48ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ศาลาประดิษฐ์ฐานพระ จานวน 1 หลงั ลักษณะ หลงั คากระเบื้อง ขนาด 2.50 * 3.50 ตารางเมตร งบประมาณกอ่ สร้าง เปน็ เงินบรจิ าค 60,000 บาทเสาธงชาติ ลักษณะ ประดับด้วยหินศิลาแลง ขนาด 6.50 * 6.50 ตารางเมตร
49ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐สนามกีฬาสนามบาสเกตบอล ลักษณะ พน้ื ปูน ขนาด 16.80 * 32 ตารางเมตร การใชง้ าน เป็นสถานทอ่ี อกกาลงั กายสนามวอลเลย่ ์บอล
50ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ ลกั ษณะ พื้นปนู ขนาด 16.80 * 32 ตารางเมตร การใช้งาน เป็นสถานท่อี อกกาลงั กายและใชเ้ รียนวิชาพลานามัยสนามฟุตบอลลกั ษณะ พื้นหญ้าขนาด 43 * 65 ตารางเมตรการใช้งาน เปน็ สถานทอ่ี อกกาลงั กาย เข้าแถวเคารพธงชาติ กิจกรรมตา่ งๆ
51ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ซุ้มไม้สักซมุ้ ไม้สกั 6 เหลีย่ ม จานวน 8 หลังลกั ษณะ หลังคาไม้แผน่ เกรด็ขนาด 3.40 * 3.40 ตารางเมตรการใชง้ าน เปน็ สถานทนี่ ั่งพักผอ่ นซมุ้ ไม้สัก 4 เหลยี่ ม จานวน 2 หลังลกั ษณะ หลังคาไมแ้ ผ่นเกร็ดขนาด 2.00 * 4.00 ตารางเมตรการใชง้ าน เปน็ สถานที่นง่ั พกั ผอ่ น
52ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ป้อมยามป้อมยามด้านหนา้ลักษณะ อาคารชน้ั เดียว หลงั คากระเบ้อื ง ผนงั ศลิ าแลงขนาด 3.00 * 4.00 ตารางเมตร
53ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ปอ้ มนอนยาม ลักษณะ อาคารทรงไทย หลงั คากระเบือ้ ง โครงเหลก็ ผนังเหลก็ พืน้ ไม้ มลี อ้ เล่อื น ขนาด 2.40 * 3.60 ตารางเมตร รั้วคอนกรีตบลอ็ ก จานวนเนื้อที่ 788 ตารางเมตร ถนนคอนกรีต จานวนเน้ือท่ี 632 ตารางเมตร รางระบายน้า จานวนเนอ้ื ท่ี 596 ตารางเมตรอาคารวิทยบริการ
54ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ ชั้น1 -หอ้ ง ปค.5 แผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ -หอ้ งงานศนู ยข์ อ้ มลู สารสนเทศ -ห้องบรกิ าร Internet -หอ้ งนา้ ชาย/หญิง ชน้ั 2 -หอ้ งสมุด ชั้น3 -หอ้ งดอกปีป(หอ้ งเรยี นรวม)อาคารโรงแรมชั้นท่ี1-RECEPTION-ห้องน้าชน้ั 2-หอ้ งพักขนาด 1 เตยี ง หอ้ งน้าในตวั-ห้องพักขนาด 2 เตยี ง ห้องนา้ ในตวัช้ัน3
55ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ -หอ้ งประชมุ /หอ้ งเรียน -ห้องน้า อาคาร 10ชน้ั 1 -หอ้ งงานทวิภาคี,ทวิศกึ ษาชัน้ 2 -ห้องเรียนช้ัน 3 -ห้องเรยี นสาขาวิชาการบัญชี
56ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ สว่ นท่ี ๙ขอ้ มูลจังหวัดพิษณุโลก
57ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ข้อมูลจงั หวดั พิษณโุ ลก จงั หวัดพษิ ณุโลก เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย หรือภาคเหนือตอนล่าง มปี ระชากรในปีพ.ศ. 2558 จานวน 863,404 คน มพี ืน้ ท่ี 10,815.854 ตารางกโิ ลเมตร มีเทศบาลนครพิษณโุ ลกเปน็ เมืองศนู ยก์ ลางของจงั หวดั และเป็นทตี่ ง้ั ศาลากลางจงั หวดั เปน็ เมืองเกา่ ทีม่ ีประวัตศิ าสตรย์ าวนานมาตง้ั แต่สมัยขอมโดยมีชือ่ เรยี กต่าง ๆ กนั ในศลิ าจารึก ตานาน นทิ าน และพงศาวดาร เช่น สองแคว, สองแควทวิสาขะ และไทยวนที เดิมเมอื งพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมยั ขอม อย่หู ่างจากทต่ี ง้ั เมืองปจั จบุ ันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 5กโิ ลเมตร เรียกว่า \"เมอื งสองแคว\" ทเี่ รยี กเชน่ นี้ เพราะตงั้ อย่รู ะหวา่ งแม่น้าสองสาย คือ แม่น้าน่าน กับแมน่ า้แควนอ้ ย แต่ปจั จุบนั แม่นา้ แควนอ้ ยเปลยี่ นทางเดินออกห่างจากตวั เมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร ทต่ี ัง้ ตัวเมอื งเก่าในปัจจุบันคอื บริเวณวดั จฬุ ามณี ซง่ึ เป็นวัดเกา่ แก่ของพิษณโุ ลก แต่เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลไิ ท) ได้โปรด ให้ยา้ ยเมืองสองแคว มาต้ังอยู่ ณ บริเวณตัวเมอื งในปจั จบุ ัน และยังคงเรียกกันติดปากว่า เมอื งสองแคว เรื่อยมาศพั ท์มูลวทิ ยำ ช่อื ของจงั หวัดมาจากคาวา่ พิษณุ หมายถึง \"พระวษิ ณ\"ุ เทพตามความเช่อื ของชาวฮินดู รวมกบั คาว่าโลก ทาให้มีความหมายเป็น \"โลกแหง่ พระวษิ ณุ\" ในสมัยท่ยี งั ปกครองด้วยระบบมณฑลเทศาภิบาล ชื่อของจังหวัดนัน้ สะกดว่า พศิ ณโุ ลก
58ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐สัญลักษณป์ ระจำจังหวัด ตราประจาจังหวัด: พระพทุ ธชินราชดอกไม้ประจาจงั หวัด: ดอกนนทรี (Peltophorum pterocarpum)ต้นไม้ประจาจังหวัด: ปบี (Millingtonia hortensis)
59ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ประวตั ิศำสตร์สมยั สุโขทัย วัดพระศรรี ตั นมหาธาตวุ รมหาวิหาร เมอื งสองแควอยู่ในอานาจของราชวงศผ์ าเมือง จนกระทงั่ ในรชั กาลพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราชจึงไดย้ ึดเมืองสองแคว ครัน้ สมยั พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้เสดจ็ มาประทับท่เี มืองสองแคว พระองค์ได้เอาพระทัยใส่ทานบุ ารุงนาความเจรญิ เป็นอย่างยิง่ เชน่ การสร้างเหมอื งฝาย สนบั สนนุ ให้มีการขยายพื้นทเ่ี พาะปลูก สรา้ งทางคมนาคมจากเมอื งพิษณโุ ลกไปเมืองสโุ ขทัย โดยเฉพาะอย่างย่งิ ได้มีการสร้างพระพทุ ธชินราช พระพุทธชินสหี ์ และพระศรศี าสดา เพื่อประดิษฐานไว้ใน พระวหิ ารวดั พระศรีรตั นมหาธาตุ (วัดใหญ)่สมยั อยุธยำ เมอ่ื สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรงุ ศรีอยุธยาเสด็จกรธี าทัพมาหมายจะชิงสุโขทัยซ่งึ พระยายุทธษิ ฐริ ะ (พระอนชุ าของพระองค์) ได้ไปสวามิภักดต์ิ ่อพระเจ้าตโิ ลกราชแหง่ ล้านนา พระองคจ์ งึ ทรงสร้างเมอื งใหมบ่ รเิ วณเมืองสองแควและเมอื งชัยนาท ขนานนามวา่ เมืองพระพิษณุโลกสองแคว สาหรบั การที่เรยี กวา่ พระพิษณโุ ลกสองแควนนั้ คาดว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงแปลงคาจาก สรลวงสองแคว, สรลวง มีความหมายวา่ สรวง คอื พระวษิ ณุ (พระนารายณ์) โดยทรงหมายมัน่ ใหเ้ ป็นราชธานฝี า่ ยเหนอื คู่กบั กรุงเทพทวารวดีศรอี ยธุ ยา
60ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ พิษณโุ ลกสมยั อยธุ ยามีความสาคญั ยง่ิ ทางด้านการเมอื งการปกครอง ยทุ ธศาสตร์ เศรษฐกิจ ศาสนาและศลิ ปวฒั นธรรม พษิ ณโุ ลกเปน็ ราชธานีในรชั สมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ตั้งแต่ พ.ศ. 2006-พ.ศ.2031 รวม 25 ปี นับว่าระยะนี้เป็นยคุ ทองของพิษณุโลก ในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คร้ังดารงตาแหนง่ พระมหาอุปราช ณ เมืองพิษณุโลกระหว่าง พ.ศ. 2112-พ.ศ. 2133 ได้ทรงปลกุ สานกึ ใหช้ าวพษิ ณโุ ลกเป็นนกั กอบกู้เอกราชเพ่อื ชาติไทย ทรงสถาปนาพิษณโุ ลกเปน็ เมืองเอก เปน็ การประสานต่อความเจรญิ รุ่งเรืองจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ดำ้ นเศรษฐกจิ เน่ืองจากพิษณุโลกต้ังอยู่บนเส้นทางระหว่างรัฐ คือ อาณาจักรล้านนาทางเหนือกับกรุงศรีอยุธยาในทางใต้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐทั้งสองบางคร้ังเป็นไมตรีกันบางครั้งขัดแย้งกัน ทาสงครามต่อกัน มีผลให้เมืองพิษณุโลกได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมประเพณีท้ัง 2 รัฐ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจพิษณุโลกเป็นเส้นทางสินค้าของป่า และผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งเครื่องถ้วย โดยอาศัยการคมนาคมผ่านลาน้าน่านสู่กรุงศรีอยธุ ยา ซง่ึ ขณะนน้ั เปน็ ศนู ยก์ ลางของการค้านานาชาติแหง่ หนงึ่ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปัจจบุ ันที่พิษณุโลก มีหลกั ฐานชัดเจนว่าเป็นแหล่งผลิตเคร่ืองถ้วยคุณภาพดี ซึง่ มีอยู่ทว่ั ไปบริเวณฝ่ังแม่น้าน่านและแม่น้าแควน้อย โดยเฉพาะที่วัดตาปะขาวหาย พบเตาเผาเคร่ืองถ้วยเป็นจานวนมาก พร้อมเครอ่ื งถ้วยจาพวกโอง่ อ่าง ไห ฯลฯ เครอื่ งถ้วยเหล่านี้ นอกจากจะใช้ในท้องถ่ินแล้ว ยังเปน็ สินค้าส่งออกไปขายต่างประเทศดว้ ย วินิจฉัยวา่ น่าจะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในสมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนับว่าเมอื งพิษณโุ ลกมีความสาคญั ยง่ิ ทางเศรษฐกจิ คือเปน็ แหลง่ ทรพั ยากรของกรงุ ศรอี ยุธยา
61ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ ดำ้ นศำสนำ พระพทุ ธชินราช แม้ว่าเมืองพิษณุโลกจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สาคัญในสงครามระหว่างอยุธยากับล้านนาและอยุธยากับพม่ามาตลอด แต่การศาสนาก็มิได้ถูกละเลย ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณวัตถุและโบราณสถานชี้ให้เห็นชดั เจนว่า พระพทุ ธรูปและวดั ปรากฏในปจั จบุ นั เช่น พระพทุ ธชนิ ราช พระพุทธชินศรี พระศรศี าสดา วดั พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดจุฬามณี วัดอรัญญิก วัดนางพญา วัดราชบูรณะ วัดสระแก้วปทุมทอง วัดเจดีย์ยอดทอง วดั สุดสวาสดิ์ และวัดวังหนิ ลว้ นเป็นศิลปวฒั นธรรมสมยั กรงุ ศรีอยุธยา หรือมฉิ ะน้ันก็ได้มกี ารบรู ณปฏสิ งั ขรณข์ องเดิมทมี่ ีมาคร้ังกรงุ สุโขทยั แสดงว่าด้านพระศาสนาได้มกี ารบารงุ มาโดยตลอด ในปัจจุบัน ทั้งพระพุทธชินศรีและพระศรีศาสดาได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานท่ีกรุงเทพมหานคร มีเรอ่ื งเล่ากันวา่ จากเดิมจะอัญเชิญพระพุทธชินราชมาดว้ ย แต่เมือ่ เอาลงแพ เตรียมท่ีจะล่องลาน้าน่านนั้น แพก็ไม่ยอมเคลื่อนท่ี แม้จะตรวจเท่าไร ก็ไม่พบว่าแพติดอะไร แต่แพที่ใชใ้ นการย้ายก็ไม่ยอมไหลตามน้า จึงทาการบวงสรวงขอขมา แล้วนาขนึ้ มาประดิษฐานไว้ตามเดิมจนถึงปจั จุบัน ว่ากนั ว่า ท่านเป็นห่วงเมืองของทา่ น จะอยู่ปกป้อง ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างอาคารวัดจุฬามณีข้ึนในปี พ.ศ. 2007และพระองค์ได้ทรงสละราชสมบัติออกผนวช ณ วัดจุฬามณี อาเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เม่ือปีพ.ศ. 2008 เป็นเวลา 8 เดอื น 15 วัน มีข้าราชบริพารตามเสด็จออกบวชถึง 2,348 คน และในปี พ.ศ. 2025 มีพระบรมราชโองการให้บูรณะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและให้มีการสมโภชถึง 15 วัน พร้อมกันนั้นได้โปรดให้นกั ปราชญร์ าชบัณฑติ แต่งมหาชาตคิ าหลวง จบ 13 กัณฑ์บรบิ ูรณด์ ้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลสมเดจ็ พระนารายณ์
62ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐มหาราชไดท้ รงสรา้ งรอยพระพุทธบาทจาลองเมื่อ พ.ศ. 2222 และโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ วดั จุฬามณีพรอ้ มทง้ั จารึกเหตกุ ารณส์ าคญั ทางศาสนาในสมัยพระบรมไตรโลกนาถไว้บนแผน่ ศิลาดว้ ย ในส่วนของวัดสดุ สวาทดน์ิ ้ัน ว่ากนั ว่าเปน็ วัดที่เก่าแกส่ ร้างในสมัยเดียวกับวดั นางพญา โดยวดั สดุ สวาทดน์ิ ั้นเป็นวัดที่กษัตริยผ์ ู้ปกครองเมืองพิษณุโลกสร้างให้กับมเหสีท่ีรกั มากทสี่ ุด จงึ ต้ังช่ือให้ว่า \"สุดสวาท\" และมีการสรา้ งพระนางสดุ สวาสด์ิขนึ้ มาดว้ ย พทุ ธคุณเท่ากบั พระนางพญา วดั นางพญา ในส่วนของวัดวังหินน้ัน ถือว่าเป็นวัดท่ีมีความสาคัญทางด้านการทหารในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัดที่ใช้ในการจัดทัพและปลุกขวัญกาลังใจให้กับทหาร กาลังพลก่อนท่ีจะทาการออกศึก โดยวัดนี้ ก็มีการจัดสร้างพระเคร่ืองที่เช่ือกนั ว่าถูกสร้างโดยพระนเรศวรด้วย คือ ลีลาวังหิน โดดเดน่ ทางด้าน คงกระพันชาตรสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่าพิษณุโลกเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สาคัญ ควรมีผู้ที่เข้มแข็งท่ีมีความสามารถเป็นเจ้าเมือง จึงทรงแต่งตั้งเจ้าพระยายมราช (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) เป็นเจ้าพระยาสุรสีห์พิษณวุ าธิราชสาเรจ็ ราชการเมืองพษิ ณุโลกโดยข้ึนตอ่ กรุงธนบรุ ี เมื่อได้ทรงแต่งตั้งผูป้ กครองหัวเมืองฝา่ ยเหนือจนครบถ้วนแล้ว จงึ เสด็จกลับไปยังกรงุ ธนบุรี พ.ศ. 2318 อะแซหวนุ่ กี้ แม่ทัพพม่าผู้ชานาญการรบ ได้วางแผนยกทัพมาตหี ัวเมืองฝ่ายเหนือของไทยตีได้เมืองตาก เมืองสวรรคโลก บ้านกงธานี และมาพักกองทัพอยู่ที่กรุงสุโขทัย ขณะน้ันเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์กาลังยกกองทัพขึ้นไปตีเชียงแสน เมื่อทราบข่าวข้าศึก จึงรีบยกทัพกลับมารับทัพพม่าท่ีเมืองพษิ ณุโลก ก่อนทอี่ ะแซหวุ่นกยี้ กทพั มาต้งั คา่ ยลอ้ มเมืองพิษณโุ ลก กองทัพพม่าพยายามเข้าตีค่ายไทยหลายคร้ัง แต่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ได้ช่วยป้องกันเมืองเป็นสามารถ ทั้งที่ทหารน้อยกว่าแต่ไม่สามารถชนะกันได้ อะแซหวุ่นก้ีถึงกับกล่าวยกย่องแม่ทัพฝ่ายไทยเม่ือสมเด็จพระเจา้ กรุงธนบุรีทรงทราบข่าวอะแซหวุ่นก้ียกกองทัพใหญ่มาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย จึงทรงยกทัพใหญ่ขึ้นไปช่วยทันที ฝ่ายอะแซหวนุ่ กที้ ราบข่าวว่ากองทัพไทยมาตงั้ คา่ ยเพ่ือช่วยเหลือเมืองพิษณโุ ลก จึงแบ่งกาลังพลไปตั้งมั่นท่ีวัดจุฬามณีฝั่งตะวันตก อะแซหวุ่นกี้เห็นว่าถ้าชักช้าไม่ทันการณ์จึงสั่งให้ทัพพม่าท่ีกรุงสุโขทัยไปตีเมืองกาแพงเพชร ส่วนกองทัพเมืองกาแพงเพชรไปตีเมืองนครสวรรค์ และสั่งให้กองทัพพม่าอีก
63ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐กองทัพหน่ึงยกไปตีกรุงธนบุรี การวางแผนของอะแซหวุ่นกี้เช่นนี้ เป็นการตัดกาลังฝ่ายไทยไม่ให้ช่วยเมืองพษิ ณุโลกและต้องการให้กองทัพไทยระส่าระสาย ในที่สดุ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระราชดาริเห็นว่า ไทยเสียเปรียบเพราะมีกาลังทหารน้อยกว่า จึงควรถอยทัพกลับไปต้ังม่ันรับทัพพม่าท่ีกรุงธนบุรี เจ้าพระยาจักรีเห็นว่าไทยขาดเสบียงอาหารและใกลจ้ ะหมดทางสู้ จึงตัดสินใจพาไพร่พลและประชาชนชายหญิงท้ังหมด ตีหักค่ายพม่าออกจากเมืองพิษณุโลกไปทางทิศตะวนั ออกไดส้ าเร็จ พาทัพผ่าน บา้ นมุง บา้ นดงชมพู ข้ามเขาบรรทดั ไปต้ังรวมรีพ้ ลอยู่ท่เี มอื งเพชรบรู ณ์ พมา่ ลอ้ มเมืองพิษณโุ ลกนานถึง 4 เดือน เมอ่ื เข้าเมืองได้ กพ็ บแตเ่ มอื งร้าง อะแซหวนุ่ กี้จงึ สัง่ เผาผลาญทาลายบา้ นเมอื งพษิ ณโุ ลกพินาศจนหมดสนิ้ คงเหลือเฉพาะวดั พระศรรี ัตนมหาธาตเุ ท่านน้ัสมัยรตั นโกสินทร์ เมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นเมืองเอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย มีประชากรประมาณ 55,000 คน เปน็ ชาวจีนประมาณ 1,112 คน และมีเมืองตา่ ง ๆ อยู่ในอานาจการปกครองดูแลหลายหัวเมืองด้วยกัน เชน่ เมืองนครไทย ไทยบรุ ี ศรีภริ มย์ พรหมพริ าม ชมุ สรสาแดง ชมุ แสงสงครามพพิ ฒั น์ นครชุมทศการ นครพามาก เมืองการ เมอื งคา ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพสาคัญ คือ ทานา ทาไร่ หาของป่าและทาไม้ พ.ศ. 2409 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัวทรงพระอตุ สาหะเสด็จประพาสเมืองเหนอื อกี คร้ังหน่ึง โดยเสด็จทางเรือพระทีน่ ั่งอรรคราชวรเดช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัวขณะน้ันกาลังผนวชเป็นสามเณรก็ได้ตามเสด็จมาด้วย เมอื่ เสด็จถึง ก็ไดท้ รงประทับและทรงสมโภชพระพุทธชินราชอยู่ 2 วันจึงเสด็จกลับ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งยังดารงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช) ได้เสด็จประพาสเมืองพิษณุโลกทุกพระองค์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ ที่พระองค์ได้เสด็จไปทอดพระเนตรในระหว่างเสด็จประพาส เชน่ เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง พระราชปรารภเรื่องพระพุทธชินราชและเรื่องลิลิตพายัพเป็นต้น เอกสารดังกล่าวเหล่าน้ีปัจจุบันมคี ุณค่าอย่างยิง่ ทางด้านประวัติศาสตร์ สว่ นรัชกาลท่ี 5 นั้น พระองค์ทรงประทับพระทัยในความศกั ด์ิสทิ ธิ์และความสวยงามขององค์พระพุทธชินราช ถงึ กับโปรดเกลา้ ฯ ให้จาลองพระพุทธรปู พระพุทธชนิ ราชไปเป็นพระประธานในพระอโุ บสถวัดเบญจมบพิตร ซ่งึ พระองคท์ รงสรา้ งขึน้ ในสมัยน้ัน
64ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ ครง้ั เมื่อสงครามโลกคร้ังท่ีสอง สะพานข้ามแม่น้าน่านหนา้ วัดใหญ่กถ็ ูกทิ้งระเบิด แตท่ ิ้งเทา่ ไหร่กไ็ มถ่ ูกเปา้ หมาย ท้ัง ๆ ท่ใี นอดตี เป็นสะพานไม้ทีใ่ หญท่ ีส่ ดุ ของจังหวดั พิษณุโลกภูมศิ ำสตร์ท่ตี ง้ั และอำณำเขต จังหวดั พิษณโุ ลกต้ังอย่ภู าคเหนือตอนล่างและอยู่ในเขตภาคกลางตอนบนสุดของประเทศไทย เรียกกันว่า \"เหนือล่างกลางบน\" ห่างจากกรุงเทพมหานคร 368 กม. มีเน้ือที่ท้ังหมดประมาณ 10,815 ตร.กม. หรือ6,759,909 ไร่ มอี าณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกบั อาเภอพชิ ยั อาเภอทองแสนขัน และอาเภอนา้ ปาด (จงั หวดั อตุ รดิตถ)์ และ แขวงไชยบรุ ี ประเทศลาวทิศใต้ ติดตอ่ กับ อาเภอเมอื งพิจติ ร อาเภอวชิรบารมี อาเภอสามงา่ ม และอาเภอสากเหล็ก (จงั หวัดพิจิตร)ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกับ อาเภอหล่มสัก อาเภอเขาค้อ อาเภอวังโป่ง (จังหวัดเพชรบูรณ์) อาเภอ ด่านซา้ ย และอาเภอนาแห้ว (จงั หวดั เลย)ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กับ อาเภอกงไกรลาศ อาเภอศรสี าโรง (จงั หวดั สุโขทัย) และอาเภอลานกระบือ (จังหวัดกาแพงเพชร)ภูมปิ ระเทศและภูมิอำกำศ ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นเขตเทือกเขาสูงและที่ราบสูง โดยมีเขตภูเขาสูงด้านตะวนั ออกเฉียงเหนอื ซ่งึ อยู่ในเขตอาเภอวังทอง อาเภอวัดโบสถ์ อาเภอเนินมะปรางอาเภอนครไทย และอาเภอชาตติ ระการ พื้นท่ีตอนกลางมาทางใตเ้ ป็นที่ราบ และตอนใตเ้ ป็นทรี่ าบลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่นา้ นา่ นและแม่น้ายม ซ่ึงเป็นแหล่งการเกษตรท่ีสาคัญที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ในเขตอาเภอบางระกา อาเภอเมืองพิษณโุ ลก อาเภอพรหมพริ าม อาเภอเนนิ มะปราง และบางส่วนของอาเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกมีลมมรสุมพัดผ่านจากทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอนิ เดยี และแบ่งฤดกู าลออกได้เป็น3 ฤดูฤดรู ้อน ประมาณเดอื นกุมภาพนั ธ์-เมษายน อณุ หภูมิเฉลย่ี ประมาณ 32 องศาเซลเซียส
65ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ฤดูฝน จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้าฝน เฉลี่ยประมาณปีละ 1,375ฤดูหนาว มลิ ลิเมตร ต้งั แต่เดือนพฤศจกิ ายน-มกราคม อณุ หภูมิเฉลยี่ ประมาณ 19 องศาเซลเซยี ส
66ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐รำยนำมผูว้ ่ำรำชกำรจงั หวดั พษิ ณโุ ลก ช่ือ ระยะเวลำทำงำน1. พระบริรกั ษโ์ ยธี (ทองอยู่ สุวรรณบาตร์)2. พระไชยศิรินทรภักดี 2456-24573. พระพิษณโุ ลกบรุ ี (สวัสดิ์ มหากาย)ี 2457-24584. พระเกษตรสงคราม 2458-24595. พระสวรรคโลกบุรี 2459-24616. พระยากัลยาวัฒนาวศิ ิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) 2461-24707. พระยาสนุ ทรพพิ ิธ (เชย มฆั วบิ ลู ย)์ 2470-24768. พระยาศริ ชี ัยบุรินทร์ 12 มนี าคม 2456 – 1 กรกฎาคม 24769. พระสาครบุรานรุ กั ษ์ (เปลอ้ื ง สุวรรณนานนท)์ 20 มนี าคม 2478 – 18 พฤษภาคม 248110. พระยาสรุ าษฎรธ์ านศี รเี กษตรนิคม 10 มถิ ุนายน 2481 – 18 มถิ ุนายน 248211. พระหลวงยทุ ธสารประสทิ ธ์ิ (เมย้ี น โรหิตเสรน)ี 24 มถิ ุนายน 2482 – 7กรกฎาคม 248312. พ.อ.พระศรีราชสงคราม (ศรี ศุขะวาที) 7 กนั ยายน 2483 – 7 พฤษภาคม 248413. พ.ต.หลวงยุทธสารประสทิ ธ์ิ (เมย้ี น โรหติ เสรน)ี 16 มถิ ุนายน 2484-27 กรกฎาคม 248514. หลวงวิเศษ ภกั ดี (ชน่ื วเิ ศษภกั ดี) 28 เมษายน 2485 – 3 มกราคม 248715. หลวงศรีนราศัย (ผวิ จนั ทิมาคม) 11 พฤษภาคม 2487 – 7 กรกฎาคม 248816. นายพรหม สูตรสุคนธ์ 7 กรกฎาคม 2488 – 7 ตุลาคม 248917. ขุนคานวณวจิ ิตร (เชย บุนนาค) 18 พฤศจิกายน 2489 – 6 ธนั วาคม 249018. ขนุ จรรยาวเิ ศษ (เท่ยี ง บุณยนติ ) 6 ธนั วาคม 2490 – 31 ธันวาคม 249319. นายพว่ ง สวุ รรณรัฐ 1 มกราคม 2494 – 10 พฤศจกิ ายน 249420. พต.ขนุ ทะยานราญรอน (วัชระ วชั รบูล) 12 กมุ ภาพนั ธ์ 2494 – 1 พฤศจิกายน21. พระบรรณศาสตรส์ าทร 1 กุมภาพันธ์ 2497 – 1 สงิ หาคม 249722. นายปรง พระหชู นม์ 1 สงิ หาคม 2497 – 22 กมุ ภาพันธ์ 250123. นายพว่ ง สวุ รรณรัฐ (รักษาการในตาแหนง่ ผ.ว.ก.จว.) 14 กุมภาพนั ธ์ 2501 – 3 มนี าคม 250124. นายเยยี น โพธสิ ุวรรณ 27 มีนาคม 2501 – 3 เมษายน 250725. นายเจริญ ภมรบตุ ร 9 เมษายน 2507 – 4 กุมภาพนั ธ์ 250926. นายนิรตุ ไชยกลู 11 กุมภาพนั ธ์ 2509 – 21 ตุลาคม 2510
67ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐รำยนำมผวู้ ำ่ รำชกำรจงั หวัดพิษณโุ ลก (ต่อ) ระยะเวลำทำงำน 21 พฤศจกิ ายน 2510 – 2 ตลุ าคม 2513 ช่ือ 2 ตลุ าคม 2513 – 21 กันยายน 2514 27. นายพล จุฑางกูล 1 ตุลาคม 2514 – 1 ตุลาคม 2515 28. นายพัฒน์ บุณยรตั พันธ์ุ 1 ตลุ าคม 2515 – 30 กนั ยายน 2517 29. นายจารูญ ปยิ ัมปุตระ 1 ตลุ าคม 2517 – 30 กันยายน 2519 30. พล.ต.ต.สามารถ วายวานนท์ 1 ตลุ าคม 2519 – 30 กนั ยายน 2523 31. นายสิทธเิ ดช นรตั ถรักษา 1 ตุลาคม 2523 – 30 กนั ยายน 2525 32. นายชาญ กาญจนาคพนั ธ์ุ 1 ตุลาคม 2525 – 31 ตลุ าคม 2528 33. นายยง ภกั ดี 1 พฤศจิกายน 2528 – 30 กันยายน 2532 34. นายสบื รอดประเสริฐ 1 ตุลาคม 2532 - 30 กันยายน 2534 35. นายนพรตั น์ เวชชศาสตร์ 1 ตลุ าคม 2534 – 30 กันยายน 2536 36. นายไพฑรู ย์ สุนทรวิภาต 1 ตลุ าคม 2536 – 30 กนั ยายน 2539 37. นายอภัย จนั ทนจุลกะ 1 ตุลาคม 2539 – 30 กนั ยายน 2542 38. นายสวัสดิ์ ส่งสัมพนั ธ์ 1 ตุลาคม 2542 – 30 กันยายน 2545 39. นายนิธิศกั ดิ ราชพติ ร 1 ตลุ าคม 2545 - 30 กนั ยายน 2550 40. นายวจิ ารณ์ ไชยนันท์ 1 ตลุ าคม 2550 - 15 มนี าคม 2552 41. นายพิพฒั น์ วงศาโรจน์ 16 มีนาคม 2552 - 27 เมษายน 2555 42. นายสมบรู ณ์ ศรีพฒั นาวัฒน์ 27 เมษายน 2555 - 7 ตุลาคม 2555 43. นายปรชี า เรืองจันทร์ 8 ตุลาคม 2555 - 30 กันยายน 2556 44. นายชยั โรจน์ มีแดง 1 ตลุ าคม 2556 - 30 กันยายน 2557 45. นายปรีชา เรอื งจนั ทร์ 1 ตลุ าคม 2557 - 30 กันยายน 2558 46. นายระพี ผอ่ งบุพกจิ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559 47. นายจักรนิ เปลยี่ นวงษ์ 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 48. นายชชู าติ กีฬาแปง 1 ตลุ าคม 2560 - ปจั จุบัน 49. นายศุภชัย เอี่ยมสวุ รรณ 50. นายภคั พงศ์ ทวพิ ัฒน์
68ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐กำรศึกษำ จังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง มีสถานศึกษามากมายทุกระดับตงั้ แต่อนบุ าลจนถงึ ระดบั มหาวิทยาลัยทง้ั รฐั บาล และเอกชนดงั นี้อดุ มศกึ ษำ มหาวิทยาลยั นเรศวร
69ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพบิ ลู สงครามมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพษิ ณโุ ลก
70ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วิทยาลยั สงฆพ์ ทุ ธชนิ ราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมหาวิทยาลยั พิษณโุ ลก
71ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วิทยาลยั ทองสขุ ศูนยก์ ารศึกษาพษิ ณุโลกวทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
72ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สิรนิ ธรวิทยาลยั แคมบรดิ จ์ ประเทศไทย
73ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์ ศนู ย์จงั หวดั พษิ ณโุ ลกอำชีวศึกษำ วิทยาลยั อาชวี ศึกษา จังหวดั พษิ ณุโลก
74ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วทิ ยาลัยเทคนิคพษิ ณโุ ลกวิทยาลัยเทคนคิ สองแคว
75ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วทิ ยาลยั พณชิ ยการบงึ พระพษิ ณโุ ลกวิทยาลยั สารพัดช่างพษิ ณโุ ลก
76ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วทิ ยาลัยการอาชพี นครไทยวิทยาลัยบริหารธรุ กจิ และเทคโนโลยพี ษิ ณโุ ลก
77ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วิทยาลัยอาชวี ศกึ ษาพณชิ ยการพิษณุโลก
78ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐กำรขนส่ง จากลักษณะทางภมู ิศาสตร์ทาให้จังหวัดพษิ ณโุ ลกเปน็ จดุ ศูนย์กลางในด้านคมนาคมของ ภมู ิภาคอินโดจีน โดยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคเหนือ รวมทั้งภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยจงั หวัดพิษณุโลกจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น \"เมืองบริการส่ีแยกอินโดจีน\" โดยสามารถเดินทางได้โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (แม่สอด-มุกดาหาร) ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 11 (อินทร์บุรี-เชียงใหม่) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 (พิษณุโลก-นครสวรรค์) โดยทางหลวงท้ัง 3 สายเช่ือมโยงกันด้วยโครงข่ายถนนวงแหวนรอบเมืองพิษณโุ ลก โดยท้ังนจ้ี ังหวดั พิษณุโลกมสี ถานีขนส่งผโู้ ดยสาร 2 แห่งด้วยกัน สถานีขนสง่ ผ้โู ดยสารแห่งที่ 1 ต้ังอยู่ภายในตวั เมือง สาหรับรถโดยสารทวี่ ง่ิ บริเวณจงั หวัดที่ ใกลเ้ คียง สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอินโดจีน เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารที่มีขนาด ใหญ่ท่ีสุดในภาคเหนือ ก่อสร้างบนเน้ือที่ 10 ไร 12 ตารางวา รองรับรถโดยสารท่ีมีเส้นทางผ่านจังหวัดพิษณุโลกรวม 20 เส้นทาง มีชานชาลาสาหรับจอดรถโดยสารทั้งหมด 40 ช่อง แบ่งเป็นอาคารสถานฯี หลงั ใหญ่ จานวน20 ช่อง อาคารสถานีฯหลังเลก็ จานวน 20 ช่อง มชี ่องจาหน่ายต๋ัว 27 ช่อง มีสถานทจี่ อดรถสาหรับประชาชนจานวน 100 ช่อง มีการจดั สถานท่นี ั่งรอรถ สาหรับพระภิกษแุ ละประชาชนอย่างเพยี งพอ นอกจากการคมนาคมทางรถยนตแ์ ล้ว การเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกยังสามารถมาด้วย รถไฟ หรือเคร่ืองบิน โดยที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก มีเครื่องบินมีสายการบินนกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และ กานต์แอร์ มีเทีย่ วบินมาลงท่าอากาศยานพษิ ณุโลกทกุ วนั ส่วนการเดนิ ทางภายในตวั จงั หวัดน้ัน จะมีรถโดยสารสองแถวสีม่วง กบั รถโดยสารประจาทาง มินิบสั สีม่วง วิง่ ใหบ้ รกิ ารหลายสายสำธำรณสุข จังหวัดพิษณุโลกมีสถานบริการท่ีหลากหลาย ตั้งแต่สถานีอนามัย ศูนย์สุขภาพชุมชน คลินิกโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลทหาร โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลระดับมหาวิทยาลยั โดยมโี รงพยาบาลศูนย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุขประจาจังหวัดและประจาภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างคือ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณโุ ลก และมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลยั ในสังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ซึ่งเปน็ โรงพยาบาลระดบั ตติยภูมิ
79ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ขั้นสูงของภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างก็คือ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงกลาโหม คอื โรงพยาบาลคา่ ยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และโรงพยาบาลกองบิน 46สถำนทที่ ่องเทีย่ วสถำนทพ่ี ักผอ่ นหย่อนใจ สวนเฉลมิ พระเกียรติ 80 พรรษา (แยกเรือนแพ)
80ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ พิษณโุ ลก เซ็นทรัลปารค์ (บรเิ วณสถานีตารวจภธู รเมืองพษิ ณโุ ลก) (โครงการกอ่ สรา้ ง)อาเภอเมืองพิษณโุ ลก วัดพระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวิหาร
81ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ พระราชวังจันทน์ (ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช)มหาวิหารสมเดจ็ องคป์ ฐม (วัดจันทรต์ ะวนั ตก)
82ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ พิพิธภัณฑพ์ ้นื บ้านจา่ ทวี (จา่ สิบเอกทวี-พิมพ์ บูรณเขตต)์โรงหล่อพระบรู ณะไทย
83ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ สวนนกไทยศึกษาเซน็ ทรลั พลาซาพษิ ณโุ ลก
84ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วดั จุฬามณีวดั นางพญา
85ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐อาเภอบางระกา สวนนา้ สแปลชฟันปารค์ (สถานทีพ่ ักผ่อนหยอ่ นใจ)อาเภอวังทอง สวนสาธารณะบึงราชนก (ส่องนกชมดาว)
86ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ สวนรุกขชาติสกโุ ณทยาน (นา้ ตกวังนกแอน่ )น้าตกปอย
87ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ น้าตกแก่งซองนา้ ตกแก่งโสภา
88ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ อุทยานแหง่ ชาติท่งุ แสลงหลวงวนอุทยานเขาพนมทอง ตาบลพันชาลี
89ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วัดราชคีรหี ิรัญยารามอทุ ยานแห่งชาติภแู ดงร้อน
90ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ วัดพระพุทธบาทเขาสมอแคลงโรงเจไซทีฮกุ ตง้ึ
91ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ พระมหาธาตุเจดยี ์ศรบี วรชินรตั น์วดั วงั ทองวราราม
92ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ สถปู พระยาสาลีรฐั วภิ าคอาเภอนครไทย อุทยานแหง่ ชาตทิ งุ่ แสลงหลวง
93ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ อทุ ยานแห่งชาตภิ หู ินรอ่ งกลา้อนสุ าวรยี พ์ ่อขุนบางกลางทา่ ว (หาว)
94ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐อาเภอวัดโบสถ์ เขื่อนแควนอ้ ยบารุงแดนอุทยานแห่งชาตแิ ก่งเจด็ แคว
95ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ เขตหา้ มลา่ สัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่อาเภอชาติตระการ อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ้าตกชาติตระการ
96ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ นา้ ตกนาจานอุทยานแห่งชาติภสู อยดาว
97ข้อมลู สถานศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ปี ๒๕๖๐ นา้ ตกตาดปลากง้ัอาเภอเนินมะปราง เขตหา้ มล่าสตั วป์ ่าถา้ ผาท่าพล
Search