Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย

Published by realray2553, 2020-07-06 19:50:46

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 1 จำนวนและการดำเนนิ การ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...2... สอนวนั ท่ี …2.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั จำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังทมี่ เี ลขช้กี ำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตุผล อัตราสว่ น ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เครือ่ งมอื และการออกแบบผลิตภณั ฑ์ สถติ ิเบอื้ งตน้ และความนา่ จะเปน็ ตวั ชว้ี ดั 1. แสดงความสมั พันธข์ องจำนวนตา่ งๆ ในระบบจำนวนจริง 2. อธิบายเกี่ยวกบั จำนวนจริงทอี่ ยู่ในรปู เลขยกกำลงั ทม่ี ีเลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ และ จำนวน จริงในรูปกรณฑ์ 3. อธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ท่ีเกดิ จากการบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนจรงิ ทีอ่ ยใู่ นรปู เลขยกกำลงั ทมี่ ีเลขชี้กำลงั เป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์ เนอ้ื หา 1. ความสัมพนั ธ์ของระบบจำนวนจรงิ 2. เลขยกกำลังทม่ี ีเลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะและจำนวนจริงในรปู กรณฑ์ 3. การบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนทม่ี ีเลขช้ีกำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ และจำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ 4. ค่าสัมบูรณ์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศกึ ษาสามารถแสดงความสัมพันธ์ของจำนวนตา่ งๆ ในระบบจำนวนจริงได้ 2. นักศึกษาสามารถอธิบายเกย่ี วกบั จำนวนจริงที่อยใู่ นรปู เลขยกกำลงั ท่มี ีเลขชี้กำลงั เป็นจำนวน ตรรกยะ และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ 3. นกั ศึกษาสามารถอธบิ ายความหมายและหาผลลัพธ์ทเ่ี กดิ จากการบวก การลบ การคณู การหาร จำนวนจรงิ ท่อี ยู่ในรปู เลขยกกำลงั ที่มเี ลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ในรปู กรณฑไ์ ด้ 4. อธิบายเกย่ี วกับคา่ สมั บรู ณข์ องจำนวนจรงิ และหาค่าสมั บรู ณข์ องจำนวนจริง กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หา ความต้องการ - ครตู ั้งประเดน็ คำถามกับผู้เรยี นวา่ วันนีม้ ีผเู้ รยี นท้งั หมดก่คี น เป็นผู้ชายกี่คนและทเี่ หลอื เปน็ ผหู้ ญิงกคี่ น - ครูถามผูเ้ รียนว่าจำนวนทผ่ี เู้ รยี นตอบนนั้ เป็นจำนวนอะไร

- ครตู ้งั ประเด็นคำถามวา่ 3+5 = 5+3 เพราะเหตุใด - 56 ทำไมจึงเทา่ กบั 65 - ครตู ้งั ประเด็นคำถามวา่ สมบตั กิ ารเทา่ กนั และการไมเ่ ท่ากนั แตกตา่ งกนั อยา่ งไร - ครใู ห้ผเู้ รียนดสู ญั ลักษณ์ ( | | ) แลว้ ถามผูเ้ รียนว่าเป็นสัญลักษณ์ของอะไร มีความหมายอยา่ งไร ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และการจัดการเรยี นรู้ - ผู้เรียนตอบประเดน็ คำถามดว้ ยการนบั จำนวนผู้เรยี นท้งั หมด แยกชาย-หญิง - ผ้เู รียนศกึ ษาใบความรเู้ ร่อื งความสัมพันธ์ของระบบจำนวนจรงิ - ครูอธบิ ายเก่ียวกบั ความสัมพนั ธ์ของระบบจำนวนจรงิ - ผู้เรยี นศึกษาใบความรู้เร่อื งสมบตั ิของการบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนจริงหรือจาก หนงั สอื แบบเรียน - ครูอธบิ ายเกีย่ วกบั สมบัตขิ องการบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจริง - ผู้เรยี นศึกษาใบความรูเ้ รือ่ งสมบัตกิ ารเท่ากันและการไมเ่ ทา่ กันหรือจากหนงั สือแบบเรียน - ครอู ธบิ ายเกีย่ วกับสมบัติการเท่ากันและการไม่เทา่ กัน - ผู้เรียนศกึ ษาใบความรู้เรื่องค่าสมั บูรณห์ รือจากหนังสอื แบบเรียน - ครอู ธิบายเก่ยี วกบั ค่าสัมบรู ณ์ของจำนวนจรงิ และการหาค่าสัมบรู ณ์ของจำนวนจริง ขนั้ ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนำไปประยกุ ต์ใช้ - ครมู อบหมายให้ผ้เู รียนฝกึ ปฏิบัติด้วยการทำแบบฝกึ หดั - ครใู ห้ผู้เรยี นศึกษาเพิม่ เติมจากแหลง่ เรยี นรู้อืน่ ๆพรอ้ มทั้งทำแบบฝึกหดั และนำสง่ ในการพบกลุม่ คร้ัง ต่อไป ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ - ครูและผ้เู รียนร่วมกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้ - ครปู ระเมินผลจากการสังเกตพฤติกรรมและแบบฝึกหดั สอื่ การเรยี นการสอน - ใบความรู้เรอ่ื งความสัมพันธข์ องระบบจำนวนจริง - ใบความร้เู รื่องสมบัตขิ องการบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจรงิ - ใบความรเู้ ร่อื งสมบัตกิ ารเทา่ กันและการไมเ่ ท่ากัน - ใบความรเู้ รื่องคา่ สมั บูรณ์ - แบบฝกึ หัด - หนงั สือแบบเรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล - การสังเกตพฤติกรรมจากการพบกลมุ่ - การทำแบบฝกึ หดั ลงชอื่ ( นายวชั ระ วเิ ทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสุรชยั จนั ทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 2 เลขยกกำลงั ทม่ี เี ลขชก้ี ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ..2.. สอนวนั ท่ี …2... เดอื น ..กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ ..1.. ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังท่มี ีเลขชกี้ ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตผุ ล อตั ราส่วน ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เครือ่ งมอื และการออกแบบผลติ ภัณฑ์ สถิตเิ บอื้ งต้นและความน่าจะเปน็ ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายความหมายและบอกความแตกต่างของจำนวนตรรกยะและอตรรกยะ 2. อธิบายเกี่ยวกบั จำนวนจรงิ ที่อยู่ในรูปเลขยกกำลงั ท่ีมีเลขชีก้ ำลังเปน็ จำนวน ตรรกยะและจำนวน จรงิ ในรปู กรณฑ์ 3. อธบิ ายความหมายและหาผลลพั ธ์ท่ีเกดิ จากการบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนจริงที่อยู่ในรูป เลขยกกำลงั ท่มี ีเลขชกี้ ำลังเป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ เนอ้ื หา 1. จำนวนตรรกยะและจำนวนอตรรกยะ - จำนวนตรรกยะและจำนวนอตรรกยะ - เลขยกกำลังท่ีมเี ลขชีก้ ำลังเป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ - การบวก การลบ การคูณ การหาร เป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์ 2. เลขยกกำลังที่มีเลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ - เลขยกกำลังทีม่ ีเลขชกี้ ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ - จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ 3. การบวก การลบ การคณู และการหาร เลขยกกำลงั ทม่ี ีเลขชกี้ ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ - การบวกจำนวนท่มี เี ลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศกึ ษาสามารถอธิบายความหมายและบอก ความแตกต่างของจำนวน ตรรกยะ และอตรรกยะได้ 2. นักศึกษาสามารถอธบิ ายเก่ียวกับจำนวนจริงทอ่ี ยู่ในรูปเลขยกกำลังทม่ี ีเลขชก้ี ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ 3. นกั ศึกษาสามารถอธิบายความหมายและหาผลลัพธท์ ่ีเกดิ จากการบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนจรงิ ท่ีอยู่ในรปู เลขยกกำลงั ทม่ี ีเลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ในรปู กรณฑไ์ ด้

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการในการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รยี นตง้ั คำถามเก่ยี วกับเนื้อหาทตี่ ้องการรู้ - จำนวนตรรกยะและจำนวนอตรรกยะแตกต่างกนั อย่างไร - จำนวนตรรกยะคือจำนวนหรอื ตวั เลขใด - จำนวนอตรรกยะคือจำนวนหรือตวั เลขใด 2. เลขยกกำลงั คอื อะไร 3. เลขยกกำลงั นำไปใชป้ ระโยชน์ได้ในเร่อื งใดบ้าง 4. เลขยกกำลงั 25 ตัวเลขใดเป็นเลขฐาน ตัวเลขใดเป็นเลขชี้กำลงั 5. ครูและผ้เู รียนร่วมกนั อภปิ รายเก่ยี วกับโจทย์ในการบวก ลบ คูณ และหาร เลขยกกำลงั ท่ีมีเลขชีก้ ำลังเป็น จำนวนตรรกยะ ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรียนรู้ 1. ผู้เรียนแบง่ กลุ่มกนั คน้ คว้าหาข้อมูลเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 อธิบายความหมายและยกตวั อย่างจำนวนตรรกยะ มา 5 ตวั อย่าง กลมุ่ ที่ 2 อธบิ ายความหมายและยกตวั อย่างจำนวนอตรรกยะ มา 5 ตวั อยา่ ง 2. ใหผ้ ู้เรียนหาขอ้ มูลตวั อย่างเลขยกกำลังทีม่ ีฐานเป็นจำนวนเตม็ บวก เลขช้กี ำลงั เปน็ จำนวนเตม็ บวก 3. ใหผ้ ู้เรยี นหาข้อมูลตัวอย่างยกกำลงั ทม่ี ฐี านเป็นจำนวนเต็มลบ เลขชีก้ ำลงั เป็นจำนวนเตม็ บวก 4. ศึกษาวธิ กี ารบวก ลบ คูณ และหารเลขยกกำลงั พร้อมทง้ั ยกตัวอยา่ งการคำนวณ ขนั้ ที่ 3 ปฏิบัติ 1. ผู้เรียนทกุ คนฝึกทำแบบฝึกหดั และทำใบงาน ขนั้ ที่ 4 ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ผ้เู รยี นสลับกนั ตรวจแบบฝึกหดั ตามแนวเฉลยที่ครูผู้สอนแจกให้ สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ /ใบงาน - แบบฝึกหดั - หนงั สอื แบบเรยี น การวดั ผลประเมนิ ผล - ทำแบบฝกึ หดั และใบงาน - ทดสอบยอ่ ย ลงชอ่ื ลงชอ่ื ( นางรัตนา นิตยารส ) ( นายสุรชัย จันทรแ์ ดง ) ครู ศรช.บา้ นดอนดู่ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 3 เซต เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...3... สอนวนั ที่ …9... เดอื น ...กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563.. ภาคเรยี นท่ี …1.. ปกี ารศกึ ษา ..2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั จำนวนและการดำเนนิ การ เลขยกกำลงั ท่มี ีเลขชี้กำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการให้เหตผุ ล อัตราส่วน ตรีโกณมติ ิ และการนำไปใช้ การใช้เครอ่ื งมือและการออกแบบผลติ ภัณฑ์ สถิตเิ บอ้ื งต้นและความนา่ จะเปน็ ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายความหมายเกี่ยวกบั เซต 2. สามารถหายูเนยี น อินเตอรเ์ ซกชน่ั คอมพลเี มนต์ และผลตา่ งของเซต 3. เขียนแผนภาพแทนเซต และนำไปใชแ้ ก้ปัญหาท่เี ก่ียวกับการหาสมาชิกของเซต เนอ้ื หา 1. เซต 2. ความหมายของเซต และการเขยี นเซต 1. ชนดิ ของเซต 2. เซตทีเ่ ทา่ กันและเซตท่ีเทยี บเทา่ 3. สบั เซต 4. เพาเวอรเ์ ซต 3. การดำเนนิ การของเซต 1. ยเู นยี น 2. อนิ เตอรเ์ ซกช่ัน 3. คอมพลีเมนต์ 4. ผลต่างของเซต 4. แผนภาพเวนน์ -ออยเลอร์ และ การแกป้ ัญหา 1. อนิ เตอร์เซกชนั่ 2. คอมพลเี มนต์ 3. ผลต่าง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศึกษาสามารถอธิบายความหมายเกีย่ วกับเซตได้ 2. นักศึกษาสามารถหายูเนี่ยน อนิ เตอร์เซกช่ันคอมพลีเมนต์ และผลตา่ งของเซตได้ 3. นักศกึ ษาสามารถเขียนแผนภาพแทนเซต และนำไปใชแ้ ก้ปญั หาทเ่ี กี่ยวกบั การหาสมาชกิ ของเซต

4. นกั ศึกษาสามารถอธิบายและใชก้ ารใหเ้ หตผุ ล แบบอุปนัยและนริ นัย 5. นกั ศึกษาบอกไดว้ า่ การอ้างเหตผุ ลสมเหตุสมผลหรอื ไม่ โดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 กำหนดสภำพปัญหำ 1. ครูสนทนากบั ผู้เรยี นเก่ยี วกับช่อื จังหวัดทผ่ี ู้เรียนสนใจ 2. ให้ผเู้ รียนรว่ มกนั จดั กลมุ่ จงั หวัดเป็นแต่ละภาค 3. ครสู ่มุ ถามผู้เรียน 2 คน ใหบ้ อกเลขโดดท่ตี นเองช่ืนชอบมาคนละ 4 จำนวน 4. ผ้เู รียนรว่ มกันเขียนเซตตามจำนวนที่เพอื่ นบอก 5. ครูนำตวั อยา่ งแผนภาพเวนนแ์ ละออยเลอรม์ าประมาณ 3 -5 ภาพ เชน่ 6. ผู้เรยี นรว่ มกันเขยี นความหมายของการดำเนินการของเซต 7. ครยู กตวั อย่างโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั เซตอย่างง่าย เชน่ มีดอกไม้สสี วย 7 ดอก ดอกไม้มีกลิน่ หอม 11 ดอก ดอกไม้สีสวยและกลิ่นหอม 3 ดอก อยากทราบว่ามดี อกไม้ทัง้ หมดกด่ี อก ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และการจดั การเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้ แล้วรว่ มกันตอบคำถามตามทค่ี รถู าม “ครูถามผู้เรียนว่า : ผู้เรียนลองนำผลจากการจดั กลุ่มจงั หวัดออกเป็นแต่ละภาคมาเขยี นในรปู ของเซต” 2. ผู้เรยี นนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน 3. ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรแู้ ละหนังสอื แบบเรยี น 4. ผเู้ รียนร่วมกนั นำความร้จู ากขอ้ 2 มาอภิปรายเพ่อื หาคำตอบของยเู นียน อนิ เตอร์เซกช่ัน คอมพลีเมนต์ และผลต่าง 5. ผเู้ รยี นร่วมกันอภิปรายเพอ่ื หาคำตอบของโจทย์ขอ้ ท่ี 4 ขน้ั ท่ี 3 ขัน้ ปฏิบตั ิและนำไปประยกุ ต์ใช้ 1. ผเู้ รยี นร่วมกนั ศึกษาใบงาน เรอื่ งเซต พร้อมทง้ั บันทกึ ผลลงใน กรต. 2. ผเู้ รียนร่วมกนั ปฏิบตั กิ ิจกรรมตำมใบงำนทก่ี ำหนด ขนั้ ท่ี 4 ประเมินผลการเรยี นรู้ 1. ผเู้ รียนรว่ มกันสรุปความรู้พร้อมทงั้ นำเสนอผลงาน 2. ทดสอบย่อย พรอ้ มท้ังรว่ มกันตรวจคำตอบ 3. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้ท่ไี ด้เปน็ ความคดิ รวบยอด มอบหมายให้ผเู้ รียนทำแบบฝกึ หัดท้ายบท สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ - แบบฝึกหัด

- หนังสอื แบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - ใบความรู้ - ใบงาน - แบบฝึกหัด - หนงั สอื แบบเรยี น ลงช่ือ ( นายวัชระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่อื ( นายสรุ ชยั จนั ทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 4 การใหเ้ หตผุ ล เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ..3... สอนวนั ท่ี …9… เดอื น ..กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา …2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั จำนวนและการดำเนนิ การ เลขยกกำลังที่มเี ลขช้กี ำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตุผล อัตราสว่ น ตรโี กณมิติ และการนำไปใช้ การใชเ้ ครอ่ื งมอื และการออกแบบผลิตภัณฑ์ สถิติเบ้ืองต้นและความน่าจะเปน็ ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายความหมายเกย่ี วกบั เซต 2. สามารถหายูเนียน อนิ เตอรเ์ ซกชัน่ คอมพลเี มนต์ และผลตา่ งของเซต 3. เขยี นแผนภาพแทนเซต และนำไปใชแ้ ก้ปัญหาที่เกย่ี วกบั การหาสมาชิกของเซต เนอ้ื หา 1. การให้เหตุผลแบบอุปนยั และนริ นัย 2. การอา้ งเหตุผล โดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายและใชก้ ารใหเ้ หตุผลแบบอุปนยั และนิรนัย 2. บอกได้ว่าการอา้ งเหตุผลสมเหตสุ มผลหรอื ไม่ โดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปัญหา ความต้องการ - ครูตั้งประเดน็ คำถามว่าพระอาทิตย์ข้นึ ทางทิศใด และรูไ้ ดอ้ ย่างไรวา่ พระอาทิตย์ขึ้นทางทศิ นน้ั - ผู้เรยี นจะสรุปเหตุการณ์น้นั วา่ อยา่ งไร ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูลและการจัดการเรยี นรู้ - ผู้เรียนตอบประเด็นคำถาม - ผู้เรียนศึกษาใบความรู้เรอื่ งการให้เหตผุ ลแบบอุปนยั และนิรนัย การอ้างเหตผุ ล โดยใชแ้ ผนภาพเวนน์- ออยเลอร์ หรือจากหนังสอื แบบเรียน สอ่ื ,แหลง่ เรยี นรอู้ น่ื ๆ ที่เก่ียวข้อง - ครอู ธบิ ายเกีย่ วกบั การใหเ้ หตุผลแบบอปุ นยั และนริ นัยการอ้างเหตผุ ล โดยใชแ้ ผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ ขน้ั ที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ - ครูมอบหมายให้ผเู้ รียนทำใบงาน - ครใู หผ้ ้เู รียนศึกษาเพมิ่ เตมิ จากแหล่งเรยี นรู้อ่นื ๆพร้อมทัง้ ทำแบบฝกึ หัดและนำสง่ ในการพบกลุม่ ครั้งตอ่ ไป

ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ - ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการเรียนรู้ - ครูประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤติกรรม,ใบงาน,แบบฝกึ หดั สอื่ การเรยี นการสอน - ใบความรเู้ รื่องการใหเ้ หตุผลแบบอปุ นยั และนิรนยั - ใบความรเู้ รือ่ งการอา้ งเหตผุ ล โดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ - ใบงาน - แบบฝกึ หดั - หนงั สือแบบเรยี น การวดั ผลประเมนิ ผล - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลุ่ม - การทำใบงาน - การทำแบบฝึกหดั - บันทกึ การเรียนรู้ ลงชื่อ ( นายวัชระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสุรชัย จนั ทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 5 อตั ราสว่ นตรโี กนมติ แิ ละการนำไปใช้ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ....4... สอนวนั ท่ี …16… เดอื น …กรกฎาคม... พ.ศ. ...2563.... ภาคเรยี นที่ .1.. ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับจำนวนและการดำเนนิ การ เลขยกกำลงั ที่มีเลขช้กี ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตผุ ล อัตราส่วน ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เครอื่ งมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์ สถิตเิ บอ้ื งตน้ และความน่าจะเป็น ตวั ชวี้ ดั 1. อธบิ ายการหาคา่ อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิ 2. หาค่าอตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิของมุม 30 45 และ 60 3. นำอัตราส่วนตรีโกณมติ ิไปใชแ้ กป้ ัญหาเกี่ยวกับระยะทาง ความสงู และการวัด เนอื้ หา 1. อัตราส่วนตรีโกณมติ ิ 2. อตั ราสว่ นตรีโกณมิตขิ องมุม 30 45 และ 60 3. การนำอัตราสว่ นตรโี กณมิติไปใช้แกป้ ญั หาเก่ยี วกบั ระยะทาง ความสูงและการวัด จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศกึ ษาวสามารถอธิบายการหาค่าอตั ราสว่ นตรีโกณมติ ิ 2. นกั ศึกษาสามารถหาค่าอัตราสว่ นตรีโกณมิตขิ องมมุ 30,45และ 60 3. นกั ศกึ ษาสามารถนำอตั ราสว่ นตรโี กณมิติไปใช้แก้ปญั หาเกีย่ วกับระยะทาง ความสูง และการวดั กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปัญหา ความต้องการ - อตั ราสว่ นตรีโกณมิตนิ ำไปใช้แก้ปญั หาเกี่ยวกบั ระยะทาง ความสงู และการวัดได้อยา่ งไร ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และการจัดการเรยี นรู้ - ผู้เรียนศกึ ษาใบความรู้ 1. เร่ืองอัตราส่วนตรีโกณมติ ิ 2. อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ขิ องมุม 30 45 และ 60 3. การนำอตั ราสว่ นตรโี กณมิตไิ ปใช้แก้ปัญหาเกย่ี วกับระยะทาง ความสงู และการวดั - ครูอธบิ ายเกยี่ วกบั อตั ราสว่ นตรโี กณมติ แิ ละการนำไปใช้ - ผู้เรยี นศึกษาเพม่ิ เตมิ หรอื เรยี นรจู้ ากหนงั สือแบบเรียน สือ่ ,แหลง่ เรยี นรูอ้ น่ื ๆ ที่เก่ยี วขอ้ ง

ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้ - ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดและศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากแหลง่ เรียนรอู้ ่นื และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันทีเ่ กยี่ วกบั การ แก้ปญั หาระยะทาง ความสูงและการวัด หรอื ใช้ในการประกอบอาชพี ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ - ครูประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤตกิ รรมในการพบกลุ่ม แบบฝกึ หัด ,บันทกึ การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นการสอน - ใบความรเู้ รอื่ งอตั ราสว่ นตรีโกณมิติและการนำไปใช้ - แบบฝกึ หดั - หนงั สอื แบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - แบบฝกึ หดั ลงชอ่ื ( นายวัชระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสรุ ชัย จนั ทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 6 การใชเ้ ครอื่ งมอื และการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...4..... สอนวนั ท่ี …16.. เดอื น ..กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1.. ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังท่ีมเี ลขช้กี ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตผุ ล อัตราสว่ น ตรโี กณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เคร่อื งมือและการออกแบบผลิตภณั ฑ์ สถติ ิเบอื้ งตน้ และความน่าจะเปน็ ตวั ชว้ี ดั 1.สร้างรูปเรขาคณิตโดยใช้เครอ่ื งมือ 2. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งรปู ตน้ แบบ และรปู ท่ีได้จากการเลื่อนขนานการสะทอ้ นและ การหมนุ เนอ้ื หา 1. การสรา้ งรปู เรขาคณิตโดยใช้เคร่อื งมือ 2. รปู เรขาคณิตสามมิติ 3. รูปเรขาคณิตท่ีเกิดจากการซอ้ นกนั ของรูปเรขาคณิตสองมติ ิ 4. การคลร่ี ูปเรขา คณิตสามมิติภาพที่ได้จะเปน็ ภาพของรปู เรขาคณิตสองมิติ 5. การตดั ขวางรูปเรขาคณิตสามมิติ 6. มุมมองของรูปเรขาคณติ สามมิติ 7. การเขียนภาพของรปู เรขาคณิตสามมิติ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศึกษาสร้างรปู ทางเรขาคณติ โดยใช้เคร่อื งมือทางคณิตศาสตร์ได้ 2. นกั ศึกษาสามารถวิเคราะหแ์ ละอธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างรปู ตน้ แบบ และรูปท่ีได้จากการเล่ือนขนาน การสะท้อนและการหมุน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 กำหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการ 1. สนทนาซักถามผู้เรยี นเกีย่ วกับรปู เรขาคณิตและรูปทรงเรขาคณิตว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร 2. แบง่ กลุ่มผเู้ รียนออกเปน็ กลุ่มๆละ 3 – 5 คน 3. แจกรปู เรขาคณติ ให้ผ้เู รียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันอภิปรายสมบตั ิตา่ งๆของรูปเรขาคณิต พร้อมบนั ทึกใน กรต.

4. ครูนำไปตวั อยา่ งรปู ภาพการเลอื่ นขนาน การหมนุ และการสะท้อนมาให้ผู้เรียนรว่ มกันสังเกต เชน่ เปน็ ต้น (ครคู วรหารปู ภาพมาหลายๆภาพ) 5. ผเู้ รยี นรว่ มกนั แยกประเภทของรปู ภาพที่สังเกตเหน็ ตามลกั ษณะท่ีปรากฏ 6. ครูและผ้เู รียนร่วมกันสรุปสมบตั ิตา่ งๆ ของรปู เรขาคณิต พรอ้ มทงั้ ครูแนะนำเพ่ิมเติม ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ 1. ครูแจกดนิ น้ำมนั ใหแ้ ต่ละกลุม่ ชว่ ยกันปั้นเป็นรปู เรขาคณิตสามมิติ ที่ตนเองรูจ้ ักและกระดาษทตี่ ัดเปน็ รูปสามเหลี่ยม วงกลม สี่เหลย่ี ม หา้ เหลีย่ ม กลมุ่ ละชนดิ ๆละ 30 แผน่ 2. ครูแจกใบความรู้ โดยให้ผู้เรยี นรว่ มกนั ศึกษา และทดลองปฏิบัตติ ามใบงาน 3. ผูเ้ รียนร่วมกันอภปิ รายเพอ่ื หาคำตอบของจากโจทยข์ ้อท่ี 5 ขนั้ ที่ 3 การปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผูเ้ รยี นรว่ มกนั ปฏิบัติกจิ กรรมตามใบงานทีก่ ำหนด ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนนำเสนอจากการปฏิบัตกิ ิจกรรมหน้าชนั้ เรยี น 2. ครูและผู้เรยี นร่วมกันสรุปความรูท้ ่ไี ด้เปน็ ความคิดรวบยอด 3. มอบหมายใหผ้ ู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดท้ายบท สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ดินนำ้ มนั และกระดาษรปู เรขาสองมติ แิ บบต่างๆ 4. หนงั สือเรียนสาระความรู้พ้นื ฐาน รายวิชา คณิตศาสตร์ พค31001 5. แบบฝกึ หัดท้ายบท การวดั ผลประเมนิ ผล - ตรวจแบบฝกึ หัดและใบงาน - การมีสว่ นร่วม - การสังเกต - การตอบคำถาม ลงชอ่ื ลงชอื่ ( นายวัชระ วเิ ทห่ ์ ) ( นายสรุ ชัย จันทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชยั ครู ศรช.บ้านดอนหวาย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 7 สถติ เิ บอ้ื งตน้ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...5... สอนวนั ที่ …17.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563.... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลงั ที่มีเลขช้ีกำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตุผล อัตราส่วน ตรีโกณมติ ิ และการนำไปใช้ การใช้เครือ่ งมอื และการออกแบบผลิตภัณฑ์ สถติ ิเบื้องตน้ และความนา่ จะเปน็ ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายขั้นตอนการวเิ คราะหข์ ้อมูลเบอ้ื งตน้ และสามารถนำผลจากการวิเคราะหข์ อ้ มลู เบอ้ื งต้นไปใชใ้ น การตดั สินใจ 2. เลือกใชค้ ่ากลางท่เี หมาะสมกับข้อมลู ทก่ี ำหนดและวัตถุประสงค์ทตี่ อ้ งการ 3. นำเสนอขอ้ มูลในรปู แบบต่าง ๆ รวมทัง้ การอา่ นและตีความหมายจากการนำเสนอข้อมลู เนอ้ื หา 1. การวิเคราะหข์ อ้ มูลเบื้องตน้ 2. การหาค่ากลางของขอ้ มลู โดยใช้ค่าเฉลยี่ เลขคณติ มธั ยฐานและฐานนยิ ม 3. การนำเสนอขอ้ มูล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักศึกษาสามารถอธิบายข้ันตอนการวเิ คราะหข์ ้อมลู เบ้อื งตน้ และสามารถ นำผลจากการวิเคราะห์ ขอ้ มูลเบื้องตน้ ไปใช้ในการตัดสินใจ 2. นักศึกษาเลอื กใช้คา่ กลางท่ีเหมาะสมกับข้อมูลทีก่ ำหนดและวตั ถุประสงค์ทตี่ ้องการ 3. นักศึกษาสามารถนำเสนอข้อมลู ในรปู แบบตา่ งๆ รวมทง้ั การอ่านและตีความหมายจากการนำเสนอ ขอ้ มลู กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 กำหนดสภาพปัญหา ความต้องการ - ครตู งั้ ประเด็นคำถามผ้เู รียนวา่ สถิตคิ อื อะไร - ผู้เรยี นกล่มุ นม้ี อี ายุเฉล่ยี เท่าไร ฐานนยิ มของอายุมคี ่าเท่าไร ถ้าจะนำเสนอข้อมูลที่เปน็ อายุของผ้เู รียน ควรนำเสนอในรูปแบบใดจงึ จะเหมาะสม ขนั้ ที่ 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ - ผู้เรียนตอบประเดน็ คำถาม - ผู้เรียนศึกษาใบความรู้

1. เร่ืองการวิเคราะห์ข้อมลู เบือ้ งตน้ 2. การหาค่ากลางของข้อมูล 3. การนำเสนอข้อมลู สถติ ิ - ครอู ธบิ ายเกีย่ วกบั สถิติเบื้องต้น - ผู้เรยี นศกึ ษาเกย่ี วกับสถิติเบื้องตน้ จากแหล่ง ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ - ครมู อบหมายให้ผเู้ รียนทำใบงานเป็นกลมุ่ ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 ศกึ ษาข้อมลู และหาคา่ กลาง นำเสนอข้อมูล แบบแผนภมู ริ ูปภาพจากขอ้ มูลทกี่ ำหนด กล่มุ ท่ี 2 ศึกษาข้อมลู และหาคา่ กลาง นำเสนอข้อมลู แบบแผนภูมแิ ท่งจากข้อมูลที่กำหนด กล่มุ ที่ 3 ศึกษาข้อมลู และหาค่ากลาง นำเสนอข้อมูลแบบแผนภมู ิรูปวงกลมจากขอ้ มูลที่กำหนด - ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดและศึกษาเพ่ิมเติมจากแหล่งเรียนรอู้ ่นื - ผู้เรยี นนำเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ และการทำแบบฝึกหัดในการพบกล่มุ ครัง้ ตอ่ ไป ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ - ครปู ระเมินผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรม,แบบฝกึ หดั ,ใบงาน,บนั ทึกการเรียนรู้ - ครแู ละผู้เรียนสรปุ ผลการเรียนรู้รว่ มกนั สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรูเ้ รือ่ งสถติ เิ บ้อื งต้น - ใบงาน - แบบฝึกหดั - หนังสือแบบเรยี น การวดั ผลประเมนิ ผล - การสงั เกตพฤติกรรมจากการทำกจิ กรรมกลุ่ม - ผลงานจากการทำใบงาน - การทำแบบฝึกหัด - บันทกึ การเรียนรู้ ลงช่ือ ( นายวชั ระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสรุ ชยั จันทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า คณติ ศาสตร์ พค 31001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 8 ความนา่ จะเปน็ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...5... สอนวนั ท่ี …17… เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1.. ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั จำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลงั ทม่ี เี ลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ เซต และการให้เหตผุ ล อัตราสว่ น ตรโี กณมติ ิ และการนำไปใช้ การใชเ้ คร่อื งมอื และการออกแบบผลติ ภัณฑ์ สถิตเิ บอื้ งต้นและความน่าจะเปน็ ตวั ชว้ี ดั 1. หาจำนวนผลลัพธท์ อี่ าจเกิดขนึ้ ของเหตุการณ์ โดยใชก้ ฎเกณฑ์เบอื้ งตน้ เก่ียวกบั การนบั และแผนภาพ ต้นไมอ้ ย่างง่าย 2. อธิบายการทดลองส่มุ เหตุการณ์ ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ และหาความน่าจะเป็นของเหตุการณท์ ่ี กำหนดให้ 3. นำความรเู้ กยี่ วกบั ความน่าจะเปน็ ไปใช้ในการคาดการณ์และชว่ ยในการตดั สินใจ เนอื้ หา กฎเกณฑ์เบือ้ งตน้ เกีย่ วกับการนบั และแผนภาพต้นไม้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั ศึกษาสามารถหาจำนวนผลลัพธ์ท่ีอาจเกิดข้ึนของเหตุการณ์ โดยใช้กฎเกณฑเ์ บื้องตน้ เกยี่ วกบั การ นับและแผนภาพตน้ ไมอ้ ย่างง่ายได้ 2. นักศกึ ษาสามารถอธบิ ายการทดลองสุ่มเหตกุ ารณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ และหาความน่าจะ เปน็ ของเหตุการณท์ ่กี ำหนดให้ 3. นักศึกษาสามารถนำความรู้เกยี่ วกบั ความนา่ จะเปน็ ไปใช้ในการคาดการณ์และช่วยในการตัดสนิ ใจได้ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรยี นรู้ 1. ครนู ำตุก๊ ตาและชดุ แตง่ กายให้ผ้เู รียนดแู ลว้ ตงั้ ประเด็นคำถามวา่ ถ้ามเี ส้ือ 3 ตวั กางเกง 2 ตัว จะแต่ง กายใหต้ ุ๊กตาไดก้ ่ีแบบ ขนั้ ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ 1. แบ่งกลุม่ ผู้เรียนออกเปน็ กลุ่มๆละ 3 - 5 คน แล้วนำตุ๊กตาให้แตล่ ะกลุม่ ช่วยจดั เคร่ืองแตง่ กายให้ตุ๊กตา ผเู้ รียนช่วยกันจดั เครื่องแต่งกายให้ตกุ๊ ตาโดยมีเสื้อ 3 ตัว กางเกง 2 ตัว แลว้ ถามนกั เรียน 2. ผเู้ รยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่อง กฎเกณฑเ์ บือ้ งต้นเกย่ี วกบั การนับแผนภาพต้นไม้ 3. สุ่มถามผู้เรยี นประมาณ 2 – 3 คน แสดงวธิ ีการจัดเคร่อื งแตง่ กายให้ตุ๊กตา

4. รว่ มกันวเิ คราะหผ์ ลจากการจดั เคร่อื งแต่งกาย โดยครอู าจแนะนำเพ่ิมเติม 5. ครูและผูเ้ รยี นร่วมกันสรุปผลการจัดเครอื่ งแต่งกายอีกคร้ัง 6. ครูแจกใบความรู้ โดยให้ผเู้ รยี นร่วมกันศึกษา และทดลองปฏบิ ตั ติ ามใบงาน ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกต์ใช้ 1. ผูเ้ รียนรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามประเดน็ คำถาม 2. สุ่มผ้เู รียนนำเสนอหน้าช้ันเรยี น 3. ผู้เรียนนำเสนอจากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมหน้าชั้นเรยี น 4. ผเู้ รยี นรว่ มกันทำใบงานและแบบฝกึ หัด ขนั้ ท่ี 4 ประเมินผลการเรยี นรู้ 1. สังเกตุพฤติกรรมผ้เู รียนจากการปฏบิ ัติตามประเดน็ คำถาม 2. ใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบ พร้อมทั้งแลกกันตรวจคำตอบ 3. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ่ไี ด้เป็นความคดิ รวบยอด 4. มอบหมายให้ผ้เู รยี นทำแบบฝึกหัดท้ายบท สอื่ การเรยี นการสอน - ใบความรเู้ รือ่ งสถติ ิเบ้อื งต้น - ใบงาน - แบบฝกึ หัด - หนงั สือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การสงั เกตพฤติกรรมจากการทำกิจกรรมกลุม่ - ผลงานจากการทำใบงาน - การทำแบบฝึกหัด - บันทึกการเรียนรู้ ลงชือ่ ( นายวัชระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่อื ( นายสุรชัย จนั ทรแ์ ดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กลมุ่ สาระการพฒั นาอาชพี รายวิชา ทกั ษะการขยายอาชพี อช31002 เวลา 3 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 1 ทกั ษะในการขยายอาชพี ภาคเรยี นที่ ..1..ปกี ารศกึ ษา …2563.. สปั ดาห.์ ....6.... สอนวนั ที่ …23… เดอื น …กรกฎาคม...พ.ศ. ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจทักษะ ในอาชีพ เพื่อสร้างความมั่นคงบนพืน้ ฐานความรู้ ในกระบวนการผลติ กระบวนการตลาด ทีใ่ ช้นวัตกรรม เทคโนโลยที ี่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชวี ภาพ พัฒนาต่อยอดและ ประยุกตใ์ ชภ้ ูมปิ ญั ญา ตวั ชวี้ ดั 1. อธบิ ายความจำเป็นในการฝกึ ทกั ษะอาชีพ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดท่ีใช้ นวตั กรรม เทคโนโลยี เพ่อื การขยายอาชพี 2.อธบิ ายความหมาย ความสำคญั ของการจัดการอาชีพ และระบบการจัดการ เพือ่ การขยายอาชพี โดยพัฒนาตอ่ ยอด ประยกุ ต์ใชภ้ มู ิปญั ญา และคำนึงถึงความหลากหลายทางชีวภาพ 3. สำรวจแหลง่ เรียนรู้ และสถานที่ฝึกทักษะในการขยายอาชพี 4. วางแผนในการฝกึ ทกั ษะอาชีพโดยพัฒนาต่อยอด ประยุกตใ์ ช้ภูมิปญั ญา และคำนึงถงึ ความหลากหลาย ทางชีวภาพ 5. ฝึกทกั ษะอาชพี ตามแผนท่กี ำหนดไว้ไดโ้ ดยมกี ารบนั ทึกขนั้ ตอนการฝึกทุกขัน้ ตอน เนอื้ หา 1. ความจำเปน็ ในการฝกึ ทักษะอาชพี กระบวนการผลติ กระบวนการตลาดท่ีใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เพอื่ การขยายอาชีพ 2. ความหมาย ความสำคญั ของการจดั การอาชพี และระบบการจัดการ 3. แหล่งเรียนรู้ และสถานท่ีฝึกอาชพี 4. การวางแผนโดยกำหนดส่งิ ตา่ งๆดงั นี้ - ความรู้และทักษะทีต่ ้องฝกึ - วธิ ีการฝกึ - แหล่งฝกึ - วนั เวลาในการฝึก ฯลฯ 5. การฝึกทกั ษะอาชีพ - การจดบันทกึ - ปญั หาและการแกป้ ญั หา - ขอ้ เสนอแนะ

ฯลฯ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรเู้ กย่ี วกับความจำเป็นในการฝึกทักษะอาชีพ ขน้ั สอน - ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันอภปิ ราย เกีย่ วกับ กระบวนการผลติ กระบวนการตลาดท่ีใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยีเพ่ือการขยายอาชพี ความสำคัญของการจัดการอาชพี และระบบการจดั การ แหลง่ เรยี นรู้ การวางแผน การฝกึ ทักษะ - ครูและผู้เรียนร่วมกนั วเิ คราะหป์ ญั หาในการฝึกทักษะอาชีพ กระบวนการผลิตกระบวนการ ตลาดท่ีใช้นวัตกรรม เทคโนโลยเี พื่อการขยายอาชีพ ความสำคัญของการจัดการอาชีพ และระบบการจดั การ แหล่ง เรียนรู้ การวางแผน การฝึกทักษะ - ครู และผ้เู รียนรว่ มกันสรปุ ประเดน็ ปัญหา จากการอภปิ ราย และวิเคราะหน์ ำมากำหนด กจิ กรรมในการศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการกลุม่ หรือวธิ ีอ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสม ขนั้ สรปุ ครูผู้สอนสรปุ ความรทู้ ่ไี ดร้ ับและเตมิ เต็มองคค์ วามรูพ้ รอ้ มกบั มอบหมายงานใหไ้ ปศึกษาดว้ ย ตนเองเพ่ิมเติม สอ่ื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สือแบบเรยี น 3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรยี นรู้และกระบวนการกลุ่ม 2. วดั ความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชอื่ ( นายวชั ระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสรุ ชยั จนั ทรแ์ ดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาอาชพี รายวชิ า ทกั ษะการขยายอาชพี อช31002 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 2 การทำแผนธรุ กจิ และการจัดการความเสยี่ ง เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาห์ ....6.... สอนวนั ท่ี …23.. เดอื น ...กรกฎาคม.. พ.ศ. ...2563.. ภาคเรยี นท่ี ..1.. ปกี ารศกึ ษา ..2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดทำแผนงาน และโครงการ เพอ่ื ขยายอาชีพเข้าสตู่ ลาดการแขง่ ขัน ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพือ่ สคู่ วามมนั่ คง ตวั ชว้ี ดั 1. วเิ คราะห์ชมุ ชนโดยการระดมความคดิ เห็นของคนในชุมชน และกำหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ รายได้ คา่ นิยมของชุมชน เป้าหมาย และกลยทุ ธ์ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. วางแผนปฏบิ ตั กิ ารได้ 3. วเิ คราะหศ์ ักยภาพ และจดั การเกี่ยวกบั ผลการดำเนินการในอดตี ที่ผ่านมา 3-5 ปี จนถึงปัจจุบนั 4. อธบิ ายวธิ ีแกป้ ัญหาความเส่ียงเพ่ือความม่ันคงของอาชีพ 5. สามารถวางแผนปฏิบัติการ สาระการเรยี นรู้ 1. การวิเคราะหช์ ุมชน - จดุ แขง็ - จดุ ออ่ น - โอกาส - อุปสรรค 2. การกำหนดวสิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย กลยุทธ์ ในการกำหนดแผนขยายธุรกิจของชุมชน 3. การวางแผนปฏบิ ตั กิ าร 4. การวิเคราะหศ์ กั ยภาพ และการจัดการความเสี่ยงกับผลการดำเนนิ งาน - ประเภทสนิ ค้า - ค่าใชจ้ ่ายตา่ งๆ - ผลกำไร - คแู่ ขง่ ขัน - สว่ นครองตลาด - สมรรถนะของธรุ กิจ - สภาวะแวดลอ้ มภายใน จดุ แข็ง จดุ อ่อน - สภาวะแวดลอ้ มภายนอกด้านโอกาส และอปุ สรรค 5. การแก้ปญั หาความเสีย่ ง

6. วางแผนปฏบิ ตั ิการ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั แลกเปลย่ี นเรยี นรู้เกี่ยวกับศกั ยภาพของชุมชนดา้ นอาชพี ขน้ั สอน - ครูและผู้เรยี นร่วมกันวิเคราะหช์ ุมชน และร่วมระดมความคิดเห็นกับคนในชุมชนเพอ่ื หาจุดแข็ง จดุ ออ่ น โอกาส และอปุ สรรค จากน้ัน รว่ มกนั กำหนดวิสยั ทัศน์ พันธกจิ เปา้ หมาย และกลยทุ ธ์ในการกำหนดแผน ขยายธรุ กจิ ของชมุ ชน - ครูและผู้เรียนร่วมกันวเิ คราะหป์ ัญหาในการกำหนดวสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ เป้าหมาย กลยุทธ์ และ วางแนวทางในการวางแผนปฏิบตั กิ ารใชน้ วตั กรรม เทคโนโลยีเพ่ือการขยายอาชพี - ครู และผูเ้ รียนรว่ มกันสรุปประเดน็ ปัญหา จากการอภปิ ราย และวเิ คราะห์นำมากำหนด กจิ กรรมในการศึกษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง กระบวนการกลมุ่ หรอื วธิ อี ื่น ๆ ทเ่ี หมาะสม - ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์ศักยภาพ และการจัดการความเสย่ี งในเรือ่ งของประเภทสนิ ค้า ค่าใช้จา่ ยต่าง ๆ ผลกำไร คู่แข่งขนั ส่วนครองตลาด สมรรถนะของธรุ กจิ สภาพแวดลอ้ มภายใน จดุ แข็ง จุดออ่ น สภาวะแวดลอ้ มภายนอกดา้ นโอกาส และอุปสรรค - ครแู ละนกั เรยี นรว่ มระดมความคดิ เห็นกบั คนในชุมชนเพ่อื หาจุดแข็ง จุดออ่ น โอกาส และ อปุ สรรค จากน้นั ร่วมกนั กำหนดวสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ เปา้ หมาย และกลยุทธ์ในการกำหนดแผนขยายธุรกิจของชุมชน - ครูและผู้เรียนรว่ มกันวิเคราะหป์ ัญหาในการจดั การความเส่ยี ง และวางแนวทางในการวางแผน ปฏบิ ตั ิการใช้นวตั กรรม เทคโนโลยเี พอ่ื การจดั การความเส่ยี ง - ครู และผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ ประเด็น ปญั หา จากการอภปิ ราย และวเิ คราะหน์ ำมากำหนด กิจกรรมในการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการกลุ่ม หรอื วิธอี ่นื ๆ ทีเ่ หมาะสม ขน้ั สรปุ ครผู ู้สอนสรุปความรทู้ ไ่ี ด้รับและเติมเต็มองคค์ วามรูพ้ รอ้ มกับมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ย ตนเองเพม่ิ เตมิ สอ่ื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สือแบบเรียน 3. กระดาษบรฟู๊ 4. ปากกาเคมี 3. ใบงาน

การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรียนรู้และกระบวนการกลมุ่ 2. วัดความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชอื่ ( นายวชั ระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสุรชยั จันทรแ์ ดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาอาชพี รายวชิ า ทกั ษะการขยายอาชพี อช31002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 3 การขบั เคลอ่ื นแผนธรุ กจิ และการตลาด เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาห์ ...7... สอนวนั ท่ี …30.. เดอื น ..กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1.. ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดทำแผนงาน และโครงการ เพือ่ ขยายอาชีพเข้าสู่ตลาดการ แขง่ ขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื ส่คู วามมนั่ คง ตวั ชว้ี ดั 1. จัดการเกย่ี วกับการควบคมุ คุณภาพ 2. อธิบายวิธกี ารใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต 3. อธิบายข้นั ตอนการลดต้นทุนการผลติ หรือการบริการ 4. จดั ทำแผนการผลิตหรอื การบริการ 5 จดั การการตลาดเพ่ือนำผลผลติ เข้าสู่ตลาด 6 จัดทำแผนการจัดการการตลาด 7 อธบิ ายความสำคัญในการทำบญั ชธี ุรกิจ 8. บอกประเภทของบญั ชปี ระเภทต่างๆท่ีเก่ียวขอ้ ง เนอื้ หา 1. การจัดการเกยี่ วกับการควบคุมคณุ ภาพ 2. การใช้นวตกรรมเทคโนโลยใี นการผลติ 3. การลดตน้ ทุนการผลติ หรอื การบริการ 4. การจัดทำแผนปฏบิ ัติการ 5. การจัดการการตลาด - การโฆษณา - การประชาสัมพันธ์ - การวิจยั ตลาด - การสง่ เสริมการขาย - การทำขอ้ มูลฐานลูกค้า - การกระจายสินคา้ 6. การจัดทำแผนปฏิบตั ิการ 7. ความสำคัญในการทำบัญชีธุรกิจ 8. ประเภทของบญั ชีธรุ กจิ - ขั้นตอนการทำบัญชปี ระเภทต่างๆ

- บญั ชีรบั -จ่าย - บัญชีหนสี้ นิ - บญั ชีการเงิน - บญั ชีสินทรพั ย์ ฯลฯ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั แลกเปล่ียนเรียนร้เู กย่ี วกบั การขับเคลือ่ นแผนธรุ กิจ การผลิตแการตลาด ขน้ั สอน - ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั อภปิ รายความจำเป็นในการจัดการเกย่ี วกบั การควบคุมคุณภาพของสินค้า และบริการ การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยกี ารผลิต - ครแู ละผู้เรยี นร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาในการลดต้นทนุ การผลติ สนิ ค้า หรือบริการ - ครู และผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปประเด็น ปัญหา จากการอภิปราย และวเิ คราะหน์ ำมากำหนด กจิ กรรมในการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการกลมุ่ หรือวธิ อี ื่น ๆ ท่เี หมาะสม - ครูและผู้เรียนร่วมกันอภปิ รายความจำเป็นของการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การวิจัยตลาด การสง่ เสรมิ การขาย การทำฐานข้อมลู ลกู คา้ การกระจายสนิ ค้า และบรกิ าร - ครแู ละผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ปญั หาในการโฆษณา การประชาสมั พนั ธ์ การวิจยั การตลาด การส่งเสริมการขาย การทำฐานขอ้ มูลลกู คา้ และการกระจายสินค้า - ครู และผ้เู รยี นร่วมกนั สรุปประเดน็ ปญั หา จากการอภปิ ราย และวเิ คราะหน์ ำมากำหนด กิจกรรมในการศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการกลุม่ หรือวธิ ีอืน่ ๆ ทเี่ หมาะสม - ครูและผู้เรียนร่วมกันอภปิ รายความจำเปน็ ของการจดั ทำบัญชีธรุ กจิ และผลเสยี ของการไม่ จดั ทำบญั ชธี รุ กิจ - ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ปญั หาในการจัดทำบญั ชีธุรกิจ - ครู และผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ ประเดน็ ปญั หา จากการอภปิ ราย และวเิ คราะหน์ ำมากำหนด กจิ กรรมในการศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการกล่มุ หรอื วิธีอนื่ ๆ ที่เหมาะสม ขน้ั สรปุ - ครผู ู้สอนสรุปความร้ทู ไ่ี ดร้ บั และเตมิ เต็มองค์ความรู้พร้อมกับมอบหมายงานใหไ้ ปศกึ ษาดว้ ย ตนเองเพิ่มเตมิ สอ่ื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนังสือแบบเรียน 3. กระดาษบรฟู๊

4. ปากกาเคมี 3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรียนรู้และกระบวนการกล่มุ 2. วัดความรจู้ ากการทำกจิ กรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชือ่ ( นายวัชระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสรุ ชยั จันทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาอาชพี รายวชิ า ทกั ษะการขยายอาชพี อช31002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 4 การขบั เคลอื่ นธรุ กจิ และโครงงานอาชพี เวลา 6 ชวั่ โมง สปั ดาห.์ ..8... สอนวนั ท่ี …6.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563.. ภาคเรยี นท่ี …1.. ปกี ารศกึ ษา …2563. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทำแผนงาน และโครงการ เพอื่ ขยายอาชพี เข้าส่ตู ลาดการแขง่ ขัน ตามแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื สูค่ วามมัน่ คง ตวั ชว้ี ดั 1. วิเคราะห์ความเปน็ ไปได้ของแผนปฏิบตั ิการในการขยายธุรกิจ 2. พฒั นาแผนปฏบิ ัตกิ ารการขยายธรุ กิจ 3. อธิบายขั้นตอนการขบั เคล่ือนแผนปฏิบัตกิ ารเพ่ือการขยายธรุ กจิ 4. อธิบายความสำคญั ของการทำโครงการขยายอาชพี 5. เขยี นโครงการ 6. เขยี นแผนปฏบิ ตั ิการ 7. ตรวจสอบโครงการได้ถกู ต้อง และเหมาะสม เนอื้ หา 1. การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนปฏบิ ตั ิการในการขยายธุรกจิ 2. แผนปฏิบตั กิ ารขยายธรุ กิจ 3. ขั้นตอนการขับเคล่อื นแผนปฏิบตั กิ ารเพ่ือการขยายธรุ กจิ 4. ความสำคัญของโครงการ 5. ขนั้ ตอนการเขียนโครงการ 6. การเขียนแผนปฏบิ ัตกิ าร 7. การตรวจสอบโครงการ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครูและผู้เรยี นรว่ มกันอภิปรายความจำเปน็ ของการจัดทำแผนปฏบิ ตั กิ าร เพ่ือขยายอาชพี ขน้ั สอน - ครูและผู้เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ปญั หาในการจัดทำแผนปฏบิ ตั กิ าร - ครู และผเู้ รียนร่วมกันสรปุ ประเดน็ ปัญหา จากการอภิปราย และวิเคราะห์นำมากำหนด กจิ กรรมในการศกึ ษาหาความรดู้ ้วยตนเอง กระบวนการกล่มุ หรือวธิ ีอนื่ ๆ ทีเ่ หมาะสม - ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหป์ ัญหาในการจัดทำโครงการ ขัน้ ตอนของการเขียนโครงการ

- ครู และผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ ประเด็น ปัญหา จากการอภปิ ราย และวเิ คราะหน์ ำมากำหนด กิจกรรมในการศึกษาหาความรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่ม หรอื วธิ อี นื่ ๆ ทีเ่ หมาะสม ขน้ั สรปุ - ครูผู้สอนสรุปความรู้ทไี่ ด้รบั และเตมิ เตม็ องค์ความร้พู รอ้ มกับมอบหมายงานใหไ้ ปศกึ ษาด้วย ตนเองเพมิ่ เติม สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สือแบบเรียน 3. กระดาษบรฟู๊ 4. ปากกาเคมี 3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้และกระบวนการกลมุ่ 2. วดั ความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชื่อ ( นายวัชระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสรุ ชยั จันทร์แดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวิชา สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช31002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 1 ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย เพศศกึ ษา และโภชนาการ เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...9.. สอนวนั ท่ี …13.. เดอื น ..สงิ หาคม..พ.ศ. ..2563.. ภาคเรยี นท่ี ..1..ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสยั วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดำรงสุขภาพของตนเอง และครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนมี ส่วนร่วมในการสง่ เสริมด้านสุขภาพพลานามัยและพฒั นาสภาพแวดลอ้ มท่ีดี ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายกระบวนการทำงานของระบบอวยั วะในร่างกายท่สี ำคญั 5ระบบได้อย่างถกู ต้อง 2. บอกวธิ ีการดแู ลป้องกนั ความผิดปกตขิ องระบบในร่างกาย 5 ระบบ 3. วางแผน และปฏิบัติตนตามแผนเพ่ือสรา้ งเสรมิ พัฒนาการของตนเองและครอบครัว 4. อธบิ ายขัน้ ตอนการสื่อสารเพ่ือขอ ความช่วยเหลอื เกีย่ วกบั ปัญหาทางเพศ 5. อธบิ ายวธิ กี ารจัดการกับอารมณ์และความตอ้ งการทางเพศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 6. อธบิ ายปัญหา สาเหตุ อาการ และการป้องกนั โรคขาดสารอาหาร 7. บอกหลกั การ และปฏิบัติตนตามหลักสุขาภิบาลอาหารได้อย่างเหมาะสม เนอื้ หา 1. โครงสร้าง หนา้ ที่ การทำงานและการดรู ักษาระบบอวัยวะทส่ี ำคญั ของร่างกาย 5 ระบบ - ระบบหายใจ - ระบบย่อยอาหาร - ระบบขบั ถ่าย - ระบบสืบพันธ์ุ - ระบบต่อมไรท้ ่อ - ระบบประสาท 2. การวางแผนและปฏิบตั ิตนเพ่อื การเสริมสรา้ งพฒั นาการ 3. การสือ่ สาร/การต่อรองและการขอความชว่ ยเหลอื เก่ียวกับปัญหาทางเพศ 4. การจัดการกบั อารมณ์และความต้องการทางเพศ 5. ความเช่อื ผดิ ๆ เรอื่ งเพศที่ส่งผลต่อสุขภาพทางเพศ 6. อิทธิพลของส่อื ตา่ ง ๆ ทีส่ ่งผลให้เกิดปญั หาทางเพศ 7. กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการล่วงละเมิดทางเพศและกฎหมายคุ้มครองเด็กและสตรี 8. โรคขาดสารอาหาร ไดแ้ ก่ โรคลกั ปิดลักเปิดโรคคอหอยพอก โรคเอ๋อ โรคตาฟาง โรคโลหิตจาง 9. หลักการสขุ าภิบาลอาหาร

-การปนเปอ้ื น -การปรุงและจำหน่าย -ผ้ปู ระกอบการ จำหน่ายอาหาร -สขุ ลกั ษณะทว่ั ไปบริเวณแผงจำหนา่ ย -สุขลกั ษณะอาหารถงุ ฯลฯ 10. การจัดโปรแกรมอาหารที่เหมาะสมสำหรับบุคคลกลุ่มตา่ งๆ - ตนเองและครอบครัว - ผู้สูงอายุ - ผ้ปู ว่ ย 11. การรวมกลุม่ เพ่อื สร้างเสริมสขุ ภาพ เช่น กลมุ่ ออกกำลังกาย เลน่ กีฬา บำเพ็ญประโยชนแ์ ละ นนั ทนาการ เปน็ ตน้ 12. การออกกำลังกายท่เี หมาะสมกบั บุคคลและวัยตา่ งๆ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูผู้สอนใหน้ กั ศกึ ษายกตัวอยา่ งระบบตา่ งๆของรา่ ยกายของเรา พรอ้ มหน้าท่ี เท่าที่นักศึกษาบอก ได้ และบอกอวัยวะที่ทำหนา้ ที่ต่างๆในระบบน้นั ๆ แล้วรว่ มกันแลกเปล่ยี นเรียนร้กู นั ในหอ้ งเรียน ขน้ั สอน - ครูผู้สอนและผเู้ รียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กันถงึ เก่ยี วกับ ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย ปญั หาเก่ียวกบั เพศศึกษา อาหารและโภชนาการ เสริมสร้างสุขภาพ - มอบหมายใบงานให้นักศกึ ษาค้นควา้ เก่ียวกับระบบตา่ งๆในร่างกายพร้อมนำเสนอ - ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั แลกเปล่ียนเรียนรเู้ กยี่ วกบั ปัญหาเพศในปจั จบุ นั จากขา้ วหนังสือพิมพ์และ อนิ เตอรเ์ นต็ และรว่ มกนั วเิ คราะหถ์ งึ สาเหตุของปัญหาทีเ่ กิดขึ้นพรอ้ มสรุป - ครูและผู้เรียนร่วมกนั แลกเปล่ียนเรยี นร้เู ก่ยี วกบั ปญั หาทางโภชนาของคนไทย วธิ กี ารดูแล สขุ ภาพ หลกั การรับประทาน สำหรับทกุ วยั พรอ้ มสรุป - ครแู ละผู้เรยี นร่วมกันแลกเปลี่ยนเรยี นร้เู รื่องการออกกำลังทีถ่ กู วิธแี ละการออกกำลังกายพรอ้ ม สรปุ วิธีการทถี่ ูกต้อง ขน้ั สรปุ ครูผู้สอนสรุปเนือ้ หาและเตมิ เตม็ องคค์ วามรูพ้ รอ้ มมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาค้นคว้าเพ่มิ เติม สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนังสือแบบเรียน

3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรียนรู้ 2. วดั ความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน เครอื่ งมอื 1. ใบงาน ลงช่อื ( นายวชั ระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสรุ ชยั จันทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวิชา สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช31002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 2 โรคทถี่ า่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม การใชย้ า และสขุ ภาพจติ เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ..10.. สอนวนั ที่ …20.. เดอื น …สงิ หาคม...พ.ศ. ..2563.... ภาคเรยี นที่ ..1. ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสยั วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดำรงสุขภาพของตนเอง และครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนมี สว่ นร่วมในการสง่ เสริมดา้ นสขุ ภาพพลานามัยและพัฒนาสภาพแวดลอ้ มทด่ี ี ตวั ชว้ี ดั 1. อธบิ ายโรคที่ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม 2. ปฏบิ ตั ติ นในการปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ โรคท่ีเป็นปัญหาต่อสขุ ภาพและโรคทเี่ ปน็ ปัญหาสาธารณสุข 3. วเิ คราะหผ์ ลกระทบของพฤติกรรมสุขภาพท่มี ตี ่อการปอ้ งกนั โรค 4. อธบิ ายหลักการ และวิธีการใช้ยาท่ีถูกต้อง 5. วิเคราะห์ผลกระทบจากความเช่อื ทีผ่ ิดเกยี่ วกับการใช้ยา 6. จำแนกอันตรายที่เกิดจากการใช้ยา การป้องกนั และการช่วยเหลอื ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 7. วเิ คราะห์ปัญหา สาเหตุและการแพรร่ ะบาดของสารเสพติด 8. วเิ คราะหผ์ ลกระทบของสารเสพติดทีม่ ตี อ่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศ 9. มสี ่วนรว่ มรณรงคป์ ้องกัน ส่งิ เสพตดิ ในชุมชนอย่างสม่ำเสมอ 10. แนะนำสาระสำคญั ของกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับสง่ิ เสพตดิ แก่ครอบครวั และผอู้ นื่ เหมาะสม เนอ้ื หา 1. โรคทีถ่ า่ ยทอดทางพันธกุ รรม สาเหตุ อาการ การปอ้ งกนั และการรกั ษา - โรคทัลลสั ซีเมยี - โรคภูมิแพ้ - โรคขาดสารไอโอดีน ฯลฯ 2. การวางแผนรว่ มกบั ชมุ ชนเพ่ือปอ้ งกันและหลกี เลีย่ งโรคตดิ ต่อและโรคทเี่ ปน็ ปัญหาสาธารณสขุ 3. ผลกระทบของพฤตกิ รรมสุขภาพที่มีตอ่ การปอ้ งกนั โรค 4. ขอ้ มูล ข่าวสาร และแหล่งบรกิ ารเพื่อการปอ้ งกันโรค 5. หลกั การและวิธีใชย้ า เชน่ การใชโ้ ดยไมจ่ ำเปน็ 6. ความเชอ่ื เกย่ี วกบั การใช้ยา - ยาบำรุงกำลัง

- ยาท่ีทำจากอวยั วะสัตว์ เชน่ องุ้ ตนี หมี ดีงู สมองลงิ ยาดองงเู ห่า 7. การวเิ คราะห์อันตรายจากการใช้ยา การป้องกนั และการชว่ ยเหลอื 8. การแนะนำในการเลือกใชข้ อ้ มูลข่าวสาร เกยี่ วกับการใชย้ า 9. การวเิ คราะห์ปญั หา สาเหตุ ผลกระทบ และการแพร่ระบาดของสาร เสพติด 10. การมสี ว่ นรว่ มในการป้องกนั ส่งิ เสพตดิ ในชมุ ชน 11. กฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ส่ิงเสพติด 12. ความหมาย ความสำคญั ของทกั ษะชวี ติ 10 ประการ 13. ทักษะชีวติ ทจ่ี ำเปน็ 3 ประการ - ทกั ษะการตระหนักรู้ในตน - ทกั ษะการจัดการกบั อารมณ์ - ทกั ษะการจัดการกับความเครยี ด 14. การประยกุ ต์ใช้ทกั ษะชีวติ ในการทำงาน การปรับตัว และการแก้ปัญหาชีวิต 15.การแนะนำกระบวนการทักษะชีวติ ในการแก้ปญั หากับผูอ้ ่ืน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครผู ู้สอนให้ผู้เรยี นแลกเปลีย่ นเรียนรเู้ กีย่ วกบั โรคทถ่ี ่ายทอดทางพันธุกรรมทน่ี กั ศกึ ษารู้จกั ให้ ไดม้ ากทีส่ ุด ขนั้ สอน - ครผู ู้สอนและผเู้ รียนแลกเปลยี่ นเรียนรู้ร่วมกันกนั ถึงเกย่ี วกับ โรคติดต่อทางพนั ธกุ รรม พรอ้ ม สรปุ - ครผู ู้สอนและผ้เู รียนแลกเปลีย่ นเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั วธิ กี ารใช้ยาที่ถูกตอ้ ง อนั ตรายที่เกิดจากยา พรอ้ มสรปุ ความรูท้ ไี่ ดร้ ับ - แบง่ กลุ่มนกั ศึกษาและมอบหมายงานใหน้ ักศึกษารว่ มกนั คดิ วเิ คราะห์หาวิธกี ารแกป้ ญั หายาเสพ ติดในสงั คม พรอ้ มนำเสนอ - ครูและผู้เรยี นแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกยี่ วกบั ทักษะชวี ิตเพอ่ื สุขภาพจติ ที่ดีพรอ้ มรว่ มกนั นำเสนอองค์ ความรรู้ ่วมกนั ขนั้ สรปุ ครผู สู้ อนสรปุ เนือ้ หาและเตมิ เต็มองคค์ วามรพู้ รอ้ มมอบหมายงานให้ไปศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เตมิ สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้

2. หนังสือแบบเรยี น 3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั 1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรยี นรู้ 2. วดั ความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน เครอ่ื งมอื 1. ใบงาน ลงชื่อ ( นายวัชระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสรุ ชัย จันทรแ์ ดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา 6 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 1 ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพ ภาคเรยี นที่ …1.. ปกี ารศกึ ษา ..2563.. สปั ดาหท์ .่ี .11.. สอนวนั ที่ ..27.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเกยี่ วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครองใน โลกและนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชีวิตเพอื่ ความมัน่ คงของชาติ ตวั ชวี้ ดั 1. มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกบั สภาพทางภมู ิศาสตร์กายภาพของประเทศไทยกบั ทวีปตา่ งๆ 2. เปรียบเทียบสภาพภูมิศาสตร์กายภาพของประเทศไทยกับทวีปต่างๆ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ีเกิดขึน้ ในโลก 4. มีทกั ษะการใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ท่ีสำคัญๆ 5. รู้วธิ ีปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยเมอ่ื เกดิ ภัยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ 6. สามารถวิเคราะห์ แนวโน้ม และวกิ ฤตสิ่งแวดล้อมทีเ่ กิดจากการกระทำของมนุษย์ 7. มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้นวตั กรรม และเทคโนโลยีด้านส่งิ แวดล้อมเพื่อพฒั นาทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มทยี่ ง่ั ยนื สาระการเรยี นรู้ 1. สภาพภมู ศิ าสตรก์ ายภาพของประเทศไทยกบั ทวีปเอเชยี ทวปี ยโุ รป ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมรกิ า 2. สาเหตแุ ละลกั ษณะการเกดิ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ส่ี ำคญั ๆ รวมท้ังการปอ้ งกันอนั ตรายเมื่อเกดิ - พายุชนิดตา่ งๆ - นำ้ ท่วม - แผ่นดนิ ไหว - ภูเขาไฟระเบิด - ภาวะโลกรอ้ น - ปรากฏการณ์ เรือนกระจก - อืน่ ๆ 3. วิธีใช้เครือ่ งมอื ทางภูมิศาสตร์ - แผนท่ี - ลูกโลก - Website 4. วิธีปอ้ งกนั ตนเองจากภยั ธรรมชาติ

5. ปัญหาการทำลายทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม 6. การวเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกิดปัญหา และสภาพการทำลายทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เกิด จากการกระทำของมนษุ ย์ ในสภาพปัจจุบัน และแนวโนม้ ในอนาคต - ป่าไม้ - ภูเขา - แมน่ ำ้ ลำคลองหนองบึง ทะเล - ดนิ - สัตว์ป่า สัตวน์ ้ำ - แรธ่ าตุ - มลพษิ ทางอากาศ - ปรากฏการณเ์ รือนกระจก - อื่นๆ - การป้องกันการพังทลายของดนิ - การพฒั นาดินใหอ้ ุดมสมบรู ณ์ เช่น การปลกู ป่า การปลูกหญา้ แฝก ฯลฯ 7. ความเขม้ แขง็ ของภาคประชาชนในการแก้ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั พดู คุยแลกเปลย่ี นประสบการณ์กบั ภยั พิบัตทิ างธรรมชาตทิ ่เี กดิ ขึ้นใน ประเทศไทยและทั่วโลก ขนั้ สอน - ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั แลกเปล่ียนเรียนรู้เก่ยี วกบั สภาพทางภูมิศาสตรข์ องโลกในทวปี ตา่ งๆ - ครูแนะนำวธิ ีการเรยี นรูโ้ ดยใช้เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตร์ แผนท่ี ลกู โลก เว็บไซต์ - ครูแบง่ กลุ่มและมอบหมายให้ผ้เู รียนยกตวั อย่างเหตุการณภ์ ัยพิบัตทิ างธรรมชาติทเ่ี กิดข้ึนในโลก พร้อมบอกสาเหตแุ ละแนวทางแกไ้ ขในอนาคตและนำเสนอหน้าชั้นเรียน - ครูผู้สอนสรุปองค์ความรู้และประเดน็ สำคัญจากการนำเสนอและรว่ มกนั แลกเปลย่ี นเรยี นรใู้ น เรอื่ งดงั กลา่ วเพิม่ เตมิ ขนั้ สรปุ ครูผ้สู อนสรุปเน้อื หาและเตมิ เต็มองคค์ วามรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาดว้ ยตนเองเพิ่มเตมิ สอ่ื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สอื แบบเรยี น 3. กระดาษบรู๊ฟ 4. ปากกาเคมี

5. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรียนรู้และกระบวนการกลุ่ม 2. วดั ความรู้จากการทำกิจกรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชื่อ ( นายวชั ระ วเิ ทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสุรชัย จนั ทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 2 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ..12... สอนวนั ท่ี …3… เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563.... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภูมศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครองใน โลกและนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิตเพ่อื ความมั่นคงของชาติ ตวั ชวี้ ดั 1. อธบิ ายเหตกุ ารณ์สำคัญทางประวัติศาสตรข์ องประเทศตา่ งๆ ในโลกได้ 2. วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบเหตกุ ารณ์สำคัญทางประวัตศิ าสตร์ของแตล่ ะประเทศในโลก ทมี่ ีผลกระทบ ตอ่ ความเปล่ียนแปลงของประเทศต่างๆ ในโลก 3. วเิ คราะห์เหตุการณ์โลกปจั จบุ ัน และคาดคะเนเหตุการณท์ ี่อาจจะเกดิ ขน้ึ กับประเทศตา่ งๆในอนาคตได้ เนอ้ื หา 1. การแบ่งช่วงเวลา และยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ 2. แหล่งอารยธรรมโลก (จีน อินเดีย อียิปต์ เมโสโปเตเมีย กรีก โรมนั ) 3. ประวัตชิ าตไิ ทย สุโขทัย อยุธยา ธนบรุ ี รัตนโกสนิ ทร์ ลักษณะการเปล่ยี นแปลงการปกครอง 4. เหตุการณ์ปัจจุบันที่มีผลต่อเน่ืองมาจากประวัติศาสตร์ไทย และประเทศต่างๆ ในโลกที่ส่งผลถึง อนาคต กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันยกตัวอย่างเร่ืองราวของประวัติศาสตร์ไทยที่ผูเ้ รียนทราบ และพูดคุยเกี่ยว ประวตั ศิ าสตรท์ ้องถิ่นของอำเภอบ้านแพรก ขน้ั สอน - ครแู บง่ กลุ่มผู้เรียนกลุ่มละ 5 คน ใหผ้ ู้เรยี น ศึกษาประวตั ศิ าสตร์ท่สี ำคญั จากใบความรู้และ แบบเรยี นเกียวกบั ประวัติศาสตร์ในสมยั สโุ ขทัย อยุธยา ธนบรุ ี และรตั นโกสนิ ทร์ พรอ้ มนำเสนอ ในหัวข้อตามใบ งานกลุม่ ทมี่ อบหมาย - ครมู อบหมายใหผ้ เู้ รยี นศึกษาความรู้จากใบความรู้ และทำใบงาน เรอ่ื ง การแบง่ ยคุ สมยั ทาง ประวตั ศิ าสตร์ แหลง่ อารยะธรรมโลก บุคคลสำคัญของโลก เหตกุ ารณ์สำคญั ของโลกทีม่ ีผลต่อปัจจุบนั ขนั้ สรปุ ครูผสู้ อนสรปุ เนอ้ื หาและเตมิ เตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่มิ เติม

สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนังสือแบบเรียน 3. กระดาษบร๊ฟู 4. ปากกาเคมี 5. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรยี นรู้และกระบวนการกลมุ่ 2. วัดความร้จู ากการทำกิจกรรมในใบงาน 3. ใบงาน ลงชอ่ื ( นายวชั ระ วิเทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่ือ ( นายสุรชยั จันทร์แดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 3 เศรษฐศาสตร์ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ..12.. สอนวนั ท่ี …3… เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1.. ปกี ารศกึ ษา …2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกยี่ วกบั ภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครองใน โลกและนำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชีวติ เพือ่ ความม่ันคงของชาติ ตวั ชวี้ ดั 1. วเิ คราะห์ปัญหาและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ 2. เสนอแนวทางการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันได้ 3. รแู้ ละเข้าใจ ตระหนักในความสำคัญของการร่วมกลมุ่ เศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ และประเทศต่างๆ ใน โลก 4. รู้และเขา้ ใจ ในระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ ในโลก 5. รู้และเขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละผลกระทบทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของประเทศไทยกับกล่มุ เศรษฐกจิ ของประเทศต่างๆ ในภมู ิภาค ในโลก 6. วิเคราะห์ความสำคญั ของระบบเศรษฐกิจ และการเลอื กจดั กจิ กรรมทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ใน โลก และผลกระทบ 7. เขา้ ใจใจในเร่อื งกลไกราคากับระบบเศรษฐกิจ 8. รแู้ ละเขา้ ใจในเรอ่ื งการเงนิ การคลัง และการธนาคาร 9. เขา้ ใจในระบบของการธนาคาร 10. ตระหนกั ในความสำคัญของเงิน สถาบนั การเงนิ 11.วเิ คราะห์ผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจในเร่ืองการเงนิ การคลงั ของประเทศไทย และสังคมโลก ได้ 12. รู้และเขา้ ใจเร่ืองแผนพัฒนา เศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ เนอื้ หา 1. ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยและปญั หาเศรษฐกิจของไทยในปจั จุบนั 2. ความสำคัญและความจำเปน็ ในการร่วมมือทางเศรษฐกิจกบั ประเทศต่างๆ 3. ระบบเศรษฐกิจในโลก ความสมั พนั ธ์และผลกระทบทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กบั ภมู ภิ าคตา่ งๆ ทว่ั โลก 4. รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ และวิธีการเลอื กจัดกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ 5. กลไกราคากับระบบเศรษฐกิจในปจั จบุ ัน การแทรกแซงกลไกราคาของรัฐบาลในการสง่ เสรมิ และแกไ้ ข ระบบเศรษฐกิจ

6. ความหมาย ความสำคญั ของเงนิ ประเภท สถาบนั การเงนิ และสถาบนั ทางการเงิน 7. การธนาคาร - ระบบของธนาคาร - ประเภทของธนาคาร - บทบาทหน้าทีข่ องธนาคารแหง่ ประเทศไทย (ธนาคารกลาง) 8. การคลัง รายได้ประชาชาติ - รายไดข้ องรัฐบาล และการจัดทำงบประมาณแผ่นดิน - ภาษกี ับการพัฒนาประเทศ - ดุลการค้า - ดุลการชำระเงนิ 9. ปัญหาเศรษฐกิจในประไทย ภูมภิ าคต่างๆ และโลก 10. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับปัจจบุ นั 11. ผลของการใชแ้ ผนพฒั นาเศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครูและผู้เรยี นรว่ มกันพูดคุยแลกเปล่ยี นประสบการณ์เกยี่ วกบั ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทย ตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ขน้ั สอน - ครูมอบหมายใหผ้ เู้ รียนศึกษาความรู้จากใบความรู้ เรื่องระบบเศรษฐกิจของไทย และของโลก - ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั แลกเปลีย่ นเรียนรู้ในเนอ้ื หาเศรษฐกจิ สถาบันการเงิน และการเงนิ การ คลงั ของประเทศไทย ระบบเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ และการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ของประเทศต่างๆ ขนั้ สรปุ ครูผู้สอนสรปุ เนื้อหาและเติมเต็มองคค์ วามรพู้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเติม สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนังสอื แบบเรยี น 3. กระดาษบรฟู๊ 4. ปากกาเคมี 5. ใบงาน

การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั 1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรียนรู้และกระบวนการกลุ่ม 2. วดั ความรจู้ ากการทำกจิ กรรมในใบงาน เครอ่ื งมอื 1. ใบงาน ลงช่อื ( นายวัชระ วเิ ทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสุรชัย จันทร์แดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 4 การเมอื งการปกครอง เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ..13.. สอนวนั ที่ …10… เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา …2563... มาตรฐานการเรยี นรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เก่ยี วกับภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครองใน โลกและนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ เพอ่ื ความมั่นคงของชาติ ตวั ชว้ี ดั 1. รแู้ ละเข้าใจ ระบอบการเมืองการปกครองตา่ งๆ ท่ีใชอ้ ยู่ปจั จุบนั 2. ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย 3. รู้และเขา้ ใจ ผลท่ีเกดิ จากการเปล่ียนแปลงทางการเมืองการปกครอง ของประเทศไทยจากอดีต 4. รแู้ ละเขา้ ใจผลทเี่ กิดจากการเปล่ียนแปลงการเมอื งการปกครองของโลก 5. ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ ของหลักธรรมาภบิ าล และนำไปปฏิบตั ิในชวี ติ จริงได้ เนอ้ื หา 1. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย 2. การปกครองระบอบเผด็จการ 3. พฒั นาการของระบอบประชาธปิ ไตยของประเทศตา่ งๆ ในโลก 4. เหตกุ ารณ์สำคัญทางการเมอื งการปกครอง ของประเทศไทย 5. เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองการปกครอง ของโลกที่สง่ ผลกระทบต่อประเทศไทย 6. หลกั ธรรมาภบิ าลและ แนวทางปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมาภิบาล กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ครูและผู้เรยี นร่วมกันพดู คุยแลกเปลย่ี นประสบการณ์กับการปกครองระบอบตา่ งๆท่ีนกั ศกึ ษา รูจ้ ักและเคยได้ทราบจากสือ่ ต่างๆ ขน้ั สอน - ครูและผเู้ รยี นรว่ มกนั แลกเปลย่ี นเรยี นรู้รูปแบบการปกครองแบบประชาธปิ ไตย ระบอบเผดจ็ การ ความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสยี - ครูและผู้เรียนร่วมกันแลกเปล่ยี นเรียนรู้เก่ยี วกับพัฒนาการของการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยที่สำคัญในโลก - ครูแบง่ กลุ่มและมอบหมายให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาประวัติศาสตรด์ า้ นการตอ่ สู้เรียกร้องประชาธปิ ไตย ต้ังแต่สมยั 2475 ถงึ ปัจจบุ ัน พรอ้ มสรุปและนำเสนอ

- ครผู ู้สอนสรปุ องค์ความรู้และประเดน็ สำคัญจากการนำเสนอและรว่ มกันแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ใน เรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ขนั้ สรปุ ครูผู้สอนสรปุ เนื้อหาและเติมเตม็ องคค์ วามร้พู รอ้ มมอบหมายงานใหไ้ ปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเตมิ สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สอื แบบเรยี น 3. กระดาษบรู๊ฟ 4. ปากกาเคมี 5. ใบงาน 6. คลปิ วีดโี อ การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรยี นรู้และกระบวนการกลมุ่ 2. วัดความร้จู ากการทำกิจกรรมในใบงาน เครอื่ งมอื 1. ใบงาน ลงช่อื ( นายวชั ระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสุรชัย จันทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั พว32023 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 1 พลงั งานไฟฟา้ เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...14... สอนวนั ที่ …17... เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเหน็ คณุ ค่าเกย่ี วกบั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงิ่ มีชีวิต ระบบนิเวศ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ในท้องถิน่ และประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ เปลยี่ นแปลงของโลกและดาราศาสตร์มีจิตวทิ ยาศาสตร์ และน าความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ในการดำรงชีวติ ตวั ชวี้ ดั 1. บอกการกำเนิดของไฟฟ้า 2. บอกสดั ส่วนเช้อื เพลงิ ท่ใี ช้ในการผลิตไฟฟา้ ของประเทศไทย 3. ตระหนกั ถงึ สถานการณ์ของเช้ือเพลิงท่ใี ช้ในการผลติ ไฟฟ้าของประเทศไทย 4. วเิ คราะห์สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้าของประเทศไทย 5. เปรียบเทยี บสถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของไทยและประเทศในอาเซียน เนอื้ หา 1. การกำเนิดของไฟฟ้า 2. สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าของประเทศไทย และประเทศในอาเซยี น การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครทู กั ทายผเู้ รยี น พดู คยุ สนทนาเก่ยี วกบั ความหมายของคำว่า “ไฟฟา้ ” คือ “พลงั งานรูปหน่งึ ซึ่งเก่ยี วข้องกับการแยกตัวออกมา หรือการเคล่อื นทีข่ องอเิ ลก็ ตรอนหรือโปรตอนหรืออนุภาคอน่ื ทมี่ สี มบัติแสดงอำนาจคล้ายคลึงกับอิเล็กตรอนหรอื โปรตอน ทีก่ อ่ ให้เกดิ พลงั งานอืน่ เช่น ความร้อน แสงสว่าง การเคลอ่ื นที่ เปน็ ต้น” ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน และศึกษาคน้ ควา้ ในเรื่อง การกำเนิดพลงั งานไฟฟ้าที่สำคัญ พร้อม ทงั้ นำเสนอให้เพ่ือนๆฟงั หน้าห้อง ดังนี้ 1. ไฟฟ้าทีเ่ กิดจากการเสยี ดสีของวัตถุ 2. ไฟฟ้าทเ่ี กดิ จากการทำปฏิกริ ยิ าทางเคมี 3. ไฟฟา้ ท่เี กิดจากความรอ้ น

4. ไฟฟา้ ท่ีเกดิ จากพลังงานแสงอาทิตย์ 5. ไฟฟ้าที่เกดิ จากพลงั งานแม่เหล็กไฟฟ้า 2. ผู้เรียนรว่ มกันวเิ คราะห์สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย และประเทศในอาเซยี น โดยศึกษาจากใบความรเู้ รื่อง สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ ของประเทศไทย ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผ้เู รยี นนำเสนอสงิ่ ทไ่ี ดศ้ ึกษาคน้ คว้ามา ให้เพ่ือนๆ ได้ฟังและรว่ มกนั เพ่ิมเตมิ จากท่เี พ่อื นได้เสนอมา 2. นำข้อมูลท่ีวิเคราะหไ์ ด้มาเขยี นเปน็ สดั สว่ นการผลิตไฟฟา้ จากเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ ของประเทศ ไทย ในสมดุ บนั ทกึ 3. ผเู้ รียนบอกสภาพปัจจบุ ันและแนวโนม้ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย 4. ครแู ละผเู้ รียนร่วมกนั วิเคราะห์สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟา้ ของประเทศในอาเซียน เพื่อสรา้ งจติ สำนึก ในการใช้พลงั งานไฟฟ้าในอนาคต 5. ผู้เรยี นทำใบงานเรื่อง การกำเนิดของไฟฟา้ / ใบงานเร่ือง สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้าของประเทศไทย และประเทศในอาเซียน ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ตรวจใบงานเรอ่ื ง การกำเนิดของไฟฟ้า 3. ตรวจใบงานเรือ่ ง สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าของประเทศไทย และประเทศในอาเซียน 4. สังเกตจากการนำเสนอ สอ่ื 1. หนังสอื เรียนวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจ าวัน 2 รหัสวชิ า พว22002 2. สมดุ บันทึกกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบชุดวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 ลงชื่อ ลงช่อื ( นายวัชระ วิเทห่ ์ ) ( นายสุรชัย จันทรแ์ ดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั พว32023 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 2 ไฟฟา้ มาจากไหน เวลา 3 ชว่ั โมง

สปั ดาหท์ ี่ ...14... สอนวนั ท่ี …17... เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเหน็ คุณค่าเกีย่ วกบั กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงิ่ มชี วี ติ ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ในท้องถิน่ และประเทศ สาร แรง พลงั งาน กระบวนการ เปลย่ี นแปลงของโลกและดาราศาสตรม์ จี ิตวทิ ยาศาสตร์ และน าความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ในการดำรงชีวติ ตวั ชวี้ ดั 1. บอกประเภทเชอ้ื เพลิงและพลงั งานท่ใี ชใ้ นการผลิตไฟฟา้ 2. เปรยี บเทียบข้อดี ขอ้ จำกัดของเชื้อเพลงิ และพลังงานที่ใชใ้ นการผลิตไฟฟ้า 3. ยกตัวอย่างพลังงานทดแทนทม่ี ใี นชุมชนของตนเอง 4. บอกผลกระทบด้านส่งิ แวดล้อมท่ีเกิดจากโรงไฟฟ้า 5. บอกการจดั การด้านสง่ิ แวดล้อมของโรงไฟฟา้ 6. มเี จตคติท่ดี ีตอ่ โรงไฟฟ้าแต่ละประเภท เนอ้ื หา 1. เช้ือเพลิงและพลังงานทใ่ี ช้ในการผลติ ไฟฟา้ 2. โรงไฟฟ้ากับการจดั การด้านสงิ่ แวดลอ้ ม การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครบู อกถงึ ความสำคญั ของพลังงานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานรปู หนึ่งทีม่ คี วามสำคญั และมีการใชง้ านกันมา อยา่ งยาวนาน โดยสามารถผลิตได้จากเช้อื เพลิงหลากหลายชนดิ โดยแบง่ รายละเอยี ดเป็น 2 ตอน คอื 1. เชื้อเพลิงฟอสซลิ 2. พลังงานทดแทน 2. ครใู ห้ผูเ้ รียนบอกถงึ ข้อดีและข้อจำกัดของพลงั งานทดแทน 3. ครอู ธิบายเรื่อง โรงไฟฟ้ากบั การจดั การดา้ นส่งิ แวดล้อม ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผเู้ รียนศกึ ษาค้นคว้าเพิม่ เติมจากใบความรู้เรื่อง ไฟฟา้ มาจากไหน แล้วจดบนั ทกึ ลงในสมุดบันทกึ การเรียนรู้ 2. ผเู้ รยี นศกึ ษาคน้ คว้าเพ่มิ เตมิ จากใบความรเู้ ร่ือง โรงไฟฟา้ กบั การจัดการดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม

3. ครูเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนซกั ถาม จากเร่ืองทีไ่ ดค้ ้นคว้า ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผเู้ รียนทำใบงานเรื่อง เช้ือเพลงิ และพลงั งานท่ีใชในการผลิตไฟฟา 2. ผู้เรยี นทำใบงานเรื่อง โรงไฟฟากับการจดั การดานสงิ่ แวดลอม 3. ผู้เรียนสง่ ใบงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายภายในชัว่ โมง ครเู ฉลยใบงานพร้อมท้งั อธิบายเพิม่ เตมิ 4. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ เนอื้ หาท่ีไดเ้ รยี นในชั่วโมง ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตจากการตอบคำถาม 3. สงั เกตจากากรศึกษาค้นคว้า สอื่ 1. หนังสือเรยี นวิชาการใช้พลังงานไฟฟา้ ในชีวิตประจ าวนั 2 รหัสวิชา พว22002 2. ใบความรู้เรอ่ื ง ไฟฟ้ามาจากไหน 3. ใบความรู้เร่อื ง โรงไฟฟา้ กับการจัดการดา้ นสิง่ แวดล้อม 4. ใบงานเรอื่ ง เชื้อเพลิงและพลังงานทีใ่ ชในการผลติ ไฟฟา 5. ใบงานเรื่อง โรงไฟฟากบั การจัดการดานสงิ่ แวดลอม ลงชอ่ื ( นายวัชระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บา้ นดอนหวาย ลงช่อื ( นายสุรชัย จนั ทร์แดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั พว32023 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 3 อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...15... สอนวนั ท่ี …24... เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเหน็ คณุ ค่าเกีย่ วกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิง่ มีชวี ติ ระบบนิเวศ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถ่ินและประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ เปลี่ยนแปลงของโลกและดาราศาสตร์มจี ิตวิทยาศาสตร์ และน าความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการดำรงชีวติ ตวั ชวี้ ดั 1. เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟา้ ได้ถกู ตอ้ ง 2. ตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบต่าง ๆ เนอ้ื หา 1. อุปกรณไ์ ฟฟ้า 2. วงจรไฟฟา้ 3. สายดินและหลกั ดิน การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครอู ธบิ ายถงึ ชนิดของอุปกรณไ์ ฟฟ้าทใ่ี ช้ในวงจรไฟฟา้ มีหลายชนดิ แต่ละชนดิ มหี น้าทแ่ี ละความสำคัญ ทีแ่ ตกต่างกันออกไป ไดแ้ ก่ สายไฟ ฟวิ ส์ อุปกรณ์ตัดตอน หรือ เบรกเกอร์ สวติ ช์ สะพานไฟ เครอื่ งตดั ไฟร่ัว เต้ารับ และเต้าเสียบ 2. ครูตง้ั คำถามวา่ ความหมายของ วงจรไฟฟา้ คือ อะไร และการเช่ือมตอ่ กระแสไฟฟ้าจากแหลง่ จ่าย ไฟฟา้ มี 3 แบบ คอื อะไรบา้ ง 3. ผูเ้ รยี นเห็นถึงความสำคญั ของการตอ่ สายดนิ และหลกั ดนิ ภายในครัวเรอื น ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผู้เรยี นบอกถงึ ความสำคัญและหน้าที่ของอปุ กรณไ์ ฟฟ้าแตล่ ะชนดิ โดยศกึ ษาจากใบความรู้เรอ่ื ง อปุ กรณ์ไฟฟ้า 2. ผู้เรยี นศึกษาค้นคว้าการต่อวงจรไฟฟา้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ และศกึ ษาขอ้ ควรรูเ้ กย่ี วกับวงจรไฟฟา้ ได้ ถูกตอ้ ง จากใบความรเู้ รอ่ื ง วงจรไฟฟ้า 3. ศกึ ษาค้นคว้าเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ว่าชนิดใดควรต่อสายดิน เพ่อื ป้องกันการรวั่ ของกระแสไฟฟ้าไม่ใหช้ ็อต ผใู้ ช้

จากใบความร้เู รือ่ ง สายดินและหลกั ดิน ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครูแจกใบงานเรอื่ ง อปุ กรณไฟฟาและวงจรไฟฟา /ใบงานเร่ือง สายดนิ และหลกั ดิน แล้วสง่ ตัวแทน ออกมานำเสนอ 2. ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกันสรุปวา่ เราควรเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดใด เพื่อนำมาติดตั้งให้บ้านของเรา ปลอดภัย การต่อวงจรไฟฟา้ ในบ้านเรอื นควรต่อแบบใดจงึ จะเหมาะสม และเคร่ืองใช้ไฟฟ้าชนิดใดควรตอ่ สายดิน เพือ่ ปอ้ งกนั การร่วั ของกระแสไฟฟา้ ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. ตรวจใบงาน 2. สังเกตจากการนำเสนอ 3. สงั เกตจากการตอบคำถาม สอื่ 1. หนังสือเรียนวิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจ าวนั 2 รหัสวชิ า พว22002 2. ใบความรู้เร่ือง อุปกรณไ์ ฟฟ้า 3. ใบความรเู้ รอ่ื ง วงจรไฟฟ้า 4. ใบความร้เู ร่ือง สายดนิ และหลกั ดนิ 5. ใบงานเรอื่ ง อปุ กรณไฟฟาและวงจรไฟฟา 6. ใบงานเรอื่ ง สายดินและหลกั ดนิ ลงช่ือ ( นายวชั ระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่ือ ( นายสรุ ชยั จันทร์แดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook