ารบคุ คล เปน็ ความสามารถในการคัดเลอื กคนเข้าทางานได้เหมาะสมกับงาน สามารถ สรา้ งบรรยากาศในการทางานและสร้างแรงจูงใจ 4.การบริหารการเงินและวัสดุ เปน็ ความสามรถในการเตรยี มและจัดหา ตลอดจนควบคุม ตรวจสอบงบประมาณและวสั ดทุ ี่ได้วางแผนกอ่ นและหลังปฏบิ ตั ิ 5.การผลิต เป็นความสามารถในการปฏิบัตงิ านตามข้ันตอนทีไ่ ด้วางแผนไว้ และมกี ารควบคุม ตรวจสอบคณุ ภาพการผลติ 6.การจดั จาหน่ายและบรกิ าร เป็นการอานวยความสะดวกในการขนสง่ ผลผลิตหรอื ผลติ ภณั ฑ์จาก ผู้ผลิตไปสลู่ กู ค้า 7.การแกไ่ ขปญั หา เกิดจาการตรวจสอบคณุ ภาพในข้ันตอนการผลติ หรือปฏิบตั งิ านอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ
การประเมินผลการทางานงานงานช่าง 1.การประเมินกอ่ นการดาเนินงาน เปน็ การประเมินการวางแผนการทางานของ ผูป้ ฏบิ ตั ิงานว่ามีความร้คู วามเขา้ ใจในการทางาน ต้ังแต่วัตถุประสงค์ ทรพั ยากรท่ีใช้ มคี วาม เหมาะสมเพยี งพอหรอไม่ 2.การประเมินระหวา่ งการดาเนนิ งาน เปน็ การประเมนิ กระบวนการการทางานของ ผู้ปฏิบัติงาน ท้งั การทางานเปน็ รายบุคคล และการทางานกลุม่ ได้แก่ การวเิ คราะห์งาน การ ปฏิบตั งิ านตามข้ันตอน 3.การประเมินหลงั การดาเนนิ งาน เปน็ การประเมินความสาเร็จของงานหรือผลงาน เป็นไปตามเป้าหมายท่กี าหมดไว้หรือไม่ หรือเป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์
เครื่องมือช่างพื้นฐาน 1. คอ้ น ค้อนเป็นเครอ่ื งมอื ช่างขั้นพนื้ ฐานท่ีควรมตี ดิ ไว้ทุกบ้าน มีหลากหลายรปู แบบสาหรับการ ใชง้ านแต่ละประเภท ท้งั คอ้ นกลม ค้อนไม้ คอ้ นยาง และอ่นื ๆ แตค่ อ้ นทีค่ วรมีติดบ้าน คือเป็นคอ้ นหงอน เพราะใชท้ ั้งตอก ทุบ และสว่ นหวั ยังเป็นงา่ มใชถ้ อนตะปไู ดอ้ ีกดว้ ย 2. ไขควง เรยี กว่าเปน็ เครื่องมือชา่ งทไ่ี มม่ ไี มไ่ ด้ ไขควงมีหลากหลายขนาด ตั้งแตห่ ัวเลก็ จนถงึ หวั ใหญ่ ปากแบน ปากแฉกและอืน่ ๆ มไี ว้เพอื่ ขนั สกรใู หแ้ น่นหรือคลายสกรอู อก ทุกบ้าน ควรมีตดิ ไว้หลายขนาดเพื่อรองรับทุกการใชง้ าน 3. คัตเตอร์ ถอื วา่ เปน็ อกี หนึง่ เครื่องมือช่างทีห่ ยิบมาใชบ้ อ่ ย คตั เตอรม์ ีไวส้ าหรบั กรดี ตดั เซาะ สามารถเปลี่ยนใบมีดได้ แตต่ อ้ งใชอ้ ยา่ งระมดั ระวงั ไม่ใหบ้ าดมือ 4. ประแจเล่อื น งานขันเกลยี วน็อต หรอื ยดึ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ต้องประแจเลือ่ นเลย ถอื วา่ เป็นเครื่องมอื ช่างท่ี แตล่ ะบา้ นขาดไมไ่ ด้ ประแจเลอ่ื นมลี กั ษณะเป็นดา้ มยาวส่วนหวั มรี ปู ทรงพอดกี บั อุปกรณ์ ทาขน้ึ จากเหล็กกลา้ ทาให้แขง็ แรงทนทาน
เครือ่ งมือช่างพ้นื ฐาน 5. สวา่ นไฟฟ้า สวา่ นไฟฟา้ เป็นเคร่ืองมอื เจาะท่ใี ชร้ ่วมกบั ดอกสวา่ น ใชก้ าลงั ขบั จากมอเตอรไ์ ฟฟา้ ใช้ในการเจาะรู ในงานโลหะหรืองานไม้ ปจั จบุ ันสว่านไฟฟา้ เปน็ ทน่ี ยิ มใช้กันมากกวา่ สว่านชนดิ อ่ืน ๆ เพราะมคี วาม สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ประสทิ ธิภาพ การทางานสูง การใช้งาน ใช้เจาะรู เหมาะสาหรบั งาน ไม้ งานโลหะ งานก่อสรา้ ง ขอ้ ควรระวัง ไมค่ วรใชด้ อกสวา่ นผดิ ประเภท เช่น ดอกสว่านเจาะคอนกรีตไมค่ วรนาไปเจาะเหลก็ 6. ตลับเมตร ไมม่ ีไมไ่ ด้กบั เครอื่ งมือช่างขัน้ พน้ื ฐานท่ีตอ้ งมีตดิ บา้ น เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยวดั ขนาดสง่ิ ของ ใหค้ ่าท่ี แม่นยา วัดได้ยาว แถมยังทนทาน ขนาดกะทัดรัดจดั เกบ็ ง่ายอีกดว้ ย 7. คีมปากจระเข้ เป็นเครื่องมือช่างทแ่ี ข็งแรงทนทาน สามารถนาไปใช้งานไดห้ ลากหลาย เหมาะกบั การใช้งานในท่ี แคบ สามารถใชจ้ บั ชนิ้ งานขนาดเลก็ ตดั ลวดหรอื สายไฟได้ ข้อควรระวัง ไมค่ วรใชค้ มี ตดั โลหะทีม่ ขี นาดใหญห่ รือ หรอื แขง็ เกนิ ไป เมื่อเลกิ ใช้งานควรทา ความ สะอาดเกบ็ เขา้ ท่ี และหยอดํน้ามนั เสมอ
8. เทปพนั สายไฟ ถอื ว่าเป็นอีกหน่ึงเคร่ืองมืดช่างท่ีตอ้ งมตี ิดไวใ้ นบา้ นเพราะสามารถใช้ป้องกันสายไฟฟา้ ลัดวงจรได้ ดี โดยเทปพันสายไฟทด่ี ีจะเปน็ ฉนวนไฟฟา้ ท่ีดี ออ่ น เหนยี ว คงทน สามารถกันนา้ และความชืน้ ได้ดเี ยี่ยม อกี ทงั้ เมื่อพนั แล้วยงั แนบสนิทไปกบั สายไฟ 9. ปื นกาว สาหรับงานยึดตดิ วัสดขุ นาดเลก็ ระบนา้ หนักไมม่ าก ปืนกาวจึงเปน็ เครอ่ื งมืดช่างท่ตี อบโจทย์ มลี กั ษณะคล้ายปนื ชว่ ยให้ติดกาวร้อนในบรเิ วณท่ตี อ้ งการไดส้ ะดวก รวดเรว็ แถมยงั เหนยี ว ยึดตดิ ยาวนาน นอกจากใชก้ บั งานประดิษฐต์ า่ งๆ แล้ว ยงั ชว่ ยในการยึดตดิ วัสดตุ ่างๆ ได้อีก ด้วย เช่น ผา้ ไม้ พลาสตกิ กลอ่ ง เปน็ ต้น 10. ถุงมอื ผ้า เพื่อความปลอดภยั ถงุ มอื ผา้ อีกหน่งึ เคร่ืองมือชา่ งข้ันพน้ื ฐานที่จาเป็นตอ้ งมตี ดิ บ้านไว้ เพราะ เมอื่ ตอ้ งลงมอื ซอ่ มแซมอะไรสกั อย่าง จะต้องหยบิ จับ หรือใชเ้ ครอื่ งมือทมี่ ีความคมซงึ่ อาจทา ให้มือไดร้ บั บาดเจบ็ ได้
11. ไม้บรรทัด การใช้งาน เปน็ เคร่อื งมอื สาหรับวัดความยาว ของวตั ถใุ นแนวระนาบและชว่ ย ในการขีดเสน้ ให้ ตรง ทาจากวสั ดุ หลายประเภท เช่น พลาสตกิ ไม้ อะลูมเิ นียม เหล็ก และมีหลาย ขนาด ตัง้ แต่ 14 เซนติเมตรจนถึง 100 เซนตเิ มตรในหนงึ่ ไมบ้ รรทัด ขอ้ ควรระวัง ควรเลอื กใช้ไม้บรรทัดให้ตรงกบั ประเภทของงาน 12. ไมโ้ พรแทรกเตอร์ การใชง้ าน เปน็ เครื่องมอื ใช้สาหรับวัดมุม มีทั้งแบบคร่งึ วงกลมและส่เี หล่ยี มผนื ผ้าหนว่ ยการวดั ขนาดของมุมเรียกว่า องศา ขอ้ ควรระวัง ไมค่ วรขดี หรอื ทาเคร่ืองหมายลงบน ไมโ้ พรแทรกเตอร์ เพราะอาจทาใหเ้ สน้ หรือ ตวั เลขลบเลอื นได้
13.เคร่อื งมอื สาหรบั การตดั ในการออกแบบและสรา้ งสรรค์ชิน้ งานจาเปน็ ตอ้ งใช้เครอื่ งมอื ในการตดั ซ่งึ มีอยูห่ ลายประเภท ด้วยกนั ข้นึ อยกู่ บั ลกั ษณะของงาน เชน่ กรรไกร คัตเตอร์ เลือ่ ยมอื คมี ตดั 13.1 กรรไกร การใช้งาน ใช้สาหรับการตัดวสั ดใุ ห้เป็นเสน้ ตรง เสน้ โค้ง หรอื เส้นหยัก กรรไกรมีหลาย ประเภทขึ้นอย่กู บั ลักษณะของงาน เชน่ ตดั กระดาษ ตดั ผ้า ตัดเหล็ก ตดั พลาสติก ข้อควรระวงั ในปฏบิ ตั งิ านจาเป็นต้องเลอื กใช้ กรรไกรให้เหมาะสมกบั ประเภทของวสั ดุ เชน่ กรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรตดั ผา้ กรรไกรตัดโลหะ 13.2 คตั เตอร์ การใชง้ าน เป็นเครือ่ งมือสาหรบั ตดั ปอก ขดู เหมาะสาหรบั ตัดกระดาษ พลาสติกลกู ฟูก ไมบ้ ลั ซา ท่ีเป็น ลกั ษณะของการตดั ตรง ขดู ลบั ความคมของดินสอ ขอ้ ควรระวงั คตั เตอรเ์ ป็นของมีคม ควรใชง้ านอยา่ งระมดั ระวงั หากวสั ดเุ ป็นแผ่นหนา ไมค่ วร ใชแ้ รงกดมากเกนิ ไป เพ่ือใหว้ สั ดขุ าดจากกนั ในครงั้ เดียว ควรกรดี หรอื ตดั ซํา้ รอยเดมิ หลาย ๆ ครงั้ เพ่ือความปลอดภยั
14. เลื่อยมอื เป็นเครื่องมอื สาหรับการตัดซ่ึงมีหลายประเภท ในการปฏิบัตงิ านจาเป็นต้อง เลอื กใช้เลอ่ื ยให้ เหมาะสมกบั ประเภทของวสั ดุ เช่น เล่ือยรอ เลื่อยฉลุ 14.1 เล่อื ยฉลุ การใชง้ าน เป็นเครอื่ งมอื สาหรับงานไม้ เหมาะสาหรับ งานตัดโค้ง ทาลวดลายกบั ช้นิ งานไม้ท่ีไม่ หนา และใหญม่ าก ขอ้ ควรระวัง เมอื่ เลกิ ใชง้ านควรถอดใบเล่อื ยออกจาก โครงเลอื่ ยฉลทุ ันที 14.2 เลอ่ื ยลนั ดา การใชง้ าน เหมาะสาหรบั ตดั ไมท้ ั่วไป ตวั เลือ่ ยทาจาก เหลก็ สว่ นมอื จับทาดว้ ยไม้หรือพลาสติก ข้อควรระวงั ใบเล่อื ยเปน็ ของมีคม ดังน้ันควรใช้งานด้วย ความระมดั ระวงั ทง้ั ต่อตนเองและผอู้ ่ืน 14.1 เล่อื ยฉลุ 14.2 เลือ่ ยลนั ดา
15. วสั ดุและเครื่องมือสาหรบั การติดยดึ ในการออกแบบและสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานจาเป็นต้องใช้ เครือ่ งมอื ในการตดิ ยดึ ซึง่ มีอยู่หลาย ประเภทดว้ ยกนั ขึ้นอย่กู ับลักษณะของงาน เชน่ กาว ปนื กาว 15.1 กาว กาวมหี ลายประเภท เชน่ กาวลาเท็กซ์ กาวรอ้ น กาวยาง กาวแทง่ การใชง้ านขน้ึ อย่กู บั พื้นผวิ ของวสั ดุที่ต้องการใหต้ ดิ ยึดเข้าด้วยกนั 1.1 กาวลาเท็กซ์ การใชง้ าน เหมาะสาหรับยึดตดิ วัสดุประเภทไม้ กระดาษ ผา้ กาวชนิดน้ี แหง้ ชา้ ควรทงิ้ ไวส้ ักระยะหนง่ึ โดยเฉพาะไม้ควรท้ิงไวข้ า้ มคนื เมื่อกาวแหง้ แล้ว จะยดึ ติดวัสดุได้แนน่ มาก กาวชนดิ นไ้ี มเ่ ปน็ อนั ตรายมาก ผ้ใู ชง้ านทเี่ ป็นเด็กสามารถใช้งานได้ ข้อควรระวงั ใชง้ านเสรจ็ ควรปิดฝาเพอ่ื ป้องกนั การแห้งของกาว 1.2 กาวรอ้ น การใช้งาน ยดึ ติดวัสดตุ ่าง ๆ ได้เกอื บทุกชนิด แหง้ เรว็ มาก เหมาะสาหรับวัสดุ ประเภทยาง พลาสตกิ โลหะ เซรามิก ขอ้ ควรระวงั ตอ้ งระวังไม่ใหส้ มั ผัสกบั ผิวหนงั หากถกู สมั ผัส ให้ลา้ งออกโดยเรว็ ด้วยนํ้า และไขมัน เมอ่ื ใช้งานเสร็จควรปดิ ฝาเก็บให้มดิ ชิด 1.3 กาวยาง การใช้งาน ใชย้ ึดตดิ วัสดุตา่ ง ๆ ได้เกือบทุกประเภท เนื้อกาวมีลกั ษณะเปน็ ของเหลวมีทั้งท่ี เป็นสเี หลืองและสีใส เมือ่ ทากาวแล้ว ควรทงิ้ ไว้อย่างนอ้ ย 1 ช่วั โมง เหมาะสาหรบั งานเฟอรน์ เิ จอรห์ รอื งานซ่อมแซมตา่ ง ๆ ขอ้ ควรระวงั กาวชนดิ นี้ละลายนํ้าได้ จงึ ไม่เหมาะกบั งานท่ี ตอ้ งใช้กลางแจง้ หรือทต่ี อ้ งสัมผัสกับนํ้า 1.4 กาวแท่ง การใช้งาน ใช้ยึดตดิ วสั ดปุ ระเภทกระดาษ เน้ือกาวมลี กั ษณะเปน็ ของแขง็ แฉะ เนื้อกาวตดิ เรียบ ไม่เลอะเทอะ ไมท่ าใหก้ ระดาษย่น ข้อควรระวัง ใชง้ านเสรจ็ ควรปดิ ฝาเกบ็ ใหเ้ รียบรอ้ ย 15.2 ปนื กาว ปนื กาวมสี ่วนประกอบสาคัญ 2 ส่วน คือ ส่วนทม่ี ลี กั ษณะคล้ายปนื มีสายไฟตอ่ สาหรบั ใช้ กบั ปลัก๊ ไฟ ทาหน้าท่เี ป็นตัวใหค้ วามรอ้ นและสว่ นที่สองคือกาว มลี กั ษณะเปน็ แท่งใสหรอื ขาวขุ่น เม่อื ใสแ่ ท่งกาว ลงไปในตัวปนื ความรอ้ นจะทาให้แท่งกาวละลายเป็นเนอื้ กาวที่มีความเหนียว การใช้งาน ใชส้ าหรบั งานยดึ ติดวสั ดุประเภทกระดาษ ไม้ ยาง พลาสตกิ ขอ้ ควรระวงั การใช้งานควรระวงั ไมใ่ ห้สมั ผสั กับกาว เนอ่ื งจากมคี วามรอ้ นค่อนข้างสงู
16. สกรู มลี ักษณะคล้ายตะปูแต่มีเกลียวโดยรอบ จึงมชี ่ือเรยี กอีกอย่างว่า ตะปูควง หรือ ตะปูเกลียว ใช้ สาหรบั ยดึ วตั ถสุ องชิ้นเข้าดว้ ยกนั โดยใช้เกลยี วเป็นตัวหมนุ เจาะเขา้ ไปในเนอ้ื วัสดุหรอื รูของวัตถขุ ้ึนอยู่ กับ ชนดิ ของวัสดนุ น้ั สกรูมหี ลายชนดิ ในทีน่ จ้ี ะยกตัวอย่างในการใชง้ านทัว่ ไป 2 ชนิด ดงั น้ี 16.1 สกรเู กลียวปล่อย เปน็ สกรทู ี่มปี ลายแหลม ใชส้ าหรับ ยึดช้นิ งานทต่ี ้องการแรงยดึ ตรงึ สงู โดยสว่ นเกลยี ว จะแทรกเขา้ ไปฝงั เขา้ กับเนอ้ื วสั ดขุ องชิ้นงาน สามารถทนตอ่ แรงดึงได้ดี หัวสกรมู ี หลายแบบ เช่น แบบหวั กลม แบบหวั เรียบ แบบหัวแฉก แบบหวั ผ่า การใชง้ าน ใชส้ าหรบั ยึดช้ินงานไมเ้ ขา้ ดว้ ยกนั โดยใชไ้ ขควงช่วยในการขันเกลียว เข้าไปในเน้อื วสั ดุ โดยตรง ขอ้ ควรระวัง การขันเข้าและคลายออกหลายครง้ั อาจทาให้ชิ้นงานเสยี หายได้ 16.2 สกรูและนอต เปน็ สกรทู ีม่ ปี ลายตัด ตอ้ งใชร้ ่วมกับ นอตที่มขี นาดเกลยี วท่ีเขา้ กันได้ ใชห้ ลักการบีบอดั วตั ถุ 2 ชน้ิ เขา้ ด้วยกัน โดยการขันนอตใหแ้ น่น หวั สกรมู ีหลายแบบ เชน่ สกรูหวั แฉก สกรหู ัวผ่า สกรูแฉกเรียบ การใช้งาน ใชย้ ึดชิ้นงานท่ีเป็นโลหะเข้าด้วยกัน โดยต้องเจาะรู ชน้ิ งานขนาดพอดกี ับสกรู แล้วจงึ ขัน สกรแู ละนอต สามารถถอดและยดึ เพอ่ื ประกอบชน้ิ งานใหมไ่ ด้ ขอ้ ควรระวัง การขนั เขา้ สกรูกับนอต ตอ้ งวางตาแหน่งให้ตรงกันก่อนขนั เพราะอาจทาให้ เกลยี ว ชารุดได้
17. ไขควง เป็นเครอื่ งมือชา่ งท่ีใช้สาหรบั ขนั หรอื คลายสกรู โดยลกั ษณะของไขควงน้ัน ประกอบดว้ ยดา้ ม จบั ลาตัวหรอื ก้าน และปากไขควง โดยสามารถแยกประเภทของไขควงได้ 2 ประเภท คอื 17.1 ไขควงปากแบน มลี กั ษณะปากแบนแบบเสน้ ตรงคลา้ ยคมมีด สาหรับใชข้ ันหรือคลายสกรทู ีห่ ัวสกรูเปน็ ร่องเส้น เดียว (หัวผ่า) การใช้งาน ใชข้ นั หรอื คลายสกรทู ี่มีลักษณะหวั ผา่ สาหรับงานประเภทสลกั เกลียวท่ยี ดึ ไม้ พลาสติก หรือโลหะ ขอ้ ควรระวงั เลอื กขนาดไขควงให้เหมาะสมกับหัวสกรู 17.2 ไขควงปากแฉก มลี ักษณะปากเปน็ ส่ีแฉก ใช้ขนั สกรูทีม่ หี ัวส่ีแฉก เวลาบิดจะตอ้ งใช้แรงกดท่ีดา้ มมากกว่าไขควง ปากแบน เพื่อไม่ให้เหล่ยี มของไขควงหลดุ ออกจากร่อง การใชง้ าน ใชข้ นั หรือคลายนอตทม่ี ลี กั ษณะหวั แฉก สาหรบั งานประเภทสลักเกลียวท่ียึดไม้ พลาสตกิ หรือโลหะ ขอ้ ควรระวงั เลือกขนาดไขควงใหเ้ หมาะสมกบั หัวสกรู
18. เคร่อื งมอื สาหรบั การเจาะ ในการออกแบบและสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานบางอย่างจาเปน็ ตอ้ งใช้ เคร่ืองมือในการเจาะ ในท่นี ้ีจะ แนะนาเคร่อื งมอื สาหรบั เจาะคือ ที่เจาะกระดาษ สวา่ นมือ สวา่ น ไฟฟ้า 18.1 ที่เจาะกระดาษ เปน็ เครอ่ื งมอื ใช้สาหรบั ในการเจาะกระดาษ มหี ลายขนาด ทามาจาก เหลก็ การใชง้ าน ใชเ้ จาะรูขนาดเลก็ เหมาะสาหรับเจาะกระดาษ ขอ้ ควรระวัง ไมค่ วรเจาะกระดาษท่หี นาจนเกินไป 18.2 สว่านมือ เป็นเครอื่ งมือเจาะรทู ี่ใชร้ ่วมกบั ดอกสวา่ น มเี ฟอื งเป็นเครื่องผอ่ นแรงชว่ ยขบั ดอกสว่านให้หมนุ เจาะรู ปลายดอกสว่านจะเป็นตัวเจาะวัสดุและนาเศษวสั ดุที่ถกู เจาะ ออกไปจากรู การใชง้ าน ใช้เจาะรขู นาดเลก็ เหมาะสาหรับงานไม้ งานโลหะ งานพลาสติก ทม่ี ีช้นิ งานไมห่ นามาก ขอ้ ควรระวัง การใส่ดอกสวา่ นควรจับยึดให้ดี ถา้ ใส่ดอกสวา่ นไม่ดี จะหลุดหรอื หกั ไดง้ ่าย 18.3 สว่านไฟฟา้ สวา่ นไฟฟา้ เป็นเครื่องมอื เจาะทีใ่ ช้ร่วมกบั ดอกสว่าน ใชก้ าลังขบั จาก มอเตอรไ์ ฟฟ้า ใชใ้ นการเจาะรใู นงานโลหะหรอื งานไม้ ปจั จุบนั สว่านไฟฟา้ เป็นท่ีนยิ มใชก้ ันมากกว่า สว่านชนิดอน่ื ๆ เพราะมีความสะดวก รวดเรว็ ประหยดั เวลา ประสทิ ธิภาพ การทางานสงู การใช้ งาน ใช้เจาะรู เหมาะสาหรับงานไม้ งานโลหะ งานก่อสรา้ ง ข้อควรระวัง ไมค่ วรใช้ดอกสว่านผดิ ประเภท เชน่ ดอกสว่านเจาะคอนกรตี ไม่ควรนาไปเจาะเหล็ก
ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิงานชา่ ง การปฏบิ ัติงาน ส่ิงสาคญั ต้องคานงึ ถึงความปลอดภัย เพราะหากเกิดอนั ตรายจากการปฏิบัตงิ าน ผลเสียอาจจะเกดิ ข้ึนและเดอื ดรอ้ นทงั้ ต่อตนเองและผู้อืน่ บางครั้งเกิดความรนุ แรง อาจถึงแกช่ ีวติ ได้ สาเหตทุ ่ีทาให้เกดิ อันตรายแบง่ ออกได้ 4 ประการดงั น้ี 1. เกดิ จากผู้ปฏิบัตงิ านเอง เชน่ การแต่งกายของผู้ปฏิบัติงานไมร่ ัดกุมชายเสอ้ื ร่มุ รา่ ม สวมใส่ เคร่อื งประดับร่างกายของผู้ปฏิบัติงานไมป่ กติ มคี วามเครียด ออ่ นเพลีย เจบ็ ป่วย 2. เกดิ จากเครอ่ื งมือ วสั ดอุ ุปกรณเ์ ช่น เคร่ืองมือ หรือ เครือ่ งจักที่ใชม้ ีสภาพไม่พรอ้ มจะใชง้ าน ชารดุ หรอื อปุ กรณบ์ างอยา่ งหมดอายุ 3. เกิดจากการจดั ระบบงาน เชน่ ระบบงานอาจวางแผนไมด่ ี 4. เกิดจากสภาพแวดล้อม เช่น พ้ืนทีบ่ ริเวณปฏิบตั ิงานไม่เหมาะสม มีแสงสวา่ งไม่เพยี งพอ
แนวทางในการปฏบิ ตั งิ านเพ่อื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ไดด้ ังน้ี 1. มีสติในการปฏิบัติงานต้องมีสติระลึกไวเ้ สมอวา่ คดิ กอ่ นทาและปลอดภัยไวก้ อ่ น 2. ต้องสะอาด โต๊ะบรเิ วณทปี่ ฏบิ ตั งิ านจะต้องสะอาด 3. เป็นสดั สว่ นเก็บเครือ่ งมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ให้เป็นสดั ส่วนเพอ่ื สะดวกในการหยิบใชง้ าน 4. ตดั กระแสไฟฟ้าป้องกนั อันตรายหากปฏบิ ัติงานไฟฟ้า ควรตัดกระแสไฟฟ้าให้ เรยี บรอ้ ยเพื่อปอ้ งกนั อนั ตราย 5. ต่อสายดินอุปกรณ์ เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าจะต้องมีการต่อสายดินเพอ่ื ป้องกนั ไฟร่วั 6. อย่านาเคร่ืองมอื ท่มี คี มใสก่ ระเปา๋ เสื้อหรอื กางเกงขณะปฏิบตั ิงาน 7. อยา่ ใชไ้ ขควงแทนสิว่ หรือสกดั 8. อย่าใชค้ ้อนหรอื ตะไบทม่ี ดี ้ามหลวมหรือแตก และ อย่าใชต้ ะไบแทนค้อน 9. ก่อนและหลังปฏบิ ัติงานควรตรวจสภาพเครอื่ งมอื อุปกรณ์และทาความสะอาดทกุ คร้ัง การปอ้ งกันอุบัตเิ หตอุ ุบัติเหตุเกดิ ขึ้น 1. ตรวจสอบเครอื่ งมือเคร่ืองใช้และบารุงรักษาใหอ้ ยใู่ นสภาพพร้อมใชง้ าน 2. มคี วามพร้อมในทุก ๆ ด้านของรา่ งกายขณะปฏบิ ัติงาน 3. จัดบริเวณปฏิบตั งิ านให้เรียบร้อยไม่มสี ่ิงกดี ขวางหรือบดบังแสงสว่าง 4. ขณะปฏบิ ัติงานในที่สูง ต้องมเี ครื่องปอ้ งกนั เชน่ เข็มขดั นิรภัย 5. หากปฏบิ ตั ิงานใกล้วัตถุไวไฟควรมีอุปกรณ์ปอ้ งกนั ไฟไหม้ เช่น ถังดับเพลิงวางไว้ใกล้
บตั รกิจกรรมที่ 3 ปฏิบตั ิกิจกรรรม Chairs DIY จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างชนิ้ งานโดยออกแบบและใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่างอยา่ งถูกต้องและเหมาะสม 2. ปฏิบตั ใิ ช้งานเคร่ืองมอื ชา่ งด้วยความระมดั ระวัง ไมป่ ระมาท 3. มีระเบียบวินยั ในการใช้เคร่ืองมือชา่ งกับงานชา่ งแตล่ ะประเภท 4. ปฏบิ ัติงานกลมุ่ ร่วมกนั อย่างระมัดระวัง คานึงถงึ ความปลอดภัย
กระบวนการทางานชา่ ง 1.ศึกษาคูม่ อื การทางานของเครอื่ งมือ เครื่องใช้ และอ่านแบบ 2.ศึกษาหลกั ความปลอดภยั ทรัพยากร วสั ดอุ ุปกรณ์อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม เพอื่ ความปลอดภยั ของ ผู้ปฏบิ ตั งิ านและเพ่ือนร่วมงาน 3.อนรุ กั ษพ์ ลังงานและส่ิงแวดลอ้ ม 4.คานวณคา่ ใชจ้ า่ ย เป็นขนั้ ตอนทส่ี าคัญ เพราะจะทาใหร้ ู้ค่าใช้จ่ายในการทางาน 5.วางแผนปฏบิ ตั งิ าน คือการกาหนดขั้นตอนตงั้ แต่เร่ิมตน้ จนงานสาเร็จ 6.เลือกใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ความสะดวก รวดเร็ว 7.เลอื กเครอื่ งมอื วัสดุและอปุ กรณ์ 8.ปฏิบตั งิ านให้เป็นไปตามแผนทวี่ างไว้ 9.ตรวจสอบความเรยี บร้อย 10.แกไ้ ขและปรบั ปรุง 11.จดั เกบ็ และบารุงรักษาเครือ่ งมือ ส่วนกระบวนการทางานผลิตมสี ว่ นเพม่ิ เติม ดงั น้ี 1.ศกึ ษาความตอ้ งการและความเป็นไปได้ 2.ออกแบบ เขียนแบบ 3.ตรวจสอบคุณภาพ 4.การจดั การผลผลิตและบรรจภุ ณั ฑ์
ทกั ษะกระบวนการทางานช่าง ทกั ษะกระบวนการทางาน หมายถึง การลงมอื ทางานด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นการฝกึ วิธกี ารอยา่ ง สมา่ เสมองานชา่ งทุกประเภทมีขนั้ ตอนการทางานดังน้ี 1.การวิเคราะหง์ าน คอื การแจกแจงงานทีท่ าว่าเป็นงานประเภทใด ลกั ษณะใด อปุ กรณ์ เครอ่ื งมือใด 2.การวางแผนในการทางาน 3.การปฏิบตั ิงาน 4.การประเมนิ ผลงาน ทักษะการทางานรว่ มกบั ผู้อน่ื หมายถงึ การทางานเป็นกลมุ่ สามารถทางานร่วมกบั ผู้อ่ืนไดอ้ ย่างมีความสขุ ทางานมขี ั้นตอน มี หลักสาคญั ดงั น้ี 1.รูจ้ ักบทบาทหนา้ ทภ่ี ายในกล่มุ 2.มีทักษะในการฟัง พูด แสดงความคดิ เห็นและอภิปราย 3.มคี ณุ ธรรมในการทางานร่วมกัน เชน่ รบั ผิดชอบ ขยนั อดทน ซ่ือสตั ย์ 4.สรุปผลโดยการจดั ทารายงาน 5.นาเสนอรายงาน กระบวนการในการทางานกลุ่ม 1.เลือกหวั หน้ากลุ่ม มกี ารหมนุ เวยี นในการทางานแต่ละครั้ง 2.กาหนดเป้าหมายของงานว่าคอื อะไร อย่ทู ีใ่ ด 3.วางแผนการทางาน เช่นจาอะไรบา้ ง ทาอะไรก่อนหลงั จะทางานอย่างไร 4.แบง่ งานตามความสามารถและความถนดั 5.ลงมือปฏบิ ัตงิ านตามบทบาท หนา้ ที่ และขนั้ ตอนทวี่ างไว้ 6.ประเมินผลและปรับปรงุ งาน
กิจกรรม Chairs DIY ให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ ช้ืนงาน เก้าอโี้ ดยใชเ้ ครื่องมือช่าง ผ่านกระบวนการ SANO และทักษะการทางานเปน็ ทมี ตามหวั ข้อดังนี้ 1. ชอื่ กลมุ่ 2. ชอ่ื ชนิ้ งาน 3. ชอื่ สมาชกิ
กจิ กรรม The Chair DIY ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัติ ชื้นงาน เกา้ อี้โดยใช้เครือ่ งมือช่าง ผ่านกระบวนการ SANO และทักษะการทางานเป็นทมี ตามหวั ข้อดงั นี้ รายการ การปฏิบตั ิ แรงบันดาลใจในการสร้างชิน้ งานน้ี (ทาไมถงึ ทา) ประโยชนข์ องชน้ิ งาน วสั ดอุ ปุ กรณ์/เครื่องมอื ชา่ งทใ่ี ช้ งบประมาณ วธิ ีทาชนิ้ งาน Chairs DIY
กจิ กรรม The Chair DIY ใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ตั ิ ชืน้ งาน เกา้ อ้ีโดยใช้เคร่อื งมอื ชา่ ง ผา่ นกระบวนการ SANO และทกั ษะการทางานเป็นทมี ตามหวั ข้อดงั น้ี ร่างแบบ
กจิ กรรม The Chair DIY ให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ ช้นื งาน เก้าอโ้ี ดยใช้เครื่องมอื ช่าง ผา่ นกระบวนการ SANO และทกั ษะการทางานเป็นทมี ตามหวั ขอ้ ดังน้ี ไดอ้ ะไรบ้างจากการทา Chairs DIY ………………………………………………………………………………………….…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………..………… ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….
กิจกรรม The Chair DIY การประเมนิ การทางานกลมุ่ ลาดบั ท่ี รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน 43 2 1 1 การวางแผนอยา่ งเป็นระบบ ชว่ ยกนั คดิ ออกแบบชนิ้ งาน 2 ความรว่ มมือกนั ในการทางาน ปรกึ ษาหารอื กนั ในทีมงาน 3 คน้ หาความรูเ้ พิ่มเติมเพ่ือ สรา้ งสรรคช์ นิ้ งาน 4 ยอมรบั ความคิดเหน็ แลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ กไ้ ข ปรบั ปรุงงาน 5 นาเสนอผลงานอยา่ งชดั เจน ยอมรบั ผลจากการปฏิบตั งิ าน รวมคะแนน........... คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ 20
กิจกรรม The Chair DIY การประเมนิ ชนิ้ งาน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ คุณภาพผลงาน 43 2 1 1 การออกแบบชนิ้ งาน 2 ประโยชนก์ ารใชส้ อยของ ชนิ้ งาน 3 ทกั ษะการใชเ้ ครอื่ งมอื ชา่ งใน การทาชนิ้ งาน 4 ความละเอยี ดประณีตของ ชนิ้ งาน/สวยงาม 5 ภาพรวมชองชนิ้ งาน รวมคะแนน........... คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ 20
บตั รกจิ กรรมที่ 4 ทดสอบหลงั เรียน
บตั รกิจกรรมที่ 4 แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง งานช่างพืน้ ฐาน วชิ า การงานอาชีพ (ง23102) กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ฯ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คาชี้แจง ให้เลอื กคาตอบท่ถี กู ทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดยี วแล้วทาเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ 1.การปฎบิ ตั งิ านช่างชอ้ ใดสาคัญทีส่ ุด ก. เพอื่ ยืดอายกุ ารใชง้ านของผลติ ภัณฑ์ ข. ปฏบิ ัตงิ านชา่ งด้วยความรวดเรว็ ค. ใช้เคร่ืองมอื ให้เหมาะสมกบั ลักษณะงาน ง. คานึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ านชา่ ง 2. ข้อใดกลา่ วถงึ งานช่างในบา้ นได้ถกู ตอ้ งท่สี ดุ ก. การใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ ข. การฝกึ ความอดทนในการปฏบิ ัติงานชา่ ง ค. การใชค้ วามรู้ ความสามารถในการปฏิบัตงิ านช่าง ง. การซ่อมแซมผลิตภัณฑท์ าให้ใชง้ านไดย้ าวนานมากขน้ึ 3. คุณสมบัตเิ บือ้ งต้นของผปู้ ฏิบัติงานช่างที่ดคี อื ข้อใด ก. มคี วามรู้เรือ่ งเทคโนโลยี ข. มีความรู้เรอ่ื งการอ่านแบบ ค. มีทกั ษะกระบวนการทางานชา่ งแต่ละสาขา ง. มที ัษะการใชเ้ ครือ่ งมอื ของงานชา่ งแต่ละสาขา 4.ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิงานช่างในบ้านในข้อใด ตรงกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. เกดิ อาชีพสจุ ริต ข. มีความประหยดั ค. เกดิ สงั คมรไี ซเคิล ง. มีความพอเพียงและมคี วามสุข
บตั รกิจกรรมท่ี 4 แบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง งานช่างพืน้ ฐาน วชิ า การงานอาชีพ (ง23102) กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพฯ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 คะแนนเตม็ 10 คะแนน จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที 5. ในการปฏบิ ัติงานช่างในบ้าน หากใช้เครอื่ งมอื ผดิ ประเภทอาจจะส่งผลตอ่ ไปนี้ ยกเว้นข้อใด ก.ทาใหเ้ กิดอบุ ัตเิ หตุ ข.ชิ้นงานเสรจ็ รวดเร็ว ค.เครอื่ งมอื ชารดุ เสียหาย ง.ชิน้ งานเกดิ ความเสียหายหรือเกิดอนั ตรายได้ 6.การวเิ คราะห์งานในกระบวนการทางานชา่ งในบา้ นมีผลอย่างไร ก.เปน็ การรวบรวมขอ้ มูล ข.เปน็ การป้องกนั ปญั หาในการทางาน ค.เปน็ ข้อมลู ในการวางแผนการปฏิบตั งิ าน ง.เป็นแนวทางการจดั เตรยี มเครอื่ งมอื วสั ดุอปุ กรณ์ 7.การติดตงั้ หรอื ประกอบผลิตภัณฑต์ ้องใชส้ ิ่งใดชว่ ยจงึ จะเปน็ ไปตามรปู แบบทีถ่ กู ต้อง ก.นอตสกรู ข.คมู่ ือแนะนา ค.อุปกรณเ์ สรมิ ง.ความร้ทู างช่าง 8.กระบวนการติดต้ังหรือประกอบผลิตภัณฑ์ เป็นการสร้างองคค์ วามร้ใู หม่ สามารถนาไปทาส่ิงใดจึง จะได้ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ ก.นาไปประกอบอาชีพ ข.บารุงรักษาผลิตภัณฑ์ ค.ใชศ้ ึกษาตอ่ ระดบั สูงขึน้ ง.นาไปซ่อมแซมผลิตภัณฑ์
บตั รกิจกรรมท่ี 4 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง งานช่างพนื้ ฐาน วิชา การงานอาชีพ (ง23102) กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี ฯ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที 9. เครือ่ งมอื ชา่ งตามขอ้ ใดทใ่ี ชส้ าหรบั ถอนและตดั หัวตะปูเลก็ ๆ และใช้ตดั และผกู ลวด ก. คมี ปากนกแก้ว ข. สายวดั ค. ไขควง ง. เลื่อย 10. การท่ดี ูแลให้เครื่องมือมีความพรอ้ มใช้งานไดต้ ลอดเวลา และยดื อายุการใช้งานให้ยาวนานขึน้ อยู่ กับข้อใด ก. การใช้งาน ข. การบารงุ รกั ษา ค. การซ้อื ใหม่ ง. การใหผ้ ้อู ่นื ยืม
บตั รกิจกรรมที่ 5 ตอบคาถาม
ช่อื -สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขท่ี.................... ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาบตั รเนือ้ หาและตอบคาถาม ต่อไปนี้ 1.งานช่างพืน้ ฐานหมายถึง ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................... .......................................................................................................................................................... 2.งานช่างมคี วามสาคัญอยา่ งไรในชวี ติ ประจาวัน ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. 3. งานชา่ งท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการนาไปใช้ในชีวิตประจาวันมกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. 4. ก่อนจะใชเ้ คร่ืองมือชา่ งต้องเตรยี มความพร้อมอยา่ งไรบ้าง ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... 5. ยกตัวอย่างเคร่ืองมือช่างที่ใช้ในการผลติ เก้าอ้ไี ม้ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................... .........................................................................................................................................................
ชือ่ -สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... 6. กระบวนการจัดการงานช่างประกอบด้วยอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................. ......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... 7.การปฏบิ ตั ิงานชา่ งมีสาเหตใุ ดบา้ งท่ที าให้เกิดอนั ตรายได้ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. 8.หากเกดิ อบุ ตั ิเหตุในการปฏิบตั ิงานช่าง มกี ารปอ้ งกันอย่างไร ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................. 9. การปฏิบัติงานช่างในกระบวนการผลติ ช้นิ งานมีกระบวนการใดบ้าง ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... .......................................................................................................................................................... 10. การทางานรว่ มกับผู้อนื่ นั้นควรมที ักษะการทางานร่วมกับผ้อู นื่ อย่างไร .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... ...................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................
เฉลย ทดสอบหลงั เรยี น
กระดาษคาตอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ช่อื -สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... 1.ง 2.ง 3.ค 4.ง 5. ข 6 .ค 7.ข 8.ก 9. ก 10. ข ข้อ ตวั เลอื ก กขคง 1X 2X 3X 4X 5X 6X 7X 8X 9X 10 X คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ 10
ชอ่ื -สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... ใหน้ กั เรียนศึกษาบตั รเนือ้ หาและตอบคาถาม ต่อไปนี้ เฉลย 1.งานช่างพน้ื ฐานหมายถึง (สามารถตอบไดต้ ามความเหมาะสม) งานช่างหมายถึง การนาความร้พู นื้ ฐานของวสั ดุ อุปกรณแ์ ละวธิ กี ารทางานตลอดจน กระบวนการทาง เทคโนโลยี ทรพั ยากร พลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ ม มาใช้ในการบารงุ รักษาซ่อมแซมติดตัง้ และผลิตเครือ่ งมอื เคร่ืองใช้โดยมกี ารวเิ คราะห์ ออกแบบ วางแผน และลงมือปฏบิ ตั อิ ยา่ งเปน็ ระบบ อกี ท้งั มกี ารประเมินและ ปรบั ปรงุ กระบวนการทางานเพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานอย่างสรา้ งสรรค์และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั 2.งานช่างมีความสาคัญอย่างไรในชวี ิตประจาวัน เปน็ งานท่ีต้องใช้ทักษะทเ่ี ป็นพ้นื ฐานเกยี่ วกับการสรา้ ง การผลิต การซอ่ มแซม บารงุ รกั ษา การดดั แปลง เคร่ืองใชใ้ นบ้าน ท่ีทกุ คนสามารถทาได้ด้วยตนเอง ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกบั การซ่อมแซมแกไ้ ขสง่ิ ของ เครือ่ งใช้ในบา้ นที่ชารดุ เสยี หาย หรอื สร้างสิง่ ของงา่ ย ๆ เชน่ ซอ่ มแซมโต๊ะ เกา้ อี้ ร้ัว ผนงั ถนน ทางเทา้ ใน บา้ น การเดนิ สายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การตอ่ ประปา การดแู ลบารุงรกั ษาเคร่อื งใชไ้ มส้ อย ภายในบา้ น ด้วยตนเอง ตลอดถงึ เครอื่ งยนตก์ ลไกและเคร่ืองมอื เครื่องใชท้ างเทคโนโลยีตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ 3. งานช่างทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันมกี ี่ประเภท 4 ประเภท อะไรบา้ ง 1.งานบารุงรกั ษา 2.งานซอ่ มแซม 3. งานติดต้ัง 4. งานผลติ 4. กอ่ นจะใช้เครื่องมอื ช่างต้องเตรยี มความพรอ้ มอยา่ งไรบา้ ง 1 ศกึ ษาข้อมูลการทางานของเคร่ืองมือ เครื่องใช้ ศกึ ษาคาแนะนาหลกั ความปลอดภยั ในการทางาน 2.วางแผนการดาเนินงาน การบารุงรกั ษา การซอมแซม การติดต้ังและการผลิตคานึงถึงการใช้ เทคโนโลยี ทรพั ยากร พลังงานและวิธกี ารใช้วัสดุ อุปกรณอ์ ยา่ งเหมาะสม 3.ปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนท่ีไดว้ างแผนไว้ พรอ้ มท้ังมกี ารตรวจสอบ และแกไ้ ขระหว่างทป่ี ฏบิ ัติ จดั เกบ็ บารุงรกั ษาเครอ่ื งใช้ 4.ตรวจสอบและประเมนิ การทางานทกุ ขน้ั ตอน ตั้งแต่ขัน้ เตรยี มการ ขน้ั ดาเนินการและหลังดาเนินการ
ชื่อ-สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... 5.ยกตัวอยา่ งเครือ่ งมอื ช่างทีใ่ ช้ในการผลติ เก้าอไี้ ม้ 1. ไม้ 2. เล่อื ย 3. กระดาษทราย 4.ค้อน 5. ตะปู 6.สวา่ นไฟฟ้า 7.สี 8.น้อตสกรู 6. กระบวนการจัดการงานช่างประกอบด้วยอะไรบ้าง 1.การวางแผนดาเนนิ การ 2.การแบ่งงาน 3.การบริหารบคุ คล 4.การบริหารการเงินและวสั ดุ 5.การผลติ 6.การจัดจาหนา่ ยและบรกิ าร 7.การแกไ่ ขปญั หา 7.การปฏบิ ตั งิ านชา่ งมสี าเหตใุ ดบา้ งท่ที าให้เกดิ อันตรายได้ 1. เกดิ จากผู้ปฏิบตั งิ านเอง เช่น การแตง่ กายของผู้ปฏบิ ัติงานไมร่ ัดกมุ ชายเส้อื ร่มุ ร่าม สวมใส่ เครื่องประดบั รา่ งกายของผปู้ ฏบิ ตั ิงานไมป่ กติ มคี วามเครยี ด ออ่ นเพลยี เจ็บปว่ ย 2. เกิดจากเครอ่ื งมอื วัสดุอปุ กรณเ์ ช่น เครื่องมอื หรือ เครือ่ งจักทีใ่ ช้มสี ภาพไม่พรอ้ มจะใช้งาน ชารุด หรืออปุ กรณบ์ างอยา่ งหมดอายุ 3. เกดิ จากการจัดระบบงาน เชน่ ระบบงานอาจวางแผนไมด่ ี 4. เกดิ จากสภาพแวดล้อม เช่น พ้นื ทบ่ี ริเวณปฏบิ ตั ิงานไมเ่ หมาะสม มีแสงสวา่ งไม่เพยี งพอ
ช่ือ-สกลุ .....................................................ชนั้ ...................เลขที่.................... 8.หากเกิดอบุ ตั ิเหตใุ นการปฏบิ ตั งิ านชา่ ง มีการปอ้ งกันอยา่ งไร 1. ตรวจสอบเครอ่ื งมอื เคร่ืองใช้และบารงุ รักษาให้อยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ าน 2. มคี วามพร้อมในทุก ๆ ดา้ นของร่างกายขณะปฏบิ ัติงาน 3. จัดบรเิ วณปฏบิ ตั ิงานใหเ้ รยี บร้อยไมม่ สี ง่ิ กดี ขวางหรอื บดบงั แสงสวา่ ง 4. ขณะปฏบิ ตั งิ านในท่ีสงู ตอ้ งมีเครอ่ื งปอ้ งกันเชน่ เขม็ ขดั นิรภยั 5. หากปฏิบตั ิงานใกล้วัตถุไวไฟควรมอี ปุ กรณ์ปอ้ งกันไฟไหม้ เชน่ ถงั ดับเพลงิ วางไว้ใกล้ 9. การปฏิบัติงานช่างในกระบวนการผลิตชิน้ งานมีกระบวนการใดบ้าง 1.ศกึ ษาความต้องการและความเป็นไปได้ 2.ออกแบบ เขยี นแบบ 3.ตรวจสอบคุณภาพ 4.การจดั การผลผลิตและบรรจภุ ณั ฑ์ 10. การทางานรว่ มกับผู้อน่ื นั้นควรมีทักษะการทางานร่วมกับผูอ้ น่ื อยา่ งไร 1.รู้จักบทบาทหนา้ ทีภ่ ายในกลุ่ม 2.มที กั ษะในการฟัง พดู แสดงความคดิ เห็นและอภิปราย 3.มีคุณธรรมในการทางานรว่ มกัน เช่น รับผิดชอบ ขยัน อดทน ซอื่ สัตย์ 4.สรปุ ผลโดยการจดั ทารายงาน 5.นาเสนอรายงาน
บรรณานุกรม งานชา่ งพื้นฐาน https://aun12.wordpress.com/ ความสาคัญของงานช่าง(กฤษมนั ต์ วฒั นณรงค.์ 2554: http://www.thairath.co.th) สถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน การงานอาชพี และ เทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 .กรุงเทพมหานคร : บริษทั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จากัด , 2555. ทักษะกระบวนการปฏิบัติงานช่างhttps://areeluckblog.wordpress.com ทักษะงานชา่ ง(กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์. 2554 : http://www.thairath.co.th) หนงั สือการงานอาชีพและเทคโนโลยีม.3 .สานักพมิ พ์อกั ษรเจริญทัศน์ อจท.
www.pw.ac.th วนิ ยั คอื ทกั ษะสำคญั ของผทู้ ป่ี ระสบควำมสำเรจ็ กำรรูจ้ ักควบคุมตวั เอง ให้มีระเบียบวนิ ยั ในกำรทำำงำน ชว่ ยให้ ทำำงำนอย่ำงเป็นระบบและประสบ ควำมสำำเร็จ ในกำรทำำงำนได้ไม่ยำก รวมถึงกำรมีวินยั ใน ท่มี า http://www.key-up.life/blog/10-arguments-of-worker
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: