Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6fc29725c6dc429493abf0c5b485a9b4

6fc29725c6dc429493abf0c5b485a9b4

Published by worawita thamrongsaksathian, 2019-09-03 08:51:27

Description: 6fc29725c6dc429493abf0c5b485a9b4

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหสั วิชา ส 22101 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ หน่วยกติ 1.5 (นน./นก.) หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 พระพุทธ ระยะเวลา 6 ช่ัวโมง แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพือ่ นบา้ น ระยะเวลา 2 ช่ัวโมง .............................................................................................................................................................................. 1.สาระสำคัญ หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จปรนิ ิพพานแล้วได้มีการชำระ ตรวจสอบ รวบรวม และเรียบเรียงพระ ธรรมวนิ ยั ใหเ้ ป็นระเบียบ เปน็ หมวดหมู่ 3 ครั้ง และเมือ่ เสรจ็ สิ้นครัง้ ที่ 3 แลว้ พระเจา้ อโศกมหาราชได้ส่งสมณ ทูตออกประกาศพระศาสนาในดนิ แดนตา่ ง ๆ ท่วั โลก รวม 9 สาย โดยเฉพาะดนิ แดนทเี่ ปน็ ประเทศเพ่ือนบ้าน ของไทย ซง่ึ ไดแ้ ก่ พมา่ ลาว กมั พชู า เวียดนาม มาเลเซยี สิงคโปร์ อนิ โดนเี ซีย และฟิลปิ ปนิ ส์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั ช้นั ป/ี ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 1.1 ร้แู ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ทางของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาทีต่ น นับถอื และศาสนาอนื่ มีศรทั ธาทีถ่ ูกต้อง ยดึ ม่ัน และปฏิบตั ิตามหลักธรรมเพอ่ื อย่รู ว่ มกนั อย่างสนั ติสุข ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ ส1.1 ม.2/1 อธิบายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือท่ีตนนับถอื ส่ปู ระเทศเพือ่ นบ้าน ม.2/2 วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือที่ช่วย สร้างความเข้าใจอนั ดีกบั ประเทศเพ่ือนบา้ น 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge เลา่ ประวัตกิ ารเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพือ่ นบ้าน การนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพอื่ นบ้าน 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เน้นใหน้ กั เรยี นไดท้ ำงานเป็นกลุ่ม การถาม-ตอบเพ่อื การศึกษา ทางพระพุทธศาสนาในประเทศเพือ่ นบา้ น 3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ และมที ัศนคติที่ดีตอ่ การศึกษา พระพุทธศาสนาในประเทศเพอื่ นบ้าน 4. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ 6. คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ใบงานท่ี 1 การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพือ่ นบ้าน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรยี นรู้ /ใชร้ ปู แบบการสอนกระบวนการกลมุ่ ) ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น (ช่วั โมงที่ 1-2) 1. ครูตัง้ คำถามใหน้ ักเรยี นตอบหรอื เป็นการทายปญั หาตวั อย่างคำถาม เชน่ -ประเทศใดบา้ งในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ที่นับถือพระพุทธศาสนา -เพราะเหตใุ ดนักเรียนจึงคิดว่าประเทศเหล่านนั้ นับถือพระพทุ ธศาสนา 2. ครูเฉลยคำตอบใหน้ ักเรยี นรวู้ า่ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉยี งใตท้ ปี่ ระชาชนสว่ นใหญย่ งั นับถือ พระพทุ ธศาสนาหรือนับถือพระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาประจำชาติ ได้แก่ พม่า สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา และไทยและทบทวนความรเู้ ดมิ ของตำแหน่งท่ีตง้ั แตล่ ะประเทศ 3. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรียนเข้าใจวา่ พระพทุ ธศาสนาได้เผยแผ่เข้ามาในดินแดนตา่ งๆ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียง ใต้ ไดแ้ ก่ พม่า อนิ โดนีเซยี มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพชู า และเวยี ดนาม แตใ่ นบางประเทศมีอปุ สรรค หลายประการทที่ ำให้การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาไม่ประสบความสำเรจ็ 4.นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ เพราะเหตุใดประเทศเพ่อื นบา้ นของไทยหลายประเทศจงึ นับถือพระพุทธศาสนา (เพราะพระมหนิ ทเถระ และคณะได้ไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนายงั ลงั กา ซ่งึ ทำใหเ้ ปน็ ศนู ย์กลางในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาไปยัง ประเทศตา่ งๆ บรเิ วณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ข้ันสอน 5. ครูให้นกั เรยี นแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่ม โดยใชว้ ิธีนบั หมายเลข 1–2 ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลอื กประธานกลุ่ม เลขานกุ ารกลุม่ และผอู้ ภิปราย 6. ครูชี้แจงบทบาทหน้าท่ขี องสมาชิกในกล่มุ พร้อมทงั้ แจง้ ประเด็นหรอื หวั ข้อการอภิปรายใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม ทราบดงั นี้ กลุ่มที่ 1 อภปิ รายในหัวข้อ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาของประเทศเพ่อื นบ้าน กลุม่ ท่ี 2 อภปิ รายในหวั ข้อ การนบั ถือพระพทุ ธศาสนาของประเทศเพ่อื นบา้ นในปจั จุบัน 7. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ไปศกึ ษาคน้ ควา้ หาข้อมลู หรอื รายละเอยี ดของหวั ขอ้ การอภิปรายทีก่ ลมุ่ ไดร้ บั มอบหมาย นำขอ้ มลู หรือรายละเอยี ดท่ไี ดม้ าอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม สรปุ แผนผงั ความคิดและเตรยี มนำเสนอ ผลการอภปิ รายหนา้ ชั้นเรยี น 8. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการอภิปราย โดยเปิดโอกาสให้สมาชกิ ในกลุ่มอ่นื ๆ ได้ซกั ถามขอ้ สงสยั 9. กอ่ นการนำเสนอผลการอภิปรายของแต่ละกลุ่ม ครูทบทวนประเดน็ หรือหวั ขอ้ การอภิปราย วัตถปุ ระสงคแ์ ละรปู แบบของการอภิปราย พร้อมท้ังช้แี จงกฎกตกิ าหรือหลกั เกณฑก์ ารอภปิ ราย เช่น เวลาทใ่ี ช้ใน การอภปิ ราย (กลมุ่ ละ 15 นาท)ี บทบาทหนา้ ที่ของสมาชกิ ในกลุ่ม 10. ครใู หแ้ ต่ละกล่มุ นำเสนอผลการอภปิ รายตามลำดบั กลุม่ ละ 15 นาที ชั่วโมงที่ 2 11. หลังจากแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการอภิปรายแล้ว เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นกลมุ่ อ่ืน ๆ ซักถามข้อสงสยั โดย ผูอ้ ภปิ รายเป็นผู้ตอบ จากนัน้ ซกั ถามเพอื่ กระตุ้นใหน้ ักเรียนรว่ มกนั คดิ และแสวงหาคำตอบว่า การเผยแผพ่ ระ

ศาสนาของสมณทูตทั้ง 9 สาย มสี ายใดบ้างท่เี ปน็ ประเทศสมาชกิ อาเซยี น ให้นกั เรยี นช่วยกันตอบ แล้วสรุป สาระสำคญั วา่ ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตเ้ ป็นดินแดนทมี่ ีความหลากหลายทางศาสนา โดยสามารถ แบ่งกลมุ่ ประเทศตามที่ประชากรสว่ นใหญ่นับถือศาสนา ดังน้ี 1) ประเทศที่ประชากรส่วนใหญน่ ับถือพระพุทธศาสนา ได้แก่ กมั พชู า ลาว พม่า* เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย 2) ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาอสิ ลาม ได้แก่ มาเลเซีย อนิ โดนีเซีย และบรไู นดา-รสุ ซาลาม 3) ประเทศที่ประชากรสว่ นใหญน่ บั ถือครสิ ต์ศาสนา ไดแ้ ก่ ฟิลิปปนิ ส์ แลว้ ให้นักเรยี นบันทกึ ข้อมูลลง ในสมดุ บันทกึ 12. ในขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนกั เรยี น ให้ครูสังเกตพฤตกิ รรมในการทำงานและการนำเสนอผลงาน ของนักเรยี นตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบคุ คลและเป็นกลุ่ม 13. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 1.1 การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาสปู่ ระเทศเพ่ือนบ้าน และทำกิจกรรมทีค่ รูกำหนดทีเ่ กีย่ วกับพระพทุ ธศาสนาในประเทศเพอื่ นบ้าน แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง 14.ร่วมกนั เฉลยคำตอบของใบงานท่ี 1.1 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาสู่ประเทศเพ่อื นบ้าน ข้ันสรุป 15 .ครูและนักเรียนทุกคนช่วยกันสรุปความรูเ้ กี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศเพ่อื นบ้าน 9. ส่อื และแหล่งเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ รายการสือ่ สภาพการใชส้ อ่ื 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น 2. ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง พระพุทธศาสนาในประเทศเพ่อื นบา้ น ขัน้ สอน 3. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 ขั้นสอน 10. การวัดและประเมินผล หลักฐานการ ประเด็น/ เปา้ หมายการเรยี นรู้ เรียนรู้ ช้ินงาน/ วิธีวัด เครื่องมอื การวัด เกณฑก์ ารให้ ภาะงาน คะแนน เล่าประวัติการเผยแผ่ แบบฝกึ หัดใบงานท่ี การตอบคำถามใน แบบฝกึ หดั 5 คอื ดีเยีย่ ม พระพุทธศาสนาเข้าสู่ 1.1 การเผยแผ่ แบบฝึกหัดถูกต้อง 4 คอื ดมี าก ประเทศเพ่ือนบ้าน พระพทุ ธศาสนาสู่ ครบถ้วนภาย ใน 3 คอื ดี การนับถอื ประเทศเพ่อื นบา้ น ระยะเวลาท่กี ำหนด 2 คอื พอใช้ พระพทุ ธศาสนาของ ห น ั ง ส ื อ เ ร ี ย น การถามตอบของ การสังเกตและการ 1 คือ ควร ประเทศเพือ่ นบา้ น พระพุทธศาสนา ครูและนักเรียน ถาม-ตอบ ปรับปรงุ และการตั้งคำถาม 0 คือ ไมผ่ า่ น ถามตอบของ นักเรียนเอง

11. จุดเนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ผ้เู รียน 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีดา้ นจติ ใจ รู้จกั ใช้เทคโนโลยีมาผลิตสอ่ื ที่ มีจติ สำนึกทด่ี ี เอือ้ อาทร รูจ้ ัก เหมาะสมและสอดคลอ้ งเน้อื หาเปน็ ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรียนและพัฒนาจาก สว่ นรวม/กลุ่ม ภมู ิปญั ญาของผูเ้ รยี น 2. ความมเี หตผุ ล - ยดึ ถอื การประกอบอาชพี ดว้ ย ไมห่ ยุดนิง่ ท่จี ะค้นหาความรู้เพือ่ 3. มภี ูมิคุม้ กันในตัวทีด่ ี ความ ถูกต้อง สุจรติ แม้จะตกอยู่ อนาคต ของตนเอง ในภาวะขาด แคลนในการด ารง ชวี ิต ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบและ ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั และระมดั ระวงั ภมู ิธรรม : ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ขยัน ภมู ิธรรม : ซ่อื สัตย์ สุจรติ ขยนั อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปัน อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปัน 4. เง่ือนไขความรู้ ความรอบรู้ เรือ่ งพระพุทธศาสนา ความรอบรู้ เรื่องพระพทุ ธศาสนา ในประเทศเพอ่ื นบา้ น ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ในประเทศเพ่อื นบ้าน กรณีที่เกิด รอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำ งานปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ ง การ ความรู้เหล่านน้ั มา พิจารณาให้ คำนวณสูตรท่ี ตอ้ งใช้ สามารถนำ เชอ่ื มโยงกนั เพอื่ ประกอบการ ความรู้เหล่านนั้ มา พิจารณาให้ วางแผน การดำเนินการจดั เชือ่ มโยงกนั สามารถ ประยุกต์ใช้ กจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้กับผ้เู รยี น ในชวี ิตประจำวนั 5. เงือ่ นไขคณุ ธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มี ความซื่อสตั ย์สุจรติ และมีความ ความซ่อื สัตย์สุจริตและมีความ อดทน มี ความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญา อดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญา ในการดำเนนิ ชวี ิต ในการดำเนนิ ชวี ิต

กิจกรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน การเผยแพรพ่ นั ธ์ุพืชของ การเผยแพร่พนั ธ์ุพชื ของต้นไมส้ ู่ การเผยแพรพ่ นั ธพ์ุ ชื ของตน้ ไม้สู่ ประเทศเพอื่ นบา้ น ประเทศเพอ่ื นบา้ น ตน้ ไมส้ ู่ประเทศเพ่อื นบ้าน - ระบปุ จั จัยทม่ี ผี ลตอ่ การ - การรู้จักอธบิ าย เผยแพร่ เจริญเตบิ โต ของตน้ ไม้ บอกเล่า เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ - ทำปฏทิ นิ ตน้ ไม้ช่วยบนั ทกึ ผล ความเข้าใจและ ปฏบิ ัติตาม การ สังเกตการเจริญเติบโตของ ได้อยา่ งเป็นระบบ ต้นไม้ -เกบ็ ตวั อยา่ งของเมลด็ พนั ธุข์ อง ตน้ ไม้ - เรยี นรูก้ ารตัด ตอ่ กง่ิ ของพันธ์ุไม้ ลงชอื่ .................................................. ผู้สอน (นางสาววรวิตา ธำรงศกั ด์เิ สถียร) ลงชี่อ…………………………………………………ครูพ่ีเล้ยี ง (นางสาว ศิริมา เมฆปัจฉาพิชิต)

แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ () ครูพีเ่ ล้ียง ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ลงชื่อ ()

ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพ่อื นบา้ น ตวั ชี้วัดชั้นปี อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือสู่ประเทศเพ่ือนบ้าน คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมต่อไปน้ี กจิ กรรมท่ี 1 ตอบคำถามสน้ั ๆ 1. พระพุทธศาสนาในอินเดยี เจรญิ สูงสุดในสมัยกษัตริยพ์ ระองค์ใด พระเจ้าอโศกมหาราช 2. ดินแดนสุวรรณภูมิเปน็ ดนิ แดนทป่ี ระกอบด้วยประเทศใดบ้าง พมา่ ไทย ลาว กมั พูชา และเวยี ดนามในปจั จุบนั 3. พระเถระท่เี ดนิ ทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภมู ิคือใคร พระโสณเถระและพระ อตุ ตรเถระ 4. การทพี่ ระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรอื งในประเทศตา่ ง ๆ จนเปน็ ทย่ี อมรบั นบั ถือของประชาชนผู้ทม่ี ีบทบาท สำคญั คือใคร พระมหากษัตริยข์ องประเทศต่าง ๆ 5. กษัตรยิ พ์ มา่ พระองค์ใดทีม่ บี ทบาทสำคญั ในการฟ้นื ฟูพระพทุ ธศาสนาและทำให้พระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาของชาวพม่าทั่วทงั้ ประเทศ พระเจา้ อนุรุทธมหาราช 6. พระพุทธศาสนาในกมั พูชาปจั จบุ นั มกี ี่นกิ าย นิกายอะไรบา้ ง มี 2 นิกาย คอื มหานกิ ายและ ธรรมยุติกนกิ าย 7. กษัตริยก์ มั พูชาพระองค์ใดทท่ี รงอุปถมั ภพ์ ระพุทธศาสนา ทรงโปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างปราสาทนครธม และปราสาทบายนเปน็ ศูนย์กลางราชธานี พระเจา้ ชยั วรมันที่ 7 8. เวียดนามรบั พระพทุ ธศาสนามาจากชนชาตใิ ด เพราะเหตุใด จีน เพราะเวียดนามเคยเป็นเมืองข้ึนของ จีนมาก่อน 9. ศาสนสถานในอนิ โดนเี ซียทแี่ สดงถงึ ความเจริญของพระพุทธศาสนานิกายมหายานคืออะไร ตงั้ อยูใ่ นท่ีใด บุโรพุทโธ ตงั้ อย่ทู ่เี กาะชวาตอนกลาง 10. ปจั จุบันประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศอนิ โดนเี ซียนบั ถอื ศาสนาใด ศาสนาอิสลาม 11. พระพทุ ธรูปองคใ์ ดที่ไทยอัญเชิญมาจากนครเวยี งจันทน์ และปจั จุบันประดิษฐานอยู่ทว่ี ัดใด พระพทุ ธมหามณรี ตั นปฏมิ ากรหรอื พระแก้วมรกต ปจั จุบนั ประดษิ ฐานอยู่ทว่ี ัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรอื วดั พระแกว้ กรงุ เทพมหานคร

ตอนท่ี 2 คำชี้แจง นำตัวอกั ษรหน้าข้อความในหมวด ข ไปใส่ในช่องว่างหนา้ ข้อความในหมวด ก ให้สัมพันธ์กัน หมวด ก หมวด ข ข 1. พระพทุ ธศาสนา ก แบง่ ออกเป็น 2 สว่ น คอื มาเลเซยี ตะวันตกและ มาเลเซียตะวนั ออก ก 2. ดินแดนของประเทศมาเลเซยี ข เข้ามาสู่มาเลเซียพร้อม ๆ กบั อินโดนีเซีย ง 3. สุลตา่ นมลั โมซาห์ ค ต้ังอยู่ทีก่ รุงกัวลาลมั เปอร์ สร้างขึ้นเม่ือ พ.ศ. 2503 ค 4. วัดเชตวนั ง กษัตริย์ที่เคร่งครัดศาสนาอิสลามและบงั คับใหป้ ระชาชน จ 5. วัดไชยมงั คลาราม หันมานับถือศาสนาอิสลาม ฉ 6. นกิ ายมหายาน จ วดั ท่ีมีปชู นียสถานสำคัญ คอื พระพทุ ธไสยาสนแ์ ละ ซ 7. วดั ไทยและวดั ลงั กา วิหารพุทธเจดยี ์ ญ 8. การสังคมสงเคราะห์ ฉ นกิ ายพระพทุ ธศาสนาท่ีประชาชนส่วนใหญท่ เ่ี ป็น ช 9. นิกายเถรวาท ชาวจีนในประเทศสิงคโปร์นบั ถือกันมากทส่ี ุด ฌ 10. โรงเรยี นพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ ช พระพทุ ธศาสนานิกายหนึง่ ทมี่ าจากลังกา พม่า และ ไทย ซ่งึ ไดเ้ ผยแผเ่ ข้าสู่ประเทศสงิ คโปรใ์ นเวลาต่อมา ซ เปน็ วดั ของชาวพุทธท่นี บั ถือพระพทุ ธศาสนาฝ่ายเถร วาทในประเทศสงิ คโปร์ ฌ เป็นวิธีการหนงึ่ ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนานิกาย มหายานในประเทศสิงคโปร์ตามรูปแบบการเรียน การสอน ญ การให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ท่ีดำเนนิ การโดย พทุ ธสมาคมแหง่ สิงคโปร์

เรอื่ ง พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพ่ือนบา้ น ตัวชี้วัดชนั้ ปี อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศเพอื่ นบ้าน คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมตอ่ ไปน้ี กจิ กรรมท่ี 1 ตอบคำถามส้นั ๆ 1. พระพุทธศาสนาในอินเดยี เจริญสูงสุดในสมัยกษัตริยพ์ ระองค์ใด ……………………………………………………………… 2. ดินแดนสุวรรณภมู ิเป็นดินแดนท่ีประกอบด้วยประเทศใดบา้ ง…………………………………………………………… 3. พระเถระท่เี ดนิ ทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภมู คิ ือใคร………………………………………… 4. การท่พี ระพุทธศาสนาเจริญรงุ่ เรอื งในประเทศตา่ ง ๆ จนเป็นที่ยอมรบั นับถือของประชาชนผู้ทีม่ ีบทบาท สำคญั คอื ใคร………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. กษตั รยิ ์พม่าพระองค์ใดทีม่ ีบทบาทสำคญั ในการฟ้ืนฟูพระพทุ ธศาสนาและทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาของชาวพม่าทัว่ ทง้ั ประเทศ…………………………………………………………………………………………………. 6. พระพทุ ธศาสนาในกัมพูชาปจั จุบันมกี ีน่ กิ าย นกิ ายอะไรบา้ ง……………………………………………………………. 7. กษตั รยิ ์กมั พชู าพระองคใ์ ดท่ีทรงอุปถัมภพ์ ระพุทธศาสนา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สรา้ งปราสาทนครธม และปราสาทบายนเปน็ ศูนยก์ ลางราชธานี…………………………………………………………………………………… 8. เวยี ดนามรบั พระพุทธศาสนามาจากชนชาตใิ ด เพราะเหตใุ ด…………………………………………………………….. 9. ศาสนสถานในอินโดนีเซยี ที่แสดงถึงความเจรญิ ของพระพุทธศาสนานิกายมหายานคอื อะไร ต้ังอยู่ทีใ่ ด……………………………………………………………………………………………………………………………………. 10. ปัจจบุ นั ประชาชนส่วนใหญใ่ นประเทศอนิ โดนีเซยี นับถอื ศาสนาใด…………………………………………………… 11. พระพุทธรูปองค์ใดท่ีไทยอญั เชิญมาจากนครเวยี งจันทน์ และปจั จุบันประดษิ ฐานอยทู่ ่วี ัด………………………

ตอนท่ี 2 คำชแี้ จง นำตัวอักษรหนา้ ข้อความในหมวด ข ไปใส่ในช่องว่างหนา้ ข้อความในหมวด ก ให้สัมพนั ธ์กัน หมวด ก หมวด ข 1. พระพทุ ธศาสนา ก แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น คือ มาเลเซียตะวันตกและมาเลเซียตะวนั ออก 2. ดนิ แดนของประเทศมาเลเซีย ข เข้ามาสู่มาเลเซยี พรอ้ ม ๆ กับอินโดนเี ซีย 3. สุลตา่ นมัลโมซาห์ ค ตัง้ อย่ทู ่กี รุงกวั ลาลมั เปอร์ สรา้ งข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2503 4. วดั เชตะวนั ง กษัตรยิ ์ท่ีเคร่งครัดศาสนาอิสลามและบังคับให้ประชาชน 5. วดั ไชยมังคลาราม หันมานบั ถือศาสนาอิสลาม 6. นกิ ายมหายาน จ วัดทีม่ ีปชู นียสถานสำคญั คอื พระพุทธไสยาสน์และ 7. วดั ไทยและวดั ลังกา วิหารพทุ ธเจดีย์ 8. การสังคมสงเคราะห์ ฉ นิกายพระพทุ ธศาสนาทป่ี ระชาชนส่วนใหญท่ ่เี ปน็ 9. นกิ ายเถรวาท ชาวจนี ในประเทศสิงคโปร์นับถอื กันมากที่สุด 10. โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ช พระพุทธศาสนานกิ ายหนึ่งท่ีมาจากลงั กา พม่า และ ไทย ซง่ึ ไดเ้ ผยแผ่เขา้ สู่ประเทศสงิ คโปรใ์ นเวลาต่อมา ซ เป็นวดั ของชาวพุทธทนี่ บั ถือพระพุทธศาสนาฝ่ายเถร วาทในประเทศสิงคโปร์ ฌ เปน็ วธิ ีการหน่ึงของการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนานกิ าย มหายานในประเทศสงิ คโปรต์ ามรปู แบบการเรยี น การสอน ญ การให้ความชว่ ยเหลือในด้านต่าง ๆ ท่ีดำเนินการโดย พทุ ธสมาคมแหง่ สงิ คโปร์

แบบทดสอบหน่วยที่ 1 คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. การทีพ่ ระเจ้าอนรุ ุทมหาราชสงั่ ใหท้ ำลายเมอื งสธุ รรม 6. สลุ ตา่ นมลั โมชาห์ แหง่ มาเลเซยี มสี ่วนทำให้อิทธิพล วดี และนำพระสงฆ์มอญพร้อมพระไตรปฎิ กข้นึ ไปยัง ของพระพทุ ธศาสนาเส่ือมลงในดินแดนมาเลเซยี เมอื งพุกาม มีผลสำคญั ในขอ้ ใด อยา่ งไร ก. พระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาประจำชาตพิ มา่ ก. พระองค์เลอ่ื มใสศาสนาอสิ ลาม ข. มีการทำสงั คายนาพระไตรปฎิ กเป็นครงั้ แรก ข. สงั่ หา้ มประชาชนศึกษาธรรมะของ ค. พระมหากษัตรยิ ท์ รงมอี ิทธิพลต่อพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา ง. พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาทแผ่ขยายท่ีอาณาจักร ค. ต่อตา้ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในดินแดน พมา่ ของมาเลเซยี 2. กษตั ริย์พมา่ พระองค์ใด ทรงเป็นองค์อุปถัมภใ์ นการทำ ง. สั่งใหท้ หารทำลายศาสนสถาน พระพทุ ธรูป สังคายนาพระธรรมวินัย คร้ังที่ 5 ที่เมอื งมัณฑะเลย์ และใหป้ ระชาชนนับถอื ศาสนาอสิ ลาม ก. พระเจา้ มนิ ดง 7. พระพทุ ธศาสนาในประเทศลาวเสอื่ มลงเนื่องจาก ข. พระเจ้ามนูหะ สาเหตุ ในข้อใด ค. พระเจา้ อนรุ ทุ ธมหาราช ก. ลาวถกู ปกครองโดยระบอบคอมมวิ นสิ ต์ ง. พระเจ้าธรรมเจดีย์ศรปี ิฎกธร ข. ประชาชนขาดความศรทั ธาเล่ือมใสใน 3. หลักฐานในข้อใดท่ีแสดงวา่ พระพุทธศาสนานกิ าย พระพุทธศาสนา มหายานเคยเป็นที่นับถอื กันอย่างแพรห่ ลายในประเทศ ค. พระมหากษัตรยิ ์ของลาวบางพระองคไ์ ม่เล่ือมใส อินโดนีเซีย พระพทุ ธศาสนา ก. กษัตรยิ ์ราชวงศ์ไศเลนทร์ปกครองอาณาจกั รศรี ง. ลาวเป็นอาณานิคมของฝรัง่ เศส และต่อมาถกู วิชยั ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ ข. พระโสณเถระมาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา 8. ในสมัยพระมหากษัตริย์ของกัมพูชาพระองค์ใดทีไ่ ดร้ ับ ค. พระพมิ พ์ดินดบิ และรปู พระโพธสิ ัตว์ เอาพระพทุ ธศาสนานกิ ายธรรมยุตจากเมอื งไทยมา ง. การสรา้ งพระพทุ ธรูปศลิ ปะปาละ ประดิษฐานทป่ี ระเทศกัมพูชาเปน็ คร้งั แรก 4. ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฎาธริ าช ทรงสร้างสงิ่ สำคัญ ก. พระเจ้าหริรกั ษร์ ามาธบิ ดี เกย่ี วกบั พระพุทธศาสนาในขอ้ ใด ข. พระเจ้าชยั วรมนั ที่ 1 ก. พระพทุ ธรูปพระองคต์ ื้อ วดั พระแก้ว ค. พระเจ้าชยั วรมันท่ี 7 ข. พระพุทธรปู ปัญจโลหะ ง. พระเจา้ ตามลนิ ทะ ค. วัดมโนรมย์ วัดอโุ บสถ 9. ในรชั สมยั ของพระเจ้าชยั วรมนั ที่ 7 ของกัมพชู าได้ทำนุ ง. พระบาง บำรุงพระพทุ ธศาสนาหลายประการ ยกเวน้ ข้อใด 5. การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในสิงคโปร์มหี ลากหลาย ก. ทรงสร้างนครธม วิธกี าร ยกเวน้ ข้อใด ข. ทรงสร้างปราสาทบายน ก. การแปลตำราและคัมภรี ท์ างพระพุทธศาสนา ค. ทรงจัดตั้งโรงเรยี นสอนปริยตั ิธรรมชั้นสงู เป็นภาษาต่างๆ ง. ทรงรับเอาพระพุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์ ข. จัดตัง้ โรงเรียนสอนพระพุทธศาสนา และโรงเรียน เขา้ มาเผยแผ่ อบรมศาสนจารย์ 10. สาเหตุสำคญั ทท่ี ำให้พระพุทธศาสนาในประเทศ ค. องค์กรยวุ พทุ ธมกี ารอบรมและบรรยาย กมั พูชาเส่อื มลง คอื อะไร เปน็ ภาษาองั กฤษและภาษาจนี กลาง ก. พระมหากษตั รยิ ไ์ มเ่ ล่ือมใสในพระพทุ ธศาสนา ง. ผลิตพระพิมพด์ ินดบิ และเครอ่ื งรางของขลงั ข. ประชาชนขาดความศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา และพระพุทธรปู พระโพธิสตั ว์ ค. ลทั ธคิ อมมิวนสิ ต์ และนโยบายของเฮงสัมริน ง. การเปลย่ี นแปลงการปกครองของกมั พชู า 1. ง 2. ก 3. ค 4. ก 5. ง 6. ง 7. ง 8. ก 9. ค 10. ค



แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ หน่วยกิต 1.5 (นน./นก.) หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 พระพทุ ธ ระยะเวลา 6 ชวั่ โมง แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 2 ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา ระยะเวลา 2 ช่วั โมง ............................................................................................................................. ..................................................................... 1.สาระสำคญั พระพุทธศาสนานอกจากจะมีความสำคัญต่อสังคมไทยในฐานะเป็นรากฐานของวัฒนธรรม เป็น เอกลักษณ์และมรดกของชาติแล้ว พระพุทธศาสนายังมีความสำคัญต่อสังคมในการพัฒนาชุมชนและการจัด ระเบยี บสงั คมอกี ด้วย 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั ชัน้ ปี/ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ทางของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตน นบั ถอื และศาสนาอนื่ มีศรัทธาท่ถี กู ตอ้ ง ยึดม่ัน และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกนั อย่างสนั ติสขุ ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ส1.1 ม.2/3วเิ คราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนับ ถอื ในฐานะท่ีเปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณข์ องชาติ และมรดกของชาติ ส1.1 ม. 2/4อภิปรายความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับ ถือกับการพัฒนาชุมชนและการจดั ระเบยี บสงั คม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาทีช่ ว่ ยเสรมิ สรา้ งความ เขา้ ใจอันดกี บั ประเทศเพอ่ื นบา้ น 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process เน้นใหน้ กั เรยี นได้ทำงานเป็นกลุม่ ตระหนักถึงความสำคัญ ของพระพุทธศาสนา 3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ และมีทัศนคติทดี่ ีต่อการศึกษา ประวตั ศิ าสตร์ 4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - แบบฝึกหดั ท่ี 1 เรอ่ื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนาตอ่ สังคมไทย 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝเ่ รยี นรู้ /ใชร้ ปู แบบการสอนโดย ขนั้ ท่ี 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระ รตั นตรยั ทเ่ี หมาะสม กอ่ นเรยี นให้นกั เรยี นน่งั สมาธิ 3–5 นาที และแผเ่ มตตา 2. ครแู จง้ ตัวชีว้ ดั ชั้นปีและจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครทู บทวนความร้หู รือประสบการณ์เดิมของนักเรียนเกีย่ วกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาในเร่ืองต่าง ๆ เชน่ พระพทุ ธศาสนามีความสำคัญต่อสงั คมอย่างไร พระพุทธศาสนามคี วามสำคัญตอ่ การพัฒนาชมุ ชนและการ จัดระเบยี บสงั คมอย่างไร จากนั้นครูสรุปให้นักเรียนฟังในเร่ืองดังกล่าว ช้ันสอน 4. ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มเลือกประธานกลุ่ม เลขานุการกลุ่ม และผู้ อภปิ ราย 5. ครูชี้แจงบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในกลุม่ พรอ้ มท้งั แจง้ ประเด็นหรือหวั ข้อการอภปิ รายให้แต่ละกลุ่ม ทราบดงั นี้ กลมุ่ ที่ 1 อภปิ รายในหวั ข้อ ความสำคัญของพระพุทธศาสนาตอ่ สงั คมไทย กลุ่มที่ 2 อภิปรายในหวั ขอ้ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนากับการพฒั นาชมุ ชน กลมุ่ ที่ 3 อภปิ รายในหัวข้อ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากบั การจัดระเบยี บสงั คม 6. ครูแนะนำสื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนใช้เป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูล หรือ รายละเอยี ดของหัวขอ้ อภปิ ราย 7. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลหรือรายละเอียดของหัวข้อการอภิปรายที่กลุ่มได้ มอบหมายนำขอ้ มูลหรอื รายละเอียดทไี่ ด้มาอภิปรายรว่ มกันในกลุ่ม สรปุ บนั ทกึ ผล และเตรยี มนำเสนอผลการ อภปิ รายหน้าช้นั เรียน 8. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลการอภิปราย โดยเปดิ โอกาสให้สมาชกิ ในกลุ่มคนอื่น ๆ ได้ซักถาม ขอ้ สงสัย 9. ก่อนการนำเสนอผลการอภิปรายของแต่ละกลุ่ม ครูทบทวนประเด็นหรือหัวข้อการอภิปราย วตั ถปุ ระสงคแ์ ละรูปแบบของการอภปิ ราย พร้อมท้งั ช้แี จงกฎกตกิ าหรือหลักเกณฑก์ ารอภิปราย เช่น เวลาที่ใช้ ในการอภปิ ราย บทบาทหน้าทขี่ องสมาชิกในกลมุ่ 10. ครูให้แต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการอภปิ รายตามลำดบั กลุม่ ละ 15 นาที 11. หลังจากการนำเสนอผลการอภิปรายของแต่ละกลุ่ม เปดิ โอกาสให้นักเรียนกล่มุ อนื่ ๆ ได้ซักถามข้อ สงสยั โดยผอู้ ภปิ รายเป็นผู้ตอบ จากนนั้ ครูสรุปสาระสำคญั ของเรอ่ื งทอ่ี ภปิ ราย 12. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและการนำเสนอผลงาน ของนกั เรียนตามแบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม ช่ัวโมงท่ี 2 13. ครูให้นักเรียนทำใบงานท่ี 6 เรื่อง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาตอ่ สังคมไทย และทำกิจกรรมท่ี เกีย่ วกับความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา ลงในสมดุ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบทถี่ กู ตอ้ ง 14. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในด้านต่าง ๆ จากส่ือหรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เชน่ ห้องสมุด อนิ เทอร์เน็ต แล้วนำมาสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กนั ในชั้นเรียน จากนั้นครูสรุปให้นักเรียนฟัง

ว่า ประชาคมอาเซียนประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนที่ทำให้ประชาคมอาเซียนเป็น ปึกแผ่นและมี เสถียรภาพ ซึ่งศาสนาก็เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ดังนั้น การส่งเสริมศาสนาให้มีความ เข้มแข็ง ถกู ตอ้ ง และสนบั สนุนให้ประชาชนของประเทศสมาชกิ อาเซยี นไดม้ โี อกาสศกึ ษาศาสนาของกันและกัน อย่างกว้างขวาง ก็จะทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจอันดีอันเป็นหนทางหนึ่งของการอยู่ร่วมกันในประชาคม อาเซยี นอยา่ งสนั ตสิ ุข ขนั้ สรปุ 15. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยให้นักเรียนสรุปลงในแบบ บันทกึ ความรู้ ซงึ่ อาจสรุปเปน็ แบบเรยี งความ แผนทคี่ วามคิด หรอื ผงั มโนทศั นก์ ไ็ ด้ 9. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ สภาพการใชส้ ื่อ สือ่ การเรียนรู้ ขน้ั สอน รายการส่อื ขนั้ สอน ข้ันสอน ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสงั คมไทย หนังสอื เรียนสังคมศกึ ษา ห้องสมุด 10. การวดั และประเมินผล เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ห ล ั ก ฐ า น ก า ร วิธวี ัด เคร่ืองมอื การวัด ประด็น/เกณฑ์การ เรียนรู้ เรียนรู้ ชิ้นงาน/ ใหค้ ะแนน ภาะงาน พระพุทธศาสนามี ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การตอบคำถามใน ตรวจช้ินงาน 5 คอื ดเี ย่ียม ความสำคัญต่อ ควา ม ส ำ คั ญ ขอ ง แบบฝึกหัดถูกต้อง 4 คือ ดมี าก สังคมไทยในฐานะ พระพุทธศาสนาต่อ ครบถ้วนภายใน ตา่ ง ๆ เช่น การเปน็ สงั คมไทย 3 คือ ดี ร ะ ย ะ เ ว ล า ที่ 2 คือ พอใช้ รากฐานของ กำหนด 1 คือ ควรปรบั ปรงุ วฒั นธรรมการเป็น หนังสอื เรยี น การถามตอบของ การสังเกตและการ 0 คอื ไม่ผา่ น เอกลกั ษณ์และ พระพทุ ธศาสนา ครูและนักเรียน ถาม-ตอบ มรดกของชาติ เป็น และการตั้งคำถาม สภาพแวดล้อมท่ี ถามตอบของ กวา้ งขวางและ นักเรยี นเอง ครอบคลุม สงั คมไทย เปน็ หลักในการพัฒนา ชมุ ชนและจดั ระเบียบสงั คม

11. จดุ เน้นของโรงเรยี น การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรยี น 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ รจู้ กั ใช้เทคโนโลยีมาผลิตส่อื ท่ี มีจติ สำนึกท่ีดี เอ้อื อาทร ร้จู กั เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอ้ื หาเป็น ประนปี ระนอม นกึ ถงึ ประโยชน์ ประโยชนต์ อ่ ผ้เู รยี นและพฒั นาจาก สว่ นรวม/กลมุ่ ภูมิปญั ญาของผู้เรยี น 2. ความมเี หตผุ ล - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ย ไม่หยุดนงิ่ ท่ีจะคน้ หาความร้เู พ่ือ 3. มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี ความ ถกู ต้อง สุจรติ แม้จะตกอยู่ อนาคต ของตนเอง ในภาวะขาด แคลนในการด ารง ชวี ิต ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบและ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั และระมดั ระวงั ภูมิธรรม : ซอ่ื สัตย์ สุจรติ ขยัน ภมู ิธรรม : ซือ่ สตั ย์ สุจรติ ขยัน อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบ่งปัน อดทน ตรงต่อเวลาและแบง่ ปัน 4. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เรอ่ื งความสำคัญของ ความรอบรู้ เร่อื งความสำคัญ พระพุทธศาสนา ทเี่ ก่ียวขอ้ งรอบ ของพระพทุ ธศาสนา กรณีที่เกิด ด้าน ความรอบคอบทจ่ี ะนำความรู้ งานปริมาณท่ีเกย่ี วข้อง การ เหล่านั้นมา พิจารณาให้เชือ่ มโยง คำนวณสูตรท่ี ตอ้ งใช้ สามารถนำ กันเพือ่ ประกอบการวางแผน การ ความรู้เหลา่ น้นั มา พจิ ารณาให้ ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เช่ือมโยงกัน สามารถ ประยุกตใ์ ช้ ใหก้ ับผู้เรียน ในชวี ติ ประจำวนั 5. เง่อื นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ และมีความ ความซ่อื สัตย์สุจรติ และมีความ อดทน มี ความเพยี ร ใช้สติปัญญา อดทน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญา ในการดำเนินชวี ติ ในการดำเนนิ ชวี ติ

กิจกรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ความสำคญั ของพันธพุ์ ชื ความสำคญั ของพนั ธุ์พืช ความสำคัญของพนั ธุ์พืช - การให้ความสำคญั ของ - ยอมรับปจั จยั ท่มี ีผลต่อการ พันธ์พืช รูจ้ ักยอมรบั ความ เจริญเตบิ โตของตน้ ไม้ แตกต่างของพันธ์ุพืช เพ่ือให้ -บันทกึ ความแตกต่างของแต่ละ เกดิ ความเข้าใจและ ปฏบิ ัติ ประเทศ ตามได้อย่างเปน็ ระบบ ลงช่ือ .................................................. ผู้สอน (นางสาววรวติ า ธำรงศักดิเ์ สถยี ร) ลงชอื่ …………………………………………………ครพู เี่ ล้ียง (นางสาว ศริ มิ า เมฆปัจฉาพชิ ิต)

แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ () ครูพีเ่ ล้ียง ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ลงชื่อ ()

ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาตอ่ สังคมไทย คำชี้แจง ให้นักเรียนทำกิจกรรมตอ่ ไปน้ี เขียนเครื่องหมาย หนา้ ที่ถกู และเขยี นเคร่อื งหมาย  หน้าขอ้ ท่ีผดิ 1. ประชาชนชาวไทยร้อยละ 50 นบั ถอื พระพุทธศาสนา ดว้ ยเหตุนปี้ ระเทศไทยจงึ ไดช้ ่ือวา่ มีพระพทุ ธ- ศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ 2. ตงั้ แตเ่ กิดจนกระทัง่ ตายชีวติ ของคนไทยจะผูกพนั กับพธิ กี รรมทางพระพุทธศาสนามาโดยตลอด 3. คนไทยมีนำ้ ใจ ยิม้ แยม้ แจ่มใส เปน็ มติ รกับทกุ คน ประเทศไทยจึงได้สมญาวา่ เป็นสยามเมืองยม้ิ 4. เหตุผลหน่ึงทป่ี ระเทศไทยไดช้ อ่ื วา่ เป็นเมืองพทุ ธ เพราะมีวดั กระจายอยู่ทกุ หมู่บ้านหรือทกุ ชุมชน 5. พระพทุ ธศาสนานอกจากจะเปน็ รากฐานของวฒั นธรรมไทยแล้วยังเปน็ เอกลกั ษณ์ของสังคมไทย อีกด้วย 6. รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยทกุ ฉบับได้บญั ญัตใิ ห้พระมหากษัตริย์ของไทยทกุ พระองค์ ทรงเปน็ พทุ ธมามกะและเป็นองค์อัครศาสนปู ถัมภกของทกุ ศาสนา 7. สถาปตั ยกรรม เชน่ วดั โบสถ์ วิหาร เป็นสญั ลกั ษณ์สำคญั ท่ที ำให้ประเทศไทยได้ชอ่ื ว่าเป็นเมือง พุทธ 8. จริยวัตรอนั งดงามของพระสงฆไ์ ทยเปน็ เอกลักษณ์สำคัญอกี อย่างหนึง่ ของพระพทุ ธศาสนาใน ประเทศไทย 9. หลกั คำสอน ความเชอื่ และแนวปฏบิ ตั ิในทางพระพทุ ธศาสนามักจะสวนทางกบั วิถชี ีวิตของ คนไทย 10. ศิลปกรรมอันวจิ ิตรงดงามในทางพระพทุ ธศาสนามสี ่วนสำคญั ในการดงึ ดดู นักท่องเทย่ี วให้เขา้ มาท่องเทยี่ วในประเทศไทยในแตล่ ะปไี ดเ้ ป็นจำนวนมาก 11. วรรณกรรมของไทยหลายเรื่องได้เค้าเร่ืองมาจากพระพุทธศาสนา เช่น มหาชาติคำหลวง ทศชาติ ชาดก พระราชพธิ ีสิบสองเดือน 12. พระพทุ ธศาสนาเปน็ มรดกของคนไทยที่เปน็ ชาวพุทธ คนไทยทีเ่ ป็นชาวพุทธเทา่ น้นั ควรธำรง รกั ษาไว้ใหค้ งอยคู่ ูช่ าติไทยสืบต่อไป

ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสงั คมไทย เขยี นเครอ่ื งหมาย หนา้ ที่ถูก และเขียนเคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อท่ีผดิ  1. ประชาชนชาวไทยรอ้ ยละ 50 นบั ถือพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุน้ปี ระเทศไทยจงึ ได้ชื่อว่ามพี ระพุทธ- ศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ  2. ตง้ั แตเ่ กดิ จนกระท่งั ตายชวี ิตของคนไทยจะผูกพันกับพธิ กี รรมทางพระพุทธศาสนามาโดยตลอด  3. คนไทยมนี ำ้ ใจ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส เป็นมิตรกับทุกคน ประเทศไทยจงึ ได้สมญาวา่ เปน็ สยามเมอื งยิ้ม  4. เหตผุ ลหนงึ่ ที่ประเทศไทยไดช้ ่ือวา่ เปน็ เมอื งพุทธ เพราะมวี ดั กระจายอยทู่ กุ หมู่บา้ นหรอื ทุกชุมชน  5. พระพทุ ธศาสนานอกจากจะเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทยแลว้ ยงั เปน็ เอกลกั ษณ์ของสังคมไทย อกี ด้วย  6. รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยทุกฉบบั ไดบ้ ัญญตั ิให้พระมหากษัตรยิ ์ของไทยทุกพระองค์ ทรงเปน็ พุทธมามกะและเปน็ องค์อคั รศาสนูปถมั ภกของทกุ ศาสนา  7. สถาปัตยกรรม เช่น วดั โบสถ์ วิหาร เป็นสัญลกั ษณส์ ำคญั ที่ทำให้ประเทศไทยไดช้ ือ่ ว่าเป็นเมือง พทุ ธ  8. จริยวตั รอันงดงามของพระสงฆ์ไทยเปน็ เอกลักษณ์สำคญั อกี อย่างหนง่ึ ของพระพุทธศาสนาใน ประเทศไทย  9. หลกั คำสอน ความเช่ือ และแนวปฏิบตั ิในทางพระพุทธศาสนามกั จะสวนทางกับวถิ ีชีวิตของ คนไทย  10. ศลิ ปกรรมอันวิจติ รงดงามในทางพระพุทธศาสนามีส่วนสำคญั ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เขา้ มาทอ่ งเทยี่ วในประเทศไทยในแตล่ ะปไี ด้เป็นจำนวนมาก  11. วรรณกรรมของไทยหลายเรื่องได้เค้าเรื่องมาจากพระพุทธศาสนา เชน่ มหาชาติคำหลวง ทศชาติ ชาดก พระราชพิธีสิบสองเดอื น  12. พระพทุ ธศาสนาเปน็ มรดกของคนไทยทีเ่ ปน็ ชาวพุทธ คนไทยที่เป็นชาวพทุ ธเท่าน้ันควรธำรง รกั ษาไวใ้ ห้คงอยคู่ ู่ชาตไิ ทยสบื ตอ่ ไป

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส 22101 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ หน่วยกิต 1.5 (นน./นก.) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 พระพุทธ ระยะเวลา 6 ชั่วโมง แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง พุทธประวตั ิและชาดก ระยะเวลา 2 ช่วั โมง .............................................................................................................................................................................. 1.สาระสำคัญ การวิเคราะห์พุทธประวตั ิ และชาดก โดยใช้การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลนั้น ย่อมทำให้ได้ขอ้ คดิ สำคัญ ซ่งึ สามารถนำมาเตอื นสติ และเป็นหลกั ในการประพฤติตนอยา่ งเหมาะสม 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัดชัน้ ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ทางของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับ ถอื และศาสนาอน่ื มีศรทั ธาทถ่ี ูกตอ้ ง ยดึ มั่น และปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมเพ่ืออยู่ร่วมกันอย่างสนั ตสิ ุข ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ส1.1 ม.2/5 วิเคราะห์พุทธประวตั ิหรือประวัติศาสดาของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ี กำหนด ม.2/6 วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก ประวัตสิ าวก ชาดก เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่างตามทก่ี ำหนด 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge อธบิ ายประวัติของพระพุทธเจ้า ศาสดาของพระพทุ ธศาสนา การศกึ ษาพทุ ธประวตั ิตัง้ แตก่ ่อนการผจญมารจนถงึ การสั่งสอนธรรม ช่วยใหผ้ ศู้ กึ ษามีความเข้าใจเรื่องราวของ พระพุทธเจ้า และยดึ เป็นแบบอยา่ งการดำเนินชวี ิต 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เน้นให้นักเรียนได้ทำงานเป็นกลุ่ม การถาม-ตอบเพ่ือ การศึกษาทางประวตั ศิ าสตร์สากล และประวตั ิศาสตร์ไทย 3.3 คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ และมที ศั นคติที่ดีต่อการศึกษา ประวตั ิศาสตร์ 4. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 5. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง พุทธประวัติและชาดก

-ทำกิจกรรมประเดน็ “การส่ังสอนธรรมมีผลดีตอ่ เราอยา่ งไร” 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ (ความสามารถในการวเิ คราะห์ / ใฝเ่ รยี นรู้ /ใช้รูปแบบการสอน) ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรียนผลัดกันเล่าความร้เู ดมิ ที่นกั เรยี นเคยเรียน เร่ือง พทุ ธประวตั ิ และใหน้ ักเรยี นช่วยกัน เสนอข้อคิดทไ่ี ด้จากการศึกษาพุทธประวตั ิ 2. ครเู ลา่ พทุ ธประวัติ ตอน ผจญมาร ให้นกั เรียนฟงั พร้อมใหด้ ภู าพพทุ ธประวัติ ตอน ผจญมาร และให้ นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ความหมายของคำว่า มาร ซึ่งนักเรียนอาจตอบได้หลากหลาย ครูเชื่อมโยงการ วเิ คราะห์ให้นกั เรียนเข้าใจว่า “มาร” ตามภาษาธรรม อาจหมายความวา่ กิเลส ไดแ้ ก่ โลภะ โทสะ และโมหะ ที่ รบกวนพระทัยพระพุทธองค์ในขณะนั่งสมาธินั่นเอง เสนามาร ก็คือ กิเลสเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นบริวารของโลภะ โทสะ โมหะ ส่วนพระแม่ธรณี กค็ อื บารมที งั้ 10 ขอ้ ทพี่ ระพุทธองคท์ รงบำเพญ็ มา เปน็ คณุ ความดี เป็นกำลงั ใจ ให้ตอ่ สอู้ ำนาจของกเิ ลสทัง้ ปวงและตรัสรูใ้ นทีส่ ดุ ข้ันสอน 3. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรู้เรอ่ื ง พุทธ ประวตั ิ ตอน ผจญมาร ตรัสรู้ และเทศนาส่ังสอน จากหนงั สอื เรยี น เอกสารประกอบการสอน หนังสือค้นคว้า เพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ จากนั้นบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการ อ่าน 4. สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ ฝกึ ต้งั คำถาม จากพุทธประวตั ทิ ่ีไดศ้ ึกษา มากลุ่มละ 5 ข้อ พร้อมเฉลยคำตอบ 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ผลดั กันถามคำถามกบั สมาชิกกลมุ่ อืน่ เรียงตามลำดบั ดังนี้ - กลุ่มที่ 1 ถามกลมุ่ ที่ 2 - กลุม่ ท่ี 4 ถามกลมุ่ ท่ี 5 - กลุ่มที่ 2 ถามกลมุ่ ที่ 3 - กลุ่มที่ 5 ถามกลมุ่ ท่ี 6 - กลมุ่ ที่ 3 ถามกล่มุ ที่ 4 - กล่มุ ที่ 6 ถามกลุ่มท่ี 1 4. นักเรยี นกลมุ่ ผถู้ ามจะเป็นฝ่ายเฉลยคำตอบ ครูตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ากลมุ่ ใดตอบไมถ่ ูกหรือตอบ ยงั ไม่ครบถ้วนตามคำถาม กลุ่มผถู้ ามจะเปน็ ผู้เสรมิ ใหถ้ ูกต้องครบถ้วน 5. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง พุทธประวัติ ซึ่งในใบงานจะประกอบด้วย 2 ตอน ดงั น้ี - ตอนที่ 1 เป็นการเรียงลำดบั เหตกุ ารณ์ในพุทธประวัติ - ตอนท่ี 2 เป็นการตอบคำถามเชงิ วเิ คราะหเ์ ก่ียวกับ พทุ ธประวัติ 6. ครูและนักเรยี นช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 2.1 7. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ เพราะเหตุใด พระพทุ ธเจ้าจึงตง้ั พระทัยทจ่ี ะสอนปญั จวคั คยี ์กอ่ นผูอ้ น่ื (เพราะตอ้ งการแกค้ วามเข้าใจผดิ ของปญั จวคั คยี ์ ทม่ี ตี อ่ พระพทุ ธองค์และตอ้ งการใหป้ ัญจวคั คีย์เป็นสักขี พยานแหง่ การตรัสร้ขู องพระพทุ ธองค)์ 8. ครูเล่าชาดกซึ่งเป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์บำเพญ็ บารมี เพื่อจะไปเสวยชาติเป็นพระพุทธเจ้าให้ นักเรียนฟงั ซ่ึงอยูใ่ นสตุ ตันตปิฎก นิกายขทุ ทก ในเรอื่ ง มติ ตวนิ ทกุ ชาดก และราโชวาทชาดก 9. ครูให้นักเรยี นชว่ ยกันวิเคราะห์ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากการฟงั ชาดกเรื่อง มิตตวนิ ทกุ ชาดก และราโชวาทชาดก

ขัน้ สรปุ 1. ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ สาระสำคญั ของพระพุทธประวัติ มิตตวินทุกชาดก และราโชวาทชาดก และ ข้อคดิ สำคัญท่ีไดจ้ ากการศึกษา 2. นกั เรียนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งข้อคิดท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาเกี่ยวกบั พุทธประวตั ิ มิตตวินทุกชาดก และราโชวาท ชาดก พร้อมกับแนวทางการนำไปประยกุ ต์ปฏบิ ตั ิ ครตู รวจสอบความถกู ต้อง และช่วยเสนอแนะเพ่ิมเตมิ 3. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรยี นสามารถนำข้อคดิ จากการศึกษาพุทธประวตั ิไปประยุกตป์ ฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งไรบา้ ง (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ น ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) 9. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ รายการสือ่ สภาพการใช้สอ่ื ใบงานที่ 3 เรือ่ ง พทุ ธประวัตแิ ละชาดก (กิจกรรมที่1) ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง พุทธประวตั แิ ละชาดก (กจิ กรรมที่2) ขั้นสอน เอกสารประกอบการสอน ขัน้ สอน . ห้องสมุด ขนั้ สอน . แหลง่ ค้นคว้าทาง Internet ขน้ั สอน 10. การวัดและประเมินผล เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ห ล ั ก ฐ า น ก า ร วิธีวัด เครอื่ งมอื การวัด ประเด็น/เกณฑ์ เรียนรู้ เรียนรู้ ชิ้นงาน/ การให้คะแนน ภาะงาน ก าร ศ ึ ก ษา พ ุ ท ธ แบบฝกึ หดั การตอบคำถามใน แบบฝกึ หัด 5 คือ ดเี ยีย่ ม ประวัติและชาดก แบบฝึกหัดถูกต้อง 4 คอื ดีมาก ทำให้รู้และเข้าใจ ครบถ้วนภายใน 3 คือ ดี ประวัติของ ร ะ ย ะ เ ว ล า ที่ 2 คอื พอใช้ พ ร ะ พ ุ ท ธ เ จ้ า กำหนด 1 คอื ควรปรบั ปรงุ ศ า ส ด า ข อ ง ห น ั ง ส ื อ เ ร ี ย น การถามตอบของ การสังเกตและการ 0 คอื ไมผ่ ่าน พระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา ครูและนักเรียน ถาม-ตอบ และได้แบบอย่าง และการตั้งคำถาม ในการดำเนินชีวิต ถ า ม -ต อ บ ข อ ง ท่ีถูกต้อง นักเรียนเอง

11. จดุ เน้นของโรงเรยี น การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ผเู้ รียน 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจิตใจ รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลติ สือ่ ท่ี มีจติ สำนกึ ทด่ี ี เอ้อื อาทร ร้จู ัก เหมาะสมและสอดคล้องเนอื้ หาเปน็ ประนีประนอม นึกถงึ ประโยชน์ ประโยชนต์ อ่ ผ้เู รียนและพัฒนาจาก ส่วนรวม/กลมุ่ ภูมิปญั ญาของผเู้ รยี น 2. ความมีเหตุผล - ยึดถอื การประกอบอาชีพดว้ ย ไมห่ ยดุ นิง่ ทจ่ี ะคน้ หาความรเู้ พอ่ื 3. มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตัวทด่ี ี ความ ถูกตอ้ ง สุจรติ แม้จะตกอยู่ อนาคต ของตนเอง ในภาวะขาด แคลนในการด ารง ชวี ิต ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบและ ภมู ปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั และระมดั ระวงั ภมู ธิ รรม : ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต ขยัน ภมู ิธรรม : ซ่ือสัตย์ สุจรติ ขยนั อดทน ตรงต่อเวลาและแบ่งปัน อดทน ตรงต่อเวลาและแบง่ ปนั 4. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง พุทธประวตั ิและ ความรอบรู้ เร่อื ง พุทธประวตั ิ 5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม ชาดก ท่ีเก่ยี วขอ้ งรอบดา้ น ความ และชาดกมีความเข้าใจ สามารถ รอบคอบทจ่ี ะนำความรูเ้ หลา่ นน้ั มา อธิบายสิง่ ทต่ี ้องใช้ สามารถนำ พิจารณาให้เช่ือมโยงกันเพอื่ ความรู้เหลา่ น้ันมา พจิ ารณาให้ ประกอบการวางแผน การ เช่อื มโยงกัน สามารถ ประยกุ ต์ใช้ ดำเนินการจัด กจิ กรรมการเรียนรู้ ในชวี ิตประจำวนั ให้กับผู้เรียน มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มี ความซื่อสัตยส์ ุจริตและมีความ ความซอื่ สัตยส์ ุจริตและมีความ อดทน มี ความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญา อดทน มีความเพียร ใช้สตปิ ัญญา ในการดำเนนิ ชวี ติ ในการดำเนินชีวิต

กจิ กรรม ครู ผู้เรยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน รปู้ ระวตั ขิ องพนั ธพ์ุ ชื และตน้ ไม้ แตล่ ะชนดิ รู้ประวตั ิของพนั ธุพ์ ืช และต้นไมแ้ ตล่ ะ รปู้ ระวตั ขิ องพันธพุ์ ชื และ - ทำปฏิทนิ ตน้ ไม้ช่วยบนั ทึกผล การ สงั เกตการเจริญเตบิ โตของ ชนดิ ต้นไม้แต่ละชนดิ ตน้ ไม้ -ระบุแหลง่ ทีม่ า ชือ่ ทาง - การรจู้ ักประวัตขิ องพนั ธุ์ วิทยาศาสตร์ ชื่อท้องถิ่นและ สรรพคุณได้ พชื เพื่ออธบิ ายให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจและ ปฏิบัติตาม ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ลงชื่อ .................................................. ผสู้ อน (นางสาววรวติ า ธำรงศักด์เิ สถยี ร ลงชอื่ …………………………………………………ครูพีเ่ ล้ียง (นางสาว ศิรมิ า เมฆปัจฉาพชิ ิต)

แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ () ครูพีเ่ ล้ียง ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ลงชื่อ ()

เอกสารประกอบการสอน พุทธประวตั ิ ตอน ผจญมาร พระพทุ ธเจา้ ตอน ผจญมาร

ผจญมาร ณ วนั เพ็ญเดือน 6 วันเดยี วกบั ท่ีได้ทรงเสวยขา้ วมธุปายาสแลว้ นั้น พระสิทธตั ถมหาบรุ ุษทรง บำเพ็ญเพยี รลมุ่ ลึกเป็นคร้งั สุดทา้ ย พระอาทิตย์ลับขอบฟา้ ไปแลว้ พระองค์กำลงั จะรแู้ จง้ ทจ่ี ะตรัสรู้นนั้ กม็ วี สวัดดีมารยกพลมารมาขัดขวางการบรรลธุ รรมข้นั สูงสุดนี้ โดยมารมาทัง้ ทางบก ทางอากาศ พยายามจะฟาดฟนั ใหย้ อ่ ยยับ ณ ทนี่ นั้ ไมม่ ีใครเหลืออย่เู ลย แมเ้ ทวดาท้งั หลายกก็ ลวั พญามาร จงึ เหลือ แต่พระองค์ผู้เดียว พระองค์ทรงตรสั สดู้ ว้ ยพระทยั ไม่หวนั่ ไหว พระแมธ่ รณจี ึงผดุ ขนึ้ มาเป็นพยานใน ความดที ่พี ระองค์ได้หลงั่ ทักษิโณทก ลงบนแผน่ ดนิ ในกาลก่อนทุกๆ ชาติ ทร่ี วมไวใ้ นมวยผมของพระแม่ ธรณี โดยการบิดนำ้ ออกมาจากเกศา ทำให้นำ้ ทว่ มพสธุ าข้นึ หมมู่ ารท้ังหลายหนไี ปส้ินและทรงชนะมาร ในทส่ี ุด คตธิ รรมจากภาพ 1. สติ คือ ความรูต้ ัวท่ัวพรอ้ ม ควบคมุ ให้จติ มน่ั คงไมห่ ว่ันไหว จะหยุดยง้ั สิ่งเลวร้ายทเี่ กิดข้ึนได้ ดังท่ีพระพทุ ธองคท์ รงใช้สติสกู้ บั มารท่ีมาผจญได้สำเร็จ 2. การทำความดีที่มากยงิ่ ขนึ้ และยาวนาน (เปน็ กมั มสักก-กัมมโยน)ิ ความดีทีส่ ง่ั สมไว้นีจ้ ะเป็น เกราะกนั้ กำบังเหตุรา้ ย 3. พยาน เปน็ หลกั ฐานแสดงรอ่ งรอยในการกระทำเป็นส่ิงจำเป็นทกุ ยุคสมยั ดังเชน่ พระแมธ่ รณี เปน็ พยานสำคญั ว่า มหาบรุ ุษผูน้ ี้ได้ทำความดีมาหลายกัลป์ โดยหลั่งนำ้ ไวบ้ นแผ่นดินทีพ่ ระ แม่ธรณเี ก็บไวท้ ี่มวยผม ซ่งึ เมอื่ บิดออกมาทำใหน้ ำ้ ทว่ มพสุธายังพญามารใหห้ นไี ปส้นิ 4. มาร คอื อุปสรรคหรอื กิเลส บางทีเรียกว่า กเิ ลสมาร ไดแ้ ก่ ตณั หา ความอยาก ความต้องการ ราคะ ความรัก ความหลงในกาม โมหะ ความอิจฉารษิ ยา เกลียดชัง จะขจัดออกจากตนได้ โดยการละ การวาง อยา่ งมุ่งม่นั เด็ดเดีย่ ว เขม้ แข็งต่อสง่ิ ย่ัวยุ ดังพุทธองคท์ ชี่ นะมารได้ 5. ผูท้ ค่ี ิดดี ทำดี ย่อมชนะผคู้ ิดร้ายทำรา้ ย ดงั คำกลา่ วทวี่ า่ ธรรมยอ่ มชนะอธรรม ที่มา : จิตรลดา ศริ ริ ตั น์ และแม้นเดือน สขุ บำรุง. 2542. พระพทุ ธเจ้าตรัสรไู้ ดอ้ ยา่ งไร. กรุงเทพมหานคร : เลี่ยงเชยี ง.

พทุ ธประวตั ิ ตอน ตรัสรู้ พระพุทธเจา้ ตอน ตรสั รู้

ตรสั รู้ ในวันเพ็ญเดอื นวิสาขะ หลงั จากทีพ่ ระสิทธตั ถมหาบุรษุ ฉันข้าวมธุปายาสของนางสชุ าดา แลว้ ทรงรบั หญา้ คา จากโสตถยิ พราหมณ์ 8 กำ ปูลาดเปน็ อาสนะทใ่ี ต้ต้นโพธิ์รมิ ฝั่งแม่น้ำเนรญั ชรา ประทับนง่ั บนอาสนะแล้วอธษิ ฐานวา่ “หากไมไ่ ด้ตรสั ร้กู ็จะไม่ลกุ จากทน่ี ี้ แมเ้ ลือดและเน้ือจะเหือดแห้ง ไปเหลอื แต่เอน็ และกระดูกกต็ าม” จากนัน้ ทรงบำเพ็ญสมาธิ มัน่ คงลุ่มลึกไปโดยลำดับในยามต้นของ ราตรีน้นั พระองค์ไดห้ ยั่งรู้อดตี ชาตอิ ันยาวไกล ในยามที่สอง ได้หยั่งรู้ การเกดิ และอุบตั ขิ องสรรพ สัตว์ด้วยอำนาจของกรรม และในยามสุดท้ายแห่งราตรีพระองคไ์ ดห้ ย่ังรู้หนทางอนั เปน็ ขอ้ ปฏิบตั ทิ ่ีจะทำให้ดับทกุ ข์ท้ังปวงได้ กล่าวคอื พระองคร์ ้แู จ้งอริยสจั 4 ได้แก่ รู้แจ้ง ทุกข์ สาเหตุของทุกข์ ความดับทกุ ข์ และข้อปฏิบตั ใิ ห้ถงึ ความดับทุกข์ พระองคจ์ ึงได้นามว่า พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ผ้ตู รัสรู้ โดยชอบด้วยความสามารถของพระองคเ์ อง ขณะมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา คตธิ รรมจากภาพ 1. การไดเ้ รียนร้เู ร่อื งใดหรอื ทำงานใดๆ กต็ าม ต้องตัง้ ใจ มีสมาธิมัน่ คง จงึ จะเข้าใจทำงานน้ันๆ ได้ดี ดงั ที่พระสิทธัตถะมหาบรุ ุษไดบ้ ำเพ็ญสมาธอิ ันเป็นรากฐานสำคญั ท่ีทำให้ตรัสรเู้ ปน็ พระพุทธเจ้า 2. อริสจั 4 มีหลักสำคญั อยู่วา่ การจะเรียนร้เู ร่ืองใดก็ตามตอ้ งเรยี นรูใ้ ห้สัมพันธ์เชอื่ มโยงกนั เปน็ เหตเุ ป็นผลของกันและกัน เพราะทกุ สงิ่ สัมพันธก์ นั เป็นปจั จัยของกนั และกัน หากเรียนรแู้ บบ แยกสว่ น โดดเด่ียวไม่สมั พนั ธก์ ับเร่อื งอน่ื ก็ไม่สามารถใช้ความรู้นั้นใหเ้ กดิ ประโยชนไ์ ด้ และ หากเรียนจริยธรรมเปน็ ส่วนๆ กไ็ ม่สามารถก่อใหเ้ กิดสำนึกทางจริยธรรมแกผ่ ้เู รียนได้ ท่มี า : จิตรลดา ศริ ริ ตั น์ และแม้นเดือน สขุ บำรงุ . 2542. พระพุทธเจา้ ตรัสรไู้ ด้อยา่ งไร. กรงุ เทพมหานคร : เล่ยี งเชยี ง.

พทุ ธประวัติ ตอน ปฐมเทศนา พระพุทธเจา้ ตอน ปฐมเทศนา

ปฐมเทศนา เม่ือตดั สินพระทัยท่จี ะนำความจริงทรงสง่ั สอนผูอ้ ่ืนใหพ้ น้ ทกุ ข์ พระพทุ ธเจ้าจึงทรงเดินทางออก จากสถานท่ีตรัสรู้ แล้วเสด็จไปยงั ปา่ อิสปิ ตนมฤคทายวนั ด้วยทรงรำลกึ ถงึ นักบวช (ปัญจวคั คีย)์ ทงั้ 5 รูป และไดท้ รงแสดงธรรมปฐม-เทศนาในวันข้ึน 15 คำ่ เดอื น 8 มขี อ้ ความสำคญั คือ ทรงปฏิเสธ วิธีการทรมานกายใหล้ ำบาก และการปลอ่ ยตนไปตามความใคร่ ทง้ั สองน้ไี มเ่ ป็นไปเพ่ือการตรัสรู้ ให้ ปฏิบตั ติ ามทางสายกลาง คือ ปฏบิ ัติตามอรยิ สัจ 4 และมรรค 8 ทก่ี ล่าวโดยยอ่ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อแสดงธรรมจบลง โกณฑัญญะ บรรลโุ สดาบัน ทรงปตี ยิ ินดมี าก เปล่งคำอทุ นวา่ “อัญญาสิ วต โภ โกณฑญั โญ” แปลว่า “โกญฑัญญะ ไดร้ ้แู ลว้ หนอ” ปฐมเทศนาครั้งนัน้ เรียกว่า “ธมั มจกั กปั ปวัตตน สตู ร” เป็นเสมือนวงลอ้ ไปสู่ความเจริญ คติธรรมจากภาพ 1. โลกเริ่มสวา่ งไสวแล้ว คอื การสอนให้คนร้คู วามจรงิ ทำสิ่งถกู ต้องได้จากคนหนึ่งไปสคู่ นหน่ึง เปน็ เหมอื นจุดเทยี น ปญั ญาให้เกดิ ขึ้นในโลก ดังที่พระองค์ตดั สนิ ใจสอนธรรมที่ยากเหลอื เกนิ แล้ว 2. ความกตญั ญเู ป็นเครือ่ งหมายของคนดี สังคมทก่ี ตัญญรู ้คู ุณต่อคนท่ีมคี ุณ เป็นสงั คมทเี่ จรญิ ดังทพ่ี ระองค์ทรงเลือกทจ่ี ะสอนปญั จวัคคียก์ อ่ นผู้อน่ื ด้วยกตญั ญูทปี่ ญั จวคั คียเ์ คยมาดูแลขณะ บำเพญ็ ทุกกรกริ ยิ า 3. การเลอื กสอนหรือสรา้ งผู้นำต้องเลอื กผทู้ ม่ี ศี ีล สมาธิ ปญั ญาอยแู่ ลว้ จะงา่ ยต่อการเข้าใจ บรรลุธรรมได้ง่าย จะทำให้เกดิ กำลงั ใจขยายงานต่อไป ดงั ทีพ่ ระองค์ทรงเลือกปัญจวัคคียท์ ่ี มีศลี สมาธิ ปญั ญาแกก่ ล้าอยแู่ ล้ว 4. การสอนหรือชแี้ นะให้ผู้ประพฤติตาม ต้องพยายามยดึ หลักการให้ชัดเจน เชน่ ทรงสอนปญั จ วคั คีย์ให้เดินสายกลาง (มรรค 8) เป็นทางสู่ความสำเรจ็ ให้เลกิ ปฏิบัตทิ างสุดโต่งไปทางกาม คุณ และทรมานตนเอง 5. ผใู้ ฝ่รู้ ใฝ่เรียน ตอ้ งออ่ นนอ้ มถ่อมตน จะมผี ู้เมตตาถา่ ยทอดวิชาความรู้ให้ ดงั ท่ปี ญั จวัคคีย์ตอ้ ง ลดละทิฐมิ านะ จึงไดโ้ อกาสฟงั ธรรมและบรรลุธรรมตามได้ ทมี่ า : จิตรลดา ศิรริ ัตน์ และแม้นเดอื น สุขบำรงุ . 2542. พระพุทธเจา้ ตรัสรู้ได้อย่างไร. กรงุ เทพมหานคร : เล่ียงเชียง.

บตั รภาพ  ภาพพระพุทธเจ้า ตอนผจญมาร

ใบงานท่ี 3 พทุ ธประวัติและชาดก ตอนที่ 1 คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนนำหมายเลขหนา้ ขอ้ ความไปเรียงลำดบั ตามเหตกุ ารณ์พทุ ธประวัตใิ นกรอบดา้ นล่าง 1. พระสิทธตั ถะทรงบำเพญ็ 2. เม่ือพระสทิ ธัตถะผนวชแลว้ 3. พระพุทธเจ้าเสด็จไปตรัส เพียรทางจิต ได้พยายามศึกษาคน้ คว้า สอนธัมมจกั กปั ปวัตตนสตู ร ทางพ้นทกุ ข์ วา่ ด้วย อริยสัจ 4 ประการ แกป่ ญั จวัคคยี ์ 4. พระสิทธตั ถะทรงฝึกปฏบิ ตั ิ 5. พระสทิ ธัตถะปฏบิ ัตสิ มาธิ 6. พระพทุ ธเจ้าประทาน โยคะกับอาฬารดาบส ใตต้ ้นสรีมหาโพธิ์จน อปุ สมบทใหแ้ ก่ยสกุมาร กาลามโคตร และอทุ ทก สามารถ รแู้ จ้งหรือตรัสรู้ และสหายอีก 54 คน ส่งให้ ดาบส รามบตุ ร อรยิ สัจ 4 ไปประกาศพระพุทธศาสนา 7. พระสิทธตั ถะเสด็จไปยงั 8. พระสทิ ธตั ถะรับหญ้ากุสะ 9. พระพุทธเจ้าโปรดให้ ตำบลอรุ เุ วลาเสนานิคม จากพราหมณ์โสตถิยะ พระสารีบุตร และพระโมค- ทรงรบั ขา้ วมธปุ ายาส มาปูลาดเปน็ อาสนะ คลั ลานะเป็นพระอคั รสาวก จากนางสชุ าดา ณ โคนตน้ ศรมี หาโพธ์ิ เบอ้ื งขวาและเบอ้ื งซ้าย 10. พระสิทธัตถะทรงบำเพ็ญ 11. หลงั จากพระพทุ ธเจา้ ทรง 12. พระสิทธตั ถะทรงบำเพ็ญ ตบะหรอื ทรมานตนหลาย แสดง “อนตั ตลกั ขณสตู ร” ทกุ กรกิริยา ดว้ ยการกัดฟัน อยา่ ง กลัน้ ลมหายใจ อดอาหาร (ว่าดว้ ยไตรลกั ษณ์) ปัญจ- วัคคยี ์ไดบ้ รรลอุ รหันตผล 13. โกณฑัญญะ หัวหน้าปญั จ- 14. อญั ญาโกณฑญั ญะ เปน็ 15. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ไปโปรด วคั คยี ์ได้ “ดวงตาเหน็ ธรรม” ทันทที ่ฟี ังปฐม พระสงฆ์สาวกรปู แรกของ ชฎลิ สามพี่นอ้ ง พรอ้ มด้วย เทศนาจบ พระพุทธศาสนา บริวาร ตอนที่ 2 คำชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1.พุทธประวตั ิ ตอน ผจญมาร สามารถวิเคราะหไ์ ด้ว่า มารในทน่ี ี้ คอื อะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ข้อความทกี่ ล่าววา่ “ขอใหว้ สนุ ธรา (พระแมธ่ รณี) จงเป็นพยาน” หมายความวา่ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เพราะเหตใุ ด พระพุทธเจา้ จึงมงุ่ แสดงธรรมแก่ปัญจวคั คยี ์ แทนทจี่ ะแสดงธรรมแกอ่ ุปกาชวี กท่ีมีความ เล่ือมใสพระพุทธองค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 3 พทุ ธประวัติและชาดก ตอนที่ 1 คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนนำหมายเลขหน้าข้อความไปเรียงลำดบั ตามเหตกุ ารณพ์ ทุ ธประวตั ใิ นกรอบดา้ นลา่ ง 1. พระสิทธตั ถะทรงบำเพ็ญ 2. เม่ือพระสทิ ธัตถะผนวชแล้ว 3. พระพุทธเจ้าเสด็จไปตรัส เพยี รทางจติ ไดพ้ ยายามศกึ ษาค้นควา้ สอนธมั มจักกปั ปวตั ตนสูตร ทางพ้นทุกข์ ว่าด้วย อริยสจั 4 ประการ แกป่ ัญจวัคคีย์ 4. พระสิทธัตถะทรงฝึกปฏิบตั ิ 5. พระสทิ ธตั ถะปฏิบัติสมาธิ 6. พระพุทธเจ้าประทาน โยคะกับอาฬารดาบส ใต้ต้นศรีมหาโพธ์จิ น อุปสมบทให้แก่ยสกมุ าร กาลามโคตร และอุททก สามารถ รแู้ จ้งหรือตรสั รู้ และสหายอีก 54 คน สง่ ให้ ดาบส รามบตุ ร อรยิ สัจ 4 ไปประกาศพระพทุ ธศาสนา 7. พระสิทธัตถะเสดจ็ ไปยงั 8. พระสิทธัตถะรับหญา้ กสุ ะ 9. พระพทุ ธเจา้ โปรดให้ ตำบลอรุ ุเวลาเสนานคิ ม จากพราหมณโ์ สตถิยะ พระสารบี ุตร และพระโมค- ทรงรับขา้ วมธปุ ายาส มาปูลาดเป็นอาสนะ คัลลานะเป็นพระอคั รสาวก จากนางสุชาดา ณ โคนต้นศรีมหาโพธ์ิ เบอื้ งขวาและเบื้องซ้าย 10. พระสิทธตั ถะทรงบำเพญ็ 11. หลังจากพระพทุ ธเจา้ ทรง 12. พระสทิ ธัตถะทรงบำเพญ็ ตบะหรอื ทรมานตนหลาย แสดง “อนตั ตลกั ขณสตู ร” ทุกกรกิริยา ดว้ ยการกดั ฟนั อยา่ ง กล้ันลมหายใจ อดอาหาร (วา่ ด้วยไตรลักษณ์) ปัญจ- วัคคยี ์ได้บรรลอุ รหนั ตผล 13. โกณฑัญญะ หัวหนา้ ปัญจ- 14. อัญญาโกณฑญั ญะ เปน็ 15. พระพทุ ธเจา้ เสด็จไปโปรด วคั คยี ไ์ ด้ “ดวงตาเห็น ธรรม” ทนั ทที ฟี่ งั ปฐม พระสงฆ์สาวกรปู แรกของ ชฎลิ สามพน่ี อ้ ง พรอ้ มด้วย เทศนาจบ พระพุทธศาสนา บริวาร 2 4 10 12 7 8 1 9 15 6 11 แ 14 13 3 5

ตอนที่ 2 คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. พุทธประวตั ิ ตอน ผจญมาร สามารถวิเคราะห์ไดว้ ่า มารในทน่ี ี้ คืออะไร มาร กค็ อื กิเลส ได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ ที่มารบกวนพระทัยพระพทุ ธองคใ์ นขณะนง่ั สมาธิ 2. ขอ้ ความทก่ี ล่าวว่า “ขอให้วสนุ ธรา (พระแม่ธรณี) จงเป็นพยาน” หมายความวา่ อย่างไร พระแมธ่ รณี คือ บารมีทงั้ 10 ทพี่ ระพทุ ธเจ้าทรงบำเพ็ญมา เป็นกำลงั ใจให้ต่อสูก้ ับอำนาจของ กเิ ลส พระองคจ์ ึงสามารถเอาชนะอำนาจของกเิ ลสทั้งปวง และตรสั ร้ใู นที่สุด 3. เพราะเหตุใด พระพุทธเจ้าจึงมุง่ แสดงธรรมแก่ปัญจวัคคยี ์ แทนทีจ่ ะแสดงธรรมแกอ่ ุปกาชีวกท่มี ีความ เล่อื มใสพระพุทธองค์ เพราะทรงพจิ ารณาเหน็ ว่าปญั จวคั คีย์สามารถบรรลลุ ธุ รรมได้ และตอ้ งการใหเ้ ข้าใจพระพทุ ธองค์ ในทางท่ีถกู ตอ้ งเน่อื งจากเหลา่ ปัญจวัคคยี ์เขา้ ใจวา่ พระพทุ ธองค์เลิกบำเพ็ญทุกกรกริ ยิ า เพราะเห็นแกก่ ิน คลาย ความเพยี ร ไม่มที างตรัสรู้ได้ และตอ้ งการใหป้ ัญจวัคคีย์เปน็ สกั ขีพยานการตรสั รู้ของพระพทุ ธองค์

แบบทดสอบหลังเรียน คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การท่ีพระเจา้ อนุรทุ มหาราชสงั่ ให้ทำลายเมืองสธุ รรม 6.พระพุทธศาสนามีความสำคญั ต่อสงั คมไทยอยา่ งไร วดี และนำพระสงฆม์ อญพร้อมพระไตรปิฎกขน้ึ ไปยงั ก พระพุทธศาสนาช่วยให้มีแบบแผนทีย่ ึดถอื และ เมอื งพกุ าม มผี ลสำคัญในขอ้ ใด เลือกปฏิบตั ิได้ ก. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาตพิ มา่ ข พระพุทธศาสนาสอนให้คนมีความอดทนอดกล้ัน มี ข. มีการทำสงั คายนาพระไตรปฎิ กเปน็ คร้ังแรก จติ ใจที่ดงี าม ค. พระมหากษตั ริย์ทรงมอี ิทธิพลต่อพระพทุ ธศาสนา ค พระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อความเชื่อของบคุ คลใน ง. พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทแผข่ ยายท่อี าณาจกั ร สังคม พมา่ ง พระพุทธศาสนามคี วามสำคญั ต่อเศรษฐกิจของสังคม 2. สาเหตุใดที่ทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาแผ่ขยายเข้าสู่ 7 ในพระพทุ ธศาสนา มาร เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใดมากทสี่ ุด ประเทศลาวในรัชสมัยของพระเจ้าฟ้างุ้ม ก จักรินเลน่ การพนนั เพอ่ื หวังไดเ้ งินไปเลย้ี ง ก. พระมเหสีของพระองค์ทรงเคารพนับถือ ครอบครัว พระพุทธศาสนานิกายมาก่อน ข ทรงวฒุ ิบริจาคเส้ือผ้าให้กับเด็กยากจน ข. มคี ณะสงฆ์จากลังกาเข้ามาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา ค ธีรพงศ์ปฏเิ สธเพอ่ื นๆทช่ี วนดื่มสุรา ในประเทศ ง รัศมีชอบทำบุญตักบาตร ค. พระองค์อยากใหศ้ าสนาพุทธเปน็ ศาสนาประจำ 8 การทพี่ ระพทุ ธเจ้าตรสั ร้นู ั้นเกยี่ วข้องกับขอ้ ใด ชาติ ง.พระมเหสีของพระองค์ไมส่ บายพระทัยมเี ห็น ก การชนะใจตนเองเป็นส่ิงดี ชาวเมืองเคารพผีสาง เทวดา ข การกระทำความดีเสมอต้นเสมอปลาย 3.สลุ ต่านมัลโมชาห์ แห่งมาเลเซีย มีส่วนทำให้อทิ ธิพลของ ค การอบรมสง่ั สอนให้ผู้อนื่ เขา้ ใจถอ่ งแท้ พระพทุ ธศาสนาเสอื่ มลงในดนิ แดนมาเลเซยี อยา่ งไร ง ความจรงิ ทม่ี อี ยตู่ ามธรรมชาติ ก. พระองคเ์ ลอื่ มใสศาสนาอสิ ลาม 9 ข้อใดเก่ียวข้องกับการกำเนดิ พระสงฆ์องคแ์ รกใน ข. สงั่ ห้ามประชาชนศึกษาธรรมะของ พระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนา ก พระอานนท์ ค. ต่อตา้ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในดนิ แดน ข พระโกณฑัญญะ ของมาเลเซีย ค พระโมลคัลลานะ ง. สง่ั ใหท้ หารทำลายศาสนสถาน พระพทุ ธรูป ง พระสารีบตุ ร และใหป้ ระชาชนนบั ถอื ศาสนาอิสลาม 10 ผู้ใดนำพุทธประวัติมาเป็นแนวทางในการดำเนิน 4.ประเพณีใดทีย่ ึดถอื ปฎบิ ตั ิสืบตอ่ กนั มาเปน็ เวลายาวนาน ชวี ิต และสบื เน่อื งมาจากพระพุทธศาสน ก ศศิธรอยากได้กระเป๋าถือยี่หอ้ หนง่ึ จงึ นำเงินท่ี ก แกะสลักเทยี นพรรษา เกบ็ ไว้ 1ส่วนไปซ้ือ ข ไหลเรือไฟ ข สวพรแบ่งเวลาในการเรยี น การทำกิจกรรม และ ค แข่งเรอื หางยาว เวลาวา่ งให้เหมาะสม ไมห่ กั โหมทำสิ่งใดส่ิงหน่งึ ง พิธเี วยี นเทียน มากจนเกนิ ไป 5. ข้อใดเปน็ วฒั นธรรมทมี่ ีบ่อเกดิ มาจากพระพทุ ธศาสนา ค พรทพิ ยช์ ่วยตวิ หนงั สือให้เพ่ือนเฉพาะวิชาท่ี ก การแลกของขวัญในวนั ขน้ึ ปีใหม่ ยากๆและตนถนดั ข การให้กหุ ลาบในเทศกาลวนั เลนไทน์ ง วไิ ลพรซอ้ื ของทกุ อยา่ งทตี่ นอยากได้ ในขณะทพี่ อ่ ค การก่อเจดยี ์ทรายในเทศกาลวนั สงกรานต์ แม่ยังไมอ่ นญุ าตใหใ้ ชเ้ งิน ง การแสดงคณะลเิ กในวดั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook